พระราชทานเพลิงศพ
สมเด็จพระวันรตั (จนุ ท์ พฺรหฺมคตุ โฺ ต)
๑ ธนั วาคม ๒๕๖๕
บรรณานุสรณีย์ในการพระราชทานเพลิงศพ
ศีล ไมไ่ ด้อยู่ทว่ี ดั
วดั บวรนิเวศวิหาร พิมพ์โดยเสด็จพระราชกุศล
ในการพระราชทานเพลงิ ศพ
สมเด็จพระวันรตั (จนุ ท์ พฺรหฺมคตุ ฺโต)
ณ เมรหุ ลวงหน้าพลบั พลาอศิ ริยาภรณ์
วัดเทพศิรนิ ทราวาส เขตปอ้ มปราบศตั รพู ่าย กรุงเทพมหานคร
วนั พฤหสั บดีที่ ๑ ธนั วาคม พทุ ธศักราช ๒๕๖๕
ศีลไมไ่ ด้อยู่ทว่ี ดั
©สมเดจ็ พระวนั รัต (จนุ ท์ พรฺ หมฺ คตุ โฺ ต)
พิมพค์ ร้งั ที่ ๑ ๓,๐๐๐ เล่ม
บรรณานสุ รณยี ์ในการพระราชทานเพลิงศพ
วดั บวรนเิ วศวิหาร พมิ พ์โดยเสดจ็ พระราชกศุ ล
ในการพระราชทานเพลงิ ศพ
สมเดจ็ พระวันรัต (จนุ ท์ พรฺ หมฺ คตุ ฺโต)
๑ ธนั วาคม ๒๕๖๕
บรรณาธิการ
พระธรรมศากยวงศว์ ิสทุ ธิ์ (อนลิ มาน ธมมฺ สากโิ ย)
รูปเลม่ : พจมาลย์ เกียรติธร
ผวู้ าดการ์ตูน: ธัญนนั ท์ จริ ะสถติ ย์วรกลุ
ออกแบบปก: ศาสตราจารย์ ดร.พชิ ยั สดภบิ าล
พิมพท์ ี่:
บรษิ ัท พมิ พ์ดี (สาำ นกั งานใหญ่) จาำ กัด
เลขที่ 30/2 หมู่ 1 ถนนเจษฎาวิธี ตาำ บลโคกขาม
อ. เมอื งสมทุ รสาคร จ. สมุทรสาคร 74000
02-401-6401 www.pimdee.co.th
คำ�ปร�รภ
เจ้าประคุณสมเด็จพระวนั รัต (จนุ ท์ พฺรหฺมคุตฺโต) กรรมการมหาเถร
สมาคม ผ้ปู ฏบิ ัตหิ นา้ ท่ีแทนเจา้ คณะใหญค่ ณะธรรมยุต และเจ้าอาวาส
วดั บวรนิเวศวิหาร เปน็ พระเถระผ้ทู รงเกียรติคณุ และมีคุณูปการตอ่ พระ
ศาสนา และบ้านเมืองหลายดา้ น อาทิ
ในดา้ นการพระศาสนา ดำารงอยูใ่ นเพศพรหมจรรยน์ ับแต่บรรพชา เมอื่
อายุ ๑๒ ปี และอปุ สมบทในกาลตอ่ มา จวบจนเจริญชนมายุ ๘๕ พรรษา
๖๖ ไดข้ ยันหมัน่ เพียรในการศกึ ษาพระปรยิ ัติธรรม จนสาำ เร็จเปรียญธรรม
๙ ประโยค ต่อแตน่ น้ั ก็ไดร้ ับภาระธรุ ะทางพระพทุ ธศาสนา เร่มิ แตท่ างการ
ศึกษา โดยเป็นครสู อนพระปรยิ ตั ธิ รรม ทั้งแผนกธรรมและแผนกบาลี
ประจาำ สำานักเรยี นวัดบวรนิเวศวหิ ารมายาวนาน จนถงึ กาลอนั ควร กไ็ ดเ้ ปน็
ผ้อู ำานวยการศกึ ษาสาำ นักเรียนวดั บวรนเิ วศวหิ าร เปน็ เจ้าสำานักเรยี นวัดบวร
นเิ วศวิหาร และเปน็ แม่กองธรรมสนามหลวง เปน็ ทีส่ ุด
ในสว่ นพทุ ธศกึ ษา คอื สง่ั สอนพระพุทธศาสนาแก่คนทวั่ ไป ก็ไดเ้ ป็นครู
สอนศีลธรรมนกั เรียนในโรงเรียนวัดบวรนเิ วศมาตลอด เปน็ อาจารย์สอน
พระธรรมวินยั แก่พระนวกภกิ ษุ คอื ผู้บวชใหม่ในสำานักวดั บวรนเิ วศวิหาร
เปน็ ประจาำ และได้ทาำ หนา้ ที่ถวายพระธรรมวินัยแด่สมเด็จบรมบพติ ร
พระราชสมภารเจ้า พระบาทสมเดจ็ พระวชิรเกลา้ เจ้าอยูห่ วั เม่ือครง้ั ดำารง
พระราชอิสริยยศ สมเดจ็ พระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมกุฎราชกมุ าร
ทรงผนวชเป็นพระภิกษุเมื่อพทุ ธศกั ราช ๒๕๒๑ เสด็จประทับ ณ วัดบวร
นเิ วศวิหาร ตลอดเวลาแห่งการทรงผนวช
นอกจากนีย้ ังเปน็ พระเถระผ้ทู รงพระปาตโิ มกข์ รบั หน้าที่เป็นผู้สวดพระ
ปาตโิ มกขใ์ นวัดบวรนิเวศวิหารมายาวนาน แมใ้ นกาลทรงผนวชแหง่ สมเดจ็
บรมบพติ ร พระราชสมภารเจา้ พระบาทสมเดจ็ พระวชิรเกล้าเจ้าอยหู่ วั
