ชั่วโมงที่ 2 ขั้นสอน (ต่อ) 5. ผู้สอนให้ผู้เรียนท ากิจกรรม ตัวอักษรหรรษำ พร้อมอธิบายวิธีการท าใบงาน คือ ให้ผู้เรียน ออกแบบชื่อ นามสกุล ตัวเอง ทั้งภาษาไทย และภาษาอังกฤษ โดยใช้อักษรศิลป์ (WordArt) ใน โปรแกรม Microsoft Word 6. ผู้สอนให้เวลาผู้เรียนในการท ากิจกรรม โดยที่ผู้สอนคอยดูแลความเรียบร้อยและคอยให้ค าแนะน า เพิ่มเติม 7. เมื่อครบก าหนดเวลา ผู้สอนสุ่มผู้เรียนออกมาน าเสนอผลงาน โดยให้ผู้เรียนคนอื่น ๆ รวมทั้งผู้สอน ร่วมกันเสนอแนะแสดงความคิดเห็น 8. ผู้สอนเปิดSlide สื่อกำรสอน กำรเพิ่มกล่องข้อควำม (Text box) ในโปรแกรม Microsoft Word พร้อมอธิบายว่า กล่องข้อความ (Text box) คือวัตถุที่สามารถเพิ่มลงในเอกสาร ช่วยให้ วางและพิมพ์ข้อความที่ใดก็ได้ในเอกสาร ช่วยเพิ่มความสนใจไปยังข้อความที่เฉพาะเจาะจง และ เมื่อต้องการย้ายข้อความไปส่วนใดก็ได้ในเอกสาร โดยการเพิ่มกล่องข้อความในโปรแกรม Microsoft Word มีขั้นตอน ดังนี้ 1. ไปที่แท็บแทรก (Insert) 2. เลือกเครื่องมือกล่องข้อความ (Text box)
3. เลือกแม่แบบ หรือวาดกล่องข้อความ 4. วาดกล่องข้อความตามขนาดที่ต้องการ และพิมพ์หรือ วางข้อความในกล่องข้อความ กำรคัดลอกกล่องข้อควำม มีขั้นตอน ดังนี้ 1. เลือกเส้นขอบของกล่องข้อความที่ต้องการคัดลอก 2. ไปที่ หน้าแรก เลือกเครื่องมือคัดลอก (Copy) 3. เมื่อต้องการวาง ให้เลือกเครื่องมือ วาง (Paste) 4. เมื่อต้องการตัดให้เลือกเครื่องมือ ตัด (Cut)
9. ผู้สอนให้ผู้เรียนท ากิจกรรม กล่องข้อควำม พร้อมอธิบายวิธีการท ากิจกรรม คือ ให้ผู้เรียน สร้าง กล่องข้อความต่อลงมาจากอักษรศิลป์ที่ผู้เรียนได้ท าไว้ในกิจกรรม ตัวอักษรหรรษำ โดยสร้าง กล่องข้อความที่มีขนาดเท่ากัน ทั้งหมด 3 กล่อง วางเรียงต่อกันลงมา และพิมพ์ข้อความในกล่อง ข้อความ ดังนี้ กล่องที่ 1 พิมพ์ชื่ออาหารที่ผู้เรียนชอบรับประทาน กล่องที่ 2 พิมพ์ชื่อผลไม้ที่ผู้เรียนชอบรับประทาน กล่องที่ 3 พิมพ์ชื่อวิชาที่ผู้เรียนชอบเรียนมากที่สุด ตัวอย่ำง 10. ผู้สอนให้เวลาผู้เรียนในการท ากิจกรรม โดยที่ผู้สอนคอยดูความเรียบร้อย และคอยให้ค าแนะน า เพิ่มเติม
ชั่วโมงที่ 3 ขั้นสอน (ต่อ) 11. ผู้สอนแจกใบควำมรู้ที่ 1 เรื่อง กำรก ำหนดรูปแบบตัวอักษร พร้อมกับให้ผู้เรียนน าเมาส์ชี้ที่ เครื่องมือตามที่ผู้สอนบอกและช่วยกันบอกว่า เครื่องมือนั้น ๆ ชื่อว่าอะไร และมีหน้าที่อะไร 12. ผู้สอนให้ผู้เรียนท ากิจกรรม กล่องข้อควำมต่อให้เสร็จเรียบร้อย โดยใช้ความรู้เรื่องการก าหนด รูปแบบตัวอักษรในกล่องข้อความ ปรับแต่งให้มีความน่าสนใจ 13. ผู้สอนให้เวลาผู้เรียนในการท ากิจกรรมโดยที่ผู้สอนคอยดูแลความเรียบร้อยและคอยให้ค าแนะน า เพิ่มเติม 14. ผู้สอนอธิบายเพิ่มเติมว่า เมื่อเลือกที่กล่องข้อความจะปรากฏแท็บรูปแบบของเครื่องมือกลุ่มค าสั่ง ที่ใช้ในการจัดการกล่องข้อความ ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับการจัดการรูปแบบอักษรศิลป์ ให้ผู้เรียนปรับแต่งกล่องข้อความให้สวยงาม ตัวอย่ำง 15. เมื่อครบก าหนดเวลา ผู้สอนให้ผู้เรียน จดจ าข้อมูลบนหน้าจอของเพื่อนในชั้นเรียนให้ได้มากที่สุด 16. ผู้สอนสุ่มถามผู้เรียน เช่น “นักเรียนคนใด ชอบรับประทานอะไรมากที่สุดมีใครรู้บ้าง?”
ขั้นสรุป 17. ผู้สอนและผู้เรียนร่วมกันสรุปว่า เครื่องมืออักษรศิลป์ (WordArt) เครื่องมือกล่องข้อความ (Textbox) เครื่องมือเติมสีข้อความ เครื่องมือเส้นกรอบข้อความ เครื่องมือเอฟเฟ็กต์ข้อความ ช่วยให้ข้อความธรรมดาๆมีความสวยมากยิ่งขึ้น ช่วยให้งานเอกสารมีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น 18. ผู้สอนเปิดโอกาสให้ผู้เรียนสอบถามเพิ่มเติม 9. สื่อกำรเรียนรู้ 1. ใบงานที่ 5 ออกแบบอักษรศิลป์ 2. กิจกรรม ตัวอักษรหรรษา 3. กิจกรรม กล่องข้อความ 4. Slide สื่อการสอน อักษรศิลป์ (WordArt) 5. Slide สื่อการสอน การเพิ่มกล่องข้อความ (Text box) ในโปรแกรม Microsoft Word 6. ใบความรู้ที่ 1 เรื่อง การก าหนดรูปแบบตัวอักษร 7. โปรแกรม Microsoft Word 0 10. กำรวัดและประเมินผล วิธีกำร เครื่องมือ เกณฑ์ กิจกรรม ตัวอักษรหรรษา แบบประเมินผลงาน คุณภาพอยู่ในระดับ ดี ผ่านเกณฑ์ กิจกรรม กล่องข้อความ แบบประเมินผลงาน คุณภาพอยู่ในระดับ ดี ผ่านเกณฑ์ ประเมินพฤติกรรมรายบุคคล กิจกรรม กล่องข้อความ จากการท ากิจกรรมสร้าง จัดเก็บ และเรียกใช้ไฟล์ แบบประเมินพฤติกรรม รายบุคคล คุณภาพอยู่ในระดับ ดี ผ่านเกณฑ์
11. ควำมเห็นของหัวหน้ำสถำนศึกษำ/ผู้ที่ได้รับมอบหมำย ได้ท าการตรวจแผนการจัดการเรียนรู้ของนางสาวชนกานต์ สุต๋าค า แล้วมีความเห็นดังนี้ 1. เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่ ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรับปรุง 2. การจัดกิจกรรมได้น าเอากระบวนการเรียนรู้ เน้นผู้เรียนเป็นส าคัญมาใช้ในการสอนได้อย่างเหมาะสม ยังไม่เน้นผู้เรียนเป็นส าคัญ ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป 3. เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่ น าไปใช้ได้จริง ควรปรับปรุงก่อนน าไปใช้ 4. ข้อเสนอแนะอื่น ๆ ........................................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................................... ลงชื่อ.................................................. (.................................................) วันที่........เดือน...............พ.ศ. ...........
