ระเบียบขอ้ บงั คบั เก่ียวกบั การทางาน
ดูแลอาคาร ดแู ลหมู่บา้ น ดแู ลผอู้ ยอู่ าศัย
บรษิ ัท เมเจอร์ พร็อพเพอร์ต้ี เซอร์วสิ จากัด
ท่ีอยู่ : เลขท่ี 370/10 ชน้ั 4 อาคารสภุ ทั รา ถนนพระราม 9 แขวงบางกะปิ
เขตหว้ ยขวาง กรุงเทพมหานคร 10310
โทรศัพท์ 02 719 7837 โทรสาร 02 719 7763
ประกอบกิจการ : ท่ีปรึกษา รับบริหารและจัดการอาคารชุด อาคารสานักงาน
อาคารศูนย์การค้า ศูนย์ประชุมและสถานที่สาหรับประกอบธุรกิจ และที่พักอาศัย
ทุกประเภท รวมทง้ั ยน่ื จดทะเบยี นนติ ิบคุ คลอาคารชุดและนติ ิบุคคลหมู่บา้ นจดั สรร
1
สารบญั
หวั ข้อเรือ่ ง หน้าท่ี
หมวดที่ 1 บทความทว่ั ไป 3
หมวดที่ 2 ประเภทของพนักงาน การบรรจุ แตง่ ตั้ง โยกยา้ ยพนักงาน 4
หมวดท่ี 3 วันทางาน เวลาทางานปกติ เวลาพัก และการบันทึกเวลาทางาน 7
หมวดที่ 4 หลักเกณฑ์การทางานปกติ / การทางานล่วงเวลา 9
/ การทางานในวันหยดุ / การทางานล่วงเวลาในวนั หยดุ 11
หมวดท่ี 5 วัน และ สถานท่จี า่ ยคา่ จ้าง ค่าล่วงเวลา ค่าทางานในวนั หยุด 12
หมวดที่ 6 วันหยดุ / หลกั เกณฑ์การลาหยดุ / การมาทางานสาย
18
/ การขาดงาน / การลาออก 19
หมวดท่ี 7 หลักเกณฑก์ ารเสยี ภาษีเงินได้ 25
หมวดท่ี 8 กฎระเบียบข้อบงั คับทางวนิ ัย 28
หมวดท่ี 9 โทษทางวนิ ัย และการพน้ สภาพการเป็นพนักงาน 30
หมวดท่ี 10 เงินคา่ ชดเชยกรณเี ลิกจา้ งทมี่ ีเหตุต้องจ่ายค่าชดเชย 32
หมวดท่ี 11 การรอ้ งทุกข์ 33
หมวดที่ 12 การรักษาข้อมลู และเอกสารของบรษิ ัทฯ
หมวดท่ี 13 สวสั ดกิ าร
2
หมวดท่ี 1
บทความท่วั ไป
เพื่อให้พนักงานทุกคนมีความเข้าใจในแนวนโยบายทั่วไปของบริษัทฯ จึงขอประกาศให้ทุกคนทราบว่า
พนกั งานทุกคน มีหนา้ ท่ที ี่จะต้องประพฤตปิ ฏิบัติตนใหอ้ ย่ใู นระเบียบวินัย ข้อบังคับ หรือประกาศต่าง ๆ ของบริษัท
ฯ โดยเคร่งครัด และสม่าเสมอ ตลอดจนยอมรับ และเชื่อฟังคาส่ัง คาแนะนาตักเตือนของผู้บังคับบัญชา ต้องปฏิบัติ
ด้วยความเต็มใจ และต้ังใจด้วยความขยันขันแข็ง ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต และมีความรักใคร่สามัคคีกลมเกลียวกัน
เพือ่ ใหผ้ ลงานสว่ นรวมมงุ่ ไปสคู่ วามสาเรจ็ อยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ
อน่ึง เพือ่ ใหเ้ กดิ ความเขา้ ใจในข้อบังคับเกี่ยวกับการทางาน บริษัทฯ จึงกาหนดให้มีเงื่อนไขและรายละเอียด
ดงั น้ี
1. ข้อบังคับเกยี่ วกบั การทางานฉบับน้ี ใหใ้ ช้บงั คบั ตัง้ แตว่ นั ที่ 20 เมษายน 2563 เปน็ ต้นไป
2. ระเบียบข้อบังคับ หรือประกาศ คาสั่งฉบับใดท่ีมีข้อความขัดแย้ง กับข้อบังคับเก่ียวกับการทางานฉบับนี้
ให้ใชข้ อ้ บังคับฯฉบับน้ีแทน
3. บริษัทฯ สงวนสทิ ธทิ ีจ่ ะเปลยี่ นแปลง แก้ไข เพ่ิมเติมหรือยกเว้นข้อความท้ังหมดหรือบางส่วนในข้อบังคับ
เก่ียวกับ การทางาน เพ่ือใหส้ อดคลอ้ งกบั การเปลยี่ นแปลงที่จะเกิดขึ้นท้ังทางเศรษฐกิจ สังคม หรือกรณี
ทมี่ ปี ระกาศใช้กฎหมายใหม่
3
หมวดที่ 2
ประเภทของพนักงาน การบรรจุ แตง่ ต้ัง โยกยา้ ยพนกั งาน และคานยิ าม
บรษิ ทั ฯ ได้กาหนดคานิยามบริษัทฯประเภทของพนักงาน ตามลักษณะการวา่ จา้ งงาน ดงั น้ี
1. บริษัทฯ หมายถึง บริษัท เมเจอร์ พร็อพเพอร์ต้ี เซอร์วิส จากัด บริษัทในเครือไม่ว่าจะเรียกช่ือบริษัท
อย่างไรก็ตามและให้รวมถึงผู้ซึ่งได้รับมอบอานาจให้ทาการแทนบริษัทฯ หรือ ผู้ได้รับมอบหมายให้
ทางานในนามบริษทั
2. ผูบ้ ังคบั บญั ชา หมายถงึ พนกั งานท่ีดารงตาแหน่งตั้งแต่หัวหน้าแผนก หรือตาแหน่งอ่ืนที่เทียบเท่าขึ้นไป
ซ่ึงมอี านาจหน้าที่ในการส่ังการ มอบหมายงาน กากับหรือควบคุมการทางานให้เป็นไปตามนโยบายของ
บริษัทฯ รวมตลอดถึงการมอี านาจ สั่งลงโทษตามระเบยี บข้อบังคบั ของบริษัทฯ ได้
3. พนักงานที่มกี าหนดระยะเวลาการว่าจ้างไว้แน่นอน หมายถึง พนักงานที่บริษัทฯ ตกลงทาสัญญาจ้าง
เป็นหนงั สอื โดยมีกาหนดวนั เร่ิมต้นและวันสิน้ สุดของการว่าจ้างไว้ เพื่อทางานอันมีลักษณะเป็นการคร้ัง
คราวเป็นงานจรเป็นไปตามฤดกู าล หรืองานตามโครงการ
4. พนักงานทดลองงาน หมายถงึ พนักงานทุกประเภท ทจ่ี ะเขา้ ทางานกับบริษัทฯ ต้องทาสัญญาทดลอง
งานตามตาแหน่งหน้าท่ีความรับผิดชอบที่ตกลงกัน โดยมีระยะเวลาทดลองงานไม่เกิน 119 วัน ใน
ระหว่างทดลองงาน ถ้าผลงานและคุณสมบัติทั่วไปไม่ได้ตามเกณฑ์มาตรฐานของบริษัทฯ จะถือว่าไม่
ผ่านการทดลองงานและต้องพ้นสภาพจากการเป็นพนักงานของบริษัทฯ แต่ถ้าผ่านเกณฑ์การทดลอง
งานจะบรรจใุ หเ้ ป็นพนกั งานประจาตอ่ ไป ซ่ึงจะไดร้ ับสิทธผิ ลประโยชนต์ า่ งๆตามทบ่ี ริษัทฯกาหนด
5. พนักงานทีไ่ ม่มกี าหนดระยะเวลาการจา้ ง แบง่ เป็น
5.1 พนักงานประจารายวัน หมายถึง พนักงานที่บริษัทฯ ตกลงจ้างโดยกาหนดค่าจ้างเป็นรายวัน มีสิทธิ
ได้รบั คา่ จ้างในวันหยุดตามประเพณี วันหยุดพกั ผอ่ นประจาปี วนั ลาป่วย วันลาคลอด และวันลาเพ่ือ
เรยี กระดมพล และอืน่ ๆตามทีก่ ฎหมายกาหนด
5.2 พนักงานประจารายเดือน หมายถึง พนักงานที่บริษัทฯ ตกลงจ้างโดยกาหนดค่าจ้างเป็นรายเดือน มี
สทิ ธไิ ดร้ บั คา่ จา้ งในวนั หยุดประจาสัปดาห์ วันหยุดตามประเพณี วันหยุดพักผ่อนประจาปี วันลาป่วย
วันลากิจตามจานวนวันที่กาหนด วันลาคลอด วันลาเพ่ือเรียกระดมพล และอื่นๆตามท่ีกฎหมาย
กาหนด
6. การบรรจุ – แต่งต้ัง - และโยกย้ายพนกั งาน
6.1 การบรรจุ เม่ือต้องการจะขอบรรจุพนักงาน จะต้องย่ืนคาขอเป็นหนังสือต่อฝ่ายทรัพยากรบุคคลฯ
โดยจะต้องรับอนุมัติเป็นลายลักษณ์อักษรจากกรรมการผู้จัดการ หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจาก
กรรมการผู้จัดการเสียก่อน โดยต้องแจ้งตาแหน่ง คุณสมบัติ จานวนที่ต้องการและเหตุผลในการขอ
บรรจุพนักงานตามแบบฟอร์มท่ีกาหนดไว้ ทั้งนี้เพ่ือให้อยู่ภายใต้การควบคุมอัตรากาลังพลของฝ่าย
ทรัพยากรบุคคลฯ พนักงานที่บริษัทฯ รับเข้าทางาน ต้องทดลองงานไม่เกิน 119 วัน โดยจะทาการ
ประเมินผลการทางาน 3 ครั้ง เมื่อครบกาหนดทดลองงาน หากผลงานเป็นที่พอใจพนักงานผู้นั้นจะ
ได้รบั การพิจารณาบรรจเุ ป็นพนักงานประจาของบรษิ ัทฯ โดยบรษิ ัทฯ จะแจง้ ให้ทราบ แต่หากผลงาน
4
ไม่เปน็ ที่พอใจและ มีความเสียหายในระยะเวลาทดลองงาน บริษัทฯ มีสิทธิท่ีจะเลิกจ้างได้ทันที และ
ไมจ่ ่ายค่าชดเชยใด ๆ ทั้งส้ินกรณีที่พนักงานทดลองงานได้รับการบรรจุเป็นพนักงานประจา อายุงาน
ของพนักงานจะเริม่ นบั ตงั้ แตว่ นั แรกที่บริษัทฯ รบั เขา้ เปน็ พนกั งานทดลองงาน
6.2 การแต่งตัง้ และโยกยา้ ย เม่ือมตี าแหน่งว่างลง หรือมีการจัดหน่วยงานใหม่ข้ึน บริษัทฯ เห็นสมควร
จะแตง่ ต้งั ให้พนักงานผู้หนึง่ ผใู้ ดไปดารงตาแหนง่ ทีว่ า่ งลงหรือจัดข้นึ ใหมน่ น้ั ให้ผา่ นการทดลองงานใน
ตาแหน่งท่ีทางบริษัทมอบให้ไม่น้อยกว่า 90 วัน ถ้าผลการปฏิบัติงานเป็นท่ีน่าพอใจ บริษัทฯ จะ
พิจารณาแต่งต้ังเป็นทางการต่อไป การบรรจุแต่งต้ังและโยกย้ายจะสมบูรณ์ต่อเมื่อได้รับอนุมัติจาก
กรรมการผูจ้ ดั การหรือจากบุคคลอื่นซ่งึ ไดร้ บั มอบอานาจจากกรรมการผจู้ ดั การเปน็ ลายลกั ษณ์อกั ษร
7. การตรวจสอบประวตั ิ
บริษัทฯขอสงวนสิทธิท่ีจะติดต่อตรวจสอบประวัติจากสถานท่ีทางานเดิมหรือสถานศึกษาของผู้สมัคร
ตามท่ีระบุไว้ในสมัคร เพ่ือขอข้อมูลประกอบในการประเมินคุณสมบัติ และความสามารถของผู้สมัคร
ที่แจ้งไว้ รวมทงั้ คุณสมบตั ิส่วนตวั และความเหมาะสมในการว่าจ้างกไ็ ด้
8. คานยิ ามอ่นื
8.1 ปรึกษาบริษัทฯ หมายถึง ผู้ทรงคุณวุฒิท่ีบริษัทฯมอบความไว้วางใจและให้เกียรติเพ่ือร่วมปรึกษา
แสดงความคิดเหน็ เสนอแนะเกีย่ วกบั กจิ การของบริษัทฯ แต่งต้ังโดยกรรมการผู้จดั การ
8.2 ระเบียบปฏิบัติ หมายถึง ระเบียบวิธกี ารปฏบิ ัตงิ านทก่ี าหนดข้ึนภายใต้ระเบียบข้อบังคับ ของบริษัทฯ
เพอื่ ให้พนักงานยดึ ถอื ปฏบิ ัติ โดยกรรมการผู้จัดการหรือรองกรรมการผู้จัดการ หรือผู้อานวยการฝ่าย
เป็นผ้ลู งนามประกาศใช้ โดยอย่ภู ายใตข้ ้อบงั คบั การทางานของบริษทั ฯ และต้องเป็นระเบียบปฏิบัติที่
ชอบดว้ ยกฎหมาย
8.3 ระเบียบปฏิบัติภายใน หมายถึง วิธีการปฏิบัติงานที่กาหนดขึ้นภายในระเบียบข้อบังคับ ของบริษัทฯ
เพื่อใช้เฉพาะหน่วยงาน เพื่อให้พนักงานในหน่วยงานนั้นยึดถือและปฏิบัติ ตามโดยผู้บริหารระดับ
ผู้จัดการฝ่ายข้ึนไปเป็นผู้ลงนามและประกาศใช้และสาเนาเสนอ ผู้บังคับบัญชาตามสายงาน โดยอยู่
ภายใต้ข้อบังคบั การทางานของบริษัทฯ และต้องเป็นระเบียบปฏบิ ัตทิ ่ภี ายในท่ีชอบด้วยกฎหมาย
8.4 ประกาศบริษัทฯ หมายถึง ประกาศของบริษัทฯท่ีได้ประกาศแจ้งให้พนักงานได้รับทราบและถือ
ปฏิบัติโดยเป็นไปตามระเบียบข้อบังคับของบริษัทฯ ซึ่งลงนามโดยกรรมการผู้จัดการ หรือผู้ที่ได้รับ
มอบหมาย โดยอยภู่ ายใตข้ อ้ บงั คับการทางานของบริษัทฯ และต้องเป็นประกาศบริษัทฯ ท่ีชอบด้วย
กฎหมาย
8.5 คาสั่ง หมายถึง คาส่ังของผู้บังคับบัญชาที่สั่งให้ผู้ใต้บังคับบัญชาปฏิบัติตามในเรื่องที่เก่ียวกับหน้าท่ี
การงาน คาส่งั ของผบู้ งั คบั บัญชาอาจเป็นคาส่ังในลักษณะถาวร หรือเป็นคร้ังคราว ลักษณะของคาส่ัง
อาจเป็นลายลักษณ์อักษร หรือด้วยวาจาให้กระทาหรือห้าม มิให้กระทาในสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เพื่อให้เกิด
ประโยชน์ต่อกิจการของบริษัทฯ โดยอยู่ภายใต้ข้อบังคับการทางานของบริษัทฯ และต้องเป็นคาส่ังท่ี
ชอบดว้ ยกฎหมาย
8.6 บันทึก หมายถึง ข้อความท่ีใช้ในการส่ือความหมาย เพื่อการติดต่อเฉพาะภายในหน่วยงานหรือต่าง
หน่วยงานในบรษิ ทั ฯ
5
8.7 หนังสือเวียนภายใน หมายถึง เอกสารท่ีใช้ในการสื่อความหมาย เพ่ือการติดต่อเฉพาะภายใน
หนว่ ยงานหรอื ต่างหน่วยงานในบริษทั ฯ
8.8 แผนผังโครงสร้างบริษัทฯ หมายถึง แผนผังโครงสร้างการบริหารของบริษัทฯและการ บังคับบัญชา
เพอ่ื ให้พนกั งานถอื ปฏบิ ตั ิ โดยกรรมการผูจ้ ดั การหรือผทู้ ี่ไดร้ ับมอบหมายลงนามและประกาศใช้
8.9 ใบกาหนดรายละเอียดหน้าที่ความรับผิดชอบ ( JOB DESCRIPTION ) หมายถึง การพรรณนา
ลกั ษณะงานหรอื การแจกแจงลกั ษณะงานเป็นลายลักษณ์อกั ษร โดยกาหนดรายละเอยี ดของหน้าที่
6
หมวดที่ 3
วนั ทางาน เวลาทางานปกติ เวลาพัก และการบนั ทึกเวลาทางาน
1. พนักงานประจาสานักงานใหญ่
วนั ทางาน เวลาทางานปกติ และเวลาพักบริษทั ฯ กาหนดให้พนกั งานทางานตามวนั และเวลา ดงั น้ี
วันทางาน วันจนั ทร์ - วันศกุ ร์
เวลาทางาน 09.00 – 12.00 น. และ 13.00 – 18.00 น.
