The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

เกลอควน-เกลอเล-จากขุนเขาสู่ท้องทะเล_TH

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

เกลอควน-เกลอเล-จากขุนเขาสู่ท้องทะเล_TH

เกลอควน-เกลอเล-จากขุนเขาสู่ท้องทะเล_TH

ส่อื การเรยี นร้สู าระทอ้ งถ่ินโดย

สำ�นกั งานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้

ช่ือ เกลอควน เกลอเล จากขนุ เขาสู่ทอ้ งทะเล

เร่ือง รตั นา คชนาท
ภาพ รัตนา คชนาท อัญชลี อารีย์วงศ์
โครงการ สรา้ งสรรค์สอ่ื การเรียนรสู้ าระท้องถ่นิ
เลขมาตรฐานประจ�ำ หนงั สอื 978-616-235-250-8
บรรณาธกิ ารอำ�นวยการ
อารยะ มาอินทร์
ทัศนัย วงศพ์ ิเศษกุล
ผู้ช่วยบรรณาธกิ ารอำ�นวยการ
วราพร ตยานกุ รณ์
วิภาศัย นิยมาภา
ฉัตราภรณ์ กงสนิ
ภทั จรีย์ จนั ทรหนู
ปาลดิ า เรือนวงค์
นันธนา เจรญิ ภกั ดี
ทัศนยี ์ ประกอบพร
บรรณาธกิ ารดำ�เนนิ งาน
ชยั ฤทธิ์ ศรโี รจนฤ์ ทธิ์
ขอขอบคณุ
กิตติชัย เอ่งฉว้ น
ออกแบบรปู เลม่ และปก
ชลาลยั บวั เพิ่ม
พิมพค์ ร้งั แรก ๒๕๕๙ จ�ำ นวน ๓,๐๐๐ เล่ม
สงวนลิขสิทธ์ิ c สำ�นักงานอุทยานการเรยี นรู้ ส�ำ นกั งานบรหิ ารและพฒั นาองคค์ วามรู้ (องคก์ ารมหาชน)

สำ�นักงานบรหิ ารและพัฒนาองค์ความรู้

เจ้าของโครงการ
ส�ำ นกั งานอทุ ยานการเรยี นรู้ (สอร.)
สงั กัดสำ�นกั งานบริหารและพัฒนาองคค์ วามรู้ (องค์การมหาชน)
สว่ นบรกิ าร ศนู ยก์ ารค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น ๘ Dazzle Zone ถนนราชด�ำ ริ ปทมุ วนั กรงุ เทพฯ ๑๐๓๓๐
โทรศพั ท์ ๐ ๒๒๕๗ ๔๓๐๐ โทรสาร ๐ ๒๒๕๗ ๔๓๓๒
ส่วนส�ำ นกั งาน ๙๙๙/๙ อาคารส�ำ นกั งานเซ็นทรลั เวิลด์ ชัน้ ๑๗ ถนนพระราม ๑ ปทมุ วัน กรงุ เทพฯ ๑๐๓๓๐
โทรศพั ท์ ๐ ๒๒๖๔ ๕๙๖๓-๕ โทรสาร ๐ ๒๒๖๔ ๕๙๖๖
www.tkpark.or.th

คำ�นำ�

ภารกจิ ส�ำคญั ตอ่ สงั คมประการหนงึ่ ของส�ำนกั งานอทุ ยานการเรยี นรู้ คอื การปลกู ฝงั
นิสัยรักการอ่าน และการกระจายโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเรียนรู้ท่ีทันสมัยและสอดคล้อง
กับความสนใจของเด็ก เยาวชน และประชาชน ในรูปแบบห้องสมุดมีชีวิตท่ีสร้างสรรค์บน
พน้ื ฐานการมสี ว่ นรว่ มของภาคสว่ นตา่ งๆ โดยส�ำนกั งานอทุ ยานการเรยี นรไู้ ดร้ ว่ มกบั องคก์ ร
ปกครองส่วนท้องถ่ินในภูมภิ าคตา่ งๆ เพ่อื ขยายผลการด�ำเนนิ งานดังกลา่ ว
การสร้างสรรค์สื่อการเรียนรู้สาระท้องถ่ิน ให้มีรูปแบบการน�ำเสนอท่ีทันสมัยและ
ดึงดูดความสนใจ เป็นเครื่องมือที่ส�ำคัญอย่างหน่ึง ซึ่งส�ำนักงานอุทยานการเรียนรู้เห็นว่า
มีส่วนในการสร้างแรงบันดาลใจให้เด็กและเยาวชนสนใจการอ่านและใฝ่หาความรู้อย่าง
ต่อเนื่อง โดยน�ำเร่ืองราวภูมิปัญญาสาระท้องถ่ินใกล้ตัวท่ีสอดคล้องกับวัย การด�ำรงชีวิต
พรอ้ มกบั สอดแทรกแนวคดิ ดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม มาเปน็ เนอื้ หาของสอ่ื การเรยี นรสู้ �ำหรบั
เยาวชนตามชว่ งวยั ตัง้ แต่ ๓ – ๑๒ ปี
ส่ือการเรียนรู้สาระท้องถิ่นจังหวัดภูเก็ตและจังหวัดกระบี่ชุดน้ี ส�ำนักงานอุทยาน
การเรยี นรไู้ ดร้ ว่ มกนั สรา้ งสรรคก์ บั นกั วชิ าการและนกั เขยี นในทอ้ งถน่ิ เพอื่ ใหเ้ ดก็ และเยาวชน
รวมทั้งประชาชนท่ัวไปในจังหวัดภูเก็ตและจังหวัดกระบี่ ได้รับความรู้และความภาคภูมิใจ
ในวัฒนธรรมและท้องถ่ินของตน รวมท้ังก่อให้เกิดความเข้าใจและการยอมรับในวิถีชีวิต
วัฒนธรรมท่ีหลากหลายตามบริบทพ้ืนทแี่ ละสภาพแวดล้อมท่ีแตกตา่ งกันออกไป
ส�ำนกั งานอทุ ยานการเรยี นรู้ มุง่ หวังวา่ หนงั สือชดุ น้ีจะเป็นสอ่ื การเรยี นรอู้ ีกชดุ หน่งึ
ทีจ่ ะส่งเสริมการอา่ นและการเรียนรไู้ ด้อย่างมปี ระสทิ ธิภาพ ซง่ึ หมายถงึ เป็นหนงั สอื ทผ่ี ้อู ่าน
อ่านอย่างมีความสุข สนุกในการอ่านและก่อให้เกิดความตระหนักในคุณค่าของท้องถ่ิน
ตนเองได้อยา่ งแทจ้ ริง

ส�ำนักงานอุทยานการเรียนรู้



เกเกลลออคเวลน
จากขุนเขา
สู่ทอ้ งทะเล

โครงการ เกลอควน เกลอเลแลกเปลีย่ นประสบการณ์ เล่าเรอื่ งบา้ นฉันให้บา้ นเธอฟงั

เรื่อง รตั นา คชนาท
ภาพ รัตนา คชนาท และ อญั ชลี อารีย์วงศ์

เกลอ ควน เล

คนใตห้เมรยีายกแถทึง นเพเพ่ือ่ือนนสวนา่ ิทเกลอหมายเปถ็นงึ ภเานษนิ าเขถา่ินใเตน้ นิ ดิน หมายถึง ทะเล

ณ ศาลากลางจังหวัดกระบี่ ก�ำลังจดั แสดง
นิทรรศการความร้เู กีย่ วกบั จงั หวดั กระบี่
คณุ ครตู า่ งพาเด็กนกั เรยี นมาชมนทิ รรศการกัน
อยา่ งคกึ คัก