แบบบันทึกหลังแผนกำรสอน รำยวิชำ Microsoft Word ชั้นประถมศึกษำปีที่ 4 หน่วยกำรเรียนรู้ที่ 2 โปรแกรมประมวลค ำ Microsoft Word จ ำนวน 14 ชั่วโมง แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ที่ 4 กำรแทรกข้อควำมในโปรแกรม Microsoft Word เวลำเรียน 3 ชั่วโมง ผลกำรเรียนรู้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ปัญหำอุปสรรค ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ข้อเสนอแนะแนวทำงแก้ไข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ…………………….…………….ผู้สอน ( นำงสำวชนกำนต์ สุต๋ำค ำ ) ต ำแหน่ง ครูผู้ช่วย ………………/…………....../…………… ควำมคิดเห็นของผู้บริหำรสถำนศึกษำ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………............................................ ลงชื่อ…………………………….ผู้บริหำรสถำนศึกษำ (…………………..…………………………) ต ำแหน่ง……………………………………… ………………/…………....../……………
แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ที่5 กลุ่มสำระกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี รำยวิชำ Microsoft Word ชั้นประถมศึกษำปีที่ 4 หน่วยกำรเรียนรู้ที่ 2 โปรแกรมประมวลค ำ Microsoft Word จ ำนวน 14 ชั่วโมง แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ที่ 5 กำรแทรกภำพประกอบในโปรแกรม Microsoft Word เวลำเรียน 3 ชั่วโมง 1. ผลกำรเรียนรู้ 1. บอกวิธีใช้งานของเครื่องมือในโปรแกรมประมวลผลค า Microsoft Word ได้อย่างถูกต้อง 2. ใช้เครื่องมือในโปรแกรมประมวลผลค า Microsoft Word ในการสร้างชิ้นงานได้ 2. สำระส ำคัญ/ควำมคิดรวบยอด การแทรกภาพประกอบ (Illustrations) รวบรวมเครื่องมือ ที่ใช้ในการแทรกภาพประกอบเอาไว้ ซึ่ง ประกอบด้วย 1. รูปภาพ (Picture) ใช้แทรกรูปภาพจากเครื่องคอมพิวเตอร์ หรือ อุปกรณ์อื่น ๆ 2. รูปภาพออนไลน์ ใช้แทรกภาพจากเครือข่ายอินเทอร์เน็ต 3. รูปร่าง (Shapes) ใช่แทรกรูปร่างส าเร็จรูป เช่น วงกลม ลูกศร 4. สมาร์ทอาร์ต (SmartArt) ใช้แทรกภาพที่สื่อความหมาย เช่น แผนผัง 5. แผนภูมิ (Chart) ใช้แทรกแผนภูมิ เช่น แผนภูมิแท่ง 6. สกรีนช็อต (Screenshot) ใช้แทรกภาพที่ตัดจากหน้าจอ 3. จุดประสงค์กำรเรียนรู้ 1. อธิบายวิธีการแทรกภาพประกอบในโปรแกรม Microsoft Word ได้ (K) 2. ใช้เครื่องมือแทรกภาพประกอบในโปรแกรม Microsoft Word ได้ (P) 3. เห็นความส าคัญของการใช้โปรแกรมประมวลผลค าในการสร้างชิ้นงาน (A) 4. สำระกำรเรียนรู้ 1. การแทรกรูปภาพ (Picture) และการตกแต่งรูปภาพ 2. การแทรกรูปภาพออนไลน์ 3. การแทรกรูปร่าง (Shapes) และการตกแต่งรูปร่าง 4. การแทรกสมาร์อาร์ต (SmartArt) และการเปลี่ยนสีให้สมาร์อาร์ต 5. การแทรกแผนภูมิ (Chart) และการเปลี่ยนสีให้แผนภูมิ 6. การแทรกภาพที่ตัดจากหน้าจอ (Screenshot)
5. สมรรถนะส ำคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 6. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการท างาน 7. ภำระงำน 1. ใบงานที่ 6 ภาพประกอบ (Illustrations) 2. กิจกรรม ครอบครัวของฉัน 8. กำรจัดกิจกรรมกำรเรียนรู้ 1. วิธีการสอนแบบสร้างสรรค์เป็นฐาน (Creativity-Based Learning : CBL) 2. การจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning ชั่วโมงที่ 1 ขั้นน ำเข้ำสู่บทเรียน 1. ผู้สอนถามผู้เรียนเพื่อเป็นการทบทวนความรู้เดิม และเพื่อเป็นการกระตุ้นความสนใจของผู้เรียน เช่น “นอกจากข้อความ อักษรศิลป์ และกล่องข้อความ โปรแกรม Microsoft Word จะสามารถ ใส่รูปภาพลงไปในเอกสารได้หรือไม่?” แนวค ำตอบ : สามารถท าได้ เนื่องจากโปรแกรม Microsoft Word มีเครื่องมือ รูปภาพ อยู่ในแท็บแทรก (Insert) ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ใช้แทรกรูปภาพจากเครื่องคอมพิวเตอร์ หรือ อุปกรณ์อื่น ๆ ขั้นสอน 2. ผู้สอนให้ผู้เรียนเปิดโปรแกรม Microsoft Word ขึ้นมา ตามขั้นตอนการเปิดโปรแกรม ให้ไปที่ แท็บแทรก (Insert) และไปที่ภาพประกอบ (Illustrations) ซึ่งเป็นการรวบรวมเครื่องมือ ที่ใช้ใน การแทรกภาพประกอบเอาไว้ ผู้สอนให้ผู้เรียนน าเมาส์ชี้ที่เครื่องมือ ที่ผู้สอนก าลังอธิบาย ประกอบด้วย
1. รูปภาพ (Picture) ใช้แทรกรูปภาพจากเครื่องคอมพิวเตอร์ หรือ อุปกรณ์อื่น ๆ 2. รูปภาพออนไลน์ ใช้แทรกภาพจากเครือข่ายอินเทอร์เน็ต 3. รูปร่าง (Shapes) ใช่แทรกรูปร่างส าเร็จรูป เช่น วงกลม ลูกศร 4. สมาร์ทอาร์ต (SmartArt) ใช้แทรกภาพที่สื่อความหมาย เช่น แผนผัง 5. แผนภูมิ (Chart) ใช้แทรกแผนภูมิ เช่น แผนภูมิแท่ง 6. สกรีนช็อต (Screenshot) ใช้แทรกภาพที่ตัดจากหน้าจอ ชั่วโมงที่ 2 ขั้นสอน (ต่อ) 3. ผู้สอนเปิดคลิปวิดีโอ ภำพประกอบ (Illustrations) เพื่อให้ผู้เรียนได้ศึกษาเรียนรู้ 4. ผู้สอนแจกใบงำนที่ 6 ภำพประกอบ (Illustrations) พร้อมอธิบายวิธีการท าใบงาน คือ ให้ ผู้เรียนจับคู่เครื่องมือภาพประกอบที่เหมาะสมกับภาพที่ก าหนด 5. ผู้สอนให้เวลาผู้เรียนในการท าใบงาน โดยที่ผู้สอนคอยดูแลความเรียบร้อยและคอยให้ค าแนะน า เพิ่มเติม 6. เมื่อครบก าหนดเวลา ผู้สอนและผู้เรียนร่วมกันเฉลยใบงาน
