บทที่ 3
หลกั สตู รการพัฒนางานยตุ ิธรรมจังหวดั ยะลา
หลักสตู รการพฒั นางานยตุ ธิ รรม จังหวดั ยะลา เปน็ หลกั สูตรกลาง สาหรับอบรม หรือให้ความรู้ในการ
ปฏิบัตงิ านสานกั งานยุตธิ รรมจงั หวัดยะลา สานกั งานยุติธรรมจังหวัดยะลา สาขาเบตง และศูนย์ยุติธรรมชุมชน
จังหวดั ยะลา สาหรบั (๑) เจา้ หนา้ ทใ่ี หม่ (๒) เจ้าหนา้ ที่เก่าที่ต้องเพ่มิ ความรูแ้ ละศักยภาพ เนื้อหา ประกอบด้วย
(๑) ชดุ ความรูก้ ารบรกิ ารประชาชนเพ่อื อานวยความยตุ ิธรรม (๒) ชุดความรูส้ ทิ ธมิ นษุ ยชน (๓) ชุดความรู้อน่ื ๆ
(๔) ชุดความร้กู ารบริหารงานทว่ั ไป
เนอ้ื หา
๑. ชดุ ความร้กู ารบรกิ ารประชาชนเพ่อื อานวยความยตุ ิธรรม
ชดุ ความรกู้ ารบริการประชาชนเพือ่ อานวยความยตุ ธิ รรม
ดร.อภิรชั ศกั ด์ิ รชั นวี งศ์
บทบาทหนา้ ทสี่ ว่ นราชการในสงั กัดกระทรวงยตุ ธิ รรม
กระทรวงยุติธรรม๑ (Ministry of Justice) เป็นหน่วยงานราชการส่วนกลางประเภทกระทรวงของ
ไทย มีภารกิจเป็นหน่วยงานหลักของกระบวนการยุติธรรม ในการดาเนินการเพ่ือพัฒนากฎหมาย และระบบ
บริหารจัดการของ กระบวนการยุติธรรมอย่างเป็นเอกภาพ โปร่งใส คุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชน
ชว่ ยเหลือและใหค้ วามรแู้ ก่ประชาชนทางกฎหมาย ป้องกัน ปราบปราม แก้ไข ฟ้ืนฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด
รวมทั้งป้องกัน แก้ไขปัญหาอาชญากรรมในสังคมและอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ การฟ้ืนฟูกิจการของลูกหน้ี
การบังคบั คดแี พง่ บงั คับคดลี ม้ ละลาย บงั คับคดที างอาญา บาบัดแก้ไขฟนื้ ฟูผูก้ ระทาผดิ
กระทรวงยุติธรรมก่อต้ังเมื่อ 25 มีนาคม พ.ศ. 2434 เดิมใช้ชื่อว่า “กระทรวงยุตติธรรม”
พระดุลยพากย์สุวมัณฑ์ (ปิ่ณฑ์ ปัทมสถาน) เป็นปลัดกระทรวงยุตติธรรม คนสุดท้ายดารงตาแหน่งวันท่ี
8 สิงหาคม พ.ศ. 2492 ถึง 11 มีนาคม พ.ศ. 2495 ต่อมาเปล่ียนชื่อเป็น “กระทรวงยุติธรรม” ในวันท่ี
12 มีนาคม พ.ศ. 2495 และพระดุลยพากย์สุวมัณฑ์ (ป่ิณฑ์ ปัทมสถาน) เป็นปลัดกระทรวงยุติธรรมคนแรก
ดารงตาแหน่งระหว่างวันที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2495 ถึงวันท่ี 22 มีนาคม พ.ศ. 2496 ในวันท่ี 23 มีนาคม
พ.ศ. 2496 ทรงโปรดเกล้านายสัญญา ธรรมศักดิ์ เป็นปลัดกระทรวงคนท่ีสอง ส่วนราชการในสังกัดกระทรวง
ยุติธรรม ประกอบด้วย (๑) สานักงานรัฐมนตรี (๒) สานักงานปลัดกระทรวงยุติธรรม (๓) กรมบังคับคดี
(๔) กรมคุมประพฤติ (๕) กรมราชทัณฑ์ (๖) กรมสอบสวนคดีพิเศษ (๗) กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ
(๘) กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน (๙) สานักงานกิจการยุติธรรม (๑๐) สถาบันนิติวิทยาศาสตร์
หน่วยงานในบังคับบัญชารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม สานักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปราม
ยาเสพติด (สานักงาน ป.ป.ส.) องค์การมหาชน (๑) สถาบนั เพือ่ การยตุ ิธรรมแหง่ ประเทศไทย (องค์การมหาชน)
เปน็ องค์การมหาชนตามพระราบัญญัติองคก์ ารมหาชน พ.ศ. 2542 (๒) สถาบันอนญุ าโตตุลาการ เป็นองค์การ
มหาชนตามพระราชบัญญตั ิเฉพาะ
๒๗
ส่วนราชการในสังกัดกระทรวงยตุ ธิ รรม
๑. สานักงานรัฐมนตรี มีภารกิจเก่ียวกับราชการทางการเมือง เพ่ือสนับสนุนภารกิจของรัฐมนตรี
ประสานนโยบายระหวา่ งกระทรวงโดยมอี านาจหนา้ ที่ ดังตอ่ ไปน้ี๒
1. รวบรวมข้อมูลและวิเคราะห์ กล่ันกรองเรื่องเพ่ือเสนอต่อรัฐมนตรี รวมท้ังเสนอความเห็ น
ประกอบการวินจิ ฉัยส่ังการของรฐั มนตรี
2. สนับสนุนการทางานของรัฐมนตรีในการดาเนินงานทางการเมืองระหว่างรัฐมนตรีและ
คณะรฐั มนตรี รฐั สภาและประชาชน
3. ประสานงานการตอบกระทู้ ชแ้ี จงญัตติ ร่างพระราชบญั ญตั ิ และกิจการอนื่ ทางการเมือง
4. ดาเนนิ การพิจารณาเร่ืองรอ้ งทุกข์ ร้องเรียน หรอื รอ้ งขอความชว่ ยเหลือต่อรัฐมนตรี
5. ปฏบิ ตั ิการอื่นใดตามทกี่ ฎหมายกาหนดให้เปน็ อานาจหนา้ ที่ของสานกั งานรฐั มนตรีหรอื
ตามทรี่ ฐั มนตรหี รือคณะรัฐมนตรมี อบหมาย
๒. สานกั งานปลัดกระทรวงยุตธิ รรม มภี ารกิจเกีย่ วกบั การพัฒนายทุ ธศาสตร์และแปลงนโยบาย
ของกระทรวงเป็นแผนปฏิบตั ิการจดั สรรทรัพยากร และบริหารราชการประจาท่วั ไปของกระทรวงเพอื่ ให้บรรลุ
เป้าหมาย และเกิดผลสัมฤทธิ์ตามภารกิจของกระทรวง โดยใหม้ ีหน้าท่ีและอานาจ ดังตอ่ ไปน้ี๓
1. ศกึ ษา วิเคราะห์ และจัดทาข้อมูล เพ่ือใช้ในการกาหนดนโยบาย เป้าหมายและผลสัมฤทธิ์
ของกระทรวง
2. พฒั นายุทธศาสตรก์ ารบริหารของกระทรวงและแปลงนโยบายเป็นแนวทางและแผนปฏิบัติ
การของกระทรวง
3. พัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อใช้ในการบริหารงานและการดาเนินงานของ
หน่วยงานในสงั กัดกระทรวง
4. จัดสรรและบรหิ ารทรพั ยากรของกระทรวง เพอื่ ใหเ้ กดิ การประหยัด คมุ้ คา่ และ
สมประโยชน์
5. กากับ เร่งรัด ติดตาม และประเมินผล รวมท้ังประสานการปฏิบัติราชการขอหน่วยงานใน
สังกดั กระทรวง
6. ดูแลงานประชาสัมพันธ์ การต่างประเทศ และพัฒนาปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้องและ
เผยแพร่กิจกรรมตลอดจนการขา่ วของกระทรวง
7. ดาเนินการสนบั สนุนและพัฒนาบคุ ลากรในกระทรวง
8. ดาเนนิ การตามกฎหมายว่าดว้ ยกองทุนยตุ ธิ รรมและกฎหมายอนื่ ทเี่ ก่ียวขอ้ ง
9. ปฏิบตั กิ ารอ่นื ใดตามทกี่ ฎหมายกาหนดใหเ้ ป็นหน้าท่แี ละอานาจของสานกั งานปลดั -
กระทรวง หรือตามท่รี ฐั มนตรีหรอื คณะรฐั มนตรมี อบหมาย
๓. กรมคุมประพฤติ ดาเนนิ การเก่ียวกบั การควบคุมดูแลและแก้ไขฟ้ืนฟูผู้กระทาผิดในชุมชน และ
ติดตามช่วยเหลือสงเคราะห์ให้กลับคืนเป็นพลเมืองดีของสังคม รวมท้ังเสริมสร้างการมีส่วนร่วมของครอบครัว
ชมุ ชน และภาคเี ครอื ขา่ ยในการดแู ล และแก้ไขฟ้นื ฟูผู้กระทาผิด โดยมีอานาจหนา้ ที่ ดังต่อไปน้ี๔
1. ดาเนนิ การสบื เสาะและพนิ จิ ควบคุมและสอดส่อง แก้ไข ฟ้ืนฟู และสงเคราะห์ผู้กระทาผิด
ในชัน้ ก่อนฟอ้ งช้ันพิจารณาคดขี องศาล และภายหลังท่ศี าลมคี าพพิ ากษา ตามท่กี ฎหมายกาหนด
๒๘
2. ดาเนินการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดตามกฎหมายว่าด้วยการฟ้ืนฟูสมรรถภาพผู้ติด
ยาเสพตดิ
3. ส่งเสริมและสนับสนุนเกี่ยวกับการดาเนินการแก้ไข ฟ้ืนฟู และสงเคราะห์ผู้กระทาผิดใน
ชุมชน
4. พัฒนาระบบ รูปแบบ และดาเนินการเพ่ือสร้างความยุติรรมเชิงสมานฉันท์เพ่ือบรรเทา
ผลรา้ ยหรอื การระงับขอ้ พพิ าททเี่ กิดขน้ึ จากการกระทาความผดิ
5. พฒั นาระบบ รปู แบบ และวิธีการปฏิบัตติ อ่ ผกู้ ระทาผดิ ในชมุ ชน
6. จัดทาและประสานแผนงานของกรมให้สอดคล้องกบั นโยบายและแผนแม่บทของ
กระทรวง รวมทงั้ เร่งรัดตดิ ตามและประเมินผลการปฏิบัติงานของหนว่ ยงานในสังกัด
7. เสริมสร้าง สนับสนุน ส่งเสริม และประสานงานให้ชุมชน เครือข่าย และภาคประชาสังคม
เข้ามามีส่วนร่วมในรูปแบบเครือข่ายยุติธรรมชุมชนหรือรูปแบบอ่ืนในการป้องกันสังคมจากอาชญากรรม และ
การปฏิบัติต่อผกู้ ระทาผิดและผทู้ ีอ่ ยใู่ นกระบวนการคมุ ประพฤตขิ องกรม
๔. กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ตามกฎกระทรวง แบ่งส่วนราชการกรมคุ้มครองสิทธิและ
เสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม พ.ศ. 2545อาศัยอานาจตามความในมาตรา 8 ฉ แห่งพระราชบัญญัติระเบียบ
บรหิ ารราชการแผน่ ดิน(ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2543 รัฐมนตรวี า่ การกระทรวงยตุ ธิ รรมออกกฎกระทรวงไว้ดังต่อไปน้ี
ใหก้ รมคมุ้ ครองสทิ ธิและเสรีภาพ มภี ารกจิ เก่ียวกับสทิ ธิและเสรีภาพที่ประชาชนพึงได้รับตามกฎหมาย โดยการ
จัดวางระบบและส่งเสริมให้ประชาชนมีความรู้เก่ียวกับกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพตลอดจนการดาเนินการ
ให้พยาน ผู้เสียหายและจาเลยในคดีอาญา ได้รับการคุ้มครองช่วยเหลือเยียวยาในเบื้องต้น เพื่อให้ประชาชน
ไดร้ ับการค้มุ ครองและดูแลจากรัฐอย่างทวั่ ถึงและเทา่ เทยี มกัน โดยใหม้ ีอานาจหน้าทีด่ ังตอ่ ไปน้ี๕
(1) จัดระบบการบริหารจดั การดา้ นคุ้มครองสิทธิและเสรภี าพของประชาชน
(2) สง่ เสรมิ และพัฒนาการคุ้มครองสทิ ธิและเสรีภาพของประชาชน
(3) ส่งเสริมและพฒั นากลไกการระงับข้อพิพาทในสงั คม
(4) ประสานงานด้านคมุ้ ครองสิทธิและเสรีภาพกับภาครัฐและเอกชน ท้งั ในและต่างประเทศ
(5) พัฒนาระบบ มาตรการ และดาเนินการช่วยเหลือประชาชนท่ีตกเป็นเหย่ืออาชญากรรม
รวมทั้งจาเลยที่ถูกดาเนินคดีอาญาโดยมิได้เป็นผู้กระทาความผิดตามกฎหมายว่าด้วยค่าตอบแทนผู้เสียหาย
และคา่ ทดแทนและค่าใชจ้ า่ ยแก่จาเลยในคดีอาญา
(6) ตดิ ตามและประเมนิ ผลการดาเนนิ การด้านการคุ้มครองสทิ ธิและเสรภี าพ
(7) ดาเนินการคุ้มครองพยานตามกฎหมายว่าดว้ ยการคุ้มครองพยานในคดีอาญา
(8) ปฏิบัตกิ ารอื่นใดตามที่กฎหมายกาหนดให้เป็นอานาจหนา้ ท่ีของกรม หรอื ตามท่ี
กระทรวงหรือคณะรัฐมนตรีมอบหมาย
๕. กรมบังคับคดี ตามกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการกรมบงั คับคดีกระทรวงยุติธรรม พ.ศ.2561
อาศัยอานาจตามความในมาตรา 8 ฉ ซ่ึงแก้ไขเพ่ิมเติมโดยพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน
(ฉบับท่ี 4) พ.ศ.2543 รัฐมนตรวี ่าการกระทรวงยตุ ธิ รรมออกกฎกระทรวงไว้ ดงั ตอ่ ไปน้ี กรมบงั คับคดีมีภารกิจ
เกีย่ วกับการบงั คบั คดีทางแพง่ คดลี ้มละลาย และการฟ้ืนฟูกิจการของลูกหน้ี ตามคาสั่งศาล โดยดาเนินการยึด
อายัด และจาหน่ายทรัพย์สิน ตลอดจนการกากับการฟ้ืนฟูกิจการของลูกหนี้ เพื่อให้เจ้าหน้ีและผู้มีส่วนได้เสีย
ไดร้ บั การชดใช้จากลูกหนอ้ี ยา่ งเปน็ ธรรม โดยมอี านาจหน้าที่ดังต่อไปนี้๖
๒๙
(1) ดาเนินการบังคบั คดแี พง่ ตามคาสัง่ ศาล
(2) ดาเนินการบังคับคดีลม้ ละลายตามคาสงั่ ศาล
(3) ดาเนินการฟื้นฟกู ิจการของลูกหนี้ตามคาสงั่ ศาล
(4) ดาเนินการตรวจสอบสิทธิทางบัญชีของผู้มีส่วนได้เสียเพ่ือรับส่วนแบ่งจากคดี ตรวจสอบ
ค่าใชจ้ ่ายและเรยี กเกบ็ ค่าธรรมเนยี มการบังคบั คดี
(5) ชาระบัญชีห้างหนุ้ สว่ น บริษัท หรือนิตบิ ุคคลในฐานะผู้ชาระบัญชตี ามคาส่งั ศาล
(6) รับวางทรพั ยจ์ ากลูกหน้หี รอื ผ้มู สี ทิ ธวิ างทรพั ย์
(7) ดาเนินการประเมินราคาทรพั ย์สิน
(8) ดาเนินการเกี่ยวกับการเดินหมาย คาคู่ความ หนังสือ หรือประกาศของศาล หรือหน่วยงาน
ภายในกรม
(9) พัฒนาระบบ รูปแบบ และวิธีการ รวมทั้งดาเนินการเกี่ยวกับการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท
ช้นั บงั คับคดี
(10) บริหารจัดการและพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศด้านการบังคับคดี และด้านอื่นๆ
ในความรับผดิ ชอบของกรม
(11) ปฏบิ ัตกิ ารอน่ื ใดตามท่ีกฎหมายกาหนดให้เป็นหน้าท่ีและอานาจของกรม ตามที่รัฐมนตรี
หรือคณะรฐั มนตรีมอบหมาย หรือตามคาส่ังศาล
๖. กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน มีภารกิจเกี่ยวกับการพินิจเด็กและเยาวชนท่ีเข้าสู่
กระบวนการยุติธรรมทางอาญาและการคุ้มครองผู้เยาว์ในคดีครอบครัว โดยการแก้ไข บาบัด ฟื้นฟู
การสงเคราะห์เด็กและเยาวชนและการกากับการปกครองเพ่ือให้เด็กและเยาวชนสามารถกลับเข้าสู่ครอบครัว
ดาเนนิ ชีวิตโดยปกติในสงั คม และผู้เยาวไ์ ด้รบั การค้มุ ครองสวสั ดภิ าพ รวมทัง้ การปอ้ งกนั เดก็ และเยาวชนในการ
กระทาความผิด โดยให้มีหนา้ ท่ีและอานาจ ดังตอ่ ไปน้ี๗
1. พทิ กั ษ์และคุ้มครองสิทธิเด็กและเยาวชนที่กระทาความผิด ส่งเสริมความมั่นคงของสถาบัน
ครอบครัวและชมุ ชน โดยใช้กระบวนการยตุ ธิ รรมทางเลือก กระบวนการยุติธรรมเชงิ สมานฉนั ท์ การหันเหคดี
ออกจากกระบวนการยุติธรรม และมาตรการอน่ื ๆ
2. ดาเนินการด้านคดีอาญา คดีครอบครัว กากับการปกคอรง และการบาบัด แก้ไข ฟ้ืนฟู
ปอ้ งกนั พฒั นาและสงเคราะห์ ตลอดจนการตดิ ตามประเมินผลเด็กและเยาวชน
3. ประสานความร่วมมือและสร้างเครือข่ายกับชุมชน องค์กรภาครัฐ และเอกชนท้ังภายใน
และตา่ งประเทศ เพ่อื การมีส่วนร่วมและสนับสนนุ กระบวนการยตุ ิธรรม สาหรบั เด็กและเยาวชน
4. ศึกษา วิเคราะห์ และพัฒนากฎหมาย การพิทักษ์คุ้มครองสิทธิเด็กและเยาวชน รวมท้ัง
ระบบ รปู แบบ วิธกี ารปฏิบัตเิ กีย่ วกับงานคดี และการปฏิบัติต่อเดก็ และเยาวชน
5. ปฏิบัติการอ่ืนใดตามที่กฎหมายกาหนดให้เป็นอานาจหน้าที่ของกรม หรือตามท่ีกระทรวง
หรือคณะรัฐมนตรีมอบหมาย
๓๐
๗. กรมราชทัณฑ์ มีภารกิจเกี่ยวกับการควบคุมและแก้ไขพฤตินิสัยผู้ต้องขัง และบุคคลท่ีอยู่ใน
ความควบคุมหรือดูแลตามหน้าท่ีและอานาจของกรม โดยมุ่งพัฒนาเป็นองค์กร พัฒนาทรัพยากรมนุษย์
