The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Siwaporn Wongsatit, 2020-11-28 22:06:59

ระดับกลยุทธ์องค์กร

51






























1. Logistic (กลยุทธ์ทางดานโลจิสติกส์)





กลยุทธ์การจัดการโลจิสติกส์ถือว่าเปนกลยุทธ์หลัก และมีสภาวะปจจัยภายนอก และ

ปจจัยภายในทีเข้ามาเกียวข้อง







ปจจัยภายนอกองค์กรทีมีผลต่อโลจิสติกส์ซึงผู้บริหารไม่สามารถควบคุมได้ คือ ลูกค้า
ตลาด ความก้าวหนาเทคโนโลยี สภาพเศรษฐกิจ สังคม กฎหมาย คูแข่งขัน





ปจจัยภายในองค์กรทีผู้บริหารสามารถควบคุมได้ คือ บุคลากร การเงิน การผลิต การ



ใช้เทคโนโลยี จัดหาวัตถดิบ และการสร้างสัมพันธ์กับลูกค้า



ส าหรับ หลักการ 7R logistic ของการจัดการโลจิสติกส์ช่วยให้ลูกค้าพึงพอใจ



ประกอบด้วย




I. ได้รับสินค้าถูกต้องตามทีต้องการ (Right item)






II. ได้รับสินค้าตามปริมาณตามทีสั่งซือ (Right quantity)



III. ได้รับสินค้าภายในเวลาทีกาหนด (Right time)



IV. สินค้าถูกจัดส่งถึงสถานทีทีถูกต้อง (Right place)





V. ต้นทุนและราคาทีเหมาะสม เปนทีพอใจหรือยอมรับได้ (Right cost/price)



VI. ได้รับสินค้าอยูในสภาพทีดี ไม่เสียหาย (Right condition)




VII. ส่งสินค้าไปถึงลูกค้าอย่างถูกราย (Right customer)

52









































































ภาพที 3.1 ผังงานโลจิสติกส์ (ทีมา: Logistics management (p. 8, 10), by Reji Ismail, 2008,



New Delhi: Excel Books India.)

53
























Procurement (กลยุทธ์ทางดานการจัดซอ)




การจัดซือ (Purchasing) เปนหนึงส่วนทีส าคัญมากในสายโลจิสติกส์ (Logistic) ซึง





ในการบริหารจัดการโซ่อุปทานก็เล็งเห็นถึงความส าคัญทีจะต้องมีการจัดการในการจัด


ซ้อวัตถดิบ (Purchasing Materials) และการจัดหาวัตถดิบ (Supply Materials)

Weele (2005) ให้ความหมายของการจัดซือไว้ คือ การบริหารจัดการแหล่ง




ทรัพยากรภายนอกของ องค์กร ซึงได้แก่ สินค้า งานบริการ ความสามารถ



(Capabilities) และความรู้ (Knowledge) ทีมีส่วนส าคัญในการด าเนนงาน ธ ารงรักษา


ไว้ และบริหารจัดการกิจกรรมหลัก (Primary Activities) และกิจกรรมสนับสนน



(Support Activities) เพือให้เกิดประโยชนสูงสุด

นอกจากนี Monczka, et al. (2005) ยังได้จ าแนกวัตถประสงค์ของการจัดซือ





(Purchasing Objectives) ของหนวยงานการจัดซือระดับโลก (World Class) ซึงมี

รายละเอียดครอบคุลมมากกว่าวัตถประสงค์การจัดซือแบบดั้งเดิม ทีมีแต่เพียงความ




ต้องการจะได้รับสินค้าและบริการตามต้องการเท่านั้น โดยมีวัตถประสงค์ไว้ดังนี


- สนับสนนความต้องการในการปฏิบัติงาน (Support Operational Require-



ments)



- บริหารจัดการกระบวนการจัดซืออย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล (Manage


the Purchasing Process Efficiently and Effectively)



- คัดเลือก พัฒนา และรักษาไว้ซึงแหล่งของสินค้า (Select, Develop, and Main-


tain Source of Supply)




-เสริมสร้างสัมพันธภาพระหว่างหนวยงาน (Develop Strong Relationships


with Other Function Groups)

54






















- รองรับเปาหมายและวัตถประสงค์ขององค์กร (Support Organizational Goals and

Objectives)






- พัฒนากลยุทธ์การจัดซือเพือสนับสนนกลยุทธ์องค์กร (Develop Integrated Pur-

chasing Strategies That Support Organizational Strategies)






Monczka, et al. (2005) ได้จ าแนกหนาทีความรับผิดชอบการจัดซือ


(Responsibilities of Purchasing) ไว้ดังนีคือ



- พิจารณาและคัดเลือกผู้ขาย (Evaluate and Select Suppliers)




- ตรวจสอบข้อมูลคุณสมบัติทางด้านเทคนิคของพัสดุทีจะจัดซือ (Review Specifica-



tion)




- เปนผู้ติดต่อประสานงานคนแรกกับผู้ขาย (Act as Primary Contact with Suppliers)





- เลือกวิธีจัดซือจัดจ้าง (Determine the Method of Awarding Purchase Contracts)




นอกจากหนาทีความรับผิดชอบการจัดซือ (Purchasing) ตามการจ าแนกของ



Monczka, et al. (2005) แล้ว ฝายจัดซือจะต้องรับผิดชอบทั้งงานบริหาร และงาน


ประจ าวัน งานต่าง ๆ โดยมีรายละเอียดของหนาทีดังนี (อดุลย์ จาตรงคกล, 2547)






1.ข่าวสารทั่วไป 2.การวิจัย 3.การจัดซือ 4.การบริหารพัสดุ 5.เบ็ดเตล็ด 6.กิจกรรมพิเศษ

