The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

- แบบประเมินการจัดบรรยากาศในห้องเรียน
- แบบรายงานการบริหารจัดการชั้นเรียน
- แบบบันทึกการเสริมแรงให้กับผู้เรียน
- แบบประเมินการมีส่วนร่วมของผู้เรียน

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by rattanai.r, 2022-09-15 02:47:26

1.7 การจัดบรรยากาศที่ส่งเสริมและพัฒนาผู้เรียน

- แบบประเมินการจัดบรรยากาศในห้องเรียน
- แบบรายงานการบริหารจัดการชั้นเรียน
- แบบบันทึกการเสริมแรงให้กับผู้เรียน
- แบบประเมินการมีส่วนร่วมของผู้เรียน

เอกสารประกอบการประเมนิ ว.PA

ขอ้ ตกลงในการพัฒนางานตามมาตรฐานตําแหน่ง

ดา้ นท่ี ๑. ดา้ นการจัดการเรยี นรู้

ตวั ชีว้ ดั ท๑ี่ .๗ การจัดบรรยากาศที่สง่ เสริมและพฒั นาผู้เรยี น

วาท่ีเรือตรีรัฐนัย ร่ืนกมล ร.น.

- ตําแหนง่ ครู -

โรงเรยี นบางปะหัน

สาํ นกั งานเขตพื้นที่การศกึ ษามัธยมศึกษาพระนครศรีอยธุ ยา
สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขัน้ พนื้ ฐาน
กระทรวงศกึ ษาธิการ

แบบรายงานการบริหารจดั การช้นั เรียน
รายวิชาพลศึกษา รหัสวิชา พ31202 ภาคเรยี นท่ี 2 ปีการศกึ ษา 2564

รหัสวิชา พ31201 ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศึกษา 2565

ว่าที่เรอื ตรีรฐั นัย รน่ื กมล ร.น.
ตำแหนง่ ครู

กลมุ่ สาระการเรียนรสู้ ุขศึกษาและพลศึกษา
โรงเรียนบางปะหนั

สำนกั งานเขตพ้ืนท่กี ารศกึ ษาพระนครศรีอยุธยา

การบริหารจัดการชั้นเรียน

ทมี่ าและความสำคญั
ปัญหาอย่างหนึ่งที่พบได้บ่อยในหลายโรงเรียน คือ การควบคุมดูแลนักเรียนให้อยู่ในระเบียบวินัย

และตั้งใจเรียน แม้กระทั่งครูที่มีประสบการณ์ด้านการสอนที่มีความเชื่อมั่นในวิธีการควบคุมชั้นเรียน
โดยนักเรียนต้องเชื่อฟังและอยู่ในระเบียบวินัยอย่างเคร่งครัด ซึ่งเป็นแนวทางที่ไม่สอดคล้องกับแนวการเรียน
การสอนในปัจจุบันที่เน้นนกั เรียนเป็นสำคัญ ให้นักเรียนได้มีสว่ นร่วมในกจิ กรรมการเรยี นรู้น้ันๆ ได้คิดลงมอื ทำ
กจิ กรรมอย่างกระตอื รอื รน้ ตื่นตวั ตน่ื ใจ หรือมใี จจดจ่อผูกพนั กับสิ่งทที่ ำ มใิ ชเ่ พียง ทำไปให้เสรจ็ ภารกิจเท่านั้น
ดังนั้นการที่ครูจะจัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้ ผู้เรียนมีส่วนร่วมนั้น กิจกรรมนั้นจะต้องมีลักษณะที่ช่วยให้ผู้เรียนมี
ส่วนร่วมอยา่ ง “active” คือ ชว่ ยใหผ้ เู้ รยี นรู้สึกมคี วามกระตือรอื ร้นตนื่ ตวั มคี วามจดจอ่ ผกู พันกับส่ิงท่ีทำ เพ่ือ
ก่อให้เกิดการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง และครูที่สามารถดำเนินการดังกล่าวให้ประสบความสำเร็จนั้นจึง
ได้รับการยอมรับว่าเป็น “ครูมืออาชีพ” ดังนั้น ครูที่มีความรู้ในเนื้อหาวิชาที่สอนมีความสามารถจัดการเรียน
การสอนอย่างเปน็ ระบบมีประสทิ ธภิ าพ รวมถึงต้องพัฒนาทกั ษะวิชาชีพของตนเองอย่างสม่ำเสมอและตอ่ เนื่อง
เพื่อมุ่งพัฒนาศักยภาพของนักเรียนอย่างแท้จริงดังนั้นการบริหารจัดการชั้นเรียนตลอดจนการสร้างบรรยากาศ
ที่กระตุ้นส่งเสริมให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้หรือสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเองจึงเป็นสิ่งที่ครูมืออาชีพต้องให้
ความสำคัญและสามารถดำเนนิ การไดอ้ ยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ (ศศธิ ร ขันติธรางกรู : 2551)

ลกั ษณะของการจัดการชนั้ เรียน
โดยส่วนใหญ่แลว้ จะเข้าใจกันว่า การจัดการชั้นเรียน คือ การจัดสภาพของห้องเรียนทางดา้ นกายภาพ

หรอื การตกแตง่ หอ้ งเรยี นดว้ ยวสั ดุตกแตง่ เพ่อื เป็นการจูงใจนักเรียนใหม้ คี วามสนใจและตงั้ ใจเรียน นั่นเป็นเพียง
ส่วนหนึ่งของการจัดการชั้นเรียนเท่านั้น หากแต่ต้องมีการสร้างสรรค์และเอาใจใส่สภาพบรรยากาศภายใน
ห้องเรียนด้วยเช่นกัน ครูจึงเป็นบุคคลที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เลยในการรับหน้าที่เป็นผู้สร้างและส่งเสริมกระบวนการ
เรียนการสอน กระตุ้นความใฝ่รู้และใส่ใจในการศึกษาของผู้เรียน สร้างความมีระเบียบวินัยให้กับผู้เรียน อีกทั้ง
ตอ้ งคงสภาพสิ่งแวดล้อมเหล่านเ้ี พ่อื ชว่ ยให้การสอนในชนั้ เรยี นเป็นไปอย่างมีประสทิ ธภิ าพและเกิดประสทิ ธผิ ล
แก่ผเู้ รียนอย่างยั่งยนื

