หน่วยการเรียนรู้ท่ี
เศรษฐกจิ ระหว่างประเทศ
ตวั ชีว้ ัด
1. วเิ คราะหผ์ ลกระทบของการเปิ ดเสรีทางเศรษฐกิจในยุคโลกาภวิ ัตนท์ มี่ ีผลตอ่
สังคมไทย (ส 3.2 ม.4-6/2)
2. วเิ คราะหผ์ ลดี ผลเสียของความร่วมมอื ทางเศรษฐกจิ ระหว่างประเทศ
ในรูปแบบตา่ ง ๆ (ส 3.2 ม.4-6/3)
ผังสาระการเรียนรู้
การคา้ การเงิน และการ การเปิดเสรที างเศรษฐกิจ ปัจจยั ต่าง ๆ ท่ีนาไปสู่
ลงทนุ ระหวา่ งประเทศ ของประเทศ การพง่ึ พาการแขง่ ขนั
การขดั แยง้ การประสาน
ผลกระทบจากการดาเนิน เศรษฐกิจ ประโยชนท์ างเศรษฐกิจและ
กิจกรรมทางเศรษฐกิจ ระหว่างประเทศ วิธีการกีดกนั ทางการคา้ ใน
การคา้ ระหวา่ งประเทศ
ระหวา่ งประเทศ
ตวั อยา่ งเหตกุ ารณท์ ่ีนาไปสู่ บทบาทขององคก์ ารความรว่ มมือทางเศรษฐกิจ
การพง่ึ พาทางเศรษฐกจิ ท่ีสาคญั ในภมู ภิ าคตา่ ง ๆ ของโลก และบทบาท
ขององคก์ ารระหวา่ งประเทศในเวทีการเงินโลก
ท่ีมีผลกบั ประเทศไทย
1. การคา้ การเงนิ และการลงทนุ ระหวา่ งประเทศ
1.1 การค้าระหว่างประเทศ
การคา้ ระหวา่ งประเทศ เป็นการนาเอาสนิ คา้ ท่ีผลติ ไดภ้ ายในประเทศเกินความ
ตอ้ งการสง่ ออกไปขายหรอื เปล่ียนสินคา้ กบั ประเทศอ่นื ท่ีผลิตสินคา้ ท่ีภายในประเทศ
ผลิตไมไ่ ดห้ รอื ตอ้ งใชต้ น้ ทนุ ในการผลติ สงู มาก ซง่ึ แตล่ ะประเทศจะเลอื กผลิตสินคา้
เฉพาะท่ีตนถนดั และมีทรพั ยากรท่ีเหมาะสม เพ่ือใหไ้ ดร้ าคาตน้ ทนุ ท่ีต่าท่ีสดุ
1) สาเหตขุ องการค้าระหว่างประเทศ
เหตทุ ่แี ตล่ ะประเทศจาเป็นตอ้ งติดตอ่ คา้ ขายระหวา่ งกนั เป็นเพราะวา่ ไมม่ ี
ประเทศใดในโลกท่ีสามารถผลิตสนิ คา้ ทกุ อยา่ งไดค้ รบตามความตอ้ งการของประชาชน
ภายในประเทศถงึ แมว้ า่ ในบางประเทศมีขดี ความสามารถทาได้ แตอ่ าจไมค่ มุ้ คา่ กบั การ
ลงทนุ การท่แี ตล่ ะประเทศผลติ เฉพาะสนิ คา้ ท่ีตนมีความถนดั หรอื มีความไดเ้ ปรยี บทางดา้ น
ตา่ ง ๆ จงึ เป็นสงิ่ คมุ้ คา่ และเกิดประโยชนแ์ ก่ทกุ ๆ ประเทศรว่ มกนั
ดงั นนั้ การคา้ ระหวา่ งประเทศถือเป็นการแบง่ งานกนั ทาระหวา่ งประเทศตาม
ความชานาญและลกั ษณะของทรพั ยากรธรรมชาตใิ นประเทศ ซง่ึ จะทาใหเ้ กิดการใช้
ทรพั ยากรของโลกใหเ้ ป็นไปอยา่ งมีประสทิ ธิภาพ
การท่ีแตล่ ะประเทศมีความไดเ้ ปรยี บหรอื ความถนดั ในการผลติ สินคา้ หรอื บรกิ าร
ท่แี ตกตา่ งกนั ขนึ้ อยกู่ บั ปัจจยั ตอ่ ไปนี้
(1) ลกั ษณะทางภูมศิ าสตร์หรือภูมิอากาศ
จากการท่ีประเทศตา่ ง ๆ มีพืน้ ท่ีกระจายอยใู่ นเขตตา่ ง ๆ ของโลก ทาใหเ้ กิดความ
แตกตา่ งในสภาพภมู ิศาสตร์ เชน่ ภมู ิประเทศ ภมู ิอากาศ พืชพรรณธรรมชาติและทรพั ยากร
อ่นื ๆ จงึ ทาใหม้ ีการผลติ ท่ตี า่ งกนั เชน่ บางประเทศมีท่ีดนิ อดุ มสมบรู ณเ์ หมาะแก่การ
เพาะปลกู หรอื เนน้ ดา้ นสนิ คา้ เกษตร บางประเทศอดุ มดว้ ยแรต่ า่ ง ๆ แหลง่ นา้ มนั เหลก็
ทองแดง และบางประเทศอดุ มไปดว้ ยภเู ขา ป่าไม้ หรอื เป็นทะเลทรายท่แี หง้ แลง้ และ
บางประเทศอากาศหนาว ซง่ึ สาเหตเุ หลา่ นีท้ าใหแ้ ตล่ ะประเทศมีความชานาญในการ
ผลติ สนิ คา้ ท่แี ตกตา่ งกนั ไป
สาหรบั ประเทศไทยมอี ากาศรอ้ นและฝนตกชกุ มีท่ีดนิ เหมาะแก่การเพาะปลกู
พืชผลทางการเกษตร เรามีความไดเ้ ปรยี บในดา้ นการผลติ สนิ คา้ เกษตร ขณะเดียวกนั
ประเทศในแถบตะวนั ออกกลางมีสภาพภมู ิอากาศเป็นทะเลทราย อากาศรอ้ นและ
แหง้ แลง้ ไมเ่ หมาะแก่การเพาะปลกู แตป่ ระเทศเหลา่ นีม้ ีแหลง่ นา้ มนั ดบิ จานวนมาก
ฉะนนั้ กลมุ่ ประเทศในตะวนั ออกกลางจงึ เป็นแหลง่ ผลติ นา้ มนั ท่ีสาคญั ของโลก
(2) ทรัพยากรธรรมชาติ
สืบเน่ืองจากการท่ีแตล่ ะประเทศตงั้ อยใู่ นภมู ิภาคโลกท่แี ตกตา่ งกนั ก่อใหเ้ กิด
ความแตกตา่ งของทรพั ยากรธรรมชาติ ซง่ึ ถือวา่ ทรพั ยากรธรรมชาตเิ ป็นแหลง่ วตั ถดุ บิ ท่ีใช้
ในกระบวนการผลิตสินคา้ และบรกิ าร ผลของความแตกตา่ งดงั กลา่ วทาใหแ้ ตล่ ะประเทศ
มีความสามารถหรอื มีความเหมาะสมในการผลิตสินคา้ ท่ีแตกตา่ งกนั ตามประเภทของ
ทรพั ยากรธรรมชาตทิ ่ีมีอยู่ เช่น ประเทศท่ีมีแรเ่ หลก็ มากสามารถผลติ สนิ คา้ ท่ใี ชเ้ หลก็ เป็น
วตั ถดุ ิบไดด้ ีกวา่ หรอื คมุ้ ทนุ กวา่ ประเทศท่ีไมม่ ีแรเ่ หลก็
(3) ความชานาญในการผลติ
ในแตล่ ะประเทศ ประชากรมีความแตกตา่ งกนั ทางเชือ้ ชาติ รวมทงั้ ความแตกตา่ ง
ทางดา้ นสภาพแวดลอ้ ม สงั คม เช่น ขนบธรรมเนียมประเพณี ศาสนา วฒั นธรรม การศกึ ษา
ประสบการณ์ ทาใหป้ ระชาชนในแตล่ ะประเทศมคี วามแตกตา่ งกนั และยงั มีความชานาญ
ในการผลติ ท่ีแตกตา่ งกนั ตามท่ีมีการส่งั สมมาตงั้ แตบ่ รรพบรุ ุษ เชน่ บางประเทศมีความ
ชานาญในดา้ นการผลติ สินคา้ หตั ถกรรม บางประเทศมีการพฒั นาอตุ สาหกรรม
มาตงั้ แตอ่ ดตี จงึ มีความชานาญในการผลิตสินคา้ อตุ สาหกรรม
(4) นโยบายการลงทุนของรัฐบาล
ในประเทศตา่ ง ๆ ท่ีมีการลงทนุ เพ่ือการผลิตสนิ คา้ และบรกิ ารประเภทใดประเภท