เพอ่ื แกไ้ ขหรือฟ้ืนฟผู ตู้ อ้ งขงั และบุคคลที่อยู่ในความควบคุมหรือดูแลตามหน้าท่ีและอานาจของกรม ให้กลับตน
เป็นพลเมืองดี มีสุขภาพกายและจิตท่ีดี ไม่หวนกลับมากระทาผิดซ้า ได้รับการพัฒนาทักษะฝีมือในการ
ประกอบอาชีพท่ีสุจริต และสามารถดารงชีวิตในสังคมภายนอกได้อย่างปกติโดยสังคมให้การยอมรับ โดยให้มี
หนา้ ทแ่ี ละอานาจ ดงั ตอ่ ไปนี้๘
1. ปฏิบัติต่อผู้กระทาผิดให้เป็นไปตามคาพิพากษาหรือคาส่ังตามกฎหมาย โดยดาเนินการ
ตามกฎหมายว่าด้วยราชทณั ฑ์และกฎหมายอื่นที่เก่ยี วขอ้ ง
2. กาหนดแนวทางปฏิบตั ิต่อผ้ตู ้องขงั และบุคคลที่อยู่ในความควบคุมหรือดูแล ตามหน้าท่ีและ
อานาจของกรม ให้สอดคล้องกับกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ นโยบายของกระทรวง หลักอาชญาวิทยา และ
หลักทัณฑวิทยา ตลอดจนข้อกาหนดมาตรฐานขั้นต่าสาหรับปฏิบัติต่อผู้ต้องขัง และข้อเสนอแนะในเรื่อง
ทเ่ี กีย่ วขอ้ งขององคก์ ารสหประชาชาติ
3. ดาเนินการเก่ียวกับการสวัสดิการและการสงเคราะห์แก่ผู้ต้องขัง และบุคคลท่ีอยู่ในความ
ควบคมุ หรือดแู ลตามหนา้ ที่และอานาจของกรม
4. พัฒนาระบบ รูปแบบ มาตรการ หลักเกณฑ์ มาตรฐาน วิธีการปฏิบัติและการปฏิบัติต่อผู้
เข้ารับการตรวจพิสูจน์ในระหว่างท่ีถูกควบคุมตัว เพื่อรอการตรวจพิสูจน์ในสถานท่ีเพ่ือการตรวจพิสูจน์ตาม
กฎหมายเกี่ยวกับการฟน้ื ฟสู มรรถภาพผตู้ ดิ ยาเสพติด
5. ปฏิบัติการอื่นใดตามที่กฎหมายกาหนดให้เป็นหน้าที่และอานาจของกรมหรือตามท่ี
รฐั มนตรหี รอื คณะรัฐมนตรมี อบหมาย
๘. กรมสอบสวนคดีพิเศษ มีภารกิจเก่ียวกับการป้องกัน การปราบปราม การสืบสวนและการ
สอบสวนคดีความผิดทางอาญาที่ต้องดาเนินการสืบสวนและสอบสวนโดยใช้วิธีการพิเศษตามกฎหมายว่าด้วย
การสอบสวนคดพี เิ ศษ โดยมีหนา้ ที่ดงั ต่อไปน้ี๙
1. รับผิดชอบงานเลขานุการของคณะกรรมการตามกฎหมายว่าด้วยการสอบสวนคดีพิเศษ
และกฎหมายท่ีเก่ยี วข้อง
2. ป้องกัน ปราบปราม สืบสวน และสอบสวนคดีพิเศษตามกฎหมายว่าด้วยการสอบสวนคดี
พิเศษและตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการคดีพิเศษประกาศกาหนด หรือตามมติของคณะกรรมการคดีพิเศษ
ตลอดจนปฏิบัติงานตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาและกฎหมายอื่นอันเกี่ยวกับความผิดทาง
อาญาทีเ่ ป็นคดีพิเศษ
3. ศึกษา รวบรวม จัดระบบ และวิเคราะห์ข้อมูลเพ่ือประโยชน์แก่การปฏิบัติหน้าที่ของ
คณะกรรมการตามกฎหมายว่าด้วยการสอบสวนคดีพิเศษ และเพ่ือป้องกัน ปราบปราม สืบสวนและสอบสวน
คดีพิเศษ
4. จดั ใหม้ กี ารศึกษา อบรม และพฒั นาระบบงานการสบื สวนและสอบสวนคดีพิเศษการพัฒนา
ความรู้และการประเมินสมรรถภาพการปฏิบัติหน้าท่ีของข้าราชการ พนักงานราชการและลูกจ้างของกรมและ
บุคลากรท่ีเกย่ี วข้อง ไม่ว่าจะมีฐานะเปน็ พนักงานสอบสวนคดพี เิ ศษหรือเจ้าหนา้ ท่ีคดีพิเศษหรือไม่
5. ดาเนินการเก่ียวกับงานกฎหมายและระเบียบที่อยู่ในอานาจหน้าท่ีของกรมและงานอื่นที่
เกี่ยวข้อง
๓๑
6. ปฏิบัติการอ่ืนใดตามท่ีกฎหมายกาหนดให้เป็นอานาจหน้าที่ของกรม หรือตามท่ีรัฐมนตรี
หรือคณะรัฐมนตรีมอบหมาย
๙. สานักงานกิจการยุติธรรม มีภารกิจเก่ียวกับนโยบายและการพัฒนากระบวนการยุติธรรม
โดยการศึกษา วิจัย ประเมินผลการบังคับใช้กฎหมาย และนาผลให้คณะกรรมการพัฒนาการบริหารงาน
ยุตธิ รรมแห่งชาติ ประกอบการพิจารณากาหนดแนวทางการดาเนินการของหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรม
เพื่อให้หน่วยงานท่ีเกี่ยวข้องในกระบวนการยุติธรรมมีทิศทางการดาเนินการที่สามารถอานวยความยุติธรรม
ใหแ้ กป่ ระชาชนอยา่ งมปี ระสิทธิภาพ และสอดรบั ไปในทิศทางเดยี วกัน โดยมีหนา้ ท่ีดงั ตอ่ ไปน้ี๑๐
1. รับผิดชอบในงานธุรการของกองงานคณะกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ
และดาเนนิ งานตามทคี่ ณะกรรมการมอบหมาย
2. ศึกษา วิเคราะห์นโยบาย แผนยุทธศาสตร์ และแนวทางการบริหารกระบวนการยุติธรรม
เพือ่ สนองตอ่ คณะกรรมการพัฒนาการบรหิ ารงานยุตธิ รรมแห่งชาติ
3. สนับสนนุ และดาเนินงานตามแผนยุทธศาสตรก์ ระบวนการยตุ ิธรรม
4. ประสานและดาเนินการวิจัยด้านกฎหมาย ระบบงานยุติธรรมและทางด้านอาชญาวิทยา
รวมทัง้ ตดิ ตามและประเมนิ ผลการบงั คบั ใชก้ ฎหมายในกระบวนการยตุ ธิ รรม และกฎหมายท่ีเกย่ี วข้อง
5. พฒั นากฎหมายและระบบงานในกระบวนการยตุ ธิ รรม
6. จัดทาและผลักดันแผนแม่บทเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารกระบวนการยุติธรรม
รวมท้ัง พัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สนับสนุนกระบวนการยุติธรรมและภารกิจ
ของสานักงาน
7. ดาเนนิ การสนบั สนนุ การพัฒนาบคุ ลากรในกระบวนการยตุ ิธรรมและบุคคลทเี่ กย่ี วข้อง
8. บริหารกองทนุ เพอ่ื การวจิ ัยและพฒั นาการบรหิ ารงานยุติธรรม
9. ปฏิบัติการอื่นใดตามท่ีกฎหมายกาหนดให้เป็นอานาจหน้าท่ีของสานักงาน หรือตามที่
กระทรวง หรอื คณะรฐั มนตรีมอบหมาย
๑๐. สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ มีหน้าท่ีให้บริการตรวจพิสูจน์ให้ทราบความจริง โดยนาหลัก
วิทยาศาสตร์สาขาต่างๆ และการแพทย์มาใช้ เพื่อประโยชน์ในการดาเนินกระบวนการยุติธรรม หรือ
เพอ่ื ประโยชน์ในการพสิ จู นข์ ้อเทจ็ จริงอยา่ งใดอยา่ งหน่งึ โดยรวมถงึ ๑๑
1. ช่วยเหลือและสนับสนุนการสอบสวนและการดาเนินคดีอาญาตามท่ีเจ้าหน้าท่ีผู้มีอานาจ
ตามกฎหมายร้องขอ
2. ใหบ้ ริการดา้ นนิติวิทยาศาสตรเ์ พื่อให้การคุ้มครองสิทธิมนุษยชน การอานวยความ
ยุตธิ รรมและการทะเบียนราษฎรตามท่ีเจ้าหน้าท่ีของรัฐหรอื ผู้ที่เกย่ี วขอ้ งรอ้ งขอ
3. ให้บริการด้านนิติวิทยาศาสตร์เพื่อประโยชน์ในการคุ้มครองหรืออานวยความยุติธรรมแก่
เดก็ และเยาวชนตามทหี่ น่วยงานที่เกีย่ วข้อง ผปู้ กครอง ผใู้ ช้อานาจปกครอง หรือผมู้ ีสว่ นได้เสยี โดยตรงรอ้ งขอ
4. ใหบ้ ริการด้านนิติวิทยาศาสตร์เพ่ือพิสูจน์ข้อเท็จจริงอย่างใดอย่างหนึ่งตามท่ีผู้มีส่วนได้เสีย
ร้องขอ ในกรณีเป็นการพิสูจน์ข้อเท็จจริงในคดีอาญา ผู้มีส่วนได้เสียจะร้องขอให้ตรวจซ้าได้ต่อเม่ือไม่ได้อยู่ใน
ระหว่างการตรวจพิสูจน์ของหน่วยงานอื่นที่ให้บริการด้านนิติวิทยาศาสตร์ และต้องเป็นไปตามมติของ
คณะกรรมการเพอ่ื ประโยชนใ์ นการอานวยความยุตธิ รรม
5. ส่งเสรมิ และพัฒนาการให้บริการด้านนติ วิ ทิ ยาศาสตรข์ องภาคเอกชน
๓๒
6. ร่วมมือกับหน่วยงานของรัฐ องค์การระหว่างประเทศ และภาคเอกชน ในการพัฒนางาน
ด้านนติ วิ ทิ ยาศาสตร์ใหเ้ ป็นไปตามาตรฐานสากล
7. ร่วมมือกับหน่วยงานอื่นของรัฐในการวิจัยและพัฒนาเพื่อกาหนดค่าพ้ืนฐานทาง
นิติวิทยาศาสตร์
สว่ นราชการในสงั กดั กระทรวงยุตธิ รรมที่ข้นึ ตรงต่อรฐั มนตรี
๑. สานักงานคณะกรรมการปองกันและปราบปรามยาเสพติด มีภารกิจเก่ียวกับการปองกันและ
แกไขปญหายาเสพติดของประเทศ โดยการเฝ้าระวงั การแพรระบาดของยาเสพตดิ กาหนดและปรับยุทธศาสตร์
การปองกันและแก้ไขปญหายาเสพติดใหเหมาะสมกับสภาพการณ บริหารจัดการเกี่ยวกับการปองกันและ
แก้ไขปญหายาเสพตดิ อย่างบรู ณาการ กากับ ติดตาม และประเมินผลการดาเนินงานใหเป็นไปตามยุทธศาสตร์
ที่กาหนด อานวยการใหมกี ารบงั คบั ใชกฎหมายเก่ยี วกับยาเสพติด การตรวจสอบทรพั ยส์ นิ คดียาเสพติด รวมทั้ง
การเสริมสร้างความเข้มแข็งและสนับสนุนชุมชน องคกรภาคเอกชนและองคกรภาคประชาชนในการ
ดาเนนิ งานปองกนั และแกไขปญหายาเสพติดโดยใหมอี านาจหนา้ ท่ี ดงั นี้๑๒
๑. ดาเนินการเป็นเลขานุการและหน่วยปฏิบัติของคณะกรรมการปองกันและปราบปราม
ยาเสพติด
๒. ประเมนิ สถานการณการดาเนนิ งานและจัดระบบเฝ้าระวงั การแพรระบาดของยาเสพติด
๓. ใหขอเสนอแนะ ประสาน และบรู ณาการด้านนโยบาย ยทุ ธศาสตร์ แผนและงบประมาณ
ในการดาเนินงานดา้ นการปองกนั และแกไขปญหายาเสพติด เพอื่ ให้การแก้ไขปญหายาเสพตดิ เปน็ เอกภาพและ
แกปญหาเชงิ บรู ณาการ
๔. อานวยการ เร่งรัด กากับ ติดตาม และประเมินผลการดาเนินงานด้านการปองกันและ
แกไ้ ขปญหายาเสพตดิ ของหนว่ ยงานที่เกยี่ วข้องให้เปน็ ไปตามนโยบาย ยทุ ธศาสตร์ แผนและงบประมาณ
๕. ใหขอเสนอแนะดา้ นยทุ ธศาสตร์และประสานความร่วมมือระหวา่ งประเทศด้านยาเสพติด
๖. เปน็ ศูนย์วชิ าการดา้ นการปองกนั และแก้ไขปญหายาเสพตดิ พัฒนาและสนบั สนนุ
วิชาการด้านการปองกันและแก้ไขปญหายาเสพติดให้แก่หน่วยงานของรัฐและภาคเอกชนทั้งในประเทศและ
ตางประเทศ
๗. สงเสรมิ และสนับสนนุ ด้านการพฒั นาองคกร ทรพั ยากรบุคคล ขอ้ มลู สารสนเทศ กฎหมาย
และระเบียบท่เี ก่ียวขอ้ งกบั การปองกันและแกไ้ ขปญหายาเสพติด
๘. ปฏบิ ัติงานด้านการปองกนั การรณรงคและการประชาสัมพนั ธ์ตอต้านยาเสพติด
๙. เป็นศนู ย์กลางการข่าวยาเสพตดิ ของประเทศ
๑๐. ดาเนินการตามกฎหมายว่าด้วยการปองกันและปราบปรามยาเสพติด กฎหมายว่าด้วย
มาตรการในการปราบปรามผู้กระทาความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และกฎหมายอื่น ๆ ท่ีเกี่ยวข้องกับการปองกัน
และแกไขปญหายาเสพตดิ
๓๓
องคก์ ารมหาชน
๑. สถาบันเพ่ือการยุติธรรมแห่งประเทศไทย (องค์การมหาชน) หรือ Thailand Institute of
Justice (TIJ)๑๓ เป็นหน่วยงานที่จัดตั้งตามพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสถาบันเพ่ือการยุติธรรมแห่งประเทศไทย
(องค์การมหาชน) พ.ศ. 2554 จัดต้ังข้ึนเม่ือวันท่ี 13 มิถุนายน พ.ศ. 2554 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริม
ความเป็นเลิศด้านการวิจัยและการพัฒนากระบวนการยุติธรรม ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประเทศไทยใน
กรอบความร่วมมือกับสหประชาชาติว่าด้วยการป้องกันอาชญากรรมและความยุติธรรมทางอาญา เช่ือมโยง
แนวคดิ ตามหลกั สากลสู่การปฏิบัติในระดับประเทศและในภูมภิ าคอาเซียน ภารกิจสาคัญของ TIJ ประการหนึ่ง
คือการส่งเสริมให้เกิดการอนุวัติ “ข้อกาหนดกรุงเทพ” หรือข้อกาหนดสหประชาชาติว่าด้วยการปฏิบัติต่อ
ผู้ต้องขังหญิงและมาตรการท่ีไม่ใช่การคุมขังสาหรับผู้กระทาความผิดหญิง (UN Bangkok Rules) รวมถึง
ส่งเสริมมาตรฐานสหประชาชาติอื่นๆ ท่เี กย่ี วข้อง โดยเฉพาะด้านเดก็ และสตรใี นกระบวนการยุติธรรม อีกท้ังยัง
ทาหน้าที่ขับเคล่ือนประเด็นสาคัญต่างๆ ในเวทีระหว่างประเทศ เช่น หลักนิติธรรม การพัฒนา สิทธิมนุษยชน
สันติภาพ และความม่ันคง นอกจากนี้ TIJ ยังได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติในฐานะหน่วยงานท่ีมีความ
เป็นเลิศด้านการวิจัยและมีศักยภาพด้านการป้องกันอาชญากรรม การพัฒนากระบวนการยุติธรรมทางอาญา
และส่งเสริมหลักนิติธรรม โดยในวันท่ี 24 พฤษภาคม 2559 สานักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรม
แห่งสหประชาชาติ (United Nations Office on Drugs and Crime – UNODC) ได้รับรองสถานะให้ TIJ
เป็นสถาบันเครือข่ายแผนงานสหประชาชาติด้านการป้องกันอาชญากรรมและความยุ ติธรรมทางอาญา
(United Nations Programme Network Institutes – PNIs) โดยเป็นสถาบัน PNI ลาดับท่ี 18 ของโลก
และเป็นสถาบันแรกของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ท่ีได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกของ PNI, TIJ ถือเป็นองค์การ
มหาชน ที่ไดร้ ับการสนับสนุนงบประมาณจากรัฐบาล แตป่ ฏิบัติงานขึ้นตรงกับคณะกรรมการบริหารสถาบันฯ
ซ่ึงประกอบไปด้วยผู้เช่ียวชาญในหลายแขนงและผู้บริหารองค์กรต่างๆ ในกระบวนการยุติธรรม ซ่ึงทาหน้าท่ี
กากับดูแลและกาหนดนโยบาย กรอบยุทธศาสตร์ แผนงานของสถาบันฯ และมีสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้า
พชั รกติ ยิ าภา นเรนทริ าเทพยวดี กรมหลวงราชสารณิ ีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ทรงเป็นประธานคณะที่ปรึกษา
พิเศษ
ประโยชน์ต่อประเทศไทย ช่วยสร้างบทบาทนาของไทยในเวทีระหว่างประเทศและในเวทีอาเซียน
โดยเฉพาะอย่างย่ิงภายใต้เสาหลักประชาคมการเมืองและความม่ันคงอาเซียน และเสริมสร้างภาพลักษณ์ท่ีดี
ของประเทศไทยในระยะยาว เป็นปัจจัยในการสร้างเสริมความเข้มแข็งทางวิชาการให้แก่หน่วยงานของไทย
โดยใช้ประโยชน์จากเครือข่าย PNI ท่ัวโลก ซึ่งมีความเช่ียวชาญเฉพาะในด้านต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการ
พฒั นาระบบงานยุติธรรมให้มีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับมาตรฐานสากลและการพัฒนาด้านศักยภาพของ
บุคลากรในกระบวนการยุติธรรมทางอาญา
๒. สถาบันอนุญาโตตุลาการ (หน่วยงานท่ีจัดต้ังขึ้นตามพระราชบัญญัติสถาบันอนุญาโตตุลาการ
พ.ศ. 2550)๑๔ สถาบันอนุญาโตตุลาการ THAC (Thailand Arbitration Center) โดยมีวัตถุประสงคสงเสริม
