The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แบบความสามารถการอ่านออกเขียนได้อ่านคล่องเขียนคล่อง
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา เขต 3

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by pritzeepritsana, 2019-07-05 23:25:43

คู่มือแบบวัดความสามารถการอ่านออกเขียนได้อ่านคล่องเขียนคล่อง

แบบความสามารถการอ่านออกเขียนได้อ่านคล่องเขียนคล่อง
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา เขต 3

Keywords: อ่านคล่อง เขียนคล่อง

เอกสารลาดับท่ี ๘/๒๕๖๑

แบบวัดความสามารถด้านการอา่ นการเขยี นภาษาไทย
อา่ นออกเขียนได้ อ่านคลอ่ งเขียนคลอ่ ง ก

คำนำ

กระทรวงศึกษาธิการมีนโยบายด้านการเรียนรู้และสานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน ประกาศ
ให้ปี ๒๕๕๘ เป็นปี “ปลอดนักเรียนอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้” สานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษามัธยมศึกษาเขต ๓ ได้
พัฒนาคุณภาพเรียนการสอนภาษาไทยในฐานะภาษาชาติโดยมุ่งเน้นให้นักเรีย นได้รู้และเข้าใจการใช้ภาษาไทยให้
ถูกตอ้ ง เปน็ เครอ่ื งมือในการพัฒนาตนเองเพ่ือรากฐานสาคญั ในการเรียนรู้ สาระอื่น ๆ อย่างต่อเนื่อง จึงกาหนดให้มกี าร
วัดความสามารถด้านการอ่านการเขียนภาษาไทยสาหรับนักเรียนปกติ (ไม่รวมนักเรียนบกพร่องทางการเรียนรู้)
เพ่ือตรวจสอบและคัดกรองนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี ๑-๓ ท่ีอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ อ่านไม่คล่องเขียนไม่คล่อง
และนาผลการวัดความสามารถด้านการอ่านการเขียนภาษาไทยมาพัฒนาศักยภาพของผู้เรียน เพ่ือให้เป็นไปตาม
แผนปฏิบัติการประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 ของสานักงานคณะกรรมการข้ันพื้นฐาน และสอดคล้องกับ
ยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับท่ี 12 นโยบายกระทรวงศึกษาธิการ
และแผนแมบ่ ทสง่ เสรมิ วฒั นธรรมการอา่ นสู่สังคมแหง่ การเรียนรู้ของไทย พ.ศ. 2560-2564

และผลสถิติจากแบบสารวจการอ่านออกเขียนได้ อ่านคล่องเขียนคล่อง ของนักเรียนระดับช้ัน
มัธยมศึกษาตอนต้นในสังกัดสานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 3 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561
พบว่า นักเรยี นมีปญั หาการอ่านออกเขยี นได้ อา่ นคลอ่ งเขียนคล่อง จานวน 1,253 คน และ ระดบั ชนั้ มัธยมศึกษา
ตอนปลาย จานวน 52 คน พร้อมทั้งผลการการนิเทศ ติดตามการดาเนินการคัดกรองการอ่านของนักเรียน พบว่า
สถานศึกษามีเคร่ืองมือแบบคัดกรองการอ่านออกเขียนได้ อ่านคล่องเขียนคล่องของนักเรียนไม่เป็นมาตรฐาน
เดียวกันจึงทาให้ข้อมูลสารสนเทศของแต่ละโรงเรียนไม่เป็นไปในแนวเดียวกัน สานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษา
มัธยมศกึ ษา เขต 3 จึงได้จดั ทาแบบวัดความสามารถด้านการอา่ นการเขยี นภาษาไทย ของนกั เรียนในสงั กัดขึน้ เพอื่
เป็นเครื่องมอื ในการพฒั นาผเู้ รียนให้เปน็ ไปตามทหี่ ลักสตู รกาหนดต่อไป

ขอขอบคุณคณะผู้เชี่ยวชาญและผู้ทรงคุณวุฒิพร้อมท้ังคณะกรรมการทุกท่านที่มีส่วนร่วมในการ
จัดทาแบบวัดความสามารถด้านการอ่านการเขียนภาษาไทยเล่มนี้ และหน่วยงานในสังกัดที่สนับสนุนบุคลากรใน
การสร้างเครื่องมือจนสาเร็จลุล่วงด้วยดี สานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษามัธยมศึกษา เขต ๓ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า
แบบวัดความสามารถด้านการอ่านการเขียนภาษาไทย จะเป็นประโยชน์แก่โรงเรียนในการนาไปใช้เป็นเคร่ืองมือ
ตรวจสอบและคดั กรองผเู้ รียนเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาใหด้ ีย่ิงขนึ้

ดร.ธรี ะวัฒน์ วรรณนชุ
ผอู้ านวยสานักงานเขตพ้นื ทกี่ ารศกึ ษามธั ยมศึกษา เขต ๓

สานกั งานเขตพนื้ ที่การศกึ ษามธั ยมศึกษา เขต 3

แบบวัดความสามารถด้านการอ่านการเขยี นภาษาไทย
อา่ นออกเขียนได้ อ่านคลอ่ งเขียนคล่อง ข

สำรบญั หน้ำ

ชัน้ มัธยมศึกษาปที ี่ 1 2

- แบบวัดความสามารถด้านการอา่ น 1๗
- แบบวัดความสามารถด้านการอ่านคล่อง ๒๑
- แบบวัดความสามารถด้านการเขียน
- แบบวดั ความสามารถด้านการเขยี นคลอ่ ง ๓๒
3๙
ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 2 ๔๔
๕๒
- แบบวัดความสามารถดา้ นการอา่ น
- แบบวัดความสามารถด้านการอ่านคล่อง 5๘
- แบบวดั ความสามารถดา้ นการเขียน 6๕
- แบบวดั ความสามารถด้านการเขียนคล่อง ๗๐
7๙
ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีที่ 3

- แบบวัดความสามารถด้านการอ่าน
- แบบวดั ความสามารถดา้ นการอา่ นคล่อง
- แบบวัดความสามารถด้านการเขยี น
- แบบวดั ความสามารถด้านการเขยี นคล่อง

สานักงานเขตพื้นทีก่ ารศึกษามธั ยมศึกษา เขต 3

แบบวัดความสามารถดา้ นการอ่านการเขยี นภาษาไทย
อา่ นออกเขียนได้ อ่านคล่องเขยี นคล่อง ค

รายละเอยี ดการใช้แบบวัดความสามารถดา้ นการอา่ นการเขียนภาษาไทย
อ่านออกเขยี นได้ อา่ นคล่องเขยี นคล่อง

ชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ 1 หน้า 2
หนา้ ๓
1. แบบวดั ความสามารถดา้ นการอา่ น (มี 2 กจิ กรรม) หนา้ ๕
1.1 กจิ กรรมท่ี 1 อ่านออกเสียงขอ้ ความตามอักขรวธิ ี หน้า ๗
1.2 กจิ กรรมที่ 2 อ่านออกเสยี งข้อความตามอักขรวิธี หนา้ ๘
1.3 เกณฑ์การประเมินความสามารถดา้ นการอา่ น ชัน้ มัธยมศึกษาปที ่ี 1 หน้า ๙
หนา้ ๑๒
2. แบบวดั ความสามารถด้านการอา่ นคล่อง (มี ๓ กิจกรรม) หนา้ ๑๔
2.1 กิจกรรมที่ ๑ เขยี นคาอ่านของคา หน้า ๑๖
2.2 กจิ กรรมท่ี ๒ ตอบคาถามจากการอ่านบทความ หนา้ 1๗
2.3 กิจกรรมที่ ๓ อ่านออกเสียงข้อความตามอกั ขรวิธี หน้า ๑๘
2.4 เกณฑก์ ารประเมินความสามารถด้านการอ่านคล่อง ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 1 หน้า ๒๐
หนา้ ๒๑
3. แบบวัดความสามารถดา้ นการเขยี น (มี ๑ กิจกรรม) หนา้ ๒๒
3.1 กิจกรรมที่ ๑ วงกลมลอ้ มรอบคาทเ่ี ขียนผดิ และแกไ้ ขคาทีถ่ ูกตอ้ ง หนา้ ๒๕
3.2 เกณฑก์ ารประเมนิ ความสามารถด้านการเขยี น ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ ๑ หนา้ ๒๘
หนา้ ๓๐
4.แบบวัดความสามารถด้านการเขยี นคลอ่ ง (มี ๓ กจิ กรรม)
4.1 กจิ กรรมที่ ๑ เขียนคาศัพทจ์ ากคาอา่ น หนา้ ๓๒
4.2 กิจกรรมท่ี ๒ เลอื กคาเติมลงในประโยค หน้า ๓๓
4.3 กจิ กรรมท่ี ๓ เลือกคาเติมลงในประโยค หนา้ ๓๖
4.4 เกณฑ์การประเมนิ ความสามารถดา้ นการเขียนคล่อง ช้นั มัธยมศึกษาปที ่ี ๑ หนา้ ๓๘
หนา้ 3๙
ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ 2 หน้า ๔๐
หนา้ ๔๓
1. แบบวดั ความสามารถดา้ นการอ่าน (มี ๒ กจิ กรรม) หนา้ ๔๔
1.1 กิจกรรมที่ ๑ เขียนคาอ่านจากคาที่กาหนดให้ หน้า ๔๕
1.2 กจิ กรรมท่ี ๒ เขยี นคาอ่านจากคาที่กาหนดให้ หนา้ ๔๙
1.3 เกณฑ์การประเมนิ วดั ความสามารถด้านการอ่าน ช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี ๒ หนา้ ๕๑

2. แบบวดั ความสามารถดา้ นการอา่ นคลอ่ ง (มี ๑ กิจกรรม)
2.1 กิจกรรมที่ ๑ อ่านออกเสียงจากบทอา่ น
2.3 เกณฑก์ ารประเมินความสามารถดา้ นการอา่ นคลอ่ ง ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี ๒

3. แบบวดั ความสามารถดา้ นการเขยี น (มี ๒ กจิ กรรม)
3.1 กิจกรรมท่ี ๑ เขยี นคาตามคาบอก
3.2 กจิ กรรมที่ ๒ ขดี เส้นใต้ คาท่ีเขยี นผิด เขยี นแก้ไขคาที่เขียนผดิ
3.3 เกณฑ์การประเมินความสามารถดา้ นการเขียน ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๒