ก็ได้รับอาราธนาให้เป็นผู้สวดพระปาติโมกข์ถวายในวันอุโบสถท่ีมาถึงเป็น
กรณพี เิ ศษ
ในด้านการคณะสงฆ์ เจ้าประคุณสมเดจ็ ฯ ก็ไดด้ าำ รงตาำ แหนง่ หน้าท่ี
สำาคัญมาตามลำาดบั กาลคอื เป็นเจ้าคณะกรงุ เทพมหานคร - สมุทรปราการ
(ธ) เปน็ กรรมการมหาเถรสมาคม เป็นพระอุปัชฌาย์ เป็นคณะผูป้ ฏบิ ัติ
หน้าที่สมเด็จพระสงั ฆราช เป็นเจา้ อาวาสวัดบวรนเิ วศวิหาร เป็นเจา้ คณะ
ใหญ่คณะธรรมยุต เป็นประธานคณะสนองงานในสมเด็จพระสังฆราช ใน
ด้านคณะสงฆน์ ้นั เจ้าประคุณสมเดจ็ ฯ มุ่งสร้างความสมัครสมานสามคั คี
แกท่ ุกฝ่าย เจา้ ประคณุ สมเด็จ ฯ กล่าวอยเู่ สมอวา่ การคณะสงฆ์ต้องมงุ่
เอาพระพทุ ธศาสนาเปน็ ทีต่ ้งั
ในดา้ นการนวกรรม คือการก่อสร้างพุทธสถานและถาวรวตั ถุอนั
อำานวยสาธารณประโยชน์ เจา้ ประคุณสมเดจ็ ฯ ก็มีดำาริให้สรา้ งพทุ ธสถาน
คืออารามอันประณตี งดงามหลายแหง่ อาทิ วดั วชริ ธรรมาราม อำาเภอ
มหาราช จังหวัดพระนครศรีอยุธยา วัดรตั นวนาราม อำาเภอบอ่ ไร จังหวัด
ตราด ซง่ึ ได้สรา้ งข้ึนใหม่ท้ังวดั สว่ นวัดคิรวี ิหาร อาำ เภอเมืองตราด จังหวดั
ตราด ได้บูรณะซอ่ มแซมบางส่วน และสรา้ งเพม่ิ เติมขน้ึ อีกเปน็ จำานวนมาก
นอกจากน้กี ย็ งั ไดส้ ร้างอาคารโรงเรยี น อาคารโรงพยาบาล อกี หลายแหง่
ในดา้ นการพระอาราม นบั แตเ่ จ้าพระคณุ สมเด็จพระญาณสงั วร สมเด็จ
พระสังฆราช สกลมหาสงั ฆปรณิ ายก (สุวฑฒฺ นมหาเถร) ประชวร และ
เสดจ็ ไปประทับรักษาพระองค์ ณ โรงพยาบาลจฬุ าลงกรณ์ สภากาชาดไทย
อยา่ งตอ่ เนอ่ื ง เจา้ ประคณุ สมเดจ็ ฯ ก็ได้รับสนองพระบญั ชาดำาเนนิ กจิ การ
ตา่ ง ๆ ภายในวดั บวรนิเวศวหิ ารแทนเจา้ พระคณุ สมเดจ็ พระสังฆราชอย่าง
เต็มกำาลังความสามารถในทกุ ด้าน กระทั่งเจา้ พระคณุ สมเด็จพระสังฆราช
สน้ิ พระชนม์เมือ่ พทุ ธศักราช ๒๕๕๖ และไดด้ าำ รงตำาแหนง่ เจ้าอาวาสวัด
บวรนเิ วศวหิ ารสบื ต่อมา
ในดา้ นจรยิ วตั รอธั ยาศยั เจา้ ประคณุ สมเดจ็ พระวนั รตั (จนุ ท์ พรฺ หมฺ คตุ โฺ ต)
มบี คุ ลิกเงียบขรึม พดู นอ้ ยตรงไปตรงมา เปน็ ผอู้ อ่ นนอ้ มถ่อมตน ใหเ้ กียรติ
แก่ผูอ้ น่ื ตามฐานะ สิง่ ที่ไมร่ ู้ รับวา่ ไมร่ ู้ แล้วสืบสวนสอบถาม สิ่งที่ไมแ่ น่ใจ
ในความถูกตอ้ ง แมจ้ ะเปน็ ประเพณนี ยิ ม ไม่ดว่ นตัดสินหรือลงมือกระทาำ
แตน่ ำาปรึกษาหารือ หรอื แสวงหาผู้ร้ชู ว่ ยพจิ ารณาตรวจสอบ
เป็นผู้หนักในพระธรรมวินยั ไมร่ บี ดว่ นไดด้ ่วนปฏิบตั ิ มอี ัธยาศยั ชอบ
วเิ คราะหส์ อบสวน อาทิเมือ่ พบเหน็ สหธรรมกิ ปนู พระเถระ กอ่ นท่ีจะแสดง
วนิ ัยกรรมต่อกนั ตอ้ งสอบถามพรรษายุกาลให้แน่ชดั เพ่อื จกั ได้ไมข่ ดั ตอ่
วนิ ยั นิยม แล้วจึงถวายคารวะตามควรแก่พรรษา เปน็ อาจณิ ณปฏิบตั ิ ไม่วา่
จะอยู่ในพระอารามหรอื ว่าไปในทใี่ ด ๆ
กล่าวโดยรวม เจ้าประคณุ สมเดจ็ พระวนั รตั (จนุ ท์ พรฺ หมฺ คตุ ฺโต) เป็น
พระเถระทเ่ี จริญดว้ ยคุณอนั เปน็ อตั ตสมบตั ิ และปรหติ ปฏิบัติ เปน็ ผูท้ เ่ี รยี ก