และพัฒนากระบวนการประนอมข้อพิพาทและอนุญาโตตุลาการ ดาเนินการเก่ียวกับการระงับข้อพิพาทโดย
วิธีประนอมข้อพิพาทและอนุญาโตตุลาการ รวมถึงการสงเสริมและเผยแพรความรูเก่ียวกับการประนอม
ข้อพิพาทและอนุญาโตตุลาการรวมท้ังกฎหมายท่ีเกี่ยวข อง ทั้งนี้ เพ่ือสนับสนุนและส งเสริมระบบ
อนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศ และเพื่อเปน็ สถาบนั ทีใ่ หบริการดานอนญุ าโตตุลาการทม่ี ีความเป็นอิสระและ
๓๔
ได้มาตรฐานสากลเพ่ือเป็นการยกระดับและพัฒนาสถาบัน ระงับข้อพิพาทโดยวิธีอนุญาโตตุลาการในปจจุบัน
ของไทยใหเป็นไปในแนวทางเดียวกับองคกรระงบั ในนานาอารยประเทศ พนั ธกจิ ของสถาบันอนุญาโตตุลาการ
(1) ใหบริการดานอนุญาโตตุลาการที่มีความเป็นอิสระและมีมาตรฐานสากล (2) สนับสนุน สงเสริมระบบ
อนญุ าโตตลุ าการระหว่างประเทศ
งานอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศ (International Arbitration Center) จัดตั้งข้ึนมา
เพอื่ ใหบริการด้านอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศในการระงับข้อพิพาททางแพง และพาณิชยทั้งในประเทศ
และระหว่างประเทศ ท่ีใหบริการแบบครบวงจร ไม่วาจะเป็นการบริหารจัดการข้อพิพาท การอานวยความ
สะดวกใหแกคูพิพาท หรืองานด้านธุรการต่างๆ ซ่ึงรวมถึงสถานที่และสิ่งอานวยความสะดวก ด้วยบริการ
มาตรฐานระดับสากล ท่ีเหมาะสมกับ โลกธุรกิจที่ตองการความสะดวกรวดเร็ว ไม่ส้ินเปลืองเวลา คาใชจ่าย
มีความคลองตัวในการบริหารจัดการ รักษาความลับ ศูนย์อนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศ (International
Arbitration Center) และรักษาโอกาสในการประกอบธรุ กจิ ดว้ ยการบริหารจดั การแบบมืออาชีพ
งานการประนอมข้อพิพาท (Mediation Center) การบริการจะอยู่ในรูปแบบกระบวนการระงับ
ขอ้ พพิ าทโดยสมัครใจของคูพิพาททุกฝ่าย โดยท่ีคูพิพาทตกลงแต่งต้ัง บุคคลที่สามเขามาช่วยเหลือและอานวย
ความสะดวกในการเจรจาตอรองเพื่อนาไปสู่การระงับข้อพิพาทโดยมีการดาเนินกระบวนการที่เป็นความลับ
เพ่ือรักษาความลับของคูพิพาท โดยคานึงถึงผลประโยชน ในการยุติขอขัดแย้ง ทั้งสองฝ่ายเพ่ือใหบรรลุผลเป้า
ประสงคร่วมกันของคูพิพาทบริการ การประนอมข้อพิพาทในทางแพ่งและพาณิชยไม่วาจะเป็นข้อพิพาทใน
ประเทศหรือระหว่างประเทศอาทิ ข้อพิพาททางการเงินการธนาคาร การก่อสร้าง เร่ืองการลงทุนและธุรกิจ
การคาระหว่างประเทศ และข้อพิพาทท่ีไม่มีทุนทรัพย์ เป็นตน รวมถึงการประนอมข้อพิพาทในเร่ืองอ่ืนท่ี
คูพิพาทตองการประนอมข้อพิพาทโดยการดาเนินกระบวนการประนอมข้อพิพาทของสถาบันอนุญาโตตุลาการ
จะเป็นไปตามข้อบังคับสถาบันอนุญาโตตุลาการ ว่าด้วยการประนอมข้อพิพาทพ.ศ.2557 ซึ่งเป็นหลักเกณฑ
ท่ีได้รับการยอมรับและได้มาตรฐานระดับสากล และดาเนินการประนอมข้อพิพาทโดยผู้ประนอมที่มีประสบ-
การณ์ และความเชี่ยวชาญในขอ้ พพิ าทแตล่ ะประเภท
การระงับข้อพิพาท Online (Online Dispute Resolution : ODR) “การระงับข้อพิพาท
Online “ คือ การท่ีคู่กรณีตกลงใช้วิธีการระงับข้อพิพาทในหลากหลายวิธี เช่น การเจรจาต่อรอง
การประนอมข้อพิพาท หรือการอนุญาโตตุลาการเพ่ือระงับข้อพิพาททาง Online โดยใช้ได้กับคดีประเภท
เก่ียวกับการซื้อขายสินค้าและบริการผ่านทางบริการ Online (E-Commerce) ซ่ึงคู่กรณีจะเข้าสู่บริการต้ังแต่
คู่กรณีเริ่มทาสัญญาซื้อขายผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์และตกลงกันในเวลาใดๆหลังท่ีได้เกิดข้อพิพาทแล้วข้อดี
และประโยชน์ของการระงับข้อพิพาท Online คือ สะดวกรวดเร็วประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายและที่สาคัญ
ตอบสนองนโยบายของรฐั บาลในเร่อื ง Digital Economy
๓๕
หนว่ ยงานในสังกดั กระทรวงยตุ ธิ รรมระดับจงั หวดั กรณีจังหวัดยะลา
๑. สานักงานยตุ ิธรรมจังหวดั ยะลา
อานาจหน้าท่ีของสานักงานยุติธรรมจังหวัดยะลา ตามกฎกระทรวง แบ่งส่วนราชการสานักงาน
ปลัดกระทรวงยุติธรรม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๒ ข้อ ๑๘ สานักงานยุติธรรมจังหวัด ๑ - ๑๘ มีอานาจและ
หนา้ ที่ ดงั ตอ่ ไปนี้๑๘
(๑) จัดทาแผนปฏิบัติราชการของกระทรวงยุติธรรมในระดับจังหวัด ให้สอดคล้องกับแผนพัฒนา
จังหวัดแผนพัฒนากลุ่มจังหวัด แผนปฏิบัติราชการประจาปีของจังหวัด และแผนปฏิบัติราชการประจาปีของ
กลุ่มจังหวัด รวมท้ังคาของบประมาณจงั หวดั และงบประมาณกลุ่มจังหวัด
(๒) พัฒนาและส่งเสริมการมสี ่วนรว่ มของประชาชนในภารกจิ ของกระทรวงยตุ ธิ รรม ศูนย์ยุติธรรม
ชุมชน และเครือขา่ ยกระทรวงยตุ ิธรรม
(๓) ดาเนินงานกองทุนยุติธรรม และงานช่วยเหลือประชาชนท่ีตกเป็นเหย่ืออาชญากรรม รวมทั้ง
จาเลยที่ตกเป็นเหย่ือในคดีอาญาโดยมิได้เป็นผู้กระทาความผิดตามกฎหมายว่าด้วยค่าตอบแทนผู้เสียหายและ
ค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จาเลยในคดีอาญา ในระดับจังหวัด เพื่อให้เกิดการอานวยความยุติธรรมและลด
ความเหลื่อมล้าในการเขา้ ถงึ ความยตุ ิธรรมของประชาชน
(๔) ดาเนินงานเก่ียวกับงานเลขานุการคณะกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมระดับจังหวัด
และคณะอนุกรรมการท่ีคณะกรรมการดังกล่าวแตง่ ตั้ง
(๕) ปฏิบัติงานร่วมกับหรือสนับสนุนการปฏิบัติงานของหน่วยงานอ่ืนที่เก่ียวข้องหรือท่ีได้รับ
มอบหมาย
งานบริการประชาชนของสานักงานยุติธรรมจังหวัดยะลา และสานักงานยุติธรรมจังหวัดยะลา
สาขาเบตง๑๙ ดังนี้ (๑) สร้างการรับรู้กฎหมาย (๒) ให้คาปรึกษากฎหมาย (๓) คุ้มครองพยานในคดีอาญา
(๔) ไกล่เกลี่ยระงับข้อพิพาท (๕) รับเรื่องร้องเรียนร้องทุกข์ (๖) ช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้เสียหายและจาเลย
ในคดีอาญา (๗) ให้บริการกองทุนยุติธรรม เช่น ค่าใช้จ่ายในการดาเนินคดี เงินประกันตัว (๘) เบิกจ่ายเงิน
รางวลั และค่าใช้จา่ ยในช้นั สอบสวนคดีอาญา
๒. สานกั งานคมุ ประพฤตจิ งั หวัดยะลา มีภารกจิ หลักในการแก้ไขฟ้ืนฟูผู้กระทาผิด เพ่ือปรับเปลี่ยน
พฤติกรรม โดยมีพนักงานคุมประพฤติคอยดูแลภายใต้การช่วยเหลือของชุมชนท่ีจะเข้าร่วมรับผิดชอบในการ
ป้องกนั อาชญากรรมและการแกไ้ ขฟนื้ ฟกู ระทาผดิ เพือ่ คืนคนดสี ู่สังคม งานแก้ไขฟื้นฟูกระทาผิดเป็นส่วนหน่ึง
ของกลมุ่ งานแกไ้ ขฟื้นฟผุ ู้กระทาผดิ ให้ช่วยเหลอื แนะนา แก้ไข ปรับปรุงและส่งเสริมให้ผู้ถูกคุมประพฤติได้กลับ
ตนเป็นพลเมืองดี ปรับทัศนคติ สร้างจิตสานึกที่ดีเป็นการอบรมให้ความรู้การฝึกทักษะต่างๆ การเข้า
คา่ ยจรยิ ธรรม และอีกหน่ึงภารกิจ คอื งานภาคประชาชน ภาคีเครือข่าย เช่น งานอาสาสมัครคุมประพฤติและ
งานเครือข่ายยุติธรรมชุมชน งานเครือข่ายยุติธรรมชุมชนเป็นการให้ชุมชนได้มีส่วนร่วมในการป้องกันแก้ไข
ปญั หาอาชญากรรม การแก้ไขฟ้ืนฟูผู้กระทาผิดในชุมชน การระงับข้อพิพาทในชุมชน การร่วมมือในด้านต่างๆ
ที่นาไปสู้กระบวนการยตุ ิธรรม การช่วยเหลือสงเคราะห์และรับผู้กระทาผิดกลับเข้าสู่ชุมชน นอกจากน้ียังมีการ
จดั ตัง้ “ศนู ย์ยุตธิ รรมชุมชน ” ซง่ึ เป็นการรว่ มตัวของภาคประชาชนที่ต้องการมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาของ
ชุมชน เสรมิ สรา้ งความยุติธรรมและความสงบสขุ ในชมุ ชน
๓๖
ภารกจิ งานคมุ ประพฤต๑ิ ๗
1. งานสืบเสาะและพินิจ เป็นกระบวนการแสวงหาข้อเท็จจริงเก่ียวกับประวัติ ภูมิหลังทางสังคม
ของผูก้ ระทาผิด สภาพความผดิ และสาเหตอุ ่นื อนั ควรปรานีก่อนศาลมคี าพิพากษาขนั้ ตอนการดาเนินงาน ดงั น้ี
1. พนักงานคุมประพฤติจะดาเนินการรวบรวมข้อเท็จจริงของผู้กระทาผิดจากเอกสารพยาน
ต่างๆ ทเี่ ก่ยี วขอ้ ง
2. พนักงานคุมประพฤติ นาข้อมูล ประวัติ ภูมิหลังทางสังคมมาประมวลข้อเท็จจริงวิเคราะห์
คัดกรอง ผกู้ ระทาผิด โดยคานึงถงึ ความปลอดภัยของสังคม และแนวโนม้ การแก้ไขปรับปรุงตัวเองในชุมชนของ
ผูก้ ระทาผิดแลว้ รายงานตอ่ ศาล
3. ศาลนาข้อเทจ็ จริงทไี่ ด้จากพนกั งานคุมประพฤติ ประกอบการใชด้ ลุ พินิจในการ
พจิ ารณาใชม้ าตรการทเ่ี หมาะสมตอ่ ผู้กระทาผิดแต่ละราย
๒. งานควบคุมและสอดส่อง เป็นกระบวนการติดตามดูแล ให้คาแนะนา และช่วยเหลือผู้กระทา
ผิดที่อยู่ระหว่างการคุมประพฤติ โดยมีคนจากกรมคุมประพฤติเป็นผู้ควบคุมดูแลตามสภาพปัญหาและความ
ต้องการเป็นรายบคุ คลผ้ถู กู คมุ ความประพฤติ แบง่ ออกเป็น 2 ประเภท ไดแ้ ก่
1. ขาเข้า ผู้กระทาผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 ซึ่งศาลรอการกาหนดโทษ
หรอื รอการลงโทษและกาหนดเง่อื นไขเพือ่ คมุ ความประพฤติผู้กระทาผดิ นน้ั
2. ขาออก นักโทษในเรือนจาที่ได้รับการพิจารณาอนุมัติให้ได้รับการพักการลงโทษ หรือ
ลดวันต้องโทษ และเข้ามาอยู่ในความดูแลของกรมคุมประพฤติเทคนิคการแก้ไขฟ้ืนฟู (ให้คาปรึกษา
บาบดั รกั ษา ให้ความรู้ ฝึกอาชพี )
3. งานตรวจพิสูจน์และฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด การฟ้ืนฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดตาม
พระราชบัญญัติฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด พ.ศ.๒๕๔๕ ก่อนท่ีพระราชบัญญัติฟ้ืนฟูสมรรถภาพผู้ติด
ยาเสพติด พ.ศ.๒๕๔๕ จะมีผลบังคับใช้ท่ัวประเทศในเดือนเมษายน พ.ศ.๒๕๔๖ ผู้เสพยาเสพติดและที่ผู้ติด
ยาเสพติดที่ถูกจับกุมดาเนินคดีเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมปกติจะได้รับการพิพากษาจากศาลยุติธรรม
ซึ่งมีบทลงโทษ จาคุก หรือรอลงอาญา หรือปรับ ทาให้มีประวัติการกระทาความผิดทางอาญา ต่อมารัฐบาล
มีนโยบายว่า ผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติดเป็นผู้ป่วย ท่ีจาเป็นต้องได้รับการดูแล รักษา บาบัดฟื้นฟูฯอย่างถูกต้อง
เหมาะสมแทนการลงโทษทางอาญา จึงตราพระราชบัญญัติฟ้ืนฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด พ.ศ.๒๕๔๕
ออกใช้โดยมีข้อดีคือ ผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติดจะได้รับการดูแล บาบัดฟื้นฟูฯในฐานะผู้ป่วยในระหว่างการบาบัด
ฟ้ืนฟูฯโดยพนักงานอัยการจะชะลอฟ้องคดีไว้ก่อนเพ่ือเปิดโอกาสให้ผู้ท่ีมีความผิดได้รับโอกาสเข้าบาบัดฟื้นฟู
กอ่ นและเมอื่ ผา่ นการบาบัดฟื้นฟฯู แล้วผลการบาบัดฟนื้ ฟฯู เปน็ ท่ีพอใจจากคณะอนุกรรมการฟื้นฟูสมรรถภาพ
ผู้ติดยาเสพติด ก็จะไม่ถูกดาเนินคดีในทางอาญาและพ้นสภาพผู้กระทาผิด ไม่มีคดีอาญาติดตัว สามารถไป
ศึกษาต่อหรือทางานได้เช่นคนปกติท่ัวไป เมื่อผู้เสพยาเสพติดถูกจับกุมดาเนินคดี ใน ๔ ฐานความผิด ดังน้ี
(๑) เสพยาเสพติด (๒) เสพและมีไว้ในครอบครอง (๓) เสพและมีไว้ในครอบครองเพื่อจาหน่าย (๔) เสพและ
จาหน่ายโดยท่ีปริมาณยาเสพติดที่มีอยู่ในความครอบครอง ไม่เกินปริมาณตามท่ีกฎกระทรวงกาหนด หรือ
ไม่เกิน ๕ หน่วยการใช้ เช่น กรณียาบ้า ต้องไม่เกิน ๕ เม็ด เมื่อเป็นผู้ต้องหาตาม ๔ ฐานความผิดข้างต้น
พนักงานสอบสวนจะส่งต่อไปยังศาล หากเป็นบุคคล อายุเกิน ๑๘ ปี ต้องส่งตัวภายใน ๔๘ ชั่วโมง ถ้าเป็น
เยาวชน อายุต่ากว่า ๑๘ ปี ต้องส่งตัวภายใน ๒๔ ช่ัวโมง เม่ือศาลจะพิจารณาว่าเป็นการกระทาผิดในฐาน
ความผิดทั้ง ๔ และเป็นผู้ต้องหาอยู่ในระหว่างจับกุมหรือพิจารณาดาเนินคดีอ่ืนหรือไม่ หากศาลพิจารณาเห็น
ว่าไม่ใชก่ ารกระทาผดิ ใน ๔ ฐานความผิดข้างต้น หรือมีคดีอาญาอื่น ๆ ศาลจะดาเนินการตามกระบวนการทาง
อาญาตามปกติเดิม แต่ถ้าพิจารณาแล้วเห็นว่าเป็นความผิดอยู่ในฐานความผิดท้ัง ๔ ตามพระราชบัญญัติฟื้นฟู
๓๗
สมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด พ.ศ.๒๕๔๕ และไม่มีคดีอาญาอ่ืน ๆ ศาลจะสั่งให้คณะอนุกรรมการฟ้ืนฟูฯ
พนกั งานคมุ ประพฤติตรวจพิสจู น์ ซึง่ ในข้นั ตอนนีผ้ ู้ตอ้ งหาหรือจาเลยจะถูกเรียกวา่ “ผูเ้ ขา้ รบั การตรวจพสิ ูจน"์
สานักงานคมุ ประพฤตจิ งั หวัดยะลา มีศูนย์ยุตธิ รรมชมุ ชนทรี่ บั ผิดชอบ จานวน 20 ศูนย์ ดังน้ี
1. ศูนย์ยุติธรรมชุมชนอาเภอเมือง ที่ต้ัง อาคารอเนกประสงค์บ้านกาปั่น หมู่ 6 ตาบลท่าสาป
อาเภอเมอื ง จังหวดั ยะลา ประธานศูนยย์ ุติธรรมชุมชนอาเภอเมือง นายรสุ ดี ยโู ซ๊ะ
2. ศูนย์ยตุ ธิ รรมชุมชนตาบลยะลา ท่ีตัง้ องค์การบริหารส่วนตาบลยะลา ตาบลยะลา อาเภอเมือง
จงั หวัดยะลา ประธานศูนย์ยตุ ธิ รรมชุมชนตาบลยะลา นายอสิ มะแอ ตอื ระ
3. ศูนย์ยุติธรรมชุมชนมุสลมิ สัมพนั ธ์ ทีต่ ัง้ เลขท่ี 90 ซอยมุสลมิ สมั พันธ์ ตาบลสะเตง อาเภอเมือง
จงั หวดั ยะลา ประธานศูนยย์ ตุ ิธรรมชมุ ชนมสุ ลมิ สมั พันธ์ นายมะแอ อสิ มะแอ
4. ศูนย์ยุติธรรมชุมชนอาเภอยะหา ท่ีตั้งเลขท่ี 229/20 ถนนราษฎร์สามัคคี 2 ตาบลยะหา
