หอผู้ป่วยพิเศษศัลยกรรม 25B
โครงการพัฒนาความรู้เกี่ยวกับการวางแผนจำหน่ายผู้ป่วยที่ได้รับการผ่าตัดทวารใหม่ (ออสโตมี: Ostomy) ทวารใหม่ หมายถึง การผ่าตัดนำส่วนใดส่วนหนึ่งของลำไส้เปิดออกทางหน้าท้องแบบชั่วคราวหรือถาวร เพื่อแก้ไขปัญหาการขับถ่ายในผู้ป่วยจากการบาดเจ็บของลำไส้ใหญ่หรือมีโรคทางลำไส้ใหญ่จากการติดเชื้อหรือ ความผิดปกติของการดูดซึม แต่ส่วนใหญ่จะทำในผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก (Colorectal cancer) โดย บริเวณช่องเปิดลำไส้ส่วนที่โผล่ออกมาจากหน้าท้องเรียกว่า สโตม่า (Stoma) (ศุภิสรา สุวรรณชาติ, สาดี สายทอง, พิชญาณัฏฐ์ แก้วอำไพ และสุวิมล มณีโชติ, 2563; 205) ชนิดของทวารใหม่ 1. แบ่งตามส่วนของลำไส้ (Part of Intestinal Ostomy) ที่นำขึ้นมาเปิดออกทางหน้าท้อง ได้เป็น 2 ชนิด คือ ใช้ส่วนของลำไส้เล็ก (Ileostomy) และลำไส้ใหญ่ (Colostomy) การเลือกทำทวารใหม่แต่ละชนิดขึ้นอยู่ กับลักษณะหรือตำแหน่งของรอยโรคของผู้ป่วย นอกจากนี้ยังคำนึงถึงข้อดีและข้อเสีย รวมทั้งโอกาสในการเกิด ภาวะแทรกซ้อนหลังการทำทวารใหม่ทั้ง 2 ชนิด เช่น ทวารใหม่ส่วนของลำไส้ใหญ่ มีข้อดี คือ มีการทำลายของ ผิวหนังเล็กน้อยและไม่มีการสูญเสียน้ำหรืออิเล็กโทรไลต์ เนื่องจากอุจจาระค่อนข้างแข็ง แต่มีข้อเสียคือ อุจจาระมี กลิ่นแรงจากการทำงานของแบคทีเรียในลำไส้ใหญ่ ในขณะที่ทวารใหม่ส่วนของลำไส้เล็ก มีข้อเสียคือ การสูญเสีย น้ำและอิเล็กโทรไลต์รวมทั้งมีการระคายเคืองผิวหนังได้ง่าย 2. แบ่งตามระยะเวลาที่ทำทวารใหม่ มี 2 ชนิด คือ 2.1 ชนิดชั่วคราว (Temporary) ผู้ป่วยอาจมีทวารใหม่เป็นระยะเวลาเป็นสัปดาห์ เดือน หรือปี 2.2 ชนิดถาวร (Permanent) ซึ่งต้องมีทวารใหม่ตลอดชีวิต
2 การเลือกทำทวารใหม่แต่ละชนิดขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น บริเวณลำไส้ที่มีพยาธิสภาพ ผู้ป่วย อายุมากกว่า 65 ปี มีโรคร่วม มีภาวะแทรกซ้อนหลังผ่าตัด มีรอยต่อของลำไส้รั่วซึม เป็นมะเร็งระยะสุดท้าย หรือ การกลับเป็นซ้ำของมะเร็ง เป็นต้น 3. แบ่งตามวิธีการผ่าตัดในการนำส่วนของลำไส้เปิดออกทางหน้าท้อง เป็น 4 แบบ ได้แก่ 3.1 แบบ Loop (Ileostomy or Colostomy) เป็นการยกลำไส้ขึ้นมาไว้บนหน้าท้องเป็นรูปห่วง ซึ่งส่วนใหญ่จะทำเป็นแบบชั่วคราว 3.2 แบบ End (Ileostomy or Colostomy) การผ่าตัดนำลำไส้ส่วนต้นมาเปิดให้อุจจาระออก โดยอาจมีการเย็บปิดลำไส้ส่วนปลายให้อยู่ในช่องท้องโดยไม่ตัดทวารหนักออก (Hartmann’s operation) หรือตัด ลำไส้ส่วนปลายทิ้ง และเย็บปิดฝีเย็บ (Abdomino-perineal resection [A-P resection]) 3.3 แบบ Double barrel เป็นการตัดลำไส้และยกขึ้นมาเปิดทางหน้าท้อง เป็น 2 ช่องแยกจาก กัน โดยรูเปิดส่วนต้นเป็นทางออกอุจจาระ รูเปิดส่วนปลายเป็นทางออกของ Mucus ส่วนมากจะทำที่ลำไส้ใหญ่ ส่วนขวาง แบบชั่วคราว เพื่อให้ลำไส้ใหญ่ส่วนล่างที่มีปัญหา เช่น อักเสบ ติดเชื้อหรือมีการผ่าตัดได้พัก จนกว่าจะ หายดีก่อนที่จะนำกลับลงไปใหม่ 3.4 แบบ Kock continent ileostomy จะมีถุงเก็บอุจจาระ (Kock pouch) ที่มีที่ปิดรูเปิด (A stop vale of kock pouch) ซึ่งช่วยป้องกันการรั่วซึมของอุจจาระ และสามารถเปิดระบายอุจจาระได้เมื่อ ต้องการ ทำให้ไม่ต้องใช้ถุงรองรับอุจจาระตลอดเวลา ลักษณะทวารใหม่ ลักษณะของทวารใหม่ต้องมีความชุ่มชื้น ไม่มีเส้นประสาท ดังนั้นผู้ป่วยจะไม่รู้สึกเจ็บ ทวารใหม่ลำไส้ใหญ่ ปกติควรมีสีแดง ยกเว้นในผู้ที่มีภาวะซีดจะเป็นสีชมพูซีด สำหรับทวารใหม่ลำไส้เล็กปกติควรเป็นสีชมพูซีด ถ้ามีสี น้ำตาล ม่วงหรือสีดำ แสดงถึงทวารใหม่มีภาวะขาดเลือด ขนาดทวารใหม่ที่พอเหมาะจะมีเส้นผ่านศูนย์กลาง ประมาณ 1-1.5 นิ้ว หรือเท่ากับเหรียญห้าบาท อาจมีรูปร่างกลมหรือรี ตำแหน่งของช่องเปิดลำไส้ควรอยู่ที่ส่วน ยอด ทวารใหม่ควรสูงกว่าระดับผิวหน้าท้องเล็กน้อย (ประมาณครึ่งนิ้ว) เพื่อความสะดวกในการติดแป้นและถุง เพราะมองเห็นได้ง่าย และช่วยให้อุจจาระไหลลงถุงได้ดี ไม่ระคายเคืองผิวหนังโดยรอบ ในระยะ 2 เดือนแรกหลัง ผ่าตัด ขนาดของทวารใหม่อาจลดลงเล็กน้อย เมื่อแผลจากการผ่าตัดหายดีการดูแลทวารใหม่จะไม่แตกต่างจากการ ดูแลหลังขับถ่ายทางทวารหนัก (สมพร วรรณวงศ์, 2556; 2)
