อ 16101 ภาษาอังกฤษ คำอธบิ ายรายวิชา
ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 6
กลุม่ สาระการเรยี นรภู้ าษาต่างประเทศ
เวลา 120 ช่ัวโมง
เข้าใจคำสั่ง คำขอรอ้ ง ภาษาทา่ ทาง และคำแนะนำท่ีฟังและอ่านในการเลน่ เกม การวาดภาพ หรอื การ
ทำอาหารและเคร่ืองด่ืมและการประดิษฐ์ อา่ นออกเสียงข้อความ นิทานและบทกลอนสนั้ ๆถูกต้องตาม
หลกั การอ่าน พัฒนาทักษะการใชพ้ จนานกุ รม เลือก/ระบุประโยคหรือข้อความสน้ั ๆ ตรงตามภาพ สัญลักษณ์
หรือเคร่อื งหมายที่อ่าน บอกใจความสำคัญและตอบคำถามจากการฟงั และอา่ นประโยค บทสนทนา นทิ าน
ง่าย ๆ และเร่อื งเล่า
ใช้ทกั ษะภาษาอังกฤษเพ่ือสอื่ ความเกย่ี วกับ ตนเอง ครอบครัว โรงเรยี น อาหาร เคร่อื งด่ืม เวลาวา่ ง
นันทนาการ การซอ้ื ขาย ลมฟา้ อากาศ เป็นวงคำศัพทส์ ะสมประมาณ 1,050-1,200คำ (คำศัพท์ทเ่ี ป็นรปู ธรรม
และนามธรรม) บอกใจความสำคัญและตอบคำถามจากการฟังและอา่ นประโยค บทสนทนา นิทานง่าย ๆ และ
เร่อื งเล่า พดู /เขยี นโตต้ อบในการสอ่ื สารระหว่างบุคคล ในการทกั ทาย กล่าวลา ขอบคุณ ขอโทษ การพดู แทรก
อยา่ งสุภาพตามมรรยาททางสังคม พูด/เขยี นแสดงความตอ้ งการ ขอความชว่ ยเหลือ ตอบรบั และปฏเิ สธการให้
ความช่วยเหลอื ในสถานการณ์ง่ายๆ พูดและเขยี นเพื่อขอและใหข้ ้อมลู เก่ยี วกับตนเอง เพอ่ื น ครอบครวั และ
เร่อื งใกลต้ วั พดู และเขียนแสดงความรสู้ กึ เกี่ยวกบั เรอ่ื งตา่ งๆใกล้ตัวพร้อมให้เหตุผลสนั้ ๆประกอบ พดู /เขยี นให้
ข้อมูลเกย่ี วกบั ตนเอง เพ่ือน และส่ิงแวดลอ้ มใกลต้ ัว เขียนภาพ แผนผัง และแผนภูมิ แสดงขอ้ มลู ต่างๆตามท่ีฟงั
หรืออา่ น พูด/เขียนแสดงความคดิ เหน็ เก่ียวกบั เรื่องต่างๆใกล้ตวั ใช้ถอ้ ยคำ น้ำเสียงและกริยาทา่ ทางอยา่ งสภุ าพ
เหมาะสม ตามมรรยาททางสังคมและวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา ให้ข้อมลู เกยี่ วกบั เทศกาล/วันสำคัญ/งาน
ฉลองและชีวติ ความเป็นอยู่ของเจา้ ของภาษา
เข้ารว่ มกิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมตามความสนใจ บอกความเหมือน/ความแตกต่าง
ระหวา่ งการออกเสียงประโยคชนิดตา่ งๆ การใชเ้ คร่ืองหมายวรรคตอน และการลำดบั คำตามโครงสร้างประโยค
ของภาษาอังกฤษและภาษไทย เปรียบเทยี บความเหมือน/ความแตกต่างระหวา่ งเทศกาล งานฉลอง และ
ประเพณี วัฒนธรรมของเจา้ ของภาษากับของไทย นำเสนอข้อมูลด้วยการพูดและการเขยี นจากการ ค้นควา้
รวบรวมคำศพั ท์ทเ่ี กย่ี วข้องกับกลุ่มสาระการเรยี นรู้อ่ืน ใช้ภาษาเพ่ือส่อื สารตามสถานการณต์ า่ งๆ ที่เกิดข้นึ ใน
ห้องเรียนและสถานศึกษา ใชภ้ าษาอังกฤษในการสืบคน้ และรวบรวมขอ้ มลู ตา่ งๆ มเี จตคติทดี่ ี เหน็ ประโยชน์
และคุณคา่ ในการเรยี นร้ภู าษาอังกฤษ
ตัวชวี้ ดั
อ 1.1 ป.6/1 ป.6/2 ป.6/3 ป.6/4 อ 1.2 ป.6/1 ป.6/2 ป.6/3 ป.6/4 ป.6/5
อ 1.3 ป.6/1 ป.6/2 ป.6/3 อ 1.2 ป.6/1 ป.6/2 ป.6/3
อ 2.2 ป.6/1 ป.6/2
อ 3.1 ป.6/1
อ 1.4 ป.6/1
อ 2.4 ป.6/1
รวม 8 มาตรฐาน 20 ตัวช้ีวดั
โครงสร้างเวลาเรียนรายวชิ า ภาษาอังกฤษ ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 6
หน่วย ชือ่ หน่วย มาตรฐานการเรยี นร/ู้ สาระสำคัญ เวลา(ช่ัวโมง)
ที่ การเรียนรู้ ตวั ชีว้ ัด
1 Can you มฐ.ต 1.1 (1,3), การทักทายท่ีถกู ต้องเหมาะสม
remember? มฐ.ต 1.2 (1-2), เปน็ สง่ิ ทจ่ี ำเปน็ ในการสื่อสาร
มฐ.ต 2.1 (3), ทบทวนเนอื้ หา
2 What do you มฐ.ต 1.1 (1-4), การพูดเก่ียวกบั อาชพี และคุณลักษณะ
