The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

โอ้โฮ-ปราจีนบุรี-ฮื้อฮือ-เมืองตราด

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

โอ้โฮ-ปราจีนบุรี-ฮื้อฮือ-เมืองตราด

โอ้โฮ-ปราจีนบุรี-ฮื้อฮือ-เมืองตราด

คาำ นาำ

ภารกจิ สาำ คัญตอ่ สงั คมประการหนงึ่ ของ สำานักงานอุทยานการเรียนรู้ คือการปลูกฝงั
นิสัยรกั การอ่าน และการกระจายโอกาสในการเขา้ ถึงแหล่งเรียนรทู้ ที่ ันสมัยและสอดคลอ้ งกับ
ความสนใจของเด็ก เยาวชน และประชาชน ในรูปแบบหอ้ งสมุดมชี ีวิตทสี่ รา้ งสรรค์บนพืน้ ฐาน
การมสี ว่ นร่วมของภาคส่วนต่างๆ โดยสำานักงานอทุ ยานการเรยี นรู้ได้ร่วมกับองคก์ รปกครองสว่ น
ท้องถ่ินในภมู ภิ าคต่างๆ เพอ่ื ขยายผลการดำาเนนิ งานดังกลา่ ว

การสรา้ งสรรคส์ อ่ื การเรยี นรสู้ าระทอ้ งถ่ิน ให้มรี ปู แบบการนาำ เสนอที่ทันสมยั
และดงึ ดดู ความสนใจ เป็นเครือ่ งมือทีส่ ำาคญั อยา่ งหน่งึ ซง่ึ สาำ นักงานอุทยานการเรยี นรู้เล็งเหน็ ว่า
มีสว่ นในการสร้างแรงบันดาลใจให้เด็กและเยาวชนสนใจการอา่ นและใฝห่ าความรอู้ ย่างตอ่ เนือ่ ง
โดยนาำ เร่ืองราวภูมิปญั ญาสาระท้องถ่นิ ใกลต้ ัว ทส่ี อดคลอ้ งกบั วัย การดำารงชวี ติ พรอ้ มกับ
สอดแทรกแนวคดิ ดา้ นคุณธรรม จริยธรรม มาเปน็ เน้อื หาของส่ือการเรียนรูส้ ำาหรับเยาวชน
ตามชว่ งวยั ต้งั แต่ ๐ – ๑๒ ปี

ส่อื การเรยี นรสู้ าระทอ้ งถน่ิ ภาคกลางและภาคตะวนั ออก ชดุ นี้ สำานักงานอุทยาน
การเรยี นรู้ไดร้ ่วมกันสรา้ งสรรค์กับนักวชิ าการและนักเขียนในทอ้ งถิ่น เพือ่ ให้เดก็ และเยาวชน
รวมท้ังประชาชนทัว่ ไปในภาคกลางและภาคตะวันออกได้รบั ความรู้ และความภาคภมู ิใจ
ในวฒั นธรรมและท้องถ่นิ ตน รวมทั้งก่อให้เกิดความเข้าใจและการยอมรับในวถิ ีชวี ิตวัฒนธรรม
ที่หลากหลายตามบรบิ ทพ้ืนท่แี ละสภาพแวดล้อมท่แี ตกตา่ งกันออกไป

สาำ นกั งานอุทยานการเรียนรู้ มุง่ หวังว่าหนงั สือชุดนจี้ ะเปน็ ส่ือการเรียนรูอ้ ีกชดุ หน่ึง
ท่ีจะส่งเสริมการอ่านและการเรยี นรู้ได้อยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ ซง่ึ หมายถงึ เปน็ หนงั สอื ทผ่ี ู้อ่าน
อา่ นอยา่ งมีความสุข สนกุ ในการอ่าน และกอ่ ใหเ้ กิดความตระหนกั ในคณุ ค่าของทอ้ งถ่ินตนเอง
ไดอ้ ยา่ งแทจ้ รงิ

สาำ นกั งานอุทยานการเรยี นรู้





เร่อื งและภาพ นนั ทวัน วาตะ

พวกเราคือลกู เสอื
จากจงั หวัดปราจนี บุรคี รบั ผม

พวกเราคือลูกเสือ
จากจงั หวดั ตราดครบั



อไปุ ปกเขรา้ ณคท์า่ ยต่ี ม้อีดงังเตนรี้ ยี ม อาหารแห้ง
สบู่
เปส้ ะพายหลัง แปรงสฟี ัน
กระตกิ นํา้ ยาสีฟนั
ไฟฉาย
เขเสม็ ทื้อผิศา้ สํารอง นกหวดี
เชือก
ถรงุ อเทงเา้ ทา้ แตะ มดี พับ
ปแาลกะกาสมุดบันทกึ

รเ่นุขท้าค่ี ๑า่ข๐ยอ๐ลเชกู ญิ เสเขือ้าสรา่วมมญั กจิ กรรม
แมลณกีปะจิรอคกะย่าจรคู่ ยราำ า่ ลมภยูกาเดพคเสนิักตอืทแะมราวหมงนั ไ.ัศอ.ก.จอลรกมรายก์ ...



ค�ำ ขวญั จังหวดั ตร�ด บ้านผมฝนตกเยอะครบั ทาํ ใหม้ ีตน้ ไม้
เยอะมากและมีผลไมม้ ากดว้ ย แตล่ ะชนิดมชี อื่ เสยี ง
เมืองเก�ะครง่ึ รอ้ ย โด่งดังทง้ั นั้นครับ มีทั้ง เงาะ ระกํา ทเุ รยี น
พลอยแดงค�่ ล�ำ้ จังหวดั ผมมงี านระกาํ หวานด้วยนะครบั
ระก�ำ แสนหว�น
หลังอ�นหม�ดี บ้านผมอยใู่ นสวนผลไม้ บา้ นเพ่อื นผม
ยทุ ธน�วีเก�ะช้�ง อยู่ชายทะเลครบั จังหวัดของผมเป็นเมือง
สดุ ท�งบรู พ� ชายทะเล มคี นทาํ อาชีพประมงกนั เยอะ
พวกเราจึงกนิ อาหารทะเลกันทุกวนั ในทะเลมี
สตั ว์นํา้ เยอะ ผมเห็นชาวประมงออกเรอื ไปทะเล
พอกลับมามกี ้งุ หอยปูปลาเตม็ ลาํ เรือกลบั มา
ทกุ ครง้ั เลย เเลว้ เขากเ็ อามาขายให้เเมค่ ้าทีต่ ลาด
พวกเราก็เอาผลไมไ้ ปขายท่ีตลาดเหมือนกนั ครับ

