พธิ พี ระราชทานดนิ ฝงั ศพของศาสนาอสิ ลาม
“ศาสนา ทุกศาสนามีความคิดเกี่ยวกับเรือ่ งความตาย และความเชื่อหลังความตาย ที่แตกต่างกนั ไปตามความเชือ่
ของแต่ละศาสนา ในศาสนาอิสลามก็มีความคิดเกี่ยวกับเรื่องความตาย และความเชื่อหลังความตาย มีรูปแบบ
และมีขั้นตอนของพิธีกรรมที่เกี่ยวกับความตาย ที่ควรนำมาอธิบาย เพื่อเป็นองค์ความรู้ให้กับบุคคลทั่วไป
ไดท้ ราบถงึ ความคดิ ความเชอ่ื ความหมาย รายละเอียด และขน้ั ตอนของพิธีกรรม ทเี่ กีย่ วกบั ความตายในศาสนาอสิ ลาม”
ความตาย และความเชื่อเรื่องความตายใน เมื่อเราเกิดขึ้นมาจะอยู่ใน “ดุนยา” ซึ่งเป็นโลก
ชั่วคราว ที่ใช้อาศัยชั่วคราวในช่วงเวลาหนึ่ง หากเมื่อเรา
ศาสนาอิสลาม การทำศพของศาสนาอิสลามคือการฝัง เสียชีวิตลงแล้ว จะเข้าสู่โลกของชีวิตในหลุมฝังศพที่เรียกวา่
เป็นการกลับคืนสู่ดินที่เป็นต้นกำเนิดของตนเอง เพราะใน “อาลัมบัรซัค” ซึ่งการเข้าสู่โลกที่สองน้ีผู้ตายไม่อาจพก
สิ่งของใดติดตัวมาโลกที่สองนี้ได้ เว้นแต่เพียงความดี
คัมภีร์อัลกุรอานกล่าวว่า “จากแผ่นดินเราได้บังเกิดพวกเจ้า 3 ประการ ตามหลักศาสนาอิสลาม อันได้แก่ การให้ทาน
และ ณ แผ่นดินนั้นเราจะให้พวกเจ้ากลับคืนไป” และเมื่อ ที่เขายังมีคุณูปการอยู่ (เช่น เคยบริจาคเงินสร้างสิ่งสาธารณะ
ประโยชน์ และยังมีคนใช้ประโยชน์จากสิ่งนั้นอยู่ หลังจากที่
อิสลามคนใดสิ้นชีพลง คนจะกล่าวเป็นภาษาอาหรับว่า ผู้บริจาคได้ตายไปแล้ว) ความรู้ที่เขาได้เผยแผ่ และลูกที่ดีคอย
ขอพรให้ และความดีอื่นๆ ที่เคยกระทำไว้ใน “ดุนยา” เพื่อรอวัน
“อินนาลิลลาฮี วาอนิ นาอีลัยฮรี อญอี ูน” แปลว่า “แท้จริงเรา พพิ ากษา “วันกยิ ามะฮ์” ว่าจะได้อยู่ส่วนใดของโลก “อาคเิ ราะฮ์”
เป็นกรรมสิทธ์ขิ องอัลลอฮ์ และยงั พระองคท์ ่ีเราต้องกลับไป” ทจ่ี ะมี 2 สว่ นคือสวรรค์ หรือ นรก
“ทุกชีวิตย่อมลิ้มรสความตาย” คำสอนที่สะท้อน หลักการของศาสนาอิสลามไม่มีการเวียนว่ายตายเกิด
คติความเชื่อของอิสลาม ที่มีความเชื่อว่า พระเจ้าทรง มนุษย์ทุกคนที่เกิดมาในโลกนี้ หน้าที่ของเขาคือ การศรัทธา
กำหนดมนุษย์ กำหนดวันเกิด และกำหนดวันตายไว้ให้แล้ว ต่ออัลลอฮ์ ศรัทธาต่อท่านนบีมุฮัมหมัด ยึดมั่นปฏิบัติตาม
ชีวิตของคนน้นั มีเพียงครั้งเดยี ว เมื่อตายไปแลว้ ไม่กลับมาอีก บัญญัติของอัลลอฮ์ และคำสอนของร่อซูล และดำรงตนอยู่