“ภผู า” กบั เพ่อื นๆ เดินทางมาจาก
อ�ำเภอเขาพนม พอลงจากรถไดก้ ็คุยกันใหญ่

“นัง่ รถมาเกือบชวั่ โมงเลย เมอื่ ยจงั ”
6 “ฉนั ว่าฉันได้กลน่ิ อายทะเลด้วยละ่ อยากไปทะเลจงั ”

ขณะเดียวกัน ก็มีเดก็ นกั เรยี นอีกกล่มุ หนึ่ง
เดินมุ่งหนา้ ส่ศู าลากลางเช่นกนั “ในทีส่ ดุ ก็มา
ถงึ แล้ว ท้ังขึ้นรถ ลงเรือ แลว้ ก็ขน้ึ รถ ฮ้า...เดนิ
ทางเกอื บ ๓ ช่วั โมงเชียวนะเนยี่ ”
“พูดเบาๆ หนอ่ ยจะ้ อมู ะ” ครกู อ้ ยเตอื น
เดก็ ๆ กลุ่มนีม้ าจากโรงเรยี นบน
เกาะลันตา นานๆ ครง้ั เด็กจากเกาะจะได้มา
ใจกลางเมอื งกระบแี่ บบน้ี

7

นทิ รรศการ กระบ่ี

กระบ่ี ด๊ี ดี
เทีย่ วท้งั ปสี บายๆ กระบ่ีสเี ขียว

จังหวดั กระบ่ี มชี ายฝั่งตดิ ทะเล พบความงามของ
อนั ดามนั ราว ๑๖๐ กิโลเมตร สายหมอกเหนอื
ขนุ เขาพนมเบญจา
อ.ปลาย มหี มู่เกาะ และแมกไม้นานา
พระยา น้อยใหญ่ พนั ธ์ขุ องป่าดิบช้นื
๑๕๔ เกาะ มปี ่าทร่ี าบตำ�่ ท่อี ุดม
สมบรู ณผ์ นื สุดท้าย
เปน็ เมืองท่า อ.อ่าวลึก อ.เขาพนม ในไทย คอื ผนื ป่า
ค้าขายมาแต่ ทุ่งเตยี ว เขตรกั ษา
โบราณ อ.เมอื งกระบ่ี พนั ธสุ์ ัตว์ปา่ เขาประ-บางคราม

อ.เหนือ อ.ล�ำทบั
คลอง

อ.คลองท่อม

อ.เกาะลนั ตา

เปน็ แหล่ง ปากแม่น้�ำกระบ่ี
โบราณคดเี ก่าแก่ มผี นื ปา่ ชายเลน
ตง้ั แต่ยุคก่อน ทอดยาวนบั พนั ไร่
ประวตั ศิ าสตร์

เด็กๆ ทยอยกนั เขา้ มา
ภายในอาคารของศาลากลาง
จงั หวัดกระบ่ี แล้วแยกยา้ ยกัน
8 ไปชมนิทรรศการตามจุดตา่ งๆ

เมอื งนา่ อยู่ ผ้คู นน่ารัก
วถิ ีชุมชน
ท่เี ทยี่ วด๊ี ดี หงอนนาค
กระบม่ี ผี ู้คนหลายชาตพิ นั ธุ์ อาศยั อยู่
ค้นหา ๕๐ แหล่งท่อง ด้วยกนั อย่างสงบสุข มวี ิถีชุมชนท่เี รยี บง่าย
เทย่ี วน่ามหศั จรรย์ มง่ั มภี มู ปิ ัญญา ใช้ชีวิตพงึ่ พาธรรมชาติ

กาะห้อง ไทยมสุ ลิม

บ ้นนำเขาขนา สบื ทอดวฒั นธรรมประเพณี
ส ทม่ี มี าแต่บรรพบุรุษ เพม่ิ
ระมรกต รกกั จิ ษก์กรรระมบ่ี มนตเ์ สน่ห์ให้กระบ่มี ริ ู้ลืม
เขา

ไทยจีน

สรา้ งบ้านปลา ไทยพทุ ธ

เก็บขยะ
ใต้ทะเล ไทยใหม่หรอื
ทะเลแหวก ปลกู ปา่
ชายเลน ชาวเลอรู กั ลาโว้ย

ถถำ้ คลั เรอื หวั โทง
สัญลักษณ์
ง แห่งทะเล

หมู่เกาะพีพี อนั ดามนั

ณ ห้องโถงนิทรรศการ มีบอรด์ จัดแสดงความรู้เก่ยี วกบั จงั หวัดกระบี่อย่างน่าสนใจ

ตัวภาพเขียนสปี ระวตั ิศาสตรก์ ลายเป็นพระเอกทีเ่ ดก็ ๆ ต้องมาถา่ ยรูปด้วย
9

เทือกเขาสูงสลบั ซบั ซ้อนทอดยาวจากเหนือจรดใต้ เป็นปา่ ดิบชนื้
ทย่ี ังคงความอดุ มสมบรู ณ์ มยี อดเขาพนมเบญจาสงู ตระหง่าน
เหนือระดบั น�้ำทะเล ๑,๓๙๗ เมตร สงู สุดดจุ เป็นหลงั คาเมืองกระบ่ี
เป็นต้นกำ� เนิดสายนำ�้ หล่อเล้ยี งสรรพชวี ิต

เขาพนมเบญจา

หลงั คาเมืองกระบ่ี

ยอดเขาพนมเบญจา อุทยานแห่งชาติเขาพนมเบญจา

นำ�้ ตกห้วยโต้ ••ท่ที �ำการอุทยานฯ KHA PHANOMBENCHA NATIONAL PARK
•น�ำ้ ตกห้วยสะเด กรมอทุ ยานแห่งชาติ สตั วป์ า่ และพชื พนั ธ์ุ

น่าไปปีนเขา อุทยานปา่ บกแห่งเดยี วในกระบี่
ตง้ั แคมป์จงั เนอะ มไี ม้ส�ำคัญหลายชนดิ เช่น
ตะเคยี นทอง ยาง ตะแบก
หลมุ พอ จำ� ปา เป็นต้น

กล่มุ อูมะดูบอร์ดแลว้ ก็

อยากไปเที่ยวขนุ เขาสูงสุด
ของเมืองกระบีน่ สี้ ักครง้ั
ใกลๆ้  กันนน้ั ภผู าและ
เพอื่ นๆ กต็ น่ื ตากับ
ชายหาดท่เี รยี งราย
ของเกาะลนั ตา

10

เกาะลนั ตา ชมุ ชน เกาะลนั ตานอ้ ย
โต๊ะบาหลวิ
มากหาดละลานตา บ้านศาลาด่าน

เกาะลนั ตาเป็นอ�ำเภอเดยี วของกระบ่ี ลเใกันหาตญะา่ ๔ วิถีชุมชนเก่าแก่
ท่มี ลี กั ษณะเปน็ เกาะ
ทว่ี ่าการอำ� เภอและสถานทร่ี าชการ น่าเรยี นรู้
ต่างๆ อยู่บนเกาะลนั ตาน้อย เมืองเก่าลนั ตา
ส่วนเกาะลนั ตาใหญ่นน้ั เปน็
แหล่งท่องเท่ยี วขึ้นชอ่ื ระดบั โลก

หาดคลองดาว บ้านศรรี ายา
บ้านสงั กาอู้
หาดคอกวาง หาดคลองจาก
หาดคลองโข่ง หาดหินงาม
๙ หาดเรยี งรายสุด หาดคลองโตบ
ปลายเกาะท่แี หลมโตนด

