The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

Black Gray Blue Modern Retro Artistic Poster

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

Black Gray Blue Modern Retro Artistic Poster

Black Gray Blue Modern Retro Artistic Poster

2 0 2 3 หลักการออกแบบองค์ประกอบศิลป์


หลักการออกแบบองค์ประกอบศิลป์ หลักองค์ประกอบศิลป์ (Composition) หมายถึงอะไร หลักองค์ประกอบศิลป์ (Composition) หมายถึง การนำ ทัศนธาตุของ ศิลปะ ซึ่งประกอบไปด้วย จุด เส้น รูปร่าง รูปทรง ขนาดสัดส่วน แสงเงา สี บริเวณว่าง พื้นผิว มาจัดภาพหรือองค์ประกอบรวมเข้าด้วยกัน และให้ ประสานสัมพันธ์กัน เพื่อให้เกิดคุณค่าทางความงาม หลักการจัดองค์ประกอบศิลป์ มีดังนี้ เอกภาพ (Unity) ดุลยภาพ (Balance) จุดเด่น (Dominance) ความกลมกลืน (Harmony) ความขัดแย้ง (Contrast) ภาพประกอบ


1. เอกภาพ (Unity) หมายถึง การจัดทัศนธาตุของศิลปะให้มีความประสานกลมกลืน มีความสัมพันธ์ เกี่ยวข้องกันเป็นกลุ่มก้อนไม่กระจัดกระจาย และแสดงออกให้เห็นได้ถึงความพอดีของความงาม วิธีการสร้างเอกภาพ การสร้างเอกภาพทำ ได้ ด้วยการนำ รูปร่างรูปทรงมาจัดให้มีความสัมพันธ์กัน ทำ ได้หลายวิธี เช่น วิธีสัมผัส วิธีทับซ้อน และวิธีจัดกลุ่ม วิธีสัมผัส คือ การนำ รูปร่าง รูปทรง มาสัมผัสกันในลักษณะต่าง ๆ เพื่อให้เกิดเอกภาพ ได้แก่ 1. ด้านสัมผัสด้าน เป็นการสัมผัสโดยการนำ ด้านต่อด้านมาจัดวางติดกัน 2. มุมสัมผัสด้าน เป็นการสัมผัสโดยการนำ ด้านมาชนกับมุม 3. มุมสัมผัสมุม เป็นการสัมผัสโดยการนำ มุมกับมุมมาชนกัน


วิธีซ้อน คือ การนำ รูปร่าง รูปทรง มาวางทับซ้อนกันในลักษณะต่าง ๆ เพื่อให้เกิดเอกภาพ ได้แก่ 1. การทับซ้อนบางส่วน เป็นการนำ รูปร่าง รูปทรง มาวางทับซ้อนกันเพียงบางส่วนให้เลื่อมกัน 2. การทับซ้อ ซ้ นทั้ง ทั้ หมด เป็น ป็ การนำ รูป รู ร่า ร่ ง รูป รู ทรง มาวางทับลงบนอีกรูป รู ทรงหนึ่ง นึ่ แบบเต็มส่ว ส่ น ไม่ใม่ ห้เ ห้ หลื่อมกัน 3.การทับซ้อ ซ้ นคาบเกี่ยว เป็น ป็ การนำ รูป รู ร่า ร่ ง รูป รู ทรง มาวางเสียสีบกันเหมือมืนฝังอยู่ใยู่ นอีกรูป รู หนึ่ง นึ่ 4. การทับซ้อ ซ้ นรูป รู โซ่ เป็น ป็ การนำ รูป รู ร่า ร่ ง รูป รู ทรง มาวางคล้องเกี่ยวกันเป็น ป็ ลูก ลู โซ่ 5.การทับซ้อ ซ้ นสานกัน เป็น ป็ การนำ รูป รู ร่า ร่ ง รูป รู ทรงมาวางไขว้กั ว้ กันแบบสาน 6. การทับซ้อ ซ้ นหลายชั้นชั้เรียรีงลำ ดับดัเป็น ป็ การนำ รูป รู ร่า ร่ ง รูป รู ทรง มาวางทับกันหลายชั้นชั้ทำ ให้เ ห้ กิดมิติมิ ติมองดูมี ดู รมีะยะใกล้ – ไกล และมีคมีวามตื้นลึก