3 ผลกระทบจากการมีทวารใหม่ การมีทวารใหม่ส่งผลกระทบต่อผู้ป่วยและครอบครัว ทั้งทางด้านร่างกายและจิตสังคม จากการ เปลี่ยนแปลงด้านสรีรวิทยาของการขับถ่ายและช่องทางในการระบายอุจจาระ มีรายละเอียดดังนี้(ศุภิสรา สุวรรณ ชาติ, สาดี สายทอง, พิชญาณัฏฐ์ แก้วอำไพ และสุวิมล มณีโชติ, 2563; 207) 1. ด้านร่างกาย 1.1 ทวารใหม่จากลำไส้เล็ก (Ileostomy) ส่วนใหญ่จะอยู่บริเวณหน้าท้องด้านขวา ลักษณะ อุจจาระค่อนข้างเหลวเป็นน้ำปนเนื้อ ในระยะแรกปริมาณอุจจาระออกมาก ทำให้มีโอกาสสูญเสียน้ำและเกลือแร่ใน ร่างกายได้มาก ไม่ค่อยมีกลิ่น แต่มีการระคายเคืองต่อผิวหนังสูง 1.2 ทวารใหม่จากลำไส้ใหญ่ (Colostomy) อาจอยู่ได้หลายตำแหน่ง ส่วนใหญ่ที่พบบ่อยอยู่ทาง หน้าท้องด้านซ้าย โดยลักษณะอุจจาระจะนิ่มจนถึงเป็นก้อนเหมือนปกติ มักเป็นปัญหาเรื่องกลิ่นและแก๊ส ทำให้ ผู้ป่วยมีความยากลำบากในการดำเนินชีวิตประจำวันด้านร่างกายในเรื่องการนอน การรับประทานอาหาร การ เดินทาง การแต่งกาย การอาบน้ำ การทำงาน การมีเพศสัมพันธ์ และการออกกำลังกาย 2. ด้านจิตใจ จิตสังคมและจิตวิญญาณ ผู้ป่วยส่วนมากจะเกิดความอายที่มีรูปลักษณ์เปลี่ยนแปลงไป สูญเสียความเชื่อมั่นในตัวเอง และรู้สึกกลัวที่ไม่สามารถควบคุมการขับถ่ายอุจจาระได้ กลัวว่าจะไม่สามารถดูแล และปรับตัวอยู่กับทวารใหม่ได้ และกลัวความสกปรกหรือกลิ่นเหม็นจากการรั่วซึมของอุจจาระ รวมถึงการมีลมผ่าน ทวารใหม่ออกมา ทำให้ผู้ป่วยที่ไม่สามารถยอมรับการมีทวารใหม่ได้มักเกิดความเครียด ความวิตกกังวล จนอาจเกิด ปัญหาทางจิตได้ 3. ด้านเศรษฐกิจและสังคม เมื่อผู้ป่วยที่ไม่สามารถยอมรับการมีทวารใหม่ได้เกิดความกลัว เครียด วิตก กังวล ท้ายที่สุดก็จะปลีกตัวออกจากสังคมและครอบครัว ไม่ทำงาน เบิกค่ารักษาพยาบาลไม่ได้ก็จะต้องรับภาระใน การซื้ออุปกรณ์รองรับอุจจาระทางหน้าท้องซึ่งมีราคาสูง เกิดปัญหาทางด้านเศรษฐกิจ ครอบครัว สังคมและ หน่วยงานต่อไปได้ 4. ด้านเพศสัมพันธ์ เนื่องจากผู้ป่วยเกิดความวิตกกังวลด้านภาพลักษณ์ รู้สึกอาย เกิดความสมเพชตนเอง กลัวคู่สมรสรังเกียจ และอุจจาระไหลเปื้อน จึงแก้ไขโดยหลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ อาจส่งผลต่อการเกิดการหย่า ร้างตามมาได้ การดูแลผู้ป่วยที่ได้รับการผ่าตัดเปิดลำไส้ออกทางหน้าท้อง 1. การดูแลในระยะก่อนผ่าตัด จำเป็นและมีความสำคัญเพื่อลดความวิตกกังวล ส่งเสริมการปรับตัวต่อ การมีทวารใหม่ ประกอบด้วย
4 1.1 การประสานงานให้พยาบาลเฉพาะทางสาขาบาดแผล ออสโตมีและควบคุมการขับถ่ายไม่ได้ (ET-Nurse) เพื่อร่วมประเมินเกี่ยวกับปัจจัยที่มีผลต่อการปรับตัวต่อการมีทวารใหม่ และอุปสรรคการเรียนรู้ของ ผู้ป่วย รวมทั้งกำหนดตำแหน่งในการเปิดทวารใหม่ที่เหมาะสม 1.2 การให้ข้อมูลที่สำคัญต่อการอยู่กับทวารใหม่ เช่น การปฏิบัติตัวและความผิดปกติที่อาจ เกิดขึ้นเมื่อกลับไปอยู่ที่บ้านมากที่สุด รองลงมาคือความต้องการข้อมูลเกี่ยวกับโรคและการผ่าตัด การปฏิบัติตัวหลัง ผ่าตัด และการใช้ยาตามลำดับ 1.3 การประเมินสภาพจิตใจ และความรู้สึกซึ่งมีผลต่อความสามารถในการเรียนรู้และการปรับตัว 1.4 การเตรียมตัวด้านร่างกาย และการเตรียมความสะอาดของลำไส้ให้สะอาดปราศจากอุจจาระ 2. การดูแลในระยะหลังผ่าตัด เพื่อลดความวิตกกังวล ปรับสภาพจิตใจเข้าสู่ภาวะปกติ ป้องกัน ภาวะแทรกซ้อน 2.1 การประเมินลักษณะของรูเปิดลำไส้ทางหน้าท้อง (Stoma appearance) ดังนี้ 2.1.1 ประเมินชนิดและรูปแบบของรูเปิดทวารใหม่ว่าเป็นแบบ Double barrel, Loop หรือแบบ End colostomy 2.1.2 ตำแหน่งของลำไส้เปิดทางหน้าท้องซึ่งจะสัมพันธ์กับลักษณะอุจจาระที่จะออกมา เพื่อวางแผนการดูแล 2.1.3 ลักษณะของรูเปิดลำไส้ทางหน้าท้อง ได้แก่ สี ความสูง รูปร่างและขนาด 2.1.4 การปริหรือแยกของรอยเย็บและรอยต่อระหว่างผิวหนังกับทวารใหม่ 2.2 การประเมินลักษณะของสิ่งขับถ่ายจากทวารใหม่ เมื่อลำไส้เริ่มทำงานประมาณวันที่ 2-3 หลังผ่าตัด ขึ้นกับชนิดของการผ่าตัด โดยลักษณะของอุจจาระจะแตกต่างกันขึ้นอยู่กับส่วนของลำไส้ที่ใช้ทำ ทวารใหม่ 3. การฝึกทักษะของผู้ป่วย การเตรียมผู้ป่วยก่อนกลับบ้านมีจุดมุ่งหมายเพื่อส่งเสริมให้ผู้ป่วยสามารถ กลับไปดำรงชีวิตได้ตามปกติ 3.1 วัสดุรองรับอุจจาระ ถุงรองรับอุจจาระมีทั้งแบบใสและแบบทึบ แบบใสมักใช้ในระยะแรก หลังผ่าตัดเนื่องจากจะสังเกตเห็นลักษณะทวารใหม่ได้ง่ายโดยไม่ต้องเปิดถุง แต่หลังจากนั้นอาจจะใช้สีแบบทึบเพื่อ ปิดบังการขับถ่าย โดยถุงอาจจะมี 2 ชั้น ชั้นนอกจะเป็นรูพรุนเพื่อระบายเหงื่อหรือความอับชื้นที่ผิวหนังขณะปิดถุง ถุงชั้นในเพื่อกักเก็บอุจจาระ ก๊าซและกลิ่น วัสดุรองรับมี 2 ชนิด ได้แก่ ชนิดชิ้นเดียว และชนิด 2 ชิ้น ซึ่งมีความ แตกต่างกันคือ