ได้ว่า เจรญิ มาในสาำ นกั อาจารย์ คือไดร้ ับการศกึ ษาอบรมมาดีในสาำ นักของ
พระอุปชั ฌายอ์ าจารย์ จึงไดซ้ ึมซาบเอาคณุ ธรรมและเยี่ยงอยา่ งอนั ดีมา
เปน็ จรยิ วัตรและอัธยาศัยสว่ นตน จนเปน็ ท่ปี รากฏแกส่ าธชุ นและบรรดา
ศษิ ยานุศิษย์ตลอดมา
ด้วยอัตตสมบัตแิ ละปรหิตปฏิบัตอิ ันสมบูรณพ์ รอ้ ม กอปรด้วยวตั ตจรยิ า
และอธั ยาศัยดงั กล่าวมา เจา้ ประคุณสมเด็จพระวันรัต (จุนท์ พรฺ หฺมคุตโฺ ต)
จึงเป็นทีท่ รงเคารพนบั ถอื ในสมเดจ็ บรมบพิตร พระราชสมภารเจ้า และ
พระบรมวงศานวุ งศ์ จึงทรงพระกรณุ าโปรดใหเ้ จ้าประคุณสมเดจ็ ฯ ปฏิบัติ
ภารกิจในการพระราชกุศล และในการพระราชพิธสี าำ คญั ตา่ ง ๆ เปน็ ลาำ ดบั
มา นบั แต่การถวายพระธรรมเทศนา เรม่ิ แต่พทุ ธศักราช ๒๕๑๗ ขณะ
ดำารงสมณศกั ด์ิท่ี พระอมรโมลี เปน็ ต้นมา โดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ ในพระราช
พธิ ีสาำ คัญคือ
เป็นผ้นู ัง่ พระเสลีย่ งกลบี บวั และราชรถนอ้ ย อ่านพระอภธิ รรมนำาพระ
ศพ ในพระราชพธิ ีพระราชทานเพลงิ พระศพสมเด็จพระเจ้าพน่ี างเธอ เจ้า
ฟา้ กลั ยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครนิ ทร์ จากพระทนี่ ่ังดุสิตมหา
ปราสาท ส่พู ระเมรุ ณ มณฑลพธิ ที อ้ งสนามหลวง พทุ ธศักราช ๒๕๕๑
เปน็ ผู้นั่งพระเสลี่ยงกลบี บวั และราชรถน้อย อา่ นพระอภธิ รรมนาำ พระ
ศพ ในพระราชพธิ ีพระราชทานเพลิงพระศพสมเดจ็ พระเจ้าภคินเี ธอ เจา้
ฟ้าเพชรรัตนราชสดุ า สิรโิ สภาพณั ณวดี จากพระท่นี ่ังดุสติ มหาปราสาท สู่
พระเมรุ ณ มณฑลพธิ ที อ้ งสนามหลวง พุทธศักราช ๒๕๕๕
เป็นผู้นำาพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
บรมนาถบพติ ร รัชกาลที่ ๙ จากโรงพยาบาลศริ ิราช สู่พระท่นี ั่งดุสิตมหา
ปราสาท ในพระบรมมหาราชวงั พุทธศกั ราช ๒๕๕๙
เปน็ ผนู้ ง่ั พระเสลย่ี งกลบี บวั และราชรถนอ้ ย อา่ นพระอภธิ รรมนาำ พระบรม
ศพ ในพระราชพธิ ถี วายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ท
รมหาภมู พิ ลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร รชั กาลท่ี ๙ จากพระทีน่ ง่ั ดุสิตมหา
ปราสาท สู่พระเมรมุ าศ ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐
คร้นั เจ้าประคณุ สมเด็จฯ มรณภาพเมือ่ วนั ท่ี ๑๕ มนี าคม พทุ ธศักราช
๒๕๖๕ ณ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ความทราบฝ่าละออง
ธลุ พี ระบาท สมเดจ็ บรมบพิตร พระราชสมภารเจา้ พระบาทสมเด็จพระ
วชิรเกลา้ เจา้ อยู่หวั จึงทรงพระกรุณาโปรดพระราชทานนาำ้ หลวงสรงศพ
พร้อมด้วยเครอ่ื งประกอบเกยี รติยศประดับศพ ณ หอ้ งบาำ เพญ็ กุศล ชน้ั ๒
อาคารฉลองพระชนั ษา ๑๐๐ ปี ญสส วดั บวรนิเวศวหิ าร
ทรงพระกรุณาโปรดเลื่อนช้ันเกียรติยศประกอบศพจากโกศไม้สิบสอง
เปน็ พระราชทานโกศมณฑป ฉัตรเคร่ืองสูงทองแผ่ลวดตัง้ ประดับ แตรงอน
แตรฝรั่ง ป่ี กลองชนะ ประโคมเวลาพระราชทานน้ำาหลวงสรงศพ และ
ทรงรับศพอยู่ในพระบรมราชานเุ คราะห์โดยตลอด มีพระพิธธี รรมสวดพระ
อภิธรรมเวลากลางคืน กาำ หนด ๗ วัน
พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยูห่ ัว และสมเดจ็ พระนางเจา้ ฯ พระบรมราชินี
เสด็จพระราชดำาเนนิ ไปพระราชทานนาำ้ หลวงสรงศพ วางพวงมาลาของสว่ น
พระองค์ และของสมเด็จพระนางเจา้ สริ กิ ิต์ิ พระบรมราชนิ ีนาถ พระบรม
ราชชนนีพันปีหลวง ท่หี นา้ โกศศพ
ทรงบำาเพญ็ พระราชกุศล ๗ วัน ๕๐ วัน และ ๑๐๐ วัน พระราชทาน
อุทศิ ถวาย บรรดาศิษยานุศิษย์และผ้เู คารพนบั ถอื ทัง้ บรรพชติ และคฤหัสถ์
หลากหลาย ต่างพร้อมใจกันบำาเพญ็ กศุ ลถวายต่อเนอ่ื งมาตามลำาดับกาล
จวบจนวันท่ี ๑ ธันวาคม พทุ ธศักราช ๒๕๖๕ จึงทรงพระกรุณาโปรด
พระราชทานเพลงิ ศพเจ้าประคุณสมเดจ็ พระวนั รตั (จนุ ท์ พฺรหฺมคุตฺโต) ณ
เมรหุ ลวงหนา้ พลบั พลาอิศรยิ าภรณ์ วดั เทพศริ นิ ทราวาส กรงุ เทพมหานคร
ขอพระราชกุศลบญุ ราศีทสี่ มเด็จบรมบพติ ร พระราชสมภารเจ้า ผู้ทรง
พระคณุ อันประเสริฐ ได้ทรงพระกรุณาโปรดบำาเพญ็ พระราชทาน ตลอดถงึ
ทักษณิ านปุ ระทานกิจ ทค่ี ณะสงฆ์ คณะศิษยานศุ ษิ ย์ และผ้เู คารพนบั ถอื
ทง้ั ปวง ไดต้ ง้ั ใจบำาเพญ็ อุทิศถวายมาแตต่ ้น จนถงึ วาระพระราชทานเพลงิ
ศพเป็นท่สี ดุ จงสัมฤทธสิ ขุ วบิ ลู มนญุ ทิพยวบิ าก แดเ่ จา้ ประคณุ สมเด็จพระ
วนั รัต (จนุ ท์ พรฺ หฺมคุตโฺ ต) ณ ทพิ ยคตนิ ัน้ ๆ จงทุกประการ เทอญ ฯ
วัดบวรนเิ วศวิหาร
ธนั วาคม ๒๕๖๕
ประวัติสงั เขป
สมเดจ็ พระวันรัต (จนุ ท์ พรฺ หมฺ คตุ ฺโต)
เจา้ ประคณุ สมเด็จพระวนั รตั (จนุ ท์ พรฺ หฺมคตุ โฺ ต) นามเดมิ จนุ ท์
พราหมณ์พิทกั ษ์ เกิดเม่อื วันพฤหัสบดีที่ ๑๗ กันยายน พุทธศกั ราช
๒๔๗๙ เดอื น ๑๑ ข้ึน ๑ คา่ำ ปีชวด ณ บา้ นเกาะเกตุ ตาำ บลชำาราก
อำาเภอเมอื งตราด จงั หวัดตราด โยมบิดาช่ือ นายจนั ทร์ พราหมณ์พิทกั ษ์
โยมมารดาชอ่ื นางเหลย็ พราหมณพ์ ทิ กั ษ์ (สกลุ เดิม รัตนเศียร)
เมอ่ื เยาวว์ ยั ไดร้ บั การศกึ ษาเบอ้ื งตน้ ณ โรงเรยี นวดั คริ วี หิ าร ตาำ บลชาำ ราก
อำาเภอเมอื งตราด จงั หวดั ตราด จบช้ันประถม ๔
ครน้ั จบชน้ั ประถม ๔ อายุ ๑๒ ปี ไดบ้ รรพชาเปน็ สามเณร ณ วดั คริ วี หิ ารนนั้
โดยมพี ระราชวินยั เวที (ถาวร านุตฺตโร ป.ธ. ๗ ขณะดาำ รงสมณศกั ดิท์ ่ี
พระวินยั บณั ฑิต) เป็นพระอุปัชฌาย์ เมือ่ วันที่ ๑๒ พฤษภาคม พทุ ธศกั ราช
๒๔๙๑ ได้ศึกษาเล่าเรียนพระปริยัตธิ รรม ณ วัดคิรวี หิ ารนั้น สอบไดน้ กั
ธรรมช้นั โท
พทุ ธศกั ราช ๒๔๙๔ ไดเ้ ขา้ มาอยวู่ ัดบวรนิเวศวิหาร และศึกษาเลา่ เรยี น
พระปริยตั ธิ รรมต่อ จนสอบไดเ้ ปรียญธรรม ๙ ประโยค เม่อื พุทธศกั ราช
๒๕๑๕
ครั้นอายคุ รบอุปสมบท ได้อุปสมบท ณ วัดบวรนิเวศวิหาร เมอ่ื วนั ท่ี
๘ กรกฎาคม พทุ ธศกั ราช ๒๔๙๙ มสี มเด็จพระสงั ฆราชเจา้ กรมหลวง
วชริ ญาณวงศ์ (ม.ร.ว. ชื่น สุจติ ฺโต) ขณะดำารงพระสมณศักดิท์ ่ี สมเดจ็
พระวชริ ญาณวงศ์ สมเด็จพระสงั ฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เป็นพระ
อุปัชฌาย์ พระราชวนิ ัยเวที (ถาวร านุตฺตโร ขณะดาำ รงสมณศักดิท์ ่ี พระ
วินัยบัณฑิต) เปน็ พระกรรมวาจาจารย์ พระราชบณั ฑติ (แจม่ ธมฺมสาโร