หาดพระแอะ
หาดคลองนนิ

หาดบากนั เตยี ง

สดุ ยอด!
อยากไปจัง

เด็กไกลทะเล 11
ต่างใฝฝ่ ันอยากไป
เที่ยวเกาะ ลอยคอ
เล่นน้ำ� ทะเลให้ฉ่�ำใจ

ราวกับมใี ครไดย้ ินความปรารถนา

ของเดก็ จากขุนเขาและทะเล หลังงานแสดง
นทิ รรศการจงั หวดั กระบจ่ี บลง ทางอ�ำเภอเขาพนม
กับอ�ำเภอเกาะลันตาก็รว่ มมอื กันจัด
โครงการ “เกลอควน เกลอเล”

เพ่ือให้เด็กๆ จากขุนเขา
และทอ้ งทะเล ไดแ้ ลกเปล่ียน
ประสบการณก์ ัน เลา่ เร่ืองบา้ น

ฉันให้บ้านเธอฟงั

ภผู าและเพ่อื นๆ ช้นั ป.๕ เป็นตวั แทนนักเรยี น โครงการ
จากอ�ำเภอเขาพนม ส่วนตัวแทนนักเรียนจากอ�ำเภอ
เกาะลนั ตา คอื อูมะกับเพอื่ นๆ ชนั้ ป.๕ นัน่ เอง
เมือ่ อูมะเจอภผู าอีกครง้ั ก็จ�ำได้ว่าเคยเหน็ ทีง่ าน
แสดงนทิ รรศการ ทั้งสองทักทายและท�ำความร้จู กั
กนั อย่างเปน็ ทางการ

12

“เกลอควน เกลอแลกเปลย่ี นประสบการณ์
เล”เล่าเรอ่ื งบ้านฉันใหบ้ า้ นเธอฟัง

คุณครแู ละเดก็ ท้ังสองกลุ่มมารว่ มเปดิ โครงการ และท�ำความรู้จกั กัน โครงการน้ี
นอกจากจะให้เด็กๆ ได้สลบั สับเปลีย่ นกันไปเยอื นทีอ่ ยู่ของอกี ฝา่ ยแล้ว ยงั ตอ้ งเตรียม
การแสดงทอ้ งถนิ่ ของตนไปใหเ้ พ่อื นๆ ตา่ งโรงเรียนดดู ว้ ย

13

เลา่ ประวัติ โรงเรยี นของภผู า จะเปน็ ฝา่ ยเร่มิ ต้น
ลเิ กปา่
ไปแลกเปลย่ี นท่ีเกาะลันตาก่อน พวกเขาตกลง
กันวา่ จะแสดงลิเกป่าให้เพือ่ นๆ ทีน่ ัน่ ดู เพราะ
ปัจจบุ ันนี้ ในจังหวัดกระบี่ มีคณะลเิ กปา่ แค่ใน
อ�ำเภอเหนือคลองกับอ�ำเภอเขาพนมเทา่ นน้ั
ภผู าเคยดลู ิเกปา่ หลายครงั้ ดูทีไรก็สนกุ
แตเ่ ขายังไม่เคยรู้ความเป็นมาของลิเกป่าเลย
รู้แต่วา่ เป็นการละเล่นทอ้ งถ่นิ ของภาคใต้
ครมู าโนชจึงช่วยเล่าประวัตขิ องลิเกปา่ ให้
เดก็ ๆ ฟงั

ครูเลา่ ว่า...ลเิ กป่าเป็นการละเลน่ ภายหลงั จึงเพยี้ นเสยี งเป็น “ลเิ ก” หรือ
ย่ีเก
พนื้ บ้านโบราณท่แี พรห่ ลายในจงั หวดั ตอ่ มาชาวบ้านได้ฟังการสวดดิเกร์
ตรงั พังงา และกระบ่ี สืบทอดตอ่ กนั มา กห็ ัดรอ้ งตามท�ำนอง และดดั แปลง
ไมต่ ่ำ� กวา่ ๘๐-๑๐๐ ปี สนั นิษฐานวา่ เตมิ แต่งความสนกุ สนาน ผสมผสาน
ได้รับอทิ ธิพลทางวัฒนธรรมมาจากแขก วฒั นธรรมท้องถ่นิ ใต้เขา้ ไปจนพัฒนามา
เปอร์เชยี หรือแขกเจา้ เซนทเ่ี ดนิ ทางมา เป็นลเิ กป่าเชน่ ทุกวนั น้ี
ค้าขาย เป็นบทสวดประกอบ
จงั หวะร�ำมะนาทเ่ี รยี กว่า “ดเิ กร”์ ลเิ กป่ามี
ประวตั ิ
ยาวนานจริงๆ
นะครบั

14

ลิเกป่าเล่นใน ลเิ กปา่ เปน็ การแสดง
งานไหนบ้างคะ ทส่ี นกุ มักเล่นในงานรน่ื เริง
ทางคณะจะปลูกโรงต้งั เวที มฉี าก

สวยงามเชียวล่ะ

แล้วเล่นเรอื่ ง เนอ้ื เรอ่ื งหลกั กค็ ือ ชุดแขกแดง เปน็ เรอื่ งราวของ
อะไรบ้างครบั แขกจากเมอื งลกั กะตา (กัลกัตตา) ประเทศอนิ เดยี
ทเ่ี ดินทางมาค้าขายในเมอื งไทยแถบชายฝั่งทะเล
ตะวันตก และได้ภรรยาเป็นคนไทย ชอ่ื ยายี หรือ
ยาหยี ต่อมาแขกแดงคดิ ถงึ บ้าน จงึ ชวนยายกี ลับไป
บ้าน ยายเี ป็นห่วงแม่กไ็ ม่ยอมไป แขกแดงเจรจาอยู่
นานกว่าจะใจอ่อน และได้เสนาเป็นคนขบั เรือให้

คณะลเิ กป่าจะเขยี นบทการแสดงลเิ กป่าขนึ้ เองจากโครงเรอ่ื งแขกแดง เน้ือเรอ่ื งจงึ สน้ั ยาวแตกต่างกนั จะยืดหรอื หด
ก็ได้ตามต้องการ ความสนุกจะอย่ทู ่ที ่าเต้นและการใช้ปฏิภาณไหวพริบในการเจรจาของตวั ละครนน่ั เอง

ลำ� ดับข้ันตอนการแสดงลิเกปา่

๑. เบิกโรง ดนตรปี ระโคมโหมโรง เคร่อื งบูชาเบกิ โรง มหี มาก ๒. ไหว้ครู ร้องเพลงเวยี นในลูกคู่ เพอ่ื เชญิ ครู
บวงสรวงเจ้าท่ี ส่ิงศกั ดส์ิ ทิ ธ์ิ และ ๕ คำ� พลู ๕ ค�ำ เทยี น ๑ เล่ม มาประจำ� โรง แล้วจงึ ร้องบอกชุดการแสดง
ท้งั ๑๒ ชุด ตามประเพณี ส่วนมากนยิ มเล่น
ครบู าอาจารย์ให้อวยชยั ธปู ๕ ดอก และเงนิ ๑๒ บาท เรอ่ื งแขกแดงเท่านน้ั

หลงั จากจบชุดแขกแดง
จะแสดงเรอ่ื งอนื่ ได้ตามต้องการ
แล้วจึงร้องเพลงส่งครกู ลับสู่
สถานท่อี ยู่ เปน็ ลำ� ดบั สดุ ท้าย

๓. ออกแขก เรยี ก “เต้นเทศ” ๔. เร่ิมแสดง เล่นเรอื่ งแขกแดง
เป็นการเต้นของแขกตามจงั หวะ จนจบ

ร�ำมะนา ถ้ามมี ่านหรอื ฉากก็ 15

เรยี กว่า “การเต้นกระตุกม่าน”

