The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

การพัฒนางานยุติธรรมชุมชน

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Noorainee Chederamae, 2023-01-06 02:21:25

การพัฒนางานยุติธรรมชุมชน 3

การพัฒนางานยุติธรรมชุมชน

๑๐๖

อ้างอิง

1 Thai PBS News. 2556. การทรมาน...ปญั หาเร้ือรงั ทีต่ อ้ งเรง่ แก้ไข. เข้าถึงขอ้ มลู ได้จาก https://news.
thaipbs.or.th/content/180081# วนั ทส่ี บื คน้ ข้อมูล ๗ พฤษภาคม ๒๕๖๕.

2 สา่ นกั งานคณะกรรมการสทิ ธิมนษุ ยชนเเห่งชาติ. 2558. “พันธกรณรี ะหว่างประเทศ” ความรู้ดา้ น
สิทธิมนษุ ยชน. เข้าถงึ ข้อมูลได้จาก https://www.nhrc.or.th/Human-Rights-Knowledge/
International-Human-Rights-Affairs/International-Law-of-human-rights.aspx วันทสี่ ืบคน้ ข้อมูล
๗ พฤษภาคม ๒๕๖๕.
3 รณกรณ์ บญุ ม.ี ม.ป.พ. การทรมานและการบงั คับให้บุคคลสูญหาย. คณะนติ ิศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั -
ธรรมศาสตร.์ เอกสารอดั สา่ เนา.
4 สา่ นกั งานพัฒนาธุรกรรมทางอเิ ล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) Electronic Transactions Development Agency.
2563. “การภาคยานุวัติ (Accession)” ศพั ทช์ วนรู้. เข้าถงึ ข้อมูลไดจ้ าก https://www.etda.or.th/
th/Useful-Resource/terminology/ วันทีส่ บื คน้ ขอ้ มลู ๗ พฤษภาคม ๒๕๖๕.
5 สา่ นกั งานกฎหมาย นพนภัส ทนายความเชียงใหม่. ม.ป.พ. ประมวลกฎหมายอาญา. เข้าถึงข้อมูลได้จาก
https://www.xn--42cgi4cjab1btnchd1exbza5gvad6dvnqc6f.com/ วันทีส่ บื คน้ ข้อมลู ๗ พฤษภาคม
๒๕๖๕.
6 Daniel Nasaw and Devlin Barrett. 2557. รายชื่อ 'เทคนคิ การสอบสวนขั้นสูง' ทีไ่ ด้รับอนมุ ัต.ิ
เข้าถึงข้อมูลได้จาก The Wall Street Journal: https://www.wsj.com/news/author/devlin-barrett
วนั ทีส่ บื คน้ ขอ้ มูล ๗ พฤษภาคม ๒๕๖๕.
7 Wikipedia, the free encyclopedia. 2565. Mohammed Mani Ahmad al-Qahtani. เข้าถึงขอ้ มลู
ได้จาก https://en.wikipedia.org/wiki/Mohammed_al-Qahtani วันทส่ี บื ค้นขอ้ มูล ๗ พฤษภาคม
๒๕๖๕.
8 dis. 2564. Aksoy v ตุรกี: ECHR 18 ธนั วาคม 1996. เขา้ ถึงขอ้ มูลได้จาก https://swarb.co.uk/
aksoy-v-turkey-echr-18-dec-1996/ วนั ท่ีสบื คน้ ข้อมูล ๗ พฤษภาคม ๒๕๖๕.
9 MIDSUMMER INSOMNIA. 2553. 9 Brutal Techniques That Were Practiced Until Recently.
เข้าถงึ ข้อมลู ได้จาก https://midsummerinsomnia.blogspot.com/2010/09/9-brutal-techniques-
that-were-practiced.html วนั ที่สืบคน้ ขอ้ มลู ๗ พฤษภาคม ๒๕๖๕.
10 ChrisFord585. 2557. In Arab world. เขา้ ถงึ ขอ้ มูลได้จาก https://imgur.com/gallery/ME4y8
วันทสี่ ืบคน้ ขอ้ มูล ๗ พฤษภาคม ๒๕๖๕.
11 Association for the Prevention of Torture (APT). 2553. Kopylov v. Russia. เข้าถึงขอ้ มลู ไดจ้ าก
https://www.apt.ch/en/news_on_prevention/kopylov-v-russia วนั ทสี่ บื คน้ ข้อมูล ๗ พฤษภาคม
๒๕๖๕.

12 Libray of congress. 2๕๕6. ศาลสิทธิมนุษยชนแห่งยุโรป: คา่ ตัดสนิ ทีอ่ อกในคดีความ. เข้าถงึ ข้อมูล
ไดจ้ าก https://www.loc.gov/item/global-legal-monitor/2013-03-04/european-court-of-
human-rights-decision-issued-in-rendition-case/ วนั ท่ีสืบค้นข้อมูล ๗ พฤษภาคม ๒๕๖๕.

๑๐๗

การปฏบิ ตั ิทไ่ี ร้มนุษยธรรม ย่ายีศักดศ์ิ รี

ดร.อภริ ัชศกั ด์ิ รัชนวี งศ์
ความคิดเรื่องศักด์ิศรีความเป็นมนุษย์ด่ารงอยู่บนพ้ืนฐานขององค์ประกอบสองประเภท4 ได้แก่
(๑) องคป์ ระกอบวัตถปุ ระสงค์ซง่ึ เปน็ ล่าดบั ของความเปน็ จรงิ ท่ีผสู้ งั เกตเห็นได้และเก่ียวข้องกับวัสดุและเงื่อนไข
ที่จับต้องได้ของชีวิต เช่น การเข้าถึงบริการข้ันพื้นฐานสุขอนามัย (๒) องค์ประกอบอัตนัยซึ่งเป็นลักษณะ
เฉพาะตัวของผู้คนและเก่ียวข้องกับลักษณะภายในและจิตใจของพวก เขาเช่นการเลือกปฏิบัติความเสน่หา
อตั ลักษณ์ ฯลฯ
ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์4 คือคุณค่าที่ผู้คนมีต่อตัวเองนั่นคือโดยความเป็นจริง ไม่ใช่เงื่อนไขที่ก่าหนด
โดยบุคคลหรือองค์กรใด ๆ แต่เป็นสิ่งที่มีอยู่ในมนุษยชาติ โดยไม่มีความแตกต่างทางเพศเช้ือชาติศาสนาหรื อ
รสนิยมทางเพศนอกจากนี้ยังไม่สามารถเปล่ียนแปลงได้และไม่สามารถเข้าถึงได้น่ันคือมันเป็นส่วนหน่ึงของ
สภาพของมนษุ ยเ์ สมอ ศักดศิ์ รีความเป็นมนษุ ยห์ รือคณุ คา่ ของมนุษย์สามารถเข้าใจได้หลายวิธีและเกี่ยวข้องกับ
ส่ิงต่างๆมากมาย แต่โดยรวมแล้วเป็นแนวคิดทางปรัชญาและกฎหมาย การยอมรับโดยรัฐให้ค่ามั่นว่าพวกเขา
จะต่อสู้กับสังคมเศรษฐกิจหรือด้านอ่ืน ๆ ซ่ึงถือว่าการด่ารงอยู่ของมนุษย์ท่ีไม่คู่ควรน่ันคือการหลุดออกจาก
เงอ่ื นไขขั้นต่าที่บุคคลใด ๆ สมควรไดร้ บั
ตัวอยา่ งของการขาดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์4 (๑) การเป็นทาสเน่ืองจากผู้คนถูกลดทอนให้เป็นเพียง
สงิ่ ของหรือทรัพย์สิน (๒) กินกันเน่ืองจากเปล่ียนเพื่อนบ้านให้เป็นอาหารและเปรียบได้กับสัตว์ (๓) การปฏิบัติ
ที่โหดรา้ ยและการทรมาน เน่อื งจากเป็นวิธกี ารละเมดิ ผ้อู ื่นโดยไมค่ ่านึงถงึ ความเป็นอยทู่ ี่ดีทางร่างกายหรือจิตใจ
และไม่คา่ นึงถึงความยตุ ธิ รรมใด ๆ (๔) การโคลนนิ่งมนุษย์เนอื่ งจากมันละเมิดหลักการของตัวตนและความเป็น
ส่วนตัวและเปิดประตูไปสู่การคัดค้านของมนุษย์โดยถือว่ามันเป็นผลิตภัณฑ์ที่สร้างข้ึนไม่ใช่ในฐานะสิ่งมีชีวิต
ทไี่ ม่เหมือนใคร

ทีม่ า http://old.amnesty.or.th/news/press/355

๑๐๘

ไร้มนุษยธรรม หรือการรักษาท่ีย่อยสลาย คือการรักษาของบุคคลซ่ึงเป็นที่ขัดต่อสิทธิมนุษยชนหรือ
ศักด์ิศรี แต่ไม่ได้เพิ่มขึ้นในระดับของการทรมาน เป็นส่ิงต้องห้ามโดยปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ,
มาตรา 3 ของยุโรปอนุสญั ญาด้านสทิ ธมิ นุษยชนและอนุสญั ญาสหประชาชาติวา่ ดว้ ยการตอ่ ตา้ นการทรมาน1

การปฏิบัติอย่างไร้มนุษยธรรม คณะกรรมาธิการความเสมอภาคและสิทธิมนุษยชน ก่าหนดรักษา
ทารุณเม่ือ (๑) ท่าร้ายร่างกายอย่างรุนแรง (๒) การสอบสวนทางจิตวิทยา (๓) เงื่อนไขการกักขังหรือ
พันธนาการที่โหดร้าย (๔) การท่าร้ายร่างกายหรือจิตใจในสถานพยาบาล (๕) ขู่ว่าจะทรมานใครบางคน
คณะกรรมาธิการความเสมอภาคและสิทธิมนุษยชน กา่ หนดรกั ษาย่อยสลายเป็นสง่าและความอัปยศอดสูรักษา
การรักษาจะถือว่าเป็นการลดระดับหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการรวมถึงระยะเวลาของการรักษา
ผลกระทบทางร่างกายและจิตใจต่อเหยือ่ และอายุเชื้อชาตเิ พศและชอ่ งโหวข่ องเหย่ือ

ตัวอยา่ ง2
1. Krastanov V. Bulgaria (para 53) การต่อสู้บาดเจ็บในระหว่างการจับกุม โดยมีการใช้ก่าลัง
เกินขอบเขตและสร้างความบาดเจ็บท่ีรุนแรง แต่ไม่ได้ท่าไปเพื่อให้ได้มาเพื่อค่ารับสารภาพ ข่มขู่ หรือลงโทษ
ถึงแม้จะเปน็ การกระทา่ ทีไ่ รม้ นษุ ยธรรม (inhuman) แต่ไมเ่ ป็นการทรมาน
2. Eemez v. Cyprus (paras 76, 78-79) ถึงแม้ขณะน้ันผู้ต้องหาจะถูกใส่กุญแจมือแล้ว จึงท่าให้
การใช้ก่าลังไม่จ่าเป็น แต่เมื่อไม่ได้ท่าเพื่อให้ได้มาซึ่งค่ารับสารภาพ ข่มขู่ หรือลงโทษ แต่เพียงการควบคุม
อารมณไ์ มไ่ ด้เพราะสภาวะความเครยี ดและการบีบคนั้ ทางอารมณ์ การกระท่าดังกล่าวจึงไมเ่ ป็นการทรมาน
3. ฎีกายืนคุก 15 ปี พล.ต.ต.รณกร ทรายแดงดี ซ้อมผู้ต้องหา: (๑) ค่าพิพากษาศาลฎีกาท่ี
1031/2560 (๒) บังคับใช้ไฟฟ้าช็อตผู้ต้องหาให้ให้การซัดทอดบุคคลท่ีสามว่าเป็นผู้จ้างวานให้ใช้ (๓) ปืนยิง
สมาชิกสภา อบต.บางร้ิน เสียชีวิต (๔) จ่าเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157, มาตรา
200 วรรค 2, มาตรา 297 (8), มาตรา 309 วรรคแรก, และมาตรา 310 ทวิ เป็นกรรมเดียวผิดกฎหมาย
หลายบท ให้ลงโทษตามมาตรา 200 วรรค 2 อันเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมาย
อาญามาตรา 90 ใหล้ งโทษจา่ คกุ 15 ปี

ท่ีมา https://natv-news.blogspot.com/2021/08/2564-2.html

๑๐๙
4. กรณีนายภัฏณัท เลิศสกุลชัย อดีตร้อยตรีสังกัดกองทัพบก ส่ังลงโทษทางวินัยแก่พลทหาร
ทรงธรรม หมุดหมัด อย่างผิดกฎหมายจนเป็นเหตุให้พลทหารทรงธรรมเสียชีวิตเมื่อวันท่ี 2 เมษายน 2559
ต่อมาได้มีการด่าเนินคดีกับนายภัฏณัท เลิศสกุลชัย และมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ พระราชทาน
พระบรมราชานญุ าตใหถ้ อดนายภัฏณัท เลิศชัยกุล สังกัดกองทัพบก ออกจากยศทหาร ตั้งแต่วันท่ี 5 กันยายน
2559 เน่อื งจากกระท่าความผดิ วนิ ัยทหารฐานขดั ค่าส่ังผู้บังคับบัญชา ซ่ึงส่ังโดยชอบด้วยกฎหมายและการขัด
คา่ สง่ั นั้นเป็นเหตใุ ห้เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรงและประพฤติช่ัวอย่างร้ายแรง ซึ่งการด่าเนินการสอบสวน
และลงโทษแลว้ เสรจ็ ในเวลาเพียงหา้ เดอื น

ท่มี า https://prachatai.com/journal/2017/04/70969
5. กรณีพันต่ารวจตรีท่านหนึ่งและพวกถูกศาลอาญาในค่าพิพากษาคดี หมายเลขแดงท่ี
อ.2324/2558 พพิ ากษาลงโทษในความผิดทา่ ร้ายร่างกายบุคคลอ่ืนเป็นเหตุให้รับอันตรายสาหัส โดยวิธีการ
ทรมานหรือทารุณโหดร้ายตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 298 ประกอบมาตรา 297(8) และมาตรา
289(5) โดยให้จ่าคกุ จา่ เลยคนละหกปี จากการท่ีจ่าเลยและพวกท่าร้ายรา่ งกายผเู้ สียหายให้รับสารภาพว่าเป็น
ผู้กระทา่ ความผดิ ในขอ้ หาชงิ ทรัพย์

ทีม่ า https://images.search.yahoo.com/search/images;_ylt=Awr925i513hiiYIdY4eJzbkF

๑๑๐
6. จ่าเลยเป็นเจ้าพนักงานต่ารวจจับโจทก์ข้อหาวิ่งราวทรัพย์ แล้วท่าร้ายร่างกายโจทก์โดยเจตนา
ท่าร้ายธรรมดา มิใช่เพื่อประสงค์จะให้เกิดผลอันใดในการปฏิบัติการตามหน้าที่ จึงมิใช่เป็นการปฏิบัติหน้าที่
โดยมชิ อบเพื่อใหเ้ กิดความเสียหายแกโ่ จทก์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 เม่ือโจทก์ได้รับอันตราย
แก่กายจากการกระท่าของจา่ เลย จา่ เลยมคี วามผดิ ตามมาตรา 295 (คา่ พพิ ากษาศาลฎีกาท่ี 364/2531)
7. เร่อื งราวการถกู ย่ายีเกยี รตแิ ละศกั ดศ์ิ รขี องสตรีเพศท่อี ้ือฉาวทส่ี ดุ ในประวัติศาสตร์ศิลป์คือกรณีของ
อาร์เทมิเซีย เจนติเลสชิ (Artemisia Gentileschi) บุตรสาวของโอราซิโอ เจนติเลสชิ (Orazio Gentileschi)
ซ่ึงถูก อาโกสติโน ตาสซิ (Agostino Tassi) ผู้ท่ีบิดาจ้างให้มาช่วยสอนเขียนภาพ ข่มขืนกระท่าช่าเรา ถึงแม้ว่า
อาร์เทมิเซียจะได้รับความอับอาย หมิ่นประมาท เยาะเย้ยถากถางและเหยียบย่าศักด์ิศรี ระหว่างข้ึนให้การใน
ชนั้ ศาล แตเ่ ธอกย็ อมอดทนต่อส้จู นถงึ ท่ีสดุ เพ่ือเรยี กร้องความยตุ ิธรรมให้กบั ตนเอง3

ท่มี า https://mgronline.com/celebonline/detail/9560000005692
นิยาม “การทรมาน” ตามอนุสัญญาว่าด้วยการต่อต้านการทรมาน และการกระท่าอื่นๆ ที่โหดร้าย
ไร้มนุษยธรรม หรือที่ย่ายีศักดิ์ศรี (Convention Against Torture and other Cruel, Inhuman or
Degrading Treatment or Punishment : CAT) หมายความว่า การกระท่าด้วยประการใดให้ผู้อื่นเกิดความ
เจ็บปวด หรือความทุกข์ทรมานอย่างร้ายแรงแก่ร่างกายหรือจิตใจ2 ค่าว่า “ท่าให้เกิดความเจ็บปวดทุกข์
ทรมาน...อยา่ งรา้ ยแรง” (๑) ยงั ไมม่ เี กณฑท์ ่ีใชช้ ัดเจนในการแบ่งแยก นอกจากต่าราและค่าพิพากษาในอนาคต
(๒) ไม่จ่าเป็นต้องถึงขั้นอันตรายสาหัสตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 297 (มาตรา 297 ผู้ใดกระท่า
ความผิดฐานท่าร้ายร่างกาย จนเป็นเหตุให้ผู้ถูกกระท่าร้ายรับอันตรายสาหัส ต้องระวางโทษจ่าคุกตั้งแต่
หกเดือนถึงสิบปี และปรับตั้งแต่หน่ึงหม่ืนบาทถึงสองแสนบาท. อันตรายสาหัสน้ัน คือ (๑) ตาบอด หูหนวก

๑๑๑

ลนิ้ ขาด หรอื เสียฆานประสาท (๒) เสยี อวัยวะสืบพนั ธ์ุ หรือความสามารถสืบพันธ์ุ (๓) เสียแขน ขา มือ เท้า น้ิว
หรืออวัยวะอ่ืนใด (๔) หน้าเสียโฉมอย่างติดตัว (๕) แท้งลูก (๖) จิตพิการอย่างติดตัว (๗) ทุพพลภาพ หรือ
ป่วยเจ็บเร้ือรังซึ่งอาจถึงตลอดชีวิต (๘) ทุพพลภาพ หรือป่วยเจ็บด้วยอาการทุกขเวทนาเกินกว่าย่ีสิบวัน หรือ
จนประกอบกรณียกิจตามปกติไม่ได้เกินกว่ายี่สิบวัน) (๓) ศาลสิทธิมนุษยชนยุโรป อยู่ท่ีระยะเวลาที่ถูกกระท่า,
ผลทางรา่ งกายหรือจติ ใจ, เพศ อายุ สุขภาพของผ้รู อ้ ง (กอ่ นถูกกระทา่ )

ความแตกต่างระหว่าง "การทรมาน" และ "การกระท่าที่ไรม้ นษุ ยธรรม หรอื ทย่ี ่ายศี กั ดศิ์ รี"2
1. Ireland v United Kinedom (para.167) อยู่ที่ค่าแรก “การทรมาน” นั้นมีตราบาปพิเศษ

ที่จะกระทา่ การทีไ่ รม้ นุษยธรรมโดยจงใจเพ่ือใหเ้ กดิ ความทุกขท์ รมานทรี่ ุนแรงและโหดรา้ ยอย่างมาก"
2. Dikme v Turkey (para.94) "ข้ึนอยู่กับพฤติการณ์ประกอบท้ังหมดของคดี เช่น ระยะเวลาใน

การกระท่า, ผลทางกายหรือจิตใจ และในบางกรณีต้องพิจารณาเพศสภาพ, อายุ และสภาวะสุขภาพของ
ผเู้ สียหายเป็นตน้ ดว้ ย"

3. Selmouni v France (para.101) แมก้ ารกระทา่ หนึ่งศาลจะได้ "เคยวินิจฉัยว่าเป็นการกระท่าท่ี
ไร้มนุษยธรรม และที่ย่ายีศักดิ์ศรี ไม่ถึงข้ันเป็นการทรมาน อาจถูกพิจารณาให้มีผลที่แตกต่างได้อนาคต
โดยศาลเห็นว่ามาตรฐานที่สูงขึ้นเรื่อยๆในการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน และเสรีภาพข้ันพ้ืนฐานน้ันเป็นส่ิงท่ี
จ่าเป็น ดังน้ันการวินิจฉัยเรื่องการคุณค่าพื้นฐานของสังคมประชาธิปไตยอย่างเข้มข้นมากข้ึนจึงเป็นผลเร่ือง
ที่ไมอ่ าจหลีกเลย่ี งได้"

ที่มา https://prezi.com/a440fmoeypt5/presentation/
ส่วนบนสดุ หรอื ยอดภเู ขา หรอื วงกลม คือ การทรมาน
ส่วนท่ี ๒ พื้นที่ ๑ ใน ๓ ของภูเขา คือ CID (Cruel, Inhuman, Degrading โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม
ยา่ ยศี ักด์ิศรี)
สว่ นที่ ๓ พื้นท่ี ๒ ใน ๓ ของภเู ขา คอื การกระทา่ อ่นื ๆ ทไ่ี มช่ อบดว้ ยกฎหมาย

๑๑๒

ท่มี า https://www.dailynews.co.th/news/27232/
ปญั หาท่ีพบในจงั หวัดชายแดนภาคใต้ คือประเด็นการปิดล้อม ตรวจค้น จับกุม ท่ีถูกซ้อมระหว่างการ
จับกุมตามขอ้ เรยี กรอ้ งของผู้ย่ืนค่าร้องหรือญาติ โดยเหมารวมคือ การซ้อมทรมาน ซึ่งความจริงสิ่งดังกล่าวมี 3
ระดบั ดังภาพภูเขาน้า่ แขง็ ระดบั ๑ การทรมาน ระดบั ๒ การกระท่าโหดร้าย ไร้มนุษยธรรม ย่ายีศักดิ์ศรี และ
ระดบั 3 การกระทา่ อืน่ ๆ ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซ่งึ การกระท่าใดใดดงั กล่าวล้วนรับโทษตามประมวลกฎหมาย
อาญาท้ังสิ้น ในขณะท่ียงไม่มีพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระท่าให้บุคคล
สญู หาย พ.ศ. ...

อ้างอิง
๑ Sawadee. ม.ป.พ. การปฏิบัติท่ไี ร้มนษุ ยธรรมหรือย่ายศี กั ดศ์ิ รี. เขา้ ถึงข้อมูลไดจ้ าก https://sawadee.
wiki/wiki/Inhuman_or_degrading_treatment วันที่สืบคน้ ขอ้ มูล 9 พฤษภาคม 2565.
2 รณกรณ์ บุญม.ี ม.ป.พ. การทรมานและการบังคับให้บุคคลสูญหาย. คณะนิตศิ าสตร์ มหาวิทยาลัย-

ธรรมศาสตร์. เอกสารอัดส่าเนา.
3 กฤษณา หงส์อุเทน. 2556. การเหยียบย่าศกั ดศ์ิ รีของสตรเี พศและการแกแ้ คน้ . เขา้ ถึงข้อมลู ได้จาก
https://mgronline.com/celebonline/detail/9560000005692 วันทส่ี บื ค้นข้อมูล 9 พฤษภาคม
2565.
4 wvpt4learning. 2565. ศักด์ิศรีความเป็นมนษุ ย์. เขา้ ถึงข้อมลู ไดจ้ าก https://th1.wvpt4learning.org/
dignidad-humana-1403 วนั ทสี่ บื ค้นข้อมูล 9 พฤษภาคม 2565.

๑๑๓

การกระท่าให้บุคคลสญู หาย

ดร.อภริ ัชศกั ด์ิ รชั นีวงศ์
การกระทา่ ให้บคุ คลสูญหาย หรือการบังคับบุคคลให้สูญหาย หรือภาษาปาก “การอุ้มหาย” (forced
disappearance หรือ enforced disappearance)1 เป็นค่าในกฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ
หมายถึง กรณีที่บุคคลถูกเจ้าหน้าท่ีของรัฐ องค์การการเมือง หรือผู้อื่นซึ่งได้รับอนุญาต การสนับสนุน หรือ
การรับรู้จากรัฐหรือองค์การการเมือง ลักพาตัวไป และรัฐ องค์การการเมือง หรือผู้อื่นดังกล่าว บอกปัดไม่รับรู้
ชะตากรรมหรอื ถ่ินทอ่ี ยขู่ องบคุ คลที่หายตวั ไป โดยจงใจจะใหบ้ คุ คลน้ันอยภู่ ายนอกความคมุ้ ครองของกฎหมาย

ท่มี า https://tlhr2014.com/archives/tag/
ธรรมนูญกรุงโรมว่าด้วยศาลอาญาระหว่างประเทศ (Rome Statute of the International
Criminal Court)1 ซ่ึงใช้บังคับต้ังแต่วันที่ 1 กรกฎาคม ค.ศ. 2002/2545 เมื่อการบังคับบุคคลให้สูญหาย
น้ันกระทา่ เปน็ สว่ นหน่ึงของการโจมตพี ลเรอื นเป็นวงกวา้ งหรอื เป็นระบบกจ็ ะถอื เป็นอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ
และไมอ่ ยูใ่ นอายคุ วาม นอกจากน้ี เม่ือวนั ที่ 20 ธันวาคม ค.ศ. 2006/2549 สมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ
ยังได้ตกลงรับอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองบุคคลทุกคนจากการถูกบังคับให้สูญหาย
(International Convention for the Protection of All Persons from Enforced Disappearance)
โดยปรกติแล้วเป็นท่ีเข้าใจได้ว่า บุคคลที่ถูกบังคับให้สูญหายจะถูกฆ่าทิ้ง เพราะบ่อยคร้ังที่ผู้เสียหายในกรณี
เช่นนั้นถูกลักพา หน่วงเหน่ียวไว้โดยมิชอบด้วยกฎหมาย ทรมานระหว่างการรีดเอาข้อมูล ฆ่าปิดปาก แล้วเอา
ศพไปซ่อนและการฆ่าดังกล่าวย่อมกระท่าโดยซ่อนเร้น ส่วนศพก็มักถูกก่าจัดเพ่ือมิให้ถูกพบ พยานหลักฐาน
สา่ หรบั พสิ จู นเ์ กย่ี วกบั ความตายจึงมักได้มายากเย็น ผกู้ ระท่าจึงสามารถบอกปัดได้และผู้เสียหาย จึงสาบสูญไป
ในที่สุด กรณเี ช่นน้ี ภาษาปากเรยี ก “การอุม้ ฆา่ ”