ผมชอ่ื ลูกเสอื เกง่ ผมชอื่ ลกู เสอื เเจ๊คฮะ
พอ่ แม่ผมทําประมงครบั ที่บา้ นเต่ียผม

ขายอาหารตามสง่ั

ผมชอ่ื ลูกเสือเอ
บ้านผมปลูกผลไมค้ รับ



จงั หวดั ของเรามรี ปู รา่ งเหมอื น
หวั ช้าง มงี วงทอดยาว แนบไปกบั
เส้นแนวชายแดนของประเทศกัมพชู า

จังหวดั ตราด มีเกาะชา้ ง
มีธงรูปช้าง
เป็นจังหวัดทเ่ี ต็มไปดว้ ยช้าง
จริงๆ นะครบั

จงั หวัดตราดมคี นไทยหลาย
เชอ้ื ชาติอาศัยทาํ มาหากินมานาน
ตงั้ แต่อดตี ทงั้ คนไทย คนจีน
คนญวน คนเขมร และสมยั กอ่ น
คนฝรั่งเศสก็มาอาศยั อยทู่ ่ีนดี่ ้วยนะ



จงั หวดั ของเราเป็นเมอื งผลไม้เเละตน้ ไม้

บ้านเราอยูใ่ กล้ป่าดว้ ยนะครบั เขาใหญ่ไงครับ...

รจู้ กั กันไหม ท่ีนนั่ มี ช้าง กวาง ลงิ หมาปา่ ค�ำ ขวญั จังหวดั ปร�จีนบรุ ี
และนก เยอะไปหมด

บางคนบอกวา่ มจี ระเข้ดว้ ยนะครับ ศรีมห�โพธคิ ู่บ้�น
จังหวดั เราเต็มไปดว้ ยนํ้าตกหลายแหง่

คนทบ่ี ้านเราชอบขับรถไปเที่ยวน้ําตกกนั ครับ ไผ่ตงหว�นคเู่ มอื ง
เเล้วกม็ โี บราณสถานเยอะมาก เเถมเก่ามากๆ

เกา่ กวา่ ปผู่ มอกี นะ ผลไม้ลือเลอื่ ง
ปบู่ อกวา่ เก่ากวา่ ปู่ของปดู่ ว้ ย

ผมอยากรูจ้ ังวา่ จะเก่ากวา่ ป่ขู องปู่ของป่ดู ว้ ย เขตเมอื งทว�รวดี
หรือเปล่าหนอ เพ่อื นผมมีชื่อเลน่ เปน็ ผลไม้กันเยอะ

เพราะจงั หวดั ของผมมกี ระทอ้ นท่ีอรอ่ ยท่ีสุด

หน่อไมห้ วานบ้านเราก็เป็นท่ีเลื่องลอื ครบั

มะยงชิดกอ็ รอ่ ยมากๆ ครับ ผมชอื่ ลกู เสอื ออ๊ ฟ

ผมช่ือลกู เสอื เงาะ แต่ผมชอบ พ่อแมข่ องผมเป็นครู ผมช่ือลูกเสอื เปด็ ผมอยู่
กนิ กระท้อนมากๆ ครับ กบั ป้ามีอาชีพทาํ สวนครบั

บา้ นผมปลูกตน้ ไม้ขายครับ

๑๐

จงั หวดั ของเราตดิ กับจงั หวัดสระแก้ว
และสระแก้วก็ติดกบั ประเทศกัมพชู า
จงั หวดั ปราจนี บรุ มี อี ทุ ยานแห่งชาตหิ ลายแห่ง
ท้ังยังเคยเป็นแหลง่ โบราณสถานตง้ั แต่สมัยอาณาจักรขอม
พ้ืนทเี่ เถบนีเ้ ลยมีคนหลากหลายเชื้อชาติเขา้ มาตดิ ตอ่ ค้าขาย
ตง้ั แต่สมัยโบราณ มที งั้ คนไทย คนญวน คนจนี และคนเขมร

๑๑

เอ๊ะ!!! ทาํ ไมไมเ่ ห็นมีรายละเอยี ดอะไรเลย
ผกู้ าํ กบั บอกว่า ลอดซมุ้ เขา้ ไปแลว้
เด๋ียวคาํ ถามก็มาเองนัน่ เเหละ

๑๒

ณ งานชมุ นุมเข้าคา่ ยลูกเสอื สามญั รุ่นที่ ๑๐๐ ประจาำ ภาคตะวนั ออก
ณ ค่ายลูกเสือมหศั จรรย์ ลกู เสือจากจงั หวดั ตราดและปราจีนบรุ ี
ไดม้ าเจอกันทีน่ ่ี และทัง้ หมดได้อยู่หมู่เดยี วกนั ตอนนี้พวกเขากำาลงั
เตรียมตัวลอดซมุ้ กนั อย่างคกึ คกั มเี สียงประกาศจากผกู้ าำ กับลกู เสือ
ใหล้ กู เสอื เขา้ แถวเตรยี มลอดซ้มุ ‘มหศั จรรย์ ฉนั อยากรูจ้ กั เธอ’

๑๓

โอโ้ ฮ...ชอ่ื เรานน้ั มาจากไหน

แลว้ จังหวดั ปราจนี บุรี
ทาํ ไมจงึ ได้ช่อื นี้มา

ชอ่ื จังหวัดตราดมาจากอะไร

แต่ก่อนจงั หวดั ปราจนี บรุ มี ีช่ือว่าเมอื งประจิม
เพราะตั้งอยู่ทิศประจมิ (ทิศตะวนั ตก) ของอาณาจกั รขอม
พอมาถึงสมยั รชั กาลที่ ๔ จงึ เปลย่ี นมาชือ่ วา่ ปราจนี บุรี
ซึง่ คําวา่ ‘ปราจีน’ แปลวา่ ทศิ ตะวนั ออก

เหมอื นคาํ วา่ ‘บูรพา’