สานักงานเขตพ้นื ท่กี ารศกึ ษามัธยมศกึ ษา เขต 3

แบบวัดความสามารถดา้ นการอา่ นการเขียนภาษาไทย
อา่ นออกเขียนได้ อ่านคลอ่ งเขยี นคลอ่ ง ง

4. แบบวัดความสามารถดา้ นการเขียนคล่อง (มี ๑ กจิ กรรม) หนา้ ๕๓

4.1 กจิ กรรมที่ ๑ เขียนเร่อื งจากภาพ หน้า ๕๓

๔.๒ เกณฑ์การประเมนิ ความสามารถด้านการเขยี นคล่อง ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ ๒ หน้า ๕๕

ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3

1. แบบวัดความสามารถด้านการอา่ น (มี ๑ กิจกรรม) หนา้ 5๘

๑.๑ กิจกรรมท่ี ๑ เขียนคาอ่านจากคาศัพท์ หนา้ ๖๐

๑.๒ เกณฑก์ ารประเมินความสามารถด้านการอา่ น ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๓ หนา้ ๖๔

2. แบบวดั ความสามารถดา้ นการอา่ นคลอ่ ง (มี ๑ กิจกรรม) หนา้ 6๕

๒.๑ กิจกรรมท่ี ๑ อา่ นออกเสียง เรอ่ื งน้องหนู หนา้ ๖๖

๒.๒ เกณฑ์การประเมนิ ความสามารถดา้ นการอา่ นคลอ่ ง ชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี ๓ หนา้ ๖๘

3. แบบวัดความสามารถด้านการเขยี น (มี ๒ กิจกรรม) หน้า ๗๐

๓.๑ กิจกรรมที่ ๑ วงกลมคาทีส่ ะกดผดิ และแกไ้ ขให้ถูกต้อง หน้า ๗๑

๓.๒ กิจกรรมที่ ๒ เขยี นคาเติมลงในชอ่ งว่าง หน้า ๗๔

๓.๓ เกณฑก์ ารประเมินความสามารถด้านการเขยี น ช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ ๓ หน้า ๗๘

4. แบบวัดความสามารถด้านการเขียนคล่อง (มี ๑ กจิ กรรม) หนา้ 7๙

๔.๑ กจิ กรรมที่ ๑ ตอบคาถามจากการอา่ นเร่ือง ยางลบกบั ดินสอ การจดจาและการลบลืม หนา้ ๘๑

๔.๒ เกณฑก์ ารประเมนิ ความสามารถดา้ นการเขียนคล่อง ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๓ หนา้ ๘๔

5. ภาคผนวก หนา้ ๘๕

๕.๑ แบบสารวจขอ้ มลู นกั เรียนอ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ อ่านไม่คล่อง เขยี นไม่คล่อง (แบบที่ ๑)

๕.๒ แบบสรุปสารวจขอ้ มูลนักเรียนอ่านไม่ออก เขยี นไม่ได้ อ่านไม่คล่อง เขียนไม่คล่อง (แบบท่ี ๒)

สานักงานเขตพน้ื ทกี่ ารศกึ ษามัธยมศกึ ษา เขต 3

แบบวัดความสามารถด้านการอา่ นการเขียนภาษาไทย
อา่ นออกเขียนได้ อา่ นคล่องเขยี นคล่อง ๑

๑ช้ันมธั ยมศึกษาปที ี่

แบบวัดความสามารถดา้ นการอา่ น
แบบวัดความสามารถด้านการอา่ นคล่อง
แบบวดั ความสามารถดา้ นการเขียน
แบบวดั ความสามารถด้านการเขยี นคล่อง

สานักงานเขตพน้ื ทีก่ ารศกึ ษามธั ยมศกึ ษา เขต 3

แบบวัดความสามารถดา้ นการอา่ นการเขยี นภาษาไทย
อา่ นออกเขียนได้ อา่ นคลอ่ งเขียนคล่อง ๒

แบบวัดความสามารถด้านการอ่าน
ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่ ๑

สานักงานเขตพืน้ ทกี่ ารศกึ ษามัธยมศกึ ษา เขต 3

แบบวดั ความสามารถดา้ นการอ่านการเขยี นภาษาไทย
อา่ นออกเขียนได้ อ่านคลอ่ งเขยี นคลอ่ ง ๓

แบบวดั ความสามารถด้านการอ่าน
ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี ๑

กิจกรรมที่ 1 คาชี้แจง ให้นกั เรียนอา่ นออกเสียงข้อความที่กาหนด ให้ถกู ต้องตามอกั ขรวธิ ี

ภาษาไทยเป็นภาษาประจาชาติที่มีความสาคัญต่อคนไทยเป็นอย่างยิ่ง
ดังพระราชดารัสในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ท่ีว่า
“ประเทศไทยนั้นมีภาษาของเราเอง ซ่ึงต้องหวงแหน เราโชคดีท่ีมีภาษาของตนเอง
แตโ่ บราณกาล จงึ สมควรอย่างยิง่ ท่จี ะรักษาไว้”

ภาษาไทยมีความสาคัญต่อการดารงชีวิตของคนไทยในฐานะท่ีเป็น
วัฒนธรรมประจาชาติและยังเป็นเอกลักษณ์ที่สาคัญ เป็นเคร่ืองมือในการ
เสรมิ สร้างเอกภาพของชาติ ทาให้เกดิ ความรสู้ ึกเปน็ อนั หนึ่งอันเดียวกัน ตลอดจน
เป็นเคร่ืองมือท่ีใช้พัฒนาคนในชาติ เพราะการศึกษาเล่าเรียน การแลกเปลี่ยน
ความคิดเห็น และการถา่ ยทอดความคิด ศลิ ปะ วทิ ยาการ ลว้ นต้องใชภ้ าษาทั้งสนิ้

กระทรวงศึกษาธกิ าร

สานกั งานเขตพ้นื ทกี่ ารศกึ ษามธั ยมศกึ ษา เขต 3

แบบวัดความสามารถด้านการอ่านการเขียนภาษาไทย
อา่ นออกเขียนได้ อ่านคล่องเขียนคล่อง ๔

แบบบนั ทกึ ผลการทดสอบ (สาหรับครู)

การประเมนิ กิจกรรมที่ 1 ช่ือ- สกุล นกั เรยี น...................................................เลขท.่ี .........ช้ันมัธยมศกึ ษาท่ี 1
คำช้ีแจง ให้ครบู ันทึกผลทดสอบการอ่านออกเสยี งของนักเรียน โดยทาเคร่ืองหมาย เมื่อนกั เรียนอ่านถูก
หรอื  เม่ือนักเรียนอ่านผิด ลงในช่องบนคา ทไ่ี ม่มีแถบสีดำ นับคะแนนที่ได้ และสรุปผลตามเกณฑ์ประเมิน

ภาษา ไทย เป็น ภาษา ประจา ชาติ ที่ มี ความ สาคญั ต่อ คน ไทย เปน็
อย่าง ย่งิ ดงั พระ ราช ดา รสั ใน พระ บาท สม เดจ็ พระ เจ้า
อยู่ หัว ภมู พิ ล อดลุ ย เดช ท่ี วา่ ประ เทศ ไทย นน้ั มี ภาษา ของ
เรา เอง ซ่งึ ต้อง หวง แหน เรา โชค ดี มี ภาษา ของ ตน เอง
แต่ โบราณ กาล จึง สมควร อย่าง ย่ิง ท่ี จะ รกั ษา ไว้ ภาษา ไทย มี
ความ สาคญั ตอ่ การ ดารง ชีวิต ของ คน ไทย ใน ฐานะ ท่ี เป็น วฒั นธรรม
ประจา ชาติ และ ยงั เปน็ เอกลักษณ์ ที่ สาคญั เป็น เครอ่ื ง มอื ใน การ เสริม
สรา้ ง เอก ภาพ ของ ชาติ ทา ให้ เกดิ ความ รู้ สกึ เปน็ อนั หนึง่
อัน เดยี ว กัน ตลอด จน เป็น เคร่อื ง มอื ที่ ใช้ พฒั นา คน ใน ชาติ
เพราะ การ ศึกษา เลา่ เรียน การ แลก เปลย่ี น ความ คิด เห็น และ การ ถ่าย
ทอด ความ คิด ศลิ ปะ วิทยาการ ลว้ น ต้อง ใช้ ภาษา ท้ัง สิ้น

สานักงานเขตพืน้ ท่ีการศกึ ษามธั ยมศกึ ษา เขต 3

แบบวดั ความสามารถด้านการอา่ นการเขียนภาษาไทย
อา่ นออกเขียนได้ อ่านคล่องเขยี นคล่อง ๕

แบบวัดความสามารถด้านการอ่าน
ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๑

กจิ กรรมที่ 2 คำชี้แจง ใหน้ กั เรียนอ่านออกเสยี งข้อความที่กาหนด ให้ถูกต้องตามอกั ขรวธิ ี

วัยรุ่นเป็นวัยท่ีมีปัญหาสุขภาพจิตมากที่สุดวัยหน่ึง ซ่ึงแสดงออกเป็นปัญหา
พฤติกรรมได้หลายประการ เช่น ดือ้ ไมเ่ ชอื่ ฟัง ละเมิดกฎเกณฑก์ ติกาต่าง ๆ มแี ฟนและมี
เพศสัมพันธ์ ใช้ยาเสพติด ทาผิดกฎหมาย ปัญหาพฤติกรรมบางอย่างมักเกิดขึ้นมานาน
จนทาให้การแก้ไขมักทาได้ยาก การป้องกันปัญหาจึงมีความจาเป็นและสาคัญมากกว่า
การแก้ไขปัญหาท่ีเกิดขึ้นแล้ว การป้องกันดังกล่าวควรเร่ิมตั้งแต่การส่งเสริมสุขภาพจิต
ตั้งแต่เด็ก เดก็ ทีม่ ีพัฒนาการของบคุ ลิกภาพดี จะมภี มู ิต้านทานโรคทางจติ เวชตา่ ง ๆ และ
ช่วยป้องกันปัญหาสุขภาพจิตในวัยรุ่นได้อย่างมากเช่นกัน พ่อแม่ ครูอาจารย์และผู้ท่ี
ทางานเกี่ยวข้องกับเด็กทั้งหลาย จึงควรให้ความสาคัญกับการส่งเสริมสุขภาพจิต ตั้งแต่
เด็กจนถึงวัยรุ่นเป็นอย่างยิ่ง นอกจากนี้ สังคมและส่ิงแวดล้อมก็ควรมีส่วนร่วมในการ
สง่ เสรมิ พัฒนาการเด็กและวัยรนุ่ เช่นเดียวกัน

