The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ระเบียบแถวดี มีวินับ หอนอนรวงผึ้ง

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by candy_lovelytanti, 2021-09-13 11:21:09

ระเบียบแถวดี มีวินับ หอนอนรวงผึ้ง

ระเบียบแถวดี มีวินับ หอนอนรวงผึ้ง

Keywords: ระเบียบแถวดี มีวินับ หอนอนรวงผึ้ง

1

โครงงานคุณธรรม
เรอ่ื ง ระเบียบแถวดี มีวนิ ัย
จดั ทาโดย หอนอนรวงผงึ้

ครูประจาหอนอน
นางจีราภา เกษม

โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 50 จังหวดั ขอนแกน่
สานกั บริหารงานการศกึ ษาพเิ ศษ สานกั งาคณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพนื้ ฐาน

กระทรวงศกึ ษาธกิ าร



คานา
โครงงานคณุ ธรรม เรอื่ ง ระเบยี บแถวดี มีวินยั ของนกั เรยี นหอนอนรวงผ้งึ ฉบับนี้ จดั ทาข้นึ เพอ่ื ปรบั
พฤตกิ รรมนักเรียนหอนอนรวงผึง้ ใหเ้ ดนิ แถวเปน็ ระเบียบ เลกิ นสิ ัยการเดินกนั เปน็ กลมุ่ พดู คุย หยอกล้อกันเสียงดงั
ซ่ึงเป็นภาพที่ไม่น่ามอง ดวู ่นุ วาย ซงึ่ มีความเชอ่ื มโยงกับคุณธรรมเปา้ หมายของโรงเรยี น คือ ความมรี ะเบียบวนิ ัย
การจัดทาโครงงานครง้ั นจี้ ึงสาเร็จลลุ ่วงดว้ ยดี เพราะความรว่ มมือของทุกคน ขอขอบคุณนกั เรยี นทุกคนท่ีให้ความ
ร่วมมอื ในการทากิจกรรมตามท่ีวางแผนไว้

ผู้จดั ทา

สารบญั ข

เร่ือง หนา้

คานา ข
สารบัญ 1
บทท่ี 1 บทนา 3
บทท่ี 2 เอกสารท่ีเก่ยี วขอ้ ง 7
บทที่ 3 วิธดี าเนนิ โครงงาน 10
บทที่ 4 ผลการดาเนนิ งาน 12
บทที่ 5 สรุปผลและอภปิ ราย
ภาคผนวก

1

บทท่ี 1
บทนา

ท่ีมาและความสาคญั ของปญั หา

หลักสูตรแกนกลาง การศึกษาข้ันพื้นฐาน พ.ศ. 2551 มุ่งพัฒนาผู้เรียนทุกคน ซ่ึงเป็นกาลังของชาติให้เป็น
มนุษยท์ ่ีมีความสมดลุ ทั้งด้านร่างกาย ความรู้ คณุ ธรรม มีจิตสานึกในความเป็นพลเมอื งไทยและเป็นพลโลกยึดมั่นใน
การปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมพี ระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มีความรู้และทักษะพ้ืนฐาน รวมทงั้ เจตนคติ
โดยม่งุ เนน้ ผ้เู รยี นเปน็ สาคัญ บนพืน้ ฐานความเชอ่ื วา่ ทุกคนสามารถเรียนรู้ และพัฒนาตนเองได้เตม็ ศักยภาพ งานสรา้ ง
เสริมระเบียบวินัย เป็นสิ่งที่สาคัญในการส่งเสริม สนับสนุนและพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ และ
คุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนในด้านวินัย ในกรณี ที่มีนักเรียนไม่ผ่านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ งาน
ร ะ เบี ย บ วิ นั ย จึ ง ได้ ด าเนิ น ก าร จั ด กิ จ ก ร ร ม เพื่ อ ป รับ เป ลี่ ย น พ ฤ ติ ก ร ร ม ให้ กั บ นั ก เรีย น ดั ง ก ล่ าว
เขา้ ร่วมกิจกรรม ด้วยความคาดหวงั ท่จี ะใหน้ ักเรยี นรจู้ กั ตนเอง และพัฒนาตน ใหม้ ีคุณธรรมจริยธรรมท่สี อดรบั กับ อัต
ลกั ษณ์คุณธรรมของโรงเรยี น

หอนอนรวงผึ้งมีนักเรยี นบางส่วน การเดินยังไม่เป็นแถว เชน่ การเดินแถวไปรับประทานอาหาร การเดนิ แถว
กลับหอนอนหลังเลิกกิจกรรมหลักไตรรงค์ตอนเย็น ซึ่งเกิดจากนักเรียนขาดจิตสานึกในการปฏิบัติการเดินแถว มีการ
หยอกล้อ ไม่มีความกระตือรือร้นในการปฏิบัติส่ิงดีๆ ให้กับตนเองและชุมชน ขาดความสามัคคี ความมีระเบียบวนิ ัย
และความรับผดิ ชอบ ซ่ึงปญั หาเหล่าน้ี หากไม่ไดร้ ับการแก้ไขและพัฒนาใหด้ ีข้ึน เม่ือเติบโตเปน็ ผูใ้ หญ่กจ็ ะเป็นบุคคลท่ี
ด้อยคุณภาพไม่มีคุณธรรมจริยธรรมนับเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาและขัดขวางความเจริญก้าวหน้าของประเทศชาติ
ฉะน้นั ถา้ นกั เรียนมรี ะเบียบวินยั ในการเดนิ แถวทา กจิ กรรมทุกกจิ กรรมจะทา ใหเ้ ดก็ มจี ิตสา นึกทด่ี ี มีความสวยงาม มี
ความเป็นระเบียบ เมื่อมีกิจกรรมก็จะดาเนินการได้โดยดี สร้างความสามัคคีให้กับหมู่คณะและลดปัญหาสังคมได้อีก
ดว้ ย

ดงั นนั้ หอนอนรวงผ้ึง จึงได้จดั โครงงานระเบียบแถวดี มีวินัย ในหอนอนขน้ึ เพ่อื ปรบั พฤติกรรมนักเรยี นหอ

นอนรวงผ้งึ ให้เดินแถวเป็นระเบยี บ เลกิ นสิ ยั การเดินกันเปน็ กลมุ่ พูดคยุ หยอกล้อกันเสียงดัง ซึง่ เป็นภาพท่ไี ม่น่ามอง ดู

วุ่นวาย

วตั ถุประสงค์
1. เพอ่ื ให้นักเรียนหอนอนรวงผ้ึงมรี ะเบยี บวนิ ัย รูจ้ กั การรอคอย
2. เพอ่ื ให้นกั เรยี นหอนอนรวงผงึ้ เดินแถวให้เปน็ ระเบยี บ ไม่พดู คยุ หรือเลน่ กันในแถว