วิธีวิจัธีดจักลุ่ม ลุ่ คือ การนำ รูป รู ร่า ร่ ง รูป รู ทรงมาจัดจัวางใกล้กัน จนเกิดความสัมสัพันพัธ์เธ์ป็น ป็ อันหนึ่งนึ่อันเดียดีวกันในลักษณะ ต่าง ๆ ดังนี้ 1. รูป รู ร่า ร่ ง - รูป รู ทรงสองรูป รู นำ มาวางใกล้กัน จะเกิดแรงดึงดึดูด ดู กันและสัมสัพันพัธ์กัธ์ กัน มีผมีลต่อสายตาและความรู้สึ รู้ กสึ ที่จะนำ มารวมเป็น ป็ หน่ว น่ ยเดียวกัน ทำ ให้เ ห้ กิดเอกภาพ 2. รูป รู ร่า ร่ งสองรูป รู จัดจัวางห่า ห่ งกัน แรงดึงดึดูด ดู จะหมดไป ความรู้สึ รู้ กสึที่จะนำ มารวมเป็น ป็ หน่ว น่ ยเดียดีวกันจะไม่มี ม่ มีแต่จะมี ความรู้สึ รู้ กสึแบ่ง บ่ แยกรูป รู ร่า ร่ ง รูป รู ทรงสองรูป รู ออกจากกัน ทำ ให้ข ห้ าดเอกภาพ


3. รูป รู ร่า ร่ ง รูป รู ทรงสามสิ่งสิ่มาจัดจัวางในลักษณะกรอบสามเหลี่ยม แม้จ ม้ ะจัดจัวางห่า ห่ งกันแต่จะรู้สึ รู้ กสึว่า ว่ ของสามสิ่งสิ่นั้นนั้มี แรงดึงดูด ดู และพยายามรวามเป็น ป็ หน่ว น่ ยเดียดีวกัน 2. ดุล ดุ ยภาพ (Balance) หรือรืความสมดุล ดุ หมายถึง การนำ ทัศนธาตุต่ ตุ ต่ างๆทางศิลปะ เช่น ช่ จุด เส้น ส้ รูป รู ร่า ร่ ง รูป รู ทรง ขนาดสัดสัส่ว ส่ น แสงเงา สี บริเริวณว่า ว่ ง พื้นพื้ผิวผิมาจัดจัองค์ประกอบศิลป์ใป์ห้มี ห้ คมีวามพอดีเดีหมาะสม เกิดน้ำ หนักนั การจัดจัวางซ้า ซ้ ย ขวา ทั้งทั้สองข้า ข้ งเท่ากันความสมดุล ดุ แบ่ง บ่ ออกเป็น ป็ 2 ลักษณะ คือ 2.1.ความสมดุล ดุ แบบสองข้า ข้ งเท่ากัน (Symmetrical Balance) คือ การนำ ทัศนธาตุท ตุ างศิลปะมาจัดจัองค์ ประกอบศิลป์ ให้น้ำ ห้ น้ำหนักนัทั้งทั้สองข้า ข้ งเท่ากันหรือรืเหมือมืนกันซึ่งซึ่ส่ว ส่ นมากจะปรากฏในผลงานจิตจิรกรรมไทย ประติมากรรมไทย สถาปัตยกรรมไทย และงานศิลปะสมัยมั ใหม่ที่ ม่ ที่ ต้องการให้ดู ห้ แ ดู ล้วรู้สึ รู้ กสึสงบนิ่งนิ่มั่นมั่คง และเลื่อมใส ศรัทรัธา