อาเภอยะหา จงั หวัดยะลา ประธานศนู ยย์ ุตธิ รรมชุมชนอาเภอยะหา นายหะยมี ะกาซนั เบนนอ
5. ศนู ย์ยุติธรรมชุมชนตาบลอาซ่อง ที่ตั้ง เลขท่ี 1/5 หมู่ที่ 1 ตาบลอาซ่อง อาเภอรามัน จังหวัด
ยะลา ประธานศูนยย์ ุตธิ รรมชมุ ชนตาบลอาซอ่ ง นายมาโนช อาตา
6. ศูนย์ยุติธรรมชุมชนตาบลตาเซะ ท่ีตั้งเลขที่ 85/2 หมู่ท่ี 2 ตาบลตาเซะ อาเภอเมือง จังหวัด
ยะลา ประธานศูนยย์ ตุ ธิ รรมชุมชนตาบลตาเซะ นายอดิศร สาและ
7. ศูนย์ยุติธรรมชุมชนหลังวัดเมือง ที่ต้ังโรงเรียนเทศบาล 6 อาคารนักเรียนอนุบาลเก่า ตาบล
สะเตง อาเภอเมือง จังหวดั ยะลา ประธานศูนย์ยตุ ิธรรมชุมชนหลังวัดเมือง นายอนันต์ รตั นสุวรรณ
8. ศูนย์ยุติธรรมชุมชนอาเภอธารโต ท่ีตั้งองค์การบริหารส่วนตาบลบ้านแหร ตาบลบ้านแหร
อาเภอธารโต จงั หวดั ยะลา ประธานศนู ย์ยตุ ธิ รรมชมุ ชนอาเภอธารโต นายอเี ร๊ะ มะแหร
9. ศูนย์ยุติธรรมชุมชนตาบลธารโต ท่ีตั้งเลขที่ 4/2 หมู่ท่ี 3 ตาบลธารโต อาเภอธารโต จังหวัด
ยะลา ประธานศนู ยย์ ุตธิ รรมชุมชนตาบลธารโต นางสาวมัสนา ซอเฮา๊ ะ
10. ศูนย์ยุติธรรมชุมชนอาเภอกรงปินัง ที่ต้ังเลขท่ี 76/3 หมู่ท่ี 3 ตาบลกรงปินัง อาเภอ
กรงปินงั จงั หวัดยะลา ประธานศนู ย์ยตุ ิธรรมชุมชนอาเภอกรงปินัง นายอาลี ยโู ซ๊ะ
11. ศูนย์ยุติธรรมชุมชนตาบลปะแต ท่ีตั้งเลขท่ี 47 หมู่ที่ 7 ตาบลปะแต อาเภอยะหา จังหวัด
ยะลา ประธานศนู ยย์ ุติธรรมชุมชนตาบลปะแต นายมะยูโซะ๊ สอื โย๊ะ
12. ศูนย์ยุติธรรมชุมชนตาบลบาโร๊ะ ท่ีตั้ง ศูนย์จริยธรรมเด้กบ้านแคละ หมูที่ 4 ตาบลบาโร๊ะ
อาเภอยะหา จงั หวัดยะลา ประธานศูนย์ยุตธิ รรมชมุ ชนตาบลบาโร๊ะ นายอบั ดุลเรา๊ ะมัน ลือแบเตะ๊
13. ศูนย์ยุติธรรมชุมชนอาเภอกาบัง ที่ต้ังองค์การบริหารส่วนตาบลบาละ อาเภอกาบัง จังหวัด
ยะลา ประธานศนู ยย์ ตุ ิธรรมชมุ ชนอาเภอกาบัง นายณรงค์ ดุษบี ัณฑติ
14. ศูนย์ยุติธรรมชมุ ชนอาเภอบันนังสตา ทต่ี ้งั ท่ีว่าการอาเภอบันนังสตา ตาบลบันนังสตา อาเภอ
บนั นงั สตา จังหวดั ยะลา ประธานศนู ยย์ ตุ ธิ รรมชมุ ชนอาเภอบันนงั สตา นายปรีดี ดาจงิ
15. ศูนย์ยุติธรรมชุมชนตาบลตาชี ที่ต้ังอาคารอเนกประสงค์ หมู่ที่ 5 ตาบลตาชี อาเภอยะหา
จังหวัดยะลา ประธานศนู ย์ยตุ ิธรรมชมุ ชนตาบลตาชี นางสาวเอกศรา มณนี ิยม
16. ศนู ยย์ ตุ ิธรรมชุมชนตาบลถา้ ทะลุ ทีต่ ้งั องค์การบริหารส่วนตาบลถา้ ทะลุ ตาบลถ้าทะลุ อาเภอ
บันนังสตา จงั หวดั ยะลา ประธานศูนย์ยุตธิ รรมชมุ ชนตาบลถ้าทะลุ นายนฐั พร บือราเฮง
17. ศนู ยย์ ุติธรรมชมุ ชนอาเภอรามัน ท่ีต้ังเลขท่ี 78/1 หมู่ท่ี 2 ตาบลบือมัง อาเภอรามัน จังหวัด
ยะลา ประธานศนู ยย์ ตุ ธิ รรมชมุ ชนอาเภอรามนั นางรุสนี ดาวาลี
๓๘
18. ศนู ย์ยุติธรรมชุมชนอาเภอเบตง ท่ีตั้งเลขท่ี 53/1 หมู่ท่ี 4 ตาบลตาเนาะแมเราะ อาเภอเบ
ตง จังหวดั ยะลา ประธานศูนย์ยุตธิ รรมชมุ ชนอาเภอเบตง นางจานง ละอองแก้ว
19. ศูนย์ยุติธรรมชุมชนตาบลยะรม ท่ีต้ังเลขท่ี 186 หมู่ท่ี 7 ตาบลยะรม อาเภอเบตง จังหวัด
ยะลา ประธานศนู ย์ยุติธรรมชมุ ชนตาบลยะลา นายสมวงค์ ทองโอสถ
20. ศูนย์ยุติธรรมชุมชนตาบลธารน้าทิพย์ ท่ีตั้งเลขท่ี 105 หมู่ที่ 2 ตาบลธารน้าทิพย์ อาเภอ
เบตง จงั หวัดยะลา ประธานศนู ย์ยุติธรรมชุมชนตาบลธารน้าทิพย์ นายมะอูโซะ สาลงั
ภารกิจงานของศูนย์ยุติธรรมชุมชน
1. จัดกิจกรรมแก้ไขฟ้ืนฟูผู้กระทาผิด การจัดแก้ไขฟ้ืฟูผู้กระทาผิดในพื้นท่ีศูนย์ยุติธรรมชุมชน
(๑) โครงการ “1 ศนู ย์ 1 อาชพี แบง่ ปนั ผูก้ ระทาผดิ ”เพ่ือเสรมิ สรา้ งอาชพี (๒) โครงการ “ศาสนธรรมเคลื่อนที่
สชู่ ุมชน”(ดาวะสัญจร) เพอื่ แกไ้ ขผู้กระทาผิดได้รับการแกไ้ ขฟืน้ ฟูดว้ ยศาสนบาบัดวิถีชุมชนอย่างมีประสิทธิภาพ
และกลับตนเป็นพลเมืองดีของสังคมต่อไป (๓) โครงการ “เครือข่ายศูนย์ยุติธรรมชุมชนจิตอาสาพัฒนาชุมชน
สู่ชุมชน เพ่ือชุมชน” เพ่ือสร้างบทบาทในการปฏิบัติงานเครือข่ายศูนย์ยุติธรรมชุมชน และประชาสัมพันธ์
ภารกิจงานคุมประพฤติ เครือข่ายยุตธิ รรมชุมชนและศูนย์ยตุ ธิ รรมชุมชน
2. ภารกิจงานคุมประพฤติ ติดตาม ดแู ล ใหค้ าแนะนาแก่ผถู้ ูกคมุ ความประพฤติ
3. ภารกิจงานสบื เสาะและพินิจเก่ียวกับผกู้ ระทาผดิ เช่น มาให้ปากคา พยาน เป็นต้น
๓. ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนเขต 9 เป็นหน่วยงานราชการสังกัดกรมพินิจและคุ้มครอง
เด็กและเยาวชน กระทรวงยุติธรรม มีภารกิจในการบาบัด ดูแลรักษา พัฒนา แก้ไขฟื้นฟู ตลอดจนให้การ
สงเคราะห์แก่เด็กและเยาวชนซ่ึงศาลเยาวชนและครอบครัว รวมทั้งศาลอื่นในเขต 9 (7 จังหวัดภาคใต้
ตอนลา่ ง: จังหวดั สงขลา สตูล ตรัง พทั ลงุ ปัตตานี นราธิวาส และยะลา) ได้มคี าพพิ ากษาในฐานความผิดต่าง ๆ
และให้ส่งตัวมารับการฝึกและอบรมระยะหนึ่ง เพ่ือให้เกิดความสานึกและเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมไปในทาง
ที่ถกู ทคี่ วร มภี ารกจิ หลัก 4 ดา้ น คือ (1) ด้านการบาบดั แก้ไขฟ้ืนฟเู ดก็ และเยาวชน (2) ด้านการเรียนการสอน
(3) ด้านการฝึกงานและจา้ งงาน (4) ด้านการกากับตดิ ตาม
โดยมีวตั ถุประสงค์
1. เพอื่ ให้เด็กและเยาวชนรับการสนับสนนุ จากเครอื ขา่ ยในด้านการศึกษา การแก้ไขบาบัดฟ้ืนฟู
และการฝกึ งานและจ้างงานตามสภาพความจาเป็น
2. เด็กและเยาวชนท่ีอยู่ในระยะเตรียมปล่อยตัวจากศูนย์ฝึกและอบรมมีเครือข่ายมารองรับใน
ดา้ นการศึกษาต่อและการประกอบอาชพี
3. เด็กและเยาวชนได้รับการกากับติดตามช่วยเหลือตามสภาพความต้องการจากเครือข่าย
ภายหลงั ได้รบั การปลอ่ ยตัวจากศูนย์ฝกึ และอบรมเด็กและเยาวชน
ในส่วนของงานที่เก่ียวข้องกับศูนย์ยุติธรรมจังหวัดยะลา ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนเขต 9
มีภารกิจท้ัง 4 ด้าน (ด้านการบาบัดแก้ไขฟ้ืนฟูเด็กและเยาวชน ด้านการเรียนการสอน ด้านการฝึกงานและ
จ้างงาน และด้านการกากับติดตาม) เพื่อประสานสนับสนุนจากศูนย์ยุติธรรมจังหวัดยะลา และศูนย์ยุติธรรม
ชุมชนจงั หวดั ยะลาในการดูแลเด็กและเยาวชนทีม่ ภี มู ิลาเนาในจงั หวัดยะลา
๓๙
๔. สำนักงำนบังคบั คดจี งั หวัดยะลำ มีอานาจหน้าท่ี๑๕ (๑) การบังคับคดีแพ่งและการวางทรัพย์
ในจังหวดั (๒) การไกลเ่ กล่ียข้อพิพาทในชัน้ บงั คับคดี
งานท่ีดาเนินการ เช่น การขายทอดตลาดทรัพย์ โครงการไกล่เกลี่ยทั่วไทยร่วมใจช่วยเหลือ
ลกู หนท้ี ่ไี ดร้ บั ผลกระทบจากไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) โครงการเสริมสร้างประสิทธิภาพงานยุติธรรม
เพื่อการสร้างความเปน็ ธรรมจังหวัดชายแดนภาคใต้ มหกรรมไกล่เกลีย่ หนบ้ี ตั รเครดิตและสนิ เชอื่ ส่วนบคุ คล
๕. เรือนจำกลำงยะลำ อานาจหน้าที่กรมราชทัณฑ์๑๖ (๑) ปฏิบัติต่อผู้กระทาผิดให้เป็นไปตาม
คาพิพากษาหรือคาสั่งตามกฎหมาย โดยดาเนินการตามกฎหมายว่าด้วยการราชทัณฑ์และกฎหมายอื่นท่ี
เก่ียวข้อง (๒) กาหนดแนวทางปฏิบัติต่อผู้ต้องขัง โดยให้สอดคล้องกับ กฎหมาย ระเบียบข้อบังคับ นโยบาย
ของกระทรวง หลักอาชญาวิทยา และหลักทัณฑวิทยา ตลอดจนข้อกาหนดมาตรฐานขั้นต่าสาหรับปฏิบัติต่อ
ผู้ต้องขัง และข้อเสนอแนะในเร่ืองที่เก่ียวข้องของสหประชาชาติ (๓) ดาเนินการเก่ียวกับสวัสดิการและการ
สงเคราะห์แก่ผู้ต้องขัง (๔) ปฏิบัติการอื่นใดตามท่ีกฎหมายกาหนดให้เป็นอานาจหน้าที่ของกรม หรือตามท่ี
กระทรวงหรือคณะรฐั มนตรีมอบหมาย
กรมราชทัณฑ์ มีเรือนจา ทัณฑสถาน และสถานท่ีกักขังในสังกัดจานวน ๑๔๓ แห่ง ดังนี้
(๑) เรอื นจำ ๑) เรอื นจากลาง หมายถึง เรอื นจาปกตริ ับคุมขงั ผู้ตอ้ งขงั ท่ีมีคาพิพากษาแล้ว และนักโทษเด็ดขาด
ทีม่ โี ทษจาคกุ ตั้งแต่ ๑๕ ปขี นึ้ ไป ปัจจบุ นั มีเรอื นจากลาง ๓๔ แห่ง โดยมีเรือนจากลางท่มี ีอานาจคุมขังผู้ต้องขังที่
ต้องรับโทษจาคุก ๑๕ ปี ถึงประหารชีวิต จานวน ๒ แห่ง คือ เรือนจากลางบางขวางและเรือนจากลางคลอง
เปรม ๒) เรือนจาพิเศษ เป็นเรือนจาที่รับผู้ต้องขังประเภทเดียวกับเรือนจาส่วนภูมิภาค ซึ่งในพื้นท่ีนั้นไม่มี
เรอื นจาส่วนภมู ภิ าคตง้ั อยู่ เรือนจาพเิ ศษมอี านาจคมุ ขงั ผูต้ อ้ งขังทต่ี ้องรับโทษจาคุกไม่เกิน ๗ ปี (๒ แห่ง) จนถึง
จาคุกไม่เกิน ๑๕ ปี (๒๘ แห่ง) ปัจจุบันมีเรือนจาพิเศษ ๓๐ แห่ง ๓) เรือนจาจังหวัด เป็นเรือนจาส่วนภูมิภาค
ที่มีอานาจคุมขัง ผู้ต้องขังที่ต้องรับโทษจาคุกไม่เกิน ๑๕ ปี แต่มีเรือนจาจังหวัด ๑ แห่ง ท่ีมีอานาจคุมขัง
ผู้ต้องขังท่ีต้องรับโทษจาคุกไม่เกิน ๒๕ ปี คือ เรือนจาจังหวัดตรัง ปัจจุบันมีเรือนจาจังหวัด ๔๙ แห่ง
๔) เรือนจาอาเภอ เป็นเรือนจาส่วนภูมิภาคที่มีอานาจคุมขัง ผู้ต้องขังที่ต้องรับโทษจาคุกไม่เกิน ๑๐ ปี จนถึง
จาคุกไม่เกิน ๑๕ ปี ปัจจุบันมีเรือนจาอาเภอ ๒๖ แห่ง (๒) ทัณฑสถำน เป็นสถานที่ควบคุม กักขังผู้ต้องขังท่ี
ได้รับการคัดแยกประเภทแล้ว เพื่อประโยชน์ในการควบคุม บาบัดรักษา การอบรมแก้ไข และการฝึกวิชาชีพ
เชน่ หญิง วยั หนุ่ม บาบดั พเิ ศษ ปัจจบุ ันมี ๒๕ แห่ง มีทัณฑสถานที่รับผู้ต้องขังที่ต้องรับโทษจนถึงประหารชีวิต
จานวน ๒ แห่ง คือ ทัณฑสถานหญิงกลาง ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และทัณฑสถานท่ีรับผู้ต้องขังที่
ต้องรับโทษจนถงึ จาคุกตลอดชีวิต จานวน ๓ แห่ง คือ ทัณฑสถานหญิงเชียงใหม่ ทัณฑสถานบาบัดพิเศษกลาง
และทัณฑสถานวัยหนุ่มกลาง (๓) สถำนกักขัง เป็นสถานท่ีท่ีมีอานาจควบคุมผู้ต้องกักขัง ซ่ึงถูกกาหนดโทษ
กักขัง ปัจจุบันมีสถานกักขัง ๕ แห่ง ได้แก่ สถานกักขังกลางจังหวัดลาปาง สถานกักขังกลางจังหวัดตราด
สถานกักขังกลางจังหวัดปทุมธานี สถานกักขังกลางจังหวัดร้อยเอ็ด และสถานกักขังกลางจังหวัด
นครศรีธรรมราช (๔) สถำนกักกนั (๑ แหง่ ) คอื สถานกกั กนั นครปฐม
หน่วยราชการสงั กดั ราชการส่วนภูมภิ าคในระดับอาเภอ คอื
๑. เรอื นจาอาเภอเบตง
๒. สานกั งานบังคับคดีจงั หวดั ยะลา สาขาเบตง
๓. สานกั งานยตุ ิธรรมจงั หวดั ยะลา สาขาเบตง
๔๐
ในภารกิจศนู ย์ประสานงานและส่งเสริมการมีงานทาเรือนจากลางยะลา (ศูนย์ CARE) ติดตามให้ความ
ช่วยเหลือผู้พ้นโทษ แจ้งความประสงค์ไว้ก่อนพ้นโทษ ประสานเจ้าหน้าที่ยุติธรรมชุมชนในกรณีลงพื้นท่ี
ตรวจสอบ เย่ียมบ้านผู้พ้นโทษ ในกรณีผู้ได้รับพระราชทานอภัยโทษ ติดตามประเมินผลการน้อมนาแนวทาง
เกษตรตามโครงการพระราชดารไิ ปประยกุ ตใ์ ช้ภายหลงั พ้นโทษ (สาหรบั กรณีผู้พ้นโทษทลี่ งทะเบยี นไว้)
การบรกิ ารประชาชนเพื่ออานวยความยตุ ธิ รรมในระดบั กระทรวงยตุ ิธรรม จาก MOJ E-SERVICE20
ประกอบดว้ ย
๑) สานักงานปลัดกระทรวงยุติธรรม: (๑) เว็บบอร์ดกระทรวงยุติธรรม (ปรึกษาข้อกฎหมาย
(สอบถามข้อมูล ข้อสงสัย เก่ียวกับเร่ืองข้อกฎหมายต่างๆ) รับเร่ืองร้องเรียนร้องทุกข์ (ถูกกล่ันแกล้ง เอารัด
เอาเปรียบ การได้รบั ความไมเ่ ป็นธรรม) แจ้งเบาะแส (แจ้งเบาะแสความไมโ่ ปรง่ ใส ความไม่ยตุ ธิ รรม การทุจริต)
สอบถาม/ข้อเสนอแนะ (ขอ้ เสนอแนะเกีย่ วกับกระทรวงยุติธรรม) (๒) ร้องเรียน/แจ้งเบาะแสการทุจริต (ระบบ
การจัดการ ข้อร้องเรียนและติดตามผลการร้องเรียนผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์) (๓) ยื่นคาขอทะเบียน
นักจิตวิทยา (ระบบการย่ืนคาขอข้ึนทะเบียนเป็นผู้ทาหน้าที่นักจิตวิทยาหรือนักสังคมสงเคราะห์ตามประมวล
กฎหมายวธิ พี ิจารณาความอาญา: ย่ืนคาขอขน้ึ ทะเบยี น, ยน่ื คาขอต่ออายุ, ข้อมูลทะเบียนนักจิตฯ, สังหลักฐาน,
คู่มือการขอและรับการข้ึนทะเบียน, แบบฟอร์มที่เกี่ยวข้อง) สานักงานกองทุนยุติธรรม (๑) ย่ืนคาขอรับความ
ช่วยเหลือ (ยื่นคาขอกองทุนยุติธรรมออนไลน์) (๒) ติดตามคาขอรับความช่วยเหลือ (ติดตามคาขอกองทุน
ยตุ ิธรรมออนไลน์)
๒) กรมบังคับคดี: (๑) ระบบย่ืนคาร้องทางอิเล็กทรอนิกส์ – คดีแพ่ง คดีล้มละลาย คดีฟื้นฟูกิจการ
ของลูกหนี้ (๒) ระบบสอบถามสถานะคดี (๓) ระบบถ่ายทอดสดการขายทอดตลาด (๔) กรมบังคับคดีบริการ
สบื คน้ ข้อมูลกรมบงั คบั คดี (LED Debt InFo) LED Debt Info Mobile Application: - ตรวจสอบข้อมูลอายัด
เงนิ ในคดี - ตรวจสอบยอดหนีค้ งเหลอื
๓) กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ (๑) ปรึกษาปัญหาทางกฎหมาย (๒) ตรวจสอบความคืบหน้าใน
การรับบริการ
๔) สานักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (สานักงาน ป.ป.ส.): (๑) ระบบการ
แจง้ ข้อมลู สารเคมีควบคุม
๕) กรมคุมประพฤติ (๑) แอพพลิเคชั่นสาหรับผู้ถูกคุมความประพฤติ –ข้อมูลการคุมความประพฤติ
(๒) ระบบบริการประชาชน (Dop Service) แอปพลิเคชั่นบริการประชาชน กรมคุมประพฤติ - สาหรับค้นหา
หนว่ ยงาน/เบอรโ์ ทร กลุม่ งาน/กองงาน/สานักงานตา่ งๆ
๖) กรมสอบสวนคดีพิเศษ (๑) การตรวจสอบธุรกิจแชร์ลูกโซ่โดยแอปพลิเคช่ัน "แชร์ลูกโซ่" เป็น
