The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ประเภทการเขียนบรรยายและพรรณนา

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ketsada Yothin, 2022-09-19 10:16:47

การเขียนบรรยายและพรรณนา

ประเภทการเขียนบรรยายและพรรณนา

Keywords: ภาษาไทย

การเขียนบรรยาย

และ

การเขียนพรรณนา

ภาษาไทยจิปาถะ BY ครูอา้ ย

การเขียนบรรยาย

และ

การเขียนพรรณนา

ภาษาไทยจิปาถะ BY ครูอา้ ย

การเขียนบรรยาย

ภาษาไทยจิปาถะ BY ครูอา้ ย

การเขียนบรรยาย

การเขียนบรรยาย หมายถึง การเขียนเพ่อื เล่าเรื่องใดเร่อื งหนง่ึ
หรือใหข้ อ้ มูลที่เกิดขึน้ ตามลาดับเหตกุ ารณ์

ทาให้ผูอ้ ่านทราบว่ามเี หตุการณ์ใดเกิดขึน้ บ้างและมีลักษณะอยา่ งไร

มกั พบในงานเขียน เช่น การเขียนเลา่ เหตุการณ์
การเขียนรายงานทางวิชาการ เปน็ ต้น

ภาษาไทยจิปาถะ BY ครูอา้ ย

การเขียนบรรยาย

ผู้เขียนจะต้องมคี วามร้ใู นเรือ่ งที่จะเขียนบรรยายเปน็ อยา่ งดี
รจู้ กั นาจดุ สาคัญมาเขียนให้มีความเหมาะสมกับกาลเทศะ
โดยใชภ้ าษาทก่ี ะทัดรดั ไมค่ วรมีคาศัพทย์ าก การเรียบเรียงเร่อื งควรเป็นไป

ตามลาดบั ไม่วกวน อาจมตี ัวอย่าง ขอ้ เปรียบเทยี บเพือ่ ให้เรอ่ื งเดน่ ชดั ขึ้น
ทาให้ผ้อู า่ นเกิดความเข้าใจติดตามอา่ นตอ่ ไปจนจบ

ภาษาไทยจิปาถะ BY ครูอา้ ย

ประเภทการเขียนบรรยาย

งานเขียนที่ใชว้ ิธีเขียนบรรยาย แบ่งออกเปน็ ประเภทตา่ ง ๆ ดงั นี้

ประวัติชีวิตของบคุ คลต่าง ๆ
หรือเรียกวา่ ชวี ประวตั ิ

เหตกุ ารณท์ างประวตั ิศาสตร์
หรือข้อเท็จจริง

เหตุการณท์ ีเ่ กิดขน้ึ

เร่อื งที่แต่งขึ้น ภาษาไทยจิปาถะ BY ครูอา้ ย

หลักการเขียนบรรยาย

เขียนเฉพาะสาระสาคญั
ใชภ้ าษาที่กระชับ ชดั เจน

เรียบเรียงข้อมลู ให้สอดคล้อง สมั พันธ์ ตอ่ เนอ่ื งกัน

มเี หตกุ ารณ์หรอื จุดที่ทาให้ผูอ้ า่ นประทบั ใจ

ภาษาไทยจิปาถะ BY ครูอา้ ย

หลักการเขียนบรรยาย

การเขียนบรรยายต้องชีใ้ หผ้ ้อู ่านเหน็ วา่

ใคร ทาอะไร ที่ไหน เมื่อไหร่ อย่างไร
เพื่ออะไร และมีผลอย่างไร

ภาษาไทยจิปาถะ BY ครูอา้ ย

ตวั อย่างการเขียนบรรยาย

ภาษาไทยจิปาถะ BY ครูอา้ ย

การเขียนพรรณนา

ภาษาไทยจิปาถะ BY ครูอา้ ย

การเขียนพรรณนา

การเขยี นพรรณนา หมายถงึ การเขยี นท่สี อดแทรกอารมณค์ วามร้สู กึ
การให้รายละเอียดของส่งิ ใดสิ่งหนึง่ ดว้ ยถ้อยคาทีไ่ พเราะ เกิดจินตภาพ

