มาตรการรักษาความปลอดภัย
การดูแลช่วยเหลือและคมุ้ ครองนกั เรยี นในสงั กัดสำนักงาน
เขตพืน้ ท่ีการศึกษาประถมศึกษา ชุมพร เขต 2
สำนกั งานเขตพื้นท่กี ารศึกษาประถมศึกษา ชมุ พร เขต 2
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขนั้ พื้นฐาน
กระทรวงศกึ ษาธิการ
Leoyd’kog-9rnhomujdkiL7dKkxit5,L7dKk=6,r
คำนำ
เอกสารมาตรการรักษาความปลอดภัย การดูแลช่วยเหลือและคุ้มครองนักเรียน โรงเรียนในสังกัด
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชุมพร เขต 2 เล่มนี้ จัดทำขึ้นเพื่อใช้เป็นแนวทางในการดูแลความ
ปลอดภัย
นักเรียนทุกคนในโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชุมพร เขต 2 ด้านการป้องกันและ
แกไ้ ขอุบตั เิ หตุ เช่น อุบัติเหตุจากอาคารเรียน อาคารประกอบ อบุ ัติเหตุจากบรเิ วณสถานศกึ ษา สภาพแวดล้อม
ของสถานศึกษา เครื่องมือ เครื่องใช้ อุปกรณ์ต่างๆ การเดินทางไป –กลับ การพานักเรียนไปศึกษานอก
สถานศึกษา การรว่ มกิจกรรมสำคัญ อุบัติภัย เช่น อัคคีภัย วาตภัย อทุ กภัย ธรณพี บิ ตั ภิ ัย และปัญหาทางสังคม
เช่น การล่วงละเมิดทางร่างกาย และจิตใจ สารเสพติด การทะเลาะวิวาท การถูกล่อลวงการลักพา สื่อลามก
อนาจาร อบายมขุ ดา้ นสขุ ภาพอนามัยนักเรียน
การดำเนินงาน อาศัยนโยบายตามคู่มือแนวทางปฏิบัติและมาตรการรักษาความปลอดภัย การ
ดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน และคุ้มครองนักเรียนของสถานศึกษา ของสำนักงานคณะกรรมการ
การศึกษาขัน้ พ้นื ฐาน กระทรวงศกึ ษาธิการ
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชุมพร เขต 2 ขอขอบคุณผู้มีส่วนเก่ียวข้องทุกคนที่มี
ส่วนร่วม ในการจัดทำเอกสารฉบับนี้ใหม้ ีความสมบูรณ์ ใช้เป็นแนวทางในการดำเนินกการด้านความปลอดภัย
เพอ่ื เผยแพร่ให้สถานศกึ ษานำไปปฏิบตั ติ ่อไป
กลมุ่ สง่ เสริมการจัดการศึกษา
คูม่ ือ ขอ้ ปฏิบัติ และมาตรการรกั ษาความปลอดภัยในสถานศกึ ษา สำนกั งานเขตพ้ืนท่กี ารศกึ ษาประถมศกึ ษาชมุ พร เขต 2
สารบัญ
เรอ่ื ง หน้า
สว่ นที่ 1 บทนำ
1. ความสำคญั การดำเนนิ งานความปลอดภัยสถานศกึ ษา 1
2. วัตถปุ ระสงค์ 2
3. เป้าหมาย 2
4. ตัวชีว้ ัดความสำเร็จ 2
ส่วนท่ี 2 องค์ความรู้ด้านความปลอดภัย
1. นโยบายด้านความปลอดภัย 3-5
2. กฎหมายที่เกยี่ วข้อง 6 - 10
สว่ นที่ 3 การเสรมิ สร้างความปลอดภัยสถานศกึ ษา
1. มาตรการรกั ษาความปลอดภยั การดูแลช่วยเหลือและคุ้มครองนักเรยี น 11
1. วัตถปุ ระสงค์
2. เป้าหมาย
3. ยทุ ธศาสตร์
2. การวางแผนรักษาความปลอดภยั ของโรงเรียนในสังกัด 12
3. รูปแบบของแผนการรักษาความปลอดภยั ในสถานศกึ ษา 12 - 13
4. มาตรการปอ้ งกันและแก้ไขอบุ ตั ิเหตุ อบุ ัติภยั และปัญหาทางสังคม
ด้านการปอ้ งกันและแก้ไขอบุ ัตเิ หตุ 13 - 16
1. อบุ ตั ิเหตจุ ากอาคารเรยี นอาคารประกอบ
2. อบุ ตั เิ หตจุ ากบริเวณสถานศึกษา
3. อบุ ตั ิเหตุจากสภาพแวดลอ้ มของสถานศึกษา
4. อุบัตเิ หตจุ าเครือ่ งมอื เครอ่ื งใช้ และอุปกรณ์ต่างๆ
5. อุบตั เิ หตุจากการเดนิ ทาง ไป-กลับ ระหว่างบา้ น และสถานศกึ ษา
6. อุบตั เิ หตุจากการพานักเรียนไปศกึ ษานอกสถานศกึ ษา
7. อบุ ัติเหตจุ ากยานพาหนะรับ – ส่งนกั เรียน
8. อุบัติเหตุจากการนำนักเรยี นร่วมกจิ กรรมวันสำคัญ
ด้านการป้องกนั และแกไ้ ขอุบัติภยั 16 - 17
1. อัคคภี ัย
2. วาตภัย
3. อุทกภัย
4. ธรณพี ิบัติภยั
ดา้ นการป้องกันและแกไ้ ขปัญหาทางสังคม 18 - 23
1. การล่วงละเมดิ ทางรา่ งกายและจิตใจ
2. การทำร้ายตวั เองและการฆ่าตัวตาย
3. การใชส้ ารเสพตดิ
4. การอปุ โภคบริโภค
5. การทะเลาะววิ าท
ค่มู อื ขอ้ ปฏบิ ตั ิ และมาตรการรักษาความปลอดภยั ในสถานศึกษา สำนักงานเขตพืน้ ท่กี ารศกึ ษาประถมศกึ ษาชุมพร เขต 2
สารบญั
เร่อื ง หน้า
6. การถูกลอ่ ลวงและลักพา
7. สื่อลามกอนาจาร
8. อบายมุข
9. พฤตกิ รรมชู้สาว
10. อินเทอรเ์ น็ตและเกม
11. ดา้ นสขุ ภาพอนามยั และนกั เรยี น
12. ดา้ นสตั ว์มพี ิษ
ดา้ นการป้องกันำการตดิ เชอ้ื ไวรสั โคโรนา ( Covid 19) 23 - 25
ดา้ นความปลอดภัยในสถานศึกษา (Moe safety center) 25 - 26
ดา้ นการป้องกันอาชญากรรมไซเบอร์ 26 - 27
ดา้ นการป้องกันฝ่นุ PM 2.5 27 – 28
5. แบบประเมินผลการปฏบิ ัติงานตามมาตรการประกนั ความปลอดภยั ของนักเรยี น 29 – 31
6. แบบสรุปผลการประเมินสถานศกึ ษาที่ดำเนนิ การปฏิบตั ิงานตามคู่มอื ข้อปฏบิ ตั ิ 32
7. แบบรายงานผลการปฏิบตั ิงานตามคู่มอื ขอ้ ปฏบิ ัติติและมาตรการรกั ษาความปลอดภยั 33 - 34
ค่มู อื ขอ้ ปฏิบัติ และมาตรการรักษาความปลอดภยั ในสถานศกึ ษา สำนกั งานเขตพ้ืนทีก่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษาชุมพร เขต 2
ส่วนท่ี 1
บทนำ
ค่มู อื ข้อปฏบิ ตั ิ และมาตรการรกั ษาความปลอดภยั ในสถานศึกษา สำนักงานเขตพืน้ ที่การศึกษาประถมศกึ ษาชุมพร เขต 2
1
1. ความสำคัญจำเปน็ การดำเนินงานความปลอดภยั สถานศึกษา
ยุทธศาสตร์ชาติ ด้านที่ ๑ การจัดการศึกษาเพื่อความมั่นคงของสังคมและประเทศชาติ
มีวัตถุประสงค์หลักในการเสริมสร้างความมั่นคงในชีวิตของคนทุกช่วงวัย จากภัยคุกคามในรูปแบบใหม่
อาทิ อาชญากรรมและความรุนแรงในรปู แบบตา่ ง ๆ เชน่ ยาเสพติด ภัยพิบตั ิจากธรรมชาติ ภัยจากโรคอุบัติใหม่
และภัยจากไซเบอร์เป็นต้น แผนการศึกษาแห่งชาติ (พ.ศ.๒๕๖๐- ๒๕๗๙) จึงได้ตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลง
ทางการศึกษาที่เกิดจากความก้าวหน้าทางวิทยาการและเทคโนโลยีของโลกยุคศตวรรษที่ ๒๑ เป็นพลวัต
ท่กี ่อให้เกิดความท้าทายในด้านการเปลี่ยนแปลงของบริบทเศรษฐกิจและสังคมโลก อันเนื่องจาก
การปฏิวัติดิจิทัล (Digital Revolution) ประเทศเข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์ในอนาคตอันใกล้
การติดกับดักประเทศ ที่มีรายได้ปานกลาง ทัศนคติ ความเชื่อ ค่านิยม วัฒนธรรม และพฤติกรรม
ของประชากรท่ีปรับเปลี่ยนไปตามกระแสโลกาภิวัตน์เป็นผลให้เกิดการเร่งแก ้ไขปัญหาทั้งยังเกิดภัยคุกคาม
ต่อความมั่นคงรูปแบบใหม่ที่ส่งผลกระทบต่อประชาชน และประเทศชาติมีความซับซ้อนและรุนแรงมากข้ึน
ซึ่งภัยในแตล่ ะด้านล้วนมีความสำคญั ต่อการพัฒนาประเทศประกอบกับ นโยบาย Quick Win ๗ วาระเร่งด่วน
ข้อท่ี ๑ ความปลอดภัยของผเู้ รยี น กระทรวงศึกษาธิการมองเห็นภยั ทีเ่ กดิ แก่ นกั เรียน ครู และบคุ ลากรทางการ
ศึกษาที่เกิดขึ้นซํ้าและส่งผลกระทบต่อสภาพร่างกายและจิตใจใน หลายปีที่ผ่านมา เช่น ภัยจาก
การคุกคามทางเพศ ภัยจากการกลั่นแกล้งรังแก (Bully) รวมถึงภัยที่เกิดจากโรคอุบัติใหม่ ได้แก่
การแพร่ระบาดของโรคติด เชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID - 19) เป็นผลให้เป็นอุปสรรคต่อการเรียนรู้
และสวัสดิภาพชวี ิตของนักเรยี น ครู และบุคลากร ทางการศึกษา
นโยบายสำนกั งานคณะกรรมการการศึกษาขัน้ พ้นื ฐาน มุ่งม่ันในการพฒั นาการศึกษาขนั้ พนื้ ฐานให้เป็น
“การศกึ ษาขน้ั พ้นื ฐานวถิ ใี หม่ วิถีคณุ ภาพ” มุง่ เน้นความปลอดภัยในสถานศกึ ษา ส่งเสรมิ โอกาสทางการศกึ ษา
ท่ีมีคุณภาพอย่างเท่าเทียมและบริหารจัดการศึกษาอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมุ่งเน้นพัฒนาระบบ และกลไก
ในการดูแลความปลอดภัยให้แก่ผู้เรียน ครู บุคลากรทางการศึกษา และสถานศึกษา จากภัยพิบัติ
และภยั คุกคามทุกรูปแบบ รวมถึงการวดั สภาพแวดล้อมที่เอ้ือต่อการมสี ขุ ภาวะทดี่ ี สามารถปรับตวั ตอ่ โรคอุบตั ิใหม่
และอุบัติซํ้าส่งเสริมความปลอดภัยสร้างความมั่นใจให้สังคม เพื่อคุ้มครองความปลอดภัยแก่นักเรียน ครู
และบุคลากรทางการศึกษาสังกัด กระทรวงศึกษาธิการ เพื่อให้การป้องกัน ดูแล ช่วยเหลือหรือเยียวยา
และแก้ไขปัญหามีความเป็นเอกภาพ มีข้อมูลสารสนเทศที่เป็นระบบ สามารถแก้ไขปัญหาและบริหารจัดการ
ความเสี่ยงได้อย่างยั่งยืนด้วยการบริหารจัดการตามมาตรการ 3 ป ได้แก่ ป้องกัน ปลูกฝัง และปราบปรามให้
เกิดความปลอดภัยให้มากที่สุด และไม่ให้เกิดเหตุการณ์นั้นซ้ำอีก เพื่อสร้างความมั่นใจและความเชื่อมั่นให้แก่
นักเรียน ครูและบุคลากรทางการศึกษา ผู้ปกครอง และประชาชนทั่วไปในการที่จะได้เรียนรู้อย่างมีคุณภาพ
และเกิดความปลอดภัยอย่างมั่นคงและยั่งยืน เพื่อให้แนวทางการปฏิบัติสอดคล้องและเป็นระบบ
กระทรวงศึกษาธิการจึงได้จัดทำคู่มือการดำเนินงานความปลอดภัยสถานศึกษา เพื่อเป็นแนวทางในการสร้าง
ความปลอดภัยให้เกิดแก่นักเรียน เพราะความปลอดภัยเป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อคุณภาพและการ
เรียนร้ขู องผู้เรยี น
คมู่ อื ขอ้ ปฏบิ ัติ และมาตรการรักษาความปลอดภยั ในสถานศึกษา สำนกั งานเขตพ้นื ที่การศกึ ษาประถมศกึ ษาชมุ พร เขต 2
2
2. วัตถปุ ระสงค์
2.1 เพือ่ สร้างความรู้ความเขา้ ใจในการดำเนินงานความปลอดภัยสถานศกึ ษา
2.2 เพื่อสร้างความเขม้ แข็งการดำเนินงานความปลอดภยั สถานศกึ ษา
2.3 เพื่อดำเนินงานความปลอดภัยสถานศึกษาอยา่ งเป็นระบบ
2.4 เพอ่ื รายงานการดำเนนิ การดา้ นความปลอดภยั ต่อหนว่ ยงานต้นสังกดั
3. เปา้ หมาย
3.1 สถานศึกษามีแผนความปลอดภยั ตามบรบิ ทของสถานศึกษา
3.2 สถานศึกษามีการปฏิบัติที่เป็นเลิศในการเสริมสร้างความปลอดภัยสถานศึกษาเพื่อการพัฒนา
อยา่ งยัง่ ยนื
3.3 นักเรยี น ครูและบคุ ลากรทางการศกึ ษาได้รบั ความคุ้มครองดูแลใหม้ ีความปลอดภัย
3.4 สถานศกึ ษากบั หนว่ ยงานตน้ สังกดั หน่วยงานทีเ่ ก่ียวข้อง และภาคีเครอื ขา่ ยมสี ่วนร่วมใน
การดำเนินงานด้านความปลอดภัยสถานศกึ ษา
4. ตัวช้วี ัดความสำเรจ็
4.1 สถานศึกษาทกุ แห่งมีแผนความปลอดภัยตามบรบิ ทของสถานศึกษา
4.2 ร้อยละ ๘๐ ของสถานศึกษามีการปฏบิ ตั ิทีเ่ ปน็ เลิศในการเสริมสรา้ งความปลอดภยั สถานศกึ ษา
เพอ่ื การพัฒนาอยา่ งย่ังยนื
4.3 นกั เรียน ครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษาทกุ คนไดร้ ับความคมุ้ ครองดูแลให้มคี วามปลอดภยั
4.4 ร้อยละความร่วมมือระหว่างสถานศกึ ษากับหน่วยงานตน้ สงั กดั หนว่ ยงานทเ่ี กยี่ วข้องและภาคี
เครอื ข่ายมีสว่ น
คมู่ ือ ขอ้ ปฏบิ ัติ และมาตรการรกั ษาความปลอดภัยในสถานศกึ ษา สำนกั งานเขตพนื้ ทีก่ ารศึกษาประถมศกึ ษาชมุ พร เขต 2
ส่วนท่ี 2
องคค์ วามรดู้ ้าน
ความปลอดภัย
ค่มู ือ ขอ้ ปฏิบตั ิ และมาตรการรกั ษาความปลอดภัยในสถานศึกษา สำนักงานเขตพนื้ ท่กี ารศึกษาประถมศกึ ษาชุมพร เขต 2
3
การศกึ ษามีความสำคญั ต่อการพัฒนาประเทศ ในฐานะท่เี ป็นกระบวนการหน่งึ ที่มีบทบาทโดยตรงต่อ
การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้มีคุณภาพสอดคล้องกับความต้องการและทิศทางของประเทศ การศึกษา
จึงหมายถึง การพัฒนาบุคคลให้มีความเจริญ งอกงามทุกด้าน ทั้งร่างกาย สติปัญญา อารมณ์ และสังคม
การสร้างความปลอดภัยให้แก่นักเรียนเป็นสิ่งสำคัญ เพราะความปลอดภัยเป็นปัจจัยท่ีส่งผลกระทบโดยตรง
ต่อคุณภาพการเรียนรู้ของนักเรียน การพัฒนาทรัพยากรบุคคลให้ประสบผลสำเร็จตามเป้าประสงค์
ขึ้นอยู่กับความสุขและการมีชีวิตที่ปลอดภัยทั้งภายในและภายนอกสถานศึกษา สามารถป้องกันหรือ
ได้รับการป้องกันตนเองจากปัจจัยเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ มีความรู้ ความเข้าใจ จิตสำนึก และเจตคติที่ดี
และมีทักษะในการป้องกันภัย สามารถหรือได้รับการแก้ไขปัญหา ช่วยเหลือ เยียวยา ฟื้นฟู และดำเนินการ
ตามขั้นตอนของกฎหมาย ดังนั้นจึงเป็นภารกิจสำคัญที่กระทรวงศึกษาธิการโดยสำนักงานคณะกรรมการ
การศกึ ษาข้ันพ้ืนฐาน ที่จะต้องมแี นวนโยบายสถานศึกษาปลอดภยั ใหเ้ กดิ ขึ้น
1. นโยบายด้านความปลอดภัย
แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 (พ.ศ. 2560 – 2564) ได้กำหนดแนวทาง
การบริหารจัดการเพื่อลดความเสี่ยงด้านภัยพิบัติเพื่อให้เกิดความเสียหายน้อยที่สุด และนำไปสู่การพัฒนาท่ี
