ยคุ สมัยทางประวตั ศิ าสตร์
รายวิชาประวัตศิ าสตรส์ ากล ส32105
โรงเรยี นรตั นโกสินทรส์ มโภชบางขนุ เทยี น
ยคุ สมัยทางประวัติศาสตร์
จดุ เรมตน้ ของประวตั ศิ าสตร์ไมส่ ามารถจาํ กดั ขอบเขตไดเ้ เนน่ อน ซงึ ในอดีตนกั ประวตั ิศาสตร์สามารถยอ้ น
เหตกุ ารณ์ไปไดไ้ กลทีสุดตราบเทา่ ทนี ักประวตั ิศาสตร์สามารถค้นพบหลักฐานทางประวตั ศิ าสตร์ เเละใน
ปจจบุ ันไดม้ ีการคน้ พบหลกั ฐานทางประวตั ิศาสตร์ต่างๆมากมายจากทุกมมุ โลก การศึกษาประวตั ิศาสตร์ของ
มนุษยท์ ยี าวนาน จึงเปนเรองทีซบั ซอ้ นเพราะสังคมมีการเปลยี นเเปลงเเละพฒั นาอยา่ งตอ่ เนอื ง ดงั นันนกั
ประวตั ิศาสตร์จงึ ใชเ้ กณฑ์ ''ตวั อักษร'' เปนตัวเเบ่งยุคสมัยในอดตี โดยเเบ่งออกได้ 2 ยคุ ด้วยกนั
สมัยกอ่ นประวตั ิศาสตร์
สมยั ก่อนประวตั ิศาตร์ (Per-history) หมายถงึ ช่วงเวลาที
มนษุ ย์ยงั ไมร่ ู้จักเเละสามารถใช้ตวั อักษรบนั ทกึ เรองราว ในการ
ศึกษาจึงใหห้ ลกั ฐานทางธรณีวทยา เชน่ โครงกระดกู เครองมือ
เครองใช้ เครองประดับ เปนตน้
สมัยนมี นษุ ย์จะดํารงชวี ตดว้ ยการลา่ สตั ว์ เกบ็ ของปา
เเละเร่ร่อนไปยังเเหลง่ อดุ มสมบูรณ์ เเละตอ่ มาเรมเรยนรู้
ในการเพาะปลูก เลียงสัตว์
สมัยประวัตศิ าสตร์
สมัยประวตั ิศาสตร์ (History) สมยั นีมนษุ ยร์ ู้จกั การบนั ทึกเรอง
ราวไวเ้ ปนลายลักษณ์อักษร เรมจากการบนั ทึกบนวสั ดตุ ่างๆ เช่น
เเทง่ หนิ ดนิ เผา กระดกู สตั ว์ กระดาษ ผ้าไหม สมัยประวตั ิศาสตร์
ของมนษุ ยน์ นั เรมต้นเมอื ประมาณ 5,500 ปมาเเลว้
เเบบจาํ ลองอักษรลิม คูนฟิ อร์ม
ไมน่ านมานี ยเู นสโก ไดม้ กี ารเพิมยุคสมยั กงึ กอ่ นประวตั ศิ าสตร์
(Proto-History) ขึนอีกยคุ หนงึ โดยนิยามไวว้ า่ เปนชว่ งทีมนษุ ย์
ไมร่ ู้จักตัวอกั ษร เเตส่ ามารถศกึ ษาเรองราวของสังคมมนษุ ย์ได้จาก
การบันทกึ ทเี ปนลายลกั ษณ์อกั ษร ทีชนตา่ งถินบันทกึ ไว้
เกร็ดความรู้
สงั คมใดทีปรากฏหลักฐานทีเปนลายลักษณ์อักษรทีผคู้ นในสังคมนนั ได้
ประดิษฐค์ ิดค้นขนึ ยอ่ มเเสดงถงึ ความเปนอารยะ หรอื ความเจรญิ ของสงั คมนัน
เเละจะเรยี กพฒั นาการของสังคมนันวา่ สมยั ประวตั ิศาสตร์
พัฒนาการของมนษุ ย์
ตามยุคสมยั ทางประวัตศิ าสตร์
มนุษย์ชาตมิ ีพัฒนาการตามมิติของเวลาเเละสภาพเเวดลอ้ ม สังคมมนุษยใ์ นเเตล่ ะพืนทีจงึ มคี วามเเตก