ชั่วโมงที่ 3 ขั้นสอน (ต่อ) 1. ผู้สอนเปิดคลิปวิดิโอ ตัวอย่ำง กำรท ำแผนผังครอบครัวของฉัน 2. ผู้สอนให้เวลาผู้เรียน 30 นาที ในการท ากิจกรรม ครอบครัวของฉัน พร้อมอธิบายวิธีการท า กิจกรรมคือ ให้ผู้เรียนท า Family Tree หรือ แผนผังครอบครัวของนักเรียน ด้วยโปรแกรม Microsoft โดยผู้เรียนสามารถใช้ภำพประกอบครอบครัวของฉัน ที่ผู้สอนเตรียมไว้ หรือรูปภาพออนไลน์ก็ ได้ 3. เมื่อครบก าหนดเวลา ผู้สอนให้ผู้เรียนแต่ละคนน าเสนอผลงาน โดยที่ผู้สอนและผู้เรียนคนอื่น ๆ ร่วมกันเสนอแนะแสดงความคิดเห็น ขั้นสรุป 4. ผู้สอนและผู้เรียนร่วมกันสรุปว่า โปรแกรม Microsoft Word สามารถแทรกภาพประกอบ (Illustrations) เพื่อช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับงานเอกสาร และเลือกใช้เครื่องมือที่ใช้แทรก ภาพประกอบที่เหมาะสมกับข้อมูลที่ต้องการน าเสนอ ยกตัวอย่างเช่น เมื่อต้องการน าเสนอข้อมูล จ านวนนักเรียนของห้องเรียนป.4/2 ที่มาสาย สามารถน าเสนอในรูปแบบแผนภูมิ เพื่อให้เข้าใจ ง่าย หรือเมื่อต้องการน าเสนอข้อมูลเกี่ยวกับกระบวนการเจริญเติบโตของต้นถั่วงอกก็สามารถใช้ เครื่องมือ SmartArt ร่วมกับเครื่องมือรูปภาพ ในการน าเสนอข้อมูลให้น่าสนใจได้ 5. ผู้สอนเปิดโอกาสให้ผู้เรียนสอบถามเพิ่มเติม 9. สื่อกำรเรียนรู้ 1. โปรแกรม Microsoft Word 2. คลิปวิดีโอ ภาพประกอบ (Illustrations) 3. คลิปวิดิโอ ตัวอย่าง การท าแผนผังครอบครัวของฉัน 4. ใบงานที่ 6 ภาพประกอบ (Illustrations) 5. กิจกรรม ครอบครัวของฉัน 6. ภาพประกอบครอบครัวของฉัน 0
10. กำรวัดและประเมินผล วิธีกำร เครื่องมือ เกณฑ์ ใบงานที่ 6 ภาพประกอบ (Illustrations) แบบประเมินผลงาน คุณภาพอยู่ในระดับ ดี ผ่านเกณฑ์ กิจกรรม ครอบครัวของฉัน แบบประเมินผลงาน คุณภาพอยู่ในระดับ ดี ผ่านเกณฑ์ ประเมินพฤติกรรมรายบุคคล จากการท ากิจกรรมสร้าง จัดเก็บ และเรียกใช้ไฟล์ แบบประเมินพฤติกรรม รายบุคคล คุณภาพอยู่ในระดับ ดี ผ่านเกณฑ์
11. ควำมเห็นของหัวหน้ำสถำนศึกษำ/ผู้ที่ได้รับมอบหมำย ได้ท าการตรวจแผนการจัดการเรียนรู้ของนางสาวชนกานต์ สุต๋าค า แล้วมีความเห็นดังนี้ 1. เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่ ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรับปรุง 2. การจัดกิจกรรมได้น าเอากระบวนการเรียนรู้ เน้นผู้เรียนเป็นส าคัญมาใช้ในการสอนได้อย่างเหมาะสม ยังไม่เน้นผู้เรียนเป็นส าคัญ ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป 3. เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่ น าไปใช้ได้จริง ควรปรับปรุงก่อนน าไปใช้ 4. ข้อเสนอแนะอื่น ๆ ........................................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................................... ลงชื่อ.................................................. (.................................................) วันที่........เดือน...............พ.ศ. ...........
แบบบันทึกหลังแผนกำรสอน รำยวิชำ Microsoft Word ชั้นประถมศึกษำปีที่ 4 หน่วยกำรเรียนรู้ที่ 2 โปรแกรมประมวลค ำ Microsoft Word จ ำนวน 14 ชั่วโมง แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ที่ 5 กำรแทรกภำพประกอบในโปรแกรม Microsoft Word เวลำเรียน 3 ชั่วโมง ผลกำรเรียนรู้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ปัญหำอุปสรรค ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ข้อเสนอแนะแนวทำงแก้ไข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ…………………….…………….ผู้สอน ( นำงสำวชนกำนต์ สุต๋ำค ำ ) ต ำแหน่ง ครูผู้ช่วย ………………/…………....../…………… ควำมคิดเห็นของผู้บริหำรสถำนศึกษำ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………............................................ ลงชื่อ…………………………….ผู้บริหำรสถำนศึกษำ (…………………..…………………………) ต ำแหน่ง……………………………………… ………………/…………....../……………
แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ที่6 กลุ่มสำระกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี รำยวิชำ Microsoft Word ชั้นประถมศึกษำปีที่ 4 หน่วยกำรเรียนรู้ที่ 2 โปรแกรมประมวลค ำ Microsoft Word จ ำนวน 14 ชั่วโมง แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ที่ 6 กำรแทรกตำรำงในโปรแกรม Microsoft Word เวลำเรียน 3 ชั่วโมง 1. ผลกำรเรียนรู้ 1. บอกวิธีใช้งานของเครื่องมือในโปรแกรมประมวลผลค า Microsoft Word ได้อย่างถูกต้อง 2. ใช้เครื่องมือในโปรแกรมประมวลผลค า Microsoft Word ในการสร้างชิ้นงานได้ 2. สำระส ำคัญ/ควำมคิดรวบยอด ตาราง เป็นรูปแบบการแสดงข้อมูลชนิดหนึ่ง มักใช้ในการเปรียบเทียบข้อมูลตัวเลข และตัวอักษร ซึ่ง วิธีการสร้างตารางในโปรแกรมประมวลผลค า Microsoft Word สามารถท าได้ หลายวิธี ดังนี้ วิธีที่ 1 1. ไปที่แท็บแทรก (Insert) 2. ไปที่เครื่องมือตาราง (Table) 3. ก าหนดจ านวนตารางที่ต้องการแทรก วิธีที่ 2 1. ไปที่แท็บแทรก (Insert) 2. ไปที่เครื่องมือตาราง (Table) 3. เลือกแทรกตาราง (Insert Table) 4. จะปรากฏหน้าต่างขึ้นมา ให้ก าหนดจ านวนช่องตารางที่จะสร้างขึ้นมา 5. เลือกตกลง OK วิธีที่ 3 1. ไปที่แท็บแทรก (Insert) 2. ไปที่เครื่องมือตาราง (Table) 3. เลือกวาดตาราง (Draw Table) จะปรากฎดินสอส าหรับวาดตารางขึ้นมา วิธีที่ 4 1. ไปที่แท็บแทรก (Insert) 2. ไปที่เครื่องมือตาราง (Table) 3. เลือกกระดาษค านวณ Excel (Excel Spreadsheet) 4. จะปรากฏหน้าต่างโปรแกรม Microsoft Excel ขึ้นมา
วิธีที่ 5 1. ไปที่แท็บแทรก (Insert) 2. ไปที่เครื่องมือตาราง (Table) 3. เลือกตารางด่วน (Quick Tables) 4. เลือกรูปแบบตารางด่วนที่ต้องการ 3. จุดประสงค์กำรเรียนรู้ 1. อธิบายวิธีการแทรกตารางในโปรแกรม Microsoft Word ได้ (K) 2. ใช้เครื่องมือตารางในโปรแกรม Microsoft Word ในการสร้างตารางได้ (P) 3. เห็นความส าคัญของการใช้โปรแกรมประมวลผลค าในการสร้างชิ้นงาน (A) 4. สำระกำรเรียนรู้ 1. การแทรกตาราง 2. การลบตาราง 3. การปรับแต่งตาราง 4. การปรับแต่งสีตาราง 5. สมรรถนะส ำคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 6. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการท างาน 7. ภำระงำน 1. ใบงานที่ 7 การแทรกตารางในโปรแกรม Microsoft Word 2. กิจกรรม ออกแบบตารางกิจวัตรประจ าวัน