5 ชนิดชิ้นเดียว มีทั้งแบบถุงปลายปิดและปลายเปิด บริเวณที่ยึดติดผิวจะมี 2 ลักษณะ ได้แก่ 1) ชนิดกาว เป็นถุงติดกับบริเวณที่ยึดเกาะกับผิวหนังที่มีลักษณะเป็นกระดาษหรือพลาสติกฉาบด้วยกาวที่ช่วยให้เกิด ความเหนียวยึดติด แต่หลุดลอกง่ายเมื่อผิวชื้น 2) ชนิดมีแป้น ป้องกันผิวหนังระคายเคือง จะมีความเหนียว แผ่น แป้นสามารถดูดซับเหงื่อและน้ำจากอุจจาระได้บ้าง ทำให้ไม่หลุดลอกง่ายเมื่อเปียกชื้น ที่ปลายถุงจะมีช่องเปิดให้ ระบายอุจจาระออกได้ ชนิด 2 ชิ้น จะมีส่วนของแป้นที่ป้องกันผิวระคายเคืองยึดติดกับผิวหนังแยกต่างหากจากถุง โดย แป้นจะมีความเหนียว ติดได้นาน สามารถติดได้ประมาณ 5 - 7 วัน (หรือมีอุจจาระเซาะแป้น รั่วซึมจึงเปลี่ยนใหม่) และสามารถแกะถุงออกทำความสะอาดทวารใหม่ได้ ถุงสามารถนำไปล้างทำความสะอาดเช้า-เย็น ผึ่งลม แล้วนำ กลับมาใช้ซ้ำจนกว่าถุงจะเสื่อมสภาพหรือรั่ว ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายในการซื้อวัสดุได้มาก แป้น มี 2 ชนิด คือ 1. ชนิดที่ต้องตัดให้ได้ขนาดพอดีกับขนาดทวารใหม่ 2. ชนิดที่ไม่ต้องตัด (Moldable) โดยเนื้อแป้นจะนิ่มสามารถใช้นิ้วขยายช่องที่แป้นให้กว้างเท่าขนาดทวาร ใหม่ก่อนวางลงไปบนผิวหนังหน้าท้อง โดยแป้นบางส่วนจะโอบรอบ stoma การเลือกใช้วัสดุรองรับอุจจาระ ควรเลือกตามความเหมาะสมหรือข้อจำกัดของแต่ละบุคคล วัสดุที่ เหมาะสมควรมีคุณสมบัติดังนี้ - เป็นชนิดมีแผ่นป้องกันการระคายเคืองของผิวหนังจะช่วยให้ติดแน่นและนานกว่า - มีขนาดแป้นพอเหมาะ โดยขอบแป้นสำหรับครอบถุงรองรับอุจจาระต้องกว้างกว่าขนาดทวารใหม่จะ ช่วยให้ติดถุงด้วยตนเองได้ง่าย - ใช้สะดวก ปิดง่าย ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้วัสดุ - สามารถเก็บกลิ่นได้ - ควรเป็นปลายเปิดเพราะสามารถทำความสะอาดได้ง่าย นำกลับมาใช้ได้อีก การทำความสะอาดวัสดุรองรับอุจจาระ มีวิธีการดังนี้ การเปลี่ยนถุง ควรเทอุจจาระออกเมื่อมีอุจจาระประมาณ 1/3-1/2 ถุง เพื่อป้องกันไม่ให้อุจจาระล้นเวลา แกะถุง และถ้าปล่อยให้มีอุจจาระมาก น้ำหนักจะถ่วงให้แป้นหลุดเร็วขึ้น หากเป็นถุงชิ้นเดียวปลายเปิดให้แกะสิ่ง ผูกมัดปลายถุงแล้วตลบปลายถุงด้านล่างเพื่อไม่ให้อุจจาระเปื้อนปลายถุง ระบายอุจจาระลงชักโครกได้โดยตรง ฉีด น้ำล้างทำความสะอาดได้จากปลายถุง ซับปลายถุงให้แห้งก่อนปิดทุกครั้ง กรณีใช้ถุงแบบ 2 ชิ้นปลายเปิดให้เปลี่ยนถุงเช้า – เย็น ให้แกะถุงออกจากแป้นโดยใช้นิ้วกดแป้นไว้ก่อน ป้องกันไม่ให้แป้นลอกตัว แล้วใช้มืออีกด้านดึงถุงออกจากแป้น ควรจับที่หูซึ่งติดอยู่ขอบถุง ไม่ควรจับตัวถุงดึงเพราะ
6 จะทำให้ถุงขาดได้ง่าย ตลบปลายถุงด้านล่างก่อนระบายอุจจาระออกทางปลายถุง วิธีการทำความสะอาดถุง 1. หลังระบายอุจจาระทิ้ง หากล้างถุงด้วยน้ำเปล่าจะยังมีคราบเหนียวติดในถุง ควรใช้น้ำยาล้างถุงที่ไม่ ระคายเคืองทวารใหม่ เช่น สบู่อ่อน หรือน้ำยาล้างจาน ซึ่งจะไม่เหนียว ล้างออกได้ง่าย ขจัดคราบเหนียวได้ดี ทำให้ ถุงไม่เหนียวติดกัน 2. แขวนถุงปล่อยให้แห้งในที่ร่ม ห้ามนำตากแดด จะช่วยยืดอายุการใช้งานของถุง เพราะความร้อนทำให้ พลาสติกเสื่อมสภาพได้ง่าย 3. กรณีถุงเหนียวแฟบติดกัน ให้ใช้แป้งเด็ก น้ำมันพืช โลชั่นทาผิว หรือbaby oil หยอดในถุงแล้วขยี้เบาๆ จะสามารถนำกลับมาใช้ได้อีกจนกว่าถุงชั้นในจะรั่ว 4. บริเวณที่ควรใส่ใจให้มากกว่าปกติ คือ ขอบพลาสติกทั้งนอกและในถุง เพราะอาจทำให้เกิดกลิ่นไม่พึง ประสงค์ได้ง่าย รวมทั้งด้านในถุงควรใช้แปรงขนาดเล็ก เช่น แปรงสีฟัน หรือแปรงล้างขวดจะช่วยให้ทำความ สะอาดได้ทั่วถึง 3.2 การเปลี่ยนแป้น โดยปกติแป้นสามารถติดอยู่ได้นานมากกว่า 5-7 วัน ควรเปลี่ยนแป้นทันทีเมื่อ สังเกตเห็นการเซาะของน้ำอุจจาระเข้าใต้แป้น (โดยสังเกตจากสีของแป้นที่ซีด หรือเนื้อวัสดุหลุดหายไปเหลือแต่ พลาสติกใสด้านบน) เมื่อมีการรั่วซึมของอุจจาระออกใต้แป้น