The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

รายงานอบรมตรวจข้อสอบ65 ครูอมรรัตน์ โชคตระกูลเกียรติ โรงเรียนเมืองพญาแลวิทยา สพม.ชัยภูมิ

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by phing, 2022-11-18 02:14:14

รายงานอบรมตรวจข้อสอบ65

รายงานอบรมตรวจข้อสอบ65 ครูอมรรัตน์ โชคตระกูลเกียรติ โรงเรียนเมืองพญาแลวิทยา สพม.ชัยภูมิ

บนั ทกึ ข้อความ

ส่วนราชการ โรงเรยี นเมืองพญาแลวิทยา

ที่ - วันที่ 17 เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2565

เรื่อง รายงานผลการเข้ารว่ มอบรมเชงิ ปฏิบัติการ เรอ่ื ง หลกั สูตรการตรวจขอ้ สอบอัตนยั สาหรบั ครูผสู้ อน

วชิ าภาษาไทย ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี ๓ ประจาปงี บประมาณ พ.ศ.2566

............................................................................................................................. ................................

เรยี น ผูอ้ านวยการโรงเรียนเมืองพญาแลวิทยา

ตามที่ ขา้ พเจ้า นางสาวอมรรัตน์ โชคตระกูลเกยี รติ ตาแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชานาญการ
ไดเ้ ข้ารว่ มอบรมเชงิ ปฏิบัติการ เรื่อง หลักสูตรการตรวจขอ้ สอบอตั นยั สาหรับครผู สู้ อนวิชาภาษาไทย ชั้น
มธั ยมศึกษาปที ่ี ๓ ประจาปงี บประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖ ในระหว่างวันท่ี ๑๒ พฤศจิกายน - ๑๓ พฤศจกิ ายน
๒๕๖๕ ณ โรงแรมเลอ แคสเซยี จังหวัดขอนแกน่ บัดนี้การปฏบิ ตั ิหนา้ ทไ่ี ด้เสรจ็ สิน้ เรยี บร้อยแล้ว

ข้าพเจ้าในฐานะครูผู้เขา้ อบรม จงึ ขอรายงานสรปุ ผลการปฏิบตั หิ น้าท่ตี ามเอกสารทแี่ นบมาพร้อมนี้

จงึ เรียนมาเพ่ือโปรดทราบและพจิ ารณา

ลงช่ือ ครูผ้สู อน
(นางสาวอมรรตั น์ โชคตระกลู เกียรติ)
ตาแหนง่ ครู กล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย

โรงเรยี นเมอื งพญาแลวทิ ยา

ความคดิ เห็นของผู้อานวยการโรงเรียน

............................................................................................................................. .............................
..................................................................................................... .....................................................

ลงชอ่ื .............................................................
(นายปิยะพล เถอื่ นพาชิน)

ผ้อู านวยการโรงเรยี นเมืองพญาแลวิทยา

รายงานผลการเขา้ ร่วมอบรมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง หลักสตู รการตรวจข้อสอบอตั นยั

สาหรบั ครผู สู้ อนวิชาภาษาไทย ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่ ๓ ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖

ในระหวา่ งวันที่ ๑๒ พฤศจิกายน - ๑๓ พฤศจิกายน ๒๕๖๕ ณ โรงแรมเลอ แคสเซยี จังหวัดขอนแก่น

จัดโดยสถาบันทดสอบทางการศกึ ษาแห่งชาติ (องค์กรมหาชน)

**************************************************

๑. ชื่อโครงการอบรม รายงานผลการเขา้ ร่วมอบรมเชงิ ปฏิบัตกิ าร เรอ่ื ง หลักสตู รการตรวจข้อสอบอตั นยั

สาหรบั ครผู ้สู อนวชิ าภาษาไทย ช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ ๓ ประจาปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๖

จานวน ๒ วัน

๒. แผนงาน วิชาการ

๓. ผเู้ ขา้ รว่ มอบรม นางสาวอมรรตั น์ โชคตระกลู เกยี รติ ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครชู านาญการ

๔. สถานที่อบรม โรงแรมเลอ แคสเซีย จงั หวัดขอนแกน่

๕. วนั / เวลา ระหว่างวนั ที่ ๑๒ พฤศจิกายน - ๑๓ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๕

๖. หนว่ ยงานทจ่ี ดั จดั โดยสถาบนั ทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (องค์กรมหาชน) หรือสทศ.