ปัญหา
1. เมอ่ื นักเรยี นหอนอนรวงผ้ึง เดินไปรบั ประทานอาหารเชา้ จะเดินไมเ่ ปน็ แถว ไมม่ รี ะเบยี บวินยั

มกั จะเดนิ เปน็ กลุ่มหรอื เปน็ คู่ ทาให้ดูไมเ่ ปน็ ระเบยี บ
2. ขณะรอรบั อาหารนกั เรียนหอนอนรวงผึง้ ไม่เข้าแถวให้เป็นระเบียบ ทาใหโ้ รงเรยี นอาหารมคี วามวุ่นวาย

และทาใหน้ ักเรยี นเกดิ ความลา่ ช้าในการรับประทานอาหาร

2

สาเหตขุ องปัญหา
1. นักเรียนไมไ่ ดร้ บั การฝึกเดินแถวให้เปน็ ระเบยี บ
2. นักเรียนขาดความอดทน ไม่รูจ้ ักการรอคอย

กลมุ่ เป้าหมาย
1. เชงิ ปรมิ าณ
- นักเรียนหอนอนรวงผงึ้ จานวน 35 คน

2. เชิงคณุ ภาพ
- นกั เรยี นหอนอนรวงผ้งึ เดินแถวอยา่ งเป็นระเบยี บ
เป้าหมายระยะสัน้ (ระยะเวลา 3 เดือน)
- นกั เรียนหอนอนรวงผง้ึ เดนิ แถวเป็นระเบียบ และเข้าแถวเป็นระเบยี บขณะรอเมอ่ื รอรับ

อาหาร
เปา้ หมายระยะยาว (ระยะเวลา 1 ปกี ารศึกษา)
- นกั เรียนหอนอนรวงผ้ึง ปฏิบตั ิตนมีระเบยี บวินยั มีความอดทน รูจ้ ักการรอคอย

รอ้ ยละ 90

ประโยชน์ทีค่ าดวา่ จะได้รบั
1. นกั เรียนหอนอนรวงผ้งึ เดินแถวไปรับประทานอาหารอยา่ งเปน็ ระเบียบ
2. นักเรยี นหอนอนรวงผงึ้ เขา้ แถวอยา่ งเป็นระเบียบขณะรอรบั อาหาร
3. นกั เรียนหอนอนรวงผงึ้ มีความอดทน รจู้ ักการรอคอย

3

บทท่ี 2
เอกสารทีเ่ กี่ยวขอ้ ง

ในการดาเนินโครงงานคุณธรรม นกั เรียนหอนอนรวงผงึ้ ไดน้ าหลักการคุณธรรมมาใชใ้ นการ
แก้ไขปัญหาพฤตกิ รรมของนกั เรยี นและนาไปสกู่ ารปฏบิ ัติ ดังน้ี

1. เคลด็ ลบั การเรียนรู้อยา่ งเปน็ องค์รวม ตามหลกั ไตรสิกขา
กระบวนการไตรสิกขา เปน็ กระบวนการเรียนรู้อยา่ งเปน็ องคร์ วม ในดา้ นพฤตกิ รรม(ศีล) ด้านจติ ใจ(สมาธิ)

ดา้ นปัญญา(ปญั ญา) ซงึ่ จะเกิดขน้ึ ไดต้ อ้ งจัดเตรยี มเหตปุ ัจจัยให้เอือ้ ตอ่ การกระทาหรอื ปฏิบัติงานจรงิ โครงงานน้ีจงึ เนน้
ให้มีชว่ งระยะเวลาดาเนินงานนาน เพ่ือใหเ้ พยี งพอต่อการค่อยๆ สะสมการเรยี นรู้ สง่ั สมและบม่ เพาะคณุ ความดใี น
จิตใจ และการปรับเปลยี่ นพฤติกรรม คือ

ศีล เปน็ การเรยี นร้ดู า้ นพฤติกรรมหรือการเรยี นรู้ทกั ษะทางสังคมทจี่ ะทางานร่วมกันเป็นกลมุ่ ร่วมกับผู้อน่ื
อยา่ งเอ้อื อาทร พร้อมท่จี ะใหก้ าลังใจและใหอ้ ภัยแก่กนั การระมดั ระวงั คาพูด-การกระทาท่จี ะไม่เบียดเบียนใคร หากมี
การกระทบกระทั่งกนั บา้ งก็มศี ลี กากับทจ่ี ะไมใ่ หเ้ กินเลยไปจนกระทบกระแทกใหแ้ ตกทาลายความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งกัน
การสารวมระวงั ทง้ั ทางคาพูดและการกระทา การยอมรับสานึกผิด การให้อภัยกัน กอ่ ให้เกิดพฒั นาการทางด้าน
พฤติกรรมไม่ใหเ้ ปน็ มลภาวะเบียดเบยี นตนเองและผู้อื่น ก็จะทาให้การทางานกลุม่ เกิดขึ้นไปไดต้ ลอดรอดฝง่ั

สมาธิ เป็นการเรยี นรทู้ างด้านจติ ใจ ทตี่ ้องเผชญิ สถานการณ์จริงจากการทางาน ทาใหต้ ้องมคี วามมงุ่ มน่ั
ตั้งใจ ความขยนั หมัน่ เพียรกระทาอยา่ งต่อเนอ่ื งไมท่ ้อถอย มีความอดทน ท้งั ต่อภาระงาน และทง้ั ต่อคนและ
สถานการณท์ ี่เขา้ มา นอกจากนีย้ ังหมายถึงการเจริญงอกงามของคุณความดีหรอื คุณธรรมในจติ ใจ
อันนาไปสภู่ าวะความสขุ สดชน่ื แจ่มใสผอ่ งใสในจิตใจ ตงั้ มน่ั เป็นสมาธิ