เวลาพกั 12.00 – 13.00 น.
ในกรณีท่ีมีความจาเป็นต้องให้พนักงานทางานติดต่อกันหรือเป็นงานฉุกเฉินที่ไม่อาจหยุดทาได้ ให้
ผบู้ ังคบั บัญชาพจิ ารณาเล่ือนหรือเปล่ียนแปลงเวลาพกั ตามความเหมาะสมเป็นคราว ๆ ไป
2. พนกั งานประจาหน่วยงาน
ในกรณีท่ีจาเป็นต้องจัดให้เข้าทางาน เป็นกะ จะจัดให้ทางานปกติกะละไม่เกิน 8 ช่ัวโมงอาจจัดให้
ตามตัวอย่างดังต่อไปน้ี
กะท่ี 1 เข้างาน 8.00 – 17.00 น.
กะที่ 2 เข้างาน 14.00– 23.00 น.
กะที่ 3 เข้างาน 23.00 – 08.00 น.
หรือ เวลาอื่นตามความเหมาะสมก็ได้
หมายเหตุ เนื่องจากลักษณะงานบางหน่วยงานที่ต้องทางานติดต่อกันไปถ้าหยุดจะทาให้บริษัทฯเสียหาย
บริษัทฯ อาจจัดเวลาพักระหว่างทางานให้แก่พนักงานโดยอาจให้สลับสับเปล่ียนกันพัก ซึ่งพนักงานท่ีทางานติดต่อกัน
ไมเ่ กินหา้ ชัว่ โมง บรษิ ัทฯ จดั เวลาพกั ใหแ้ กพ่ นกั งานในหนึง่ วันไม่นอ้ ยกวา่ หนงึ่ ชั่วโมง
บริษทั ฯสงวนสิทธทิ จ่ี ะเปล่ยี นแปลงวนั ทางาน เวลาทางาน หรือ เวลาพัก สาหรับบางส่วนหรือท้ังหมด เพ่ือ
เพิ่มประสิทธิภาพในการทางานหรือเพราะเหตุอ่ืนใด ถ้ามีการเปล่ียนแปลงบริษัทฯจะดาเนินการให้ถูกต้องตาม
ข้นั ตอนของกฎหมายและความชอบธรรม
3. การบันทกึ เวลาทางาน
4.1 บริษัทฯกาหนดให้พนักงานบันทึกเวลาทางานโดยการสแกนนิ้ว หรือบันทึกลายน้ิวมือหรือลงช่ือใน
แบบฟอร์มการบันทึกเวลาทางานก็ได้ทั้งน้ีขึ้นอยู่กับความพร้อมความเหมาะสมในการบริหารจัดการ
โดยมีระเบียบปฏิบัติดังน้ีพนักงานจะต้องบันทึกเวลาเข้าทางานและเวลาพักรวมถึงเลิกงานทุกครั้ง
ดว้ ยตนเองและจะต้องปฏิบัตติ ามระเบยี บการบนั ทกึ เวลาทางานท่ีบริษัทฯกาหนดอย่างเคร่งครัด โดย
จะต้องบันทึกเวลาเข้าทางานและเวลาพักรวมถึงเลิกงานให้ครบทุกครั้ง จึงจะมีสิทธิได้รับค่าจ้าง
รวมถึงไดร้ ับสิทธผิ ลประโยชนอ์ ื่นทพ่ี งึ ไดร้ บั ตามท่ีบริษทั ฯ กาหนด
4.2 กรณีท่ีพนักงานคนใดไม่สามารถบันทึกเวลาทางานได้ อันเน่ืองมาจากมีความจาเป็นหรือมีเหตุ
ฉุกเฉิน เช่น ลายนิ้วมือไม่ชัดเจน-เคร่ืองสแกนไม่บันทึกข้อมูล ให้ติดต่อขอแบบ ฟอร์มได้ที่ฝ่าย
ทรพั ยากรบคุ คลฯ แล้วกรอกรายละเอียดของสาเหตุท่ีไม่สามารถบันทึกเวลาทางานได้ลงในใบคาร้อง
7
แลว้ ให้ผู้บังคับบัญชาลงชื่ออนมุ ตั ริ บั รองการมาทางาน และส่งใบคาร้องดังกล่าวให้ทางฝ่ายทรัพยากร
บคุ คลฯ เพ่อื ลงบนั ทึกเวลาทางานในวนั น้นั ๆให้ ถา้ ไม่ปฏบิ ตั ิตามจะถือว่าพนักงานผู้น้ันขาดงาน และ
จะไม่ได้รับค่าจา้ งและสทิ ธผิ ลประโยชน์อื่น (ถา้ มี)
4.3 ในกรณีท่ีพนักงานบันทึกลายนิ้วมือไม่ครบตามจานวนท่ีบริษัทกาหนด และไม่มีการมาเขียน
แบบฟอร์ม ท่ีฝ่ายทรัพยากรบุคคลฯจะถือว่าพนักงานขาดงานในช่วงเวลาดังกล่าวและจะไม่ได้รับ
คา่ จ้างและสิทธิผลประโยชน์อ่ืน (ถ้ามี)
4.4 ในกรณที ีพ่ นกั งานไมบ่ นั ทกึ เวลาทางาน ถ้ามีเหตุผลของการไม่บันทึกเวลาทางานไม่เพียงพอ บริษัทฯ
มีสิทธิที่จะไม่จ่ายค่าจ้างและสิทธิผลประโยชน์อ่ืน และถ้ามีเหตุการณ์ซ้าบ่อยๆโดยไม่มีเหตุผลอัน
สมควรอาจพิจารณาลงโทษทางวนิ ัยดว้ ย
4.5 พนักงานที่ต้องไปติดต่องานนอกสถานที่ หรือทางานนอกสถานท่ี ต้องบันทึกเวลาออกและเวลา
กลับเข้ามาในบริษัทฯทุกคร้ังตามวิธีการท่ีบริษัทฯกาหนด พร้อมท้ังต้องมีใบผ่านท่ีได้รับการ อนุมัติ
จากผบู้ งั คบั บญั ชาและฝา่ ยทรพั ยากรบคุ คลฯ
4.6 พนักงานทุกประเภทท่ีเข้ามาทางานในบริษัทฯ ถ้าเหตุจาเป็นต้องออกไปทาธุระส่วนตนชั่วคราว ไม่
วา่ ในช่วงเวลาใดกต็ าม ตอ้ งขออนุญาตและมใี บผา่ นทไี่ ด้รับอนุมัติจากผู้บังคับบัญชาและออกจากฝ่าย
ทรัพยากรบุคคลฯ และต้องบันทึกเวลาเข้า-ออกทุกครั้ง ถ้าออกไปในช่วงเวลาทางานหรือ
ออกไปในช่วงเวลาพักแต่กลับเข้ามาทางานไม่ทันเวลาต้องเขียนใบลาตามจานวนเวลาที่ใช้ไป ถ้าไม่
ปฏิบตั ติ ามจะได้รับการพจิ ารณาโทษทางวินยั
4.7 การบนั ทึกเวลาทางานต้องบนั ทึกดว้ ยตนเองเท่าน้ัน ห้ามให้ผู้อื่นบันทึกเวลาทางานแทนโดยเด็ดขาด
ถ้าผู้ใดฝ่าฝืนถือเป็นความผิดทางวินัยร้ายแรง มีโทษทางวินัยถึงข้ันเลิกจ้างโดยไม่จ่ายค่าชดเชยหรือ
ค่าเสียหายใด ๆ ทัง้ ส้นิ
8
หมวดท่ี 4
หลกั เกณฑก์ ารทางานปกติ / การทางานลว่ งเวลา / การทางานในวันหยุด / การทางานล่วงเวลาในวันหยดุ
1. การทางานปกติ / คา่ จา้ งปกติ
พนักงานทุกคนมีเวลาทางานปกติตามหมวดท่ี 3 โดย เวลาทางานปกติวันละแปดชั่วโมงทางาน ไม่รวมเวลา
พักระหว่างทางาน ค่าจ้างปกติ หมายถึงค่าจ้างท่ีพนักงานทุกคนจะได้รับตามเงื่อนไขการจ้างงาน ในเวลาทางานปกติ
เชน่ พนักงานรายเดอื น ได้รับคา่ จา้ งปกติในการมาทางานในวันทางานปกติทั้งเดือน พนักงานรายวันจะได้รับค่าจ้างใน
วันท่พี นกั งานมาทางาน
2. การทางานลว่ งเวลา และ ค่าลว่ งเวลาในวันทางานปกติ
พนักงานที่ทางานติดต่อกันแปดช่ัวโมงโดยไม่รวมเวลาพัก แล้วยังต้องทางานต่อหลังแปดชั่วโมงทางานให้ถือ
เป็นการทางานล่วงเวลา การทางานของบริษัทฯท่ีมีลักษณะหรือสภาพของงานที่ต้องทาต่อเนื่องติดต่อกันไปในแต่ละ
วนั ถา้ หยดุ จะเสียหายแกง่ าน บริษัทฯ จะให้พนักงานทางานล่วงเวลาเท่าท่ีจาเป็น ถ้าให้พนักงานทางานเกินเวลาใน
วันทางานปกติ พนกั งานจะได้รับค่าทางานล่วงเวลา ดงั น้ี
ลาดบั ประเภทของการทางาน อัตรา
1 คา่ ล่วงเวลาในวนั ทางาน 1.5 เทา่ ของคา่ จ้างในวันทางาน ตามจานวนชวั่ โมงที่ทางานเกนิ เวลาปกติ
2 ค่าทางานในวนั หยุด 1 เท่า ของคา่ จา้ งในวนั ทางานตามจานวนชว่ั โมงที่ทางาน
3 คา่ ลว่ งเวลาในวนั หยุด 3 เท่า ของคา่ จา้ งในวันทางาน ตามจานวนชั่วโมงทที่ างานเกินเวลาปกติ
2.1 พนักงานท่ีไม่มีสิทธิได้รับค่าทางานล่วงเวลา ค่าทางานในวันหยุด และค่าล่วงเวลาในวันหยุด
พนักงานระดับบริหาร ตั้งแต่หัวหน้าแผนก หรือเทียบเท่าขึ้นไป ซ่ึงมีอานาจหน้าที่ทาการแทน
บริษัทในการจ้าง, การให้บาเหน็จ, การลดค่าจ้าง, การเลิกจ้าง งานท่ีมีลักษณะพิเศษที่ระบุไว้ใน
กฎหมายว่าไม่มีสิทธิได้รับค่าล่วงเวลา และค่าทางานในวันหยุด หรือมีสิทธิได้รับค่าตอบแทนใน
ลกั ษณะอนื่ โดยให้เปน็ ไปตามท่กี ฎหมายกาหนด
3. การทางานในวันหยดุ ประจาสปั ดาห์
สานักงานใหญ่ ทางบริษทั ฯกาหนดวันหยดุ ประจาสัปดาห์ วันเสาร์และวันอาทติ ย์
หนว่ ยงาน ทางบริษัทฯกาหนดวนั หยุดประจาสัปดาห์ใหแ้ กพ่ นกั งานทุกคนอย่างน้อย
สปั ดาห์ละหนึ่งวันโดยหา่ งกนั ไม่เกนิ หกวัน ซึ่งแต่ละคนอาจจะมวี นั หยดุ ไม่
ตรงกัน
(หากพนักงานจาเป็นต้องมาทางานในวันหยุดประจาสัปดาห์ บริษัทฯจะพิจารณาจ่ายค่าล่วงเวลาตาม
เหตสุ มควร
9
4. การมาทางานในวันหยดุ ตามประเพณี
ในรอบหน่ึงปีปฏิทิน บริษัทฯจะกาหนดให้มีวันหยุดตามประเพณีปีละสิบสามวัน (13) แต่ถ้าบริษัทฯให้
พนกั งานทกุ ประเภทมาทางานในวนั หยุดตามประเพณี หากพนักงานมาทางานในวันหยุดตามประเพณีให้พนักงานเก็บ
วันหยุดสะสมไปใช้ภายหลัง
5. พนักงานทไ่ี มม่ ีสิทธิได้รับค่าลว่ งเวลาและค่าทางานในวันหยดุ
5.1 พนกั งานซง่ึ ทางานมตี าแหนง่ ต้งั แตห่ ัวหนา้ แผนกขนึ้ ไป หรือพนักงานซ่งึ มตี าแหน่งหน้าที่คล้ายคลึงกัน
หรือ ตาแหน่งงานเทียบเท่า และมีอานาจหน้าท่ีทาการแทนบริษัท ฯ ในการจ้างงาน การลดจ้าง
การเลกิ จ้าง และทางานไมม่ ีเวลาปฏิบัติงานทแี่ นน่ อน เช่น ฝา่ ยขาย,ฝา่ ยการตลาด
5.2 พนกั งานทีท่ างานนอกสถานท่ี โดยสภาพของงานไม่อาจกาหนดเวลาทางานไดแ้ น่นอน
5.3 พนักงานซ่ึงบริษัทฯกาหนดให้มีอานาจหน้าท่ีในการกระทาการแทนในกรณีจ้างงาน การลด ค่าจ้าง
การเลกิ จา้ ง การใหบ้ าเหนจ็ บานาญ การลงโทษทางวนิ ัย การวินิจฉัยขอ้ ร้องทกุ ข์
5.4 พนักงานที่ทางบริษัทมีการตกลงค่าล่วงเวลาเป็นการเหมาจ่ายรวมกับรายได้ที่เป็นการจ่ายในแต่ละ
งวดค่าจา้ ง ไมม่ ีสิทธิไดร้ ับค่าล่วงเวลา ค่าทางานในวันหยุด ค่าล่วงเวลาในวันหยุด เว้นแต่บริษัทฯ ได้
ตกลงจ่ายค่าล่วงเวลา ,ค่าทางานในวันหยุด หรือค่าล่วงเวลาในวันหยุด ให้แก่ลูกจ้างไว้เป็นลาย
ลกั ษณอ์ กั ษร
5.5 พนกั งานที่จะเดินทางไปต่างจังหวดั หรอื ตา่ งประเทศ เพ่ือติดต่อธุรกิจของบริษัท ฯ จะต้องได้รับคาสั่ง
จากบริษัท ในการเดินทาง บริษัท ฯ ถือว่าพนักงานที่เดินทาง หยุดพักในวันหยุดตามปฏิทินการ
ทางานของบรษิ ทั เวน้ แต่จะไดร้ บั คาส่ัง ให้ปฏบิ ตั ิงานในวันหยุดนน้ั ระหว่างการเดินทาง บริษัท ฯ ไม่
ถอื เปน็ การทางานล่วงเวลาหรอื ทางานในวนั หยุด
10
หมวดที่ 5
วันและสถานทจ่ี า่ ยคา่ จ้าง ค่าลว่ งเวลา ค่าทางานในวันหยดุ คา่ ล่วงเวลาในวนั หยุด และคา่ อื่นๆ
บริษัทฯ จะจ่ายเงินเดือน/ค่าจ้าง,ค่าล่วงเวลา, ค่าจ้างในวันหยุด, ค่าล่วงเวลาในวันหยุด, และค่าอ่ืนๆ (ถ้ามี)
ณ ทีส่ านักงาน โดยจ่ายผา่ นธนาคารตามท่ีตกลงกันก็ได้ ตามวนั เวลาตอ่ ไปนี้
5.1 วันทจี่ า่ ยคา่ จา้ งคือทุกส้ินเดอื น ตามปฏิทินที่ทางานในเดือน
5.2 กรณีทพ่ี นักงานลาออกตามระเบยี บบริษัท บรษิ ัทฯ จะจา่ ยคา่ จ้างใหใ้ นวันท่จี ่ายคา่ จ้างปกติ
5.3 กรณีที่พนักงานลาออกไม่ถูกต้องตามระเบียบบริษัท บริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ ระงับการจ่ายค่าจ้างเพ่ือ
ตรวจสอบความเสียหายทีเกิดจากพนักงาน โดยจะจ่ายเป็นเช็คภายในวันท่ี 7 ของเดือนถัดไป โดย