ย่ังยืน มรี ายละเอียดดงั น้ี
1. บูรณาการการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติเข้าสู่กระบวนการวางแผน ทั้งระดับชาติระดับชุมชน
ท้องถิ่นและสาขา การผลิตต่าง ๆ พัฒนาองค์ความรู้ สนับสนุนการประเมินและจัดทำแผนที่ความเสี่ยง
จากภัยพบิ ตั ิในพนื้ ท่แี ละภาคการผลิต ที่มลี ำดบั ความสำคัญสงู
2. เสริมสร้างขีดความสามารถในการเตรียมความพร้อมและการ รับมือภัยพิบัติ สนับสนุน
การจัดทำแผนรับมือภัยพิบัติในระดับพื้นท่ี ส่งเสริมแนวทางการจัดการภัยพิบัติโดยมีชุมชนเป็นศูนย์กลาง
ส่งเสริมภาคเอกชนในการจัดทำแผนบริหาร ความต่อเนื่องของธุรกิจ สร้างจิตสำนึกความปลอดภัยสาธารณะ
ส่งเสริมบทบาทของภาคเอกชนและชุมชนท้องถิ่นในการร่วมกัน ดำเนินการป้องกัน และลดความเสี่ยง
จากภัยพิบตั ิ
3. พัฒนาระบบการจัดการภัยพิบัติในภาวะฉุกเฉินพัฒนาระบบการเตือนภัยให้มีความแม่นยำ
น่าเชื่อถือ และมีประสิทธิภาพ ส่งเสริมกลไกการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารผ่านเทคโนโลยีสมัยใหม่ พัฒนาระบบ
ฐานข้อมูลให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน และสามารถเชื่อมโยง แลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างหน่วยงานทั้งใน
และต่างประเทศได้ พัฒนากลไกบูรณาการความร่วมมือทุกภาคส่วนเพื่อเพิ่มศักยภาพการจัดการภัยพิบัติ
ในภาวะฉกุ เฉิน
4. พัฒนาระบบการฟื้นฟูบูรณะหลังการเกิดภัย ให้สามารถตอบสนองต่อความต้องการของ
ผู้ประสบภัยได้อย่างทั่วถึงและเป็นธรรม ยกระดับมาตรฐานการตรวจสอบความปลอดภัยภายหลังการเกิดภัยพิบัติ
และปรับปรุงมาตรฐานความปลอดภัยของสิ่งก่อสร้างและโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงพัฒนามาตรฐานความ
ปลอดภยั ของโครงสรา้ ง
แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2560 – 2579 ได้กำหนดยุทธศาสตรใ์ นการพัฒนาการศึกษาภายใต้
6 ยุทธศาสตร์หลักที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ ๒๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๑ – ๒๕๘๐) เพื่อให้
แผนการศึกษาแห่งชาติบรรลุเป้าหมายตามจุดมุ่งหมาย วิสัยทัศน์ และแนวคิดการจัดการการศึกษา
โดยได้กำหนดในยุทธศาสตร์ที่ ๑ การจัดการศึกษาเพื่อความมั่นคงของสังคมและประเทศชา ติ
ปัจจบุ นั ภยั คกุ คามต่อความมนั่ คงรปู แบบใหม่ท่สี ่งผลกระทบต่อประชาชนและประเทศชาติมคี วามซับซ้อน
ค่มู อื ข้อปฏบิ ตั ิ และมาตรการรกั ษาความปลอดภยั ในสถานศกึ ษา สำนกั งานเขตพืน้ ที่การศึกษาประถมศกึ ษาชมุ พร เขต 2
4
และรุนแรงมากขึน้ อาทิ ความรุนแรงในรูปแบบตา่ ง ๆ ยาเสพตดิ ภยั พิบตั จิ ากธรรมชาติ ภยั จากโรคอุบัติใหม่
ภัยจากไซเบอร์ เป็นต้น ความมั่นคงของชาติจึงมิได้ครอบคลุมเฉพาะมิติด้านการทหารหรืออำนาจอธิปไตร
เท่านั้น แต่ยังครอบคลุมมิติต่างๆ ทั้งเศรษฐกิจ สังคม วิถีชีวิต วัฒนธรรม วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ฯลฯ
ซึ่งในแต่ละมิติล้วนมคี วามสำคัญตอ่ การพัฒนาประเทศ การป้องกันภัยคุกคามเหล่านี้จะตอ้ งพิจารณาในมิติที่
มีความเชื่อมโยงกัน และการดำเนินการเพื่อวางรากฐานและกลไก การสร้างความมั่นคงเพื่อป้องกัน
และป้องปรามภัยเหล่านี้ไว้นั้นจะต้องเริ่มที่กระบวนการจัดการศึกษาของประเทศ การดูแลและป้องกันภัย
คุกคามในรูปแบบใหม่ ไม่ว่าจะเป็นอาชญากรรม ความรุนแรงในสังคมในรูปแบบต่าง ๆ ยาเสพติด ภัยพิบัติ
จากธรรมชาติ ภัยจากโรคอุบัตใิ หม่ ภัยจากไซเบอร์ เพื่อส่งเสริมให้เกิดความปลอดภยั และความมั่นคงในชวี ิต
ลดความเส่ยี งจากภยั คุกคามต่าง ๆ
ดงั น้นั การจัดการศกึ ษาครอบคลุมประเด็นหลักสำคัญท่ีมผี ลดา้ นความม่ันคงแกค่ นในชาติจะส่งผลให้
ทุกคนมจี ติ สำนึก ความรู้ ความสามารถ ทกั ษะ ความคดิ ทศั นคติ ความเช่อื คา่ นิยม และพฤตกิ รรมทเ่ี หมาะสม
รู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงของสังคม และโลกศตวรรษที่ ๒๑ สามารถดำรงชีวิตอยูในสังคมได้อย่างสันติ
และสงบสุข อันจะส่งผลให้สังคมและประเทศเกิดความมั่นคง ธำรงรักษาอธิปไตย และผ่านพ้นจากภัย
คุกคามตา่ งๆ ได้
ความเข้าใจเกีย่ วกับกรอบความปลอดภัยรอบด้านในโรงเรียน (Comprehensive School Safety
Framework : CSSF) ได้ปรากฏอยู่ในกรอบการดำเนินงานระดับโลก ทั้งที่เป็นกรอบความคิดริเริ่ม และข้อตกลง
หลายฉบบั CSSF ตั้งอยูใ่ จกลางของกรอบการดำเนนิ งานที่ทับซ้อนกนั หลายดา้ น ได้แก่ เป้าหมายการพัฒนาที่
ยังยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) อนสุ ัญญาวา่ ด้วยสทิ ธิ คนพกิ าร (Convention on the
Rights of Persons with Disabilities: CRPD) การลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติ (Disaster Risk Reduction :
DRR) และsendai Framework for DRR โดยมีหลักการสำคัญ คือ การศึกษาเป็นสิทธิ ขั้นพื้นฐานของเด็ก
ซ่ึงชว่ ยใหป้ ระชาคมโลกเกิดความชัดเจนถึงภัยคุกคามจากภัยธรรมชาติ ความขัดแย้ง ความรนุ แรง และการพลัดถ่ิน
ความปลอดภัยรอบดา้ นในโรงเรียน เปา้ หมายของความปลอดภยั รอบดา้ นในโรงเรียน
เพอ่ื คมุ้ ครองนักเรยี นและบุคลากรดา้ นการศึกษาจาก เพือ่ ใหโ้ รงเรยี นวางแผนจดั การศกึ ษา
การเสียชวี ติ การบาดเจ็บ และอนั ตรายในโรงเรียน ต่อเน่อื งแม้ในระหวา่ งที่เกิดภัยพิบัติ
เพ่ือปกปอ้ งการลงทุนในภาคการศึกษา เพือ่ สร้างความเข้มแข็งในการลดความ
เสย่ี งและการฟื้นตวั ของภาคการศกึ ษา
ค่มู อื ขอ้ ปฏบิ ัติ และมาตรการรกั ษาความปลอดภัยในสถานศกึ ษา สำนกั งานเขตพ้นื ทีก่ ารศึกษาประถมศกึ ษาชมุ พร เขต 2
5
สามเสาหลักของความปลอดภยั รอบดา้ นในโรงเรยี น
ความปลอดภัยรอบด้านในโรงเรียน ซึ่งอยู่ภายใต้นโยบายและการปฏิบัติด้านการศึกษา
มีความสอดคล้องกับการบริหารจดั การภยั พบิ ตั ิ ในระดับสากล ระดับประเทศ ภูมภิ าค จังหวัด และระดบั พืน้ ที่
รวมทัง้ ในโรงเรียน
กรอบแนวคดิ ความปลอดภยั รอบด้านในโรงเรยี น ประกอบดว้ ยสามเสาหลกั (Three Pillars) ได้แก่
ด้านอาคารสถานทแ่ี ละส่งิ อำนวยความสะดวกใน
โรงเรียนท่ปี ลอดภยั (Safer Learning Facilities)
ดา้ นการบรหิ ารจัดการภัยพิบัตใิ นสถานศึกษา
(School Disaster Management)
ดา้ นการศึกษาดา้ นการลดความเสยี งและการรรู้ บั ปรับตัวจาก
ภัยพิบตั ิ (Risk Reduction and Resilience Education)
รากฐานของการวางแผนสำหรับความปลอดภัยรอบด้านในโรงเรียน คือ การจัดทำการประเมิน
ความเสี่ยงแบบภัย หลายชนิด การวางแผนนี้ควรเป็นส่วนหนึ่งของระบบข้อมูลการจัดการการศึกษาใน
ระดับประเทศ ระดับภูมิภาคและในระดับ พื้นที่ข้อมูลเรื่องความเสี่ยงจากภัยพิบัติเป็นส่วนหนึ่งของการ
วิเคราะห์นโยบายของภาคการศึกษาและการจัดการในภาพรวมซึ่งจะให้ข้อมูลเซิงประจักษ์และหลักฐานที่
สำคัญสำหรบั การวางแผนและการดำเนนิ งาน
ความปลอดภัยรอบด้านในโรงเรียนและความสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน
(Sustainable Development Goals) พ.ศ. ๒๕๕๘ - ๒๕๗๓ และกรอบการดำเนินงานเ ซน ได
เพื่อการลดความเสี่ยง จากภัยพิบัติ พ.ศ. ๒๕๕๘ – ๒๕๗๓ ผลสัมฤทธฃิ์ องการบูรณาการความปลอดภัย
รอบด้านในโรงเรียนเข้าไปในกรอบการพัฒนาที่ยั่งยืน นโยบายและการลดความเสี่ยง ภัยพิบัติเรื่อง
การลดความเสย่ี ง ได้แก่
๑) ปรบั ปรุงการเขา้ ถึงการศกึ ษาของเดก็ อย่างเทา่ เทียม ไมเ่ ลอื กปฏบิ ตั ิ และปลอดภยั
๒) พัฒนาและสร้างความเข้มแข็งให้แก่สถาบัน กลไกและเครือข่ายประสานงาน รวมทั้งศักยภาพ
ระดับประเทศในการสร้างความสามารถในการรู้รับปรับตัวและพ้ืนคนกลับคืน (Resilience) จากภัย
และอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นแก่ภาคการศึกษา ทั้งในระดับนานาชาติ ระดับชาติ ระดับภูมิภาค
และระดับทอ้ งถ่ิน
๓) บูรณาการแนวทางการลดความเสี่ยงเข้าไปในการดำเนินงานเกี่ยวกับการเตรียมพร้อมรับภัย
ฉกุ เฉินการตอบสนอง และการพืน้ ฟจู ากภยั พบิ ตั ิในภาคการศึกษา
4) ตดิ ตามและประเมินผลความกา้ วหนา้ ของการดำเนินงานดา้ นการลดความเสีย่ งภัยพิบตั ิและความ
ขดั แย้ง
คมู่ ือ ข้อปฏบิ ตั ิ และมาตรการรักษาความปลอดภยั ในสถานศึกษา สำนักงานเขตพืน้ ทกี่ ารศึกษาประถมศึกษาชมุ พร เขต 2
6
5) เพ่มิ จำนวนและความสามารถในการเขา้ ถึงข้อมลู หลักฐานทเี่ ก่ยี วกบั ภัย เช่น ขอ้ มูลเก่ียวกับระบบ
เตือนภัยล่วงหน้า สำหรับภัยหลายชนิด (multi-hazard early warning system) และข้อมูลเกยี่ วกับความ
เสี่ยงภยั พิบตั ิ
2. กฎหมายทเี่ กี่ยวข้อง
พระราชบญั ญัติคุ้มครองเดก็ พ.ศ. 2546
สาระสำคญั
พระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. ๒๔๔๖ ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๒๐ ตอนที่ ๙๔ ก
วันที่ ๒ ตุลาคม ๒๔๔๖ มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ ๓๐ มีนาคม ๒๔๔๗ สาระสำคัญของ พ.ร.บ. ฉบับนี้เกี่ยวกับ
เรื่อง สิทธิเสรีภาพของเด็กและเยาวชนที่ต้อง ได้รับความคุ้มครองจากรัฐโดยไม่เลือกปฏิบัติ และคำนึงถึง
ประโยชนส์ งู สุดของเดก็ เปน็ สำคญั พ.ร.บ. ฉบบั น้ี มที ้งั หมด 9 หมวด 88 มาตราดว้ ยกนั แยกเปน็ มาตรา 1 –
6 อธิบายความหมายเกีย่ วข้องกับ พ.ร.บ. ฉบับน้ี
ระเบยี บ กฎหมายความผดิ เก่ียวกับเพศ และความผดิ ต่อเสรภี าพ
พรากผู้เยาว์
ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๑๗ บญั ญัตวิ ่า ผู้ใดโดยปราศจากเหตุอนั สมควรพรากเด็กอายุ
ยังไม่เกินสิบห้าปี ไปเสียจากบิดา มารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ ๓ ปี ถึง ๑๕ ปี
และปรับ ตั้งแต่ ๖,๐๐๐ บาท ถึง ๓๐,๐๐๐ บาท ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๑๘ บัญญัติว่า
ผู้ใดพรากผู้เยาว์อายุกว่าสิบห้าปีแต่ยังไม่เกินสิบแปดปีไปเสีย จากบิดา มารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล
โดยผู้เยาว์นั้นไม่เต็มใจไปด้วย ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ ๒ ปีถึง ๑๐ ปี และปรับตั้งแต่ ๔,๐๐๐ บาท
ถึง 20,000 บาท ความผิดฐานพรากเด็กหรือพรากผู้เยาว์ เป็นการพาเด็กหรือผู้เยาว์ไป หรือแยกเด็ก
หรือผเู้ ยาวอ์ อกไปจากความปกครองดแู ลของบิดา มารดา หรอื ผปู้ กครองของเด็กหรือผู้เยาว์ หากการพรากเด็ก
ค่มู อื ข้อปฏบิ ัติ และมาตรการรักษาความปลอดภยั ในสถานศกึ ษา สำนกั งานเขตพนื้ ที่การศึกษาประถมศกึ ษาชมุ พร เขต 2
7
หรอื ผเู้ ยาวไ์ ปเพื่อการ อนาจาร เช่น พาไปกอดจบู ลบู คลำ ผู้น้นั จะต้องได้รับโทษหนักยิ่งข้ึน โดยเฉพาะหากมี
การร่วมประเวณีหรือมีเพศสัมพันธ์ ผู้นั้นจะต้องถูกดำเนินคดีข้อหาข่มขืนกระทำชำเราอีกข้อหาหน่ึง
มีโทษหนักมาก แม้ผู้เยาว์นัน้ จะยินยอมไปด้วย ผู้ที่พรากก็ต้อง มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา
๓๑๙ ซึ่งบัญญัติว่า ผู้ใดพรากผู้เยาว์อายุเกินกว่าสิบห้าปีแต่ยังไม่เกินสิบแปดปีไปเสียจากบิดา มารดา
ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล เพื่อหากำไร หรือเพื่อการอนาจาร โดยผู้เยาว์นั้นเต็มใจไปด้วย ต้องระวางโทษจำคุก
ตั้งแต่ ๒ ปี ถึง ๑๐ ปี และปรับตั้งแต่ ๔,๐๐๐ บาท ถึง ๒๐,๐๐๐ บาท เซน่
“แดงพบเด็กหญิงเขียว จึงชวนไปเที่ยวค้างคืนที่พัทยาโดยไม่ได้
ขออนุญาตจากบิดามารดาของเด็กหญิงเขียว แม้แดงจะไม่ได้
ล่วงเกินเด็กหญิงเขียวก็ตาม ถือว่ามีความผิดฐานพรากเด็กไปเสีย
จากบิดามารดาโดยปราศจากเหตอุ ันสมควร หากแดงล่วงเกินทาง
เพศหญิงเขียว แดงจะต้องได้รับโทษทห่ี นกั ขนึ้ ”
กระทำอนาจาร
ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๒๗๘ บัญญัติว่า ผู้ใดกระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่าสิบห้าปี
โดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยบุคคลนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้