8. กำรจัดกิจกรรมกำรเรียนรู้ 1. วิธีการสอนแบบสร้างสรรค์เป็นฐาน (Creativity-Based Learning : CBL) 2. การจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning ชั่วโมงที่ 1 ขั้นน ำเข้ำสู่บทเรียน 1. ผู้สอนถามผู้เรียนเพื่อเป็นการทบทวนความรู้เดิม และเพื่อเป็นการกระตุ้นความสนใจของผู้เรียน เช่น “นักเรียนเคยพบเห็นการใช้ตารางเพื่อน าเสนอข้อมูล ในชีวิตประจ าวันบ้างหรือไม่? และ เป็นตารางที่น าเสนอข้อมูลเกี่ยวกับอะไร?” แนวค ำตอบ : เคยพบเห็น เช่น ตารางเรียน เวรประจ าวัน ปฏิทิน 2. ผู้สอนยกตัวอย่างการออกแบบตารางเพื่อน าเสนอข้อมูลที่ก าหนดให้ต่อไปนี้ การส ารวจการมา เรียนสายของนักเรียนชั้นประถมศึกษา ชั้น ป.1 มีนักเรียนมาสายจ านวน 4 คน ชั้น ป.2 มีนักเรียนมาสายจ านวน 3 คน ชั้น ป.3 มีนักเรียนมาสายจ านวน 5 คน ชั้น ป.4 มีนักเรียนมาสายจ านวน 1 คน ชั้น ป.5 มีนักเรียนมาสายจ านวน 2 คน ชั้น ป.6 มีนักเรียนมาสายจ านวน 1 คน เมื่อน าข้อมูลดังกล่าวมาน าเสนอด้วยตาราง จะได้ ดังนี้ ห้องเรียน จ ำนวนนักเรียนที่มำสำย (คน) ชั้น ป.1 4 ชั้น ป.2 3 ชั้น ป.3 5 ชั้น ป.4 1 ชั้น ป.5 2 ชั้น ป.6 1
ขั้นสอน 3. ผู้สอนอธิบายว่า ตาราง เป็นรูปแบบการแสดงข้อมูลชนิดหนึ่ง มักใช้ในการเปรียบเทียบข้อมูล ตัวเลข และตัวอักษร ซึ่งวิธีการสร้างตารางในโปรแกรมประมวลผลค า Microsoft Word สามารถ ท าได้ หลายวิธี 4. ผู้สอนแจกใบงำนที่ 7 กำรแทรกตำรำงในโปรแกรม Microsoft Word พร้อมอธิบายวิธีการ ท าใบงาน คือ ให้ผู้เรียนตั้งใจฟังคลิปวิดีโอ สื่อการสอน การแทรกตารางในโปรแกรม Microsoft Word พร้อมกับตอบค าถามที่มีในใบงานให้ถูกต้อง ครบถ้วน ซึ่งค าถามจะอยู่ในคลิปวิดีโอ ทั้งหมด หากผู้เรียนคิดว่าเร็วไป ต้องการให้หยุดเพื่อเขียนค าตอบตรงไหน สามารถแจ้งผู้สอนได้ ทันที ชั่วโมงที่ 2 ขั้นสอน (ต่อ) 5. ผู้สอนเปิดคลิปวิดีโอ สื่อกำรสอน กำรแทรกตำรำงในโปรแกรม Microsoft Word 6. ผู้สอนอธิบายเพิ่มเติมว่า ผู้เรียนสามารถจดความรู้เพิ่มเติมลงไปในช่อง Note ได้ 7. เมื่อครบก าหนดเวลา ผู้สอนสุ่มถามผู้เรียนเพื่อเป็นการประเมินความเข้าใจ ซึ่งเป็นค าถามที่อยู่ใน ใบงานที่ 7 การแทรกตารางในโปรแกรม Microsoft Word รวมทั้งถามว่า ผู้เรียนได้จด Note ในส่วนที่เป็นความรู้เพิ่มเติมว่าอย่างไรบ้าง? 8. ผู้สอนสุ่มถามผู้เรียนจากค าถามในใบงาน โดยให้ผู้เรียนคนอื่น ๆ รวมทั้งผู้สอน ร่วมกันเสนอแนะ แสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม เพื่อให้ได้ค าตอบที่ถูกต้องที่สุด ชั่วโมงที่ 3 ขั้นสอน (ต่อ) 1. ผู้สอนให้ผู้เรียนในการท ากิจกรรม ออกแบบตำรำงกิจวัตรประจ ำวัน พร้อมอธิบายวิธีการท า กิจกรรม คือ ให้ผู้เรียนออกแบบตารางกิจวัตรประจ าวันของผู้เรียนใน 1 สัปดาห์ 2. ผู้สอนเปิดภำพตัวอย่ำงตำรำงกิจวัตรประจ ำวันให้กับผู้เรียนดูเพื่อเป็นแนวทาง ภาพตัวอย่างตารางกิจวัตรประจ าวัน
3. ผู้สอนแนะน าเพิ่มเติมว่า ผู้เรียนสามารถใช้เครื่องมือที่ได้เรียนรู้มาแล้วเพื่อช่วยเพิ่มความ น่าสนใจให้กับตาราง เช่น การแทรกภาพประกอบ เครื่องมือรูปภาพ เครื่องมือรูปภาพออนไลน์ เครื่องมือรูปร่าง เครื่องมือ WordArt 4. ผู้สอนให้เวลาผู้เรียนในการท ากิจกรรม โดยที่ผู้สอนคอยดูแลความเรียบร้อยและคอยให้ ค าแนะน าเพิ่มเติม 5. เมื่อครบก าหนดเวลา ผู้สอนสุ่มผู้เรียนออกมาน าเสนอผลงาน โดยให้ผู้เรียนคนอื่น ๆ รวมทั้ง ผู้สอน ร่วมกันเสนอแนะแสดงความคิดเห็น ขั้นสรุป 1. ผู้สอนและผู้เรียนร่วมกันสรุปว่า การแทรกตารางในโปรแกรม Microsoft Word สามารถท าได้ หลายวิธี และยังสามารถปรับแต่งรูปแบบตาราง ช่วยให้การน าเสนอข้อมูลมีความน่าสนใจ 2. ผู้สอนเปิดโอกาสให้ผู้เรียนสอบถามเพิ่มเติม 9. สื่อกำรเรียนรู้ 1. โปรแกรม Microsoft Word 2. คลิปวิดีโอ สื่อการสอน การแทรกตารางในโปรแกรม Microsoft Word 3. ใบงานที่ 7 การแทรกตารางในโปรแกรม Microsoft Word 4. กิจกรรม ออกแบบตารางกิจวัตรประจ าวัน 5. ภาพตัวอย่างตารางกิจวัตรประจ าวัน 10. กำรวัดและประเมินผล วิธีกำร เครื่องมือ เกณฑ์ ใบงานที่ 7 การแทรกตารางใน โปรแกรม Microsoft word แบบประเมินผลงาน คุณภาพอยู่ในระดับ ดี ผ่านเกณฑ์ กิจกรรม ออกแบบตาราง กิจวัตรประจ าวัน แบบประเมินผลงาน คุณภาพอยู่ในระดับ ดี ผ่านเกณฑ์ ประเมินพฤติกรรมรายบุคคล จากการท ากิจกรรมสร้าง จัดเก็บ และเรียกใช้ไฟล์ แบบประเมินพฤติกรรม รายบุคคล คุณภาพอยู่ในระดับ ดี ผ่านเกณฑ์
11. ควำมเห็นของหัวหน้ำสถำนศึกษำ/ผู้ที่ได้รับมอบหมำย ได้ท าการตรวจแผนการจัดการเรียนรู้ของนางสาวชนกานต์ สุต๋าค า แล้วมีความเห็นดังนี้ 1. เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่ ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรับปรุง 2. การจัดกิจกรรมได้น าเอากระบวนการเรียนรู้ เน้นผู้เรียนเป็นส าคัญมาใช้ในการสอนได้อย่างเหมาะสม ยังไม่เน้นผู้เรียนเป็นส าคัญ ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป 3. เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่ น าไปใช้ได้จริง ควรปรับปรุงก่อนน าไปใช้ 4. ข้อเสนอแนะอื่น ๆ ........................................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................................... ลงชื่อ.................................................. (.................................................) วันที่........เดือน...............พ.ศ. ...........
