The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by natvarapk.m, 2021-06-19 01:43:42

เนื้อหา

เนื้อหา

หลกั การฟังและการดสู าร

ความหมายการฟังและการดู

ราชบัณฑิตยสถาน (๒๕๔๖ : ๘๑๑) ให้ความหมายการฟังว่า ฟัง ก. ตั้งใจสดับ คอยรับเสียงด้วยหู ได้
ยิน เชื่อ ทำตามถอ้ ยคำ เชน่ ใหฟ้ งั คำสงั่ ผบู้ งั คับบญั ชา

ราชบณั ฑิต (๒๕๕๖ : ๔๑๒) ใหค้ วามหมายของการดูว่า ดู ก. ใช้สายตาเพ่อื ใหเ้ ห็น เช่น ดภู าพ ดลู ะคร
ระวังรักษา เช่น ดูบ้านให้ด้วย ไม่มีคนดูเด็ก พินิจพิจารณา เช่น ดูให้ดี ศึกษาเล่าเรียน เช่น ดูหนังสือ เห็นจะ
เช่น ดูจะเกินไปละ ทำนาย เช่น ดูโชคชะตาราศี ใช้ประกอบกิริยา เพื่อให้รู้ให้เห็นประจักษ์แจ้ง เช่น คิดดูให้ดี
ลองกินดู

สรุปได้ว่า การฟังและการดู เป็นการรับสารที่ได้ยินและสิ่งที่ได้เห็น การได้ยินและได้เห็นเป็นการ
เร่มิ ต้นของการฟังและการดู เมอ่ื ภาพมากระทบประสาทหูและประสาทตา เปน็ ความสามารถทางกาย ส่วนการ
ฟังและการดู เป็นกระบวนการของสมองต่อเนื่องจากการได้ยินและได้เห็น ต้องมีสมาธิเพื่อรับรู้ และมี
ความสามารถทางสตปิ ญั ญา เพ่อื จะได้เขา้ ใจและจดจำเรื่องท่ีได้ยินได้ดไู ด้

ความสาคญั ของการฟังและการดู

การฟังและการดูเปน็ กระบวนการรับสารทีม่ ีประโยชนต์ อ่ ตนเองและสังคมเปน็ อย่างมาก ความสำคัญ
ของการฟังและการดมู หี ลายประการดังนี้

๑.ให้ความรูแ้ ละความความคิด

มนษุ ยร์ บั ฟงั และดูต้ังแตว่ ันเดก็ ซง่ึ เป็นการเรยี นรสู้ ิ่งต่างๆ จากระดับทงี่ ่ายจนพัฒนาเป็นระดบั ท่ยี าก การ
ฟังและการดูเป็นวิธีการหาความรู้อย่างหนึ่ง อาจเป็นการ
แลกเปลี่ยนทัศนคติ ในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ซึ่งเป็นการแลกเปลี่ยน
ความคิดเห็นกัน ทำให้ได้ความรู้และเพิ่มความคิด เมื่อเกิดข้อ
สงสัยแล้วมีการซักถามกัน ก็จะเกิดสติปัญญา นอกจากนี้ยังมี
การตดิ ตามข่าวสารขอ้ มลู ต่างๆ จากวทิ ยุโทรทศั น์ เป็นตน้

๒.ให้เพลินเพลนิ จติ และสรา้ งความจรรโลงใจ

การรับสารบางประเภทจะทำให้เกิดความเพลิดเพลินและ สร้างความจรรโลงใจ บางครั้งหากเหนื่อยล้า
จากการเรียนหรือการทำงานมาท้ังวันการฟังเพลงที่ไพเราะ หรอื ดูภาพยนตรท์ ี่สนุกสนานสักเร่ืองจะทำให้รู้สึก
ผ่อนคลาย ถือการเป็นวิธีการพักผ่อนอย่างหนึ่ง นอกจากนี้เนื้อหาสาระของเรื่องยังให้แง่คิดบางประการ ซ่ึง
อาจเป็นการกระตุ้นความรู้สึกผู้รับสารได้อีกทางหนึ่ง การรับสารที่ทำให้เกิดความเพลิดเพลินใจ และสร้าง
ความจรรโลงใจยังมีอีกหลายประการ เช่น การชมการแสดงดนตรี การชมละคร การฟังพระธรรม
เทศนา เป็นตน้