เห็นความเคลื่อนไหว จานวน สี ขนาด และไดย้ ิน เกิดความซาบซึ้ง
ประทบั ใจ น่าสะพรงึ กลวั มีจุดมุ่งหมายโนม้ น้าวอารมณ์
ของผู้อ่านให้คล้อยตาม และเกิดความประทับใจ
มกั ใช้ในงานเขยี นบันเทิงคดี เช่น เร่อื งสน้ั นวนยิ าย บทกวี

ภาษาไทยจิปาถะ BY ครูอา้ ย

ประเภทการเขียนพรรณนา

งานเขียนทีใ่ ชว้ ธิ ีเขียนพรรณนา แบ่งได้ ดงั นี้

การพรรณนาบคุ ลคล
การพรรณนาสถานที่

การพรรณนาธรรมชาติ

การพรรณนาเหตุการณ์
การพรรณนาความคิด ความรู้สึก และอารมณ์

ภาษาไทยจิปาถะ BY ครูอา้ ย

หลกั การเขียนพรรณนา

วิเคราะห์สิง่ ทีจ่ ะพรรณนาท้งั ภาพรวมและรายละเอียด
กล่าวถึงลกั ษณะเดน่ ตามลาดับความสาคัญ

กล่าวถึงลักษณะประกอบให้สอดคล้องกับลักษณะเดน่

เลือกใชถ้ ้อยคาที่ให้เห็นภาพชัดเจน

การใชภ้ าพพจน์โวหาร และสาธกโวหาร

ภาษาไทยจิปาถะ BY ครูอา้ ย

ตวั อย่างการเขียนพรรณนา

ภาษาไทยจิปาถะ BY ครูอา้ ย

ตวั อย่างการเขียนพรรณนาสถานที่

เคร่ืองตกแต่งในหอ้ งเป็นไมส้ ลกั สีน้าตาลเขม้
ขดั ข้ึนเงาเกือบทุกชิ้น สลบั โลหะทองเหลืองสุขสวา่ ง
แจกนั ทองเหลืองปักดอกไมส้ ดดอกใหญ่จดั เป็นพมุ่ กระจาย

พ้ืนไมม้ นั วบั สะอาด ปูดว้ ยหนงั เสือดาวผนื ใหญ่
กางเรียงต่อกนั หลายผนื

(ดอกแก้วการะบหุ นิง : แก้วเกา้ )

ผูเ้ ขียนพรรณนาถงึ หอ้ ง ๆ หนง่ึ ภายในประกอบด้วยของตกแต่ง
โดยเรม่ิ พรรณนาจากเคร่ืองเรอื นที่ทาด้วยไม้ ไลเ่ รยี งไปท่พี ื้น พรม

เปน็ การพรรณนาไปตามลาดับการมองเหน็

ตวั อย่างการเขียนพรรณนาสถานที่

เครื่องตกแต่งในหอ้ งเป็นไมส้ ลกั สีน้าตาลเขม้
ขดั ข้ึนเงาเกือบทุกชิ้น สลบั โลหะทองเหลืองสุขสวา่ ง
แจกนั ทองเหลืองปักดอกไมส้ ดดอกใหญ่จดั เป็นพมุ่ กระจาย

พ้ืนไมม้ นั วบั สะอาด ปูดว้ ยหนงั เสือดาวผนื ใหญ่
กางเรียงต่อกนั หลายผนื

(ดอกแก้วการะบหุ นิง : แก้วเกา้ )

ตวั อย่างการเขียนพรรณนาสถานที่

ผู้เขียนพรรณนาถงึ หอ้ ง ๆ หนงึ่ ภายในประกอบด้วยของตกแตง่
โดยเรมิ่ พรรณนาจากเครอื่ งเรือนทีท่ าด้วยไม้ ไลเ่ รยี งไปที่พนื้ พรม

