The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

E-book : มัทนะพาธา
สมาชิกภายในกลุ่ม
๑.นายปัณณวิชญ์ ศิริยุวสมัย เลขที่๒
๒.นางสาวณัฐณิชา เเสงขาว เลขที่๑๖
๓.นางสาวกานตญา ยุตาคม เลขที่๒๘
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่๕.๕

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by natnichasangkao, 2023-02-21 08:40:09

มัทนะพาธา

E-book : มัทนะพาธา
สมาชิกภายในกลุ่ม
๑.นายปัณณวิชญ์ ศิริยุวสมัย เลขที่๒
๒.นางสาวณัฐณิชา เเสงขาว เลขที่๑๖
๓.นางสาวกานตญา ยุตาคม เลขที่๒๘
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่๕.๕

Keywords: มัทนะพาธา

กุ ห ล า บ ง า ม กั บ ค ว า ม รั ก อั น เ ด็ ด เ ดี่ ย ว


สมาชิกภายในกลุ่ม ๑.นายปัณณวิชญ์ ศิริยุวสมัย เลขที่๒ ๒.นางสาวณัฐณิชา เเสงขาว เลขที่๑๖ ๓.นางสาวกานตญา ยุตาคม เลขที่๒๘ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่๕.๕ มัทนะพาธา เสนอ คุณครูชาลี คงเคว็จ โรงเรียนพัทลุง จังหวัดพัทลุง เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาพัทลุง เขต๑๒ ตำ นานเเห่งดอกกุหลาบ


คำ นำ หนังสือเล่มเล็กฉบับนี้จัดทำ ขึ้นเพื่อประกอบการเรียนวิชาภาษาไทย(ท๓๒๑๐๒) โดยมีจุดประสงค์เพื่อให้ผู้จัดทำ ได้ฝึกการศึกษาค้นคว้า และนำ สิ่งที่ได้ศึกษาค้นคว้า มาสร้างเป็นชิ้นงานเก็บไว้เป็นประโยชน์ต่อการเรียนเเละการอ่านของผู้สนใจต่อไป ทั้งนี้ เนื้อหาได้คิดค้นขึ้นจากการศึกษาเรื่องราวของมัทนะพาธา คุณค่าจากเรื่อง ประโยชน์ การเเต่งนิทานซ้อนนิทานและจากการอ่านหนังสือเเละค้นคว้าจากอิเทอร์เน็ต ที่น่าเชื่อถืออีกหลายเล่ม ขอขอบพระคุณ อาจารย์ชาลี คงเคว็จ อย่างสูงที่ให้ความรู้ ความเข้าใจ กรุณาตรวจ ให้คำ แนะนำ เพื่อแก้ไข ให้ข้อเสนอแนะตลอดการทำ งาน ผู้จัดทำ หวังว่ารายงานฉบับนี้คงมีประโยชน์ต่อผู้ที่สนใจนำ ไปใช้ให้เกิดผลเป็นไปตาม ความคาดหวังไม่มากก็น้อย หากมีข้อผิดพลาดประการใดผู้จัดทำ ขอน้อมรับเเละขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย ผู้จัดทำ วันที่ ๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖


พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงใฝ่พระราชหฤทัยในการประพันธ์มาแต่ยังทรงพระเยาว์ โดยทรงเริ่มจดบันทึกพระราชกิจรายวันในสมุดจดพระราชบันทึก ที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานให้ เมื่อคราวทรงเจริญพระชนมายุได้ ๘ พรรษา ครั้นเสด็จออกไปทรงศึกษาอยู่ที่ประเทศอังกฤษ ก็ได้ทรงฝึกฝนการใช้ภาษาอังกฤษและฝรั่งเศส โดยทรงใช้เวลาว่างพระราชนิพนธ์บทละครภาษาอังกฤษและ ฝรั่งเศส ทั้งยังได้ทรงบันทึกเหตุการณ์สำ คัญที่ทรงพบเห็นไว้ในรูปพระราชหัตถเลขา เช่น ทรงเล่าเรื่องการเสด็จ พระราชดำ เนินไปในการพระราชพิธีราชาภิเษกพระเจ้ากรุงสเปนไว้เป็นพระราชหัตถเลขาภาษาอังกฤษรวม ๘ ฉบับ ซึ่งต่อมาได้ทรงใช้พระราชหัตถเลขานี้ในการทรงสอนภาษาอังกฤษพระราชทานนายจ่ายวด (ปาณี ไกร ฤกษ์) มหาดเล็กรับใช้นายหนึ่งด้วย นอกจากบทพระราชนิพนธ์ภาษาอังกฤษและฝรั่งเศสที่ทรงพระราชนิพนธ์ไว้ในระหว่างประทับทรงศึกษา อยู่ที่ประเทศอังกฤษแล้ว เมื่อเสด็จพระราชดำ เนินนิวัติพระนครแล้วก็ได้ทรงใช้เวลาว่างในแต่ละวันทรงพระราช นิพนธ์บทละคร บทความ นิทาน ฯลฯ ไว้เป็นจำ นวนมาก ดังเช่น ทรงพระราชนิพนธ์เรื่อง Chao Tak Sin (เจ้าตากสิน) เป็นอุปรากรภาษาอังกฤษ ตั้งแต่ยังทรงดำ รงพระอิสริยยศเป็นสมเด็จพระยุพราช และเมื่อคราว ฉลองพระบรมราชสมภพครบ ๑๐๐ ปี เมื่อวันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๒๔ คณะกรรมการรวบรวมและค้นคว้า เกี่ยวกับพระราชนิพนธ์ของพระบาทสมเด็จมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว (ก.ร.ว.) ได้สำ รวจและรวบรวมที่ได้ทรงไว้ ตลอดพระชนม์ชีพพบว่า มีจำ นวนกว่า ๑,๒๐๐ เรื่อง สำ หรับเรื่องมัทนะพาธาที่วรรณคดีสโมสรยกย่องให้เป็น “ยอดแห่งบทละครพูดคำ ฉันท์” นั้น ในชั้นต้นทรง แปลเป็นร้อยแก้วภาษาอังกฤษพร้อมด้วยอภิธานศัพท์ ต่อมาในตอนปลายรัชกาล พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้า ธานีนิวัติ ราชเลขานุการในพระองค์ฝ่ายต่างประเทศ ได้กราบบังคมทูลขอให้ทรงแปลพระราชนิพนธ์มัทนะพาธา เป็นร้อยกรองภาษาอังกฤษ จึงทรงทรงพระราชนิพนธ์แปลเป็น กลอนเปล่า (Blank Verse) ตามแบบบทกวี ของเชกสเปียร์ โดยทรง “เล่นคำ ” เลียนพระราชนิพนธ์ภาษาไทย พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ผู้เเต่ง


บทละครพูดคำ ฉันท์ เรื่องมัทนะพาธา ถอดคำ ประพันธ์ องค์ที่ ๑ (มายาวินประนมมือและนั่งบริกรรม, พิณพาทย์ทำ เพลงตระ สันนิบาต. ทุก ๆ คนตั้งตาคอยมองดู พอถึงรัวท้ายตระ มัทนาเดินออกมา, ตาจ้องเป๋งไม่แลดูใคร และกิริยาอาการเป็นอย่างคนที่ยังหลับอยู่, และพูด หรือแสดงกิริยาอย่างคนที่ฝัน. สุเทษณ์ลุกจากบัลลังก์ลงมาต้อนรับด้วย ความยินดีแต่ครั้นเห็นมัทนาจังงังอยู่ ไม่ยิ้มแย้มก็ชะงัก, แล้วหันไปพูดกับ มายาวิน.) [สุรางคณา, ๒๘.] สุเทษณ์ นางมาแล้วไซร้ แต่ว่าฉันใด จึ่งไม่พูดจา ถอดความ (นางมาถึงแล้ว แต่ว่าทำ ไมนางจึงไม่ยอมพูดจากับข้า) มายาวิน นางยังงงงวย ด้วยฤทธิ์มนตรา แต่ว่าตูข้า จะแก้บัดนี้ ถอดความ (เพราะว่านางยังอยู่ในมนต์สะกดของข้า แต่ว่าข้าจะแก้มนต์ ณ บัดนี้) (พูดสั่งมัทนา) ดูก่อนสุชาตา มะทะนาวิไลศรี ยามองค์สุเทษณ์มี วรพจน์ประการใด นางจงทำ นูลตอบ มะธุรส ธ ตรัสไซร้ เข้าใจมิเข้าใจ ฤ ก็ตอบพะจีพลัน. ถอดความ (ดูก่อน นางมัทนาผู้มีรูปโฉมงดงาม ถ้าหากว่าท่านสุเทษณ์ ถามอะไรเจ้าเจ้าจงตอบด้วยถ้อยคำ ที่อ่อนหวาน ไม่ว่าเจ้าจะเข้าใจ หรือไม่เข้าใจก็ตามก็จงตอบโดยเร็วพลัน) มัทนา เข้าใจละเจ้าข้า, ผิวะองค์สุเทษณ์นั้น ตรัสมาดิฉันพลัน จะเฉลยพระวาที ถอดความ (ข้าเข้าใจแล้วถ้าหากองค์สุเทษณ์นั้น ตรัสถามอะไร หม่อมฉันจะตอบในทันที)