ทัง้ น้ี พนักงานตอ้ งมารับดว้ ยตนเอง
5.4 กรณีที่พนักงานถึงแก่กรรม บริษัทฯ จะจ่ายค่าจ้างท่ียังค้างจ่ายน้ัน ๆ ให้แก่ครอบครัวของพนักงาน
หรอื ผู้มสี ิทธิ ท่ถี ูกต้องตามกฎหมาย
5.5 บริษทั ฯ สงวนสิทธิในวันและสถานที่จา่ ยค่าจา้ ง ค่าล่วงเวลา ค่าทางานในวันหยุด และค่าล่วงเวลาใน
วนั หยุด ทัง้ น้ี บรษิ ทั ฯ อาจกาหนดหรือเปล่ียนแปลงได้ตามความเหมาะสม โดยจะตกลงและยินยอม
เปน็ การล่วงหน้า และเป็นประโยชน์แกพ่ นกั งาน
บริษัทฯ จะออก ใบสลิป เงินค่าจ้างให้พนักงานตรวจสอบความถูกต้องอีกครั้ง หากไม่ถูกต้องให้พนักงานแจ้ง
ให้ฝา่ ยทรัพยากรบุคคลฯ หรือแจ้งให้ผบู้ งั คับบัญชาทราบทันที เพ่ือให้บริษัทฯตรวจสอบและถ้าจ่ายให้ไม่ครบ บริษัทฯ
จะทาการจา่ ยเงินให้พนกั งานจนครบ แตถ่ า้ พนกั งานไม่ทักท้วงบริษัทฯถือเป็นการถูกต้องและถือว่าพนักงานยอมรับใน
รายละเอียดทแ่ี จง้ ไว้
หมายเหตุ หากวันที่จ่ายเงินเดือนตามที่กาหนดไว้ตรงกับวันหยุดบริษัทฯหรือวันหยุดของสานักงาน หรือ
วันหยุดราชการหรือวันหยุดของธนาคาร บริษัทสงวนสิทธิ์เล่ือนการจ่ายเงินหลังวันที่บริษัทกาหนดไว้ โดยบริษัทฯ
จะแจง้ ให้พนักงานทราบล่วงหน้า
11
หมวดท่ี 6
วันหยดุ หลกั เกณฑก์ ารลาหยุด การมาทางานสาย การขาดงาน การลาออก
การกาหนดวนั หยุด
1. วันหยดุ ประจาสัปดาห์
สานักงานใหญ่ ทางบริษัทฯกาหนดวนั หยุดประจาสัปดาห์ วนั เสารแ์ ละวันอาทิตย์
หนว่ ยงาน ทางบรษิ ทั ฯกาหนดวันหยุดประจาสปั ดาหใ์ หแ้ กพ่ นักงานทุกคนอยา่ งน้อย
สปั ดาหล์ ะหนึง่ วนั โดยหา่ งกันไมเ่ กินหกวนั ซึ่งแต่ละคนอาจจะมีวนั หยดุ ไม่
ตรงกัน
2. วันหยุดตามประเพณี
บริษัทฯกาหนดให้มีวันหยุดตามประเพณีได้ไม่น้อยกว่าปีละสิบสามวัน (13) โดยรวมวันแรงงานแห่งชาติ
ตามที่ประกาศรัฐมนตรีกาหนดโดยพนักงานทุกประเภทจะได้รับค่าจ้างในวันหยุดตามประเพณีตามเวลาทางานในวัน
ปกติ ถา้ วันหยุดตามประเพณใี ดตรงกับวันหยุดประจาสัปดาห์ บริษัทฯจะเลื่อนวันหยุดตามประเพณีน้ันไปหยุดใน
วันทางานถัดไป หรือหากพนักงานต้องการเปล่ียนไปหยุดชดเชยในวันอื่น ให้แจ้งผู้บังคับบัญชาทราบล่วงหน้าอย่าง
นอ้ ยเป็นเวลาสามวัน การประกาศวนั หยดุ ตามประเพณีของปีถัดไป บริษัทฯจะประกาศให้พนักงานทุกคนทราบภายใน
ไมเ่ กนิ เดือนธนั วาคมของทกุ ปี
3. วนั หยดุ พักผ่อนประจาปีและหลักเกณฑก์ ารหยุด
พนกั งานของบรษิ ัทฯ มีสทิ ธลิ าหยดุ พักผ่อนประจาปี โดยมีหลักเกณฑ์ ดงั น้ี
3.1 พนักงานที่ทางานครบหน่ึงปี (1) นับตั้งแต่วันท่ีเข้าทางาน มีสิทธิหยุดพักผ่อนประจาปีได้ปีละหก (6)
วันทางาน โดยได้รับคา่ จ้างเทา่ กับวันทางานปกติ
3.2 พนักงานท่ีทางานครบสามปี (3) นบั ตัง้ แต่วันทเ่ี ขา้ ทางาน มีสทิ ธหิ ยดุ พักผ่อนประจาปีได้ปีละแปด (8)
วันทางาน โดยไดร้ ับค่าจา้ งเท่ากบั วันทางานปกติ
3.3 พนกั งานทีท่ างานครบหกปี (6) นับตงั้ แตว่ นั ท่เี ข้าทางาน มสี ิทธิหยุดพักผ่อนประจาปีได้ปีละ สิบ(10)
วนั ทางาน โดยไดร้ ับคา่ จ้างเท่ากบั วนั ทางานปกติ
3.4 พนักงานทีท่ างานครบสบิ ปีข้ึนไป (10) นับตัง้ แต่วันที่เขา้ ทางาน มีสิทธหิ ยุดพกั ผ่อนประจาปีไดป้ ีละ
สิบสอง(12) วนั ทางาน โดยได้รบั คา่ จา้ งเท่ากับวนั ทางานปกติ
3.5 พนกั งานที่ทางานครบหนงึ่ ปี (1) ในปีแรกให้คานวณสิทธิตามระยะเวลานับตั้งแต่วันท่ีครบรอบหนึ่งปี
แรกไปจนถงึ ส้นิ ปี การใชส้ ิทธิลาหยุดพักผ่อนประจาปี พนักงานจะต้องใช้สิทธิในแต่ละครั้งอย่างน้อย
ครึ่งวันขนึ้ ไป
3.6 การลาหยุดพักผ่อนประจาปีแต่ละคร้ัง ต้องยื่นใบลาเพื่อขออนุมัติจากผู้บังคับบัญชาล่วงหน้าอย่าง
น้อยสามวัน (3) และตอ้ งได้รับอนมุ ัตจิ ากผูบ้ ังคับบัญชาจึงจะลาหยุดพกั ผ่อนประจาปีได้
3.7 เพื่อไมใ่ หเ้ ปน็ การเสยี หายแกง่ านของบรษิ ัทฯ ผู้บังคับบัญชามีสิทธิกาหนดให้พนักงานลาหยุดพักผ่อน
ประจาปใี นวนั ใดหรอื ชว่ งเวลา/เดอื นใดก็ได้
12
3.8 กรณีมีความจาเป็นต้องทางานต่อเนื่องกันและไม่สามารถให้พนักงานลาหยุดพักผ่อนประจาปีได้
พนกั งานสามารถสะสมวันพักผอ่ นประจาปีทเ่ี หลืออยใู่ นปีนั้นๆ ไปใช้ได้ไม่เกินส้ินเดือนมกราคมของปี
ถัดได้
4. ประเภทการลาและหลักเกณฑ์การลา
4.1 การลากจิ
4.1.1 บรษิ ัทกาหนดให้พนักงานลากิจอันมเี หตจุ าเป็นไดป้ ลี ะหกวนั (6)
4.1.2 ในกรณีที่มีความจาเป็นที่จะต้องลากิจพนักงานจะต้องย่ืนใบลากิจต่อผู้บังคับบัญชาตาม
ขนั้ ตอนโดยตอ้ งแจง้ ล่วงหน้าอย่างน้อยสามวัน(3) และจะต้องได้รับอนุมัติจากผู้บังคับบัญชา
กอ่ นจึงจะลาได้
4.1.3 ในกรณีที่มีธุระด่วนไม่สามารถมาทางานได้ ต้องแจ้งให้ผู้บังคับบัญชา หรือฝ่ายทรัพยากร
บุคคลฯทราบก่อนเวลาปฏิบัติงานหนึ่ง (1) ชั่วโมงจากเวลาเข้างานจริงและยื่นใบลาต่อ
ผบู้ งั คับบัญชาทนั ทีในวนั แรกทก่ี ลับเขา้ มาทางาน
4.1.4 ผู้บังคับบัญชามีสิทธิที่จะระงับมิให้พนักงานลากิจได้ในกรณีท่ีไม่มีเหตุผลในการลากิจ
เพยี งพอ
4.1.5 หากพนกั งานทมี่ สี ิทธใิ ชว้ ันหยดุ พกั ผ่อนประจาปใี หใ้ ชส้ ิทธิใหค้ รบก่อนทีจ่ ะใช้สทิ ธิลากจิ ได้
4.2 การลาปว่ ย
4.2.1 พนักงานมีสิทธิลาป่วยได้เท่าที่ป่วยจริงแต่บริษัทฯจะจ่ายค่าจ้างให้ปีละไม่เกินสามสิบ(30)
วันโดยได้รบั คา่ จ้างเทา่ กับวันทางานปกตแิ ต่จะนาวนั ลาป่วยไปสมทบในปตี ่อไปไม่ได้
4.2.2 พนักงานที่เจ็บป่วยกะทันหันจนไม่สามารถปฏิบัติงานได้ให้แจ้งให้ผู้บังคับบัญชาทราบไม่ว่า
จะดว้ ยวธิ ีใดกต็ ามและต้องย่นื ใบลาต่อผูบ้ ังคับบัญชาทันทใี นวันแรกที่กลบั เขา้ มาทางาน
4.2.3 พนักงานท่ีลาป่วยต้ังแต่สามวัน(3)ทาการขึ้นไปจะต้องยื่นใบลาพร้อมใบรับรองแพทย์แผน
ปัจจุบันมาแสดงหากไม่มีใบรับรองแพทย์มาแสดงจะต้องช้ีแจงเหตุผลอันน่าเช่ือถือได้ให้
ผบู้ ังคบั บัญชาทราบและการอนมุ ตั ิใหล้ าป่วยหรือไม่อนมุ ัตใิ ห้อยู่ในดลุ พินจิ ของผู้บงั คบั บัญชา
4.2.4 พนักงานท่ีลาป่วยโดยไม่มีมูลเหตุ ทางบริษัทสามารถขอเอกสารหรือหลักฐานยืนยันการป่วย
ของพนักงานได้ หากพนักงานไม่สามารถหาหลักฐานยืนยันให้ทางผู้บังคับบัญชา/บริษัท มี
สิทธิท์ ่จี ะไมอ่ นุมัตกิ ารลาได้
4.2.5 การลาป่วยเนื่องจากได้รับอุบัติเหตุจากการทางานหรือเป็นโรคจากการทางานให้นามานับ
รวมกับวันลาป่วย โดยให้อยู่ในดุลยพินิจของแพทย์หรือของผู้บังคับบัญชาว่าสมควรให้หยุด
งานหรอื ไม่
4.2.6 การลาป่วยโดยให้หลักฐานท่ีเป็นเท็จ บริษัทฯถือว่าผู้นั้นเจตนาทุจริตและจะถูกดาเนินการ
ลงโทษทางวินัยรา้ ยแรงถึงขัน้ เลิกจา้ งโดยไม่จา่ ยค่าบอกกล่าวลว่ งหน้า ไม่จ่ายค่าเสียหาย
ไมจ่ า่ ยค่าชดเชยใดๆทง้ั ส้นิ และอาจถกู ดาเนนิ คดตี ามกฎหมายด้วย
13
4.2.7 การลาตามใบนัดท่ีกาหนดวันเวลาโดยแพทย์ ถือเป็นการลากิจ ยกเว้นกรณีการลาตามใบนัด
กาหนดวันเวลาโดยแพทย์ มีใบรับรองแพทย์กาหนดให้หยุดในวันท่ีนัดตามใบนัดท่ีกาหนด
โดยแพทย์
4.3 การลาคลอด
4.3.1 พนักงานหญิงท่ีมีครรภ์ มีสิทธิลาคลอดก่อนและหลังคลอดได้คร้ังละไม่เกินเก้าสิบแปด (98)
วนั โดยจะสามารถใช้สทิ ธ์กิ ารลาคลอดไดเ้ มอื่ มีอายคุ รรภ์เกนิ 28 สปั ดาห์ ( 7 เดือน ) ยกเว้น
กรณีท่มี เี หตุเก่ยี วกับครรภต์ ามคาแนะนาของแพทย์
4.3.2 กรณีที่พนักงานลาคลอดแล้วสุขภาพร่างกายยังไม่แข็งแรง และ เเพทย์ระบุให้หยุดพักต่อ
หลังจากเก้าสิบแปดวันก็สามารถหยุดพักได้ โดยให้วันที่หยุดพักต่อจากเก้าสิบแปดวันเป็นวัน
ลาปว่ ยแทน
4.3.3 การนับจานวนวนั ลาคลอดใหน้ บั รวมวันหยดุ ทุกประเภทที่มอี ยรู่ ะหว่างวนั ลาคลอด
4.3.4 บริษัทฯ จะจ่ายค่าจ้างให้แก่พนักงานซึ่งลาคลอดเท่ากับค่าจ้างในวันทางานปกติตลอด
ระยะเวลาทลี่ าคลอดแต่ไมเ่ กนิ สี่สบิ ห้าวนั (45)
4.3.5 ถ้าพนักงานหญิงที่มีครรภ์มีใบรับรองแพทย์แผนปัจจุบันชั้นหนึ่งมาแสดงว่าไม่สามารถทางาน
ในหนา้ ทีเ่ ดิมได้ ใหม้ ีสทิ ธขิ อใหบ้ รษิ ทั ฯ เปล่ยี นงานในหน้าท่ีชั่วคราวก่อนหรือหลังคลอดได้โดย
บริษทั ฯ จะต้องพิจารณาเปล่ยี นงานให้แกพ่ นักงานนั้นตามทีเ่ หน็ สมควร
4.3.6 การหยุดงานเนอื่ งจากการแท้งบุตรให้ถอื เปน็ การลาป่วย ยกเวน้ การแทง้ บุตรที่มีอายุครรภ์มาก
กวา่ 28 สัปดาห์ ( 7 เดือน )ให้ถอื เปน็ การลาคลอด
4.3.7 การลาเพื่อไปฝากครรภ์หรือตรวจครรภ์ให้ถือเป็นการลาคลอดด้วยเช่นกันโดยให้นับรวมสิทธิ์
การลาคลอดเกา้ สิบแปดวัน
4.3.8 พนักงานท่ีลาคลอดต้องยื่นใบลาล่วงหน้าอย่างน้อยเจ็ดวัน และต้องมีอายุครรภ์มาก กว่า 28
สัปดาห์ ( 7 เดือน ) ยกเว้นมีเหตุจาเป็นฉุกเฉินให้แจ้งบริษัทฯหรือผู้บังคับบัญชาทราบโดยวิธี
ใดวธิ ีหน่งึ ก็ได้
4.4 การลาเพ่ือทาหมนั
4.4.1 พนักงานมีสิทธิลาเพี่อทาหมัน และลาเน่ืองจากการทาหมันตามระยะเวลาท่ีแพทย์แผน
ปัจจบุ ันชัน้ หนึง่ กาหนดและออกใบรบั รอง
4.4.2 พนักงานท่ีประสงค์จะลาเพ่ือการนี้ ต้องย่ืนใบลาต่อผู้บังคับบัญชาล่วงหน้าอย่างน้อย 7 วัน
เมื่อได้รับอนุญาตแล้วจึงหยุดงานได้ ท้ังนี้พนักงานจะต้องยื่นใบรับรองแพทย์เพ่ือเป็น
หลักฐานประกอบการลาภายในวนั แรกที่กลับเขา้ ทางาน
4.4.3 การลาเพื่อทาหมันพนักงานทุกประเภทได้รับค่าจ้างตามปกติ ไม่เกินระยะเวลาที่แพทย์
กาหนดไว้
4.5 การลาเพ่ือเรียกระดมพล หรือการลาเพือ่ รบั ราชการทหาร