๓. เสรมิ สรา้ งโลกทศั นใ์ หก้ วา้ งไกล

การรับสารเรื่องราวต่างๆ ย่อมทำผู้รับสารได้รับสิ่งใหม่ๆ มากขึ้น ก่อให้เกิดความคิดและแง่มุมมอง
ใหม่ๆ ซึ่งต่างจากเรื่องที่เคยรับมา บางครั้งเรื่องเลวร้าย เช่น อุบัติเหตุหรือข่าวอาชญากรรมต่างๆ ทำให้
ผู้รับสารสลดใจ สะเทือนใจ ขณะเดียวกันก็อาจทำให้ผู้รับสารนำเรื่องราวเหตุการณ์นั้นไปเป็นเหตุผลในการ
ประเมนิ สถานการณ์ทเ่ี กิดขึน้ ในชีวิตประจำวันได้ เป็นการเสริมสร้างโลกทัศน์ให้กวา้ งไกลต่างจากท่เี คยรบั รูม้ า

๔. ใช้พัฒนาตนเองและสังคม

การรับสารดว้ ยการฟังและการดูทำใหเ้ กดิ ความรู้ สรา้ งความคดิ สรา้ งความเพลิดเพลนิ ใจ และเสริมสร้าง
โลกทัศน์ของผู้รับสารให้กว้างไกล ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ล้วนเป็นการพัฒนาในส่วนของตนเอง เมื่อผู้รับสาร
นำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันและในงานอาชีพ ก็จะเป็นการสร้างประโยชน์ให้กับคนรอบข้าง หรือ
หน่วยงาน ซ่งึ ก็หมายถงึ สังคมนัน่ เอง

หลักการฟงั และการดทู ี่ดี

แม้ว่าทักษะการฟังจะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ แต่ผู้ฟังแต่ละคนก็มีความสามารถในการฟังและ
การดูที่แตกต่างกัน ดังที่เราจะพบว่าในบางครั้งผู้ฟังหรือดูหลายคนฟังและดูในเรื่องเดียวกัน แต่เข้าใจเรื่อง
แตกตา่ งกนั การพฒั นาศกั ยภาพการฟงั และการดูที่ดมี หี ลกั การดงั นี้

๑. เตรียมตัวให้พรอ้ ม

ไม่ว่าจะเป็นการฟังเรื่องอะไรผู้ฟังที่ดีควรพร้อมทั้งทางร่างกายและจิตใจ สุขภาพดี นอนหลับอย่าง
เพียงพอก่อนการฟัง และมีความพร้อมในเนื้อหาที่จะฟัง คือหาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องที่จะฟัง ซึ่งจะทำให้
เข้าใจ และเกิดประโยชน์กับตนเองอย่างเต็มที่ หากเรื่องที่จะฟังนั้นผู้ฟังไม่มีความรู้พื้นฐานมาก่อนก็ต้อง
เตรยี มตัวใหพ้ รอ้ ม

๒. กำหนดจดุ มงุ่ หมายในการฟงั

ผู้ฟังที่ดีควรกำหนดมุ่งหมายในการฟังทุกครั้งว่าจะฟังเพื่ออะไร ได้แก่ ฟังเพื่อความรู้ ฟังเพื่อความ
เพลิดเพลนิ หรอื ฟงั เพอ่ื ให้ได้ข้อคดิ การกำหนดจุดมุง่ หมายในการฟังจะทำให้ผู้ฟังเกิดประโยชน์สูงสุดในการ
ฟัง

