โครงการสอนตามแนวทาง Thinking School ปีการศึกษา 2567 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) รายวิชา เคมี1 รหัสวิชา ว31207 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2567 องค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย
ก ค าน า โครงการสอนรายวิชา เคมี1 รหัสวิชา ว31207 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2567 ฉบับนี้ จัดท าขึ้น เพื่อเป็นการน าความรู้ความเข้าใจ และทักษะการปฏิบัติ โดยโครงการสอน มีองค์ประกอบ คือ หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยี บทน า/ท าไมต้องเรียนวิทยาศาสตร์ เป้าหมายของวิทยาศาสตร์ เรียนรู้อะไรในวิทยาศาสตร์ คุณภาพผู้เรียน จบชั้น สาระและมาตรฐานการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สมรรถนะส าคัญของผู้เรียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียน ค าอธิบายรายวิชา ผังมโนทัศน์รายวิชา โครงสร้างหลักสูตรรายวิชา โครงสร้างแผนการจัดการเรียนรู้วิธีการวัดผลประเมินผล มิติด้านกระบวนการคิด 12 อย่างและ 9 คิดชีวิต พอเพียง ขอขอบพระคุณ ว่าที่ร.ท พิทักษ์ชัย จักรบุตร ผู้อ านวยการโรงเรียนผักแพววิทยา ที่ส่งเสริม สนับสนุน ในการจัดท าโครงการสอนในครั้งนี้หวังเป็นอย่างยิ่งว่าโครงการสอนฉบับนี้ จะเป็นเอกสารต้นแบบที่เกิดประโยชน์ สูงสุดต่อการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่เน้นกระบวนการ Active Learning สู่ผู้เรียนอย่างแท้จริง จัดท าโดย นางจุลจิรา ขันชะลี กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนผักแพววิทยา
สารบัญ เรื่อง หน้า ค าน า...............................................................................................................................................................ก สารบัญ............................................................................................................................................................ข หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี..............................................................................1 บทน า/ท าไมต้องเรียนวิทยาศาสตร์...................…………....................................................................1 เป้าหมายของวิทยาศาสตร์................................................................................................................1 เรียนรู้อะไรในวิทยาศาสตร์.……………………......................................................................................2 คุณภาพผู้เรียน จบชั้น.......................................................................................................................3 สาระและมาตรฐานการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี..............................................................5 สมรรถนะส าคัญของผู้เรียน.......................................................................................................... .....6 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียน...............................................................................................7 ค าอธิบายรายวิชา........................................................................................................................................... .8 ผังมโนทัศน์รายวิชา........................................................................................................................................ .9 โครงสร้างหลักสูตรรายวิชา.............................................................................................................................10 โครงสร้างแผนการจัดการเรียนรู้............................. ......................................................................................11 วิธีการวัดผล และประเมินผล..............................…........................................................................................13 มิติด้านกระบวนการคิด 12 อย่าง..................................................................................................................17 9 คิดชีวิตพอเพียง............................................................................................................ ..............................19 ข