14
ในกรณีที่ทางราชการเรียกตัวพนักงานเข้ารับราชการทหารเพื่อตรวจสอบเพ่ือฝึกวิชาทหารหรือเพื่อทดลอง
ความพรั่งพร้อมตามกฎหมายว่าด้วยการรับราชการทหาร พนักงานผู้นั้นย่ืนใบลาตามระยะ เวลาที่กาหนดใน
หมายเรียก พร้อมหลักฐานทางราชการเสนอต่อบังคับบัญชาตามลาดับช้ันให้ทราบภายในเจ็ดวัน(7)นับจากวันท่ีได้รับ
หมายเรยี ก
4.5.1 บริษทั ฯจะจา่ ยคา่ จ้างให้ตามอตั ราปกติตามจานวนวันที่ลาแต่ไม่เกินหกสิบวัน (60)ในการลา
เพื่อเรยี กระดมพลแตล่ ะครั้ง/ปี
4.5.2 การลาไปเกณฑ์ทหารถือเป็นการลากิจไม่ใช่การลาเพ่ือเรียกระดมพลเน่ืองจากไม่ได้รับ
ราชการทหาร
4.5.3 การที่พนักงานไปเกณฑ์ ทหารและได้รับใบแดงหรือสมัครเข้ารับการเป็นทหาร ไม่ถือเป็น
การลาในขอ้ 4.8 นี้
4.5.4 กรณีพนักงานได้รับให้ไปเป็นทหารเกณฑ์ พนักงานต้องไปรับราชการทหารตามท่ีกฎหมาย
กาหนด พนักงานจะต้องลาออกจากการเป็นพนักงานก่อน แต่เมื่อปลดประจาการและ
ประสงค์ทีจ่ ะกลบั เขา้ ทางานกับบริษัทฯ บริษัทฯจะพิจารณารับกลับเข้าทางานหรือไม่ข้ึนอยู่
กับความประพฤติของพนักงาน ตลอดจนคุณสมบัติที่เหมาะสมสาหรับตาแหน่งที่ว่างอยู่
และจะไมน่ ับอายุการทางานต่อเน่ืองจากอายงุ านเดิม
4.6 การลาเพื่อฝึกอบรมและพฒั นาความรู้
ลูกจ้างมีสิทธิลาเพ่ือการฝึกอบรม พัฒนาความรู้ความสามารถตามหลักเกณฑ์และวิธีการท่ีกาหนดใน
กฎกระทรวง (ท้ังนี้ไม่เก่ียวเนอ่ื งกบั การลาเพอ่ื การศึกษาต่อ)
4.6.1 การลานพ้ี นกั งานตอ้ งไดร้ ับอนุมัตจิ ากผู้บังคบั บญั ชาแล้วจึงถอื วา่ การเป็นการลาทส่ี มบูรณ์
4.6.2 พนักงานที่ประสงค์จะลาเพื่อฝึกอบรมและพัฒนาความรู้จะต้องยื่นใบลาต่อผู้บังคับบัญชาไม่
นอ้ ยกว่า 7 วนั กอ่ นวันลาพร้อมทงั้ หลกั ฐาน ทเ่ี กี่ยวข้อง
4.6.3 พนักงานมีสิทธิลาเพื่อประโยชน์ต่อการแรงงานและสวัสดิการสังคม หรือการเพ่ิมทักษะ
ความชานาญเพื่อเพม่ิ ประสทิ ธภิ าพในการทางาน
4.6.4 การสอบวัดผลทางการศึกษาท่ีทางราชการจัด หรืออนุญาตให้จัดขึ้นแต่ไม่รวมไปถึงการลา
ศกึ ษาตอ่
4.6.5 การลาเพื่อฝึกอบรมและพัฒนาความรู้จะไม่มีผลต่อการพิจารณาขึ้นเงินเดือนประจาปี แต่
อาจจะถูกตัดสิทธิผลประโยชน์อ่ืนๆตามที่บริษัทฯกาหนดโดยไม่ขัดต่อกฎหมาย บริษัทฯขอ
สงวนสิทธิในการพิจารณาให้สิทธิผลประโยชน์อื่น ที่นอกเหนือให้ข้ึนอยู่กับความเหมาะสม
ของการบริหารจัดการ
4.6.6 การลาเพื่อฝึกอบรมและพัฒนาความรู้พนักงานทกุ ประเภทจะไม่ได้รับค่าจ้างเว้นแต่บริษัทส่ง
พนักงานไปฝึกอบรม
4.7 การลาอุปสมบท หรือการลาเพ่อื ประกอบพิธฮี ัจยข์ องอิสลาม
4.7.1 พนักงานชายที่ปฏิบัติงานครบ 1 ปี มีสิทธิขอลาเพื่ออุปสมบทตามประเพณีของ
พุทธศาสนิกชน ได้ไม่เกิน 15 วันปฏิทิน โดยรวมวันหยุดที่มีในระหว่างวันลาด้วย ท้ังน้ี
15
พนักงานจะต้องแจ้งและย่ืนใบลาล่วงหน้าต่อผู้บังคับบัญชาต้นสังกัด ไม่น้อยกว่า 15 วัน
เว้นแต่ กรณีอุปสมบทเพ่ืออุทิศส่วนกุศลอันเน่ืองมาจากการเสียชีวิตของบุพพการี (การบวช
หน้าไฟ)
4.7.2 หลังจากอุปสมบทแล้ว พนักงานจะต้องนาหลักฐานแสดงการอุปสมบทมามอบต่อ บริษัทฯ
ภายใน 7 วัน นับแตว่ ันกลบั มาทางาน หากไม่นาหลกั ฐานมามอบภายในระยะเวลาที่กาหนด
บริษทั ฯ อาจถือว่าการหยุดงานดังกล่าวเป็นการขาดงาน
4.7.3 ในทานองเดียวกัน พนักงานที่นับถอื ศาสนาอสิ ลาม มีสิทธิขอลาเพื่อเดินทางไปร่วมประกอบ
พธิ ีฮจั ย์ไดไ้ มเ่ กนิ 15 วนั ปฏิทิน โดยพนักงานตอ้ งแจ้งและย่ืนใบลาล่วงหน้าต่อผู้บังคับบัญชา
ต้นสังกดั ไม่นอ้ ยกว่า 15 วนั
4.7.4 หลงั จากเดินทางกลบั จากเดินทางไปประกอบพิธีฮจั ย์ ให้นาหลักฐานการเดินทางไปประกอบ
พิธีฮัจย์มามอบต่อบริษัทภายใน 7 วัน นับแต่วันกลับมาทางาน หากไม่นาหลักฐานมามอบ
ภายในระยะเวลาท่ีกาหนด บรษิ ัทฯอาจถือวา่ การลาเพอ่ื ประกอบพิธีฮัจยเ์ ปน็ การขาดงาน
4.7.5 บริษัทฯจะจ่ายค่าจ้างตามอัตราค่าจ้างปกติให้พนักงานที่ได้รับอนุมัติให้ลา ตามข้อ 7.7.1
และ 7.7.3 ตามจานวนวันที่ลาแต่ไม่เกิน 7 วัน วันลาส่วนท่ีเกิน 8 วัน พนักงานไม่มีสิทธิ
ได้รับค่าจา้ ง
5. การมาทางานสาย
พนักงานทุกคนต้องมาทางานตามท่ีบริษัทฯกาหนด ในกรณีท่ีพนักงานเข้าทางานสาย บริษัทฯ กา
อนุโลมให้สายได้ไม่เกิน 3 คร้ัง ครั้งละไม่เกิน 15 นาที โดยท้ังนี้ทางฝ่ายทรัพยากรบุคคล จะสรุปจานวนการมาสาย
ท้ังปีแจ้งให้พนักงานทราบเพื่อนาไปคานวณและจะมีผลต่อการพิจารณาปรับค่าจ้างประจาปี จะถูกตัดสิทธิการได้รับ
ผลประโยชน์ อ่ืนๆตามที่บริษัทกาหนด การมาทางานสาย ทางบริษัทมีสิทธ์ิไม่จ่ายค่าจ้างในช่วงเวลาที่สายตาม
ประมวลกฎหมายแพง่ และพาณชิ ย์ ลกั ษณะ 6 การจ้างแรงงาน มาตรา 575
6. การขาดงาน
ในกรณีท่ีพนักงานหยดุ งานโดยไมไ่ ดแ้ จ้งให้บรษิ ัทฯทราบ หรือหยุดงานโดยไม่ได้ขออนุญาตจากผู้บังคับบัญชา
รวมถึงการมาทางานไม่ตรงหรือไม่ครบตามเวลาท่ีกาหนด เช่น มาทางานสายหรือมาทางานช้าหรือเลิกงานก่อนเวลา
โดยไม่ได้รับอนุญาต หรือหยุดงานโดยไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์การลาและไม่มีเหตุผลอันสมควรรวมถึงการไม่ปฏิบัติ
ตามประเภทการลาตามท่ีกลา่ วมา บริษัทฯจะถอื ว่าพนักงานผู้น้นั ขาดงาน และจะได้รับโทษทางวินัยตามข้ันตอนจนถึง
ข้ันเลิกจ้างโดยไม่ได้รับค่าชดเชยหรือค่าเสียหายใด ๆ ตามแต่กรณี การขาดงานบริษัทฯจะไม่จ่ายค่าจ้าง จะมีผลต่อ
การพิจารณาปรบั คา่ จ้างประจาปี จะถกู ตดั สทิ ธิการได้รับผลประโยชนอ์ ื่นๆตามทบ่ี รษิ ทั กาหนด
7. การลาออกจากการเป็นพนกั งาน
7.1 พนักงานทุกประเภทที่ประสงค์จะลาออกจะต้องย่ืนใบลาออกเพ่ือขออนุมัติจาก
ผบู้ ังคับบัญชาล่วงหนา้ อยา่ งนอ้ ยสามสิบวนั (30)
16
7.2 ในกรณีที่พนักงานลาออกไม่ถูกต้องตามระเบียบ หรือมีหนี้สินคงค้างอยู่กับบริษัทฯ หรือ
สะสางปัญหาสะสางงานยังไม่แล้วเสร็จ หรือยังไม่มีผู้ปฏิบัติงานแทนในหน้าที่นั้น บริษัทฯ
อาจเชญิ พนักงานเขา้ มาสานกั งานใหญ่เพ่ือชาระหนสี้ นิ คงค้างดงั กล่าว
7.3 ในกรณีมีเหตุฉุกเฉินพนักงานมีความจาเป็นต้องลาออกกะทันหัน ถ้าไม่มีผลกระทบต่องาน
หรือไม่มีปัญหาค้างคา ก็ให้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้บังคับบัญชาว่าจะอนุมัติการลาออก
หรือไม่
7.4 พนักงานท่ีลาออกไม่ถูกต้องตามระเบียบและมีปัญหาในการทางาน บริษัทฯจะไม่พิจารณา
รบั กลับเขา้ ทางานอีก
7.5 ในชว่ งเวลาระหว่างนับจากวันที่ยื่นใบลาออกจนถึงวันที่ลาออก บริษัทฯสงวนสิทธิ์อาจจะไม่
จา่ ยเงินค่าจ้างในวนั ลาประเภทต่างๆ ถา้ ปรากฏว่าพนักงานท่ีลาออกมีพฤติกรรมในการหยุด
งาน ไมม่ เี หตุผลอันสมควรหรอื ไม่ปฏบิ ัตติ ามกฎระเบียบการลาของบริษัทฯ
17
หมวดที่ 7
การหักค่าจา้ ง และ หลกั เกณฑ์การเสียภาษีเงนิ ได้
1. การหกั คา่ จ้าง บริษทั ฯ จะหักค่าจา้ งของพนกั งานในกรณดี ังตอ่ ไปนี้
1.1 ชาระภาษีเงินได้ตามจานวนที่พนักงานต้องจ่าย โดยทางบริษัทฯ จะหักเงินทุกงวดเงินเดือนที่มีการ
จา่ ยเงินใหแ้ กพ่ นักงาน โดยคดิ คานวณจากหลักฐานที่พนักงานส่งมอบให้กับบริษัทฯ และหากปรากฏ
วา่ มภี าษีท่กี รมสรรพากรจะต้องเรียกเก็บเพิ่มเติม พนักงานมีหน้าที่ตามกฎหมาย ในการชาระภาษีใน
ส่วนที่เพิ่มเติม แต่ถ้ามีเงินภาษีที่จะได้รับคืน พนักงานก็มีสิทธิโดยชอบท่ีจะได้รับภาษีท่ีจ่ายเกินคืน
และหรือบริษัทฯ มีสิทธิท่ีจะทาการหักเงินค่าจ้าง ค่าล่วงเวลา ค่าทางานในวันหยุด ค่าล่วงเวลาใน
วันหยุดและเงินผลประโยชน์อ่ืนเน่ืองในการจ้าง เพื่อจ่ายเข้ากองทุนประกันสังคม กองทุนสารอง
เล้ียงชีพ กองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง หรือกองทุนอื่นใดท่ีกฎหมายกาหนด รวมท้ังการจ่ายหรือชาระ
เงนิ อน่ื ๆ ตามท่กี ฎหมายบัญญตั ไิ ว้
1.2 เงนิ ทกี่ รมบังคับคดีมคี าสั่งให้นายจา้ งหกั ค่าจ้างพนักงานนาส่งกรมบงั คับคดี
2. หลกั เกณฑ์การเสียภาษเี งนิ ได้
2.1 เงินได้ทุกประเภทของพนักงาน พนักงานจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบจ่ายเงินเสียภาษีเงินได้เอง โดย
บรษิ ทั ฯ จะเปน็ ผหู้ ักภาษี ณ ทีจ่ า่ ยตามประมวลกฎหมายมาตรา 40 (1), (2)
2.2 พนักงานจะเสียภาษีเงินได้มาก หรือ น้อยข้ึนอยู่กับรายได้และสิทธิการหักลดหย่อนของพนักงานแต่
ละคนซง่ึ อาจจะไม่เท่ากนั
2.3 หลังจากส้ินปีปฏิทินแต่ละปี บริษัทฯจะออกหนังสือรับรองการหักภาษี(50ทวิ)ให้กับพนักงานแต่ละ
คน
2.4 การยน่ื แบบเสียภาษปี ระจาปี เปน็ หนา้ ทค่ี วามรบั ผดิ ชอบของพนกั งานแต่ละคนที่ต้องเป็นผูย้ นื่ แบบ
เสียภาษดี ว้ ยตนเอง
18
หมวดที่ 8
ระเบยี บข้อบังคับทางวินัย
1. วินยั เกยี่ วกับการทางาน
พนักงานทุกคนต้องรักษาและปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับของบริษัทฯอย่างเคร่งครัดจะต้องไม่ฝ่าฝืนหรือ
หลกี เล่ียงหรอื ละเลยต่อระเบียบข้อบังคับ ประกาศ และคาสั่งของบรษิ ทั ฯ
1.1 พนักงานต้องมาทางานและเลิกงานพร้อมท้ังบันทึกเวลาทางานตามที่บริษัทฯกาหนดไว้ ต้องไม่มา
ทางานช้ากว่าเวลาเร่มิ งานและไม่กลับก่อนเวลาเลิกงาน
1.2 ห้ามพนักงานบนั ทกึ เวลาทางานแทนกันโดยเดด็ ขาด
1.3 พนกั งานต้องแตง่ กายตามแบบฟอรม์ ท่ีบริษทั ฯกาหนด