หรือโดยทำให้บุคคลนั้นเข้าใจผิดว่าตนเป็นบุคคลอื่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน ๑๐ ปี หรือปรับไม่เกิน
๒๐,๐๐๐ บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๗๙ บัญญัติว่า ผู้ใด
กระทำอนาจารแก่เด็กอายุไมเ่ กินสิบห้าปี โดยเด็กนั้นจะยนิ ยอมหรือไม่ก็ตาม ต้องระวางโทษจำคุก ไม่เกิน ๑๐
ปี หรือปรับไม่เกิน ๒๐,๐๐๐ บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ความผิดฐานกระทำอนาจารเป็นการกระทำที่น่าอับอาย
น่าบัดสี ลามก เซ่น กอด จูบ ลูบคลำ หรือจับอวัยวะเพศหญิง หน้าอก รวมถึงการจับเนื้อต้องตัวหญิงก็ตาม
ก็ถือวา่ เป็นความผิด ข้อหากระทำอนาจาร แมว้ า่ เดก็ ท่ถี ูกกระทำจะยินยอมให้กระทำการดังกลา่ วกย็ ังมีความผิด
หากเดก็ นน้ั อายไุ มเ่ กนิ สบิ ห้าปี เช่น
คมู่ อื ขอ้ ปฏบิ ัติ และมาตรการรักษาความปลอดภยั ในสถานศกึ ษา สำนกั งานเขตพน้ื ที่การศึกษาประถมศึกษาชมุ พร เขต 2
8
ขม่ ขืน กระทำชำเรา
ตามประมวลตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๗๖ บัญญัติว่า ผู้ใดข่มขืนกระทำชำเราหญิงอ่ืน
ซึ่งมิใช้ภริยาของตน โดยขู่เข็ญ ด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยหญิงอยู่ในภาวะที่ไม ่
สามารถขัดขืนได้ หรือโดยทำให้หญิงเข้าใจผิดว่าตนเป็นบุคคลอื่น ต้องระวางโทษจำคุกตัง้ แต่ ๔ ปี ถึง ๒๐ ปี
และปรับตั้งแต่ ๘,๐๐๐ บาท ถึง ๔๐,๐๐๐ บาท ความผิดฐานข่มขืนกระทำชำเราเป็นการบังคับใจ ฝืน
ใจ,หญงิ อืน่ มิใชภ่ ริยา'ของตน โดยหญิงนน้ั ไมย่ นิ ยอม หรอื ใช้กำลังบงั คับจนหญิงนนั้ อยู่ในภาวะท่ีไม่สามารถขัด
ขืนได้ จนผูก้ ระทำผดิ ลว่ งเกนิ ทางเพศ หรือมเี พศสัมพันธ์กับหญิงนั้น หากเปน็ การขม่ ขืนกระทำชำเราเด็กหญิง
อายุไม่เกินสิบห้าปี ซึ่งมิใช้ภริยาของตน โดยเด็กหญิงนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตามผู้นั้นจะต้องได้รับโทษจำคุก
ต้ังแต่ ๔ ปี ถงึ ๒๐ ปี และปรับตัง้ แต่ ๘,๐๐๐ บาท ถึง ๔๐,๐๐๐ บาท เชน่ นายหมึกไดไ้ ซก้ ำลงั ฉุดนางสาวนุ่น
อายุ ๒๒ ปี ในขณะที่นางสาวนุ่นกำลัง กลับจากที่ทำงานและนำนางสาวนุ่นไปกักขังไว้พร้อมทั้งข่มขืน
กระทำชำเราเข่นนี้ นายหมึกมีความผิดข่มขืนกระทำชำเรา และกักขังหน่วงเหนี่ยวร่างกายผู้อื่น ต้องระวาง
โทษจำคุกตัง้ แต่ ๔ ปี ถึง ๒๐ ปี และปรบั ตงั้ แต่ ๘,๐๐๐ บาท ถงึ ๔๐,๐๐๐ บาท
ระเบยี บ กฎหมายความผดิ เกย่ี วกบั ยาเสพติดใหโ้ ทษ
ยาเสพติดให้โทษ หมายถึง สารเคมี หรือวัตถุพิษ ชนิดใดชนิดหนึ่ง ซึ่งเมื่อเสพเข้าสู่ร่างกาย ไม่ว่าจะ
โดยรับประทาน ดม สูบฉีด หรือด้วยประการใดๆ แล้วทำให้เกิดผลต่อร่างกาย และจิตใจในลักษณะสำคัญ
เชน่ ตอ้ งเพ่ิมขนาดการเสพขึน้ เป็นลำดับ มีอาการถอนยาเม่ือขาดยามีความต้องการเสพท้งั ร่างกาย และจิตใจ
อย่างรุนแรงอยตู่ ลอดเวลา และสุขภาพโดยทว่ั ไปจะ ทรดุ โทรมลง
เสพ หมายถึง การรบั ยาเสพติดให้โทษเข้าสูร่ า่ งกาย ไม่ว่าด้วยวธิ ีใดๆ ยาเสพตดิ ให้โทษ แบง่ ออกเปน็
๕ ประเภท คือ
คู่มือ ข้อปฏบิ ัติ และมาตรการรักษาความปลอดภัยในสถานศึกษา สำนักงานเขตพน้ื ทีก่ ารศึกษาประถมศกึ ษาชมุ พร เขต 2
9
ความผิดเก่ียวกบั ยาเสพตดิ ให้โทษ
เสพกัญชา
ตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษพ.ศ.๒๕๒๒มาตรา 92 บัญญัติว่าผู้ใด
เสพยาเสพติดให้โทษประเภท ๕ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน ๑ ปี
หรอื ปรบั ไมเ่ กิน ๒๐,๐๐๐ บาท หรอื ท้ังจำทงั้ ปรับ ดังน้นั ผใู้ ดเสพกัญชาไม่ว่า
ด้วยวิธีการใดๆ เช่น เอากัญชาผสมบุหรี่แล้วสูบหรือเสพกัญชาโดยใช้
บ้องกัญชาถือว่าผู้นั้น มีความผิดฐานเสพยาเสพติด ให้โทษประเภท ๕ ซึ่งมี
โทษจำคุก ไมเ่ กนิ ๑ ปี หรือ ปรับไม่เกนิ ๒๐,๐๐๐ บาท
เสพยาบา้ หรือเฮโรอนี
ตามพระราชบญั ญตั ยิ าเสพตดิ ใหโ้ ทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๙๑ บัญญตั ิว่าผู้ใด
เสพยาเสพตดิ ให้โทษประเภท ๑ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ ๖ เดอื น ถงึ ๓ ปี
หรือปรับตั้งแต่ ๑๐,๐๐๐ บาท ถึง ๖๐,๐๐๐ บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ดังนั้นผู้ใด เสพยาเสพติดให้โทษประเภท ๑ เซ่น ยาบ้า เฮโรอีน
ไม่ว่าโดยวิธีการสูดดมจาก การรมควัน หรือฉีดเฮโรอีนเข้าเส้นเลือด สูดดม
เข้าทางจมูก ถือว่าผู้นั้นมีความผิดฐานเสพยาเสพติดให้โทษประเภท ๑
ซ่งึ มีโทษจำคกุ หนักกว่ากัญชา
เสพสารระเหย สารระเหย หมายความว่า สารเคมี หรือผลิตภัณฑ์ที่รัฐมนตรีประกาศว่าเป็น
สารระเหย เช่นกาวต่างๆ ผู้ติดสารระเหย หมายความว่า ผู้ซึ่งต้องใช้
สารระเหยบำบัดความต้องการของร่างกายและจติ ใจเปน็ ประจำความผิดฐาน
เสพสารระเหยนัน้ ตามพระราชกำหนดป้องกันการใช้สารระเหย พ.ศ. 2533
มาตรา 17 บัญญัติว่า “ห้ามมิให้ผู้ใดใช้สารระเหยบำบัดความต้องการของ
รา่ งกาย หรอื จติ ใจ ไม่ว่าโดยวธิ กี ารสูดดม หรือวธิ อี ่ืนใด หากผู้ใดฝา่ ฝืน มีโทษ
จำคกุ ไม่เกนิ 2 ปี หรอื ปรบั ไม่เกนิ 20,000 บาท หรอื ท้ังจำท้ังปรับ”
ความผดิ เกย่ี วกับครอบครองยาเสพตดิ ให้โทษ
ความผิดฐานครอบครองยาบ้าหรือเฮโรอีนตามพ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.๒๕๒๒มาตรา ๑๕
บัญญัติ ห้ามมิให้ ผู้ใดผลิต นำเข้า ส่งออก จำหน่าย หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดใหโ้ ทษในประเภท ๑
ซึ่งมาตรา ๖๗ บัญญัติวา ผู้ใดมีไว้ ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท ๑ โดยไม่ได้รับอนุญาต
ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ ๑ ปี ถึง ๑๐ ปี หรือปรับ ตั้งแต่ ๒๐,๐๐๐ บาท ถึง ๒๐๐,๐๐๐ บาท
หรือทั้งจำทั้งปรับหากผู้ใดครอบครองยาเสพติดให้โทษในประเภท ๑ ประเภทยาบ้า เกิน ๑๕ เม็ด
กฎหมายสันนิษฐานไว้ก่อนวา่ ผู้น้ันได้ครอบครองยาเสพติดใหโ้ ทษในประเภท ๑ ไวเ้ พ่อื จำหนา่ ยซึ่งมีอัตราโทษ
จำคุกตงั้ แต่ ๔ ปี ถงึ ตลอดชวี ิต
ค่มู ือ ขอ้ ปฏบิ ตั ิ และมาตรการรกั ษาความปลอดภยั ในสถานศกึ ษา สำนักงานเขตพืน้ ท่ีการศกึ ษาประถมศึกษาชมุ พร เขต 2
10
ระเบียบ กฎหมายความผิดเก่ยี วกบั การจราจรทางบก และการใชร้ ถ
ผู้ขับข่ีรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์จะต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่นายทะเ บียนเสียก่อน
โดยกล่าวคือ ต้องมีใบอนุญาตขับรถ หรือใบอนุญาตขับข่ีรถจักรยานยนต์ ซึ่งออกให้โดยนายทะเบียน
มิฉะนั้นจะมีความผิดตามพระราชบัญญัติ รถยนต์ พ.ศ.๒๕๒๒ มาตรา ๔๒ ซึ่งบัญญัติว่า
ผู้ขับรถต้องได้รับใบอนุญาตขับรถ และต้องมีใบอนุญาตขับรถ และสำเนาภาพถ่ายใบคู่มือจดทะเบียนรถใน
ขณะขบั รถ และมาตรา ๓๔ บัญญตั วิ ่า ผู้ใดขบั รถโดยไม่ได้รับใบอนุญาตขับรถต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน
หรือปรับไม่เกิน ๑,๐๐๐ บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ นอกจากนี้ ขณะขับรถหรือขับขี่รถจักรยานยนต์
สภาพร่างกายของผู้ขับข่ีจะต้องปกติ สมบูรณ์ไม่มีอาการหย่อนความสามารถในการขับข่ี หรืออาการเมาสุรา
หรือของเมาอย่างอื่นมิฉะนั้นผู้ขับข่ีจะต้องมีความผิดตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๑๖๐
วรรคสาม ซึง่ มโี ทษจำคกุ ไม่เกนิ ๓ เดือน หรือปรบั ตั้งแต่ ๒,๐๐๐ บาท ถงึ ๑๐,๐๐๐ บาท หรอื ท้งั จำทั้งปรับ
คมู่ อื ข้อปฏิบัติ และมาตรการรักษาความปลอดภยั ในสถานศกึ ษา สำนกั งานเขตพน้ื ท่ีการศกึ ษาประถมศกึ ษาชมุ พร เขต 2
ส่วนที่ 3
การเสริมสร้างความ
ปลอดภยั ในสถานศกึ ษา
ค่มู อื ข้อปฏบิ ตั ิ และมาตรการรกั ษาความปลอดภยั ในสถานศกึ ษา สำนักงานเขตพน้ื ท่ีการศึกษาประถมศกึ ษาชมุ พร เขต 2
11
มาตรการรกั ษาความปลอดภัย การดูแลชว่ ยเหลือและคุม้ ครองนกั เรียน
โรงเรยี นในสังกดั สำนักงานเขตพื้นทกี่ ารศึกษาประถมศึกษาชมุ พร เขต 2
*******************
1. มาตรการรักษาความปลอดภัย การดูแลชว่ ยเหลือและคมุ้ ครองนักเรยี น ของโรงเรียนในสังกัดสำนักงาน
เขตพืน้ ที่การศึกษาประถมศกึ ษาชมุ พร เขต 2
นกั เรยี น คอื หวั ใจของการจดั การศึกษา สำนักงานเขตพ้นื ทีการศกึ ษาประถมศกึ ษาชุมพร เขต 2
มีความตระหนักในความสำคัญ และเลง็ เห็นความจำเป็นเร่งด่วนทีผ่ ทู้ ่ีมสี ่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย จะต้องร่วมกันหา
แนวทางที่เป็นรูปธรรมในการดูแลชว่ ยเหลือนักเรยี นให้ได้เรียนรู้อย่างมีความสุข เป็นไปตามหลักสูตร มีทักษะ
ชวี ติ ที่จะดแู ลตนเองให้ปลอดภยั ท่ามกลางสภาพแวดล้อมทางสังคม อบุ ัตเิ หตุ และอุบตั ภิ ยั ทจี่ ะกอ่ ให้เกิดความ
เสียหายแก่นักเรียน ดังนั้นสำนักงานเขตพื้นทีการศึกษาประถมศึกษาชุมพร เขต 2 ซึ่งมีภารกิจและความ
รับผิดชอบในการจัดการศึกษา ต้องดำเนินการอย่างทั่วถึง มีคุณภาพ ความปลอดภัยของนักเรียนเป็นเรื่องที่มี
ความสำคญั ต่อการ จัดการศึกษาของสถานศึกษา เพราะนอกจากจะทำให้ให้นกั เรยี นไดเ้ รียนรู้อย่างมีความสุข
แล้ว ยงั มผี ลต่อการพัฒนาดา้ นอน่ื ๆ อีกด้วย
1) วัตถุประสงค์
(1) เพื่อให้มีรูปแบบแนวทางการรักษาความปลอดภัยของโรงเรียนในสังกัดด้านอุบัติเหตุ
ดา้ นอุบตั ภิ ยั และดา้ นปัญหาทางสังคม โดยอาศัยแนวคิดเชิงสร้างสรรค์ภายใตห้ ลักการกระจายอำนาจ การมีส่วน
รว่ ม และยดึ ประโยชนส์ ูงสุดของนักเรยี นเป็นสำคัญ
(2) เพื่อสร้างความเข้มแข็งระบบการรักษาความปลอดภัยของโรงเรียนในสังกัด ให้มีความ
พร้อม สามารถป้องกัน และแก้ไขสถานการณ์ปัญหาของนักเรียน ทั้งด้านอุบัติเหตุ อุบัติภัย และปัญหาทางสังคมที่
จะเกิดขึน้ กบั นกั เรียนอยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ
(3) เพื่อให้นักเรียนทุกคนได้รับการปกป้อง การดูแลช่วยเหลือ และคุ้มครองความปลอดภัย
ทั้งด้านร่างกาย และจิตใจ โดยนักเรียนจะได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด สามารถอยู่ในสังคมได้อย่างปลอดภัย
และมคี วามสุข
(4) เพื่อสร้างความตระหนักในการรักษาความปลอดภัยของโรงเรียนในสังกัด โดยการให้
ความรู้ ความเขา้ ใจ แก่ผู้ทรี่ ับผดิ ชอบ และผู้ที่มีสว่ นเก่ยี วขอ้ งกับการรักษาความปลอดภัยในโรงเรียน
2) เปา้ หมาย
(1) นักเรียนทุกคนในโรงเรียนในสงั กัดสำนักงานเขตพืน้ ที่การศึกษาประถมศึกษาชุมพร เขต
2 ไดร้ บั การคมุ้ ครองดูแลความปลอดภัย
(2) ผู้บริหารสถานศึกษา ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ผู้ปกครองนักเรียน
และผู้มสี ่วนเกยี่ วข้องมแี นวทางในการปอ้ งกันและรักษาความปลอดภยั นักเรยี น
(3) เครือข่ายหนว่ ยงานภาครัฐและเอกชน มีสว่ นร่วมในการดแู ลความปลอดภยั ใหแ้ กน่ กั เรียน
(4) ผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องกับนักเรียน เช่น รถรับ – ส่งนักเรียน พ่อค้า แม่ค้า ร้าน
คอมพวิ เตอร์ ระดับสถานศึกษา
3) ยทุ ธศาสตร์
(1) โรงเรียนในสังกัดจัดระบบการรักษาความปลอดภัยของนักเรียน โดยการมีส่วนร่วมของ
ครู ผ้ปู กครอง ผ้มู ีส่วนเกย่ี วข้อง และเครอื ขา่ ยทงั้ ภาครัฐและเอกชนอยา่ งมีประสิทธิภาพ
คู่มือ ข้อปฏิบัติ และมาตรการรักษาความปลอดภัยในสถานศึกษา สำนกั งานเขตพืน้ ที่การศกึ ษาประถมศกึ ษาชมุ พร เขต 2
12
(2) กำหนดมาตรการรกั ษาความปลอดภัยของนักเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นท่ีการศึกษา
ประถมศกึ ษาชมุ พร เขต 2
(3) มกี ารกำกบั ตดิ ตาม ประเมินผลและรายงาน
2. การวางแผนรกั ษาความปลอดภยั ของโรงเรียนในสงั กัด
แนวทางการวางแผนการรักษาความปลอดภัยให้แก่นักเรียน เน้นการมีส่วนร่วมระหว่างนักเรียน ครู
ผู้ปกครอง ชุมชน ผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง และเครือข่าย โดยร่วมกันวางแผนป้องกัน แก้ไข ควบคุม กำกับ ติดตาม