แอพพลิเคชั่นที่ใช้ในการตรวจสอบความเสี่ยงเกี่ยวกับแชร์ลูกโซ่เบื้องต้น (๒) การตรวจสอบสถานะการ
ดาเนินงานคดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษให้ประชาชนตรวจสอบสถานะคดีพิเศษ ตรวจสอบสถานะเรื่อง
ร้องเรียน และร้องเรียนร้องทกุ ข์
การบริการประชาชนเพ่ืออานวยความยุติธรรมในระดับ โดยมีสานักงานยุติธรรมจังหวัดเป็นหน่วย
ให้บริการประชาชน ซ่ึงการให้บริการประชาชนภายใต้ (๑) พระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหายและ
ค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จาเลยในคดีอาญา พ.ศ. 2544 (๒) พระราชบัญญัติกองทุนยุติธรรม พ.ศ. ๒๕๕๘
(๓) งานตามนโยบาย
๔๑
๑. พระราชบัญญัตคิ ่าตอบแทนผ้เู สยี หายและคา่ ทดแทนและคา่ ใชจ้ า่ ยแกจ่ าเลยในคดอี าญา พ.ศ. 2544
ผู้มีสิทธิได้รับค่าคุ้มครองแบ่งเป็น 2 ประเภท๒1 คือ 1) ผู้เสียหายจากการกระทาความผิดอาญา
2) จาเลยท่ีถูกขังในระหว่างพิจารณาคดีและต่อมาอัยการถอนฟ้อง หรือปรากฏภายหลังว่ามิใช่ผู้กระทา
ความผิด หรอื การกระทาไม่เป็นความผิด โดย
1) ผ้เู สียหายในคดีอาญา หมายถงึ ผู้ท่ีได้รับความเสียหายถึงแก่ชีวิต ร่างกาย หรือจิตใจ จากการ
กระทาความผิดอาญาของผู้อื่น โดยผู้เสียหายมิได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทาความผิดนั้น และไม่มีโอกาส
ได้รับการบรรเทาความเสียหายโดยวิธีอื่นใด เช่น ไม่สามารถจับตัวผู้กระทาความผิดมาลงโทษได้ หรือ จับได้
แต่ผู้กระทาความผิดไม่มีทรัพย์สินใดจะมาชดใช้ความเสียหายให้ เพ่ือเป็นการบรรเทาความเสียหายที่เกิดข้ึน
ผ้เู สียหายหรือทายาท จึงมสี ทิ ธิได้รบั คา่ ตอบแทนที่จาเปน็ และสมควรจากรัฐ ค่าตอบแทนผู้เสียหายในคดีอาญา
แบง่ เป็น 2 กรณี
(1) กรณเี สยี ชีวติ
◦ค่าตอบแทนตั้งแต่ 30,000 บาท แตไ่ ม่เกิน 100,000 บาท
◦ค่าจดั การศพ จานวน 20,000 บาท
◦คา่ ขาดอปุ การะเลยี้ งดู ไม่เกนิ 30,000 บาท
◦คา่ เสียหายอนื่ ตามท่คี ณะกรรมการเห็นสมควร แต่ไม่เกิน 30,000 บาท
(2) กรณีท่วั ไป
◦คา่ ใช้จา่ ยที่จาเป็นในการรักษาพยาบาล ใหจ้ า่ ยเทา่ ท่ีจา่ ยจริงแต่ไม่เกนิ 30,000 บาท
◦คา่ ฟ้นื ฟสู มรรถภาพทางร่างกายและจติ ใจใหจ้ ่ายเท่าที่จ่ายจริงแต่ไมเ่ กิน 20,000 บาท
◦ค่าขาดประโยชน์ทามาหาได้ในระหว่างท่ีไม่สามารถประกอบการงานได้ ตามปกติจ่ายใน
อัตราวันละไม่เกิน ๓๑๓ บาท (ปี ๒๕๖๔) เป็นระยะเวลาไม่เกิน 1 ปี นับแต่วันที่ไม่สามารถประกอบกิจการ
งานไดต้ ามปกติ
◦คา่ ตอบแทนความเสียหายอนื่ ตามท่คี ณะกรรมการเห็นสมควร แตไ่ มเ่ กนิ 30,000 บาท
๒) จาเลยในคดีอาญา หมายถึง ผู้ที่ถูกดาเนินคดีโดยพนักงานอัยการและถูกคุมขังระหว่างการ
พจิ ารณาคดี ต่อมาภายหลังปรากฎหลักฐานชัดเจนว่าจาเลยมิได้เป็นผู้กระทาความผิด มีการถอนฟ้องระหว่าง
การดาเนินคดี หรือมีคาพิพากษาถึงท่ีสุดว่าไม่ได้กระทาความผิด หรือการกระทาของจาเลยไม่เป็นความผิด
เพื่อเป็นการบรรเทาความเสียหายแก่จาเลยหรือทายาท จึงมีสิทธิได้รับค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายท่ีจาเป็นและ
สมควรจากรัฐ ค่าทดแทนและคา่ ใชจ้ ่ายแกจ่ าเลยในคดีอาญา แบ่งเปน็ 2 กรณี
(1) กรณเี สียชีวิต
◦ค่าทดแทน จานวน 100,000 บาท
◦คา่ จัดการศพ จานวน 20,000 บาท
◦คา่ ขาดอปุ การะเล้ียงดู จานวนไมเ่ กิน 30,000 บาท
◦ค่าเสียหายอนื่ ตามทคี่ ณะกรรมการเหน็ สมควร แตไ่ ม่เกิน 30,000 บาท
(2) กรณีทวั่ ไป
◦ค่าใช้จ่ายท่ีจาเป็นในการรักษาพยาบาล ให้จ่ายเท่าที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 30,000 บาท
หากความเจบ็ ป่วยน้ันเปน็ ผลโดยตรงจากการถกู ดาเนนิ คดี
๔๒
◦ค่าฟ้ืนฟูสมรรถภาพทางร่างกายและจิตใจ ให้จ่ายเท่าที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 50,000 บาท
หากความเจ็บปว่ ยน้ันเป็นผลโดยตรงจากการถกู ดาเนนิ คดี
◦ค่าขาดประโยชน์ทามาหาได้ในระหว่างถูกดาเนินคดีอัตราวันละไม่เกิน ๓๑๓ บาท
(ปี ๒๕๖๔) นบั แต่วนั ทีไ่ ม่สามารถประกอบกจิ การงานได้ตามปกติ
◦ค่าใช้จ่ายท่ีจาเป็นในการดาเนินคดี ได้แก่ *ค่าทนายความ เท่าที่จ่ายจริงในอัตราไม่เกิน
กฎกระทรวงกาหนด *ค่าใช้จ่ายอ่นื เทา่ ที่จ่ายจรงิ แต่ไมเ่ กิน 30,000 บาท
การยืน่ คาขอตามแบบและเอกสารภายในกาหนดเวลา ดังน้ี
(1) ในกรณีผูเ้ สยี หาย ภายใน 1 ปี นบั แต่วนั ทีผ่ เู้ สียหายไดร้ ้ถู งึ การกระทาความผิด
(2) ในกรณีจาเลย ภายใน 1 ปี นับแต่วันท่ีศาลมีคาสั่งอนุญาตให้ถอนฟ้อง เพราะปรากฎหลักฐาน
ชัดเจนวา่ จาเลยมิไดเ้ ป็นผู้กระทาความผิด หรอื วนั ท่มี คี าพิพากษาอันถึงที่สดุ ในคดีน้ันว่าข้อเท็จจริงฟังเป็นยุติว่า
จาเลยไม่ได้เป็นผู้กระทาความผิด หรือการกระทาของจาเลยไม่เป็นความผิด กรณีผู้เสียหายหรือจาเลยใน
คดีอาญาไม่สามารถยื่นคาขอด้วยตนเองได้ ให้ผู้แทนโดยชอบธรรมหรือผู้อนุบาล ผู้บุพการี ผู้สืบสันดาน สามี
หรือภริยา หรือบุคคลหนึ่งบุคคลใด ซึ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นหนังสือจากผู้เสียหายหรือจาเลยสามารถย่ืนคาขอ
แทนได้ หากบุคคลใดยน่ื คาขอรับคา่ ตอบแทน คา่ ทดแทน และค่าใชจ้ ่าย โดยแสดงข้อความหรือพยานหลักฐาน
อันเป็นเทจ็ ตอ้ งระวางโทษจาคกุ ไม่เกิน 3 ปี หรอื ปรบั ไมเ่ กิน 60,000 บาท หรือท้ังจาทัง้ ปรบั
ความผดิ ทผี่ ูเ้ สยี หายมสี ทิ ธไิ ด้รับคา่ ตอบแทน ตอ้ งอยูใ่ นประเภทความผดิ ดงั นี้
(1) ความผดิ เกยี่ วกบั เพศ
(2) ความผิดตอ่ ชีวิต
(3) ความผดิ ตอ่ ร่างกาย
(4) ความผิดฐานทาใหแ้ ทง้ ลกู
(5) ความผิดฐานทอดท้งิ เดก็
วิธีการยื่นคาขอรบั คา่ ตอบแทน ค่าทดแทนและค่าใช้จ่าย
ส่วนกลาง ให้ยื่นคาขอ ณ สานักงานช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้เสียหายและจาเลยในคดีอาญา
กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่
กรงุ เทพมหานคร
สว่ นภมู ภิ าค ยืน่ ได้ทีส่ านกั งานยตุ ธิ รรมจังหวัดทกุ จังหวัด หรือศนู ย์ยุติธรรมชุมชน
เอกสารจาเป็นที่ผูเ้ สียหายต้องย่นื ตอ่ เจา้ หน้าที่ในกรณขี อรับคา่ ตอบแทน
(1) สาเนาบัตรประจาตัวประชาชน/บัตรประจาตัวเจ้าหน้าท่ีของรัฐ (ของผู้เสียหายและผู้ยื่น
คาขอ)
(2) สาเนาทะเบยี นบ้าน (ของผู้เสยี หายและผู้ยื่นคาขอ)
(3) สาเนาทะเบยี นสมรส
(4) สาเนาสูตบิ ัตร
(5) สาเนาใบเปลีย่ นชือ่ /สกลุ
(6) หนงั สือมอบอานาจ
๔๓
(7) หนังสือให้ความยินยอมของทายาทอ่ืนในการย่ืนคาขอรับค่าตอบแทนผู้เสียหายกรณีมีทายาท
ผู้มีสิทธิย่นื คาขอในกรณีเดยี วกนั หลายคน
(8) ใบเสรจ็ ค่ารกั ษาพยาบาล
(9) สาเนาใบรับรองแพทย์
(10) รายงานการสอบสวนของสถานตี ารวจ และบันทกึ ประจาวนั การแจง้ ความ
(11) สาเนาใบมรณะบัตร (กรณีผู้เสียหายถงึ แกค่ วามตาย)
(12) สาเนาใบชันสูตรแพทย์ หรือใบชันสูตรพลิกศพ
(13) หลกั ฐานการมรี ายไดใ้ นกรณปี ระกอบอาชีพ
(14) หลกั ฐานการได้รับชดใช้คา่ เสียหายจากหน่วยงานอ่ืน
เอกสารจาเป็นทจี่ าเลยต้องยื่นต่อเจ้าหนา้ ทใ่ี นกรณขี อรับคา่ ทดแทนและคา่ ใช้จ่าย
(1) สาเนาบตั รประจาตัวประชาชน/บัตรประจาตัวเจา้ หน้าทขี่ องรฐั (ของผูเ้ สยี หายและผู้ยื่นคาขอ)
(2) สาเนาทะเบียนบา้ น (ของผูเ้ สยี หายและผู้ยืน่ คาขอ)
(3) สาเนาทะเบยี นสมรส
(4) สาเนาสตู บิ ตั ร
(5) สาเนาใบเปล่ยี นช่ือ/สกลุ
(6) หนงั สอื มอบอานาจ
(7) หนงั สอื ให้ความยินยอมของทายาทอ่ืนในการย่ืนคาขอรับค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จาเลยใน
คดีอาญากรณมี ที ายาทผู้มสี ิทธยิ ่ืนคาขอในกรณเี ดยี วกนั หลายคน
(8) ใบเสร็จคา่ รกั ษาพยาบาลและอืน่ ๆ (ถา้ ม)ี
(9) สาเนาใบรบั รองแพทย์
(10) คาพิพากษาอันถึงท่ีสุดว่าข้อเท็จจริงฟังเป็นยุติว่าจาเลยมิได้เป็นผู้กระทาผิด หรือการกระทา
ของจาเลยไม่เปน็ ความผิด หรอื ปรากฏหลักฐานชดั เจนวา่ จาเลยมิได้เป็นผกู้ ระทาความผิดและมีการถอนฟ้องใน
ระหวา่ งดาเนนิ คดี
(11) หมายขงั และหมายปล่อย
(12) หนังสือรบั รองคาพิพากษาถงึ ทีส่ ุด
(13) สญั ญาจา้ งว่าความหรือหนงั สอื รบั รองว่าจ้างวา่ ความ
(14) สาเนาใบแต่งทนาย (รบั รองโดยเจา้ หน้าทศ่ี าลยุตธิ รรม)
(15) สาเนาใบมรณะบตั ร (กรณีจาเลยถึงแก่ความตาย)
(16) สาเนาใบชนั สตู รแพทย์
(17) หลักฐานการมรี ายได้
(18) หลักฐานการได้รับชดใชค้ า่ เสยี หายจากทางอ่นื
๔๔
๒. พระราชบัญญัติกองทนุ ยตุ ิธรรม พ.ศ. ๒๕๕๘
สาระสาคัญพระราชบัญญัติกองทนุ ยตุ ิธรรมพ.ศ. ๒๕๕๘๒๓
ความหมายของกองทุนยุติธรรม “กองทุนยุติธรรม” เป็นกองทุนที่จัดตั้งข้ึนเพ่ือเป็นแหล่งเงินทุน
สาหรับใช้จ่ายเกี่ยวกับการช่วยเหลือประชาชนในการดาเนินคดี การขอปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาหรือจาเลย
การถูกละเมดิ สิทธมิ นษุ ยชน และการให้ความรู้ทางกฎหมายแก่ประชาชน
การใหค้ วามช่วยเหลอื ของกองทุนยุติธรรม “กองทุนยตุ ิธรรม” ใหค้ วามชว่ ยเหลือ ๔ กรณี ดงั น้ี
(๑) การให้ความช่วยเหลือประชาชนในการดาเนินคดี เช่น ค่าจ้างทนายความ ค่าธรรมเนียมศาล
หรือคา่ ใช้จ่ายอืน่ ๆ ทเ่ี ก่ียวขอ้ ง
(๒) การปล่อยช่ัวคราวผู้ต้องหาหรือจาเลย เช่น ค่าใช้จ่ายในการประกันตัว เป็นต้น (๓) การ
ช่วยเหลือผู้ถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนหรือผู้ได้รับผลกระทบจากการถูกละเมิดสิทธิมนุษยชน เช่น ค่า
รกั ษาพยาบาล คา่ ฟ้นื ฟรู า่ งกายจิตใจ คา่ ขาดรายได้ คา่ เสียหายจากการถูกละเมิด เปน็ ตน้
(๔) การสนับสนุนโครงการให้ความรู้ทางกฎหมายแก่ประชาชน เช่น ค่าใช้จ่ายในการจัดทา
โครงการให้ความร้กู ฎหมายแก่ประชาชน เปน็ ต้น
คดีที่กองทุนยุติธรรมให้ความช่วยเหลือ คือ คดีอาญา คดีแพ่ง คดีปกครอง คดีเยาวชนและ
ครอบครัว คดศี าลชานญั พเิ ศษ และคดอี น่ื รวมถงึ การบังคบั คดี
การขอรบั ความชว่ ยเหลือจากกองทุนยุติธรรม
๑. กรณีกรุงเทพมหานคร ผู้ขอรับความช่วยเหลือไปขอรับความช่วยเหลือที่ “สานักงานกองทุน
ยุตธิ รรม” สานกั งานปลดั กระทรวงยุตธิ รรม ถนนแจง้ วัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรงุ เทพมหานคร
๒. กรณีจังหวัดอื่น ๆ ไปขอรับความช่วยเหลือท่ี “สานักงานยุติธรรมจังหวัด” ซึ่งมีอยู่ทุกจังหวัด
หรือศนู ยย์ ตุ ธิ รรมชมุ ชนที่ใกล้บ้าน
การช่วยเหลือประชาชนผา่ นกองทุนยตุ ิธรรมในดา้ น
๑. การช่วยเหลือประชาชนในการดาเนินคดี (ค่าจ้างทนายความ ค่าธรรมเนียม ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ
เก่ียวกบั การดาเนนิ คด)ี
๒. การปลอ่ ยตัวชว่ั คราวผตู้ ้องหาหรือจาเลย (ช้ันสอบสวน ชั้นพนกั งานอัยการ ชั้นศาล
การควบคมุ ตวั กรณีอนื่ )
๓. การช่วยเหลือผู้ถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนหรือได้รับผลกระทบจากการละเมิดสิทธิมนุษยชน
(เงินชดเชย คา่ รักษาพยาบาล คา่ ฟื้นฟูรา่ งกาย จติ ใจ ค่าขาดประโยชนท์ ามาหาไดแ้ ละเงนิ ชว่ ยเหลืออืน่ ๆ)
๔. การให้ความรู้เก่ียวกับกฎหมายแก่ประชาชน เพื่อทาให้ประชาชนท่ีเป็นคนยากจน และ
ด้อยโอกาสสามารถเข้าถึงความยุติธรรมได้ ซึ่งปัจจุบันกระทรวงยุติธรรมได้มีการเพ่ิมประสิทธิภาพการ
ดาเนินงานในการพิจารณาให้ความช่วยเหลือประชาชน โดยลดระยะเวลามาตรฐานในการดาเนินการจากเดิม
70 วัน ลดลงเหลือ 45 วัน และอยู่ระหว่างการลดระยะเวลาให้เหลือเพียง 21 วัน เพื่อให้ประชาชนได้รับ
ความช่วยเหลืออยา่ งรวดเรว็ ยิง่ ขน้ึ
๔๕
๓. ระเบยี บคณะกรรมการยทุ ธศาสตรด์ า้ นการพฒั นาจงั หวดั ชายแดนภาคใตว้ า่ ดว้ ยการให้ความช่วยเหลือ
เยียวยาผูไ้ ด้รับความเสียหายและผ้ไู ดร้ ับผลกระทบจากการกระทาของเจา้ หนา้ ทขี่ องรฐั
อันสืบเนอ่ื งมาจากเหตุการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ. ๒๕๕๕
สรปุ ไดด้ ังนี้๒๙
ข้อ ๗ ค่าใช้จ่ายในการให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับความเสียหายและผู้ได้รับผลกระทบ
หมายถงึ
(๑) คา่ ช่วยเหลือเยยี วยาในกรณที ีผ่ เู้ สียหายถงึ แก่ความตาย หรอื ผทู้ พุ พลภาพ
(๒) ค่าชว่ ยเหลือเยยี วยากรณีการบังคับบุคคลใหส้ ูญหาย
(๓) ค่าช่วยเหลอื เยยี วยาในการรกั ษาพยาบาล รวมทั้งการสง่ ตอ่ เพ่อื ฟนื้ ฟผู พู้ กิ าร หรือฟื้นฟู
สมรรถภาพทางร่างกาย จิตใจ และการตดิ ตามเยย่ี มเยยี น
(๔) ค่าช่วยเหลือเยียวยาการขาดประโยชน์ทามาหาได้ในระหว่างที่ไม่สามารถประกอบการ
งานได้ตามปกติ
(๕) ค่าช่วยเหลือเยียวยาแก่บุคคล ผู้ต้องหา จาเลย หรือผู้ต้องขัง กรณีผู้ต้องสงสัยที่
ถูกควบคุมตัวหรือผู้ถูกคุมขัง ตามพระราชบัญญัติกฎอัยการศึก พ.ศ. ๒๔๕๗ พระราชกาหนดการบริหาร
ราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ พระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ.