หน่งึ มาก อาจขนึ้ อยกู่ บั นโยบายของรฐั บาลท่ชี ่วยสรา้ งศกั ยภาพทางการผลติ สนิ คา้ ประเภท
นนั้ ๆ การผลิตสนิ คา้ ตา่ ง ๆ ขนึ้ อยกู่ บั การลงทนุ ทางดา้ นการวจิ ยั และพฒั นา โดยท่ปี ระเทศ
ซง่ึ มีการลงทนุ ดา้ นนีส้ งู มกั จะไดเ้ ปรยี บในการแข่งขนั และขยายตลาดสนิ คา้ นอกจากนนั้ ยงั
ขนึ้ อยกู่ บั นโยบายภาษีท่เี อือ้ ตอ่ การลงทนุ ดว้ ย
2) การประสานประโยชนท์ างการคา้
การท่ีแตล่ ะประเทศจาเป็นตอ้ งมีการติดตอ่ คา้ ขายกนั กอ่ ใหเ้ กิดการประสาน
ประโยชนท์ างการคา้ ท่ีเอือ้ ตอ่ กนั และกนั ดงั นี้
(1) สินคา้ ประเภทท่ีไม่อาจผลิตไดใ้ นประเทศ เราอาจหาซือ้ จากประเทศอ่นื ๆ
ทาใหม้ ีสนิ คา้ และบรกิ ารตา่ ง ๆ ท่ีหลากหลาย เพ่ือตอบสนองความตอ้ งการของผบู้ รโิ ภค
ไดม้ ากขนึ้ นนั้ กค็ อื ประชาชนมีโอกาสเลอื กบรโิ ภคสินคา้ ท่ีตนเองพอใจไดม้ ากประเภทขนึ้
(2) สินคา้ ประเภทท่ีสามารถผลิตขนึ้ ไดใ้ นประเทศแตม่ ีตน้ ทนุ การผลิตสงู กวา่
เม่ือเปรยี บเทียบกบั การส่งั ซือ้ สินคา้ มาจากประเทศอ่นื ดงั นนั้ การคา้ ระหวา่ งประเทศ
จงึ ทาใหป้ ระชาชนสามารถบรโิ ภคสนิ คา้ ในราคาท่ีถกู ลงกวา่ ท่จี ะผลติ เองภายในประเทศ
(3) สรา้ งความชานาญและการแบง่ งานกนั ระหวา่ งประเทศ ประเทศท่มี ีความ
ชานาญหรอื ความถนดั ในการผลิตสินคา้ ชนิดใด จะสามารถผลติ สนิ คา้ ชนิดนนั้ ไดต้ าม
ความชานาญหรอื ตามความเหมาะสมของทรพั ยากรธรรมชาติ สภาพภมู ิศาสตรแ์ ละ
สภาพภมู ิประเทศ ผลดงั กลา่ วจะทาใหเ้ กิดความชานาญเฉพาะอยา่ ง ซง่ึ กอ่ ใหเ้ กิด
แรงกระตนุ้ ในการคดิ คน้ ปรบั ปรุงและเปล่ียนแปลงเทคโนโลยีการผลิตใหม่ ๆ เพ่ือ
สนองตอบตอ่ ความตอ้ งการประชากรโลก
1.2 การเงินระหว่างประเทศ
การตดิ ตอ่ คา้ ขายกบั ตา่ งประเทศ จาเป็นตอ้ งมีสอ่ื กลางในการแลกเปลยี่ นน่นั คอื
เงนิ ตราตา่ งประเทศ จนพฒั นามาเป็นระบบการเงินระหวา่ งประเทศ โดยแตล่ ะประเทศจะ
กาหนดสกลุ เงินของตนเพ่ือใชก้ าหนดคา่ ในการซอื้ ขายสนิ คา้ อกี ทงั้ บางประเทศไดเ้ ลง็ เห็น
โอกาสในการท่จี ะไปลงทนุ ในประเทศอ่นื เพ่ือแสวงหาทรพั ยากรหรอื ความไดเ้ ปรยี บในการ
แขง่ ขนั ทางการคา้ ดงั นนั้ เราจาเป็นตอ้ งศกึ ษาเรอ่ื งการเงินระหวา่ งประเทศ เพ่ือจะไดเ้ ขา้ ใจ
กลไกการแลกเปล่ยี นซอื้ ขายระหวา่ งประเทศตลอดจนการกาหนดนโยบายอตั รา
แลกเปลีย่ น ดลุ การชาระเงิน รวมทงั้ การลงทนุ ระหวา่ งประเทศ
1) กลไกการชาระเงนิ ระหวา่ งประเทศ
ในแตล่ ะประเทศตา่ งกาหนดสกลุ เงินของตนเองเพ่อื นาไปใชเ้ ป็นส่อื กลาง
ในการแลกเปล่ยี นของประเทศได้ เชน่ ประเทศไทยใชส้ กลุ เงนิ บาท ประเทศสหรฐั อเมรกิ า
ใชส้ กลุ เงนิ ดอลลารส์ หรฐั ประเทศญ่ีป่นุ ใชส้ กลุ เงนิ เยน ประเทศจีนใชส้ กลุ เงนิ หยวน ดงั นนั้
ในการคา้ ระหวา่ งประเทศ หากประเทศไทยตอ้ งการซอื้ สินคา้ จากประเทศใด ประเทศไทย
จะตอ้ งนาเงนิ บาทไปแลกเงนิ สกลุ เดียวกนั กบั ท่ีใชใ้ นประเทศนนั้ เพ่ือเป็นการชาระเงนิ
คา่ สนิ คา้ เช่น ประเทศไทยตอ้ งการซอื้ เครอ่ื งจกั รกลจากสหรฐั อเมรกิ า ผซู้ อื้ ชาวไทยตอ้ งชาระ
คา่ เครอ่ื งจกั รกลนนั้ เป็นเงินสกลุ ดอลลารส์ หรฐั แตก่ ารจะนาเงนิ สดไปนนั้ เป็นเรอ่ื งลาบาก
เพราะแตล่ ะประเทศมีระยะทางท่ีหา่ งไกลกนั เกิดปัญหาเรอ่ื งการขนสง่ สิน้ เปลอื งเวลา
และไม่สะดวก ดงั นนั้ เพ่ือใหก้ ารคา้ เพ่ิมขนึ้ และเพ่ือลดปัญหาดงั กลา่ ว การชาระหนีร้ ะหวา่ ง
ประเทศโดยท่วั ไปจงึ ใชส้ อ่ื กลางประเภทตา่ ง ๆ แทนเงินท่ีเรยี กวา่ ตราสารเครดติ (Credit
Instruments) เช่น ดราฟต์ ต๋วั แลกเงนิ ประเทศตา่ ง ๆ ซง่ึ ดราฟตแ์ ละต๋วั แลกเงนิ มีวธิ ีการใชท้ ่ี
แตกตา่ งกนั ดงั นี้
ดราฟต์ (Draft) จะใชใ้ นกรณีชาระหนีใ้ นวงเงนิ นอ้ ย ๆ โดยการซอื้ ดราฟตข์ อง
ธนาคารใดธนาคารหน่งึ ซง่ึ มีสาขาอยทู่ ่ีประเทศท่ีเราตอ้ งการชาระเงินคา่ สินคา้ จากนนั้
ก็สง่ ดราฟตไ์ ปท่ีเจา้ ของสินคา้ เพ่ือชาระหนีโ้ ดยตรง เม่อื เจา้ ของสนิ คา้ ไดร้ บั การชาระเป็น
ดราฟตก์ ็สามารถนาไปแลกเป็นเงินจากธนาคารตามท่ีระบไุ วใ้ นดราฟตน์ นั้
ต๋วั แลกเงนิ (Bill of Exchange) จะใชส้ าหรบั การคา้ รายใหญ่ ๆ เน่ืองจากผสู้ ง่
สนิ คา้ ออกไม่จาเป็นตอ้ งเรยี กเก็บเงินจากลกู หนีต้ า่ งประเทศโดยตรง แตส่ ามารถเรยี กเกบ็ เงนิ
ผา่ นธนาคารท่ีลกู หนีส้ ่งั จ่ายได้ ซง่ึ มีความสะดวกมาก
ในทางปฏิบตั แิ ลว้ การชาเงนิ ระหวา่ งประเทศอาจชาระดว้ ยเงนิ สกลุ หลกั ๆ ท่ีท่วั โลก
ยอมรบั เป็นสอ่ื กลางในการแลกเปล่ยี นได้ เช่น เงินดอลลารส์ หรฐั เงินปอนดข์ ององั กฤษ
เงินเยนของญ่ีป่นุ ดงั นนั้ ในการเดินทางไปซือ้ สนิ คา้ ท่ตี า่ งประเทศก็สามารถชาระคา่ สนิ คา้
ไดด้ ว้ ยเงินตราสกลุ ท่ีสาคญั ๆ ได้
โดยปกติการคา้ ระหวา่ งประเทศ คคู่ า้ มกั ชาระเงนิ โดยผ่านธนาคารหรอื สถาบนั การเงนิ
