E book
จัดทำโดย
ด.ญ.สิริกร เพ็งพันธ์ ม.1/2 เลขที่39
เลขประจำตัวนักเรียน37445
ภาคเรียนที่2
ปีการศึกษา 2565
โรงเรียนสารวิทยา
ข้อมูลส่วนตัว
จัดทำโดย
ด.ญ.สิริกร เพ็งพัน
ธ์ ม.1/2 เลขที่39
เลขประจำตัวนักเรียน
37445
เเนวหนังสือที่ชอบ
บันเทิงคดี
สารบัญ
ลูกหมูสามตัว
เด็กเลี้ยงเเกะ
นกเลือกนาย
กระต่ายกับเต่า
เทวดากับคนตัดฟืน
คนกับเงิน
ลูกหมูสามตัว
ชสื่อำผนูั้เกเตพ่ิงมนพ์งนGุชM
ปSรีBชาoวo่อkง
ไวกุล จำนวนหน้าที่อ่าน 20
เนื้อเรื่องย่อ
วันที่เริ่มอ่าน 9/8/65
กาลครั้งหนึ่ง.......แม่หมูให้ลูกๆ ออกไปเผชิญโลกภายนอกด้วยตัวเองหมู 3 พี่น้อง
ออกเดินทางได้ซักพัก หมูผู้พี่คนโตที่แซ้นนนจะขี้เกียจก็ร่ำลาน้องๆ หยุดสร้างบ้าน
ด้วยฟาง เพราะว่ามันง่าย แล้วก็เร็วที่สุด จะได้พักแต่งหน้าซักที........แล้ววันนั้นเอง
หมาป่าก็ย่องเข้ามาหมายจะงาบบบ บ้านที่สร้างด้วยฟาง ไม่อาจต้านแรงได้ หมูหนึ่งวิ่ง
หนีอย่างไม่คิดชีวิต ไปหาหมูสองผู้น้อง..........ที่สร้างบ้านด้วยไม้หมูสอง ต้อนรับหมู
หนึ่งได้ไม่นาน เหตุการณ์เดิมๆ ก็มาเยือน....เจ้าหมาป่าตามมาอีกจนได้......แม้แต่
บ้านไม้ที่คงทนกว่าก็ยังต้านไม่ไหว........สองพี่น้องจึงต้องไปหาหมูสามเป็นที่พึ่ง
สุดท้ายหมูสามยังสร้างบ้านไม่เสร็จ....บ้านอิฐอลังการที่ใช้เวลาสร้างนานมั่กมายกว่าจะ
ได้พัก ก็ได้ประเดิมด้วยการต้อนรับผู้ลี้ภัยทั้ง 2 พอดิบพอดี แบบปูนที่ฉาบยังไม่
แห้ง.............คราวนี้หมาป่าชะล่าใจ ว่าตัวเองแข็งแรง ยังไงก็ได้งาบ 3 หมูแน่นแน่ เลย
ปล่อยให้ 3 หมูฉลองบ้านใหม่กันไปก่อน.....แต่!! เหตุการณ์พลิกโผ บ้านอิฐสร้างเสร็จ
ปูนแห้งแข็งกว่า แม้แต่แรงหมาป่าก็ไม่สามารถทำลายบ้านอิฐได้ ไม่ว่าจะขย่มหลังคา
หรือตดใส่ บ้านอิฐก็ไม่หวั่น....จนหมาป่าแก่หมดแรง เผลอหลับไป หมูทั้งสามก็เลย
จับหมาป่ามาล่ามโซ่เฝ้าบ้านซะเลย คริๆ
ข้อคิดจากเรื่องนี่คือ
การเกียจคร้านไม่ได้ทำให้เราสบายได้จริง
แต่จะนำทุกข์ภัยมาสู่ตน
เด็กเลี้ยงเเกะ
ชื่อผู้เเต่ง อีสป จำนวนหน้าที่อ่าน 12
สำนักพิมพ์ ปั้ นฝัน สนพ. วันที่เริ่มอ่าน 10/9/65
เนื้อเรื่องย่อ
กาลครั้งหนึ่งมีเด็กชายตนหนึ่งเลี้ยงเเกะอยู่