2.2.ความสมดุล ดุ แบบสองข้า ข้ งไม่เ ม่ ท่ากัน (Asymmetrical Balance) คือ การนำ ทัศนธาตุท ตุ างศิลปะมาจัดจัองค์ ประกอบศิลป์ จัดจัวางที่ไม่เ ม่ ท่ากันหรือรืไม่เ ม่ หมือมืนกันทั้ง ทั้ สองข้า ข้ ง แต่มองดูแ ดู ล้วให้ค ห้ วามรู้สึ รู้ กสึว่า ว่ เท่ากันจากน้ำ หนักนั โดยส่ว ส่ นรวม ความสมดุล ดุ ในลักษณะนี้นิ นี้ ยนิมใช้กั ช้ กันอย่า ย่ งกว้า ว้ งขวาง เพราะสามารถให้อ ห้ ารมณ์ ความรู้สึ รู้ กสึเคลื่อนไหว และให้คุ ห้ ณ คุ ค่าทางความคิดสร้า ร้ งสรรค์ที่เป็น ป็ อิสระแปลกใหม่ 3. จุดเด่น (Dominance) จุดเด่นหรือรืจุดสนใจ หมายถึง ส่ว ส่ นสำ คัญที่ปรากฏชัดชัสะดุด ดุ ตาในผลงานศิลปะ จุด เด่นเกิดจากการเน้น น้ (Emphasis) ที่ดี ตำ แหน่ง น่ ของจุดเด่น ด่ นิยนิมจัดจัวางไว้ใว้ นระยะหน้า น้ (Foreground) หรือรื ระยะกลาง (Middle Ground) แต่ไม่ค ม่ วรวางไว้ต ว้ รงกลางพอดี เพราะจะทำ ให้ภ ห้ าพเกิดความรู้สึ รู้ กสึนิ่งนิ่ ไม่เ ม่ กิดการ เคลื่อนไหว จุดเด่นที่ดีควรมีเมีพียพีงจุดเดียดีว และมีพื้มีพื้ นพื้ที่ประมาณ 20 – 30 % ของพื้นพื้ที่ทั้ง ทั้ หมด


วิธีวิกธีารเน้น น้ จุดเด่น 1.เน้น น้ ด้วยรูป รู ร่า ร่ ง รูป รู ทรง หรือรืขนาด เป็น ป็ การนำ รูป รู ร่า ร่ งรูป รู ทรงทีมีลัมี ลักษณะแตกต่างกันมาจัดจัรวมกันจะทำ ให้เ ห้ กิด ความเด่นชัดชัขึ้นขึ้ ในรูป รู ทรงที่ต้องการเน้น น้ หรือรืใช้ข ช้ นาดที่แตกต่างกัน ขนาดที่ใหญ่ก ญ่ ว่า ว่ ย่อ ย่ มเห็น ห็ ได้ง่ ด้ ง่ ายและเด่น ด่ ชัดชั กว่า ว่ ขนาดเล็ก 2.เน้น น้ ด้วยค่าน้ำ หนักนัของสี แสงเงา เป็น ป็ การนำ ค่าน้ำ หนักนัของสี แสงเงา ที่มีคมีวามแตกต่างกันจากน้ำ หนักนัอ่อน สุด สุ ไปยังยัน้ำ หนักนัเข้ม ข้ สุด สุ สามารถสร้า ร้ งจุดเด่น ด่ ได้ เช่น ช่ ภาพจิตจิรกรรม “คนกินมันมั ” ของ วินวิเซนท์ แวนโก๊ะ (Vincent Van Gogh) จิตจิรกร ชาวดัตดัซ์ ภาพจิตจิรกรรม “ความสงบ” ของสุร สุ สิทสิธิ์ เสาว์คว์ง เป็น ป็ ต้น


3.เน้นด้วยสี เป็นการใช้สี ช้ ต่สี ต่ างวรรณะกันจะช่ว ช่ ยเน้นภาพซึ่งซึ่กันและ กัน เช่น ช่ ภาพที่มีสีมีวสีรรณะเย็น ย็ สามารถใช้สี ช้ วสีรรณะอุ่นเข้า ข้ไปช่ว ช่ ยเน้น เพื่อพื่ ให้เ ห้ กิดความขัดขัแย้ง ย้ จะทำ ให้เ ห้ กิดจุดเด่น แต่ต้องให้ว ห้ รรณะหนึ่งมี ปริมริาณมากกว่า ว่ อีกวรรณะหนึ่ง เป็นต้น 4.เน้น น้ ด้ว ด้ ยเส้น ส้ เป็น ป็ การนำ เส้น ส้ มาช่ว ช่ ยเน้นให้ภ ห้ าพเกิดความเด่นชัดชัขึ้นขึ้เช่น ช่ การตัดเส้น ส้ เน้น น้ ภาพในงาน จิตจิรกรรมไทย การใช้เ ช้ ส้น ส้ นำ พาสายตาไปยังยัจุดเด่นของภาพ เช่น ช่ การเขียขีนภาพทิวทัศน์มีน์เมีส้น ส้ ของถนน ลำ น้ำ นำ พาไปสู่จุสู่ จุ ดเด่น ด่ เป็นต้น