บทละครพูดคำ ฉันท์ เรื่องมัทนะพาธา ถอดคำ ประพันธ์ [วสันตะดิลก, ๑๔.] สุเทษณ์ อ้าโฉมวิไลยะสุปริยา มะทะนาสุรางค์ศรี, พี่รักและกอบอภิระตี บ มิเว้นสิเน่ห์หนัก ; บอกหน่อยเถอะว่าดะรุณิเจ้า ก็จะยอมสมัครรัก ถอดความ (มัทนานางฟ้าผู้แสนงาม พี่หลงรักเจ้ามานานไม่มีเว้นวาย บอกพี่ มา หน่อยเถิดว่าเจ้าก็รักพี่เช่นกัน) มัทนา ตูข้าสมัคร ฤ มิสมัคร ก็มิขัดจะคล้อยตาม. ถอดความ (หม่อมฉันจะรักท่านหรือไม่รักท่าน ก็ไม่สามารถขัดความเห็น ของท่านจะคล้อยตามท่าน) สุเทษณ์ จริงฤานะเจ้าสุมะทะนา วจะเจ้าแถลงความ ถอดความ (มัทนา นี่เจ้าพูดจริงหรือ ตอบข้ามา) มัทนา ข้าขอแถลงวะจะนะตาม สุระเทวะโปรดปราน. ถอดความ (หม่อมฉันขอตอบท่านว่า หม่อมฉันจะพูดในสิ่งที่ท่านต้องการ) สุเทษณ์ รักจริงมิจริง ฤ ก็ไฉน อรไท บ่ แจ้งการ ถอดความ (รักจริงหรือไม่จริง เหตุใดน้องจึงไม่บอกกับพี่เล่า) มัทนา รักจริงมิจริงก็สุระชาญ ชยะโปรดสถานใด? ถอดความ (จะรักหรือไม่รักก็แล้วแต่พระองค์ทรงโปรด ว่าต้องการอย่างไร) สุเทษณ์ พี่รักและหวังวธุจะรัก และ บ ทอด บ ทิ้งไป. ถอดความ (พี่รักเจ้า และหวังว่าเจ้าจะรักพี่ และไม่ทอดทิ้งความรักของพี่ไป) มัทนา พระรักสมัคร ณ พระหทัย ฤ จะทอดจะทิ้งเสีย? ถอดความ (ตอนนี้ทรงรักหม่อมฉันอยู่ จะทรงทิ้งข้าไปได้อย่างไร) สุเทษณ์ ความรักละเหี่ยอุระระทด เพราะมิอาจจะคลอเคลีย. ถอดความ (ความรักของพี่นั้นน่าระเหี่ยใจ เพราะไม่สามารถจะอิงแอบเจ้าได้) มัทนา ความรักระทดอุระละเหี่ย ฤจะหายเพราะเคลียคลอ ถอดความ (ความรักของท่านนั้นจะหายจากความน่าละเหี่ยใจเพียงเพราะได้ อิงแอบแนบชิดอย่างนั้นหรือ)


สุเทษณ์ โอ้โอ๋กระไรนะมะทะนา บ มิตอบพะจีพอ ถอดความ (โอ้ มัทนา ทำ ไมเจ้าไม่ตอบในสิ่งที่พี่ถาม) มัทนา โอ้โอ๋กระไรอะมระง้อ มะทะนามิพอดี ถอดความ (โอ้ ท่านเทวดา มัทนาได้ตอบสิ่งที่ท่านถามมาแล้ว) สุเทษณ์ เสียแรงสุเทษณ์นะประดิพัทธ์ มะทะนา บ เปรมปรีดิ์. ถอดความ (เสียแรงที่พี่น่ะจงรักภักดีต่อเจ้า แต่เจ้ากลับไม่ยินดี) มัทนา แม้ข้า บ เปรมปฺริยะฉะนี้ ผิจะโปรดก็เสียแรง. ถอดความ (แม้ข้ายินดีหรือไม่ หากท่านจะรักหม่อมฉันต่อไปก็เสียแรงเปล่า) สุเทษณ์ โอ้รูปวิไลยะศุภะเลิศ บ มิควรจะใจแข็ง ถอดความ (โอ้นางผู้มีรูปร่างอันงดงามเป็นเลิศ มิควรใจแข็งกับพี่ขนาดนี้) มัทนา โอ้รูปวิไลยะมละแรง ละก็จำ จะแข็งใจ. ถอดความ (โอ้ ถึงหม่อมจะมีรูปงดงาม แต่หม่อมฉันบอบบาง เพราะฉะนั้น ใจหม่อมฉันจึงจำ ต้องแข็งแรง) (สุเทษณ์จ้องดูนาง, แต่นางยังคงตาลอยไม่จับตาอยู่, สุเทษณ์ออกฉงน, จึ่งลองพูดไปอีก.) สุเทษณ์ หากพี่จะกอดวธุและจุม- พิตะเจ้าจะว่าไร? ถอดความ (ถ้าหากว่าข้าจะกอดและจูบเจ้า เจ้าจะว่าอย่างไร) มัทนา ข้าบาทจะขัด ฤ ก็มิได้ ผิพระองค์จะทรงปอง. ถอดความ (หม่อมฉันขัดก็คงไม่ได้ สุดแล้วแต่ใจของท่านเถิด) สุเทษณ์ ว่าแต่จะเต็มฤดิ ฤ หาก ดนุกอดและจูบน้อง ถอดความ (ว่าแต่เจ้าจะเต็มใจหรือไม่ หากพี่กอดและจูบเจ้า) มัทนา เต็มใจมิเต็มใจดนูก็ต้อง ปฏิบัติระเบียบดี. ถอดความ (เต็มใจหรือไม่เต็มใจ หม่อมฉันจะทำ หน้าที่ไม่ให้ขาดตก บกพร่อง) (สุเทษณ์ไม่พอใจในคำ ตอบของนาง, จึ่งหันไปพูดกับมายาวิน) บทละครพูดคำ ฉันท์ เรื่องมัทนะพาธา ถอดคำ ประพันธ์


บทละครพูดคำ ฉันท์ เรื่องมัทนะพาธา ถอดคำ ประพันธ์ [สุรางคณา,๒๘.] สุเทษณ์ แน่ะมายาวิน เหตุใดยุพิน จึ่งเป็นเช่นนี้? ดูราวละเมอ เผลอเผลอฤดี ประดุจไม่มี ชีวิตจิตใจ, คราใดเราถาม หล่อนก็ย้อนความ เหมือนเช่นถามไป. ดังนี้จะยวน ชวนเชยฉันใด เปรียบเหมือนไป พูดกับหุ่นยนต์. ถอดความ (แน่ะ มายาวิน ทำ ไมนางจึงเป็นอย่างนี้? นางเหมือนคนที่กำ ลังละเมอ ไม่มีชีวิตจิตใจ คราวใดที่เราถามอะไรไป หล่อนก็ย้อนเราเหมือนดัง คำ ถามที่เราถามไป เหมือนต้องการจะยียวนกวนใจข้า เปรียบเสมือน การพูดกับหุ่นยนต์) มายาวิน เทวะ,ที่นาง อาการเป็นอย่าง นี้เพราะฤทธิ์มนตร์; โยคะอันขลัง บังคับได้จน ให้ตอบยุบล ได้ตามต้องการ แต่จะบังคับ ใครใครให้กลับ มโนวิญญาณ, ให้ชอบให้ชัง ยืนยังอยู่นาน ย่อมจะเป็นการ สุดพ้นวิสัย กว่าพระองค์ มีพระประสงค์ อยู่เพียงจะให้ นงคราญฉลอง รองพระบาทไซร้ ข้าอาจผูกใจ ไว้ด้วยมนตรา. มิให้นงรัตน์ ดื้อดึงขึงขัด ซึ่งพระอัชฌา, บังคับให้ยอม ประนอมเป็นข้า บาทบริจา ริกาเทวัญ. ถอดความ (ท่านสุเทษณ์ ที่นางเป้นอย่างนี้เป็นเพราะฤทธิ์แห่งเวทมนตร์ขลัง ซึ่งสามารถบังคับให้ตอบเรื่องราวได้ตามต้องการ แต่จะให้บังคับจิตใจ ของคนให้ชอบหรือเกียจนั้น หาทำ ได้ไม่ ถ้าหากพระองค์มีพระประสงค์ แต่เพียงให้นางคอยรับใช้ท่าน ข้าสามารถผูกใจนางไว้ด้วยเวทมนตร์ ไม่ให้นางดื้อดึง ขัดใจท่าน บังคับให้นางยอมเป้นข้ารับใช้ท่านได้