เป็นการพรรณนาไปตามลาดับการมองเหน็

ตวั อยา่ งการเขียนพรรณนาบุคคล

ฟักมีโอกาสเพง่ พศิ หล่อนอยา่ งเตม็ ตาคราวน้ีเอง ดวงหนา้ อ่ิมกลม
เหมือนตอนเดก็ ๆ น้นั บดั น้ีเม่ือเขา้ สู่วยั สาวค่อยเรียวลงบา้ งจนเป็นรูปไข่
แต่กย็ งั อิ่มเปล่งปลงั่ เหมือนเดือนเตม็ ดวงอยนู่ นั่ เอง ลอ้ มดว้ ยกรอบผมหนาดกดา
เป็นมนั ขลบั ยาวสยายถึงบ่า ผดิ ไปจากสาว ๆ ชาวเมืองท้งั ปวงท่ีไวผ้ มส้นั แค่ทา้ ยทอย
คลา้ ยผมผชู้ าย แม่เพง็ ห่มสไบสีครามออ่ นรับกบั ผวิ เน้ือเหลืองนวลละออง

ตลอดต้งั แต่ช่วงบ่าลงมาจนถึงลาแขนท่ีกลมเรียวราวกบั กลึง หล่อนไม่ได้
ประดบั เครื่องถนิมพมิ พาภรณ์ เพราะวา่ อยบู่ า้ น แต่วา่ รูปโฉมของหลอ่ น
น้นั ใสกระจ่างยง่ิ กวา่ อญั มณีเน้ือใสใดๆท้งั สิ้น (รตั นโกสินทร์: ว.วินจิ ฉยั กุล)

ผู้เขยี นพรรณนาถงึ หญงิ สาวโดยเรยี งลาดับจากใบหนา้ เส้นผม การแตง่ กาย
สีผวิ และกล่าวถงึ ลักษณะประกอบทส่ี าคญั สง่ เสริมลกั ษณะเด่น เชน่ ลักษณะ

เด่นคือ เสน้ ผมหนา มลี ักษณะประกอบคือ ดกดา เปน็ มนั และยาวสยาย

ตวั อยา่ งการเขียนพรรณนาบุคคล

ฟักมีโอกาสเพง่ พิศหลอ่ นอยา่ งเตม็ ตาคราวน้ีเอง ดวงหนา้ อ่ิมกลม
เหมือนตอนเดก็ ๆ น้นั บดั น้ีเมื่อเขา้ สู่วยั สาวค่อยเรียวลงบา้ งจนเป็นรูปไข่
แต่กย็ งั อ่ิมเปลง่ ปลงั่ เหมือนเดือนเตม็ ดวงอยนู่ นั่ เอง ลอ้ มดว้ ยกรอบผมหนาดกดา
เป็นมนั ขลบั ยาวสยายถึงบ่า ผดิ ไปจากสาว ๆ ชาวเมืองท้งั ปวงท่ีไวผ้ มส้ันแค่ทา้ ยทอย
คลา้ ยผมผชู้ าย แม่เพง็ ห่มสไบสีครามอ่อนรับกบั ผวิ เน้ือเหลืองนวลละออง

ตลอดต้งั แต่ช่วงบ่าลงมาจนถึงลาแขนที่กลมเรียวราวกบั กลึง หล่อนไม่ได้
ประดบั เครื่องถนิมพมิ พาภรณ์ เพราะวา่ อยบู่ า้ น แต่วา่ รูปโฉมของหลอ่ น
น้นั ใสกระจ่างยง่ิ กวา่ อญั มณีเน้ือใสใดๆท้งั สิ้น (รัตนโกสนิ ทร:์ ว.วนิ ิจฉัยกลุ )