ขณะดาำ รงสมณศักดท์ิ ่ี พระครวู ิสทุ ธิธรรมภาณ) เป็นพระอนุสาวนาจารย์
อุปสมบทในพรรษกาลเดียวกับสมเดจ็ พระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพล
อดลุ ยเดชมหาราช บรมนาถบพติ ร รัชกาลท่ี ๙ ซ่งึ ทรงผนวชเปน็ พระภิกษุ
ณ วัดพระศรรี ัตนศาสดาราม ในพระบรมมหาราชวังแล้ว เสดจ็ มาประทบั
ณ วดั บวรนเิ วศวหิ าร
คร้นั สอบได้เปน็ เปรียญธรรม ๕ ประโยคเมอ่ื พทุ ธศักราช ๒๕๐๐ เเลว้
นบั ว่าพ้นภาวะของการเปน็ นักเรยี น ตามประเพณนี ิยมของสาำ นักเรยี นวดั
บวรนิเวศวิหาร จึงได้เร่มิ รับภาระธรุ ะทางพระพุทธศาสนา โดยเป็นครสู อน
พระปรยิ ัติธรรม ทง้ั แผนกธรรมและแผนกบาลี ประจาำ สาำ นักเรยี นวดั บวร
นิเวศวหิ าร เปน็ กรรมการสนามหลวง ทง้ั แผนกธรรมและแผนกบาลี เปน็
ผชู้ ่วยเจา้ อาวาสวัดบวรนเิ วศวิหาร
พุทธศักราช ๒๕๑๗ ได้รบั พระราชทานสมณศกั ดิเ์ ป็นพระราชาคณะ
ชัน้ สามัญที่ พระอมรโมลี นับต้ังแต่น้ันมา กเ็ จรญิ ด้วยสมณศักดิ์ และมี
ภาระหนา้ ทท่ี างการพระศาสนาและการคณะสงฆ์เพม่ิ พนู ข้ึน ตามลาำ ดับ
กาลดงั น้ี
เมอ่ื ดำารงสมณศักด์ิที่ พระอมรโมลี เปน็ ผอู้ าำ นวยการศึกษาสำานักเรียน
วัดบวรนิเวศวหิ าร
พุทธศักราช ๒๕๓๑ ได้รบั พระราชทานเลอ่ื นสมณศักด์ิเปน็ พระราชา
คณะชนั้ ราชท่ี พระราชสมุ นตม์ ุนี
เปน็ ผรู้ กั ษาการแทนเจา้ คณะกรงุ เทพมหานคร-สมทุ รปราการ (ธรรมยตุ )
พทุ ธศกั ราช ๒๕๓๕ ได้รับพระราชทานเลือ่ นสมณศักดเ์ิ ป็นพระราชา
คณะช้ันเทพท่ี พระเทพกวี
เป็นเจา้ คณะกรงุ เทพมหานคร-สมุทรปราการ (ธรรมยุต) เปน็ กรรมการ
บรหิ ารคณะธรรมยตุ เปน็ รองเจ้าคณะภาค ๔-๕-๖-๗ (ธรรมยุต)
พุทธศกั ราช ๒๕๔๑ ได้รบั พระราชทานเลอ่ื นสมณศักดเ์ิ ป็นพระราชา
คณะชั้นธรรมที่ พระธรรมกวี
เป็นกรรมการมหาเถรสมาคม
เปน็ แมก่ องธรรมสนามหลวง ได้ต้งั สาำ นกั งานแม่กองธรรมสนามหลวง
ข้ึนเปน็ ครง้ั แรก ณ ตกึ หอสมดุ มหามกุฏราชวทิ ยาลยั หน้าวดั บวรนิเวศ
วิหาร เปน็ กรรมการสภามหาวิทยาลัยผู้ทรงคุณวุฒิ มหาวิทยาลัยมหามกุฏ
ราชวทิ ยาลัย เป็นประธานกรรมการตาำ ราและวิชาการ มูลนธิ ิมหามกฏุ
ราชวิทยาลัย ในพระบรมราชปู ถัมภ์
พทุ ธศกั ราช ๒๕๔๓ ได้รับพระราชทานสถาปนาเป็นพระราชาคณะเจ้า
คณะรองชัน้ หิรัญบัฏท่ี พระพรหมมุนี
เป็นผู้ชว่ ยปฏิบัติหน้าท่ีสมเดจ็ พระสังฆราช เปน็ พระอุปชั ฌาย์
พุทธศักราช ๒๕๕๒ ได้รบั พระราชทานสถาปนาเปน็ สมเดจ็ พระราชา
คณะช้ันสุพรรณบัฏท่ี สมเดจ็ พระวันรตั
เป็นเจา้ อาวาสวดั บวรนิเวศวหิ าร เป็นคณะผปู้ ฏิบัตหิ น้าท่ีสมเด็จพระ
สังฆราช เป็นเจา้ คณะใหญ่คณะธรรมยุต เปน็ ประธานคณะผสู้ นองงานใน
สมเด็จพระสงั ฆราช เป็นผู้ปฏบิ ตั ิหน้าทีแ่ ทนเจ้าคณะใหญ่คณะธรรมยุต
เป็นเจ้าสำานกั เรียนวดั บวรนเิ วศวิหาร เป็นประธานที่ปรกึ ษาแม่กอง
ธรรมสนามหลวง เป็นประธานกรรมการการศกึ ษาพระปริยตั ิธรรม แผนก
สามญั เป็นประธานกรรมการการศกึ ษาพระปริยตั ธิ รรม เปน็ อปุ นายก
สภามหาวิทยาลยั มหามกุฏราชวทิ ยาลัย