บทละครพูดคำ ฉันท์ เรื่องมัทนะพาธา ถอดคำ ประพันธ์ สุเทษณ์ อ๊ะ! เราไม่ขอ ได้นางละหนอ โดยวิธีนั้น! เสียแรงเรารัก สมัครใจครัน อยากให้นางนั้น สมัครรักตอบ. ผูกจิตรด้วยมนตร์ แล้วตามใจตน ฝ่ายเดียวมิชอบ, เราไฝ่ละโบม ประโลมใจปลอบ ให้นางนึกชอบ นึกรักจริงใจ. ฉะนั้นท่านครู คลายเวทมนตร์ดู อย่าช้าร่ำ ไร, หากเราโชคดี ครั้งนี้คงได้ สิทธิ์สมดังใจ รีบคลายมนตรา. ถอดความ (อ๊ะ เราไม่อยากได้นางโดยวิธีนั้น เสียแรงที่เรารักนางจากใจจริง เราอยากให้นางนั้นรักเราตอบ ผูกใจด้วยเวทย์มนต์แล้วตามใจเรา คนเดียวเป็นสิ่งที่ไม่ดี ข้าอยากให้นางรักเราด้วยใจจริง ฉะนั้นท่านครู จงรีบคลายเวทมนตร์เถิด หากว่าข้าโชคดี ครั้งนี้เราคงสมหวัง มายาวิน เอวํ เทวะ. (พะย่ะค่ะ ท่านเทวะ) (มายาวินประนมมือแล้วร่ายมนตร์ต่อไปนี้) [วิชฺชุมาลา, ๘.] มายาวิน อันเวทอาถรรพณ์ ที่พันผูกจิต แห่งนางมิ่งมิตร อยู่บัดนี้นา จงเคลื่อนคลายฤทธิ์ จากจิตกัญญา คลายคลายอย่าช้า สวัสดีสวาหาย ถอดความ (อันเวทย์มนต์อาถรรพณ์แห่งข้า ที่ผูกพันจิตของนางอยู่บัดนี้ จงคลายฤทธิ์จากจิตของนางอย่าช้า เวทมนตร์จงหายไป) [ฉบงง, ๑๖.] (พิณพาทย์ทำ เพลงรัว มายาวินยกมือไหว้ แล้วเสกเป่าไปทางมัทนา. ฝ่ายมัทนาค่อยๆรู้สึกตัว, เอามือลูบตาเหมือนคนเพิ่งตื่นนอน,ได้สติบริบูรณ์. บัดนี้นางเหลียวแลไปเห็นสุเทษณ์ก็ตกใจ, ตั้งท่าเหมือนจะหนีไป, แต่สุเทษณ์ ขวางทางไว้)


สุเทษณ์ อ้ามัทนาโฉมฉาย เฉิดช่วงดังสาย วิชชุประโชติอัมพร ไหนไหนก็เจ้าสายสมร มาแล้วจะร้อน จะรนและรีบไปไหน ถอดความ (อ้า มัทนาโฉมงาม สว่างไสวดังสายฟ้าในท้องฟ้า ไหนๆ เจ้าก็มาแล้ว จะร้อนรนรีบไปไหนเล่า?) มัทนา เทวะ,อันข้านี้ไซร้ มานี่อย่างไร บทราบสำ นึกสักนิด; จำ ได้ว่าข้าสถิต ในสวนมาลิศ และลมรำ เพยเชยใจ, แต่อยู่ดีดีทันใด บังเกิดร้อนใน อุระประหนึ่งไฟผลาญ, ร้อนจนสุดที่ทนทาน แรงไฟในราน ก็ล้มลงสิ้นสมฤดี. ฉันใดมาได้แห่งนี้? หรือว่าได้มี ผู้ใดไปอุ้มข้ามา? ขอพระองค์จงเมตตา และงดโทษข้า ผู้บุกรุกถึงลานใน. ถอดความ (องค์เทวะ หม่อมฉันมาที่นี่ได้อย่างไร ไม่ทราบสักนิด จำ ได้ว่า ข้าอยู่ในสวนดอกไม้มีลมพัดชื่นใจ แต่อยู่ดีๆ ก็เกิดร้อนในใจ ราวกับโดนไฟผลาญร้อนจนสุดที่จะทนได้ แล้วก็สิ้นสติลง หม่อมฉันมาที่แห่งนี้ได้อย่างไร หรือว่ามีใครไปอุ้มข้ามา ขอพระองค์จงทรงเมตตาและให้อภัยหม่อมฉันที่บุกรุกถึงลานใน) สุเทษณ์ อ้าอรเอกองค์อุไร พี่จะบอกให้ เจ้าทราบคดีดังจินต์; พี่เองใช้มายาวิน ให้เชิญยุพิน มาที่นี้ด้วยอาถรรพณ์ ถอดความ (อ้า น้องผู้ยอดดวงใจ พี่จะบอกให้เจ้าทราบตามจริง พี่ใช้ให้มายาวินให้เชิญเจ้ามาที่นี่ด้วยเวทมนตร์) มัทนา เหตุใดพระองค์ทรงธรรม์ จึ่งทำ เช่นนั้น ให้ข้าพระบาทต้องอาย แก่หมู่ชาวฟ้าทั้งหลาย? โอ้พระฦๅสาย พระองค์จงทรงปรานี. ถอดความ (เหตุใดพระองค์จึงทำ เช่นนั้น ให้หม่อมฉันต้องอับอายแก่เหล่านางฟ้า ทั้งหลายโอ้พระองค์ได้โปรดปรานีด้วยเถิด) (มัทนาร้องไห้. พิณพาทย์ทำ เพลงโอด. สุเทษณ์ปลอบ.) บทละครพูดคำ ฉันท์ เรื่องมัทนะพาธา ถอดคำ ประพันธ์


[อินทวงส์, ๑๒.] สุเทษณ์ อ้ายอดสิเนหา มะทะนาวิสุทธิศรี, อย่าทรงพระโศกี วรพักตร์จะหม่นจะหมอง. ถอดความ (โอ้ มัทนายอดรัก อย่าร้องไห้ไปเลยใบหน้าของเจ้านั้นจะหม่นหมอง) พี่นี้นะรักเจ้า และจะเฝ้าประคับประคอง คู่ชิดสนิทน้อง บ่ มิให้ระคางระคาย. ถอดความ (พี่นี้น่ะรักเจ้า และเฝ้าดูแลเจ้าเป็นคู่ชนิดสนิทกัน มิให้ระคายระเคืองใจ) พี่รักวะธุนวล บ่ มิควรระอาละอาย, อันนาริกับชาย ฤ ก็ควรจะร่วมจะรัก ถอดความ (พี่รักเจ้าไม่ควรที่เจ้าจะระอายเลย อันผู้หญิงกับผู้ชายเกิดมา เพื่อจะร่วมรักกัน) รูปเจ้าวิไลราว สุระแสร้งประจิตประจักษ์, มิควรจะร้างรัก เพราะพะธูพิถีพิถัน ถอดความ (รูปเจ้านั้นก็งดงามราวกับเนรมิต ไม่ควรจะขาดรักเลย) ธาดา ธ สร้างองค์ อรเพราะพิสุทธิสรรพ์ ไว้เพื่อจะผูกพัน ธนะจิตตะจองฤดี. ถอดความ (พระพรหมท่านสร้างไว้เพื่อให้ผูกพัน) อันพี่สิบุญแล้ว ก็เผอิญประสบสุรี และรักสมัครมี มนะมุ่งทะนุถนอม. ถอดความ (บุญของพี่แล้วที่ได้มาพบน้อง และรักทนุถนอมน้อง) ขอโฉมเฉลาปลง พระฤดีประนีประนอม. รับรักและยินยอม ดนุรักสมัครสมาน. ถอดความ (ขอเจ้าจงยินยอมรับรักข้า และยินยอมดังที่พี่รักเจ้า) หากนางมิข้องขัด ประดิพัทธ์ประสมประสาน ทั้งสองจะสุขนาน มนะจ่อ บ จืด บ จาง. ถอดความ (หากน้องมิขัดข้องอะไร เราจะรักกันยาวนานไม่จืดจาง) บทละครพูดคำ ฉันท์ เรื่องมัทนะพาธา ถอดคำ ประพันธ์