ใแ คขรกกแันดนะง? หลงั จากรูป้ ระวตั ลิ เิ กปา่ พอสมควรแล้ว

กม็ าถงึ ตอนเลอื กตวั นกั แสดงและนกั ดนตรี
เดก็ ๆ เขาพนมเบญจาเคยดูลเิ กปา่ กันมาแต่เลก็
เมอื่ ต้องแสดงเองก็ตืน่ เต้นกันใหญ่ ครูมาโนช
จงึ มาช่วยควบคุมการซอ้ มลเิ กป่าดว้ ย
แขกแดง ลเิ กปา่ คณะหน่ึงมนี กั แสดงและนักดนตรีรวมกันราว ๑๐-๒๐ คน
การแสดงชดุ แขกแดงจะมตี วั ละครส�ำคัญ ๓ ตัว คอื แขกแดง
ยายี และเสนา
ภผู ารับบทเป็นแขกแดง ใส่จมูกปลอม เสนา
ใหญเ่ บ้อเร่มิ ท�ำด้วยไมท้ าสีแดงแจ๋ แลว้ ก็ตดิ
หนวดเคราใหย้ าวรกรงุ รัง เป็นลักษณะเดน่ ของ
ตัวละครแขกแดงเลยล่ะ
สว่ นยายี หรือ ยาหยี จะสวมเสือ้ แขนยาว
มีผ้าคลุมผม และนงุ่ ปาเตะ๊ สตี ่างๆ
สดุ ท้าย เสนา เปน็ ตวั ละครทีเ่ รียกเสยี งฮา
จึงต้องแตง่ หนา้ ตาให้ดตู ลก หรือไมก่ ็ทาแปง้
ขาวโพลนไปทัง้ ตวั ส่วนมากไม่ค่อยสวมเสื้อ
น่งุ แคโ่ สรง่ ผืนเดียวกแ็ สดงไดแ้ ลว้

ยายี

คณะลเิ กป่าแถบ
จังหวดั กระบ่ี จะมี
ตวั ประกอบเพมิ่ เติม

ดงั นด้ี ้วย

เจ้าเมือง (หรือนายด่าน) แม่ของยายี แตง่
แตง่ กายตามสมัยนิยม ส่วนมาก ตัวแบบผู้หญิงไทย
จะสวมกางเกงขายาว หรือนุง่ มสุ ลมิ ภาคใต้
โจงกระเบน สวมเส้ือแขนยาว
16 หรอื แล้วแตส่ ะดวก

รำ� มะนาเปน็ กลองหน้าเดยี ว โหม่ง (ฆ้องคู่)
ใช้ร�ำมะนาใหญ่

กับร�ำมะนาเลก็

ส่วนเรือ่ งเคร่อื งดนตรี

จะมรี �ำมะนา ๒ ลกู , โหมง่ หรอื ฆอ้ งคู่ ๑ ชุด,
ฉงิ่ ๑ ค,ู่ กลองตุ๊ก ๑ ลูก, ปี่ ๑ เลา
และซอ ๑ คนั คณะลิเกปา่ จะขาด
ร�ำมะนาไมไ่ ดเ้ ลย บางครงั้ จงึ เรยี กวา่
ลเิ กร�ำมะนา

ฉ่งิ กลองตุก๊

ป่ี ซอ

นอกจากน้ีแลว้ ยงั มีลูกคตู่ ามจ�ำนวนเคร่อื งดนตรดี ว้ ย
ลูกคูน่ อ้ี าจเป็นตัวแสดงในจนิ ตนยิ ายเรอ่ื งอน่ื ๆ เมือ่ แบ่งหนา้ ทก่ี ันลงตัว
ทุกคนก็ฝึกซอ้ มกนั อยา่ งตัง้ ใจเพอ่ื ใหก้ ารแสดงออกมาดที ส่ี ุด

17

เม่อื ถงึ วันเดนิ ทาง ครูมาโนชก็พาภผู าและเพือ่ นๆ

เกลอควน น่งั เรอื โดยสารมุ่งสู่เกาะลันตาใหญ่ เด็กๆ จากควน
เขาพนมฮือฮา ตืน่ ตาต่ืนใจ ผืนน�ำ้ ทะเล
เกลียวคลน่ื ฟ้าสคี รามและเกาะแกง่ คอื
ลอ่ งทะเล ววิ ทิวทศั นใ์ หม่ทสี่ วยงามจริงๆ

อูมะเปน็ ตวั แทนไปรับคณะนักเรียน เขาพนม มปี า่ อุดม ปลูกส้ม
จากอ�ำเภอเขาพนมทท่ี ่าเรือข้ามฟาก และ เบญจา สมบรู ณ์ โชกุนอร่อย
พาน่งั รถต่อมาถึงพิพธิ ภณั ฑช์ มุ ชน
ชาวเกาะลนั ตา ซงึ่ เปน็ สถานทีจ่ ดั แสดง ไม่ ได้ โม้
ลิเกปา่ ในค�ำ่ คืนน้ี เพอ่ื นๆ ทเี่ กาะลันตา มตี ้นไม้ยกั ษ์
กร็ อต้อนรบั อยทู่ นี่ ั่นแล้ว
ภูผาและเพื่อนๆ เล่าเร่ืองราวของ ด้วยนะ
เขาพนมใหท้ กุ คนฟัง แถมยงั เอาส้มโชกุน
ของขึน้ ชื่ออ�ำเภอเขาพนมมาฝากด้วย

ถา้ ขน้ึ ไปบนยอด หนิ ย้อย
เขาพนมจะเหน็ ในถำ�้
ววิ ทะเลหมอก
ชมหนิ งอก
สวยเลยล่ะ

ป่ขู องฉนั เป็นพราน เล่นน�้ำตก
เคยเจอเสอื ด�ำ ห้วยโต้
กับหมคี วาย
ในป่าด้วยล่ะ

ตาบอกว่าสมยั ก่อน
ถ้าใครได้ ไปทะเล
จะกลับมาคยุ อวด
ไปทัง้ หม่บู ้าน
18

อูมะอาสาพาบรรดาเกลอควนชม

พพิ ธิ ภัณฑ์ชมุ ชนชาวเกาะลันตา ซ่งึ เปน็
สถานทร่ี วบรวมประวตั ศิ าสตรข์ องชาว
เกาะลันตาตง้ั แตม่ าจากแหลมมลายู
มีหอ้ งจ�ำลองจดั แสดงข้าวของเคร่ืองใช้
วถิ ชี วี ิต อาชีพ และขนบธรรมเนียมของ
ชาวลันตา

พพิ ิธภณั ฑช์ ุมชน
ชาวเกาะลนั ตา

การชมพพิ ิธภัณฑ์ฯ
ท�ำใหภ้ ูผาและเพ่ือนๆ รู้จัก
เกาะลันตาขึน้ อีกเยอะเลย
ท่นี ีม่ ผี คู้ นตัง้ ถิ่นฐานมาหลายรอ้ ยปีแล้ว
เพราะมที �ำเลดี เหมาะเป็นทพ่ี กั เรือและ
หลบมรสุม จงึ กลายเป็นเมอื งท่าคา้ ขาย จนสดุ ท้าย
ก็เกิดเปน็ ชุมชนคึกคกั มผี ู้คนหลากหลายชาติพันธ์ุ
อาศยั อยู่ด้วยกนั อยา่ งสงบสขุ ทง้ั ชาวไทยมุสลิม ไทยพุทธ
ไทยจนี และชาวไทยใหม่หรือชาวเลอูรักลาโวย้
พอค�่ำลง ก็ได้เวลาแสดงลิเกป่า ภูผาและเพ่อื นๆ แสดงฝีมือกันเต็มท่ี
สร้างความประทับใจแก่เพ่ือนๆ ในโครงการและชาวเกาะลนั ตา
ทุกคนสนกุ สนานเฮฮาเป็นอยา่ งมาก
19