ทีม่ า โครงการพัฒนาคุณภาพการเรยี นการสอนภาษาไทย
เพอ่ื เด็กไทยอ่านออกเขียนได้ ๑๐๐ % (สพป.รอ.เขต 2)

สานักงานเขตพนื้ ทก่ี ารศกึ ษามัธยมศกึ ษา เขต 3

แบบวดั ความสามารถดา้ นการอ่านการเขยี นภาษาไทย
อ่านออกเขียนได้ อา่ นคล่องเขียนคล่อง ๖

แบบบันทึกผลการทดสอบ (สาหรับคร)ู

การประเมินกิจกรรมท่ี 2 ชื่อ- สกุล นกั เรยี น...................................................เลขท.ี่ .........ช้ันมธั ยมศกึ ษาที่ 1
คำชีแ้ จง ให้ครบู ันทึกผลทดสอบการอ่านออกเสยี งของนักเรียน โดยทาเครื่องหมาย เมื่อนักเรยี นอ่านถูก
หรือ  เมื่อนักเรียนอ่านผิด ลงในช่องบนคา ท่ีไม่มแี ถบสีดำ นับคะแนนที่ได้ และสรุปผลตามเกณฑ์ประเมิน

วัย ร่นุ เป็น วัย ที่ มี ปญั หา สขุ ภาพ จิต มาก ท่ี สดุ ซึ่ง แสดง

ออก เปน็ ปัญหา พฤตกิ รรม ได้ หลาย ประการ เช่น ดื้อ ไม่ เชือ่ ฟัง ละเมดิ กฎ

เกณฑ์ กตกิ า ตา่ งๆ มี แฟน และ มี เพศ สัมพนั ธ์ ใช้ ยา เสพตดิ ทา ผดิ

กฎหมาย ปญั หา พฤตกิ รรม บาง อย่าง มัก เกดิ ข้ึน มา นาน จน ทา ให้ การ

แก้ ไข มกั ทา ได้ ยาก การ ปอ้ ง กนั ปัญหา จึง มี ความ จา

เปน็ และ สาคัญ มาก กว่า การ แก้ไข ปัญหา ท่ี เกดิ ขึ้น แล้ว การ

ปอ้ ง กัน ดงั กล่าว ควร เร่ิม ต้งั แต่ การ ส่งเสริม สขุ ภาพ จิต ตั้ง แต่

เดก็ เดก็ ที่ มี พัฒนาการ ของ บคุ ลกิ ภาพ ดี จะ มี ภูมิ ตา้ น ทาน

โรค ทาง จติ เวช ต่างๆ และ ชว่ ย ป้อง กนั ปัญหา สุขภาพ จิต ใน วยั รนุ่

ได้ อย่าง มาก เชน่ กัน พ่อ แม่ ครู อาจารย์ และ ผู้ ท่ี ทา งาน

เก่ียว ขอ้ ง กบั เด็ก ทง้ั หลาย จึง ควร ให้ ความ สาคญั กับ การ ส่งเสรมิ

สุขภาพ จิต ตัง้ แต่ เด็ก จน ถึง วยั รุน่ เปน็ อย่าง ยง่ิ นอก จาก นี้

สงั คม และ ส่ิง แวดลอ้ ม ก็ ควร มี สว่ น รว่ ม ใน การ สง่ เสริม พฒั นาการ เดก็

และ วัยรุ่น เชน่ เดียว กัน

สานกั งานเขตพื้นทีก่ ารศึกษามธั ยมศึกษา เขต 3

แบบวัดความสามารถด้านการอา่ นการเขยี นภาษาไทย
อ่านออกเขียนได้ อา่ นคลอ่ งเขียนคลอ่ ง ๗

เกณฑก์ ารประเมินความสามารถดา้ นการอา่ น
ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 1

รำยกำรกำรประเมิน ๕ ๔ ระดบั คะแนน ๒ ๑

๑. อา่ นถกู ต้อง อ่านออกเสียง อา่ นออกเสยี ง ๓ อ่านออกเสียง อา่ นออกเสยี ง
ผดิ ๑ - ๓ คา ผดิ ๗ - ๙ คา ผิด ๑๐ คา
ตามอกั ขรวธิ ี ถกู ต้องทุกคา อา่ นออกเสยี ง ขึ้นไป
ผิด ๔ - ๖ คา อา่ นเพิ่มคา
หรอื ข้ามคา
๒. การอ่านเพิม่ คา คะแนนเต็ม ๓ คะแนน อ่านเพิ่มคา อา่ นเพ่ิมคา ๓ แห่ง ข้ึนไป
หรอื ข้ามคา* หรอื ข้ามคา หรอื ข้ามคา อา่ นเว้น
๑ แหง่ ๒ แห่ง วรรคตอน
๓. การเวน้ วรรคตอน อา่ นเว้น อ่านเว้น ไม่ถูกต้อง ๔
วรรคตอน อ่านเว้น อ่านเวน้ แห่งขึน้ ไป
ในการอ่าน วรรคตอน ไมถ่ ูกตอ้ ง ๑ วรรคตอน วรรคตอน
แหง่ ไม่ถูกต้อง ๒ ไม่ถูกต้อง ๓ อา่ นตดิ ขัด
ได้ถูกต้อง แหง่ แหง่ ๗ แหง่ ข้นึ ไป
อ่านตดิ ขัด
เหมาะสม ๑ - ๒ แห่ง ชา้ มาก

ทกุ แห่ง เร็ว

๔. อ่านคล่อง อา่ นไมต่ ิดขดั อา่ นตดิ ขัด อา่ นตดิ ขัด
๓ - ๔ แหง่ ๕ - ๖ แหง่
ตลอดบทอา่ น
ปานกลาง ชา้
๕. การใช้เวลาในการอา่ น เร็วมาก

สานักงานเขตพื้นท่กี ารศึกษามธั ยมศึกษา เขต 3

แบบวัดความสามารถด้านการอ่านการเขยี นภาษาไทย
อา่ นออกเขียนได้ อา่ นคล่องเขยี นคลอ่ ง ๘

แบบวดั ความสามารถด้านการอ่านคล่อง
ชนั้ มัธยมศึกษาปที ี่ ๑

สานักงานเขตพน้ื ที่การศกึ ษามธั ยมศึกษา เขต 3

แบบวัดความสามารถด้านการอ่านการเขียนภาษาไทย
อา่ นออกเขียนได้ อ่านคล่องเขยี นคล่อง ๙

แบบวัดความสามารถด้านการอา่ นคลอ่ ง
ช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ ๑

กิจกรรมที่ ๑ ให้นักเรยี นเขียนคาอ่านของคาทกี่ าหนดให้ ดังนี้

กระจริ ิด เกยี รติยศ ขะมักเขม้น โฆษณำ

กระ-จ-ิ หริด ……………………..……… ……………………..……… ……………………..………
. . .

ทรุดโทรม บรรพชำ ปฏิกริ ิยำ พรำหมณ์

……………………..…… ……………………..…… ……………………..…… ……………………..……….
…. …. ….

ศรัทธำ สวรรคต สำส์น

……………………..……… ……………………..……… ……………………..……
. . ….

สานักงานเขตพนื้ ทีก่ ารศึกษามธั ยมศกึ ษา เขต 3

แบบวัดความสามารถด้านการอ่านการเขียนภาษาไทย
อ่านออกเขียนได้ อ่านคล่องเขยี นคลอ่ ง ๑๐

เฉลยแบบวดั ความสามารถด้านการอา่ นคลอ่ ง
ช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ ๑

กจิ กรรมท่ี ๑ ใหน้ กั เรียนเขยี นคาอา่ นของคาท่กี าหนดให้ ดังน้ี

กระจิรดิ เกียรติยศ ขะมักเขม้น โฆษณำ

กระ-จ-ิ หริด เกียด-ติ-ยด ขะ-มกั -ขะ-เมน่ โคด-สะ-นำ

ทรุดโทรม บรรพชำ ปฏกิ ริ ยิ ำ พรำหมณ์

ซดุ -โซม บนั -พะ-ชำ ปะ-ต-ิ ก-ิ ริ-ยำ พรำม

ศรัทธำ สวรรคต สำส์น

สัด-ทำ สะ-หวนั -คด สำน

สานักงานเขตพืน้ ทีก่ ารศึกษามัธยมศกึ ษา เขต 3

แบบวัดความสามารถดา้ นการอา่ นการเขียนภาษาไทย
อ่านออกเขียนได้ อ่านคล่องเขยี นคลอ่ ง ๑๑

เกณฑก์ ารประเมนิ ความสามารถด้านการอา่ นคล่อง
ช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ ๑

เป็นการประเมินการอ่านสะกดคา โดยให้เขียนคาอ่านจากคาทก่ี าหนดให้ จานวน ๑๐ คา
นักเรียนเขยี นคาอ่านได้ถูกต้องไมน่ ้อยกว่า ๕ คา จงึ ผ่านเกณฑ์การประเมิน

เกณฑ์กำรประเมิน เขยี นคาอา่ นถูกต้อง ๘-๑๐ คา
อา่ นได้ระดบั ดี เขียนคาอา่ นถูกต้อง ๕-๗ คา
อ่านได้ระดบั พอใช้ เขยี นคาอา่ นถกู ตอ้ งน้อยกว่า 5 คา
อ่านไม่คล่อง

สานกั งานเขตพ้นื ทกี่ ารศึกษามธั ยมศกึ ษา เขต 3

แบบวดั ความสามารถด้านการอา่ นการเขียนภาษาไทย
อา่ นออกเขียนได้ อา่ นคลอ่ งเขยี นคล่อง ๑๒