want to be? มฐ.ต 1.2 (1-5), เปน็ การสื่อสารในชีวติ ประจำวนั พรอ้ ม
มฐ.ต 1.3 (1-3), ทงั้ เขยี นอธบิ ายถงึ อาชพี และบุคคลต่างๆ
มฐ.ต 2.1 (1, 3, 4),
มฐ.ต 2.2 (1),
มฐ.ต 4.1 (1),
มฐ.ต 4.2 (1)
3 Play safe มฐ.ต 1.1 (1-4), การฟัง พูด อา่ นและเขยี นเก่ียวกับกฬี า
มฐ.ต 1.2 (1-5), อุปกรณ์กีฬา และเหตุการณ์ที่เกดิ ขึน้ ใน
มฐ.ต 1.3 (1-3), มฐ.ต อดตี เป็นทักษะการสอ่ื สารใน
2.2 (1), ชีวิตประจำวนั
มฐ.ต 4.1 (1),
มฐ.ต 4.2 (1)
4 It was great! มฐ.ต 1.1 (1-4), การฟังและพดู เก่ียวกับสัตว์และกจิ กรรม
มฐ.ต 1.2 (1,4,5), ทางน้ำ เปน็ เหตุการณ์ท่เี กิดขึ้นในอดีต
มฐ.ต 1.3 (1,3), ใชท้ กั ษะการส่ือสารในชีวิตประจำวนั
มฐ.ต 2.1 (2, 3), และ
มฐ.ต 2.2 (1-2), ยงั นำไปใชใ้ นการเรยี นรู้สาระ
มฐ.ต 3.1 (1), การเรียนรูอ้ นื่
มฐ.ต 4.1 (1),
หนว่ ย ชอ่ื หน่วย มาตรฐานการเรียนร้/ู สาระสำคัญ เวลา(ชั่วโมง)
ท่ี การเรียนรู้ ตวั ช้วี ัด
5 On holiday มฐ.ต 1.1 (1-4), การฟัง พดู อ่านและเขียนเก่ียวกับสตั ว์
มฐ.ต 1.2 (1-5), ประเทศ สถานทที่ ่องเทย่ี ว และ
มฐ.ต 1.3 (1), กจิ กรรมตา่ งๆ เป็นข้อมูลสำคัญที่
มฐ.ต 2.1 (1-3), นำไปใช้ใน
มฐ.ต 2.2 (1-2), การส่อื สาร และยังนำไปใชใ้ น
มฐ.ต 3.1 (1), การเรียนรู้สาระการเรียนรอู้ ืน่
มฐ.ต 4.1 (1),
6 Out and มฐ.ต 1.1 (1-4), การฟัง พดู อ่านและเขยี นเก่ียวกบั การ
about มฐ.ต 1.2 (1, 2, 4), งานอดเิ รกและทศิ ทาง เปน็ ประโยชนต์ ่อ
มฐ.ต 1.3 (1-2), การส่ือสารทางสังคม และยงั นำไปใช้ใน
มฐ.ต 2.1 (2- 3), การเรยี นรู้สาระการเรียนรอู้ ืน่
มฐ.ต 2.2 (1-2),
มฐ.ต 4.1 (1),
7 That’s มฐ.ต 1.1 (1-4), การเรยี นรคู้ ำศัพท์เก่ยี วกบั ประเภทต่างๆ
entertainment! มฐ.ต 1.2 (1,4,5), ของรายการโทรทัศน์ และดนตรี การใช้
มฐ.ต 1.3 (1-3), ประโยคคำถามและคำตอบเก่ียวกบั
มฐ.ต 2.1 (2, 3), ประเภทของรายการโทรทัศน์ทช่ี อบ
มฐ.ต 2.2 (2), ความบอ่ ยของการชมรายการโทรทศั น์
มฐ.ต 4.2 (1) จะทำให้ผเู้ รียนสามารถพูดและเขียนตาม
โครงสร้างประโยคที่กำหนด ซึ่งจะเปน็
พ้นื ฐานความรู้เก่ียวกบั การใช้
ภาษาอังกฤษเพ่ือการส่ือสารใน
ชีวติ ประจำวัน
หนว่ ย ช่อื หน่วย มาตรฐานการเรยี นรู้/ สาระสำคัญ เวลา(ชั่วโมง)
ท่ี การเรยี นรู้ ตวั ชว้ี ัด
8 Culture มฐ.ต 1.1 (1, 2 , 4), การเรยี นรเู้ กีย่ วกบั วนั สำคญั หรอื เทศกาล
มฐ.ต 1.2 (1, 2, 5), ของเจา้ ของภาษา ทำให้ผู้เรียนเขา้ ใจ
มฐ.ต 1.3 (1-2), วัฒนธรรม ชวี ติ ความเป็นอยูข่ องเจ้าของ
มฐ.ต 2.1 (1-3), ภาษา และเรยี นรภู้ าษาไดอ้ ย่างลึกซึ้ง
มฐ.ต 2.2 (1-2), และนำไปใช้ได้อย่างเหมาะสม
มฐ.ต 3.1 (1),
มฐ.ต 4.1 (1)
ตารางวิเคราะห์หนว่ ยการเรียนรู้ จุดประสงค์การเรยี นรู้ ตัวช้ีวดั และสาระการเรยี นรู้แกนกลาง
รายวชิ า ภาษาอังกฤษ ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 6
หน่วยการเรยี นรู้ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ตวั ชีว้ ัด สาระการเรียนรู้
แกนกลาง
หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 1 1. พูดถามและตอบข้อมลู มฐ.ต 1.1 (1,3),
Can you งา่ ยๆ เก่ยี วกับตนเองได้ มฐ.ต 1.2 (1-2), - บทสนทนาที่ใชใ้ นการ
มฐ.ต 2.1 (3), ทกั ทาย
remember? 2. บอกความหมายของ
ประโยคคำสั่งตามท่ีกำหนด - ประโยคคำถามและ
ได้ คำตอบ
3. รอ้ งเพลงตรงตามจงั หวะ - ประโยคคำสัง่ ขอร้อง
ทีก่ ำหนดได้ และขออนุญาตท่ีใช้ใน
ห้องเรยี น เช่น Point to
_______.
Open your book.
etc.