ดงั นนั้ ธนาคารตา่ ง ๆ จงึ นิยมมีสาขาหรอื ตวั แทนอยใู่ นเมืองสาคญั ๆ ในตา่ งประเทศ เชน่
นิวยอรก์ ลอนดอน เพ่ือใหบ้ รกิ ารทางดา้ นการคา้ ระหวา่ งประเทศ ซง่ึ ธนาคารมีรายไดจ้ าก
ธรุ กรรมประเภทนีด้ ว้ ย
2) อัตราแลกเปล่ียนเงนิ ตราต่างประเทศ
อตั ราแลกเปล่ยี นเงนิ ตราระหวา่ งประเทศ (Exchange Rate) หมายถงึ ราคาของ
เงินตราสกลุ ใดสกลุ หน่งึ จานวน 1 หน่วย ท่ีนาไปคานวณเทียบกบั หนว่ ยของเงินอกี สกลุ หน่งึ
ตวั อย่างเช่น
อตั ราแลกเปล่ยี นระหวา่ งเงินสกลุ ดอลลารก์ บั เงินบาท
1 ดอลลารส์ หรฐั เทา่ กบั 32 บาท
อตั ราแลกเปล่ยี นเงนิ ตราระหวา่ งประเทศ จะมกี ารเปล่ยี นแปลงเคล่อื นไหวอยู่
ตลอดเวลา ทงั้ นีข้ นึ้ อยกู่ บั ระบบอตั ราแลกเปล่ยี นของแตล่ ะประเทศ
3) ดลุ การชาระเงนิ (Balance of Payment)
ดลุ การชาระเงิน หมายถงึ บญั ชีบนั ทกึ การรบั และการจ่ายเงนิ ตราตา่ งประเทศ
ของประเทศหน่งึ กบั ประเทศอ่นื ๆ อนั เน่ืองมาจากการดาเนินธรุ กรรมแลกเปล่ยี นทาง
เศรษฐกิจระหวา่ งประเทศในชว่ งเวลาใดเวลาหนง่ึ ปกติกาหนดไว้ 1 ปี ตวั อยา่ งธรุ กรรม
ทางเศรษฐกิจระหวา่ งประเทศ เชน่ การคา้ ระหวา่ งประเทศ การใหบ้ รกิ ารระหวา่ งประเทศ
การลงทนุ ระหวา่ งประเทศ การใหค้ วามชว่ ยเหลอื และการกยู้ ืมเงินระหวา่ งประเทศ
(1) ลกั ษณะของดลุ การชาระเงนิ
ลกั ษณะของดลุ การชาระเงินแบง่ ออกเป็น 3 ประเภท ดงั นี้
1. ดุลการชาระเงนิ เกินดุล (Favorable Balance of Payments) หมายถงึ
การท่ีประเทศมีรายรบั รวมมากกวา่ รายจา่ ยรวมจากการดาเนินธุรกรรมแลกเปลีย่ น
ทางเศรษฐกิจระหวา่ งประเทศ
2. ดุลการชาระเงนิ ขาดดุล (Unfavorable Balance of Payments) หมายถงึ
การท่ีประเทศมีรายรบั รวมนอ้ ยกวา่ รายจ่ายรวมจากการดาเนินธุรกรรมแลกเปลยี่ น
ทางเศรษฐกิจระหวา่ งประเทศ
3. ดุลการชาระเงนิ สมดุล (Equilibrium Balance of Payments) หมายถงึ
การท่ีประเทศมีรายรบั รวมเทา่ กบั รายจ่ายรวม จากการดาเนินธรุ กรรมแลกเปล่ยี น
ทางเศรษฐกิจระหวา่ งประเทศ
(2) การบันทกึ รายการในดลุ การชาระเงนิ
บญั ชีตา่ ง ๆ ในดลุ การชาระเงนิ สามารถแบง่ ออกเป็น 4 บญั ชีใหญ่ ๆ ดงั นี้
1. บญั ชีเดนิ สะพัด (Current Account) เป็นบญั ชีท่บี นั ทกึ รายการซอื้ ขายสินคา้
บรกิ าร แบง่ ออกเป็น 3 สว่ น คอื
1) บญั ชกี ารคา้ (Balance of Trade) เป็นบญั ชีท่ีแสดงใหเ้ หน็ ถงึ ฐานะทางการคา้
ระหวา่ งประเทศของประเทศใดประเทศหน่งึ ซง่ึ ประกอบดว้ ยการสง่ ออก (Export) และการ
นาเขา้ (Import)
2) บญั ชบี รกิ าร (Services Account) เป็นบญั ชีท่บี นั ทกึ รายรบั และรายจ่ายของ
บรกิ ารระหวา่ งประเทศ ประกอบดว้ ยคา่ ใชจ้ า่ ยในการเดนิ ทางทอ่ งเท่ยี ว คา่ ขนสง่ คา่ ระวาง
คา่ ประกนั ภยั และอ่นื ๆ ซง่ึ รวมอยใู่ นหมวดของการบรกิ ารระหวา่ งประเทศ ดอกเบีย้ และ
เงนิ ปันผล เป็นผลตอบแทนท่ีประเทศตา่ ง ๆ ไดร้ บั จากการนาเงนิ ทนุ ไปลงทนุ ยงั ตา่ งประเทศ
3) บญั ชเี งนิ โอนและเงนิ บรจิ าค (Unrequited Transfer Account) เป็นบญั ชี
ท่ีบนั ทกึ รายการเงินโอนหรอื บรจิ าคระหวา่ งประเทศ เงนิ โอนหรอื บรจิ าค หมายถงึ
เงินชว่ ยเหลือแบบใหเ้ ปลา่ โดยไมไ่ ดร้ บั สินคา้ ใด ๆ ตอบแทน ซง่ึ มีทงั้ เงนิ โอนของเอกชน
และรฐั บาล
ตวั อย่าง เงินโอนของเอกชน ไดแ้ ก่ การสง่ เงินไปใหญ้ าติพ่ีนอ้ งท่ตี า่ งประเทศ
คา่ ใชจ้ า่ ยท่ีใชใ้ นการสง่ ลกู หลานไปเรยี นตา่ งประเทศ
ตวั อยา่ ง เงินโอนจากรฐั บาล ไดแ้ ก่ การช่วยเหลอื ระหวา่ งประเทศ ซง่ึ สว่ นใหญ่
จะเป็นการใหค้ วามช่วยเหลือระหวา่ งรฐั บาลตอ่ รฐั บาลหรอื องคก์ รระหวา่ งประเทศ
ตอ่ รฐั บาล เช่น การใหท้ นุ ไปศกึ ษาหรอื ดงู านตา่ งประเทศ การสง่ สง่ิ ของไปชว่ ยผปู้ ระสบภยั
ตา่ ง ๆ ในประเทศ
2. บญั ชีทุนเคล่อื นยา้ ย (Capital Movement Account) เป็นบญั ชีท่ีบนั ทกึ รายการ
การรบั เขา้ และจา่ ยออกของเงินตราตา่ งประเทศ อนั เน่ืองมาจากการเคลื่อนยา้ ยเงินทนุ
ระหวา่ งประเทศทงั้ ของรฐั บาลและเอกชน เป็นเรอ่ื งของการลงทนุ ระหวา่ งประเทศ
โดยแยกเป็น
•การลงทนุ โดยตรง (Direct Investment) เป็นการนาเงนิ ไปลงทนุ โดยผลู้ งทนุ
จะเขา้ ไปดาเนินกิจการ และมีการนาเอาทรพั ยากรในการผลิต แรงงาน เทคโนโลยีตา่ ง ๆ
เขา้ ไปยงั ประเทศท่ีจะเขา้ ไปลงทนุ
•การลงทนุ ทางออ้ ม (Indirect Investment) เป็นการลงทนุ ท่ีนาเพียงเงนิ ทนุ
เขา้ ไปลงทนุ เทา่ นนั้ เช่น การลงทนุ ในหลกั ทรพั ยห์ รอื ตราสารการเงนิ ตา่ ง ๆ การฝากเงิน
ท่ีธนาคารตา่ งประเทศ นอกจากนนั้ บญั ชีนีย้ งั รวมรายการใหก้ ยู้ ืมเงินระหวา่ งประเทศ
ทงั้ ของรฐั บาลและเอกชนดว้ ย
3. บัญชีทนุ สารองระหว่างประเทศ (International Reserves
Account) เรยี กอีกอยา่ งหน่งึ วา่ ทนุ สารองทางการ (Official Reserves) ซง่ึ เป็น