สมัยโบราณนานแสนนานมาแลว้
ท่ีจงั หวัดตราด มีตน้ กราดขน้ึ เต็มไปหมดผคู้ น

นิยมเอามาทําไมก้ วาด คนจงึ เรียกวา่
เมืองกราด แตน่ านวันเข้าจงึ เรยี กเป็น

ตราด

๑๔

สมัยก่อนโน้น จังหวดั ปราจนี บุรี
เป็นเมอื งท่าชายทะเล มผี ้คู นเดนิ ทางจาก
ดินแดนอันแสนไกล เดินทางมาติดตอ่ ค้าขาย
ซึง่ แต่ก่อนนั้นเมืองปราจนี บรุ มี ชี อื่ วา่
‘เมืองศรมี โหสถ’ ซงึ่ มที งั้ ชาวอินเดยี
และชาวจนี เดินทางไปมาหาส่คู า้ ขาย
แลกเปลีย่ นสนิ ค้า ทำาใหศ้ าสนาพทุ ธจาก
ดินแดนชมพูทวีปเดินทางเข้ามาสดู่ ินแดนแถบน้ี
พรอ้ มกบั นักเดินทางในครง้ั อดตี นน้ั ดว้ ย
ชอื่ ศรีมโหสถ น้ันไดม้ าจากทศชาติชาดก
ตอน พระมโหสถ

พอเหลา่ ลูกเสือลอดซุม้ ออกมากนั แลว้
ก็พบคาํ ถามท่วี ่า

‘ในเมอื งเกา่ เฝ้าบ่อใหญ่ หาให้เจอ’

โน่นไง!! มีลกู ศรบอกทางด้วย
พวกเราไปดูกัน

๑๕

โอ้โฮ! ท่นี ีม่ นั ทีไ่ หนกันล่ะน่ี
ทําไมมนั ดรู กจัง พวกเราทะลมุ ิติกันมาหรอื ไง
เรว็ เข้าเถอะรีบหาตัวอะไรท่ีเฝ้าบอ่ เถอะ

๑๖

โอ้โฮ...เมอื งเกา่ ของเรา ทแใศอลไนไทชมอมดะมแมแตา่ีมท่วกยโแ้อโตอืตตหา่าำาหมาำวลังยก่ขค่จนขิชสใันสมาะา่อ็หโะอวาาดถหผคีถดงงนาดน้มงบว้นู้อบนวนทมชำาเกโยาณั่าน่ืง่ึลณักหามอื่ทมอกใ่าลรชสเฑาฑ่ีเแหัศสษมวกปน่ัือ่รถทิตร้ิตา่จาือตันแ็นักเบอ่งตจรมรงอ้รกผษณัโดเื่อึงรอายิยลอปูม้า‘ไยงพรนมฑแ์กง้สใดน็สีมถ์ทค้นโใเหำาิตถเ้ผตหหจโใขรคีม่เง่หหนชมู้ปิอมสา้ทวโเว่กสรีคามญัหเือถาี่ปยฝือาแถวือนสม’ญ่วรเแา้ทาบงคหชมถยรแทมาม่งัณั่วนบาลเักลฉแง่โปิถรจดอืณัษฑอะยลลิลา้น็าทีๆสราติาะาฑยากโับโั้งถนคดรทททชรติตใตคเ้ีณุรคอ่ืรั้งช่ัวเปนิดอกกาปตไก้ธน็เปบ็หมดิบอวอษรยือรามขงงรนตัาู้ยไ่าามใรวดนวนปิยเิ ้ ศัน้ว่ ์ ยษ

๑๗

เอ๊ะ!! มใี ครมาแอบมองเรา
รีบไปกันเถอะ ลูกศรอยู่ตรงประตู

อโรคยาศาลานน่ั ไง

เหล่าลูกเสือเจอตัวประหลาดทเี่ ฝา้ สระน้าำ โบราณแลว้
๑๘ มีใครรูบ้ า้ งว่าเจ้าตัวน้ีเรียกว่าตวั อะไร

อโรคย�ศ�ล�

ทีน่ กี่ ็คหือลโารยงคพนยคางบเาคลยใไนปสหมายัหโมบอรทาี่ณโรงพยาบาล
รไกวกั ษต้ษัตาารมโิยรเมค์ขอือภงมัยตทยา่ รางงมๆสปรเ่วพา้ยงอื่ ไสขให้ถป้านระพชยาาชบนาไลดแม้ บีหบมนอ้ี

มกร (อ่านว่า มะ-กะ-ระ) เปน็ สตั ว์ใน

เทพนยิ ายที่มีสว่ นหวั เป็นสัตว์บก เชน่ ชา้ ง กวาง

สว่ นลาำ ตวั และหางเปน็ สตั วน์ ้าำ อย่างจระเข้

หรอื พญานาค มกรเปน็ พาหนะของพระแมค่ งคา

เราจะพบรปู มกรในเทวสถานของศาสนาฮินดู

ในสระนา้ำ ทเี่ มืองเกา่ ศรีมโหสถก็มีรปู สลกั มกร

ที่ขอบบ่อดว้ ยนะ ๑๙

พวกเราพักกนิ ขา้ วกลางวนั
กนั เถอะ สงสยั จะมีเรอ่ื ง

ต้องตามหาอีกเยอะเลย

ใครทีก่ นิ เสร็จแลว้ ก็เดนิ เล่น
ดนู ก ดแู มลง อา่ นแผนที่ ดูเข็มทศิ
แตบ่ างคนกย็ ังกินไมเ่ สร็จ

และทบี่ ริเวณใกลๆ้ กันนน้ั
มีตน้ ไม้ใหญม่ าก ต้องเปน็ ต้นไม้

ท่มี อี ายุมากแน่ๆ เลย

๒๐

ตรงนมี้ ลี ูกศรดว้ ย ออื้ ฮือ!! ต้นไม้ใหญจ่ ริงๆ

พวกเราไปตอ่ กันเถอะ ตน้ พระศรีมห�โพธิ

ดคู าํ ถามต่อไปสิ ถามวา่ อะไร เปน็ ต้นโพธิต์ น้ แรกที่นาำ หนอ่ มาจากเมือง
‘อารามนามดอกไม’้ พุทธคยาประเทศอินเดีย เช่อื กันวา่
อยสู่ ุดแหลมแดนบรู พา เป็นหน่อจากต้นโพธติ์ ้นเดยี วกบั ที่
พระพทุ ธเจา้ ทรงประทบั เมื่อคราวตรัสรู้
ซ่ึงตน้ ศรีมหาโพธนิ ีม้ ีอายรุ าวๆ ๒,๐๐๐ ปี
ในวันสาำ คญั ทางพระพทุ ธศาสนาจะมี
พทุ ธศาสนกิ ชนมาสกั การบชู ากนั มากมาย