๗. คา่ ใชจ้ ่ายในการปฏบิ ัตงิ าน ไมม่ คี ่าใชจ้ า่ ยในการเขา้ ร่วมอบรม

๘. วตั ถุประสงค์ในการจดั อบรม

๑. เพ่ือให้บุคลากรทุกสังกัดได้มีส่วนร่วมในการตรวจข้อสอบอัตนัย วิชาภาษาไทย ระดับชั้น

มัธยมศกึ ษาปีท่ี ๓

๒. เพื่อให้บุคลากรมีความรู้ความเข้าใจเก่ียวกับเกณฑ์การตรวจข้อสอบและเตรียมความพร้อมในการ

จัดการเรยี นรเู้ พอ่ื พฒั นาผูเ้ รียนให้มที กั ษะการเขียนภาษาไทยมากยิง่ ขึน้

๙. หลกั ฐานและเอกสารที่เกี่ยวข้อง

๑. เอกสารเตรียมพรอ้ มสอบ O-NET ม.๓ วชิ าภาษาไทย (รปู แบบข้อสอบอัตนัย)

๒. เกณฑ์การตรวจใหค้ ะแนนข้อสอบอตั นัยวิชาภาษาไทยอตั นัย ม.๓

๓. หนังสือขออนุญาตบุคลากรเข้าร่วมอบรมเชิงปฏิบัติการ เร่ือง หลักสูตรการตรวจข้อสอบอัตนัย

สาหรบั ครผู ้สู อนวชิ าภาษาไทย ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๓ ประจาปงี บประมาณ พ.ศ.๒๕๖๖

๑๐. รายละเอยี ดการอบรม / ประชุม / สัมมนา ดงั น้ี

๑. ร่วมประชุมและรับฟังนโยบาย โดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ศิริดา บุรชาติ ผู้อานวยการสถาบัน

ทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (องค์การมหาชน)

๒. รับฟังมาตรฐานการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติข้ันพื้นฐาน (O-NET) สาหรับรูปแบบข้อสอบ

อัตนัย โดย ดร.ทรายทอง พวกสันเทียะ รองผู้อานวยการสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (องค์การ

มหาชน)

๓. รับฟงั เกณฑก์ ารตรวจขอ้ สอบอตั นยั

- ข้อสอบและองค์ประกอบของเกณฑ์ โดยวิทยากรหลัก ผู้ช่วยศาสตราจารย์ สุคนธรัตน์

สรอ้ ยทองดี

๔. ทาข้อสอบ Pretest (ขอ้ ๓๐.๑ - ๓๐.๓) จานวน ๑๒ ขอ้

๕. ปฏบิ ัตกิ ารตรวจข้อสอบอัตนยั มที ้งั หมด ๓ ข้อยอ่ ย ไดแ้ ก่ขอ้

- ๓๐.๑ จงเขยี นย่อความจากบทอ่าน (เกณฑ์ + พาทา)

- ๓๐.๒ จงเขยี นวิเคราะหจ์ ุดมุ่งหมายของบทอ่านพร้อมระบุส่งิ ท่ผี ู้เขียนต้องการใหผ้ ู้อ่าน

ปฏิบัติ (เกณฑ์ + พาทา)

- ๓๐.๓ จงแสดงความคดิ เห็นจากเรื่องท่อี ่าน พร้อมยกเหตุผลสนับสนุน (เกณฑ์ + พาทา)
๖. ร่วมอภปิ ราย/ซกั ถาม เกีย่ วกับเกณฑ์การตรวจข้อสอบอตั นยั ข้อ ๓๐.๑ ๓๐.๒ และ ๓๐.๓
๗. ทาขอ้ สอบ Posttest (ขอ้ ๓๐.๑ - ๓๐.๓) จานวน ๑๒ ขอ้
๘. สรปุ อบรม
๑๑. ปญั หาและอุปสรรคในการอบรม / ประชุม / สมั มนา / ดงั นี้
................................................................................ไมม่ .ี .....................................................................................