๓. มสี มาธิ

สมาธิเป็นส่งิ สำคญั ที่จะทำใหเ้ ข้าใจเร่ืองทฟี่ ัง โดยการบงั คับจิตใจให้จดจ่อและต้ังใจฟังเร่ืองน้นั ๆ โดย
ไม่มีความคิดอื่นมาปะปน แม้สมาธิเป็นสิ่งที่ทำได้ค่อนข้างยาก แต่ละคนทีสมาธิยาวและสั้นต่างกัน หากฝึก
ฟงั อย่างมีสมาธิอยา่ งตอ่ เน่ืองยอ่ มสง่ เสริมประสิทธภิ าพในการฟังไดเ้ ปน็ อยา่ งดี

๔. ไม่อคตคิ ือวางใจให้เป็นกลาง

อคติ คือ ความลำเอียง ได้แก่ลำเอียง
เพราะ รกั โกรธ หลง และกลวั หมายถึงอคตติ ่อเรื่อง
ทฟ่ี งั และต่อผู้พูดดว้ ย ซึ่งไมค่ วรจะเกดิ ขึน้ กับผู้ฟัง

ผู้ฟังที่ดีควรวางใจให้เป็นกลาง เพื่อที่จะได้
พิจารณาเรื่องที่ฟังได้อย่างสมเหตุสมผล ไม่คลาดเคลื่อน
จากความเป็นจริง ซึ่งจะก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการ
ฟังและดู

๕. จบั ใจความสำคญั ของเรือ่ งได้

ผู้ฟังที่ดีต้องพยายามจับประเด็นสำคัญของเรื่องที่ฟัง บางครั้งผู้พูดอาจพูดเรื่องราวที่ไร้สาระ เน้น
ความสนุกสนาน ผูฟ้ ังจงึ ตอ้ งตั้งใจหาสาระที่ผู้พูดต้องการส่ือมายังผู้ฟัง นอกจากการจับใจความของเร่ืองท่ีฟัง
แลว้ ผฟู้ ังควรสรุปความคิดรวบยอดของเร่ืองท่ฟี งั ด้วย

๖. จดบันทึกเร่อื งท่ีฟัง

การจดบันทึกสิ่งที่ได้ดู ได้ฟังจะทำให้จดจำเรื่องที่ฟังได้ดีขึ้น และหากต้อการทบทวนเรื่องที่ฟังก็
สามารถนำกลับมาอ่านใหม่ได้ ในการจดบนั ทึกควรจดบนั ทึกเฉพาะประเดน็ ทสี่ ำคัญ

๗. นำส่ิงที่ฟังหรือดมู าปรบั ใช้ในชวี ติ

ผู้ฟังที่ดีควรนำเรื่องที่ได้ฟังหรือดูมาใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน หากเป็นเรื่องที่ดีก็นำไปเป็น
แบบอย่างในการปฏิบัติ เช่น ฟังเรื่องข้อควรปฏิบัติในการเลือกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เมื่อฟังแล้ว
นำไปใช้เมื่อต้องการใช้สิทธิเลือกตั้ง หากเรื่องที่ฟังเป็นเรื่องที่ไม่ดีก็ควรหลีกเลี่ยงไม่ประพฤติตาม เช่น ฟัง
เร่ืองโทษของการสูบบหุ ร่ี ฯลฯ

มารยาทในการฟังและการดู

๑. การฟังและดูเฉพาะหนา้ ผูใ้ หญ่

เมอ่ื ฟงั และดูเฉพาะหนา้ ผู้ใหญ่ ไมว่ ่าจะอยเู่ พยี งลำพังหรือมผี อู้ ื่นอยู่ร่วมด้วย จะต้องสำรวมกริ ิยาอาการ
ให้ความสนใจด้วยการสบตากับผู้พูด ถ้าเป็นการสนทนา ไม่ควรชิงพูดกอ่ นท่ีคู่สนทนาจะพูดจบ ถ้ามีข้อสงสยั ที่
จะซักถาม ควรให้ผูพ้ ูดพูดจบกระแสความก่อนแลว้ จึงถาม หากมีเพื่อร่วมฟังและดูอยู่ด้วย ต้องไม่กระทำอันใด
ทจ่ี ะเปน็ การรบกวนผ้อู น่ื