55





















Operation (กลยุทธ์การผลิตและการด าเนินงาน)






กลยุทธ์การปฏิบัติงานและการด าเนนงาน (Production and Operation Strategy)



สร้างข้อ ได้เปรียบในการแข่งขัน ไม่ว่าจะเปนการลดต้นทุน การตอบสนองทีรวดเร็ว



และการสร้างความแตกต่าง หรือรูปแบบอืนๆ






การผลิต หมายถึง การแปรสภาพทรัพยากรทีมีอยูอย่างจ ากัดให้เกิดประโยชนเปน


สินค้าหรือบริการเพือตอบสนองความต้องการมนษย์



การก าหนดต าแหน่งของระบบการผลิต ประกอบไปดวยกระบวนการต่างๆ



ดังน




1. การออกแบบผลิตภัณฑ์ (Product design) มีความส าคัญต่อกระบวนการ




ผลิตและการด าเนนงานขององค์การทั้ง ด้านต้นทุน ความซับซ้อน ประสิทธิภาพ




ประสิทธิผลในการด าเนนงาน แบ่งการ ออกแบบเปน 2 ลักษณะ คือ




2. ออกแบบตามความตองการ (Custom to product) ของลูกค้า ทีมี



ลักษณะเฉพาะ วิธีการผลิตมีความยืดหยุ่นสูง ผลิตจ านวนนอยหรือผลิตตาม ค าสั่ง ให้


ความส าคัญกับระยะเวลาการจัดส่งและความตรงต่อเวลา




3. ออกแบบตามมาตรฐาน (Custom to standard) โดยมีแบบผลิตภัณฑ์ให้





เลือกตามทีก าหนด เหมาะกับการผลิตอย่างต่อเนือง หรือปริมาณมาก ส่งผลให้เกิดการ

ประหยัด ต้นทุนการผลิตต า การจัดส่งรวดเร็ว สินค้าแต่ละ ชินต้องมีคุณภาพ



56























กระบวนการผลิต (Processing system) เปนปจจัยส าคัญในการก าหนด



ต าแหนงของระบบการผลิต ซึงเปน ขั้นตอนการแปรรูปปจจัยนาเข้าให้กลายเปนสินค้า






หรือบริการ แบ่งออกเปน 2 ชนิด

1. เนนกระบวนการ (Process-focused) สินค้าถูกออกแบบมาโดยเฉพาะ




ปริมาณจ ากัด มักสัมพันธ์กับผลิตภัณฑ์ทีผลิตตามต้องการ มีความยืดหยุ่น มาก



เปลียนแปลงได้บ่อย




2. เนนผลิตภัณฑ์ (Product-focused) หรือ การผลิตแบบไหลตาม ผลิตภัณฑ์


หรือ การผลิตแบบสายการผลิต หรือ การผลิตแบบสายการ ประกอบ มีลักษณะการ




ด าเนนงานของอตสาหกรรม




นโยบายสินคาคงคลัง (Finished-goods inventory) มีความส าคัญกับ


ประสิทธิภาพในการด าเนนงาน โดยเฉพาะการจัดการ ต้นทุนของธุรกิจ แบ่งออกเปน



2 ชนิด







1. ผลิตเพอเก็บไว (Produce-to-stock Policy) ท าการผลิตสินค้าล่วงหนา เก็บ


ไว้ในโกดังในรูปสินค้าคงคลัง จะส่งออกไปต่อเมือได้รับค าสั่งซือจาก ลูกค้า



2. ผลิตตามค าสั่ง (Produce-to-order policy) ผู้จัดการจะไม่สั่งให้ผลิต สินค้า




จนกระทั่งมีการสั่งซือจากลูกค้า ให้ความส าคัญกับความต้องการ ความพึงพอใจของ


ลูกค้า ตลอดจนคุณภาพของผลิตภัณฑ์ และการส่งมอบ สินค้าตรงตามสัญญา

57




























การใหความส าคัญในการผลิต (Production focus) โรงงานและสิ่งอ านวย


ความสะดวกสามารถจะถูกออกแบบและจัดสร้างโดย ให้ความส าคัญได้ 2 วิธี คือ





1. ความเชียวชาญเฉพาะผลิตภัณฑ์ (Product specialization)




2. ความเชียวชาญในกระบวนการผลิต (Process specialization)




ท าให้โรงงานมีขนาดเล็กและตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดีขึนใน ด้าน



ค่าใช้จ่าย การส่งมอบ คุณภาพและบริการ เราเรียกแนวคิดนว่า โรงงานเฉพาะเจาะจง




(Focused factory) ให้ ความส าคัญกับส่วนประสมผลิตภัณฑ์ทีแคบแต่ชัดเจนเนน

ส าหรับกลุ่มตลาดเฉพาะ (Niche market) ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายและค่าโสหุ้ย (overhead)



ในการด าเนนงานต่างๆ










แผนผลิตภัณฑ์และบริการ (Product/Service plan) เปนส่วนส าคัญในการ


สร้างรายได้และก าไรให้ธุรกิจ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ หรือบริการทีสร้างลักษณะเฉพาะ