๑๒. สรุปข้อคดิ / ประโยชน์ / ขอ้ เสนอแนะ/ ข้อปรับปรุง ทีเ่ ห็นว่านามาใชใ้ หเ้ กิดประโยชนแ์ ก่ทางราชการ
๑. ครูมีความรู้ความเข้าใจ ได้ฝึกปฏิบัติ เรียนรู้ เก่ียวกับเกณฑ์การตรวจข้อสอบท่ีมีมาตรฐานและ

สามารถนามาความรทู้ ไ่ี ดไ้ ปปรบั ใชใ้ นการวดั ผลประเมนิ ผลเก่ียวกบั ทักษะการเขยี นภาษาไทยของนักเรียนได้
๒. ครูได้แนวทางในการเตรียมความพร้อมจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาผู้เรียนให้มีทักษะการเขียน

ภาษาไทยมากยงิ่ ข้นึ
3. ครูพร้อมที่จะนาความรู้ ประสบการณ์ท่ีได้รับ นามาขยายผลสู่ครูในกลุ่มสาระการเรียนรู้ พร้อม

นามาสอนนกั เรียนระดับชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี 3 เพอื่ ให้มีความรู้ ความเข้าใจด้านการเขียนข้อสอบอตั นัย

(ลงช่อื ).................................................ผรู้ ายงาน
(นางสาวอมรรตั น์ โชคตระกลู เกยี รติ)
ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครชู านาญการ

ภาคผนวก

o ภาพกิจกรรมการเขา้ รว่ มอบรม



ภาคผนวก

ภาพประกอบการเขา้ ร่วมอบรมการตรวจขอ้ สอบ

วทิ ยากรหลกั ผู้ชว่ ยศาสตราจารย์ สุคนธรตั น์ สรอ้ ยทองดี

ภาคผนวก

เอกสารหลกั ฐานเกี่ยวกับการอบรม
การตรวจขอ้ สอบ

เกณฑ์การตรวจให้คะแนนขอ้ สอบอัตนัย
การอบรมเชิงปฏิบัตกิ าร เร่อื ง หลกั สตู รการตรวจข้อสอบอตั นยั สาหรับครผู ้สู อน

วชิ าภาษาไทย ชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี ๓ ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖

ขอ้ ๓๐ การย่อความและแสดงความคิดเห็นของบทอ่าน
***** ขอ้ ตกลง ข้อ ๓๐.๑ ยอ่ ความจากเร่ืองที่อ่าน

๑. หากคะแนนใจความสาคัญเป็น ๐ คะแนน จะได้ ๐ คะแนนทั้งข้อ
๒. หากยกข้อความในบทอ่านมาไม่วา่ จะกี่ย่อหน้าก็ตาม จะตรวจเฉพาะใจความสาคัญและไม่ตรวจ
สว่ นอ่ืน
๓. หากเขยี นด้วยภาษาของตนเอง เพิ่ม/สลับคาหรอื ข้อความให้แตกตา่ งจากข้อความในบทอ่านจะ
ตรวจทกุ สว่ นตามปกติ
๔. หากเขยี นเป็นประโยคความเดียว ๑ ประโยคทเ่ี ก่ียวข้องกับใจความสาคญั จะตรวจเฉพาะใจความ
สาคญั และไมต่ รวจสว่ นอื่น
๕. หากเขยี นเป็นข้อๆ มีเลขลาดบั ข้อ/เคร่ืองหมาย/เขยี นเป็นย่อหนา้ ๆ จะตรวจเฉพาะใจความสาคญั
และไมต่ รวจสว่ นอื่น
๖. หากขอ้ ความทเี่ ขียนมาอา่ นไมอ่ อก/อ่านไม่ไดค้ วาม จะตรวจเฉพาะใจความสาคัญและไม่ตรวจ
สว่ นอื่น
๗. หากเขยี นเป็นประโยคเดียวซา้ กนั ไปเรื่อยๆ และไม่มีใจความสาคญั ได้คะแนน ๐ ทงั้ ข้อ
๘. หากเขยี นเปน็ ประโยคเดยี วซ้ากนั ไปเร่ือยๆ แตม่ ีใจความสาคญั จะตรวจเฉพาะใจความสาคัญ และ
ไม่ตรวจส่วนอน่ื
๙. ใหค้ ะแนนใจความสาคญั ต่อเมื่อข้อความน้ันเป็นประโยคทส่ี ือ่ ความถงึ ใจความสาคัญได้
๑๐. ให้คะแนนใจความสาคญั ต่อเมื่อประโยคใจความสาคัญไมม่ ีเน้ือความทย่ี ่อผิดไปจากตัวบทอื่น