ตวั เลขท่ีแสดงฐานะทางการเงิน ความม่นั คงทางเศรษฐกิจของประเทศ
กลา่ วคือ ถา้ ประเทศมีทนุ สารองทางการอยใู่ นระดบั สงู กลา่ วไดว้ า่ ประเทศนนั้
คอ่ นขา้ งจะมเี สถียรภาพภายนอกดี ตรงกนั ขา้ มถา้ ประเทศมีทนุ สารองอยใู่ น
ระดบั ต่าก็จะมีเสถียรภาพภายนอกไมด่ ี ตวั อย่างของทนุ สารองระหวา่ งประเทศ
ไดแ้ ก่ ทองคา เงินตราตา่ งประเทศ หลกั ทรพั ยต์ า่ งประเทศ สิทธิพิเศษถอนเงิน
(Special Drawing Rights or SDRs)
4. บญั ชคี วามผิดพลาดและคลาดเคลือ่ นทางสถติ ิ (Error
and Omission) บญั ชีนีเ้ กิดขนึ้ เพ่ือเก็บตกขอ้ ผิดพลาดและความ
คลาดเคล่อื นในการจดั เกบ็ สถิติ ท่เี ก่ียวขอ้ งกบั ธรุ กรรมท่ีเกิดขนึ้ ระหวา่ ง
ประเทศดงั ท่ีไดก้ ลา่ วไปแลว้ กบั การเปล่ยี นแปลงของระดบั ทนุ สารอง
ระหวา่ งประเทศในแตล่ ะช่วงเวลา กลา่ วคอื บญั ชีนีเ้ ป็นตวั ปรบั รายการ
ความคลาดเคลือ่ นทางสถิติ เพ่ือใหผ้ ลรวมของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ
ระหวา่ งประเทศท่ีเกิดขนึ้ มีคา่ เทา่ กบั การเปลย่ี นแปลงของทนุ สารอง
ระหวา่ งประเทศ
(3) การแก้ไขดลุ การชาระเงนิ
ในกรณีประเทศมีดลุ การชาระเงินขาดดลุ คือ มียอดคงเหลือในบญั ชีเดนิ สะพดั
เทียบกบั ยอดคงเหลือของการลงทนุ ระยะยาวแลว้ ติดลบ ซง่ึ ถา้ ขาดดลุ หลายปีตดิ ตอ่ กนั
จะทาใหป้ ระเทศตอ้ งสญู เสยี ทองคาหรอื เงินตราตา่ งประเทศไปมาก หรอื มิฉะนนั้ ก็ตกเป็น
หนีส้ ินมีภาระผกู พนั กบั ตา่ งประเทศมากขนึ้ ประเทศท่ตี กอยใู่ นฐานะเช่นนีจ้ งึ มกั พยายาม
หาทางแกไ้ ขปัญหาดลุ การชาระเงนิ ท่ีขาดดลุ ใหห้ มดสิน้ ไป ซง่ึ มกั นิยมแกไ้ ขโดยการสง่ เสรมิ
การสง่ สินคา้ ออกและจากดั ปรมิ าณสนิ คา้ นาเขา้ ใหน้ อ้ ยลง เช่น การลดราคาสินคา้ สง่ ไป
จาหน่ายในตลาดตา่ งประเทศ การลดคา่ อตั ราแลกเปล่ยี นเงินตรา การควบคมุ สินคา้ เขา้
สง่ เสรมิ การสง่ ออกมากขนึ้ ลดการบรโิ ภคสินคา้ ฟ่ มุ เฟือย
1.3 การลงทุนระหว่างประเทศ
การลงทนุ ระหวา่ งประเทศ (International Investment) หมายถึง การท่ีรฐั บาลหรอื
เอกชนของประเทศหนง่ึ นาเงนิ ไปลงทนุ ดาเนินธุรกิจเพ่ือแสวงหาผลกาไรในอกี ประเทศหน่งึ
เดิมการลงทนุ ระหวา่ งประเทศสว่ นใหญ่เป็นการลงทนุ โดยการซอื้ หลกั ทรพั ยห์ รอื
พนั ธบตั รของตา่ งประเทศ เพ่ือใหป้ ระเทศท่ีขายหลกั ทรพั ยห์ รอื พนั ธบตั รมีเงนิ สาหรบั ขยาย
การผลิตสินคา้ และบรกิ าร แตใ่ นปัจจบุ นั การลงทนุ ระหวา่ งประเทศสว่ นใหญ่มาในรูปแบบ
ของการดาเนินงานโดยวิสาหกิจและมีสถาบนั ทางการเงินของเอกชนเป็นผจู้ ดั หาเงนิ ทนุ
สาหรบั โครงการตา่ ง ๆ
ทงั้ นีห้ ากปรมิ าณทนุ ภายในประเทศเพยี งพอกบั ความตอ้ งการของเงนิ ทนุ
เพ่ือการสะสมภายในประเทศ ก็ไมม่ ีความจาเป็นท่ีรฐั บาลหรอื เอกชนในประเทศนนั้
จะตอ้ งไปแสวงหาแหลง่ เงินทนุ จากภายนอกประเทศ แตถ่ า้ ปรมิ าณเงินทนุ
ภายในประเทศมไี มเ่ พยี งพอกบั ความตอ้ งการเงินทนุ ในการสะสมทนุ ของรฐั บาลหรอื
เอกชน ประเทศนนั้ ก็จาเป็นตอ้ งกเู้ งินจากตา่ งประเทศหรอื รฐั บาลอาจตอ้ งหามาตรการ
จงู ใจใหน้ กั ลงทนุ ชาวตา่ งประเทศมาลงทนุ ในประเทศมากย่ิงขนึ้ ในทางตรงกนั ขา้ มกบั
ปรมิ าณเงินทนุ หรอื เงนิ ออมภายในประเทศมีมากกวา่ ความตอ้ งการของเงนิ ทนุ รฐั บาล
หรอื เอกชนของประเทศนนั้ อาจทาการปลอ่ ยกู้ หรอื นาเงินไปลงทนุ ในประเทศอ่นื
1) ลักษณะการลงทนุ
การลงทนุ โดยท่วั ไปนนั้ แบง่ เป็นประเภทใหญ่ ๆ ไดด้ งั นี้
(1) การลงทนุ โดยตรง (Direct Investment)
การลงทนุ ทางตรงเป็นการใชเ้ งนิ ไปลงทนุ ในโครงการท่ีคาดวา่ จะสามารถ
ทาประโยชนห์ รอื สามารถสรา้ งรายไดใ้ นอนาคต ตวั อย่างเช่น การนาเงินไปซือ้ เครอ่ื งจกั รใหม่
เพ่ือเพ่มิ กาลงั การผลติ การลงทนุ ทางตรง อาจเป็นการลงทนุ ภายในประเทศเองหรอื เป็นการ
ลงทนุ จากตา่ งประเทศก็ได้
การลงทนุ ทางตรงจากตา่ งประเทศ (Foreign Direct Investment หรอื FDI)
เป็นการนาเงนิ ไปลงทนุ โดยผลู้ งทนุ เขา้ ไปดาเนินกิจการ มีการนาทรพั ยากรการผลิต แรงงาน
และเทคโนโลยีเขา้ ไปยงั ประเทศท่ีเขา้ ไปลงทนุ การลงทนุ ทางตรงจากตา่ งประเทศ
เป็นการลงทนุ ระยะยาว ก่อใหเ้ กิดประโยชนต์ อ่ เศรษฐกิจ โดยนาเงนิ ตราตา่ งประเทศ
เขา้ มาในประเทศ มีการจา้ งแรงงาน และมีการถ่ายทอดความรูด้ า้ นเทคโนโลยีใหก้ บั คน
ในประเทศท่ีเขา้ ไปลงทนุ เช่น ผลู้ งทนุ ชาวญ่ีป่นุ นาเงินมาลงทนุ สรา้ งโรงงานผลิตรถยนต์
ในประเทศไทย ทาใหม้ ีการนาเงินมาลงทนุ มกี ารจา้ งแรงงานเขา้ ทางานในโรงงาน และ
มีการถ่ายทอดความรูด้ า้ นเทคโนโลยีการผลติ รถยนตใ์ หค้ นไทย
(2) การลงทุนทางออ้ ม (Indirect Investment)
การลงทนุ ทางออ้ มเป็นการนาเงนิ ไปลงทนุ ในสนิ ทรพั ยท์ างการเงิน เช่น
หนุ้ สามญั ของบรษิ ัท หนุ้ กู้ หนว่ ยลงทนุ หลงั จากนนั้ บรษิ ัทผรู้ ะดมทนุ จะนาเงนิ ไปลงทนุ