องคป์ ระกอบของการบริหารจัดการชน้ั เรยี น
วีณา นนทพันธาวาทย์ : 2551) ให้คำจำกัดความว่า การบริหารจัดการชั้นเรียน ประกอบด้วย

ความคิด การวางแผนและการปฏิบัติทั้งหลายทั้งปวงของครูที่สร้างสรรค์สภาพแวดล้อมอย่างเป็นระบบ
ระเบียบและส่งเสริมการเรียนรู้ โดยมีเป้าหมายของการจัดการบริหาร (Management Goals) มี 2 ประการ
สำคญั คือ

1. รังสรรค์สิ่งแวดล้อมต่างๆ ที่จะส่งเสริมให้การเรียนรู้มีความเป็นไปได้มากที่สุดและครูจะสามารถ
สะท้อนการปฏิบัติงานของตนเองด้วยการถามตนเองสม่ำเสมอว่าระบบการบริหารขัดการเอื้ออำนวยให้
นกั เรยี นไดเ้ รยี นรูอ้ ยา่ งไร เพียงใด

2. พฒั นานกั เรยี นใหม้ ีศักยภาพในการจดั การและนำตนเองใหส้ ามารถเรียนรูไ้ ด้ดว้ ยตนเอง ดงั นั้น การ
บริหารจัดการชั้นเรียนจึงเปน็ เครอ่ื งมือในการสง่ เสริมใหน้ กั เรียนเกิดความเขา้ ใจด้วยตนเอง ประเมนิ ตนเองและ
ควบคมุ ดแู ลตนเองไดเ้ หมาะสมตามวัย

ความสำคัญของการจัดการช้ันเรยี น
จากการที่นักการศึกษาหลายท่านได้ให้ความหมายของการบริหารจัดการชั้นเรียนและจากเอกสาร

งานวิจัยหลายฉบับนั้น จะพบว่าการบริหารจัดการชั้นเรียนเป็นสิ่งสำคัญอันดับต้นๆ อันจะเป็นแรงกระตุ้นให้
ผู้เรียนเกิดความกระตือรือร้นในการเรียนและการร่วมกิจกรรมต่างๆ ภายในห้องเรียน และนำไปสู่การประสบ
ความสำเร็จในการจัดการเรียนการสอนที่มีประสิทธิภาพและได้ประสิทธิผลสูงสุด การจัดการชั้นเรียนมี
ความสำคัญด้วยเหตุผลหลายประการ คือ

- การเรยี นรู้จะเกิดข้ึนไมไ่ ด้หรอื เกดิ ได้นอ้ ยถา้ มสี งิ่ รบกวนในชัน้ เรยี นอย่ตู ลอดเวลาดว้ ยปัญหาทางดา้ น
พฤติกรรมของนักเรียน

- นักเรียนที่อยู่ในชั้นเรียนที่ไม่เป็นระเบียบเรียบร้อย สิ่งแวดล้อมในชั้นเรียนมีเสียงดังและสิ่งรบกวน
หรือการจัดที่นั่งไม่เหมาะสมอาจเกิดสาเหตุให้เกิดปัญหาทางวินัยนำไปสู่การแสดงพฤติกรรมที่ก้าวร้าว หรือทำ
ให้นกั เรยี นไมส่ ามารถชว่ ยเหลือตนเองได้ สง่ ผลให้นักเรียนไม่สามารถเรียนรไู้ ด้อยา่ งเตม็ ที่

- การกำหนดคณุ ลกั ษณะพฤตกิ รรมท่ีพงึ ประสงคข์ องนกั เรยี นไวล้ ่วงหนา้ จะมีประโยชน์อย่างยิ่งต่อการ
จัดการชั้นเรียน เพราะจะทำให้นักเรียนมีแนวทางในการควบคุมพฤติกรรมของตนเองโดยไม่แสดงอาการหรือ
พฤตกิ รรมท่จี ะเป็นการรบกวนการเรียนของผูอ้ น่ื

- ชั้นเรียนที่มีการจัดการกับพฤติกรรมของนักเรียนได้อย่างเหมาะสม จะทำให้ครูสามารถดำเนินการ
สอนได้อยา่ งเต็มที่โดยไมเ่ สียเวลากบั การแกไ้ ขปัญหาพฤติกรรมของนักเรียน

- การจดั การช้ันเรยี นให้นกั เรียนมีวนิ ัยในการเรยี นรู้และการอยรู่ ่วมกันด้วยความเออ้ื อาทรโดยคำนึงถึง
กฎระเบียบของชั้นเรียนอย่างต่อเนื่อง นอกจากจะยังประโยชน์ต่อการเรียนรู้แล้วยังมีผลในระยะยาวคือเป็น
การปลกู ฝังลักษณะนสิ ยั เพอื่ การเปน็ พลเมืองดีในอนาคตอกี ดว้ ย

ดงั น้ันจงึ อาจสรปุ ความสำคญั ของการจดั ช้นั เรยี นได้ว่า เปน็ การดำเนินการต่าง ๆ ท่ีเก่ียวขอ้ งกบั การจัด
สภาพแวดล้อมในชั้นเรียน เพื่อกระตุ้น ส่งเสริมบรรยากาศการเรียนรู้ รวมถึงการแก้ไขปัญหาพฤติกรรมของ
นักเรียนโดยมีเป้าหมายเพื่อให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้ตามจุดประสงค์ของการเรียนการสอนตลอดจนบรรลุผล
ตามเป้าหมายของการศึกษา