- การใช้ภาษาในการฟัง/
พูดในสถานการณ์ง่ายๆ ท่ี
เกิดขนึ้ ในห้องเรยี น
- กิจกรรมทางภาษาและ
วฒั นธรรม เชน่ การรอ้ ง
เพลง
- มารยาทสังคมและ
วัฒนธรรมของเจา้ ของ
ภาษา
หนว่ ยการเรยี นรู้ จุดประสงค์การเรยี นรู้ ตัวช้ีวัด สาระการเรยี นรู้
แกนกลาง
หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 2 1. ออกเสียง สะกดคำ และ มฐ.ต 1.1 (1-4),
บอกความหมายคำศัพท์ มฐ.ต 1.2 (1-5), - กล่มุ คำ ประโยคเดย่ี ว
What do you บอกลักษณะได้ มฐ.ต 1.3 (1-3), และความหมายเกย่ี วกับ
want to be? มฐ.ต 2.1 (1, 3, 4), การบอกลักษณะและ
2. พดู และเขียนเพื่อขอและ มฐ.ต 2.2 (1), อาชพี ตา่ งๆ
ใหข้ อ้ มลู เกย่ี วกับการบอก
ลักษณะบุคคลได้ - การออกเสียงเน้นหนัก-
เบาในคำ
3. อ่านออกเสยี งคำศัพท์ มฐ.ต 4.1 (1),
ตามทีก่ ำหนดได้ มฐ.ต 4.2 (1) - ประโยค บทสนทนา
เนอื้ เรอื่ งสนั้ ๆ ทม่ี ี
4. ออกเสยี ง สะกดคำ และ ภาพประกอบ
บอกความหมายคำศัพท์
บอกอาชีพตา่ งๆ ได้ - คำศัพท์ สำนวน
ประโยคท่ขี อและให้ข้อมลู
5. พูดและเขยี นเพ่ือขอและ เกีย่ วกับตนเอง เพ่ือน
ให้ข้อมูลเกย่ี วกบั อาชพี ท่ี และครอบครวั เชน่
อยากเปน็ ได้
Is he/she
6. เลน่ เกมทางภาษาตามที่ (คำคุณศัพท์)?
กำหนดได้
Yes,
7. ร้องเพลงทางภาษาตามที่ he/she is. / No,
กำหนดได้ he/she isn’t.
What’s he/she
like?
He/She’s
(คำคุณศัพท)์ .
หน่วยการเรียนรู้ จุดประสงค์การเรยี นรู้ ตัวชว้ี ดั สาระการเรียนรู้
แกนกลาง
หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 3 1. ออกเสียง สะกดคำ และ มฐ.ต 1.1 (1-4),
Play safe บอกความหมายคำศัพท์ มฐ.ต 1.2 (1-5), Are you good at
เกย่ี วกบั กีฬาตา่ งๆ ได้ มฐ.ต 1.3 (1-3), (ชอ่ื วิชา)?
มฐ.ต 2.2 (1), Yes, I
am. / No, I am not.
What do you want
to be?
I want
to be a (ชอื่ อาชีพ).
- กจิ กรรมทางภาษาและ
วัฒนธรรม เช่น การเล่น
เกม การร้องเพลง
- การใชภ้ าษาในการฟงั
และพดู /อ่านใน
สถานการณ์ทเ่ี กดิ ข้ึนใน
หอ้ งเรยี น
- การรวบรวมคำศพั ท์ที่
เกีย่ วขอ้ งกับกลุ่มสาระ
การเรยี นรอู้ ื่น
- กลุ่มคำ ประโยคเดี่ยว
และความหมายเก่ยี วกบั
อุปกรณ์การป้องกนั ตัวให้
ปลอดภยั ในขณะ
เล่นกีฬา
หนว่ ยการเรยี นรู้ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ตวั ชี้วัด สาระการเรยี นรู้
แกนกลาง
2. พดู และเขยี นเพ่ือขอและ มฐ.ต 4.1 (1),
ให้ขอ้ มูลเกย่ี วกับการใช้ มฐ.ต 4.2 (1) - ประโยค บทสนทนา
อปุ กรณ์การป้องกันตวั ได้ เนื้อเร่อื งสน้ั ๆ ท่มี ี
ภาพประกอบ
3. เขียนประโยคแสดง
ความรู้สกึ ขณะเล่นกีฬาแต่ - คำศัพท์และประโยค
ละชนดิ ได้ บอกความรู้สกึ เม่ือเล่น
กีฬาชนดิ ตา่ งๆ
4. อา่ นออกเสียงประโยค
ตามทก่ี ำหนดได้ - ความแตกต่างของเสียง
ตัวอักษรของ
5. ออกเสยี ง สะกด และ ภาษาตา่ งประเทศและ
บอกความหมายคำศัพท์ ภาษาไทย
เก่ียวกับการใช้อุปกรณก์ าร
ป้องกันตวั ได้ - การรวบรวมคำศัพท์ท่ี
เก่ยี วข้องใกลต้ วั จากสื่อ
6. พูดและเขยี นเพื่อขอและ และแหลง่ การเรยี นรู้ต่างๆ
ใหข้ ้อมลู เกี่ยวกบั การใช้
อุปกรณ์การป้องกนั ตวั ได้
7. อ่านออกเสียงประโยค
ตามทกี่ ำหนดได้
8. ใชป้ ระโยค If clause
……. ไดถ้ กู ตอ้ ง
9. เล่นเกมและร้องเพลงทาง
ภาษาตามท่ีกำหนดได้
หนว่ ยการเรยี นรู้ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ตัวชว้ี ัด สาระการเรยี นรู้
แกนกลาง
10. เลน่ เกมทางภาษาตามท่ี
กำหนดได้
หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 4 - ออกเสยี ง สะกดคำ และ มฐ.ต 1.1 (1-4), - คำศัพท์ กลุ่มคำ
It was great! บอกความหมายคำศัพท์ มฐ.ต 1.2 (1,4,5), ประโยคเกีย่ วกับ
เกีย่ วกบั ส่งิ แวดลอ้ มรอบตวั มฐ.ต 1.3 (1,3), สง่ิ แวดล้อมรอบตัวและ
ได้ สตั ว์นำ้
- อ่านประโยค และบท มฐ.ต 2.1 (2, 3), - ประโยค บทสนทนา
เน้ือเรือ่ งส้นั ๆ ทม่ี ี
สนทนาท่ีกำหนด แลว้ ตอบ มฐ.ต 2.2 (1-2), ภาพประกอบ
คำถามได้ มฐ.ต 3.1 (1), - คำศพั ท์ และประโยค
Past Simple Tense
- ใชป้ ระโยค Past Simple มฐ.ต 4.1 (1), เพอ่ื ถามถึงสถานท่ี
ความรสู้ กึ และลักษณะ
Tense ตามรปู แบบท่ี อากาศ
กำหนดใหไ้ ด้ A : I was at the
aquarium last week.
- ออกเสียง สะกด และ
บอกความหมายคำศัพท์ B : Really? How was
เกีย่ วกับสัตว์น้ำได้ it?
- อ่านประโยค และบท A : It was great!
สนทนาท่ีกำหนด แลว้ ตอบ
คำถามได้ B : What was the
weather like?