ขององค์การ และเปนทีต้องการของลูกค้า ซึงมี อิทธิพลโดยตรงต่อกลยุทธ์การ



ด าเนนงาน


58






























แผนดานกระบวนการและเทคโนโลยการผลิต (Production process and


technology plans) เปนส่วนส าคัญส าหรับความส าเร็จของกลยุทธ์การด าเนนงาน




การวางแผน กระบวนการและเทคโนโลยีในการผลิต ซึงมีการพัฒนาอย่างต่อเนอง




แต่การด าเนนงานนีจะมีค่าใช้จ่ายสูงในระยะยาวขององค์การ ถ้าตัดสินใจผิดพลาดจะ

ก่อให้เกิดข้อเสียเปรียบและจะแก้ไขล าบาก






การจัดสรรทรัพยากรใหกับกลยุทธ์ทางเลอก (Resources allocation to

strategic alternatives) จะต้องพิจารณาจัดสรรทรัพยากรให้เหมาะสม เพือสร้าง




โอกาสในการสร้างก าไรและช่วยให้บรรลุเปาหมายสูงสุดในการด าเนนงาน และ


พิจารณาความส าคัญของทรัพยากรผ่านการวางแผนระยะยาว







ี่
แผนเกยวกับปจจัยอ านวยความสะดวก (Facility plan) การตัดสินใจจะมีผลต่อ





รายได้และการด าเนนงานระยะยาวทีส าคัญเกียวข้องกับความเสียงและความไม่



แนนอนของอนาคต การตัดสินใจทีผิดพลาดหรือไม่สอดคล้องกับการเปลียนแปลงของ

สถานการณ (ณัฐพงศ์ อาบสุวรรณ)

59




























Marketing and Sales (กลยุทธ์ดานการตลาดและการขาย)


กลยุทธ์การตลาด (Marketing Strategy) หมายถึง แบบแผนพืนฐานหรือแนวทาง





ทีถูกก าหนดขึนส าหรับสร้างผลิตภัณฑ์ เพือตอบสนองความต้องการของกลุ่มเปาหมาย

และตลาดเปาหมาย โดยผู้ประกอบการจะต้องจัดสรรทรัพยากรของประเทศมาใช้ให้


เกิดประโยชนต่อผลผลิต แบ่งใช้สัดส่วนต่างๆ ทางการตลาดให้เหมาะสมส าหรับการ




ด าเนนงาน รวมทั้งด าเนนงานในขั้นตอนต่างๆ โดยประกอบไปด้วย การตัดสินใจ การ



ก าหนดระดับค่าใช้จ่ายการตลาด การก าหนดต าแหนงผลิตภัณฑ์ การก าหนดกลยุทธ์


ส่วนผสม และการก าหนดตลาดเปาหมายทางการตลาดอย่างชัดเจน จนสามารถบรรลุ


เปาหมายทางเศรษฐกิจทีตั้งไว้ได้



องค์ประกอบของกลยุทธ์ทางการตลาด




- ขอบเขตกลยุทธ์การทางการตลาดจะต้องมีขอบเขตของการด าเนนงานที ่


ครอบคลุมรวมทั้งจะต้องมีการก าหนดสัดส่วนส าหรับการปฏิบัติงานทีมีส่วนข้อง


เกียวกับการใช้กลยุทธ์อย่างชัดเจน





- เปาหมายและวัตถประสงค์กลยุทธ์ทางการตลาดจะต้องมีการก าหนดเปาหมาย

วัตถประสงค์รวมทั้งก าหนดระดับความส าเร็จของการด าเนนงานให้ชัดเจน





ตัวอย่างเช่น การตั้งเปาหมายก าไรทีเพิ่มขึน เปาหมายผลตอบแทนจากการลงทุน หรือ



เปาหมายการเติบโตของยอดขาย เปนต้น

60



























- การจัดสรรทรัพยากร กลยุทธ์ทางการตลาดจะต้องมีการจัดสรรทรัพยากรต่างๆ




มาใช้ให้เกิดประโยชนได้อย่างสูงสุด ไม่ว่าจะเปนทรัพยากรทางการเงิน ทรัพยากร

ส าหรับการลงทุน รวมทั้งทรัพยากรบุคคล



- การได้เปรียบทางการแข่งขัน กลยุทธ์ทางการตลาดจะต้องมีการระบุการ




ได้เปรียบทางการแข่งขัน เพือเปนประโยชนส าหรับผู้ประกอบการ ให้สามารถวาง

แผนการด าเนินงานในขั้นต่อๆ ไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ




- พลังเสริมแรง กลยุทธ์ทางการตลาดจะต้องสามารถส่งเสริม และสนับสนนหนวย


ธุรกิจของบริษัท ให้เปนอันหนึงอันเดียวกัน ทั้งทางด้านการตลาด การจัดสรร


ทรัพยากร และด้านขีดความสามารถในการแข่งขันของบริษัท

61
























กลยุทธ์การตลาด 8P





กลยุทธ์การตลาด 8P คือ กลยุทธ์ทีได้รับการยอมรับว่ามีประสิทธิภาพ ส าหรับการ





ด าเนนงานทางการตลาดจากนักธุรกิจทั่วโลก อีกทั้งยังเปนกระบวนการท างานทีสามารถ
เห็นผลลัพธ์ความก้าวหนาได้อย่างชัดเจน ซึงถือได้ว่าเปนกลยุทธ์ขั้นพืนฐานส าหรับการ







พัฒนาและตอยอดเปนกลยุทธ์อืนๆ ได้ในอนาคต ดังนั้นผู้ประกอบการจึงควรเรียนรู้และ


ศึกษาให้เข้าใจความหมายทีแท้จริงของกลยุทธ์ดังกล่าว เพือการประกอบธุรกิจทีมี

คุณภาพและยั่งยืน ประกอบไปด้วย









1. Product





กลยุทธ์ทางการตลาดทีเกียวข้องกับผลิตภัณฑ์ เปนกลยุทธ์ทีมีความเกียวข้องกับการ





ตัดสินใจ ซึงผู้ประกอบการจะต้องท าการพิจารณาออกแบบตัวผลิตภัณฑ์ทั้งหมด ให้

สามารถสร้างความพึงพอใจและตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานผลิตภัณฑ์ได้ ทั้ง