การจดั การชนั้ เรียนเพอื่ สง่ เสรมิ บรรยากาศการเรยี นรู้
บรรยากาศที่พึงปรารถนาในชั้นเรียนในการจัดการเรียนการสอน ผู้สอนต่างปรารถนาให้จัดกิจกรรม

การเรียนการสอนดำเนินไปอย่างราบรื่น และผู้เรียนเกิดพฤติกรรมตามจุดประสงค์ที่กำหนดไว้ในหลักสูตร
บรรยากาศในชั้นเรียนมีส่วนสำคัญในการส่งเสริมให้ความปรารถนานี้เป็นจริง พรรณี ชูทัย (2522 : 261 –
263) กลา่ วถงึ บรรยากาศในช้นั เรียนทจ่ี ะนำไปสู่ความสำเร็จในการสอน จดั แบง่ ได้ 6 ลกั ษณะ สรปุ ได้ดังน้ี

1. บรรยากาศที่ท้าทาย (Challenge) เป็นบรรยากาศที่ครูกระตุ้นให้กำลังใจนักเรียนเพื่อให้ประสบ
ผลสำเรจ็ ในการทำงาน นกั เรยี นจะเกดิ ความเชอ่ื มน่ั ในตนเองและพยายามทำงานใหส้ ำเรจ็

2. บรรยากาศที่มีอิสระ (Freedom) เป็นบรรยากาศที่นักเรียนมีโอกาสได้คิด ได้ตัดสินใจเลือกสิ่งที่มี
ความหมายและมีคุณค่า รวมถึงโอกาสที่จะทำผิดด้วย โดยปราศจากความกลัวและวิตกกังวล บรรยากาศเช่นนี้
จะสง่ เสริมการเรียนรู้ ผเู้ รียนจะปฏบิ ตั กิ ิจกรรมด้วยความตง้ั ใจโดยไมร่ ู้สกึ ตึงเครียด

3. บรรยากาศที่มีการยอมรับนับถือ (Respect) เป็นบรรยากาศที่ครูรู้สึกว่านักเรียนเป็นบุคคลสำคัญ
มคี ุณค่า และสามารถเรียนได้ อนั สง่ ผลใหน้ กั เรยี นเกิดความเช่อื มั่นในตนเองและเกดิ ความยอมรบั นบั ถือตนเอง

4. บรรยากาศที่มีความอบอุ่น (Warmth) เป็นบรรยากาศทางด้านจิตใจ ซึ่งมีผลต่อความสำเร็จในการ
เรียน การที่ครูมีความเข้าใจนักเรียน เป็นมิตร ยอมรับให้ความช่วยเหลือ จะทำให้นักเรียนเกิดความอบอุ่น
สบายใจ รักครู รักโรงเรียน และรกั การมาเรียน

5. บรรยากาศแห่งการควบคุม (Control) การควบคุมในที่นี้ หมายถึง การฝึกให้นักเรียนมีระเบียบ
วนิ ัย มิใชก่ ารควบคมุ ไมใ่ ห้มอี สิ ระ ครตู ้องมีเทคนคิ ในการปกครองชนั้ เรยี นและฝกึ ใหน้ ักเรียนรู้จักใช้สิทธิหน้าท่ี
ของตนเองอย่างมขี อบเขต

6. บรรยากาศแห่งความสำเร็จ (Success) เป็นบรรยากาศที่ผู้เรียนเกิดความรู้สึกประสบความสำเร็จ
ในงานที่ทำ ซึ่งส่งผลให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ได้ดีขึ้น ผู้สอนจึงควรพูดถึงสิ่งที่ผู้เรียนประสบความสำเร็จให้
มากกว่า การพูดถึงความล้มเหลว เพราะการที่คนเราคำนึงถึง แต่สิ่งที่ล้มเหลว เพราะการที่คนเราคำนึงถึงแต่
ความล้มเหลวจะมีผลทำให้ความคาดหวังต่ำ ซึ่งไม่ส่งเสริมให้การเรียนรู้ดีขึ้นบรรยากาศทั้ง 6 ลักษณะน้ี มีผล
ตอ่ ความสำเรจ็ ของผสู้ อนและความสำเรจ็ ของผเู้ รยี นผู้สอนควรสร้างให้เกดิ ในชน้ั เรยี น

ลักษณะของชนั้ เรียนท่ดี ี
เพื่อให้การจัดชั้นเรียนที่ถูกต้องตามหลักการ ผู้สอนควรได้ทราบถึงลักษณะของชั้นเรียนที่ดี สรุปได้

ดงั น้ี
1. ชนั้ เรียนทีด่ ีควรมสี สี นั ที่น่าดู สบายตา อากาศถา่ ยเทได้ดี ถูกสุขลกั ษณะ
2. จดั โต๊ะเกา้ อ้ีและส่งิ ท่ที อี่ ยใู่ นชัน้ เรยี นใหเ้ อือ้ อำนวยต่อการเรียนการสอน และกจิ กรรมประเภทตา่ งๆ
3. ให้นกั เรยี นได้เรยี นอย่างมีความสุข มีอสิ รเสรีภาพ และมีวินัยในการดแู ลตนเอง
4. ใช้ประโยชน์ชั้นเรยี นใหค้ มุ้ ค่า ครอู าจดดั แปลงใหเ้ ปน็ หอ้ งประชมุ หอ้ งฉายภาพยนตร์และอ่นื ๆ

5. จดั เตรยี มชน้ั เรยี นใหม้ ีความพรอ้ มต่อการสอนในแตล่ ะครั้ง เช่น การทำงานกลมุ่ การสาธิตการ
แสดงบทบาทสมมตุ ิ

6. สรา้ งบรรยากาศใหอ้ บอ่นุ ใหค้ วามเป็นกันเองกบั ผูเ้ รียน

รปู แบบการจดั ช้ันเรียน
การจัดช้นั เรียนจัดไดห้ ลายรปู แบบ โดยจดั ให้เหมาะสมกับบทเรยี น กจิ กรรมการเรยี นการสอน จำนวน