ปัญญา เปน็ การเรยี นรทู้ ่ีมาจากกระบวนการสังเกต สารวจ การคดิ การพิจารณาไตร่ตรองการตดั สินใจอย่าง
เปน็ เหตเุ ปน็ ผลเป็นระบบ นาไปสู่ภาวะที่ออกจากปญั หา นาออกจากทกุ ข์ นาไปสู่ภาวะท่ีดงี ามเป็นบุญกศุ ล การ
เรียนรทู้ างปัญญาเร่ิมจากการเรียนความรจู้ ากหลักธรรม คาสอน ข้อมูล ข้อเท็จจริง การจดจา การจบั ประเด็น การ
แยกแยะ การจดั หมวดหมู่ อนั เปน็ ปญั ญาขั้นรจู้ า และพัฒนาข้ึนไปสปู่ ัญญาขนั้ รูค้ ิด อันเกิดจากการฝึกทักษะการคิด
วเิ คราะหค์ ดิ สังเคราะห์การคิดเชื่อมโยงเหตปุ ัจจัย การคดิ พจิ ารณาคุณคา่ แทค้ ุณค่าเทยี มเปน็ ตน้ และพัฒนาไปสูป่ ญั ญา
ขน้ั รแู้ จ้งทท่ี าให้แสวงหาทางออกจากปญั หาได้ ตลอดจนปัญญาท่ีก่อเกิดจากการลงมือปฏิบัติเพอ่ื บรรลุผลของการ
แกไ้ ขปญั หาหรือดบั ทกุ ข์ได้ (เผด็จศึกกับปญั หา) และปญั ญาติดตามประเมินผลอยา่ งเป็นระบบเพื่อปรับปรงุ ให้ดีขึ้น
นาส่กู ารสงั่ สมเป็นประสบการณ์และปรชี าญาณรแู้ จง้ ในเร่อื งน้นั ๆ

2. ความหมายของระเบยี บวนิ ัย
วนิ ยั Discipline หมายถึง ระเบียบ กฎเกณฑ์ข้อบังคบั สาหรับควบคมุ ความประพฤตทิ างกายของคนในสงั คม

ใหเ้ รียบร้อยดงี าม เปน็ แบบแผนอันหนึ่งอนั เดียวกนั จะไดอ้ ย่รู ว่ มกัน ดว้ ยความสุขสบาย ไมก่ ระทบกระทงั่
ซ่งึ กนั และกนั ใหห้ ่างไกลจากความชว่ั ทัง้ หลาย การอยู่รวมกันเปน็ หมู่เหล่า ถา้ ขาดระเบยี บวนิ ัย ต่างคนต่างทาตาม
อาเภอใจ ความขดั แยง้ และลักลน่ั ก็จะเกิดขนึ้ ยิง่ มากคนก็ยิ่งมากเรื่อง ไมม่ ีความสงบสขุ การงานที่ทาก็จะเสยี ผล

4

ความมวี นิ ยั กเ็ ปรยี บเสมือนเฟอื งหลาย ๆ ตวั ถา้ หากตัวใดตวั หนึ่งไมท่ าตามหนา้ ท่ีของตนเอง ก็จะส่งผล
กระทบใหเ้ ฟืองทง้ั หมดหยดุ ทางาน ตัวอย่างเช่น เรากาลังเข้าแถวอยู่ ถ้ามคี นใดคนหนง่ึ เช้าแถวไม่ตรง แถวกจ็ ะดู
ภาพรวมแลว้ ไม่เปน็ ระเบียบตามไปด้วย
ความมวี ินยั

– การควบคุมให้เกดิ ผลดี โดยการสนบั สนนุ สง่ เสริมให้เกดิ ความเชอื่ ฟัง
– เปน็ สงิ่ ควบคุมการปฏบิ ัตงิ านของคนหม่มู าก เพ่ือทาให้คนอยู่ในขอบเขตที่ดี
– เปน็ เครอื่ งมือของผู้นาในการควบคมุ พฤติกรรมของคนในองค์การเพือ่ ให้บรรลุเป้าหมายที่กาหนดไว้
– เปน็ เรือ่ งเกี่ยวกับการกาหนดพฤติกรรมของคนโดยอาศยั การลงโทษและการให้รางวลั

ความมีวินยั ท่ีต้องรบี ฝึกใหเ้ ป็นนสิ ยั มีอยู่ 4 ประการ คือ
1. ความมวี นิ ยั ในการแสดงความเคารพ การรจู้ กั แสดงความเคารพอย่างถูกต้องเหมาะสมตามกาลเทศะ ย่อม

เป็นเสน่ห์ประจาตัวอย่างหนึ่งของผู้ปฏบิ ตั ิ
2. ความมวี นิ ัยในการรักษาความสะอาด ความสะอาดในทีน่ ห้ี มายถงึ การรกั ษาความสะอาดทัง้ ร่างกาย

เครือ่ งนุ่งห่มสงิ่ ของเคร่อื งใช้และสถานที่ ทัง้ ท่ีเป็นของตนเองและผ้อู น่ื ตลอดจนสถานท่ีสาธารณะทีต่ นเขา้ ไปเกย่ี วข้อง
การทผี่ ้คู นในสงั คมฝกึ นสิ ยั ให้มีวินยั ในการกั ษาความสะอาดดังกลา่ วแลว้ นอกจากจะทาให้ท้งั ผู้คน สงิ่ ของ สถานท่ี และ
สิ่งแวดลอ้ มสะอาด น่าดู เป็นที่เจรญิ ตาเจริญใจแล้ว ยงั เปน็ การปอ้ งกันมิให้เกดิ การจบั ผิดกนั ขน้ึ อีกดว้ ย

3. ความมวี นิ ัยในการรกั ษาความเป็นระเบยี บ ความเป็นระเบยี บในทน่ี ้หี มายถงึ ความมีระเบยี บในการทา
กจิ วัตรประจาวนั ต่างๆ เก่ียวกับ การเงิน การนอน การแต่งกาย การทางานในหน้าทที่ ร่ี ับผิดชอบ ทงั้ ในบา้ นและนอก
บา้ น ได้แก่ การประกอบอาชีพหรือการศกึ ษาเลา่ เรียน การจดั การเรอื่ งรายรับและรายจ่าย เรอ่ื งการบรหิ ารร่างกาย
และการพกั ผอ่ น เป็นต้น

ผู้ทมี่ ีวินยั ดีในเรอ่ื งต่างๆ เหลา่ นยี้ ่อมสามารถวางแผนจัดระเบียบ ในการทากิจวตั รประจาวนั ไดอ้ ยา่ งลงตัว ทา
ให้ไม่มปี ัญหาสบั สนวุ่นวาย ยอ่ มมีอารมณ์ดี สุขภาพและใจของสมาชิกในครอบครวั ทุกคนกพ็ ลอยดไี ปดว้ ย ย่ิงกว่านน้ั
ยงั อาจสามารถจดั แบ่งเวลาไวส้ าหรับศึกษาและปฏบิ ตั ธิ รรม เปน็ กจิ วตั รประจาวนั ไดอ้ กี ด้วย ซ่ึงถา้ ทาได้เชน่ นยี้ อ่ มได้
ชอื่ ว่า บรรลุวตั ถุประสงค์ของการเกดิ มาเปน็ มนษุ ย์ที่วา่ “เราเกิดมาสร้างบารมี” แล้วและถ้ามวี ริ ิยะอุสาหะศึกษา และ
ปฏิบัติธรรมมากขนึ้ อีกกจ็ ะเปน็ การตอกยา่ ตถาคตโพธิสทั ธา ให้เหนียวแนน่ ย่ิงขนึ้