๒๕๕๑ หรือประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา และผลการดาเนินงานพบว่าเจ้าพนักงาน ปล่อยตัว
โดยไม่มีความผดิ หรือพนกั งานสอบสวนสงั่ ไม่ฟ้อง หรือพนักงานอัยการสงั่ ไม่ฟ้อง หรอื ศาลยกฟ้อง
(๖) คา่ ชว่ ยเหลอื เยยี วยาผูท้ ่ีได้รับความเดอื ดรอ้ นและไม่ได้รบั ความเปน็ ธรรมเน่อื งจากการ
ปฏิบัติหน้าท่ีของเจ้าหน้าท่ีรัฐ ทางด้านกฎหมาย การฟ้องร้อง การดาเนินคดี หรือการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพ
มดี ังตอ่ ไปน้ี
ก. คา่ ใชจ้ ่ายในการวางเงินประกันการปลอ่ ยตัวชัว่ คราว
ข. คา่ ใช้จ่ายในการจา้ งทนายความว่าความในคดี
ค. ค่าใช้จา่ ยในการชาระคา่ ธรรมเนียมข้นึ ศาล และคา่ ธรรมเนียมอืน่ ๆ
ง. ค่าใช้จ่ายในการดาเนินคดีเก่ียวกับการแสวงหาข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานหรือ
การตรวจพสิ ูจน์ทางวทิ ยาศาสตร์ หรือการตรวจพสิ ูจน์ข้อเทจ็ จริงอน่ื ๆ
จ. ค่าใช้จ่ายในการเข้าถึงความเป็นธรรม ได้แก่ค่าใช้จ่ายท้ังปวงที่เกิดข้ึนเพ่ือการ
ขอความเป็นธรรม อาทิ ค่าพาหนะเดนิ ทาง คา่ ทพ่ี ัก คา่ ตอบแทน และคา่ ใชจ้ ่ายอ่ืนทจี่ าเป็นและเหมาะสม
ฉ. ค่าใชจ้ า่ ยเพือ่ คุ้มครองชว่ ยเหลอื ใหไ้ ดร้ บั ความปลอดภัยจากการก่ออาชญากรรม
หรือการป้องกันการถูกปองร้ายเพราะได้ร้องขอความเป็นธรรม หรือขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าท่ี หรือ
เพราะได้แจ้งข้อมูลข่าวสาร หรือชว่ ยเหลอื ปกป้องสิทธมิ นุษยชนใหแ้ ก่ผูเ้ สยี หาย หรอื ผู้ไดร้ ับผลกระทบ
(๗) ค่าใช้จ่ายอ่ืน ๆ อันเนื่องมาจากความเสียหายที่เกิดจากการกระทาผิดทางอาญาการ
กระทาโดยมิชอบทางการปกครองหรือการละเมิดท่ีมีผลกระทบอื่นต่อการประกอบอาชีพด้านการศึกษาหรือ
การดารงชีวิตอ่ืน รวมถึง ผลกระทบต่อความเช่ือมั่นต่อรัฐ ซ่ึงจาเป็นต้องให้การเยียวยาเป็นการเฉพาะหรือ
ต้องเยียวยาทางจิตใจหรือจิตวิญญาณ อาทิ ค่าใช้จ่ายให้ไปประกอบพิธีฮัจญ์ ณ ประเทศซาอุดิอาระเบียหรือ
ประกอบศาสนกิจตามหลักศาสนา
(๘) คา่ ชว่ ยเหลือเยยี วยาความเสียหายด้านทรพั ยส์ ิน
๔๖
(๙) ค่าช่วยเหลือเยยี วยาอนื่ ๆ ตามที่ กพต. กาหนด
อัตราคา่ ชว่ ยเหลือเยียวยาตาม (๑) - (๘) ใหเ้ ปน็ ไปตามรายการทา้ ยของ กพต.
ข้อ ๘ ให้เลขาธิการมีอานาจแต่งตั้งคณะกรรมการ หรืออนุกรรมการ เพ่ือพิจารณาให้ความ
ช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับความเสียหายหรือผู้ได้รับผลกระทบจากการกระทาของเจ้าหน้ าที่ของรัฐอันสืบ
เนอื่ งมาจากเหตุการณค์ วามไมส่ งบในจงั หวัดชายแดนภาคใต้ตามท่ีเหน็ สมควร
ทง้ั นี้ คณะกรรมการ หรอื อนุกรรมการ อยา่ งน้อยตอ้ งประกอบด้วย ขา้ ราชการฝา่ ยพลเรอื น
ขา้ ราชการตารวจ ขา้ ราชการทหาร ผู้ทรงคุณวุฒดิ ้านการแพทย์ ด้านศาสนาหรอื สังคมสงเคราะห์
หรือสิทธิมนษุ ยชน และดา้ นประชาสงั คมทมี่ ปี ระสบการณ์เปน็ ทป่ี ระจักษ์ ดา้ นละหน่ึงคน
ค่าตอบแทนของคณะกรรมการ หรืออนุกรรมการให้เป็นไปตามระเบียบท่ี กพต. กาหนด
โดยได้รับความเห็นชอบจากกระทรวงการคลงั
ข้อ ๙ ในกรณีที่ผู้ได้รับความเสียหายหรือผู้ได้รับผลกระทบ ไม่เห็นด้วยกับคาวินิจฉัยของ
คณะกรรมการ หรืออนุกรรมการ ให้มีสิทธิย่ืนอุทธรณ์ต่อเลขาธิการภายในเก้าสิบวันนับแต่วันท่ีได้รับแจ้ง
คาวนิ จิ ฉัย และคาวินจิ ฉยั ของเลขาธกิ ารใหเ้ ป็นทส่ี ุด
ขอ้ ๑๒ ใหเ้ ลขาธกิ าร ศอ.บต. เปน็ ผูร้ กั ษาการตามระเบียบนี้
สรุปผู้ไดร้ บั ผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในจงั หวัดชายแดนภาคใตต้ ้องเป็นบุคคลดงั นี้๔๗
๑. คนไทยทม่ี ีช่ืออยูใ่ นทะเบยี นบา้ น
๒. บคุ คลต่างดา้ วท่ีเข้าเมอื งอย่างถูกตอ้ งตามกฎหมายและมหี ลักฐาน
๓. มาประสบเหตุการณ์ซึ่งเกิดจากการกระทาของผู้ก่อความไม่สงบในพื้นท่ี 3 จังหวัดชายแดน
ภาคใต้ (จังหวดั ปตั ตานี จงั หวดั ยะลา จังหวัดนราธวิ าส และจังหวดั สงขลา ๔ อาเภอ (อาเภอสะบาย้อย อาเภอ
จะนะ อาเภอเทพา และอาเภอนาทว)ี
๔. เหตุการณ์ท่ีเกิดขึ้นทาให้เสียชีวิต บาดเจ็บและทรัพย์สินเสียหาย (เฉพาะทรัพย์สินที่ไม่ได้
ทาประกันภัย)
๕. มกี ารรบั รองเหตุการณค์ วามไม่สงบจาก ๓ ฝา่ ยระดบั อาเภอ (ตารวจ ทหารและปกครอง)
การปรับปรุงหลักเกณฑ์และแนวทางการรับรองว่าผู้ขอรับการช่วยเหลือเป็นผู้ได้รับผลกระทบจาก
สถานการณ์ความไม่สงบฯ จากคณะกรรมการ ๓ ฝ่าย (ทหาร ตารวจ พนักงานฝ่ายปกครอง) เน่ืองจากการ
รับรองของคณะกรรมการ ๓ ฝ่าย ประกอบผลการสอบสวนคดีของพนักงานสอบสวน ทาให้การพิจารณาให้
ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบเกิดความล่าช้าและเกิดปัญหาในทางปฏิบัติ จึงเห็นควรกาหนดแนวทางการ
พิจารณาว่า บุคคลดังกล่าวเป็นผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบหรือไม่ จากการรับรองตาม
ความเห็นของคณะกรรมการ ๓ ฝา่ ยใหม่ ดังนี้
๑. กรณีคณะกรรมการ ๓ ฝ่ายรับรองว่า ผู้ขอรับการช่วยเหลือเป็นผู้ได้รับผลกระทบจาก
สถานการณ์ความไม่สงบฯ ให้จังหวัดจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบให้ครบถ้วน (ร้อยละ ๑๐๐) จากเงิน
ทดรองราชการของจงั หวัด (๕๐ ลา้ นบาท)
๒. กรณคี ณะกรรมการ ๓ ฝา่ ย มีความเหน็ เสียงสว่ นใหญ่ (๒ ใน ๓) รบั รองว่าผู้ขอรับการช่วยเหลือ
“เป็นผไู้ ด้รบั ผลกระทบ” จากสถานการณค์ วามไมส่ งบฯ
๒.๑ ให้จังหวัดจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบไปก่อนร้อยละ ๒๕ จากเงินทดรองราชการ
ของจังหวัด (๕๐ ลา้ นบาท)
๔๗
๒.๒ ภายหลงั ผลสอบสวนคดขี องพนกั งานสอบสวนระบุวา่ บคุ คลดังกล่าวเป็นผู้ได้รับผลกระทบ
จากสถานการณ์ความไม่สงบฯ ให้จังหวัดจ่ายเงินช่วยเหลือเพ่ิมเติมอีกร้อยละ ๗๕ จากเงินทดรองราชการของ
จงั หวดั (๕๐ ล้านบาท)
๒.๓ แต่หากภายหลังผลสอบสวนคดขี องพนักงานสอบสวนระบุว่า บุคคลดังกล่าวไม่เป็นผู้ได้รับ
ผลกระทบจากสถานการณค์ วามไมส่ งบฯ ให้จังหวดั ยตุ ิการพิจารณาใหค้ วามชว่ ยเหลอื ทันที
๓. กรณีคณะกรรมการ ๓ ฝา่ ย มคี วามเห็นเสียงส่วนใหญ่ (๒ ใน ๓) รับรองวา่ ผู้ขอรับการช่วยเหลือ
“ไม่เป็นผไู้ ดร้ บั ผลกระทบ” จากสถานการณ์ความไมส่ งบฯ
๓.๑ ใหง้ ดการพิจารณาไวก้ ่อน
๓.๒ ภายหลังผลสอบสวนคดีของพนักงานสอบสวนระบุว่า บุคคลดังกล่าว เป็นผู้ได้รับ
ผลกระทบจากสถานการณ์ความไมส่ งบฯ ใหจ้ งั หวดั จา่ ยเงนิ ชว่ ยเหลอื ใหค้ รบถ้วน รอ้ ยละ ๑๐๐ จากเงนิ ทดรอง
ราชการของจังหวัด (๕๐ ลา้ นบาท)
๓.๓ แตห่ ากภายหลังผลสอบสวนคดีของพนกั งานสอบสวนระบุว่า บุคคลดังกล่าวไม่เป็นผู้ได้รับ
ผลกระทบจากสถานการณค์ วามไมส่ งบฯ ใหจ้ ังหวัดยุติการพิจารณาให้ความชว่ ยเหลอื ทนั ที
๔. กรณีคณะกรรมการ ๓ ฝ่าย มีความเห็นเป็นเอกฉันท์รับรองว่าผู้ขอรับการช่วยเหลือ “ไม่เป็น
ผู้ได้รับผลกระทบ” จากสถานการณ์ความไม่สงบฯ ให้ถือว่าผู้ขอรับการช่วยเหลือไม่เข้าหลักเกณฑ์เงื่อนไขใน
การให้ความชว่ ยเหลือเยียวยา โดยไม่ต้องนาผลการสอบสวนคดีของพนกั งานสอบสวนมาพิจารณา
๕. กรณียุติการพิจารณาให้ความช่วยเหลือเยียวยา ตามข้อ ๒.๓ ข้อ ๓.๓ และข้อ ๔ หากต่อมา
ภายหลงั
๕.๑ ศาลมีคาพิพากษาคดีถงึ ทสี่ ุด และคาพพิ ากษาระบุชัดเจนว่า เปน็ คดีที่ผู้ขอรับการช่วยเหลือ
“เปน็ ผู้ได้รับผลกระทบ” จากสถานการณค์ วามไม่สงบฯ และ
๕.๒ ผู้ได้รับผลกระทบร้องขอนาคาพิพากษาคดีถึงที่สุดแล้วนัน มาให้เจ้าหน้าท่ีรับผิดชอบ
พิจารณาให้ความช่วยเหลือเยียวยาตามหลักเกณฑ์ที3กาหนดกรณีดังกล่าว ให้จังหวัดจ่ายเงินช่วยเหลือ
ใหค้ รบถว้ น รอ้ ยละ ๑๐๐ จากเงนิ ทดรองราชการของจังหวดั (๕๐ ล้านบาท)
๖. ใหค้ ณะกรรมการ ๓ ฝ่าย พจิ ารณาให้ความเห็นวา่ ผูข้ อรับการช่วยเหลอื “เป็นผ้ไู ด้รับ
ผลกระทบ” จากสถานการณ์ความไม่สงบฯ หรือไม่โดยไมช่ กั ชา้ ทังน้ีไม่เกนิ ๕ วนั ทาการ
๗. กรณีเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบในการพิจารณาให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับ
ผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบฯ หากได้กระทาไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ระบุไว้ข้างต้น ต่อมา
ภายหลังผลการสอบสวนคดีของพนักงานสอบสวน ผลของคาพิพากษาศาลคดีถึงที่สุด รวมทังการจ่ายเงิน
ช่วยเหลือไม่ตรงกบั ข้อเท็จจริงและหลักฐาน ตามหลกั เกณฑท์ ี่กาหนด เจ้าหนา้ ทผ่ี ู้ปฏบิ ัติหน้าที่ดงั กล่าวไม่ตอ้ ง
รับผิดชอบในการกระทาท่ีเกิดขึน ยกเว้นเจ้าหน้าท่ีผู้ปฏิบัติหน้าท่ีได้ทาการไปโดยทุจริต จงใจ หรือประมาท
เลนิ เลอ่ อยา่ งร้ายแรง
๔๘
เงินช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบสืบเนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบ ในจังหวัดชายแดน
ภาคใตต้ ามระเบยี บ กฎหมายและเงินช่วยเหลือตามมตคิ ณะรฐั มนตรที เี่ กยี่ วข้อง
หน่วย: บาท
ประเภท เสียชวี ติ พิการ บาดเจบ็ บาดเจ็บ บาดเจ็บ หมายเหตุ
สาหสั เล็กนอ้ ย เงินช่วยเหลอื
รายเดอื น
(เสยี ชวี ิต
พิการ/สาหัส)
ข้าราชการ/เจา้ หนา้ ที่รฐั ๕๗๐,๐๐๐ ๗๓๖,๐๐๐ ๓๐๖,๐๐๐ ๖๕,๐๐๐ ๑๕,๐๐๐ ๑. เงนิ ยงั ชพี
ประชาชนช่วยเหลืองานราชการ/ ๗๗๖,๐๐๐ ๓๔๓,๐๐๐ ๓๐๖,๐๐๐ ๖๕,๐๐๐ ๑๕,๐๐๐ รายเดือน
๒. ทนุ การ
ผู้นาศาสนา
ประชาชนทั่วไป/ราชการบานาญ ๒๗๖,๐๐๐ ๓๔๓,๐๐๐ ๓๐๖,๐๐๐ ๖๕,๐๐๐ ๑๕,๐๐๐ ศึกษา(บ/ป)ี
๓. เงนิ ชพี
ผ้พู ิการ
๔. เงินครอบ-
ครัวอุปถัมภ์
การช่วยเหลือเยียวยา ย่ืนเอกสารขอรับการช่วยเหลือเยียวยา ณ ศูนย์ช่วยเหลือเยียวยาฯ ระดับ
อาเภอ หรือท่ีเรยี กกันว่า “เยียวยาอาเภอ” ซ่ึงตง้ั อยู่ ณ ทวี่ า่ การอาเภอในพื้นทเี่ กดิ เหตุ เจ้าหน้าที่จะดาเนินการ
ดงั น้ี กรณรี า่ งกาย (เสียชีวิตและบาดเจ็บ) กรณที รพั ยส์ นิ
๓. งานตามนโยบาย
๓.๑ "Justice Care : ยุติธรรมใส่ใจ" แนวทางการให้ความช่วยเหลือผู้เสียหายหรือเหย่ือ
อาชญากรรมแบบบูรณาการ๑ กระทรวงยุติธรรมได้จัดทาแนวทางการช่วยเหลือเหยื่อ ผู้เสียหายและผู้ไม่ได้รับ
ความเป็นธรรม แบบบูรณาการภายใต้แนวคิด “ยุติธรรมใส่ใจ 24 ชั่วโมง” (Justice Care) ซ่ึงเป็น
แนวทางการดาเนินงานเชิงรุกตามนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการอานวยความยุติธรรม ลดความเหล่ือมล้า
ในสังคมเพ่ือให้ประชาชนเข้าถึงความยุติธรรมด้วยการนาบริการด้านงานยุติธรรมไปสู่ประชาชนในระดับพื้นท่ี
โดยที่ประชาชนไม่ต้องร้องขอภายใน 24 ช่ัวโมง ผ่านจะบูรณาการการทางานของหน่วยงานในกระบวนการ
ยุติธรรม และหน่วยงานอื่นท่ีเกี่ยวข้องทั้งระบบ โดยมีสานักงานยุติธรรมจังหวัดที่กระจายอยู่ ๘๑ แห่ง
ทั่วประเทศเป็นหน่วยงานหลักในระดับพ้ืนที่ท่ีจะนาความเป็นธรรมแบบครบวงจรทั้งทางด้านกฎหมาย
ดา้ นร่างกายและด้านจติ ใจส่งถึงมือให้ประชาชนฟรีโดยไม่มีค่าใช้จ่าย แนวทาง “ยุติธรรมใส่ใจ Justice Care”
ซึ่งครอบคลุมเรอ่ื งต่าง ๆ ดังนี้