แบบบันทึกหลังแผนกำรสอน รำยวิชำ Microsoft Word ชั้นประถมศึกษำปีที่ 4 หน่วยกำรเรียนรู้ที่ 2 โปรแกรมประมวลค ำ Microsoft Word จ ำนวน 14 ชั่วโมง แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ที่ 6 กำรแทรกตำรำงในโปรแกรม Microsoft Word เวลำเรียน 3 ชั่วโมง ผลกำรเรียนรู้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ปัญหำอุปสรรค ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ข้อเสนอแนะแนวทำงแก้ไข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ…………………….…………….ผู้สอน ( นำงสำวชนกำนต์ สุต๋ำค ำ ) ต ำแหน่ง ครูผู้ช่วย ………………/…………....../…………… ควำมคิดเห็นของผู้บริหำรสถำนศึกษำ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………............................................ ลงชื่อ…………………………….ผู้บริหำรสถำนศึกษำ (…………………..…………………………) ต ำแหน่ง……………………………………… ………………/…………....../……………
แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ที่7 กลุ่มสำระกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี รำยวิชำ Microsoft Word ชั้นประถมศึกษำปีที่ 4 หน่วยกำรเรียนรู้ที่ 2 โปรแกรมประมวลค ำ Microsoft Word จ ำนวน 14 ชั่วโมง แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ที่ 7 กำรน ำเสนอข้อมูลด้วยโปรแกรม Microsoft Word เวลำเรียน 3 ชั่วโมง 1. ผลกำรเรียนรู้ 1. ใช้เครื่องมือในโปรแกรมประมวลผลค า Microsoft Word ในการสร้างชิ้นงานได้ 2. ใช้ความรู้และทักษะการใช้งานโปรแกรมส านักงาน (Microsoft office) ในการน าเสนอข้อมูล ด้วยวิธีการที่เหมาะสม 2. สำระส ำคัญ/ควำมคิดรวบยอด กำรน ำเสนอข้อมูล (Presentation of Data) เป็นการน าข้อมูลที่รวบรวมข้อมูลที่ได้จากการศึกษา มาน าเสนอ หรือท าการเผยแพร่ให้ผู้ที่สนใจได้รับทราบ หรือน าไปวิเคราะห์เพื่อไปใช้ประโยชน์ การน าเสนอข้อมูลแบ่งออกได้ 2 ลักษณะ คือ 1. การน าเสนออย่างไม่เป็นแบบแผน (informal presentation) หมายถึง การน าเสนอที่ไม่มี กฎเกณฑ์อะไรที่จะต้องถือเป็นหลักมากนัก เช่น 1.1 การน าเสนอในรูปของบทความ 1.2 การน าเสนอข้อมูลในรูปของข้อความกึ่งตาราง 2. การน าเสนออย่างมีแบบแผน (formal presentation) เป็นการน าเสนอที่จะต้องปฏิบัติตาม หลักเกณฑ์ ที่ได้ก าหนดไว้เป็นมาตรฐาน เช่น 2.1 การน าเสนอในรูปตาราง (Tabular presentation) 2.2 การน าเสนอด้วยกราฟเส้น (Line graph) 2.3 การน าเสนอด้วยแผนภูมิแท่ง (Bar chart) 2.4 การน าเสนอด้วยรูปแผนภูมิวงกลม (Pie chart) การใช้โปรแกรม Microsoft Word ช่วยในการน าแสนอข้อมูล สามารถท าได้ทั้งการน้ าเสนออย่างไม่ เป็นแบบแผน และการน าเสนออย่างมีแบบแผน 3. จุดประสงค์กำรเรียนรู้ 1. อธิบายวิธีการใช้งานโปรแกรม Microsoft Word ในการน าเสนอข้อมูลได้ (K) 2. ใช้โปรแกรม Microsoft Word ในการน าเสนอข้อมูลได้ (P) 3. เห็นความส าคัญของการใช้โปรแกรมประมวลผลค าในการสร้างชิ้นงาน (A)
4. สำระกำรเรียนรู้ 1. รูปแบบของการน าเสนอข้อมูล 2. ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 3. การใช้โปรแกรม Microsoft Word ในการน าเสนอข้อมูล 5. สมรรถนะส ำคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 6. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. อยู่อย่างพอเพียง 4. มุ่งมั่นในการท างาน 7. ภำระงำน 1. กิจกรรม น าเสนอข้อมูลด้วยโปรแกรม Microsoft Word 8. กำรจัดกิจกรรมกำรเรียนรู้ 1. วิธีการสอนแบบสร้างสรรค์เป็นฐาน (Creativity-Based Learning : CBL) 2. การจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning ชั่วโมงที่ 1 ขั้นน ำเข้ำสู่บทเรียน 1. ผู้สอนเปิดคลิปวิดีโอ ปรัชญำเศรษฐกิจพอเพียง จากลิงค์ https://www.youtube.com/watch?v=mee_pddOmy0 เพื่อเป็นการกระตุ้นความสนใจ ของผู้เรียน 2. ผู้สอนถามผู้เรียนเพื่อเป็นการทบทวนความรู้เดิม และเพื่อเป็นการกระตุ้นความสนใจของผู้เรียน เช่น “หากนักเรียนต้องการน าเสนอข้อมูลเกี่ยวกับปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงนักเรียนจะมีวิธีการ น าเสนออย่างไรให้เข้าใจง่าย” แนวค ำตอบ : เน้นข้อความที่ส าคัญ สรุปและน าเสนอในรูปแบบแผนภาพ แผนภูมิ หรือตาราง
ขั้นสอน 3. ผู้สอนเปิด Slide สื่อกำรสอน กำรน ำเสนอข้อมูล (Presentation of Data) พร้อมอธิบายว่า กำรน ำเสนอข้อมูล (Presentation of Data) เป็นการน าข้อมูลที่รวบรวมข้อมูลที่ได้จาก การศึกษามาน าเสนอ หรือท าการเผยแพร่ให้ผู้ที่สนใจได้รับทราบ หรือน าไปวิเคราะห์เพื่อไปใช้ ประโยชน์ ซึ่งสามารถแบ่งออกได้ 2 ลักษณะ คือ 1. กำรน ำเสนออย่ำงไม่เป็นแบบแผน (informal presentation) หมายถึง การน าเสนอที่ ไม่มีกฎเกณฑ์อะไรที่จะต้องถือเป็นหลักมากนัก เช่น 1.1 กำรน ำเสนอในรูปของบทควำม เป็นการน าเสนอข้อมูลที่เป็นบทความ และข้อเขียนต่าง ๆ เช่น “ในระยะเวลา 1 ปีที่ ผ่านมาการเมืองของไทยอยู่ในสภาพที่ขาดเสถียรภาพ มีการเดินขบวนเรียกร้องในด้านต่าง ๆ มากมาย เนื่องจากความเป็นอยู่ที่แตกต่างกัน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ท่านได้ให้ แนวทางในการด าเนินชีวิตแบบเศรษฐกิจพอเพียงและแนวทางสมานฉันท์เพื่อให้ความ เป็นอยู่ที่ดีและเกิดความปองดองในชาติ” 1.2 กำรน ำเสนอข้อมูลในรูปของข้อควำมกึ่งตำรำง เป็นการน าเสนอข้อมูลที่มีข้อความและมีส่วนหนึ่งน าเสนอข้อมูลด้วยตาราง เช่น นักเรียนชั้นประถมศึกษา ในปีการศึกษา 2565 มีสถิติการมาสายลดลง เมื่อเทียบกับสถิติ การมาสายใน 3 ปีที่ผ่านมา ดังตาราง ปีกำรศึกษำ จ ำนวนนักเรียนที่มำสำย 2562 45 2563 35 2564 26 2565 17 2. กำรน ำเสนออย่ำงมีแบบแผน (formal presentation) เป็นการน าเสนอที่จะต้องปฏิบัติ ตามหลักเกณฑ์ ที่ได้ก าหนดไว้เป็นมาตรฐาน เช่น 2.1 กำรน ำเสนอในรูปตำรำง (Tabular presentation) ข้อมูลต่าง ๆ ที่เก็บรวบรวมมาได้เมื่อท าการประมวลผลแล้ว จะอยู่ในรูปตาราง ส่วน การน าเสนออย่างอื่นเป็นการน าเสนอโดยใช้ข้อมูลจากตาราง