หรือมีอาการคันหรือแสบผิวหนังรอบทวารใหม่ หรือ อาจกำหนดตารางเวลาในการเปลี่ยน เช่น เปลี่ยนทุก 5-7 วันโดยไม่ต้องรอรั่วซึม กรณีที่แป้นรั่วซึมบ่อย ติดได้น้อย กว่า 5-7 วัน สาเหตุอาจเกิดจาก 1) ผิวหน้าท้องรอบทวารไม่เรียบ มีร่องหรือรอยบุ๋ม จะทำให้น้ำอุจจาระเซาะเข้า ใต้แป้นได้ง่าย 2. หน้าท้องด้านที่มีทวารใหม่นูน แป้นติดได้ไม่นานเนื่องจากตัวแป้นมักไม่เรียบไปกับหน้าท้อง ทำให้ ต้องเปลี่ยนแป้นบ่อยๆ อาจเป็นสาเหตุให้ผิวหนังระคายเคืองได้ง่ายกว่าปกติ 3) การติดแป้นขณะผิวเปียกจะทำให้ กาวด้านหลังแป้นไม่ติดผิวหนัง ดังนั้นก่อนติดแป้นต้องเช็ดผิวหนังรอบทวารใหม่ให้แห้งสนิทก่อนทุกครั้ง 4) การใช้ สบู่ที่มีมอยเจอร์กับผิวหนังรอบทวารใหม่ หรือการทาแป้ง การใช้ครีมหรือโลชั่นทำให้กาวที่แผ่นแป้นไม่ติดผิวหนัง 5) การปล่อยให้มีอุจจาระค้างในถุงมากเกินไป น้ำหนักอุจจาระจะถ่วงแป้น ทำให้แป้นหลุดเร็วขึ้น วิธีการเปลี่ยนแป้น 1. ยืนหรือนั่งเอนหน้ากระจกนั่งในท่าที่ถนัด หรือนอน (กรณีมีผู้ดูแล) และมองเห็นผิวหนังรอบทวารใหม่ซึ่งต้องไม่มีรอย ยับย่น จะทำให้สามารถทำความสะอาดได้ดีและทั่วถึง 2. ลอกแป้นเก่าออกอย่างนิ่มนวล ขณะที่มืออีกข้างหนึ่ง ลอกแป้นใช้มืออีกข้างคอยกดผิวหนังลงเบาๆ
7 3. ทำความสะอาดทวารใหม่และผิวหนังรอบๆ ทวารใหม่เบาๆ ด้วยสำลีชุบน้ำธรรมดา เลี่ยงการใช้สบู่ เนื่องจากสบู่มีฤทธิ์เป็นด่าง การล้างด้วยสบู่บ่อยๆจะทำให้ค่าความเป็นกรด-ด่างที่ผิวหนังเปลี่ยนแปลงไป เสี่ยงต่อ การติดเชื้อแบคทีเรียได้ นอกจากนี้ หากล้างออกไม่หมดอาจทำให้เกิดอาการคันเมื่อติดแป้น ถ้าจำเป็นควรใช้สบู่ อ่อน หลังทำความสะอาดเสร็จแล้ว ซับให้แห้งก่อนติดแป้นใหม่ ไม่ควรใช้สบู่ที่มีสารให้ความชุ่มชื้นมากๆ และห้าม ใช้ไขมัน เช่น ขี้ผึ้งเพราะจะทำให้กาวหลังแผ่นแป้นหรือถุงไม่ติดผิวหนัง 4. ตรวจสอบความผิดปกติของทวารใหม่ถ้ามีขนขึ้นบริเวณที่ติดแป้น ควรใช้วิธีตัดด้วยกรรไกรหรือที่โกน ขนไฟฟ้า ไม่ควรโกนด้วยใบมีดเพราะอาจทำให้เกิดบาดแผลและมีการอักเสบได้ 5. ก่อนตัดแป้นใหม่ ควรมีการวัดทวารใหม่ โดยใช้การลอกลายทุกครั้งจนกว่าจะมีขนาดคงที่ ซึ่งใช้เวลา ประมาณ 6-8 สัปดาห์หลังการผ่าตัด ถ้ามีรูปร่างกลมสามารถวัดขนาดสำเร็จรูป หรือใช้แผ่นพลาสติกที่ติดมากับ แป้น (ภาพหมายเลข1) วางทาบทวารใหม่ลอกขนาดทวารใหม่ลงบนแผ่นพลาสติก (ภาพหมายเลข2) ก่อนตัดเป็น ช่องเพื่อใช้เป็นแบบ (ภาพหมายเลข3) แล้วนำแป้นวางทาบลงบนแบบที่วัดได้ (กรณีเป็นแป้นแบบล็อค จัดวางให้ตัว ล็อคหันไปทางด้านศีรษะ เพราะผู้มีทวารใหม่จะได้มองเห็นเวลาปลดล็อคเพื่อแกะถุงจากแป้นด้วยตัวเอง) ก่อนจะ ลอกขนาดตามแบบลงบนแป้น (ภาพหมายเลข4-5) แล้วตัดออกเป็นวง (ภาพหมายเลข6) โดยใช้อุปกรณ์ที่ไม่ทำให้ เกิดคมที่ขอบแป้น (เช่น ที่เลาะด้าย กรรไกรโค้ง) หลังจากนั้นลูบขอบเพื่อลบคมอีกครั้ง 6. ทดลองนำแป้นที่ตัดแล้วทาบครอบทวารใหม่ถ้าขนาดพอดีโดยที่ไม่คับจนเกินไป และไม่ควรใหญ่กว่า ทวารใหม่ มากกว่า 1-2 มิลลิเมตร ลอกแผ่นกระดาษด้านหลังแผ่นแป้นออก
8 7. ทาวัสดุป้องกันผิวหนังชนิดครีม (Stomahesive paste) รอบรอยตัดด้านหลังของแผ่นแป้น ข้อควร ระวังคือ อย่าทาครีมกว้างเกินไป ให้กว้างประมาณเท่าปากหลอดหรือครึ่งเซนติเมตรก็เพียงพอ ปล่อยให้แห้ง ประมาณ 1/2-1 นาที ก่อนจะปิดแป้นลงครอบทวารใหม่ โดยต้องแน่ใจว่าผิวหนังรอบทวารใหม่แห้งและไม่มีรอย ยับย่น ครีมจะอุดช่องโหว่หรือร่องผิวรอบทวารใหม่ทำให้น้ำอุจจาระรั่วซึมได้ยาก แป้นติดได้นาน แต่ในกรณีที่ ผิวหนังรอบทวารใหม่เรียบเสมอกันดี อาจไม่จำเป็นต้องใช้ก็ได้ บางครั้งครีมอาจเปื้อนทวารใหม่หรือแผลได้ ซึ่งไม่ เป็นอันตรายแต่อย่างใด แต่ถ้าสัมผัสกับผิวหนังที่มีแผลจะทำให้แสบได้เพราะครีมมีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ หลัง การป้ายครีมบนแผ่นแป้นควรรีบปิดฝาหลอดทันทีเพราะเมื่อแอลกอฮอล์ระเหยครีมจะแข็งอุดปากหลอด ทำให้บีบ ใช้ในครั้งต่อไปได้ยาก 8. กดแผ่นแป้นบริเวณส่วนที่ใกล้ทวารใหม่ให้แนบติดดี อาจใช้นิ้วมือหรือไม้ไอศกรีม (เนื่องจากมีความโค้ง มน ไม่เสี่ยงต่อการเกิดอันตรายหรือการบาดเจ็บที่ทวารใหม่) กดและหมุนวนไป-มา รอบทวารใหม่ประมาณ 1 นาที 9. ติดพลาสเตอร์รอบแผ่นแป้นเมื่อต้องการอาบน้ำ 10. สำหรับแป้นชนิดที่ไม่ต้องตัด ใช้ได้ดีในทวารใหม่สูงกว่าระดับผิวหนังหน้าท้อง ติดโดยการวางทาบ แป้นเหนือทวารใหม่ ใช้นิ้วมือม้วนแป้นออก ให้มีขนาดกว้างกว่าทวารใหม่เล็กน้อยแล้วจึงลอกแผ่นพลาสติกที่