ในโครงการของตน หรอื เป็นผตู้ ดั สินใจลงทนุ แทนผลู้ งทนุ อกี ตอ่ หน่งึ การนาเงนิ ออมไปฝาก
ไวก้ บั สถาบนั การเงิน เชน่ ธนาคาร เพ่ือใหไ้ ดร้ บั ดอกเบีย้ ก็เป็นการลงทนุ ทางออ้ ม เน่ืองจาก
ธนาคารจะนาเงินฝากไปปลอ่ ยกใู้ หก้ บั ผลู้ งทนุ ในโครงการตา่ ง ๆ การลงทนุ ทางออ้ มอาจ
เป็นการลงทนุ ของนกั ลงทนุ ในประเทศหรอื เป็นการลงทนุ จากนกั ลงทนุ จากตา่ งประเทศก็ได้
แหลง่ ระดมเงนิ ทนุ เพ่ือพฒั นาเศรษฐกิจและอตุ สาหกรรมของประเทศท่ีสาคญั คือ
ตลาดหลกั ทรพั ยแ์ หง่ ประเทศไทย
2) ผลด-ี ผลเสียของการลงทนุ ระหวา่ งประเทศ
ผลดขี องการลงทุนระหว่างประเทศ ผลเสยี ของการลงทุนระหว่างประเทศ
1. กอ่ ใหเ้ กิดการขยายตวั ทางการคา้ ระหวา่ งประเทศ 1. ประเทศท่ีเขา้ ไปลงทนุ อาจจะเอารดั เอาเปรยี บ
โดยเฉพาะอยา่ งย่งิ การคา้ ท่ีดาเนินไประหวา่ งประเทศ ประเทศท่ีรบั การลงทนุ ในดา้ นของการแบง่ ปัน
ท่ีเขา้ ไปลงทนุ กบั ประเทศท่ีรบั การลงทนุ นนั้ ผลประโยชน์ และการใชท้ รพั ยากรธรรมชาติ
2. เปิดโอกาสใหป้ ระเทศท่ีขาดเงินทนุ และเทคโนโลยี 2. ประเทศท่ีรบั การลงทนุ มกั ตกเป็นเบีย้ ลา่ งในทาง
สามารถพฒั นาอตุ สาหกรรมและการใชท้ รพั ยากร เศรษฐกิจของประเทศท่ีเขา้ ไปลงทนุ ซง่ึ มีอานาจ
ของตนเองได้ โดยอาศยั ความช่วยเหลือจากประเทศ เศรษฐกิจสงู กวา่
ท่ีมีความสามารถและมีความพรอ้ มมากกวา่
3. บางครงั้ อาจเกิดการขดั แยง้ ระหวา่ งประเทศท่ีรบั
3. เปิดโอกาสใหป้ ระชาชนในประเทศท่ียงั มีเทคโนโลยี การลงทนุ เป็นประเทศท่ีเขา้ ไปลงทนุ จนกลายเป็น
ท่ีไมก่ า้ วหนา้ ไดเ้ รยี นรูว้ ทิ ยาการและประสบการณ์ กรณีพิพาททางการเมอื ง
ทางดา้ นอตุ สาหกรรมและการคา้ เพ่ิมขนึ้ จากชาว
ตา่ งประเทศท่ีเขา้ ไปลงทนุ
4. สง่ เสรมิ ความรว่ มมือและความเขา้ ใจระหวา่ งประเทศ
ท่ีมีการลงทนุ และการคา้ รว่ มกนั
2. การเปิ ดเสรีทางเศรษฐกิจของประเทศ
2.1 ววิ ฒั นาการของการเปิ ดเสรีทางเศรษฐกจิ ในยุคโลกาภิวตั น์ของไทย
โดยท่วั ไปนกั ประวตั ิศาสตรก์ าหนดใหช้ ่วงเวลาหลงั สงครามโลกครงั้ ท่ี 2
(พ.ศ. 2488) เป็นสมยั ปัจจบุ นั ซง่ึ ในสมยั นีเ้ ป็นชว่ งเวลาท่ีเทคโนโลยีกา้ วหนา้ สงู สดุ ทกุ ดา้ น
ทาใหช้ าวโลกสามารถรบั รูข้ า่ วสารท่ีเกิดขนึ้ ในทกุ จดุ ของโลก จดั เป็นยคุ “โลกาภวิ ตั น”์
(globalization) ท่ีชาวโลกสามารถตดิ ตอ่ ส่อื สารกนั ไดอ้ ย่างไรพ้ รมแดน ในช่วงเวลาหลงั
สงครามโลกครงั้ ท่ี 2 สหรฐั อเมรกิ าไดเ้ ขา้ รว่ มลงนามในขอ้ ตกลงวา่ ดว้ ยความรว่ มมือทาง
เศรษฐกิจและเทคนิคกบั ประเทศไทยใน พ.ศ. 2493 ซง่ึ มีสาระสาคญั เก่ียวกบั การท่ี
สหรฐั อเมรกิ าจะใหค้ วามช่วยเหลือทางดา้ นเศรษฐกิจและเทคนิคแกไ่ ทย และการท่ีไทย
จะตอ้ งลดการกีดขวางทางดา้ นการคา้ ระหวา่ งประเทศลง ซง่ึ แสดงใหเ้ ห็นวา่ สหรฐั อเมรกิ า
ตอ้ งการใหไ้ ทยเป็นสว่ นหนง่ึ ของโลกทนุ นิยม แตข่ อ้ ตกลงนีไ้ ม่สอดคลอ้ งกบั นโยบายเศรษฐกิจ
ชาตินิยมของจอมพล ป.พิบลู สงคราม
ในช่วง พ.ศ. 2500-2504 รฐั บาลมีนโยบายเศรษฐกิจแบบเสรนี ิยม มีการประกาศใช้
พระราชบญั ญตั สิ ง่ เสรมิ การลงทนุ เพ่ือกิจการอตุ สาหกรรม พ.ศ. 2503 เพ่ือสง่ เสรมิ ให้
เอกชนไทยและตา่ งชาติเขา้ มามีบทบาทดา้ นเศรษฐกิจมากขนึ้ ในภาพรวมของเศรษฐกิจไทย
ภายหลงั จากสงครามโลกครงั้ ท่ี 2 นนั้ ภาคเกษตรไดล้ ดความสาคญั ลงเน่ืองจากสนิ คา้ เกษตร
เชน่ ขา้ ว ประสบปัญหาในการเพาะปลกู การแปรรูปไมส้ กั ลดลงเพราะเนือ้ ท่ีป่าลดลง
ยางพารามีปัญหาดา้ นการตลาดเพราะมีการผลติ ยางสงั เคราะหข์ นึ้ มาใชแ้ ทน
ในขณะเดียวกนั ภาคอตุ สาหกรรมและบรกิ ารไดม้ ีความสาคญั เพ่ิมขนึ้ รฐั บาลไดส้ ง่ เสรมิ
ใหภ้ าคอตุ สาหกรรมมีการขยายตวั อย่างรวดเรว็ เชน่ มีการจดั ตงั้ รฐั วิสาหกิจเป็นจานวนมาก
การสง่ เสรมิ อตุ สาหกรรมมีการขยายตวั อยา่ งรวดเรว็ เชน่ มีการจดั ตงั้ รฐั วสิ าหกิจเป็น
จานวนมาก การสง่ เสรมิ อตุ สาหกรรมของภาคเอกชนทงั้ ชาวไทยและชาวตา่ งชาติ
และนบั จาก พ.ศ. 2504 ท่ีประเทศไทยไดเ้ รม่ิ ใชแ้ ผนพฒั นาเศรษฐกิจและสงั คมแหง่ ชาติ
เป็นตน้ มา รฐั บาลไดส้ ง่ เสรมิ ระบบเศรษฐกิจแบบเสรี โดยใหเ้ อกชนเขา้ มามีบทบาทในการ
พฒั นาเศรษฐกิจของประเทศ สง่ เสรมิ การลงทนุ ระหวา่ งประเทศ ตลอดจนความสมั พนั ธ์
ทางเศรษฐกิจระหวา่ งประเทศ และใหค้ วามสาคญั กบั ทนุ และเทคโนโลยจี ากตา่ งประเทศ
และการคา้ ระหวา่ งประเทศ เนน้ การจดั ใหม้ ีระบบสาธารณปู โภคพืน้ ฐานทางเศรษฐกิจและ
การอานวยความสะดวกเพ่ือสง่ เสรมิ การลงทนุ ของธุรกิจเอกชน รวมทงั้ เนน้ การพฒั นา
อตุ สาหกรรมเพ่ือการสง่ ออก
สิน้ สุดสงครามโลกครั้งท่ี 2 รัฐบาลไทยเริ่มใช้ พ.ศ. 2503 จดั ทาแผนพฒั นา พ.ศ. 2538
ก้าวสู่ยุคโลกาภวิ ัตน์ นโยบายเศรษฐกจิ เศรษฐกจิ และสังคม
(Globalization) แหง่ ชาตฉิ บับแรก
พ.ศ. 2493 แบบเสรีนิยม
พ.ศ.