อยู่กบั เล กนิ กบั เล

รงุ่ เชา้ อมู ะก็พาเพอื่ นๆ เดินเท่ียวหมู่บา้ นสงั กาอู้

ที่อยู่ตอนปลายเกาะลนั ตา อมู ะเกดิ และเตบิ โตทีน่ ่ี
เขาเป็นลูกหลานชาวเลอูรกั ลาโวย้
“เราพดู ภาษาอูรกั ลาโว้ยกัน สังกาอู้

แปลว่า อ่าว สว่ นอูมะช่ือฉนั
แปลวา่ คลืน่ ล่ะ”

อมู ะยงั เล่าใหฟ้ งั ว่า บรรพบุรษุ ฝาบ้านตดี ้วย
ของเขา เป็นชาวเลเผา่ ดัง้ เดมิ แหง่ ไม้ ไผ่หรอื ใช้
คาบสมุทรอนั ดามนั มีเรือเป็นบ้าน
ออกเร่ร่อนรอนแรมหากนิ ไปในท้อง ไม้ ไผ่สาน
ทะเล จนเมอื่ ราว ๕๐๐ กวา่ ปีก่อน เป็นลวดลาย
ได้ตดั สนิ ใจลงหลกั ปักฐานทเี่ กาะลันตา
เป็นแห่งแรก ก่อนจะขยบั ขยายย้าย ใต้ถุนยกสูง
ถ่ินฐานไปถ่นิ อ่ืน เกาะลนั ตาจึงเปน็ พ้นระดบั นำ้� ทะเล
เสมือนเมอื งหลวงของชาวเลอรู กั ลาโว้ย
และทเี่ กาะลันตากม็ ีชุมชนชาวเลอยู่ หลงั บ้าน มบี นั ได
๔ แหง่ ด้วยกัน คอื โตะ๊ บาหลวิ , ในไร่, ใช้ลงเรือออกทะเล
คลองดาว และสงั กาอู้
20 ชาวเลสว่ นใหญเ่ กีย่ วดองเป็นญาตกิ ัน
มักปลูกบ้านอยู่ติดชายทะเล เป็นบา้ นช้นั เดยี ว
ยกใต้ถนุ สงู หลงั บ้านสร้างยื่นลงไปในทะเล
บ้านไหนทีไ่ ม่ติดชายฝัง่ กจ็ ะหนั หน้าบ้านเข้าหา
ทะเล ยกพืน้ สูงไวเ้ ลีย้ งเป็ดไก่ มนี อกชานไว้
นัง่ เล่นและซอ่ มแซมเครอ่ื งมอื ประมง

โต๊ะหมอ คือ เด็กๆ จากเขาพนมไดฟ้ ัง
ผู้ทำ� พิธกี รรม เร่ืองเลา่ จากโตะ๊ หมอ
ประจ�ำหม่บู ้าน
เกี่ยวกับพิธีลอยเรือปาจ๊ัก
วา่ ตอ้ งท�ำทกุ ปี ปีละ ๒ ครง้ั
ในช่วงลมเปล่ียนทิศ เพอื่

สะเดาะเคราะห์ และขอ
อ�ำนาจจากผีหรือสิ่งศักดิ์สิทธ์ิ
ให้คุ้มครอง รวมท้ังเซ่นไหว้
บรรพบุรษุ ดว้ ย

โต๊ะหมอยังเล่าวถิ ี
ชาวเลใหฟ้ งั ดว้ ยว่า...
ผู้ชายจะออกเรือหาปลา
แต่เช้า ส่วนแม่บ้านก็
หุงหาอาหารท�ำงานบ้าน
เดก็ ๆ วง่ิ เล่นตามประสา

ศาลารองเง็ง-หอชาตพิ นั ธุ์ชาวเล กบั ขา้ วชาวเล
ถ่ายทอดประวตั คิ วามเป็นมาของ
ชาวเลกินข้าวเป็นอาหารหลัก นิยมหุงข้าวมนั
ชาวเลตง้ั แต่อดตี มะพร้าวหรือข้าวมันกะทิ กินกับน�้ำพริกขย�ำ
และหอยติบ ซง่ึ เปน็ หอยนางรมพนั ธ์เุ ลก็

เมอื่ เรือหาปลากลับเข้าฝั่ง
ทกุ คนในครอบครัวก็จะชว่ ยกนั
ปลดก้งุ ปลา หมกึ ออกจากอวน

เกบ็ ตวั เลก็ ๆ ไว้ท�ำกนิ เอง
คดั เลอื กตัวใหญ่ๆ เอาไปขาย

ท่ีแพปลา จากนน้ั ก็เตรยี ม
เคร่อื งมือหาปลาไวร้ อ
ออกเรอื พรุง่ นี้
21

รกั กระบ่ี
รักษ์ทะเล หากคนรกั ษท์ ะเล

ทะเลกจ็ ะเออ้ื อารแี ละ
รกั เราเช่นกัน

วันต่อมา ก็ได้เวลาท่ีภูผาและเพ่อื นๆ ต้อง

กลับเขาพนมแล้ว พวกเดก็ ๆ ขอไปเลน่ น้ำ�
ทะเลใหช้ มุ่ ฉำ่� ใจก่อนกลับบ้าน
จากนั้น ครกู ็พาเดก็ ๆ ไปท�ำกจิ กรรมอนรุ กั ษธ์ รรมชาติ
ท่ีบ้านทุ่งหยีเพง็ ซึ่งเป็นหนึ่งในหมบู่ ้านท่องเทยี่ ว
วถิ ชี ุมชนตน้ แบบของจงั หวัดกระบ่ี
เร่มิ ต้นดว้ ยการสร้างบา้ นปลา
โดยใช้กิ่งไมท้ �ำเปน็ โครงก่อน แลว้ มงุ
ด้วยใบไม้ เสร็จแลว้ น�ำไปปกั ในล�ำคลอง
ตามแนวป่าโกงกาง ท่ีมีน�ำ้ ทว่ มถงึ ตลอดเวลา
ล่อให้ปลามาอยู่ พอถึงชว่ งมรสุม ชาวประมง
ก็จะออกหาปลาในบรเิ วณบา้ นปลาทว่ี างไว้
เปน็ ภมู ปิ ัญญาทช่ี าญฉลาดจริงๆ
เสรจ็ แลว้ ก็ไปปลูกปา่ ชายเลนกนั ต่อ ทางชุมชนท่งุ หยเี พ็งเตรยี มกลา้
ตน้ โกงกางไว้รองรับผู้มาท�ำกจิ กรรมอยู่แล้ว เดก็ ๆ ลุยโคลนลงไป
ปลูกปา่ อย่างไม่กลวั เลอะ ไดส้ มั ผสั ธรรมชาตขิ อง
ป่าชายเลน เหน็ ตน้ ไม้ทมี่ ลี ักษณะพเิ ศษ
เพราะต้องปรับตัวใหอ้ ยู่รอดในบริเวณ
ที่มีน้�ำขึน้ น้ำ� ลงตลอดเวลา