1.4 พนกั งานต้องปฏิบัตหิ น้าท่ีดว้ ยความซอื่ สัตย์สจุ ริต ห้ามทุจริตต่อหน้าทไ่ี มว่ ่าจะด้วยกรณีใด ๆกต็ าม
1.5 พนกั งานตอ้ งปฏิบัติงานในหนา้ ทีข่ องตนที่ได้รับมอบหมายอยา่ งสุดความสามารถ เพื่อให้เกิดผลดีและ
เกดิ ความกา้ วหนา้ แก่กจิ การของบรษิ ทั ฯและตัวพนักงานเอง
1.6 พนักงานตอ้ งสนับสนุน และร่วมมือกับการดาเนินกิจการของบริษัทฯอย่างสม่าเสมอ โดยต้องทางาน
ด้วยความขยนั ขนั แข็งไมป่ ฏิบัติงานให้ล่าช้าโดยเจตนา และต้องช่วยเหลือการปฏิบัติงานของบริษัทฯ
ตามหนา้ ท่ีท่ไี ดร้ บั มอบหมาย
1.7 พนกั งานตอ้ งสนใจเมื่อมีเหตุการณ์อย่างหนึ่งอย่างใดในการทางาน อันจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่
ทรพั ย์สนิ และชือ่ เสียงของบริษทั ฯ ตอ้ งพยายามแกไ้ ขหรือบรรเทาความเสียหายและจะต้องรายงาน
ให้ผู้บังคับบญั ชาทราบทันที
1.8 พนักงานต้องยินดีทุ่มเทและอุทิศเวลาทางานให้กับบริษัทฯ ทั้งในและนอกเวลาทางานตามหน้าท่ี
ปกติ ตามความจาเป็นและตามควรแก่หน้าท่ีทรี่ ับผดิ ชอบ
1.9 พนักงานตอ้ งทางานด้วยความตง้ั ใจมคี วามสามัคคีกลมเกลียว ให้ความช่วยเหลือร่วมมือประสานงาน
กนั เพ่อื ให้การทางานมีประสทิ ธิภาพและสาเรจ็ ด้วยดี
1.10พนักงานต้องพร้อมเสมอและยินดีท่ีจะปฏิบัติตามคาสั่งให้มีการโยกย้าย และสับเปลี่ยนตาแหน่ง
หน้าทีก่ ารงานในบรษิ ทั ฯ และบริษทั ฯ ในเครอื ตามแตบ่ ริษัทฯจะเห็นสมควร
1.11พนักงานต้องมีหน้าท่ีติดตามสนใจรับทราบข่าวสารเก่ียวกับข้อปฏิบัติ คาสั่ง ระเบียบ หรือประกาศ
ต่างๆของบริษัทฯ ท่ีปิดประกาศให้พนักงานทราบทั่วถึงกัน ณ ท่ีบอร์ดประกาศหรือประชาสัมพันธ์
ด้วยระบบการส่ือสารใดๆของบรษิ ทั ฯ โดยพนกั งานจะปฏิเสธว่าไม่ทราบไม่ได้
1.12ทุกคร้ังท่ีมีการเปล่ียนแปลงข้อมูลท่ีอยู่และสถานะส่วนตนของพนักงาน เช่น การสมรส การมีบุตร
บัตรประชาชนหมดอายุ เปล่ียนแปลง ชื่อ-นามสกุล ฯลฯ พนักงานต้องแจ้งให้บริษัทฯทราบ พร้อม
ยื่นหลกั ฐานทเ่ี จ้าหนา้ ท่แี ผนกทรพั ยากรบุคคลภายในสบิ ห้าวัน(15)
1.13พนักงานท่ีหยุดงานต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์การหยุดงานหรือหลักเกณฑ์การลางานทุกครั้ง หากไม่
ปฏิบัติตามถอื ว่าขาดงาน ขาดงานตดิ ตอ่ กันสามวนั ถึงแม้จะมีวันหยุดค่ันก็ตาม บริษัทฯจะทาการ
เลิกจา้ งทันที
19
1.14หากพนักงานเจ็บปว่ ย หรือมีกิจธุระฉกุ เฉินมาปฏิบัติงานไม่ได้ จะต้องแจ้งให้ผู้บังคับบัญชาหรือบริษัท
ฯ ทราบโดยทางโทรศพั ท์ หรือจะต้องแจ้งโดยวิธีใดวิธีหน่ึง และให้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์การลาหรือ
หยดุ งาน ในวนั แรกท่ีกลบั มาทางาน
1.15การมาสายจะต้องรายงานตวั ต่อผบู้ ังคบั บัญชาของตนและให้รีบดาเนินการลางานตามหลักเกณฑ์การ
มาสายหรือมาทางานช้าทันที ถ้ามาสายเกินสามสิบนาที ผู้บังคับบัญชาอาจไม่อนุญาตให้เข้า
ปฏบิ ัตงิ านได้
1.16ห้ามพนักงานแจ้งความหรือให้ข้อความใดๆ อันเป็นเท็จต่อบริษัท และผู้บังคับบัญชา ไม่ว่าการแจ้ง
เท็จนั้นจะมผี ลตอ่ บรษิ ัทหรอื ไมก่ ต็ าม
1.17หา้ มไมใ่ หพ้ นักงานแสวงหาผลประโยชน์อันมคิ วรได้ในกิจการของบริษัทฯ หรอื อาศัยหน้าที่การงานท่ี
ทากับบริษทั ฯไปแสวงหาผลประโยชน์สว่ นตวั
1.18ห้ามพนักงานออกไปนอกสถานท่ีทางานในเวลาทางาน เว้นแต่ออกไปเพื่อทาธุรกิจของบริษัทฯ หรือ
ไดร้ ับอนญุ าตจากผู้บงั คับบญั ชาระดับสงู มฉิ ะนัน้ จะถือวา่ เปน็ การละทง้ิ หนา้ ที่และขาดงาน
1.19พนักงานต้องเชื่อฟังและปฏบิ ตั ติ ามคาสัง่ ของผู้บังคับบัญชาอันชอบธรรมถกู ต้องตามกฎหมาย จะต้อง
ไม่แสดงอาการหยาบคาย ก้าวร้าว หรือ กระด้างกระเดื่องต่อผู้บังคับบัญชาและระดับท่ีสูงกว่าตาม
Level
1.20ห้ามแสดงกริยา - ข่มขู่ - ทาให้กลัว – อาฆาต - หรือทาร้ายร่างกาย เพื่อนร่วมงาน - หัวหน้างาน
หรือผู้บงั คับ บัญชาในชวั่ โมงการทางานหรอื นอกเวลาทางาน
1.21ผู้บังคับบัญชาทุกระดับ ต้องรับผิดชอบดูแลพนักงานในบังคับบัญชาของตนให้ปฏิบัติตามข้อบังคับ
เก่ียวกับการทางานของบริษัทฯโดยเคร่งครัดและสม่าเสมอ หากมีการปฏิบัติผิดต่อระเบียบวินัย
ข้อบังคบั ให้อบรม ตักเตือน ลงโทษทางวนิ ัยหรือรายงานใหผ้ บู้ งั คับบัญชาระดบั สูงข้นึ ไปทราบทันที
1.22ห้ามพนักงานให้ หรือ ส่งข้อความ หรือเปิดเผยความลับเก่ียวกับผลประโยชน์ของบริษัทฯ แก่
บคุ คลอน่ื อันเปน็ เหตุให้เกิดความเสยี หายเกยี่ วกับบรษิ ัท หรอื การดาเนินกิจการของบรษิ ทั ฯ
1.23ห้ามพนักงาน ขูด ลบ ขีด ฆ่า ต่อเติม แก้ไข เคลื่อนย้าย หรือทาลายประกาศ หรือคาส่ังต่างๆ ของ
บรษิ ทั ฯ
1.24ห้ามพนักงาน ปิดป้าย นัดพบ ประชุม ชุมนุม จัดต้ังกลุ่มเพื่อการอภิปรายหรือประท้วงภายใน
บริษัทฯ รวมทั้งแจกเอกสาร หรือสิ่งตีพิมพ์ อันจะนามาซึ่งความวุ่นวาย ต่อการดาเนินกิจการของ
บริษทั ฯ
1.25ห้ามพนกั งานทาการนัดหยุดงานโดยฝ่าฝนื ตอ่ พระราชบญั ญตั แิ รงงานสมั พนั ธ์ และกฎหมายแรงงาน
1.26ห้ามพูดคุยกันในเรื่องที่ไม่เก่ียวข้องกับหน้าที่การงาน ห้ามเอะอะโวยวาย ส่งเสียงดัง หยอกล้อเล่น
กัน นัง่ เล่น อูง้ านและแอบหลับในเวลาปฏิบัตงิ าน
1.27ต้องไม่มีเจตนาปฏิบัติงานให้ล่าชา้ ละทงิ้ หนา้ ที่ ละเลยหรอื เลี่ยงการทางานโดยไม่มเี หตุผลอนั ควร
20
2. วินยั เก่ียวกับความประพฤติ
2.1 หา้ มพนักงานใชก้ ิรยิ าวาจาหยาบคายไมส่ ุภาพหรอื กล่าวถ้อยคาท่ีอาจทาให้ผู้อนื่ ไดร้ บั ความอับอาย
ขายหน้า และหา้ มกลา่ ววาจาสอ่ เสยี ดยยุ งส่งเสริม หรือแพรข่ ่าวอกศุ ลใหร้ ้ายผู้อืน่ ซึ่งจะเป็นเหตใุ ห้
เกิดความเสียหายแก่บรษิ ัทฯ และเกดิ ความแตกแยกความสามคั คีในหมู่คณะ
2.2 หา้ มพนักงานก่อการทะเลาะวิวาท หรอื ใช้กาลังเข้าทารา้ ยซ่งึ กนั และกันท้ังในและนอกเวลาทางาน
ทั้งภายในและภายนออกบริษัทฯ รวมถงึ ณ สถานท่ีหอพัก บนยานพาหนะรบั -ส่งของบริษทั ฯ หรอื
สถานท่ใี ดๆทีถ่ ือเปน็ หน่วยงานหรือสถานที่ทางานของบริษัทฯ
2.3 ห้ามพนักงานเล่นการพนันดื่มสุรายาเมาสารเสพติด หรือจาหน่ายสารเสพติดของมึนเมาทุกชนิด
รวมถึงห้ามนาสิ่งผิดกฎหมายทุกชนิดเข้าในบริเวณโรงงานรวมถึง ณ สถานที่หอพัก บนยานพาหนะ
รับ-ส่งของบริษัทฯ หรือ สถานที่ใดๆที่ถือเป็นหน่วยงานหรือสถานที่ทางานของบริษัทฯ ทั้งในและ
นอกเวลาทางาน
2.4 ห้ามพนักงานลักขโมย หยิบฉวย ทรัพย์สินของบริษัทฯ หรือของผู้อื่นไปใช้ส่วนตัว หรือนาออก
นอกบรเิ วณบริษัทฯ โดยไมไ่ ด้รับอนญุ าต
2.5 ห้ามพนักงานกระทาการใดๆไปในทางซ่ึงจะนาความเสื่อมเสียเดือดร้อนมาสู่หมู่คณะและบริษัทฯ ไม่
วา่ ทางแพ่งหรือทางอาญาก็ตาม
2.6 ห้ามพนักงานมีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวหรือกระทาการใดๆ ที่ผิดศีลธรรมขนบธรรมเนียมจารีต
ประเพณี ผดิ กฎหมาย หรอื กระทาเรอื่ งท่อี ้ือฉาว ทาให้เส่ือมเสยี ชอ่ื เสียงต่อผู้อน่ื หรือบริษัทฯ
2.7 หา้ มนาหนงั สือภาพลามกอนาจารเข้ามาบรเิ วณหนว่ ยงาน
2.8 ห้ามบ้วนน้าลาย เสมหะ ทิ้งเศษขยะ หรือการกระทาใดๆ อันทาให้เกิดความสกปรก ในบริเวณ
หนว่ ยงาน
2.9 หา้ มปลอ่ ยเงินกเู้ รียกเกบ็ ดอกเบ้ียสงู กวา่ กฎหมายกาหนดและไม่เป็นธรรม
2.10ห้ามพนักงานจัดต้ังหรือมีส่วนร่วม วงแชร์ หรือจะเรียกช่ืออ่ืนก็ตาม ท่ีมีลักษณะการหมุนเงิน เพื่อทั้ง
ท่ที าใหเ้ กดิ เกิดดอกเบย้ี หรือไม่ก็ตาม
2.11ต้องไมผ่ ่าฝนื หลกี เล่ยี ง ขัดขนื หรือละเลยเพิกเฉยต่อกฎข้อบังคับระเบียบสัญญาจ้างแรงงานประกาศ
หรือคาสั่งของบริษัท ฯ รวมท้ังคาส่ังอันชอบด้วยกฎหมาย และชอบด้วยหน้าที่การบังคับบัญชาต่อ
ผู้บงั คบั บัญชาหรอื ไมใ่ ห้ความร่วมมือในการปฏบิ ตั ิงาน
2.12ต้องไม่นาหรือพกพาอาวุธใด ๆ หรือวตั ถรุ ะเบิดเขา้ มาในบริเวณหน่วยงาน
2.13ต้องไมป่ ระพฤติชวั่ ช้าจนเป็นที่รังเกียจของสังคม ประพฤติตนเป็นอันธพาล หรือกระทาการใด ๆ อัน
ส่อใหเ้ ห็นว่าเสื่อมเสียในด้านศีลธรรม
3. วินยั เกีย่ วกบั การรกั ษาทรัพย์สนิ นโยบายสง่ิ แวดล้อม และนโยบายคณุ ภาพ
3.1 พนักงานต้องปฏบิ ตั ิตนตามกฎหรอื คมู่ ือของความปลอดภยั ในการทางาน
3.2 พนกั งานต้องปฏบิ ตั ิตามนโยบายส่งิ แวดล้อมตามที่บรษิ ทั ฯ กาหนด
21
3.3 พนกั งานต้องปฏบิ ัติตามนโยบายคุณภาพตามท่ีบริษัทฯกาหนด
3.4 ห้ามสูบบุหรี่ในบริเวณห้ามสูบโดยเด็ดขาด (สูบได้เฉพาะบริเวณท่ีบริษัทฯ หรือพ้ืนที่ ที่หน่วยงาน
กาหนดใหเ้ ทา่ นน้ั )
3.5 ต้องไม่กระทาการใดๆ โดยเจตนา หรือประมาทเลินเล่อ หรือขาดความรอบคอบ อันเป็นผลให้ผู้อ่ืน
หรอื บริษทั ฯได้รับความเสียหายหรือเป็นเหตไุ ด้รับอันตราย
3.6 ห้ามพนักงานปฏิบัติงานในขณะท่ีมีอาการมึนเมา หรือขาดสติสัมปชัญญะ หรือเข้ามาในบริเวณ
บริษัทฯ ในลักษณะอาการมนึ เมาโดยเดด็ ขาด
3.7 พนักงานต้องรักษาความสะอาด และความเป็นระเบียบเรียบร้อยตลอดจนดูแลอุปกรณ์เคร่ืองมือ
เคร่ืองใช้ เคร่ืองจักรและทรัพย์สินของบริษัทฯ ที่ตนใช้เป็นประจาให้อยู่ในสภาพเรียบร้อยพร้อมใช้
งานอยู่เสมอ
3.8 การเข้า-ออกหน่วยงานจะต้องเข้า-ออกที่ประตูท่ีกาหนดไว้และจะต้องแสดงบัตรประจาตัวพนักงาน
ทุกครง้ั
3.9 พนักงานต้องไม่ทาลาย หรือทาให้เสียหายซ่ึง เคร่ืองมือ เครื่องใช้ เคร่ืองจักร หรือทรัพย์สินของ