๑๑๔

การบังคับบุคคลให้สูญหาย หรือท่ีเรียกกันท่ัวไปว่า “การอุ้มหาย”2 เป็นอีกหนึ่งการละเมิด
สิทธิมนุษยชนที่ร้ายแรง ซ่ึงหมายถึงการท่ีเจ้าหน้าที่รัฐกระท่า หรือบุคคล หรือกลุ่มบุคคลท่ีได้รับค่าสั่ง
สนับสนุน หรือรู้เห็นเป็นใจในการจับกุม คุมขัง ลักพา หรือลิดรอนเสรีภาพของบุคคล โดยพยายามปกปิด
ชะตากรรมหรือท่ีอยู่ของบุคคลน้ันๆ การบังคับบุคคลให้สูญหายเป็นความผิดทางอาญาตามกฎหมายระหว่าง
ประเทศ แต่ผู้กระท่าผิดมักลอยนวลพ้นผิด เป็นการละเมิดต่อบุคคลท่ีถูกท่าให้สูญหาย บ่อยครั้งที่ผู้สูญหาย
ไม่ได้รับการปล่อยตัวและไม่มีผู้ทราบชะตากรรมของเขาอีกเลย จึงถือได้ว่าเป็นการละเมิดอย่างต่อเน่ืองต่อ
สทิ ธิมนษุ ยชนของครอบครวั ของเขา การบังคับบุคคลใหส้ ูญหายได้ถกู น่ามาใช้อย่างแพร่หลายท่ัวโลก รวมถึงใน
ประเทศไทย การบังคับบุคคลให้สูญหายถูกใช้เป็นเคร่ืองมือในการสร้างความหวาดกลัวต่อสังคมในวงกว้าง
การกระท่าอันโหดร้ายดังกล่าวมีจุดประสงค์เพ่ือสร้างบรรยากาศท่ีไม่ปลอดภัย เพื่อหยุดย้ังการกระท่าต่อ
ทั้งบุคคลท่ีถูกบังคับให้สูญหาย ชุมชมและสังคม การบังคับบุคคลให้สูญหายได้กลายเป็นปัญหาส่าคัญของโลก
ในปัจจุบัน ซึ่งเกิดมากขึ้นกับปัญหาภายใน โดยเฉพาะเพื่อก่าจัดศัตรูทางการเมือง เป้าหมายที่ส่าคัญของรัฐใน
การบังคับบุคคลให้สูญหาย คือนักปกป้องสิทธิมนุษยชน ญาติของเหยื่อ พยานและทนายความ และรวมถึง
กลุ่มเปราะบางต่างๆ เช่น เด็กและบุคคลพิการ การบังคับให้บุคคลสูญหายในทุกๆ คร้ังได้ละเมิดสิทธิตาม
หลักสิทธิมนุษยชนในเรื่อง (๑) สิทธิในเสรีภาพและความปลอดภัย (๒) สิทธิท่ีจะไม่ถูกทรมานและถูกปฏิบัติ
หรือลงโทษอย่างโหดร้าย (๓) สิทธิท่ีจะไม่ถูกกักขังอย่างไร้มนุษยธรรม (๔) สิทธิในการได้รับพิจารณาคดี
อย่างเป็นธรรม (๕) สิทธิการเป็นบุคคลตามกฏหมาย (๖) สิทธิในชีวิตครอบครัว ซ่ึงพัฒนาการ “การอุ้มหาย”
ท้งั ในระดับโลกและระดบั ประเทศในการป้องกันการบังคับบุคคลให้สูญหาย จนกระท้ังในปี 2553 ได้มีการใช้
อนุสญั ญาระหวา่ งประเทศว่าด้วยการคุ้มครองบคุ คลทุกคนจากการบงั คับใหห้ ายสาบสญู (CED) เปน็ คร้งั แรก

อนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองบุคคลทุกคนจากการบังคับให้หายสาบสูญ
(International Convention for the Protection of all Persons from Enforced Disappearance :
ICPPED, CED)5 เป็นหนึ่งในสนธิสัญญาระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชน ซึ่งรับรองโดยมติสมัชชา
สหประชาชาติ (United Nations General Assembly - UNGA) ในการประชุมสมัยสามัญ สมัยท่ี 61
เม่ือวันท่ี 20 ธันวาคม 2549 อนุสัญญาฉบับน้ีมีพื้นฐานมาจากปฏิญญาว่าด้วยการคุ้มครองบุคคลทุกคนจาก
การบังคับให้หายสาบสูญ ซึ่งสมัชชาสหประชาชาติรับรองเมื่อ พ.ศ. 2535 แต่ปฏิญญาฉบับดังกล่าวไม่มีผล
ผูกพันทางกฎหมาย สหประชาชาติจึงริเริ่มแนวคิดในการยกร่างความตกลงท่ีมีผลผูกพันทางกฎหมายขึ้นเพื่อ
ตระหนักถึงความร้ายแรงอย่างยิ่งของการบังคับบุคคลให้สาบสูญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบางพฤติการณ์เข้าข่าย
เปน็ อาชญากรรมตอ่ มนษุ ยชาติ และเพอ่ื แสดงความมุ่งมั่นร่วมกันของประชาคมระหว่างประเทศในการป้องกัน
สิทธิของบุคคลอย่างจริงจัง จึงเกิดอนุสัญญาฉบับนี้ขึ้นเพื่อเปิดให้บรรดาสมาชิกสหประชาชาติทั้งปวงร่วมลง
นามและเข้าร่วมเป็นภาคี ซึ่งอนุสัญญาว่าด้วยการคุ้มครองบุคคลทุกคนจากการบังคับให้หายสาบสูญมีผลใช้
บังคับแล้ว เมื่อวันท่ี 23 ธันวาคม 2553 พันธกรณีภายใต้อนุสัญญาฉบับน้ีก่าหนดให้ “การบังคับบุคคลให้
สาบสูญ” เป็นความผิดทางอาญาตามกฎหมายภายในของประเทศ ก่าหนดให้รัฐมีเขตอ่านาจเหนือความผิด
ฐานบังคับบุคคลให้สาบสูญ ไม่ว่าเหย่ือหรือผู้ถูกกล่าวหาว่าได้กระท่าความผิดเป็นคนชาติของรัฐหรือไม่ก็ตาม
ในกรณที ี่บุคคลหายสาบสญู เป็นคนชาตขิ องรฐั และการกระท่าความผดิ น้นั ได้เกิดขนึ้ นอกเขตดินแดน รัฐเจ้าของ

๑๑๕

สัญชาตจิ ะมเี ขตอ่านาจในการพจิ ารณาคดีนัน้ ด้วย นอกจากน้ีอนุสญั ญาฯยังก่าหนดให้ความผิดฐานบังคับบุคคล

ให้สาบสูญต้องไม่เป็นความผิดในทางการเมืองที่สามารถส่งผู้ร้ายข้ามแดนระหว่างกันได้ ส่วนในประเด็น

ท่ีเกย่ี วกับการระวางโทษและอายุความ อนุสญั ญาฯไม่ได้ก่าหนดไว้อย่างตายตัว แต่จะต้องมีความเหมาะสมกับ

ความร้ายแรงอย่างยิ่งของการกระท่า และในแง่ของการเยียวยานั้นรัฐจะต้องประกันสิทธิของเหยื่อและ

ครอบครวั ทจ่ี ะไดร้ บั การชดเชยและได้รบั คา่ สนิ ไหมโดยพลนั อย่างเพยี งพอและเปน็ ธรรม

อนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองบุคคลทุกคนจากการหายสาบสูญโดยถูกบังคับ พ.ศ.
๒๕๕๓ (2010 International Convention for the Protection of All Persons from Enforced
Disappearance - CED)3 เป็นตราสารทางกฎหมายระหว่างประเทศฉบับแรกท่ีมีผลใช้บังคับทางกฎหมาย
เก่ียวกับอาชญากรรมเร่ืองการบังคับให้บุคคลสูญหายโดยตรง โดยเป็นตราสารทางกฎหมายที่ได้รับอิทธิพล
มาจากอนุสัญญาต่อต้านการทรมาน การปฏิบัติ หรือการลงโทษอ่ืนท่ีโหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือย่ายีศักดิ์ศรี
พ.ศ. ๒๕๒๗ (CAT) และธรรมนญู กรุงโรมวา่ ดว้ ยศาลอาญาระหว่างประเทศ พ.ศ. ๒๕๔๑ (ICC) เกือบทง้ั หมด
เช่น ข้อ ๒ แห่งอนุสัญญา CED ที่มีการบัญญัติคล้ายกับข้อ ๑ แห่งอนุสัญญา CAT ว่าด้วยความหมายของ
การบงั คับให้บุคคลสญู หาย และข้อ ๓ ท่ีก่าหนดให้รัฐภาคีต้องด่าเนินการตามท่ีเหมาะสมเพ่ือสืบสวนสอบสวน
การบงั คับให้บุคคลสูญหายโดยบุคคลหรือกลุม่ บคุ คลซ่ึงกระท่าโดยไม่ได้รับมอบอ่านาจ การสนับสนุน หรือการ
ยอมรับจากรัฐ และให้บุคคลหรือกลุ่มบุคคลเหล่านั้นรับโทษตามกฎหมาย และข้อ ๕ แห่งอนุสัญญา CED
ที่เน้นย้่าข้อ ๗(๑)(ฌ) แห่งธรรมนูญกรุงโรมฯ โดยการยืนยันว่าการบังคับให้บุคคลสูญหายที่แพร่หลายและ
เป็นระบบเป็นอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ (crime against humanity) ซ่ึงจะต้องได้รับผลตามกฎหมาย
ระหว่างประเทศที่มีผลใช้บังคับ แม้อนุสัญญา CED จะมีฐานมาจากอนุสัญญา CAT เป็นหลักแต่อนุสัญญาฯ
ฉบับน้ียังบัญญัติหน้าท่ีด้านบวก (positive obligations) ตามปฏิญญาว่าด้วยการปกป้องบุคคลทั้งมวล
ให้ปลอดจากการถูกบังคับให้หายสาบสูญ ซึ่งสนับสนุนให้มีกฎหมายนิติบัญญัติ บริหารบัญญัติและอ่านาจ
ตลุ าการทมี่ ปี ระสิทธิภาพ หรอื มมี าตรการอ่ืน ๆ เพอื่ ปอ้ งกันหรือกา่ จัดซงึ่ การบังคบั ให้บคุ คลสูญหายในเขตใด ๆ
ซ่ึงอยู่ในเขตอ่านาจของรัฐ โดยปฏิญญาฯ ดังกล่าวได้บัญญัติอีกว่าการบังคับให้บุคคลสูญหายทุกรูปแบบ
ควรเป็นความผิดอาญา ซ่ึงจะเป็นผลให้ได้รับโทษตามสมควรโดยค่านึงถึงความร้ายแรงของการกระท่าน้ัน
อนุสัญญา CED ได้ขยายขอบเขตบทบัญญัติเหล่านี้ โดยได้รวมกลุ่มที่มีความอ่อนไหวสูง เช่น เด็กและก่าหนด
กระท่าที่ต้องได้รับโทษตามกฎหมายอย่างชัดแจ้ง ซึ่งเป็นบทบัญญัติที่ไม่มีให้เห็นในอนุสัญญา CAT หรือ
ปฏิญญาแต่อย่างใด นอกจากนี้อนุสัญญา CED ได้ให้ความหมายของค่าว่า “ผู้เสียหายหรือเหย่ือ (victim)”
ท่ีกว้างกว่าความหมายตามปฏิญญาหรืออนุสัญญาระดับภูมิภาคอื่น ๆ ซ่ึงความหมายน้ีครอบคลุมท้ัง victim
ทางตรงและทางอ้อม กล่าวคือ ทั้งบุคคลซึ่งถูกบังคับให้สูญหาย (ทางตรง) และปัจเจกบุคคลซ่ึงได้รับความ
เสียหายซึ่งเป็นผลโดยตรงจากการบังคับให้บุคคลสูญหาย (ทางอ้อม) โดยกลุ่มบุคคลหลังเป็นเป็นส่วนส่าคัญ
ในคดีของการบังคบั ใหบ้ คุ คลสูญหาย เม่ือครอบครัวได้รับความเสียหายจากการไม่ทราบแหล่งท่ีอยู่ของสมาชิก
ครอบครัวซ่ึงอาจท่าให้เป็นเหย่ือของการทรมานด้วย (ทางตรงหรือทางอ้อม) อีกทั้งเป็นอนุสัญญาฯ ทาง
สิทธิมนุษยชนฉบับแรกท่ีได้บัญญัติสิทธิของ victim เฉพาะรายที่จะได้ทราบความจริงเก่ียวกับพฤติการณ์ของ
การบังคับให้สูญหาย ความคืบหน้าและผลของการสอบสวนและชะตากรรมของบุคคลซ่ึงได้หายไป
ดังนั้นจะเห็นได้ว่า อนุสัญญา CED เป็นอนุสัญญาระหว่างประเทศฉบับแรกท่ีเป็นการคุ้มครองสิทธิของบุคคล
ซึ่งถูกบังคับให้สูญหายและสมาชิกครอบครัวของบุคคลน้ัน3 กลไกท่ีน่าสนใจอย่างมากภายใต้อนุสัญญาน้ี คือ
การให้อ่านาจคณะกรรมการว่าด้วยการบังคับบุคคลให้สูญหาย(Committee on Enforced
Disappearances) หรือคณะกรรมการประจ่าอนุสัญญา ในการรับและพิจารณาค่าร้องท่ีมาจากหรือกระท่าใน