แต่การตายนั้นไม่ใช่การสูญสลายหายไป เป็นเพียงการเปลี่ยน กับการประกอบความดี ละเว้นการทำความชั่ว เมื่อเขาตายไป
ผ่านจากโลกหน่ึงไปสู่อีกโลกหนึ่งเท่านั้น ซึง่ มนษุ ยท์ ุกคนจะได้ เขาจะต้องถูกสอบสวนการงานที่เขาปฏบิ ัติ ถ้าหากว่าเขาทำความดี
เยือนโลกทั้งสาม โดยตามหลักศาสนาที่มีบอกกล่าวไว้ว่า เขาก็จะได้รับการตอบแทนด้วยสิ่งที่ดี และได้รับความผาสุก
มนุษย์ต้องได้พบกับโลกทั้งสาม “ดุนยา” หมายถึงโลกน้ี ของโลกหนา้ และผใู้ ดทท่ี ำความชว่ั เขาก็จะถกู ลงโทษโลกหน้า
“อาลัมบัรซัค” หมายถึงโลกในหลุมฝังศพ และ “อาคิเราะฮ์”
หมายถงึ โลกหน้า ดังนั้น หลักการเวียนว่ายตายเกิด เช่น ผู้ใด
ทำความดี เขาก็จะได้เกิดในภพต่อไปโดยอยู่ในระดบั
ที่ประเสริฐกว่า ดีกว่าการเกิดของเขาในภพนี้ เช่น ภพน้ี
เกิดเป็นมนุษย์ ภพหน้าจะได้เกิดเป็นเทวดา หรือผู้ใดที่ทำ
ความชั่วในโลกนี้ ในภพหน้าเขาจะได้เกิดในระดับต่ำกว่า
เช่น ในภพนี้เกิดเป็นมนุษย์ ในภพหน้าอาจเกิดเป็นสัตว์
เป็นสุนัข เป็นสุกร หลักการเชื่อม่ันเชน่ นี้ ไม่มีอยู่ในศาสนา
อิสลาม
การปฏิบตั ติ อ่ ผตู้ ายของศาสนาอิสลาม จำเป็นจะตอ้ งมี ๔ ข้นั ตอน ดังน้ี
1. การอาบนำ้ ศพ - ผู้อาบน้ำศพควรเป็นเพศเดียวกับศพ และเป็นบุคคลใกล้ชิดกับผู้ตาย เช่น ลูกอาบให้พ่อ
พ่ออาบให้ลูก และสามีภรรยาอาบน้ำศพให้แก่กันและกัน ผู้อาบน้ำศพควรใส่ถุงมือ ซึ่งทำมาจาก
ผ้าธรรมดา เพื่อจะได้ไม่สัมผัสส่วนที่เป็นอวัยวะพึงปกปิดของผู้ตาย แล้วทำการรีดท้องของ
ผู้ตายเพียงเบาๆ เพื่อให้สิ่งที่ติดค้างอยู่ในท้องได้เคลื่อนออกมาจนหมด เมื่อล้างทวารทั้งสอง
ของผู้ตายเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว ก็เอาก้อนสำลีอุดไว้ที่ทวารหนัก เพื่อป้องกันไม่ให้สิ่งเปรอะเปื้อน
เคล่อื นออกมาอีก
- แลว้ จัดการทำความสะอาดฟัน ปาก จมูก เล็บของผู้ตาย โดยเอาเศษผ้าม้วนแล้วถูฟันให้ผู้ตายเท่าท่ี
สามารถจะทำได้ แล้วอาบน้ำละหมาดให้แกผ่ ู้ตาย เมื่อเสร็จแล้วก็ให้ราดน้ำทางขวามอื ของผู้ตาย
3 ครัง้ ทางดา้ นซ้าย 3 คร้ัง แล้วฟอกสบู่ หรอื เอานำ้ พทุ ราราดสลบั กับน้ำสะอาดกไ็ ด้
- การถูส่วนใดส่วนหนึ่งของผู้ตายให้ทำโดยแผ่วเบาเมื่อเรียบร้อยแล้ว ก็ให้จัดการพลิกผู้ตาย