22

การมปี า่ ชายเลนก็เหมือนมกี �ำแพงธรรมชาติ
ช่วยปอ้ งกันการกดั เซาะชายฝง่ั และชะลอความ
รุนแรงของกระแสนำ้� ด้วย อมู ะเลา่ วา่ แตก่ ่อนมี
การตัดไม้โกงกางไปเผาถ่านเยอะ ท�ำให้ปา่ ชายเลน
รอ่ ยหรอลง ตอ้ งปลูกทดแทน ถ้าป่าชายเลนอดุ ม
สมบรู ณ์ ชาวเลก็จะไมอ่ ดตายเช่นกนั เพราะทนี่ ี่
เป็นแหล่งอาหารและอนุบาลสตั ว์น้�ำหลายชนิด
หลงั ท�ำกิจกรรมร่วมกนั เดก็ จากภเู ขาและ
ทะเลกส็ นทิ กนั มากข้นึ ภผู าและเพอ่ื นๆ มา
แลกเปล่ยี นประสบการณ์คราวนี้ ไมเ่ พยี งแต่
เห็นความงามของทะเล แต่ยงั ได้ตระหนกั
ถงึ ความส�ำคญั ของทะเลทีม่ ีตอ่ ชีวิตผคู้ น
ชายฝั่งอันดามันอีกดว้ ย

ใบเปน็ มนั
มตี ่อมขบั เกลือ

รากคำ�้ จนุ
ช่วยพยงุ ลำ� ตน้

มรี ากอากาศ พันธ์ุไมท้ พี่ บ
ช่วยหายใจ ไดแ้ ก่ พังกา แสมขาว
แสมทะเล โกงกางใบเล็ก
โกงกางใบใหญ่ ตะบนู ขาว
ตะบนู ด�ำ โปรงแดง
โปรงขาว โพทะเล เปน็ ตน้

23

รองเงง็
มาจากไหน

คราวนี้  ก็ถึงเวลาท่ีอูมะ ร้จู กั รองเง็ง
รองเงง็ เปน็ ศิลปะพื้นบา้ นภาคใตข้ องไทย มลี ักษณะ
และเพื่อนๆ จากเกาะลันตา   ต้อง ของการเตน้ ร�ำเกี้ยวพาราสกี ันของคู่หนุ่มสาว มคี วาม
ไปเยือนเขาพนม   พวกเขาตั้งใจจะ สวยงามทง้ั ลลี าการเคลือ่ นไหวของเทา้ มอื ล�ำตวั
แสดงรองเง็งให้ภูผาและเพ่ือนๆ ดู การแต่งกาย และความไพเราะของเพลงประกอบ
อูมะเห็นรองเง็งชาวเลมา รองเงง็ เปน็ ศิลปะการแสดงทม่ี มี าไม่ต่�ำกว่า ๒๐๐ ปี
ตงั้ แตเ่ ดก็ แลว้ จงึ ฝกึ ไมย่ ากครกู อ้ ย ไดร้ ับแบบอยา่ งมาจากการเตน้ ร�ำพื้นบา้ นของชาว
แนะน�ำให้เด็กๆ ค้นคว้าท่ีมาของ โปรตเุ กสที่แพร่เขา้ มาในเกาะชวาและแหลมมลายู
รองเง็งเพ่ิมเติม จะได้ไปเล่าให้ ชาวพืน้ เมืองช่ืนชอบ จงึ ร้องเล่นเต้นเลียนแบบ
เพื่อนๆท่ีเขาพนมฟัง อูมะจึงได้รู้ ปรบั ให้เขา้ กบั วัฒนธรรมทอ้ งถ่นิ จนเกิดเป็นศลิ ปะ
ประวตั คิ วามเป็นมาของรองเง็ง รองเงง็ เช่นทกุ วนั น้ี

มเี รอื่ งน่ารู้ รองเงง็ ในเมอื งไทย
เยอะเลยครบั สืบทอดมาจากมาเลเซยี
นิยมแสดงในแถบจงั หวัด
24 ชายแดนภาคใต้ แต่กอ่ นมแี สดงในบา้ นขุนนาง
หรือเจา้ เมอื ง เพอื่ ตอ้ นรบั แขกเมอื งในงานรนื่ เริง
มเี พียงหญิงซงึ่ เป็นขา้ ทาสบรวิ ารของเจ้าเมอื ง
เท่านน้ั ทีไ่ ด้ฝกึ รองเง็ง

มะโย่งเล่นรองเงง็
ชว่ งพักคร่ึงการแสดงมะโยง่ ๑๐-๑๕ นาที เมอ่ื
ดนตรีบรรเลงเพลงรองเง็ง นักแสดงหญงิ จะ
เตน้ จบั คูก่ ันเอง และเชญิ ผ้ชู มผู้ชายเขา้ ร่วมวง
ดว้ ย เป็นทถี่ ูกอกถกู ใจชาวบา้ น ภายหลงั จงึ มี
คณะรองเง็งแยกต่างหากจากมะโยง่

มะโย่งเปน็ การแสดง รองเง็งในเกาะลันตา
ละครมลายสู �ำหรบั กษตั ริย์ เม่อื รองเง็งเผยแพรเ่ ขา้ มาท่ีเกาะลนั ตา โดยนักเดนิ ทางจากเกาะปีนงั
และเจ้านายระดบั สูง นยิ มเล่น ประเทศมาเลเซยี คนกลมุ่ แรกทรี่ ับเอาศลิ ปะการแสดงรองเงง็ กค็ ือ
ชาวเลอูรกั ลาโวย้ เกดิ เปน็ รองเง็งชาวเล มกี ารขบั ร้องโตต้ อบกนั เปน็
ทางชายแดนภาคใต้

ภาษามลายู ทา่ เตน้ แบบชาวบา้ น มกั แสดงเพื่อประกอบพธิ ีกรรม

ชาวไทยมุสลมิ น�ำรองเง็งมาเต้นบ้าง เป็นการเตน้ ร�ำประกอบ
ปรับเปลยี่ นเนอ้ื รอ้ งจากภาษามลายูโบราณ รอ้ งเพลง เนือ้ เพลงจะขึ้นตน้ ว่า
เปน็ ภาษาไทย เรยี กวา่ รองเง็งตันหยง “ตนั หยง ตันหยง”

25

รอ้ งเต้นเล่นรองเงง็

วันต่อมา ครูกอ้ ยช่วยจดั หาเครอ่ื งแต่งกายและ

สอนขั้นตอนการแสดงรองเง็งให้เด็กๆ อมู ะกับเพอื่ นๆ 
ซอ้ มเตน้ รองเงง็ อย่างสนกุ สนาน เริ่มจากรองเง็ง
ตันหยง รองเงง็ ชาวเล รวมถงึ รองเงง็ จังหวะยาโฮ้ง ที่
นิยมน�ำมาเต้นออกก�ำลังกายในปจั จบุ ันดว้ ย

รองเง็งคณะหนง่ึ ประกอบด้วยผ้เู ต้นร�ำ

๔-๑๐ คน จับคู่ชาย-หญิง หรอื แล้ว

ฝา่ ยหญงิ สวมเสอื้ บนั ดง นุ่งผ้า แต่ปรบั ประยุกต์การแสดง อาจมรี ้อง
กลอนสดหรือไม่มกี ็ได้
ปาเต๊ะ สวมรองเท้าหุ้มส้น ใช้ผ้า

คล้องคอเปน็ ผ้าลกู ไม้สีสันสวยงาม ฝา่ ยชาย สวมหมวกแขก สวมเสือ้

แขนยาวท่เี รยี กว่ากโุ หร่ง นุ่งกางเกง

ขายาว แล้วนุ่งโสร่งทบั อกี ชัน้

๑ ข้นั ตอนการแสดง ๒ ๓ ให้สูงเพยี งหวั เข่า
ท�ำพธิ เี สกแป้งลงใน แสดงเพลงไหวค้ รู ๓ เพลง
หัวหน้าคณะรองเง็งท�ำพิธี ผา้ เชด็ หน้าของนางร�ำ คอื เพลงลาฆูดวั วอ, มะอนิ ัง
บอกกล่าวดาโต๊ะหรือวญิ ญาณ และบรู งปูเต๊ะ เพื่อเชญิ ดาโตะ๊
บรรพบุรุษก่อนการแสดง สะบดั ผา้ เชด็ หน้าเรียกให้ วญิ ญาณบรรพบุรุษ และสิ่ง
ศกั ดิส์ ิทธิท์ ่ชี าวเลอูรกั ลาโว้ย
26 คนมาชมการแสดงเยอะๆ เคารพนับถือมาดดู ว้ ย