การตั้งเปาหมายคุณสมบัติสินค้า การเลือกใช้วัตถดิบในกระบวนการผลิต รวมทั้งการนา

สินค้าไปเปรียบเทียบจุดเด่นและจุดด้อยกับกับผลิตภัณฑ์ของคูแข่งทางการตลาด เพือ







เปนประโยชนส าหรับการพัฒนาสินค้าให้มีคุณภาพทีดีขึนต่อไป

62





















2. Price




กลยุทธ์ทางด้านราคา โดยการก าหนดราคาของสินค้านอกจากผู้ประกอบการ จะต้อง






ค านงถึงปจจัยต้นของทุนการผลิตแล้ว ยังต้องค านงถึงสภาพการแข่งขันของสินค้าชนิด



นั้นๆ ในตลาด ซึงส าหรับสินค้าทีมีคูแข่งทางการตลาดมากผู้ประกอบการสามารถใช้
วิธีการก าหนดราคาสินค้าให้นอยกว่าเพือแย่งชิงฐานลูกค้า หรืออาจจะท าการก าหนด








ราคาให้สูงกว่าเพือจัดวางต าแหนงสินค้าให้อยูเหนอกว่าตลาดคูแข่งได้เช่นเดียวกัน
3. Place





กลยุทธ์ช่องทางการจัดจ าหนาย เปนกลยุทธ์ทีผู้ประกอบการควรพิจารณาวางแผนให้ดี





เนองจากช่องทางกระจายสินค้าทีเลือกใช้ สามารถส่งผลต่อก าไรโดยรวมทีผู้ประกอบการ



จะได้รับ โดยช่องทางการจัดจ าหนายทางการตลาดในปจจุบันมีอยูสองรูปแบบ ได้แก การ


ขายผ่านพ่อค้าคนกลางและการขายสูผู้บริโภคโดยตรง ซึงช่องทางการขายสูผู้บริโภค



โดยตรงจะสามารถสร้างผลก าไรได้สูง ตรงข้ามกับการขายผ่านพ่อค้าคนกลางทีจะ



สามารถสร้างยอดการขายได้สูงกว่า




4. Promotion




โปรโมชั่นหรือการส่งเสริมการตลาด เปนกลยุทธ์หนึงทีสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการขาย



สินค้าให้แก่ผู้ประกอบการได้อย่างดี โดยกลยุทธ์ดังกล่าวทีถูกนามาใช้จะต้องมีความ




สอดคล้อง รวมทั้งสามารถส่งเสริมกลยุทธ์อืนๆ ได้ในเวลาเดียวกัน ตัวอย่างเช่น การลดราคา


สินค้า การแถมสินค้า หรือการแจกสินค้า เปนต้น ซึงหากโปรโมชั่นทีผู้ประกอบการเลือกใช้



สามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้ ก็จะส่งผลให้สามารถเพิ่มยอดขายได้มาก



ยิ่งขึน


63

























5. Packaging







บรรจุภัณฑ์เปรียบเสมือนเปนหนาตาของสินค้า ผู้ประกอบการจึงจ าเปนต้องให้

ความส าคัญในการวางกลยุทธ์ทางการตลาดส าหรับบรรจุภัณฑ์ โดยมีเปาหมายในการ



สร้างความสวยงามโดดเด่น รวมทั้งความแตกตางอย่างมีเอกลักษณให้แกผลิตภัณฑ์


เพือทีจะสามารถดึงดูดความสนใจจากผู้บริโภคได้มากกว่าสินค้าในตลาดคูแข่ง จน





สามารถสร้างยอดขายและก าไรทีเพิ่มขึนได้


6. Personal






พนักงานขาย ซึงถือได้ว่าเปนกลยุทธ์ทีมีความเปนเอกลักษณเฉพาะบุคคล ไม่สามารถท า




การลอกเลียนแบบได้ง่าย โดยหากผู้ประกอบการมีพนักงานขายทีมีความรู้ มาก


ประสบการณ รวมทั้งมีความสามารถในการจูงใจผู้บริโภค จะสามารถช่วยเพิ่มยอดขาย




ให้แกธุรกิจได้อีกทางหนงโดยการใช้ประโยชนจากความสามารถของบุคคล


7. Public Relation






กลยุทธ์การใช้ข่าวสารในการชักจูงผู้บริโภค ถือว่าเปนวิธีการทางการตลาดทีมีความ



เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมการใช้ชีวิตของผู้คนในปจจุบัน ทีสือต่างๆได้เข้ามามีอิทธิพล




ในสังคมมากขึน โดยกลยุทธ์ดังกล่าวเปนกลยุทธ์ทีช่วยเพิ่มทัศนคติเชิงบวกต่อผลิตภัณฑ์



ของผู้บริโภค รวมทั้งสามารถสร้างภาพลักษณทีดีให้แกสินค้าได้เช่นกัน

8. Power








กลยุทธ์ทางการตลาดเกียวข้องกับอ านาจ เปนกลยุทธ์ทีใช้ส าหรับการตอรอง ควบคุม



รวมทั้งแลกเปลียนผลประโยชนทางการค้ากับคูแข่งทางการตลาด ซึงอ านาจตอรองที ่


ผู้ประกอบการมีจะสามารถสร้างข้อเสนอทีดีทีสุดให้แกธุรกิจได้




64

























กลยุทธ์การตลาด 8P ถือได้ว่าเปนเครืองมือทางการตลาดพืนฐานในการท าธุรกิจ


ส าหรับผู้ประกอบการทุกประเภท โดยธุรกิจต่างๆในปจจุบันทีเกิดขึนมามากมายนั้น มี


ทั้งธุรกิจทีล้มเหลว และธุรกิจทีสามารถด าเนินไปได้จนประสบความส าเร็จ ซึงมีเหตผล





เนืองมาจากบริษัททีล้มเหลวทางธุรกิจไม่สามารถสร้างกลยุทธ์การตลาด 8P ขึนมาได้



อย่างครบองค์ประกอบ ดังนั้นกลยุทธ์การตลาด 8P จึงควรถูกนาไปใช้ประโยชนในการ
ด าเนนธุรกิจเพือสร้างความส าเร็จให้แก่ผู้ประกอบการ