ให้นอนตะแคง แล้วชำระร่างกายด้านหลังของผู้ตาย การราดน้ำอาบให้ผู้ตายให้ทำเป็นจำนวนค่ี
เช่น 3,5,7,9 ฯลฯ เมื่อชำระร่างกายของผู้ตายด้วยน้ำสะอาดทั่วดีแล้ว ก็ให้ราดครั้งสุดท้าย
ดว้ ยน้ำที่มกี ล่ินหอม เชน่ นำ้ การบูร พมิ เสน เปน็ ตน้
- เมื่ออาบน้ำเรียบร้อยแล้ว ก็เอาผ้าซับร่างกายของผู้ตายให้แห้ง แล้วเอาสำลีที่เคล้าด้วยของหอม
ปดิ ใบหนา้ ขอ้ พับ และตามซอกต่างๆ ของร่างกาย ไม่ต้องตดั ผม ตัดเลบ็ หรือโกนหนวดโกนเครา
ใหแ้ กผ่ ตู้ าย
2. การหุ้มห่อศพ (กาฝั่น) – ต้องหุ้มห่อศพด้วยผ้าที่สะอาด ควรเป็นสีขาว อย่างน้อยชั้นเดียว ไม่ว่าจะเป็นศพผู้ชาย
หรือผู้หญิงก็ตาม และ “สุนัต” (สิ่งที่ทำแล้วได้บุญ ถ้าไม่ทำก็ไม่เกิดโทษ) ระบุว่า ถ้าเป็นชาย
ใหห้ ่อ 3 ชัน้ ส่วนหญงิ ให้หอ่ 5 ช้นั (คอื 1. ผา้ นุ่ง 2. เสอ้ื 3. ผา้ คลมุ ศรษี ะ และผ้าหุ้มหอ่ อกี 2 ชั้น)
- เอาผ้าผนื หน่ึงปูลงไปก่อน แล้วเอาของหอมๆ เช่น ไม้จนั ทน์หรือน้ำมันจันทน์ โรยหรือประพรมลง
ไปบนผา้ แล้วเอาผา้ ผนื ที่ 2 ปูทับลงไป เอาของหอมโรยเหมอื นชั้นท่ี 1 ให้โรยของหอมลงทุกชน้ั
- เม่ือเสร็จแล้วยกศพวางลงบนผ้า ให้ศพนอนเหยียดตรง แล้วเอามือขวาทับมือซ้ายวางไว้บนอก
เอาสำลีเคลา้ เคร่ืองหอมมาปิดตามซอกต่างๆ เช่น ขอ้ พบั จมูก หน้าผาก หวั เขา่ และฝ่ามอื เปน็ ต้น
เมื่อเสร็จแล้วให้พับผ้ากาฝั่นทางซ้ายมาทางขวา และพับทางขวามาทับทางซ้าย ส่วนชั้นที่ 2 ชั้นที่ 3
กท็ ำเช่นนี้ แล้วใหร้ วมผา้ ทีเ่ หลือทางศรี ษะ และทางปลายเท้า ผูกไวโ้ ดยไมต่ อ้ งแน่นนกั
3. การละหมาดศพ - เมื่อนำศพไปวางยังที่จะทำพิธีละหมาดศพนั้น ให้ตั้งศพตามขวางทิศกับกิบละฮ์ ที่กรุงเมกกะฮ์
4. การฝงั ศพ ในประเทศซาอุดิอาระเบีย (ในประเทศไทยคือทิศตะวันตก) โดยให้หันศีรษะของศพอยู่ด้านทิศเหนือ
ส่วนผู้นำละหมาดนั้น ถ้าศพเป็นผู้ชายให้ผู้นำละหมาดยืนค่อนไปทางศีรษะของศพ ถ้าศพเป็นผู้หญิง
ให้ผู้นำละหมาดยืนตรงสะโพกของศพ สำหรับผู้ตามละหมาดนั้น ให้ยืนหลังผู้นำละหมาด
ตั้งแถวให้ตรงและยืนชิดกัน โดยตั้งเป็น 3 แถว จะเรียกว่าแถวได้จะต้องมีผู้ยืนในแถว
อย่างน้อย 3 คนขึ้นไป ถ้าหากว่ามีผู้ตามละหมาดเพียงคนเดียว ก็ให้ยืนข้างขวาของผู้นำละหมาด
เช่นเดียวกับละหมาดทั่วไป และสมควรให้ผู้ที่มีความเคร่งครัดในศาสนาอิสลามเป็นผู้นำละหมาด