ประเมินผลและรายงาน จึงจำเป็นต้องมีมาตรการและกิจกรรมเพื่อให้รับประโยชน์สูงสุดตามเจตนารมณ์
ของพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2 ) พ.ศ.2545
และพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 พร้อมทั้งนโยบายของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้น
พื้นฐาน ดงั น้ี
ข้นั ตอน ภารกจิ
1.ศึกษาสภาพทั่วไป ศึกษาสภาพทั่วไปของโรงเรียน ชุมชน ความเข้มแข็งของเครือข่าย เพื่อวิเคราะห์
ความเสยี่ งจากการเกิดอบุ ตั ิเหตุ อบุ ัตภิ ัย ภยั จากสภาพแวดล้อม และภยั อ่นื ๆ
2.กำหนดมาตรการหลัก กำหนดมาตรการหลกั เพ่อื ปอ้ งกนั และ/หรือ แกไ้ ข
3.กำหนดมาตรการเสรมิ
กำหนดมาตรการเสริมให้เหมาะสมกับความเชื่อ วัฒนธรรมและประเพณี
ของท้องถน่ิ และสภาพความเสย่ี งของสถานศกึ ษา
4.กำหนดกจิ กรรม กำหนดกิจกรรมสนบั สนุนมาตรการหลักและมาตรการเสรมิ
5.กำหนดเวลาและผรู้ บั ผดิ ชอบ กำหนดเวลาและผูร้ บั ผดิ ชอบอย่างชัดเจน และสามารถปฏิบัตไิ ด้
3. รูปแบบของแผนการรักษาความปลอดภยั ในสถานศึกษา
สถานศึกษาสามารถเลือกรูปแบบของแผนการรักษาความปลอดภัยในสถานศึกษาให้เหมาะสมกับ
สภาพของสถานศกึ ษา สภาพภมู ศิ าสตร์ และความตอ้ งการของท้องถน่ิ โดยอาจกำหนดรปู แบบของแผน ดงั นี้
3.1 แผนพัฒนาระบบความปลอดภัยของนักเรียน เป็นแผนที่มุ่งสร้างเสริมความเข้มแข็งของระบบ
การรักษาความปลอดภัย สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมของสถานศึกษา และมีการพัฒนาระบบความปลอดภัย
อยา่ งตอ่ เน่อื งและมปี ระสิทธิภาพ เชน่
1) มโี ครงสร้างระบบการรกั ษาความปลอดภยั ในสถานศึกษาท่ชี ัดเจน
2) มีระบบควบคมุ ภายในเกีย่ วกบั การรักษาความปลอดภัยในสถานศกึ ษา
3) มีระบบเครอื ขา่ ยเพือ่ การมีสว่ นร่วมในการดูแลรักษาความปลอดภยั ในสถานศึกษา
4) มีระบบการสือ่ สารทม่ี ปี ระสิทธิภาพ
3.2 แผนป้องกันและแก้ไขอุบัติเหตุของนักเรียน โดยกำหนดให้ครอบคลุมประเภทของอุบัติเหตุที่เกิด
ขึน้ กบั นักเรยี น ได้แก่
1) ความบกพรอ่ งของอาคารเรยี นและอาคารประกอบ
2) บรเิ วณโรงเรียน เช่น รว้ั ประตู โรงเรียน บ่อนำ้ เขตกอ่ สรา้ ง เป็นต้น
3) สภาพแวดลอ้ มที่ไมเ่ อือ้ ตอ่ ความปลอดภัยในการดำรงชีวิต
4) เครอื่ งมอื เคร่ืองใชแ้ ละอุปกรณ์ในสถานศึกษา ท่ีอาจเปน็ อันตรายต่อนกั เรียน
คูม่ อื ขอ้ ปฏิบตั ิ และมาตรการรักษาความปลอดภยั ในสถานศึกษา สำนักงานเขตพืน้ ท่กี ารศึกษาประถมศึกษาชมุ พร เขต 2
13
5) การเดินทางไปและกลับระหว่างบ้านกับสถานศกึ ษา
6) การพานักเรียนไปศึกษานอกสถานท่ี
7) การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนภายในสถานศึกษา เช่น การเล่นกีฬา การอยู่ค่ายพัก
แรม การเขา้ ร่วมกจิ กรรมดา้ นอาชพี หรือกิจกรรมการทดลองทางวทิ ยาศาสตร์ เปน็ ต้น
3.3 แผนปอ้ งกนั และแกไ้ ขอุบตั ภิ ยั ในสถานศึกษา โดยกำหนดให้ครอบคลมุ ประเภทของอบุ ัตภิ ัย ที่เกดิ
ข้นึ กับนักเรียน ได้แก่
1) การเกดิ อัคคภี ัย
2) การเกดิ วาตภยั
3) การเกดิ อุทกภยั
4) การเกดิ ธรณพี ิบตั ภิ ัย
3.4 แผนรักษาความปลอดภัยในสถานศึกษา จากสภาพแวดล้อมทางสังคม โดยกำหนดให้ครอบคลุม
ประเภทของสภาพปญั หาทีจ่ ะเกิดขึน้ กบั นกั เรียน ไดแ้ ก่
1) การลว่ งละเมดิ ทางร่างกายและจติ ใจ
2) การทำรา้ ยตนเองและการฆ่าตัวตาย
3) การเสพสารเสพตดิ
4) การอุปโภคและบริโภค
5) การทะเลาะวิวาท
6) การถูกลอ่ ลวงและลกั พาตวั
7) ส่ือลามกอนาจาร
8) การมัว่ สมุ กบั อบายมขุ
9) พฤติกรรมช้สู าว
10) อินเทอร์เน็ตและเกม
4. มาตรการปอ้ งกนั และแก้ไขอุบัติเหตุ อุบตั ภิ ัย และปญั หาทางสงั คม
สาเหตุ มาตรการปอ้ งกนั และแก้ไข ผู้รบั ผดิ ชอบ
ดา้ นการป้องกันและแกไ้ ข 1. ตรวจสอบโครงสร้างและส่วนประกอบอาคารอย่าง 1.ผบู้ รหิ ารสถานศึกษา
อบุ ตั ิเหตุ
1. อบุ ตั เิ หตุจากอาคาร สมำ่ เสมอ 2.ครู บุคลากรที่
เรยี นอาคารประกอบ 2. แต่งตง้ั บคุ ลากรในการดูแลรักษาอาคารสถานที่ รบั ผดิ ชอบ
3. สร้างความตระหนักและให้ความรู้การรักษาความปลอดภัย 3.นักการภารโรง
แก่นักเรียน 4.ผปู้ กครอง
4. จดั ทำป้ายข้อควรระวงั ด้านความปลอดภัยในจดุ อนั ตราย 5.ชุมชน
5. ซ่อมแซมสว่ นประกอบอาคารใหอ้ ยใู่ นสภาพที่ปลอดภยั
6. จัดให้มีแผนการป้องกันและการเคลื่อนย้ายกรณีเกิดเหตุ
ฉุกเฉนิ
7. แต่งต้งั เวรยามรักษาความปลอดภัยในสถานศึกษา
ค่มู ือ ข้อปฏบิ ตั ิ และมาตรการรักษาความปลอดภัยในสถานศึกษา สำนักงานเขตพ้ืนทก่ี ารศึกษาประถมศกึ ษาชุมพร เขต 2
14
สาเหตุ มาตรการป้องกนั และแก้ไข ผรู้ ับผิดชอบ
2. อุบัติเหตจุ ากบรเิ วณ
1. แตง่ ตง้ั ครเู วรประจำวนั คอยควบคมุ กำกบั ตดิ ตามดแู ล 1.ผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษา
สถานศึกษา
การรักษาความปลอดภยั ตลอดทงั้ วัน 2.ครเู วรประจำวัน
3. อบุ ัติเหตจุ าก
สภาพแวดล้อมของ 2. จดั ใหม้ ีผูร้ ับผิดชอบปฐมพยาบาลเบ้ืองต้น และนำส่ง 3.ครูอนามัยโรงเรียน
สถานศึกษา
สถานพยาบาล 4.นกั การภารโรง
4. อบุ ัตเิ หตุจากเครอ่ื งมอื
เครอ่ื งใช้ และอุปกรณ์ 3. หลีกเลี่ยงการจัดกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการปีนป่ายในที่ 5.เจา้ หน้าท่ี รพ.สต.
ตา่ งๆ
สงู /บ่อนำ้ /สระน้ำ อยา่ งเขม้ งวด 6.นกั เรยี น
4. จดั ใหม้ ีเจา้ หนา้ ทีต่ ัดแต่งก่ิงไม้ให้อยู่ในสภาพทีป่ ลอดภัยเสมอ 7.ผู้ปกครอง
5. จดั ให้มปี า้ ยคำเตอื นเพือ่ หลกี เลย่ี งการเกิดอบุ ตั เิ หตุ
6. จัดให้มีความรู้และแนวทางปฏิบัติแก่นักเรียนในกรณีที่พบ
วัตถุ สิ่งแปลกปลอม ซงึ่ อาจเปน็ วัตถุระเบิดหรอื วัตถอุ ันตราย
7. ตดิ ตั้งไฟฟ้าสอ่ งสวา่ งรอบบรเิ วณสถานศึกษาและจุดเสีย่ ง
8. จดั ใหม้ รี ะบบการขออนุญาตออกนอกสถานศึกษา
9. จัดใหม้ ีการบำรุงดแู ลรักษาความสะอาดโดยรอบสมำ่ เสมอ
10. จัดใหม้ ีถังขยะแยกประเภทเพอ่ื สะดวกในการจัดเก็บและทำลาย
11. หลกี เลยี่ งการจัดซอ้ื อุปกรณ์กีฬาหรือเครอ่ื งเลน่ ที่อาจ
ก่อให้เกิดอนั ตรายไดง้ ่าย
1. มีการสำรวจสภาพปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม มลภาวะ 1.ผบู้ ริหารสถานศึกษา
ในสถานศกึ ษาและชุมชน เพ่อื หาแนวทางแก้ไข 2.ครู
2. แต่งตั้งคณะกรรมการ โดยใช้ชุมชนและองค์กรปกครอง 3.นักเรยี น
ส่วนท้องถ่นิ มีส่วนร่วมในการหาแนวทางป้องกันและแกไ้ ข 4.ผปู้ กครอง
3. ประสานงานกบั หน่วยงานอืน่ 5.ชุมชน
4. จดั กจิ กรรมสร้างจติ สำนึกและความตระหนักตอ่ ปัญหา
สิ่งแวดลอ้ มใหก้ บั นกั เรียน บคุ ลากรในสถานศึกษาและชมุ ชน
1. ตรวจสอบเครอ่ื งมือ เครอื่ งใช้ และอุปกรณต์ ่างๆ 1.ผบู้ รหิ ารสถานศึกษา
ก่อนใชท้ ุกครง้ั 2.ครู
2. หา้ มใชเ้ ครอ่ื งมือ เครอื่ งใช้ และอุปกรณ์ต่างๆ ที่ชำรุด 3.นักการภารโรง
3. แนะนำ สาธิต และควบคุมการใช้อย่างถูกวิธีตามประเภท 4.นักเรียน
ของอุปกรณเ์ ครื่องมอื เครอ่ื งใช้ เคร่อื งเลน่ สนาม 5.ผปู้ กครอง
4. จัดเกบ็ เครื่องมือ เคร่อื งใช้ อุปกรณ์ในท่เี กบ็ ทุกครง้ั อยา่ งเป็น 6.ชุมชน
ระเบียบปลอดภยั
5. กำกับ ดูแลนักเรียนในการใช้เครื่องมือ เครื่องใช้ อุปกรณ์
ให้ถกู ต้องเหมาะกบั ประเภทกิจกรรม
ค่มู ือ ข้อปฏิบตั ิ และมาตรการรกั ษาความปลอดภยั ในสถานศึกษา สำนักงานเขตพื้นท่กี ารศกึ ษาประถมศกึ ษาชมุ พร เขต 2
15
สาเหตุ มาตรการปอ้ งกนั และแก้ไข ผู้รับผิดชอบ
5. อบุ ัติเหตุจากการ
เดินทาง ไป-กลบั 1. สถานศึกษา ผู้ปกครอง และชุมชน ร่วมมือกันกำหนด 1.ผบู้ ริหารสถานศึกษา
ระหวา่ งบา้ น
มาตรการ รบั -สง่ นักเรียนตอนเชา้ และเลิกเรยี น 2.ครู
และสถานศกึ ษา
2. กำกับ ดูแลนักเรียนที่ใช้จักรยานและรถจักรยานยนต์ 3.นักการภารโรง
6. อุบัตเิ หตจุ ากการพา
นักเรยี นไปศกึ ษานอก ใหช้ ดิ ทางซ้ายและเปน็ แถว 4.นักเรียน
สถานศกึ ษา
3. จัดครูเวรประจำวันดูแลนักเรียนตรวจเช็คนักเรียนที่มี 5.ผู้ปกครอง
7. อุบัตเิ หตจุ าก
ยานพาหนะรบั - ส่ง ผ้ปู กครองมารับ 6.ชมุ ชน
นกั เรียน
4. แนะนำการเดินแถวกลบั บา้ นและให้พด่ี ูแลนอ้ ง 7.ผปู้ ระกอบการรับ-ส่ง
5. ทำกิจกรรมเกยี่ วกบั การฝกึ ปฏิบัตติ ามกฎจราจร
6. จัดครูเวรและนกั เรยี นคอย รบั -ส่ง นกั เรยี นทีป่ ระตเู ข้าออก
1. ศึกษาและปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วย 1 . ผ ู ้ บ ร ิ ห า ร
การพานักเรียนไปศกึ ษานอกสถานศกึ ษาโดยเครง่ ครัด สถานศึกษา
2. เตรียมการและวางแผนการดำเนินการอย่างชัดเจน 2.ครู
3. จดั ทำประวัตนิ กั เรยี นทีร่ ว่ มเดินทาง 3.ผรู้ ับผิดชอบ
4. จดั ครูคอยควบคมุ ดูแลให้อยูใ่ นระเบียบวินัย นกั เรยี นไปศึกษานอก
5. จัดใหม้ ีปา้ ยชื่อแสดงรายละเอยี ดนกั เรยี น สถานศึกษา
6. จัดให้มเี วชภัณฑท์ จี่ ำเป็นในการปฐมพยาบาลเบอื้ งต้น 4.ผ้ปู กครอง
7. ควบคุมดแู ลการซอื้ อาหารรบั ประทาน 5.ชุมชน
8. หากมีการใช้พาหนะรถยนต์ต้องแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ตรวจ 6.นักเรียน
สภาพรถยนตแ์ ละตรวจประวตั ิคนขบั เพ่ือความปลอดภัย
9. หลกี เลีย่ งกจิ กรรมท่มี คี วามเสี่ยงต่อการเกิดอนั ตราย
10. จดั ระบบดแู ลความปลอดภัยอยา่ งใกล้ชิด
11. ให้ความรนู้ กั เรยี นในการร่วมกิจกรรมอยา่ งปลอดภัยทุกคร้ัง
12. ตรวจดูความเหมาะสมของสถานทที่ ่ีปลอดภยั
13. ประสานงานเจ้าหน้าที่ด้านการรกั ษาความปลอดภยั ทอ้ งถนน
14. จัดทำประกนั ชีวิตใหก้ ับนักเรียน
1. ศึกษาและปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วย 1.ผบู้ ริหารสถานศึกษา
ยานพาหนะรับ – สง่ นักเรียน 2.ครู
2. ตรวจสอบยานพาหนะให้มีความเหมาะสมปลอดภัยต่อ 3.ผู้รบั ผิดชอบ
สภาพการใชง้ าน นกั เรยี นไปศึกษานอก
3. ตรวจสอบอปุ กรณท์ ีเ่ กี่ยวข้อง เชน่ ถังดบั เพลงิ ค้อน เปน็ ต้น สถานศกึ ษา
ประจำยานพาหนะ 4.ผ้ปู กครอง
4. ตรวจสอบประวัติคนขับ ความสามารถในการขับขี่ 5.ชมุ ชน
ใบอนุญาตการขับข่ี 6.นักเรียน
5. กำหนดให้มีพนักงานควบคุมเพื่อดูแลความปลอดภัยของ 7. ผปู้ ระกอบการ
ผู้โดยสาร รถ - รับสง่ นกั เรียน
ค่มู อื ข้อปฏบิ ัติ และมาตรการรกั ษาความปลอดภยั ในสถานศึกษา สำนกั งานเขตพน้ื ทก่ี ารศึกษาประถมศกึ ษาชุมพร เขต 2
16
สาเหตุ มาตรการป้องกนั และแก้ไข ผรู้ ับผิดชอบ
7. อุบตั ิเหตุจาก
ยานพาหนะรบั – สง่ 6. กำหนดแนวปฏิบัติในการโดยสารด้วยความปลอดภัยแก่ 1.ผ้บู รหิ ารสถานศกึ ษา
นกั เรียน (ต่อ)
นักเรียนและผู้จ้าง เช่น ห้ามห้อยโหน ปีนป่ายหยอกล้อขณะ 2.ครู
8. อบุ ตั เิ หตุจากการนำ
นกั เรียนรว่ มกิจกรรม รถยนต์เคล่อื นที่ 3.ผู้รับผิดชอบนักเรียน
วนั สำคัญ
7. ตรวจสอบจำนวนนกั เรยี นทุกครัง้ ท่มี กี ารขึน้ และลงรถยนต์ ไปศึกษานอกสถานศกึ ษา
ดา้ นการปอ้ งกันและแก้ไข
อุบตั ิภัย 8. จดั ทำปา้ ยชอื่ รถรับ – ส่งนักเรยี นให้เหน็ อยา่ งชดั เจน 4.ผู้ปกครอง
1. อคั คภี ยั
9. การประกนั ภยั โดยความสมคั รใจสำหรบั นักเรียน 5.ชุมชน
6.นักเรียน
7. ผปู้ ระกอบการ
รถ - รับส่งนกั เรยี น
1. หลกี เลย่ี งกิจกรรมที่มีความเสีย่ งต่อการเกดิ อันตราย 1.ผ้บู ริหารสถานศกึ ษา
2. จัดระบบดูแลความปลอดภัยอย่างใกล้ชิด 2.ครู
3. ใหค้ วามรู้นกั เรยี นในการร่วมกจิ กรรมอย่างปลอดภัยทุกครัง้ 3.นักการภารโรง
4. จัดครูคอยควบคมุ ดูแลใหอ้ ยูใ่ นระเบยี บวินยั ทุกครง้ั 4.ผูป้ กครอง
5. ตรวจดคู วามเหมาะสมของสถานที่ทปี่ ลอดภยั 5.ชมุ ชน
6. ประสานงานเจ้าหนา้ ทดี่ ้านการรักษาความปลอดภัยท้องถนน 6.เจา้ หนา้ ทต่ี ำรวจ
7. จดั เตรียมหนว่ ยปฐมพยาบาลเบือ้ งต้นทกุ คร้ัง 7.นกั เรียน
8. หากมีการใช้พาหนะรถยนต์ต้องแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ตรวจ 8.สภานกั เรียน
สภาพ รถยนต์ และตรวจประวตั ิคนขบั เพือ่ ความปลอดภัย
9. รายงานต้นสังกดั ทันที
1. แต่งตั้งกรรมการรับผิดชอบตรวจสอบอุปกรณ์อย่าง 1.ผ้บู รหิ ารสถานศกึ ษา
สม่ำเสมอ 2.ครู