กจิ กรรมท่ี ๒ ให้นกั เรียนอา่ นบทความดังต่อไปนี้ แล้วตอบคาถามใหถ้ ูกต้อง

กนั และกัน

คาว่า “กัน” ในภาษาไทยมีความหมายและมีหน้าที่ของคาแตกต่างกัน เช่น (๑) เป็น
คาสันธาน ใช้เป็นภาษาปาก หมายถึง คาใช้แทนตัวผู้พูดเพศชายพูดกับผู้เสมอกันหรือผู้น้อย
ในทานองกันเอง ใช้เป็นสรรพนามบุรุษท่ี ๑ (๒) เป็นคาคุณศัพท์ หมายถึง คาประกอบท้ายกิริยา
ของผู้กระทาต้ังแต่ ๒ คนข้ึนไป แสดงการกระทาร่วมกัน อย่างเดียวกันหรือต่อกัน เช่น คิดกัน
หารือกัน (๓) เป็นคากริยา หมายถึง กีดขวางไว้ไม่ให้เข้ามาหรือออกไป หรือไม่ให้เกิดมีขึ้น เช่น
กันฝน กนั สนมิ กันภัย แยกไว้ เช่น กันเงินไว้ ๕๐๐ บาทเพ่อื จา่ ยในส่ิงที่จาเป็น กนั เอาไวเ้ ป็นพยาน
(๔) เป็นคานาม หมายถึง ช่ือช้างศึกพวกหน่ึง มีหน้าที่ป้องกันและล้อมทัพ หรือใช้เรียกเรือซ่ึง
กาหนดให้เขา้ กระบวนเสดจ็ ทางชลมารค ทาหนา้ ที่ถวายอารกั ขา เรียกว่า “เรือกนั ”

จนิ ดารตั น์ โพธน์ิ อก

๑. “เพ่ือนที่ดยี ่อมชว่ ยเหลือเกอื้ กลู กัน” คาทข่ี ีดเสน้ ใต้ทาหนา้ ที่ใดในประโยค

ก. คานาม ข. คาสันธาน ค. คาบพุ บท ง. คาคุณศัพท์

๒. ผเู้ ขียนมเี จตนาใดในการเขยี น

ก. เสนอแนะ ข. โน้มนา้ วใจ ค. ให้ความรู้ ง. แสดงความคดิ เหน็

๓. คาว่า กัน ในขอ้ ใด ทาหน้าทเี่ ปน็ คากริยา

ก. เจา้ หน้าที่กันแฟนคลบั ที่จะขอจับมือศลิ ปนิ ข. เพื่อนมนุษยจ์ ะต้องชว่ ยเหลอื ซ่งึ กันและกนั

ค. รักกนั ไว้เถิด เราเกิดร่วมแดนไทย ง. เราตอ้ งชว่ ยกนั รกั ษาความสะอาดห้องเรยี น

๔. ขอ้ ใดคือสาระสาคัญของเร่อื งกันและกนั

ก. คาวา่ กนั สามารถเป็นไดท้ ้ังคากริยาและคานาม

ข. กัน เป็นคากรยิ า หมายถงึ กดี ขวางไม่ให้เขา้ มาหรอื ออกไป

ค. คาวา่ กนั มีความหมายและหนา้ ทแ่ี ตกต่างกันตามบรบิ ทที่ใช้

ง. ควรช่วยกันอนรุ กั ษ์ภาษาไทยเพื่อให้สบื ทอดถงึ รนุ่ ลกู รนุ่ หลาน

สานกั งานเขตพ้นื ทกี่ ารศกึ ษามัธยมศึกษา เขต 3

แบบวัดความสามารถดา้ นการอ่านการเขยี นภาษาไทย
อา่ นออกเขียนได้ อา่ นคล่องเขยี นคลอ่ ง ๑๓

เฉลยกิจกรรมท่ี ๒ ให้นกั เรยี นอา่ นบทความดงั ตอ่ ไปนี้ แล้วตอบคาถามใหถ้ กู ต้อง

กันและกัน

คาว่า “กัน” ในภาษาไทยมีความหมายและมีหน้าท่ีของคาแตกต่างกัน เช่น (๑) เป็น
คาสันธาน ใช้เป็นภาษาปาก หมายถึง คาใช้แทนตัวผู้พูดเพศชายพูดกับผู้เสมอกันหรือผู้น้อย
ในทานองกันเอง ใช้เป็นสรรพนามบุรุษที่ ๑ (๒) เป็นคาคุณศัพท์ หมายถึง คาประกอบท้ายกิริยา
ของผู้กระทาต้ังแต่ ๒ คนข้ึนไป แสดงการกระทาร่วมกัน อย่างเดียวกันหรือต่อกัน เช่น คิดกัน
หารือกัน (๓) เป็นคากริยา หมายถึง กีดขวางไว้ไม่ให้เข้ามาหรือออกไป หรือไม่ให้เกิดมีข้ึน เช่น
กันฝน กนั สนมิ กนั ภยั แยกไว้ เชน่ กันเงนิ ไว้ ๕๐๐ บาทเพ่ือจ่ายในสิ่งทจ่ี าเป็น กนั เอาไว้เปน็ พยาน
(๔) เป็นคานาม หมายถึง ช่ือช้างศึกพวกหนึ่ง มีหน้าท่ีป้องกันและล้อมทัพ หรือใช้เรียกเรือ
ซ่งึ กาหนดใหเ้ ข้ากระบวนเสด็จทางชลมารค ทาหนา้ ท่ถี วายอารกั ขา เรียกว่า “เรือกนั ”

จินดารัตน์ โพธิ์นอก

๑. “เพือ่ นทด่ี ยี อ่ มช่วยเหลือเก้ือกลู กัน” คาที่ขีดเสน้ ใต้ทาหน้าทใี่ ดในประโยค

ก. คานาม ข. คาสันธาน ค. คาบพุ บท ง. คำคุณศัพท์

๒. ผู้เขียนมีเจตนาใดในการเขยี น

ก. เสนอแนะ ข. โนม้ นา้ วใจ ค. ให้ควำมรู้ ง. แสดงความคิดเห็น

๓. คาว่า กนั ในข้อใด ทาหนา้ ที่เป็นคากรยิ า

ก. เจำ้ หน้ำท่ีกนั แฟนคลบั ท่ีจะขอจับมอื ศิลปนิ ข. เพ่ือนมนุษย์จะตอ้ งชว่ ยเหลอื ซึง่ กนั และกนั

ค. รกั กันไว้เถดิ เราเกดิ รว่ มแดนไทย ง. เราต้องชว่ ยกนั รักษาความสะอาดหอ้ งเรียน

๔. ขอ้ ใดคือสาระสาคญั ของเรื่องกันและกนั

ก. คาวา่ กนั สามารถเป็นได้ท้งั คากริยาและคานาม

ข. กัน เป็นคากรยิ า หมายถงึ กีดขวางไม่ให้เขา้ มาหรอื ออกไป

ค. คำว่ำกนั มีควำมหมำยและหน้ำทแ่ี ตกตำ่ งกนั ตำมบรบิ ทท่ใี ช้

ง. ควรชว่ ยกนั อนุรักษภ์ าษาไทยเพ่อื ใหส้ ืบทอดถึงรนุ่ ลูกรุ่นหลาน

สานักงานเขตพืน้ ทีก่ ารศกึ ษามธั ยมศกึ ษา เขต 3

แบบวดั ความสามารถด้านการอ่านการเขียนภาษาไทย
อ่านออกเขียนได้ อ่านคลอ่ งเขียนคล่อง ๑๔

กจิ กรรมท่ี ๓ ใหน้ ักเรยี นอ่านออกเสียงขอ้ ความทีก่ าหนดใหถ้ ูกต้องตามอกั ขรวิธี ภายในเวลา ๑ นาที

“การท่ีบุคคลจะพัฒนาได้ก็ด้วยปัจจัยประการเดียวคือการศึกษา
การศึกษาน้ัน แบ่งเป็นสองส่วน คือการศึกษาด้านวิชาการส่วนหนึ่ง
กับการอบรมบ่มนิสัย ให้เป็นผู้มีจิตใจใฝ่ดี ใฝ่เจริญ มีปรกติละอายชั่ว
กลัวบาปส่วนหน่ึง การพฒั นาบุคคลจะต้องพฒั นาใหค้ รบถ้วนทั้งสองส่วน
เพื่อให้บุคคลได้มีความรู้ไว้ใช้ประกอบการ และมีความดีไว้เกื้อหนุนการ
ประพฤติปฏิบัติทุกอย่างให้เป็นไปในทางท่ีถูกที่ควร และอานวยผลเป็น
ประโยชน์ทีพ่ ึงประสงค์”

พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หัวภมู พิ ลอดลุ ยเดช
ในพธิ พี ระราชทานปรญิ ญาบัตรของมหาวทิ ยาลยั เชยี งใหม่
วันที่ ๒๔ มกราคม ๒๕๔๐

สานักงานเขตพ้นื ทก่ี ารศึกษามัธยมศกึ ษา เขต 3

แบบวดั ความสามารถด้านการอา่ นการเขยี นภาษาไทย
อ่านออกเขียนได้ อา่ นคลอ่ งเขียนคลอ่ ง ๑๕

แบบบนั ทกึ ผลการทดสอบ (สาหรับคร)ู

กำรประเมนิ กจิ กรรมท่ี ๓ ชื่อ- สกลุ นกั เรียน...................................................เลขท.ี่ .........ชั้นมธั ยมศกึ ษาท่ี 1
คำชีแ้ จง ให้ครบู ันทึกผลทดสอบการอ่านออกเสยี งของนักเรียน โดยทาเคร่ืองหมาย เม่ือนักเรียนอ่านถูก
หรือ  เมื่อนักเรียนอ่านผิด ลงในช่องบนคา ทีไ่ ม่มีแถบสีดำ นบั คะแนนท่ีได้ และสรุปผลตามเกณฑ์ประเมิน

การ ที่ บคุ คล จะ พัฒนา ได้ ก็ ด้วย ปจั จยั ประการ เดียว คือ การ ศกึ ษา
การ ศกึ ษา น้ัน แบง่ เปน็ สอง ส่วน คือ การ ศกึ ษา ดา้ น วชิ า การ สว่ น
หนึ่ง กับ การ อบรม บม่ นสิ ยั ให้ เป็น ผู้ มี จติ ใจ ใฝ่ ดี ใฝ่
เจริญ มี ปรกติ ละอาย ชัว่ กลัว บาป สว่ น หนง่ึ การ พัฒนา บุคคล จะ ตอ้ ง
พฒั นา ให้ ครบ ถว้ น ทัง้ สอง สว่ น เพ่ือ ให้ บคุ คล ได้ มี ความ รู้
ไว้ ใช้ ประกอบ การ และ มี ความ ดี เกื้อหนุน ไว้ การ ประพฤติ ปฏบิ ตั ิ ทกุ
อย่าง ให้ เป็น ไป ใน ทาง ที่ ถูก ที่ ควร และ อานวย ผล เปน็
ประโยชน์ ท่ี พึงประสงค์