พ.ศ. 2488 พ.ศ. 2500 พ.ศ. 2504
สหรัฐอเมริกาและประเทศไทย ประกาศใช้ พ.ร.บ. ประเทศไทยเข้าเป็ น
ร่วมลงนามในข้อตกลงว่าด้วย ส่งเสริมการลงทนุ เพอ่ื สมาชกิ ขององคก์ าร
ความร่วมมอื ทางดา้ นเศรษฐกจิ กจิ การอุตสาหกรรม
การค้าโลก
และเทคนิค
แผนภาพเสน้ เวลาแสดงววิ ฒั นาการของการเปิดเสรที างเศรษฐกิจในประเทศไทย
2.2 ปัจจยั ทางเศรษฐกจิ ทที่ าให้เกดิ การเปิ ดเสรีทางเศรษฐกจิ ของประเทศไทย
ปัจจยั ท่ีมีผลตอ่ การเปิดเสรที างเศรษฐกิจของไทย มีดงั นี้
1) ความสามารถในการผลิตสินค้า ประเทศไทยสามารถผลิตสนิ คา้
ท่มี ีคณุ ภาพเพ่ือการสง่ ออกไดอ้ ยา่ งหลากหลาย ทาใหส้ ามารถกระจายการคา้ ไปสตู่ ลาด
ตา่ งประเทศได้ ในขณะเดยี วกนั ก็มีความตอ้ งการสินคา้ ท่ีไม่สามารถผลติ ไดเ้ องในประเทศ
หรอื ใชท้ นุ สงู ในการผลติ จงึ ตอ้ งมีการนาเขา้ จากตา่ งประเทศ
2) แรงงานทม่ี คี ุณภาพและค่าจ้างแรงงานต่า ประเทศไทยมีแรงงาน
ท่มี ีคณุ ภาพและคา่ จา้ งแรงงานยงั อยใู่ นระดบั ต่าทาใหอ้ ตุ สาหกรรมท่ีตอ้ งใชแ้ รงงาน
ของไทยมีตน้ ทนุ การผลิตต่า สง่ ผลดีตอ่ อตุ สาหกรรมของไทยและอตุ สาหกรรมท่ีเกิด
จากการลงทนุ ระหวา่ งประเทศ
3) นโยบายเปิ ดเสรีทางเศรษฐกจิ รฐั บาลไทยมีนโยบายเปิดเสรที างเศรษฐกิจ
ใหก้ ารสนบั สนนุ การเปิดการคา้ เสรี
4) นโยบายกีดกนั ทางการคา้ ระหว่างประเทศ ประเทศมหาอานาจทาง
เศรษฐกิจหลายประเทศดาเนินนโยบายกีดกนั ทางการคา้ ระหวา่ งประเทศ เพ่ือไมใ่ หส้ ินคา้
จากตา่ งประเทศมาแขง่ ขนั กบั สินคา้ ท่ีผลติ ในประเทศตน จงึ ทาใหป้ ระเทศไทยตอ้ งแสวงหา
ตลาดสง่ ออกแหง่ ใหม่
5) การขยายตัวทางเศรษฐกจิ ของประเทศตา่ ง ๆ ในโลก ความตอ้ งการ
สินคา้ ท่ีมีความหลากหลายในตลาดโลกเพ่ิมขนึ้ เน่ืองจากการขยายตวั ทางเศรษฐกิจของ
ประเทศตา่ ง ๆ ในโลก
6) อัตราแลกเปล่ียนเงนิ ตราตา่ งประเทศ เม่ือใดคา่ เงินบาทมแี นวโนม้
ออ่ นตวั ลง กจ็ ะเออื้ ประโยชนต์ อ่ ภาคการสง่ ออก ถา้ คา่ เงินบาทแข็งขนึ้ การสง่ ออกของไทย
กจ็ ะลดลง
2.3 ผลกระทบของการเปิ ดเสรีทางเศรษฐกจิ ของประเทศทีม่ ตี ่อ
ภาคการเกษตร ภาคอตุ สาหกรรม ภาคการค้าและบริการ
ในอดตี การจดั ตงั้ เขตการคา้ เสรี เป็นการรวมพลงั ทางเศรษฐกิจระหวา่ งประเทศ
ในภมู ิภาคเดยี วกนั ท่ีมีเขตแดนตดิ ตอ่ ถึงกนั เรม่ิ จากการเปิดเสรดี า้ นการคา้ โดยการลดภาษี
และอปุ สรรคท่ีไม่ใชภ่ าษีเป็นหลกั ระหวา่ งกนั ภายในกลมุ่ แตป่ ัจจบุ นั การจดั ตงั้ เขตการคา้ เสรี
ของประเทศตา่ ง ๆ มีลกั ษณะท่ีแตกตา่ งไปจากเดมิ กลา่ วคือ ไม่ไดจ้ ากดั เฉพาะประเทศ
ในภมู ิภาคเดียวกนั เทา่ นนั้ ประเทศท่ีอยตู่ า่ งภมู ิภาคก็รว่ มมือในลกั ษณะนีไ้ มจ่ ากดั วา่ ตอ้ ง
ทาเป็นกลมุ่ ประเทศเขตการคา้ เสรที ่ีจดั ตงั้ ขนึ้ อาจเป็นการเจรจาการคา้ สองฝ่ายหรอื ทวิภาคี
ท่เี ป็นการตกลงระหวา่ งประเทศสองประเทศ เชน่ สิงคโปรก์ บั นิวซแี ลนด์ สงิ คโปรก์ บั ญ่ีป่นุ
หรอื ระหวา่ งกลมุ่ ประเทศกบั หน่งึ ประเทศ เช่น อาเซียนกบั จีน
1) ผลกระทบของการเปิ ดเสรีทางเศรษฐกจิ ของประเทศไทยทมี่ ตี ่อ
ภาคการเกษตร
การเปิดเสรที างเศรษฐกิจระหวา่ งประเทศไทยกบั ประเทศตา่ ง ๆ ทาใหต้ อ้ งมี
การเจรจาเพ่ือลดภาษีการคา้ ระหวา่ งกนั ใหเ้ หลือนอ้ ยท่ีสดุ เพ่ือเป็นการขจดั อปุ สรรค
ทางดา้ นการตดิ ตอ่ คา้ ขายตอ่ กนั โดยประเทศไทยซง่ึ เป็นประเทศเกษตรกรรม ประชาชน
สว่ นใหญ่ประกอบอาชีพทางดา้ นการเกษตรเป็นหลกั จะไดร้ บั ผลกระทบท่ีสาคญั ดงั นี้
ผลกระทบของการเปิ ดเสรีทางเศรษฐกจิ ท่ีมตี ่อภาคการเกษตร
ผลกระทบดา้ นบวก ผลกระทบด้านลบ
1. สง่ ผลใหม้ ีการแขง่ ขนั กนั เพ่ือพฒั นา 1. อาจนาไปสกู่ ารระบาดของโรคพืชและสตั วเ์ น่ืองจากเปิดการคา้ เสรี
และวิจยั คน้ หาพนั ธุพ์ ืชและสตั ว์ รวมถงึ ประเภทเกษตร จะทาใหเ้ กิดการขนสง่ พืชและสตั วเ์ ขา้ มาจาหนา่ ยยงั
คดิ คน้ เทคโนโลยีใหม่ ๆ ซง่ึ จะชว่ ยเพิม่ ประเทศคคู่ า้ ไดอ้ ยา่ งเสรี หากมีการระบาดของเชือ้ โรคก็จะทาใหก้ าร
ความสามารถในการผลติ ทางดา้ น ระบาดนนั้ เป็นไปอยา่ งรวดเรว็ และรุนแรงมากขนึ้
เกษตรกรรมใหไ้ ดผ้ ลผลติ ท่ีดี มีปรมิ าณ 2. อาจเป็นเหตใุ หพ้ ืชและสตั วพ์ ืน้ เมืองบางชนดิ ตอ้ งสญู พนั ธุ์ เน่ืองจาก
มากและหลากหลาย เพียงพอตอ่ ความ ขาดการสง่ เสรมิ ใหเ้ ลยี้ ง หรอื ไมม่ ีประโยชนท์ างเศรษฐกิจมากนกั
ตอ้ งการของประชาชน ประชาชนจงึ ไมเ่ หน็ คณุ คา่
2. ชว่ ยใหร้ าคาของสนิ คา้ เกษตรหลายชนิด 3. หากประเทศคคู่ า้ มีสินคา้ เกษตรกรรมประเภทเดียวกนั และสง่ เขา้ มา
ในตลาดมีราคาไมส่ งู นกั ทาให้ จาหน่ายในประเทศไทยเป็นจานวนมากในราคาถกู กวา่ อาจทาให้
ประชาชนไดร้ บั ประโยชน์ ประหยดั สินคา้ เกษตรของไทยมีราคาลดต่าลง ซง่ึ อาจสง่ ผลโดยรวมตอ่ การ
คา่ ใชจ้ ่ายในครอบครวั พฒั นาเศรษฐกิจของประเทศ
2) ผลกระทบของการเปิ ดเสรีทางเศรษฐกจิ ของประเทศไทยทมี่ ตี ่อ
ภาคอุตสาหกรรม
การเปิดเสรที างเศรษฐกิจทาใหก้ ิจกรรมการผลิตในภาคอตุ สาหกรรมมีเพ่ิมขนึ้
อย่างมาก โดยการลงทนุ ขนาดใหญ่จากตา่ งชาติ ทาใหป้ ระชาชนจานวนมากมีงานทาและ
มีรายไดเ้ พ่ิมขนึ้ อยา่ งไรก็ตาม ก็อาจนามาซง่ึ ผลกระทบตอ่ สงั คมในดา้ นลบไดเ้ ช่นเดยี วกนั
ผลกระทบของการเปิ ดเสรีทางการค้าทม่ี ีต่อภาคอุตสาหกรรม
ผลกระทบดา้ นบวก ผลกระทบดา้ นลบ
1. ช่วยสง่ เสรมิ ใหม้ ีการพฒั นาทางดา้ น 1. การเปิดเสรที างการคา้ จะสง่ ผลใหม้ ีการขยายการผลติ ทางดา้ น