STP Model เครืองมือวิเคราะห์ขอมูลแบ่งส่วนตลาด




STP Model เปนเครืองมือทางการตลาดชนิดหนึงทีถูกนามาใช้เพือวิเคราะห์ข้อมูล



เกียวกับการแบ่งส่วนตลาด การวางต าแหนงผลิตภัณฑ์อย่างเหมาะสม และการ







ก าหนดกลุ่มเปาหมายหลัก โดยข้อมูลทีได้จากการวิเคราะห์นีก็จะถูกนามาใช้เพือ

ประกอบการวางแผนกลยุทธ์ในการพัฒนาธุรกิจให้บรรลุตามเปาหมายทีตั้งไว้

Segmentation การแบ่งส่วนตลาด






การแบ่งกลุ่มเปาหมายออกเปนกลุ่มๆ ทีเปนกลุ่มขนาดย่อยลงมา โดยใช้เกณฑ์ต่างๆ ที ่
ก าหนดขึนในการแบ่ง โดยเกณฑ์ทีจะใช้ในการแบ่งส่วนตลาด ก็จะต้องเปนเกณฑ์ทีมีความ




สร้างสรรค์และสามารถแบ่งกลุ่มได้อย่างเหมาะสมด้วย เช่น

- เกณฑ์ประชากรศาสตร์ เปนการแบ่งกลุ่มตามอายุ เพศ การศึกษา รายได้ สถานภาพ




และอาชีพ เปนต้น

- เกณฑ์ภูมิศาสตร์ เปนการแบ่งกลุ่มตามท าเลทีอยู ภูมิภาค จังหวัดหรือภูมิประเทศ




เปนต้น


- เกณฑ์จิตลักษณะ เปนการแบ่งกลุ่มตามวิถีชีวิตหรือบุคลิกและลักษณะนิสัยโดยทั่วไป

- เกณฑ์พฤติกรรม เปนการแบ่งกลุ่มตามพฤติกรรม เช่นพฤติกรรมการซือ พฤติกรรม




การใช้ เปนต้น (นอกจากนก็อาจจะมีการใช้เกณฑ์อืนๆ ในการแบ่งได้เหมือนกัน)




65























Targeting การเลือกตลาดเปาหมาย





การเลือกกลุ่มเปาหมายทีต้องการท าการตลาดโดยตรง ซึงอาจเลือกเพียงกลุ่ม



เดียว เพือมุ่งเนนไปยังกลุ่มดังกล่าวโดยเฉพาะ หรืออาจเลือกหลายกลุ่มหรือเลือก

ทั้งหมดก็ได้


Positioning การวางต าแหน่ง




การวางต าแหนงของตนเองเพือให้สินค้าและบริการเปนทีจดจ า และโดนใจ






กลุ่มเปาหมายมากขึน ซึงจะต้องมีความแตกต่างจากคูแข่ง และสามารถดึงดูดความ






สนใจจากกลุ่มเปาหมายได้มากกว่า โดยส่วนใหญจะนยมวางต าแหนงออกเปน 2
รูปแบบคือ


1. Product Positioning เปนการวางต าแหนงสินค้าและบริการ ให้กลุ่มเปาหมาย



รับรู้ว่ามีความแตกต่างจากทีอื่น





2. Brand Positioning เปนการวางต าแหนงสินค้าและบริการ ให้กลุ่มเปาหมาย



เห็นว่ามีความแตกต่างและโดดเด่น เปนทีนาสนใจมากกว่าผลิตภัณฑ์ของทีอื่น

จะเห็นได้ว่า STP Model เปนตัวช่วยส าคัญทีจะท าให้ทราบถึงรายละเอียดของ





กลุ่มเปาหมายได้มากขึน สามารถนารายละเอียดเหล่านมาใช้เพือวางแผนกลยุทธ์




การตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนีก็สามารถทีจะเพิ่มยอดขายให้สูงขึนพร้อม




กับลดค่าใช้จ่ายในส่วนของต้นทุนได้โดยทียังคงคุณภาพของสินค้าได้อย่างดีเยียม ท า

ให้สามารถวางทิศทางในการวางแผนจัดการด้านต่างๆ ได้อย่างตรงจุด

66
























Services (กลยุทธ์ดานการบริการ)



กลยุทธ์ด้านการบริการ SS: Service Strategyก าหนดความต้องการของ




กลุ่มเปาหมายในการให้บริการ และออกแบบ Solution ให้ได้ตามความต้องการของ

ลูกค้า







7 ขั้นตอนในการสร้างกลยุทธ์การบริการลูกค้า (Patricia Lotich. (2014). 7 Steps


to Creating a Customer Service Strategy, The Thriving Small Business.) การคิด



และวางแผนกลยุทธ์การบริการลูกค้ามีความส าคัญต่อการพัฒนาวัฒนธรรมการบริการ






ทีแข็งแกร่ง องค์กรจ าเปนต้องรวมบริการลูกค้าเข้ากับเปาหมายทางธุรกิจของตนและ




กลยุทธ์เหล่านควรรวมไว้ในเปาหมายของพนักงานเพือให้แนใจว่าองค์กรบรรลุ

เปาหมายการบริการลูกค้าของตน พนักงานท างานได้ดีในระดับทีพวกเขามีการจัดการ







และต้องเปนผู้นาทียอดเยียมเพือช่วยให้พนักงานเข้าใจถึงความสส าคัญของ




ประสบการณของลูกค้า ด้วยเหตนีจึงเปนสิ่งส าคัญทีต้องมีกลยุทธ์เพือช่วยในการสร้าง


และเสริมสร้างวัฒนธรรมการบริการ
ขั้นตอนในการพัฒนากลยุทธ์การบริการลูกค้า มีดังนี ้




1. สร้างวิสัยทัศนดานการบริการลูกคา



ขั้นตอนแรกในการสร้างกลยุทธ์การบริการลูกค้าคือการสือสารวิสัยทัศนในการ





ให้บริการลูกค้ากับพนักงาน พนักงานจ าเปนต้องเข้าใจว่าวิสัยทัศนและเปาหมายของ
องค์กรมีไว้เพือการบริการลูกค้าและเข้าใจถึงความรับผิดชอบในการช่วยให้บรรลุ






