การขับเคล่อื นงานการเมอื งในส่วนงานภาคประชาสงั คม
กภส. ๑) เสรมิ สรา้ งความเขา้ ใจ ๒) สนบั สนุนการมีส่วนรว่ มของทุกภาควว่ น ๓) รบั รู้ขอ้ เท็จจรงิ /ลดเง่อื นไข ๔) จากดั เสร/ี ไมใ่ ห้เกิดความขัดแย้ง
ต้นน้า: ๑) เชอ้ื ชาตมิ ลายู ๒) มาตภุ ูมิ (ปตาน)ี ๓) ศาสนาอิสลาม กลางน้า: ๑) สทิ ธิมนุษยชน ๒) ขนั้ การปฏิบตั ิ (เบาไปหนกั ) ๓) ความจาเป็น/ความชอบธรรม
ปลายน้า: ๑) การเยยี วยา ๒) ขน้ั การปฏิบตั ิ (หลังกลางน้า) ๓) ผลการปฏบิ ตั ิ (มอบตัว/วิสามญั ฆาตกรรม)
กลุ่มงาน กอ่ น/ต้นนา้ ระหว่าง/กลางน้า หลัง/ปลายนา้
๑. กลมุ่ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชน
๑. ศกึ ษากฎหมายให้ที่พักพิง และ ๑. ตดิ ตามขอ้ มูลข่าวสารขอ้ เท็จจรงิ ๑. ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีมี
เผยแพรป่ ระชาสมั พนั ธ์ ให้กลุ่ม โดยไมย่ ดึ ตดิ กบั ข้อมลู ขา่ วสารใน เหตุการณล์ ะเมดิ หรือมีประเด็นท่ี
องค์กร และประชาชนใหต้ ระหนักรู้ โซเชียลของกลมุ่ ใดกลุ่มหนึง่ ประชาชนใหค้ วามสนใจ
๒. ศกึ ษากฎหมายด้านการเยียวยา และ ๒. ตดิ ตามข้อมลู ขา่ วสาร และลงพ้นื ที่ ๒. ตรวจสอบขอ้ เทจ็ จริงกรณีมี
เผยแพร่ประชาสัมพนั ธ์ ให้กลมุ่ เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจรงิ เหตกุ ารณล์ ะเมดิ หรือมปี ระเด็นที่
องคก์ ร และประชาชนให้ตระหนักรู้ ประชาชนให้ความสนใจ รว่ มกบั
คณะกรรมการคุ้มครองสทิ ธฯิ
๓. ให้ความช่วยเหลือประชาชนในด้าน
การเยยี วยาตา่ งทไ่ี มเ่ กีย่ วข้องกบั ๓. เมือ่ มกี ารเยียวยาใหย้ ุติธรรมชมุ ชน
ความมั่งคง เพ่ือให้ประชาชนรู้สึก อานวยความสะดวกในการจัดเตรียม
มที พ่ี ง่ึ และเมื่อประชาชนได้รับ เอกสาร และใหค้ วามร้เู บ้ืองตน้
ผลกระทบจากเหตุการณค์ วามมัง่ คง เกี่ยวกบั การเยยี วยา
จะไดต้ ดิ ตอ่ ยุตธิ รรมชุมชนเป็น
อนั ดบั แรก เพื่อป้องกนั ไม่ให้
ประชาชนถกู ฝ่ายตรงข้ามดึงเป็น
มวลชน
กลมุ่ งาน กอ่ น/ต้นน้า ๒ หลงั /ปลายนา้
๒. กลมุ่ นักการเมือง
๑. การสรา้ งความเข้าใจในกลุ่ม ระหว่าง/กลางน้า ๑. การสรา้ งรายได้ใหก้ ับชุมชน โดย
๓. กลุม่ นกั ธรุ กจิ กพ.ชต.tcps ๑. การขบั เคล่อื น โดยผ่านช่องทาง เศรษฐกจิ พอเพียง
๒. การสร้างความเช่อื ถือและศรทั ธา ๑.๑ นกั การเมืองท้องทีแ่ ละท้องถนิ่
๓. การข่าวจาการพดู คุย ๑.๒ เศรษฐกจิ ชมุ ชน
๑) การท่องเที่ยวและสินคา้
OTOP
๑. ติดต่อประสานงานเช่ือมเครอื ขา่ ย ๑. ร่วมเปน็ ส่วนหนงึ่ ในการขบั เคล่ือน ๑. ลงพ้ืนทรี่ ว่ มกับภาครัฐเพื่อร่วมงาน
คนกลมุ่ ๓ ชมรม พสบ.จชต. และ
ผปู้ ระกอบการในพ้ืนทใี่ หไ้ ดร้ บั รู้ สรา้ งความเข้าใจทีถ่ ูกต้องของภาครฐั การสรา้ งความเข้าใจ เข้าถึง ในการ
ข้อมลู และสรา้ งความเขา้ ใจข่าวสาร
เกีย่ วกับการบงั คับใช้กฎหมายใน ให้กับประชาชนในพ้ืนท่ี ไดร้ บั รู้ขอ้ มูล ให้กาลงั ใจและเยยี วยาผไู้ ด้รบั
พ้นื ท่ี จชต. โดยยึดหลัก พ.ร.บ.