อตุ สาหกรรมอยา่ งกวา้ งขวาง ทงั้ ในดา้ น อตุ สาหกรรมอยา่ งรวดเรว็ ซง่ึ จะมีสว่ นทาใหว้ ถิ ีการดาเนินชีวิต
คณุ ภาพและในดา้ นปรมิ าณของสนิ คา้ ท่ีดีงามของประชาชนในทอ้ งถ่ินถกู ละเลย เช่น ความมีนา้ ใจ
เพ่ือใหส้ ามารถแขง่ ขนั กบั ตา่ งประเทศ ความเห็นอกเหน็ ใจตอ่ กนั ของคนในสงั คม จนทาใหเ้ กิดปัญหาสงั คม
ได้ ตา่ ง ๆ ตามมาอีกมากมาย
ผลกระทบดา้ นบวก ผลกระทบด้านลบ
2. สง่ เสรมิ ใหป้ ระชาชนมงี านทา เน่ืองจากการเรง่ 2. การขยายตวั ของการผลติ ทางดา้ นอตุ สาหกรรมจะมีผล
พฒั นาอตุ สาหกรรมจะทาใหม้ ีความตอ้ งการแรงงาน ตอ่ สิ่งแวดลอ้ ม ๆ ถกู ทาลายไปดว้ ย ทาใหเ้ กิดปัญหา
เป็นจานวนมาก จงึ เกิดการจา้ งงานเพิ่มมากขนึ้ มลพิษซง่ึ จะเป็นอนั ตรายตอ่ สขุ ภาพของประชาชน
โดยเฉพาะแรงงานท่ีอาศยั อยใู่ นทอ้ งถ่ินท่ีโรงงาน เช่น การเกิดปัญหานา้ เนา่ เสยี มลพิษทางอากาศ
อตุ สาหกรรมตงั้ อยู่ ซง่ึ จะสง่ เสรมิ ใหป้ ระชาชนมี มลพษิ ทางเสียง ปัญหาขยะ
รายไดม้ ากขนึ้ รวมทงั้ มีคณุ ภาพชีวติ ท่ีดีขนึ้ และ 3. ทาใหเ้ กิดการสนิ้ เปลืองทรพั ยากรธรรมชาติ เน่ืองจาก
สง่ ผลใหเ้ ศรษฐกิจของประเทศมีการขยายตวั มากขนึ้ ในการผลติ สินคา้ ทางดา้ นอตุ สาหกรรมจะตอ้ งใช้
3. มีการพฒั นาฝีมือแรงงานอยา่ งสม่าเสมอ เพ่ือให้ ทรพั ยากรธรรมชาตเิ พ่ือเป็นปัจจยั การผลติ เป็นจานวน
พรอ้ มรบั การเปล่ยี นแปลงอยา่ งรวดเรว็ ของ มาก ทาใหป้ รมิ าณของทรพั ยากรลดลงอยา่ งรวดเรว็
เทคโนโลยีตา่ ง ๆ ทาใหป้ ระเทศมีแรงงานฝีมือดี
ซง่ึ เป็นท่ีตอ้ งการของตลาดแรงงานท่วั โลก
3. ผลกระทบของการเปิ ดเสรีทางเศรษฐกจิ ของประเทศไทยทมี่ ตี ่อ
ภาคการคา้ และการบริการ
การเปิดเสรที างดา้ นการคา้ และการบรกิ าร จะสง่ ผลใหภ้ าคการคา้ และ
บรกิ ารตา่ ง ๆ มีการขยายตวั อยา่ งรวดเรว็ แตใ่ นกรณีของผปู้ ระกอบการรายย่อย
ท่ีมีทนุ ไมม่ ากนกั อาจไดร้ บั ผลกระทบจากนกั ลงทนุ รายใหญ่ท่ีเขา้ มาลงทนุ ใน
ประเทศ รวมทงั้ อาจเกิดปัญหาดา้ นอ่ืน ๆ การเปิดเสรที างการคา้ ของประเทศไทย
จงึ มีผลกระทบทงั้ ดา้ นบวกและดา้ นลบตอ่ ประเทศไทย ดงั นี้
ผลกระทบของการเปิ ดเสรีทางเศรษฐกจิ ท่ีมตี ่อภาคการค้าและการบริการ
ผลกระทบดา้ นบวก ผลกระทบดา้ นลบ
1. การเปิดเสรที างการคา้ สง่ ผลทาใหม้ ลู ค่าการ 1. การเปิดเสรที างการคา้ และบรกิ ารอาจนาไปสกู่ ารแสวงหา
ลงทนุ มลู ค่าการผลติ และการจา้ งงานมีการ ผลกาไรของนกั ลงทนุ อยา่ งไมส่ นิ้ สดุ ทาใหเ้ กิดการเอารดั
ขยายตวั เพ่ิมขนึ้ อยา่ งรวดเรว็ ซง่ึ จะเป็นผลดี เอาเปรยี บกนั ของคนในสงั คม เชน่ นกั ลงทนุ อาจเขา้ ไป
ตอ่ ระบบเศรษฐกิจของประเทศท่ีมีอตั ราการ ลงทนุ ในประเทศท่ีมีคา่ แรงต่ามาก เพ่ือใหต้ นเองไดก้ าไร
เจรญิ เติบโตเพ่มิ มากขนึ้ ทาใหป้ ระชาชนมีความ สงู สดุ แมจ้ ะทราบดีวา่ ประเทศเหลา่ นนั้ มีการใชแ้ รงงาน
เป็นอยดู่ ีขนึ้ เดก็ หรอื การละเมิดสทิ ธิมนษุ ยชน
2. ทาใหป้ ระเทศไดร้ บั ความสะดวกทางดา้ นการ 2. การเปิดเสรที างการคา้ และบรกิ ารอาจทาใหภ้ มู ปิ ัญญา
นาเขา้ -สง่ ออกวตั ถดุ ิบท่ีเก่ียวขอ้ งกบั การคา้ และ ทอ้ งถ่ินท่ีดีงามบางอยา่ งหายไป เชน่ วฒั นธรรมประเพณี
การบรกิ ารต่าง ๆ รวมทงั้ เพ่มิ ช่องทางในการไป ตา่ ง ๆ เน่ืองจากประชาชนตอ้ งเรง่ รบี ในการประกอบอาชีพ
ลงทนุ ในตา่ งประเทศ เพ่ือหาเลยี้ งตนเองจงึ ไมม่ ีเวลาและเกิดการละเลยตอ่
วฒั นธรรมท่ีดีงามต่าง ๆ
ผลกระทบดา้ นบวก ผลกระทบด้านลบ
3. ทาใหผ้ บู้ รโิ ภคไดบ้ รโิ ภคสินคา้ และบรกิ ารตา่ ง ๆ 3. กิจการท่ีเป็นของประชาชนในทอ้ งถ่ิน ซง่ึ มีเงินลงทนุ นอ้ ย
ในราคาท่ีเป็นธรรม สนิ คา้ และบรกิ ารมีความ และมีการปรบั ตวั ไมด่ ีพอ อาจถกู ครอบงาโดยกลมุ่ นายทนุ
หลากหลายและมีคณุ ภาพท่ีดีเน่ืองจากการเปิด ขนาดใหญ่ท่ีเป็นชาวตา่ งชาติ สง่ ผลใหค้ นในทอ้ งถ่ิน
เสรที างดา้ นการคา้ และบรกิ าร จะทาใหม้ ีจานวน ไมม่ ีโอกาสเป็นเจา้ ของกิจการ นอกจากนีย้ งั เกิดปัญหา
ผผู้ ลติ เพ่มิ ขนึ้ เป็นจานวนมาก ผผู้ ลติ จงึ ตอ้ งมีการ สมองไหล เน่ืองจากแรงงานมีฝีมือและผมู้ ีความรู้
แขง่ ขนั กนั อยา่ งรุนแรงในการพฒั นาสนิ คา้ และ ความสามารถอาจเลือกไปทางานในตา่ งประเทศ
การตงั้ ราคาใหเ้ ป็นท่ีดงึ ดดู ใจ เพ่ือจาหนา่ ยสนิ คา้ เพราะมีผลตอบแทนมากกวา่
และบรกิ ารของตน
3. ปัจจยั ตา่ ง ๆ ทน่ี าไปสู่การพง่ึ พา การแข่งขัน การขัดแยง้
การประสานประโยชนท์ างเศรษฐกิจ และวธิ กี ารกดี กัน
ทางการคา้ ในการคา้ ระหว่างประเทศ
ปัจจยั ท่ีนาไปสกู่ ารพง่ึ พา การแขง่ ขนั การขดั แยง้ และการประสานประโยชน์
ทางเศรษฐกิจในการคา้ ระหวา่ งประเทศ มีดงั นี้
3.1 ภาวะเศรษฐกจิ
ภาวะเศรษฐกิจโลกและภาวะเศรษฐกิจท่ีแตล่ ะประเทศกาลงั เผชิญอยู่ นบั เป็น
ปัจจยั สาคญั ท่ีนาไปสกู่ ารพง่ึ พา การแขง่ ขนั การขดั แยง้ และการประสานประโยชน์
ทางเศรษฐกิจในการคา้ ระหวา่ งประเทศ ทงั้ นีห้ ากภาวะเศรษฐกิจมีการขยายตวั สงู หรอื อยู่
ในชว่ งท่ีเศรษฐกิจมีความเจรญิ เตบิ โตสงู ยอ่ มหมายถึงมีการลงทนุ การผลิตสินคา้ และบรกิ าร
เพ่ิมมากขนึ้ เพ่ือสนองตอบตอ่ ตลาดของผบู้ รโิ ภคท่มี ีกาลงั ซือ้ สงู จงึ นาไปสกู่ ารพง่ึ พา
ทางเศรษฐกิจในการคา้ ระหวา่ งประเทศ เชน่ การพง่ึ พาสินคา้ เกษตรจากประเทศไทย
หรอื การพง่ึ พาพลงั งานและเชือ้ เพลงิ จากกลมุ่ ประเทศผผู้ ลิตนา้ มนั มากขนึ้
ในทางกลบั กนั หากภาวะเศรษฐกิจอยใู่ นชว่ งวกิ ฤตเศรษฐกิจ เช่น วกิ ฤตเศรษฐกิจโลก
และวกิ ฤตทางเศรษฐกิจท่ีเกิดขนึ้ ภายในแตล่ ะประเทศ ก็จะเป็นปัจจยั ท่ีนาไปสกู่ ารพง่ึ พา