นักเรียน สภาพแวดล้อมในชั้นเรียน ขนาดของห้องเรียน เป็นต้น ครูควรได้ปรับเปลี่ยน รูปแบบของการจัดโต๊ะ
เกา้ อ้ี มมุ วชิ าการ และมุมตา่ ง ๆ ในหอ้ งเรียน เพ่อื สรา้ งบรรยากาศของห้องเรียนให้นา่ สนใจไมซ่ ำ้ ซากจำเจไม่น่า
เบื่อหน่าย นักเรียนจะเกิดความกระตือรือร้นและกระฉับกระเฉงในการเรียนดีขึ้น การจัดชั้นเรียนถ้าแบ่งตาม
วธิ ีการสอนจะได้ 2 แบบ คือ แบบธรรมดาและแบบนวตั กรรม

1. ชน้ั เรยี นแบบธรรมดา
ชั้นเรียนแบบธรรมดาเป็นช้ันเรียนที่มีครูเป็นศูนย์กลาง เป็นผู้นำการเรียนรู้ โดยมีผู้เรียนเป็นผู้รับ
ความรู้จากครู การจัดชั้นเรียนแบบนี้จะมีโต๊ะครูอยู่หน้าชั้นเรียน และมีโต๊ะเรียนวางเรียงกันเป็นแถว โดยหัน
หน้าเข้าหาครู ลักษณะการจัดชั้นเรียน การจัดชั้นเรียนแบบธรรมดานี้ โต๊ะเรียนของนักเรียน อาจเป็นโต๊ะเดี่ยว
หรือโต๊ะคู่ก็ได้ ผนังห้องเรียนอาจจะมีกระดานป้ายนเิ ทศ หรือสื่อการสอนเช่น แผนภูมิ รูปภาพ แผนท่ีตดิ ไว้ ซึ่ง
สื่อการสอนเหล่านี้จะไม่เปลี่ยนบ่อยนัก การตกแต่งผนัง ห้องเรียนจะแตกต่างกันออกไปตามแต่สถานที่ตั้งของ
โรงเรียน โรงเรียนท่อี ย่ใู นตัวเมืองอาจจะมีการตกแต่ง มากกว่าโรงเรยี นทีอ่ ยหู่ ่างไกลออกไปตมชนบท เพราะหา
สื่อการสอนได้ยากกว่า บางห้องเรียนอาจจะมีมุมความสนใจ แต่ก็ไม่ได้ถือเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการเรียน
การสอน
บทบาทของครูและนักเรียน บทบาทของครูและนักเรียนในชั้นเรียนแบบธรรมดานี้ ครูจะเป็นผู้รอบรู้
ในด้านต่างๆ ใช้วิธีการสอนแบบป้อนความรู้ให้แก่นักเรียนโดยการบรรยาย และอธิบายให้นักเรียนฝังอยู่
ตลอดเวลา ครูจะเป็นผู้แสดงกิจกรรมต่างๆ เอง แม้กระทั่งการทดลองอย่างง่ายๆ ไม่เปิดโอกาสให้นักเรียนได้
ยิบจับ หรือแตะต้องสื่อการสอนที่ครูนำมาแสดง นักเรียนจึงต้องฟังครู มีมีโอกาสได้พูด หรือทำงานเป็นกลุ่ม
เพ่ือค้นหาคำตอบใดๆ สอื่ การสอนทใี่ ชส้ ่วนมาก ไดแ้ ก่ ชอล์ก กระดานดำ และแบบเรยี น
2. ชน้ั เรยี นแบบนวัตกรรม
ชั้นเรียนแบบนวัตกรรม เป็นชั้นเรียนที่เอ้ืออำนวยต่อการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนโดยใช้เทคนิค
วิธีการแบบสอนใหม่ๆ เช่น การเรียนรู้แบบร่วมมือ แบบโฟร์แมท แบบสตอรี่ไลน์ แบบโครงงาน เป็นต้น ซึ่งทำ
ให้นักเรียนจะมอี ิสระในการเรียน อาจเรียนเปน็ กลุม่ หรอื เป็นรายบุคคล โดยมคี รูเป็นผูใ้ หค้ ำปรึกษา การจัดช้ัน
เรียนจึงมีรปู แบบการจัดโต๊ะเกา้ อ้ีในลกั ษณะต่างๆ ไมจ่ ำเปน็ ต้องเรยี งแถวหนั หน้าเขา้ หาครู เช่น จัดเป็นรูปตัวที
ตวั ยู วงกลม หรือจัดเปน็ กลุม่ ลักษณะการจดั ชั้นเรยี น การจัดช้ันเรียนแบบนวตั กรรมนี้ โต๊ะครูไมจ่ ำเปน็ ต้องอยู่
หน้าชั้น อาจเคลื่อนย้ายไปตามมุมต่างๆ การจัดโต๊ะนักเรียนจะเปลี่ยนรูปแบบไปตามลักษณะการจัดกิจกรรม
การเรียนการสอนของครู ส่วนใหญ่นิยมจัดโต๊ะเป็นกลุ่ม เพื่อให้นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมร่วมกัน มีการจัดศูนย์

สนใจ มีสื่อการสอนในรูปของชุดการสอน หรือเครื่องช่วยสอนต่างๆ ไว้ให้นักเรียนศึกษาด้วยตนเอง หรือศึกษา
รว่ มกับเพื่อน มกี ารตกแต่งผนังหอ้ งและเปลยี่ นแปลงสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมกับเรือ่ งทน่ี กั เรยี นกำลังเรียน