4. ความมวี นิ ัยในการตรงต่อเวลา ความตรงตอ่ เวลาในท่นี ห้ี มายถึง ความตรงต่อเวลาในการทากิจกรรมต่างๆ
ทกุ ๆเรื่อง นบั ต้ังแต่เรื่องกิจวตั รประจาวันของเราเอง เช่น การกนิ อาหารแตล่ ะมื้อเป็นเวลา การเขา้ นอนและตืน่ นอน
เปน็ เวลาการออกจากบ้านไปทางานหรอื ไปโรงเรียนและการกลบั ถึงบ้านเปน็ เวลาเป็นต้น นอกจากนี้ก็เปน็ เร่อื งความ
ตรงตอ่ เวลาในการทาภารกจิ ที่เก่ยี วข้องกับผอู้ ืน่ เช่น การเขา้ ทางาน และเลกิ งานตรงเวลา การเขา้ ประชุมและเลกิ งาน
ตรงเวลา การเขา้ ประชุมและเลิกประชมุ ตรงเวลา การไปถงึ ทน่ี ัดหมายตรงเวลา เป็นตน้
ผูท้ ปี่ กติตรงต่อเวลาเป็นนิสยั กเ็ พราะมีความสานกึ รบั ผิดชอบ ตอ่ ภารกจิ หนา้ ที่ท่ตี นจะต้องกระทาอยา่ งสูง ดังนั้นบุคคล
ประเภทนีจ้ ึงมีประสทิ ธิภาพในการทางานสงู เป็นท่เี คารพเชอื่ ถือไวว้ งใจ จากผรู้ ่วมงานเป็นอย่างดี และมกั จะประสบ
ความสาเรจ็ ในอาชพี การงานของตนอีกดว้ ย

5

คณุ ธรรมเปา้ หมาย
การดาเนินโครงงาน ระเบยี บแถวดี มวี ินัย เพอ่ื ปรบั พฤตกิ รรมนกั เรยี นหอนอนรวงผ้ึงให้เดนิ แถวเป็นระเบยี บ

เลกิ นสิ ยั การเดนิ กนั เป็นกลมุ่ พูดคุย หยอกล้อกนั เสียงดงั ซ่งึ เปน็ ภาพที่ไมน่ า่ มอง ดูวุ่นวาย ซง่ึ มีความเชื่อมโยงกบั
คุณธรรมเป้าหมายของโรงเรียน คอื

- ความมีระเบียบวนิ ัย
พฤติกรรมเชงิ บวก
๑. มีระเบียบวินัยในการเดินแถว
๒. ความอดทน
๓. การรจู้ ักรอคอย

คุณธรรมทนี่ ามาใช้
อิทธิบาท ๔
คาวา่ อทิ ธบิ าท แปลวา่ บาทฐานแหง่ ความสาเร็จ หมายถงึ ส่งิ ซ่งึ มี คุณธรรม เคร่อื งใหล้ ุถงึ

ความสาเร็จตามท่ตี นประสงค์ ผู้หวงั ความสาเร็จในสงิ่ ใด ตอ้ งทาตนให้สมบรู ณ์ ดว้ ยส่ิงท่ี เรยี กวา่ อทิ ธบิ าท
ซึง่ จาแนกไว้เปน็ ๔ คอื

๑. ฉันทะ ความพอใจรักใครใ่ นส่ิงนั้น
๒. วิริยะ ความพากเพียรในสง่ิ นนั้
๓. จิตตะ ความเอาใจใส่ฝักใฝใ่ นสิง่ นนั้
๔. วมิ งั สา ความหมั่นสอดสอ่ งในเหตุผลของสิง่ นั้น
ธรรม ๔ อยา่ งน้ี ยอ่ มเนื่องกนั แตล่ ะอยา่ งๆ มหี น้าทีเ่ ฉพาะของตน
ฉันทะ คือความพอใจ ในฐานะเป็นสิง่ ท่ี ตนถอื ว่า ดที สี่ ุด ท่มี นุษยเ์ รา ควรจะได้ ขอ้ น้ี
เปน็ กาลงั ใจ อันแรก ที่ทาให้เกิด คณุ ธรรม ข้อต่อไป ทุกขอ้
วริ ยิ ะ คือความพากเพยี ร หมายถงึ การการะทาท่ีตดิ ตอ่ ไมข่ าดตอน เป็นระยะยาว
จนประสบ ความสาเรจ็ คาน้ี มีความหมายของ ความกลา้ หาญ เจืออยดู่ ้วย สว่ นหน่งึ
จิตตะ หมายถึงความไมท่ อดทง้ิ ส่ิงนน้ั ไปจากความรู้สกึ ของตัว ทาส่ิงซ่ึงเป็น วตั ถปุ ระสงค์ นนั้ ให้
เด่นชัด อยู่ในใจเสมอ คานี้ รวมความหมาย ของคาว่า สมาธิ อยู่ดว้ ยอย่างเต็มท่ี
วมิ ังสา หมายถงึ ความสอดสอ่ งใน เหตแุ ละผล แห่งความสาเรจ็ เกีย่ วกบั เรอ่ื งน้ันๆ ให้ลึกซง้ึ ยิง่ ๆ ขนึ้
ไปตลอดเวลา คาน้ี รวมความหมาย ของคาว่า ปัญญา ไว้อย่างเต็มท่ี

6

6

พระราชดารสั ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภมู ิพลอดุลยเดช บรมนาถบพติ ร
“ระเบียบในการทางานนีจ้ าเป็นต้องมคี ือ มวี ินัยนน่ั เองถา้ ไม่มีวินัยทาอะไรกจ็ ะเปะปะไปหมด แมใ้ น

ห้องเรยี นจะไมไ่ ด้สอนว่าวิชานี้ๆต้องมวี ินัยแตท่ ุกวชิ าตอ้ งมวี ินัยแมจ้ ะไปสังสรรคก์ ันไปเลน่ กีฬากัน ไปพัฒนาชนบทก็
ตามต้องมวี นิ ยั ท้งั นัน้ ถา้ ไมม่ วี นิ ัยงานน้ันมหี วงั ลม้ เหลวหรือยิง่ กวา่ นั้นงานนั้นอาจจะมี หวังทาลายส่วนรวมกไ็ ดถ้ า้ ไมม่ ี
วนิ ัยขาดความรู้หนอ่ ยอาจจะยงั ดี ดีกวา่ ขาดวนิ ยั แตถ่ า้ มที งั้ ความรแู้ ละ วินัยกย็ ่งิ ดี”

พระราชดารัสพระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ ัวภูมิพลอดุลยเดช พระราชทานแก่นกั ศึกษาปัจจุบันของ
มหาวิทยาลยั ขอนแกน่ ณ สโมสรอาจารย์ มหาวิทยาลยั ขอนแกน่ เมื่อวนั ท่ี ๒๐ ธันวาคม ๒๕๒๒