๒๑

บรู พานคี่ อื อะไรหรอื เป็นเพอื่ นกบั ปราจีนหรือเปล่านะ

นน่ั สนิ ะ...ออ๋ มนั คือ “คยุ อะไรกันไอห้ นู”
ทิศตะวันออกไง ลูกเสอื ทง้ั หมดหันไป
ตามเสยี งที่ดังข้ึน บรรดาลูกเสือทั้งหลาย
เอะ๊ ...แตป่ ราจีนบรุ ี เพ่งิ สังเกตได้ตอนนเี้ องวา่ ทงั้ หมด
ก็อยทู่ ศิ ตะวันออกนะ มาอยทู่ ล่ี านวดั แห่งหนงึ่
ตราดก็อยู่ทิศตะวนั ออกด้วยน่ี แล้วลูกเสอื จากจงั หวดั ตราดก็รอ้ ง
วา่ แต.่ ..ปราจนี บุรมี ีแหลมไหม “ออ๋ ” ข้นึ พร้อมกัน

๒๒

วหิ ารพระพทุ ธไสยาสน์ เน่อื งจากในอดีตบริเวณท่ีสร้างวดั
มีไมด้ อกไม้ผลนานาชนิด เวลาตน้ ไม้

ออกดอกจะส่งกล่นิ หอมฟงุ้ ไปทั่ว
ท้ังบรเิ วณหมบู่ า้ น
เมื่อมกี ารสรา้ งวัดข้นึ
จงึ ใหช้ ื่อวา่ วดั บุปผาราม
หมายถึงวัดสวนดอกไม้
วัดบุปผารามหรือ
ท่ชี าวบา้ นเรยี ก
กนั ว่าวัดปลายคลอง
เป็นวัดเก่าแก่ที่สุด
ของจังหวดั ตราด
สรา้ งในสมัย
พระเจ้าปราสาททอง

แห่งกรุงศรอี ยุธยา ซง่ึ ภายในโบสถ์
วิหารพระพุทธไสยาสน์ และมณฑป มีงานจิตรกรรมฝาผนงั
ในยคุ รตั นโกสินทรต์ อนต้นทผี่ สมผสานศลิ ปะจีน นอกจากนั้น
ภายในวัดยังมพี พิ ธิ ภณั ฑเ์ ก็บสะสมพระพุทธรูปโบราณ
ช้ินส่วนของกลองมโหระทึก ถ้วยชามของจนี และ

ของยุโรป ทำาใหเ้ หน็ วา่ เมืองตราดนน้ั เปน็
เมืองทา่ คา้ ขายท่ีสาำ คญั มากในอดตี

พระพุทธไสยาสน์
วัดบุปผาราม

๒๓

จิตรกรรมฝาผนังในวัดเปน็ ศลิ ปะ
สมัยรัตนโกสินทรต์ อนต้น
เพดานวหิ ารเขียนลายดอกไม้
ลายสัตว์ มนี ก กวาง มังกรคู่
และตวั อักษรจีน สว่ นบริเวณ
ผนงั โดยรอบจะวาดเป็นลวดลาย
ตกแตง่ รปู ดอกไม้
และรูปชาวจีน

เปน็ วดั ท่ีมีรปู วาดดอกไม้
เต็มไปหมดเลย

แผนผงั ของสถาปัตยกรรมเก่าแกข่ องวดั บุปผาราม มณฑปทา่ นพอ่ โห

มณฑปพระพทุ ธบาท โบสถ์
(สี่รอย)

มณฑปพระพทุ ธบาท วิหารโบสถ์ไม้
๒๔
วหิ ารพระปางไสยาสน์

ชามท่หี นา้ บัน
ของโบสถ์
ท่ีนา่ จะนําข้าม
ทะเลมากบั
เรือสาํ เภาจาก
เมืองจีน

พระประธานในโบสถ์วัดบุปผารามสร้างใน
สมยั อยธุ ยา เป็นพระพทุ ธรปู ปางมารวชิ ัย

ท่หี น้าวิหารพระปางไสยาสน์

มถี ้วยชามประดบั เข้าใจไดว้ า่ ในสมยั โบราณ

เมืองตราดเปน็ แหลง่ การคา้ ของพอ่ ค้าชาวจีน

ทรี่ ํา่ รวยจากการเดนิ เรอื แล้วก็นําเอาเงนิ ทอง

ที่คา้ ขายได้มาทาํ นุ บาํ รุงพระพทุ ธศาสนา

ดว้ ยการ สรา้ งวดั วาอาราม

๒๕

เมอื งตราดมีปรากฏมาเเต่สมัย
ก‘มเบใขรหา้าางุ จเ้นใศหาชบรน็ก้ทาอีอกงาำ ยีกรพไธุาแมรยดล้กะา้วว’ใซานแไึ่งดมสตค่ค่ชมือเด่ือ่อยัต๋ียตยน้นวรมน้ักนาีเใรรดค้ีไายีมนรดก่มร้ีเทขววู้ตี ค่ีาา่่าน้ วนตก่าใน้ รนมกาสนั รดเมาพัยด้ียนนนั้
หนา้ ตาเปน็ อย่างไร

เมืองตราดปรากฏช่ืออกี ครง้ั
เพแมลมอื่ ้ว่าพเเดรมะนิือ่ เทคจรพั้าาตมวาาเกตสสีเียมนิกอื ทรงุงรจศงนั นรทาำอี บทยุรพัธุ ี ยฝแา่าลวะคงมรลาั้งอ้ ถทมึง่ี ข๒อง
เมืองตราดดว้ ย

น่ไี ง ก็เพราะคนจีนมาค้าขายทเ่ี มอื งน้ีเยอะ หลวงตาครับ
พอเขาคา้ ขายรา่ํ รวย เขากช็ ว่ ยบูรณะวัดไง ทาํ ไมวัดนถี้ งึ มรี ูปคนจีนท่ี
วดั นี้เลยมงี านศิลปะแบบจีนปนไทย ฝาผนงั โบสถ์ด้วยละ่ ครบั

สินคา้ สาํ คญั ทซ่ี อ้ื ขายกันท่ี
จังหวดั ตราดในอดีตคอื เขาสตั ว์
หนงั สัตว์ ไมห้ อม เป็นตน้

๒๖

ในสมยั ของรัชกาลท่ี ๕ จากวิกฤตกิ ารณ์ ร.ศ. ๑๑๒ ฝรงั่ เศสต้องการ
ให้ไทยชดใชค้ ่าปฏิกรรมสงครามเปน็ เงิน ๓ ลา้ นฟรังก์ และต้องเสียดนิ แดน
ด้านซ้ายของแม่นำ้าโขง ฝร่งั เศสจงึ ยดึ เอาเมืองจนั ทบุรีไวเ้ ป็นประกัน
จนถงึ ปี พ.ศ. ๒๔๔๖ (รวมเวลา ๑๑ ปี)