9 ด้านหลังแป้นออก ก่อนวางแป้นครอบทวารใหม่ (โดยไม่ต้องทาวัสดุปกป้องผิวหนังชนิดครีม) แล้วใช้นิ้วหรือไม้ ไอศกรีมดันให้เนื้อแป้นมาโอบรอบให้แนบทวารใหม่ 11. ติดถุงโดยประกบกับแป้น แล้วตรวจสอบความยึดแน่นของถุงว่าปิดกับแป้นได้สนิทดีหรือไม่ โดย ทดลองดึงถุงเบาๆ การดำเนินชีวิตเมื่อมีทวารใหม่ การอาบน้ำ ควรอาบโดยวิธีตักอาบหรือฝักบัว อาบได้ทั้งขณะใส่หรือถอดถุงออก โดยใช้พลาสเตอร์ติดรอบ แป้นเพื่อให้แป้นติดแน่นไม่ให้น้ำเซาะ เมื่ออาบน้ำเสร็จให้ซับน้ำให้แห้งและเอาพลาสเตอร์ออกได้ ในกรณีจะเปลี่ยน แป้นสามารถแกะแป้นออกก่อน อาบน้ำจนสะอาดแล้วจึงซับผิวรอบทวารใหม่ให้แห้งก่อนติดแป้นใหม่ น้ำไม่ สามารถไหลเข้าทวารใหม่ได้ เนื่องจากลำไส้จะมีการบีบตัวออกตลอดเวลาและทวารใหม่เป็นช่องทางการขับถ่าย ไม่ใช่แผล จึงสามารถทำความสะอาดได้โดยน้ำสะอาดธรรมดา ไม่จำเป็นต้องใช้น้ำต้มสุกหรือน้ำยาฆ่าเชื้อ การแต่งกาย อาจต้องเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยเพื่อหลีกเลี่ยงขอบกางเกง ขอบกระโปรงหรือเข็มขัดไปกดทับ/ เสียดสีบริเวณทวารใหม่ การสวมเสื้อผ้าที่หลวมเล็กน้อย หรือมีจีบด้านหน้าจะช่วยพรางตาได้ การสอดถุงรองรับสิ่ง ขับถ่ายไว้ในกางเกงชั้นในจะช่วยให้สะดวกเวลาเคลื่อนไหวและเดินถุงจะไม่แกว่งและระคายเคือง นอกจากนี้ยังช่วย ให้มั่นใจว่าถุงไม่หลุดล่วง กางเกงชั้นในยังช่วยประคองน้ำหนักอุจจาระในถุงในกรณีที่ยังไม่สามารถระบายออกได้
10 ช่วยไม่ให้ถ่วงแป้นจนหลุดลอกจากผิวหน้าท้อง แต่บริเวณปลายถุงที่ผูกหรือคลิปไว้อาจระคายเคืองผิวหน้าท้อง ด้านล่าง อาจใส่ถุงผ้าทับเพื่อลดการระคายเคืองผิว การทำงานและเดินทาง งานที่ต้องมีการเคลื่อนไหวร่างกายมากๆ ต้องใช้ความคล่องตัว อาจใช้เข็มขัดยาง ยืดรัดรอบเอวยึดแป้นและถุงไว้ จะช่วยให้มีความมั่นใจมากขึ้น การเดินทางต้องมีการวางแผนล่วงหน้า สิ่งสำคัญคือ การเตรียมอุปกรณ์ต่างๆ ที่ต้องใช้สำรองไว้ตามจำนวนวันที่ต้องเดินทาง เก็บไว้ในที่สามารถหยิบสะดวกและใกล้ตัว เสมอ ควรมีการสำรองแผ่นแป้นที่ตัดช่องให้ได้ขนาดพอดีกับทวารใหม่เตรียมไว้ก่อนเพื่อความสะดวกรวดเร็วเวลา ใช้จริง ทั้งนี้รวมถึงถุงรองรับอุจจาระ สำลี/กระดาษชำระ ถุงใส่วัสดุใช้แล้วสำหรับนำกลับไปทำความสะอาดที่บ้าน และถุงขยะ บรรจุในกระเป๋าขนาดเล็กติดตัวไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน ผู้ป่วยหรือผู้ดูแลควรทราบชนิดหรือยี่ห้อและขนาด ของวัสดุที่ใช้ สถานที่ที่สามารถหาซื้อได้ การออกกำลังกาย/ งานอดิเรก ผู้มีทวารใหม่จะมีข้อจำกัดในเรื่องกีฬาและการออกกำลังกาย เฉพาะหลัง ผ่าตัด 2-3 เดือนแรก หลังจากนั้นสามารถออกกำลังกายได้ปกติ เช่น เดิน วิ่ง สามารถว่ายน้ำได้แต่ไม่ควรเกิน 30 นาที (ควรเป็นทวารใหม่ลำไส้ใหญ่ที่ขับถ่ายเป็นเวลาและมีการเปลี่ยนแป้นก่อน) ควรออกกำลังกายสม่ำเสมอ แต่ ต้องหลีกเลี่ยงกีฬาที่หักโหมรุนแรงและเสี่ยงต่อการกระทบกระแทกทวารใหม่ เช่น ฟุตบอล ชกมวย เพศสัมพันธ์การผ่าตัดจะมีผลกระทบกระเทือนต่อเส้นประสาทที่ควบคุมการไหลเวียนเลือดในอวัยวะเพศ ชาย อาการผิดปกติอาจหายเป็นปกติได้ ในชายที่อายุน้อยกว่า 60 ปี โดยเฉพาะถ้าน้อยกว่า 50 ปี ในเพศหญิงการ เปลี่ยนแปลงอาจสังเกตเห็นได้น้อย ผู้มีทวารใหม่สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้ ขึ้นอยู่กับการแสดงออกและความเข้าใจ กันของคู่สมรส การได้ปรึกษากันเกี่ยวกับการใช้อุปกรณ์เทียม ท่าในการร่วมเพศที่เหมาะสมไม่กระทบกระแทก ทวารใหม่ การทำความสะอาดทวารใหม่ก่อน และเปลี่ยนถุงใหม่จะช่วยให้เกิดความมั่นใจ การใช้ผ้าสีสันสวยงาม พันทับทวารใหม่หลวมๆ ปิดบังถุงอีกชั้น การใช้สเปรย์หอมและการสร้างบรรยากาศ จะช่วยให้ความรู้สึกดีขึ้น อาหาร รับประทานอาการ 3 มื้อตามปกติ จะช่วยให้ลำไส้ทำงานได้ดีและมีก๊าซน้อย ไม่ควรลดอาหารเพื่อ ลดปริมาณอุจจาระ สามารถรับประทานอาหารได้ทุกประเภทแต่ต้องจำกัดอาหารตามโรคประจำตัว แต่มีอาหาร บางประเภทที่ควรจำกัดตามสถานการณ์ เช่น งดรับประทานอาหารที่ทำให้เกิดก๊าซหรือทำให้อุจจาระมีกลิ่นแรง เมื่อจะออกนอกบ้าน ควรรับประทานอาการที่มีเส้นใยสูงเพื่อให้มีการขับถ่ายเป็นปกติ แต่ควรเคี้ยวช้าๆ และเคี้ยว ให้ละเอียด - อาหารที่ทำให้เกิดก๊าซมาก เช่น ถั่วทุกชนิด แตงกวา หน่อไม้ฝรั่ง ชะอม ผัดตระกูลกะหล่ำ หัวหอม เบียร์ น้ำอัดลม เครื่องดื่มผสมโซดา - อาหารเส้นใยสูง เช่น ข้าวโพด ข้าวโพดคั่ว มะพร้าว ผัดกวางตุ้ง ผักกระเฉด มะเขือพวง หัวผักกาด ไส้กรอกต่างๆ แอปเปิ้ลทั้งเปลือก องุ่น ผักชี คื่นฉ่าย มันฝรั่งทั้งเปลือก กะหล่ำปลีสด เห็ด ผลไม้แห้ง เช่น ลูกเกด