2. ให้ความรู้และซกั ซ้อมนักเรียนเก่ยี วกบั การดับไฟ หนไี ฟ 3.นักการภารโรง
3. จัดให้มีเจ้าหน้าที่อยู่เวรรักษาการณ์ความปอลดภัย 4.ผู้ปกครอง
อย่างเคร่งครดั 5.ชมุ ชน
4. วางแผนรบั สถานการณ์ไว้ลว่ งหนา้ 6.เจ้าหน้าทต่ี ำรวจ
5. จัดแหล่งข้อมูลที่สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือไว้ 7.นักเรยี น
ล่วงหน้า 8.เจ้าหนา้ ท่บี รรเทา
6. กำจดั วัสดเุ ชอ้ื เพลงิ ในบริเวณสถานศกึ ษา อาคารและหอ้ งต่างๆ สาธารณภยั
7. จัดให้มีเครือข่ายองค์กรภาครัฐเอกชนเพื่อสามารถติดต่อขอ
ความช่วยเหลอื ทันที
8. รายงานต้นสังกัดทนั ที
ค่มู อื ข้อปฏบิ ตั ิ และมาตรการรักษาความปลอดภัยในสถานศึกษา สำนกั งานเขตพ้นื ทกี่ ารศึกษาประถมศึกษาชมุ พร เขต 2
17
สาเหตุ มาตรการปอ้ งกนั และแก้ไข ผู้รบั ผดิ ชอบ
2. วาตภยั 1. ให้ความรู้และซักซ้อมในการปฏิบัติตนแก่นักเรียนให้ 1.ผู้บริหารสถานศึกษา
3. อุทกภยั พน้ จากอนั ตราย 2.ครู
4. ธรณพี บิ ัตภิ ัย 2. จัดให้มีการอยู่เวรรักษาการณ์ความปลอดภัยสถานที่ 3.นกั การภารโรง
ราชการอย่างเคร่งครดั 4.ผปู้ กครอง
3. ตรวจสอบสภาพอาคารต่างๆอย่างสมำ่ เสมอ 5.ชมุ ชน
4. ตดั แต่งกิง่ ไมท้ ีอ่ ยู่ใกล้อาคาร 6.นกั เรยี น
5. ตดิ ตามขา่ วพยากรณอ์ ากาศสม่ำเสมอ
6. จัดใหม้ เี วชภัณฑท์ จ่ี ำเป็นในการปฐมพยาบาลเบ้อื งต้น
7. จดั ให้มีเครือขา่ ยองค์กรภาครัฐเอกชนเพอื่ สามารถติดต่อขอ
ความช่วยเหลือทนั ที
8. จัดแหล่งข้อมูลที่สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือไว้
ล่วงหนา้
9. รายงานตน้ สงั กัดทนั ที
1. ให้ความรู้และซักซ้อมในการปฏิบัติตนแก่นักเรียนให้พ้น 1.ผบู้ รหิ าร
จากอนั ตราย สถานศึกษา
2. จดั ให้มีการอยู่เวรรกั ษาสถานท่รี าชการ 2.ครู
3. ตรวจสอบสภาพอาคารตา่ งๆ อยา่ งสม่ำเสมอ 3.นกั การภารโรง
4. ติดตามข่าวพยากรณ์อากาศสมำ่ เสมอ 4.ผู้ปกครอง
5. จดั ใหม้ ีเวชภณั ฑ์ท่จี ำเปน็ ในการปฐมพยาบาลเบื้องตน้ 5.ชมุ ชน
6. จัดให้มีเครือข่ายองค์กรภาครัฐเอกชนเพื่อสามารถติดต่อ 6.นกั เรียน
ขอความชว่ ยเหลอื ทนั ที
7. จดั แหลง่ ขอ้ มลู ท่สี ามารถตดิ ต่อขอความช่วยเหลือไวล้ ว่ งหน้า
8. รายงานตน้ สงั กัดทันที
1. ให้ความรู้และซักซ้อมในการปฏิบัติตนแก่นักเรียนให้พ้น 1.ผบู้ รหิ าร
จากอนั ตราย สถานศกึ ษา
2. จดั ใหม้ กี ารอยูเ่ วรรกั ษาสถานที่ราชการ 2.ครู
3. ตรวจสอบสภาพอาคารตา่ งๆอยา่ งสมำ่ เสมอ 3.นักการภารโรง
4. ตดั แต่งกิง่ ไม้ท่อี ยูใ่ กล้อาคาร 4.ผ้ปู กครอง
5. ตดิ ตามข่าวพยากรณอ์ ากาศสมำ่ เสมอ 5.ชมุ ชน
6. จดั ให้มีเวชภัณฑ์ท่ีจำเป็นในการปฐมพยาบาลเบอ้ื งต้น 6.นักเรยี น
7. จัดให้มีเครือข่ายองค์กรภาครัฐเอกชนเพื่อสามารถติดต่อ
ขอความช่วยเหลอื ทันที
8. จัดแหล่งข้อมูลที่สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือไว้
ลว่ งหน้า
9. รายงานตน้ สังกัดทันที
ค่มู ือ ขอ้ ปฏบิ ตั ิ และมาตรการรักษาความปลอดภยั ในสถานศกึ ษา สำนกั งานเขตพ้ืนท่ีการศกึ ษาประถมศึกษาชมุ พร เขต 2
18
สาเหตุ มาตรการปอ้ งกนั และแกไ้ ข ผ้รู บั ผดิ ชอบ
ดา้ นการป้องกันและแกไ้ ข
ปัญหาทางสังคม 1. แต่งตัง้ กรรมการเฝ้าระวังป้องปรามนักเรียนทม่ี ีพฤติกรรมท่ี 1.ผบู้ ริหาร
1.การลว่ งละเมิดทาง
ร่างกายและจิตใจ ไมพ่ ึงประสงค์และสถานท่ีจุดเสี่ยงโดยเฉพาะห้องเรียน หอ้ งน้ำ สถานศึกษา
2. การทำร้ายตัวเองและ ห้องพยาบาล ห้องสมุด 2.ครปู ระจำชน้ั
การฆา่ ตัวตาย
2. ให้ความรู้แก่ครู นักเรยี น ผู้ปกครอง และชมุ ชน 3.ผู้ปกครอง
3. การใช้สารเสพติด
3. จัดบริการให้คำปรึกษาแก่นกั เรยี น 4.ชมุ ชน
4. ใช้ระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนอย่างจริงจังและ 5.เจ้าหน้าท่ตี ำรวจ
ตอ่ เนอื่ ง
5. ใหม้ ีผูร้ บั ผิดชอบรายงานตามลำดับข้ัน
6. นำนักเรียนเข้าสู่การช่วยเหลือ โดยมีครูดูแลติดตามอย่าง
ใกลช้ ิดและตอ่ เนื่อง
7. ประสานงานผ้ปู กครองเพ่ือใหก้ ารดแู ลช่วยเหลอื
8. ประสานงานหนว่ ยงานท่ีเกี่ยวข้อง เชน่ บ้านพักเด็กและ
ครอบครัว สถานีตำรวจ สำนักงานพฒั นาสังคมและความม่นั คง
ของมนุษยจ์ งั หวัด
โรงพยาบาล เปน็ ตน้
1. จัดให้มีระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนอย่างมี 1.ผบู้ รหิ าร
ประสิทธิภาพ โดยมอบหมายครูประจำชั้น/ครูที่ปรึกษา/ครู สถานศึกษา
แนะแนวสังเกตพฤตกิ รรมนักเรียนเปน็ รายบคุ คล 2.ครูประจำชนั้
2. จดั ทำระบบเครือข่ายระหวา่ งผู้ปกครอง ชุมชนสถานศึกษา 3.ผู้ปกครอง
เพื่อการสื่อสารและสานสัมพันธ์ร่วมมือป้องกันแก้ไขปัญหา 4.ชมุ ชน
เกยี่ ว กบั พฤติกรรมนกั เรียน 5.จนท.พสน.
3. จัดกิจกรรมปลูกฝังให้เกิดความรัก ความสามัคคี ความเอ้ือ 6.ครูแนะแนว
อาทรและช่วยเหลอื ซ่ึงกนั และกัน
4. จัดกิจกรรมส่งเสริมพัฒนาศักยภาพของนักเรียน
อยา่ งหลากหลาย
5. ประสานความร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษา
อยา่ งสม่ำเสมอ
6. ประสานพ่อแม่ ผู้ปกครองทันที เมื่อเกิดปัญหา เพ่ือ
แก้ปญั หา เฉพาะหนา้ ด้วยวธิ ีการตา่ งๆ
1. จัดกิจกรรมเสริมทักษะชีวิต เพื่อสร้างความตระหนัก และ 1.ผู้บริหาร
ให้นกั เรยี นเหน็ คุณค่าแห่งตน สถานศึกษา
2. จัดทำระบบเครือข่ายระหวา่ งผู้ปกครอง ชุมชนสถานศึกษา 2.ครปู ระจำชน้ั
เพื่อการสื่อสารและสานสัมพันธ์ร่วมมือป้องกันแก้ไขปัญหา 3.ผ้ปู กครอง
เก่ยี วกบั พฤตกิ รรมนักเรียน 4.ชมุ ชน
ค่มู อื ข้อปฏบิ ตั ิ และมาตรการรกั ษาความปลอดภยั ในสถานศึกษา สำนักงานเขตพน้ื ทก่ี ารศึกษาประถมศกึ ษาชมุ พร เขต 2
19
สาเหตุ มาตรการป้องกนั และแก้ไข ผรู้ บั ผดิ ชอบ
3. การใชส้ ารเสพตดิ
(ต่อ) 3. จัดกิจกรรมที่ให้นักเรียนแสดงออกตามความสามารถที่ 1.ผู้บรหิ าร
4. การอุปโภคบริโภค เหมาะสม เช่น ศิลปะ ดนตรี กีฬา โครงการ To be number one สถานศกึ ษา
5. การทะเลาะวิวาท เปน็ ตน้ 2.ครูประจำช้ัน
4. จัดกลุ่มเฝ้าระวังโดยอาศัยเครือข่ายทั้งภายในและภายนอก 3.ผู้ปกครอง
สถานศกึ ษา 4.ชมุ ชน
5. จัดการอบรมเสริมสร้างคณุ ธรรม จรยิ ธรรมให้แกน่ ักเรียน 5.เจา้ หนา้ ทีต่ ำรวจ
6. ให้ความรู้แก่นักเรียนในการเลือกชมสื่อในด้านต่างๆ อย่าง
เหมาะสม
7. จัดบรรยากาศสิ่งแวดล้อมในสถานศึกษาให้สะอาด ร่มรื่น
สวยงาม เออ้ื ต่อการจดั การเรยี นรู้
8. ใช้มาตรการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนอย่างต่อเนื่อง
และสม่ำเสมอ
9. แต่งต้งั คณะกรรมการป้องกันแก้ไขปัญหายาเสพตดิ ในสถานศึกษา
10. คดั กรองและตรวจสขุ ภาพนกั เรียนเป็นประจำ
1. จัดให้มีชมรมคุ้มครองผู้บริโภคในสถานศึกษา (อย.น้อย) เพื่อ 1.ผบู้ รหิ าร
ตรวจสอบคุณภาพสารปนเปื้อนในอาหารและประชาสัมพันธ์ สถานศึกษา
ข้อมลู ขา่ วสาร 2.ครปู ระจำชั้น
2. จดั ทำปา้ ยนิเทศ และกิจกรรมรณรงค์ ให้ความรเู้ กี่ยวกับการใช้ 3.ผู้ปกครอง
เคร่อื งอุปโภคบริโภคอยา่ งถูกสุขอนามัย 4.ชุมชน
3. จัดให้มีเจ้าหน้าที่ทำความสะอาด รักษาความเป็นระเบียบ 5.นกั เรยี น
เรียบร้อยภายในโรงอาหารของโรงเรยี น
4. จัดให้มีระบบกำจัดขยะ การบำบัดน้ำเสียและจัดสร้างบ่อ
ดกั ไขมนั
5. ในกรณีเกิดอุบัติเหตุจากการอุปโภคบริโภคของนักเรียน
ให้ดำเนินการปฐมพยาบาลเบอ้ื งตน้ ก่อนสง่ ตอ่ โรงพยาบาล
6. ประสานแจง้ ผปู้ กครองนกั เรยี นรบั ทราบเมือ่ เกิดเหตุ
7. มอบหมายครูอนามัยอำนวยความสะดวกในการดูแล
รักษาพยาบาล รว่ มกับผ้ปู กครองเพื่อรบั ทราบข้อมลู นักเรียน
8. รายงานเหตกุ ารณ์ใหผ้ ้บู ังคบั บัญชาทราบตามลำดบั ช้ัน
1. มอบหมายให้ จนท.พสน. สอดส่องดูแลให้ความช่วยเหลือและ 1.ผู้บริหาร
ดำเนินการตามระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนอย่างมี สถานศึกษา
ประสทิ ธิภาพ 2.ครปู ระจำชน้ั
3.ผู้ปกครอง
ค่มู ือ ขอ้ ปฏิบตั ิ และมาตรการรกั ษาความปลอดภยั ในสถานศกึ ษา สำนักงานเขตพนื้ ท่ีการศกึ ษาประถมศกึ ษาชมุ พร เขต 2
20
สาเหตุ มาตรการป้องกันและแก้ไข ผรู้ ับผดิ ชอบ
5. การทะเลาะววิ าท (ต่อ) 2. จัดทำระบบเครือข่ายระหว่างผู้ปกครอง ชุมชน สถานศึกษา 1.ผบู้ รหิ าร
เพื่อการสื่อสารและสานสัมพันธ์ร่วมมือป้องกันแก้ไขปัญหา สถานศึกษา
เกยี่ วกับพฤติกรรมนักเรยี น 2.ครปู ระจำชั้น
3. จัดให้มีการหน่วยเคลื่อนที่เร็ว เพื่อเข้าระงับเหตุกรณีที่มีเหตุ 3.ผู้ปกครอง
ทะเลาะววิ าท โดยประสานงานกบั เจ้าหน้าท่ตี ำรวจ 4.ชมุ ชน
4. ประสานแจ้งผู้ปกครองนักเรียนผู้ก่อเหตุ ผู้ได้รับบาดเจ็บ 5.เจ้าหนา้ ท่ีตำรวจ
ให้ผู้ปกครองนักเรียนทราบและจัดเจ้าหน้าที่ดูแลโดยรายงาน 6.จนท. พสน.
ใหผ้ ู้บงั คับบญั ชารบั ทราบตามลำดบั
5. ประสานความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ อปพร. หรือองค์กร
ปกครองส่วนท้องถนิ่
6.การถกู ลอ่ ลวงและ 1. จัดกิจกรรมเสริมสร้างทักษะการคิดวิเคราะห์ การแก้ปัญหา 1.ผบู้ รหิ าร
ลกั พา เฉพาะหน้า การตัดสินใจ การให้คำปรึกษาที่ถูกต้อง รวมไปถึง สถานศกึ ษา
ทักษะการปอ้ งกนั ตวั เองใหพ้ น้ จากการถูกลอ่ ลวงและลกั พา 2.ครปู ระจำชัน้
2. จัดระบบรกั ษาความปลอดภยั ในสถานศกึ ษาทีม่ ีประสิทธิภาพ 3.ผู้ปกครอง
3. ประสานงานกับชุมชน เครือข่ายผู้ปกครอง ในการสอดส่อง 4.ชมุ ชน
นกั เรยี นอย่างทวั่ ถงึ และสม่ำเสมอ 5.เจ้าหน้าที่ตำรวจ
4. ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ช่วยสอดส่อง ดูแล
เพือ่ ป้องกนั การถูกล่อลวงและลักพา
5. ให้มีการประชาสัมพันธ์ข่าวสารเกี่ยวกับการล่อลวง และลักพา
และวธิ กี ารป้องกนั ใหน้ กั เรียนทราบทกุ ระยะ
6. ประสานงานเจ้าหน้าที่ตำรวจ ผู้ปกครอง เพื่อดำเนินการ
ติดตามคน้ หา
7. ขอความร่วมมือจากครู ผู้ปกครอง ชุมชน หรือผู้ที่ เกี่ยวขอ้ งใน
การแจ้งเบาะแส
8. ประสานแจ้งผู้ปกครองนักเรียนรับทราบเมื่อเกิดเหตุโดย
รายงานให้ผบู้ งั คบั บญั ชารับทราบตามลำดบั
9. รายงานตน้ สังกดั
7. สื่อลามกอนาจาร 1. ควบคุมดูแลการนำข้อมูลข่าวสารและสื่อบันเทิงต่างๆ 1.ผู้บรหิ าร
ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องเพศที่ไม่เหมาะสม ไม่ให้เข้ามาเผยแพร่ใน สถานศกึ ษา
สถานศึกษา 2.ครปู ระจำชั้น
2. จัดทำหลักสูตรบูรณาการการสอนในเรื่องเพศศึกษา ศีลธรรม 3.ผู้ปกครอง
คณุ ธรรม จรยิ ธรรมทีด่ แี ละเหมาะสมในทางสังคมใหก้ ับนกั เรียน 4.ชุมชน
3. จัดกิจกรรมและเสริมสร้างค่านิยม ปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม 5.เจ้าหนา้ ทต่ี ำรวจ
ท่ดี งี ามใหก้ ับนักเรยี นเพื่อการ ปรบั เปลีย่ นพฤติกรรมท่ีไม่เหมาะสม
ค่มู ือ ข้อปฏบิ ัติ และมาตรการรกั ษาความปลอดภัยในสถานศกึ ษา สำนักงานเขตพน้ื ทก่ี ารศึกษาประถมศึกษาชุมพร เขต 2
21
สาเหตุ มาตรการปอ้ งกันและแก้ไข ผู้รับผิดชอบ
7. ส่ือลามกอนาจาร (ตอ่ ) 4. ประสานความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่และผู้ที่ เกี่ยวข้องในการ 1.ผู้บริหาร
ตรวจตรา ควบคุมดแู ลตามแหลง่ จำหนา่ ยและเผยแพร่ สถานศกึ ษา
5. ดำเนินการตรวจค้นยึดสิ่งของและลงโทษ หากพบนักเรียนนำ 2.ครปู ระจำช้ัน
สอื่ ลามกอนาจารเขา้ มา สถานศกึ ษา ติดต่อประสานงานผ้ปู กครอง 3.ผูป้ กครอง
เพือ่ หาแนวทางแกไ้ ขปรบั เปลย่ี นพฤตกิ รรม 4.ชุมชน
6. มอบครูประจำชั้นติดตามและเฝ้าระวัง ภายหลังดำเนินการ 5.เจ้าหน้าทต่ี ำรวจ
แกไ้ ขแล้วเพอื่ เปน็ การแกไ้ ขปญั หาในระยะต่อไปมิใหเ้ กดิ ขนึ้
8.อบายมุข 1. ประกาศใหส้ ถานศกึ ษา เปน็ เขตปลอด อบายมขุ ทกุ ประเภท 1.ผูบ้ ริหาร
2. จดั ทำแผนผังzoning เขตปลอดอบายมขุ รว่ มกับชมุ ชน สถานศกึ ษา
3. จัดกิจกรรมเสริมสร้างความรู้และความตระหนักโทษภัยและ 2.ครปู ระจำชนั้
ปัญหาอบายมขุ ท่มี ี ผลกระทบตอ่ การเรยี นและความเป็นอยขู่ องนักเรยี น 3.ผู้ปกครอง
4. มอบหมายครูประจำชั้นติดตามสอดส่อง ดูแลพฤติกรรมของ 4.ชุมชน
นักเรียน ในกลุ่มที่มีปัญหาและกลุ่มเสี่ยงต้องรีบดำเนินการ 5.พสน.