อ้าช่วยระงับดับ ทุขะพี่ระคายระคาง; พี่รักอนงค์นาง ผิมิสมฤดีถวิล ถอดความ (โปรดจงช่วยดับทุกข์ของพี่ พี่รักเจ้า หากได้เจ้าสมใจ พี่คงมีความสุขมาก) เหมือนพี่มิได้คง วรชีวะชีวิตินทรีย์ไซร้ บ่ ไฝ่จิน- ตะนะห่วงและห่อนนิยม. ถอดความ (แต่หากไม่เป็นเช่นนี้ พี่ก็คงไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้) ชีพอยู่ก็เหมือนตาย เพราะมิวายระทวยระทม ทุกข์ยากและกรากกรม อุระช้ำ ระกำ ทวี. ถอดความ (มีชิวิตอยู่ก็เหมือนตาย เพราะมีแต่ความทุกข์ยาก ชอกช้ำ ระกำ ใจ) อ้าฟังดนูเถิด มะทะนาและตอบวจี พอให้ดนูนี้ สุขะรื่นระเริงระรวย. ถอดความ (อ้า จงฟังพี่เถิด มัทนา และตอบพี่ พี่จะได้มีความสุข) (มัทนาร้องไห้ พิณพาทย์ทำ เพลงโอด สุเทษณ์ปลอบ) [วสันตะดิลก, ๑๔.] มัทนา ฟังถ้อยดำ รัสมะธุระวอน ดนุนี้ผิเอออวย. จักเป็นมุสาวะจะนะด้วย บ มิตรงกะความจริง. ถอดความ (หม่อมฉันฟังคำ อ้อนวอนของท่าน ถ้าหากหม่อมฉันตามน้ำ ไปกับท่านด้วย ก็จะเป็นการโกหกเพราะไม่ตรงกับความจริง) อันชายประกาศวะระประทาน ประดิพัทธะแด่หญิง, หญิงควรจะเปรมกะมะละยิ่ง ผิวะจิตตะตอบรัก; ถอดความ (อันชายใดประกาศรักแก่หญิง ถ้าฝ่ายหญิงชอบก็จะรับรัก) แต่หากฤดี บ อะภิรมย์ จะเฉลยฉะนั้นจัก เป็นปดและลวงบุรุษะรัก ก็จะหลงละเลิงไป. ถอดความ (แต่ถ้าหากไม่รัก ก็จะเป็นการหลอกลวง ถ้าหากว่ารับรัก ทำ ให้ฝ่ายชายหลงดีใจไป) บทละครพูดคำ ฉันท์ เรื่องมัทนะพาธา ถอดคำ ประพันธ์


ตูข้าพระบาทสิสุจริต บ มิคิดจะปดใคร, จึ่งหวังและมุ่งมะนะสะใน วรเมตตะธรรมา. ถอดความ (สำ หรับตัวหม่อมฉันนี้จริงใจ ไม่คิดที่จะโกหกใคร จึงหวังว่า พระองค์จะทรงพระเมตตาหม่อมฉัน) อันว่าพระองค์กรุณะข้อย ฤ ก็ควรจะปรีดา, อีกควรฉลองวรมหา กรุณาธิคุณครัน ถอดความ (อันว่าที่พระองค์ทรงพระกรุณาหม่อมฉัน หม่อมฉัน ก็ควรจะดีใจและควรที่จะรับพระมหากรุณาธิคุณนั้น) ดังนี้คะนึง ฤ ก็ระบม อุระแห่งกระหม่อมฉัน, ที่ตน บ อาจจะอภิวัน- ทะนะตอบพระวาจา ถอดความ (ดังนั้น หม่อมฉันขออภัยจากใจจริงที่มิอาจจะยินดี ตอบรับในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ได้) ให้ถูกประดุจสุระประสงค์ ผิวะทรงพระโกรธา, หมฺ่อมฉันก็โอนศิระ ณ บา- ทะยุคลและกราบกราน. ถอดความ (ให้ถูกตามประพระสงค์ แม้ว่าพระองค์จะโกรธ หม่อมฉันก็กราบขออภัย) [อินทวงศ์, ๑๒.] สุเทษณ์ ที่หล่อนมิยินยอม มะนะรักสมัครสมาน, มีคู่สะมรมาน อภิรมย์ ฤ เป็นไฉน ถอดความ (ที่เจ้าไม่ยอมรักพี่ เพราะเจ้ามีคนรักอยู่แล้วอย่างนั้นหรือ) [วสันตะดิลก, ๑๔.] มัทนา หม่อมฉัน บ มีบุรุษผู้ ประดิพัทธะใดใด, เป็นโสด บ มีมะนะสะใฝ่ อภิรมย์ ฤ สมรส. ถอดความ (หม่อมฉันไม่มีชายใด ยังคงเป็นโสด ไม่มีใจใฝ่ในเรื่องรัก) บทละครพูดคำ ฉันท์ เรื่องมัทนะพาธา ถอดคำ ประพันธ์


[อินทวงศ์, ๑๒.] สุเทษณ์ เช่นนั้นก็เชิญฟัง ดนุกล่าวสิเนหะพจน์, เจ้างามประเสริฐหมด ก็มิควรจะฤดีจะดำ ถอดความ (ถ้าเช่นนั้นจงฟังพี่กล่าว เจ้าช่างงามยิ่งนัก ไม่ควรที่จะใจดำ ) [วสันตะดิลก, ๑๔.] มัทนา หม่อมฉันสดับมะธุระถ้อย ก็สำ นึกเสนาะคำ , แต่ต้องทำ นูลวะจะนะซ้ำ ดนุจะได้ทำ นูลมา ถอดความ (หม่อมฉันฟังวาจาอ่อนหวานที่ท่านพูด ก็รู้สำ นึกในคำ ไพเราะ นั้นแต่ต้องกราบทูลซ้ำ เหมือนเดิมที่เคยกราบทูลเอาไว้) [อินทวงศ์, ๑๒.] สุเทษณ์ นี่เจ้ามิยอมรับ รสะรักฉะนั้น ฤ จ๋า? ตัวฉันจะเลวสา- หะสะด้วยประการไฉน? ถอดความ (ที่เจ้าไม่ยอมรับรักพี่ เพราะพี่เลวหรือไม่ดีตรงไหนหรือ) [วสันตะดิลก, ๑๔.] มัทนา อ้าองค์พระผู้สุระวิศิษฏ์, พระจะผิดสะถานใด? หม่อมฉันสิทรามเพราะ บ่ มิได้ อนุวัตน์พระบัณฑูร. ถอดความ (โอ้ พระองค์เทวดาผู้มีอำ นาจ พระองค์จะผิดได้อย่างไร แต่หม่อมฉันสิที่เลว เพราะไม่สามารถกระทำ ตาม พระกระแสรับสั่งของพระองค์ได้) [อินทวงศ์, ๑๒.] สุเทษณ์ ยิ่งฟังพะจีศรี ก็ระตีประมวลประมูล, ยิ่งขัดก็ยิ่งพูน ทุขะท่วมระทมหะทัย! อ้าเจ้าลำ เพาพักตร์ สิริลักษณาวิไล, พี่จวนจะคลั่งไคล้ สติเพื่อพะวงอนงค์. ถอดความ (ยิ่งฟังคำ พูดที่น้องพูดมาทั้งหมด ก็ยิ่งขัดใจ ความทุกข์ ท่วมท้นในใจ อ้าเจ้าผู้มีหน้าตาและรูปร่างที่งดงาม พี่หลงใหลเจ้าจนใกล้จะบ้าอยู่แล้ว) บทละครพูดคำ ฉันท์ เรื่องมัทนะพาธา ถอดคำ ประพันธ์