ตวั อย่างการเขียนพรรณนาบุคคล

ผู้เขียนพรรณนาถึงหญิงสาวโดยเรียงลาดบั จากใบหน้า
เส้นผม การแตง่ กายสผี วิ และกล่าวถงึ ลกั ษณะประกอบท่สี าคญั

สง่ เสริมลกั ษณะเดน่ เชน่ ลักษณะเดน่ คอื เส้นผมหนา
มีลักษณะประกอบคือ ดกดา เปน็ มัน และยาวสยาย

ตวั อย่างการเขียนพรรณนาเหตกุ ารณ์

เดือนตกไปแลว้ ดาวแข่งแสงขาว ยบิ ๆ ยบั ๆ
เหมือนเกร็ดแกว้ อนั สอดสอยร้อยปักอยเู่ ตม็ ผา้ ดาผนื ใหญ่

วบู วาบวบิ วบั ส่องแสง ใหญ่แลนอ้ ย ใกลแ้ ลไกล
บางดวงแสงหนาวดูเยน็ นิ่ง บางดวงกะพริบพร่างพร้อย
ดงั่ ดาวใหญ่นอ้ ยแยม้ ยมิ้ หยอกเอินกนั

(เจ้าจันทรผ์ มหอม นริ าศพระธาตุอินทรแ์ ขวน : มาลา คาจนั ทร์)

ผ้เู ขยี นพรรณนาถงึ ทอ้ งฟ้ายามคา่ คนื เม่ือดวงเดือนตกไปแลว้ ดาวดวงเลก็ ๆ ก็เปลง่ แสงแขง่ กนั
โดยเลือกใชค้ าซ้าและการหลากคา เพอื่ เนน้ ความหมายสรา้ งอาการเคล่ือนไหวของดวงดาว
ทาให้ผรู้ บั สารเกดิ จนิ ตภาพชดั เจน รสู้ กึ ว่าได้เห็นดว้ ยตาของตนเอง

ตวั อย่างการเขียนพรรณนาเหตกุ ารณ์

เดือนตกไปแลว้ ดาวแขง่ แสงขาว ยบิ ๆ ยบั ๆ
เหมือนเกร็ดแกว้ อนั สอดสอยร้อยปักอยเู่ ตม็ ผา้ ดาผนื ใหญ่

วบู วาบวบิ วบั ส่องแสง ใหญ่แลนอ้ ย ใกลแ้ ลไกล
บางดวงแสงหนาวดูเยน็ นิ่ง บางดวงกะพริบพร่างพร้อย
ดงั่ ดาวใหญ่นอ้ ยแยม้ ยมิ้ หยอกเอินกนั

(เจา้ จนั ทร์ผมหอม นริ าศพระธาตุอินทร์แขวน : มาลา คาจนั ทร)์

ตวั อย่างการเขียนพรรณนาเหตกุ ารณ์

ผเู้ ขยี นพรรณนาถงึ ทอ้ งฟา้ ยามคา่ คืน เมอ่ื ดวงเดอื นตกไปแล้ว
ดาวดวงเล็ก ๆ กเ็ ปลง่ แสงแขง่ กนั โดยเลอื กใช้คาซา้

และการหลากคา เพอ่ื เน้นความหมายสรา้ งอาการเคลื่อนไหว
ของดวงดาว ทาให้ผรู้ ับสารเกดิ จนิ ตภาพชัดเจน
รู้สึกว่าได้เหน็ ด้วยตาของตนเอง

ตวั อย่างการเขียนพรรณนาธรรมชาติและความรู้สึก

ลมระรวยร่ืนหอมนานาบุหงาลดาวลั ย์ เป็นกล่ินของ
ดอยดงพงชฏั ประหลาดล้ีลบั ชวนละเมอเพอ้ ฝัน ป่ าโป่ งประกอบ
ดว้ ยไมเ้ บญจพรรณ มีกอไผป่ ่ ามากมาย กาบยงั เป็นสีน้าตาลเขม้ ชูลาสลบั สลา้ ง
ละไมป้ ลายหอกปลายทวนของแกลว้ ทหารดึกดาบรรพ์ ชุ่มอยรู่ อโห่ร้อง
ตะลุยเศอก เอาฤกษเ์ อาชยั แต่เราผปู้ ราชยั ยงั เหม่อมองไปทุกค่าคบไมส้ ูง