- ใชป้ ระโยค Past
Simple Tense เพอ่ื บอก
กิจกรรมตา่ งๆ ทที่ ำในอดีต
ได้
หนว่ ยการเรยี นรู้ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ตัวชว้ี ดั สาระการเรยี นรู้
แกนกลาง
- รอ้ งเพลงและเลน่ เกมทาง A : It was freezing
ภาษาได้ and foggy.
- ประโยคถามและตอบ
เกย่ี วกับกจิ กรรมตา่ งๆ ที่
ทำในอดีต
- คำ กล่มุ คำที่มี
ความหมายสมั พันธ์กับ
ขอ้ มลู ตา่ งๆ เชน่ ภาพ
- กิจกรรมทางภาษาและ
วัฒนธรรม เช่น การเล่น
เกม การร้องเพลง
- การใชภ้ าษาในการฟัง/
พดู ในสถานการณ์งา่ ยๆ ท่ี
เกดิ ข้นึ ในห้องเรียน
- การใช้
ภาษาตา่ งประเทศในการ
รวบรวมคำศพั ท์ท่ี
เกี่ยวข้องใกล้ตัว จากสื่อ
และแหลง่ การเรียนรู้ตา่ งๆ
หน่วยการเรยี นรู้ที่ 5 1. ออกเสียง สะกดคำ และ มฐ.ต 1.1 (1-4), - กลมุ่ คำ ประโยค และ
On holiday บอกความหมายคำศัพท์ มฐ.ต 1.2 (1-5), ความหมายเกี่ยวกับสิ่งท่ี
ตอ้ งใช้ในการเดินทาง
หนว่ ยการเรยี นรู้ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ตวั ช้ีวดั สาระการเรยี นรู้
แกนกลาง
เกย่ี วกบั สง่ิ ท่ตี ้องใชใ้ นการ มฐ.ต 1.3 (1),
และสถานที่ท่ีจะเดนิ ทาง
เดนิ ทางได้ มฐ.ต 2.1 (1-3), ไป
- ประโยค บทสนทนา
2. ใช้คำกริยาทก่ี ำหนด มฐ.ต 2.2 (1-2), และเน้ือเรื่องท่ีมี
ประกอบประโยคได้ ภาพประกอบ
- ประโยคถามและตอบ
มฐ.ต 3.1 (1), เกีย่ วกบั สถานท่ีทไี่ ป เช่น
3. ใช้ประโยค Past Simple A : Where did you
go?
Tense ไดถ้ กู ต้อง มฐ.ต 4.1 (1),
B : I went to the
4. ออกเสยี ง สะกดคำ และ (สถานที)่ .
บอกความหมายคำศัพท์
เกย่ี วกบั สถานที่ท่จี ะเดินทาง - ประโยคถามและตอบ
ไปได้ เกีย่ วกบั ความรสู้ ึกท่ีได้ไป
สถานทนี่ ้ัน เช่น
5. ใช้คำกรยิ าทก่ี ำหนด A : How was it?
ประกอบประโยคได้
6. ใช้ประโยค Past Simple
Tense ประกอบประโยคได้
7. เลน่ เกมและร้องเพลงทาง
ภาษาตามท่ีกำหนดได้
B : It was great.
- ประโยค Past Simple
Tense
หน่วยการเรยี นรู้ จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ตวั ช้ีวดั สาระการเรยี นรู้
แกนกลาง
- ประโยคและข้อความท่ี
ใช้ในการพดู ให้ข้อมูล
เก่ยี วกับตนเอง
- กิจกรรมทางภาษาและ
วัฒนธรรม เช่น การเล่น
เกม การร้องเพลง
- การใชภ้ าษาในการฟัง/
พดู ในสถานการณ์งา่ ยๆ ที่
เกดิ ขน้ึ ในห้องเรยี น
- การใช้
ภาษาต่างประเทศในการ
รวบรวมคำศัพท์ท่ี
เกย่ี วขอ้ งใกล้ตัวจากส่ือ
และแหลง่ การเรยี นรู้ต่างๆ
หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 6 1. ออกเสียง สะกดคำ และ มฐ.ต 1.1 (1-4), -คำศพั ท์เก่ยี วกบั สถานที่
คำบอกทศิ ทาง
Out and about บอกความหมายของคำศัพท์ มฐ.ต 1.2 (1, 2, 4),
เกย่ี วกบั สถานที่ได้ - ประโยคแนะนำหรือ
ชักชวน Let’s และ Why
มฐ.ต 1.3 (1-2), don’t
2. พดู แนะนำหรือชักชวน
โดยใช้ Let’s และ Why มฐ.ต 2.1 (2- 3), -Pronunciation: การ
ออกเสียง /p/ ในตำแหนง่
don’t ได้ มฐ.ต 2.2 (1-2), ตน้ คำ เปรยี บเทียบกับ
3. อ่านขอ้ ความและตอบ มฐ.ต 4.1 (1),
คำถามได้
หนว่ ยการเรยี นรู้ จุดประสงค์การเรยี นรู้ ตวั ชีว้ ดั สาระการเรียนรู้
แกนกลาง
4. เขียนบรรยายเกย่ี วกบั
สถานทีไ่ ด้ /p/ เมือ่ เป็นเสียง
พยญั ชนะประสมตามหลัง
5. อา่ นออกเสยี งคำศัพทท์ ี่มี เสยี ง /s/
เสยี ง /p/ ได้
- การอา่ นจบั ใจความและ
6. ออกเสยี ง สะกดคำ และ ตอบคำถาม
บอกความหมายของคำศัพท์
เก่ียวกบั สถานที่และการ -การเขยี นประโยค
บอกทิศทางได้ บรรยายทตี่ ั้งของสถานท่ี
7. พดู ขอและให้ขอ้ มลู -มารยาททางสงั คมและ
เก่ียวกับเส้นทางไปยัง วฒั นธรรมของเจา้ ของ
สถานทีต่ ่างๆ ได้ ภาษา
8. วาดแผนท่ี เขียนบอก -กิจกรรมทางภาษาและ
เสน้ ทาง และเดนิ ตาม วัฒนธรรม เชน่ การเล่น
เสน้ ทางไปยงั สถานทตี่ ่างๆ เกม การร้องเพลง
ได้
-การใช้ภาษาในการฟัง/
9. อ่านขอ้ ความและตอบ พดู ในสถานการณ์งา่ ยๆ ที่
คำถามได้ เกิดขึน้ ในห้องเรียน
10. เล่นเกมและร้องเพลง -การใชภ้ าษาต่างประเทศ
ทางภาษาได้ ในการรวบรวมคำศัพท์ที่
เกย่ี วข้องใกลต้ วั จากส่ือ
หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 7 1. ออกเสยี ง สะกดคำ และ มฐ.ต 1.1 (1-4), และแหลง่ การเรยี นรู้ต่างๆ
บอกความหมายคำศัพท์ มฐ.ต 1.2 (1,4,5),
- คำศพั ท์ กลมุ่ คำ
ประโยคเกีย่ วกับประเภท
ของรายการโทรทัศน์และ
หน่วยการเรียนรู้ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ตัวช้วี ัด สาระการเรียนรู้
แกนกลาง
That’s เกี่ยวกบั ประเภทของ มฐ.ต 1.3 (1-3),
entertainment! ดนตรี และคำคุณศัพท์ท่ี
รายการโทรทศั น์ได้ มฐ.ต 2.1 (2, 3), ใช้แสดงความรู้สึก/ความ
คิดเหน็
2. พดู ถามและตอบเกี่ยวกับ มฐ.ต 2.2 (2),
ประเภทของรายการ -Pronunciation: final