1 หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ท าไมต้องเรียนวิทยาศาสตร์ วิทยาศาสตร์มีบทบาทส าคัญยิ่งในสังคมโลกปัจจุบันและอนาคต เพราะวิทยาศาสตร์เกี่ยวข้องกับ ทุกคนทั้งในชีวิตประจ าวันและการงานอาชีพต่าง ๆ ตลอดจนเทคโนโลยี เครื่องมือเครื่องใช้และผลผลิตต่าง ๆ ที่มนุษย์ได้ใช้เพื่ออ านวยความสะดวกในชีวิตและการท างาน เหล่านี้ล้วนเป็นผลของความรู้วิทยาศาสตร์ ผสมผสานกับความคิดสร้างสรรค์และศาสตร์อื่น ๆ วิทยาศาสตร์ช่วยให้มนุษย์ได้พัฒนาวิธีคิด ทั้งความคิดเป็น เหตุเป็นผล คิดสร้างสรรค์ คิดวิเคราะห์ วิจารณ์ มีทักษะส าคัญในการค้นคว้าหาความรู้ มีความสามารถในการ แก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ สามารถตัดสินใจโดยใช้ข้อมูลที่หลากหลายและมีประจักษ์พยานที่ตรวจสอบได้ วิทยาศาสตร์เป็นวัฒนธรรมของโลกสมัยใหม่ซึ่งเป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ (K knowledge-based society) ดังนั้นทุกคนจึงจ าเป็นต้องได้รับการพัฒนาให้รู้วิทยาศาสตร์ เพื่อที่จะมีความรู้ความเข้าใจในธรรมชาติและ เทคโนโลยีที่มนุษย์สร้างสรรค์ขึ้น สามารถน าความรู้ไปใช้อย่างมีเหตุผล สร้างสรรค์ และมีคุณธรรม การจัดการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ในสถานศึกษามีเป้าหมายส าคัญดังนี้ วิทยาศาสตร์เป็นเรื่องของการเรียนรู้เกี่ยวกับธรรมชาติ โดยมนุษย์ในกระบวนการสังเกต การส ารวจ ตรวจสอบ และการทดลองเกี่ยวกับปรากฏการณ์ทางธรรมชาติและน าผลมาจัดระบบ หลักการ แนวคิด และ ทฤษฎี ดังนั้นการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์จึงมุ่งเน้นให้ผู้เรียนได้เป็นผู้เรียนรู้และค้นพบด้วยตนเองมากที่สุด นั่นคือให้ได้ทั้งกระบวนการและองค์ความรู้ ตั้งแต่เริ่มแรกก่อนเข้าเรียน เมื่ออยู่ในสถานศึกษา และเมื่อออกจาก สถานศึกษาไปประกอบอาชีพแล้ว 1. เพื่อให้เข้าใจหลักการ ทฤษฎีที่เป็นพื้นฐานในวิทยาศาสตร์ 2. เพื่อให้เข้าใจขอบเขต ธรรมชาติ และข้อจ ากัดของวิทยาศาสตร์ 3. เพื่อให้มีทักษะส าคัญในการศึกษาค้นคว้า และคิดค้นทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 4. เพื่อพัฒนากระบวนการคิดและจินตนาการ ความสามารถในการแก้ปัญหาและการจัดการ ทักษะ ในการสื่อสาร และความสามารถในการตัดสินใจ 5. เพื่อให้ตระหนักถึงความสัมพันธ์ระหว่างวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี มวลมนุษย์ และสภาพแวดล้อม ในเชิงที่มีอิทธิพลและผลกระทบซึ่งกันและกัน เพื่อน าความรู้ความเข้าใจในเรื่องวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมและการด ารงชีวิต 6. เพื่อให้เป็นคนมีจิตวิทยาศาสตร์ มีคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมในการใช้วิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยีอย่างสร้างสรรค์
2 เรียนรู้อะไรในวิทยาศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์มุ่งหวังให้ผู้เรียน ได้เรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่เน้นการเชื่อมโยง ความรู้กับ กระบวนการ มีทักษะส าคัญในการค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้ โดยใช้กระบวนการในการ สืบเสาะหาความรู้ และการแก้ปัญหาที่หลากหลาย ให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการเรียนรู้ทุกขั้นตอน มีการท ากิจกรรมด้วยการลงมือ ปฏิบัติจริงอย่างหลากหลาย เหมาะสมกับระดับชั้น โดยได้ก าหนด สาระส าคัญไว้ดังนี้ สาระที่1 วิทยาศาสตร์ชีวภาพ มาตรฐาน ว 1.1 เข้าใจความหลากหลายของระบบนิเวศ ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งไม่มีชีวิต กับสิ่งมีชีวิต และความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตกับสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ในระบบนิเวศ การถ่ายทอดพลังงาน การ เปลี่ยนแปลงแทนที่ในระบบนิเวศ ความหมาย ของประชากร ปัญหาและผลกระทบที่มีต่อทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม แนวทางในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม รวมทั้งน าความรู้ ไปใช้ประโยชน์ มาตรฐาน ว 1.2 เข้าใจสมบัติของสิ่งมีชีวิต หน่วยพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต การล าเลียงสารเข้าและออก จากเซลล์ ความสัมพันธ์ของโครงสร้างและหน้าที่ของระบบต่าง ๆ ของสัตว์และมนุษย์ที่ท างานสัมพันธ์กัน ความสัมพันธ์ของโครงสร้างและหน้าที่ ของอวัยวะต่าง ๆ ของพืชที่ท างานสัมพันธ์กัน รวมทั้งน าความรู้ไปใช้ ประโยชน์ มาตรฐาน ว 1.3 เข้าใจกระบวนการและความส าคัญของการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม สาร พันธุกรรม การเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมที่มีผลต่อสิ่งมีชีวิต ความหลากหลายทางชีวภาพและวิวัฒนาการของ สิ่งมีชีวิต รวมทั้งน าความรู้ไปใช้ประโยชน์ สาระที่2 วิทยาศาสตร์กายภาพ มาตรฐาน ว 2.1 เข้าใจสมบัติของสสาร องค์ประกอบของสสาร ความสัมพันธ์ระหว่างสมบัติของ สสารกับโครงสร้างและแรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนุภาค หลักและธรรมชาติของการเปลี่ยนแปลงสถานะของสสาร การเกิดสารละลาย และการเกิดปฏิกิริยาเคมี มาตรฐาน ว 2.2 เข้าใจธรรมชาติของแรงในชีวิตประจ าวัน ผลของแรงที่กระท าต่อวัตถุ ลักษณะการ เคลื่อนที่แบบต่าง ๆ ของวัตถุรวมทั้งน าความรู้ไปใช้ประโยชน์ มาตรฐาน ว 2.3 เข้าใจความหมายของพลังงาน การเปลี่ยนแปลงและการถ่ายโอนพลังงาน ปฏิสัมพันธ์ระหว่างสสารและพลังงาน พลังงานในชีวิตประจ าวัน ธรรมชาติ ของคลื่น ปรากฏการณ์ที่เกี่ยวข้อง กับเสียง แสง และคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า รวมทั้งน าความรู้ไปใช้ประโยชน์
3 สาระที่3 วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ มาตรฐาน ว 3.1 เข้าใจองค์ประกอบ ลักษณะ กระบวนการเกิด และวิวัฒนาการของเอกภพกาแล็กซี ดาวฤกษ์ และระบบสุริยะ รวมทั้งปฏิสัมพันธ์ภายในระบบสุริยะ ที่ส่งผลต่อสิ่งมีชีวิต และการประยุกต์ใช้ เทคโนโลยีอวกาศ มาตรฐาน ว 3.2 เข้าใจองค์ประกอบและความสัมพันธ์ของระบบโลก กระบวนการเปลี่ยนแปลง ภายในโลกและบนผิวโลก ธรณีพิบัติภัย กระบวนการเปลี่ยนแปลงลมฟ้าอากาศและภูมิอากาศโลก รวมทั้งผล ต่อสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อม สาระที่4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.1 เข้าใจแนวคิดหลักของเทคโนโลยีเพื่อการด ารงชีวิตในสังคมที่มีการเปลี่ยนแปลง อย่างรวดเร็ว ใช้ความรู้และทักษะทางด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และศาสตร์อื่น ๆ เพื่อแก้ปัญหาหรือ พัฒนางานอย่างมีความคิดสร้างสรรค์ด้วยกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม เลือกใช้เทคโนโลยีอย่าง เหมาะสมโดยค านึงถึงผลกระทบต่อชีวิต สังคม และสิ่งแวดล้อม มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงค านวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็น ขั้นตอนและเป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การท างาน และการแก้ปัญหาได้ อย่างมีประสิทธิภาพ รู้เท่าทัน และมีจริยธรรม คุณภาพผู้เรียน จบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 เพื่อให้ผู้เรียนที่จบช่วงชั้นที่ 2 ควรมีความรู้ ความคิด ทักษะ กระบวนการ และจิตวิทยาศาสตร์ ดังนี้ 1. เข้าใจกระบวนการท างานของเซลล์และกลไกการรักษาดุลยภาพของสิ่งมีชีวิต 2. เข้าใจกระบวนการถ่ายทอดทางพันธุกรรม การแปรผัน มิวเทชัน วิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต ความหลากหลายของสิ่งมีชีวิตและปัจจัยที่มีผลต่อการอยู่รอดของสิ่งมีชีวิตสิ่งแวดล้อมต่างๆ 3. เข้าใจกระบวนการ ความส าคัญ และผลของเทคโนโลยีชีวภาพต่อคน สิ่งมีชีวิต และ สิ่งแวดล้อม 4. เข้าใจชนิด และจ านวนอนุภาคที่เป็นส่วนประกอบในโครงสร้างอะตอมของธาตุ การ เกิดปฏิกิริยาเคมี การเขียนสมการเคมี ปัจจัยที่มีผลต่ออัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี 5. เข้าใจชนิดของแรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนุภาคและสมบัติต่าง ๆ ของสารที่มีความสัมพันธ์กับ แรงยึดเหนี่ยว 6. เข้าใจชนิด สมบัติ และปฏิกิริยาที่ส าคัญของพอลิเมอร์ และของสารชีวโมเลกุล 7. เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างปริมาณที่เกี่ยวกับการเคลื่อนที่แบบต่าง ๆ สมบัติของคลื่นกล คุณภาพของเสียงและการได้ยิน สมบัติ ประโยชน์ และโทษของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า กัมมันตภาพรังสีและพลังงานนิวเคลียร์ 8. เข้าใจกระบวนการเปลี่ยนแปลงของโลก และปรากฏการณ์ทางธรณีที่มีผลต่อสิ่งมีชีวิตและ
4 สิ่งแวดล้อม 9. เข้าใจการเกิดและวิวัฒนาการของระบบสุริยะ กาแล็กซี เอกภพ ความส าคัญของเทคโนโลยี อวกาศ 10. เข้าใจความสัมพันธ์ของความรู้วิทยาศาสตร์ที่มีผลต่อการพัฒนาเทคโนโลยีประเภทต่าง ๆ และการพัฒนาเทคโนโลยีที่ส่งผลต่อการคิดค้นความรู้ทางวิทยาศาสตร์ที่ก้าวหน้า ผลของ เทคโนโลยีตอชีวิต สังคม และสิ่งแวดล้อม 11. ระบุปัญหา ตั้งค าถามที่จะส ารวจตรวจสอบ โดยมีการก าหนดความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปร ต่างๆ สืบค้นข้อมูลจากหลายแหล่ง ตั้งสมมติฐานที่เป็นไปได้หลายแนวทาง ตัดสินใจเลือก ตรวจสอบสมมติฐานที่เป็นไปได้ 12. วางแผนการส ารวจตรวจสอบเพื่อแก้ปัญหาหรือตอบค าถาม วิเคราะห์ เชื่อมโยงความสัมพันธ์ ของตัวแปรต่าง ๆ โดยใช้สมการทางคณิตศาสตร์ หรือสร้างแบบจ าลองจากผลหรือความรู้ที่ ได้รับจากการส ารวจตรวจสอบ 