ขอ้ ๓๐.๑ จงย่อความจากเรอื่ งที่อา่ น
๑. ดา้ นเน้ือหา ๗ คะแนน
๑.๑ ใจความสาคัญ ๔ ใจความ (๔ คะแนน)
-ประโยชน+์ โทษของผักสด
-ประโยชน์และโทษของผกั สกุ
-วิธกี ารเก็บรักษาและการปรงุ ผักสุกและผักสด
-การรบั ประทานผักสกุ และผักสดอย่างเหมาะสมควบคู่กบั อาหารอนื่ ๆท่มี ีประโยชน์
๑.๒ การเรียงลาดับและการเชอ่ื มโยงความคิด (๒ คะแนน)
-เรยี งลาดบั ความคิดไม่ดี (ไม่เปน็ ไปตามลาดบั เวลาหรอื ไม่เปน็ ไปตามเหตุและผล)
-เช่อื มโยงความคดิ ไมด่ ี (เน้ือความขาด เนื้อความไม่สัมพนั ธก์ ัน เน้อื ความซา้ )
๑.๓ ความถกู ต้องตามหลักการเขยี นย่อความ (๑ คะแนน)
-ไม่ย่อความผดิ ไปจากตัวบทอ่าน
-ไมย่ กตัวอยา่ ง
-ไมใ่ ช้เครื่องหมายอญั ประกาศกากับ
-ไมใ่ ช้คาสรรพนามบรุ ษุ ท่ี ๑ และ ๒

-ไมใ่ ช้อักษรย่อหรือคายอ่
-ไม่เขยี นช่ือเร่ือง
๒. ด้านภาษา ๓ คะแนน
๒.๑ การสะกดคา (๑ คะแนน)
-การสะกดคาผดิ
-การใช้ไมย้ มกไม่ถูกตอ้ ง
-การใชร้ ูปภาพ เคร่ืองหมาย สญั ลกั ษณต์ ่างๆ ยกเว้น เครื่องหมายเหลา่ น้ี
. ,- ()! ?%
๒.๒ การใชค้ า / ถอ้ ยคาสานวน (๑ คะแนน)
-ใชค้ าผดิ ความหมายหรือผิดบริบท
-ใชค้ าเช่ือม (คาสันธาน) ผิด
-ใชค้ าบพุ บทผดิ (ใชผ้ ดิ หรือใชใ้ นทที่ ีไ่ ม่ควรมี)
-ใช้ลักษณนามผดิ
-ใช้คา/สานวนท่ไี มม่ ีในภาษา
-ใช้คาเกิน (คาเกินที่มีรปู เดียวกนั และเขยี นติดกัน/คาเกนิ ที่มีความหมายเดียวกนั และ
เขยี นตดิ กนั /ใช้คาในตาแหนง่ ทไี่ ม่ควรใช้ หากตดั ออกยังสื่อความได้)
-ใชค้ าตก
-คาลกั ลน่ั
-ภาษาถิ่น
-ภาษาพูด
๒.๓ ประโยค (๑ คะแนน)
-ประโยคไม่ส่ือความ (ไมม่ ีประธานในกรณีท่ลี ะประธานไมไ่ ด้/ไม่มีกรรมในกรณีท่ี
เป็นกริยาต้องการกรรม/ประโยคท่ีไม่จบกระแสความ)
-ประโยคไม่สื่อความ (ส่ือความได้หลายแบบ/แทนคาท่ีหายไปได้หลายคา/ต้องแก้ไข
ใหม่ทงั้ ประโยค)
-เขยี นเปน็ กลมุ่ คา/วลี
-เรยี งลาดบั คา/วางสว่ นขยายไม่ถกู ต้อง

***** ขอ้ ตกลง ข้อ ๓๐.๒ จงวเิ คราะห์จดุ มุ่งหมายของบทอ่าน พร้อมระบุสิ่งทีผ่ ู้เขียนตอ้ งการใหผ้ ู้อ่าน

ปฏบิ ัติ (๕ คะแนน)

๑. หากยกข้อความจากบทอ่านท้ังหมด ได้ ๐ คะแนนทง้ั ข้อ
๒. หากไม่มีจดุ มุ่งหมายและสิ่งท่ีผเู้ ขียนต้องการใหผ้ ูอ้ ่านปฏิบัติ ได้ ๐ คะแนนทั้งข้อ
๓. หากเขียนเป็นข้อๆ มีเลขลาดบั ข้อ/เครือ่ งหมาย/เขียนเป็นยอ่ หน้าๆ ไม่ตรวจการเรยี งลาดบั
ความคดิ และการเชื่อมโยงความคดิ
๔. หากมขี อ้ ความบางสว่ นที่อ่านไม่ออกหรืออ่านไมไ่ ด้ความ ให้ตรวจเฉพาะขอ้ ความท่ีอ่านออก
ขอ้ ๓๐.๒ จงวเิ คราะหจ์ ุดมุ่งหมายของบทอา่ น พร้อมระบสุ ิง่ ที่ผเู้ ขยี นตอ้ งการใหผ้ ู้อา่ นปฏิบัติ (๕ คะแนน)
๑. ด้านเนื้อหา (๓ คะแนน)