(๑) การขอรบั ความชว่ ยเหลือทางการเงินแก่ผู้เสียหายและจาเลยในคดอี าญา
(2) การให้คาปรกึ ษากฎหมายแก่ประชาชน
(3) การขอรับความชว่ ยเหลอื จากกองทนุ ยุตธิ รรม
(4) การขอรับความชว่ ยเหลือในการค้มุ ครองพยาน
(5) การใหค้ าแนะนาดา้ นอื่น ๆ
๔๙
ทัง้ นี้ หากประชาชนไดร้ บั ความเดือดร้อนหรือไม่ไดร้ บั ความเป็นธรรม ติดต่อได้ที่สายด่วนยุติธรรม โทร. 1111
กด 77 ฟรีตลอด 24 ชั่วโมง หรือสานักงานยุติธรรมจังหวัดทุกแห่ง หรือศูนย์ยุติธรรมชุมชนใกล้บ้าน
ท่ัวประเทศ (สานักงานยุติธรรมจังหวัดยะลา ศูนย์ราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ ชั้น 6 อาเภอเมืองยะลา
จงั หวัดยะลา 95000 โทร. 073 222 624) หรือศนู ยย์ ุตธิ รรมชมุ ชนในพื้นท่ีจงั หวัดยะลา...ใกลบ้ ้าน
ในการดาเนินการตามนโยบาย "ยุติธรรมสร้างสุข ยุติธรรมเชิงรุก สร้างสุขให้ประชาชน"
ส่วนกลางจะแจ้งข่าวว่ามีเหตุการณ์เกิดขึ้นในพ้ืนท่ี โดยแจ้งทางไลน์กลุ่มว่า “ตามข่าวที่เก่ียวข้องกับ
กระบวนการยุติธรรม/กระทรวงยุติธรรม/ผู้เสียหายและเหย่ือ หรือผู้ไม่ได้รับความเป็นธรรมท่ีปรากฏ น้ัน
ภายใต้นโยบาย "ยุติธรรมสร้างสุข ยุติธรรมเชิงรุก สร้างสุขให้ประชาชน" ขอให้ท่านรายงานผลการให้ความ
ช่วยเหลือตามแนวทาง Justice care ยุติธรรมใส่ใจอย่างเคร่งครัด ภายใน 24 ชั่วโมง ในไลน์กลุ่มน้ีต่อ
ผู้บริหารกระทรวงยุติธรรมทราบด้วย และขอให้ดาเนินการภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของ
COVID-19 อย่างเคร่งครัด ท้ังน้ี หากกรณีใด คาดว่าจะได้รับเงินช่วยเหลือเยียวยาตามพระราชบัญญัติ
ค่าตอบแทนผู้เสียหายฯ ขอให้ สยจ.สรุปจานวนเงินที่คาดว่าผู้เสียหาย/ทายาทจะได้รับมาด้วย ”
สรุป (๑) การลงพนื้ ที่แจง้ สิทธิผู้เสียหายตามพระราชบัญญัติคา่ ตอบแทนผูเ้ สยี หายและค่าทดแทนและค่าใช้จ่าย
แกจ่ าเลยในคดอี าญา พ.ศ. 2544 (๒) การรายงานเหตกุ ารณ์ของเร่อื งน้ันๆ
๓.๒ การให้คาปรึกษากฎหมายแก่ประชาชน ในส่วนของสานักงานยุติธรรมจังหวัดจะมี
“คลินิกยุติธรรม” ซ่ึงให้คาปรึกษากฎหมายแก่ประชาชนฟรี สาหรับท่านที่ต้องการความช่วยเหลือด้าน
กฎหมายและประหยัดค่าใช้จ่าย โดยมีที่ปรึกษากฎหมาย (ทนายความ) ประจาคลินิกยุติธรรม ณ สานักงาน
ยุตธิ รรมจังหวดั ให้บริการประชาชนในวนั และเวลาราชการ
สถานที่บรกิ ารใหค้ าปรกึ ษาด้านกฎหมายฟรแี กป่ ระชาชน๒๔ ดังน้ี
๑. คลินกิ ยุติธรรม สานกั งานยตุ ิธรรมจังหวดั
๒. สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ จัดบริการช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย
โดยทนายความอาสา ณ ท่ีทาการสภาทนายความ กรุงเทพมหานคร ตรงข้ามโลตัสหลักส่ี ถ้าเดินทาง
ด้วยรถไฟฟ้าลงที่สถานีวัดพระศรีหรือสถานีพหลโยธิน 59 นอกจากจะเข้าขอคาปรึกษาด้วยตนเองท่ี
สภาทนายความ ซง่ึ สภาทนายความไดเ้ ปิดช่องทางใหม่ในการปรกึ ษาปญั หากฎหมายฟรีผ่านแอพพลิเคช่ัน line
ด้วย ในระหว่างเวลา 8.30 -16.30 น ทุกวันไม้เว้นวันหยุดราชการ สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์
บรกิ ารช่วยเหลอื ประชาชนทางกฎหมาย
๓. สานักงานช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภา โดยมีทนายความ
ให้คาปรึกษาและช่วยเหลือด้านกฎหมายแก่ประชาชนฟรีโดยไม่เสียค่าบริการใดๆ ได้แก่ สานักงานช่วยเหลือ
ประชาชนทางกฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภา (ส.ช.น.) ซ่ึงก่อตั้งขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้คาแนะนาปรึกษา
ปัญหากฎหมาย และการดาเนินคดีแก่ประชาชนท่ีมีฐานะยากจนและไม่ได้รับความเป็นธรรม สามารถเข้ารับ
คาปรึกษาด้วยตนเอง ณ สานักงานช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภานั้นอยู่ในบริเวณ
อาคารของเนติบัณฑิตยสภา ชั้น 1 หรือจะโทรศัพท์ขอคาปรึกษาก็ได้ในวันเวลาราชการ ตั้งแต่เวลา 8.30-
16.30 น.
๔. ศูนย์ดารงธรรมให้ความช่วยเหลือประชาชน ซ่ึงไม่เฉพาะผู้ท่ีต้องการขอคาปรึกษา
กฎหมาย แต่ยังรวมถึงผู้ท่ีได้รับความเดือดร้อนจากหน่วยงานของภาครัฐต่างๆ ด้วย ไม่ว่าจะเป็นแจ้งเบาะแส
การทาผดิ รอ้ งเรยี นเจา้ หนา้ ที่รัฐ ยาเสพติด ปัญหายานพาหนะ การศึกษา ปรึกษาท่ีดิน มรดก ฯลฯ โดยติดต่อ
ได้ที่ศูนย์ดารงธรรม กระทรวงมหาดไทย ณ ศาลาว่าการกระทรวงมหาดไทย หรือโทรสายด่วน 1567 ถ้าอยู่
๕๐
ต่างจังหวัดติดต่อขอคาปรึกษาปัญหากฎหมายฟรี โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายได้ท่ีศูนย์ดารงธรรมจังหวัด ศาลากลาง
จังหวัดทุกแห่ง หรือศูนย์ดารงธรรมอาเภอ ท่ีว่าการอาเภอทุกแห่ง หรือศูนย์ดารงธรรมกระทรวงมหาดไทย
หรือการไฟฟา้ นครหลวงทุกแหง่ เช่นกนั
๕. ศูนยใ์ ห้ความช่วยเหลือดา้ นกฎหมายแกป่ ระชาชนของมหาวิทยาลยั ตา่ งๆ เช่น
๕.๑ สานักงานช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย ศูนย์นิติศาสตร์ คณะนิติศาสตร์
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ บริการให้คาปรึกษาด้านกฎหมาย และให้ความช่วยเหลือทางคดี โดยมีทนายความ
แนะนิติกรอยู่ประจาท้ังท่ีสานักงานวิทยาเขตท่าพระจันทร์ เวลาราชการ ระหว่างเวลา 9.00-17.00 น และ
สานักงานวิทยาเขตศูนย์รังสิต ระหว่างเวลา 9.00-16.00 น ซึ่งสามารถขอความช่วยเหลือโดยขอรับ
คาปรึกษาข้อกฎหมายดว้ ยตนเอง หรอื ปรกึ ษาผา่ นทางโทรศพั ทก์ ็ได้
๕.2 ศนู ยก์ ฎหมายเพอ่ื ประชาชน จฬุ าลงกรณม์ หาวิทยาลยั บริการใหค้ วามช่วยเหลือ
คาแนะนา และคาปรึกษาทางกฎหมายแก่ประชาชนของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อาคารเทพทวาราวดี
โดยบุคลากรคณะนิติศาสตร์ และมีเจ้าหน้าท่ีประจาเพ่ือให้บริการแก่ประชาชนตั้งแต่วันจันทร์–ศุกร์ ระหว่าง
เวลา 8.00 – 17.00 น.
๕.๓ ศูนย์บริการและให้ความช่วยเหลือสังคมทางกฎหมาย คณะนิติศาสตร์
มหาวิทยาลัยรามคาแหง ให้บริการทางกฎหมายแก่ประชาชนโดยบุคลากรผู้เชี่ยวชาญและมีความสามารถ ณ
คณะนติ ิศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั รามคาแหง แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรงุ เทพมหานคร
๕.๔ ศูนย์ให้คาปรึกษาทางกฎหมาย คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดย
บุคลากรผู้เชี่ยวชาญและมีความสามารถและให้คาปรึกษากฎหมายฟรีแก่ประชาชนโด ยเปิดให้บริการตั้งแต่
วนั จันทร์ – ศุกร์ ระหว่างเวลา 9.00 – 16.00 น.
๓.๓ “ศูนย์ยุติธรรมสร้างสุข”๒๕ เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม ๒๕62 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานในพิธีเปิดศูนย์ยุติธรรมสร้างสุข บริเวณหน้าศูนย์ยุติธรรม
สร้างสุข (ศูนย์บริการร่วมกระทรวงยุติธรรม) ช้ัน 2 อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ
ถนนแจ้งวัฒนะ เขตหลักส่ี กทม. เพื่ออานวยความยุติธรรม คุ้มครองสิทธิเสรีภาพประชาชน ป้องกันและ
ควบคุมอาชญากรรม รวมท้ังบาบัดแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทาผิด ภายใต้การเปล่ียนแปลงที่สาคัญต่างๆ ท้ังในระดับ
ภูมภิ าคและระดบั ภายในประเทศ โดยเฉพาะการเปล่ยี นแปลงท่มี ีแนวโน้มต่อเนือ่ งไปสทู่ ศวรรษหน้า เป็นบริบท
สาคัญในการขับเคลื่อนนโยบายด้านความมั่นคง ซ่ึงมีผลกระทบต่อวิถีชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชน
กระทรวงยุติธรรมมีภารกิจสาคัญในการเป็นศูนย์กลาง ในการพัฒนาระบบงานยุติธรรม และกฎหมายอย่างมี
เอกภาพ ทันต่อสภาวการณ์ปัจจุบัน ขับเคล่ือนด้านการสร้างโอกาส ความเสมอภาคและความเท่าเทียมกัน
ทางสังคม และเป็นองค์การหลักของกระบวนการยุติธรรม รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560
กาหนดให้รัฐพึงจัดระบบการบริหารงานในกระบวนการยุติธรรมทุกด้านให้มีประสิทธิภาพ เป็นธรรม ไม่เลือก
ปฏิบัติ และให้ประชาชนเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมได้โดยสะดวก รวดเร็ว และไม่เสียค่าใช้จ่ายสูงเกินควร
รวมทั้งรัฐพงึ ใหค้ วามช่วยเหลือทางกฎหมายท่ีจาเป็น และเหมาะสมแก่ผู้ยากไร้ หรือผู้ด้อยโอกาสในการเข้าถึง
กระบวนการยุตธิ รรม และรัฐบาลไดป้ ระกาศใช้แผนยทุ ธศาสตรช์ าติ 20 ปี ทาใหท้ ราบว่าศูนย์ยุติธรรมสร้างสุข
เป็นการต่อยอดการทางานของศูนย์บริการร่วม เพื่ออานวยความยุติธรรมเชิงรุก ตอบสนองและสอดคล้องกับ
แผนยุทธศาสตรช์ าติและแผนแมบ่ ทที่เก่ียวข้องต่างๆ ศนู ยย์ ุติธรรมสร้างสขุ นอกจากเป็นหน่วยงานรับเร่ืองจาก
ประชาชนในหลายช่องทาง เช่น สายด่วนยุติธรรม เว็บไซต์ แอปพลิเคชันต่างๆ และศูนย์ดารงธรรมแล้ว
ยังได้ตั้งคณะทางานขึ้นทาหน้าท่ีในการตรวจสอบ วิเคราะห์เรื่องปัญหาอาชญากรรมสาคัญท่ีส่งผลกระทบต่อ
๕๑
สังคมโดยรวม และปญั หาความเดอื ดรอ้ นของประชาชนในด้านต่างๆ ที่จาเป็นต้องแก้ไขโดยเร่งด่วน โดยบูรณา
การของหนว่ ยงานท่เี ก่ยี วข้องในกระทรวงยตุ ิธรรม ใหเ้ กิดผลเปน็ รปู ธรรม อานวยความยุตธิ รรมให้แก่ประชาชน
เอ้ืออานวยต่อการพัฒนาประเทศให้เกิดความมั่นคง ม่ังคั่ง ย่ังยืนต่อไป ท้ังนี้ กระทรวงยุติธรรมมีความมุ่งม่ัน
ขับเคลอ่ื นกระบวนการยตุ ธิ รรมไปสู่พ่นี ้องประชาชนอย่างทัว่ ถึงและเท่าเทยี ม ตลอดจนสรา้ งการเรียนรู้ทางด้าน
กฎหมาย คุ้มครองสิทธิเสรีภาพประชาชน ป้องกันและควบคุมอาชญากรรม รวมท้ังเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ
โดยการเดินหน้าเข้ารับฟังปัญหาและดาเนินการบรรเทาทุกข์อย่างทันสถานการณ์ เพื่ออานวยความยุติธรรม
ให้แก่ประชาชนและที่สาคัญคือ การรับฟังปัญหาจากประชาชนเพ่ือการเยียวยาและแก้ไขปัญหาอย่างตรงจุด
ไม่ว่าเสียงแห่งความทุกข์ เสียงร้องขอความยุติธรรมจะดังอยู่ท่ีใด กระทรวงยุติธรรมพร้อมก้าวไปรับฟังและ
คืนความสุขให้คนไทย อย่างเท่าเทียม ติดต่อ “ศูนย์ยุติธรรมสร้างสุข” ท่ีโทร. 1111 กด 77 หรือสานักงาน
ยุติธรรมจังหวัดทัว่ ประเทศ
๓.๔ ศูนย์เฉพาะกิจเฝ้าระวังความปลอดภัยของประชาชน หรือ ศูนย์ JSOC (Safety
Observation Ad hoc Center, Ministry of Justice) คณะกรรมการประสานงานเฉพาะกิจเพ่ือเฝ้าระวัง
การก่ออาชญากรรมสะเทือนขวัญของผู้พ้นโทษท่ีมีลักษณะพิเศษ โดยมีการกาหนดมาตรการในการเฝ้าระวัง
การกอ่ อาชญากรรมสะเทือนขวัญของผู้พ้นโทษที่มีลักษณะพิเศษ แบ่งเป็น 2 ระยะ ได้แก่ (1) มาตรการระยะ
สัน้ ทส่ี ามารถดาเนนิ การไดท้ ันที โดยกาหนดกลมุ่ ผพู้ น้ โทษที่ต้องเฝา้ ระวังท่ีมีพฤติการณ์เป็นภยันตรายต่อสังคม
จานวน 7 กลุ่ม และจัดต้ังศูนย์เฉพาะกิจเฝ้าระวังความปลอดภัยของประชาชน (JSOC) เพื่อเป็นระบบในการ
ป้องกันและเฝ้าระวังการก่ออาชญากรรมสะเทือนขวัญของผู้พ้นโทษที่มีพฤติการณ์เป็นภยันตรา ยต่อสังคม
ภายหลังปล่อย ผ่านหน่วยงานทั้งในส่วนภูมิภาค (ยุติธรรมจังหวัดผ่านกลไก กพยจ. และกรุงเทพมหานคร
สานักงานคุมประพฤติกรุงเทพมหานคร และสถานีตารวจนครบาล) (2) มาตรการระยะยาว ได้กาหนดนิยาม