บทบาทของครูและนักเรียน การจัดชั้นเรียนแบบนี้ครูจะเป็นผู้กำกับและแนะแนวนักเรียนเป็นผู้แสดง
บทบาท ครูจะพูดน้อยลง ให้นักเรียนได้คิด ได้ถาม ได้แก้ปัญหา และได้ทำกิจกรรมด้วยตนเอง นักเรียนอาจจะ
เรียนด้วยตนเองจากสื่อประสม เช่น บทเรียนแบบโปรแกรม ชุดการสอน คอมพิวเตอร์ช่วยสอน ครูจะเป็นผู้ให้
คำแนะนำ และช่วยเหลือเมื่อจำเป็น ดังนั้น การจัดชั้นเรียนแบบนี้จึงเป็นการจัดชั้นเรียนที่สอดคล้องกับ
เจตนารมณ์ของหลักสูตรที่ต้องการให้ผู้เรียนได้คิดค้นคว้า วิเคราะห์วิจารณ์ และลงมือปฏิบัติจริงทุกขั้นตอน
จนสามารถเรียนรู้ได้ตนเอง

ประเภทของบรรยากาศการเรยี นรู้
บรรยากาศการเรยี นรู้สามารถจำแนกออกได้ดังน้ี
1. บรรยากาศทางจติ วทิ ยา เปน็ ลักษณะของบรรยากาศที่เกดิ ขึ้นโดยการกระทำของ ผู้เรียนท่ีส่งผลตอ่

ความรู้สึกนึกคิดและพฤติกรรมของผูเ้ รยี น ถ้าลักษณะบรรยากาศทางจิตวิทยาเป็นไปในทางบวก ผู้เรียนจะเกิด
ความรู้สึกอบอ่นุ ใจ ผอ่ นคลาย ทำให้เกดิ การเรยี นรไู้ ด้โดยง่าย และมผี ลทำให้รู้สกึ มคี วามสุขในการเรียนรู้ ทำให้
เปน็ ผ้ทู ี่รกั และใฝใ่ นการเรยี นรู้

2. บรรยากาศทางกายภาพ เป็นลักษณะของบรรยากาศที่เกิดจากการจัดอาคารสถานที่ สื่อวัสดุ
อุปกรณ์ ที่สอดคล้องกับกิจกรรมการเรียนรู้ และสภาพของผู้เรียน การจัดบรรยากาศทางกายภาพที่ตอบสนอง
ผู้เรียนและการทำกิจกรรมต่าง ๆ จะทำให้ผู้เรียนได้รับความสะดวก และดำเนินกิจกรรมด้วยความราบร่ืน
ส่งผลให้การเรียนรู้ดำเนินไปด้วยดี ไม่ติดขัดไม่รู้สึกว่ามีความยุ่งยาก ทำให้ผู้เรียนรักทีจ่ ะเรยี นและเปน็ ผู้เรียนที่
กระตอื รอื ร้น มคี วามสนใจตอ่ ส่งิ แวดลอ้ มรอบตัว

3. บรรยากาศทางสังคม เป็นบรรยากาศที่เกิดจากผลการปฏิสัมพันธ์ของกลุ่มที่อยู่ ร่วมกันและทำ
กิจกรรมรว่ มกัน การมีบรรยากาศทางสงั คมที่เป็นมติ รต่อกัน จะทำให้ผู้เรียนรู้สึก อบอุ่นใจเกิดความรูส้ กึ ที่ดีตอ่
กันและกัน มีการอยู่ร่วมกันฉันท์มิตร ซึ่งส่งผลต่อการเรียนรู้ทักษะทางสังคมและการเรียนรู้ร่วมกัน ซึ่งเป็น
เป้าหมายประการหนงึ่ ของการจดั การศึกษา

4. การจดั บรรยากาศท่ีส่งเสรมิ การเรียนรจู้ ากประเภทของบรรยากาศทสี่ ง่ ผลต่อการเรยี นรทู้ ้งั 3
ประเภทดงั กล่าวข้างต้น ครูซึ่งเป็นบคุ คลสำคัญท่จี ะก่อใหเ้ กิดบรรยากาศดังกลา่ วได้ จงึ มีแนวทางทจี่ ะสง่ เสริม
ให้เกิดบรรยากาศทีส่ นบั สนุนให้เกิดการเรยี นร้ทู ่ีมีประสิทธิภาพ ดังน้ี

4.1 บรรยากาศทางจิตวิทยา ชัยอนันต์ สมุทวณิช ได้ให้ความเห็นว่า การเรียนรู้ที่ผู้เรียนสำคัญที่สุด
ควรเริ่มต้นจากสิ่งใกล้ตวั ผเู้ รียนรมู้ ากท่สี ุด คอื ความรู้สึกภายใน ทง้ั น้ีจะต้องไมม่ บี รรยากาศของความกลวั ความ
หวาดระแวง ความดูหมิ่นเหยียดหยาม ติเตียน บรรยากาศของการเรียนรู้ที่เน้นตัวผู้เรียนเป็นสำคัญจะต้องให้
อิสรภาพแก่ผู้เรียน โดยเฉพาะอิสรภาพจากความหวาดกลัว ซึ่งจากความเห็นดังกล่าวแสดงให้เห็นถึง

ความสำคัญของบรรยากาศทาง จิตวิทยาที่มีผลต่อความรู้สึก และการกระทำของผู้เรียน บรรยากาศทาง
จิตวทิ ยาที่ช่วยสนบั สนนุ การเรยี นร้ขู องผ้เู รียนสามารถดำเนินการได้ดงั นี้

4.1.1 การสร้างบรรยากาศที่ท้าทายกระตุ้นและสนับสนุนให้ผู้เรียนมีความอยากรู้ อยากเห็น อยาก
แก้ปัญหา อยากแสวงหาคำตอบ ซึ่งบรรยากาศดังกล่าวเป็นการกระตุ้นให้ผู้เรียนมีความรู้สึกว่าตนเองมี
ความสามารถที่จะแก้ปัญหาหรือทำกิจกรรมนั้น ๆ ได้ และให้กำลังใจ เมื่อผู้เรียนได้ลงมือทำหรือตอบสนอง
รวมทั้งการยกตัวอย่างความสำเร็จ หรือสิ่งที่ผู้เรียนเคยทำมาก่อนทำให้ผู้เรียนเกิดความมั่นใจในความสามารถ
และเกิดความภมู ิใจทำใหไ้ ม่มีความกลัวท่ีจะทำกจิ กรรมอ่นื ๆ ตอ่ ไป