๑.๑ บอกจุดมงุ่ หมาย (๒ คะแนน)
๑.๒ เรียงลาดับและเชื่อมโยงความคิด (๑ คะแนน)

-เรยี งลาดบั ความคิดไม่ดี (ไม่เป็นไปตามลาดับเวลาหรือไม่เป็นไปตามเหตุและผล)
-เชื่อมโยงความคดิ ไม่ดี (เน้อื ความไม่สัมพันธก์ ัน เน้ือความซ้า)
๒. ด้านภาษา (๒ คะแนน)
๒.๑ การสะกดคา (๐.๕ คะแนน)
-การสะกดคาผิด
-การใช้ไม้ยมกไม่ถูกต้อง
-การใชร้ ูปภาพ เครื่องหมาย สญั ลกั ษณต์ ่างๆ ยกเว้น เครื่องหมายเหล่านี้
. ,- ()! ?%
๒.๒ การใช้คา / ถ้อยคาสานวน (๐.๕ คะแนน)
-ใชค้ าผดิ ความหมายหรือผดิ บรบิ ท
-ใชค้ าเชอื่ ม (คาสนั ธาน) ผดิ
-ใชค้ าบุพบทผดิ (ใชผ้ ดิ หรือใช้ในทท่ี ี่ไม่ควรม)ี
-ใช้ลกั ษณนามผดิ
-ใช้คา/สานวนทไ่ี มม่ ีในภาษา
-ใช้คาเกนิ (คาเกนิ ท่ีมีรูปเดียวกันและเขยี นติดกนั /คาเกินท่ีมคี วามหมายเดียวกนั และ
เขียนติดกนั /ใช้คาในตาแหนง่ ทไี่ ม่ควรใช้ หากตดั ออกยังส่ือความได้)
-ใช้คาตก
-คาลักลนั่
-ภาษาถนิ่
-ภาษาพดู
๒.๓ ประโยค (๑ คะแนน)
-ประโยคไม่สื่อความ (ไมม่ ปี ระธานในกรณีทลี่ ะประธานไม่ได/้ ไม่มีกรรมในกรณที ี่
เปน็ กริยาตอ้ งการกรรม/ประโยคท่ไี มจ่ บกระแสความ)
-ประโยคไม่สื่อความ (สื่อความได้หลายแบบ/แทนคาทหี่ ายไปได้หลายคา/ตอ้ งแก้ไข
ใหม่ท้ังประโยค)
-เขยี นเป็นกลุ่มคา/วลี
-เรียงลาดบั คา/วางสว่ นขยายไม่ถกู ต้อง

***** ข้อตกลง ข้อ ๓๐.๓ การเขยี นแสดงความคดิ เหน็ จากเร่อื งที่อา่ น พร้อมยกเหตุผลสนบั สนุน
(๕ คะแนน)

๑. หากเขียนเป็นขอ้ ๆ มีเลขลาดับข้อ/เครือ่ งหมาย/เขียนเป็นยอ่ หนา้ ๆ ไมต่ รวจการเรยี งลาดับ
ความคิดและการเชื่อมโยงความคดิ

๒. หากเขยี น ๑-๒ บรรทัด ไม่มี คาบอกข้อคิดเหน็ ได้ ๐ คะแนนทง้ั ข้อ
๓. หากเขียน ๑-๒ บรรทัด มี คาบอกข้อคดิ เหน็ จะตรวจคาบอกข้อคดิ เหน็ เหตุผลสนบั สนนุ และการ
ยกตัวอย่าง และไม่ตรวจสว่ นอ่นื
๔. หากเขียน ๓-๔ บรรทดั ตรวจทุกส่วนและระบบจะหกั คะแนนดา้ นภาษาเหลอื เพียงคร่ึงเดียว