กฎอยั การศึก พ.ศ.๒๔๕๗ ,พ.ร.บ. ข่าวสารความจริงที่จริงกว่าในทุก ผลกระทบจากเหตกุ ารณ์
ความม่ันคงภายในราชอาณาจกั ร
พ.ศ.๒๕๕๑, พ.ร.ก.ฉกุ เฉนิ พ.ศ. ชอ่ งทางอยา่ งถูกต้อง ๒. ชมรม พสบ.จชต. พรอ้ มให้การ
๒๕๔๘
๒. ตดิ ตอ่ ประสานงานเครือข่าย ชมรม สนบั สนนุ รว่ มเปน็ สว่ นหนงึ่ ในการให้
๒. การเตรียมเร่ืองการระดมสรรพกาลัง
ในการเตรียมความพร้อมในการให้ พสบ.จชต.ในพื้นที่ ในการร่วมลง ความชว่ ยเหลือในด้านตา่ งๆ ตาม
การสนบั สนุนในดา้ นตา่ งๆ ตาม
สถานการณ์ พื้นทสี่ ร้างความเขา้ ใจ เข้าถงึ และ สถานการณท์ ี่เกิดข้ึนในพ้นื ที่ จชต.
ให้กาลงั ใจกับผู้ไดร้ บั ผลกระทบและ
เจา้ หนา้ ที่ทป่ี ฏบิ ัติงาน
๓
กลมุ่ งาน กอ่ น/ต้นน้า ระหวา่ ง/กลางนา้ หลงั /ปลายน้า
๔. กลมุ่ ภาคประชาสังคม
๑. ตดิ ตามสถานการณ์ดา้ นการข่าวตาม ๑. ติดตามสถานการณ์ในพน้ื ทอ่ี ยา่ ง ๑. สร้างความรัก โดยการลงพ้ืนทีแ่ สดง
หว้ งระยะเวลาจากหน่วยงานด้าน
การขา่ ว ( สขว.ฯ, ศป.ข.ภาค 5, ต่อเนอ่ื ง ความเสยี ใจกบั ครอบครัวทไี่ ดร้ ับการ
ขกท.สน.จชต. และ ฉก.ในพืน้ ที่ )
๒. ประสาน ฉก.ในพื้นท่ี เพอ่ื รับทราบ สูญเสีย (ผู้เหน็ ต่างและ จนท.รฐั )
สถานการณ์ขนั้ ตน้ /ข้อเท็จจรงิ พร้อมทง้ั สรา้ งความเข้าใจใน
๓. ประสานเครือข่าย ภส. (หวั แมงเม่า/ ขอ้ เทจ็ จรงิ ในประเดน็ ตา่ งๆ
คนกลมุ่ ๓) ในพ้ืนทีเ่ กดิ เหตุ ฯ ที่เก่ียวขอ้ ง โดยคนกลุ่ม ๑-๓
ใหต้ ิดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง ๒. ตดิ ตาม ตรวจสอบ การเผยแพร่
๔. รวบรวมประเดน็ /ข้อเท็จจรงิ /ข้อมลู ข้อมลู ต่างๆ ทางโซเชยี ลมเี ดยี ของ
ชดุ ความจรงิ ทถ่ี กู ต้อง กรณีเหตุการณ์ IGOs และ CSOs พร้อมทง้ั พบปะ
ในแต่ละพ้ืนที่ (ความเช่ือมโยง พูดคุยสรา้ งความเขา้ ใจในประเด็น
เหตกุ ารณ์ ) ต่างๆ โดยคนกล่มุ ๒ และกลุม่ ๒
๓. นาข้อมลู /ชดุ ความจริงที่ถูกต้อง
เผยแพร่ใหส้ ังคมไดร้ ับรู/้ รับทราบ
ผ่านเวทีตา่ งๆ รวมทัง้ โซเชียลมเี ดีย
โดยคนกลมุ่ ๑-๓
๔
กลุม่ งาน กอ่ น/ตน้ น้า ระหวา่ ง/กลางน้า หลัง/ปลายนา้
๕. กลมุ่ สตรี
๑. ฝาก ชป.กร.หญิง ฉก.ทพ.๑๓ หน่วย ๑. ฝาก ชป.กร.หญงิ ฉก.ทพ.๑๓ หนว่ ย ๑. ฝาก ชป.กร.หญิง ฉก.ทพ.๑๓ หน่วย