sound /t/, /d/
โทรทศั นท์ ช่ี อบได้ มฐ.ต 4.2 (1)
-ประโยค บทสนทนา และ
3. เขียนเกยี่ วกับประเภท เนื้อเรอื่ งสั้นๆ ทีม่ ี
ของรายการโทรทศั น์ท่เี พ่ือน ภาพประกอบ
ชอบได้
-คำศพั ท์ สำนวน และ
4. อา่ นออกเสียงคำศัพท์ที่ ประโยคถาม-ตอบ
ลงท้ายด้วยเสียง /t/ และ เก่ียวกบั ประเภทของ
/d/ ได้ รายการโทรทัศน์และ
เพลงที่ชอบ
5. ออกเสยี งสะกดคำ และ
บอกความหมายของคำศัพท์ และความถ่/ี ความบ่อยใน
เกย่ี วกับดนตรไี ด้ การดรู ายการโทรทศั น์
เช่น
6. พูดถามและตอบเกีย่ วกับ
ความถี/่ บ่อยในการดู A: What type of TV
รายการโทรทศั น์ได้ programmes do you
like?
7. ใชป้ ระโยค Past Simple
Tense เขยี นประวัตขิ อง B: I like ……… .
บุคคลได้
A: Why do you like
8. รอ้ งเพลงและเลน่ เกมได้ them?
หนว่ ยการเรียนรู้ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ตวั ชี้วดั สาระการเรยี นรู้
แกนกลาง
B: Because I think
they’re …… .
A: How often do you
watch …….?
B: Every day./Twice a
week.
- คำ กลุ่มคำท่ีมี
ความหมายสัมพนั ธ์กับ
ขอ้ มูลตา่ งๆ เช่น ตาราง
- กิจกรรมทางภาษาและ
วฒั นธรรม เชน่ การเลน่
เกม การร้องเพลง
-การรวบรวมคำศัพทท์ ี่
เกี่ยวขอ้ งกับกลุ่มสาระ
การเรียนรู้อื่น
- การใช้ภาษาในการฟงั /
พดู ในสถานการณ์ง่ายๆ ท่ี
เกิดขน้ึ ในห้องเรียน
- การใช้
ภาษาตา่ งประเทศในการ
รวบรวมคำศพั ท์ที่
เกีย่ วข้องใกลต้ ัว จากสื่อ
และแหล่งการเรียนรู้ต่างๆ
หน่วยการเรยี นรู้ จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ตวั ช้ีวดั สาระการเรียนรู้
แกนกลาง
หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 8 1. ร้องเพลงทางภาษาได้ มฐ.ต 1.1 (1, 2 , 4), -คำส่งั และคำแนะนำใน
การทำกจิ กรรม
Culture 2. อา่ นเร่อื งท่กี ำหนด และ มฐ.ต 1.2 (1, 2, 5),
- คำศพั ท์และข้อมูล
ตอบคำถามได้ มฐ.ต 1.3 (1-2), เกี่ยวกับเทศกาลวนั สำคัญ
ของเจา้ ของภาษา คือ วัน
3. อา่ นออกเสยี ง สะกดคำ มฐ.ต 2.1 (1-3), ขอบคุณพระเจ้าและ
และบอกความหมายคำศพั ท์
ทเี่ กยี่ วกับเทศกาลต่างๆ ได้ มฐ.ต 2.2 (1-2), วนั อสี เตอร์
มฐ.ต 3.1 (1), -กจิ กรรมทางภาษาและ
วัฒนธรรม เช่น การรอ้ ง
มฐ.ต 4.1 (1) เพลงเก่ียวกบั เทศกาลวัน
ขอบคุณพระเจ้าและ
วนั อีสเตอร์
-ความเหมือนและความ
แตกตา่ งระหวา่ งเทศกาล
ตามวฒั นธรรมของ
เจา้ ของภาษาและของไทย
-ใช้ภาษาตา่ งประเทศใน
การค้นควา้ รวบรวม
คำศัพท์ สบื คน้ และ
รวบรวมขอ้ มลู ตา่ งๆ
แผนการจดั การเรียนรูท้ ี่ 1
สาระการเรยี นรู้ ภาษาต่างประเทศ รายวชิ า ภาษาองั กฤษ รหัสวิชา อ 16101
ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 6 ภาคเรยี นที่ 1
หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 1 เรอ่ื ง Can you remember? เวลา ......... ชวั่ โมง
แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 1 เร่อื ง Can you remember? เวลา ........... ชว่ั โมง
**********************************************************************************
*****
1. สาระ/มาตรฐานการเรียนรู้
สาระท่ี 1 ภาษาเพอ่ื การสื่อสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เขา้ ใจและตีความเรอ่ื งทฟ่ี งั และอ่านจากส่ือประเภทต่างๆ และแสดงความคิดเห็น
อย่างมเี หตุผล
มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการสอ่ื สารทางภาษาในการแลกเปลีย่ นข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึกและ
ความคดิ เห็นอยา่ งมปี ระสิทธิภาพ
สาระท่ี 2 ภาษาและวัฒนธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เขา้ ใจความสมั พนั ธ์ระหวา่ งภาษากบั วฒั นธรรมของเจ้าของภาษา และนำไปใชไ้ ด้
อย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ
2. ตวั ช้ีวัด
มาตรฐาน ต 1.1
ตวั ช้วี ัด 1. ปฏิบตั ิตามคำสงั่ คำขอร้อง และคำแนะนำท่ฟี งั และอ่าน
3. เลือก/ระบุประโยค หรือข้อความสั้นๆ ตรงตามภาพ สัญลักษณ์ หรอื เครอ่ื งหมายที่อ่าน
มาตรฐาน ต 1.2
ตัวช้ีวดั 1. พูด/เขยี นโตต้ อบในการสื่อสารระหวา่ งบุคคล
2. ใชค้ ำสัง่ คำขอร้อง และให้คำแนะนำ
มาตรฐาน ต 2.1
ตัวช้วี ัด 3. เข้ารว่ มกจิ กรรมทางภาษาและวฒั นธรรมตามความสนใจ
3. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด
การทบทวนคำศัพท์ท่ีเรียนมาแลว้ ประโยคคำส่ัง ขอร้อง และอนุญาต ท่ใี ช้ในช้นั เรยี น ทำให้ผู้เรียน
สามารถใช้ภาษาองั กฤษสื่อสารในชวี ิตประจำวนั ได้
4. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
1. ปฏิบัติตามคำสั่งได้
2. พูดขอและให้ข้อมลู เกีย่ วกบั ตนเองได้
3. รอ้ งเพลงได้ Open your book.