นยิ มเล่นรองเง็งใน การเต้นรองเง็งผู้เต้น
งานรนื่ เริงและงาน จะยึดฆ้องเป็นหลกั ใน
มงคล ปลกู เวทเี ตย้ี ๆ การก้าวเท้า แตะเท้า
เหมือนเวทรี ำ� วง หรือเล่นเท้าตามลลี า
ท่าเต้นของเพลง

นกั ดนตรเี ล่น รำ� มะนา ๒ ลกู ใหญ่กับเล็ก
ไวโอลนิ ๑ คัน เรยี กว่าซอ ฆ้อง ๑ ลกู และ
อาจเพม่ิ แมนดาลิน ๑ ตวั



๔ เริ่มการแสดง คู่เตน้ ชาย-หญงิ ๖
นกั แสดงจะพนมมอื ไหว้ ยนื หันหน้าเข้าหากนั เตน้ โดย เพลงสดุ ท้ายทีต่ อ้ งแสดงคือ
๔ ทศิ เพ่ือไหวด้ าโตะ๊ การโอนอ่อนโยกตวั และย่อตวั เพลงตะเบ๊ะอีเจะ๊ ถอื เปน็ เพลง
วิญญาณบรรพบรุ ุษ เป็นหลกั ใช้ท่ามือ ทา่ เทา้ พร้วิ ลาดาโต๊ะ วิญญาณบรรพบรุ ุษ
ส่งิ ศกั ดิ์สทิ ธิ์ และผู้ชม ไหวเขา้ ท�ำนองเพลงอยา่ งลงตวั และสงิ่ ศกั ด์ิสทิ ธ์ิ 27
นยิ มแสดงครั้งละ ๓-๕ เพลง

เกลอเล
ไปควน

และแลว้ กไ็ ดเ้ วลาเดนิ ทาง ครกู อ้ ย อมู ะ และเพอื่ นๆ 

น่ังเรือขา้ มฟากมาข้นึ ฝง่ั ที่ต�ำบลเกาะกลาง แลว้ เหมารถสองแถว
เดนิ ทางไปอ�ำเภอเขาพนม ทกุ คนต่นื เตน้ กันมาก ทีเ่ ห็นเทอื กเขาสลับซบั ซอ้ น
มียอดเขาสูงเทยี มเมฆ มา่ นหมอกขาวแผ่ปกคลุมทิวเขาเชยี วชอุ่ม
ย่ิงเข้าใกลแ้ นวขนุ เขา ไอความช้ืนจากป่าก็ลอยมากระทบผิวกายใหส้ ดช่นื

ใต้ทะเลก็มปี ่านะ
แต่เปน็ ป่าปะการงั ล่ะ

มหี ญ้าทะเล อาหาร
โปรดของพะยนู ด้วย

ภูผาและเพื่อนๆ ตอ้ นรบั เหลา่ เกลอเล
ด้วยนำ้� ส้มโชกุนช่ืนใจ แล้วพากนั ลอ้ มวงนงั่ ฟงั
เรอ่ื งเล่าของทะเลทอ่ี ูมะกบั เพื่อนๆ ผลัดกนั ออกมาเล่า

28

และเย็นวันนน้ั อมู ะและเพือ่ นๆ 
กแ็ สดงรองเงง็ ไดส้ วยงามน่าชม
เปน็ ท่ปี ระทบั ใจทุกคน
รองเง็งชาวเล
ท่าเตน้ เรียบงา่ ย
งดงาม

นักดนตรบี รรเลงเพลง จังหวะครื้นเครงและไพเราะ

รองเง็งตนั หยง รองเง็งยาโฮง้
ท่าเต้นสวยงาม มแี บบแผน ปรับประยกุ ต์
เป็นท่าเตน้ ออก
ก�ำลังกาย

29

ชวนเที่ยว วันตอ่ มา ครูกพ็ าเดก็ ๆ ในโครงการเกลอควน เกลอเล
ไปเที่ยวอุทยานแห่งชาติเขาพนมเบญจา เดินชมเส้นทาง
ศกึ ษาธรรมชาติ เดก็ ๆ จากทะเลตื่นตากับพรรณไม้ ตน้ สงู ใหญ่

อุทยานฯ ทต่ี อ้ งแหงนมองคอต้งั บ่า ผืนปา่ ดิบช้ืนทน่ี ่อี ุดมสมบูรณจ์ ริงๆ

ระหว่างทาง เจา้ หน้าท่อี ุทยานฯ ก็บอกเลา่ เรื่องราว
เกี่ยวกบั อทุ ยานใหฟ้ งั วา่ ทน่ี เ่ี ป็นอทุ ยานบกแหง่ เดยี วของกระบี่
มเี นอื้ ท่ี ๓๑,๓๒๕ ไร่ ครอบคลมุ พน้ื ทอ่ี �ำเภออา่ วลกึ อ�ำเภอเขาพนม
และอ�ำเภอเมอื งกระบ่ี มยี อดเขาพนมเบญจาสงู ท่ีสดุ ๑,๓๙๗ เมตร
เหนอื ระดับน้ำ� ทะเล เปน็ ต้นก�ำเนิดธารน�้ำสายตา่ งๆ ไหลไปหลอ่ เลยี้ ง
ผคู้ นในกระบ่ี ถ้าจะข้ึนยอดเขา ต้องเดนิ ปา่ ๓-๔ วนั เลยทีเดยี ว
แตเ่ มือ่ ข้ึนไปแล้วกจ็ ะเหน็ ทวิ ทศั นเ์ มอื งกระบ่ีไดก้ วา้ งไกล
“พนมเบญจา เปน็ ชอื่ มาจากยอดเขา ๕ ยอด แต่ชาวบ้านเรยี ก
‘เขานม’ เพราะเห็นทิวเขาเป็นรูปร่างหญิงสาวนอนหงาย ยอดเขา
สงู สดุ ตรงกลางคือ...”
“นม” เดก็ ๆ พร้อมใจกนั ตอบ แลว้ หวั เราะคิกคกั กันใหญ่
พ่เี จา้ หนา้ ที่ฯ ยงั เลา่ ต�ำนานเขาพนมให้ฟังดว้ ยว่า...

ต�ำนานเขาพนมเบญจา

นานมาแล้ว ธิดาเจ้าเมอื งคนหนง่ึ ชอ่ื
เบญจา มรี ปู โฉมงดงามเป็นท่หี มายปอง
ของชายทง้ั หลาย แต่เบญจาไม่เหลยี วมอง
ใครเพราะมคี นรกั อยู่แล้ว

คร้งั น้นั มยี ักษต์ นหนง่ึ เดินทางผ่านมา และได้เหน็ เบญจา
ก็เกิดความรักใคร่  จึงเฝ้ารอโอกาสมาลักพาตัวขณะนางหลับแล้ว
เหาะหนีไป  เม่ือเบญจารู้สึกตัวก็ด้ินรนจนหลุดจากวงแขนยักษ์
ร่างลอยละล่ิวลงสู่พื้นดิน  นางจึงธิษฐานว่า  “ถ้าหากตกลงมาตาย
ก็ขอให้ร่างกลายเป็นภูเขาและมีสายน้�ำไหลจากภูเขาไปหล่อเลี้ยงชีวิต
ชาวเมืองให้อยู่สงบสุขร่มเย็นด้วยเถิด”  และแล้วเบญจาก็ตกถึงพ้ืน
ร่างของนางกลายเป็นภเู ขา ดคู ล้ายรปู หญิงสาวนอนหงายประนมมอื
คือ เขาพนมเบญจา ในทกุ วนั น้นี น่ั เอง
30