[วสันตะดิลก, ๑๔.] มัทนา โอ้โอ๋ละเหี่ยอุระสดับ วรศัพทะท่านทรง อ้อยอิ่งแสดงวรประสง- คะณตัวกระหม่อมฉัน; อยากใคร่สนองพระวรสุน- ทรคุณอเนกนั้น, จนใจเพราะผิดคติสุธรรม์ สุจริตประติชฺญา. ให้พระองค์อะมะระเท- วะเสวยประโมทา, หม่อมฉันจะขอประณตะลา สุระราชลิลาศไป. ถอดความ (โอ้ ช่างสลดใจนัก คำ พูดที่ท่านต้องการในตัวหม่อมฉัน หม่อมฉันอยากจะตอบสนองท่าน แต่หม่อมฉันก็จนใจ เพราะผิดคำ มั่นสัญญาที่ให้ไว้กับตนเอง ขอให้พระองค์ จงมีแต่ความสุข หม่อมฉันขอกราบทูลลา) (มัทนากราบแล้วตั้งท่าจะไป แต่สุเทษณ์จับข้อมือไว้ด้วยกิริยาออกจะโกรธ) [ฉบงง, ๑๖.] สุเทษณ์ ช้าก่อน หล่อนจะไปไหน ถอดความ (ช้าก่อน นี่เจ้าจะไปไหน) มัทนา หม่อมฉันอยู่ไป ก็เครื่องแต่ทรงรำ คาญ ถอดความ (หม่อมฉันอยู่ไป ก็มีแต่จะทำ ให้ท่านรำ คาญ) สุเทษณ์ ใครหนอบอกแก่นงคราญ ว่าพี่รำ คาญ ถอดความ (ใครบอกแก่เจ้า ว่าพี่รำ คาญ) มัทนา หม่อมฉันสังเกตเองเห็น ถอดความ (หม่อมฉันสังเกตเห็นด้วยตนเอง) สุเทษณ์ เออ หล่อนนี้มาล้อเล่น อันตัวพี่เป็น คนโง่ฤาบ้าฉันใด ถอดความ (เออ เจ้ามาล้อเล่นอย่างนี้ เห็นพี่เป็นคนโง่หรือคนบ้ารึ) มัทนา หม่อมฉันเคารพเทพไท ทูลอย่างจริงใจ ก็ บ มิทรงเชื่อเลย, กลับทรงดำ รัสตรัสเฉลย ชวนชักชมเชย และชิดสนิทเสนหา. ถอดความ (หม่อมฉันเคารพพระองค์ และทูลอย่างจริง พระองค์ ก็ไม่ทรงเชื่อเลย กลับพูดชักชวนชมเชยให้ข้ารักตอบ) บทละครพูดคำ ฉันท์ เรื่องมัทนะพาธา ถอดคำ ประพันธ์


จะโปรดปรานข้าบาทนี้ สักกี่ราตรี? และเมื่อพระเบื่อข้าน้อย, จะมิต้องนั่งละห้อย นอนโศกเศร้าสร้อย ชะเง้อชะแง้แลหรือ ถอดความ (จะโปรดปรานหม่อมฉันสักกี่วันกี่คืนกัน และเมื่อพระองค์เบื่อ ข้าน้อยมิต้องโศกเศร้า ชะเง้อชะแง้คอยมองหาท่านหรือ) หม่อมฉันนี้เป็นผู้ถือ สัจจาหนึ่งคือ ว่าแม้มิรักจริงใจ, ถึงแม้จะเป็นชายใด ขอสมพาสไซร้ ก็จะมิยอมพร้อมจิต. ดังนี้ขอเทพเรืองฤทธิ์ โปรดข้าน้อยนิด, ข้าบาทขอบังคมลา. ถอดความ (หม่อมฉันเป็นผู้ถือสัจจะนั่นก็คือ ถ้าแม้ว่าหม่อมฉันไม่รักอย่างจริงใจ ถึงแม้จะเป็นชายใดขอร่วมรัก ก็จะไม่ยินยอมพร้อมใจ ดังนั้นขอให้ พระองค์ผู้เป็นเทพผู้มีฤทธิ์ จงทรงโปรดด้วยเถิด หม่อมฉันขอถวาย บังคมลา) [กมล, ๑๒.] สุเทษณ์ (ตวาด) อุเหม่! มะทะนาชะเจ้าเล่ห์ ชิชิช่างจำ นรรจา, ตะละคำ อุวาทา ฤ กระบิดกระบวนความ. ถอดความ (อุเหม่ มัทนา เจ้านี้ช่างเจ้าเล่ห์นัก คำ พูดแต่ละคำ ที่พูดออกมา มีแต่คำ พูดที่ไม่ดีตลบตะแลง) ดนุถามเจ้าก็ไซร้ บ มิตอบ ณ คำ ถาม, วนิดาพยายาม กะละเล่นสำ นวนหวน. ถอดความ (เมื่อข้าถาม เจ้าก็ไม่ตอบ พยายามเล่นสำ นวนยอกย้อน) ก็และเจ้ามิเต็มจิต จะสดับดนูชวน, ผิวะให้อนงค์นวล ชนะหล่อนทะนงใจ. ถอดความ (ถ้าเจ้าไม่เต็มใจทำ ตามที่ข้าเอ่ยชักชวน หากแม้นข้าจะให้เจ้าเป็นผู้ ชนะ เจ้าก็จะทะนงใจ) บ่ มิยอมจะร่วมรัก และสมัครสมรไซร้, ก็ดะนูจะยอมให้ วนิดานิวาสสวรรค์ ถอดความ (เมื่อเจ้าไม่รับรักอย่างสมัครใจแล้ว ข้าก็จะยอมให้เจ้าไปจากสวรรค์) บทละครพูดคำ ฉันท์ เรื่องมัทนะพาธา ถอดคำ ประพันธ์


ผิวะนางเผอิญชอบ มรุอื่นก็ข้าพลัน จะทุรนทุรายศัล- ยะ บ่ อยากจะยินยล ถอดความ (เพราะถ้าต่อไป เจ้าเผอิญไปชอบเทวดาคนอื่นเข้า ข้าก็จะทุรนทุรายโศกเศร้าไม่ยากจะเห็น ไม่อยากจะได้ยิน) เพราะฉะนั้นจะให้นาง จุติสู่ณแดนคน, มะทะนาประสงค์ตน จะกำ เนิด ณ รูปใด ถอดความ (เพราะฉะนั้นข้าจะให้เจ้าจุติ ลงไปเกิดในโลกมนุษย์ มัทนา เจ้าประสงค์จะเกิดเป็นอะไรล่ะ) ทวิบทจะตูร์บาท ฤ จะเป็นอะไรไซร้, วธุเลือกจะตามใจ และจะสาปประดุจสรร; ถอดความ (เกิดเป็นมนุษย์ เป็นสัตว์สี่เท้า หรือจะเป็นอย่างอื่น ข้าจะตามใจเจ้า และข้าจะสาปให้เป็นเช่นนั้น) จะสถิตฉะนั้นกว่า จะสำ นึก ณ โทษทัณฑ์ และผิวอนดนูพลัน จะประสาทพระพรให้ ถอดความ (เจ้าจะอยู่ที่นั่น จนกว่าจะสำ นึกถึงความผิดของตนเอง และอ้อนวอนต่อข้าแล้วข้าจะให้พรเจ้า) วนิดาจรัลกลับ ณ ประเทศสุราลัย; ก็จะชอบสะถานใด วธุตอบดนูมา. ถอดความ (ให้เจ้าคืนสู่สวรรค์ดังเดิม ตกลงเจ้าเลือกเป็นอะไร ตอบข้ามา) [สาลินี, ๑๑.] มัทนา อ้าเทพศักด์สิทธิ์ซึ่ง พระจะลงพระอาญา ข้าเป็นแต่เพียงข้า บ มิมุ่งจะอวดดี. ถอดความ (อ้า องค์เทวะผู้ศักดิ์สิทธิ ซึ่งพระองค์จะลงพระอาญาแก่หม่อมฉัน นั้นหม่อมฉันเป็นเพียงแต่ข้ารับใช้ ไม่ได้คิดจะอวดดี) หม่อมฉันนี่อาภัพ และก็โชค บ่ พึงมี, จึ่งไม่ได้รองศรี วรบาทพระจอมแมน. ถอดความ (หม่อมฉันเป็นคนอาภัพและไม่มีโชค จึงไม่ได้รับใช้ท่าน) บทละครพูดคำ ฉันท์ เรื่องมัทนะพาธา ถอดคำ ประพันธ์