สานักงานเขตพนื้ ท่กี ารศึกษามัธยมศึกษา เขต 3

แบบวัดความสามารถดา้ นการอา่ นการเขียนภาษาไทย
อา่ นออกเขียนได้ อา่ นคล่องเขยี นคล่อง ๑๖

เกณฑ์กำรประเมินควำมสำมำรถด้ำนกำรอำ่ นคลอ่ ง ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ่ี 1

รำยกำรกำรประเมิน ๕ ๔ ระดับคะแนน ๑

๑. อ่านถูกต้อง อา่ นออกเสยี ง อา่ นออกเสยี ง ๓๒ อา่ นออกเสยี ง
ผดิ ๑ - ๓ คา ผิด ๑๐ คา
ตามอักขรวิธี ถกู ต้องทุกคา อ่านออกเสียง อา่ นออกเสียง ข้นึ ไป
ผิด ๔ - ๖ คา ผิด ๗ - ๙ คา อา่ นเพิ่มคา
หรือข้ามคา
๒. การอ่านเพ่ิมคา อ่านเพิ่มคา อ่านเพิ่มคา ๓ แห่ง ข้ึนไป
อ่านเวน้
หรอื ข้ามคา* คะแนนเต็ม ๓ คะแนน หรือข้ามคา หรอื ขา้ มคา วรรคตอน
ไมถ่ ูกต้อง ๔
๑ แหง่ ๒ แห่ง แหง่ ขึ้นไป

๓. การเวน้ วรรคตอน อ่านเว้น อ่านเวน้ อ่านเว้น อ่านเว้น อ่านติดขัด
๗ แห่ง ข้นึ ไป
ในการอ่าน วรรคตอน วรรคตอน วรรคตอน วรรคตอน
ช้ามาก
ได้ถูกต้อง ไมถ่ ูกต้อง ๑ แหง่ ไม่ถกู ตอ้ ง ๒ แห่ง ไมถ่ ูกตอ้ ง ๓

เหมาะสม แห่ง

ทุกแห่ง

๔. อ่านคลอ่ ง อ่านไมต่ ิดขดั อา่ นติดขัด อา่ นตดิ ขัด อ่านตดิ ขัด

ตลอดบทอา่ น ๑ - ๒ แห่ง ๓ - ๔ แหง่ ๕ - ๖ แห่ง

๕. การใช้เวลาในการอา่ น เร็วมาก เรว็ ปานกลาง ช้า

สานกั งานเขตพ้นื ทีก่ ารศกึ ษามธั ยมศกึ ษา เขต 3

แบบวัดความสามารถด้านการอ่านการเขียนภาษาไทย
อา่ นออกเขียนได้ อ่านคลอ่ งเขยี นคลอ่ ง ๑๗

แบบวัดความสามารถด้านการเขยี น
ชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ ๑

สานักงานเขตพืน้ ทก่ี ารศกึ ษามธั ยมศึกษา เขต 3

แบบวดั ความสามารถด้านการอ่านการเขียนภาษาไทย
อ่านออกเขียนได้ อา่ นคลอ่ งเขียนคล่อง ๑๘

แบบวัดควำมสำมำรถด้ำนกำรเขยี น
ช้ันมธั ยมศึกษำปที ี่ ๑

กิจกรรมท่ี ๑ คำชี้แจง ให้นกั เรียนวงกลมล้อมรอบคาที่เขยี นผดิ และแกไ้ ขใหถ้ ูกต้อง

๑. กระทะ กระทิ กระทง ............................

๒. ขยบั ขยาย ขยกุ ขยิก ขะมักขะเมน้ ............................

๓. เพ่มิ พูล พลัดพราก พรรคพวก ............................

๔. บรรทุก บรรจง บรรลือ ............................

๕. เปรอะเปอื้ น เปรมปรี โปรยปราย ............................

๖. สมาธิ สญู เสยี สรา้ งสรร ............................

๗. มาตราฐาน มารยาท มหรสพ ............................

๘. ลาใย อฒั จนั ทร์ ไกลเ่ กลี่ย ............................

๙. หว่ งไย หลง่ั ไหล เหล็กใน ............................

๑๐. รโหฐาน รสชาด ระเบียง ............................

สานักงานเขตพื้นทกี่ ารศึกษามัธยมศึกษา เขต 3

แบบวัดความสามารถด้านการอ่านการเขยี นภาษาไทย
อา่ นออกเขียนได้ อา่ นคลอ่ งเขียนคล่อง ๑๙

เฉลยแบบวดั ควำมสำมำรถด้ำนกำรเขยี น
ชัน้ มธั ยมศึกษำปีท่ี ๑

กจิ กรรมท่ี ๑ คำช้ีแจง ให้นกั เรยี นวงกลมลอ้ มรอบคาทเ่ี ขยี นผิดและแกไ้ ขให้ถูกตอ้ ง

๑. กระทะ กระทิ กระทง กะทิ

๒. ขยับขยาย ขยุกขยกิ ขะมักขะเม้น ขะมักเขมน้

๓. เพิ่มพลู พลดั พราก พรรคพวก เพิม่ พนู

๔. บรรทกุ บรรจง บรรลือ บนั ลอื

๕. เปรอะเปือ้ น เปรมปรี โปรยปราย เปรมปรดี ิ์

๖. สมาธิ สูญเสีย สร้างสรร สร้างสรรค์

๗. มาตราฐาน มารยาท มหรสพ มาตรฐาน

๘. ลาใย อัฒจนั ทร์ ไกลเ่ กลยี่ ลาไย

๙. หว่ งไย หลง่ั ไหล เหล็กใน ห่วงใย

๑๐. รโหฐาน รสชาด ระเบยี ง รสชาติ

สานักงานเขตพื้นทก่ี ารศึกษามธั ยมศึกษา เขต 3

แบบวดั ความสามารถด้านการอา่ นการเขยี นภาษาไทย
อ่านออกเขียนได้ อ่านคล่องเขยี นคลอ่ ง ๒๐

เกณฑก์ ำรประเมนิ ควำมสำมำรถดำ้ นกำรเขียน
ชั้นมธั ยมศกึ ษำปที ่ี ๑

เปน็ การประเมนิ การเขยี นจานวนคาที่ให้นกั เรยี นเขยี น ๑๐ คา นักเรยี นเขียนถูกต้อง
ไมน่ ้อยกวา่ ๕ คา จึงผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ

เกณฑ์กำรประเมนิ เขียนถกู ตอ้ ง ๘-๑๐ คา
เขยี นไดร้ ะดับดี เขยี นถกู ตอ้ ง ๕-๗ คา
เขยี นได้ระดับปานกลาง เขียนถกู ตอ้ งไมน่ อ้ ยกวา่ คา
เขยี นไมไ่ ด้ ๕

สานักงานเขตพ้ืนทกี่ ารศกึ ษามธั ยมศกึ ษา เขต 3

แบบวดั ความสามารถดา้ นการอ่านการเขยี นภาษาไทย
อา่ นออกเขียนได้ อา่ นคล่องเขียนคล่อง ๒๑

แบบวัดความสามารถดา้ นการเขยี นคลอ่ ง
ชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ ๑

สานักงานเขตพื้นทกี่ ารศกึ ษามธั ยมศกึ ษา เขต 3

แบบวดั ความสามารถดา้ นการอ่านการเขยี นภาษาไทย
อ่านออกเขียนได้ อา่ นคลอ่ งเขยี นคล่อง ๒๒

แบบวัดควำมสำมำรถด้ำนกำรเขยี นคล่อง
ชั้นมัธยมศกึ ษำปที ่ี ๑

กจิ กรรมท่ี ๑ คำชีแ้ จง ใหน้ ักเรียนเขียนคาศพั ท์จากคาอา่ นตอ่ ไปนี้ใหถ้ ูกต้อง

กา-ละ-เท-สะ ขะ-หยะ โคด-สะ-นา
ขะ-แหยง ๒. …………………………..
กาลเทศะ
๑. ………………………..

โจด-จนั ซุด-โซม ทริด-สะ-ดี
๓. ………………………….. ๔. ………………………….. ๕. …………………………..

บนิ -ทะ-บาด ไปร-สะ-น-ี พาบ-พะ-ยน
๖. ………………………….. ยา-กอน ๘. …………………………..

๗. …………………………..

รด-ยน อบุ -ปะ-กอน
๙. ………………………….. ๑๐. …………………………..

สานักงานเขตพ้ืนท่กี ารศกึ ษามธั ยมศึกษา เขต 3

แบบวัดความสามารถดา้ นการอา่ นการเขยี นภาษาไทย
อ่านออกเขียนได้ อา่ นคลอ่ งเขียนคล่อง ๒๓

เฉลยแบบวัดควำมสำมำรถด้ำนกำรเขียนคลอ่ ง
ชั้นมัธยมศึกษำปที ่ี ๑

กิจกรรมที่ ๑ คำชี้แจง ใหน้ กั เรยี นเขยี นคาศพั ทจ์ ากคาอา่ นต่อไปนใ้ี หถ้ ูกตอ้ ง

กา-ละ-เท-สะ ขะ-หยะ โคด-สะ-นา
ขะ-แหยง ๒. โฆษณา .
กาลเทศะ ๑. ขยะแขยง

โจด-จัน ซุด-โซม ทริด-สะ-ดี
๓. โจษจนั ๔. ทรุดโทรม
๕. ทฤษฎี .