บรษิ ทั ฯ และ ไมน่ าไปใช้เพ่อื ประโยชน์ส่วนตวั หรือ เพื่อประโยชนผ์ ูอ้ น่ื โดยไม่ได้รับอนญุ าต
3.10พนักงานต้องช่วยกันระมัดระวัง และป้องกันทรัพย์สินของบริษัทฯ ท้ังในบริเวณที่ทางาน และใน
หน่วยงาน โดยไม่ให้เสียหายจากการทางาน หรือเสียหายจากบุคคลใด ๆ หรือภัยพิบัติเท่าท่ี
สามารถจะกระทาได้
3.11ห้ามพนกั งานนาบุคคลภายนอกเข้ามาในบริเวณหน่วยงาน
3.12ต้องรายงานถึงการทุจริตหรือพฤติกรรมอันอาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่บริษัท ให้ผู้บังคับบัญชา
ทราบในโอกาสแรกท่ีตนทราบ
3.13ต้องไมเ่ ปดิ เผยเรอื่ งอนั ถือเปน็ ความลบั เกี่ยวกับกจิ การของบริษัท ฯ
3.14ต้องไมจ่ งใจทาใหน้ ายจ้างไดร้ ับความเสยี หาย ไมว่ า่ กรณีใด ๆ
3.15ต้องไม่กระทาการใด ๆ อันจะเป็นการเสื่อมเสียต่อชื่อเสียงของบริษัท ฯ หรือก่อความเสียหายต่อ
ทรพั ยส์ นิ ของบริษัท ฯ โดยเจตนา หรอื โดยประมาท
3.16ไมท่ าลาย ตอ่ เตมิ หรือแก้ไขข้อความในประกาศ หรือแผ่นป้ายของบริษัท ฯ หรือประกาศของผู้อ่ืนซ่ึง
ไดร้ บั อนญุ าตให้ประกาศบนทต่ี ิดประกาศของบรษิ ัท ฯ
3.17พนักงานผ้หู ญิงหากทราบว่าตนเองได้ต้ังครรภต์ อ้ งแจง้ ให้ผู้บงั คบั บัญชาทราบ เพ่ือบริษัทฯจะได้จัดหา
งานท่เี หมาะสมใหท้ า
3.18ห้ามไม่ให้หญิงท่ีต้ังครรภ์ทางานล่วงเวลา ทางานในวันหยุด หากพนักงานได้ทราบแล้วว่าตนได้
ต้ังครรภ์ แต่ไม่แจ้งให้ผู้บังคับบัญชาทราบ บริษัทฯไม่รับผิดชอบในเหตุอันตรายท่ีเกิดข้ึนกับสภาวะ
การต้งั ครรภ์
4. ความปลอดภัยในการทางาน
4.1 พนักงานจะต้องปฏิบัตติ ามกฎแห่งความปลอดภยั อย่างเคร่งคดั
22
4.2 พนักงานจะต้องสวมเคร่ืองแบบและใส่อุปกรณ์ป้องกันอันตรายท่ีบริษัท ได้จัดไว้ให้แก่พนักงานตาม
งานท่ีทา
4.3 กอ่ นทางาน พนกั งานต้องตรวจดคู วามเรยี บร้อยของเคร่ืองจักร หากพบว่ามีความชารุดหรือบกพร่อง
พนักงานมีหนา้ ทีแ่ จ้งใหผ้ บู้ ังคบั บญั ชารบั ทราบโดยด่วน
4.4 พนักงานต้องรักษาความสะอาดในพ้ืนที่ทางานให้เป็นระเบียบ ห้ามวางส่ิงของกีดขวางสถานที่ติดตั้ง
อปุ กรณ์ดับเพลิง
4.5 พนกั งานตอ้ งไมส่ บู บุหร่ีภายในบรเิ วณหนว่ ยงาน
4.6 ให้เกบ็ เชื้อเพลงิ วตั ถุไวไฟและวัตถอุ ันตรายไว้ในพื้นที่ทบ่ี รษิ ัทกาหนดไว้เท่าน้ัน
5. ความผดิ ทางวินยั ต่อไปนีถ้ อื เป็นความผิดทางวนิ ัยร้ายแรงถงึ ขนั้ เลกิ จา้ งโดยไม่จาเปน็ ต้องบอกกล่าว
ลว่ งหน้าและไมจ่ า่ ยคา่ เสียหายหรอื ค่าชดเชยใดๆท้ังสิน้
5.1 ทุจริตต่อหน้าทีห่ รือแสวงหาผลประโยชน์สาหรับตนเองหรอื ผอู้ ่นื อนั กอ่ ใหเ้ กดิ ความเสยี หายแก่บริษัท
ฯ ทงั้ คดแี พง่ หรอื คดอี าญาโดยเจตนาตอ่ บรษิ ัทฯ
5.2 จงใจทาลายทรพั ยส์ ินของบริษทั ฯ เป็นเหตทุ าใหบ้ รษิ ทั ฯได้รับความเสียหาย
5.3 ฝ่าฝนื ระเบยี บข้อบังคับเก่ียวกบั การทางาน หรอื คาส่ังอันชอบด้วยกฎหมายและระเบียบของบริษัทฯ
และบริษัทฯ ได้ตักเตือนเป็นหนังสือลายลักษณ์อักษรแล้วตามหมวดการลงโทษทางวินัย ยกเว้นการ
ฝ่าฝนื นนั้ เปน็ กรณที ่ีรา้ ยแรงซ่ึงบรษิ ัทฯไมจ่ าเปน็ ตอ้ งตกั เตือน
5.4 ละทิง้ หน้าทก่ี ารงานเปน็ เวลาสามวนั ทางานติดต่อกัน ไมว่ ่าจะมวี นั หยุดค่นั หรอื ไม่ก็ตาม
5.5 ประมาทเลินเลอ่ จนเป็นเหตใุ ห้บรษิ ัทฯ ไดร้ บั ความเสยี หายอย่างรา้ ยแรง
5.6 กระทาผิดกฎหมายจนได้รับโทษตามคาพิพากษาถึงที่สุดให้จาคุก เว้นแต่เป็นโทษที่ได้กระทาโดย
ความประมาท หรอื ความผิดฐานลหุโทษ
5.7 ดื่มสรุ า หรอื เสพเครอ่ื งดองของเมาในบรเิ วณบริษัทฯ หรือปฏิบัติงานขณะท่ีอยู่ภายใต้อิทธิพลของสิ่ง
มึนเมาหรอื สารเสพตดิ
5.8 สูบบหุ รใี่ นสถานทหี่ า้ มสูบบุหรี(่ สูบได้เฉพาะบรเิ วณทีบ่ ริษทั ฯ หรือพนื้ ท่ีหน่วยงานกาหนดใหเ้ ทา่ นั้น)
5.9 นาส่ิงผดิ กฎหมายหรืออาวธุ เข้ามาในบริเวณของบรษิ ัทฯ
5.10เล่นการพนนั หรือรู้เห็นเปน็ ใจในการเลน่ การพนันทุกประเภท ท้ังในบริเวณบริษัทฯ หรือสถานท่ีใดๆ
ทถ่ี ือเป็นหน่วยงานหรอื สถานทีท่ างานของบรษิ ัทฯหรือมสี ่วนเกย่ี วข้องไมว่ า่ จะโดยตรงหรือโดยอ้อม
5.11นาหรอื พกพาอาวุธ หรือวตั ถรุ ะเบดิ เขา้ มาในบรเิ วณของบริษทั ฯ โดยไม่ไดร้ บั อนุญาต
5.12ก่อการทะเลาะวิวาท หรือทาร้ายร่างกาย หรือพยายามทาร้ายร่างกายต่อบุคคลใดๆ ในบริเวณของ
บรษิ ัทฯ หรอื สถานทใี่ ดๆทถี่ อื เป็นหนว่ ยงานหรือสถานท่ที างานของบริษัทฯ
5.13ใช้แสดงกิริยาวาจา ข่มขู่ ดูหมิ่น ท้าทาย อาฆาต หรือพยายามทาร้ายร่างกายผู้ควบคุมงาน หรือ
พนกั งานระดบั บังคบั บญั ชาที่บริษทั ฯ มอบหมายให้สง่ั งานอันชอบดว้ ยกฎหมาย
5.14สมยอมให้ผู้อื่นหรือตนเองบันทึกเวลาแทน แก้ไข หรือปลอมแปลงการบันทึกลงเวลาทางาน เพ่ือ
ประโยชนข์ องตนเองหรือผู้อ่ืน
23
5.15 ขูดลบขีดฆ่าเพิ่มเติมหรือทาลายบัตรลงเวลาหรือสมุดบันทึกเวลาทางานของพนักงานทั้งของตนและ
ผอู้ ื่น
5.16เปดิ เผยความลบั ความรู้ หรอื ข่าวสารธรุ กจิ อน่ื ๆ หรือให้หลกั ฐานเทจ็ แกบ่ รษิ ัทฯ
5.17เข้าไปมีส่วนร่วมในการดาเนินการไม่ว่าจะโดยตรงหรือโดยอ้อมกับการประกอบการอื่นใด ท่ีมี
ลักษณะเปน็ การแข่งขนั โดยตรงหรอื โดยออ้ ม หรือเป็นการขัดผลประโยชนข์ องบริษัทฯ
5.18กระทาความผดิ ฐานช้สู าว ทาลามก อนาจาร ผดิ ศลี ธรรม ขนบธรรมเนยี ม จารีตประเพณีอันดีงาม
5.19บนั ทกึ เวลาทางานแทนกัน
5.20ลกั ขโมยทรพั ยส์ นิ ของบริษัทฯหรอื ของเพอ่ื นร่วมงาน หรือของลกู คา้ ผ้มู าตดิ ต่องานกบั บรษิ ัทฯ
5.21ประพฤตติ นเป็นผชู้ ้ีเบาะแส หรอื ชักนาให้บุคคลใดบุคคลหนึ่งเขา้ มาทาขโมยหรือทาลายทรัพย์สินของ
บรษิ ัทฯ หรอื ของพนักงานหรอื ของลูกค้าของบริษทั ฯ
5.22ยุยงหรือพูดให้ร้ายบริษทั ฯหรือเพ่อื นร่วมงาน ทาให้เกิดความแตกแยกภายในบรษิ ัทหรือกับหน่วยงาน
หรือบุคคลภายนอกท่ีมีความเก่ียวพันกับทางบริษัทฯห้ามปล่อยเงินกู้เรียกเก็บดอกเบ้ียสูงกว่า
กฎหมายกาหนดและไมเ่ ปน็ ธรรม
5.23จัดตั้งหรือมีส่วนร่วม วงแชร์ หรือจะเรียกชื่ออ่ืนก็ตาม ที่มีลักษณะการหมุนเงิน เพื่อท้ังท่ีทาให้
เกดิ เกดิ ดอกเบีย้ หรือไมก่ ต็ าม
5.24 ไม่รายงานการปฏบิ ตั ิงาน หรือละเวน้ /ละเลย/ไม่รับผิดชอบ การปฏบิ ตั ิหน้าที่ ท่ีไดร้ ับมอบหมายและ
หรอื เป็นงานที่ต้องปฏบิ ัตอิ ยเู่ ป็นประจา
5.25 ให้ขอ้ มูลอนั เป็นเท็จ แก่ผบู้ งั คับบญั ชาหรอื บรษิ ัทฯ
5.26
6. บุคคลเหลา่ น้ีอาจถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าหนว่ ยงาน หรืออาจถูกใหอ้ อกจากการเปน็ พนักงานได้
6.1 ผูท้ ี่เสพสรุ ามีอาการมึนเมา
6.2 ผู้ที่ติดยาเสพติดร้ายแรงทุกประเภท
6.3 ผู้ท่ีปว่ ยเปน็ โรคติดต่อ
6.4 ผทู้ ม่ี สี ตไิ มส่ มประกอบ คนบา้ หรอื โรคจิตร
6.5 ผทู้ ม่ี วี ตั ถอุ นั ตราย เช่น พกพาอาวุธ หรือวัตถเุ ช้อื เพลิงติดตัวมา
6.6 ผทู้ ไ่ี ม่ยอมให้ตรวจคน้ รา่ งกายก่อนเข้า- ออกบรษิ ัทฯ
6.7 ผทู้ แ่ี ต่งกายไมถ่ ูกตอ้ งตามระเบียบบริษทั ฯ
6.8 ผทู้ ม่ี าทางานชา้ เกินเวลาที่กาหนดโดยไม่มีเหตผุ ลอันสมควร
6.9 ผทู้ ี่ ขาดงาน หรือมีการลาอย่เู ป็นประจาตดิ ตอ่ กนั หรอื ไม่ก็ตาม
6.10ผู้ที่เข้าข่ายน่าสงสัยอาจก่อให้เกิดความเสียหาย หรือ อาจสร้างความปั่นป่วนก่อให้เกิดความไม่สงบ
เรยี บร้อยในโรงงาน
6.11ผ้ทู ่เี คยถูกให้พน้ จากสภาพการเปน็ พนกั งาน อนั เนอ่ื งมาจากมคี วามผิดทางวนิ ัยรา้ ยแรง
24
หมวดท่ี 9
โทษทางวินยั และการพ้นสภาพการเป็นพนักงาน
เพ่อื รกั ษาไว้ซงึ่ ระเบียบขอ้ บงั คับ และวินัยเก่ียวกับการปฏิบัติงานของบริษัทฯพนักงานคนใดฝ่าฝืน ระเบียบ
ข้อบังคบั ของบริษทั ฯ จะถกู ดาเนินการลงโทษทางวินยั ตามผลกระทบท่ีทางบรษิ ัทไดร้ ับ ดงั นี้
1. ตักเตือนดว้ ยวาจาโดยมีการบันทึกไวเ้ ปน็ หนังสือลายลักษณ์อกั ษร
2. ตกั เตือนเป็นหนังสือลายลกั ษณอ์ กั ษร
3. พักงานโดยไมจ่ ่ายคา่ จ้างและไม่จ่ายสทิ ธิผลประโยชนอ์ ืน่ (ถา้ มี)ตลอดเวลาทใ่ี ห้พักงาน
4. เลกิ จ้างหรือปลดออกโดยไม่จาเป็นต้องบอกกล่าวล่วงหน้า ไม่จ่ายค่าเสียหาย หรือไม่จ่ายค่าชดเชยใดๆ
ทั้งสิ้น
การลงโทษทางวนิ ัย จะลงโทษตามข้อหน่ึงข้อใดกอ่ นก็ได้โดยไมจ่ าเป็นต้องเรยี งตามลาดบั ท้งั น้ี
ขึ้นอยกู่ บั ความรา้ ยแรงหรอื ความหนักเบาของลักษณะความผดิ ที่มีผลกระทบต่อบรษิ ัทฯ
อานาจการลงโทษทางวนิ ัย
เพ่ือให้การลงโทษทางวินัยมีผลปฏิบัติท่ีเกิดความเป็นธรรมตามหน้าท่ีของผู้บังคับบัญชาท่ีรับผิดชอบการ
ปฏิบัติงานของผ้ใู ตบ้ ังคับบญั ชา จึงให้อานาจการลงโทษทางวนิ ยั แกผ่ บู้ ังคับบญั ชาดังน้ี
1. ผู้จัดการฝ่ายทรัพยากรบุคคล - หัวหน้าแผนกข้ึนไปมีอานาจลงโทษโดยการตักเตือนด้วยวาจา
ตักเตอื นลายลกั ษณ์อักษร ตกั เตือนพกั งานและรายงาน ให้ผจู้ ดั การฝ่ายและฝ่ายทรัพยากรบุคคลฯทราบ
2. ผู้จดั การฝ่ายหรือเทยี บเท่าขึ้นไป - กรรมการผจู้ ัดการมอี านาจลงโทษปลดออกและรายงานให้ฝ่ายบริหาร
และฝา่ ยทรัพยากรบคุ คลฯทราบ
การลงโทษทางวินัยแต่ละคร้ังให้พิจารณาตามความผิดด้วยเหตุด้วยผล ให้สอบสวนหาข้อเท็จจริงเพ่ือให้เกิด
ความ เป็นธรรมแก่ผู้กระทาความผิดวินัย ทุกคร้ังท่ีมีการลงโทษทางวินัยให้แจ้งฝ่ายทรัพยากรบุคคลทราบเพื่อ
ตรวจสอบความถูกต้อง และเป็นธรรม
การลงโทษทางวนิ ัย
1. ตักเตอื นดว้ ยวาจา