7

บทท่ี 3

วิธีดาเนนิ โครงงาน

วธิ ีดาเนินงาน

การจัดทาโครงงานคุณธรรมของนักเรียนหอนอนรวงผึง้ ในครง้ั น้ี มกี ารดาเนินงานตามขนั้ ตอนดังน้ี

1. ขั้นวางแผน
1. สารวจและวิเคราะหป์ ัญหาของนกั เรยี นหอนอนรวงผึง้ ทเี่ กิดขึน้
2. นกั เรียนและครรู ่วมกนั วิเคราะห์หาแนวทางแก้ไขปญั หา
3. นกั เรยี นและครรู ว่ มกันวางแผนการแก้ไขปญั หา พร้อมกับสรา้ งความเข้าใจการดาเนินงาน สร้าง

ข้อตกลงในการดาเนนิ งาน
2. ข้นั ดาเนนิ งาน
1. แบ่งหน้าท่ใี นการปฏบิ ัติงาน
2. ดาเนนิ การการตามแผนงานทก่ี าหนด
2.1. อบรมใหค้ วามรนู้ กั เรียนหอนอนรวงผ้ึงเกี่ยวกบั การเดนิ แถวอย่างเปน็ ระเบียบ โดยยดึ

หลักการเดินชดิ ขวา
2.2. ใหน้ ักเรียนปฏิบัตใิ นการข้นึ และลงบนั ไดให้เปน็ ระเบียบ เดนิ ชิดขวาเปน็ หลัก
2.3. ให้นกั เรียนเข้าแถวเดินไปรบั ประทานอาหาร ขณะรอรบั อาหารและกลบั หอนอนหลงั

เลกิ กจิ กรรมหลกั ไตรรงคอ์ ยา่ งเป็นระเบยี บ
3.4. ใหน้ กั เรยี นเขา้ แถวเดินภายในโรงเรยี นอย่างเป็นระเบียบ เดนิ เป็นแถวเรียงหนงึ่

เอามือไขวเ้ ก็บไว้ดา้ นหลังและชิดขวาเปน็ หลัก
3. ขน้ั ติดตามผล
1. ครูทาแบบสังเกตพฤตกิ รรมนกั เรยี นเป็นระยะๆ สัปดาห์ละ 1 ครง้ั และให้ครูเวรประจาวนั ตอบ

แบบสอบถามความพงึ พอใจของนกั เรยี นในการแก้ไขปัญหา
2. เมื่อมปี ญั หาในการปฏบิ ตั ติ ามโครงงาน ดาเนนิ การปรกึ ษาหารอื กนั ในหอนอน เพอื่ ปรบั เปลี่ยน

รปู แบบการดาเนนิ โครงงาน
4. ข้นั สรุปและประเมนิ ผล
1. ประเมนิ ผลการดาเนนิ งานเม่อื สิ้นภาคเรียนท่ี 1/2563 จากผลการตอบแบบสารวจความ

พงึ พอใจของครูเวรประจาวัน
2. สรุปผลการดาเนินโครงงานและรายงาน

คณุ ธรรมเปา้ หมาย
การดาเนนิ โครงงาน ระเบยี บแถวดี มวี นิ ยั เพื่อปรบั พฤตกิ รรมนกั เรียนหอนอนรวงผึ้งให้เดินแถวเปน็ ระเบยี บ

เลกิ นิสยั การเดนิ กันเปน็ กลุ่ม พดู คุย หยอกลอ้ กันเสยี งดงั ซ่งึ เป็นภาพทีไ่ ม่นา่ มอง ดูวุ่นวาย ซงึ่ มีความเชอ่ื มโยงกับ

8

คุณธรรมเปา้ หมายของโรงเรียน คือ
- ความมีระเบยี บวนิ ยั

พฤติกรรมเชงิ บวก
๑. มีระเบยี บวินัยในการเดนิ แถว
๒. ความอดทน
๓. การรู้จักรอคอย

คณุ ธรรมทน่ี ามาใช้
อทิ ธบิ าท ๔
คาว่า อทิ ธบิ าท แปลวา่ บาทฐานแห่งความสาเร็จ หมายถึง สิ่งซงึ่ มี คุณธรรม เคร่อื งใหล้ ุถงึ

ความสาเร็จตามทต่ี นประสงค์ ผ้หู วังความสาเรจ็ ในส่งิ ใด ตอ้ งทาตนให้สมบรู ณ์ ดว้ ยส่งิ ที่ เรยี กวา่ อิทธิบาท
ซึ่งจาแนกไวเ้ ปน็ ๔ คือ

๑. ฉันทะ ความพอใจรักใครใ่ นสิ่งนน้ั
๒. วริ ิยะ ความพากเพยี รในส่งิ นัน้
๓. จิตตะ ความเอาใจใส่ฝกั ใฝ่ในส่ิงนัน้
๔. วมิ งั สา ความหมัน่ สอดส่องในเหตุผลของสงิ่ นั้น
ธรรม ๔ อยา่ งน้ี ย่อมเนื่องกนั แต่ละอยา่ งๆ มหี นา้ ท่เี ฉพาะของตน
ฉันทะ คือความพอใจ ในฐานะเป็นส่ิงท่ี ตนถือวา่ ดที ีส่ ุด ทีม่ นษุ ยเ์ รา ควรจะได้ ขอ้ นี้
เป็นกาลังใจ อันแรก ที่ทาให้เกิด คณุ ธรรม ขอ้ ต่อไป ทุกขอ้
วิรยิ ะ คือความพากเพียร หมายถึง การการะทาท่ีติดต่อ ไมข่ าดตอน เป็นระยะยาว
จนประสบ ความสาเร็จ คานี้ มีความหมายของ ความกลา้ หาญ เจอื อยู่ดว้ ย ส่วนหนึง่
จิตตะ หมายถงึ ความไมท่ อดทงิ้ สิ่งน้ัน ไปจากความรสู้ ึก ของตวั ทาสงิ่ ซง่ึ เป็น วตั ถปุ ระสงค์ น้ันให้
เดน่ ชัด อยูใ่ นใจเสมอ คาน้ี รวมความหมาย ของคาวา่ สมาธิ อยู่ด้วยอยา่ งเตม็ ที่
วิมงั สา หมายถงึ ความสอดส่องใน เหตุและผล แห่งความสาเรจ็ เกยี่ วกับเรอื่ งนั้นๆ ให้ลึกซึ้ง ยงิ่ ๆ ข้ึน
ไปตลอดเวลา คาน้ี รวมความหมาย ของคาวา่ ปัญญา ไว้อย่างเต็มท่ี