4. ความกลมกลืน (Harmony) หมายถึง การนำ ทัศนธาตุทตุางศิลปะมาจัดจัองค์ประกอบศิลป์ใป์ห้มีห้คมีวามสัมสัพันพัธ์กธ์ลมกลืนกัน สนับนัสนุนนุซึ่งซึ่กันและกัน เข้าข้กันได้ดีด้ ดีไม่ขั ม่ ดขัแย้งย้กัน วิธีวิกธีารสร้าร้งความกลมกลืน 1.ความกลมกลืนด้วด้ยเส้นส้เป็นการใช้เช้ส้นส้ ในลักษณะเดียดีวกัน หรือรืทิศทางเดียดีวกันมาจัดจัรวมกัน จะทำ ให้เห้กิดความกลมกลืนได้ 2.ความกลมกลืนด้วด้ยรูปรูร่า ร่ ง รูปรูทรง เป็นการนำ รูปร่า ร่ ง รูปรูทรงที่มีลัมี ลักษณะเหมือมืนกันหรือรืลักษณะใกล้เคียงกันมาจัดจัรวมกัน เช่น ช่ การใช้ รูปทรงกลม วงรี มาจัดจัองค์ประกอบศิลป์ร่ป์ว ร่ มกัน จะเกิดความกลมกลืนกันได้


3.ความกลมกลืนด้วด้ยขนาด เป็น ป็ การจัดจัองค์ประกอบศิลป์ใป์นลักษณะใช้ขช้นาดของรูปรูทรง ที่ใกล้เคียงกันและลดหลั่นลั่กันมาจัดจัรวมทำ ให้ไห้ม่ เกิดความรู้สึรู้กสึแตกต่างจะเกิดความรู้สึรู้กสึกลมกลืน 4. ความกลมกลืนด้วด้ยทิศทาง ทิศทางที่เหมือมืนกันย่อ ย่ มกลมกลืนกัน


5. ความกลมกลืนด้วด้ยค่าน้ำ หนักนัของแสงเงา เป็น ป็ การจัดจัค่าน้ำ หนักนัแสงเงาให้มีห้คมีวามประสานสัมสัพันพัธ์กธ์ลมกลืนกัน โดยการไล่ค่าน้ำ หนักนัอ่อนแก่ 6. ความกลมกลืนด้วด้ยลักษณะผิวผิเป็น ป็ การจัดจัองค์ประกอบศิลป์โป์ดยการนำ ลักษณะผิวผิหรือรืพื้นพื้ผิวผิที่เหมือมืนกัน หรือรืใกล้เคียงมารวมกัน เพื่อพื่ ให้เห้กิดความกลมกลืน


7. ความกลมกลืนด้วด้ยสี เป็น ป็ การนำ สีที่สี ที่ อยู่ใยู่ นวรรณะเดียดีวกัน หรือรืสีใสีกล้เคียงกัน มาจัดจัองค์ประกอบให้ปห้ระสานกลมกลืนกัน