เป็นประธานกรรมการบริหารกองทุนเผยแผ่พระธรรมในพระพุทธ
ศาสนา เปน็ ประธานกรรมการมูลนธิ สิ มเด็จพระญาณสงั วร สมเด็จพระ
สงั ฆราช วดั บวรนเิ วศวิหาร เปน็ ประธานกรรมการมูลนิธิโรงพยาบาล
และโรงเรียนสมเด็จพระปยิ มหาราชรมณยี เขต จังหวดั กาญจนบรุ ี เปน็
ประธานกรรมการมลู นิธิแผ่นดนิ ธรรม เป็นผอู้ าำ นวยการมูลนธิ มิ หามกฏุ
ราชวทิ ยาลัย ในพระบรมราชปู ถัมภ์
ในด้านการนวกรรม และการบรู ณะปฏสิ ังขรณพ์ ทุ ธสถาน เจา้ พระคณุ
สมเดจ็ ฯ ก็ไดด้ ำาริ และดำาเนนิ การขน้ึ เปน็ จำานวนมาก ทั้งในประเทศ และ
ในตา่ งประเทศ ท่สี ำาคัญคอื
สร้างอาคาร ๑๐๐ ปี ญสส. วดั บวรนิเวศวหิ าร สรา้ อาคาร ทพี่ กั สงฆ์ ๕
ชัน้ วดั บวรนิเวศวหิ าร สร้างอาคารจอดรถวัดบวรนิเวศวิหาร
สร้างวัดวชริ ธรรมาราม อำาเภอมหาราช จงั หวัดพระนคร ศรอี ยุธยา
สรา้ งวดั รัตนวนาราม อาำ เภอบ่อไร่ จังหวัดตราด บูรณะและสรา้ งอาคารข้นึ
ใหมอ่ กี เปน็ จาำ นวนมาก ในวัดคริ ีวิหาร อาำ เภอเมอื งตราด จงั หวดั ตราด
สร้างอาคารเรียนโรงเรียนวัดคิรีวิหาร และอาคารเรยี นโรงเรยี นมัธยม
คีรเี วศน์รตั นูปถัมภ์ อำาเภอเมอื งตราด จังหวัดตราด สร้างตึกสกลมหาสงั ฆ
ปรณิ ายก หลงั ที่ ๑๕ โรงพยาบาลตราด
เปน็ ประธานโครงการหมุ้ ทองยอดฉตั รพระมหาเจดยี พ์ ุทธคยา ประเทศ
อินเดีย
ในดา้ นพระบรมราชวงศ์ เจ้าประคณุ สมเด็จฯ ไดป้ ฏิบตั หิ นา้ ที่สนอง
พระราชกรณียกจิ และสนองพระราชศรทั ธาในการพระราชพธิ ี และการ
พระราชกศุ ลในโอกาสตา่ ง ๆ เสมอมา แต่เมอื่ ดำารงสมณศกั ดิ์ที่ พระอมร
โมลี ท่นี บั วา่ เป็นกรณียะพเิ ศษ คอื
เปน็ ประธานดาำ เนนิ การสรา้ งพระพทุ ธรปู ปางลลี า เนอ้ื ทองคาำ ประจาำ
พระชนมพรรษา เนอ่ื งในโอกาสพระราชพธิ มี หามงคล เฉลมิ พระชนมพรรษา
๗ รอบ ๕ ธนั วาคม ๒๕๕๔
เป็นผู้ดำาเนนิ การจัดสรา้ งพระพทุ ธรูปปางลลี า เนื้อทองคาำ ประจำา
พระชนมพรรษา เฉลมิ พระเกยี รตสิ มเด็จพระนางเจา้ ฯ พระบรมราชนิ ีนาถ
เนื่องในโอกาสพระราชพิธมี หามงคล เฉลมิ พระชนมพรรษา ๗ รอบ ๑๒
สิงหาคม ๒๕๕๗
เป็นพระอาจารยถ์ วายพระธรรมวินัย แด่พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยหู่ วั
รชั กาลท่ี ๑๐ ขณะทรงดาำ รงพระราชอสิ รยิ ยศ สมเดจ็ พระบรมโอรสาธริ าชฯ
สยามมกฎุ ราชกุมาร ทรงผนวช
เป็นพระภิกษุ เสด็จประทับ ณ วดั บวรนิเวศวหิ าร ตลอดระยะเวลาแห่ง
การทรงผนวช เม่อื พทุ ธศกั ราช ๒๕๒๑
เป็นผนู้ ง่ั พระเสล่ียงกลีบบวั และราชรถน้อย อ่านพระอภธิ รรมนาำ พระ
ศพ ในพระราชพิธี พระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้า
ฟา้ กัลยาณวิ ัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครนิ ทร์ จากพระทนี่ ั่งดสุ ติ
มหาปราสาท สพู่ ระเมรุ ณ มณฑลพธิ ีทอ้ งสนามหลวง เม่อื วันท่ี ๑๕
พฤศจิกายน ๒๕๕๑
เป็นผู้นัง่ พระเสลี่ยงกลีบบวั และราชรถน้อย อา่ นพระอภธิ รรมนาำ พระ
ศพ ในพระราชพิธี พระราชทานเพลงิ ศพสมเด็จพระเจ้าภคนิ ีเธอ เจ้าฟ้า
เพชรรตั นราชสดุ า สิรโิ สภาพัณณวดี จากพระที่น่งั ดสุ ติ มหาปราสาท สู่