หรือจะให้ทายาทเป็นผู้นำละหมาดก็ได้ เมื่อเสร็จพิธีละหมาด ต่อจากนั้น “วายิบ” (สิ่งที่จำเป็นต้องทำ)
ให้นำผูต้ ายไปฝัง และมี “สุนัต” (สิ่งที่ทำแล้วได้บุญ ถ้าไม่ทำก็ไม่เกิดโทษ) ให้เดินตามไป “กุโบร์”
(สุสานฝังศพ) กับผู้ตายด้วย ส่วนผู้ที่เห็นผู้ตายถูกนำผ่านมา “สุนัต” (สิ่งที่ทำแล้วได้บุญ
ถา้ ไม่ทำกไ็ ม่เกิดโทษ) ให้ยืนเป็นการให้เกียรติจนกว่าผู้ตายนั้นจะถูกนำผ่านไป
- เมื่อละหมาดให้คนตายเสร็จแล้ว ให้รีบนำศพไปฝัง การฝังนั้นต้องขุดหลุมให้ลึกพอที่จะระงับกลิ่น
ที่จะมีภายหลังได้ และสามารถป้องกันไม่ให้สัตว์ร้ายมาคุ้ยเขี่ยศพนั้นด้วย โดยปกติหลุมฝังศพ
จะขุดลึกประมาณ 2 เมตร กว้าง 1 เมตร ยาว 2 เมตร และสมควรให้ญาติพี่น้องใกล้ชิดเป็นคนช่วย
นำศพลงหลุม เชน่ บิดา สามี บตุ รของผตู้ าย เปน็ ต้น
- วิธีฝังศพ ให้เอาศพนอนตะแคงขวา หันหน้าไปทางกิบละฮ์ ที่กรุงเมกกะฮ์ ในประเทศซาอุดิอาระเบีย
(ในประเทศไทยคือทิศตะวันตก) ใช้ดินหนุนศีรษะให้สูงขึ้นเล็กน้อย และใช้ดินหนุนหลังไว้
กันไม่ให้ศพล้ม แก้เชือกผูกผ้าห่อออก เมื่อเอากระดานปิดลูกหลุมแล้ว หรือวางหีบลงในหลุม
เรียบร้อยแลว้ จงึ เอาดนิ กลบ และทำดนิ ให้แนน่
พิธีพระราชทานดนิ ฝังศพของศาสนาอสิ ลาม
- ก่อนเริ่มพิธีพระราชทานดินฝังศพ เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานพิธี จัดเตรียมโต๊ะ
พร้อมปูผ้าขาว สำหรับวางกล่องดินพระราชทาน และจัดเตรียมปูเสื่อหรือพรมสำหรับ
ประธานและเจา้ หน้าท่ีในการปฏบิ ัตงิ านและประกอบพิธีพระราชทานดินฝังศพ
- เมื่อใกล้เวลาพระราชทานดินฝังศพ เจ้าหน้าท่ีปฏิบัติงานพิธี จำนวน ๑ นาย
แต่งกายชุดกากี สนว. ๐๑ เชิญทายาท เจ้าภาพ ตั้งแถวรอรับกล่องดินพระราชทาน
เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานพิธี จำนวน ๑ นาย แต่งกายชุดปกติขาวติดแขนทุกข์ เชิญกล่อง
ดินพระราชทานเดินผ่านแถวที่ตั้งรอรับกล่องดินพระราชทาน โดยทายาท เจ้าภาพ
แสดงความเคารพด้วยการยนื ตรงในอาการสำรวม ไม่ตอ้ งคำนบั
- ส่วนผู้ที่มาร่วมงาน นั่งอยู่ในอาการอันสำรวม ไม่ต้องยืนขึ้น ไม่ต้องทำความเคารพ และไม่มีการบรรเลงเพลง
แตอ่ ย่างใด
- เจา้ หน้าทปี่ ฏบิ ตั งิ านพธิ ี เชิญกลอ่ งดนิ พระราชทานไปวางบนโต๊ะปผู ้าขาวด้านศีรษะของผวู้ ายชนม์