ในพื้นท่ี (คนกลุ่ม ๒) ไปสร้างความ ในพืน้ ท่ี (คนกลุ่ม ๒) ไปสร้างความ ในพ้ืนท่ี (คนกลุ่ม ๒) สรา้ งความ
เข้าใจกบั กลุม่ สตรใี นพ้นื ที่ และให้ เข้าใจกับกลุ่มสตรใี นพื้นท่ีและ เขา้ ใจกับกลุ่มสตรใี นพนื้ ที่ และให้
กลมุ่ สตรีเปน็ ตวั แทนนาไปสรา้ งความ นาเสนอขอ้ เท็จจรงิ นาไปสร้างความ กลุ่มสตรีเป็นตัวแทนนาไปสรา้ งความ
เขา้ ใจกับประชาชนในพืน้ ทีใ่ ห้เขา้ ใจ เข้าใจกบั กลุม่ สตรีในการปฏิบัติในทุก เข้าใจกับประชาชนในพน้ื ที่ให้เขา้ ใจ
นาเสนอขอ้ เท็จจรงิ ที่ถูกต้อง ในความ ข้ันตอนของทกุ ภาคส่วนในการบังคับ ในการดาเนนิ งานของหนว่ ยความ
จาเป็นต้องมกี ารดาเนนิ การตาม ใช้กฎหมายจากเบาไปหาหนัก ม่นั คงท่มี กี ารดาเนนิ งานตาม
กฎหมายต่อกลุ่มบุคคล ๒. ตดิ ตามข้อมลู ข่าวสาร นาเสนอ มาตรการทางกฎหมาย นาเสนอ
๒. สรา้ งความเขา้ ใจกบั กลุม่ สตรใี นพนื้ ท่ี ข้อเทจ็ จรงิ นาไปสร้างความเข้าใจกับ ข้อเทจ็ จรงิ ที่ถูกต้อง ให้กาลังใจ
และให้กล่มุ สตรเี ป็นตวั แทนนาไป กลมุ่ สตรีในการปฏบิ ตั ใิ นทุกขน้ั ตอน ปลอบใจกลุม่ สตรที ี่ได้รบั ผลกระทบ
สร้างความเข้าใจกบั ประชาชนใน ของทกุ ภาคสว่ นในการบังคับใช้ ๒. สรา้ งความเขา้ ใจกับกลุ่มสตรีในพืน้ ที่
พน้ื ทใ่ี หเ้ ขา้ ใจ นาเสนอข้อเทจ็ จรงิ ที่ กฎหมายจากเบาไปหาหนัก และใหก้ ลมุ่ สตรีเป็นตวั แทนนาไป
ถูกตอ้ ง ในความจาเปน็ ต้องมีการ สร้างความเขา้ ใจกับประชาชนใน
ดาเนินการตามกฎหมายต่อกลมุ่ พน้ื ท่ใี ห้เข้าใจในการดาเนินงานของ
บุคคล หน่วยความม่นั คงท่ีมกี ารดาเนนิ งาน
ตามมาตรการทางกฎหมาย นาเสนอ
ข้อเทจ็ จริงท่ีถูกต้อง ใหก้ าลงั ใจ
ปลอบใจกลมุ่ สตรีทไี่ ดร้ บั ผลกระทบ
๕
กลุ่มงาน ก่อน/ต้นน้า ระหวา่ ง/กลางน้า หลัง/ปลายน้า
๖. กล่มุ สื่อ
๑. ตดิ ตอ่ ประสานงาน ๑. ตดิ ตามขอ้ มูลข่าวสาร ๑. สรา้ งความเขา้ ใจตอ่ ประชาชนในการ
๒. ลงพืน้ ทแ่ี จง้ ข้อมูลข่าวสารใหก้ บั
๒. ระมดั ระวังการปฏิบัตติ ่อต้านข่าว ดาเนินการของเจา้ หน้าทีภ่ าครฐั ใน
เครอื ข่ายคนกล่มุ ๓ เพ่ือเฝา้ ระวงั
๓. ประชาสัมพนั ธ์เกี่ยวกับการบังคับใช้ ปลอมโดยใช้เครอื ขา่ ยกลมุ่ สอ่ื มวลชน การบังคับใช้กฎหมาย เพื่อแกไ้ ข
กฎหมายในพืน้ ที่ จชต. โดยยดึ หลกั ในพื้นทใ่ี นการปกป้องสิทธิเสรภี าพ ปัญหาความรุนแรงและเสรมิ สร้าง
พ.ร.บ.กฎอยั การศกึ พ.ศ.๒๔๕๗,
พ.ร.บ.ความมน่ั คงภายใน ของประชาชนอย่างเทา่ เทยี มตาม สนั ตสิ ขุ ตามแนวทางสนั ติวิธี
ราชอาณาจกั ร พ.ศ.๒๕๕๑,
พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พ.ศ.๒๕๔๘ กระบวนการยตุ ิธรรม ๒. นาเสนอและเผยแพร่ข้อเท็จจรงิ ใน
การดาเนนิ ตามกระบวนการยตุ ธิ รรม
โดยเจ้าหน้าทีแ่ ละเครือข่ายคนกลมุ่
๓ (กล่มุ เน็ตไอดอล จชต.Net Idol)
เพื่อสรา้ งความเช่อื ม่นั ให้กับ
ประชาชนตามเจตนารมณ์ของ
ผอ.ศสว. “ให้ความรกั ชกั นาความดี
ตแี ผค่ วามจรงิ ”
๖
การทาแผนภูมคิ วามคิดหรือ Mind Mapping ถอื เปน็ การกระตุ้นสมองให้เกดิ ความคดิ ที่เปน็ อสิ ระจากปัญหาที่เป็นศนู ย์กลาง ออกไปสูว่ ธิ แี กป้ ัญหาตา่ งๆ
ทแ่ี ปลกและแตกตา่ งจากเดิม ซึ่งสามารถทาไดโ้ ดยเรมิ่ จากการเขยี นสาเหตขุ องปัญหาไว้กลางหน้ากระดาษ แลว้ ลากเส้นโยงออกมารอบๆ
๗
ขนั ตอนวิธใี นการเขียน Mind Map
๑. เร่ิมวาดที่จุด “กง่ึ กลาง” ของกระดาษกอ่ น เพราะว่าการเริ่มตน้ ท่ีจดุ กง่ึ กลางจะทาใหส้ มองของเราเปน็ อสิ ระ พร้อมทแ่ี ตกหนอ่ ความคิดออกไปยังทุกทศิ ทาง
๒. ใชร้ ูปภาพหรอื วาดรูปประกอบไอเดยี ทีค่ ณุ เพ่ิงจะเขยี นไปตรงจดุ ก่ึงกลาง เพราะวา่ รูปภาพมีความหมายนับล้านคา และยงั ช่วยใหเ้ ราได้ใช้จนิ ตนาการไปในตวั ด้วย
ภาพทอ่ี ยตู่ รงกงึ่ กลางจะดนู า่ สนใจเพ่ิมข้นึ ทาให้เรามจี ุดโฟกสั ที่แนน่ อน
๓. ใช้สหี ลากสีสนั สีจะทาใหส้ มองของคุณได้ตืน่ ตัว สีสนั จะทาใหด้ ูมีชวี ิตชีวานา่ อา่ นมากย่ิงขึ้น แถมการนง่ั วาดภาพระบายสมี นั ก็ไดฝ้ ึกความคดิ สรา้ งสรรค์
๔. วาด “กงิ่ ” ออกมาจากภาพตรงกลางแล้วแตกกิ่งกา้ นสาขาออกมาตามที่สมองเราจะคิดได้ ต้องให้เสน้ เชอ่ื มตอ่ กนั เพราะวา่ สมองของมนษุ ย์ทางานแบบเชือ่ มโยง
เขา้ หากนั
๕. วาดเส้นกิง่ ให้ “โค้ง” ดีกว่าวาดแบบ “เสน้ ตรง” เพราะเสน้ ตรงมันดนู ่าเบอ่ื และไม่น่าสนใจ
๖. ใช้เพียงแค่ “คีย์เวิรด์ ” เทา่ นัน้ สาหรบั เสน้ กิง่ แต่ละเสน้ และคีย์เวริ ด์ ต้องอยบู่ นเส้น เหตุผลที่เขยี นเฉพาะคยี ์เวริ ด์ เพราะวา่ คยี ์เวริ ์ดแบบโดดๆจะทาให้แมพ็ ของคุณ
ดูมีพลงั และยดื หย่นุ ได้