๕. หากไม่มคี าบอกข้อคดิ เห็น และยกข้อความมาจากบทอา่ นทั้งหมดได้ ๐ คะแนนท้ังข้อ
๖. หากมขี อ้ คดิ เหน็ และยกข้อความมาจากบทอ่านท้งั หมดได้ ๐ คะแนนทั้งข้อ
๗. หากเหตุผลท่ียกมาสนบั สนนุ ไม่เกี่ยวข้องกบั บรบิ ทของใจความสาคญั ในบทอา่ นจะตรวจเฉพาะ
ข้อคิดเหน็ และการยกตัวอยา่ ง และไม่ตรวจส่วนอื่น
๘. หากมีขอ้ ความบางสว่ นที่อ่านไม่ออกหรอื อา่ นไมไ่ ด้ความ ใหต้ รวจเฉพาะข้อความท่ีอ่านออก
ข้อ ๓๐.๓ จงแสดงความคิดเหน็ จากเรอ่ื งที่อา่ น พรอ้ มยกเหตผุ ลสนับสนนุ จาแนกเปน็ ๒ สว่ น
(๑๕ คะแนน)
๑. ด้านเนือ้ หา (๑๐ คะแนน)

๑.๑ ขอ้ คิดเหน็ (๑ คะแนน)
-เห็นดว้ ย/ไมเ่ หน็ ดว้ ย

๑.๒ เหตุผลสนบั สนุน (๔ คะแนน)
๑.๓ การยกตวั อย่าง (๑ คะแนน)

-ยกตวั อย่างนอกเหนือจากบทอ่านและสอดคล้องกับเหตุผลหรอื ขอ้ คดิ เห็น
๑.๔ การเรยี งลาดบั และการเชอ่ื มโยงความคิด (๒ คะแนน)

-เรยี งลาดบั ความคิดไม่ดี (ไมเ่ ปน็ ไปตามลาดับเวลาหรือไม่เปน็ ไปตามเหตุและผล)
-เช่อื มโยงความคิดไมด่ ี (เน้ือความขาด เนื้อความไมส่ มั พนั ธ์กนั เนื้อความซ้า)
๑.๕ ความถกู ตอ้ งตามหลักการเขียนแสดงความคิดเห็น (๒ คะแนน)
-ไมก่ ลา่ วพาดพิงบคุ คลหรือองคก์ รใหเ้ กิดความเสียหาย
-ไมใ่ ชค้ ารนุ แรง ไม่ใช้คาหยาบ
-ไมใ่ ช้คาสรรพนามท่ีไม่ถูกต้องตามหลกั การแสดงความคิดเหน็ บุรุษที่ ๑ เช่น หนู
เรา บุรุษท่ี ๒ เช่น คุณ
๒. ดา้ นภาษา (๕ คะแนน)
๒.๑ การสะกดคา (๑.๕ คะแนน)
-การสะกดคาผดิ
-การใช้ไมย้ มกไม่ถูกต้อง
-การใช้รปู ภาพ เคร่ืองหมาย สญั ลักษณ์ตา่ งๆ ยกเว้น เคร่ืองหมายเหล่านี้
. ,- ()! ?%
๒.๒ การใชค้ า / ถ้อยคาสานวน (๑.๕ คะแนน)
-ใช้คาผดิ ความหมายหรือผดิ บริบท
-ใช้คาเช่ือม (คาสันธาน) ผิด
-ใชค้ าบุพบทผดิ (ใช้ผิดหรือใช้ในท่ีท่ีไม่ควรม)ี
-ใช้ลกั ษณนามผดิ
-ใชค้ า/สานวนท่ไี ม่มีในภาษา
-ใช้คาเกนิ (คาเกนิ ท่ีมรี ูปเดยี วกันและเขยี นตดิ กัน/คาเกินท่ีมคี วามหมายเดียวกันและ
เขยี นติดกัน/ใช้คาในตาแหนง่ ทไี่ ม่ควรใช้ หากตัดออกยังส่ือความได้)
-ใชค้ าตก
-คาลักล่ัน
-ภาษาถิ่น

-ภาษาพูด
๒.๓ ประโยค (๒ คะแนน)

-ประโยคไมส่ ื่อความ (ไมม่ ีประธานในกรณีทลี่ ะประธานไม่ได้/ไมม่ ีกรรมในกรณีที่
เปน็ กริยาต้องการกรรม/ประโยคทีไ่ มจ่ บกระแสความ)
-ประโยคไม่สื่อความ (สื่อความได้หลายแบบ/แทนคาทหี่ ายไปได้หลายคา/ต้องแก้ไข
ใหมท่ ้งั ประโยค)
-เขียนเปน็ กลุ่มคา/วลี
-เรียงลาดับคา/วางสว่ นขยายไมถ่ ูกต้อง

***************************************************************


Click to View FlipBook Version