- แล้วหมุนพานเชิญกล่องดินพระราชทาน จากนั้นทำความเคารพกล่องดินพระราชทาน โดยการไหว้
๑ ครั้ง จากน้ันเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานพิธี ทำความเคารพผู้วายชนม์โดยการคำนับ ๑ ครั้ง แล้วเดินออกพกั รอเวลา
ปฏบิ ัติ
- ทายาท เจ้าภาพที่ตั้งแถว ให้ทำความเคารพพร้อมกับเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานพิธี แล้วเลิกแถว เพื่อรอเวลา
พระราชทานดินฝังศพ เมื่อถึงเวลาพระราชทานดินฝังศพตามหมายรับสั่ง เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานพิธี เชิญทายาท
เจา้ ภาพ มายนื แถวหน้ากระดานด้านข้างผู้อ่านหมายรบั สัง่
- การอ่านให้เริ่มอ่านหมายรับสั่ง อ่านสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ อ่านประวัติผู้วายชนม์ ตามลำดับ
ก่อนอ่านหมายรับสั่ง ให้ทายาท เจ้าภาพถวายความเคารพด้วยการคำนับไปยังทิศที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ประทับ หรือพระบรมมหาราชวัง หลังจากอ่านสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณจบแล้ว ให้ทายาท เจ้าภาพถวายความ
เคารพด้วยการคำนับไปยังทศิ เดิมอกี คร้งั
- สำหรับผู้อ่านหมายรับสั่ง หากเป็นบุคคลเดียวกับผู้อ่านสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ให้ถวายความ
เคารพฯ 2 ครั้ง คอื ก่อนอ่านหมายรับสัง่ และหลังจากอ่านสำนกึ ในพระมหากรุณาธิคุณจบแล้ว แต่หากมิใชบ่ คุ คลเดียวกัน
ให้ถวายความเคารพก่อน และหลังการอา่ นหมายรับส่ัง หรือสำนกึ ในพระมหากรุณาธิคณุ จากนั้นตัวแทนเจ้าภาพอ่านประวัติ
ผวู้ ายชนม์
- ขณะอ่านหมายรับสั่ง ให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานพิธี จำนวน ๒ นาย แต่งกายชุดปกติขาวติดแขนทุกข์
เขา้ แตง่ กลอ่ งดินพระราชทาน ทำความเคารพกล่องดนิ พระราชทาน โดยการไหวพ้ ร้อมกัน ๑ คร้งั
- เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานพิธี ผู้เชิญกล่องดินพระราชทานแกะห่อถุงผ้าโปร่งสีดำ เปิดฝากล่องดินพระราชทาน
ในกริ ิยาทีส่ ำรวม และเจ้าหน้าที่ปฏิบตั งิ านพิธีอีก ๑ นาย ถอื พานเชญิ ดินพระราชทาน
- เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานพิธี ผู้เชิญกล่องดินพระราชทาน หยิบดินพระราชทาน 1 คู่ วางไว้บนพานเชิญดิน