พระเมรุ ณ มณฑลพิธที อ้ งสนามหลวง เมอ่ื วนั ที่ ๙ เมษายน ๒๕๕๕
เป็นผู้นำาพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ ๙ จากโรงพยาบาลศริ ิราช สูพ่ ระที่น่งั ดุสติ มหา
ปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง เมอ่ื วันท่ี ๑๔ ตุลาคม ๒๕๕๙
เปน็ ผนู้ ่ังพระเสลยี่ งกลีบบวั และราชรถน้อย อา่ นพระอภธิ รรมนำา
พระบรมศพในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระ
ปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช บรมนาถบพติ ร รัชกาลท่ี ๙ จากพระที่นงั่
ดุสติ มหาปราสาท สพู่ ระเมรุ ณ มณฑลพิธีทอ้ งสนามหลวง เมื่อวันที่ ๒๖
ตลุ าคม ๒๕๖๐
นบั แตเ่ จา้ ประคณุ สมเดจ็ ฯ ดาำ รงสมณศกั ดท์ิ ่ี สมเดจ็ พระวนั รตั ภาระ
หนา้ ทท่ี ง้ั ทางการพระศาสนาและการคณะสงฆใ์ นตา่ งประเทศกม็ มี ากขน้ึ เจา้
ประคณุ สมเดจ็ ฯ จงึ ตอ้ งเดนิ ทางไปปฏบิ ตั หิ นา้ ทส่ี นองงานคณะสงฆ์ เช่น การ
ประชมุ การประกอบสังฆกรรม ปฏิบัตหิ นา้ ทเี่ จรญิ ศาสนสมั พันธก์ บั คณะ
สงฆ์ และพุทธศาสนิกชนในประเทศนัน้ ๆ ปฏบิ ัติหนา้ ท่ีสนองศรทั ธาของ
หนว่ ยราชการ องค์กร และคณะบคุ คลในโอกาสตา่ ง ๆ ณ ต่างประเทศ
ในทวปี เอเชยี ทวีปยโุ รป และทวีปอเมริกา คือสาธารณรัฐประชาชนจนี
เกาหลี ญ่ปี นุ่ เนปาล อินเดีย สวติ เซอร์แลนด์ สเปน นอรเ์ วย์ สหราช
อาณาจกั ร และสหรฐั อเมรกิ า นับว่าเจา้ ประคุณสมเดจ็ พระวันรตั ไดเ้ ปน็
พระมหาเถระท่ไี ดท้ าำ หนา้ ท่ที างงานพระธรรมทตู ท่สี ำาคญั รปู หนง่ึ ของไทย
เจ้าประคุณสมเดจ็ พระวนั รตั นับเป็นพระมหาเถระที่ได้รบั ถวาย
เกียรติคณุ ท้ังในประเทศและในต่างประเทศอย่างกวา้ งขวางรูปหนงึ่ คือได้
รับถวายดษุ ฎบี ณั ฑติ กติ ตมิ ศกั ดิจ์ ากสถาบนั ตา่ ง ๆ ดงั น้ี
- ปริญญาศิลปศาสตรดุษฎบี ณั ฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาสงั คมศาสตรเ์ พือ่
การพฒั นา มหาวิทยาลัยราชภฏั มหาสารคาม
- ปริญญาพุทธศาสตรดุษฎีบณั ฑิตกิตตมิ ศักด์ิ สาขาวิชาพระพุทธ
ศาสนา มหาวทิ ยาลยั มหาจฬุ าลงกรณราชวทิ ยาลยั
- ปรญิ ญาปรัชญาดุษฎบี ณั ฑิตกติ ตมิ ศกั ด์ิ สาขาวชิ าพทุ ธศาสตรก์ าร
พัฒนา มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏพระนคร
- ปรญิ ญาศาสนศาสตรดษุ ฎีบัณฑติ กติ ติมศักด์ิ สาขาวชิ าการบรหิ าร
การศึกษา มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวทิ ยาลยั
- ปรญิ ญาศลิ ปศาสตรดุษฎบี ัณฑติ กิตตมิ ศกั ด์ิ สาขาวิชาวฒั นธรรม
ศกึ ษามหาวิทยาลัยราชภัฏกาำ แพงเพชร
ได้รับถวายสมณศักดท์ิ ี่ อัครมหาบณั ฑติ จากรัฐบาลสาธารณรัฐแหง่
สหภาพเมยี นมา
เจา้ ประคุณสมเดจ็ พระวนั รตั มรณภาพด้วยโรคมะเรง็ ถุงนา้ำ ดี ณ โรง
พยาบาลจฬุ าลงกรณ์ สภากาชาดไทย เมื่อวนั ท่ี ๑๕ มนี าคม พุทธศกั ราช
๒๕๖๕ สริ ิอายุได้ ๘๕ ปี ๕ เดอื น ๒๖ วัน พรรษา ๖๖
คำ�นำ�
ศษิ ยานุศิษย์หรือผ้ใู กลช้ ดิ มกั ไดย้ นิ เจ้าประคณุ สมเด็จพระวันรตั (จุนท์