๒. การฟังและการดใู นท่ปี ระชุม

การประชุมจะมีประธานในที่ประชุมเป็นผู้นำและควบคุมให้การประชุมดำเนินไปด้วยดีผู้เข้าร่วม
ประชุมต้องให้ความเคารพต่อประธาน ในขณะที่ผู้อื่นพูด เราต้องต้ังใจและดู ไม่ควรพูดกระซิบกับคนข้างเคียง
ไม่ควรพูดแทรกแซงขึ้นกลางคัน หรือแสดงความไม่พอใจให้เห็น ควรฟังและด฿จนจบ แล้วจึงให้สัญญาณขอ
อนญุ าตด้วยการยกมอื ไมท่ ำกิจธุระส่วนตวั หรอื ทำส่ิงอื่นใดที่จะเปน็ การรบกวนท่ปี ระชมุ

๓. การฟงั และดใู นที่สาธารณะ

การฟังและการดูในที่สาธารณะเป็นการฟังและการดูที่มีคนจำนวนมากในสถานทีที่เป็นห้องโถงกว้าง
และในสถานท่ีที่เป็นลานกว้าง อาจมีหลังคาหรือไม่มีก็ได้ ขณะท่ฟี ังและดู ไม่ควรกระทำการใดๆ ท่ีจะก่อความ
รำคาญหรอื สรา้ งความวุ่นวายให้แก่ผู้ฟังหรอื ดูท่รี ว่ มอยูด่ ว้ ย จงึ มขี อ้ ความระวงั ดงั น้ี

๓.๑ การฟงั และดใู นโรงภาพยนตร์หรือโรงละคร ควรปฏิบตั ิดงั นี้

๓.๑.๑ รักษาความสงบ ไมใ่ ช้เสียงพูดคุยหรอื กระทำการใดๆ

๓.๑.๒ อาหารและของขบเคี้ยว ไม่ควรนำอาหาร ของขบเคี้ยว ของที่มีกลิ่นแรงเข้าไปใน
สถานทีน่ ั้น

๓.๑.๓ การเดนิ เข้าออก ไม่ควรเดนิ เขา้ ออกบ่อย

๓.๑.๔ การแสดงกิริยามารยาทในการฟังและการดู ไม่ควรแสดงกิริยาอาการที่ไม่เหมาะไม่
ควร ระหว่างเพอื่ นตา่ งเพศในโรงมหรสพ

๓.๑.๕ การใช้เสยี ง ในการฟังและการดู ไม่ควรสง่ เสียงดงั เกนิ ไป

๓.๒ การฟังและดูในลานกว้าง การฟังและการดูในลานกว้างส่วนใหญ่จะเป็นการชมดนตรีและการ
แสดงทีเ่ ปน็ ลกั ษณะมหกรรมบันเทงิ ควรปฏิบตั ิดังนี้

๓.๒.๑ ไมค่ วรส่งเสียงดงั จนเกินไป จะทำใหร้ บกวนผชู้ ม
๓.๒.๒ ไม่แสดงกิรยิ าอาการที่ไมส่ มควร
๓.๒.๓ ไมด่ ่มื ของมึนเมาเข้าไปชมการแสดงหรือไม่นำไปด่ืมขณะฟงั หรือดู
๓.๒.๔ ไม่ควรแสดงกิริยาที่ไม่เหมาะสมกับเพื่อนต่างเพศหรือเพศตรงกันข้าม เพราะขัดต่อ
วัฒนธรรมไทยและอาจผดิ กฎหมาย
๓.๒.๕ ควรยืนหรือนั่งให้เรียบร้อย ไม่ควรเดินไปเดินมาโดยไม่จำเป็น เพราะจะทำความ
วุน่ วายใหบ้ ุคคลอ่ืน