ปรบั เปลย่ี นพฤติกรรมในเบอื้ งตน้ 6.จนท.ตำรวจ
5. สำรวจแหล่งอบายมุขหรือแหล่งมั่วสุมโดย จัดทำเป็นข้อมูล
แผนที่ตั้งเพื่อการประสานกับ ครูผู้รับผิดชอบ ผู้ปกครองและเจ้าหน้าท่ี
ตำรวจ
6. ขอความร่วมมือจากผู้ปกครองช่วยกวดขัน ดูแลบุตรหลาน
อยา่ งใกลช้ ดิ ทั้งการเรยี น การใช้เงิน การใช้โทรศัพท์ การออกเที่ยวเตร่
หรือการทำกิจกรรมนอกบ้าน รวมทั้งการใช้สื่อเทคโนโลยี
ในครอบครวั ไปในทางท่ไี มเ่ หมาะสม
7. จัดตั้งกลุ่มเครือข่ายความร่วมมือระหว่างโรงเรียน ผู้ปกครอง
ชุมชนในการให้ข้อมูลข่าวสารและติดตามสอดส่อง ดูแลป้องกัน
ไม่ให้นกั เรียนไปม่ัวสมุ ในแหล่งอบายมุขต่างๆ
8. จัดทำทะเบยี นขอ้ มลู นกั เรยี นท่อี ยูใ่ นกลมุ่ เสย่ี ง
9. เชิญผปู้ กครองประชุมเพ่ือหาแนวทางแก้ไขปัญหา และให้ความ
ชว่ ยเหลืออย่างจริงจังรว่ มกนั
10. จัดเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบในการออกตรวจตราตามแหล่ง
อบายมขุ ตา่ งๆ โดยการประสานความรว่ มมอื กบั เจ้าหนา้ ท่ี และ
หน่วยงานท่รี บั ผดิ ชอบ หรอื ระหว่างสถานศกึ ษาด้วยกัน
9.พฤตกิ รรมช้สู าว 1. ให้ความรู้ความเข้าใจในการปฏิบัติตนและพฤติกรรมที่ 1.ผ้บู รหิ าร
พึงประสงค์ดา้ นการวางตัวคบเพ่ือนต่างเพศและจัดการเรียนการ สถานศึกษา
สอนเรอื่ งเพศศึกษา 2.ครปู ระจำชั้น
2. มอบหมายครปู ระจำช้ันใหค้ ำปรึกษาแก่นกั เรียน 3.ผ้ปู กครอง
ค่มู อื ข้อปฏิบตั ิ และมาตรการรักษาความปลอดภัยในสถานศกึ ษา สำนกั งานเขตพ้นื ที่การศกึ ษาประถมศกึ ษาชมุ พร เขต 2
22
สาเหตุ มาตรการปอ้ งกนั และแก้ไข ผรู้ ับผดิ ชอบ
9.พฤตกิ รรมชู้สาว (ต่อ)
3. จัดบรรยากาศและสิ่งแวดล้อมในโรงเรียนให้ปลอดโปร่ง ไม่มีมุม 1.ผ้บู ริหาร
10.อนิ เทอรเ์ นต็ และเกม
อับอนั จะสง่ ผลตอ่ พฤตกิ รรมในทางทไ่ี มเ่ หมาะสมของนกั เรียน สถานศึกษา
11. ด้านสุขภาพอนามัย
ของนักเรยี น 4. กำกับติดตามดูแลการปฏบิ ตั หิ นา้ ทีข่ องครูเวรประจำวัน 2.ครปู ระจำชั้น
5. สร้างเครอื ข่ายประสานความรว่ มมอื ระหวา่ งเครอื ขา่ ย 3.ผู้ปกครอง
ผูป้ กครอง ชมุ ชนและโรงเรียนในการแจ้งเบาะแส 4.ชุมชน
6. เมอื่ นกั เรียนประสบปัญหาใหส้ ถานศึกษามอบหมาย 5.นักเรยี น
ผู้รับผิดชอบ สืบหาข้อเท็จจริงและดำเนินการแก้ไขในกรณีที่เป็น
ปัญหาร้ายแรง ให้ผบู้ ังคบั บัญชารายงานตามลำดับขั้นตอน
7. ประสานงานเชิญผู้ปกครองมารับทราบปัญหา และร่วมมือ
ชว่ ยกันแกไ้ ขปญั หา ปรบั เปลย่ี นพฤตกิ รรมไปในทางทเี่ หมาะสม
8. ตดิ ตาม กำกบั ดูแลนกั เรยี นที่มพี ฤติกรรมไม่เหมาะสม
1. ให้ความรู้นักเรยี นในการเลอื กบริโภคข้อมูลขา่ วสาร ภัยจากส่อื 1.ผู้บริหาร
อนิ เทอรเ์ น็ต สถานศึกษา
2. จัดกิจกรรมเสริมสร้างความสนใจหรือสร้างแรงจูงใจในการ 2.ครูประจำชั้น
ใชค้ อมพวิ เตอรอ์ ินเทอร์เน็ตอยา่ งสร้างสรรค์ 3.ผู้ปกครอง
3. ประสานความร่วมมือผู้ปกครอง เครือข่ายผู้ปกครอง 4.ชุมชน
เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในการป้องกันกวดขันดูแลตามแหล่งสถาน 5.นักเรยี น
บนั เทงิ รา้ นอนิ เทอร์เน็ต รา้ นเกม เปน็ ตน้
4. ครูฝ่ายปกครองและครูที่ปรึกษากำกับติดตาม การมาเรียน
ของนักเรียนและประสานกับผปู้ กครองในการ เดินทาง ไป
– กลบั ระหวา่ งบ้านและโรงเรยี น
5. จัดให้บริการอินเทอร์เน็ตกับนักเรียนในช่วงเวลาที่เหมาะสม
ตามบรบิ ทของโรงเรียน และให้ครูควบคุมดูแลอยา่ งใกล้ชิด
6. ดำเนินการนำกลุ่มนักเรียนที่มีพฤติกรรมเสี่ยงมาอบรมให้
ความรู้ในเรื่องการใชอ้ นิ เทอร์เนต็
7. จัดอาสาสมัครนักเรียนคอยตรวจสอบการใช้ อินเตอร์เน็ต/
เวบ็ ไซตต์ า่ งๆ
8. ประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือหน่วยงานที่รับผิดชอบ
เพื่อตดิ ตามตรวจสอบร้านอินเทอรเ์ น็ตรา้ นเกมท่ีให้บริการนักเรียน
ช่วงเวลาเรียน
1. สร้างองค์ความรู้ให้แก่ครูและบุคลากร ในเรื่องแนว ทางการ 1.ผู้บรหิ าร
ส่งเสริมสุขภาพนักเรียน การป้องกันมลภาวะ จากสิ่งแวดล้อม สถานศึกษา
การปอ้ งกนั ไม่ให้เกดิ โรคต่างๆ ระบาดมากข้ึน 2.ครูประจำช้ัน
2. จดั ทำมาตรการบรหิ ารจัดการขยะในสถานศึกษา 3.นกั การภารโรง
3. แต่งตงั้ คณะกรรมการรับผิดชอบงานใหช้ ดั เจน
ค่มู อื ขอ้ ปฏบิ ตั ิ และมาตรการรกั ษาความปลอดภยั ในสถานศกึ ษา สำนักงานเขตพน้ื ทกี่ ารศกึ ษาประถมศึกษาชุมพร เขต 2
23
สาเหตุ มาตรการป้องกนั และแก้ไข ผรู้ บั ผิดชอบ
11. ดา้ นสขุ ภาพอนามัย 4. ตรวจสุขภาพนักเรียนอย่างน้อยปีละครั้งประสานงาน 1.ผูบ้ ริหาร
ของนักเรียน (ต่อ)
กับโรงพยาบาล/รพ.สต.ในพื้นที่เพื่อดูแลนักเรียนที่มีร่างกาย สถานศึกษา
12. ด้านสตั ว์มพี ิษ
ออ่ นแออยา่ งใกลช้ ิด 2.ครูประจำชั้น
ดา้ นการปอ้ งกันการตดิ เช้อื
5. ปดิ สถานศึกษาทำความสะอาดเม่อื มโี รคระบาด 3.นักการภารโรง
ไวรัสโคโรนา (Covid 19)
6. แจ้งผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นในกรณีมีโรคติดต่อ เกิดขึ้นใน 4.นักเรียน
โรงเรียน 5.ผ้ปู กครอง
7. จัดน้ำดื่มน้ำใช้ให้ปลอดภัยร่วมทั้งระบบกักเก็บน้ำ และระบบ นักเรียน
การจา่ ยน้ำให้ถกู สุขอนามยั
8. มีส้วมท่ีถกู สขุ อนามยั
9. มีอุปกรณ์และสถานที่สำหรับล้างมือและให้ความรู้ในการล้าง
มือของนักเรียนอย่างถกู วธิ ี
10. ควบคุมความสะอาดในการปรุงและจำหน่ายอาหาร ให้ถูก
สุขลกั ษณะ และจัดเมนูอาหารกลางวันถูกต้องตามหลกั โภชนาการ
โดยมโี ปรแกรม Thai school lunch system
11. จัดสถานทแี่ ละบริเวณสถานศกึ ษาใหถ้ ูกสขุ ลักษณะ
12. รณรงค์ให้โรงเรยี นจัดกจิ กรรม 1 โรงเรยี น 10 ต้นฟ้าทะลายโจร
13. ฝึกให้มีความรู้ในด้านสมุนไพรใกล้ตัวในการป้องกันการแพร่
ระบาดของโรคตดิ เช้ือไวรสั โคโรนา 2019 (Covid 19)
1. จดั สภาพแวดล้อมใหส้ ะอาดร่มรนื่ ตัดแต่งก่ิงไม้ กำจัดแหล่งท่ีอยู่ 1.ผบู้ ริหาร
อาศยั ของสัตว์มพี ษิ เพือ่ ให้มีความปลอดภยั แกน่ กั เรยี น สถานศึกษา
2. ให้ความรู้แก่ครูบุคลากร และนักเรียนเกี่ยวกับสัตว์มีพิษ 2.ครปู ระจำชนั้
ตลอดจนวิธีการป้องกนั และปฐมพยาบาลเบอื้ งตน้ กรณไี ดร้ บั พิษ 3.นกั การภารโรง
3. จัดทำป้ายเตือนภัยจากสัตว์มีพิษในบริเวณที่เป็นจุด เสี่ยงเช่น
บริเวณร้วั สถานศกึ ษา ต้นไม้ใหญ่ซ่งึ มักจะ
เปน็ ท่อี ย่อู าศยั ของสัตว์มีพษิ เบอื้ งต้น
4. ประสานความรว่ มมือกบั หนว่ ยงานทเี่ กี่ยวข้องในการ
กำจัดสตั วม์ พี ิษ
นยิ ามผปู้ ่วยและผ้สู มั ผสั 1.ผู้บริหาร
1) ผู้ป่วยที่เข้าเกณฑ์ต้องสอบสวน (PUI) หมายถึงผู้ที่มีประวัติไข้ สถานศึกษา
หรือวัดอุณหภูมิกายได้ตั้งแต่37.5 องศาเซลเซียส และ/หรือมี 2.ครูประจำชัน้
อาการทางเดินหายใจอย่างใดอย่างหนึ่ง(ไอ น้ำมูกเจ็บคอ หายใจ 3.ผู้ปกครอง
เร็วหรือหายใจ เหนื่อยหรือหายใจลำบาก) ร่วมกับมีประวัติสัมผัส 4.ชมุ ชน
ใกล้ชิดกับผู้ปว่ ยยนื ยนั ในช่วง 10 วันกอ่ นมีอาการ หรอื เดนิ ทางมา 5.นกั เรยี น
จากพน้ื ทท่ี ่ีมรี ายงานผู้ปว่ ยมากอ่ นหนา้ นห้ี รือมอี าการปอดอักเสบ
ค่มู อื ข้อปฏิบัติ และมาตรการรักษาความปลอดภัยในสถานศกึ ษา สำนกั งานเขตพื้นทีก่ ารศึกษาประถมศกึ ษาชุมพร เขต 2
23
สาเหตุ มาตรการปอ้ งกนั และแกไ้ ข ผรู้ ับผิดชอบ
ดา้ นการปอ้ งกนั การติดเชื้อ นยิ ามผูป้ ่วยและผูส้ ัมผัส 1.ผู้บรหิ าร
ไวรสั โคโรนา (Covid 19) 1) ผู้ป่วยที่เข้าเกณฑ์ต้องสอบสวน (PUI) หมายถึงผู้ที่มีประวัติไข้ สถานศึกษา
(ต่อ)
หรือวัดอุณหภูมิกายได้ตั้งแต่37.5 องศาเซลเซียส และ/หรือมี 2.ครูประจำช้นั
อาการทางเดินหายใจอย่างใดอย่างหนึ่ง(ไอ น้ำมูกเจ็บคอ หายใจ 3.ผ้ปู กครอง
เร็วหรือหายใจ เหนื่อยหรือหายใจลำบาก) ร่วมกับมีประวัติสัมผัส 4.ชมุ ชน
ใกลช้ ดิ กับผู้ป่วยยนื ยนั ในชว่ ง 10 วันกอ่ นมีอาการ หรอื เดนิ ทางมา 5.นักเรียน
จากพื้นที่ที่มีรายงานผู้ป่วยมาก่อนหน้านี้หรือมีอาการปอดอักเสบ
ไม่ทราบสาเหตุ
2) ผ้ปู ว่ ยยนื ยนั หมายถึงผู้ที่มผี ลตรวจทางห้องปฏิบัติการพบว่าติด
เชือ้ ไวรสั โคโรนา 2019
3) ผู้สัมผัสที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อสูง(High risk contact)
หมายถงึ ผู้สัมผสั ใกลช้ ดิ ตามลักษณะข้อใดข้อหน่ึงดงั นี้
- ผู้ที่เรียนร่วมห้อง, ผู้ที่นอนร่วมห้องหรือเพื่อนสนิทที่คลุกคลีกัน
หรือ- ผู้สัมผัสใกล้ชิดหรือมีการพูดคุยกับผู้ป่วยในระยะ 1 เมตร
นานกว่า5 นาทีหรือถูกไอ จาม รดจากผู้ป่วยโดยไม่มีการป้องกัน
เช่นไม่สวมหนา้ กากอนามยั
- ผทู้ ่ีอยู่ให้บริเวณทีป่ ดิ ไม่มีการถ่ายเทอากาศ เชน่ ในรถปรับอากาศ
ให้ห้องปรับอากาศ ร่วมกับผู้ป่วย และอยู่ห่างจากผู้ป่วยไม่เกิน1
เมตร นานกว่า15 นาทโี ดยไมม่ กี ารปอ้ งกนั
4) ผู้สัมผัสที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อต่ำ (Low risk contact)
หมายถึงผู้ที่ทำกิจกรรมอื่นๆร่วมกับผู้ป่วยแต่ไม่เข้าเกณฑ์ความ
เสย่ี งสูง
5) ผไู้ ม่ได้สัมผัสหมายถึงผู้ท่ีอยู่ในโรงเรยี นแต่ไม่มีกิจกรรมหรือพบ
ผูป้ ว่ ยในช่วง14 วนั ก่อนป่วย
6) ผู้ที่มีภาวะเสี่ยงต่อการป่วยรุนแรง (Underlying condition)
หมายถึงผู้ที่มีภมู ิต้านทานต่ำหรือมโี รคประจา้ ตวั หรือผสู้ ูงอายุ
การเตรียมสถานศกึ ษาก่อนเปดิ ภาคเรยี น
1) ตรวจสอบห้องสุขา โรงอาหาร ให้มีอ่างล้างมือให้มีเพียงพอ
อยใู่ นสภาพดพี ร้อมใชง้ าน รวมถึงสบู่ล้างมือท่ีเพียงพอ
2) จัดเตรียมอุปกรณ์ล้างมือเช่นเจลแอลกอฮอล์ไว้บริเวณทางเข้า
หอ้ งเรียน และอาคารต่างๆ ทม่ี กี ารใชง้ านร่วมกัน
3) กำหนดจุดตรวจคัดกรองอาการป่วยบริเวณทางเข้าสถานศึกษา
อาคารเรยี น หอพักพร้อมอปุ กรณ์เช่น เครือ่ งวัดอณุ หภูมิ
ค่มู อื ขอ้ ปฏิบตั ิ และมาตรการรักษาความปลอดภยั ในสถานศึกษา สำนกั งานเขตพ้ืนท่กี ารศึกษาประถมศึกษาชุมพร เขต 2
24
สาเหตุ มาตรการปอ้ งกันและแก้ไข ผู้รับผดิ ชอบ
ดา้ นการปอ้ งกันการตดิ เช้อื 4) จัดสถานที่เพื่อเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล เช่นการเข้าแถว 1.ผบู้ รหิ าร
ไวรสั โคโรนา (Covid 19) การเข้าคิว การจัดที่นั่งเรียน การจัดที่นั่งรับประทานอาหาร สถานศึกษา
(ตอ่ )
ตามมาตรการ เว้นระยะหา่ งทางกายภาพ (Physical Distancing) 2.ครปู ระจำชั้น
5) ทำสญั ลกั ษณ์เพื่อเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล เชน่ จุดคัดกรอง 3.ผู้ปกครอง
ก่อนเขา้ โรงเรยี น จดุ รบั อาหารกลางวัน จุดลา้ งมอื เป็นตน้ 4.ชมุ ชน
6) จัดตารางเหลื่อมเวลาพกั รับประทานอาหารกลางวัน 5.นกั เรียน
7) สำหรับเด็กเล็กที่ยังต้องนอนกลางวัน ให้รักษาระยะห่าง
ระหว่างกันอย่างน้อย 1 เมตร แยกอุปกรณ์เครื่องใช้เป็นของ
ส่วนตัวไมใ่ ชร้ ่วมกนั กรณมี เี ด็กป่วยให้หยุดอยกู่ ับบ้าน
8) กำหนดให้มีเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบการป้องกันควบคุมโรคของ
สถานศึกษาเพื่อคอยติดต่อประสานงานกับหน่วยงานสาธารณสุข
ในพน้ื ทเ่ี ม่อื พบผ้ปู ว่ ยสงสัย
กิจกรรมการเฝ้าระวังและปอ้ งกันโรคเมอ่ื เปดิ การเรียนการสอน
1) ให้มีการตรวจสอบการลาป่วยของนักเรียนและบุคลากรใน
โรงเรียน หากพบว่าผู้ป่วยมากผิดปกติให้รายงานเจ้าหน้าที่
สาธารณสขุ ในพ้ืนทที่ ราบ
2) ให้มีการคัดกรองนักเรียน ครูและเจ้าหน้าที่บริเวณทางเข้า
สถานศึกษาทุกวันหากพบผู้ท่ีมีอาการปว่ ยใหห้ ยุดเรียนหรือทำงาน
และพาไปพบแพทย์ทโ่ี รงพยาบาลทันที
3) หากพบว่ามีผู้ที่มีไข้จำนวนมากผิดปกติให้โรงเรียนแจ้งไปยัง
หนว่ ยงานสาธารณสขุ ในพนื้ ท่ี
4) กรณีใช้ห้องพยาบาล ให้มีการบันทึกรายชื่อและอาการของ
นกั เรียนทปี่ ว่ ย
5) แจ้งผู้ปกครองที่บุตรหลานมีอาการเจ็บป่วยเช่นมีไข้ไอ จาม
มีน้ำมูก เหน่อื ย หอบ หรือกลับจากพ้นื ทเ่ี สยี่ ง และอยใู่ นชว่ งกักกัน
ให้หยุดเรียน รวมทั้งขอความร่วมมือกรณีที่มีคนในครอบครัวป่วย
ด้วยโรค ติดเชื้อไวรัสโคโรนา (Covid – 19) หรือกลับจากพื้นท่ี
เสีย่ งและอยใู่ นชว่ งกักกันให้ปฏบิ ัติตัวตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่