บิน-ทะ-บาด ไปร-สะ-นี พาบ-พะ-ยน
๖. บณิ ฑบาต ๘. ภาพยนตร์ .
ยา-กอน
๗. ไปรษณียากร

รด-ยน อบุ -ปะ-กอน
๙. รถยนต์ ๑๐. อปุ กรณ์

สานักงานเขตพน้ื ที่การศึกษามัธยมศกึ ษา เขต 3

แบบวัดความสามารถดา้ นการอ่านการเขียนภาษาไทย
อา่ นออกเขียนได้ อา่ นคล่องเขียนคล่อง ๒๔

เกณฑ์กำรประเมนิ ควำมสำมำรถดำ้ นกำรเขยี นคลอ่ ง
ชนั้ มัธยมศกึ ษำปีท่ี ๑

เปน็ การประเมนิ การเขียนจากคาอ่านจานวนคาที่ให้นกั เรยี นเขยี น ๑๐ คา นกั เรียนเขียน
ถูกตอ้ งไมน่ ้อยกว่า ๕ คา จึงผ่านเกณฑก์ ารประเมิน

เกณฑ์กำรประเมิน เขียนถูกตอ้ ง ๘-๑๐ คา
เขยี นได้ระดบั ดี เขยี นถกู ตอ้ ง ๕-๗ คา
เขยี นได้ระดบั ปานกลาง เขยี นถูกตอ้ งไมน่ อ้ ยกว่า 5 คา
เขยี นได้

สานักงานเขตพื้นทกี่ ารศึกษามัธยมศกึ ษา เขต 3

แบบวัดความสามารถดา้ นการอ่านการเขียนภาษาไทย
อา่ นออกเขียนได้ อา่ นคล่องเขยี นคลอ่ ง ๒๕

แบบวดั ควำมสำมำรถด้ำนกำรเขยี นคลอ่ ง
ชั้นมธั ยมศึกษำปที ี่ ๑

กจิ กรรมที่ ๒ คำชแี้ จง ใหน้ กั เรียนเลอื กคาทอี่ ยใู่ นวงเล็บเติมลงในประโยคใหถ้ ูกต้อง

๑. พายพุ ดั แรงทาให้ ทะลาย มะพรา้ วรว่ งลงมาทับกระทอ่ ม ทาให้พงั ทลาย (ทะลำย ทลำย)
๒. ภูมิไปร่วมงานเปดิ ร้าน............เจา้ ของรา้ นนมิ นต์พระสงฆ์ มาโยงดา้ ยสาย..............(ศลิ ป์ สญิ จน)์
๓. เสอ้ื ผ้าราคายอ่ ม............จนคนรุ่น.................สามารถซอื้ ได้ (เยำว์ เยำ)
๔. พมิ ขายอาหาร................ด้วยความซอ่ื ..................ไมโ่ กงตาชัง่ (สตั ย์ สตั ว์)
๕. คุณครู............ขออนญุ าตเข้าห้อง.................. (คะ ค่ะ)
๖. ....................ลอ่ งเรอื สาเภาไปทาการ.......................ทป่ี ระเทศใกลเ้ คยี ง (วำณิช วำณิชย์)
๗. กระเปา๋ เสอื่ ...........มีเอก ...........สาคัญวางอยู่ที.่ ..........อาญา (สำน สำร ศำล)
๘. นอ้ งมผี วิ ................งาม เพราะเกดิ ในเดอื นกมุ ภา............. (พนั ธ์ พรรณ)
๙. อารที า...................งาน โดยไม่สนใจ...................เวลาและเหตุ.................บ้านเมอื งทผ่ี ่านไป (กำล กำร กำรณ์)
10. เพราะอานาจคณุ ...............ตาลอารมณ์ไมแ่ จม่ ..............จนผลกั .............พยาบาลทคี่ อยดูแล (ไส ใส ไสย)

สานักงานเขตพน้ื ท่ีการศึกษามธั ยมศกึ ษา เขต 3

แบบวดั ความสามารถดา้ นการอา่ นการเขยี นภาษาไทย
อา่ นออกเขียนได้ อ่านคลอ่ งเขยี นคล่อง ๒๖

เฉลยแบบวัดควำมสำมำรถด้ำนกำรเขียนคลอ่ ง
ชั้นมัธยมศึกษำปีที่ ๑

กิจกรรมที่ ๒ คำชี้แจง ใหน้ ักเรยี นเลอื กคาทอี่ ย่ใู นวงเลบ็ เตมิ ลงในประโยคให้ถูกต้อง

๑. พายุพดั แรงทาให้ ทะลาย มะพร้าวรว่ งลงมาทับกระทอ่ มทาใหพ้ ัง ทลาย (ทะลำย ทลำย)
๒. ภมู ิไปร่วมงานเปิดร้าน ศลิ ป์ เหน็ เจ้าของร้านกาลงั เตรียมโยงดา้ ยสาย สญิ จน์ เพ่ือเตรียมพิธี (ศลิ ป์ สิญจน์)
๓. เสอื้ ผา้ ราคาย่อม เยา จนคนรนุ่ เยาว์ สามารถซ้ือได้ (เยำว์ เยำ)
๔. พิมพ์ขายอาหาร สัตว์ ดว้ ยความซือ่ สตั ย์ ไม่โกงตาชัง่ (สตั ย์ สตั ว)์
๕. คณุ ครู คะ ขออนุญาตเข้าหอ้ ง คะ่ (คะ คะ่ )
๖. วาณิช ลอ่ งเรือสาเภาไปทาการ วาณชิ ย์ ท่ีประเทศใกลเ้ คียง (วำณิช วำณิชย)์
๗. กระเปา๋ เสือ่ สาน มีเอก สาร สาคัญวางอยู่ท่ี ศาล อาญา (สำน สำร ศำล)
๘. น้องมีผวิ พรรณ งาม เพราะเกดิ ในเดอื นกมุ ภา พันธ์ (พนั ธ์ พรรณ)
๙. อารที า การ งาน โดยไม่สนใจ กาล เวลาและเหตุ การณ์ บ้านเมืองท่ีผา่ นไป (กำล กำร กำรณ)์
10. เพราะอานาจคุณ ไสย ตาลอารมณ์ไมแ่ จ่ม ใส จนผลัก ไส พยาบาลทค่ี อยดูแล (ไส ใส ไสย)

สานกั งานเขตพน้ื ท่ีการศกึ ษามธั ยมศกึ ษา เขต 3

แบบวัดความสามารถดา้ นการอ่านการเขยี นภาษาไทย
อา่ นออกเขียนได้ อา่ นคลอ่ งเขียนคลอ่ ง ๒๗

เกณฑก์ ำรประเมนิ ควำมสำมำรถดำ้ นกำรเขยี นคล่อง
ชน้ั มัธยมศกึ ษำปที ่ี ๑

เปน็ การประเมนิ การเขยี นคาโดยดูจากประโยคทถ่ี ูกต้องจานวน ๑๐ คา นกั เรียนเขียน
ถกู ตอ้ งไมน่ อ้ ยกวา่ ๕ คา จึงผ่านเกณฑ์การประเมิน

เกณฑก์ ำรประเมนิ เขียนถกู ต้อง ๘-๑๐ คา
เขียนไดร้ ะดบั ดี เขยี นถูกตอ้ ง ๕-๗ คา
เขียนไดร้ ะดบั พอใช้ เขียนถูกต้องไม่นอ้ ยกว่า 5 คา
เขียนได้

สานักงานเขตพ้ืนทก่ี ารศกึ ษามธั ยมศึกษา เขต 3

แบบวัดความสามารถดา้ นการอา่ นการเขียนภาษาไทย
อ่านออกเขียนได้ อา่ นคลอ่ งเขยี นคล่อง ๒๘

แบบวดั ควำมสำมำรถดำ้ นกำรเขียนคลอ่ ง
ชั้นมธั ยมศกึ ษำปที ่ี ๑

กิจกรรมที่ ๓ คำชีแ้ จง ให้นักเรียนเลือกคาทอ่ี ยใู่ นวงเลบ็ เติมลงในประโยคให้ถกู ตอ้ ง

๑. คาถามในวชิ าคณติ ศาสตร์ โจทย์ (โจทย์ โจทก์)

๒. ทาส่งิ ทีช่ ารุดใหค้ ืนดี ……………………….. (สอ้ ม ซอ่ ม)

๓. ฝง่ั น้าสาหรบั จอดเรือ ……………………….. (ถำ้ ท่ำ)

๔. นกชนดิ หนงึ่ ……………………….. (อินทรยี ์ อินทรี)

๕. ระบบวชิ าความรู้ ……………………….. (ศำสตร์ สำสน)์

๖. บอกเร่อื งราวให้ผอู้ ่นื ฟงั ……………………….. (เหลำ้ เลำ่ )

๗. สาดหรอื เทให้กระจายไป ……………………….. (รำด ลำด)

๘. ชื่อแมลงชนดิ หนง่ึ ……………………….. (พงึ่ ผ้ึง)

๙. พืชทเ่ี กดิ ตามพนื้ ดนิ ชนดิ หนง่ึ ……………………….. (หญ้ำ ย่ำ)

๑๐. ช้ันทท่ี าลดหล่ันกนั เป็นลาดบั ……………………….. (คั่น ขน้ั )

สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามธั ยมศกึ ษา เขต 3

แบบวดั ความสามารถดา้ นการอา่ นการเขียนภาษาไทย
อา่ นออกเขียนได้ อ่านคล่องเขยี นคลอ่ ง ๒๙

เฉลยแบบวัดควำมสำมำรถด้ำนกำรเขียนคล่อง
ชั้นมธั ยมศึกษำปที ่ี ๑

กจิ กรรมท่ี ๓ คำชีแ้ จง ให้นักเรยี นเลอื กคาทอี่ ย่ใู นวงเล็บเติมลงในประโยคให้ถูกต้อง

๑. คาถามในวิชาคณิตศาสตร์ โจทย์ โจทย์ โจทก์

๒. ทาส่งิ ที่ชารุดใหค้ ืนดี ซ่อม ส้อม ซ่อม

๓. ฝง่ั นา้ สาหรบั จอดเรือ ท่า ถ้ำ ทำ่

๔. นกชนิดหน่ึง อนิ ทรี อินทรยี ์ อินทรี

๕. ระบบวิชาความรู้ ศาสตร์ ศำสตร์ สำสน์

๖. บอกเรื่องราวให้ผูอ้ ื่นฟัง เล่า เหลำ้ เล่ำ

๗. สาดหรือเทใหก้ ระจายไป ราด รำด ลำด

๘. ชอ่ื แมลงชนิดหน่ึง ผ้งึ พึง่ ผึ้ง

๙. พืชที่เกดิ ตามพน้ื ดนิ พวกหนึ่ง หญ้า หญ้ำ ยำ่

๑๐. ช้ันทท่ี าลดหล่ันกนั เป็นลาดบั ขัน้ คนั่ ขัน้

สานกั งานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 3

แบบวัดความสามารถดา้ นการอา่ นการเขียนภาษาไทย
อา่ นออกเขียนได้ อ่านคลอ่ งเขียนคลอ่ ง ๓๐