ประเภทของสารทีฟ่ งั และดู

แม่ว่าทักษะการฟังจะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ แต่ผู้ฟังแต่ละคนก็มีความสามารถในการฟังและ
การดูที่แตกต่างกัน ดังที่เราจะพบว่าในบางครั้งผู้ฟังหรือดูหลายคนฟังและดูในเรื่องเดียวกัน แต่เข้าใจเรื่อง
แตกตา่ งกนั การพัฒนาศกั ยภาพการฟงั และการดทู ่ีดีมีหลกั การดังน้ี
๑. การฟงั และการดูสารท่ีให้ความรู้

เช่น การฟังข้อมูลข่าวสารต่างๆ การฟังเรื่องทางวิชาการ และการฟังเกี่ยวกับสาขาวิชาชีพที่ตนสนใจ
มีขอ้ สงั เกตเก่ียวกับการฟังสารประเภทนีด้ งั นี้

๑. ฟังเพือ่ เกบ็ สาระสำคญั ของเรอื่ ง
๒. ฟงั อย่างใช้ความคดิ ทำความเขา้ ใจ และจับใจความสำคัญ
๓. ฟังแลว้ แยกแยะขอ้ เทจ็ จรงิ ออกจากข้อคิดเห็น
๔. ฟังอยา่ งต้ังใจ และมีสมาธิตลอดเรื่อง
๕. ฟังแลว้ จดบนั ทึกช่วยจำ
๖. ฟงั แล้วนำความร้ทู ่ีไดไ้ ปใชใ้ นชวี ิตประจำวนั
๗. ฝกึ ฟังจนเป็นนิสยั เพอ่ื เพมิ่ พนู ความรู้ของตนเอง

๒. การฟงั และการดูสาร..โน้มน้าวใจ
เช่น การฟังโฆษณาชวนเชื่อต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการโฆษณาสินค้า หรือโฆษณาหาเสียง การพูด

ขอรอ้ งวงิ วอนตา่ งๆ การโตว้ าที การอภปิ รายในบางเรื่อง
มขี อ้ สังเกตเกย่ี วการฟงั และดูสารประเภทน้ดี งั นี้

๑. ใช้วิจารญาณใหม้ ากทส่ี ุด
๒. บอกให้ไดว้ า่ ดีหรอื ไม่ดี
๓. บอกใหไ้ ด้ว่าน่าเชือ่ ถอื เพยี งใด
๔. ฟงั แล้วบอกใหไ้ ดว้ ่าสารนน้ั มปี ระโยชนอ์ ยา่ งไร
๕. ฟังโดยใชส้ ตแิ ละวางตัวเปน็ กลาง
๖. พจิ ารณาสารอย่างถ้วนถี่เพือ่ ประโยชน์สงู สุด
๓. การฟังและการดูสาร..จรรโลงใจ
การฟังสารที่ทำให้เกิดความเพลินเพลินใจ เพิ่มความสุข คลายความทุกข์ และให้แง่คิด คติเตือนใจแก่
ผู้ฟัง และยกระดับจิตใจผู้ฟังให้สูงขึ้น เช่น ฟังนิทาน เพลง กวีนิพนธ์ เทศน์ ฟังเรื่องที่ทำให้ตระหนักถึง
คณุ คา่ สง่ิ ตา่ งๆ ในชีวติ มขี อ้ สังเกตในการฟังสารประเภทนดี้ ังน้ี
๑. ฟังด้วยจติ ใจท่สี บาย
๒. สรา้ งจนิ ตนาการ
๓. เข้าใจและจับใจความสำคญั
๔. บอกได้วา่ สารนน้ั ใหแ้ ง่คิดด้านใด
๕. นำแง่คิดทีไ่ ด้ไปใช้ในชีวิตประจำวนั

การฟงั และดูสารจากสอื่ บุคคล

การฟังคำส่ัง..หรือขอ้ แนะนำการปฏบิ ตั ิงาน
การฟังคำสั่ง เป็นการฟังสิ่งที่ผู้บังคับบัญชาหรือหัวหน้างานสั่งไปยังผู้ใต้บังคับบัญชา