อันทรงเมตตาควร จะประจบและตอบแทน คุณท่านที่มากแสน คณนาประมวลมี. ถอดความ (ซึ่งที่พระองค์เมตตาสมควรจะตอบแทนบุญคุณอันมากมาย ของท่านที่มีต่อหม่อมฉัน) อันโปรดให้เลือกตาม ฤดิข้า ณ บัดนี้, ขอเป็นซึ่งมาลี รุจิเรขวิไลวรรณ, ถอดความ (แล้วที่พระองค์โปรดให้เลือกตามใจหม่อมฉัน หม่อมฉัน ขอเกิดเป็นดอกไม้ที่สวยงาม) สุดแท้แต่จอมสรวง จะประสิทธิ์ประสาทพันธุ์ ขอเพียงให้มีคัน- ธะระรื่นระรวยหอม. ถอดความ (แล้วแต่พระองค์เถิด ว่าจะให้ว่าเป็นดอกไม้พันธุ์ใด ขอแต่เพียงให้มีกลิ่นรื่นรมย์หอม) ด้วยกลิ่นของข้าบาท ก็จะได้ประณตน้อม ใจนิตย์บูชาจอม สุระบ่มบำ เพ็ญบุญ, ถอดความ (ด้วยกลิ่นของหม่อมฉัน จะได้ส่งกลิ่นมาเป็นเครื่องบูชา พระองค์ ในยามที่พระองค์บำ เพ็ญบารมี) ข้าขอแต่เพียงให้ มรุทรงพระการุญ. ให้ข้าได้ทำ คุณ และประโยชน์ บ่ อยู่หมัน ถอดความ (ขอให้พระองค์ได้โปรดกรุณาให้หม่อมฉันได้ทำ ประโยชน์ ไม่ได้อยู่เฉย ๆ ด้วยเถิด) สุเทษณ์ ที่เจ้างอนง้อข้อนั้น เราจะยอมสรร- พะสิทธิดังใจจนต์. ดูราท่านมายาวิน, นางนี้ถวิล จะถือรูปเป็นมาลี. ถอดความ (ที่เจ้าขอมานั้น เราจะจัดการให้เป็นไปตามใจของเจ้า ดูก่อน ท่านมายาวิน นางมัทนามีความประสงค์จะเกิดเป็นดอกไม้) ก็บุปผาอย่างใดมี ที่งามทั้งสี อีกทั้งมีกลิ่นส่งไกล แต่ต้องให้มีหนามไว้ ป้องกันมิให้ เหล่าเดรัจฉานผลาญยับ. ถอดความ (มีดอกไม้อะไรที่งามทั้งสี และมีกลิ่นหอมส่งไปได้ไกล แต่ต้อง มีหนามไว้เพื่อป้องกันไม่ให้เหล่าเดรัจฉานทำ ลาย) บทละครพูดคำ ฉันท์ เรื่องมัทนะพาธา ถอดคำ ประพันธ์


มายาวิน เทวะ อันไม้งามสรรพ มีลักษณ์ต้องกับ พระองค์ดำ รัสนั้นมี ในนันทะโนทยานศรี, องค์พระศจี ธโปรดเป็นยอดมาลา. เห็นมีแต่ในฟากฟ้า, ในแดนคนหา ไม้นี้มิได้แห่งไหน. ถอดความ (องค์เทวะ อันไม้ที่งามพร้อม มีลักษณะตามที่พระองค์ถามมานั้น มีอยู่ในสวนนันทวัน เป็นไม้ดอกที่พระเหสีของพระอินทร์โปรดปาน เห็นมีแต่บนสวรรค์เท่านั้น ไม่มีในแดนมนุษย์ สุเทษณ์ ไม้นี้มีนามฉันใด? ท่านจงเล่าให้ เราทราบซึ่งลักษณ์แถลง ถอดความ (ไม้นี้มีชื่อว่าอะไร ท่านจงเล่าให้เราฟัง) [อินทะวิเชียร, ๑๑.] มายาวิน ไม้เรียกผะกากุพฺ- ชะกะสีอรุณแสง ปานแก้มแฉล้มแดง ดรุณีณยามอาย; ถอดความ (ไม้นี้ชื่อว่าดอกกุพชกะ มีสีแดงเหมือนแก้มผู้หญิงยามอาย) ดอกใหญ่และเกสร สุวคนธะมากมาย, อยู่ทน บ วางวาย มธุรสขจรไกล; ถอดความ (มีดอกขนาดใหญ่ และมีเกสร อยู่คงทน มีกลิ่นหอมส่งไปไกล) อีกทั้งสะพรั่งหนาม ดุจะเข็มประดับไว้ ผึ้งเขียวสิบินไขว่ บ มิใคร่จะห่างเหิน. ถอดความ (อีกทั้งมีหนามราวกับเข็มประดับไว้ ผึ้งบินอยู่ขวักไขว่ ไม่ยอมห่าง) อันกุพฺชะกาหอม บริโภคอร่อยเพลิน, รสหวานสิหวานเชิญ นรลิ้มเพราะเลิศรส; ถอดความ (ดอกกุพชะกะนี้มีกลิ่นหอม รับประทานอร่อย มีรสหวานเป็นเลิศ) กินแล้วระงับตรี พิธะโทษะหายหมด, คือลมและดีลด ทุษะเสมหะเสื่อมสรรพ์; ถอดความ (กินแล้วระงับความเครียด ความโกรธ ทำ ให้รู้สึกดีขึ้น) ช่วยขับเสมหะ) บทละครพูดคำ ฉันท์ เรื่องมัทนะพาธา ถอดคำ ประพันธ์


อีกทั้งเจริญกา- มะคุณาภิรมย์นันท์, เย็นในอุราพลัน, และระงับพยาธี ถอดความ (อีกทั้งยังเจริญกามคุณ ช่วยให้ร่างกายเย็นลงทำ ให้หายป่วย และช่วยขับพยาธิ) [ฉบงง, ๑๖.] สุเทษณ์ ดีละ, จะให้มารศรี เป็นดอกไม้นี้ โฉมยงจะว่าฉันใด ถอดความ (ดีล่ะ เราจะให้เจ้าเป็นดอกไม้นี้ เจ้าจะว่าอย่างไร) มัทนา ไหนไหนจะเป็นดอกไม้, หม่อมฉันพอใจ เป็นดอกที่ออกนาม มา. ข้าขอก้มเกศวันทา ที่จอมเทวา การุญให้เลือกเช่นนี้. ถอดความ (ไหนๆ จะเป็นดอกไม้แล้ว หม่อมฉันพอใจเป็นดอกไม้ตามที่ท่าน ออกนามมา ข้าขอกราบขอบพระคุณที่กรุณาเลือกให้เช่นนี้) สุเทษณ์ ด้วยอำ นาจอิทธิ์ฤทธี อันประมวลมี ณ ตัวกูผู้แรงหาญ, กูสาปมัทนานงคราญ ให้จุติผ่าน ไปจากสุราลัยเลิศ, ถอดความ (ด้วยอำ นาจอิทธิฤทธิ์ที่ข้ามีทั้งหมด ข้าขอสาปนางมัทนา ให้จุติจากสวรรค์) สู่แดนมนุษย์และเกิด เป็นมาลีเลิศ อันเรียกว่ากุพฺชะกะ, ให้เป็นเช่นนั้นกว่าจะ รู้สึกอุระ ระอุเพราะรักรึงเข็ญ. ถอดความ (ไปสู่แดนมนุษย์ เกิดเป็นดอกไม้อันเลิศ มีนามว่า กุพชะกะ ให้เป็นเช่นนั้นจนกว่าจะรู้สึกเป็นทุกข์เพราะความรัก) ทุกเดือนเมื่อถึงวันเพ็ญ ให้นางนี้เป็น มนุษย์อยู่กำ หนดมี เพียงหนึ่งทิวาราตรี; แต่หากนางมี ความรักบุรุษเมื่อใด. ถอดความ (ทุกๆ เดือน เมื่อถึงวันเพ็ญ ขอให้นางกลับกลายเป็นมนุษย์ เพียงหนึ่งวันหนึ่งคืน แต่ถ้าหากนางมัทนามีความรักต่อชายเมื่อใด) เมื่อนั้นแหละให้ทรามวัย คงรูปอยู่ไซร้ บ คืนกลับเป็น บุปผา. หากรักชายแล้วมัทนา บมีสุขา รมย์เพราะเริดร้างรัก, ถอดความ (เมื่อนั้นแหละให้เจ้าคงรูปเป็นมนุษย์ ไม่ต้องคืนกลับเป็นดอกไม้ หากมัทนามีความรักแล้วไม่มีความสุขเพราะต้องร้างลาจากกัน) บทละครพูดคำ ฉันท์ เรื่องมัทนะพาธา ถอดคำ ประพันธ์