พระราชดารสั ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดลุ ยเดช บรมนาถบพิตร
“ระเบยี บในการทางานนีจ้ าเป็นตอ้ งมคี อื มวี นิ ยั นนั่ เองถ้าไมม่ วี ินยั ทาอะไรกจ็ ะเปะปะไปหมด แม้ใน

ห้องเรียนจะไมไ่ ดส้ อนว่าวิชาน้ีๆตอ้ งมีวนิ ยั แตท่ กุ วชิ าต้องมวี ินยั แมจ้ ะไปสงั สรรค์กันไปเล่นกีฬากัน ไปพฒั นาชนบทก็
ตามตอ้ งมีวินยั ทงั้ นนั้ ถ้าไม่มวี นิ ยั งานนน้ั มหี วงั ล้มเหลวหรอื ย่งิ กวา่ นนั้ งานนน้ั อาจจะมี หวงั ทาลายสว่ นรวมก็ไดถ้ ้าไมม่ ี

9

วนิ ัยขาดความร้หู นอ่ ยอาจจะยงั ดี ดีกวา่ ขาดวนิ ัยแตถ่ า้ มีท้ังความรูแ้ ละ วนิ ยั กย็ ิง่ ดี”
พระราชดารัสพระบาทสมเด็จพระเจา้ อย่หู ัวภูมิพลอดลุ ยเดช พระราชทานแกน่ ักศึกษาปจั จุบนั ของ

มหาวทิ ยาลัยขอนแกน่ ณ สโมสรอาจารย์ มหาวิทยาลัยขอนแกน่ เม่ือวนั ที่ ๒๐ ธันวาคม ๒๕๒๒

ความเช่ือมโยงสู่คุณธรรมอัตลกั ษณข์ องโรงเรยี น
โครงงานคุณธรรม ระเบียบแถวดี มีวนิ ยั นั้นไดเ้ ชอื่ มโยงสูอ่ ัตลักษณ์ของโรงเรยี นในข้อทีว่ ่า

ความมรี ะเบียบวินัย เมอื่ นกั เรยี นปฏบิ ตั ิตามกฎระเบยี บของโรงเรยี น จะทาให้โรงเรยี นมีระเบียบวินยั มากขึน้
มวี นิ ัยในการเขา้ แถว ตรงต่อเวลา รู้จักอดทน และร้จู ักการรอคอย สง่ ผลให้นกั เรียนเป็นผู้มรี ะเบียบวินัยในการดาเนนิ
ชีวติ

วธิ ีการวดั ประเมนิ ผล
เพื่อปรับพฤตกิ รรมนักเรียนหอนอนรวงผึ้งใหเ้ ดินแถวเป็นระเบยี บ เลกิ นสิ ยั การเดนิ กนั เป็นกลุ่ม พดู คยุ หยอก

ลอ้ กนั เสียงดงั ซึ่งเป็นภาพท่ไี มน่ ่ามอง ดูวนุ่ วาย
วิธีการวดั ผล : สังเกตพฤตกิ รรมนกั เรียน
เคร่ืองมือวัด : แบบสารวจความพึงพอใจท่มี ีตอ่ การทาโครงงานระเบยี บแถวดี มีวนิ ัย
ช่วงระยะเวลาวัดและประเมิน : สปั ดาห์ละ 1 ครง้ั

ตัวชี้วัดความสาเรจ็
รอ้ ยละ 100 ของนกั เรยี นหอนอนรวงผ้ึง ปฏบิ ัติตนมีระเบียบวินยั มคี วามอดทน รู้จักการรอคอย

10

บทท่ี 4
ผลการดาเนนิ งาน

ในการดาเนนิ โครงงาน ระเบียบแถวดี มีวินัย เพอ่ื ปรับพฤติกรรมนักเรยี นหอนอนรวงผ้ึงให้เดินแถวเป็น
ระเบียบ เลกิ นสิ ัยการเดนิ กันเป็นกลุ่ม พดู คยุ หยอกล้อกนั เสยี งดงั ซ่ึงเปน็ ภาพท่ีไมน่ า่ มอง ดวู ่นุ วาย
นกั เรยี นหอนอนรวงผึง้ จานวน 35 คน มรี ะเบียบวนิ ัยในการเดินแถวดขี ึ้น จงึ ขอรายงานผลการดาเนินโครงงาน
ดงั นี้
กล่มุ เป้าหมาย

1. เชิงปรมิ าณ
- นกั เรยี นหอนอนรวงผึง้ จานวน 35 คน

2. เชงิ คณุ ภาพ
- นกั เรียนหอนอนรวงผง้ึ เดนิ แถวอยา่ งเป็นระเบยี บ
เปา้ หมายระยะส้ัน (ระยะเวลา 3 เดอื น)
- นกั เรยี นหอนอนรวงผงึ้ เดนิ แถวเป็นระเบยี บ และเขา้ แถวเปน็ ระเบยี บขณะรอเม่ือรอรับ

อาหาร
เป้าหมายระยะยาว (ระยะเวลา 1 ปีการศกึ ษา)
- นกั เรียนหอนอนรวงผ้ึง ปฏิบตั ิตนมีระเบยี บวินัย มคี วามอดทน รู้จกั การรอคอย

รอ้ ยละ 90

แบบประเมินความพึงพอใจท่มี ีต่อการการดาเนินโครงงานคุณธรรม “ระเบยี บแถวดี มีวินัย” หอนอนรวงผง้ึ

คาชแ้ี จง ให้ทาเครอ่ื งหมาย  ในช่องระดบั คะแนนทค่ี ดิ ว่าเหมาะสม

ระดับคะแนน 5 หมายถึง ดีมาก

4 หมายถงึ ดี

3 หมายถึง ปานกลาง

2 หมายถงึ พอใช้

1 หมายถึง ปรับปรงุ

1. สถานภาพ  ครู  นกั เรยี น

2. เพศ  ชาย  หญงิ

11

รายการทปี่ ระเมิน 5 ระดับความพึงพอใจ 1
ดีมาก 432 ปรบั ปรุง
1. การเดนิ แถวไปรับประทานอาหารของนักเรียนหอนอนรวงผึ้ง ดี ปาน พอใช้
หลังทาโครงงานเป็นระเบียบย่งิ ขึ้น 46 0
2. การเขา้ แถวรอรบั อาหารของนักเรียนหอนอนรวงผึ้ง (92.00) กลาง (0.00)
หลงั ทาโครงงานเปน็ ระเบียบยง่ิ ขึน้ 400
49 (8.00) (0.00) (0.00) 0
11 (98.00) (0.00)
100
(2.00) (0.00) (0.00)