วิสัยทัศนนั้นองค์กรทีแชร์วิสัยทัศนด้านการให้บริการลูกค้าและสอนทักษะการบริการ


ลูกค้าจะท าให้ลูกค้าได้รับประสบการณการบริการทีดียิ่งขึนกว่าองค์กรทีออกจาก


พนักงานทีได้รับการฝกฝนมาก่อนและไม่ได้เตรียมตัวไว้เพือรับมือกับปญหาของลูกค้า





67































2. ประเมินความตองการของลูกคา

องค์กรมักจะล้มเหลวและเสียทรัพยากรทีมีค่าการสร้างผลิตภัณฑ์และบริการที ่




พวกเขาคิดว่าลูกค้าต้องการเท่านั้นเพือหาว่าไม่ใช่สิ่งทีลูกค้าต้องการเลย เคล็ดลับคือ


การหาสิ่งทีลูกค้าต้องการและใส่กันวางแผนทีจะตอบสนองความต้องการเหล่านั้น


องค์กรไม่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้โดยไม่เข้าใจว่าพวกเขา


ต้องการอะไร ขั้นตอนแรกในการริเริ่มการปรับปรุงลูกค้าคือการพูดคุยกับลูกค้าเพือหา



การรับรู้ของพวกเขาในการให้บริการและการก าหนดความต้องการและความคาดหวัง



ของพวกเขาการประเมินความต้องการของลูกค้าท าได้โดยการขอความคิดเห็นผ่าน



กลุ่มโฟกัสการส ารวจความพึงพอใจหรือบัตรความคิดเห็นของลูกค้าและการพัฒนา



แผนครอบคลุมเพือตอบสนองและเกินความต้องการของลูกค้าซึงมีซอฟต์แวร์ส ารวจ








จ านวนมาก ตัวอย่างเช่น SurveyGizmo ซึงเปนเครืองมือส ารวจออนไลนทีง่าย เปน
เครืองมือทีสนกมากและสามารถเล่นเกมได้ฟรี องค์กรควรทดลองใช้และดูว่าผลรับจาก






ลูกค้าเปนอย่างไรบ้างโดยค านงถึงความต้องการและความคาดหวังของลูกค้าเปน





เปาหมายทีเคลือนทีสิ่งทีลูกค้าต้องการในวันนีจะแตกต่างจากทีลูกค้าต้องการเปนเวลา






หนึงปหรือห้าป เปนสิ่งทีเปลียนแปลงความคาดหวังและความต้องการยังเปลียนแปลง





68




























3. จางพนกงานท่เหมาะสม




การจ้างพนักงานกับลูกค้าในใจเปนอีกก้าวหนึงในกลยุทธ์โดยรวมส าหรับการ

ให้บริการลูกค้าทีดี



พนักงานคัดกรองและมั่นใจว่าพวกเขาสามารถควบคุมอารมณและมีทักษะทีช่วย





สนับสนนสภาพแวดล้อมการบริการลูกค้าทีแข็งแกร่งเปนสิ่งส าคัญ ทักษะสามารถสอน

ได้ แต่ทัศนคติและบุคลิกภาพไม่สามารถท าได้ เปนความจริงทีนาเศร้า แต่ทุกคนไม่



ควรโต้ตอบกับลูกค้า







4. ก าหนดเปาหมายส าหรับการบริการลูกคา


เมือมีการระบุความต้องการและความคาดหวังของลูกค้าและสร้างความพึงพอใจ




ให้กับลูกค้าแล้วก็ถึงเวลาทีต้องสร้างเปาหมายเพือให้บรรลุความพึงพอใจของลูกค้า


พนักงานจ าเปนต้องเข้าใจว่าเปาหมายคืออะไรเพือให้องค์กรสามารถบรรลุ



วัตถประสงค์ขององค์กรได้ ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณใช้ศูนย์บริการลูกค้าเปาหมายอาจตอบ