5. สาระการเรยี นรู้
1. สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง
-บทสนทนาทใี่ ช้ในการทักทาย
-ประโยคคำสั่งทีใ่ ช้ในห้องเรียน เช่น Point to ……..
-ประโยคคำถามและคำตอบ
-กิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรม เช่น การรอ้ งเพลง
6. คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์
1. มีวนิ ัย
2. ใฝ่เรยี นรู้
7. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน
1. ความสามารถในการสอ่ื สาร
8. การจัดกระบวนการเรียนรู้
กจิ กรรมนำสู่การเรียน
1. ครแู ละนักเรยี นทกั ทายกันในชนั้ เรยี น ดงั น้ี
Teacher: Good morning (afternoon). How are you?
Students: I’m fine, thank you.
2. ครเู ขียนประโยค Can you remember? บนกระดาน อ่านออกเสียงให้นักเรียนฟัง แล้วใหน้ ักเรียน
อา่ นตามพรอ้ มกนั เสรจ็ แล้วให้ช่วยกันบอกความหมาย จากนัน้ ครพู ูดคุยกับนักเรยี นวา่ ในภาคเรียนท่ี
แล้วนักเรยี นไดเ้ รยี นรู้เกีย่ วกบั เร่อื งอะไรไปบา้ ง
3. ครบู อกนักเรียนว่า ในบท Starter นี้ เปน็ การทบทวนคำศัพทท์ ี่เคยเรียนมาแล้วในช้นั ป.5 ประโยค
คำส่ังทใ่ี ช้ในช้ันเรียน
กจิ กรรมพัฒนาการเรียนรู้
1. นกั เรียนดูภาพตา่ งๆ ในหนังสือเรียน หนา้ 2 ข้อ 1 What can you see? ครชู ที้ ลี ะภาพ แลว้ ให้
นกั เรียนช่วยกันบอกว่าเป็นภาพอะไร เช่น
Teacher: What’s this? (ครูชี้ภาพแรกทอ่ี ยู่แถวบนดา้ นซ้าย)
Students: Breakfast
ครทู ำกจิ กรรมเช่นนกี้ บั นักเรียนจนครบทกุ ภาพ
ตวั อยา่ ง
ภาพแถวบน: breakfast, airport, football players
ภาพแถวกลาง: Sydney Opera House, art, I.T., maths, science
ภาพแถวลา่ ง: waters the plants, desert, blue whale
2. ครบู อกนักเรยี นวา่ มบี างภาพเกยี่ วข้องกบั วิชาทเี่ รียน ให้นกั เรยี นชว่ ยกันบอกว่านักเรยี นเห็นภาพที่
เกี่ยวข้องกบั วิชาอะไรบา้ ง
Students: P.E., art, I.T., maths, science
3. ครบู อกนักเรยี นว่าจะได้ร้องเพลง Can you remember? แลว้ ใหน้ ักเรียนดูภาพประกอบในหนังสือ
เรยี น หน้า 2 ข้อ 2 Sing along. และครูถามนักเรยี นวา่
Teacher: What are they doing? (ชที้ ่ภี าพบน)
Students: They are raising their hands.
Teacher: What is she doing? (ชท้ี ภี่ าพล่าง)
Students: She is reading.
ครใู ห้นกั เรียนทุกคนปดิ หนังสือเรียนเพื่อให้ฟงั เพลงอยา่ งตงั้ ใจ แล้วครเู ปิด CD/Track 1 ใหน้ กั เรยี นฟัง
เพลง 1-2 ครงั้
Can you remember?
Can you remember?
What subjects do you have at school?
Science, maths, art, music and history.
Can you remember?
What words do you learn at school?
Food, animals, places and occupations.
Can you remember?
We have to obey the rules.
The rules, the rules, the rules of the classroom.
ครูถามนักเรียนว่า ไดย้ ินคำศัพท์อะไรบ้าง ใหน้ ักเรียนช่วยกนั ตอบ เชน่ science, maths, art,
music, history, food, animals, places, etc. แลว้ ให้นกั เรียนเปิดหนงั สือเรียนเพื่อดูเน้ือเพลง Can
you remember? ครใู ห้นกั เรียนฝกึ ร้องเพลงตาม CD จากน้นั ครูแบ่งนกั เรียนออกเป็น 5-6 กล่มุ ให้
ร้องเพลงทีละกล่มุ เมื่อรอ้ งครบทกุ กลุ่มใหช้ ่วยกันตัดสนิ ว่ากลุ่มใดรอ้ งเพลงไดด้ ีท่สี ุด
4. ครอู ่านประโยคคำสัง่ ทั้ง 8 ประโยคในหนังสอื เรยี น หน้า 3 ข้อ 3 Look and match. เพือ่ ให้
นกั เรียนอ่านตามทลี ะประโยค จากน้ันใหน้ ักเรียนทำงานคู่กับเพอ่ื น โดยพิจารณาวา่ บุคคลในแต่ละ
ภาพกำลงั ทำอะไร แลว้ จบั คู่ประโยคกับภาพให้สัมพนั ธ์กนั เสรจ็ แลว้ ครูให้นกั เรยี นชว่ ยกนั เฉลยคำตอบ
1. c 2. a 3. e 4. h
5. b 6. d 7. f 8. g
5. ครูทดสอบความเข้าใจของนักเรยี นในการฟังคำสัง่ โดยแบ่งนกั เรียนออกเป็นกลมุ่ ย่อยๆ ประมาณ
4-5 คน แล้วให้นกั เรียนในกลมุ่ ผลัดกันพดู คำสั่งในขอ้ 3 และให้เพื่อนในกลมุ่ ปฏิบตั ติ ามคำสั่ง เชน่ พูด
คำส่ัง Read after me. คนพูด เมอื่ ออกคำส่งั แลว้ ต้องอา่ นหนังสือ และใหเ้ พ่ือนๆ อ่านตาม เมอ่ื
นักเรียนฝึกเสร็จแล้วครใู ห้นกั เรียน 2-3 กลุม่ ออกมาแสดงให้เพือ่ นๆ ดู
หมายเหตุ: เมื่อนักเรียนออกมาแสดงให้เพอ่ื นดเู สรจ็ แลว้ ครูพดู ชมเชยนักเรยี นด้วยคำว่า
Good! - ดี Very good! - ดมี าก Excellent! - เลิศ
Well done! - ทำดีมาก Perfect! - วเิ ศษ Good job! - ทำงานดมี าก
6. ครูเขียนตัวอย่างประโยคบนกระดาน ดังนี้
1) I am at school today, but I was in Bangkok last week.