พระราชทาน แล้วไหวพ้ รอ้ มกนั ๑ คร้ัง
- เจ้าหน้าท่ีปฏิบัติงานพิธี ๑ นาย ถือพานเชิญกล่องดินพระราชทาน และเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานพิธีอีก ๑ นาย
ถือพานเชิญดินพระราชทาน ยืนรอปฏิบัติบริเวณด้านปลายเท้าผู้วายชนม์ จากนั้นเจ้าหน้าที่เชิญประธานประกอบ
พิธีพระราชทานดนิ ฝงั ศพ
- ประธานถวายความเคารพไปยังทิศที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวประทับ หรือพระบรมมหาราชวัง ประธานและ
เจ้าหนา้ ทีป่ ฏิบัติงานพธิ ีท้งั ๒ นาย ลงเข่า เพ่อื ประกอบพธิ ีวางดินพระราชทาน
- เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานพิธี เชิญพานส่งดินพระราชทานให้กับประธานครั้งละ ๑ คู่ ประธานหยิบดิน
พระราชทานวางบนหลุมฝังศพ โดยวางดินสีขาวทางด้านขวามือของผู้วายชนม์ก่อน จากนั้นวางดินสีดำทางด้านซ้ายมือ
ของผ้วู ายชนม์
- ขณะประธานวางดินพระราชทาน ให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานพิธี จำนวน ๑ นาย แต่งกายชุดกากี สนว. ๐๑ เรียนเชิญผู้ที่มา
ร่วมงานยืนขึ้น เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานพิธีผู้เชิญกล่องดินพระราชทาน หยิบดินพระราชทานครั้งละ ๑ คู่ วางบนพานเชิญดิน
พระราชทานทีเ่ จ้าหน้าทป่ี ฏิบตั ิงานพิธีอกี คนถือไว้ เพ่อื เตรียมสง่ ดินพระราชทาน ให้กับประธาน
- ประธานรับดินพระราชทานวางบนหลุมฝังศพ ไปจนครบ ๑๐ คู่ เมื่อวางดินพระราชทานครบแล้ว ประธานและ
เจ้าหน้าที่ลุกยืน โดยให้ประธานหันไปถวายความเคารพยังทิศเดิมอีกครั้ง แล้วหันมาทำความเคารพผู้วายชนม์
โดยเจา้ หนา้ ท่ที ำความเคารพพร้อมประธาน แล้วประธานเดนิ ออก
- เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานพิธี เรียนเชิญผู้ที่มาร่วมงานให้นั่งลง เมื่อประธานประกอบพิธีเสรจ็ สิน้ จากนั้นเจ้าหนา้ ที่
ปฏิบัติงานพิธีทั้ง ๒ นาย เดินไปยังโต๊ะวางกล่องดินพระราชทาน ปิดฝากล่องดินพระราชทานและห่อถุงผ้าโปร่งสีดำ
ผูกโบว์ไว้ในรูปแบบเดิม แล้วไหว้พร้อมกัน ๑ ครั้ง ถือพานเชิญกล่องดินพระราชทาน และพานเชิญดินพระราชทาน
แลว้ เดินออกเปน็ อนั เสร็จพิธี
บทสรุป
จากหลักคำสอนในศาสนาอิสลาม ให้ทำพิธีศพอย่างเรียบง่ายและรวดเร็ว ส่วนใหญ่จะใช้เวลา