เด็กชายไม่มีอะไรทำจึงคิดสนุกเด็กชายวิ่งไปในหมู่บ้าน
เเละตะโกนบอกว่าช่วยด้วยมีหมาป่าจะมากินเเกะของข้าพอ
ชาวบ้านได้ยินก็พากันวิ่งไปในที่ที่เเกะของเด็กชายเเต่พอไป
ถึงก็ไม่มีหมาป่าซักตัวเด็กชายก็ยืนตลก
ชาวบ้านก็พากันเดินกลับหมู่บ้านเด็กชายจูๆก็อยากเเกล้งอีก
พอชาวบ้านมาถึงก็เป็นเเบบรอบเเรกพอครั้งนี้หมาป่ามากิน
เเกะจริงๆเด็กชายก็วิ่งไปบอกชาวบ้านเหมือนเดิมเเเต่รอบนี้
ชาวบ้านไม่เชื่อเมื่อเด้กชายไม่มีใครช่วยหมาป่าก็กินเเกะจน
หมด
ข้อคิดที่ได้
คนที่ชอบโกหก เเม้พูดความจิงก็ไม่มีใครเชื่อ
นกเลือกนาย
ชื่อเรื่อง นกเลือกนาย จำนวนหน้าที่อ่าน 20
สำนักพิมพ์ วันที่เริ่มอ่าน 3/8/65
เรื่องย่อ
ครั้งนึงมีฝูงนกมาประชุมเลือกนายที่จะปกครองฝูกนก
นกยูงได้เสนอว่านกที่จะปกครองต้องเป็นนกที่มีคนสวย
เยื้องย่างสง่างามเยี่ยงข้าเท่านั้นที่จะได้รับตำเเหน่งราชาเเห่ง
นกมากกว่าใครๆนกตัวอื่นๆเห็นจึงพากันลงคะเเนน
เเต่ก่อนที่พวกนกจะลงคะเเนนนกกาเหล่่าก้คัดค้านว่า
พวกเจ้าคิดจะเลือกนายเพียงเพราะมีขนที่สวยสง่างั้นหรอ
เเล้วพวกเจ้าคิดว่านกเหล่านั้นจะช่วยอะไรได้บ้างเมื่อ
ฝูงได้ยินเช่นนั้นก็พากันเปลี่ยนมาเลือกนกที่ฉลาดอย่าง
นกกาเหว่า
ข้อคิดเรื่องนี้คือ
ความไร้สมองไม่อาจช่วยให้มีชีวิตปลดภัยได้
กระต่ายกับเต่า
ชื่อผูเ้เเต่ง จำนวนหน้าที่อ่าน
สำนักพิมพ์
วันที่เริ่มอ่าน
เรื่องย่อ
วันหนึ่ง กระต่ายป่าหัวเราะเต่าว่าขาสั้นและเดินเชื่องช้า
เมื่อเต่าได้ยินจึงท้าทายกลับไปว่า "ถึงเจ้าจะวิ่งเร็ว แต่ข้าคิด
ว่าถ้าเราลองมาแข่งกัน ข้าจะต้องเอาชนะเจ้าได้แน่" แต่
กระต่ายป่ากลับมั่นใจว่าเต่าไม่มีทางเอาชนะมันได้แน่นอน
มันจึงตอบตกลง โดยให้สุนัขจิ้งจอกมาเป็นผู้ตัดสิน เมื่อถึง
วันแข่งขัน กระต่ายป่ากับเต่าก็มาวิ่งแข่งกัน เต่าค่อย ๆ เดิน
อย่างเชื่องช้า แต่สม่ำเสมอและไม่หยุดพัก ส่วนกระต่ายป่า
วิ่งนำเต่าไปมาก ก็ชะล่าใจคิดว่าถ้างีบหลับสักครู่เต่าก็คงยัง
ตามไม่ทัน จนเวลาผ่านไปกระต่ายป่าสะดุ้งตื่น มองซ้าย
มองขวาไม่เห็นเต่า จึงรีบวิ่งอย่างสุดแรงแต่ก็ช้าไปเสียแล้ว
เต่าได้มาถึงเส้นชัยก่อนและกำลังนอนพักผ่อนอย่างสบาย
ข้อคิดเรื่องนี้คือ
ความพยามยามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั้น