11 ผู้ที่มีทวารใหม่ลำไส้เล็กควรเริ่มรับประทานหลังผ่าตัดไปแล้ว 2 เดือน เนื่องจากช่วงแรกทวารใหม่ยังบวมอาจทำให้ เกิดการอุดตันได้ การเริ่มควรเริ่มครั้งละน้อยๆ เมื่อไม่มีอาการปวดท้อง ขับถ่ายได้ตามปกติจึงเพิ่มปริมาณและ จำนวนมื้อในแต่ละวันให้มากขึ้น - อาหารที่ทำให้อุจจาระแข็งขึ้น เป็นก้อน เช่น กล้วย ข้าว ขนมปัง มันฝรั่ง เนยแข็ง มันสำปะหลัง สาคู โยเกิร์ต อาหารจำพวกแป้ง - อาหารที่ทำให้อุจจาระอ่อน เพื่อให้ขับถ่ายได้ง่าย เช่น ถั่วฝักยาว มะขาม มะเขือเทศ ส้ม ผลไม้สด ผักสด ผักใบเขียวต่างๆ ลูกพรุนและน้ำองุ่น อาหารรสจัด อาหารมันๆ อาหารทอด ช็อกโกแลต - อาหารที่ทำให้อุจจาระมีกลิ่นแรง เช่น ปลา ไข่ สะตอ หน่อไม้ฝรั่ง กระเทียม หัวหอม ถั่ว หัวผัดกาด ผักตระกูลกะหล่ำ อาหารรสจัด อาหารทะเล ชะอม - การดื่มน้ำ ถ้าไม่มีข้อห้ามควรดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 2 ลิตร แต่สำหรับผู้ที่มีทวารใหม่ชนิดลำไส้เล็ก ควร ดื่มน้ำให้มากกว่าปริมาณน้ำที่สูญเสียออกไปจากอุจจาระ และปัสสาวะ 1-1.5 ลิตร ภาวะแทรกซ้อนจากการมีทวารใหม่ ภาวะแทรกซ้อนจากการมีทวารใหม่มี 2 ลักษณะ คือ ภาวะแทรกซ้อนของช่องเปิดลำไส้ และ ภาวะแทรกซ้อนของผิวหนังรอบช่องเปิดลำไส้ 1. ภาวะแทรกซ้อนของช่องเปิดลำไส้ได้แก่ 1.1 ลำไส้เน่าตายจากการขาดเลือด อาจเกิดจากหลอดเลือดที่เลี้ยงลำไส้ฉีกขาด ลำไส้ส่วนที่นำมา ทำช่องเปิดถูกยกจนตึงเกินไป หรือถูกรัดจากพังผืด 1.2 ภาวะเลือดออก หากพบในระยะแรกหลังผ่าตัด มักมีสาเหตุมากจากการห้ามเลือดของเส้น เลือดเล็กๆ ของเยื่อบุลำไส้ขณะผ่าตัดไม่ดีพอ ในระยะหลัง มักเกิดการบาดเจ็บจากการใช้ถุงขนาดไม่เหมาะสม การ ใช้หัวสวน หรือการถูกกระแทก 1.3 ภาวะช่องเปิดลำไส้ถูกดึงรั้งเข้าไปในช่องท้อง เป็นการยุบตัวของทวารใหม่ต่ำกว่าระดับ ผิวหนัง อาจเกิดจากไม่สามารถดึงลำไส้ส่วนที่จะทำทวารใหม่ให้ยาวพอ หรือลำไส้มีความตึงมาก ลำไส้ขาดเลือด และเน่าตาย หรือผู้ป่วยอ้วนขึ้นทำให้ผนังหน้าท้องหนาขึ้น 1.4 ภาวะลำไส้ยื่นผิดปกติ เป็นภาวะที่ลำไส้ส่วนที่นำมาทำทวารใหม่ยื่นออกมาเวลาผู้ป่วยเบ่ง และหดตัวกลับเองหรือดันกลับเข้าไปได้
12 1.5 ภาวะช่องลำไส้ตีบ เป็นการตีบแคบของรูเปิดทวารใหม่ สาเหตุจากช่องลำไส้ที่เปิดออกทาง หน้าท้องเน่าตายจาการขาดเลือดมาเลี้ยง การติดเชื้อ การอักเสบที่เกิดจากการฉายรังสี การใช้อุปกรณ์ และการ ดูแลไม่ถูกต้อง ทำให้ลำไส้เกิดแผลและเกิดพังผืดรัดทำให้เกิดการตีบแคบ 1.6 ภาวะไส้เลื่อน เป็นภาวะที่ลำไส้ยื่นออกจากช่องท้องมาตุงอยู่ใต้ผิวหนังรอบทวารใหม่สาเหตุ จากการผ่าตัดทำช่องเปิดใหญ่เกินไป หรือจากการที่ผู้ป่วยมีผนังหน้าท้องที่อ่อนแอ ผู้ที่มีอายุมากกว่า 60 ปี อ้วน ไอ เรื้อรัง หรือไอแห้งๆบ่อยๆ โรคหอบหืด ต่อมลูกหมากโต ออกแรงยกของหนักมากเกินไปในระยะ 2-3 เดือนแรก หลังผ่าตัด 1.7 รอยเย็บระหว่างลำไส้เปิดทางหน้าท้องกับผิวหนังแยก เป็นภาวะที่พบรอยเย็บของลำไส้ส่วนที่ นำมาเปิดทางหน้าท้องแยกออกจากผิวหนัง 2. ภาวะแทรกซ้อนของผิวหนังรอบช่องเปิดลำไส้ 2.1 Ulceration คือการเกิดแผลที่ช่องเปิด มีสาเหตุมาจากเทคนิคการปิดถุงไม่ถูกต้อง 2.2 Skin excoriation เป็นภาวะแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นบนผิวหนังรอบทวารใหม่ส่วนใหญ่เกิดจาก การระคายเคืองเนื่องจากมีอุจจาระรั่วซึมกัดผิวหนัง อาจมีอาการคัน เกิดรอยแดง เป็นผื่นและเกิดแผลลึกได้การ แก้ปัญหาดังนี้ - เปลี่ยนแป้นทันทีเมื่อมีอุจจาระรั่วซึม และทำความสะอาดผิวหนังให้สะอาด จนผิวหนังแห้ง ใช้ Stomahesive powder โรยบริเวณที่มีแผล เกลี่ยให้เรียบแล้วจึงปิดแป้นตามปกติ - กรณีผิวหนังไม่เรียบเสมอกันทำให้อุจจาระรั่วซึมออกมาเนื่องจากมีช่องว่างระหว่างแป้นกับ ผิวหนัง ให้ใช้ Stomahesive powder เติมให้ผิวหนังอยู่ในระดับเดียวกัน แล้วจึงปิดแป้นตามปกติ 2.3 Folliculitis เป็นการอักเสบของรูขุมขน เกิดจาการโกนขนรอบๆ ทวารใหม่บ่อยๆ หรือเกิด จากการลอกถุงอย่างไม่ระมัดระวัง ทำให้เชื้อเข้าสู่ร่างกายเกิดการอักเสบได้ 2.4 Mechanical trauma เกิดจากการลอกถุงอย่างรุนแรงหรือไม่ถูกวิธีทำให้ผิวหนังได้รับ บาดเจ็บเป็นแผล อาการผิดปกติที่ต้องมาพบแพทย์ 1. มีอาการตะคริว คลื่นไส้ อาเจียนนานกว่า 2 ชั่วโมง 2. ทวารใหม่บวมมากกว่าปกติประมาณ ครึ่งนิ้วหรือผลุบเข้าข้างในต่ำกว่าระดับผิวหนัง 3. มีเลือดออกที่ทวารใหม่ปริมาณมาก 4. สิ่งที่ขับออกทางทวารใหม่มีกลิ่นเหม็นผิดปกติ และเป็นนานกว่า 5-6 ชั่วโมง
13 5. ทวารใหม่สีซีด มีสีม่วง/ดำคล้ำ 6. ไม่ถ่ายหลายวัน ปวดแน่นท้อง อาการผิดปกติที่ควรปรึกษาพยาบาล 1. เมื่อแผ่นแป้นรั่วซึมบ่อย 2. ผิวหนังรอบทวารใหม่ระคายเคือง มีผื่นแดงหรือมีแผลถลอก 3. เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงรูปร่างและขนาดทวารใหม่ซึ่งเป็นสาเหตุให้รู้สึกไม่สุขสบายหรือมีปัญหาในการ ใช้วัสดุรองรับสิ่งขับถ่าย Discharge Planning (ตามหลักการของ D-METHOD) Goal: ผู้ป่วยมีความรู้เกี่ยวกับวิธีการดูแลตนเองหลังออกจากโรงพยาบาล Evaluation: ผู้ป่วยสามารถอธิบายวิธีการดูแลตนเองหลังออกจากโรงพยาบาลได้ถูกต้อง การพยาบาล D = Diagnosis โรค/ ภาวะเจ็บป่วย: การผ่าตัดนำส่วนใดส่วนหนึ่งของลำไส้เปิดออกทางหน้าท้องแบบชั่วคราว หรือถาวรเพื่อแก้ไขปัญหาการขับถ่ายในผู้ป่วยจากการบาดเจ็บของลำไส้ใหญ่หรือมีโรคทางลำไส้ใหญ่จากการติด เชื้อหรือความผิดปกติของการดูดซึม แต่ส่วนใหญ่จะทำในผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก (Colorectal cancer) โดยบริเวณช่องเปิดลำไส้ส่วนที่โผล่ออกมาจากหน้าท้องเรียกว่า สโตม่า (Stoma) M = Medication การใช้ยา/ คำแนะนำการใช้ยา/ ปฏิกิริยาระหว่างอาหารและยา: รับประทานยาฆ่าเชื้อ และยา ที่แพทย์สั่งจนครบ ไม่หยุดรับประทานยา หรือซื้อยารับประทานเอง หากมีผลข้างเคียงจากยา หรือแพ้ยาได้แก่ ผื่น หน้าบวม ให้มาโรงพยาบาลทันทีและนำยาเก่ามาด้วย E = Environment การจัดสภาพแวดล้อม: สิ่งแวดล้อมที่บ้าน/ ห้องพัก/ ที่นอนสะอาด แสงสว่างเพียงพอ อากาศ ถ่ายเทสะดวก ไม่มีสิ่งของกีดขวาง, สิ่งที่ควรระวัง ไม่แกะเกา หรือสัมผัสบาดแผล รักษาความสะอาดบริเวณรอบๆ แผล T = Treatment ภาวะเร่งด่วนที่ต้องพบแพทย์: 1. มีอาการตะคริว คลื่นไส้ อาเจียนนานกว่า 2 ชั่วโมง 2. ทวารใหม่บวมมากกว่าปกติประมาณ ครึ่งนิ้วหรือผลุบเข้าข้างในต่ำกว่าระดับผิวหนัง 3. มีเลือดออกที่ทวารใหม่ปริมาณมาก 4. สิ่งที่ขับออกทางทวารใหม่มีกลิ่นเหม็นผิดปกติ และเป็นนานกว่า 5-6 ชั่วโมง
14 5. ทวารใหม่สีซีด มีสีม่วง/ดำคล้ำ 6. ไม่ถ่ายหลายวัน ปวดแน่นท้อง H = Health การปฏิบัติเพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อน: การฝึกทักษะของผู้ป่วย เช่น การเลือกใช้วัสดุรองรับอุจจาระ การทำความสะอาดวัสดุรองรับอุจจาระ การเปลี่ยนถุง การเปลี่ยนแป้น และการดำเนินชีวิตเมื่อมีทวารใหม่ - การอาบน้ำ ควรอาบโดยวิธีตักอาบหรือฝักบัว อาบได้ทั้งขณะใส่หรือถอดถุงออก โดยใช้พลาสเตอร์ติดรอบ แป้นเพื่อให้แป้นติดแน่นไม่ให้น้ำเซาะ เมื่ออาบน้ำเสร็จให้ซับน้ำให้แห้งและเอาพลาสเตอร์ออกได้ ในกรณีจะ เปลี่ยนแป้นสามารถแกะแป้นออกก่อน อาบน้ำจนสะอาดแล้วจึงซับผิวรอบทวารใหม่ให้แห้งก่อนติดแป้นใหม่ น้ำไม่สามารถไหลเข้าทวารใหม่ได้ เนื่องจากลำไส้จะมีการบีบตัวออกตลอดเวลาและทวารใหม่เป็นช่องทางการ ขับถ่ายไม่ใช่แผล จึงสามารถทำความสะอาดได้โดยน้ำสะอาดธรรมดา - การแต่งกาย หลีกเลี่ยงขอบกางเกง ขอบกระโปรงหรือเข็มขัดไปกดทับ/เสียดสีบริเวณทวารใหม่ การสวม เสื้อผ้าที่หลวมเล็กน้อย หรือมีจีบด้านหน้าจะช่วยพรางตาได้ การสอดถุงรองรับสิ่งขับถ่ายไว้ในกางเกงชั้นในจะ ช่วยให้สะดวกเวลาเคลื่อนไหวและเดินถุงจะไม่แกว่งและระคายเคือง นอกจากนี้ยังช่วยให้มั่นใจว่าถุงไม่หลุด ล่วง กางเกงชั้นในยังช่วยประคองน้ำหนักอุจจาระในถุงในกรณีที่ยังไม่สามารถระบายออกได้ ช่วยไม่ให้ถ่วง แป้นจนหลุดลอกจากผิวหน้าท้อง แต่บริเวณปลายถุงที่ผูกหรือคลิปไว้อาจระคายเคืองผิวหน้าท้องด้านล่าง