ทุกสายภายในจ านวนนาทีXและท าให้พนักงานมีความรับผิดชอบต่อมาตรฐานดังกล่าว


หากไม่สามารถปฏิบัติตามข้อก าหนดได้ให้หาสาเหตและแก้ไขปญหา



69





























5. ฝกทักษะการบริการ




ถ้าคุณจ้างพนักงานของคุณจะมีความสามารถในการให้บริการลูกค้าได้เปนอย่างดี



อย่างไรก็ตามทุกคนสามารถได้รับประโยชนจากการสอนภาคปฏิบัติเกียวกับแนว

ทางการให้บริการลูกค้าขององค์กรการฝกอบรมควรอธิบายวิธีการทีองค์กรต้องการให้



พนักงานปฏิบัติตนในทุกสถานการณและควรช่วยให้พนักงานเข้าใจวิธีตอบสนองต่อ




ลูกค้าของตน พนักงานจ าเปนต้องรู้สิ่งทีคุณต้องการให้ท า ตัวอย่างเช่น สอนวิธีการ

ตอบสนองต่อข้อร้องเรียนของลูกค้าวิธีการตอบสนองต่อลูกค้าวิธีตอบสนองความ



ต้องการของลูกค้าเวลาในการกู้คืนบริการวิธีรับโทรศัพท์และมาตรฐานขององค์กร



ส าหรับการรับบริการ






6. จัดหาผูรับผิดชอบ



พนักงานควรมีความเข้าใจดีว่าบริการของตนให้กับลูกค้ามีผลต่อประสิทธิภาพ


โดยรวมขององค์กรและต้องรับผิดชอบต่อการบรรลุเปาหมายความพึงพอใจของลูกค้า





นีเปนส่วนหนึงของระบบการจัดการประสิทธิภาพทีครอบคลุมและควรเปนส่วนหนึง




ของบรรทัดฐานทางวัฒนธรรม ตัวอย่างเช่น แชร์ข้อมูลความพึงพอใจของลูกค้ากับ


พนักงานของคุณและเผชิญหนากับพนักงานเมือไม่ได้แสดงพฤติกรรมทีต้องการ


70






























7. รางวัลและการรับบริการทด




ควรมีระบบทีดีเพือการตอบรับและให้รางวัลพนักงานส าหรับการบริการลูกค้าทีดี

พนักงานต้องได้รับการสนับสนนในเชิงบวกและควรได้รับการตอบแทนเมือแสดง





พฤติกรรมทีต้องการของวัฒนธรรมการบริการลูกค้าทีแข็งแกร่งการมีวิสัยทัศนทีชัดเจน



และกลยุทธ์ส าหรับการบริการลูกค้าเปนองค์ประกอบทีส าคัญต่อความส าเร็จของ



องค์กรใดๆ องค์กรจ าเปนต้องระบุว่าลูกค้าของตนคือใครสิ่งทีพวกเขาต้องการและ


พัฒนากลยุทธ์เพือให้บรรลุความต้องการของลูกค้าเหล่านั้น กลยุทธ์การบริการลูกค้าที ่


แข็งแกร่งคือสิ่งทีช่วยแยกองค์กรทีประสบความส าเร็จออกจากส่วนทีเหลือ




71























Research and Development (กลยุทธ์ในการวิจัยและพัฒนา) การเปลียนแปลง


เทคโนโลยีและสภาพแวดล้อมท าให้สินค้าและบริการเกิดความล้าสมัยและไม่ทันตอการ



แข่งขัน การวิจัยและพัฒนาจะท าให้ทราบความต้องการทีแท้จริงของลูกค้าและตลาด โดย



การก าหนดกลยุทธ์ในการวิจัยและพัฒนา สามารถจ าแนกได้ดังน




1. Innovation R&D Strategy เปนกลยุทธ์ในการวิจัย และพัฒนาสินค้า และบริการ




ใหม่ๆ โดยมุ่งเนนให้สินค้าและบริการ เกิดความแตกต่างจากคูแข่งขัน และท าให้ลูกค้ามี

ทางเลือกส าหรับสินค้า และบริการใหม่ๆ อยูตลอดเวลา







2. Protective R&D Strategy เปนกลยุทธ์ในการวิจัย และพัฒนาทีมุ่งเนนการวิจัย

เพือปรับปรุงคุณภาพของสินค้า และบริการ รวมถึงเทคนคในการผลิตสินค้าขององค์กรให้


เปลียนไปตามความต้องการของลูกค้า






3. Cash-Up R&D Strategy เปนกลยุทธ์ในการวิจัย และพัฒนา เพือหารูปแบบของ




สินค้าและบริการ ตามรูปแบบของคูแข่งขัน นั่นคือ ถ้าบริษัทคูแข่งมีผลการด าเนนงานทีดี



ผู้บริหารควรทีจะท าการวิจัย และนาผลทีได้มาปรับปรุง เปลียนแปลงการด าเนนงานของ




ธุรกิจให้มีความสามารถอยูเหนือคูแข่งได้




4. Combination R&D Strategy เปนกลยุทธ์ในการวิจัย และพัฒนาทีท าการ

ผสมผสานกลยุทธ์ทั้ง 3 ข้างต้นเข้าด้วยกัน โดยขึนอยูกับความเหมาะสมในแตละกรณี




72




























Human Resource Development (กลยุทธ์การจัดการทรัพยากรมนษย์)