๑๑๖

นามของปัจเจกชน ซ่ึงอ้างว่าได้ถูกเป็นเหย่ือของการบังคับให้สาบสูญ หมายความว่า ปัจเจกชนสามารถย่ืน
ค่าร้องได้โดยตรงต่อสหประชาชาติเพื่อพิจารณาออกมติหรือข้อแนะน่าอย่างหน่ึงอย่างใดต่อสถานการณ์
ท่ีเกิดข้ึน แต่ทั้งนี้อ่านาจการรับและพิจารณาค่าร้องดังกล่าวไม่ใช่อ่านาจโดยอัตโนมัติ รัฐภาคีแห่งอนุสัญญา
จะตอ้ งทา่ การประกาศยอมรับอ่านาจเชน่ วา่ น้ขี องคณะกรรมการฯเสยี ก่อน5

กฎหมายไทย3 ไม่มีบทบัญญัติท่ีกล่าวถึงการบังคับให้บุคคลสูญหายโดยตรง ที่ใกล้เคียงท่ีสุดมีเพียง
มาตรา ๓๐๙ แห่งประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ. ๒๔๙๙ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา พ.ศ.
๒๔๗๗ สมาชิกในครอบครัวของผู้สูญหายนั้นไม่สามารถเป็นโจทก์ร่วมกับอัยการในคดีได้ เนื่องจากสมาชิก
ครอบครวั ไมถ่ ือว่าเป็น “ผู้เสียหาย” ตามความหมายของมาตรา ๒(๔)[๘] ประกอบมาตรา ๔[๙], ๕[๑๐] และ
๖[๑๑] ในการท่ีจะใช้สิทธิเป็นโจทก์ฟ้องคดี หรือเข้าร่วมเป็นโจทก์กับพนักงานอัยการตามความในมาตรา
๓[๑๒] ไดด้ งั ที่ศาลฎีกาเคยมีค่าพิพากษาในคดีของนายสมชาย นีละไพจิตร ท่ีตัดสินว่าครอบครัวนีละไพจิตร
ไม่สามารถเป็นโจทก์ร่วมกับพนักงานอัยการแทนผู้เสียหายได้ เนื่องจากยังไม่มีหลักฐานยืนยันว่าผู้เสียหาย
ถูกท่าร้ายถึงตายหรือบาดเจ็บจนไม่สามารถจะจัดการเองได้ตามความหมายในมาตรา ๕(๒) เม่ือเปรียบเทียบ
ความหมายของผู้เสียหายในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา พ.ศ. ๒๔๗๗ กับอนุสัญญาระหว่าง
ประเทศว่าด้วยการคุ้มครองบุคคลทุกคนจากการหายสาบสูญโดยถูกบังคับ พ.ศ. ๒๕๕๓ จะเห็นได้ว่า
ตัวอนุสัญญาฯ มีความหมายถึงค่าว่าผู้เสียหาย หรือ “victim” ท่ีตีความได้กว้างกว่าของประเทศไทยส่งผลให้
กฎหมายคมุ้ ครองผูเ้ สยี หายได้มากกว่า

ปัจจุบันประเทศไทยเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาต่อต้านการทรมาน การปะติบัติ หรือการลงโทษอื่น
ท่ีโหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือย่ายีศักด์ิศรี พ.ศ. ๒๕๒๗ (CAT) โดยภาคยานุวัติเม่ือวันท่ี ๒ ตุลาคม พ.ศ.
๒๕๕๐ จึงมีพันธกรณีตามอนุสัญญาฯ นอกจากนั้นประเทศไทยได้ลงนามในอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วย
การคุ้มครองบุคคลทุกคนจากการหายสาบสูญโดยถูกบังคับ พ.ศ. ๒๕๕๓ เม่ือวันท่ี ๙ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๕
ซึ่งหมายความว่า ประเทศไทยยังไม่มีพันธกรณีในฐานะรัฐภาคีของอนุสัญญาฯ ฉบับดังกล่าว แต่อย่างไรก็ตาม
การลงนามในอนุสญั ญาฯ หมายถึง การยนิ ยอมเบือ้ งต้นในวัตถุประสงค์แห่งอนสุ ัญญาฯ ประเทศไทยจึงมีหน้าที่
ในการไม่กระท่าการท่ีเป็นการขัดกับวัตถุประสงค์แห่งอนุสัญญาฯ น้ี เม่ือวันท่ี ๑๐ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ สภา
นิติบญั ญัติแห่งชาติ (สนช.) มมี ติเป็นเอกฉันท์ให้สัตยาบันรับรองอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครอง
บุคคลทุกคนจากการหายสาบสูญโดยถูกบังคับ พ.ศ. ๒๕๕๓ และปัจจุบันมีการทบทวนและจะผ่าน
ร่างพระราชบัญญตั ปิ อ้ งกันและปราบปรามการทรมานและการบังคับบุคคลให้สูญหาย พ.ศ.... ให้เป็นกฎหมาย
ต่อไป หากร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระท่าให้บุคคลสูญหาย พ.ศ...
ผ่านเปน็ กฎหมาย จะเป็นกฎหมายไทยฉบับแรกที่รับรองและก่าหนดโทษทางอาญาส่าหรับการทรมานและการ
บังคับบุคคลให้สูญหาย ไม่ว่าจะเป็นการกระท่าที่เกิดขึ้นภายในหรือภายนอกประเทศไทย และที่ส่าคัญร่าง
พระราชบัญญัติฉบับปัจจุบันไม่ก่าหนดข้อยกเว้นหรือภูมิคุ้มกันทางกฎหมายให้กับการกระท่าที่เกิดขึ้นใน
ระหว่างประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือในพฤติการณ์พิเศษอ่ืนใด โดยหากศาลตัดสินว่าผู้ใดมีความผิดฐาน
กระท่าการทรมานหรือการบังคับบุคคลให้สูญหาย อาจท่าให้ได้รับโทษจ่าคุกอย่างต่า ๒๐ ปี และจะเพิ่มโทษ
มากข้ึน หากทา่ ใหเ้ กิดอาการบาดเจ็บสาหัสหรือถึงแก่ชีวิต นอกจากนี้ ผู้บังคับบัญชาหรือเจ้าพนักงานระดับสูง
ซ่งึ จงใจเพิกเฉยปลอ่ ยให้เกดิ การกระท่าผิดยังอาจไดร้ ับโทษจ่าคกุ เช่นกนั

การเข้าเป็นภาคีในอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองบุคคลทุกคนจากการบังคับให้หาย
สาบสูญของประเทศไทย (CED)5 คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบให้ประเทศไทยลงนามในอนุสัญญาฯ เมื่อวันที่
4 ตุลาคม 2554 โดยกระทรวงการต่างประเทศได้ลงนามต่อสหประชาชาติ เม่ือวันท่ี 9 มกราคม 2555
ซ่ึงการลงนามดังกล่าวเป็นเพียงการแสดงเจตนารมณ์ในเบ้ืองต้นว่า ประเทศไทยเห็นด้วยกับหลักการและ

๑๑๗

สาระสา่ คัญต่างๆของอนุสัญญาฯ แต่ยังไม่มีผลผูกพันประเทศไทยในฐานะที่เป็น “ภาคี”อนุสัญญา อย่างไรก็ดี
ประเทศไทยได้ให้ค่ามั่นสัญญาต่อหน้าประชาคมระหว่างประเทศโดยสมัครใจในท่ีประชุมคณะมนตรี
สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เม่ือวันที่ 5 ตุลาคม 2554 ว่า “ประเทศไทยจะเข้าเป็นภาคีอนุสัญญา
ระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองบุคคลทุกคนจากการบังคับให้หายสาบสูญ” ต่อมาคณะรัฐมนตรีมีมติ
เหน็ ชอบใหป้ ระเทศไทยเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาฯ เม่ือวันที่ 24 พฤษภาคม 2559 และสภานิติบัญญัติแห่งชาติ
ได้ให้ความเห็นชอบในการเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาฯ เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2560 แต่หากนับเวลาต้ังแต่การ
ลงนามเม่ือ พ.ศ. 2554 ถึงปัจจุบันเป็นเวลากว่า 8 ปี ที่ประเทศไทยยังไม่ได้ให้สัตยาบันเพื่อผูกพันตนใน
อนุสัญญาฉบับนี้

ประเทศไทยกับนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้ว ยการคุ้มครองบุคคลทุก คนจากการบังคับให้หาย
สาบสญู (CED)5 ขณะนปี้ ระเทศไทยยังมไิ ด้ให้สตั ยาบนั สารแก่เลขาธิการสหประชาชาติ ประเทศไทยจึงไม่ได้อยู่
ในสถานะทเ่ี ป็น“ภาค”ี ทีต่ อ้ งผูกพันตนตามพนั ธกรณที ปี่ รากฏอย่ใู นอนุสัญญาฯ หากมองในแง่ดี น่ันหมายถึงว่า
ประเทศไทยมีเวลาอย่างเพียงพอในการเตรียมความพร้อมทางกฎหมาย นโยบายและมาตรการต่างๆ
อย่างรอบคอบเพื่อปฏิบัติตามพันธกรณีได้ทันทีเม่ือให้สัตยาบัน อย่างไรก็ตามในระหว่างท่ียังไม่ได้ให้สัตยาบัน
แม้ประเทศไทยจะมิได้ผูกพันตามพันธกรณีโดยเฉพาะดังที่อนุสัญญาฯก่าหนด แต่ประเทศไทยซ่ึงได้ลงนาม
ประกาศเจตนารมณ์ท่ีจะเป็นภาคีในอนาคตย่อมต้องผูกพันตามหลักกฎหมายจารีตประเพณีระหว่างประเทศ
เก่ียวกับสนธิสัญญา ซึ่งภายหลังได้ถูกประมวลขึ้นเป็นลายลักษณ์อักษรในอนุสัญญาเวียนนาว่าด้วยกฎหมาย
สนธิสัญญา ค.ศ. 1969/2512 ซึ่งมีหลักว่า รัฐซึ่งได้ลงนามในสนธิสัญญาโดยยังมิได้ให้สัตยาบันย่อมต้อง
ผูกพันที่จะละเว้นจากการกระท่าใดๆ อันเป็นการท่าลายวัตถุประสงค์และความมุ่งหมายของสนธิสัญญา
ฉะน้ัน อย่างน้อยที่สุดในระหว่างนี้ ประเทศไทยจะกระท่าการใดๆ อันเป็นปฏิปักษ์ต่อความมุ่งหมายรวมถึง
การใช้บังคับอนุสัญญาฯ ของภาคีอ่ืนไม่ได้ จึงต้องให้ความเคารพและสนับสนุน ส่งเสริมความร่วมมือระหว่าง
ประเทศเพื่อช่วยให้ความมุ่งหมายของอนุสัญญาฯน้ันบรรลุผล หากมองในแง่มุมท่ีไทยอาจได้รับความเสียหาย
ในสถานการณ์ที่ประเทศไทยไม่ได้อยู่ในสถานะ “ภาคี”อนุสัญญาฯ ก็อาจมองได้ว่า ไทยไม่มีสิทธิใดๆ
ท่ีถูกรับรองไว้ในอนุสัญญาฯ เช่น ประเด็นเร่ืองเขตอ่านาจนอกเขตดินแดนของรัฐ ตามข้อ 9 วรรคสองของ
อนุสัญญาฯ ในกรณีท่ีคนชาติตกเป็นเหยื่อของการกระท่าความผิดนอกเขตดินแดนของรัฐ ย่อมท่าให้ไทยไม่มี
สิทธิทางกฎหมายในการเรียกร้องในทางระหว่างประเทศ กรณีนายวันเฉลิมฯ หายตัวไปเป็นตัวอย่าง เพราะ
ส่านักข่าวต่างรายงานว่า กัมพูชาไม่รู้เห็นและจะไม่สืบคดีน้ี แต่ผู้มีส่วนได้เสียโดยชอบกลับกล่าวอ้างว่า
นายวันเฉลิมฯ ซึ่งเป็นคนชาติของไทยได้ตกเป็นเหย่ือของการกระท่าความผิดฐานบังคับให้บุคคลสาบสูญ
เช่นนี้หากไทยเป็นภาคีอนุสัญญาฯ ไทยจะสามารถอ้างเขตอ่านาจยันกับทางการกัมพูชาเพ่ือพิจารณาคดี
โดยอาศัยฐานความผิดโดยตรงตามอนุสัญญาและ ข้อ 9 วรรคสอง แต่เม่ือมิได้เป็นภาคีสิ่งที่ทางการไทย
จะท่าได้คือการด่าเนินการตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศทั่วไปหรืออาศัยหลักอัธยา ศัยไมตรีระหว่าง
ประเทศเพื่อแสดงความจรงิ จังต้ังใจในการพิสูจน์ทราบขอ้ เท็จจรงิ ซึ่งหากรัฐไทยไม่ได้แสดงออกถึงความจริงจัง
หรือให้ความส่าคัญเท่าที่ควร อาจถูกกล่าวหาจากประชาชนหรือองค์กรภาคประชาสังคมได้ว่าเพิกเฉยต่อการ
“อ้มุ หาย” หรืออาจถูกโจมตดี ว้ ยถอ้ ยคา่ หรอื ข้อกังขาทีร่ ุนแรงยง่ิ กวา่ นน้ั