5. ความขัดขัแย้งย้ (Contrast) หมายถึง การนำ ทัศนธาตุมตุาจัดจัองค์ประกอบศิลป์ใป์ห้เห้กิดการตัดกัน หรือรืขัดขัแย้งย้กัน เพื่อพื่ลดความ กลมกลืนลงบ้าบ้ง เพราะบางทีความกลมกลืนที่มากไปอาจจะดูจืดูดจืชืดชืน่า น่ เบื่อบื่หน่า น่ ย ความขัดขัแย้งย้ที่พอเหมาะจะช่ว ช่ ยให้งห้านดูมีดูชีมีวิชีตวิชีวชีา น่า น่ สนใจ น่า น่ ตื่นเต้น ความขัดขัแย้งย้ ในงานศิลปะ ควรจัดจัองค์ประกอบศิลป์ใป์ห้มีห้สัมีดสัส่ว ส่ นขัดขัแย้งย้กันบ้าบ้ง ประมาณ 10 – 20 % ก็จะช่ว ช่ ยให้งห้าน นั้นนั้เกิดคุณคุค่าความงามขึ้นขึ้ วิธีวิสธีร้าร้งความขัดขัแย้งย้ 1.ความขัดขัแย้งย้ด้วด้ยเส้นส้เป็น ป็ การนำ เส้นส้ที่มีลัมี ลักษณะต่างกันมาสร้าร้งความขัดขัแย้งย้ ในงานศิลปะ เช่น ช่ การนำ เส้นส้ซิกซิแซก กับเส้นส้แนวนอน มาใช้ร่ช้ว ร่ มกันในงานออกแบบ วิธีวิ ใธีช้คช้วามขัดขัแย้งย้คือลดปริมริาณเส้นส้ชนิดนิ ใดชนิดนิหนึ่งนึ่ลงประมาณ 20% และอาจใช้ ทัศนธาตุทตุางศิลปะอื่น เข้าข้ช่ว ช่ ยบ้าบ้งเล็กน้อน้ย เพื่อพื่ความสวยงาม 2.ความขัดขัแย้งย้ด้วด้ยรูปรูร่า ร่ ง รูปรูทรง เป็น ป็ การนำ รูปรูร่า ร่ ง รูปรูทรง ที่มีลัมี ลักษณะไม่เ ม่ หมือมืนกันหรือรืลักษณะไม่ใม่ กล้เคียงกันมาจัดจัรวมกัน เช่น ช่ การนำ รูปร่า ร่ งสี่เ สี่ หลี่ยมกับรูปรูร่า ร่ งวงกลม มาจัดจัองค์ประกอบศิลป์ร่ป์ว ร่ มกันจะเกิดความขัดขัแย้งย้แต่การขัดขัแย้งย้มากเกินไปจะดูไดูม่ส ม่ วยงาม การแก้ไขให้คห้วามขัดขัแย้งย้น้อน้ยลงด้วด้ยการทำ ให้รูห้ ปรูร่า ร่ ง รูปรูทรงนั้นนั้มีลัมี ลักษณะใกล้เคียงกัน


3.ความขัดขัแย้งย้ด้วด้ยขนาด เป็น ป็ การใช้ขช้นาดของรูปรูร่า ร่ งรูปรูทรงที่มีขมีนาดใหญ่แ ญ่ ละขนาดเล็กแตกต่างกัน จะทำ ให้เห้กิดความขัดขัแย้งย้การ แก้ไขจะต้องแก้ด้วด้ยการเพิ่มพิ่ขนาดให้ให้กล้เคียงกัน 4.ความขัดขัแย้งย้ด้วด้ยทิศทาง เป็น ป็ การจัดจัวางให้ทิห้ ทิศทางของเส้นส้รูปรูร่า ร่ ง รูปรูทรง แสงเงา ฯลฯ มีคมีวามขัดขัแย้งย้กันการแก้ไขจะต้องลด ปริมริาณความขัดขัแย้งย้ของทิศทางให้เห้หลือน้อน้ยลง


5.ความขัดขัแย้งย้ด้วด้ยสี เป็น ป็ การนำ สีตสีรงกันข้าข้มหรือรืสีตัสี ตัดกันมาใช้ร่ช้ว ร่ มกัน เช่น ช่ สีแสีดง ขัดขัแย้งย้กับสีเสีขียขีว การแก้ไขจะต้องลดปริมริาณสีหสีนึ่งนึ่ สีใสีดลงให้เห้หลือประมาณ 20% ของพื้นพื้ที่ทั้งทั้หมด หรือรืใช้สีช้ขสีาว สีดำสีดำ ตัดขั้นขั้ระหว่า ว่ งสีทั้สี ทั้งทั้สอง และอาจใช้วิช้ธีวิลธีดความเข้มข้ของสีใสีดสีหสีนึ่งนึ่ลง ด้วด้ย สีขสีาว สีดำสีดำ สีเสีทา สีตสีรงข้าข้ม เป็น ป็ ต้น 6.ความขัดขัแย้งย้ด้วด้ยพื้นพื้ผิวผิเป็น ป็ การนำ ลักษณะผิวผิที่แตกต่างกันมาจัดจัรวมกันในงานศิลปะ เช่น ช่ ลักษณะผิวผิหยาบขัดขัแย้งย้กับลักษณะผิวผิ ละเอียด การแก้ไขจะต้องลดปริมริาณลักษณะผิวผิส่ว ส่ นหนึ่งนึ่ส่ว ส่ นใดให้น้ห้อน้ยลงหรือรืเพิ่มพิ่ลักษณะผิวผิที่ใกล้เคียงกันหรือรืเกลี่ยให้ผห้สมผสานกัน