4.1.2 การสร้างบรรยากาศที่อบอุ่น ปลอดภัย มีความเป็นมิตร ปราศจากความหวาดกลัวที่จะ
แสดงออก ซึ่งบรรยากาศดังกล่าวจะทำให้เด็กเป็นคนกล้าคิด กล้าตัดสินใจ กล้าที่จะคิดลองทำสิ่งต่าง ๆ ไม่ว่า
ผลที่ได้นั้นจะเป็นไปตามที่คิดหรือไม่ก็ตาม การสร้างบรรยากาศดังกล่าวสามารถทำได้โดยครูทำหน้าที่ในการ
ช่วยเหลือผู้เรียนให้เกิดความราบรื่นในการทำกิจกรรมต่าง ๆโดยอาจเข้าไปช่วยเป็นผู้ร่วมคิดในการทำปัญหาท่ี
ยากให้ง่ายหรือลดความซับซอ้ นลง แต่ยังคงให้เด็กได้ใช้ความสามารถของเขาในการเรียนรู้ โดยมีการสนับสนุน
เสริมแรง และใหค้ ำปรึกษาจากครู

4.1.3 บรรยากาศที่เป็นอิสระในการทำสิ่งต่าง ๆ ด้วยตนเอง บรรยากาศดังกล่านี้จะทำให้เด็กพัฒนา
ความเป็นตัวของตัวเอง ลดการพึ่งพิงผู้อื่น กล้าคิด กล้าแสดงออก มีความมั่นใจในตนเอง กล้าริเร่ิม มีความคิด
สร้างสรรค์ มีภาวะผู้นำ และกล้าที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ บรรยากาศที่เป็นอิสระนี้ทำได้โดยครูให้โอกาส และ
สนับสนุนให้เด็กได้ทำสิ่งต่าง ๆ ด้วยตัวเอง ครูเป็นเพียงผู้ให้คำปรึกษา ให้การช่วยเหลือเมือ่ เด็กต้องการเท่านัน้
ขณะเดียวกันต้องให้โอกาสแก่เด็กแต่ละคนในการที่จะเลือกวิธีการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับตน และให้เวลาอย่าง
พอเพียงตามความสนใจของผูเ้ รียนเน่ืองจากเด็กแต่ละคนมวี ิธีการเรยี นรู้และใช้เวลาในการเรียนรู้ท่ีแตกตา่ งกนั
แต่แม้ว่าเด็กจะได้รับอิสระดังกล่าว ครูก็ต้องสอนให้เด็กคำนึงถึงการอยู่ร่วมกัน ความเป็นอิสระของแต่ละคน
จะตอ้ งไม่รบกวนหรอื ทำใหผ้ อู้ ื่นมคี วามสะดวกนอ้ ยลง

4.1.4 บรรยากาศที่ให้ไดร้ ับความสำเรจ็ และเรยี นร้ผู ลทเี่ กดิ จากการทำส่งิ ตา่ ง ๆ บรรยากาศดงั กล่าวจะ
ทำให้ผู้เรียนเป็นผู้ที่มีกำลังใจเข้มแข็ง มีความมั่นใจในการทำสิ่งต่าง ๆ อย่างมีเหตุผล มีการกำหนดจุดมุง่ หมาย
ของการทำสิ่งต่าง ๆ และยอมรับผลจากการกระทำทั้งความสำเร็จและผลที่ไม่เป็นไปตามที่คาดหวังไว้ ครู
สามารถสร้างบรรยากาศดังกล่าวได้โดยการให้เด็กกำหนดจุดมุ่งหมายและวางแผนที่จะทำกิจกรรมต่าง ๆ และ
ลงมือปฏิบัติตามที่วางแผนไว้ ให้เวลาอย่างเพียงพอที่จะทำตามแผนงาน ครูคอยสนับสนุนให้กำลังใจ คอย
แก้ปัญหาเมื่อเด็กต้องการ ให้ได้รับข้อมูลย้อนกลับหลังการปฏิบัติ ให้การเสริมแรงชื่นชมยินดีต่อผลสำเร็จ แต่
ถ้าหากผลไม่เป็นไปตามที่คาดหวังไว้ ก็อธิบายให้ผู้เรียนเข้าใจถึงการหาความรู้จากความล้มเหลว ให้กำลังใจ
และให้ทดลองแกป้ ัญหาด้วยวิธที ่ีตา่ งออกไป

4.1.5 บรรยากาศแห่งการยอมรับนับถือซึ่งกันและกัน โดยการเริ่มจากการที่ครูยอมรับผู้เรียนให้
ความสำคัญต่อการคิดและการกระทำของผู้เรียน รับฟังและให้มีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ จัดให้
ผู้เรียนได้ทำกิจกรรมร่วมกันเป็นกลุ่มย่อย มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ภายในกลุ่มและระหว่างกลุ่มให้ได้รับ

ความสำเร็จจากการทำกิจกรรมร่วมกัน ทำให้เกิดการยอมรับระหว่างเด็กกับเพื่อน และเกิดความรู้สึกว่าได้รับ
การยอมรับจากครู เห็นความสำคัญของกลุ่ม บรรยากาศดังกล่าวทำให้เกิดการพัฒนาวุฒิภาวะ ได้รับ
ประสบการณ์ทางบวกในการพัฒนาตนเอง เกิดการ นับถือระหว่างกัน ทำให้เกิดความเป็นอิสระ ไม่ต้องพึ่งพา
ผู้อื่น สามารถที่จะคิด เลือกและตัดสินใจเข้าใจถึงความสามารถของตนเอง ยอมรับผลการกระทำทั้งที่สำเร็จ
และทำความเข้าใจไดเ้ มื่อทำผิดหรือล้มเหลว รู้จักนำอุปสรรคหรือความล้มเหลวมาเป็นประสบการณ์การเรียนรู้
และแนวทางแกป้ ญั หา เนอื่ งจากเชอื่ วา่ ตนมีความสามารถทีจ่ ะทำส่ิงต่าง ๆ ไดห้ ลากหลายวิธเี พอื่ ให้ไดผ้ ลตามท่ี
ตอ้ งการ