และในปีเดียวกันน้นั สยามได้ยินยอมยกจังหวัดตราดและเกาะใต้
แหลมสงิ หร์ วมไปถึงเกาะกงให้กบั ฝรั่งเศส เพอื่ เอาจงั หวดั จันทบุรกี ลับคืนมา

ปี พ.ศ. ๒๔๔๗ ณ ศาลาวา่ การจงั หวดั ตราด
ข้าหลวงฝ่ายไทยเปน็ ผู้ทำาพิธีส่งมอบเมอื งตราดให้แก่
ฝ่ายฝร่ังเศส เมอ่ื ขา้ หลวงฝรั่งเศสอ่านคำารับมอบจาก
รัฐบาลสยามจบ

ฝา่ ยไทยกช็ ักธงชาติลง
(ธงชาติในสมยั นัน้ คอื

ธงช้างเผอื กทรงเครอ่ื ง
ยืนแทน่ )

ทันใดนน้ั ฝา่ ยฝรงั่ เศสก็
ชกั ธงชาติฝรง่ั เศสข้ึนยอดเสา
แลว้ ทหารกย็ ิงปนื สลุตตาม
นับจากวันนนั้ มาจนถึง
ปี พ.ศ. ๒๔๔๙
สยามไดย้ นิ ยอมยกเมอื ง
พระตะบอง เสียมราฐ ศรีโสภณ
เพ่อื แลกกบั เมืองตราด
แตฝ่ รง่ั เศสไม่ไดค้ ืนเกาะกง
แกส่ ยามแต่ประการใด

๒๗

๔. พ.ศ. ๒๔๔๙ ๓. พ.ศ. ๒๔๔๖
สยามได้ยนิ ยอม สยามได้ยินยอมยก
ยกเมือง จังหวัดตราดและ
พระตะบอง เกาะใต้แหลมสงิ ห์
เสียมราฐ รวมไปถึงเกาะกง
ใหก้ บั ฝรง่ั เศส เพอื่ เอา
ศรีโสภณ
เพ่อื แลกกบั จังหวัดจนั ทบรุ ี
เมอื งตราด กลับคนื มา

โอ้โฮ! ประวตั ิศาสตรข์ องเรา

๕. และในปี ๖. พ.ศ. ๒๔๕๒ เจ้าพระยาอภัยภเู บศร
พ.ศ. ๒๔๔๙ เช่นกนั สร้างตึกสไตลย์ โุ รปแบบเดียวกับที่สร้างไว้
ทเี่ มอื งพระตะบองทร่ี ิมแม่นาำ้ บางปะกง
เจา้ พระยาอภยั ภเู บศร ทีจ่ งั หวัดปราจีนบรุ ี
เจา้ เมืองพระตะบองคนสดุ ท้าย

เดนิ ทางกลับสสู่ ยาม

๒๘

๒. พ.ศ. ๒๔๓๖ (ร.ศ. ๑๑๒) ๑. พ.ศ. ๒๔๓๕
ฝรง่ั เศสเอาเรือรบเข้ามาในสยาม มกี ารตอ่ สกู้ นั กับ เจ้าพระยาอภัยภูเบศร

ทหารไทย เรือรบ เปน็ เจา้ เมอื ง
ฝร่ังเศสเสียหาย พระตะบอง
สยามตอ้ ง

เสยี คา่ ปฏิกรรมสงครามเปน็
เงนิ ๓ ล้านฟรงั ก์ และต้องเสีย
ดินแดนฝัง่ ซ้ายของแมน่ ้าำ โขง

ฝรัง่ เศสจึงยึดเอาเมอื ง
จนั ทบุรีไว้เปน็ ประกัน

พ.ศ. ๒๔๘๔ ทต่ี กึ สเี หลอื งสไตล์ยุโรป ๘. พ.ศ. ๒๕๓๖ ตึกเจา้ พระยาอภัยภเู บศร
ริมเเม่น้าำ บางปะกง กรมสาธารณสขุ ได้ขอทด่ี นิ และตึก ได้รับการปรบั ปรงุ เปน็ พิพิธภณั ฑก์ ารแพทย์ไทย

เพือ่ ขอทาำ เป็นโรงพยาบาลประจำา และในปี พ.ศ. ๒๕๕๒ ครบรอบ ๑๐๐ ปี
จังหวัดปราจีนบรุ ี ตึกเจ้าพระยาอภยั ภูเบศร

๗. พ.ศ. ๒๔๘๔ เกิดยทุ ธนาวีเกาะช้างใน
เชา้ วันท่ี ๑๗ มกราคม ถือเปน็ การรบทาง

ทะเลครัง้ เดียวในประวตั ิศาสตร์
ของกองทัพเรอื ไทย

๒๙

ยุทธนาวเี กาะชา้ งเริม่ ตน้ จาก ‘กรณีพพิ าทระหวา่ ง
ไทยกบั อนิ โดจนี ฝร่ังเศส’ ตัง้ แตป่ ี พ.ศ. ๒๔๘๓
เมื่อรัฐบาลไทยขอใหฝ้ ร่งั เศสคนื ดินแดนทย่ี ดื ไป
ในกรณเี หตกุ ารณ์ ร.ศ. ๑๑๒

ในเช้าวันที่ ๑๗ มกราคม พ.ศ. ๒๔๘๔
เครอ่ื งบินตรวจการณล์ าำ หนงึ่
ของฝรั่งเศสได้บนิ ลว่ งลำ้านา่ นฟา้
ทะเลฝ่ังตะวันออกเขา้ มา
โดยมเี ปา้ หมายโจมตีอาคารบนเกาะชา้ ง
และเรือตอรป์ โิ ด ๒ ลาำ ของไทยคอื