2.2 กำรน ำเสนอด้วยกรำฟเส้น (Line graph) เหมาะส าหรับข้อมูล ที่อยู่ในรูปของอนุกรมเวลา เช่น แสดงราคาเฉลี่ยของน้ ามันดิบ และน้ ามันส าเร็จรูป ปี 25638 – 2546
2.3 กำรน ำเสนอด้วยแผนภูมิแท่ง (Bar chart) ประกอบด้วยรูปแท่งสี่เหลี่ยมผืนผ้า ซึ่งแต่ละแท่งมีความหนาเท่าๆ กัน โดยจะวางตาม แนวตั้ง หรือ แนวนอนของแกนพิกัดฉากก็ได้ 2.4 กำรน ำเสนอด้วยรูปแผนภูมิวงกลม (Pie chart) เป็นการแบ่งวงกลมออกเป็นส่วนต่าง ๆ ตามจ านวนชนิดของข้อมูลที่จะน าเสนอ 4.ผู้สอนถามผู้เรียนว่า จากที่ผู้สอนได้อธิบายไป การน าเสนอข้อมูลรูปแบบใดบ้าง ที่โปรแกรม Microsoft Word ไม่สามารถท าได้ แนวค ำตอบ : โปรแกรม Microsoft Word สามารถท าได้ ทุกรูปแบบของการน าเสนอที่ผู้สอน ได้อธิบายไป ข้อมูลกำรส่งออกสินค้ำเกษตรกรรม พ.ศ. 2558 - 2560
ชั่วโมงที่ 2 ขั้นสอน (ต่อ) 1. ผู้สอนแบ่งกลุ่มผู้เรียน กลุ่มละ 3 คน เพื่อท า กิจกรรม น ำเสนอข้อมูลด้วยโปรแกรม Microsoft Word พร้อมอธิบายวิธีการท ากิจกรรม คือ ให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่ม หาข้อมูลเกี่ยวกับ ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งเป็นแนวทางการด าเนินชีวิตที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบ ศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร โดยใช้โปรแกรม Microsoft Word ซึ่งให้สรุป เนื้อหาให้อยู่ในหน้ากระดาษ A4 1 แผ่น 2. ผู้สอนให้เวลาผู้เรียนในการท ากิจกรรมโดยที่ผู้สอนคอยดูแลความเรียบร้อยและคอยให้ ค าแนะน าเพิ่มเติม 3. ผู้สอนแนะน าเพิ่มเติมว่า ในส่วนของการแบ่งอัตราส่วน 30:30:30:10 การจัดสรรพื้นที่ท ากิน หรือ การน าไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจ าวัน สามารถใช้เครื่องมือ แผนภูมิ และเลือก วงกลม จะ มีตาราง Microsoft Excel ขึ้นมา ผู้เรียนสามารถใส่ข้อมูลลงไปตารางได้เลย จะสังเกตเห็นว่า แผนภูมิจะแบ่งอัตราส่วนตามข้อมูลที่ใส่ลงไ เพื่อน าเสนอข้อมูลให้เห็นเป็นภาพที่ชัดเจนมากขึ้น 4. เมื่อครบก าหนดเวลา ผู้เรียนให้แต่ละกลุ่มออกมาน าเสนอผลงาน โดยที่ให้ผู้เรียนกลุ่มอื่น ๆ รวมทั้งผู้สอน ร่วมกันเสนอแนะแสดงความคิดเห็น ชั่วโมงที่ 3 ขั้นสอน (ต่อ) 1. ผู้สอนแบ่งกลุ่มผู้เรียน กลุ่มละ 3 คน เพื่อท า กิจกรรม น ำเสนอข้อมูลด้วยโปรแกรม Microsoft Word พร้อมอธิบายวิธีการท ากิจกรรม คือ ให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่ม หาข้อมูลเกี่ยวกับ ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งเป็นแนวทางการด าเนินชีวิตที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบ ศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร โดยใช้โปรแกรม Microsoft Word ซึ่งให้สรุป เนื้อหาให้อยู่ในหน้ากระดาษ A4 1 แผ่น 2. ผู้สอนให้เวลาผู้เรียนในการท ากิจกรรมโดยที่ผู้สอนคอยดูแลความเรียบร้อยและคอยให้ ค าแนะน าเพิ่มเติม 3. ผู้สอนแนะน าเพิ่มเติมว่า ในส่วนของการแบ่งอัตราส่วน 30:30:30:10 การจัดสรรพื้นที่ท ากิน หรือ การน าไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจ าวัน สามารถใช้เครื่องมือ แผนภูมิ และเลือก วงกลม จะ มีตาราง Microsoft Excel ขึ้นมา ผู้เรียนสามารถใส่ข้อมูลลงไปตารางได้เลย จะสังเกตเห็นว่า แผนภูมิจะแบ่งอัตราส่วนตามข้อมูลที่ใส่ลงไ เพื่อน าเสนอข้อมูลให้เห็นเป็นภาพที่ชัดเจนมากขึ้น 4. เมื่อครบก าหนดเวลา ผู้เรียนให้แต่ละกลุ่มออกมาน าเสนอผลงาน โดยที่ให้ผู้เรียนกลุ่มอื่น ๆ รวมทั้งผู้สอน ร่วมกันเสนอแนะแสดงความคิดเห็น
ขั้นสรุป 5. ผู้สอนและผู้เรียนร่วมกันสรุปว่า โปรแกรม Microsoft Word มีเครื่องมือที่ช่วยให้การน าเสนอ ข้อมูลมีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น และเครื่องมือที่มีอยู่ใน Microsoft Word สามารถใช้งานได้ง่าย และสะดวก ท าให้ลดเวลาในการท างาน ช่วยให้ได้ผลงานมีประสิทธิภาพในเวลาที่จ ากัด 6. ผู้สอนเปิดโอกาสให้ผู้เรียนสอบถามเพิ่มเติม 9. สื่อกำรเรียนรู้ 1. โปรแกรม Microsoft Word 2. กิจกรรม น าเสนอข้อมูลด้วยโปรแกรม Microsoft Word 3. คลิปวิดีโอ ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง 4. Slide สื่อการสอน การน าเสนอข้อมูล (Presentation of Data) 5. อินเทอร์เน็ต 0 10. กำรวัดและประเมินผล วิธีกำร เครื่องมือ เกณฑ์ กิจกรรม น าเสนอข้อมูลด้วยโปรแกรม Microsoft Word แบบประเมินผลงาน คุณภาพอยู่ในระดับ ดี ผ่านเกณฑ์ ประเมินพฤติกรรมกลุ่มกิจกรรม น าเสนอ ข้อมูลด้วยโปรแกรม Microsoft Word แบบประเมิน พฤติกรรมกลุ่ม คุณภาพอยู่ในระดับ ดี ผ่านเกณฑ์
11. ควำมเห็นของหัวหน้ำสถำนศึกษำ/ผู้ที่ได้รับมอบหมำย ได้ท าการตรวจแผนการจัดการเรียนรู้ของนางสาวชนกานต์ สุต๋าค า แล้วมีความเห็นดังนี้ 1. เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่ ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรับปรุง 2. การจัดกิจกรรมได้น าเอากระบวนการเรียนรู้ เน้นผู้เรียนเป็นส าคัญมาใช้ในการสอนได้อย่างเหมาะสม ยังไม่เน้นผู้เรียนเป็นส าคัญ ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป 3. เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่ น าไปใช้ได้จริง ควรปรับปรุงก่อนน าไปใช้ 4. ข้อเสนอแนะอื่น ๆ ........................................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................................... ลงชื่อ.................................................. (.................................................) วันที่........เดือน...............พ.ศ. ...........