ยงู ยางกร่างไกร มะค่าจาปาป่ าและที่ไม่รู้จกั กม็ ากมาย มีกลว้ ยไม้

ประหลาด ผลิดอกประดบั ไวป้ ระดุจถนิมพมิ พาภรณ์ของป่ าชฏั
ตรงกนั ขา้ มกบั ป่ าชา้ แห่งหวั ใจเราอนั ประดบั ดว้ ยความวา่ งเปล่าวเิ วกและวงั เวง

ผ้เู ขยี นพรรณนาถึงความตา่ งระหว่างป่ากับจติ ใจของผ้เู ขยี นที่มีแตค่ วามเงยี บและวังเวง (บันทึกของจิตรกร : อังคาร กัลยาณพงศ)์
ในข้อความปรากฏภาพพจน์เปรยี บเทยี บ เช่น เปรียบกอไผเ่ หมือนดาบของทหาร
เปรยี บกล้วยไม้ซ่งึ มีสสี นั สดใส วา่ เหมือนเคร่อื งประดบั ของป่า

ตวั อยา่ งการเขียนพรรณนาธรรมชาติและความรู้สึก

ลมระรวยร่ืนหอมนานาบุหงาลดาวลั ย์ เป็นกล่ินของ
ดอยดงพงชฏั ประหลาดล้ีลบั ชวนละเมอเพอ้ ฝัน ป่ าโป่ งประกอบ
ดว้ ยไมเ้ บญจพรรณ มีกอไผป่ ่ ามากมาย กาบยงั เป็นสีน้าตาลเขม้ ชูลาสลบั สลา้ ง
ละไมป้ ลายหอกปลายทวนของแกลว้ ทหารดึกดาบรรพ์ ชุ่มอยรู่ อโห่ร้อง
ตะลุยเศอก เอาฤกษเ์ อาชยั แต่เราผปู้ ราชยั ยงั เหม่อมองไปทุกค่าคบไมส้ ูง

ยงู ยางกร่างไกร มะค่าจาปาป่ าและที่ไม่รู้จกั กม็ ากมาย มีกลว้ ยไม้
ประหลาด ผลิดอกประดบั ไวป้ ระดุจถนิมพิมพาภรณ์ของป่ าชฏั
ตรงกนั ขา้ มกบั ป่ าชา้ แห่งหวั ใจเราอนั ประดบั ดว้ ยความวา่ งเปล่าวเิ วกและวงั เวง

(บันทึกของจิตรกร : อังคาร กัลยาณพงศ์)

ตวั อยา่ งการเขียนพรรณนาธรรมชาติและความรู้สึก

ผู้เขยี นพรรณนาถึงความต่างระหว่างปา่ กบั จิตใจของผู้เขยี น
ที่มีแตค่ วามเงยี บและวงั เวง ในข้อความปรากฏภาพพจนเ์ ปรียบเทยี บ

เชน่ เปรียบกอไผเ่ หมอื นดาบของทหาร
เปรยี บกลว้ ยไมซ้ ึ่งมีสสี นั สดใส วา่ เหมอื นเครอื่ งประดบั ของปา่