เรอื รบหลวงสงขลาและเรอื รบหลวงชลบรุ ี
๓๐ แตก่ ารทิ้งระเบิดพลาดเป้าหมาย

เรือรบหลวงสงขลา อนสุ รณแ์ ห่งยทุ ธนาวเี กาะชา้ ง
และเรือรบหลวงชลบรุ ี ต้งั อยู่ทแี่ หลมงอบจังหวดั ตราด
ถูกเรือรบลามอตต์ปิเกต์ เนอ่ื งจากบรเิ วณน้ีเป็นทซ่ี ึง่
ของฝรั่งเศสยงิ ใส่ เรอื รบหลวงธนบรุ ี
ไดร้ บั ความเสียหาย ทถ่ี กู ยิงเข้ามาเกยต้ืน
ทาำ ใหเ้ กดิ ไฟไหม้
มีทหารไทยเสยี ชวี ิต
และบาดเจบ็
ซึ่งเรอื รบหลวงธนบุรี
เป็นเรอื ปืนยามฝั่ง
ไดถ้ ูกเรือสลุบ ๓ ลำา
ของฝรัง่ เศสรุมยิง
ทำาใหเ้ กดิ ความเสียหายอยา่ งหนัก
ผูบ้ งั คับการเรือเสียชีวิตในขณะทำาการรบ

ผลของการรบ ฝา่ ยไทยเสีย
เรอื รบไป ๓ ลำา ทหารเสยี ชวี ิต ๓๖ นาย
ฝา่ ยฝรงั่ เศส เรอื รบลามอตต์ปเิ กต์
ได้รบั ความเสียหาย
ทหารฝรัง่ เศสเสียชวี ิต ๒๐ นาย
เรอื สลบุ ของฝรง่ั เศส
จมนอกชายฝง่ั อีก ๒ ลำา

๓๑

ในปี พ.ศ. ๒๔๔๙ สยามทาำ
สญั ญายกมณฑลบูรพาใหแ้ กฝ่ ร่งั เศส
เจ้าพระยาอภัยภูเบศรอพยพจากเมอื ง
พระตะบองกลบั สู่สยาม และได้สรา้ ง
ตกึ เจ้าพระยาอภยั ภเู บศรข้นึ ที่
ริมแมน่ ำา้ บางปะกง ท่ีจังหวดั ปราจนี บรุ ี
ในปี พ.ศ. ๒๔๕๒ แลว้ เสร็จในปี
พ.ศ. ๒๔๕๓

๒๓ ตลุ าคม พ.ศ. ๒๔๕๓ รัชกาลท่ี ๕ เสดจ็ สวรรคต ตึกหลงั น้กี ถ็ ูกปดิ ตาย
เนือ่ งจากเจา้ พระยาอภัยภูเบศรมีความประสงค์ที่จะถวายตกึ นเ้ี ปน็ ที่ประทับแก่รัชกาลท่ี ๕

ในการเสด็จมาปราจีนบรุ ี และในปี ๒๔๕๕ รัชกาลท่ี ๖ เสดจ็ ประพาสปราจีนบรุ ี
และได้เสดจ็ มาประทับท่ีตึกหลงั นี้

๓๒

ในวนั ที่ ๒๔ มิถนุ ายน พ.ศ. ๒๔๘๔
เปน็ วนั ทเ่ี ปดิ ใช้งานตกึ หลังนีอ้ กี คร้งั ในฐานะ
โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภยั ภูเบศร เเละ
เปน็ โรงพยาบาลประจาำ จงั หวดั ปราจนี บุรี
ในปี พ.ศ. ๒๕๓๓ กรมศลิ ปากร
ได้ประกาศขน้ึ ทะเบยี นตึกเจ้าพระยา
อภยั ภเู บศร เปน็ โบราณสถานของชาติ
ปัจจบุ นั ตึกหลังนี้ได้รับการปรับปรุง
และใช้เป็น ‘พพิ ิธภณั ฑ์การแพทย์ไทยอภัยภูเบศร’

เปน็ ท่เี ก็บรกั ษาขา้ วของเครอ่ื งใชข้ องทา่ นเจา้ พระยาอภัยภเู บศร
และจดั แสดงอุปกรณก์ ารแพทยแ์ ผนไทยในอดีต
มตี วั อยา่ งยาสมนุ ไพรไทยโบราณใหช้ ม

ไกบ่ อกทิศทางลม
บนหลังคาตกึ

ตาํ ราแพทย์แผนไทย เพดานของตึก
ทเี่ ก็บเอาไวใ้ ห้ เจ้าพระยาอภัยภูเบศร

คนรุ่นใหม่ได้ศกึ ษา ตําราภาพนางกนิ รี
และหนมุ าน

ประตนู จี้ ะพาเราไปไหนน.ี่ ..
พวกเราไปตอ่ กนั เถอะ

๓๓

ทีน่ มี่ ีตน้ ไมเ้ ยอะจริงๆ
และมีกลนิ่ อะไรหอมๆ ดว้ ย

๓๔

เม่อื ปี พ.ศ. ๒๕๓๓ ตกึ เจ้าพระยา นอกจากน้ีทางศูนย์การผลติ ยา

อภัยภเู บศร ไดร้ ับการซอ่ มแซมจนแล้วเสร็จ สมุนไพรของโรงพยาบาลไดม้ ีการอบรม

จงึ มีการจดั ต้ังพิพธิ ภณั ฑ์การแพทย์ไทย ให้ความรู้แกช่ าวบา้ นท่ตี ้องการปลูกพืช
อภัยภูเบศรขึ้น และได้จดั ทาำ สวนสมนุ ไพร สมนุ ไพรเพอื่ สง่ มาใหท้ างศูนยฯ์ ใชเ้ ปน็

ไทยเพื่อเป็นการเผยแพรค่ วามรเู้ กี่ยวกับ วตั ถดุ บิ ในการผลติ ยาอกี ดว้ ย

การใชส้ มนุ ไพรตลอดจนการทาำ ยาสมนุ ไพร หมู่บา้ นทม่ี ีช่อื เสยี งในการปลกู

แกป่ ระชาชน และทางโรงพยาบาลก็ไดม้ ี สมุนไพรของจงั หวัดปราจีนบรุ คี ือ

การผลติ ยาสมุนไพรไทยเพือ่ จาำ หน่ายแก่ หมู่บา้ นดงบัง
ประชาชนทวั่ ไป และใช้กบั ผปู้ ว่ ย

ในโรงพยาบาล

กะเพรา นอกจากทําอาหารไดแ้ ล้ว

ยงั แกท้ ้องอดื ท้องเฟ้อดว้ ย

มะขามปอ้ ม เป็นยาอายุวัฒนะ

มาแต่โบราณ มีสรรพคุณแก้ไอ
ทําให้ชุ่มคอ มวี ติ ามินซสี ูงท่ีสดุ

ฟ้าทลายโจร ตะไคร้ เป็นพืชสวนครัว

ปลูกงา่ ยในบา้ นเรา ท่ีแกป้ วดทอ้ ง ปวดหวั และยัง
มีคณุ สมบัติในการป้องกัน รักษาโรคหวดั ได้
และรักษาโรคหวดั