2) He is at school today, but he was in London last month.
3) They are at school today, but they were at home yesterday.
และใหน้ กั เรียนช่วยกันบอกรูปอดีตของ verb to be
Background Information
Present - ปจั จบุ ัน Past - อดตี เอกพจน์
พหพู จน์
is, am, are was, were
I am I was
You are You were
He is He was
She is She was
It is It was
We are We were
You are You were
They are They were
แล้วให้นกั เรียนทำแบบฝึกหัดเพื่อฝึกใช้ verb to be ครใู ห้นักเรียนทำงานดว้ ยตนเอง เพ่ือเปน็ การ
ทดสอบความรู้ ครแู จกแบบฝึกหัดให้นักเรียนคนละ 1 แผ่น
Fill in the blank with “is, am, are” or “was, were”.
1. Where ………………….. he last week?
2. When ………………… you born?
3. …………………. you a student here?
4. Who’s that guy? He …………….. my brother.
5. Look! They’re driving their new cars. They ………………… very rich.
6. Who ………………… with you in London last month? My parents.
7. I ………………… not well yesterday.
8. We ………………………. at the museum yesterday.
9. Why …………………….. you sad last night?
10. I ………………………. sad because I lost my money.
ครกู ำหนดเวลาให้ 10 นาที เม่ือนกั เรยี นทำงานเสรจ็ แล้ว ครูส่มุ เรียกนักเรียน 10 คน ให้ยืนขึ้นอา่ น
แบบฝกึ หัดคนละ 1 ข้อ แล้วออกมาเขยี นคำตอบบนกระดาน ครูและนกั เรียนท่เี หลอื ชว่ ยกนั ตรวจ
คำตอบและแกไ้ ขใหถ้ ูกต้อง
1. was 2. were 3. Are 4. is 5. are
6. was 7. was 8. were 9. were 10. was
7. ครยู กตัวอย่างประโยคคำถามทขี่ ึ้นตน้ ดว้ ย Where และ Who บนกระดาน และใหน้ กั เรียนช่วยกนั
บอกวา่ ท้ัง 2 คำน้ใี ช้ถามเก่ยี วกับอะไร แล้วครูสรปุ ให้นักเรยี นฟัง
Where (ทไ่ี หน) ใช้ถามเกีย่ วกับสถานที่ เช่น
- Where is your book? (In my bag.)
- Where do you live? (I live in Bangkok.)
Who (ใคร) ใชถ้ ามเก่ยี วกบั บุคคล เช่น
- Who is your teacher? (Mrs. Sarah is my teacher.)
- Who are these girls? (Mary and Linda.)
ครอู ธิบายเพิ่มเติมเกย่ี วกับคำถามท่ีขน้ึ ต้นด้วย Question words โดยยกตวั อย่างบนกระดาน เช่น
What is the time? It is 8 o’clock.
When is the party? The party is on Tuesday.
Where are you from? I’m from England.
Which is your pen? The red pen.
Who is he? He’s my brother.
Whose is this book? It’s my book.
Why did she cry? Because her dog died.
How are you? I’m fine, thanks.
จากนัน้ ครเู ขียนคำถามต่อไปน้ีบนกระดาน และให้นักเรียนอ่านตาม
What time is it? Which car is yours? Whose book is this?
ครขู ดี เส้นใต้คำวา่ time, car, book ครถู ามนักเรียนว่าคำเหล่านีเ้ ป็นคำชนดิ ใด เมื่อไดค้ ำตอบวา่ เป็น
คำนามแล้ว ครบู อกนักเรียนว่า Wh-questions ทีข่ น้ึ ตน้ ด้วย what, which และ whose สามารถใช้
ร่วมกับคำนามในการตั้งคำถามได้
Background Information
คำถามทีข่ ึน้ ต้นด้วย How จะตามดว้ ยคำนามไม่ได้ แต่ถ้าเป็น How much และ How
many จะสามารถตามด้วยคำนามได้ เชน่
How much money do you have?
How many students are there in the classroom?
8. ครูเขียนคำถาม Where were you at ten o’clock in the morning last Sunday? Who was
with you? และ Was it fun? บนกระดาน และอ่านให้นักเรียนฟงั จากนัน้ ครูให้นกั เรยี นถามคำถาม
โดยครูเปน็ คนตอบคำถาม เช่น
Students: Where were you at ten o’clock in the morning last
Sunday?
Teacher: At the Amphawa Floating Market.
(ครูอาจอธิบายวา่ คือตลาดนำ้ อมั พวา)
Students: Who was with you?
Teacher: I was with my mother.
Students: Was it fun?
Teacher: Yes, it was.