แบบฝึกหัด

ตามประเพณีของไทยเราน้นั ดอกไมธ้ ูปเทยี นมีอย่หู ลายชนดิ ดอกไม้ ธูปเทียนทใ่ี ชบ้ ชู าพระ
รัตนตรัยนน้ั ส่วนมากเป็นเทยี นคู่สาหรบั จุดบูชาหนา้ พระ มีธปู ซึ่งจุดปกั ไวใ้ นกระถางธปู อีก ๓ ดอก
ส่วนดอกไม้นนั้ อาจเปน็ ดอกไมใ้ สก่ ระทงก็ได้ ดอกไม้ปักขวดกไ็ ด้ จนถงึ ขน้ั เป็นพวงมาลัย กไ็ ดอ้ ีก
ส่วนดอกไม้ธูปเทยี นสาหรบั ศิษยแ์ ตล่ ะคนนาไปบูชาครใู นวันไหวค้ รูนน้ั ใช้ธปู เทียนและดอกไม้ใส่กระทง
มเี ครือ่ งหมายในทางขอให้ปญั ญาแหลม เชน่ หญา้ แพรก ดอกมะเขือ ใส่ไว้ดว้ ย

การเขยี นประเภท............................................................

ท้องทะเลงดงามยิ่งนัก ดวงจนั ทร์คนื ๑๔ คา่ สอ่ งแสงนวลผ่องอาบไปทั่วหาดทรายขาว ยาวไกลทอดขนานกับร่ม

คร้มึ ของแนวพฤกษา คลื่นใกลฝ้ ง่ั มว้ นตัวเขา้ หาหาดเหมอื นจะออดออ้ น บางระลอกถาโถมเขา้ มาแรงจนฟองฝอยขึน้ มา

คลอเคลยี หาด ไกลออกไปพรายพร้ิวระยิบระยบั เปน็ เกล็ดเงนิ กระจายไปท่วั ดง่ั โปรยปรายเพชรไว้บนผิวนา้ เพื่อหยอกล้อ

แสงจนั ทร์

การเขียนประเภท ............................................................ ภาษาไทยจิปาถะ BY ครูอา้ ย

แบบฝึกหัด

การศึกษาเป็นพน้ื ฐานทจี่ ะนาไปสู่การพฒั นาตนเองของคนเรา คนท่ีได้รบั การศึกษาอย่าง
เหมาะสมกค็ อื คนทจี่ ะสามารถใช้ชีวติ ได้อย่างถูกต้องตามครรลองคลองธรรมและได้รับสิ่งดๆี การศกึ ษา
มใิ ช่เป็นเพยี งการใชช้ ีวติ ระยะเวลาหน่ึงเทา่ น้นั แตเ่ ป็นเหมอื นปัจจัยในการดารงชีวิตท่ีทุกคนต้อง
แสวงหาและเพม่ิ พนู อยู่ตลอดเวลา เพือ่ พัฒนาตนเอง ครอบครัว หน้าที่การงาน ตลอดจน
ความก้าวหน้าและความมัน่ คงของประเทศ

การเขยี นประเภท....................................................

ตวั เวตาลมลี กั ษณะดังน้ี ศพนั้นลมื ตาโพน ลูกตาสเี ขยี วเรืองเรือง ผมสีนา้ ตาล

หน้าสีนา้ ตาล ตวั ผอม เห็นซี่โครงเป็นซี่ ๆ หอ้ ยหวั ลงมาทานองคา้ งคาว แต่เป็น

ค้างคาวตัวใหญท่ ส่ี ดุ

การเขยี นประเภท......................................................... ภาษาไทยจิปาถะ BY ครูอา้ ย

แบบฝึกหัด

ผมสงั เกตเหน็ แสงทอดเงาจันทรเ์ ตม็ ดวง ทเ่ี คลื่อนขึ้นสูงเหนอื หนา้ ผากสงู ชัน ริมแสงนวล
อาบขุน่ เขาเป็นสีเงินยวง ระลอกคลนื่ ส่งประกายวบิ วบั บนผืนนา้

การเขียนประเภท......................................................