รายการทป่ี ระเมิน 5 ระดับความพงึ พอใจ 1
ดมี าก 432 ปรบั ปรงุ
3. การเดนิ แถวขนึ้ ลงบันไดของนกั เรียนหอนอนรวงผ้ึง ดี ปาน พอใช้
หลงั ทาโครงงานเปน็ ระเบียบยิ่งข้ึน 45 0
4. การเขา้ แถวเดินภายในโรงเรียนของนกั เรียนหอนอนรวงผง้ึ (90.00) กลาง (0.00)
หลงั ทาโครงงานเป็นระเบยี บย่งิ ขนึ้ 500
5. นกั เรยี นยึดการเดนิ เรียงหนงึ่ และชิดขวาเป็นหลัก 44 (10.00) (0.00) (0.00) 0
(88.00) (0.00)
รวม 600
คดิ เป็นร้อยละ 43 (12.00) (0.00) (0.00) 0
(86.00) (0.00)
227 700
90.80 (14.00) (0.00) (0.00) 0
0.00
23 0 0

9.20 0.00 0.00

ผลการประเมินความพงึ พอใจทมี่ ีต่อการการดาเนนิ โครงงานคณุ ธรรม “ระเบยี บแถวดี มีวนิ ัย” หอนอนรวงผงึ้ ใน
ระดบั 5 ดีมาก คิดเปน็ ร้อยละ 90.80

12

บทท่ี 5
สรุป อภปิ รายและข้อเสนอแนะ

การดาเนนิ โครงงาน ระเบียบแถวดี มวี ินัย เพอื่ ปรับพฤตกิ รรมนกั เรยี นหอนอนรวงผงึ้ ให้เดินแถวเปน็ ระเบยี บ
เลิกนิสัยการเดินกนั เป็นกล่มุ พูดคยุ หยอกลอ้ กันเสียงดงั ซง่ึ เป็นภาพที่ไม่นา่ มอง ดวู ุ่นวาย
นกั เรยี นหอนอนรวงผง้ึ จานวน 35 คน มีระเบยี บวนิ ัยในการเดินแถวดีข้ึน สามารถสรปุ ผลการดาเนินโครงงานได้
ดังน้ี

1. วตั ถปุ ระสงคข์ องการดาเนนิ โครงงาน
2. กลมุ่ เปา้ หมาย
3. ประโยชน์ทีค่ าดว่าจะได้รับ
4. คุณธรรมเปา้ หมาย
5. คุณธรรมอตั ลักษณ์ของโรงเรียน
6. สรปุ และอภปิ รายผล
7. ขอ้ เสนอแนะ
วตั ถปุ ระสงค์
1. เพ่ือใหน้ กั เรยี นหอนอนรวงผ้ึงมรี ะเบียบวนิ ัย รูจ้ ักการรอคอย
2. เพอื่ ใหน้ ักเรียนหอนอนรวงผงึ้ เดนิ แถวให้เปน็ ระเบยี บ ไมพ่ ดู คุย หรอื เล่นกันในแถว

กลุ่มเปา้ หมาย
1. เชิงปริมาณ
- นักเรยี นหอนอนรวงผงึ้ จานวน 35 คน

2. เชิงคุณภาพ
- นกั เรยี นหอนอนรวงผ้ึง เดนิ แถวอยา่ งเปน็ ระเบยี บ
เป้าหมายระยะสัน้ (ระยะเวลา 3 เดอื น)
- นักเรียนหอนอนรวงผ้งึ เดนิ แถวเปน็ ระเบยี บ และเข้าแถวเป็นระเบยี บขณะรอเมือ่ รอรับ

อาหาร
เปา้ หมายระยะยาว (ระยะเวลา 1 ปีการศึกษา)
- นักเรียนหอนอนรวงผึ้ง ปฏบิ ตั ิตนมีระเบยี บวินยั มคี วามอดทน รู้จกั การรอคอย

ร้อยละ 90

13

ประโยชน์ท่ีคาดวา่ จะไดร้ ับ
1. นักเรยี นหอนอนรวงผ้งึ เดินแถวไปรับประทานอาหารอย่างเปน็ ระเบียบ
2. นักเรียนหอนอนรวงผ้งึ เขา้ แถวอย่างเปน็ ระเบียบขณะรอรบั อาหาร
3. นกั เรียนหอนอนรวงผึ้งมีความอดทน รู้จักการรอคอย

13

คณุ ธรรมเป้าหมาย
การดาเนนิ โครงงาน ระเบยี บแถวดี มีวนิ ยั เพ่ือปรบั พฤตกิ รรมนกั เรยี นหอนอนรวงผึง้ ใหเ้ ดนิ แถวเปน็ ระเบยี บ

เลกิ นิสยั การเดินกนั เป็นกลุ่ม พูดคุย หยอกลอ้ กันเสียงดงั ซ่งึ เป็นภาพทีไ่ ม่น่ามอง ดูวุ่นวาย ซึ่งมีความเชือ่ มโยงกบั
คุณธรรมเปา้ หมายของโรงเรียน คอื

- ความมีระเบยี บวนิ ัย
พฤติกรรมเชงิ บวก
๑. มีระเบียบวนิ ัยในการเดนิ แถว
๒. ความอดทน
๓. การรจู้ กั รอคอย

คุณธรรมท่ีนามาใช้
อทิ ธิบาท ๔
คาว่า อิทธบิ าท แปลวา่ บาทฐานแห่งความสาเร็จ หมายถึง สง่ิ ซงึ่ มี คุณธรรม เคร่อื งใหล้ ุถงึ

ความสาเรจ็ ตามท่ีตนประสงค์ ผู้หวังความสาเรจ็ ในส่งิ ใด ตอ้ งทาตนให้สมบูรณ์ ดว้ ยส่งิ ท่ี เรยี กวา่ อิทธบิ าท
ซ่ึงจาแนกไว้เปน็ ๔ คือ

๑. ฉนั ทะ ความพอใจรกั ใคร่ในสิ่งนั้น
๒. วริ ิยะ ความพากเพียรในส่งิ นน้ั
๓. จติ ตะ ความเอาใจใส่ฝกั ใฝ่ในสง่ิ น้นั
๔. วมิ ังสา ความหมั่นสอดส่องในเหตุผลของสิ่งนัน้
ธรรม ๔ อย่างนี้ ยอ่ มเน่ืองกนั แตล่ ะอย่างๆ มหี น้าทเ่ี ฉพาะของตน
ฉันทะ คอื ความพอใจ ในฐานะเปน็ สงิ่ ที่ ตนถอื ว่า ดีทีส่ ดุ ทมี่ นษุ ยเ์ รา ควรจะได้ ข้อน้ี
เป็นกาลงั ใจ อนั แรก ท่ีทาให้เกดิ คณุ ธรรม ขอ้ ตอ่ ไป ทุกขอ้
วริ ยิ ะ คอื ความพากเพยี ร หมายถึง การการะทาท่ีตดิ ตอ่ ไมข่ าดตอน เปน็ ระยะยาว
จนประสบ ความสาเรจ็ คาน้ี มีความหมายของ ความกล้าหาญ เจอื อยดู่ ว้ ย ส่วนหนึ่ง
จติ ตะ หมายถึงความไม่ทอดท้งิ สิ่งนนั้ ไปจากความรสู้ กึ ของตัว ทาสง่ิ ซึง่ เป็น วัตถุประสงค์ น้ันให้
เด่นชดั อยใู่ นใจเสมอ คานี้ รวมความหมาย ของคาว่า สมาธิ อยู่ด้วยอยา่ งเตม็ ที่