ประเทศไทยในอดีตกับการอุ้มหาย3 ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๒๓ คณะกรรมการว่าด้วยการหายสาบสูญ
โดยถูกบังคับหรือโดยความไม่สมัครใจแห่งองค์การสหประชาชาติ (UN Working Group on Enforced and
Involuntary Disappearances) บนั ทกึ ว่าในประเทศไทยมีอย่างน้อย ๘๒ คดี เก่ียวกับการบังคับให้บุคคลสูญ
หายที่ยังไม่คลี่คลาย และประเทศไทยไม่ได้ปฏิบัติตามหน้าที่ในการรับรองให้มีการสืบสวนสอบสวนที่ละเอียด
เป็นธรรมและเป็นอสิ ระ ซง่ึ ความล้มเหลวของประเทศไทยในการจัดการกับคดีในลักษณะน้ีก่อให้เกิดการบังคับ

๑๑๘

ให้บุคคลสูญหายอยู่เรื่อย ๆ โดยผู้กระท่าไม่ต้องรับโทษ ที่ผ่านมาแนวนโยบายด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศ
ไทยในการจัดการกับปัญหาดังกล่าวยังขาดความชัดเจนและยังไม่มีความคืบหน้าใด ๆ ในการจัดการกับปัญหา
การหายสาบสูญในกรณีต่าง ๆ แม้ว่าจะมีการประกาศใช้แผนสิทธิมนุษยชนแห่ งชาติ ต้ังแต่ฉบับแรก
(พ.ศ. ๒๕๔๔-๒๕๔๘) ฉบับที่สอง (พ.ศ. ๒๕๕๒-๒๕๕๖) จนถึงฉบับที่ 3 ในปัจจุบัน (พ.ศ. ๒๕๕๗-๒๕๖๑)
แล้ว ก็ยังไม่มีความคืบหน้าใด ๆ นับแต่กรณีนายทนง โพธ์ิอ่าน ผู้น่าสภาแรงงานแห่งประเทศไทย (สูญหาย
เมื่อปี ๒๕๓๔) กรณีการปราบปรามประชาชนเมื่อเหตุการณ์เดือนพฤษภาคม ๒๕๓๕ ท่ีมีผู้สูญหายอย่างน้อย
๓๑ คน (รายงานของคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา ๓๕ ระบุว่ามี ๔๘ ราย) ยังคงไร้วี่แวว กรณีทนายความ
นกั สทิ ธมิ นษุ ยชน นายสมชาย นลี ะไพจิตร เมอ่ื เดือนมีนาคม ๒๕๔๗ กรณีประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้
จ่านวนไม่น้อย กรณีนายกมล เหล่าโสภาพันธ์ สมาชิกเครือข่ายต่อต้านการคอรัปช่ันท่ีจังหวัดขอนแก่น
บางกรณีสูญหายไประหว่างที่รัฐใช้นโยบายปราบปรามยาเสพติด เมื่อปี ๒๕๔๖-๒๕๔๗ ในหลายพื้นท่ี
โดยเฉพาะอย่างยง่ิ ที่จังหวัดกาฬสนิ ธุ์ ในภาคอีสาน ภาคเหนือและภาคใต้ กรณีนายพอละจี “บิลล่ี” รักจงเจริญ
อดีตสมาชิกองค์การบริหารส่วนต่าบล ผู้น่าชนชาติพันธ์ุกระเหรี่ยงท่ีสูญหาย ไปเม่ือ ๑๗ เมษายน ๒๕๕๗
ที่เขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี หากย้อนอดีตการอุ้มหายที่ส่งผลถึงปัจจุบัน นั่นคือ
กรณีหะยีสุหลง อับดุลกอเดร์ โต๊ะมีนา บังคับสูญหายผู้น่าทางศาสนาและการเมืองคนส่าคัญของปาตานี
เมอื่ วนั ที่ 13 สิงหาคม 24974

เม่ือวันที่ ๒ พฤษภาคม 2565 คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติป้องกันและ
ปราบปรามการทรมานและการกระท่าให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. ... จัดสัมมนาการรับฟังความคิดเห็นต่อร่าง
พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระท่าให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. ... ซึ่งเป็นการน่า
อนุสัญญาว่าด้วยการต่อต้านการทรมานและการประติบัติหรือการลงโทษอื่นท่ีโหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือ
ที่ย่ายีศักด์ิศรี (Convention against Torture and Other Cruel, Inhuman or Degrading Treatment
or Punishment - CAT) กับอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองบุคคลทุกคนจากการหายสาบสูญ
โดยถูกบังคบั พ.ศ. ๒๕๕๓ (2010 International Convention for the Protection of All Persons from
Enforced Disappearance - CED) มารวมกนั ไว้เป็นกฎหมายฉบับเดียวกนั ซงึ่ มปี ระเทศสมาชิก 63 ประเทศ
(8 กันยายน 2563) ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีกัมพูชาที่เข้าร่วม ส่วนสหรัฐอเมริกา สหราช
อาณาจักร จีน ยังไม่แสดงเจตนา5 ในส่วนท่ีเก่ียวข้องกับการกระท่าให้บุคคลสูญหายมีเพียงนิยาม เพื่อความ
มงุ่ ประสงค์ของอนุสญั ญาฯ CED ค่าวา่ "การหายสาบสูญ” โดยถูกบังคับ" หมายถึง การจับกุม กักขัง ลักพาตัว
หรอื การกระทา่ ในรูปแบบใด ๆ กต็ ามทเ่ี ป็นการลิดรอนเสรีภาพโดยเจา้ หน้าที่ของรัฐ หรือบุคคลหรือกลุ่มบุคคล
ซ่ึงด่าเนินการโดยได้รับการอนุญาต การสนับสนุน หรือการยอมรับโดยปริยายของรัฐ ตามมาด้วยการปฏิเสธ
ที่จะยอมรับว่าได้มีการลิดรอนเสรีภาพ หรือการปกปิดชะตากรรมหรือที่อยู่ของบุคคลท่ีหายสาบสูญ ซึ่งส่ง
ผลให้บุคคลดังกล่าวตกอยู่ภายนอกการคุ้มครองของกฎหมาย และองค์ประกอบ (๑) การจับกุม กักขัง ลักพา
ตัว หรือการกระท่าในรูปแบบใด ๆ ก็ตามที่เป็นการลิดรอนเสรีภาพ (๒) โดยเจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือบุคคลหรือ
กลุ่มบุคคลซ่ึงดา่ เนินการโดยไดร้ บั การอนญุ าต การสนบั สนนุ หรอื การยอมรับโดยปรยิ ายของรฐั (๓) ตามมาดว้ ย
๑) การปฏิเสธที่จะยอมรับว่าได้มีการลิดรอนเสรีภาพ หรือ ๒) การปกปิดชะตากรรมหรือท่ีอยู่ของบุคคลท่ี
หายสาบสูญ (๓) ซ่ึงส่งผลให้บุคคลดังกล่าวตกอยู่ภายนอกการคุ้มครองของกฎหมาย นอกนั้นเช่นเดียวกับ
ในส่วนของการทรมาน

๑๑๙

๑๒๐

อา้ งอิง

1 วิกพิ ีเดีย สารานกุ รมเสรี. 2563. การบงั คบั บุคคลให้สญู หาย. เขา้ ถึงข้อมูลได้จาก https://th.wikipedia.
org/wiki/ วนั ทีส่ ืบคน้ ข้อมลู 8 พฤษภาคม 2565.
2 Amnesty International Thailand. 2563. การบงั คับบุคคลให้สูญหาย. เข้าถึงข้อมูลไดจ้ าก
https://www.amnesty.or.th/our-work/enforced-disappearance/ วันที่สบื คน้ ขอ้ มลู 8 พฤษภาคม
2565.
3 Office of the Council of State. 2560. “ประเทศไทย: การคุม้ ครองประชาชนในเหตุการณบ์ งั คบั ให้
บคุ คลสญู หาย (๒)” ประชาคมสงั คมและวฒั นธรรรมอาเซียน. เขา้ ถงึ ขอ้ มลู ได้จาก https://lawforasean.
krisdika.go.th/Content/View?Id=313&Type=1 วันทสี่ ืบค้นขอ้ มลู 8 พฤษภาคม 2565.
4 ธนั ยพร บัวทอง. 2563. หะยีสหุ ลง อับดลุ กอเดร์ โต๊ะมนี า : 66 ปี บังคับสูญหายผ้นู า่ ทางศาสนาและ
การเมอื งคนส่าคัญของปาตานี. เข้าถงึ ข้อมูลได้จาก https://www.bbc.com/thai/thailand-53761549
วันทส่ี บื ค้นขอ้ มูล 8 พฤษภาคม 2565.
5 รณกรณ์ บญุ ม.ี ม.ป.พ. การทรมานและการบงั คับบคุ คลให้สูญหาย. คณะนติ ศิ าสตร์ มหาวิทยาลยั -
ธรรมศาสตร์. เอกสารอัดส่าเนา.

๑๒๑

การทรมาน หรือเทคนคิ การสอบสวน

ดร.อภิรชั ศกั ด์ิ รชั นีวงศ์

"การทรมาน" (Torture) ตามอนุสัญญาว่าด้วยการต่อต้านการทรมานและการประติบัติหรือการ
ลงโทษอ่ืนที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือที่ย่ายีศักดิ์ศรี (Convention against Torture and Other Cruel,
Inhuman or Degrading Treatment or Punishment - CAT) หมายถงึ การกระท่าใดก็ตามโดยเจตนาที่ท่า
ให้เกิดความเจ็บปวดหรือความทุกข์ทรมานอย่างสาหัส ไม่ว่าทางกายหรือทางจิตใจ ต่อบุคคลใดบุคคลหน่ึง
เพอ่ื ความมุง่ ประสงค์ทจ่ี ะให้ไดม้ าซง่ึ ขอ้ สนเทศหรือค่าสารภาพจากบุคคลนั้นหรือจากบุคคลท่ีสาม1 การลงโทษ
บุคคลนน้ สา่ หรับการกระท่า ซ่ึงบุคคลน้ันหรือบุคคท่สี ามกระทา่ หรอื ถูกสงสัยว่าได้กระท่า หรือเป็นการขม
ขู่ให้กลัว หรือเป็นการบังคับขู่เข็ญบุคคลน้ันหรือบุคคลท่ีสามหรือเพราะเหตุใดใด บนพื้นฐานขงการเลือก
ประตบิ ตั ิ ไม่วา่ จะเป็นรูปแบบใด เม่ือความเจบ็ ปวสดหรอื ความทกุ ข์ทรมานน้ันกระท่าโดย หรอื ด้วยการยุยง หรื
อดดยความยินยอม หรือรู้เห็นเป็นใจของเจ้าพนักงานของรัฐ หรือของบุคคลอ่ืน ซึ่งปฏิบัติหน้าท่ีในต่าแหน่ง
ทางการ ท้ังนี้ ไม่รวมถึงความเจ็บปวด หรือความทุกข์ทรมานที่เกิดจาก หรืออันเป็นผลปกติจาก หรืออันสืบ
เน่ืองมาจากการลงโทษท้งั ปวงวทีช่ อบด้วยกฎหมาย3

ประเทศไทยเป็นภาคีสนธิสัญญาด้านสิทธิมนุษยชน ซึ่งสหประชาชาติถือเป็นสนธิสัญญาหลัก2
โดยเฉพาะอนุสัญญาว่าด้วยการต่อต้านการทรมานและการประติบัติหรือการลงโทษอ่ืนท่ีโหดร้าย
ไร้มนุษยธรรม หรือท่ีย่ายีศักด์ิศรี (Convention against Torture and Other Cruel, Inhuman or
Degrading Treatment or Punishment - CAT) โดยมีสาระส่าคัญ ในเนื้อหาของอนุสัญญาฉบับน้ีมีข้ึนเพ่ือ
วตั ถุประสงค์ในการระงับและยับยั้งการทรมาน โดยในเน้ือหาของอนุสัญญาดังกล่าวได้ก่าหนดความหมายของ
การทรมาน หมายถึง การกระทา่ ใดกต็ ามโดยเจตนาท่ที า่ ให้เกิดความเจ็บปวดหรือความทุกข์ทรมานอย่างสาหัส
ไมว่ า่ ทางกายภาพหรอื ทางจติ ใจตอ่ บุคคลใดบคุ คลหน่ึง ด้วยความมงุ่ ประสงค์ เพื่อให้ข้อสนเทศหรือค่าสารภาพ
จากบุคคลนั้นหรือบุคคลที่สาม การลงโทษบุคคลนั้นส่าหรับการกระท่าซ่ึงบุคคลน้ันหรือบุคคลที่สามกระท่า
หรือถูกสงสัยว่าได้กระท่า รวมท้ังการบังคับขู่เข็ญ โดยมุ่งเน้นไปท่ีการกระท่าหรือโดยความยินยอมของ
เจา้ หนา้ ทรี่ ฐั หรือบคุ คลอืน่ ซง่ึ ปฏิบัติหน้าทีใ่ นต่าแหน่งทางการ