บทละครพูดคำ ฉันท์ เรื่องมัทนะพาธา ถอดคำ ประพันธ์ และนางเป็นทุกข์ยิ่งนัก จนเหลือที่จัก อดทนอยู่อีกต่อไป, เมื่อนั้นผิว่าอรทัย กล่าววอนเราไซร้ เราจึ่งจะงดโทษทัณฑ์ ถอดความ (นางจะเป็นทุกข์ยิ่งนักจนไม่สามารถจะทนต่อไปได้ เมื่อนั้น หากว่านางกล่าวอ้อนวอนต่อเราไซร้เราจะให้อภัย) [จิตระปทา, ๘.] นางมทะนา จุติอย่านาน จงมะละฐาน สุระแมนสวรรค์, ไปเถอะกำ เนิด ณ หิมาวัน ดั่งดนุลั่น วจิสาปไว้ ถอดความ (มัทนา เจ้าจงจุติ ไปจากเมืองสวรรค์ แล้วกำ เนิดในแดนหิมวันต์ ดังที่เราลั่นวจีสาปไว้)


บริกรรม สำ รวมใจ สวดมนต์ภาวนา ตระ ชื่อเพลงไทยเดิม สุชาตา ผู้มีกำ เนิดดี ลูกผู้ทีสกุลดี วิไล งาม วรพจน์ คำ พูดที่ดี ทำ นูล บอก กล่าว ทูล มะธุรส น้ำ ผึ้ง รสหวาน ไพเราะ พะจี คำ พูด ถ้อยคำ ผิวะ หากว่า แม้นว่า สุปริยา เป็นที่รักยิ่ง อภิระตี นางผู้รักใคร่อย่างยิ่ง ดรุณี สาว อ่อน รุ่น สุระ เทวดา อรไท นางผู้เป็นใหญ่ นางผู้มีสกุล วธุ หญิงสาว อมร เทวดา ประดิพัทธ์ เนื่องกัน ผูกพัน รักใคร่ ศุภะเลิศ ความงาม ความดี ความเจริญ มละ ทิ้ง ฤดิ ความยินดี ดนุ ฉัน ข้าพเจ้า โยคะ การใช้ การรวม วิธีบำ เพ็ญสมาธิ ทำ จิตใจให้สงบ ยุบล ข้อความ เรื่องราว นงคราญ นางงาม อัชฌา กิริยาดี บริจาริกา หญิงรับใช้ บทละครพูดคำ ฉันท์ เรื่องมัทนะพาธา คำ ศัพท์


ละโบม โลม ลูบคลำ เคล้าคลึง อาถรรพ์ สิ่งสืบเนื่องมาจากคัมภีร์พระเวท สวาหาย คำ กล่าวเมื่อจบการเสกเป่า วิชชุ แสงไฟฟ้า สายฟ้า อัมพร ฟ้า อากาศ มาลิศ ดอกไม้ สมฤดี ความรู้สึกตัว อุไร ทองคำ จินต์ คิด พระฤาสาย กษัตริย์ สิเนหา ความรัก วิสุทธิศรี สะอาด สดใส พธู ผู้หญิง ธาดา พระพรหม เพรา งาม น่าดู พิสุทธิ์ บริสุทธิ์ สะอาด สุกใส ธนะ ทรัพย์สิน สุรี พระอาทิตย์ ดวงตะวัน ระคาง หมาง หมองใจ เคืองใจ วร เยี่ยม ประเสริฐ เลิศ มธุระพจน์ ถ้อยคำ อันไพเราะ มุสา เท็จ ปด กมล ใจ อภิรมย์ รื่นเริงยิ่ง ดีใจยิ่ง ยินดียิ่ง ข้อย ข้า ปรีดา อิ่มใจ ปลื้มใจ ยินดี บทละครพูดคำ ฉันท์ เรื่องมัทนะพาธา คำ ศัพท์


ยุคล คู่ สมร นางงามซึ่งเป็นที่รัก วิศิษฎ์ เลิศ เยี่ยม เด่น ดียิ่ง อนุวัตน์ ทำ ตาม ปฏิบัติตาม บัณฑูร คำ สั่ง ประมวล รวบรวม ประมูล แข่งขันเสนอราคาหรือสิ่งอื่นเพิ่มเติม ลำ เพา โฉมงาม สิริลักษณ์ มิ่งขวัญ มงคล ลักษณะที่เป็นมงคล พะวง กังวล ห่วงใย สุนทร งาม ดี ไพเราะ ประติชญา คำ มั่นสัญญา สมพาส การอยู่ร่วมกัน อุวาทา คำ พูดไม่ดี ทะนงใจ ถือดี นิวาส ที่อยู่อาศัย มรุ เทวดา จุติ ตาย (มักใช้แก่เทวดา) ทวิบท สัตว์สองเท้า จตุบาท สัตว์สี่เท้า แมน เทวดา รุจิเรข มีลายงาม มีลายสุกใส วิไลวรรณ สีงาม ผิวงาม คันธรส รสหอม บ่ม ทำ ให้สุก ทำ ให้งาม นันทะโนทยาน ความสนุก, สวนบนสวรรค์ บทละครพูดคำ ฉันท์ เรื่องมัทนะพาธา คำ ศัพท์


คุณค่าด้านเนื้อหา ๑. โครงเรื่อง เป็นบทละครพูดคำ ฉันท์ที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่ หัวทรงคิดโครงเรื่องเอง ไม่ได้ตัดตอนมาจากวรรณคดีเรื่องใด แก่นสำ คัญ ของเรื่องมีอยู่ ๒ ประการ คือ ๑) ทรงปราถนาจะกล่าวถึงตำ นานดอกกุหลาบ ซึ่งเป็นดอกไม้ที่สวยงาม แต่ ไม่เคยมีตำ นานในเทพนิยาย จึงพระราชนิพนธ์ให้ดอกกุหลาบมีกำ เนิดมาจาก นางฟ้าที่ถูกสาปให้จุติลงมาเกิดเป็นดอกไม้ชื่อว่า "ดอกกุพฺชกะ" คือ "ดอกกุหลาบ" ๒) เพื่อแสดงความเจ็บปวดอันเกิดจากความรัก ทรงแสดงให่เห็นว่าความรัก มีอนุภาพอย่างยิ่ง ผู้ใดมีความรักก็อาจเกิดความหลงขึ้นตามมาด้วย ทรงใช้ชื่อ เรื่องว่า "มัทนะพาธา" อันเป็นชื่อของตัวละครเอกของเรื่อง ซึ่งมีความหมายว่า "ความเจ็บปวดหรือความเดือดร้อนอันเกิดจากความรัก" มีการผูกเรื่องให้มี ความขัดแย้งซึ่งเป็นปมปัญหาของเรื่อง คือ ๑) สุเทษณ์เทพบุตรหลงรักนางมัทนา แต่นางไม่รับรักตอบจึงสาปนาง เป็นดอกกุพฺชกะ (กุหลาบ) ๒) นางมัทนาพบรักกับท้าวชัยเสน แต่ก็ต้องพบกับอุปสรรคเพราะนาง จันทีมเหสีของท้าวชัยเสนวางอุบายให้ท้าวชัยเสนเข้าใจนางมัทนาผิด สุดท้าย นางมัทนาได้มาขอความช่วยเหลือจากสุเทษณ์เทพบุตร และสุเทษณ์เทพบุตร ขอความรักนาง อีกครั้งแต่นางปฏิเสธช่นเคย เรื่องจึงจบลงด้วยความสูญเสีย และความเจ็บปวดด้วยกันทุกฝ่าย บทละครพูดคำ ฉันท์ เรื่องมัทนะพาธา คุณค่าด้านเนื้อหา