กระเจ๊ียบ ขิง มีสรรพคุณในการรักษา

เปน็ นาํ้ สมนุ ไพรท่ีดมื่ อร่อย อาการไอและแกห้ วัด
สีสวย และสร้างภูมิคมุ้ กันให้
ร่างกาย ทง้ั ยงั แกไ้ ข้ แกไ้ อ ไปกันเถอะพวกเรา

๓๕

ท่ีนค่ี ือท่ีไหนกันละ่ นี่ ‘บ้านดงบัง’

ขณะท่ลี ูกเสอื กาํ ลงั อา่ นช่อื ที่ป้าย กม็ ีเสยี งหมาเหา่ ดงั จนมีคนเดิน

ออกมาดู คณุ ลงุ มาไล่หมาให้ แลว้ พาเหล่าลูกเสือ

เข้าไปในหมบู่ า้ น เรากาํ ลังหน่ั สมุนไพร

นีก่ าํ ลังหั่นอะไรกนั เพือ่ เอาไปตากเเล้วเอามาทาํ ยา

หรือครับ

๓๖

สมนุ ไพรทค่ี ัดสรรแล้วจะถกู นาำ มาแปรรปู เปน็ ยาสมุนไพร
สาำ เรจ็ รปู ท้งั ในแบบท่ีเปน็ ยาอัดเมด็ แคปซลู ยานา้ำ

รวมไปถงึ ในรปู แบบของครมี ท่ีใชส้ ำาหรบั
เป็นยาทาภายนอกดว้ ย

ยาสมุนไพรที่ถกู แปรรปู ด้วย
เครือ่ งจกั รของโรงงานผลติ ยา
ของโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร

หมูบ่ ้�นดงบงั

ขสกหคมิงเทมากมจมอุณารุนำาาา้เาู่บภตปเภยรไหจเัยา้รพร็นปาาานนฐภับพรสตรก้าาดูเทซรมข้นหบทนงสือู้ป่ปีอนุลศที่บไมสเงลไปารี่กังปพตุนมูกกไตเาำ็นดรปวัไนุสหหรพยย้นน็ไว่ลวนทพาราาำนเจาดเสทาทมรใสหยงไหมจท่ีา่อี แอวลโานุเญยาร้หบ่งปกไงเู่งใเม่คลพพ็นเโพนพเีร่งณุวร่อืหพายฟเงตัทเพะภลืชพาปา้ถเี่ปา่งทาบทร็นยดุ ตพละ้ังาากลาบิ ปูกา่หเใลบาาพใชงสลจลรยนา้กๆื่อกูมะารลกโนัใจมยนุกั าเเหแจพรีษไทร้ไตพ้าอื่ผาี่นดขพก่รนลำา้ตมอ่เรำามติพานิ้นะมานมือ่ชยาใ้ันันชาใช้ ้

สงสัยพวกเราต้องไปแลว้ ละครับ...ลานะครับ

โอน้ ่ัน!! มีประตูที่มลี ูกศรอยดู่ ้วย

ไปกันเถอะพวกเรา...เราอาจจะไดก้ ลับคา่ ยลกู เสอื เสียที

๓๗

ออื้ ฮือ! แหล่งอาศยั ให้ท่ีอยูไ่ ม่รู้อด

เหล่าบรรดาลกู เสอื ท่พี ากนั เดินเข้าประตูมา
จๆู่ กห็ ลน่ โครม!!!! ตมู้ ! โอ๊ยๆ พล่ักๆ
เฮย้ !! อะไรกันนี่ ทาํ ไมมันมแี ต่โคลนเฉอะแฉะ
มนั เปน็ ป่าอะไรกนั หรอื น่ี
ทาํ ไมตน้ ไมม้ ีรากงอก

ออกมาเตม็ ไปหมด
ว้าย!!! ปูหนบี

๓๘

พสแอ้ืนขงิ่หหลยเจมทอลลลูก่าะงชีร่ียง่าปงหีวิมปอยทเูนติตาชน่าาลชนีเกยทน่้นดชหำ้านูกอไาจไ่ีหยีาดิกแกปมตยืดรวลุ้งมจท้น้เขแใาคาลลหตขี่แอเลกกนงนป้นึส้ตางะหนเเน็ใกคมนน้รปแลนั้นเปนาำา้ไล็นาหตปมตกเ่าอะยปมค้นา่พ้ช้นจ็ยล่าอืชไ็มาะโวแ่าิงมทานกยหกงลเ้ยซ่ีมโงรหเกนาะรล่ึงกเนีวยุ้งีย้ลยลงทนาา้ำมต่าเังังนงำาหทหรไเนเานปใปียปา่วอมี้ยหตนั้ถยมน็นน็ยไัง้เ้นมึงถไทอปทกเลปมีสปปงึนดิดี่อีอ่ าำาัตน็ุบูยพย้วพไกสปวบยมาูอ่อู่นั มูาเ์ลลา้่าาลใธมาาชนสศศ์ุื้อไยาแ่มแาำัยยัยรอหคลแ้หขขคถีกลส่ละรออลพดาหะตับังงาบ้วยลอ้วชนยชไ์ทงกูีวดนอิตป้ังท้ ิดาหเลงั้ลหลาใ็กานาๆรย

๓๙

ต้นโกงกางมีรากท่ีหนา้ ตาเหมอื นนว้ิ มือผอมๆ
ยาวๆ ที่กำาลงั ขยุม้ ลงไปบนโคลน เราเรียกราก

แบบนี้ว่า ‘รากคาํ้ จนุ ’

ส่วนรากทแ่ี ผอ่ อกเปน็ แนวกว้างแล้วปลายราก
ลอยขึน้ มาเหนอื เลน เราเรียกรากแบบน้วี ่า

‘รากหายใจ’

๔๐

นกยางกรอกพนั ธช์ุ วา นกกินเปย้ี ว

เปน็ นกั จบั ปลาที่อดทน อาหารโปรด
ยนื รอเหยื่อไดน้ านมากๆ คอื ปเู ปย้ี ว
ชอบกินกงุ้ หอย ปู ปลา เลยไดช้ ื่อตาม
อาหารโปรด