Approved Interrogration Techniques (Army Field Manual) (เทคนิคการสอบสวน)3 ได้แก่
(1) Direct Approach (แนวทางตรง) (2) Incentive Approach (วิธีการจูงใจ) (๓) Emotional Love
Approach (แนวทางความรักทางอารมณ์) (๔) Emotional Hate Approach (แนวทางความเกลียดชังทาง
อารมณ์) (๕) Emotional Fear-up Approach (วิธีการสร้างความกลัวทางอารมณ์) (6) Emotional Fear-
Down Approach (แนวทางความกลัวทางอารมณ์) (7) Emotional Pride & Ego-up Approach (ความ
ภาคภูมิใจทางอารมณ์และแนวทางอัตตา) (8) Emotional Pride & Ego-Down Approach (ความภาคภูมิใจ
ทางอารมณ์และวิธีการอัตตาลง) (9) Emotional Futility (ไร้อารมณ์) (10) We Know All (เรารู้ทั้งหมด)
(11) File and Dossier (ไฟล์และเอกสาร) (12) Establish Your Identity (สร้างเอกลักษณ์ของคุณ)
(13) Repitition (การท่าซ้่า) (14) Rapid Fire (ไฟไหม้อย่างรวดเร็ว) (15) Silent (เงียบ) (16) Change of
Scenery (เปล่ียนทิวทัศน์) (17) Mutt and Jeff (18) False Flag (19) Separation (การแยกจากกัน) -
Restricted except in certain circumstances (จ่ากัด ยกเว้นในบางกรณ)ี

๑๒๒

ในขณะที่ “รายงานสถานการณ์การทรมานและการปฏิบัติท่ีโหดร้ายไร้มนุษยธรรมหรือย่ายีศักด์ิศรีฯ
ในจังหวัดชายแดนใต้ ปี 2557-2558” ซ่ึงรวบรวมข้อมูลจากสัมภาษณ์ผู้ถูกซ้อมทรมานโดยเจ้าหน้าท่ีรัฐใน
ช่วงเวลาดังกล่าว จัดท่าโดยมูลนิธิผสานวัฒนธรรม องค์กรเครือข่ายสิทธิมนุษยชนปาตานี และกลุ่ มด้วยใจ4
ระบวุ ่า “รูปแบบการซอ้ มทรมานของเจ้าหนา้ ทีร่ ฐั ไทย ๒๐ วิธี” ดงั น้ี

1. การข่มขู่ การข่มขู่จะเป็นการกระท่าที่มีผลเม่ือมีการควบคุมตัวเป็นเวลานาน และท่าให้ผู้ที่ถูก
ซักถามตอบรับหรือยอมรับ และให้ข้อมูลตามท่ีผู้ซักถามต้องการ โดยส่วนใหญ่เจ้าหน้าที่ข่มขู่จะท่าร้ายบุคคล
อันเป็นท่ีรักเช่นคนในครอบครัว ผู้ที่ถูกควบคุมตัวส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม การให้สุนัขมาอยู่ใกล้ๆ ผู้ถูก
ควบคุมตวั ก็เป็นเร่ืองของการข่มขู่ได้เช่นกัน การใช้ประโยชน์จากความหวาดกลัว เช่น จ่าลองวิธีการประหาร
ชีวิต วิธีการจ่าลองการประหารชีวิตเป็นการกระท่าที่ท่าให้เหยื่อทรมาน เกิดความหวาดกลัว ซ่ึงมีการจ่าลอง
หลายวิธีด้วยกัน เช่น การใช้ปืนจ่อท่ีศีรษะ หรือการยิงในระยะใกล้ การท่าร้ายคนอื่นให้เห็นหรือท่าให้ได้ยิน
เสียง การท่าร้ายบุคคลใกล้ชิด การใช้พลาสติกคลุมศีรษะแล้วบีบคอ การกระท่าเหล่าน้ีท่าให้เหยื่อรู้สึกอยู่ใกล้
ความตาย หรือมีคนก่าลังจะตาย ซ่ึงผลของการกระท่านี้จะส่งผลต่อสภาพจิตใจอย่างรุนแรง เป็นการกระท่าที่
ไม่มีร่องรอย ไม่มีบาดแผล แต่อาการบาดเจ็บทางจิตใจหลังเหตุการณ์จ่าลองการประหารชีวิตน้ัน ส่งผลต่อ
ความเจ็บปว่ ยทางดา้ นจติ ใจ เกดิ อาการภาวะวิตกกงั วล ซึมเศร้าและความเครียด ตัวอย่างของอาการภาวะวิตก
กังวล เหยื่อจะมีความกลวั ร้องไห้ ไมส่ ามารถควบคุมการเคล่อื นไหวของรา่ งกายได้ และการร้องขอชีวิต การใช้
วิธนี ี้ไมท่ า่ ให้เหย่ือเสยี ชวี ติ แต่ทา่ ให้เหยอ่ื มคี วามทรงจ่าเลวรา้ ยเ้ หลา่ น้ัน

๑๒๓
2. การซักถามท่ีใช้เวลานาน รายงานฉบับนี้ระบุว่า ไม่มีการก่าหนดเวลาท่ีแน่นอนในกระบวนการ
ซักถามผู้ต้องสงสัย การซักถามจะใช้เวลาไม่ต่ากว่า 2 ช่ัวโมง บางครั้งเป็นช่วงเช้าคือ 9.00-12.00 น. และ
ในช่วงบ่ายข้ึนอยู่กับว่าพวกเขาจะมีญาติมาเย่ียมหรือไม่ หลังจากนั้นจึงเป็นการสอบสวนในเวลากลางคืนเริ่ม
ตั้งแต่ 20.00 น. เปน็ ต้นไป บางคนกส็ ิ้นสุดในตอนเช้า

3. การรบกวนการนอน การบังคบั ให้อดนอนเป็นรูปแบบหนึ่งของการทรมาน เพราะการอดนอนเป็น
เวลานานเปน็ การทา่ ลายการท่างานทางชวี ภาพทเี่ ปน็ ใจกลางสุขภาพจติ และกายของบุคคล สามารถสร้างความ
เสียหายมากข้ึนและเจ็บปวดถ้ามีการบังคับไม่ให้นอนเป็นระยะเวลานาน การนอนหลับเป็นความจ่าเป็นทาง
ชีวภาพขั้นพื้นฐานส่าหรับมนุษย์ทุกคน ร่างกายจะสามารถปรับตัวและมีความยืดหยุ่นในการนอนหลับ แต่ถ้า
อดนอนนานกว่า 24 ชั่วโมง ก็จะเกิดปัญหาทางด้านจิตใจและร่างกาย สัญญาณแรกของการอดนอนคือ
ความรู้สึกไม่พึงประสงค์ มีความเหน่ือยล้า หงุดหงิด ไม่มีสมาธิ จากนั้นจะมีปัญหากับการอ่านและพูดอย่าง
ชัดเจน อุณหภูมิของร่างกายลดลง แต่กลับอยากอาหารเป็นอย่างมาก การไม่ได้นอนส่งผลกระทบต่อการรับรู้
ขาดความกระตอื รอื ร้น ซึมรุนแรงและการแยกตวั ออกจากสังคม

๑๒๔
4. ขังเดี่ยว ในการควบคุมตัวด้วยกฎหมายพิเศษ ในทุกสถานที่ผู้ถูกควบคุมตัวจะถูกขังเด่ียวในห้อง
ที่มีขนาดเล็ก ประมาณ 2×3 เมตร และมีบริเวณส่าหรับขับถ่ายท่ีมีเพียงผนังกั้น ไม่ได้แยกส่วนชัดเจนกับท่ี
นอน และมแี สงสว่างตลอดเวลาทั้งกลางวนั และกลางคืน ซ่ึงการควบคุมตัวด้วยกฎหมายพิเศษมีอ่านาจควบคุม
ตวั ไดถ้ งึ 37 วัน โดยไมต่ ้องมีขอ้ กลา่ วหา

5. การท่าให้สูญเสียประสาทสัมผัส การกีดกันทางประสาทสัมผัส (sendep) ด้วยอุปกรณ์ง่ายๆ เช่น
ผ้าปิดตา สามารถท่าให้สูญเสียประสาทสัมผัสระยะส้ัน แต่หากถูกบังคับกีดกันทางประสาทสัมผัสมากข้ึน
สามารถท่าให้เกิดความวิตกกังวลจนเห็นภาพหลอน ความคิดที่แปลกประหลาดและภาวะซึมเศร้า วิธีการที่ใช้
บ่อยในการท่าให้สูญเสียประสาทสัมผัสคือการใช้ถุงพลาสติกคลุมศีรษะ การใช้ผ้าพันคอปิดตาแล้วพาไปยัง
สถานท่ีอ่ืนๆ การตบท่ีหูท้ังสองข้างท่าให้สูญเสียการได้ยิน บางคนอาจเกิดข้ึนระยะสั้น บางคนอาจสูญเสียการ
ได้ยนิ ตลอดชวี ิต

๑๒๕
6. การทุบตีและการท่าร้ายร่างกาย จากการสัมภาษณ์เหยื่อจ่านวน 54 คน รายงานฉบับน้ีพบว่า
มีการทุบตีและท่าร้ายร่างกาย ไม่ว่าจะใช้มือหรือเท้าที่สวมรองเท้าคอมแบท ด้ามปืน ไม้ท่ีหุ้มด้วยผ้า เหยื่อ
ส่วนใหญ่ได้รับความเจ็บปวดทางร่างกายและได้พบแพทย์ที่โรงพยาบาลในค่ายทหาร แต่ไม่ได้รับการบันทึก
สาเหตุของอาการเจบ็ ป่วย หรอื ร่องรอยตามรา่ งกายของเหยอ่ื

7. มดั และใช้นา้่ เยน็ /อุ่นหยดลงตรงจุดจุดหนึง่ ในร่างกาย ผูถ้ กู ซ้อมทรมานจะถูกมัดและใช้น้่าเย็นหรือ
อุ่นหยดลงตรงจุดจุดหนึ่งของร่างกายอย่างช้าๆ ส่วนมากเป็นหน้าผาก วิธีการน้ีเป็นวิธีการที่ท่าให้เหยื่อรู้สึก
กดดนั อย่างมาก บางคนถกู ราดด้วยน้า่ ทงั้ ตวั ในขณะที่มีเสื้อผ้าหรือเปลือยกาย หรือราดเฉพาะท่ีบริเวณใบหน้า
และย่ิงเพิ่มความเจ็บปวดมากขึ้นเมื่อการกระท่าน้ันเกิดขึ้นในห้องที่มีอุณหภูมิต่า และเป็นวิธีการท่ีไม่สามารถ
พบเหน็ รอ่ งรอยได้

๑๒๖
8. ท่าให้ส่าลักหรือบีบคอ “ใช้ผ้าขนหนูปิดใบหน้าและราดน่้า บีบจมูก 4-5 คร้ัง หลังจากนั้นได้จับ
ผมคว่าหน้าและได้เอาน้่าท่ีใส่ภาชนะกดหัวผมลงในน้่า และได้ชกท้อง เตะหลายคร้ัง และดึงข้ึนชั้นบน เปิดตา
แกะเชือกมือและเปิดแอร์ ราดน้่า โดนเตะ ถีบ ชก เตะ ตบ และได้ถูกคลุมหัวด้วยพลาสติกด่าอยู่สักพักก็สว่าง
ซ่งึ เจ้าหน้าท่ไี ดท้ รมานผมเปน็ เวลา 3-4 วนั หลงั จากนน้ั ก็ซกั ถาม ขม่ ขเู่ ป็นปกติ ซ่ึงผมอยู่ที่ค่ายอิงคยุทธบริหาร
เปน็ เวลา 28 วัน” ผู้ให้สมั ภาษณ์ ชายอายุ 29 ปี เหตุเกดิ เมอื่ วันท่ี 17 มนี าคม 2558

9. บดขยี้ รายงานระบุว่า การบดขยี้สามารถกระท่าได้ทั้งในระหว่างการจับกุม ในระหว่างการ
เดนิ ทาง และในระหวา่ งการสอบสวน ซักถาม เจ้าหน้าท่ีส่วนใหญ่จะสวมใส่รองเท้าคอมแบท ท่าให้เม่ือเหยียบ
หรือบดขยีไ้ ปในสว่ นไหนของร่างกายก็จะเพิ่มความเจ็บปวดมากข้ึน บางคนถูกบดขยี้ท่ีศีรษะ บริเวณหลัง หรือ
ที่อวยั วะเพศ

๑๒๗

10. การทา่ ใหจ้ มน้า่ เป็นรูปแบบการทรมานท่ใี ช้น้่าเทราดลงบนผ้าท่ีครอบคลุมใบหน้าและทางเดิน
หายใจของเหยื่อ ท่าให้เหย่ือได้สัมผัสกับความรู้สึกของการจมน้่า ท่าให้เกิดอาการปวดรุนแรงท่ีเหมือนจมน่้า
เกิดความเสียหายกับปอดและสมองได้ อาจเกิดการขาดออกซิเจน บาดเจ็บทางร่างกายอ่ืนๆ รวมท้ังกระดูกหัก
เนื่องจากการดิ้นรนต่อสู้กับพันธนาการ และความเสียหายทางด้านจิตใจ หรือแม้กระทั่งถึงแก่ความตาย
ผลกระทบทางกายภาพจะพบได้ในเวลา 1 เดือนหลังจากที่เผชิญเหตุการณ์ ขณะท่ีผลกระทบทางจิตวิทยา
จะเกิดขน้ึ เป็นเวลายาวนานกวา่ 1 ปี ผู้ประสบภัยจาก water boarding มีความเสี่ยงมากในการเสียชีวิตอย่าง
กะทนั หัน เนือ่ งจากการอาเจียนออกมา