13. สื่อสารความคิด ความรู้จากผลการส ารวจตรวจสอบโดยการพูด เขียน จัดแสดง หรือใช้ เทคโนโลยีสารสนเทศ 14. ใช้ความรู้และกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ในการด ารงชีวิต การศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม ท า โครงงานหรือสร้างชิ้นงานตามความสนใจ 15. แสดงถึงความสนใจ มุ่งมั่น รับผิดชอบ รอบคอบ และซื่อสัตย์ในการสืบเสาะหาความรู้โดยใช้ เครื่องมือและวิธีการที่ให้ได้ผลถูกต้องเชื่อถือได้ 16. ตระหนักในคุณค่าของความรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่ใช้ในชีวิตประจ าวัน การประกอบ อาชีพ แสดงถึงความชื่นชม ภูมิใจ ยกย่อง อ้างอิงผลงาน ชิ้นงานที่เป็นผลจากภูมิปัญญา ท้องถิ่นและการพัฒนาเทคโนโลยีที่ทันสมัย 17. แสดงถึงความซาบซึ้ง ห่วงใย มีพฤติกรรมเกี่ยวกับการใช้และการรักษาทรัพยากร ธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมอย่างรู้คุณค่า เสนอตัวเองร่วมมือปฏิบัติกับชุมชนในการป้องกัน ดูแล ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของท้องถิ่น 18. แสดงถึงความพอใจ ซาบซึ้งในการค้นพบความรู้ พบค าตอบ หรือแก้ปัญหาได้ 19. ท างานร่วมกับผู้อื่นอย่างสร้างสรรค์ แสดงความคิดเห็นโดยมีข้อมูลอ้างอิงและเหตุผล ประกอบเกี่ยวกับผลของการพัฒนา และการใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอย่างมีคุณธรรม ต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม และยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น
5 สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ สาระที่1 วิทยาศาสตร์ชีวภาพ มาตรฐาน ว 1.1 เข้าใจความหลากหลายของระบบนิเวศ ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งไม่มีชีวิต กับสิ่งมีชีวิต และความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตกับสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ในระบบนิเวศ การถ่ายทอดพลังงาน การ เปลี่ยนแปลงแทนที่ในระบบนิเวศ ความหมาย ของประชากร ปัญหาและผลกระทบที่มีต่อทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม แนวทางในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม รวมทั้งน าความรู้ ไปใช้ประโยชน์ มาตรฐาน ว 1.2 เข้าใจสมบัติของสิ่งมีชีวิต หน่วยพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต การล าเลียงสารเข้าและออก จากเซลล์ ความสัมพันธ์ของโครงสร้างและหน้าที่ของระบบต่าง ๆ ของสัตว์และมนุษย์ที่ท างานสัมพันธ์กัน ความสัมพันธ์ของโครงสร้างและหน้าที่ ของอวัยวะต่าง ๆ ของพืชที่ท างานสัมพันธ์กัน รวมทั้งน าความรู้ไปใช้ ประโยชน์ มาตรฐาน ว 1.3 เข้าใจกระบวนการและความส าคัญของการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม สาร พันธุกรรม การเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมที่มีผลต่อสิ่งมีชีวิต ความหลากหลายทางชีวภาพและวิวัฒนาการของ สิ่งมีชีวิต รวมทั้งน าความรู้ไปใช้ประโยชน์ สาระที่2 วิทยาศาสตร์กายภาพ มาตรฐาน ว 2.1 เข้าใจสมบัติของสสาร องค์ประกอบของสสาร ความสัมพันธ์ระหว่างสมบัติของ สสารกับโครงสร้างและแรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนุภาค หลักและธรรมชาติของการเปลี่ยนแปลงสถานะของสสาร การเกิดสารละลาย และการเกิดปฏิกิริยาเคมี มาตรฐาน ว 2.2 เข้าใจธรรมชาติของแรงในชีวิตประจ าวัน ผลของแรงที่กระท าต่อวัตถุ ลักษณะการ เคลื่อนที่แบบต่าง ๆ ของวัตถุรวมทั้งน าความรู้ไปใช้ประโยชน์ มาตรฐาน ว 2.3 เข้าใจความหมายของพลังงาน การเปลี่ยนแปลงและการถ่ายโอนพลังงาน ปฏิสัมพันธ์ระหว่างสสารและพลังงาน พลังงานในชีวิตประจ าวัน ธรรมชาติ ของคลื่น ปรากฏการณ์ที่เกี่ยวข้อง กับเสียง แสง และคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า รวมทั้งน าความรู้ไปใช้ประโยชน์ สาระที่3 วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ มาตรฐาน ว 3.1 เข้าใจองค์ประกอบ ลักษณะ กระบวนการเกิด และวิวัฒนาการของเอกภพกาแล็กซี ดาวฤกษ์ และระบบสุริยะ รวมทั้งปฏิสัมพันธ์ภายในระบบสุริยะ ที่ส่งผลต่อสิ่งมีชีวิต และการประยุกต์ใช้ เทคโนโลยีอวกาศ มาตรฐาน ว 3.2 เข้าใจองค์ประกอบและความสัมพันธ์ของระบบโลก กระบวนการเปลี่ยนแปลง ภายในโลกและบนผิวโลก ธรณีพิบัติภัย กระบวนการเปลี่ยนแปลงลมฟ้าอากาศและภูมิอากาศโลก รวมทั้งผล ต่อสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อม