ปกู า้ มดาบ ปูแสม

มีก้ามโตๆ เพ่อื เอาไว้ ถา้ เรากนิ สม้ ตาำ เราตอ้ งจำาเจา้ ปตู ัวนี้ได้

เรียกรอ้ งความสนใจจากสาวๆ บา้ นของปตู วั นี้อยทู่ ่ปี ่าชายเลน

และโบกไล่ผ้บู กุ รกุ ตน้ โกงกางใบเลก็

เป็นตน้ ไมท้ ีพ่ บมากในบรเิ วณปา่ ชายเลน

เปน็ ต้นไม้ท่คี นนำามาใชป้ ระโยชน์ ไม่วา่ จะทำาฟนื

ปลาตนี เอาเปลือกมาใช้เป็นยาสมนุ ไพร ใชเ้ ปน็ สยี ้อมผ้า
ชอบคลานไปมาบนโคลน ทส่ี ำาคัญเปน็ บ้านใหพ้ วกสตั ว์ทงั้ หลาย

อยู่กันเป็นฝงู รกั สงบ

ลงิ แสม เป็นลิงท่ีมีหางยาวทสี่ ดุ กวา่ ลิงชนิดอน่ื

อาศัยอยตู่ ามป่าชายเลน กนิ สัตว์นา้ำ พวก

กุ้ง หอย ปู ปลา และผลไม้ อาศยั รวมกัน

เปน็ ฝูง ถา้ ถกู รงั แกกจ็ ะ

กลายเป็นลิงนักเลงได้

๔๑

๔๒

บรรดาลกู เสอื ตา่ งตะเกียกตะกายขนึ้ มาจากโคลนเลน เพราะวา่ ตน้ ไม้เรม่ิ เขย่าแรงข้นึ เรอื่ ยๆ
เจ้าลิงก็ส่งเสยี งดังและยงั รอ้ื ของกระจยุ กระจาย ทส่ี าํ คญั มันร้ือเอาขนมออกมาดว้ ย และทันใดนัน้
เมอื่ ทุกคนขน้ึ มาบนทางเดินไดแ้ ลว้ พ่มุ ไมก้ เ็ หมือนมตี วั อะไรไม่รู้พุ่งกระโจนออกมามากมาย
ส่งเสียงเจยี๊ กจา๊ กดงั ล่ันไปหมด

“ว่ิง วงิ่ วง่ิ เร็วๆ พวกเรา” ลกู เสอื ทง้ั หมดแทบตะโกนขน้ึ พร้อมกัน
แตเ่ สน้ ทางยงั ดยู าวไกลเหลอื เกนิ ขา้ งหนา้ นั่น! มีประตูบานหน่ึงเปดิ อย.ู่ ..

๔๓

ประตูที่บรรดาลูกเสอื วง่ิ ผ่านมานน้ั เปดิ สู่
เสน้ ทางที่ทอดยาวย้อนกลับไปที่สถานทตี่ ่างๆ
ที่เหลา่ ลกู เสอื ได้ผจญภยั ผ่านมา

แตท่ ุกอย่างดูเหมอื นยอ่ เล็กลง เลก็ ลง
และเหมอื นวา่ ทกุ สถานทตี่ อ่ เน่อื งกนั
แต่ทุกคนหยุดดูไมไ่ ดแ้ ล้ว

๔๔

พวกเราตอ้ งวิ่ง วง่ิ
วง่ิ กันต่อไป พวกเรากาํ ลงั จะ
ไปทไี่ หนกนั อกี หนอ...

๔๕

พลก่ั ๆ โครมๆ บรรดาลกู เสือต่างกลิ้งออกมาจากปากซมุ้ โคลนยงั เลอะเปรอะเป้ือนเตม็ ไปหมด
ผกู้ ํากับยืนรออยแู่ ล้วพร้อมกับถามว่า “ไดค้ าํ ตอบมากันครบไหมพวกเรา”
แตท่ ุกคนยังเหนอื่ ยหอบ ตา่ งจ้องมองกันเองอย่างตกใจ
“ลงิ ละ่ ฝูงลงิ ทไ่ี ลพ่ วกผมมามนั หายไปไหนหมด”
“ลงิ ท่ไี หนไม่เห็นม”ี ผู้บังคบั หมูถ่ ามกลบั
ลกู เสือทงั้ หมดมองเหน็ ชัดแลว้ ว่าตวั เองอยูท่ ไี่ หน
จงึ ตะโกนข้ึนมาวา่ “เรากลบั มาได้แลว้ ...เยๆ้ ๆๆ”

ไปอาบนํา้ อาบทา่ ไดแ้ ลว้
หรืออยากจะลอดซมุ้ อีกรอบ

มาลองลอดซุ้มดไู หมล่ะ

๔๖

ทาํ ทา่ ยังกับไดไ้ ป
ผจญภยั มางัน้ แหละ...

อา้ วกลับมากนั ครบแลว้

๔๗

หลังจากที่อาบนาํ้ กนั เสร็จแล้ว
ลูกเสอื ทกุ คนมาล้อมวงกนิ อาหารเย็นรว่ มกนั

ความเหน่ือยทีผ่ า่ นมาหายไปหมดสนิ้

๔๘

แล้วกม็ ีเสยี งผู้กํากับถามวา่
“หรอื คืนน้ีเราจะลอดซุ้มอกี ครัง้ ”
“ไม่!!!” เสียงเหลา่ ลกู เสือรอ้ งข้นึ พรอ้ มกนั

๔๙

ระกาำ แสนหวาน

พลอยแดงล้ำาค่า เรามาดูกนั วา่ เหลา่ ลกู เสือพา
เราไปผจญภัยท่ีไหนกนั บ้างใน
หลังอานหมาดี จังหวดั ตราด แต่กย็ ังมีสถานที่
สำาคัญอีกหลายแห่งทล่ี ูกเสอื ยงั
ไปหางอบใส่ ไม่ไดพ้ าพวกเราไป และจงั หวัด
ทแี่ หลมงอบ ตราดยังมขี องดอี กี หลายอย่าง
ท่เี ราควรหาโอกาสไปสัมผสั

หมบู่ ้านชาวประมง
ท่ีบ้านนำ้าเชยี่ ว

เมืองเกาะครง่ึ รอ้ ย ทีน่ ม่ี ีปา่ ชายเลน
ที่อดุ มสมบูรณ์
ออกทะเลกับ เต็มไปด้วยสัตว์
ชาวประมงท่ี อ.คลองใหญ่
น้อยใหญ่

ยุทธนาวเี กาะช้าง สุดทางบรู พา

๕๐


Click to View FlipBook Version