ผู้ใต้บังคับบัญชา อาจเป็นการแจ้งให้ทราบ หรือสั่งให้ทำ การฟังคำสั่ง หรือข้อแนะนำการปฏิบัติงาน มี
หลักการดงั นี้

๑. ใช้ความคดิ ทำความเข้าใจ และจบั ใจความสำคญั
๒. ตง้ั ใจ มสี มาธิ เพ่อื ติดตามคำสงั่ หรอื ขอ้ แนะนำ
๓. จดบันทกึ คำสัง่ เพื่อนำไปปฏิบัตใิ ห้ถูกต้อง
๔. อาจทวนคำสง่ั เพื่อตรวจสอบความเขา้ ใจของตนเอง
๕. ถ้าไมเ่ ข้าใจใหข้ อคำแนะนำเพ่มิ เตมิ จากผสู้ ง่ั ให้เข้าใจ

การฟังและดสู ารจากส่ือส่ิงพมิ พ์
สื่อสงิ่ พมิ พ์

มีทั้งที่ทำขึ้นเพื่อการเรียนรู้หลักสูตรใหม่โดยตรง เช่น ตำรา แบบเรียน ฯลฯ และสื่อสิ่งพิมพ์
ท่วั ไป ท่นี ำมาใช้เพื่อกระบวนการพฒั นาการเรียนรู้ เชน่ หนงั สือพิมพ์ วารสาร ฯลฯ การฟังและการดูสาร
จากส่อื สิง่ พมิ พ์ตอ้ งใช้การจบั ใจความสำคัญ หรอื ประเด็นสำคัญของสาร มหี ลกั สำคัญดงั นี้

๑. ตัง้ ใจฟังและดสู ารนั้นๆ มสี มาธิ
๒. จดบนั ทกึ เน้ือหา วัน เวลา ท่ฟี งั และดู
๓. พยายามจับประเด็นเก่ยี วกับข้อเท็จจริง ข้อคดิ เห็น ขอ้ เสนอแนะ หรอื ความรู้สกึ ของสาร

การฟังและดสู ารจากสอ่ื อิเล็กทรอนกิ ส์
ส่อื อิเลก็ ทรอนิกส์

ไดแ้ ก่สอ่ื ที่พฒั นาขน้ึ โดยใช้ระบบเคร่ืองกลไฟฟา้ เป็นหลัก เช่น วิทยุกระจายเสยี ง โทรทศั น์ เครื่อง
ฉายภาพยนตร์ ดาวเทียมสื่อสาร คอมพวิ เตอร์ การฟังและการดสู ารประเภทนี้ ตอ้ งจบั ใจความสำคญั หรือ
ประเด็นสำคญั ของสารนน้ั โดยมีหลกั การดังน้ี

๑. จิตใจจดจอ่ อย่กู บั เรอ่ื งนนั้ ๆ
๒. จบั ใจความสำคัญ
๓. บนั ทกึ เนือ้ หาสำคัญของสาร จากสื่ออิเล็กทรอนกิ ส์

การฟงั และดสู ารจากแหลง่ เรียนรู้

แหลง่ เรยี นรูใ้ นชมุ ชน (learning resources)

มีคำที่ใช้แทนกันได้หลายคำ เช่น แหล่งการเรียนรู้ ทรัพยากรการเรียนรู้ หมายถึง แหล่งข้อมูล
ข่าวสาร สารสนเทศ และประสบการณ์ที่สนับสนุนส่งเสริมสร้างให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ และแสวงหา
ความร้ดู ว้ ยตัวเองอยา่ งกวา้ งขวาง และเป็นบคุ คลแหง่ การเรียนรตู้ ลอดเวลา (เนน้ ผเู้ รยี นเปน็ ศูนยก์ ลาง)

สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (๒๕๕๕) ได้กำหนดลักษณะของแหล่งเรียนรู้ ที่สามารถให้
การศึกษาแกผ่ เู้ รียนท้งั ในระบบ นอกระบบ และผเู้ รียนตามอัธยาศัย มี ๘ ลกั ษณะดังน้ี