เทวดากับคนตัดฟืน
ชื่อผู้เเต่ง จำนวนหน้าที่อ่าน
สำนักพิมพ์ วันที่เริ่มอ่าน
เรื่องย่อ
ชายตัดไม้คนหนึ่งทำขวานหลุดมือตกลงไปในบึง เขานั่งโศกเศร้าอยู่ริมฝั่ ง
ด้วยความเสียดาย เทพารักษ์สงสารจึงปรากฏกายขึ้นและช่วยงมขวานคืนให้
ครั้งแรก เทพารักษ์งมเอาขวานทองคำขึ้นมา แต่ชายตัดไม้ปฏิเสธว่า
"ขวานเล่มนี้ไม่ใช่ของข้าพเจ้าหรอก"
ครั้งที่สอง เทพารักษ์งมขวานเงินขึ้นมาให้ ชายตัดไม้ก็ปฏิเสธอีก
ครั้งสุดท้าย เทพาลักษ์นำขวานเหล็กเก่าคร่ำคร่ามาให้ ชายตัดไม้ก็ดีใจมาก
ที่ได้ขวานของตนคืน เทพารักษ์ชื่นชมความซื่อสัตว์ของเขา จึงมอบขวาน
ทองคำและขวานเงินให้ด้วย
เพื่อนของชายตัดไม้ รู้เรื่องนี้ก็นึกอิจฉาอยากได้บ้าง จึงไปยังริมบึงและ
แกล้งทำขวานหลุดมือตกน้ำ เมื่อเทพารักษ์ปรากฏกายขึ้นและงมขวาน
ทองคำขึ้นมาให้ ชายผู้นี้ก็รีบตอบว่าเป็นขวานของตน เทพารักษ์เห็นว่าเขา
เป็นคนโป้ปดโลภมาก จึงหายตัวไปทันที เพื่อนของชายตัดไม้จึงไม่ได้แม้แต่
ขวานของตนคืน
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า : ผู้มีความสัตย์ ย่อมได้รับผลดีตอบแทน
ข้อคิดของเรื่องนี้คือ
ผู้มีความซื้อสัตว์ ย่อมได้รับผมตอบเเทน
คนกับเงิน
ชื่อผู้เเต่ง จำนวนหน้าที่อ่าน
สำนักพิมพ์ วันที่เริมอ่าน
เรื่องย่อ
ชายหนุ่มคนหนึ่ง มุ่งมั่นทำงานตั้งใจเก็บเงินอย่าง
ขยันขันแข็ง จนเขามีเงินเก็บจำนวนมาก เขานำ
เงินไปสร้างบ้านหลังใหญ่โตและจ้างบริวาร
มากมายมาคอยดูแล เขาใช้ชีวิตอย่างสุขสบายบน
กองเงินกองทอง ใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือย เที่ยวเตร่ไป
วัน ๆ ในที่สุดเงินที่มีก็ค่อย ๆ หมดไป บริวารก็หนี
หาย จนต้องนำบ้านและรถไปขายเพื่อใช้หนี้ เขา
ได้แต่นึกเสียใจกับสิ่งที่ทำลงไป แต่มันก็สายไป
เสียแล้ว ชีวิตที่เหลือของเขาจึงต้องอยู่อย่างยาก
ลำบาก
ข้อคิดของเรื่องนี้คือ
ควรใช้ชีวิตอยู่บนความไม่ประมาท
สารบัญ
เมื่อโลกไม่มีเรา
จากดับสูญสู่นิรันดร์
ความจริงไม่ใช่อย่างที่เห็น
หลุดกรอบบุคลิกภาพ
เมื่อโลกไม่มีเรา
ชื่อผู้เเต่ง Alan weisman จำนวนหน้าที่อ่าน 488
สำนักพิมพ์ salt,สนพ. วันที่เริ่มอ่าน 11/11/65
เรื่องย่อ