เกณฑ์กำรประเมินควำมสำมำรถด้ำนกำรเขียนคล่อง
ชนั้ มัธยมศกึ ษำปที ี่ ๑

เป็นการประเมนิ การเขียนคาโดยดจู ากประโยคทถ่ี ูกตอ้ งจานวน ๑๐ คา นกั เรียนทาถูกต้อง
ไม่น้อยกวา่ ๕ คา จึงผา่ นเกณฑ์การประเมิน

เกณฑก์ ำรประเมนิ เขยี นถกู ตอ้ ง ๘-๑๐ คา
เขียนไดร้ ะดบั ดี เขียนถูกตอ้ ง ๕-๗ คา
เขียนไดร้ ะดับพอใช้ เขียนถกู ตอ้ งไมน่ ้อยกวา่ 5 คา
เขียนได้

สานักงานเขตพน้ื ท่กี ารศกึ ษามัธยมศึกษา เขต 3

แบบวัดความสามารถด้านการอ่านการเขยี นภาษาไทย
อ่านออกเขียนได้ อา่ นคล่องเขียนคล่อง ๓๑

๒ช้ันมธั ยมศึกษาปีที่

แบบวัดความสามารถด้านการอ่าน
แบบวัดความสามารถด้านการอ่านคล่อง
แบบวดั ความสามารถดา้ นการเขียน
แบบวดั ความสามารถดา้ นการเขยี นคล่อง

สานักงานเขตพ้นื ทก่ี ารศึกษามัธยมศึกษา เขต 3

แบบวัดความสามารถด้านการอ่านการเขยี นภาษาไทย
อ่านออกเขียนได้ อ่านคล่องเขยี นคล่อง ๓๒

แบบวัดความสามารถดา้ นการอ่าน
ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ่ี ๒

สานักงานเขตพ้นื ท่ีการศกึ ษามัธยมศึกษา เขต 3

แบบวัดความสามารถดา้ นการอ่านการเขียนภาษาไทย
อ่านออกเขียนได้ อ่านคล่องเขียนคลอ่ ง ๓๓

แบบวัดความสามารถการอา่ น
ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ ๒

กจิ กรรมท่ี ๑ คำชแ้ี จง ให้นกั เรียนเขยี นคาอา่ นที่ถกู ต้องจากคาที่กาหนดใหต้ ่อไปน้ี
ตัวอย่าง พุทธชำด อ่ำนวำ่ พดุ -ทะ-ชำด

คำ คำอ่ำน
๑. เจตคติ
๒. มรรยาท
๓. พระอรยิ สงฆ์
๔. พิพธิ ภณั ฑ์
๕. ภาพยนตร์
๖. มลพิษ
๗. รปู ธรรม
๘. วกิ ฤตกิ ารณ์
๙. วิรยิ อตุ สาหะ
๑๐. โลกธรรม
๑๑. สถานการณ์
๑๒. สกั การบชู า
๑๓. สัทพจน์
๑๔. สนั นิษฐาน
๑๕. พิษฐาน

สานักงานเขตพื้นท่ีการศกึ ษามัธยมศึกษา เขต 3

แบบวัดความสามารถด้านการอ่านการเขียนภาษาไทย
อา่ นออกเขียนได้ อา่ นคลอ่ งเขยี นคล่อง ๓๔

เฉลยแบบวัดความสามารถดา้ นการอ่าน
ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี ๒

กจิ กรรมท่ี ๑ คำชแี้ จง ให้นักเรยี นเขียนคาอา่ นทีถ่ ูกตอ้ งจากคาที่กาหนดให้ต่อไปน้ี
ตัวอยา่ ง พทุ ธชำด อ่ำนว่ำ พุด-ทะ-ชำด

คำ คำอำ่ น

๑. เจตคติ เจ-ตะ-คะ-ติ
๒. มรรยาท มนั -ยาด
๓. พระอรยิ สงฆ์ พระ-อะ-ร-ิ ยะ-สง
๔. พิพธิ ภณั ฑ์ พิ-พิด-ทะ-พนั
๕. ภาพยนตร์ พาบ-พะ-ยน
๖. มลพิษ มน-ละ-พดิ
๗. รูปธรรม รูบ-ปะ-ทา
๘. วกิ ฤตกิ ารณ์ วิ-กรดิ -ตะ-กาน, ว-ิ กรดิ -ต-ิ กาน
๙. วริ ิยอุตสาหะ ว-ิ ริ-ยะ-อุด-สา-หะ
๑๐. โลกธรรม โลก-กะ-ทา
๑๑. สถานการณ์ สะ-ถาน-นะ-กาน
๑๒. สักการบูชา สกั -กา-ระ-บ-ู ชา
๑๓. สทั พจน์ สัด-ทะ-พด
๑๔. สันนษิ ฐาน สนั -นดิ -ถาน
๑๕. พษิ ฐาน พดิ -สะ-ถาน

สานกั งานเขตพ้นื ท่ีการศึกษามธั ยมศกึ ษา เขต 3

แบบวดั ความสามารถด้านการอ่านการเขยี นภาษาไทย
อา่ นออกเขียนได้ อ่านคล่องเขียนคล่อง ๓๕

เกณฑ์กำรประเมนิ ควำมสำมำรถด้ำนกำรอ่ำน
ชนั้ มธั ยมศึกษำปีที่ ๒

เปน็ การประเมนิ การเขยี นจากคาอ่านจานวนคาที่ให้นักเรียนเขยี น ๑๕ คา
นกั เรียนเขียนถกู ต้องไม่น้อยกวา่ ๗ คา จึงผ่านเกณฑ์การประเมนิ

เกณฑก์ ำรประเมนิ เขยี นถูกต้อง ๑๑-๑๕ คา
เขยี นคาอา่ นไดร้ ะดบั ดี เขยี นถูกตอ้ ง ๗-๑๐ คา
เขยี นคาอ่านได้ระดับปานกลาง เขียนถกู ต้องไมน่ ้อยกว่า 7 คา
เขยี นคาอา่ นได้

สานักงานเขตพน้ื ที่การศกึ ษามัธยมศึกษา เขต 3

แบบวัดความสามารถด้านการอา่ นการเขยี นภาษาไทย
อา่ นออกเขียนได้ อา่ นคลอ่ งเขยี นคลอ่ ง ๓๖

แบบวดั ความสามารถการอา่ น
ชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ ๒

กจิ กรรมท่ี ๒ คำชี้แจง ให้นกั เรยี นเขยี นคาอา่ นทถี่ กู ต้องจากคาที่กาหนดให้ตอ่ ไปน้ี
ตัวอย่าง พระรำโชวำท อ่ำนว่ำ พระ-รำ-โช-วำด

คำ คำอ่ำน
๑. กุฏิ
๒. ตาลปตั ร
๓. พระขนง
๔. พระฉายาสาทสิ ลักษณ์
๕. พระชนมพรรษา

๖. พระชิวหา
๗. พระปรมาภไิ ธย
๘. พระเพลา

๙. พระมหากรณุ าธคิ ณุ
๑๐. พระราชบัณฑรู
๑๑. พระราชหตั ถเลขา
๑๒. พระราชเสาวนยี ์
๑๓. พระราชปู ถมั ภ์
๑๔. พระสณุ ิสา
๑๕. มหาบพติ ร

สานกั งานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศกึ ษา เขต 3

แบบวัดความสามารถด้านการอ่านการเขียนภาษาไทย
อ่านออกเขียนได้ อ่านคล่องเขียนคล่อง ๓๗

เฉลยแบบวัดความสามารถด้านการอ่าน
ช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่ ๒

กจิ กรรมที่ ๒ คำชแี้ จง ใหน้ ักเรยี นเขียนคาอ่านที่ถกู ต้องจากคาที่กาหนดให้ตอ่ ไปนี้
ตวั อย่าง พระรำโชวำท อำ่ นวำ่ พระ-รำ-โช-วำด

คำ คำอ่ำน
๑. กุฏิ กดุ -ติ
๒. ตาลปัตร ตา-ละ-ปัด
๓. พระขนง พระ-ขะ-หนง
๔. พระฉายาสาทิสลักษณ์ พระ-ฉา-ยา-สา-ทิด-สะ-ลกั
๕. พระชนมพรรษา พรฺ ะ-ชน-มะ-พัน-สา

๖. พระชิวหา พระ-ชวิ -หา
๗. พระปรมาภไิ ธย พระ-ปะ-ระ-มา-พิ-ไท
๘. พระเพลา
พระ-เพลา
๙. พระมหากรณุ าธคิ ณุ
๑๐. พระราชบณั ฑรู พฺระ-มะ-หา-กะ-รุ-นา-ทิ-คนุ
๑๑. พระราชหตั ถเลขา พระ-ราด-ชะ-บนั -ทูน

๑๒. พระราชเสาวนยี ์ พระ-ราด-ชะ-หัด-ถะ-เล-ขา
๑๓. พระราชูปถมั ภ์
๑๔. พระสณุ ิสา พระ-ราด-ชะ-เสา-วะ-นี
๑๕. มหาบพิตร พระ-รา-ช-ู ปะ-ถา
พระ-ส-ุ นิ-สา
มะ-หา-บอ-พิด

สานกั งานเขตพ้นื ทีก่ ารศึกษามธั ยมศึกษา เขต 3

แบบวัดความสามารถด้านการอ่านการเขียนภาษาไทย
อา่ นออกเขียนได้ อ่านคลอ่ งเขียนคล่อง ๓๘

เกณฑก์ ำรประเมนิ วัดควำมสำมำรถดำ้ นกำรอำ่ น
ชนั้ มธั ยมศึกษำปีที่ ๒

เป็นการประเมนิ การเขียนจากคาอ่าน จานวนคาทใี่ ห้นักเรียนเขยี น ๑๕ คา
นักเรยี นเขยี นถูกตอ้ งไมน่ ้อยกว่า ๗ คา จงึ ผา่ นเกณฑ์การประเมิน

เกณฑก์ ำรประเมนิ เขียนถกู ต้อง ๑๑-๑๕ คา
เขยี นคาอา่ นไดร้ ะดบั ดี เขยี นถูกต้อง ๗-๑๐ คา
เขยี นคาอา่ นได้ระดับปานกลาง เขียนถูกตอ้ งไม่น้อยกว่า 7 คา
เขียนคาอ่านได้