6 สาระที่4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.1 เข้าใจแนวคิดหลักของเทคโนโลยีเพื่อการด ารงชีวิตในสังคมที่มีการเปลี่ยนแปลง อย่างรวดเร็ว ใช้ความรู้และทักษะทางด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และศาสตร์อื่น ๆ เพื่อแก้ปัญหาหรือ พัฒนางานอย่างมีความคิดสร้างสรรค์ด้วยกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม เลือกใช้เทคโนโลยีอย่าง เหมาะสมโดยค านึงถึงผลกระทบต่อชีวิต สังคม และสิ่งแวดล้อม มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงค านวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็น ขั้นตอนและเป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การท างาน และการแก้ปัญหาได้ อย่างมีประสิทธิภาพ รู้เท่าทัน และมีจริยธรรม สมรรถนะส าคัญของผู้เรียน สมรรถนะส าคัญ 5 ประการ คือ 1. ความสามารถในการสื่อสาร เป็นความสามารถในการรับและส่งสาร มีวัฒนธรรมในการใช้ภาษา ถ่ายทอดความคิด ความรู้ความเข้าใจ ความรู้สึก และทัศนะของตนเองเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารและ ประสบการณ์อันจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาตนเองและสังคม รวมทั้งการเจรจาต่อรองเพื่อขจัดและลด ปัญหาความขัดแย้งต่าง ๆ การเลือกรับหรือไม่รับข้อมูลข่าวสารด้วยหลักเหตุผลและความถูกต้อง ตลอดจน การเลือกใช้วิธีการสื่อสาร ที่มีประสิทธิภาพโดยค านึงถึงผลกระทบที่มีต่อตนเองและสังคม 2. ความสามารถในการคิด เป็นความสามารถในการคิดวิเคราะห์ การคิดสังเคราะห์ การคิดอย่าง สร้างสรรค์ การคิดอย่างมีวิจารณญาณ และการคิดเป็นระบบ เพื่อน าไปสู่การสร้างองค์ความรู้หรือสารสนเทศ เพื่อการตัดสินใจเกี่ยวกับตนเองและสังคมได้อย่างเหมาะสม 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา เป็นความสามารถในการแก้ปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ ที่เผชิญได้ อย่างถูกต้องเหมาะสมบนพื้นฐานของหลักเหตุผล คุณธรรมและข้อมูลสารสนเทศ เข้าใจความสัมพันธ์และการ เปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์ต่าง ๆ ในสังคม แสวงหาความรู้ ประยุกต์ความรู้มาใช้ในการป้องกันและแก้ไข ปัญหาและมีการตัดสินใจที่มีประสิทธิภาพโดยค านึงถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อตนเอง สังคมและสิ่งแวดล้อม 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต เป็นความสามารถในการน ากระบวนการต่าง ๆ ไปใช้ในการ ด าเนินชีวิตประจ าวัน การเรียนรู้ด้วยตนเอง การเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง การท างาน และการอยู่ร่วมกันในสังคม ด้วยการสร้างเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างบุคคล การจัดการปัญหาและความขัดแย้งต่าง ๆ อย่างเหมาะสม การปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของสังคมและสภาพแวดล้อม และการรู้จักหลีกเลี่ยงพฤติกรรมไม่พึง ประสงค์ที่ส่งผลกระทบต่อตนเองและผู้อื่น 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี เป็นความสามารถในการเลือก และใช้ เทคโนโลยีด้านต่าง ๆ และมีทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี เพื่อการพัฒนาตนเองและสังคม ในด้านการเรียนรู้ การสื่อสาร การ ท างาน การแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ ถูกต้อง เหมาะสม และมีคุณธร
7 คุณลกัษณะอนัพงึประสงค์ของผู้เรียน หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนมุ่งพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ เพื่อให้สามารถอยู่ ร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้อย่างมีความสุขในฐานะเป็นพลเมืองไทยและพลโลก ดังนี้ 1. รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ หมายถึง การปฏิบัติตนเป็นคนดีในสังคมมีความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ 2. ซื่อสัตย์สุจริต หมายถึง ปฏิบัติตนอย่างตรงไปตรงมาทั้งกาย วาจา ใจ 3. มีวินัย หมายถึง ปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ของโรงเรียนครอบครัวชุมชน และกิจกรรมในห้องเรียน เช่น สมุดงานชิ้นงาน สะอาดเรียบร้อยปฏิบัติตนอยู่ในข้อตกลงที่ก าหนดให้ร่วมกันทุกครั้ง 4. ใฝ่เรียนรู้หมายถึง ลักษณะของบุคคลที่มีความกระตือรือร้นในการเรียนรู้จักใช้เวลาว่างให้เป็น ประโยชน์แสวงหาความรู้จากแหล่งเรียนรู้ที่หลากหลาย และสามารถถ่ายทอดเผยแพร่ องค์ความรู้ให้กับผู้อื่น 5. อยู่อย่างพอเพียง หมายถึง มีความเป็นอยู่อย่างพอเพียงรู้จักการด ารงชีวิตให้มีคุณค่า 6. มุ่งมั่นในการท างาน หมายถึง มุ่งมั่นท างานอย่างรอบคอบจนประสบผลส าเร็จ 7. รักความเป็นไทย หมายถึง ตระหนักเห็นคุณค่าของความเป็นไทย และมีเจตคติที่ดี รักษาเอกลักษณ์ ไทย และขนบธรรมเนียมประเพณี 8. มีจิตสาธารณะ หมายถึงมี ความส านึกและมุ่งท าประโยชน์และสร้างสิ่งที่ดีงามในสังคม และอยู่ ร่วมกันในสังคมอย่างมีความสุข