สาธารณสขุ อยา่ งเคร่งครดั
6) หากมีรถรับส่งนักเรียน ให้ประสานคนขับรถรับส่งส่งสังเกต
อาการนักเรียนก่อนอนุญาตให้ขึ้นรถ โดยให้นักเรียนสวมหน้ากาก
ผ้าหรือหน้ากากอนามัยทุกคนระหว่างนั่งในรถ เปิดประตูหน้าต่าง
รถเมื่อหยุดรับนักเรียนในแต่ละจุดเพื่อให้มีอากาศถ่ายเทบ่อยๆ
และทำความสะอาดรถโดยเฉพาะที่ราวจับประตูที่วางแขน และ
เบาะน่ังทุกวัน
ค่มู อื ขอ้ ปฏบิ ตั ิ และมาตรการรกั ษาความปลอดภยั ในสถานศึกษา สำนักงานเขตพน้ื ทก่ี ารศกึ ษาประถมศกึ ษาชมุ พร เขต 2
25
สาเหตุ มาตรการปอ้ งกันและแก้ไข ผู้รับผดิ ชอบ
ดา้ นการปอ้ งกนั การตดิ
เชอื้ ไวรัสโคโรนา (Covid 7) เปิดประตูหน้าต่างของห้องเรียน เพื่อให้มีการถ่ายเทอากาศ 1.ผบู้ ริหาร
19) (ต่อ)
งดการเรยี นในห้องแอรท์ ีไ่ ม่จำเป็น สถานศกึ ษา
ด้านความปลอดภัยใน
สถานศกึ ษา 8) ตรวจตราผู้ประกอบอาหารของโรงเรียนให้ปฏิบัติตาม 2.ครปู ระจำชัน้
(Moe safety center)
สุขอนามัยในการประกอบอาหาร สวมหน้ากากอนามัยหรือ 3.ผ้ปู กครอง
หนา้ กากผ้าหมวกคลมุ ผม face shield ถุงมอื ขณะประกอบอาหาร 4.ชมุ ชน
และเสริ ์ฟอาหารทุกครง้ั เนน้ เมนทู ีป่ รงุ สกุ รอ้ น มฝี าปิด 5.นกั เรยี น
การทำความสะอาด
1) ทำความสะอาดพืน้ และพื้นผิวสัมผัสตา่ งๆ ทกุ วนั อย่างน้อยวันละ
2 ครั้งโดยเฉพาะพื้นผิวที่หลายคนสมั ผัสเช่นราวบันได โต๊ะอาหาร
อุปกรณ์กฬี า ท่ีจบั ประตูหน้าตา่ งของเล่นเคร่ืองช่วยสอน อปุ กรณ์
การเรยี น เปน็ ต้น
2) ใช้น้ำยาฆ่าเชื้อหรือน้ำยาซักผ้าขาวผสมในอัตราส่วน 1 ส่วน
ต่อน้ำสะอาด 20 ส่วน สำหรับเช็ดพื้นผิวหรือแอลกอฮอล์ 70%
สำหรบั การเช็ดฆา่ เช้อื โรคของอปุ กรณต์ ่างๆ
3) ทำความสะอาดห้องสุขาด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อหรือน้ำยาซักผ้าขาว
ผสมในอัตราส่วน1 ส่วนต่อน้ำสะอาด 10 ส่วนอย่างน้อยวันละ
สองครงั้
4) กำจัดขยะอย่างถูกวิธีทุกวันโดยการผูกปากถุงให้มิดชิดเน้นย้ำ
ให้นักการภารโรงท่ีเก็บขยะใส่หนา้ กากอนามัยface shield และ
ถุงมอื ยาง
กิจกรรมเม่อื พบผปู้ ่วยยืนยนั
1) แยกผปู้ ว่ ยยืนยนั ไปหอ้ ง School Isolation
2) ทำความสะอาดสถานที่ที่ผู้ป่วยนั่งเรียนหรือใช้เป็นประจำเช่น
หอ้ งสขุ า ทรี่ ับประทานอาหาร
3) คัดกรองนักเรียนและบุคลากรทุกคนบริเวณทางเข้าโรงเรียน
อยา่ งเครง่ ครัดหากพบอาการไข้หรืออาการทางเดนิ หายใจให้นำส่ง
โรงพยาบาล
4) ผู้สัมผัสกลุ่มเสี่ยงสูง (high risk) ให้แยกตัวอยู่บ้านเป็นเวลา
14 วัน โดยประสานเจา้ หนา้ ท่ีสาธารณสุข
6) ทีมสอบสวนโรคทำการติดตามผูส้ ัมผสั ทุกวันจนครบกำหนด
1. ประชุมชี้แจงแนวทางการบริหารจัดการระบบมาตรฐานความ 1.ผูบ้ รหิ าร
ปลอดภยั Moe safety center สถานศกึ ษา
2. สถานศึกษา ครู นักเรียน ผู้ปกครอง สมัครเข้าใช้งานในระบบ 2.ครูประจำชั้น
ความปลอดภัย Moe safety center
ค่มู ือ ขอ้ ปฏบิ ตั ิ และมาตรการรักษาความปลอดภัยในสถานศึกษา สำนกั งานเขตพนื้ ทีก่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษาชมุ พร เขต 2
สาเหตุ มาตรการปอ้ งกันและแกไ้ ข 26
ด้านความปลอดภัยใน ผรู้ ับผดิ ชอบ
สถานศกึ ษา
(Moe safety center) 3. สถานศึกษาในสังกัด จัดตั้งศูนย์ความปลอดภัยในสถานศึกษา 1.ผ้บู รหิ าร
(ตอ่ )
มีคณะทำงานประจำศูนย์ความปลอดภัย โดยแต่งตั้ง สถานศึกษา
ด้านการปอ้ งกนั
อาชญากรรมไซเบอร์ คณะกรรมการความปลอดภัยตามแนวทางการบริหารจัดการ 2.ครปู ระจำช้นั
ระบบมาตรฐานความปลอดภัย Moe safety center 3.ผปู้ กครอง
4. ดำเนินการสำรวจข้อมูลด้านความปลอดภัยในสถานศึกษาเพื่อ 4.ชุมชน
เป็นข้อมูลสารสนเทศในการจัดทำแผนการดำเนินงานความ 5.นักเรียน
ปลอดภัย เพื่อส่งเสริมความปลอดภัยให้กับ นักเรียน ครู บุคลากร
ทางการศกษา ตามนโยบายและคำแนะนำที่สอดคล้องกับศูนย์
ความปลอดภยั สพฐ
5. เจ้าทด่ี แู ลระบบความปลอดภยั Moe safety center เขา้ ระบบ
ทุกวันเวลา 09.00 น. เพื่อตรวจสอบการแจ้งเหตุในระบบความ
ปลอดภยั Moe safety center
6. สถานศึกษารายงานการแจ้งเหตุในระบบความปลอดภัย Moe
safety center
7. ประชาสัมพันธ์การรับรู้ การดำเนินการความปลอดภัยใน
สถานศกึ ษา
การป้องกนั ระดับบุคคล (Protect Personal from Cybercrime) 1.ผูบ้ รหิ าร
1. อัพเดตซอฟแวร์ใหเ้ ปน็ ปัจจบุ ันอยู่เสมอ เพื่อเพิ่มความปลอดภยั ใน สถานศึกษา
การใช้งานให้มากขึ้น ทำให้นอกจากจะสามารถใช้งานฟีเจอร์ใหม่ ๆ 2.ธุรการโรงเรยี น
ไดแ้ ลว้ ยงั เพิม่ ความปลอดภยั ในการใช้งานมากขึน้ อีกด้วย 3.นกั เรียน
2. ใช้โปรแกรมแอนตี้ไวรัสที่มีประสิทธิภาพ เชื่อว่าหลาย ๆ คนก็
น่าจะใช้งานโปรแกรมแอนตี้ไวรัสกันอยู่แล้ว ทั้งโปรแกรมที่ติดมา
กับเครือ่ งและโปรแกรมท่ีซื้อเพ่ิมเตมิ เพ่ือเพ่ิมความปลอดภัยในการ
ใช้งานไปอีกข้นั หนงึ่ แตก่ ต็ อ้ งไม่ลมื ทจ่ี ะซื้อโปรแกรมทถ่ี ูกลิขสิทธ์ิท่ี
มีประสิทธิภาพและเชอ่ื ถือได้ด้วยเช่นกัน
3. พจิ ารณาให้รอบคอบก่อนคลิกไปที่ลิงก์นา่ สงสยั เช่น เว็บไซต์ท่ี
บอกว่าจะแจกรางวัล, แบนเนอร์โฆษณาบนเว็บไซต์ต่าง ๆ ที่ลิงก์
ไปยังเว็บอื่นและดาวน์โหลดไวรัสลงเครื่องโดยไม่รู้ตัว รวมไปถึง
การใช้รหัสผ่านที่มีความซับซ้อน และใช้การยืนยันตัวตนแบบ
สองขั้นตอน 2FA (2 Factors Authentication) เพื่อเพิ่มความ
ปลอดภัยในการใชง้ านโซเชยี ลมเี ดียตา่ ง ๆ
ค่มู ือ ข้อปฏิบตั ิ และมาตรการรักษาความปลอดภยั ในสถานศกึ ษา สำนักงานเขตพื้นท่กี ารศกึ ษาประถมศกึ ษาชมุ พร เขต 2
สาเหตุ มาตรการป้องกันและแก้ไข 27
ด้านการป้องกนั ผูร้ ับผิดชอบ
อาชญากรรม ไซเบอร์
(ตอ่ ) การป้องกันระดับองคก์ ร (Protect Corporate from 1.ผู้บรหิ าร
ดา้ นการปอ้ งกนั ฝุ่น Cybercrime) สถานศกึ ษา
PM 2.5
1. ใช้งานซอฟต์แวร์ที่ถูกลิขสิทธิ์และอัพเดตซอฟต์แวร์ให้เป็น 2.ธรุ การโรงเรยี น
ปัจจุบันอยู่เสมอ เชน่ เดยี วกนั กับคอมพวิ เตอรส์ ่วนตวั คอมพวิ เตอร์
ของบริษัทเองก็ควรใช้งานซอฟต์แวร์ที่ถูกลิขสิทธิ์เพื่อความ
ปลอดภยั ด้วยเชน่ กัน
2. เลือกใช้งานโปรแกรมแอนตี้ไวรัสที่ถูกลิขสิทธิ์ น่าเชื่อถือและ
หมั่นอัพเดตโปรแกรมและสแกนไวรัสภายในเครื่องเป็นประจำ
โดยสำหรับองค์กรที่มีจำนวนพนักงานเยอะ ๆ แล้วก็อาจเลือกใช้
งานโปรแกรมแอนตี้ไวรัสที่มีเพ็กเก็จการซื้อ License เฉพาะ
สำหรับการใช้งานร่วมกันภายในองค์กรเพื่อประหยัดงบประมาณ
ก็เปน็ อกี วิธที ่นี า่ สนใจเชน่ กนั
3. คอยอัพเดตข่าวสารเกี่ยวกับการโจมตีเจาะข้อมูลทางไซเบอร์
อยู่เสมอ โดยเฉพาะในประเด็นที่มีความเกี่ยวข้องกับองค์กร
ของเราและกำชับพนักงานให้ช่วยเป็นหเู ปน็ ตาในการรายงานสิง่ ท่ี
น่าสงสัยวา่ อาจเปน็ ไวรสั หรือมลั แวรแ์ ฝง เช่น อเี มลแปลก ๆ จากองค์กร
อ่นื หรอื จากประเทศอ่ืนท่ไี มเ่ คยมีการติดต่อสอื่ สารดว้ ย เป็นตน้
4. กำชับบุคลากรว่าไม่ควรเข้าใช้งานเว็บไซต์แปลก ๆ ที่น่าสงสัย
หรืออาจบลอ็ คการใช้งานบางเว็บไซตท์ ี่อาจลงิ ก์ไปยงั เว็บไซตอ์ ่ืน ๆ ได้
1. สถานศึกษาติดตามสถานการณ์และตรวจสอบคุณภาพอากาศ 1.ผู้บรหิ าร
ประเทศไทยทางเว็บไซต์ air4thai.pcd.go.th หรือแอปพลิเคชัน สถานศกึ ษา
air4thai ของกรมควบคุมมลพิษเป็นประจำทุกวัน หากพบว่า 2.ครปู ระจำช้นั
คุณภาพอากาศอยู่ในเกณฑ์ที่มีผลกระทบต่อสุขภาพให้พิจารณา 3.ผู้ปกครอง
เปิด - ปิด สถานศึกษา ตามระเบียบกระทรวงศึกษาธกิ ารว่าด้วยปี 4.ชมุ ชน
การศึกษา การเปิดและปิดสถานศึกษา พ.ศ. 2549 และระเบียบ 5.นกั เรยี น
กระทรวงศึกษาธิการวา่ ด้วยการเปิดและปิดสถานศึกษา(ฉบับที่ 2)
พ.ศ. 2558
2. สถานศึกษา เตรียมความพร้อมในการป้องกันผลกระทบต่อ
สุขภาพจากฝุ่นละอองขนาดเลก็ (PM2.5) ดังน้ี
สถานศกึ ษาทตี่ ้ังอยู่ในพนื้ ทค่ี ุณภาพอากาศอยู่ในเกณฑ์ (สีเหลือง)
- ให้จัดกิจกรรมทำความสะอาดห้องเรียนและอาคารเรียน
อยา่ งสมำ่ เสมอ
- ใหล้ ดการทำกจิ กรรมนอกอาคาร
- นกั เรยี นทีป่ ่วยด้วยโรคระบบหัวใจและหลอดเลือด โรคระบบ
ทางเดนิ หายใจ หอบหืด ให้พิจารณาลดการเรียน
ค่มู ือ ขอ้ ปฏิบตั ิ และมาตรการรักษาความปลอดภยั ในสถานศึกษา สำนักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาประถมศกึ ษาชมุ พร เขต 2
28
สาเหตุ มาตรการป้องกันและแก้ไข ผูร้ ับผิดชอบ
ด้านการป้องกันฝุ่น หนว่ ยงานและสถานศึกษาที่ตงั้ อยู่ในพนื้ ทคี่ ุณภาพอากาศอยใู่ น 1.ผูบ้ รหิ าร
PM 2.5 ตอ่
เกณฑเ์ กินมาตรฐานเริ่มมผี ลกระทบต่อสขุ ภาพ (สีส้ม) ให้ สถานศกึ ษา
ดำเนนิ การดงั นี้ 2.ครูประจำช้นั
- ให้นักเรยี น ผ้บู รหิ าร ครู อาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษา 3.ผปู้ กครอง
ต้องสวมหน้ากากอนามัยที่ป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็ก 4.ชมุ ชน
(PM2.5) ได้ในกรณีที่สถานศึกษามีหน้ากากอนามัยไม่ 5.นกั เรยี น
เพียงพอให้ประสานกบั ศูนย์อำนวยการชว่ ยเหลือสถานศึกษา
ประสบภัยพิบัติ กระทรวงศึกษาธิการจังหวัด เพื่อขอรับการ
สนบั สนุน
- ควรเรียนในช้นั เรยี น สำหรับกจิ กรรมกลางแจง้ อ่นื ๆ อาจได้รับ
การพจิ ารณายกเลกิ ตามความเหมาะสม
- นักเรียนท่ปี ่วยดว้ ยโรคระบบหัวใจและหลอดเลือด โรคระบบ
ทางเดินหายใจ เช่น หอบหืด ควรให้อยู่ภายในอาคารในห้อง
ปลอดฝนุ่ และต้องไดร้ บั การดแู ลจากครอู ย่างใกลช้ ดิ
สถานศกึ ษาทีต่ งั้ อยู่ในพนื้ ท่คี ุณภาพอากาศอยใู่ นเกณฑเ์ กนิ
มาตรฐานเริ่มมผี ลกระทบต่อสุขภาพ (สแี ดง) ให้ดำเนนิ การดังนี้
- นักเรยี นทกุ คนควรอยู่ในอาคาร หรือห้องเรียน และปิดประตู
หนา้ ต่างใหม้ ิดชิด
- ลดระยะเวลาทำกิจกรรมกลางแจ้ง
- เด็กเล็ก/กลุ่มเสี่ยง ควรอยู่ภายในอาคาร หรือห้องเรียนที่มี
ป ร ะ ต ู แ ล ะ ห น ้ า ต ่ า ง ป ิ ด ส น ิ ท ห ร ื อ ห ้ อ ง ป ล อ ด ฝ ุ ่ น ท ี ่ มี
เคร่อื งปรับอากาศ/เครื่องฟอกอากาศ และต้องได้รับการดูแล
จากครอู ยา่ งใกล้ชดิ
- พิจารณา เปิด – ปิดสถานศึกษา ตามระเบียบ
กระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการเปิดและปิดสถานศึกษา
พ.ศ. 2549 และระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยปี
การศกึ ษา การเปดิ และปดิ สถานศึกษา (ฉบบั ที่ 2)พ.ศ. 2558
3.สถานศึกษา ประชาสัมพันธ์สื่อองค์ความรู้และนวัตกรรม
เก่ียวกบั แนวทางการป้องกันและแก้ไขปญั หาฝุ่นละอองขนาดเล็ก
(PM2.5) ฝา่ นช่องทางตา่ งๆ รวมทั้งทางสื่อออนไลน์/เว็บไซต์เพ่ือ
สร้างการรับรู้ให้เกิดความเข้าใจ และนำไปป้องกันและแก้ไข
ปัญหา รวมทง้ั ดแู ลสุขภาพได้อยา่ งถูกตอ้ ง
ค่มู อื ขอ้ ปฏิบตั ิ และมาตรการรักษาความปลอดภยั ในสถานศกึ ษา สำนักงานเขตพ้ืนทก่ี ารศกึ ษาประถมศกึ ษาชมุ พร เขต 2
29
แบบประเมนิ ผลการปฏิบตั ิงานตามมาตรการประกันความปลอดภัยของนกั เรียน
ตามค่มู ือขอ้ ปฏิบตั แิ ละมาตรการรักษาความปลอดภัยในสถานศกึ ษา
โรงเรียน.........................................................................สำนกั งานเขตพืน้ ท่ีการศึกษาประถมศึกษาชมุ พร เขต 2
คำชี้แจง
ใหโ้ รงเรียนประเมินผลการปฏิบตั งิ านตามค่มู ือปฏบิ ตั แิ ละมาตรการรกั ษาความปลอดภยั ใน
สถานศึกษา โดยเขยี นเคร่ืองหมาย ✓ ในช่องผลการประประมินผล
ผลการประเมนิ ผลการปฏบิ ตั ิงาน
54321
(กรณีท่ผี ลการปฏบิ ตั ิงานตำ่ กว่า 3 หมาย
เหตุ
รายการ อยรู่ ะหวา่ ง กำลัง
การดำเนินการ ดำเนนิ การ
แกไ้ ข
การดำเนนิ งาน
ดา้ นที่ 1 การป้องกนั และแก้ไขอุบตั เิ หตุ
1. อุบตั เิ หตจุ ากอาคารเรยี นอาคาร
ประกอบ
1.1 โครงสร้างของอาคารเรยี น
อาคารประกอบ
1.2 การใชค้ รุภณั ฑ์
1.3 อปุ กรณไ์ ฟฟ้า
1.4 หอ้ งเรียนและห้องปฏิบตั กิ าร
1.5 หอ้ งนำ้ ห้องส้วม
2. บรเิ วณโรงเรยี น
2.1 รว้ั และประตโู รงเรยี น
2.2 บ่อน้ำ สระน้ำ บ่อเล้ียงปลา
2.3 เขตก่อสร้างและกองวสั ดุชำรดุ
2.4 ต้นไม้
2.5 สนาม สนามเดก็ เล่น สนามกีฬา
และอปุ กรณ์กีฬา