แบบบันทึกหลังแผนกำรสอน รำยวิชำ Microsoft Word ชั้นประถมศึกษำปีที่ 4 หน่วยกำรเรียนรู้ที่ 2 โปรแกรมประมวลค ำ Microsoft Word จ ำนวน 17 ชั่วโมง แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ที่ 7 กำรน ำเสนอข้อมูลด้วยโปรแกรม Microsoft Word เวลำเรียน 4 ชั่วโมง ผลกำรเรียนรู้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ปัญหำอุปสรรค ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ข้อเสนอแนะแนวทำงแก้ไข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ…………………….…………….ผู้สอน ( นำงสำวชนกำนต์ สุต๋ำค ำ ) ต ำแหน่ง ครูผู้ช่วย ………………/…………....../…………… ควำมคิดเห็นของผู้บริหำรสถำนศึกษำ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………............................................ ลงชื่อ…………………………….ผู้บริหำรสถำนศึกษำ (…………………..…………………………) ต ำแหน่ง……………………………………… ………………/…………....../……………
แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ที่8 กลุ่มสำระกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี รำยวิชำ Microsoft Word ชั้นประถมศึกษำปีที่ 4 หน่วยกำรเรียนรู้ที่ 3 Project Engineering Design Process จ ำนวน 2 ชั่วโมง แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ที่ 8 รวบรวมข้อมูล เวลำเรียน 2 ชั่วโมง 1. ผลกำรเรียนรู้ 1. ใช้ความรู้และทักษะการใช้งานโปรแกรมประมวลผลค า Microsoft Word ในการน าเสนอข้อมูล ด้วยวิธีการที่เหมาะสม 2. สำระส ำคัญ/ควำมคิดรวบยอด กระบวนกำรออกแบบเชิงวิศวกรรม เป็นขั้นตอนที่น ามาใช้ในด าเนินการเพื่อแก้ปัญหาหรือสนอง ความต้องการซึ่งกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม ขั้นที่ 1 ระบุปัญหำ (Problem Identification) เป็นขั้นตอนที่ผู้แก้ปัญหาท าความเข้าใจในสิ่ง ที่พบเป็นปัญหาในชีวิตประจ าวันซึ่งสามารถใช้ทักษะการตั้งค าถามด้วยหลัก 5W1H เมื่อเกิดปัญหาหรือความ ต้องการค าถามจากหลัก 5W1H ขั้นที่ 2 รวบรวมข้อมูลและแนวคิดที่เกี่ยวข้องกับปัญหำ (Related Information Search) ขั้นตอนนี้เป็นการรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับปัญหาหรือความต้องการ เพื่อหาวิธีการ ที่หลากหลายส าหรับ ใช้ในการแก้ปัญหาหรือสนองความต้องการที่ก าหนดไว้ในขั้นที่ 1 โดยการคันหาและรวบรวมข้อมูลจาก แหล่งข้อมูลต่าง ๆ 3. จุดประสงค์กำรเรียนรู้ 1. อธิบายวิธีการเก็บรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับปัญหา หรือความต้องการได้ (K) 2. ใช้โปรแกรม Microsoft Word ในการสร้างเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูลได้ (P) 3. เห็นความส าคัญของการใช้โปรแกรม Microsoft Word ในการน าเสนอข้อมูล (A) 4. สำระกำรเรียนรู้ 1. กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม 2. กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรมขั้นที่ 1 3. กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรมขั้นที่ 2 4. การใช้โปรแกรม Microsoft Word ในการสร้างเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล
5. สมรรถนะส ำคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 6. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการท างาน 7. ภำระงำน 1. กิจกรรม ออกแบบสิ่งประดิษฐ์เพื่อช่วยแก้ปัญหาในชีวิตประจ าวัน 2. ใบงานที่ 8 ระบุปัญหา (Problem Identification) 3. กิจกรรม สร้างเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล 8. กำรจัดกิจกรรมกำรเรียนรู้ 1. วิธีการสอนแบบสร้างสรรค์เป็นฐาน (Creativity-Based Learning : CBL) 2. การจัดการเรียนการสอนแบบ Active Learning ชั่วโมงที่ 1 ขั้นน ำเข้ำสู่บทเรียน 1. ผู้สอนกระตุ้นความสนใจของผู้เรียนด้วยการเปิดคลิปวิดีโอ ตัวอย่ำงกระบวนกำรออกแบบเชิง วิศวกรรม จากลิงค์ https://www.youtube.com/watch?v=3Cr0-ukRIY8&t=153s 2. ผู้สอนถามผู้เรียนเพื่อเป็นการกระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้ เช่น “เราจะน ากระบวนการออกแบบเชิง วิศวกรรมในการแก้ปัญหาในชีวิตประจ าวันอย่างไรบ้าง” แนวค ำตอบ การออกแบบเครื่องมือช่วยเขียน การออกแบบกระเป๋าเงินอัจฉริยะ
ขั้นสอน 3. ผู้สอนแบ่งกลุ่มผู้เรียน กลุ่มละ 3 คน เพื่อท ากิจกรรม ออกแบบสิ่งประดิษฐ์เพื่อช่วยแก้ปัญหำ ในชีวิตประจ ำวัน พร้อมอธิบายวิธีการท ากิจกรรม คือ ให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่ม ออกแบบ สิ่งประดิษฐ์ที่ช่วยแก้ปัญหาในชีวิตประจ าวัน โดยใช้กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรรม ซึ่งเป็น สิ่งประดิษฐ์ที่ไม่จ าเป็นจะต้องค านึงถึงความเป็นไปได้ คล้าย ๆ กับเป็นของวิเศษในกระเป๋าของ โดเรมอน ให้ผู้เรียนสามารถได้ใช้จินตนาการอย่างเต็มที่ และเนื่องจากข้อจ ากัดของเทคโนโลยี และทักษะการใช้เครื่องมือในการสร้างสิ่งประดิษฐ์ของผู้เรียนอาจจะยังไม่มากพอ จึงไม่ จ าเป็นต้องค านึงถึงความเป็นไปได้ 4. ผู้สอนอธิบายว่า กระบวนกำรออกแบบเชิงวิศวกรรม เป็นขั้นตอนที่น ามาใช้ในด าเนินการ เพื่อ แก้ปัญหาหรือสนองความต้องการ ซึ่งกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรมประกอบด้วย 6 ขั้นตอนคือ ขั้นที่ 1 ระบุปัญหา (Problem Identification) ขั้นที่ 2 รวบรวมข้อมูลและแนวคิดที่เกี่ยวข้องกับปัญหา (Related Information Search) ขั้นที่ 3 ออกแบบวิธีการแก้ปัญหา (Solution Design) ขั้นที่ 4 วางแผนและด าเนินการแก้ปัญหา (Planning and Development) ขั้นที่ 5 ทดสอบ ประมินผลและปรับปรุงแก้ไขวิธีการแก้ปัญหาหรือชิ้นงาน (Testing, Evaluation and Design Improvement) ขั้นที่ 6 น าเสนอวิธีการแก้ปัญหา ผลการแก้ปัญหาหรือชิ้นงาน (Presentation) โดย ขั้นที่ 1 ระบุปัญหำ (Problem Identification) เป็นขั้นตอนที่ผู้แก้ปัญหาท าความเข้าใจ ในสิ่งที่พบเป็นปัญหาในชีวิตประจ าวันซึ่งสามารถใช้ทักษะการตั้งค าถามด้วยหลัก 5W1H เมื่อ เกิดปัญหาหรือความต้องการค าถามจากหลัก 5W1H ซึ่งประกอบด้วย Who เป็นการตั้งค าถามที่เกี่ยวข้องกับบุคคลปัญหาหรือความต้องการ What เป็นการตั้งค าถามว่าอะไรคือปัญหาหรือความต้องการจากสถานการณ์นั้น ๆ Who What Where When Why How