เมื่อผู้บังคับบัญชาหรือฝ่ายทรัพยากรบุคคลทราบว่าพนักงานคนใดกระทาผิดทางวินัยเป็นคร้ังแรกและ
ความผดิ นั้นไม่เป็นเรือ่ งรา้ ยแรงให้ปฏบิ ัติดงั นี้
1.1 ทาการเรียกพนักงานผู้กระทาผิดน้ัน มาว่ากล่าวตักเตือนโดยระบุความผิด และสาเหตุของการถูก
ตักเตือนด้วยวาจา
1.2 บันทึกความผดิ วนั เวลา สถานที่ และสาเหตขุ องการวา่ กลา่ วตกั เตือน พร้อมกับห้ามกระทาผิดซ้าอีก
ถ้ายังฝ่าฝืนจะถูกลงโทษสถานหนักถึงขั้นเลิกจ้างโดยไม่จ่ายเงินค่าเสี ยหายหรือไม่จ่ายเงินค่าชดเชย
ใดๆท้ังสิ้น
1.3 ให้พนักงานและผู้บังคับบัญชาลงลายมือช่ือไว้เป็นหลักฐานการเตือน ในเอกสารหนังสือบันทึกการ
ลงโทษทางวนิ ัย
25
1.4 ส่งหนังสือบันทึกการลงโทษทางวินัยน้ัน ไปให้ฝ่ายทรัพยากรบุคคลจัดเก็บไว้ท่ีแฟ้มประวัติ พนักงาน
เพอื่ เก็บไวเ้ ป็นประวตั ิและหลักฐานการลงโทษทางวินยั
2. ตกั เตือนเป็นหนงั สอื ลายลกั ษณ์อักษร
เม่ือพนักงานกระทาความผิด ฝ่าฝืนระเบียบข้อบังคับที่มีความร้ายแรงมากกว่าการตักเตือนด้วยวาจา หรือ
ผู้กระทาความผิดนั้นกระทาความผิดซ้าในเรื่องเดียวกันกับท่ีเคยตักเตือนด้วยวาจามาแล้ว ให้ผู้บังคับบัญชาหรือฝ่าย
ทรพั ยากรบคุ คลปฏบิ ตั ิ ดังน้ี
2.1 ทาหนังสือตักเตือนความผิดโดยระบุถึงความผิด วัน เวลา สถานท่ี และสาเหตุของการตักเตือน
พร้อมกับห้ามกระทาผิดซ้าอีกถ้ายังฝ่าฝืนจะถูกลงโทษสถานหนักถึงขั้นเลิกจ้างโดยไม่จ่ายเงิน
ค่าเสียหายหรอื ไมจ่ า่ ยเงนิ คา่ ชดเชยใดๆท้งั สน้ิ
2.2 ให้พนักงานผู้ถูกตักเตือนลงลายมือชื่อรับทราบคาเตือนไว้เป็นหลักฐานในเอกสารบันทึกการลงโทษ
ทางวนิ ยั และให้ผู้บังคับบัญชาลงลายมือช่ือออกคาสัง่ ตกั เตือน
2.3 ส่งหนังสือบันทึกการลงโทษทางวินัยน้ันไปให้ฝ่ายทรัพยากรบุคคลจัดเก็บไว้เป็นหลักฐานการลงโทษ
ทางวินัย
3. ให้พักงานชว่ั คราวโดยไม่ไดจ้ ่ายคา่ จ้าง
พนกั งานทีไ่ ด้กระทาความผิดถึงขั้นตักเตือนเป็นหนังสือลายลักษณ์อักษรแล้วและได้กระทาความผิดอีก หรือ
พนักงานคนใดที่ได้กระทาความผิดร้ายแรง แต่ยังไม่ถึงข้ันเลิกจ้างแต่มีเหตุอันควรลดหย่อนและให้โอกาส โดยความ
เห็นชอบของผู้บังคับบัญชาตั้งแต่ระดับหัวหน้าแผนกหรือผู้จัดการฝ่าย ได้พิจารณาสั่งให้พนักงานผู้น้ันพักงานช่ัวคราว
โดยไม่ไดร้ ับคา่ จ้างครง้ั ละไม่เกนิ เจ็ดวันทางานโดยปฏิบตั ดิ ังนี้
3.1 ทาหนังสือสั่งพักงานซ่ึงระบุรายละเอียดเกี่ยวกับการกระทาความผิดโดยระบุถึงความผิด วัน เวลา
สถานท่ี และสาเหตุของการตักเตือน พร้อมกับห้ามกระทาผิดซ้าอีกถ้ายังฝ่าฝืนจะถูกลงโทษสถาน
หนกั ถึงข้ันเลกิ จา้ งโดยไม่จา่ ยเงนิ ค่าเสียหายหรอื ไม่จ่ายเงินค่าชดเชยใดๆ
3.2 ให้พนักงานผู้ถูกตักเตือนลงลายมือช่ือรับทราบคาเตือนไว้เป็นหลักฐานในเอกสารบันทึกการลงโทษ
ทางวินยั และใหผ้ บู้ งั คับบญั ชาลงลายมอื ชอ่ื ออกคาสงั่ ตักเตือน
3.3 ส่งหนังสือบันทึกการลงโทษทางวินัยนั้นไปให้ฝ่ายทรัพยากรบุคคลจัดเก็บไว้ที่แฟ้มประวัติพนักงาน
เพอื่ เก็บไวเ้ ป็นประวตั แิ ละหลักฐานการลงโทษทางวนิ ัย
4. เลิกจ้างหรือปลดออก
พนักงานท่ีได้ทาความผิดซ้าคาเตือน หรือ กระทาความผิดร้ายแรงอย่างใดอย่างหน่ึงตามลักษณะโทษวินัย
สถานร้ายแรง จะถูกดาเนินการทางวินัยถึงขั้นเลิกจ้างหรือปลดออก โดยไม่จาเป็น ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า ไม่จ่ายเงิน
ค่าเสยี หายหรือค่าชดเชยใดๆทั้งส้ินให้ผู้บังคับบัญชาต้ังแต่ระดับผู้จัดการฝ่าย หรือผู้ที่ได้รับมอบอานาจจากกรรมการ
ผู้จัดการเป็นผู้พิจารณาทาหนังสือลงโทษทางวินัยออกคาสั่งเลิกจ้าง ซ่ึงในหนังสือดังกล่าวต้องระบุ รายละเอียด
เกย่ี วกับการกระทาความผิดโดยระบุถงึ ความผิด วัน เวลา สถานท่ี สาเหตุของการเลิกจ้าง และมีข้อความพนักงาน
ยินยอม รบั ทราบไมต่ ิดใจเอาความหรือเรยี กรอ้ งเงินค่าเสียหายหรือคา่ ชดเชยใดๆท้ังสิน้ ทง้ั ทางคดีแพ่งและทางอาญาใน
ภายหลัง
26
ในกรณีท่ีพนักงานที่ถูกลงโทษทางวินัยปฏิเสธการลงช่ือรับทราบโทษทางวินัย ให้ผู้บังคับบัญชาหรือฝ่าย
ทรัพยากรบุคคลตักเตือนให้พนักงานผู้ซึ่งได้กระทาความผิดนั้นฟังต่อหน้าพยานอีกสองคน และให้พยานทั้งสองคนลง
ลายมอื ชอื่ ไวเ้ ป็นหลักฐาน ถ้าหากไม่อยู่ในวิสัยท่ีกระทาตามที่กล่าวน้ีได้ ให้ดาเนินการวิธีอ่ืนท่ีเหมาะสมต่อไป เช่น นา
หนังสือลงโทษทางวินัยไปปิดประกาศ ณ ที่เปิดเผยเป็นเวลาสิบห้าวัน ฯลฯ และส่งทางไปรษณีย์ระบุวันที่ส่งโดยส่ง
แบบมีผ้รู ับลงนาม
การพ้นสภาพจากการเปน็ พนักงาน พนักงานจะพน้ สภาพจากการเป็นพนักงานเม่ือ
1. ตาย พนักงานถึงแก่ความตายไม่ว่าด้วยเหตุใดก็ตาม บริษัทฯ จะจ่ายค่าจ้างที่คงค้าง หรือเงินประกัน
ชวี ิต (เฉพาะตาแหน่งท่ีบริษัท ฯ ได้ทาประกันให้) ให้แก่ทายาทโดยชอบธรรมของพนักงานที่ถึงแก่ความ
ตาย พนกั งานทต่ี ายถือว่าพ้นสภาพการเป็นพนกั งานตง้ั แตว่ ันถัดไป
2. ลาออก พนักงานที่ประสงค์ลาออก ต้องย่ืนหนังสือตามแบบฟอร์มท่ีบริษัท ฯ กาหนดต่อผู้บังคับบัญชา
ตามลาดบั ข้นั ลว่ งหน้า
3. พนักงานท่อี ยู่ในชว่ งทดลองงาน ใหแ้ จง้ ลว่ งหนา้ ไมน่ อ้ ยกวา่ 30 วนั
4. พนกั งานประจาใหย้ ่นื ใบลาล่วงหน้าไมน่ อ้ ยกว่า 30 วัน
5. พนักงานที่ลาออกจะต้องส่งคืนทรัพย์สินของบริษัทฯ ที่อยู่ในความครอบครองหรือในความรับผิดชอบ
ให้บริษัทฯ ในวนั สุดทา้ ยของการทางาน
6. ปลดออก หมายถึง กรณีท่ีพนักงานที่มีสิทธิได้รับค่าชดเชยพ้นสภาพจากการเป็นพนักงานของบริษัทฯ
จะไดร้ บั ค่าชดเชยตามระเบียบปฏิบัติเกยี่ วกบั การทางานในหมวดที่ 10
27
หมวดที่ 10
เงินคา่ ชดเชยกรณีเลิกจ้างที่มเี หตตุ อ้ งจ่ายค่าชดเชย
1. คา่ ชดเชย ( ตามพ.ร.บ.คมุ้ ครองแรงงาน มาตรา 118 )
1.1 พนักงานซ่ึงทางานติดต่อกันครบหน่ึงร้อยย่ีสิบวันแต่ไม่ครบหนึ่งปี โดยรวมวันหยุด วันลา และ
วันท่ีบริษัทฯ ส่ังให้หยุดงานเพ่ือประโยชน์ของบริษัทฯ ให้จ่ายค่าชดเชยไม่น้อยกว่าค่าจ้างอัตรา
สุดท้ายสามสิบวัน หรือไม่น้อยกว่าค่าจ้างของการทางานสามสิบวันสุดท้ายสาหรับพนักงานซึ่งได้รับ
คา่ จา้ งตามผลงานโดยคานวณเปน็ หนว่ ย
1.2 พนักงานทางานติดตอ่ กันมาครบหน่งึ ปแี ตไ่ ม่ครบสามปี โดยรวมวันหยดุ วนั ลา และวันท่บี ริษัทฯ ส่ัง
ให้หยุดงานเพื่อประโยชน์ของบริษัทฯ ให้จ่ายค่าชดเชยไม่น้อยกว่าค่าจ้างอัตราสุดท้ายเก้าสิบวัน
หรือไม่น้อยกว่าค่าจ้างของการทางานเก้าสิบวันสุดท้าย สาหรับพนักงานซึ่งได้รับค่าจ้างตามผลงาน
โดยคานวณเปน็ หน่วย
1.3 พนักงานทางานติดต่อกันครบสามปีแต่ไม่ครบหกปี โดยรวมวันหยุด วันลา และวันที่บริษัทฯ ส่ังให้
หยุดงานเพ่อื ประโยชน์ของบริษัทฯ ให้จ่ายค่าชดเชยไม่น้อยกว่าค่าจ้างอัตราสุดท้ายหนึ่งร้อยแปดสิบ
วนั หรอื ไมน่ ้อยกวา่ คา่ จา้ งของการทางานหน่ึงร้อยแปดสิบวันสุดท้าย สาหรับพนักงานซ่ึงได้รับค่าจ้าง
ตามผลงานโดยคานวณเป็นหน่วย
1.4 พนักงานทางานติดต่อกันครบหกปี แต่ไม่ครบสิบปี โดยรวมวันหยุด วันลา และวันท่ีบริษัทฯ สั่งให้
หยุดงานเพ่ือประโยชน์ของบริษัทฯ ให้จ่ายค่าชดเชยไม่น้อยกว่าค่าจ้างอัตราสุดท้ายสองร้อยสี่สิบวัน
หรือไม่น้อยกว่าค่าจ้างของการทางานสองร้อยสี่สิบวันสุดท้าย สาหรับพนักงานซ่ึงได้รับค่าจ้างตาม
ผลงานโดยคานวณเป็นหนว่ ย
1.5 พนักงานทางานติดต่อกันครบสิบปี แต่ไม่ครบย่ีสิบปี โดยรวมวันหยุด วันลา และวันท่ีบริษัทฯ สั่ง
ใหห้ ยุดงานเพอื่ ประโยชนข์ องบรษิ ทั ฯ ให้จ่ายไม่น้อยกว่าค่าจ้างอัตราสุดท้ายสามร้อยวัน หรือไม่น้อย
กว่าค่าจ้างของการทางานสามรอ้ ยวันสุดทา้ ย สาหรับพนักงานซ่ึงได้รับค่าจ้างตามผลงานโดยคานวณ
เปน็ หนว่ ย
1.6 พนักงานทางานติดต่อกันครบยี่สิบปีขึ้นไป โดยรวมวันหยุด วันลา และวันท่ีบริษัทฯ สั่งให้หยุดงาน
เพ่ือประโยชน์ของบรษิ ัทฯ ให้จ่ายไม่น้อยกวา่ ค่าจ้างอัตราสุดท้ายสี่รอ้ ยวัน หรือไม่น้อยกว่าค่าจ้างของ
การทางานสีร่ อ้ ยวันสดุ ทา้ ย สาหรบั พนกั งานซ่งึ ได้รับค่าจา้ งตามผลงานโดยคานวณเปน็ หนว่ ย
2. คา่ ชดเชยพิเศษ ( พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน มาตรา 120 -122)
ในกรณีท่ีบริษัทฯ มีความจาเป็นต้องลดจานวนพนักงานเน่ืองจากการปรับปรุงการบริการ หรือย้ายสถาน
ประกอบกิจการไป ณ สถานที่อ่ืนอันมีผลกระทบสาคัญต่อการดารงชีวิตตามปกติของลูกจ้างหรือครอบครัว ให้
พนักงานดงั น้ี
2.1 กรณี ยา้ ยสถานประกอบกิจการไป ณ สถานท่อี ืน่ ( มาตรา 120 )
2.1.1 บรษิ ัทฯทาการแจง้ ใหพ้ นกั งานทราบล่วงหนา้ 30 วนั
2.1.2 กรณีพนกั งานไม่ประสงค์ไปทางานด้วยพนักงานมีสิทธิบอกเลิก สัญญาจ้างได้ภายในสามสิบ
วนั
28
2.1.3 คา่ ชดเชยตามสิทธิของลูกจา้ งทีก่ ฎหมายกาหนดตาม มาตรา 118
2.2 กรณี การปรบั ปรงุ หนว่ ยงาน-การลดจานวนพนักงาน ( มาตรา 121 )
2.2.1 บริษัทฯจะทาการแจ้งเหตุผลของการเลิกจ้างและรายช่ือพนักงานให้ทราบล่วงหน้าไม่น้อย
กวา่ สามสิบ (30) วันก่อนวันทจ่ี ะเลิกจา้ ง
2.2.2 คา่ ชดเชยตามสิทธิของลูกจา้ งทก่ี ฎหมายกาหนดตาม มาตรา 118
29
หมวดท่ี 11
การร้องทกุ ข์
1. ขอบเขตและความหมายของการรอ้ งทุกขต์ ามระเบียบข้อบังคบั น้ี
การร้องทกุ ข์ หมายถึง กรณีที่ลูกจ้างมีความไม่พอใจหรือมีความทุกข์อันเกิดข้ึนเนื่องจากการทางานไม่ว่าจะ