พรฺ หฺมคตุ โฺ ต) แนะนำาหรอื ตักเตอื นอย่เู สมอว่า การเรียนหรอื การศึกษา
ธรรมะอยา่ เอาแต่ทอ่ ง หรอื เอาแตจ่ ำา ควรตอ้ งพยายามทำาความเขา้ ใจใน
อรรถหรอื ความหมายของขอ้ ธรรมนั้น ๆ ให้ชดั เจน เม่อื เขา้ ใจชัดเจนแลว้
ก็จะรู้สึกวา่ ธรรมะน้ันไมใ่ ชเ่ รอื่ งยาก และเปน็ เร่อื งทท่ี ำาหรือปฏบิ ัติได้ง่าย
เป็นเรือ่ งธรรมดาในชวี ิตของคน
วธิ หี นง่ึ ทเ่ี ปน็ วธิ ฝี กึ คดิ หรอื ฝกึ ทาำ ความเขา้ ใจอรรถะ หรอื ความหมายของ
คาำ สอน ทเี่ จา้ ประคณุ สมเดจ็ ฯ นาำ มาใหศ้ ษิ ยฝ์ กึ คดิ ฝกึ วเิ คราะห์ กค็ อื การเลา่
เรอ่ื งนทิ านชาวบา้ น เรอ่ื งเหตกุ ารณบ์ างอยา่ งทเี่ จา้ ประคณุ สมเดจ็ ฯ ประสบ
มาด้วยตนเองให้ศิษยฟ์ งั แลว้ ตั้งคำาถามใหค้ ดิ แลว้ ในที่สุดเจ้าประคณุ สม
เดจ็ ฯ ก็จะเฉลยให้ฟังเป็นแนวคดิ
วธิ กี ารของเจา้ ประคุณสมเดจ็ ฯ ดงั กลา่ วนี้ นบั ว่าเปน็ วิธกี ารสอนอยา่ ง
หนึง่ ของเจ้าประคุณสมเดจ็ ฯ และเพอื่ ให้เร่อื งเลา่ ดงั กล่าว ชวนอ่านชวนฟัง
และชวนคดิ จงึ ได้ถ่ายทอดเรือ่ งเล่าเหลา่ นัน้ ออกมาเปน็ ภาพลายเสน้ หรอื
ภาพการต์ นู ดงั ท่ีปรากฏในหนงั สือนี้
วัดบวรนเิ วศวิหารเหน็ ประโยชนแ์ ละคุณคา่ ของเรื่องเลา่ ดงั กลา่ ว จงึ ได้
จัดพมิ พน์ ้อมอทุ ศิ ถวายเป็นส่วนกุศลแดเ่ จา้ ประคณุ สมเด็จฯ ผูเ้ ป็นท่มี าของ
เรอ่ื งเลา่ เหลา่ น้ี ในวาระการพระราชทานเพลงิ ศพเจ้าประคณุ สมเดจ็ ฯ ณ
เมรุหลวง หนา้ พลบั พลาอศิ รยิ าภรณ์ วัดเทพศริ ินทราวาส วันพฤหสั บดีท่ี
๑ ธนั วาคม ๒๕๖๕
ขอกศุ ลบญุ ราศี อันจะพึงเกิดมีแต่กุศลวธิ ี คือจัดพิมพห์ นังสือ เร่ืองเลา่
ของเจ้าประคุณสมเดจ็ ฯ นี้ นอ้ มอุทศิ ถวาย จงสัมฤทธิอิทธบิ ากทพิ ยสุขวิบุล
มนุญผล แด่เจ้าประคณุ สมเดจ็ พระวนั รตั (จุนท์ พฺรหฺมคุตฺโต) ณ ทพิ ยคติ
นน้ั ๆ จงทุกประการ เทอญ
วัดบวรนเิ วศวหิ าร
ธนั วาคม ๒๕๖๕
สาร ับญ ส�ำ รวจตน 3
“ฅ” คบย�ก 4
ทดิ คง 8
ยิ่งให้ยง่ิ ได้ 14
“ให”้ เท่�กับ “ได้” เศรษฐกี ับก�รจดั ก�รปล� 24
“เอ�” กบั “ให้” สจั ธรรมทีต่ ้องมองให้ตลอดส�ย 25
เมอ่ื ฮอ่ งเตพ้ ิโรธ ทำ�ใหป้ ระเทศอื่นตฉิ ินนินท� 27
ของดี ๕ อย่�ง กบั สจุ รติ ๑๐ ประก�ร 29
ศลี ไม่ไดอ้ ย่ทู ี่วัด 31
“สม�ธ”ิ ไม่ไดจ้ �กก�รนงั่ สม�ธเิ ท�่ น้ัน 32
“ปัญญ�” ไม่ได้อยู่ท่เี ล่�เรยี น 33
คนรบั ใชท้ ั้ง ๕ 34
ประตทู ้ัง ๖ 35
ม�ดฟยี แห่งคว�มช่วั ร�้ ย 36
ธรรมช�ติ ๓ ขอ้ ของคว�มโลภ 37
จะไปปฏบิ ัตธิ รรม หรือเอ�ธรรมม�ปฏบิ ัติ 42
เร�กำ�ลังเอ�ตัวเร�ไป “ย�่ งไฟ” กนั อยหู่ รอื เปล�่ 43
สุขธรรมช�ติ กับ สขุ กเิ ลส 46
สาร ับญ “หริ ”ิ 48
“โอตตัปปะ” 49
ธรรมประจ�ำ ใจ ทที่ �ำ ให้เสมอดว้ ยพรหม 50
รว้ั ใด ๆ ก็ไม่สูร้ ัว้ ไมตรี 53
เร�ท�ำ ง�นโดย “ฉันทะ” หรอื “ตัณห�”? 54
ง�นกับชีวติ เปน็ ของคู่กนั 55
ชมเป็นโทษ 56
ติเป็นคุณ 57
ยิง่ ย�กยง่ิ ไดม้ �ก 58
ธรรมะสำ�หรบั คูบ่ ่�วส�ว 59
เสียด�ยสน้ ไมส่ งส�รสงั ข�ร 60
เร�ต่�งกย็ ืนหมน่ิ เหม่บนหน�้ ผ� 61
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22