เทอื กเขาทอดตวั
ยาวเหนอื จรดใต้
มไี อหมอกปกคลมุ

ตลอดทง้ั ปี

พวกเด็กๆ เดนิ ตาม
เส้นทางศึกษาธรรมชาติน�้ำตก
หว้ ยสะเด ก็เจอตน้ สมพงยกั ษ์
ขนาดราว ๑๕ คนโอบ เด็กๆ 
รอ้ งอูฮ้ ู โอ้โฮกันใหญ่ ครกู อ้ ย
จงึ ให้ทุกคนมาถ่ายรปู รว่ มกัน

31

ชมถ�ำ้

ดคู ล้าย ถ�ำ้ เขาผึ้งอย่หู ่างจาก
ดอกบวั จรงิ ๆ ท่ที �ำการอุทยานฯ
ด้วยเนอะ
ประมาณ ๓ กโิ ลเมตร

ในเขตอทุ ยานแหง่ ชาติเขาพนมเบญจา ยงั มีถ้�ำเขาผ้ึงให้

เดินชมหนิ งอกหินยอ้ ย อมู ะและเพื่อนๆ จากเกาะลันตาต่ืนเต้นเหมอื น
ได้ออกผจญภัยในอีกโลกหนงึ่ เพราะภายในถ้�ำเขาผงึ้ มีถ�้ำยอ่ ยๆ ซอ่ น
ตวั อยนู่ ่าคน้ หา
ถ�ำ้ แรกคอื ถ้ำ� สุสานนก เล่ากันว่าถ้�ำนเี้ คยมีซากนกตายอยูต่ าม
พ้ืนมากมาย เดนิ ลดั เลาะไปตามชอ่ งต่างๆ จะมาพบถ้ำ� น�้ำ มีระดบั น้ำ�
สูงประมาณเอว สามารถเดนิ เลี่ยงตามทางดา้ นบนได้ ซ่งึ จะมา
ทะลถุ ำ้� นาง ท่มี หี ินงอกหินย้อยสวยงาม เม่ือใกลถ้ งึ ทางออก
ของถ�้ำ จะพบหนิ ยอ้ ยรูปร่างคล้ายดอกบวั ขนาดใหญ่
บนผนังถำ้� บริเวณนีจ้ งึ เรยี กวา่ ถ้ำ� บวั

32

เล่น
นำ�้ ตก

น้ำ� ตกห้วยโต้
อยู่ห่างจากท่ี
ทำ� การอุทยานฯ
เพยี ง ๕๐๐ เมตร

ปิดท้ายการมาเยือนเขาพนม ดว้ ยการไปเลน่ นำ้� ตกห้วยโต้ เปน็ ธารน�ำ้ ตก
จากหน้าผาสงู มีต้นก�ำเนิดจากเทือกเขาพนมเบญจา น้�ำตกมี ๑๑ ช้นั บางชน้ั สูงถงึ
๗๐-๘๐ เมตร มแี อง่ น�้ำกวา้ งใสสะอาดใหล้ งเล่นน�้ำได้ แอ่งน�้ำแต่ละชั้นมชี ื่อเรียก
ตา่ งกนั เชน่ วังเทวดา วงั ชก และวงั สามหาบ เดก็ ๆ ไม่รอช้า บา้ งปีนป่าย
บ้างวา่ ยน้�ำ เล่นกันอย่างสนุกสนาน
33

ควน-เล
เพอ่ื นเกลอ

เมอื่ เดก็ จากขนุ เขาและเด็กจากทะเล

ได้แลกเปล่ียนประสบการณก์ นั รจู้ กั บ้านเธอบา้ นฉนั
ท�ำใหไ้ ดเ้ รียนรแู้ ละสมั ผัสวถิ ีชวี ิตทแี่ ตกตา่ ง
สรา้ งมิตรภาพและเป็นเพ่อื นที่ดตี ่อกนั

อมู ะ ภผู า และเพื่อนๆ ดใี จและภูมใิ จมากท่ีได้รว่ ม
โครงการครัง้ น้ี แมจ้ บโครงการแล้วจะตอ้ งแยกย้ายกนั

แตพ่ วกเขาก็ไม่ได้จากไกลไปไหน ยงั คงอย่ใู ต้
ชายคาของบา้ นหลงั ใหญห่ ลังเดียวกนั
คอื กระบี่ นน่ั เอง

34

ประวตั ิผู้เขียน กระบ่ีไมไ่ ด้มแี คท่ ะเลสวย หาดทรายขาว
รตั นา คชนาท แตย่ ังมอี ีกหลากหลายเรือ่ งราว

จบการศกึ ษาจาก รอบอกเล่าผมู้ าเยือน โดยเฉพาะวิถีชีวติ ของ
คณะอกั ษรศาสตร์ มหาวิทยาลยั ศิลปากร ผคู้ นในท้องถน่ิ มปี ระเพณี การละเลน่ ทเ่ี ปน็
เริ่มท�ำงานดา้ นหนงั สอื เด็กตงั้ แต่เรยี นจบ
นบั วา่ เป็นโอกาสทีด่ ีมาก สนกุ และมีความสขุ ท่ีไดค้ ิด เอกลกั ษณ์ สืบทอดศิลปะ วฒั นธรรม
และเขยี นหนงั สอื ส�ำหรบั เดก็ รวมถึงวาดภาพประกอบ ความเชื่อท่แี ตกตา่ งของแตล่ ะชาตพิ ันธุ์ ร�ำ่ รวย
หนังสอื เดก็ ด้วยเล็กๆ น้อยๆ มงุ่ ม่ันทจ่ี ะสรา้ งสรรค์
หนังสอื เด็กดดี ใี ห้เกิดประโยชน์แก่นักอ่านตวั น้อยตอ่ ไป มนตเ์ สน่ห์และสีสันแห่งอนั ดามนั

ประวตั ผิ ูว้ าดภาพ
อญั ชลี อารยี ์วงศ์

ส�ำเรจ็ การศกึ ษาระดบั ปริญญาตรี ศลิ ปะบณั ฑิต
(ออกแบบนิเทศศิลป์) คณะศิลปกรรม จากมหาวิทยาลยั
เทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสนิ ทร์ วิทยาเขตเพาะชา่ ง

- เคยท�ำงานภาพประกอบใหก้ ับ Aide Medicale Internationale ในโปรเจค
Health Messenger project for AMI Thailand และ Medical NGO in Mae Sot
- เคยสอนศิลปะเด็กให้กับสถาบนั สอนศลิ ปะโกลเบลิ อาร์ต
- ปัจจุบนั ท�ำงานกราฟฟิกและเขียนภาพประกอบหนงั สอื ส�ำหรบั เดก็
- ไดร้ ับรางวลั ชมเชย ประเภทนิทานภาพสง่ เสริมคณุ ธรรม
รางวัลนานมบี คุ สอ์ ะวอร์ด ปี ๒๕๕๕ เร่ือง “ขอบคุณนะช้างตุ้ย”
- ได้รบั รางวัลชมเชย ประเภทนิทานภาพส่งเสรมิ คณุ ธรรม โครงการ
ประกวดวรรณกรรมแว่นแก้วครั้งท่ี ๑๐ เร่อื ง “ขยะแปลงรา่ ง”

35

โครงการสรา้ งสรรคส์ อื่ การเรียนร้สู าระทอ้ งถิ่น
จังหวดั ภูเก็ตและจังหวดั กระบ่ี


Click to View FlipBook Version