11. การให้อยู่ในอุณหภูมิสุดข้ัว การใช้อุณหภูมิสุดข้ัวเป็นรูปแบบหน่ึงของการทรมาน ได้ถูกน่ามาใช้
เป็นเวลาหลายปีท่ีประเทศบราซิล โดยเปลี่ยนจากห้องท่ีมีความร้อนไปยังห้องท่ีมีความเย็น ในประเทศ
เวียดนามการขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ถูกน่ามาใช้ในการทรมานคนท่ีอยู่ในประเทศสภาพภูมิอากาศเขตร้อน โดย
กองกา่ ลงั อเมริกัน เทคนคิ เดยี วกันไดถ้ ูกนา่ มาใชใ้ นกวนตานาโม การสืบสวนสอบสวน การสัมผัสความร้อนหรือ
เย็นอาจท่าอันตรายต่อร่างกายและจิตใจ ดังน้ัน การสัมผัสกับความร้อนเป็นเวลานานท่าให้ร่างกายขาดน่้า
จะท่าให้มีอาการสับสน ง่วง เซ่ืองซึม สูญเสียสติ ในท่านองเดียวกันการสัมผัสกับสุดขั้วของความหนาวเย็น
จะส่งผลอันตรายต่อร่างกายและจิตใจ นอกจากน้ีการลดลงของอุณหภูมิร่างกายจะส่งผลต่อภาวะการเต้นของ
หวั ใจผิดจังหวะ อาจท่าให้ตายได้ ส่าหรับผู้ท่ีได้เคยสัมผัสกับข้ัวของความร้อนหรือสัมผัสสุดขั้วของความหนาว
เย็นไม่ว่าจะก่ีเดือนหรือปีต่อมา อุณหภูมิสุดข้ัวจะยังประทับในความทรงจ่าของพวกเขา ดังนั้นผลกระทบของ
ความเส่ียงต่อความร้อนและเยน็ ย่อมเกิดทง้ั ทางร่างกายและจติ ใจ

๑๒๘
12. การเฆ่ียน การตี การลงแส้ วิธีการตีเกิดขึ้นในระหว่างการจับกุม การเดินทาง และกระบวนการ
ซักถาม วัสดุที่ใช้ในการตีมีทั้งปืนและไม้ โดยเฉพาะไม้น้ันจะหุ้มด้วยผ้าเพ่ือไม่ให้ปรากฏร่องรอยหลังการ
ตเี หย่อื จะถูกตตี ้งั แต่ศรี ษะ ล่าตัว ไปจนถงึ ขาทั้งสองขา้ ง เหยื่อส่วนใหญ่ท่ีให้ข้อมลู กบั รายงานชิน้ นล้ี ว้ นถูกทุบตี

13. การเอาแผ่นร้อนมาจี้ท่ีเท้า “เจ้าหน้าที่จะบีบท่ีไหล่ ข่มขู่ไว้ก่อน มึงต้องบอกข้อมูลให้หมด
มกี ารทา่ รา้ ยร่างกาย ตบหนา้ ปากแตก ถีบขาออ่ น 2 ครั้ง ให้ซิทอัพต้ังแต่ 50-100 ลุกน่ัง 200-300 เดินวิ่ง
บนถนนคอนกรตี ตอนเทยี่ งดว้ ยเท้าเปลา่ จนฝ่าเทา้ พองเพราะโดนความรอ้ นของพื้นอิฐ มกี ารสอบสวนช่วงเวลา
กลางคืนตั้งแต่เวลา 20.30 น. – 22.30 น. ถูกท่าร้ายร่างกายต่อเน่ืองกันเป็นเวลา 1 อาทิตย์”
ผู้ใหส้ ัมภาษณ์ เปน็ ชายอายุ 30 ปี เหตุเกิดเม่อื วันที่ 13 เมษายน 2557

14 การใช้ไฟฟ้าชอ็ ต การช็อตด้วยไฟฟ้าเป็นการท่าให้กระแสไฟฟ้าผ่านร่างกาย การใช้กระแสไฟสูง
ผ่านรา่ งกายเป็นระยะเวลาหนึ่ง อาจท่าใหเ้ กดิ ภาวะของหัวใจและความเสยี หายกบั เน้อื เย่ือ ความตายท่ีเกิดจาก
ไฟฟ้าช็อตเรยี กวา่ การตายด้วยไฟฟา้ ซง่ึ เหย่ือจะมีอาการแปลกๆ และมอี าการเจ็บปวดทางรา่ งกาย

๑๒๙

15 การบงั คบั ใหก้ นิ ดมื่ เกิดขึ้นนอ้ ยคร้งั ในการกระทา่ ทรมานต่อผู้ที่ถูกควบคุมตัวด้วยกฎหมายพิเศษ
ในจงั หวดั ชายแดนใต้ แตก่ ็มีเกดิ ขน้ึ ในกรณีท่ีบังคับให้กินด่ืมส่ิงของต้องห้ามตามหลักศาสนาอิสลาม หรือผู้ที่ถูก
ควบคุมตัวไม่ต้องการกินข้าวท่ีจัดโดยเจ้าหน้าที่ แต่ทางเจ้าหน้าที่ไม่ยอมจึงเกิดการบังคับให้กิน ซ่ึงเป็นวิธี
ที่แตกต่างจากการบังคับให้กินด่ืมในประเทศอิสราเอลหรือที่กวนตานาโม ซ่ึงใช้วิธีการใส่อาหารเข้าไปในท่อ
และสอดใส่ไปทางจมูก

16. การท่าให้บาดเจ็บท่ีเข่า “เจ้าหน้าท่ีพาไปท่ีศูนย์ซักถาม มีเจ้าหน้าที่พาไป 3 คน เจ้าหน้าท่ี
เตะตามตวั เจา้ หนา้ ท่ีก็เตะตรงหน้าอกจนมะสือดีล้มพร้อมกับเก้าอ้ี บอกให้ยอมรับความผิด พอเจ้าหน้าที่หยุด
ก็ให้ผมยืน ใหผ้ มยอมรับว่าทา่ อะไรผิด ผมไม่ได้บอกเพราะไม่รู้ เจ้าหน้าที่ก็มีการเตะตลอด ผมไม่ยอมรับเพราะ
ไม่รู้ว่าให้ยอมรับเร่ืองอะไร สุดท้ายเจ้าหน้าท่ีบอกว่ามีการซัดทอดมาว่าผมท่าความผิด แล้วให้ผมเปลือยกาย
เม่ือผมไม่เซ็นเอกสาร เจ้าหน้าที่ก็เลยโกรธ ก็เลยตีกับฆ้อนหัวยางตามข้อต่างๆ ช่วงล่าตัว” ผู้ให้สัมภาษณ์เป็น
ชายอายุ 33 ปี เหตเุ กิดเมอ่ื วันท่ี 30 มีนาคม 2550

๑๓๐
17. เสียงดัง การทรมานด้วยเสียงในจังหวัดชายแดนใต้คือการท่าเสียงดังในเวลากลางคืนท่ีเหยื่อ
ต้องการพักผ่อน เมื่อถูกควบคุมตัวเป็นเวลานานก็จะท่าให้เกิดผลกระทบทั้งทางร่างกายและจิตใจ โดยเฉพาะ
การไม่ได้นอนหลับสนิท เป็นเวลา 7 วันติดต่อกัน พวกเขาจะมีอาการปวดกล้ามเน้ือ สายตาพร่ามัว ซึมเศร้า
ตาบอดสี ขาดสมาธิ ภูมิคุ้มกันร่างกายบกพร่อง เวียนศีรษะ หน้ามืด เวียนหัว ความหมองคล้่าของดวงตา
เป็นลม สับสน มีอาการหลอน อาการมึนเมา อาการสั่น ปวดหัว ไส้เล่ือน อยู่ไม่สุข ใจร้อน หงุดหงิดง่าย
สญู เสยี ความจ่า คล่นื ไส้ โรคจติ ปฏิกริ ิยาช้า พูดเลอะเลือน น่า้ หนกั เพ่มิ หรือลด มีอาการง่วงนอนตลอดเวลา

18. การท่าให้ขาดอากาศ อาการบาดเจ็บที่เกิดจากการกระท่าทรมานท่ีท่าให้ความสามารถใน
กระบวนการควบคุมสตถิ กู ทา่ ใหห้ ยดุ ท่างาน วิธหี น่ึงในนั้นคือการทา่ ให้ขาดออกซิเจน วัตถุประสงค์เพ่ือให้เหย่ือ
ท่าตามค่าส่ัง ไม่มีสติรับรู้ รวมถึงการกระท่าในการละเมิดท่ีชัดเจนของเหยื่อ คือจริยธรรม หลักการความ
เชื่อมนั่ ทางจิตวิญญาณและความปรารถนา

19. การล่วงละเมิดทางเพศ การกระท่าทรมานทางเพศเริ่มต้นด้วยการบังคับให้เปลือยกาย
การเปลือยกายได้เพ่ิมความหวาดกลัวทางจิตวิทยาเพราะท่าให้รู้สึกว่าอาจถูกข่มขืนหรือล่วงละเมิดทางเพศ
นอกจากน้ีภัยคุกคามทางเพศ การละเมิดทางวาจาและเยาะเย้ยยังเป็นส่วนหน่ึงของการทรมานทางเพศด้วย
การละเมิดทางเพศไม่เพียงแต่เป็นการท่าร้ายร่างกาย แต่ในหลายกรณีก็เป็นการคุกคามทางจิตวิทยาท่ีเป็น
สง่ิ อันตรายมากทสี่ ุด สา่ หรบั ผ้ชู าย นอกจากก่อให้เกิดความเจ็บปวดแลว้ ยังอาจคุกคามเหยื่อจนกลายเป็นหมัน

๑๓๑
ซงึ่ การละเมิดทางเพศในจงั หวัดชายแดนใต้ มีการบังคับให้เปลือยกาย การกระท่ารุนแรงกับอวัยวะเพศ การใช้
ไฟฟ้าชอ็ ตที่อวัยวะเพศ เป็นตน้

20. การบังคับให้ท่าท่าต่างๆ การบังคับให้ท่าท่าทางต่างๆ เป็นการบังคับให้ผู้ท่ีถูกควบคุมตัวได้รับ
ความเจ็บปวดทางร่างกายในต่าแหน่งต่างๆ เช่น การบังคับให้ยืน ให้นั่งในท่าทางที่ไม่สะดวก หรือร่างกาย
ถูกแขวนเป็นเวลานาน การถูกบังคับให้ท่าท่าทางต่างๆ ส่งผลระยะยาวหรือความเสียหายรุนแรงรวมไปถึง
เส้นประสาท

๑๓๒

การเปรียบเทียบเทคนิคการสอบสวนข้ันสูงที่ได้รับอนุมัติ คณะกรรมการข่าวกรองของวุฒิสภา
โครงการสอบปากค่าและกักขังของ Central Intelligence Agency เทคนิคการสอบสวนท่ีเฉพาะเจาะจง
ซ่ึงนักวิจารณ์ประณามว่าเป็นการทรมาน ได้รับอนุญาตจากกระทรวงยุติธรรมในบันทึกทางกฎหมายในปี
2545 และ 2548 เทคนิคเหล่านี้เคยอธิบายไว้แล้วในการพิจารณาคดี รายงานและบันทึกข้อตกลง เทคนิค
เหล่าน้ีถูกยกเลิกโดย CIA ในช่วงระยะเวลาที่สองของ George W. Bush และถูกห้ามโดยฝ่ายบริหารของ
Obama ในปี 2009/25625 กบั รายงานสถานการณ์การทรมานและการปฏิบัติที่โหดร้ายไร้มนุษยธรรมหรือ
ย่ายีศักด์ิศรีฯ ในจังหวัดชายแดนใต้ ปี 2557-2558 โดยมูลนิธิผสานวัฒนธรรม องค์กรเครือข่าย
สทิ ธิมนุษยชนปาตานี และกลุ่มดว้ ยใจ

Enhanced Interrogation Techniques รายงานสถานการณก์ ารทรมานและการปฏบิ ตั ิ

(เทคนิคการสอบสวนขั้นสูง) (Justices Department ที่โหดร้ายไร้มนษุ ยธรรมหรือย่ายศี กั ดิ์ศรีฯ

in 2002 and Rescinded by OBAMA ในจงั หวดั ชายแดนใต้ ปี 2557-2558

Administration in 2009)

1. Attention Grasp (จับความสนใจ)

2. Walling (ติดผนัง)

3. Facial Hold (ใบหน้าถอื )

4. Facial Slap (ตบหน้า)

5. Cramped Cofinement (การกักขังท่ีคับแคบ)

6. Wall Standing (ยืนติดผนงั )

7. Stress Positions (ตา่ แหนง่ ความเครียด)

8. Sleep Deprivation (อดนอน) 1. การรบกวนการนอน (sleep disturbances)

9. Insects Place in a Confinement Box

(แมลงวางในกล่องกักขงั )