หน้าตาของโลกทั้งใบจะเป็นอย่างไรหากเราทุกคนหายไปตลอดกาลจาก
คำถามชวนคิดสู่การค้นหาสารพัดคำตอบที่เป็นไปได้อย่างแน่นอนโดย
อาศัยมุมมองและองค์ความรู้วิทยาศาสตร์เข้ามาอธิบายเพื่อเปลี่ยนแปลงที่
จะเกิดขึ้นกับธรรมชาติและสรรพสิ่งบนโลกภายในวันที่ทุกอย่างเป็น
อิสรภาพจากการควบคุมและเคราะห์ครอบครองจากมนุษย์ภายใน 2 วันทาง
รถไฟใต้ดินมหานินิวยอร์กจะจมน้ำภายใน 1 สัปดาห์ต่อปฏิกรณ์ของโรง
ไฟฟ้านิวเคลียร์จะระเบิดภายใน 3 ปีแมลงสาบจะสูญพันธุ์ไปจากประเทศที่
มีอากาศหนาวภายใน 10 ปีบ้านจะเริ่มผูกภายใน 100 ปีเมลล์จะกลายเป็น
นักล่าภายใน 300 ปีสะพานและเขื่อนจะ สุดทางภายใน 500 ปีเมืองใหญ่จะ
กลายเป็นป่ารกยิ่งผ่านไปนานโลกยิ่งเปลี่ยนเมื่อโลกไม่มีเราจึงเป็นสารคดี
ในรูปแบบหนังสือที่ตั้งใจฉายภาพความต่างให้ผู้อ่านเห็นโลกในแบบที่ไม่
เคยคาดคิดมาก่อนเพื่อกระตุ้นทุกคนตระหนักถึงการกระทำของตัวเอง
เพราะทุกสิ่งที่มนุษย์สร้างย่อมทิ้งร่องรอยและส่งผลกระทบต่อโลกใบนี้
เสมอ
จากดับสูญสู่นิรันดร์
ชื่อผู้เเต่ง caitlin Doughty จำนวนหน้าที่อ่าน 20
สำนักพิมพ์ Bookacape วันที่เริ่มอ่าน 5/10/65
เรื่องย่อ
ทำไมวัฒนธรรมของฉันถึงขยะแขยงความตายนักทำไมเราถึง
ปฏิเสธที่จะสนทนากับเรื่องนี้เราไม่ถามครอบครัวและเพื่อนๆว่าพวก
เขาอยากให้จัดงานศพอย่างไรก่อนตายความตายคือชามสุดท้าย
ของชีวิตแต่คนจำนวนมากกลับมาทำไข่ซื่อไม่อยากพูดถึงก่อนที่ทุก
อย่างจะสายเกินไปทั้งที่คนตายไปแล้วและคนที่ยังมีชีวิตอยู่เพื่อ
จัดการร่างกายอันไร้ลมหายใจให้ไปสู่สุคติผู้เขียนซึ่งประกอบไปด้วย
สัปเหร่อหญิงจึงเปิดช่องออสโมซิสใน YouTube เพื่อรณรงค์ให้คน
เปิดใจกว้างรับรู้ความตายที่ควรจะเป็นนั่นคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้เกิด
หนังสือเล่มนี้ขึ้นชวนผู้อ่านไปสำรวจโลกแห่งความตายในวัฒนธรรม
และความเชื่อที่หลากหลายเช่นหัวกะโหลกศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวโบลิเวียน
นับถือและขอพรอาคารเก็บอธิการกรุงโตเกียวที่ทำให้ความตาย
ไฮเทคขึ้นถนัดตาและชุมชนอินโดนีเซียใช้ชีวิตร่วมกับร่างล่วงลับ
อันนับพันปีนี่คือการออกเดินทางไม่เหมือนครั้งไหนเพราะคือเส้น