ต่างกัน โดยทวั ไปพัฒนาการของมนษุ ยชาติมีลักษณะการดาํ เนนิ ชวี ตตามยุคสมยั ทางประวตั ศิ าสตร์ ซงึ
จําเเนกออกเปนสมยั ก่อนประวตั ิศาสตร์เเละสมยั ประวตั ิศาสตร์
สมยั ก่อนประวตั ศิ าสตร์
สามารถเเบ่งเปนสมัยยอ่ ยๆไดห้ ลายรูปแบบ เเตท่ นี ยิ มมกั จะเเบ่งเปน 2 รูปแบบ
เเบง่ โดยเครองมอื เครองใช้ สามารถเเบ่งได้ 2 ยุค
- ยุคหิน เครองมือเครองใช้ทาํ ดว้ ยหิน เเบง่ ยอ่ ยเปน
ยคุ หินเกา่ เเละยุคหนิ ใหม่
- ยคุ โลหะ เครองมือเครองใชท้ ําดว้ ยโลหะ เเบ่งเปน
ยคุ สํารดเเละยคุ เหลก็
สมัยกอ่ นประวตั ิศาสตร์
เเบ่งโดยใช้เเบบแผนการดําเนนิ ชวี ต สามารถเเบ่งได้ 3 ยุค
- ยุคสังคมล่าสัตว์ มนุษยด์ าํ รงชีพด้วยการล่าสัตวเ์ ปนอาหาร
- ยุคเกษตรกรรม มนษุ ยด์ ํารงชีพเเละเรยนรู้การเพราะปลกู
มกี ารตงั ถนิ ฐานเปนหลกั เเหล่ง เปนชุมชน
- ยคุ สังคมเมือง มนษุ ยด์ ํารงชีพเปนสงั คมเมือง มีการประดิษฐเ์ ครอง
มอื ดว้ ยสํารด เเละคิดคน้ การผสมโลหะ เพือพฒั นาเครองมือเเละมนษุ ย์
สมัยประวัตศิ าสตร์
สมยั ประวัติศาสตร์สากลของมนุษยส์ ามารถเเบง่ ออกเปนยุคสมยั ย่อยๆ เปน 4 ยคุ
1. ประวัตศิ าสตร์ยุคโบราณ (Ancient History)
2. ประวัตศิ าสตร์ยุคกลาง (Middle Age)
3. ประวัติศาสตร์ยคุ ใหม่ (Modern History)
4. ประวัตศิ าสตร์ร่วมสมยั (Contemporary History)
ประวตั ศิ าสตรย์ คุ โบราณ
เรมต้นตงั เเตร่ าว 3,500 ปก่อนครสตก์ าลจากอารยธรรมเมโสโปเตเมีย
ชาวสุเมเรยนสามารถประดิษฐ์ตัวอักษรลิม หรอ คูนฟิ อร์ม (Cuneiform)
ในบรเวณล่มุ เเม่นาํ ไ้ นลช์ าวอยี ปิ ตส์ ามารถประดิษฐ์ตัวอักษรภาพ
เฮยี โรกรฟฟก (Hieroglyphic) การใช้ตัวอกั ษรนีสามารถนาํ ให้
อารยธรรมเจรญก้าวหน้าไดอ้ ยา่ งรวดเร็ว
ประวัติศาสตร์ยคุ โบราณ
ตอ่ มาเกดิ อารยธรรมกรกโบราณ เเละอารยธรรมโรมนั ในยุโรปโบราณซึง Athena Parthenos
ชนชาติกรกเปนชนชาติทีสร้างสรรค์ผลงานสําคญั ด้านศิลปะ วทยาศาสตร์
ปรัชญา เเละการปกครอง ทีส่งผลกระทบสาํ คัญเเกร่ ะบบการปกครองของ
โลกจนกระทังปจุบัน
Colosseum สว่ นอารยธรรมโรมันเปนอารยธรรมโบราณของโลกทีมคี วามยิงใหญโ่ ดย
รับเอาวฒั นธรรมกรกมาปรับใช้เเละขยายอิทธพิ ลทางการเมืองเเละการ