จากนั้นให้นักเรยี นเปิดหนังสือเรยี น หนา้ 3 ข้อ 4 Answer the questions. แล้วตอบคำถาม เสร็จ
แล้วครถู ามคำถาม และส่มุ เรียกนักเรยี น 4-5 คน พดู ตอบคำถามดงั กล่าว
9. ครใู ห้นกั เรยี นเล่นเกมจบั คู่อลเวง โดยใหท้ ุกคนยืนข้ึนเพ่ือเตรียมพรอ้ มจับคู่กับเพื่อนตามคำสงั่
เชน่
Teacher: A boy and a girl. ให้นักเรยี นชายจับคู่กบั นักเรยี นหญิง
A boy and a boy. ใหน้ กั เรยี นชายจบั ค่กู ับนักเรยี นชาย
A girl and a girl. ใหน้ กั เรียนหญิงจบั คู่กบั นักเรียนหญงิ
Tall and short. ให้นกั เรียนตัวสงู จบั คู่กับนักเรียนตัวเตย้ี
Long hair and short hair. ให้นกั เรยี นผมยาวจบั คกู่ บั นักเรยี นผมสนั้
ทกุ ครัง้ ท่ีครูออกคำส่ังใหน้ กั เรียนจับคู่ ครใู ห้เวลานกั เรียนแตล่ ะคู่ฝึกพูดถาม-ตอบโดยใช้คำถามใน
หนังสือเรยี น หนา้ 3 ข้อ 4 เช่น
A: Where were you at ten o’clock in the morning last Saturday?
B: In the zoo.
A: Who was with you?
B: My sister.
A: Was it fun?
B: Yes, it was.
ครูให้นกั เรียนจบั คู่ใหมก่ ับเพ่ือนเพ่อื ฝึกพดู ถาม-ตอบอีก 3-4 ครัง้ จากนั้นครูสุ่มเรียกนกั เรียน 2 คู่
ออกมาพูดถาม-ตอบหนา้ ชน้ั เรียน
10. ครสู อนประโยคขอร้องที่ใช้ในหอ้ งเรียน โดยเขียนประโยคบนกระดาน และอ่านออกเสยี ง ให้นกั เรียน
ออกเสียงตามครู 2-3 คร้งั
Can you help me, please?
Can you check my work, please?
Can you say that again, please?
Can you speak more loudly, please?
ครูใหน้ กั เรียนช่วยกนั เดาวา่ แตล่ ะประโยคเปน็ การขอร้องให้ชว่ ยทำอะไร แลว้ ครูสรปุ อีกคร้ัง จากนั้นให้
นกั เรยี นฝึกพดู ประโยคด้วยตนเอง เสร็จแลว้ สุ่มเรยี กนกั เรียนทีละคนให้พดู ประโยค
ต่อมาครสู อนประโยคทีใ่ ช้ในการขออนุญาตในห้องเรียน โดยเขียนประโยคบนกระดาน และอ่าน
ออกเสียง ให้นกั เรียนออกเสยี งตามครู
Can I go to the toilet, please? May I go out?
Can I have some water, please? May I come in?
Can I borrow the dictionary, please?
จากนนั้ ครใู ห้นักเรยี นฝึกพูดประโยคขออนุญาต เมอ่ื นักเรียนยกมอื และพดู ขออนุญาตทำสง่ิ ต่างๆ แล้ว
ครพู ดู อนุญาตวา่ Yes, you can.
กจิ กรรมรวบยอด
1. ครใู ห้นักเรยี นช่วยกนั บอกคำศพั ทเ์ กยี่ วกับอาชีพท่ีเคยเรียนมาแลว้ แล้วให้นักเรียนหาคำศัพท์เก่ียวกับ
อาชีพในตารางปรศิ นาอกั ษรไขว้ในแบบฝึกหัด หนา้ 2 ข้อ 1 Find eight words about
occupations. เสร็จแลว้ ช่วยกนั เฉลยคำตอบ โดยครูส่มุ เรียกนกั เรยี นออกมาเขยี นคำศัพท์บน
กระดาน หรือครูอาจจะใหน้ ักเรียนทำเปน็ การบา้ น
ABDP I LOTOPQXFG
CDENAS TRONAUTR
S I NGERRDOCTORU
GN FMUT S A B S Y Y V T
SHOPAS S I STANTX
I RD I VE RMC I ZZSW
K JQLPOREPORTER
STUDENTOK J NNPA
2. นักเรียนอ่านประโยคคำส่งั ในแบบฝึกหัด หนา้ 2 ข้อ 2 Match the instructions with the
pictures. พร้อมกัน แล้วจับคู่ประโยคคำสง่ั ให้สมั พันธก์ ับภาพ เสรจ็ แลว้ ครูสุม่ เรยี กนักเรยี น 6 คน ให้
ยืนข้ึนอ่านประโยคคำสง่ั คนละ 1 ประโยค และเฉลยคำตอบ หรอื ครอู าจจะใหน้ ักเรยี นทำเปน็ การบ้าน
1. a 2. d 3. b 4. c 5. f 6. e
3. นักเรียนดูตารางเรยี นในแบบฝกึ หดั หนา้ 3 ขอ้ 3 Complete your timetable. แล้วเขยี นชอ่ื วิชา
ต่างๆ ที่เรยี นลงในตารางเรียนตามความเปน็ จริง เมือ่ ทำเสร็จแลว้ ให้นกั เรียนฝกึ พูดสนทนากับเพ่ือน
เชน่
A: What do you have on Tuesday?
B: I have maths and English.
What do you have on Friday afternoon?
A: I have music and P.E.
ครูเดนิ สังเกตรอบๆ ช้นั เรียนขณะนกั เรียนทำกิจกรรม จากน้ันส่มุ เรียกนักเรียน 2-3 คู่ ให้ออกมา
พูดสนทนาหนา้ ชน้ั เรยี น
Background Information
P.E. ยอ่ มาจาก Physical Education ซ่ึงแปลวา่ วิชาพลศกึ ษา
4. นักเรยี นอ่านขอ้ ความในแบบฝึกหัด หนา้ 3 ขอ้ 4 Complete the text with the words in the
box.
แล้วนำคำที่กำหนดให้ไปเติมลงในชอ่ งว่างให้ถกู ต้อง เสร็จแล้วครูสุ่มเรยี กนกั เรียน 4 คน พดู เฉลย
คำตอบ หรือครูอาจจะใหน้ ักเรียนทำแบบฝึกหดั น้เี ปน็ การบ้าน
1. is 2. weighs 3. weighed 4. was
9. สือ่ การเรียนรู้/แหล่งเรยี นรู้ 2. แบบฝึกหดั Smile ป. 6
1. หนังสอื เรียน Smile ป. 6 4. พจนานกุ รม
3. Audio CD Smile ป. 6
10. การวดั และการประเมินผล
วิธีการ เคร่อื งมือ เกณฑ์
รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
ตรวจใบงานท่ี 1 ใบงานท่ี 1 ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
สังเกตพฤติกรรมการทำงาน แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงาน ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
รายบคุ คล รายบุคคล ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
สังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกลุม่ แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานกล่มุ
สังเกตการใฝเ่ รยี นรู้ และมงุ่ มั่นในการ แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
ทำงาน