4.1.6 บรรยากาศแห่งความใกล้ชิด สนิทสนมและมีความรักใคร่กลมเกลียวกันเนื่องจากเด็กทุกคน
ตอ้ งการความรูส้ กึ มั่นคง ปลอดภัยทางจิตใจ ต้องการการเอาใจใส่ และความรกั ใคร่ การจดั ใหผ้ ู้เรียนอยู่ร่วมกัน
ได้เล่น ได้ทำกิจกรรมร่วมกัน โดยขจัดหรือลดความขัดแย้งลงให้มาก ที่สุด หรือไม่ให้เกิดขึ้นเลย การสอนให้
รู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเรา รู้จักการให้อภัย และช่วยเหลือกัน ทำให้เกิดความรู้สึกรักใคร่ กลมเกลียวกัน
นอกจากนี้ครูต้องแสดงความรู้สึกที่ดีต่อผู้เรียน แสดงให้ผู้เรียนรับรู้ว่าตนเป็นที่ยอมรับของครู ทั้งการคิดและ
การกระทำ การแสดงออกของครู ได้แก่ การแสดงท่าทีที่แสดงถึงการเอาใจใส่ทางบวกต่อผู้เรียนอย่างจริงใจที่
สอดคล้องกับการแสดงออกทางบวกของผู้เรียน เช่น การสัมผัสทางกาย การมอง การสบตา การใช้คำพูด การ
แสดงสีหน้าท่าทาง การได้รับการเอาใจใส่ดังกล่าว ทำให้ผู้เรียนรู้สึกว่าเป็นที่ต้องการของครู มีความสำคัญเป็น
คนหนึง่ ที่มคี วามหมาย ทำให้เกิดความรสู้ กึ ท่ดี ีตอ่ ตนเอง และต่อผ้อู ื่น บรรยากาศการอยูร่ ่วมกันอยา่ งรกั ใคร่ ทำ
ใหเ้ กดิ ความสุขในการทำสิง่ ตา่ ง ๆ และเกดิ การเรยี นรู้โดยงา่ ย

4.2 การจัดบรรยากาศทางกายภาพ เป็นการสร้างสภาพแวดล้อมด้านอาคาร สถานที่ สื่อวัสดุอุปกรณ์
และแหล่งความรู้ที่เกื้อกูลต่อการเรียนรู้และการปฏิบัติกิจกรรมต่าง ๆ ของผู้เรียน โดยเน้นความสะดวกสบาย
สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ มีเครื่องมือและแหล่งความรู้ สอดคล้องกับกิจกรรมและความต้องการ
สำหรับการจัดบรรยากาศทางกายภาพทีส่ ่งเสริมการเรียนรสู้ ามารถดำเนินการไดด้ ังน้ี

4.2.1 การจัดสถานที่และบริเวณในห้องเรียนที่อำนวยความสะดวกและตอบสนองการทำกิจกรรม
ต่างๆ โดยมีการกำหนดพื้นที่ในการจัดเก็บอุปกรณ์ เครื่องเล่น ที่เด็กต้องการใช้อย่างเป็นระบบสะดวกในการ
นำมาใช้ การทำความสะอาดและการจัดเก็บจัดบริเวณการทำกิจกรรมที่สะดวกต่อการทำกิจกรรมเป็นกลุ่ม
มีบริเวณที่ว่างพอที่จะเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ สามารถเตรียมย้ายไปสู่การทำกิจกรรมอื่นได้โดยไม่รบกวนทำ
กจิ กรรมของผอู้ น่ื มกี ารจัดบริเวณสำหรับการจัดแสดงหรอื เกบ็ ผลงานทเ่ี กดิ จากการทำกิจกรรมของเด็ก

4.2.2 การจัดสือ่ วัสดุ อุปกรณ์ที่สอดคล้องกับกิจกรรม ทั้งนี้เนื่องจากเด็กปฐมวยั เรียนรู้จากการกระทำ
การมีปฏิสัมพันธ์กับสื่อ วัสดุต่าง ๆ ทำให้เกิดความเข้าใจและแสดงผลการเรียนรู้ผ่านการแสดงออกและจาก
ผลงาน ดังนั้นจะต้องจัดหาสื่อ อุปกรณ์ที่สอดคล้องกับรูปแบบกิจกรรมที่ได้ออกแบบไว้ การมีสื่อ วัสดุอย่าง
หลากหลาย พอเพียง สะดวกในการนำมาใช้ จะช่วยสนับสนุนให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ตามที่กำหนด
วัตถปุ ระสงคไ์ ว้

4.2.3 การจัดแหล่งความรู้ที่สอดคล้องกับกิจกรรมและความสนใจของผู้เรียน ซึ่งแหล่งความรู้เหล่านี้
ได้แก่ วัสดุอุปกรณ์ต่าง ๆ ทั้งที่สอดคล้องกับหน่วยประสบการณ์ที่ผู้เรียนเลือกเรียน และแหล่งความรู้ที่จัด
ประจำไว้ เพื่อตอบสนองความสนใจที่หลากหลาย การจัดแหล่งความรู้ควรคำนึงถึงลักษณะการเรียนรู้ของเด็ก
ปฐมวัยและใช้ได้อย่างสะดวก ขณะเดียวกันแหล่งความรู้ก็ต้องน่าสนใจ เป็นเครื่องเร้ากระตุ้น สนับสนุนและ
ส่งเสรมิ ให้ผ้เู รยี นอยากสบื เสาะ คน้ หา และลงมอื ปฏบิ ัติ