อาจ ใส่ถุงผ้าทับเพื่อลดการระคายเคืองผิว - การทำงานและเดินทาง งานที่ต้องมีการเคลื่อนไหวร่างกายมากๆ ต้องใช้ความคล่องตัว อาจใช้เข็มขัดยางยืด รัดรอบเอวยึดแป้นและถุงไว้ การเดินทางต้องมีการวางแผนล่วงหน้า สิ่งสำคัญคือ การเตรียมอุปกรณ์ต่างๆ ที่ ต้องใช้สำรองไว้ตามจำนวนวันที่ต้องเดินทาง เก็บไว้ในที่สามารถหยิบสะดวกและใกล้ตัวเสมอ ควรมีการสำรอง แผ่นแป้นที่ตัดช่องให้ได้ขนาดพอดีกับทวารใหม่เตรียมไว้ก่อนเพื่อความสะดวกรวดเร็วเวลาใช้จริง ทั้งนี้รวมถึง ถุงรองรับอุจจาระ สำลี/กระดาษชำระ ถุงใส่วัสดุใช้แล้วสำหรับนำกลับไปทำความสะอาดที่บ้านและถุงขยะ บรรจุในกระเป๋าขนาดเล็กติดตัวไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน ผู้ป่วยหรือผู้ดูแลควรทราบชนิดหรือยี่ห้อและขนาดของวัสดุ ที่ใช้ สถานที่ที่สามารถหาซื้อได้ - การออกกำลังกาย/ งานอดิเรก ผู้มีทวารใหม่จะมีข้อจำกัดในเรื่องกีฬาและการออกกำลังกาย เฉพาะหลัง ผ่าตัด 2-3 เดือนแรก หลังจากนั้นสามารถออกกำลังกายได้ปกติ เช่น เดิน วิ่ง สามารถว่ายน้ำได้แต่ไม่ควรเกิน 30 นาที (ควรเป็นทวารใหม่ลำไส้ใหญ่ที่ขับถ่ายเป็นเวลาและมีการเปลี่ยนแป้นก่อน) ควรออกกำลังกาย สม่ำเสมอ แต่ต้องหลีกเลี่ยงกีฬาที่หักโหมรุนแรงและเสี่ยงต่อการกระทบกระแทกทวารใหม่ - เพศสัมพันธ์การผ่าตัดจะมีผลกระทบกระเทือนต่อเส้นประสาทที่ควบคุมการไหลเวียนเลือดในอวัยวะเพศชาย อาการผิดปกติอาจหายเป็นปกติได้ ในชายที่อายุน้อยกว่า 60 ปี โดยเฉพาะถ้าน้อยกว่า 50 ปี ในเพศหญิงการ
15 เปลี่ยนแปลงอาจสังเกตเห็นได้น้อย ผู้มีทวารใหม่สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้ ขึ้นอยู่กับการแสดงออกและความ เข้าใจกันของคู่สมรส การได้ปรึกษากันเกี่ยวกับการใช้อุปกรณ์เทียม ท่าในการร่วมเพศที่เหมาะสมไม่กระทบ กระแทกทวารใหม่ การทำความสะอาดทวารใหม่ก่อน และเปลี่ยนถุงใหม่จะช่วยให้เกิดความมั่นใจ การใช้ผ้า สีสันสวยงามพันทับทวารใหม่หลวมๆ ปิดบังถุงอีกชั้น การใช้สเปรย์หอมและการสร้างบรรยากาศ จะช่วยให้ ความรู้สึกดีขึ้น O = Out patient ให้คำแนะนำในเรื่องการมาตรวจตามนัด ที่คลินิกศัลยกรรมศัลยกรรมทั่วไป และคลินิกออสโต มี ตึก 150 ปี ชั้น 5 การติดต่อขอความช่วยเหลือในกรณีฉุกเฉิน: 1669 D = Diet อาหารที่เหมาะสมกับโรค: รับประทานอาการ 3 มื้อตามปกติ จะช่วยให้ลำไส้ทำงานได้ดีและมีก๊าซน้อย ไม่ควรลดอาหารเพื่อลดปริมาณอุจจาระ สามารถรับประทานอาหารได้ทุกประเภทแต่ต้องจำกัดอาหารตามโรค ประจำตัว แต่มีอาหารบางประเภทที่ควรจำกัดตามสถานการณ์ เช่น งดรับประทานอาหารที่ทำให้เกิดก๊าซหรือทำ ให้อุจจาระมีกลิ่นแรงเมื่อจะออกนอกบ้าน ควรรับประทานอาการที่มีเส้นใยสูงเพื่อให้มีการขับถ่ายเป็นปกติ แต่ควร เคี้ยวช้าๆ และเคี้ยวให้ละเอียด - อาหารที่ทำให้เกิดก๊าซมาก เช่น ถั่วทุกชนิด แตงกวา หน่อไม้ฝรั่ง ชะอม ผัดตระกูลกะหล่ำ หัวหอม เบียร์ น้ำอัดลม เครื่องดื่มผสมโซดา - อาหารเส้นใยสูง เช่น ข้าวโพด ข้าวโพดคั่ว มะพร้าว ผัดกวางตุ้ง ผักกระเฉด มะเขือพวง หัวผักกาด ไส้กรอกต่างๆ แอปเปิ้ลทั้งเปลือก องุ่น ผักชี คื่นฉ่าย มันฝรั่งทั้งเปลือก กะหล่ำปลีสด เห็ด ผลไม้แห้ง เช่น ลูกเกด ผู้ที่มีทวารใหม่ลำไส้เล็กควรเริ่มรับประทานหลังผ่าตัดไปแล้ว 2 เดือน เนื่องจากช่วงแรกทวารใหม่ยังบวมอาจทำให้ เกิดการอุดตันได้ การเริ่มควรเริ่มครั้งละน้อยๆ เมื่อไม่มีอาการปวดท้อง ขับถ่ายได้ตามปกติจึงเพิ่มปริมาณและ จำนวนมื้อในแต่ละวันให้มากขึ้น - อาหารที่ทำให้อุจจาระแข็งขึ้น เป็นก้อน เช่น กล้วย ข้าว ขนมปัง มันฝรั่ง เนยแข็ง มันสำปะหลัง สาคู โยเกิร์ต อาหารจำพวกแป้ง - อาหารที่ทำให้อุจจาระอ่อน เพื่อให้ขับถ่ายได้ง่าย เช่น ถั่วฝักยาว มะขาม มะเขือเทศ ส้ม ผลไม้สด ผักสด ผักใบเขียวต่างๆ ลูกพรุนและน้ำองุ่น อาหารรสจัด อาหารมันๆ อาหารทอด ช็อกโกแลต - อาหารที่ทำให้อุจจาระมีกลิ่นแรง เช่น ปลา ไข่ สะตอ หน่อไม้ฝรั่ง กระเทียม หัวหอม ถั่ว หัวผัดกาด ผักตระกูลกะหล่ำ อาหารรสจัด อาหารทะเล ชะอม - การดื่มน้ำ ถ้าไม่มีข้อห้ามควรดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 2 ลิตร แต่สำหรับผู้ที่มีทวารใหม่ชนิดลำไส้เล็ก ควร ดื่มน้ำให้มากกว่าปริมาณน้ำที่สูญเสียออกไปจากอุจจาระ และปัสสาวะ 1-1.5 ลิตร