การแขง่ ขนั การขดั แยง้ และการประสานประโยชนท์ างเศรษฐกิจในการคา้ ระหวา่ งประเทศ
ดว้ ยเชน่ กนั เน่ืองจากในชว่ งภาวะวกิ ฤตทางเศรษฐกิจจะสง่ ผลใหค้ วามตอ้ งการบรโิ ภคสินคา้
ลดลงตามภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจของประเทศนนั้ ๆ ประชากรของประเทศจะมคี วาม
ระมดั ระวงั เรอ่ื งการใชจ้ ่ายมากขนึ้ วิกฤตเศรษฐกิจสง่ ผลตอ่ กาลงั ซอื้ และความเช่ือม่นั ทาง
เศรษฐกิจ ทาใหม้ ีการนาเขา้ สนิ คา้ จากตา่ งประเทศลดลง เช่น วกิ ฤตเศรษฐกิจ พ.ศ. 2540
ท่เี กิดขนึ้ กบั ประเทศไทย เม่อื รฐั บาลประกาศลอยตวั คา่ เงินบาท ทาใหค้ า่ เงินบาทออ่ นตวั
วิกฤตเศรษฐกิจครงั้ นีท้ าใหธ้ ุรกิจเอกชน ไดร้ บั ผลกระทบอย่างรุนแรง หลายแหง่ ตอ้ งปิด
กิจการ พนกั งานจานวนมากถกู ปลดออกจากงาน ผลจากวิกฤตเศรษฐกิจครงั้ นีป้ ระเทศไทย
จงึ ตอ้ งพง่ึ พาการกเู้ งนิ จากกองทนุ การเงนิ ระหวา่ งประเทศ (IMF) เพ่ือพยงุ ฐานะทางการเงิน
ของประเทศ
กลา่ วโดยสรุปไดว้ า่ ภาวะเศรษฐกิจท่ีแตล่ ะประเทศกาลงั เผชิญอยจู่ ะสง่ ผลใหเ้ กิด
การกาหนดนโยบายการคา้ ระหวา่ งประเทศวา่ ควรจะเป็นไปในทิศทางใด จงึ นบั ไดว้ า่ เป็น
ปัจจยั ท่จี ะนาไปสกู่ ารพง่ึ พา การแขง่ ขนั การขดั แยง้ และการประสานประโยชนท์ าง
เศรษฐกิจในการคา้ ระหวา่ งประเทศ
3.2 การกาหนดนโยบายการค้าระหว่างประเทศ
นโยบายการคา้ ระหวา่ งประเทศ หมายถงึ นโยบายท่ีวางไวเ้ พ่ือปฏิบตั ติ อ่ ประเทศอน่ื ๆ
ในการนาเขา้ สินคา้ หรอื สง่ ออกสินคา้ ดงั นนั้ นโยบายการคา้ ระหวา่ งประเทศจงึ เป็นปัจจยั หนง่ึ
ท่ีนาไปสกู่ ารพง่ึ พา การแขง่ ขนั การขดั แยง้ และการประสานประโยชนท์ างเศรษฐกิจในการคา้
ระหวา่ งประเทศ นโยบายการคา้ ระหวา่ งประเทศท่ีสาคญั มี 2 นโยบาย คือ
1) นโยบายการคา้ แบบเสรี (Free Trade Policy)
ในหลกั การของนโยบายการคา้ เสรี คอื การไมส่ นบั สนนุ ใหม้ ีการเก็บภาษีศลุ กากร
ในอตั ราท่ีสงู และขจดั ขอ้ บงั คบั ตา่ ง ๆ ท่ีกีดกนั การคา้ ระหวา่ งประเทศ
หากทกุ ประเทศดาเนินนโยบายการคา้ เสรี โดยปราศจากการกาหนดมาตรการ
กีดกนั ทางการคา้ ก็จะกอ่ ใหเ้ กิดการประสานประโยชนท์ ่ปี ระเทศคคู่ า้ สามารถผลติ สนิ คา้
ท่ตี นมีความไดเ้ ปรยี บโดยเปรยี บเทียบ กลา่ วคอื ประชาชนของแตล่ ะประเทศมโี อกาสเลือก
บรโิ ภคสินคา้ ท่ีหลากหลายมากประเภทขนึ้
2) นโยบายการคา้ แบบคุ้มกัน (Protective Policy)
เน่ืองจากนานาประเทศมกั ตอ้ งการคมุ้ ครองหรอื ปกปอ้ งสนิ คา้ ท่ีผลิต
ภายในประเทศโดยกีดกนั มิใหม้ ีการนาเขา้ สินคา้ ประเภทนนั้ ๆ จากตา่ งประเทศ ประเทศท่ี
ดาเนินนโยบายการคา้ คมุ้ กนั อาจกาหนดแนวมาตรการการคา้ แบบคมุ้ กนั เชน่
โดยการตงั้ กาแพงภาษี
ผลจากการจดั เก็บภาษีศลุ กากร ทาใหส้ ินคา้ ท่ีนาเขา้ จากตา่ งประเทศมีราคา
สงู ขนึ้ สง่ ผลใหป้ รมิ าณความตอ้ งการบรโิ ภคของสนิ คา้ ชนิดนนั้ ลดลง โดยผบู้ รโิ ภคจะหนั มา
บรโิ ภคสนิ คา้ ในประเทศท่ีสามารถทดแทนกนั ได้
การควบคุมสินค้า เป็นการควบคมุ การสง่ ออกสินคา้ และควบคมุ การนาเขา้
สินคา้ บางชนิด ดงั นนั้ หากตอ้ งการนาเขา้ หรอื สง่ ออกสนิ คา้ ชนิดนนั้ จาเป็นตอ้ งขออนญุ าต
จากทางการกอ่ น หรอื อาจเป็นการกาหนดโควตาการนาเขา้ และสง่ ออกสนิ คา้ บางชนิดไว้
3.3 การรวมกลุ่มผลประโยชน์ทางการค้า
เน่ืองจากสภาวะแวดลอ้ มของโลกในปัจจบุ นั เป็นโลกแหง่ การแขง่ ขนั โดยเฉพาะ
ในดา้ นเศรษฐกิจ ซง่ึ มีการกีดกนั ทางการคา้ มากขนึ้ ตอ่ ประเทศนอกกลมุ่ อกี ทงั้ ยงั มีรูปแบบของ
อปุ สรรคทางการคา้ ท่เี ป็นมาตรการท่ีไมใ่ ชภ่ าษี (Non-Tariff Barrier) มากย่ิงขนึ้ ภายใต้
สภาพแวดลอ้ มดงั กลา่ ว ประเทศตา่ ง ๆ ในโลก รวมถงึ ประเทศไทยจาเป็นตอ้ งแสวงหา
ความรว่ มมือทางเศรษฐกิจกบั ประเทศตา่ ง ๆ ทงั้ ในแบบพหภุ าคแี ละทวภิ าคี เพ่ือเสรมิ สรา้ ง
ศกั ยภาพในการพฒั นาเศรษฐกิจรว่ มกนั ดงั นนั้ การรวมกลมุ่ ผลประโยชนท์ างการคา้ จงึ เป็น
ปัจจยั ท่ีจะนาไปสกู่ ารพง่ึ พาและการประสานประโยชนก์ บั ประเทศสมาชิกของกลมุ่
ผลประโยชนน์ นั้ ๆ
ตวั อยา่ งของการรวมกลมุ่ ผลประโยชนท์ างการคา้ เช่น การทา FTA ภาคบรกิ าร
ระหวา่ งอาเซียน-จีน เป็นปัจจยั สาคญั ในการเปิดโอกาสใหน้ กั ลงทนุ ตา่ งชาติโดยเฉพาะนกั
ลงทนุ ในประเทศสมาชิกตา่ ง ๆ ในอาเซยี น รวมถึงประเทศไทยเขา้ ไปขยายการลงทนุ ในภาค
บรกิ ารของจีนไดม้ ากขนึ้ จากการผอ่ นคลายกฎระเบียบและเง่ือนไขดา้ นการลงทนุ ในภาค
บรกิ ารใหแ้ กก่ นั ขณะเดยี วกนั นกั ลงทนุ จีนก็มีโอกาสขยายการลงทนุ ภาคบรกิ ารในอาเซยี น
และไทยมากขนึ้ เชน่ กนั
3.4 การเมืองการปกครองและสถานการณ์ทางการเมือง
การดาเนินนโยบายและการบรหิ ารงานดา้ นการพาณิชย์ ย่อมมีรูปแบบและลกั ษณะ
ท่ีแตกตา่ งกนั ทงั้ นีข้ นึ้ อยกู่ บั ลทั ธิทางเศรษฐกิจและการเมืองของแตล่ ะประเทศ ดงั นนั้ ระบบ
การเมืองการปกครอง รวมถงึ สถานการณท์ างการเมืองท่ปี ระเทศนนั้ ๆ เผชิญอยจู่ ะเป็นปัจจยั
อย่างหนง่ึ ท่ีนาไปสกู่ ารพง่ึ พา การแขง่ ขนั การขดั แยง้ และการประสานประโยชนท์ างเศรษฐกิจ
ในการคา้ ระหวา่ งประเทศ โดยท่วั ไปไดแ้ บง่ ลทั ธิทางเศรษฐกิจเป็น 2 ระบบ คือ ระบบทนุ นิยมหรอื
ระบบเสรนี ิยม และระบบสงั คมนิยม
ระบบทนุ นิยมหรอื เสรนี ิยม จะใหค้ วามสาคญั ตอ่ เสรภี าพของบคุ คลในการประกอบ
การคา้ และการเป็นเจา้ ของทรพั ยส์ ินตา่ ง ๆ รฐั บาลจะเปิดโอกาสใหเ้ อกชนแขง่ ขนั กนั ตามความรู้