เพียง 1 วัน ทำให้บรรยากาศภายในงานเต็มไปด้วยความสำรวม และร่วมแรงร่วมใจกันในการร่วมพิธีส่งศพ
ในกรณีที่มีพิธีพระราชทานดินฝังศพของศาสนาอิสลาม จะมีการเริ่มพิธีพระราชทานดินฝังศพหลังจากฝังศพของ
ผู้ตายเรียบร้อยแล้ว โดยพิธีตามหลักศาสนาจะมี ๔ ขั้นตอน เริ่มจากการอาบน้ำศพ ห่อศพด้วยผ้ากาฝั่น บางแห่ง
อาจจะให้ผู้ตายสวมชุดละหมาดสีขาว ก่อนจะห่อด้วยผ้าทับไปอีกชั้น แล้วค่อยเคลื่อนศพไปมัสยิด โดยจะมีญาติ
และครอบครัวมาร่วมกันขอพร และละหมาดอุทิศให้ผู้จากโลกนี้ไป ก่อนจะเคลื่อนศพไปที่สุสานหรือที่เรียกว่า
“กโุ บร์” (สุสานฝงั ศพ) แล้วนำศพลงหลมุ ที่ขุดเตรียมไว้ โดยให้ศพนอนตะแคงหนั หน้าไปทางกิบละฮ์ ทีก่ รุงเมกกะฮ์
ในประเทศซาอุดิอาระเบีย (ในประเทศไทยคือทิศตะวันตก) แล้วจึงปักเครื่องหมายบนหลุมศพ เพื่อไม่ให้ใครเผลอ
มาเหยียบ และเพื่อให้ญาติมิตรจำได้เวลามาเยี่ยมผู้ตาย ด้วยการพูนดิน ปลูกต้นไม้ หรือใช้หิน หรือไม้ปักหลุมศพ
แต่ต้องเรียบง่ายไม่ตกแต่งมากเกินไป “กุโบร์” (สุสานฝังศพ) ส่วนใหญ่จะอยู่ภายในเขตมัสยิด หรืออยู่ท่ามกลาง
ย่านที่อยู่อาศยั ไม่ตั้งอยู่ในที่ทีห่ ่างไกลผูค้ นเหมือนสสุ านของศาสนาอืน่ ๆ เพราะศาสนาอิสลามสนับสนุนให้ไปเยีย่ ม
สสุ าน เพอ่ื ขอพรใหผ้ ู้ล่วงลับ การขอพรในท่นี ้ี คอื การวอนขอพระเจ้าให้ทรงเมตตา และยกโทษใหผ้ ู้ตายในความผิด
ที่เขาอาจเคยได้ทำไว้ ในบางชุมชนผู้ร่วมงานจะกล่าวยืนยันว่าผู้ตายเป็นคนดี เพื่อขอให้พระเจ้าทรงกรุณาพาเขา
สู่สวรรค์ด้วย และเพ่อื เตอื นใจวา่ ความตายเป็นสิ่งใกล้ตัวที่จะมาถงึ ตนเองสกั วนั
ข้อมูลอ้างอิง
ชมรมผู้บริหารมัสยดิ เขตหนองจอก. ค่มู ือมอุ ัลลัฟ (มุสลิมใหม่) (ฉบับปรับปรุง ฮ.ศ. 1435). พิมพ์คร้ังท่ี ๒๖.
กรุงเทพมหานคร: ชมรมผู้บรหิ ารมัสยดิ เขตหนองจอก, ๒๕๖๑ (๑๔๓๙).
วสมน สาณะเสน นักวิชาการด้านศิลปะอิสลาม เจ้าของเพจ It’s Turkish Delight รีววิ ศลิ ปวัฒนธรรม
ในตุรกี ชอบเท่ียว Street Food และเล่นกบั แมว
“Every soul shall taste death เจาะลึกเรื่องความเช่ือเรอื่ งความตายและโลกหลงั สิน้ ชีวิตของมุสลิม”
[สืบค้นเมอ่ื วนั ที่ 5 กุมภาพนั ธ์ 2565]
เรียบเรยี งโดย
นายนรินทร์ นิลวงศ์ นกั วิชาการวฒั นธรรมปฏิบตั กิ าร
กองพิธกี ารศพที่ไดร้ บั พระราชทาน กลุ่มพัสดุงานพธิ ี