ทหารไปอย่างกวา้ งขวาง มีดินเเดนครองคลมุ ทวปยโุ รป บางส่วนของ
แอฟรกา เเละเอเชยี
ประวัตศิ าสตร์ยุคกลาง
เรมต้นราวครสตร์ศตวรรษที 5 จนถงึ ครสตร์ศตวรรษที 15 เปนช่วงที
ยโุ รปไดร้ ับอทิ ธพิ ลจากครสตศ์ าสนาโรมนั คาทอลิกเขา้ ครอบงําในทุกดา้ น
เช่น การเมือง ความเชือ การศกึ ษา ศิลปะเเละวฒั นธรรม จนมอื ชือเรยน
ยคุ ยีอกี ชือหนงึ วา่ ยคุ มืด (Dark Age)
ภาพสันตะปาปาสวมมงกฏุ ใหเ้ เกก่ ษัตริย์
สงั คมยุโรปในยคุ กลางมลี กั ษณะเดน่ ทีเรยกวา่ ระบบฟวดัล หรอศกั ดนิ า
สวามภิ กั ดิ ซงึ เปนระบบทีมีความสัมพนั ธอ์ ยา่ งเหนียวเเนน่ เเละอิงอาศัยกนั
ระหวา่ งนายเเละขา้ ภายใตเ้ งือนไขของการถือครองเเละใชป้ ระโยชน์ในทีดิน
แผนผังเเสดงระบบฟวดลั
ประวัติศาสตร์ยคุ ใหม่
เรมตน้ ราวครสตร์ศตวรรษที 15 จนสนิ สุดสงครามโลกครังที 2 โดย
ชว่ งต้นของยคุ นีในยุโรปประสบความสาํ เร็จดา้ นการฟนฟศู ลิ ปวทยาการ
พฒั นาองค์ความรู้ใหท้ ันสมัย เเละประสบความสําเร็จในการเดนิ เรอ เเละ
การสาํ รวจเเละคน้ พบดนิ เเดนใหม่ๆในโลก
ภาพ โมนาลซิ า
การสํารวจทางทะเลทําใหช้ าติในยโุ รปเกิดการตืนตวั ดา้ นการค้าจน
พัฒนากลายเปนการลา่ อาณานิคมในเอชียเเละดนิ เเดนอนื ๆในเวลาตอ่ มา
เพือประโยชน์ในการเปนเจ้าของทรัพยากรทมี คี ่าเเละความไดเ้ ปรยบ
ทางการคา้ ต่อชาตอิ นื ในยุโรป
เรอใบเดินสมุทรในยุคสํารวจทางทะเล
ประวัติศาสตร์ยคุ รว่ มสมยั
เรมตน้ หลงั สงครามโลกครังที 2 ซงึ มผี ลกระทบต่อภูมิภาคตา่ งๆของโลก ทังดา้ นเศรษฐกจิ
สงั คมเเละการเมือง การปกครอง จนเปนผลทําให้เกิดสงครามเยน็ (Cold War) จนเมอื หลงั
เหตุการณ์สงครามเยน็ โลกไดเ้ กิดการเปลียนแปลงครังสําคัญเขา้ สู่ยุคข้อมูลข่าวสาร ทเี รยกวา่
(Informathion Technology) จนถึงปจจุบัน
ข้อมู ลอ้ า ง อิ ง
ประสิ ทธิ เอื อตระกู ลวิ ทย์ . (2558). หนั งสื อเรี ยนรายวิ ชาพื นฐานประวั ติ ศาสตร์ สากล .
กรุ งเทพฯ: สํานั กพิ มพ์ เอมพั นธ์ .
อารยธรรม. (2553). กรุ งเทพฯ: ภาควิ ชาประวั ติ ศาสตร์ คณะอั กษรศาสตร์
จุ ฬาลงกรมหาวิ ทยาลั ย
ภาพประกอบ
WWW.THAIPNG.COM
รายวชาประวัตศิ าสตร์สากล ส32105
โรงเรยนรัตนโกสินทร์สมโภชบางขุนเทียน
รายวชาประวตั ิศาสตร์สากล ส32105
โรงเรยนรัตนโกสนิ ทร์สมโภชบางขุนเทยี น