๒. ตัวละคร ๑) สุเทษณ์ เป็นเทพบุตรที่หมกมุ่นในตัณหาราคะ เจ้าอารมณ์ เอาแต่ใจ ตนเอง และไม่คำ นึงถึงความรู้สึกของผู้อื่น ดังตัวอย่างบทกวีต่อไปนี้ สุเทษณ์ : เหวยจิตรเสน มึงบังอาจเล่น ล้อกูไฉน? จิตระเสน : เทวะ, ข้าบาท จะบังอาจใจ ทำ เช่นนั้นไซร้ได้บ่พึงมี. สุเทษณ์ : เช่นนั้นทำ ไม พวกมึงมาให้ พรกูบัดนี้, ว่าประสงค์ใด ให้สมฤดี? มึงรู้อยู่นี่? ว่ากูเศร้าจิต เพราะไม่ได้ สมจิตที่ใฝ่ชม, อกกรมเนืองนิตย์. จิตระเสน : ตูข้าภักดี ก็มีแต่คิด เพื่อให้ทรงฤทธิ์ โปรดทุกขณะ. สุเทษณ์ : กูไม่พอใจ ไล่คนธรรพ์ไป บัดนี้เทียวละ อย่ามัวรอลั้ง ๒) มัทนา ซื่อสัตย์ นิสัยตรงไปตรงมา คิดอย่างไรก็พูดอย่างนั้น ไม่รักก็ บอกตรงๆ ไม่พูดปดหลอกลวง ไม่มีเล่ห์เหลี่ยม พูดแต่ความจริง แต่ความจริง ที่นางพูดทำ ให้นางต้องได้รับความลำ บากทุกข์ระทมใจ ดังตัวอย่างเมื่อสุเทษณ์ บอกรักนางและขอนางให้คำ ตอบ ฟังถ้อยดำ รัสมะธุระวอน ดนุนี้ผิเอออวย. จักเปนมุสาวะจะนะด้วย บมิตรงกะความจริง. อันชายประกาศวะระประทาน ประดิพัทธะแด่หญิง, หญิงควรจะเปรมกะมะละยิ่ง ผิวะจิตตะตอบรัก; แต่หากฤดีบอะภิรม จะเฉลยฉะนั้นจัก เปนปดและลวงบุรุษะรัก ก็จะหลงละเลิงไป. ตูข้าพระบาทสิสุจริต บมิคิดจะปดใคร, จึ่งหวังและมุ่งมะนะสะใน วรเมตตะธรรมา. บทละครพูดคำ ฉันท์ เรื่องมัทนะพาธา คุณค่าด้านเนื้อหา


๓. กลวิธีในการดำ เนินเรื่อง การดำ เนินเรื่องใช้กลวิธีให้มายาวินเป็นผู้เล่าอดีตชาติของสุเทษณ์เทพ บุตร และดำ เนินเรื่องโดยแสดงให้เห็นลักษณะของสุเทษณ์เทพบุตรผู้เป็นใหญ่ ว่ามีบุญมีวาสนามาก มีบริวารพรั่งพร้อมควรที่จะเสวยสุขในวิมานของตน กลับเอาแต่ใจตนเองหมกมุ่นอยู่ในกามตัณหาราคะ เฉพาะนางเทพธิดาที่ ประดับบารมีก็มากล้นเหลือ จะเสวยสุขอย่างไรก็ได้ แต่ก็ยังไม่พอ ศิลปะการดำ เนินเรื่อง เปรียบให้เห็นว่าชายที่ร่ำ รวยด้วยเงิน อำ นาจ วาสนาอยากได้อะไรก็จะต้องเอาให้ได้ เมื่อไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็เอาด้วยกล ไม่ได้ ด้วยมนตร์ต้องเอาด้วยคาถา ผู้หญิงจึงเป็นฝ่ายเสียเปรียบเพราะไม่มีอะไรจะ ไปต่อสู้ และมีไม่น้อยที่หญิงจะหลงไปติดในวิมานของคนร่ำ รวย การดำ เนินเรื่องกำ หนดให้สุเทษณ์สาปนางมัทนาให้เป็นดอกกุหลาบ ต่อเมื่อถึงคืนเดือนเพ็ญจะกลายร่างเป็นหญิงรูปงามหนึ่งวันหนึ่งคืน หากมี ความรักเมื่อใดจึงจะกลายเป็นมนุษย์อย่างถาวร และขอให้นางพบกับความ ทุกข์ระทมจากความรัก หากนางมีความทุกข์ระทมเพราะความรักเมื่อก็ให้ไป อ้อนวอนสุเทษณ์ๆ จึงจะยกโทษให้ เพราะสุเทษณ์เทพบุตรหวังว่าเมื่อนางต้องผิดหวังทุกข์ระทมเพราะ ความรัก คงจะเห็นใจตนและยินดีรับรักบ้าง แต่สุเทษณ์คาดการณ์ผิด เพราะ เรื่องกลับจบลงด้วยนางมัทนามาอ้อนวอนให้รักของนางสมหวัง สุเทษณ์เทพ บุตรขอให้นางรับรักก็ถูกปฏิเสธอีก สุเทษณ์จึงโกรธแค้นและสาปนางให้เป็น ดอกกุหลาบชั่วนิรันดร์ บทละครพูดคำ ฉันท์ เรื่องมัทนะพาธา คุณค่าด้านเนื้อหา


๑ เรื่องมัทนะพาธาเป็นหนังสือที่แต่งดี ใช้คำ ฉันท์เป็นบทละครพูด ซึ่งแปลก และแต่งได้ยาก มีการเลือกใช้คำ เหมาะสมกับเนื้อความและบทบาทของตัว ละคร รวมทั้งการพรรรณนาให้มีความสอดคล้องกับวัฒนธรรมภารตะโบราณ และเข้ากับเนื้อเรื่องได้เป็นอย่างดี จึงได้รับการยกย่องจากวรรณคดีสโมสรว่า เป็นยอดแห่งบทละครพูดคำ ฉันท์ ๒ มีการใช้ภาษาที่สละสลวย ตอนใดที่ต้องการดำ เนินเรื่องอย่างรวดเร็ว ก็ใช้ร้อยแก้ว ตอนใดที่ต้องการจังหวะเสียงและความคล้องจองก็ใช้กาพย์ หรือตอนใดที่เน้นอารมณ์มากก็มักใช้ฉันท์ ๓ มีการใช้ศิลปะการประพันธ์ที่ไพเราะ แสดงกวีโวหารและมีการเล่นคำ เล่นอักษรอย่างแพรวพราว เช่น “สุเทษณ์ : รักจริงมิจริงฤก็ไฉน อรไทบ่แจ้งการ?” “มัทนา : รักจริงมิจริงก็สุรชาญ ชยะโปรดสถานใด?” “สุเทษณ์ : รักละเหี่ยอุระระทด เพราะมิอาจจะคลอเคลีย” “มัทนา : ความรักระทดอุระละเหี่ย ฤจะหายเพราะเคลียคลอ” บทละครพูดคำ ฉันท์ เรื่องมัทนะพาธา คุณค่าด้านวรรณศิลป์


บทละครพูดคำ ฉันท์ เรื่องมัทนะพาธา คุณค่าด้านวรรณศิลป์


๑ สะท้อนแง่คิดให้คนในสังคมได้เข้าใจพุทธวัจนะ “ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีทุกข์” ว่า เมื่อมีความรัก ต้องรักอย่างมีสติ ใช้วิจารณญาณอย่างรอบคอบ มิใช่รัก อย่างลุ่มหลงจะเกิดความทุกข์ได้ ๒ สะท้อนให้เห็นค่านิยมเกี่ยวกับการครองรักระหว่างหญิงชายต้องเกิด จากความพึงพอใจทั้งสองฝ่าย มิใช่เกิดจากการบังคับขู่เข็ญให้รับรัก จึงจะเกิด ความสุขในชีวิต ๓ สะท้อนให้เห็นค่านิยมของสตรีไทยในยุคสมัยนั้นว่ามีความซื่อสัตย์ และยึดมั่นความรักเดียวใจเดียว บทละครพูดคำ ฉันท์ เรื่องมัทนะพาธา คุณค่าด้านสังคม


มั ท น ะ พ า ธ า ตำ น า น เ เ ห่ ง ด อ ก กุ ห ล า บ


ความรักเหมือนโรคา บันดาลตาให้มืดมน ไม่ยินและไม่ยล อุปสรรคใดใด ความรักเหมือนโคถึก กำ ลังคึกผิขังไว้ ก็โลดออกจากคอกไป บ ยอมอยู่ ณ ที่ขัง ถึงหากจะผูกไว้ ก็ดึงไปด้วยกำ ลัง ยิ่งห้ามก็ยิ่งคลั่ง บ หวนคิดถึงเจ็บกาย


Click to View FlipBook Version