เปน็ เรอื่ งสภาพการทางาน สภาพการจ้าง การบังคับบัญชา การสั่งหรือมอบหมายงาน การจ่ายค่าตอบแทนในการ
ทางานหรือประโยชน์อื่น หรือการปฏิบัติใดที่ไม่เหมาะสมระหว่างนายจ้างหรือผู้บังคับบัญชาต่อลูกจ้างหรือระหว่าง
ลกู จา้ งดว้ ยกันและลูกจ้างได้เสนอความไม่พอใจหรือความทุกข์น้ันต่อนายจ้าง เพื่อให้นายจ้างได้ดาเนินการแก้ไขหรือ
ยุติเหตุการณ์น้ัน ท้ังนี้ เพ่ือให้เกิดความสัมพันธ์อันดีระหว่างนายจ้างและลูกจ้าง และเพื่อให้ลูกจ้างทางานด้วย
ความสุข
2. วธิ กี ารและขนั้ ตอนในการร้องทกุ ข์
2.1 ให้พนักงานท่ีย่ืนคาร้องทุกข์ ทาหนังสือชี้แจงรายละเอียดเก่ียวกับเร่ืองท่ีร้องทุกข์พร้อมท้ังลงลายมือ
ชือ่ แล้วยื่นต่อผูบ้ ังคบั บัญชาระดบั สูงเหนือขึน้ ไปตามลาดับขน้ั ยกเว้นผ้บู ังคบั บัญชา คนดังกล่าวมีส่วน
เกย่ี วขอ้ งท่อี าจทาให้การพิจารณาข้อร้องทุกข์น้ันมีผลเสีย ก็สามารถย่ืนข้อร้องทุกข์ต่อผู้บังคับบัญชา
ในระดบั สูงกวา่ ข้นึ ไปอีก
2.2 เมอื่ ผูบ้ งั คบั บญั ชาได้รบั เรอ่ื งรอ้ งทุกข์ใหร้ บี พจิ ารณาสอบสวนผ้ทู ี่เกี่ยวข้องทั้งหมดจะโดยวิธี การใดๆก็
ได้ และสรปุ ข้อร้องทกุ ข์ให้แล้วเสร็จภายใน 3 วันนับต้ังแต่วันที่ได้รับเร่ืองร้องทุกข์ ได้ผลสรุปอย่างไร
ให้ทาเป็นหนังสอื ลายลักษณอ์ ักษรพร้อมลงช่ือไว้เป็นหลักฐาน แล้วแจ้งให้ผู้ที่ร้องทุกข์รับทราบพร้อม
ลงลายมือชอื่ ไวเ้ ปน็ หลักฐาน
2.3 ถ้าผู้ทยี่ น่ื คารอ้ งทุกข์ยังไมพ่ อใจต่อคาตดั สิน หรือผู้บังคบั บัญชาท่รี บั เรอ่ื งร้องทุกข์ดาเนินการสอบสวน
ไม่แล้วเสร็จตามเวลาท่ีกาหนด ให้นาเรื่องร้องทุกข์นั้นยื่นต่อผู้บังคับบัญชาระดับ สูงขึ้นไปอีก โดย
ผู้บังคับบัญชาที่จะต้องพิจารณาสอบสวนและสรุปผลให้แล้วเสร็จภายใน 7 วันนับตั้งแต่วันท่ีที่ได้รับ
เรื่องร้องทุกข์ สรุปผลอย่างไรใหท้ าเป็นหนังสือลายลักษณ์อักษรพร้อมลงชื่อไว้เป็นหลักฐาน แล้วแจ้ง
ให้ผู้ที่ร้องทุกข์รบั ทราบพร้อมลงลายมือช่อื ไว้เป็นหลกั ฐาน
2.4 ถ้าผ้ทู ยี่ ่ืนคารอ้ งทุกข์ยังไม่พอใจต่อคาตัดสินอีก หรือผู้บังคับบัญชาที่รับเรื่องร้องทุกข์ไว้ยังดาเนินการ
สอบสวนไมแ่ ลว้ เสรจ็ ตามเวลาทีก่ าหนด ใหน้ าเรื่องร้องทุกข์นั้นยื่นต่อผู้บริหารระดับสูง เช่น ผู้จัดการ
แผนกต้นสังกัด ผู้จัดการแผนกทรัพยากรบุคคล หรือกรรมการผู้จัดการ โดยในข้ันตอนน้ีสรุปผล
อย่างไรใหท้ าเปน็ หนังสอื ลายลกั ษณอ์ ักษรและใหถ้ ือเปน็ การร้องทุกขข์ ้นั สุดท้าย และให้ดาเนินการให้
แลว้ เสร็จภายใน 5 วัน
3. วิธกี ารสอบสวน และพจิ ารณา
3.1 วิธกี ารสอบสวนผู้บงั คบั บญั ชาท่รี บั เรื่องรอ้ งทกุ ขต์ ้องรีบดาเนินการสอบสวน จะสอบสวนแบบเปิดเผย
หรอื วธิ ลี ับก็ได้ หรอื วิธอี ืน่ ๆกไ็ ด้ ทัง้ น้ีขึ้นอย่กู ับความเหมาะสม
3.2 ระยะเวลาในการสอบสวนต้ังแตข่ ั้นต้นจนถึงข้ันตอนสดุ ท้าย จะตอ้ งดาเนินการใหแ้ ลว้ เสรจ็ ภายใน 7
วนั นับต้งั แตว่ นั ท่มี กี ารร้องทุกขค์ รง้ั แรก
30
3.3 เพ่ือเป็นการคุ้มครองผู้ร้องทุกข์และพยานท่ีเกี่ยวข้อง บริษัทฯให้ถือว่าผู้ที่ร้องทุกข์และพยาน ท่ี
เก่ียวข้องรวมถึงผู้ท่ีถูกกล่าวหาน้ันยังไม่มีความผิดใดๆ ดังน้ัน ในระหว่างที่ทาการสอบสวนจะไม่
สง่ ผลกระทบตอ่ การไดส้ ทิ ธิผลประโยชนใ์ ดๆทงั้ สน้ิ
3.4 ในระหว่างท่ีมีการสอบสวนเรื่องร้องทุกข์ถ้าจาเป็นเพ่ือไม่ให้เสียรูปความและเป็นการคุ้มครองผู้ที่
เก่ียวข้องบริษัทฯอาจกาหนดให้พนักงานท่ีเกี่ยวข้องหยุดงานชั่วคราวในระหว่างสอบสวนได้ โดยใน
ระหว่างท่ียังมีการสอบสวนและหยุดงานบริษัทฯจะจ่ายค่าจ้างให้อย่างน้อย 50 % ของค่าจ้าง/วัน
หลงั จากสอบสวนแลว้ บริษทั ฯ จะจ่ายคา่ จ้างที่เหลือใหอ้ กี 50 %
หมายเหตุ : การใหห้ ยดุ งานช่ัวคราวตามหมวดนี้ ไม่เกยี่ วขอ้ งกนั กบั การให้พกั งานในบทลงโทษทางวนิ ยั
4. กระบวนการยุติข้อร้องทุกข์
เมื่อผู้บังคับบัญชาแต่ละช้ันได้พิจารณาคาร้องทุกข์ ดาเนินการแก้ไขหรือยุติเหตุการณ์ท่ีเกิดการร้องทุกข์
และได้แจ้งให้ลูกจา้ งผู้ย่นื คารอ้ งทุกขท์ ราบ หากลูกจ้างผยู้ ่ืนคาร้องทุกขพ์ อใจกใ็ หแ้ จง้ ให้ผู้บังคับบัญชาทราบโดยเร็วแต่
ถ้าลูกจ้างผู้ย่ืนคาร้องทุกข์ไม่พอใจ ก็ให้ยื่นอุทธรณ์ โดยกรอกข้อความที่อุทธรณ์ลงในแบบพิมพ์ท่ีนายจ้างได้กาหนด
ข้นึ และย่นื ตอ่ ผบู้ ังคบั บัญชาสูงสุดภายใน 7 วนั นบั ต้งั แต่วันท่ีทราบผลการร้องทกุ ขจ์ ากผ้บู ังคับบญั ชาระดับต้น
ผู้บังคับบัญชาระดับสูงสุดจะพิจารณาอุทธรณ์และดาเนินการแก้ไขหรือยุติเหตุการณ์ตามคาร้องทุกข์ และ
แจ้งผลการพิจารณาดาเนินการใหล้ ูกจ้างผู้ย่ืนคารอ้ งทุกข์ทราบภายใน 15 วนั
หากลูกจา้ งผยู้ นื่ คาร้องทกุ ขย์ ังไม่พอใจผลการพจิ ารณาอุทธรณ์ของผู้บังคบั บัญชาสูงสดุ ย่อมมสี ิทธิดาเนนิ การ
ในทางอื่นอันชอบดว้ ยกฎหมายตอ่ ไปได้ (หรืออาจเสนอต่อนายจ้าง เพอ่ื รว่ มกันตง้ั ผ้ชู ีข้ าดขนึ้ เพื่อวินจิ ฉยั ชี้ขาดปัญหา
อนั เกดิ จากคาร้องทุกขน์ ั้นต่อไปได้)
5. ความคมุ้ ครองผรู้ อ้ งทกุ ข์และผู้เก่ียวข้อง
เนอ่ื งจากการร้องทุกขท์ ี่กระทาไปโดยสจุ ริตใจยอ่ มก่อใหเ้ กดิ ประโยชนอ์ นั ยงิ่ ใหญ่แก่ทงั้ นายจ้างและลูกจ้างเป็น
สว่ นรวม ดงั น้ัน ลูกจา้ งผู้ยน่ื คารอ้ งทกุ ข์ ลูกจ้างผใู้ ห้ถ้อยคา ให้ข้อมูล ใหข้ ้อเท็จจรงิ หรือใหพ้ ยานหลักฐานใด
เก่ยี วกบั การร้องทุกข์ และลูกจา้ งทเี่ ป็นผู้พจิ ารณาคาร้องทุกข์ เม่อื ไดก้ ระทาไปโดยสุจริตใจ แม้จะเป็นเหตใุ ห้เกดิ ข้อ
ยงุ่ ยากประการใดแก่นายจา้ ง ก็ย่อมไดร้ บั การประกันจากนายจา้ งวา่ จะไม่เป็นเหตหุ รอื ถือเป็นเหตุท่ีจะเลิกจ้าง
ลงโทษ หรอื ดาเนินการใดทเ่ี กิดผลร้ายต่อลกู จา้ งดงั กลา่ ว
31
หมวดที่ 12
การรักษาขอ้ มลู และเอกสารของบรษิ ทั ฯ
เพือ่ เปน็ การรักษาไวซ้ ่ึงประโยชนข์ องบริษัทฯ โดยเฉพาะอย่างย่งิ ในเรื่องที่เกย่ี วกบั การเกบ็ รกั ษาข้อมลู และ
เอกสารของบริษทั ฯ ในทุกรปู แบบ จึงเห็นสมควรให้กาหนดระเบยี บปฏิบัติเกี่ยวกับเรือ่ งนี้ ดังนี้
1. ห้ามพนักงาน พนักงานทดลองงาน ลูกจ้างชั่วคราว พนักงานท่ีมีสัญญาจ้างพิเศษ และพนักงานท่ีขอ
ลาออก หรือพ้นสภาพจากการเป็นพนักงานของบริษัทฯ ไม่ว่ากรณีใดๆ ก็ตาม นาข้อมูลและเอกสารทุก
ประเภท ทุกชนดิ ของบริษทั ฯ ออกนอกบรษิ ัท โดยไม่ไดร้ บั อนุญาต
2. พนักงานท่ีประสงค์จะขอยืม หรือขอเอกสารออกจากฝ่ายงานต่างๆ จะต้องเป็นการยืมเพื่อนาไปใช้
ประโยชน์ ในการปฏิบัติงานของบริษัทฯ เท่านั้น ให้ทาบันทึกถึงผู้บังคับบัญชาสูงสุด ของหน่วยงาน /
สายงาน เพ่ือขออนุญาต ในการขอยืม หรือขอเอกสารออกจากฝ่ายต่างๆ ไว้เป็นหลักฐาน และจะต้อง
ไดร้ บั อนญุ าตจากผ้บู ังคบั บญั ชา ของหนว่ ยงาน / สายงานทเี่ ปน็ เจ้าของเอกสารก่อนดว้ ย
3. พนักงานมีหน้าท่ีรักษาไว้ซึ่งผลประโยชน์ และความลบั ทางธรุ กจิ ของบริษทั ฯ จะต้องไม่นาข้อมูล เอกสาร
ท่ีเก่ียวขอ้ งกบั กิจการของบริษัทฯ ไปให้บุคคลภายนอกทราบ หรือเปิดเผย หรือนาข้อมูลไปใช้ประโยชน์
ในทางส่วนตวั เป็นอันขาด
4. หากพนักงานคนใดฝ่าฝืนระเบียบนี้ บริษัทฯถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง มีเจตนาทุจริตและจงใจทาให้
บริษัทฯ ได้รับความเสียหาย บริษัทฯ จะพิจารณาโทษทางวินัย โดยการให้พ้นจากการเป็นพนักงานของ
บริษทั ฯ โดยไมไ่ ดร้ บั เงนิ ชดเชยใดๆ ตามกฎหมาย และเงนิ อนื่ ๆ ท่จี ะพึงได้รับจากบริษทั ฯ ทงั้ ส้นิ
5. หากพนักงาน ท่ไี ด้พ้นสภาพจากการเป็นพนักงานของบริษัทฯ ไม่ว่ากรณีใดๆ ก็ตามบริษัทฯ ได้สืบทราบ
หรือพบว่าได้นาเอกสาร ข้อมูลของบริษัทฯ ไปใช้ในประโยชน์ส่วนตน บริษัทฯ จะดาเนินคดีตาม
กฎหมาย จนถึงทีส่ ุด ทัง้ ในทางแพ่งและอาญา
6. ให้ผู้บงั คับบญั ชาสงู สุดของหนว่ ยงาน/สายงานสอดสอ่ งดูแลให้มีการปฏิบัติตามระเบยี บนีอ้ ย่างเคร่งครดั
32
หมวดท่ี 13
สวสั ดิการ
เพื่อเป็นขวัญกาลงั ใจแกผ่ ้ทู ่ีปฏิบตั งิ านให้กบั บรษิ ทั ฯ และนอกจากน้ีบริษัทฯยังได้เล็งเห็นความ สาคัญเกี่ยวกับ
ความเปน็ อย่ขู องพนักงานทกุ คน ดังนั้น บรษิ ัทฯจึงได้จดั สวัสดกิ ารใหก้ ับพนักงานทุกคน ตามกาลังทรัพย์และผลกาไรที่
มี ดังน้ี
1. จัดให้มีการตรวจสุขภาพประจาปี
2. มวี นั หยดุ พักผ่อนประจาปีๆละไมน่ อ้ ยกวา่ หกวัน
3. มวี ันหยุดตามประเพณีปีละไม่นอ้ ยกว่าสบิ สามวัน
4. มกี องทนุ ประกนั สงั คมและกองทุนทดแทน
5. สนับสนนุ ใหพ้ นกั งานมโี อกาสเจรญิ กา้ วหนา้ ในตาแหน่งหน้าท่ีการงาน
6. ส่งเสริมใหม้ กี ารฝึกอบรมพัฒนาความรู้และทกั ษะในการทางานเพ่ือความกา้ วหน้าในหน้าที่การงาน
7. สวัสดกิ ารอ่ืน ๆไมน่ อ้ ยกว่าตามทก่ี ฎหมายกาหนด
บริษัทฯ สงวนไวซ้ งึ่ สทิ ธิทจ่ี ะมแี กไ้ ขเปลี่ยนแปลงเพ่ิมเติมข้อความในข้อบังคับเก่ียวกับการทางานน้ี ตามความ
เหมาะสมสอดคล้องกับกฎหมายและความเป็นธรรม โดยบริษัทฯจะปิดประกาศให้พนักงานทราบ โดยข้อบังคับ
เกี่ยวกบั การทางานนีใ้ ห้มผี ลบงั คบั ใชต้ ้งั แตว่ ันท่ี 20 เมษายน 2563 เปน็ ตน้ ไป
ประกาศ ณ วนั ที่ 20 เมษายน 2563
บรษิ ัท เมเจอร์ พร็อพเพอร์ต้ี เซอร์วสิ จากัด
(นายฐิติพันธุ์ โรจนส์ วี งกต)
กรรมการผจู้ ดั การ
33