คุณคุค่าขององค์ประกอบศิลป์ สรรพสิ่งสิ่ต่าง ๆ ในโลกนี้ไนี้ ม่มี ม่ สิ่มีงสิ่ใดอยู่อ ยู่ ย่า ย่ งโดดเดี่ย ดี่ ว การหลอมรวมองค์ประกอบต่าง ๆ เข้าข้ด้วด้ยกันจะทำ ให้เห้กิดความสมบูรณ์ และการ ช่ว ช่ ยเหลือเกื้อกูลกูกัน ดังดันั้นนั้การจัดจัองค์ประกอบศิลป์จึป์งจึมีคุมีณคุค่า ต่อชีวิชีตวิมนุษนุย์ดัย์งดันี้ 1. ช่ว ช่ ยในการจัดจัวางผังผัเมือมืง เพื่อพื่จัดจัระเบียบีบของเมือมืงให้มีห้กมีารใช้พื้ช้ พื้นพื้ที่อย่า ย่ งมีแมีบบแผนมีกมีารแบ่ง บ่ สัดสัส่ว ส่ นของพื้นพื้ที่ได้อด้ย่า ย่ งเหมาะสมมี ความสัมสัพันพัธ์เธ์ชื่อชื่มโยงกัน และมีคมีวามเป็น ป็ เอกภาพ และเป็น ป็ ระเบียบีบเรียรีบร้อร้ย 2. ช่ว ช่ ยเสริมริสร้าร้งคุณคุค่าของงานวิจิวิตจิรศิลป์ นำ หลักองค์ประกอบศิลป์มป์าช่ว ช่ ยพัฒพันางาน ศิลปะด้าด้นวิจิวิตจิรศิลป์ใป์ห้เห้กิดคุณคุค่าทางความ งามมากขึ้นขึ้ 3. ช่ว ช่ ยเสริมริสร้าร้งคุณคุค่าของงานประยุกต์ศิลป์นำป์นำหลักองค์ประกอบศิลป์มป์าช่ว ช่ ยพัฒพันางานศิลปะด้าด้นประยุกต์ศิลป์ใป์ห้เห้กิดคุณคุค่า ทางประโยชน์ใน์ช้สช้อย และคุณคุค่าทางความงามควบคู่กัคู่กันไปอย่า ย่ งเหมาะสม ทำ ให้เห้ป็น ป็ ที่สนใจและต้องการของสังสัคมภายในประเทศ และ พัฒพันาสู่สัสู่ งสัคมโลกได้ 4. นำ หลักองค์ประกอบศิลป์มป์าช่ว ช่ ยพัฒพันาชีวิชีตวิความเป็น ป็ อยู่ข ยู่ องตนเองในชีวิชีตวิ ประจำ วันวัเช่น ช่ การนำ มาออกแบบจัดจัตกแต่งที่อยู่ อาศัย สำ นักนังาน ศาสนสถาน งานนิทนิรรศการ ขบวนพาเหรด เวทีการแสดงและเวทีที่ใช้ใช้นงานต่าง ๆ เป็น ป็ ต้น 5.นำ หลักองค์ประกอบศิลป์มป์าช่ว ช่ ยพัฒพันาบุคลิกภาพของตนเอง ในการแต่งกายการจัดจัวางอิริยริาบถให้ดูห้ดีดูแดีละมีคมีวามสัมสัพันพัธ์ไธ์ป ถึงเรื่อรื่งสุขสุภาพที่ดีด้ดีวด้ย เช่น ช่ การนั่งนั่การหิ้วหิ้ของ การเล่นกีฬา บางครั้งรั้ก็ต้องใช้หช้ลักของความสมดุลดุถ้าไม่ไม่ ด้จัด้งจัหวะอาจส่ง ส่ ผลเสียสีต่อ ร่า ร่ งกาย เป็นต้น 6.การเรียรีนรู้แรู้ละเข้าข้ใจในการจัดจัองค์ประกอบศิลป์ช่ป์ว ช่ ยพัฒพันาสุนสุทรียรีภาพ ยกระดับดัจิตจิ ใจให้ลห้ะเอียดอ่อน มองโลกในแง่ดี รักรัความ ประณีตณีงาม ความเป็น ป็ ระเบียบีบเรียรีบร้อร้ย และดำ รงชีวิชีตวิอย่า ย่ งมีคมีวามสุขสุ


Click to View FlipBook Version