14

วมิ งั สา หมายถงึ ความสอดสอ่ งใน เหตแุ ละผล แห่งความสาเรจ็ เกี่ยวกับเรื่องน้นั ๆ ให้ลกึ ซึ้ง ย่ิงๆ ขน้ึ
ไปตลอดเวลา คาน้ี รวมความหมาย ของคาวา่ ปัญญา ไว้อยา่ งเต็มที่

พระราชดารัสของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช บรมนาถบพติ ร
“ระเบียบในการทางานน้ีจาเปน็ ตอ้ งมีคือ มีวนิ ัยนน่ั เองถ้าไมม่ วี นิ ยั ทาอะไรกจ็ ะเปะปะไปหมด แมใ้ น

หอ้ งเรียนจะไมไ่ ด้สอนวา่ วชิ านๆี้ ต้องมีวินัยแตท่ กุ วชิ าต้องมีวินัยแมจ้ ะไปสงั สรรคก์ ันไปเลน่ กีฬากัน ไปพัฒนาชนบทก็
ตามต้องมวี นิ ัยทั้งนน้ั ถ้าไมม่ ีวนิ ยั งานน้ันมหี วงั ล้มเหลวหรือย่ิงกว่านนั้ งานน้นั อาจจะมี หวังทาลายส่วนรวมกไ็ ด้ถา้ ไม่มี
วินยั ขาดความรูห้ น่อยอาจจะยังดี ดกี ว่าขาดวนิ ยั แตถ่ ้ามีทงั้ ความรแู้ ละ วินยั ก็ยิง่ ดี”

พระราชดารัสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยหู่ ัวภูมพิ ลอดลุ ยเดช พระราชทานแกน่ ักศกึ ษาปัจจบุ ันของ
มหาวิทยาลัยขอนแกน่ ณ สโมสรอาจารย์ มหาวิทยาลยั ขอนแกน่ เมอื่ วันที่ ๒๐ ธนั วาคม ๒๕๒๒

14
สรุปและอภปิ รายผล

นักเรียนหอนอนรวงผ้ึงมรี ะเบยี บวนิ ยั ดา้ นการเดินแถวเพมิ่ มากขึ้น เช่น เดินแถวไปรับประทานอาหาร
เขา้ แถวรอรับอาหาร เดินแถวข้นึ ลงบนั ได เข้าแถวเดนิ ภายในโรงเรยี น ยึดการเดินเรยี งหนงึ่ และชดิ ขวาเปน็ หลกั คดิ
เป็นรอ้ ยละ 90.80 ซ่งึ ผ่านเกณฑ์เป้าหมายท่ีกาหนดไว้

ข้อเสนอแนะ

จากการดาเนนิ โครงงาน นักเรยี นหอนอนรวงผ้งึ ให้ความร่วมมือในการปฏิบตั ติ ามกฎระเบยี บดา้ นการเดนิ แถว
เป็นอยา่ งดี นักเรียนเห็นถึงความสาคญั ของคุณธรรมดา้ นความมรี ะเบียบวนิ ยั อีกทั้งครูและบคุ ลากรชว่ ยส่งเสริม ให้
ความรว่ มมือในการดาเนินโครงการในครงั้ น้ีด้วย

15

ภาคผนวก

16

แบบประเมินความพงึ พอใจท่ีมตี อ่ การการดาเนินโครงงานคณุ ธรรม “ระเบยี บแถวดี มวี ินยั ”
หอนอนรวงผง้ึ

คาชแ้ี จง ให้ทาเคร่อื งหมาย  ในชอ่ งระดับคะแนนท่ีคิดว่าเหมาะสม

ระดับคะแนน 5 หมายถึง ดีมาก

4 หมายถงึ ดี

3 หมายถงึ ปานกลาง

2 หมายถึง พอใช้

1 หมายถึง ปรับปรุง
 ครู  นกั เรยี น
1. สถานภาพ

2. เพศ  ชาย  หญงิ

รายการท่ปี ระเมนิ 5 ระดบั ความพงึ พอใจ 1
ดีมาก 43 2 ปรับ
ดี ปาน พอใช้ ปรงุ

กลาง

1. การเดินแถวไปรบั ประทานอาหารของนกั เรยี นหอนอนรวงผึ้ง
หลังทาโครงงานเปน็ ระเบียบยิง่ ขนึ้
2. การเข้าแถวรอรบั อาหารของนักเรยี นหอนอนรวงผ้งึ
หลังทาโครงงานเป็นระเบยี บยงิ่ ขึ้น
3. การเดนิ แถวขึน้ ลงบันไดของนักเรยี นหอนอนรวงผงึ้
หลังทาโครงงานเปน็ ระเบยี บยิ่งขึ้น
4. การเขา้ แถวเดินภายในโรงเรยี นของนกั เรยี นหอนอนรวงผงึ้
หลังทาโครงงานเป็นระเบยี บยิง่ ขนึ้
5. นักเรยี นยึดการเดนิ เรียงหนง่ึ และชดิ ขวาเป็นหลกั

รวม

ขอ้ เสนอแนะ
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................

- ขอบคณุ ค่ะ -

17

ปญั หานกั เรยี นหอนอนรวงผงึ้ เดนิ แถวไปรบั ประทานอาหารอย่างไม่เปน็ ระเบยี บ

ปญั หานกั เรียนหอนอนรวงผง้ึ ไม่เข้าแถวใหเ้ ปน็ ระเบยี บขณะรอรบั อาหาร

18

หลงั การปฏบิ ัตติ ามโครงงาน
นกั เรียนหอนอนรวงผึ้งเดนิ แถวไปรบั ประทานอาหารอย่างเปน็ ระเบียบ

หลังการปฏบิ ตั ติ ามโครงงาน
นกั เรยี นหอนอนรวงผึ้งเขา้ แถวอยา่ งเปน็ ระเบียบขณะรอรบั อาหาร

19

อ้างอิง
http://www2.kalyanamitra.org/th/article_detail.php?i=6775


Click to View FlipBook Version