องค์พระทีน่ ั่งไมส้ ักงดงามตระหงา่ นรอเราอยทู่ ่ามกลางหม่แู มกไม้รม่ รื่น ไดย้ ินเสยี ง
นกรอ้ งแวว่ มาจากยอดจามจรุ ตี น้ ใหญ่ ทีแ่ ผก่ ง่ิ กา้ นสาขารม่ ครึม้ สายลมเย็นพดั พล้วิ
ระลอกนา้ สีเขียวประหลาดล้อเปลวแดดเล่นอยู่ระยิบระยับ

การเขียนประเภท...........................................................

ภาษาไทยจิปาถะ BY ครูอา้ ย

แบบฝึกหดั

ปราสาทเขาพระวหิ ารตั้งอยู่บนทิวเขาพนมดงรกั ซง่ึ กั้นแบ่งเขตระหวา่ งประเทศกมั พูชากบั
ภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนือของประเทศไทย ปราสาทเขาพระวหิ ารเป็นศาสนสถานขอม ซงึ่ สร้างข้ึน
ระหวา่ งพุทธศตวรรษที่ 16-18 มปี ระตซู ุ้ม (โคปรุ ะ) และบนั ไดศิลาเดนิ ข้นึ ไปยงั ศาสนสถานหลงั กลาง
ซ่งึ เป็นเทวาลยั สร้างถวายพระอศิ วร

การเขียนประเภท........................................................

เดอื นตกไปแลว้ ดาวแขง่ แสงขาว ยบิ ๆ ยับ ๆ เหมอื นเกรด็ แก้วอนั สอดสอยร้อยปกั อยู่
เต็มผ้าดาผืนใหญ่ วบู วาบวิบวับสอ่ งแสง ใหญ่แลนอ้ ย ใกล้แลไกล บางดวงแสงหนาว
ดูเย็นน่ิง บางดวงกะพริบพร่างพรอ้ ย ดง่ั ดาวใหญ่น้อยแยม้ ยิ้มหยอกเอินกัน

การเขยี นประเภท.............................................................

ภาษาไทยจิปาถะ BY ครูอา้ ย

ตามประเพณีของไทยเรานัน้ ดอกไมธ้ ูปเทยี นมอี ยหู่ ลายชนิด ดอกไม้ ธูปเทยี นทใ่ี ชบ้ ูชาพระรตั นตรัยน้นั สว่ นมากเปน็ เทยี นคสู่ าหรับจุดบูชาหนา้ พระ มีธูปซงึ่ จุดปกั ไว้ในกระถางธูปอีก ๓ ดอก ส่วน
ดอกไม้นั้น อาจเปน็ ดอกไม้ใส่กระทงก็ได้ ดอกไมป้ กั ขวดก็ได้ จนถงึ ข้นั เป็นพวงมาลัย กไ็ ด้อกี สว่ นดอกไมธ้ ูปเทียนสาหรับศิษยแ์ ตล่ ะคนนาไปบชู าครูในวนั ไหวค้ รูน้นั ใช้ธปู เทียนและดอกไมใ้ สก่ ระทง มี
เคร่ืองหมายในทางขอใหป้ ญั ญาแหลม เชน่ หญ้าแพรก ดอกมะเขือ ใสไ่ ว้ด้วย การเขียนประเภท บรรยายโวหาร

ทอ้ งทะเลงดงามยง่ิ นัก ดวงจันทร์คืน ๑๔ คา่ สอ่ งแสงนวลผ่องอาบไปท่วั หาดทรายขาว ยาวไกลทอดขนานกบั รม่ ครึ้มของแนวพฤกษา คลื่นใกลฝ้ ัง่ ม้วนตัวเข้าหาหาดเหมอื นจะออดออ้ น บางระลอก
ถาโถมเขา้ มาแรงจนฟองฝอยขึน้ มาคลอเคลยี หาด ไกลออกไปพรายพรว้ิ ระยิบระยบั เปน็ เกล็ดเงินกระจายไปทัว่ ดั่งโปรยปรายเพชรไวบ้ นผวิ น้าเพ่ือหยอกลอ้ แสงจันทร์ การเขยี นประเภท พรรณนาโวหาร