คดที ี่ควรใหอ้ ยูใ่ นบัญชีเฝ้าระวงั ของศูนย์ JSOC และแบง่ ประเด็นการพิจารณาตามกระบวนการยุติธรรมเป็น 3
ระยะ ได้แก่ กระบวนการต้นนา้ (ก่อนพิจารณาและพิพากษาคดี) กระบวนการกลางน้า (อยู่ระหว่างต้องโทษใน
เรอื นจา) และกระบวนการปลายนา้ (ไดร้ ับการปลอ่ ยตวั จากเรือนจา) โดยสานักงานกจิ การยุติธรรมจะพิจารณา
ข้อกฎหมายต่างๆ ท่ีจาเป็นต้องแก้ไขหรือเพิ่มเติม เพื่อให้การดาเนินการป้องกันและเฝ้าระวังการ
กอ่ อาชญากรรมท้ังในมาตรการระยะสั้นและระยะยาวเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งเสริมความปลอดภัยของ
ประชาชนได้อย่างเป็นรูปธรรม ตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมต่อไป๒๗ นายสมศักด์ิ
เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า การบริหารจัดการของศูนย์ JSOC๒๘ ต้องทาให้สังคม
เช่ือถอื ทาให้เห็นวา่ การทางานของศูนย์ฯมีประสิทธิภาพทาให้สังคมมีความปลอดภัยและสบายใจจากผู้ต้องขัง
คดรี ้ายแรงทพ่ี น้ โทษ หากเราทาแลว้ ไม่ดี เราจะตกเป็นจาเลยของสังคมแทน นอกจากน้ี ต้องสร้างกระบวนการ
รับร้ใู หแ้ ก่ประชาชน ทราบวา่ JSOC คืออะไร และมีประโยชนต์ อ่ สังคมอย่างไรบ้าง และต้องมีการประสานงาน
กบั หน่วยงานตา่ งๆ ท่จี ะช่วยในการตดิ ตามผตู้ ้องขังท่ีพ้นโทษ และจะให้ทางข้าราชการและผู้นาท้องถ่ินเขารับรู้
อย่างไร และจะช่วยงานได้อย่างไรบ้าง ซึ่งต้องสร้างเครือข่ายเหล่าน้ีข้ึนมา และการทางานภายในกระทรวง
ทุกกรมต้องทางานรว่ มกนั แบบบูรณาการ เพือ่ ให้งานมีประสทิ ธภิ าพมากท่ีสดุ
JSOC: นักโทษเด็ดขาดใน 7 ฐานความผิด๒๘ ก่อนวันพ้นโทษและได้รับการปล่อยตัวไป
เช่น เหลือระยะเวลาอีกหน่ึง 1 ปี หรือ 6 เดือน จะพ้นโทษ เป็นต้น “ทาการพักการลงโทษ โดยการติด EM
และมมี าตรการในการติดตามดแู ล แก้ไข เพ่ือให้ผู้ที่จะพ้นโทษ สามารถยืนอยู่ใน สังคมได้อย่างแท้จริง มีอาชีพ
ทสี่ จุ รติ หาเล้ียงชีพได้ และทีส่ าคญั มกี ารจดั ทาฐานขอมูลตา่ งๆ ไว้” เพื่อสร้างความม่นั ใจ ความเชื่อมั่นและสร้าง
๕๒
ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินต่อประชาชนอย่างแท้จริง ศูนย์ JSOC หรือเรียกส้ันๆ นวัตกรรมใหม่
เพื่อสร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน โดยกลุ่มผู้พ้นโทษที่เคยก่อคดีอุกฉกรรจ์ 7 ฐาน
ความผดิ ไดแ้ ก่
(๑) ฆา่ เด็กหรอื ขม่ ขืนเดก็ (child murder or child rape and homicide)
(๒) ฆ่าข่มขืน (Rape – murders crimes)
(๓) ฆาตกรต่อเนอื่ ง (Serial Murders)
(๔) ฆาตกรโรคจิต (Crimes committed by a Sociopath or a Psychopath)
(๕) สงั หารหมู่ (Mass Murders)
(๖) ชิงทรพั ย/์ ปล้นทรัพยโ์ ดยการฆา่ (Robbery-Homicide Crimes)
(๗) นักค้ายาเสพตดิ รายสาคญั (Major drug dealers)
การดาเนินการของศูนย์ JSOC: การติดตามเฝ้าระวังบุคคลท่ีพ้นโทษไปแล้ว ในเขต
กรุงเทพมหานคร ประสานงานสานักงานคุมประพฤติ ในเขตกรุงเทพมหานคร เพื่อประสานงานเจ้าหน้าที่
ตารวจเฝ้าระวังเชิง สร้างสรรค์อย่างใกล้ชิด ในเขตจังหวัดต่างๆ ประสานงานคณะกรรมการพัฒนาการ
บริหารงานยุติธรรมระดับจังหวัด (กพยจ.) เพื่อประสานงานเจ้าหน้าที่ตารวจและฝ่ายปกครอง เฝ้าระวังเชิง
สรา้ งสรรค์อย่างใกลช้ ิด
สานกั งานยุตธิ รรมจงั หวดั ยะลา ศนู ย์ราชการจงั หวดั ชายแดนภาคใต้ ช้นั 6 ถนนสิโรรส ตาบลสะเตง
อาเภอเมืองยะลา จังหวัดยะลา 95000 โทรศัพท์ 073 222 624
๕๓
อา้ งอิง
๑ วกิ พิ ีเดีย สารานุกรมเสรี. ๒๕๖๔. กระทรวงยตุ ธิ รรม (ประเทศไทย). เขา้ ถึงขอ้ มูลไดจ้ าก https://th.
wikipedia.org/wiki/ วันทสี่ บื ค้นขอ้ มูล ๒๑ ตลุ าคม ๒๕๖๔.
๒ กระทรวงยุติธรรม. ม.ป.พ. ภารกิจสานกั งานรัฐมนตรี. เขา้ ถึงขอ้ มลู ไดจ้ าก https://www.moj.go.th/
view/7537/ วนั ทสี่ ืบค้นขอ้ มูล ๑๘ ตุลาคม ๒๕๖๔.
๓ กระทรวงยุติธรรม. ม.ป.พ. ภารกจิ สานกั งานปลดั กระทรวงยุตธิ รรม. เขา้ ถงึ ขอ้ มูลได้จาก https://www.
moj.go.th/view/7538/ วันที่สืบค้นข้อมูล 18 ตุลาคม 2564.
๔ กระทรวงยตุ ิธรรม. ม.ป.พ. ภารกิจกรมคมุ ประพฤติ. เข้าถงึ ข้อมลู ได้จาก https://www.moj.go.th/view/
7539/ วันทส่ี บื ค้นข้อมลู ๑๘ ตุลาคม ๒๕๖๔.
๕ กรมคุ้มครองสิทธิและเสรภี าพของประชาชน กระทรวงยตุ ิธรรม. ม.ป.พ. อานาจหน้าที่. เข้าถงึ ข้อมูลไดจ้ าก
https://www.rlpd.go.th/Content?ContentID=h9Sk3LaK/ วันทีส่ บื คน้ ข้อมูล 18 ตลุ าคม 2564.
๖ กรมบังคับคด.ี ๒๕๖๑. ภารกิจอานาจหนา้ ท.ี่ เข้าถงึ ข้อมูลไดจ้ ากhttp://www.led.go.th/datacenter/
pdf/led-plan-2561.pdf/ วนั ทสี่ บื คน้ ข้อมลู 18 ตุลาคม 2564
๗ กรมพนิ ิจและค้มุ ครองเด็กและเยาวชน. ม.ป.พ. ภารกิจกรมพนิ ิจและคุ้มครองเดก็ และเยาวชน. เขา้ ถึงขอ้ มูล
ได้จาก https://www.moj.go.th/view/7543/ วันท่สี ืบค้นข้อมลู 18 ตุลาคม 2564.
๘ กรมราชทณั ฑ์. ม.ป.พ. ภารกจิ และอานาจหน้าท่ีของกรมราชทัณฑ.์ เข้าถึงข้อมูลได้จาก http://www.
correct.go.th/? page_id=12255/ วนั ท่สี บื คน้ ขอ้ มูล 18 ตลุ าคม 2564.
๙ กรมสอบสวนคดีพเิ ศษ.ม.ป.พ. ภารกจิ และหนา้ ท.่ี เข้าถึงข้อมลู ไดจ้ าก https://www.dsi.go.th/th/Detail/
Mission-and-Duty/ วนั ทส่ี ืบคน้ ข้อมลู 18 ตุลาคม 2564.
๑๐ สานักงานกิจการยตุ ธิ รรม. ม.ป.พ. ภารกิจและอานาจหน้าท่ี. เข้าถงึ ข้อมูลไดจ้ าก oja.go.th/TH/about/
วันท่ีสบื ค้นข้อมูล 18 ตลุ าคม 2564.
๑๑ สถาบันนติ ิวทิ ยาศาสตร์ กระทรวงยตุ ิธรรม. ม.ป.พ. อานาจหน้าท่.ี เขา้ ถึงข้อมูลไดจ้ าก https://www.
cifs.go.th/index.php?mod=aboutus&type=aboutus/ วันที่สืบค้นขอ้ มลู 18 ตลุ าคม 2564.
๑๒ สานักงานคณะกรรมการป้องกนั และปราบปรามยาเสพตดิ กระทรวงยตุ ธิ รรม. ม.ป.พ. อานาจหนา้ ท่.ี
เข้าถงึ ข้อมลู ไดจ้ าก http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/.PDF วันท่สี บื ค้นขอ้ มลู
18 ตลุ าคม 2564.
๑๓ สถาบนั เพ่ือการยตุ ธิ รรมแหง่ ประเทศไทย (องคก์ ารมหาชน). ม.ป.พ. ข้อมลู องค์กร TIJ. เข้าถึงข้อมูลได้จาก
https://www.tijthailand.org/th/overview วันทสี่ ืบคน้ ข้อมลู / 21 ตลุ าคม 2564.
๑๔ กระทรวงยุติธรรม.ม.ป.พ. อนญุ าโตตลุ าการ. เข้าถึงขอ้ มูลไดจ้ าก https://www.moj.go.th/pdf/road%
20map/6.2_280360.pdf/ วนั ที่สบื คน้ ข้อมูล 21 ตลุ าคม 2564.
๑๕ ราชกิจจานุเษกษา. ๒๕๖๑. กฎกระทรวงการแบ่งสว่ นราชการกรมบงั คับคดี กระทรวงยุตธิ รรม พ.ศ.
๒๕๖๑. เล่มที่ ๑๓๕ ตอนท่ี ๓๗ก หนา้ ท่ี ๒๗, ๒๕ พฤษภาคม ๒๕๖๑. เขา้ ถึงขอ้ มูลได้จาก
http://www.led.go.th/datacenter/pdf/led-plan-2561.pdf วนั ท่สี ืบค้นขอ้ มลู ๒๑ ตุลาคม ๒๕๖๔.
๑๖ วกิ พิ ีเดีย สารานกุ รมเสรี. ๒๕๖๔. กรมราชทณั ฑ์. เขา้ ถงึ ข้อมูลไดจ้ าก https://th.wikipedia.org/wiki/
วนั ท่สี ืบค้นขอ้ มูล ๒๑ ตลุ าคม ๒๕๖๔.
๕๔
๑๗ สานกั งานคมุ ประพฤตจิ ังหวัดพงั งา. ม.ป.พ. ภารกิจงานคมุ ประพฤต.ิ เขา้ ถงึ ขอ้ มูลได้จาก https://sites.
google.com/site/khumpraphvticanghwadphangnga/home/pharkic-ngan-khum-praphvti
วันทีส่ บื ค้นข้อมลู ๒๑ ตุลาคม ๒๕๖๔.
๑๘ ราชกิจจานเุ ษกษา. ๒๕๖๒. กฎกระทรวง แบ่งส่วนราชการสานกั งานปลัดกระทรวงยตุ ธิ รรม (ฉบับท่ี ๒)
พ.ศ. ๒๕๖๒. เลม่ ที่ ๑๓๖ ตอนท่ี ๕๕ก หน้า ๑๔, ๒๖ เมษายน ๒๕๖๒. เข้าถึงขอ้ มูลไดจ้ าก
http://www.oic.go.th/FILEWEB/CABINFOCENTER6/DRAWER034/GENERAL/DATA0000/
00000153.PDF วนั ที่สบื คน้ ขอ้ มลู ๒๑ ตุลาคม ๒๕๖๔.
๑๙ กระทรวงยุติธรรม สานกั งานยุตธิ รรมจังหวัดยะลา. ม.ป.พ. สานกั งานยตุ ิธรรมจงั หวดั ยะลา กระทรวง
ยุติธรรม. เอกสารแผน่ พับ.
๒๐ กระทรวงยตุ ธิ รรม. ม.ป.พ. การบริการประชาชนเพ่อื อานวยความยุติธรรม (MOJ E-SERVICE PORTAL).
เขา้ ถึงข้อมูลได้จาก https://www.moj.go.th/serviceportal วันท่สี ืบคน้ ขอ้ มูล ๑๙ ตุลาคม ๒๕๖๔.
๒1 ธญั ศกั ด์ิ ณ นคร. ม.ป.พ. พ.ร.บ.ค่าตอบแทนผู้เสียหายและคา่ ทดแทนและค่าใชจ้ ่ายแก่จาเลยในคดีอาญา
พ.ศ. 2544. เข้าถึงขอ้ มูลได้จาก https://www.gotoknow.org/posts/292066 วันทีส่ ืบค้นขอ้ มลู
๑๙ ตลุ าคม ๒๕๖๔.
22 สานกั งานวฒุ สิ ภา สานกั กฎหมาย กล่มุ พฒนากฎหมาย. ม.ป.พ. สรุปสาระสาคญั พระราชบญั ญตั ิกองทนุ
ยตุ ธิ รรม พ.ศ. ๒๕๕๘. เขาถึงข้อมูลไดจ้ าก https://www.senate.go.th/assets/portals/186/fileups/
336/files/ วนั ทส่ี ืบคน้ ข้อมูล ๑๙ ตุลาคม ๒๕๖๔.
23 itthigorn.com. ๒๕๖๔. มีปัญหากฎหมาย ปรกึ ษากฎหมายฟรีไดท้ ี่ใดบา้ ง? เขา้ ถงึ ข้อมูลไดจ้ าก
https://itthigorn.com/language/th/ วันทส่ี ืบค้นขอ้ มูล ๑๙ ตลุ าคม ๒๕๖๔.
๒๔ ไทยรัฐออนไลน์. ๒๕๖๒. รมว.ยธ.เปิดศนู ย์ยุติธรรมสร้างสขุ ยุติธรรมเชงิ รกุ สรา้ งสขุ ให้ประชาชน.
เขา้ ถึงขอ้ มลู ไดจ้ าก https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1678961 วันท่ีสืบค้นขอ้ มลู
๑๙ ตลุ าคม ๒๕๖๔.
๒๕ ผู้จดั การออนไลน์. ๒๕๖๓. “รมว.ยุตธิ รรม” ผลกั ดนั นโยบาย “ยตุ ธิ รรมสร้างสขุ ” ชหู ลักคดิ “ยตุ ธิ รรม
เชงิ รกุ สร้างสุขใหป้ ระชาชน” เขา้ ถงึ ข้อมูลได้จาก https://mgronline.com/politics/detail/963000
0090325 วนั ท่ีสบื ค้นขอ้ มูล ๑๙ ตลุ าคม ๒๕๖๔.
๒๖ สานกั งานกจิ การยุติธรรม. ๒๕๖๓. สกธ. รว่ มหารอื กรมคุมประพฤติ เฝา้ ระวังการก่ออาชญากรรม
สะเทือนขวญั . เขา้ ถึงข้อมูลได้จาก http://www.oja.go.th/TH/81020/ วันท่ีสบื คน้ ข้อมลู ๑๙ ตลุ าคม
๒๕๖๔.
๒๗ ไทยรัฐออนไลน์. ๒๕๖๓. รมว.ยตุ ิธรรม กาชบั ศูนย์ JSOC เร่งสร้างผลงานให้ประชาชนเชอ่ื มน่ั .
เข้าถึงข้อมูลได้จาก https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1969129 วันท่ีสบื ค้นขอ้ มูล
๑๙ ตลุ าคม ๒๕๖๔.
๒๘ โฆสิต สวุ ินิจจติ . ๒๕๖๔. ยิ่งรู้วา่ อันตราย ยง่ิ ระวงั ตวั : JSOC ศนู ยเ์ ฉพาะกิจเฝ้าระวังความปลอดภัยของ
ประชาชน (Safety Observation Ad hoc Center, Ministry of Justice). เขา้ ถงึ ขอ้ มลู ไดจ้ าก
https://justicechannel.org/format/watch/jsoc_ep1 วนั ท่ีสบื ค้นขอ้ มูล ๑๙ ตลุ าคม ๒๕๖๔.
๕๕
๒๙ ราชกจิ จานุเษกษา. ๒๕๕๕. ระเบียบคณะกรรมการยทุ ธศาสตร์ด้านการพฒั นาจังหวดั ชายแดนภาคใต้
ว่าดว้ ยการให้ความชว่ ยเหลือเยียวยาผไู้ ด้รับความเสียหายและผไู้ ด้รับผลกระทบจากการกระทาของ
เจ้าหน้าท่ีของรฐั อนั สบื เน่อื งมาจากเหตุการณค์ วามไม่สงบในจงั หวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ. ๒๕๕๕.
เล่มที่ ๑๒๙ ตอนพิเศษ ๕๑ง หนา้ ๕-๘ วันท่ี ๑๖ มนี าคม ๒๕๕๕. เขา้ ถงึ ขอ้ มลู ได้จาก http://www.bps.
m-society.go.th/uploads/content/download/59dd7b95dd878.pdf วนั ทีส่ บื คน้ ขอ้ มลู
๒๖ ตุลาคม ๒๕๖๔.