สานักงานเขตพ้ืนทกี่ ารศกึ ษามัธยมศึกษา เขต 3

แบบวดั ความสามารถด้านการอ่านการเขยี นภาษาไทย
อ่านออกเขียนได้ อา่ นคลอ่ งเขยี นคล่อง ๓๙

แบบวดั ความสามารถด้านการอา่ นคลอ่ ง
ชนั้ มัธยมศึกษาปที ี่ ๒

สานักงานเขตพน้ื ที่การศกึ ษามธั ยมศกึ ษา เขต 3

แบบวดั ความสามารถด้านการอ่านการเขยี นภาษาไทย
อา่ นออกเขียนได้ อ่านคลอ่ งเขียนคล่อง ๔๐

แบบวัดความสามารถด้านการอ่านคล่อง
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒

กจิ กรรมท่ี ๑ คำชี้แจง ใหน้ ักเรียนอ่านออกเสยี งบทอ่านทก่ี าหนดใหต้ อ่ ไปนีใ้ หถ้ ูกต้อง
ตามอักขรวธิ ี และการเว้นวรรคตอน

บทอ่ำน

ในปัจจุบันกล่าวกันว่า เรากาลังอยู่ในยุคโลกาภิวัตน์ หรือเรียกอีกอย่างว่า
โลกไร้พรมแดน แต่จะเรียกอย่างไรก็ตามเถิด การอ่านก็เป็นกระบวนการสาคัญ
อย่างยิ่งในการพัฒนาคนในทศวรรษน้ี เพราะโลกของการศึกษา มิได้จากัด
อยูภ่ ายในห้องเรยี น ท่ีมลี ักษณะรปู ทรงสเ่ี หลย่ี มเเคบ ๆ เทา่ นั้น เเต่ข้อมูลข่าวสาร
สารสนเทศต่าง ๆ ได้ย่อโลกให้เล็กลงเท่าท่ีเราอยากรู้ได้รวดเร็ว ในชั่วลัดน้ิวมือ
เดียวอย่างที่คนโบราณกล่าวไว้ จะมีสื่อให้อ่านอย่างหลากหลายให้เลือก ทั้งสื่อ
ส่ิงพิมพ์ท่ีเราคุ้นเคย ไปจนสื่ออิเล็กทรอนิกส์ท่ีเรียกว่า "อินเทอร์เน็ต" เพราะ
การต่อสู้ รุกรานกันของมนุษย์ยุคใหม่ จะใช้ข้อมูล สติ ปัญญา และคุณภาพของคน
ในชาติ มากกว่าการใช้กาลังอาวุธเข้าประหัตประหารกัน หากคนในชาติด้อย
คุณภาพ ขาดการเรียนรู้ จะถูกครอบงาทางปัญญาได้ง่าย ๆ จากส่ือต่าง ๆ จาก
ชาตทิ พ่ี ฒั นาเเลว้

หากคนไม่อ่านหนังสือ ก็ยากท่ีจะพัฒนาสติปัญญาและความรู้ได้
โดยเฉพาะประเทศที่กาลังพัฒนา จะต้องทุ่มเทให้คนมีนิสัยรักการอ่าน มีทักษะ
ในการอ่าน และพัฒนาวิธีการอ่านให้เป็นนักอ่านที่ดี นักอ่านท่ีดีจะมีภูมิคุ้มกัน
การครอบงาทางปัญญาได้เป็นอย่างดี รู้เท่าทันคน และสามารถแก้ปัญหาได้ดี

ชาตกิ ้าวไกลด้วยคนไทยรกั การอ่าน : มานพ ศรเี ทยี ม

สานกั งานเขตพืน้ ทกี่ ารศกึ ษามธั ยมศกึ ษา เขต 3

แบบวัดความสามารถดา้ นการอ่านการเขยี นภาษาไทย
อ่านออกเขียนได้ อา่ นคล่องเขียนคล่อง ๔๑

เฉลยแบบวัดความสามารถด้านการอา่ นคลอ่ ง
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒

กจิ กรรมที่ ๑ คำชแ้ี จง ให้นักเรียนอ่านออกเสยี งบทอ่านที่กาหนดให้ต่อไปน้ีใหถ้ ูกตอ้ ง
ตามอักขรวธิ แี ละการเว้นวรรคตอน

เฉลยบทอ่ำน

ในปัจจุบนั กลา่ วกนั ว่า/ เรากาลังอย่ใู นยคุ โลกาภิวัตน์ หรือเรยี กอีกอย่างวา่

(ปดั -จ-ุ บัน) (โล-กา-พ-ิ วัด)

โลกไรพ้ รมแดน// แตจ่ ะเรยี กอย่างไรกต็ ามเถดิ /การอ่าน/ กเ็ ป็นกระบวนการสาคญั

(พรม-แดน) (กระ-บวน-การ)

อย่างยง่ิ ในการพฒั นาคนในทศวรรษน/้ี เพราะโลกของการศึกษา/ มิไดจ้ ากัดอยู่

(ทด-สะ-วัด)

ภายในห้องเรยี น/ ทม่ี ลี กั ษณะรูปทรงส่เี หลยี่ มเเคบ ๆ เท่านน้ั / เเต่ขอ้ มลู ขา่ วสาร

สารสนเทศตา่ ง ๆ /ได้ยอ่ โลกใหเ้ ล็กลงเทา่ ที่เราอยากรไู้ ด้รวดเร็ว/ ในชวั่ ลดั น้วิ มือ

(สา-ระ-สน-เทด) (รวด-เร็ว)

เดยี วอย่างทคี่ นโบราณกล่าวไว้/ จะมสี อื่ ใหอ้ า่ นอย่างหลากหลายใหเ้ ลอื ก/ ทงั้ สื่อ

(หลาก-หลาย)

ส่งิ พมิ พท์ ่ีเราคุ้นเคย/ ไปจนสอ่ื อเิ ล็กทรอนกิ ส์ทเ่ี รียกว่า "อนิ เทอร์เน็ต" เพราะ

(อิ-เลก็ -ทรอ-นกิ ) (อนิ -เทอ-เหน็ด)

การต่อสู้รกุ รานกันของมนษุ ยย์ คุ ใหม/่ จะใช้ข้อมลู / สต/ิ ปัญญา/ และคณุ ภาพ

(รกุ -ราน)

ของคนในชาติ/ มากกวา่ การใช้กาลงั อาวธุ เข้าประหัตประหารกนั // หากคนใน

(ประ-หดั -ประ-หาน)

ชาตดิ อ้ ยคณุ ภาพ/ ขาดการเรยี นรู้/ จะถูกครอบงาทางปญั ญาได้งา่ ย ๆ/

(เรียน-รู้) (ครอบ-งา)

จากสอ่ื ต่าง ๆ จากชาติทพ่ี ฒั นาเเล้ว

สานกั งานเขตพ้ืนทีก่ ารศกึ ษามัธยมศึกษา เขต 3

แบบวัดความสามารถด้านการอา่ นการเขยี นภาษาไทย
อ่านออกเขียนได้ อ่านคล่องเขยี นคล่อง ๔๒

หากคนไม่อา่ นหนงั สอื / ก็ยากทจ่ี ะพฒั นาสตปิ ญั ญาและความร้ไู ด้/

(สะ-ต-ิ ปนั -ยา)

โดยเฉพาะประเทศทก่ี าลังพัฒนา/ จะต้องทมุ่ เทให้คนมนี ิสัยรักการอ่าน/ มที กั ษะ
ในการอ่าน/ และพฒั นาวิธกี ารอ่านใหเ้ ปน็ นกั อา่ นทด่ี ี// นักอ่านที่ดจี ะมีภูมิคมุ้ กนั

(พูม-คุ้ม-กัน)

การครอบงาทางปญั ญาไดเ้ ป็นอย่างดี / รเู้ ทา่ ทนั คน และสามารถแกป้ ญั หาได้ดี
ชาติก้าวไกลดว้ ยคนไทยรกั การอา่ น : มานพ ศรเี ทียม

สานักงานเขตพน้ื ทก่ี ารศกึ ษามัธยมศึกษา เขต 3

แบบวดั ความสามารถด้านการอา่ นการเขยี นภาษาไทย
อา่ นออกเขียนได้ อา่ นคล่องเขยี นคล่อง ๔๓

เกณฑก์ ำรประเมนิ ควำมสำมำรถดำ้ นกำรอ่ำนคลอ่ ง
ชัน้ มัธยมศึกษำปที ี่ ๒

รำยละเอยี ดกำรประเมนิ

อา่ นคาทีข่ ีดเสน้ ใตถ้ กู ต้องตามหลกั การอา่ น พจิ ารณาจากอ่านได้ถูกต้องตามอกั ขรวธิ ี ใน
บทอา่ นมี ๒๐ คา คาละ ๑ คะแนน (อ่านผดิ แล้วอา่ นใหม่ได้ถกู ตอ้ งทันทไี ม่ถือว่าอา่ นผิด)

ดีมาก ระดับคุณภำพ คะแนน
ดี = ๑๗-๒๐ คะแนน
พอใช้ = ๑๓-๑๖ คะแนน
ปรบั ปรุง = ๑๐-๑๒ คะแนน
= ๐-๙

สานักงานเขตพ้นื ท่ีการศกึ ษามธั ยมศึกษา เขต 3

แบบวัดความสามารถด้านการอ่านการเขียนภาษาไทย
อา่ นออกเขียนได้ อ่านคลอ่ งเขยี นคลอ่ ง ๔๔

แบบวัดความสามารถด้านการเขยี น
ชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ ๒

สานักงานเขตพืน้ ทก่ี ารศกึ ษามธั ยมศึกษา เขต 3

แบบวดั ความสามารถด้านการอา่ นการเขียนภาษาไทย
อา่ นออกเขียนได้ อ่านคลอ่ งเขยี นคลอ่ ง ๔๕

แบบวดั ความสามารถด้านการเขียน
ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี ๒

กิจกรรมที่ ๑ คำช้แี จง ให้นักเรียนเขียนคาตามคาบอกจากคาทก่ี าหนดให้ถูกตอ้ งตามอกั ขรวิธี

๑. ………………….. ๒. …………………… ๓. ……………………

๔. ………………… ๕. ………………….. ๖. …………………

๗. ………………….. ๘. ………………….. ๙. …………………

สานกั งานเขตพื้นท่ีการศกึ ษามธั ยมศึกษา เขต 3


Click to View FlipBook Version