การศกึ ษาเป็นพ้ืนฐานท่ีจะนาไปส่กู ารพัฒนาตนเองของคนเรา คนทีไ่ ด้รบั การศึกษาอย่างเหมาะสมก็คือคนทจี่ ะสามารถใช้ชีวิตได้อยา่ งถูกตอ้ งตามครรลองคลองธรรมและได้รับส่ิงดีๆ การศึกษามิใช่
เปน็ เพียงการใช้ชวี ิตระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น แตเ่ ปน็ เหมอื นปจั จยั ในการดารงชวี ิตท่ที ุกคนต้องแสวงหาและเพิ่มพูนอยู่ตลอดเวลา เพอื่ พัฒนาตนเอง ครอบครัว หน้าทก่ี ารงาน ตลอดจนความก้าวหน้าและ
ความม่นั คงของประเทศ การเขยี นประเภท บรรยายโวหาร

ตวั เวตาลมีลกั ษณะดังน้ี ศพนน้ั ลืมตาโพน ลูกตาสีเขียวเรอื งเรอื ง ผมสนี ้าตาล หนา้ สนี า้ ตาล ตัวผอม เหน็ ซ่ีโครงเปน็ ซ่ี ๆ ห้อยหัวลงมาทานองคา้ งคาว แต่เป็นคา้ งคาวตวั ใหญ่ท่ีสดุ
การเขียนประเภท บรรยายโวหาร

ผมสังเกตเหน็ แสงทอดเงาจนั ทร์เตม็ ดวง ท่ีเคลือ่ นขนึ้ สงู เหนือหน้าผากสูงชัน ริมแสงนวลอาบขุ่นเขาเป็นสีเงินยวง ระลอกคลนื่ ส่งประกายวิบวบั บนผนื น้า การเขียนประเภท พรรณนาโวหาร

องค์พระที่นั่งไม้สกั งดงามตระหงา่ นรอเราอยูท่ า่ มกลางหมู่แมกไมร้ ม่ ร่นื ไดย้ นิ เสียงนกรอ้ งแว่วมาจากยอดจามจุรตี น้ ใหญ่ ท่ีแผ่กง่ิ ก้านสาขารม่ คร้มึ สายลมเยน็ พดั พล้วิ ระลอกน้าสเี ขียวประหลาดลอ้
เปลวแดดเลน่ อยู่ระยิบระยับ การเขยี นประเภท พรรณนาโวหาร

ปราสาทเขาพระวหิ ารตัง้ อยบู่ นทวิ เขาพนมดงรกั ซ่ึงก้ันแบง่ เขตระหว่างประเทศกัมพูชากับภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนือของประเทศไทย ปราสาทเขาพระวิหารเปน็ ศาสนสถานขอม ซง่ึ สร้างขึ้นระหว่าง
พทุ ธศตวรรษท่ี 16-18 มีประตูซุม้ (โคปุระ) และบนั ไดศิลาเดินขนึ้ ไปยงั ศาสนสถานหลงั กลาง ซง่ึ เป็นเทวาลยั สรา้ งถวายพระอศิ วร การเขียนประเภท บรรยายโวหาร

เดอื นตกไปแล้ว ดาวแข่งแสงขาว ยิบ ๆ ยบั ๆ เหมอื นเกร็ดแกว้ อันสอดสอยรอ้ ยปักอยู่เต็มผา้ ดาผืนใหญ่ วบู วาบวิบวบั สอ่ งแสง ใหญ่แลน้อย ใกล้แลไกล บางดวงแสงหนาวดูเย็นน่งิ บางดวงกะพริบ

พรา่ งพรอ้ ย ดัง่ ดาวใหญน่ ้อยแยม้ ย้มิ หยอกเอินกนั การเขียนประเภท พรรณนาโวหาร ภาษาไทยจิปาถะ BY ครูอา้ ย


Click to View FlipBook Version