8 ค าอธิบายรายวิชาเพิ่มเติม ว31207 . เคมี1 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรียนที่ 1 เวลา 40 ชั่วโมง จ านวน 1.0 หน่วยกิต ศึกษาสืบค้นข้อมูล สมมุติฐาน การทดลอง หรือผลการทดลองที่เป็นประจักษ์พยานในการเสนอ แบบจ าลองอะตอมของนักวิทยาศาสตร์และอธิบายวิวัฒนาการของแบบจ าลองอะตอม การเขียนสัญลักษณ์นิ เคลียร์ของธาตุพร้อมระบุจ านวนโปรตรอน นิวตรอน และอิเล็กตรอน ของอะตอมจากนิวเคลียร์ รวมทั้งบอก ความหมายของไอโซโทป และเขียนการจัดเรียงอิเล็กตรอนในระดับพลังงานหลักและระดับพลังงานย่อย พร้อมทั้งระบุหมู่ ระบุคาบ ความเป็นโลหะ อโลหะและกึ่งโลหะ รวมทั้งธาตุแทรนซิซันในตารางธาตุ การ ค านวณครึ่งชีวิตของไอโซโทปกัมมันตรังสี การเกิดพันธะโคเวเลนต์ ความยาวของพันธะและการค านวณหา พลังงานของพันธะ ฝึกเขียนสูตรและเรียกชื่อของสารประกอบโคเวเลนต์ เรโซแนน สภาพขั้วโมเลกุล รูปร่าง โมเลกุลโควาเลนต์ สารโครงร่างผลึกร่างตาข่าย ศึกษาการเกิดพันธะไฮโดรเจน พันธะไอออนิก ฝึกเขียนสูตร และเรียกชื่อของสารประกอบไอออนิก ศึกษาและทดลองสมบัติบางประการของสารไอออนิก พันธะโลหะ โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ การส ารวจตรวจสอบ สังเกต การสืบค้นข้อมูล การอภิปราย เพื่อการเปรียบเทียบ การท านาย การทดลอง เพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สื่อสารสิ่งที่เรียนรู้ มีความสามารถในการตัดสินใจ เห็นคุณค่าของการน าความรู้ไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจ าวัน ดูแลรักษาสิ่งมีชีวิตอื่น เฝ้าระวัง สิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน มีจิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรม และค่านิยมที่เหมาะสม
9 -การเกิดพนัธะไอออนิก - การเขียนสูตรและการเรียกชื่อสารประกอบไอออนิก - แรงยดึเหนี่ยวระหวา่งพนัธะไออนิก - การเกิดพนัธะโคเวเลนต์ - การเขียนสูตรและการเรียกชื่อสารประกอบโคเวเลนต์ - แรงยดึเหนี่ยวระหวา่งโมเลกลุโคเวเลนต์ - การเกิดพนัธะโลหะ - คุณสมบัติของพันธะโลหะ -แรงยดึเหนี่ยวระหวา่งพนัธะโลหะ ผังมโนทัศน์ - แบบจ ำลองอะตอมของนักวิทยำศำสตร์ และอธิบำยวิวัฒนำกำรของ แบบจ ำลองอะตอม ผลกำรทดลอง - เขียนสัญลักษณ์นิวเคลียร์ของธำตุ และระบุ จ ำนวนโปรตอน นิวตรอน และอิเล็กตรอนของ - สัญลักษณ์นิวเคลียร์ - บอกควำมหมำยของไอโซโทป - ระบุหมู่ คำบ ควำมเป็นโลหะ อโลหะ และ กึ่งโลหะ -ธำตุเรพรีเซนเททีฟ -ธำตุแทรนซิชันในตำรำงธำตุ - ค ำนวณครึ่งชีวิตของไอโซโทปกัมมันตรังสี หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 แบบจ าลองอะตอม และตารางธาตุ หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 พันธะเคมี รหัสวิชา ว32101 รายวิชา วิทยาศาสตร์กายภาพเคมี ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 จ านวน 1.5 หน่วยกิต เวลา 60 ชั่วโมง
10 โครงสร้างรายวิชา ว31207 เคมี 1 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรียนที่ 1 เวลา 40 ชั่วโมง จ านวน 1.0 หน่วยกิต ล าดับที่ ชื่อหน่วยการเรียนรู้ ผลการเรียนรู้ สาระส าคัญ เวลา ( ชั่วโมง) น้ าหนัก คะแนน 1 แบบจ าลองอะตอม และตารางธาตุ ข้อที่ 1 - ข้อที่ 8 - แบบจ าลองอะตอมของ นักวิทยาศาสตร์ และอธิบาย วิวัฒนาการของแบบจ าลองอะตอม ผล การทดลอง - เขียนสัญลักษณ์นิวเคลียร์ของธาตุ และระบุ จ านวนโปรตอน นิวตรอน และอิเล็กตรอนของ - สัญลักษณ์นิวเคลียร์ - บอกความหมายของไอโซโทป - ระบุหมู่ คาบ ความเป็นโลหะ อโลหะ และ กึ่งโลหะ -ธาตุเรพรีเซนเททีฟ -ธาตุแทรนซิชันในตารางธาตุ - ค านวณครึ่งชีวิตของไอโซโทป กัมมันตรังสี 20 50 2 พันธะเคมี ข้อที่ 9 - ข้อที่ 21 -การเกิดพันธะไอออนิก - การเขียนสูตรและการเรียกชื่อ สารประกอบไอออนิก - แรงยึดเหนี่ยวระหว่างพันธะไออนิก - การเกิดพันธะโคเวเลนต์ - การเขียนสูตรและการเรียกชื่อ สารประกอบโคเวเลนต์ - แรงยึดเหนี่ยวระหว่างโมเลกุล โคเวเลนต์ - การเกิดพันธะโลหะ - คุณสมบัติของพันธะโลหะ -แรงยึดเหนี่ยวระหว่างพันธะโลหะ 20 50 รวมตลอดภาคเรียน 40 100
โครงสร้างหลักสูตรโครงสร้างแผนกรหัสวิชา ว32107 รายวิชา เคมี 1 กลุชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรียนที่ 1 ปีกาเวลา 40 ชั่วโมง/สัปดาห์ แผนการ จัดการ เรียนรู้ที่ เนื้อหา/ สาระ การเรียนรู้ มาตรฐาน/ ผลการเรียนรู้ จุดประสงค์รายชั่วโมง 1 แบบจ ำลองอะตอมของ นักวิทยำศำสตร์ ข้อ 1 อธิบำยวิวัฒนำกำรของแบบจ ำกำรทดลอง 2 เขียนสัญลักษณ์นิวเคลียร์ของ ธำตุ ข้อ 2 อธิบายเขียนสัญลักษณ์นิวเคลี3 ระบุ จ ำนวนโปรตอน นิวตรอน และอิเล็กตรอน ข้อ 3 ระบุ จ านวนโปรตอน นิวตรออิเล็กตรอน 4 สัญลักษณ์นิวเคลียร์ ข้อ 2 สัญลักษณ์นิวเคลียร์ 5 บอกควำมหมำยของไอโซโทป ข้อ 2 อธิบายความหมายของไอโซโ6 ระบุหมู่ คำบ ควำมเป็นโลหะ อโลหะ และ กึ่งโลหะ ข้อ 4 อธิบายความเป็นโลหะ อโลห7 ธำตุเรพรีเซนเททีฟ ข้อ 5 อธิบายความหมายของธาตุเร8 ธำตุแทรนซิชันในตำรำงธำตุ ข้อ 6 อธิบายความหมายของธาตุธาตารางธาตุ