When เป็นการตั้งค าถามเกี่ยวกับปัญหาหรือความต้องการของสถานการณ์นั้นว่าจะเกิดขึ้น เมื่อใด Where เป็นการตั้งค าถามปัญหาหรือความต้องการของสถานการณ์นั้นว่าจะเกิดขึ้นที่ไหน Why เป็นการตั้งค าถามเพื่อวิเคราะห์สาเหตุว่าท าไมถึงเกิดปัญหาหรือความต้องการ How เป็นการตั้งค าถามเพื่อวิเคราะห์หาแนวทางหรือวิธีการแก้ปัญหานั้นว่าจะสามารถท า ได้ด้วยวิธีการอย่างไร 5. ผู้สอนแจกใบงำนที่ 8 ระบุปัญหำ (Problem Identification) พร้อมอธิบายวิธีการท าใบงาน คือ ให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มใช้หลัก 5W1H ในการระบุปัญหาที่พบเจอในชีวิตประจ าวันของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 เพื่อจะน าไปใช้ในการออกแบบสิ่งประดิษฐ์เพื่อช่วยแก้ปัญหาใน ชีวิตประจ าวัน โดยใช้กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม (Engineering Design Process) 6. ผู้สอนให้เวลาผู้เรียนในการท าใบงาน โดยที่ผู้สอนคอยดูแลความเรียบร้อยและคอยให้ค าแนะน า เพิ่มเติม 7. ผู้สอนสรุปให้ผู้เรียนเข้าใจอีกครั้งว่า หลักการ 5W1H ก็คือ การสรุปประเด็นของปัญหา ว่า ปัญหาคืออะไร ปัญหาสนองความต้องการกับใคร ปัญหาเกิดขึ้นที่ไหน ปัญหาเกิดขึ้นเมื่อไร ท าไมจึงต้องแก้ปัญหา และจะแก้ปัญหาอย่างไร 8. เมื่อครบก าหนดเวลา ผู้สอนให้แต่ละกลุ่มออกมาน าเสนอใบงาน โดยให้ผู้เรียนกลุ่มอื่น ๆ รวมทั้ง ผู้สอนร่วมกันเสนอแนะแสดงความคิดเห็น ชั่วโมงที่ 2 ขั้นสอน (ต่อ) 1. ผู้สอนอธิบายในส่วนขั้นที่ 2 ของกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม คือ รวบรวมข้อมูลและ แนวคิดที่เกี่ยวข้องกับปัญหา (Related Information Search) เป็นการรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับปัญหา หรือความต้องการ เพื่อหาวิธีการ ที่หลากหลายส าหรับใช้ในการแก้ปัญหาหรือสนองความต้องการที่ก าหนดไว้ ในขั้นที่ 1 วิธีการเก็บรวมรวมข้อมูล มีหลายวิธี เช่น 1. วิธีการสัมภาษณ์จากผู้ให้ค าตอบโดยตรง (Personal interview หรือ Face to face interview) 2. วิธีการการตอบแบบสอบถาม 3. วิธีการสังเกตการณ์ (Observation) 4. วิธีการบันทึกข้อมูลจากการวัดหรือนับ 5. วิธีการทดลองทางวิทยาศาสตร์ 6. การค้นหาข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต โดยแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้
2. ผู้สอนให้ผู้เรียนท ากิจกรรม สร้ำงเครื่องมือที่ใช้ในกำรเก็บรวบรวมข้อมูล เพื่อรวบรวมรวบรวม ข้อมูลและแนวคิดที่เกี่ยวข้องกับปัญหา โดยให้ผู้เรียนใช้โปรแกรม Microsoft Word ในการสร้างแบบฟอร์ม ที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ไม่ว่าจะเป็น แบบสอบถาม แบบฟอร์มบันทึกการสังเกต การวัดหรือการนับ การทดลอง การรวบรวมข้อมูลจากแหล่งข้อมูล 3. ผู้สอนให้เวลาผู้เรียนในการท าใบงานโดยที่ผู้สอนคอยดูแลความเรีบบร้อยและคอยให้ค าแนะน า เพิ่มเติม 4. ผู้สอนแนะน าเพิ่มเติม ควรใช่เครื่องมือ ตาราง (Tables) ในโปรแกรม Microsoft Word เพื่อสร้าง เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ซึ่งควรออกแบบหัวข้อตารางให้ครอบคลุมเรื่องที่ต้องการจะ ทราบ เพื่อให้ได้เครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูลที่ครบถ้วนและมีประสิทธิภาพ 5. เมื่อครบก าหนดเวลา ผู้สอนให้แต่ละกลุ่มน าเสนอเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล โดยให้ ผู้เรียนกลุ่มอื่น ๆ รวมทั้งผู้สอนร่วมกันเสนอแนะแสดงความคิดเห็น ขั้นสรุป 6. ผู้สอนและผู้เรียนร่วมกันสรุปว่า กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม เป็นขั้นตอนที่น ามาใช้ใน ด าเนินการ เพื่อแก้ปัญหาหรือสนองความต้องการ ซึ่งขั้นตอนที่ 1 ของการออกแบบ คือการ ระบุ ปัญหา (Problem Identification) โดยใช้ หลัก 5W1H และ ขั้นที่ 2 รวบรวมข้อมูลและแนวคิดที่ เกี่ยวข้องกับปัญหา (Related Information Search) โดยใช้ โปรแกรม Microsoft Word 7. ผู้สอนเปิดโอกาสให้ผู้เรียนสอบถามเพิ่มเติม 9. สื่อกำรเรียนรู้ 1. โปรแกรม Microsoft Word 2. คลิปวิดีโอ ตัวอย่างกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม 3. กิจกรรม ออกแบบสิ่งประดิษฐ์เพื่อช่วยแก้ปัญหาในชีวิตประจ าวัน 4. ใบงานที่ 8 ระบุปัญหา (Problem Identification) 5. กิจกรรม สร้างเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล
10. กำรวัดและประเมินผล วิธีกำร เครื่องมือ เกณฑ์ ใบงานที่ 8 ระบุปัญหา (Problem Identification) แบบประเมินผลงาน คุณภาพอยู่ในระดับ ดี ผ่านเกณฑ์ กิจกรรม สร้างเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บ รวบรวมข้อมูล แบบประเมินผลงาน คุณภาพอยู่ในระดับ ดี ผ่านเกณฑ์ ประเมินพฤติกรรมกลุ่ม จากการท ากิจกรรมออกแบบสิ่งประดิษฐ์ เพื่อช่วยแก้ปัญหาในชีวิตประจ าวัน แบบประเมินพฤติกรรม รายบุคคล คุณภาพอยู่ในระดับ ดี ผ่านเกณฑ์
11. ควำมเห็นของหัวหน้ำสถำนศึกษำ/ผู้ที่ได้รับมอบหมำย ได้ท าการตรวจแผนการจัดการเรียนรู้ของนางสาวชนกานต์ สุต๋าค า แล้วมีความเห็นดังนี้ 1. เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่ ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรับปรุง 2. การจัดกิจกรรมได้น าเอากระบวนการเรียนรู้ เน้นผู้เรียนเป็นส าคัญมาใช้ในการสอนได้อย่างเหมาะสม ยังไม่เน้นผู้เรียนเป็นส าคัญ ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป 3. เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่ น าไปใช้ได้จริง ควรปรับปรุงก่อนน าไปใช้ 4. ข้อเสนอแนะอื่น ๆ ........................................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ................ ........................................................................................................................................................................... ลงชื่อ.................................................. (.................................................) วันที่........เดือน...............พ.ศ. ...........
แบบบันทึกหลังแผนกำรสอน รำยวิชำ Microsoft Word ชั้นประถมศึกษำปีที่ 4 หน่วยกำรเรียนรู้ที่ 3 Project Engineering Design Process จ ำนวน 2 ชั่วโมง แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ที่ 8 รวบรวมข้อมูล เวลำเรียน 2 ชั่วโมง ผลกำรเรียนรู้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ปัญหำอุปสรรค ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ข้อเสนอแนะแนวทำงแก้ไข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ…………………….…………….ผู้สอน ( นำงสำวชนกำนต์ สุต๋ำค ำ ) ต ำแหน่ง ครูผู้ช่วย ………………/…………....../…………… ควำมคิดเห็นของผู้บริหำรสถำนศึกษำ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………............................................ ลงชื่อ…………………………….ผู้บริหำรสถำนศึกษำ (…………………..…………………………) ต ำแหน่ง……………………………………… ………………/…………....../……………