๑. สามารถตอบสนองการเรียนรู้เป็นกระบวนการ เรียนรู้โดยการปฏิบัติ ชุมชนมีแหล่งเรียนรู้ของ
ตนเองอยแู่ ล้ว

๒. เปน็ แหล่งทำกจิ กรรม แหล่งทศั นศกึ ษา แหลง่ ฝกึ งาน หรือแหล่งประกอบอาชพี
๓. เป็นแหลง่ สร้างกระบวนการเรยี นรใู้ หเ้ กิดข้นึ ด้วยตนเอง
๔. เป็นหอ้ งเรียนตามธรรมชาติ เป็นแหล่งศกึ ษาค้นควา้ วจิ ัย และฝึกอบรม
๕. เป็นองคก์ รเปิด ผู้สนใจสามารถเข้าถึงข้อมูลไดเ้ ตม็ ทแ่ี ละทวั่ ถึง

๖. สามารถเผยแพร่ข้อมูลในเชิงรกุ ใหผ้ ูเ้ รยี น
๗. มกี ารเชอื่ มโยงและแลกเปล่ยี นข้อมลู กนั
๘. มีส่ือประเภทต่างๆ ประกอบด้วย สื่อสิ่งพิมพ์ สื่ออิเล็กทรอนิกส์ เพื่อเสริมกิจกรรมการ
เรยี นรู้ และพัฒนาอาชพี

การจดั การเรยี นรู้โดยใช้...แหลง่ เรยี นรใู้ นชุมชน

๑. ผ้เู รียนไดป้ ฏบิ ตั จิ ริง คน้ คว้าหาความรู้ดว้ ยตนเอง

๒. ผู้เรียนได้ฝึกการทำงานเป็นกลุ่ม ร่วมคิด ร่วมทำ และร่วมแก้ปัญหาต่างๆ เพื่อให้เกิดการเรียนรู้
ทักษะกระบวนการตา่ งๆ

๓. ผู้เรียนได้ฝึกทักษะการสังเกต การเก็บข้อมูล การตีความและการสรุปความคิดในการแก้ปัญหา
อยา่ งเปน็ ระบบ

๔. ผู้เรยี นได้ประเมนิ ผลการทำงานด้วยตนเอง
๕. ผู้เรยี นสามารถนำความรู้ไปประยกุ ตใ์ ช้ ไดจ้ ริง
๖. ผ้สู อนเป็นทีป่ รกึ ษา ใหค้ ำแนะนำ และใหก้ ารสนบั สนนุ
หลักการฟังและดสู ารจาก...แหล่งเรียนรใู้ นชมุ ชน
๑. ฟังและดูสารโดยจติ ใจจดจ่ออยู่กบั เร่อื งน้นั ๆ
๒. จบั ใจความสำคญั ว่ามสี าระอย่างไร
๓. บันทึกเนื้อหาสำคญั ของสารจากส่อื อเิ ล็กทรอนกิ ส์
๔. ใช้แผนภาพความคิด หรือใบกจิ กรรมเพอ่ื บนั ทึกเป็นแผนภาพในการฟังและดูกิจกรรมนัน้ ๆ

สรุป

การฟังและการดูเป็นทักษะการรับสารที่สามารถรับรู้เรื่องราวต่างๆ ได้จากการฟังเสียงพูดและยังได้
มองเห็นภาพเรื่องราวเหตุการณ์ วัตถุสิ่งของ ตลอดทั้งกิริยาอาการต่างๆ สิ่งที่ได้รับจากการฟังและดูจึงเป็น
ข้อมูลความรู้ที่ละเอียดลึกซึ้ง ความรู้ที่ได้จากการฟังและดูสามารถนำไปใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติตนใน
สงั คม และในการดำเนนิ ชีวิตต่อไปได้อยา่ งมีประสิทธิภาพ


Click to View FlipBook Version