11 ร รายวิชา เคมี 1 การจัดการเรียนรู้ ลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์กายภาพเคมี ารศึกษา 2567 จ านวน 1.0 หน่วยกิต อัตตราส่วนคะแนน 80 : 20 ค์ เครื่องมือ สอนคิด สมรรถนะส าคัญ เวลา (ชั่วโมง) ลองอะตอม ผล - Diagram /ใบงาน ความสามารถในการคิด 2 ลียร์ของธาตุ - Six Thinking Hats/ ใบงาน ความสามารถในการคิด 2 อน และ - KWL - Diagram ความสามารถในการคิด 2 - Diagram /ใบงาน ความสามารถในการคิด 2 โทป - KWL/ใบงาน ความสามารถในการคิด 2 หะและกึ่งโลหะ - Diagram -- KWL ความสามารถในคิด 2 รพรีเซนเททีฟ - Diagram/ใบงาน ความสามารถในการคิด 2 าตุแทรนซิชันใน - Diagram - Six Thinking Hats ความสามารถในการคิด 2
แผนการ จัดการ เรียนรู้ที่ เนื้อหา/ สาระ การเรียนรู้ มาตรฐาน/ ผลการเรียนรู้ จุดประสงค์รายชั่วโมง 9 ค ำนวณครึ่งชีวิตของไอโซโทป ข้อ 7 ค านวณครึ่งชีวิตของไอโซโทป10 กัมมันตรังสี ข้อ 8 อธิบายสารกัมมันตรังสี 11 สอบกลาง12 กำรเกิดพันธะไอออนิก ข้อ 9 อธิบายการเกิดไอออนและกาไอออนิก 13 กำรเขียนสูตรและกำรเรียกชื่อ สำรประกอบไอออนิก ข้อ 10 เขียนสูตร และเรียกชื่อสารป14 แรงยึดเหนี่ยวระหว่ำงพันธะ ไออนิก ข้อ 11- ข้อ13 อธิบายแรงยึดเหนี่ยวระหว่าง15 กำรเกิดพันธะโคเวเลนต์ ข้อ 14 อธิบายการเกิดพันธะโคเวเลน16 กำรเขียนสูตรและกำรเรียกชื่อ สำรประกอบโคเวเลนต์ ข้อ 15 การเขียนสูตรและการเรียกชื่โคเวเลนต์ 17 แรงยึดเหนี่ยวระหว่ำงโมเลกุล โคเวเลนต์ ข้อ16 –ข้อ 19 อธิบายแรงยึดเหนี่ยวระหว่างโคเวเลนต์ 18 กำรเกิดพันธะโลหะและ คุณสมบัติของพันธะโลหะ ข้อ 20 อธิบายการเกิดพันธะโลหะ 19 แรงยึดเหนี่ยวระหว่ำงพันธะ โลหะ ข้อ 21 อธิบายแรงยึดเหนี่ยวระหว่าง20 สอบปลาย
12 ค์ เครื่องมือ สอนคิด สมรรถนะส าคัญ เวลา (ชั่วโมง) ป - Six Thinking Hats ความสามารถในการคิด 2 - Diagram /ใบงาน ความสามารถในการคิด 2 ภาค 1 ารเกิดพันธะ - Diagram - ใบงาน ความสามารถในการคิด 2 ระกอบไอออนิก - Six Thinking Hats - ใบงาน ความสามารถในการคิด 2 งพันธะไออนิก - Diagram/ใบงาน ความสามารถในการคิด 2 นต์ - Diagram/ใบงาน ความสามารถในการคิด 2 อสารประกอบ - Six Thinking Hats ความสามารถในการคิด 2 งโมเลกุล - Diagram/ใบงาน ความสามารถในการคิด 2 - Diagram/ใบงาน ความสามารถในการคิด 2 งพันธะโลหะ - Diagram/ใบงาน ความสามารถในการคิด 2 ยภาค 1
วิธีการวัดผลแรหัสวิชา ว32107 รายวิชา เคมี 1 กลุ่มชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรียนที่ 1 ปีกาเวลา 40 ชั่วโมง/สัปดาห์ ที่ ผลการเรียนรู้ 1 สืบค้นข้อมูลสมมติฐำน กำรทดลองหรือผลกำรทดลองที่เป็นประจักษ์พยำนในแบบจ ำลองอะตอมของนักวิทยำศำสตร์และอธิบำยวิวัฒนำกำรของแบบจ ำลอ2 เขียนสัญลักษณ์นิวเคลียร์ของธาตุ และระบุจ านวนโปรตอน นิวตรอน และอิเอะตอมจากสัญลักษณ์นิวเคลียร์ รวมทั้งบอกความหมายของไอโซโทป 3 อธิบาย และเขียนการจัดเรียงอิเล็กตรอนในระดับพลังงานหลักและระดับพลังทราบเลขอะตอมของธาตุ 4 ระบุหมู่ คาบ ความเป็นโลหะ อโลหะ และกึ่งโลหะ ของธาตุเรพรีเซนเททีฟ และธาตุแทรนซิชันในตารางธาตุ
13 และประเมินผล มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ารศึกษา 2567 จ านวน 1.0 หน่วยกิต อัตตราส่วนคะแนน 80 : 20 คะแนนระหว่างภาค รวมคะแนน K S A กลาง ภาค ระหว่าง ภาค ปลาย ภาค ตลอด ภาคเรียน นกำรเสน องอะตอม 2 1 - 2 3 - 5 เล็กตรอนของ 2 1 - 2 3 - 5 งงานย่อย เมื่อ 2 1 - 2 3 - 5 2 1 - 2 3 - 5
ที่ ผลการเรียนรู้ 5 วิเครำะห์ และบอกแนวโน้มสมบัติของธำตุเรพรีเซนเททีฟตำมหมู่และตำมคำบ 6 บอกสมบัติของธำตุโลหะแทรนซิชัน และเปรียบเทียบสมบัติกับธำตุโลหะในกลุ่มเททีฟ 7 อธิบำยสมบัติและค ำนวณครึ่งชีวิตของไอโซโทปกัมมันตรังสี 8 สืบค้นข้อมูล และยกตัวอย่ำงกำรน ำธำตุมำใช้ประโยชน์รวมทั้งผลกระทบต่อสิ่ง9 อธิบำยกำรเกิดไอออนและกำรเกิดพันธะไอออนิก โดยใช้แผนภำพหรือสัญลักษณลิวอิส 10 เขียนสูตร และเรียกชื่อสำรประกอบไอออนิก 11 ค ำนวณพลังงำนที่เกี่ยวข้องกับปฏิกิริยำกำรเกิดสำรประกอบไอออนิกวัฏจักรบอ
14 คะแนนระหว่างภาค รวมคะแนน K S A กลาง ภาค ระหว่าง ภาค ปลาย ภาค ตลอด ภาคเรียน 2 1 - 2 3 - 5 มธำตุเรพรีเซน 2 1 - 2 3 - 5 2 1 - 2 3 - 5 มีชีวิตและสิ่งแวดล้อม2 1 - 2 3 - 5 ณ์แบบจุดของ 2 1 - 2 3 - 5 2 1 - 2 3 - 5 อร์น-ฮำเบอร์ 2 1 - - 3 2 5