2.6 โอง่ นำ้ บอ่ เกรอะ บ่อซมึ ถงั เก็บนำ้
2.7 เตาเผาขยะ และท่ีทง้ิ ขยะ
3. สภาพแวดลอ้ มของสถานศกึ ษา
4. เครื่องมือ เครื่องใช้ และอุปกรณต์ ่างๆ
คู่มือ ข้อปฏบิ ัติ และมาตรการรักษาความปลอดภยั ในสถานศกึ ษา สำนักงานเขตพ้ืนที่การศกึ ษาประถมศกึ ษาชุมพร เขต 2
30
ผลการประเมิน ผลการปฏิบตั ิงาน
54321
(กรณที ่ผี ลการปฏบิ ตั ิงานตำ่ กว่า 3 หมาย
เหตุ
รายการ อยูร่ ะหวา่ ง กำลงั
การดำเนินการ ดำเนนิ การ
แกไ้ ข
5. การเดนิ ทางไป - กลบั
5.1 การเดนิ ทางเท้า
5.2 การเดนิ ทางโดยยานพาหนะทางบก
5.3 การเดนิ ทางดดยยานพาหนะทางนำ้
6. การพานักเรีนไปศึกษานอกสถานท่ี
7. การร่วมกิจกรรมสำคัญ
7.1 การแสดงของนักเรีนบนเวที
หรือกลางแจ้ง
7.2 การเดินรณรงคล์ กั ษณะต่างๆ
7.3 การเล่นกีฬาและการแขง่ ขันกีฬา
7.4 การเข้าค่ายพักแรมลูกเสอื
เนตรนารี และยวุ กาชาด
7.5 การเข้ารว่ มพฒั นาชมุ ชน
7.6 การใช้ลูกโป่งอัดแก๊สในการเปดิ งาน
พธิ ตี า่ งๆ
ดา้ นท่ี 2 การป้องกันและแก้ไขอุบตั ภิ ยั
2.1 อัคคีภัย
2.2 วาตภยั
2.3 อทุ กภยั
2.4 ธรณีพิบัติภัย
ด้านที่ 3 ปัญหาทางสงั คม
3.1 การล่วงละเมดิ ทางรา่ งกายและจติ ใจ
3.2 การทำรา้ ยรา่ งกายและการฆ่าตัวตาย
3.3 สารเสพตดิ
3.4 การอปุ โภคบริโภค
3.5 การทะเลาะวิวาท
3.6 การถกู ลอ่ ลองและลกั พา
คู่มอื ข้อปฏบิ ัติ และมาตรการรักษาความปลอดภยั ในสถานศกึ ษา สำนกั งานเขตพนื้ ที่การศึกษาประถมศกึ ษาชมุ พร เขต 2
31
ผลการประเมนิ ผลการปฏิบตั งิ าน
54321
(กรณีท่ผี ลการปฏิบตั ิงานตำ่ กว่า 3 หมาย
เหตุ
รายการ อยู่ระหว่าง กำลัง
ด้านที่ 3 ปัญหาทางสังคม (ตอ่ ) การดำเนินการ ดำเนนิ การ
3.7 ส่ือลามกอนาจาร
3.8 อบายมุข แก้ไข
3.9 พฤติกรรมชูส้ าว
3.10 อนิ เทอร์เนต็ แลเกม
ค่มู ือ ขอ้ ปฏบิ ตั ิ และมาตรการรักษาความปลอดภยั ในสถานศกึ ษา สำนกั งานเขตพื้นทกี่ ารศกึ ษาประถมศึกษาชมุ พร เขต 2
แบบสรปุ ผลการประเมินสถานศกึ ษา 32
หมายเหตุ
ที่ดำเนินการปฏิบัตงิ านตามคู่มือข้อปฏบิ ัติและมาตรการ
รักษาความปลอดภัยในสถานศกึ ษา
โรงเรยี น...................................สำนักงานเขตพนื้ ทก่ี ารศึกษาประถมศึกษาชุมพร เขต 2
ระดบั ช่วงช้นั 1-2 3-4
ขนาดสถานศึกษา เล็ก กลาง ใหญ่
ดา้ นตา่ งๆ ทจี่ ะประเมิน กรรมการคนที่ ผลรวามของ คา่ เฉล่ีย
(จำนวนรายการ) 1 2 3 45 คะแนน แตล่ ะด้าน
ด้านอบุ ตั เิ หตุ (24 ข้อ) แตล่ ะดา้ น
ด้านอุบตั ภิ ัย (4 ข้อ)
ด้านปญั หาสงั คม (10 ข้อ)
คะแนนรวม
คา่ เฉลยี่ รวมของคะแนนทุกดา้ น
ชอ่ื ตำแหน่ง และสังกัดของคณะกรรมการประเมิน
1)............................................................................................................................. ....................... ประธาน
2).................................................................................................................................................... รองประธาน
3)............................................................................................................................. ....................... กรรมการ
4)............................................................................................................................. ....................... กรรมการ
5).................................................................................................................................................... กรรมการ
หมายเหตุ 1. โปรดระบุวา่ เปน็ กรรมการระดับใด เขตพ้นื ที่การศกึ ษา
สหวทิ ยาเขต/กลุ่มโรงเรียน
โรงเรยี น
2. ในกรณีทีค่ า่ เฉลี่ยของคะแนนรายดา้ นตำ่ กวา่ 3 ถือว่าไมผ่ ่านเกณฑใ์ ห้มีการแก้ไขปรบั ปรงุ
3. ในกรณที ค่ี ่าเฉลี่ยของคะแนนรวมของทกุ ดา้ นต่ำกว่า 3 ถอื วา่ ตำ่ กว่าเกณฑ์ ตอ้ งมีการปรบั ปรุงแกไ้ ข
คู่มือ ขอ้ ปฏิบัติ และมาตรการรักษาความปลอดภยั ในสถานศกึ ษา สำนักงานเขตพ้นื ท่ีการศกึ ษาประถมศกึ ษาชุมพร เขต 2
33
แบบรายงานผลการปฏิบัติงาน
ตามคู่มอื ข้อปฏิบตั แิ ละมาตรการรักษาความปลอดภยั ในสถานศกึ ษา
โรงเรยี น.........................................................................สำนกั งานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชุมพร เขต 2
คำชแี้ จง แบบรายงานการดำเนนิ งานการรกั ษาความปลอดภยั ของนักเรีนฉบบั น้ีให้โรงเรยี นเขยี นข้อความที่
โรงเรยี นปฏิบตั ิเสนอต่อสำนักงานเขตพ้ืนทีก่ ารศกึ ษาปลี ะ 1 ครัง้ โดยเขียนเครือ่ งหาย ✓ ใน
หน้าข้อความและเขียนข้อความลงในช่อง ตามท่ปี ฏิบตั ิไปแลว้
1. โรงเรียนมีแผนการรกั ษาความปลอดภัยของนักเรีนในโรงเรียน
มี ไมม่ ี
2. กจิ กรรมมาตรการที่สำคัญดำเนินงานตามแผนมอี ะไรบ้าง
(1).......................................................................................................................... ......................
(2)............................................................................................................................ ....................
(3)............................................................................................................................ ....................
(4)............................................................................................................................ ....................
(5)........................................................................................................... .....................................
3. กจิ กรรมสำคญั ทผี่ ปู้ กครองมีสว่ นร่วม
(1).......................................................................................................................... ......................
(2)................................................................................................................................................
(3)............................................................................................................................ ....................
4. ผลการดำเนนิ งานของโรงเรยี นและการมีส่วนร่วมของชุมชน
ดา้ นปริมาณ................................................................................................................... ................
.......................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ..........................
ดา้ นคณุ ภาพ...................................................................................................................................
....................................................................................................................... ................................
............................................................................................................................. ..........................
5. สถติ ิการเกดิ ภัย
เรือ่ ง จำนวนนกั เรียนทปี่ ระสบ รวม การดำเนินงานแก้ไข
ภัย
ชาย หญงิ
1. ภยั ที่เกดิ จากอุบัติเหตุ
2. ภยั ที่เกดิ จากอุบตั ภิ ยั
3. ภยั ท่เี กิดจากปญั หาทางสังคม
รวมท้งั สน้ิ
6. ปัญหาและอุปสรรค
(1).......................................................................................................................... ......................
(2)............................................................................................................................ ....................
(3)........................................................................................................... .....................................
คูม่ อื ข้อปฏบิ ตั ิ และมาตรการรักษาความปลอดภยั ในสถานศกึ ษา สำนักงานเขตพืน้ ทีก่ ารศกึ ษาประถมศึกษาชมุ พร เขต 2
34
7. ขอ้ เสนอแนะ
ดา้ นที่ 1 ภัยท่เี กิดจากอุบัตเิ หตุ
.......................................................................................................................................................
............................................................................................................................................ ...........
....................................................................................................................... ................................
ดา้ นที่ 2 ภัยท่เี กดิ จากอบุ ัติภัย
............................................................................................................................. ..........................
........................................................................................................ ...............................................
............................................................................................................................. ............................
ด้านท่ี 3 ภยั ที่เกิดจากปัญหาทางสังคม
.................................................................................................................................... ...................
............................................................................................................................. ..........................
............................................................................................. .........................................................
ค่มู ือ ข้อปฏบิ ัติ และมาตรการรกั ษาความปลอดภยั ในสถานศึกษา สำนกั งานเขตพ้ืนที่การศึกษาประถมศึกษาชมุ พร เขต 2
รายชื่อคณะทำงาน
ที่ปรึกษา
1. ผูอ้ ำนวยการสำนักงานเขตพน้ื ท่กี ารศกึ ษาประถมศกึ ษาชมุ พร เขต 2
2. นายเสรี พรหมฤทธิ์ รองผอู้ ำนวยการสำนักงานเขตพ้ืนท่ีการศกึ ษาประถมศกึ ษาชมุ พร เขต 2
3. นายวีระชัย ไกยรตั น์ รองผอู้ ำนวยการสำนักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาประถมศึกษาชมุ พร เขต 2
4. นายวิชาญ คงรสั มี รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพน้ื ที่การศกึ ษาประถมศึกษาชุมพร เขต 2
คณะจดั ทำรูปเล่ม
1. นางอไุ ร นบนนุ่ ผู้อำนวยการกล่มุ สง่ เสริมการจดั การศึกษา
2. นายพิสฐิ แกว้ มาก ศึกษานิเทศก์
3. วา่ ทร่ี .ต.หญิงอจั ฉรา รัตตะมาน ผู้อำนวยการโรงเรียนชุมชนวดั ท่าสธุ าราม
4. นางสาวศริ วิ รรณ ศรสี ังข์ ผอู้ ำนวยการโรงเรยี นวดั สมหุ เขตตาราม
5. นางรงุ่ นภา ธนบัตร ผู้อำนวยการโรงเรยี นชุมชนบา้ นเขาหลาง
6. นายอำพร ศรีพรหม ผอู้ ำนวยการโรงเรียนอนุบาลพะโต๊ะ
7. นางสาวจันทรา ไหมเพชร ผู้อำนวยการโรงเรยี นวัดพะง้นุ
8. นางอิศราวดี สหี ะรญั นกั วิชาการศึกษาปฏบิ ัตกิ าร
9. นายสุนนั ท์ กงิ่ น้ำฉา เจ้าพนักงานธุรการปฏิบตั ิงาน
10. นางสาวอรวรรณ ล่องลอื ฤทธิ์ นักจติ วิทยาโรงเรียนประจำสำนักงานเขตพ้ืนที่
คู่มอื ขอ้ ปฏบิ ตั ิ และมาตรการรักษาความปลอดภยั ในสถานศกึ ษา สำนกั งานเขตพืน้ ทก่ี ารศกึ ษาประถมศกึ ษาชุมพร เขต 2
ค่มู ือ ขอ้ ปฏิบตั ิ และมาตรการรกั ษาความปลอดภยั ในสถานศึกษา สำนักงานเขตพ้นื ท่กี ารศกึ ษาประถมศึกษาชมุ พร เขต 2