ทางเปลี่ยนความเป็นมนุษย์
ความจริงไม่ใช่อย่างที่เห็น
ชื่อผู้เเต่ง carlo roveli จำนวนหน้าที่อ่าน 143
สำนักพิมพ์ sophiapublishingวันที่เริ่มอ่าน 9/9/65
เรื่องย่อ
ยิ่งมนุษย์มีความรู้มากขึ้นเท่าไหร่กับยิ่งรู้ความจริง
เกี่ยวกับตัวเองน้อยลงเท่านั้นและองค์ความรู้เดียวที่
ถอนระรากถอนโคนความจริงได้ถึงแก่นที่สุดคือ
ฟิสิกส์ควอนตัมหรือเม็ดเล็กจิ๋วที่หายวับได้ไม่อาจ
ทำนายในเวลาเดียวกันบางครั้งอยู่ได้ 2 สถานที่บาง
ครั้งก็ไม่อยู่ในที่ไหนเลยเป็นองค์ประกอบของทุกสิ่ง
ทุกอย่างที่มนุษย์รู้จักรวมถึงมนุษย์เองเป็นความจริง
ที่สุดเท่าที่ปัญญาของมนุษย์จะเข้าใจได้ในตอนนี้แล้ว
จะมีอยู่จริงก็ต่อเมื่อมีความสัมพันธ์กับสิ่งอื่นเท่านั้น
มนุษย์มักจะคิดว่าตัวเองอธิบายทุกอย่างได้หมดแล้ว
จนกระทั่งมีเม็ดเล็กจิ๋ว โผล่เข้ามาในความรู้ของมนุษย์
ความจริงของโลกย่อมไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
หลุดกรอบบุคลิกภาพ
ชื่อผู้เเต่ง benjamin hardy จำนวนหน้าที่อ่าน 212
สำนักพิมพ์ cactus publishingวันที่เริ่มอ่าน 5/7/65
เรื่องย่อ
บุคลิกภาพไม่ใช่สิ่งที่คงทนเหมือนเดิมตั้งแต่เกิดจนตายหาก
เคยทำแบบทดสอบบุคลิกภาพในช่วงเวลาหนึ่งต่อมาอาจเกิด
เหตุการณ์สำคัญในชีวิตและกลับมาทำซ้ำอีกเมื่อเวลาผ่านไป
ผลลัพธ์ย่อมมีแนวโน้มว่าไม่เหมือนเดิมซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ดีแต่
คนจำนวน ไม่น้อยรู้สึกเพลิดเพลินกับการค้นหาลักษณะ
บุคลิกภาพของตนจับแบบทดสอบต่างๆแล้วยึดผลลัพธ์ที่ได้
เป็นสาธารณะทั้งๆที่บุคลิกภาพเป็นสิ่งที่ลื่นไหลและ
เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาการรู้จักตัวเองมากขึ้นจึงเป็นสิ่งที่ถูกที่
ควรส่วนการหยุดตัวเองไว้กับคำตอบบุคลิกภาพเช่นใช้เป็นข้อ
อ้างว่าทำไม่ได้หรอกมันขัดกับบุคลิกภาพหรือนี่ไม่ใช้ตัวฉันเลย
อาจเป็นดาบสองคมที่ขัดขวางโอกาสพัฒนาทักษะอื่นๆซึ่งเป็น
ประโยชน์ต่อชีวิตและการทำงานเพราะบุคลิกภาพเกิดขึ้นทั้งจาก
ประสบการณ์ที่สะสมเอาไว้และการรู้จักปรับแต่งด้วยตัวเองผ่าน
การเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ
บันเทิงคดี
6 เรื่อง
สารคดี
4 เรื่อง