ที่ ผลการเรียนรู้ 12 อธิบำยสมบัติของสำรประกอบไอออนิก 13 เขียนสมกำรไอออนิกและสมกำรไอออนิกสุทธิของปฏิกิริยำของสำรประกอบไออ14 อธิบำยกำรเกิดพันธะโคเวเลนต์แบบพันธะเดี่ยวพันธะคู่ และพันธะสำม ด้วยโคร15 เขียนสูตร และเรียกชื่อสำรโคเวเลนต์ 16 วิเครำะห์ และเปรียบเทียบควำมยำวพันธะและพลังงำนพันธะในสำรโคเวเลนต์ พลังงำนที่เกี่ยวข้องกับปฏิกิริยำของสำรโคเวเลนต์จำกพลังงำนพันธะ 17 วิเครำะห์ และเปรียบเทียบควำมยำวพันธะและพลังงำนพันธะในสำรโคเวเลนต์ พลังงำนที่เกี่ยวข้องกับปฏิกิริยำของสำรโคเวเลนต์จำกพลังงำนพันธะ 18 ระบุชนิดของแรงยึดเหนี้แ.ยวระหว่ำงโมเลกุลโคเวเลนต์และเปรียบเทียบจุดหลอเดือด และกำรละลำยน้ ำของสำรโคเวเลนต์
15 คะแนนระหว่างภาค รวมคะแนน K S A กลาง ภาค ระหว่าง ภาค ปลาย ภาค ตลอด ภาคเรียน 2 1 - - 3 2 5 ออนิก 2 1 - - 3 2 5 รงสร้ำงลิวอิส 2 1 - - 3 2 5 2 1 - - 3 2 5 รวมทั้ค ำนวณ 2 1 - - 3 2 5 รวมทั้ค ำนวณ 2 1 - - 3 2 4 อมเหลวจุด 1 1 - - 2 2 4
ที่ ผลการเรียนรู้ 19 สืบค้นข้อมูล และอธิบำยสมบัติของสำรโคเวเลนต์โครงร่ำงตำข่ำยชนิดต่ำง ๆจะมีต่ำงกัน เช่น เพชร แกรไฟต20 อธิบำยกำรเกิดพันธะโลหะและสมบัติของโลหะ • พันธะโลหะเกิดจำกเวเลนซ์อิเทุกอะตอมของโลหะเคลื่อนที่อย่ำงอิสระไปทั่วทั้งโลหะ และเกิดแรงยึดเหนี่ยวกับนิวเคลียสทุกทิศทำง 21 ๒๑. เปรียบเทียบสมบัติบำงประกำรของสำรประกอบไอออนิก สำรโคเวเลนต์แสืบค้นข้อมูลและน ำเสนอตัวอย่ำงกำรใช้ประโยชน์ของสำรประกอบไอออนิก สำและโลหะ ได้อย่ำงเหมำะสม รวม
16 คะแนนระหว่างภาค รวมคะแนน K S A กลาง ภาค ระหว่าง ภาค ปลาย ภาค ตลอด ภาคเรียน มีสมบัติ 1 1 - - 2 2 4 ล็กตรอนของ บโปรตอนใน 1 1 - - 2 2 4 และโลหะ รโคเวเลนต์ 2 1 - - 3 2 4 39 21 - 20 60 20 100
17 กระบวนการคิด 12 คิด เชื่อมโยงสู่แผนการจัดการเรียนรู้ ที่ กระบวนการคิด ค าส าคัญ (Key Words) เครื่องมือสอนคิด 1 คิดวิเคราะห์ จ าแนก/หาส่วนประกอบ/ระบุสาเหตุส าคัญ/ วิเคราะห์องค์ประกอบ/แยกแยะความสัมพันธ์/ แปล/ถอดความ/อธิบายข้อเท็จจริง PMI White Hat (หมวกสีขาว) 2 คิดเปรียบเทียบ บอกความเหมือน/แยกแยะความแตกต่าง/ ระบุส่วนที่เหมือน/ระบุส่วนที่ต่าง/ เทียบเคียงความเหมือนและความแตกต่าง/ ให้เทียบเคียง/เปรียบเทียบ Compare and Contrast 3 คิดวิพากษ์ บอกจุดอ่อน/บอกจุดด้อย/ระบุข้อเสีย/ จ าแนกสิ่งที่เกิดขึ้น/ให้นิยามสิ่งที่เกิดขึ้น/โต้แย้ง/ วิพากษ์วิจารณ์/บอกอุปสรรค/ข้อบกพร่อง/ระมัดระวัง PMI Black Hat (หมวกด า) 4 คิดอย่างมี วิจารณญาณ บอกเหตุผล/ชี้หลักเกณฑ์/อธิบายข้อสรุป/สรุปเหตุผล/ ยกตัวอย่างสิ่งที่เกิดขึ้น/ให้เหตุผล/อภิปราย Cause and Effect 5 คิดแก้ปัญหา จัดหมู่ปัญหา/บอกความคิดเห็น/ล าดับวิธีการ แก้ปัญหา/ แก้โจทย์ปัญหา/สร้างแนวทางแก้ไข/เตรียมข้อมูล/ แก้ปัญหา/ค านวณ/ข้อเสนอแนะ PMI Green Hat (หมวกสี เขียว) 6 คิดสังเคราะห์ ออกแบบ/เขียน/สาธิต/เสนอ/ผลิต/ตกแต่ง/สรุป/ ระบุสิ่งที่รู้/เสนอเนื้อหา KWL
18 ที่ กระบวนการคิด ค าส าคัญ (Key Words) เครื่องมือสอนคิด 7 คิดประยุกต์ ประดิษฐ์/ประยุกต์ใช้/วางแผน/ดัดแปลง/ปรังปรุง/ จัดระบบ/จุดเด่น/สิ่งที่เป็นประโยชน์/ให้ข้อมูลเชิง บวก/แสวงหาทางเลือก PMI Yellow Hat (หมวกสี เหลือง) 8 คิดสร้างสรรค์ จัดตั้ง/ริเริ่ม/แต่ง/เสนอสิ่งใหม่/สร้าง/เล่า/ความคิด ใหม่/คิดอย่างสร้างสรรค์/เพื่อการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น Green Hat (หมวกสี เขียว) 9 คิดเชิงมโนทัศน์ แสดงแผนผัง/เขียนแบบผังความคิด/ สรุปแบบ Diagram/ออกแบบผังมโนทัศน์ Diagram Mind Mapping 10 คิดบูรณาการ ระลึก/ทบทวน/ให้ค านิยาม/ให้รายการ/จัดหมู่/ เลือกใช้แทน/ให้ความรู้สึก/บอกอารมณ์ OPV Red Hat (หมวกสีแดง) 11 คิดอนาคต เลือก/ท านาย/พยากรณ์/คาดการณ์/เตรียม CAF 12 คิดเชิงกลยุทธ์ สรุปประเมิน/ตัดสิน/จัดอันดับ/ป้องกัน/วางแผน/ ตัดสินใจ/สรุปความคิดทั้งหมด/สร้างความชัดเจน/ หาทางยุติ Ranking Blue Hat (หมวกสีน้ า เงิน)
19 9 คิด ชีวิตพอเพียง ค าส าคัญเชื่อมโยงสู่แผนการสอน พอเพียง ค าส าคัญ (Key words) พอเพียง 1 ความพอประมาณ พอดี, พอเหมาะ, เหมาะสม, พอสมควร, พอประมาณ พอเพียง 2 ความมีเหตุผล เพราะ, อะไร, ท าไม, อย่างไร, เพื่ออะไร, แนวทางแก้ไขอย่างไร พอเพียง 3 การมีภูมิคุ้มกันที่ดีในตัว จิตส านึก, ศึกษา, ค้นคว้า พอเพียง 4 เงื่อนไขความรู้ รอบรู้, รอบคอบ, ระมัดระวัง, วางแผน, ปฏิบัติ พอเพียง 5 เงื่อนไขคุณธรรม ซื่อสัตย์, สุจริต, อดทน, พากเพียร, สติปัญญา, คุณธรรม พอเพียง 6 วัตถุ สิ่งของ, ของใช้, อุปกรณ์ พอเพียง 7 สังคม ความร่วมมือ, ความเป็นอยู่, ความสัมพันธ์, เหตุการณ์ พอเพียง 8 สิ่งแวดล้อม สถานการณ์, สภาพแวดล้อม,สภาพการณ์, สภาวะแวดล้อม, ผลกระทบ พอเพียง 9 วัฒนธรรม ขนบธรรมเนียม, ประเพณี, จารีต, สืบสาน, สืบทอด, เผยแผ่, เผยแพร่, วิถีชีวิต, กฎเกณฑ์, แบบอย่าง, แบบแผน, ความเจริญ