หลักในการก าหนดกลยุทธ์การจัดการทางด้านทรัพยากรมนษย์ จะค านงถึงหนาทีใน



การจัดการ โดยค านงถึง การใช้ทรัพย์กรมนษย์ให้เกิดประโยชนสูงสุด การพัฒนา

ทรัพยากรมนษย์ในองค์กรให้มีความพร้อมและมีความสามารถตรงกับความต้องการ

ขององค์กร ใช้วิธีการจูงใจให้พนักงานในองค์กรปฏิบัติงานให้บรรลุเปาหมายและได้




มาตรฐานตามทีองค์กรก าหนดไว้ พร้อมทั้งมุ่งสร้างขวัญและก าลังใจให้เกิดกับ


พนักงานในองค์กร


















Accounting (กลยุทธ์ทางบัญช) เปนการจัดการทีเกียวข้องในเรืองการรับและ

เบิกจ่ายเงินการจัดการทางด้านภาษี งบการเงินและการจัดท าบัญชีในองค์กร


นอกจากนีข้อมูลทางด้านบัญชี มักมุ่งเนนไปยังข้อมูลต้นทุนทีเกียวข้องกับกระบวนการ





ผลิต ซึงประกอบไปด้วย ต้นทุนทางตรง (Direct Cost) และต้นทุนทางอ้อม (Indirect


Cost) ทีจะต้องมีวิธีการปนส่วนอย่างเหมาะสมในหนวยของสินค้าและบริการ กลยุทธ์


ทางด้านบัญชีจะต้องค านงถึง คุณภาพ ของข้อมูลอย่างเคร่งครัด ทั้งในแง่มุมของความ




ครบถ้วน ความถูกต้อง และความทันต่อเวลาการใช้งาน เพือให้กระบวนการวิเคราะห์

ข้อมูลมีประสิทธิภาพสามารถนาไปสูการตัดสินใจทีถูกต้องของทีมบริหารได้



73
























Finance (กลยุทธ์ทางการเงิน) การนากลยุทธ์ทางการเงินมาใช้ จะต้องนาผลการ




วิเคราะห์งบการเงินของบริษัทมาพิจารณา เพือให้ทราบถึงผลการด าเนินงานของบริษัท




ทั้งทางด้านจุดอ่อนและจุดแข็ง ปจจัยทีนามาใช้ในการก าหนดกลยุทธ์ทางการเงินทีส าคัญ



มีดังน





- พิจารณาการนาปจจจัยทีเกียวข้องกับเงินทุน โดยเงือนไขในการพิจารณา คือ





ความต้องการเงินสดของบริษัท วิธีการในการให้สินเชือ และการเรียกเก็บหน การนา


เงินทุนของบริษัทไปลงทุนในรูปของพันธบัตร หุ้น หรือเงินฝากธนาคาร และ วิธีการใน

การควบคุมสินค้าคงคลัง






- พิจารณาการนาทรัพยกรทางด้านการเงินไปใช้ในเกิดประโยชน โดยพิจารณา

เปรียบเทียบก าไรในระยะยาวของโครงการทีบริษัทด าเนนการกับต้นทุนทีเกิดขึนใน




องค์กร และการพิจาณางบประมาณทีด าเนนการ และก าลังทีจะด าเนนการปรับปรุง




- พิจารณาการด าเนนการทีมีผลตอผู้ให้กู้และผู้ถือหุ้นโดยพิจารณาวิธีการในการจ่าย





คืนผลประโยชนทีเกิดขึนตอผู้ถือหุ้น และพิจารณาระยะเวลาในการให้สินเชือแก่ลูกค้าหรือ





ผู้จัดซือทีเหมาะสม
- พิจารณาการเก็บรวบรวมทางด้านการเงิน โดยพิจารณาจากการสร้างระบบบัญชีที ่





ดีเพือเปนประโยชนในการพิจารณาผลลัพธ์ทางด้านการเงินของบริษัทิจารณาสถานการณ ์


ทางด้านการเงินโดยรวมของบริษัทว่าในกลุ่มธุรกิจแตละกลุ่มสามารถสร้างก าไรให้กับ


บริษัทได้หรือไม่ และพิจารณาระยะเวลาในการจัดท ารายงานผลการด าเนนงานของบริษัท




ในทุกระดับของหนวยธุรกิจ

74


















บรรณำนกรม

















3 Levels of Strategy. (2019, July 7). Retrieved from ดร. ปยนันท์ สวัสดิ์ศฤงฆาร: https://drpiyanan.com/2019/07/07/3-

levels-of-strategy/



Growth Strategy: กลยุทธ์การเจริญเติบโต. (2013, October 22). Retrieved from Marketing Exp.: http://

marketingforexp.blogspot.com/2013/10/growth-strategy.html


กลยุทธ์ธุรกิจ (Business Strategy). (2012, February 13). Retrieved from Business Plan Thai | แผนธุรกิจ ไทย: http://


businessplanthai.blogspot.com/2012/02/business-strategy.html




กลยุทธ์ระดับหนาที. (2009, June 25). Retrieved from การบริหารเชิงกลยุทธ์: http://yourstrategy.blogspot.com/2009/06/blog
-post_6908.html





กลยุทธ์ระดับหนาที. (2020, November 20). Retrieved from Coggle: https://coggle.it/diagram/W34xdodcxiL_G8iR/t/%E0%
B8%81%E0%B8%A5%E0%B8%A2%E0%B8%B8%E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B9%8C%E0%B8%A3%E0%B8%

B0%E0%B8%94%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%97%


E0%B8%B5%E0%B9%88-functional-strategy


กลยุทธ์ระดับองค์กร คืออะไร? (Corporate Strategy). (2018, October 30). Retrieved from GREEDISGOOD: https://

greedisgoods.com/%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B8%A2%E0%B8%B8%E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B9%8C%


E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%94%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%

B9%8C%E0%B8%81%E0%B8%A3-corporate-strategy/




การก าหนดกลยุทธ์ระดับหนาที (Function Level Strategy). (2020, November 20). Retrieved from BA-NA-NA: https://
www.ba-na-na.net/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B8%B3%E0%B8%AB%E0%B8%99%

E0%B8%94%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B8%A2%E0%B8%B8%E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B9%8C%E0%

B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%94%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%AB%E0%B8%99/



การเขียนกลยุทธ์ของบริษัทในป 2020. (2019, December 31). Retrieved from Taksin Upalagama : https://medium.com/

@taksinupalagama/%E0%B8%9C%E0%B8%A1%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B9%

83%E0%B8%88%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%88%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%A3%


E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%

B8%81%E0

75



























กระบวนการจัดการจัดซือจัดหา (Purchasing Management ).Retrievedfrom:https://sites.google.com/site/

karcadkarsoxupthan/kar-cadkar-so-xupthan/krabwnkar-cadkar-cad-sux-cadha







การประยุกต์ใช้กลยุทธ์ทางธุรกิจไมลล์ แอนด์ สโนว์ เพือสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน ของผู้ประกอบการโบรคเกอร์ประกัน
วินาศภัย Retrievedfrom: http://www.ba.mju.ac.th/arl/back_office_grad/abstractsthai_article_stu/5806401066.pdf


Click to View FlipBook Version