10. Waterboard

George W. Bush อนุญาต

1. การผูกมัดในตา่ แหนง่ ความเครยี ดท่ีบดิ เบย้ี ว 2. การข่มขู่ (intimidation)

2. การกีดกนั การนอนหลบั จนถงึ จดุ ทเี่ กิดอาการ 3. การซกั ถามที่ใช้เวลานาน (time-consuming

ประสาทหลอน questioning)

3. การกดี กนั อาหาร เครือ่ งดม่ื 4. ขังเดี่ยว (solitary confinement)

4. การคลุมศรี ษะ 5. การท่าให้สญู เสยี ประสาทสัมผสั (sensory loss)

5. การตี 6. การทบุ ตแี ละการท่าร้ายรา่ งกาย (Beating and

Mayhem)

6. การรักษาบาดแผล 7. มดั และใชน้ า่้ เยน็ /อุ่นหยดลงตรงจุดจุดหนงึ่

ในรา่ งกาย (Tie and apply a few drops of

cold/warm water to a spot on your body)

๑๓๓

Enhanced Interrogation Techniques (เทคนิค รายงานสถานการณก์ ารทรมานและการปฏิบตั ิ
การสอบสวนข้นั สงู ) (Justices Department in ทโ่ี หดร้ายไรม้ นุษยธรรมหรือย่ายศี กั ด์ิศรฯี
ในจังหวัดชายแดนใต้ ปี 2557-2558
2002 and Rescinded by OBAMA
Administration in 2009) 8. ทา่ ใหส้ ่าลักหรือบีบคอ (causing choking or
George W. Bush อนุญาต strangulation)

7. การข้ึนเรอื 9. บดขยี้ (crush)
10. การท่าใหจ้ มนา่้ (drowning)
8. ก่าแพง 11. การให้อย่ใู นอุณหภูมิสุดขั้ว (temperature
9. การเหยียดหยามทางเพศ
extremes)
10. การอยูภ่ ายใตค้ วามรอ้ นจัดหรอื ความเยน็ จัด 12. การเฆีย่ น การตี การลงแส้ (beating, beating,

11. การกักขงั ในกล่องเล็กๆ คลา้ ยโลงศพ whipping)
13. การเอาแผน่ รอ้ นมาจีท้ ีเ่ ท้า (Putting a hot
12. การฟังเสยี งทีท่ ่าให้หหู นวก
13. การรบกวนการนอนหลับ plate on the feet)
14. การใชไ้ ฟฟ้าชอ็ ต (electric shock)
15. การบงั คบั ใหก้ นิ ด่มื (compulsion to eat and

drink)
16. การท่าให้บาดเจ็บท่เี ขา่ (knee injury)
17. เสยี งดงั (loud)
18. การทา่ ให้ขาดอากาศ (suffocation)
19. การลว่ งละเมดิ ทางเพศ (sexual harassment)
20. การบงั คับใหท้ ่าท่าตา่ งๆ (compulsion)

เทคนิคการสอบสวนขั้นสูงกับรายงานสถานการณ์การทรมานและการปฏิบัติที่โหดร้ายไร้มนุษยธรรม
หรือยา่ ยศี กั ดศิ์ รีฯ ในจงั หวดั ชายแดนใต้ ปี 2557-2558 พบวิธกี ารเดียว คือ Sleep Deprivation (อดนอน)/
การรบกวนการนอน (sleep disturbances) ซ่ึงหลายประเทศน่าวิธีเหล่าน้ีไปใช้ (US Enhanced
Interrogation Techniques : เทคนิคการสอบสวนข้ันสูง) หรือได้รับการตัดสินว่า “ไม่เป็นการทรมาน”
การทรมานตาม UN Special Rapporteur on Torture Report มีหลายวิธี จาก Army Field Manual
“Approved Interrogation Techniques” มี ๑๙ วิธี (1. Direct Approach (แนวทางตรง) 2. Incentive
Approach (วิธีการจูงใจ) ๓. Emotional Love Approach (แนวทางความรักทางอารมณ์) 4. Emotional
Hate Approach (แนวทางความเกลียดชังทางอารมณ์) 5. Emotional Fear-up Approach (วิธีการสร้าง
ความกลัวทางอารมณ์) 6. Emotional Fear-Down Approach (แนวทางความกลัวทางอารมณ์)
7. Emotional Pride & Ego-up Approach (ความภาคภูมิใจทางอารมณแ์ ละแนวทางอัตตา) 8. Emotional
Pride & Ego-Down Approach (ความภาคภูมิใจทางอารมณ์และวิธีการอัตตาลง) 9. Emotional Futility
(ไร้อารมณ์) 10. We Know All (เรารู้ท้ังหมด) 11. File and Dossier (ไฟล์และเอกสาร) 12. Establish
Your Identity (สรา้ งเอกลักษณข์ องคณุ ) 13. Repitition (การทา่ ซ้่า) 14. Rapid Fire (ไฟไหม้อยา่ งรวดเร็ว)

๑๓๔

15. Silent (เงียบ) 16. Change of Scenery (เปลี่ยนทิวทัศน์) 17. Mutt and Jeff 18. False Flag
19. Separation (การแยกจากกัน) - Restricted except in certain circumstances (จ่ากัด ยกเว้นในบาง
กรณี)) ส่วนเทคนิคการสอบสวนชนั้ สูง มี ๑๐ วธิ ขี ้างตน้

"Enhanced interrogation techniques" or "enhanced interrogation"6 "เทคนิคการสอบสวน
ข้ันสูง" หรือ "การสอบสวนข้ันสูง" เป็นค่าสละสลวยส่าหรับโปรแกรมการทรมานผู้ต้องขังอย่างเป็นระบบโดย
Central Intelligence Agency (CIA), Defense Intelligence Agency (DIA) และส่วนประกอบต่างๆ ของ
กองทัพสหรัฐท่ีไซต์ห่างไกลรอบ ๆ โลก รวมทั้ง Bagram, อ่าวกวนตานาโม, Abu Ghraib และบูคาเรสต์
ที่ได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าท่ีของรัฐบาล George W. Bush วิธีการท่ีใช้ ได้แก่ การตี การผูกมัดในต่าแหน่ง
ความเครียดที่บิดเบี้ยว การคลุมศีรษะ การฟังเสียงท่ีท่าให้หูหนวก การรบกวนการนอนหลับ การกีดกันการ
นอนหลับจนถึงจุดท่ีเกิดอาการประสาทหลอน การกีดกันอาหาร เคร่ืองดื่มและการรักษาบาดแผล ตลอดจน
การข้ึนเรือ ก่าแพง การเหยียดหยามทางเพศ การอยู่ภายใต้ความร้อนจัดหรือความเย็นจัด และการกักขังใน
กล่องเล็กๆ คล้ายโลงศพ ภาพวาดบางส่วนของการทรมานเหล่านี้ของผู้ต้องขังกวนตานาโม ซึ่งเขาเองก็
ถูกกดดัน ถูกตีพิมพ์ในเดอะนิวยอร์กไทมส์ เทคนิคบางอย่างเหล่านี้จัดอยู่ในหมวดหมู่ที่เรียกว่า "การทรมาน
สีขาว" ผู้ต้องขังหลายคนต้องทนทุกข์ทรมานโดยไม่จ่าเป็น "การให้น่้าทางทวารหนัก", "การช่วยชีวิตด้วย
ของเหลวทางทวารหนัก" และ "การให้อาหารทางทวารหนัก" นอกจากการทารุณผู้ถูกคุมขังแล้ว ยังมีการ
คุกคามตอ่ ครอบครวั ของพวกเขา เชน่ การข่มขู่ว่าจะท่ารา้ ยเดก็ และการขม่ ขวู่ ่าจะล่วงละเมดิ ทางเพศ

การถกเถียงกันว่า "การสอบสวนที่เพิ่มข้ึน" ละเมิดกฎเกณฑ์ต่อต้านการทรมานของสหรัฐฯ หรือ
กฎหมายระหว่างประเทศเช่นอนุสัญญาต่อต้านการทรมานของสหประชาชาติหรือไม่?7 เจ้าหน้าท่ีของอเมริกา
และยุโรป รวมถึงอดีตผู้อ่านวยการ CIA ลีออน ปาเนตตา อดีตเจ้าหน้าที่ CIA อัยการกวนตานาโม และ
ผู้พิพากษาศาลทหาร ได้เรียก "การสอบปากค่าท่ีปรับปรุงแล้ว" ว่าเป็นถ้อยค่าที่สละสลวยส่าหรับการทรมาน
ในปี 2552 ท้ังประธานาธิบดีบารัค โอบามา และอัยการสูงสุดเอริค โฮ ลเดอร์ กล่าวว่าเทคนิคบางอย่างนั้น
เป็นการทรมานและปฏิเสธการใช้เทคนิคเหล่าน้ัน พวกเขาปฏิเสธท่ีจะด่าเนินคดีกับซีไอเอกระทรวงกลาโหม
สหรัฐหรือเจ้าหน้าท่ีบริหารของบุชที่อนุมัติโครงการน้ี โดยเปิดโอกาสให้มีการเรียกปร ะชุมสอบสวน"
คณะกรรมการความจริง"ส่าหรับสิ่งท่ีประธานาธิบดีโอบามาเรียกว่า "การบัญชีเพ่ิมเติม" ในเดือนกรกฎาคม
2014/2557 ศาลสิทธิมนุษยชนแห่งยุโรปได้วินิจฉัยอย่างเป็นทางการว่า "การสอบสวนที่เพิ่มข้ึน" เท่ากับ
การทรมาน และส่ังให้โปแลนด์ชดใช้ค่าเสียหายแก่ผู้ชายท่ีถูกทรมานที่ไซต์ CIA สีด่าที่น่ัน ในเดือนธันวาคม
2014 วุฒิสภาสหรัฐอเมริกาได้ตีพิมพ์รายงานประมาณ 10% ของ รายงานของคณะกรรมการข่าวกรองของ
วฒุ สิ ภาเก่ยี วกบั การทรมานของ CIA ซ่ึงเป็นรายงานเก่ียวกับการใช้การทรมานของ CIA ในระหว่างการบริหาร
ของ George W. Bush และในสมัย Obama ไดม้ ีการยกเลกิ เทคนคิ การสอบสวนชั้นสงู

ดงั น้ัน ในเรื่องการทรมาน แบ่งเป็น 3 เรอื่ ง ระดบั ท่ี ๑ การทรมาน ระดบั ที่ ๒ การประท่าท่ีโหดร้าย
ไร้มนุษยธรรม ย่ายีศักดิ์ศรี ระดบั ที่ ๓ การกระท่าอื่นๆ ที่มิชอบด้วยกฎหมาย ท้ังน้ี การบ่งช้ีว่า อะไรคือการท่า
ในระดับ 1 2 หรือ 3 ในประเทศไทยยังมิได้มีเกณฑ์ชัดเจน เพียงยึดตามประมวลกฎหมายอาญา พร้อมกับ
คา่ ตดั สินศาลสทิ ธมิ นษุ ยชนแหง่ ยโุ รป (ECHR)

๑๓๕

อ้างองิ

1 Thai PBS News. 2556. การทรมาน...ปัญหาเรือ้ รงั ทีต่ อ้ งเร่งแก้ไข. เขา้ ถงึ ขอ้ มลู ไดจ้ าก https://news.
thaipbs.or.th/content/180081# วนั ท่สี ืบคน้ ข้อมูล ๗ พฤษภาคม ๒๕๖๕.

2 สา่ นักงานคณะกรรมการสทิ ธิมนษุ ยชนเเห่งชาติ. 2558. “พันธกรณีระหว่างประเทศ” ความรูด้ า้ น
สทิ ธมิ นุษยชน. เข้าถงึ ข้อมูลได้จาก https://www.nhrc.or.th/Human-Rights-Knowledge/
International-Human-Rights-Affairs/International-Law-of-human-rights.aspx วนั ทส่ี ืบค้นข้อมูล
๗ พฤษภาคม ๒๕๖๕.
3 รณกรณ์ บญุ ม.ี ม.ป.พ. การทรมานและการบังคับใหบ้ ุคคลสญู หาย. คณะนติ ศิ าสตร์ มหาวิทยาลยั -
ธรรมศาสตร.์ เอกสารอัดสา่ เนา.
4 กองบรรณาธิการ. 2562. Torture Methods: 20 รปู แบบการซ้อมทรมานของเจา้ หนา้ ที่รัฐไทย.
เข้าถึงข้อมลู ไดจ้ าก https://waymagazine.org/torture-methods/ วันทีส่ บื คน้ ข้อมลู 8 พฤษภาคม
๒๕๖๕.
5 Daniel Nasaw and Devlin Barrett. 2557. รายช่อื 'เทคนิคการสอบสวนขั้นสูง' ท่ไี ดร้ บั อนมุ ัต.ิ
เข้าถึงขอ้ มูลไดจ้ าก The Wall Street Journal: https://www.wsj.com/news/author/devlin-barrett
วันทีส่ ืบค้นข้อมลู ๗ พฤษภาคม ๒๕๖๕.
6 วิกิพีเดยี สารานุกรมเสรี. 2565. เทคนคิ การสอบสวนขน้ั สงู . เขา้ ถงึ ขอ้ มลู ได้จาก https://en.wikipedia.
org/wiki/Enhanced_interrogation_techniques# วันทีส่ บื คน้ ขอ้ มูล 9 พฤษภาคม ๒๕๖๕.


Click to View FlipBook Version