4.3 บรรยากาศทางสังคม เป็นบรรยากาศที่เกิดจากการปฏิสัมพันธ์ระหว่างบุคคลที่อยู่ร่วมกัน การอยู่
ร่วมกันอย่างมีความสุข จะทำให้ผู้เรียนรู้สึกรักที่จะเรียนรู้และเกิดการเรียนรู้ได้โดยง่าย การเรียนรู้ดังกล่าว
ได้แก่ การเรียนรู้ด้านความรู้ และการเรียนรู้ทางสังคม ทั้งนี้เนื่องจากเป้าหมายสำคัญของการจัดการศึกษา คือ
การให้ผู้เรียนมีความรู้ และสามารถนำความรู้นั้นไปใช้ในการอยู่ร่วมกันในสังคมได้อย่างราบรื่นมีความสุข
สำหรับการจดั บรรยากาศทางสังคมทีส่ นบั สนนุ การเรียนรู้ สามารถดำเนินการไดด้ งั นี้

4.3.1 การสร้างบรรยากาศประชาธปิ ไตย ให้ผู้เรยี นรู้สกึ ว่ามีความเทา่ เทียมกัน โดยครูต้องกำหนดใหม้ ี
อิทธิพลในห้องให้น้อยที่สุด สร้างระบบการอยู่ร่วมกันแบบประชาธิปไตย ให้ได้ทำกิจกรรมร่วมกัน มีการสร้าง
ความสัมพนั ธ์เชงิ บวกระหวา่ งครกู บั ผเู้ รยี นดว้ ยกนั ฝกึ การเปน็ สมาชกิ ที่ดขี องสังคม

4.3.2 การสร้างบรรยากาศแห่งความร่วมมือร่วมใจ โดยจัดกิจกรรมให้เกิดการปฏิสัมพันธ์กับกลุ่ม
สนับสนุนให้ผู้เรียนได้เล่น ทำงานและเรียนรู้จากกลุ่มเพื่อน ครูคอยปรับปรุงการใช้ภาษา มารยาทและพัฒนา
พฤติกรรมที่พึงประสงค์ เพื่อให้เด็กสามารถทำงานกับกลุ่มเพื่อนได้อย่างดี เป็นที่ยอมรับของกลุ่ม มีการจัด
กิจกรรมเพื่อให้ผู้เรียนได้ทำสิ่งต่าง ๆ ในบรรยากาศร่วมมือร่วมใจกัน ซึ่งแม้จะมีการแข่งขันกันบา้ ง แต่ควรเป็น
การแข่งขันกันอย่างเป็นมิตร ได้มีโอกาสได้รับผลแห่งการทำงานร่วมกัน การปฏิสัมพันธ์กับกลุ่มจะทำให้เกิด
การแลกเปลีย่ นเรียนรู้ซ่ึงกันและกันทั้งด้านความคิด และการกระทำอันสง่ ผลต่อการเรยี นรู้ทักษะทางสังคม ซึ่ง
จะเกิดประโยชนต์ ่อผู้เรียนที่จะนำไปใชใ้ นการอย่รู ่วมกบั ผูอ้ ื่นตอ่ ไป

4.3.3 สร้างบรรยากาศแห่งการมีสัมพนั ธภาพที่ดีระหวา่ งกนั ทั้งครูกับผู้เรียน ในหมู่ผู้เรียนดว้ ยกัน และ
กับบุคคลอื่น ๆ การมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี เริ่มด้วยการสื่อสารที่ดี ซึ่งการสื่อสารระหว่างกันนั้นสามารถทำได้ท้ัง
การใช้วาจา ภาษาท่าทาง และการปฏิบตั ิตอ่ กัน ครูมีหนา้ ที่ในการกระตุ้นใหผ้ ู้เรียนปฏบิ ัตติ ่อกันด้วยดี ไม่มีการ
ทะเลาะเบาะแว้ง ครูมีหน้าทีใ่ นการลดความขัดแย้งท่ีเกิดขึน้ และจะต้องเปน็ แบบฉบบั ของการมีปฏิสัมพันธท์ ดี่ ี
ระหว่างตนเองกับผู้อน่ื

4.3.4 สร้างบรรยากาศที่ไม่กดดัน โดยลดกิจกรรมที่ต้องมีการแข่งขัน เพื่อให้เกิดผลแพ้ ชนะหรือการ
เป็นที่หนึ่งเหนือผู้อื่น ให้ทุกคนมีโอกาสได้แสดงออกเท่าเทียมกันและได้รับการยกย่องเหมือนกัน สำหรับการ
ประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ควรประเมนิ ผลท่แี สดงถงึ พัฒนาการแห่งความเปน็ คนเก่ง คนดี และมคี วามสุข ให้ผ้เู รียน
ได้รู้ผลของการกระทำของตนเอง และมีการพฒั นาตนเองโดยไมต่ ้องแขง่ ขันกับผอู้ ืน่

ÿ ÿ # $% !0 1 ÿÿ1 # 1&7 $%32'/ 4(0-, 56 ) 896'ÿ: 7ÿ:*8 &9>- '
?$;+(8.#, ) $.ÿÿÿÿÿÿ -(0ÿ7@.ÿ8ÿÿ*
/+0.8 0-ÿ +'ÿA,6 <ÿ 121 - 2 ÿ. 9/=8 .0-ÿ =(3ÿ ÿ!ÿ1 2ÿ ( 3 4 3!ÿ ÿ(345ÿ
%>. $B<7@% . ,EC: F .8H,@ /,- 0-. - . %DAG BE @!1 !C # ?.$C ÿ.C+ -9 !BI ÿ ÿ















แบบประเมินการมสี ่วนร่วมของผู้เรยี นอยา่ งสรา้ งสรรค์

รายวชิ า ภาษาองั กฤษ 4 รหสั อ32102 ภาคเรียนท่ี 2 ปกี ารศกึ ษา 2564

และภาษาองั กฤษ 3 รหสั อ32101 ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศึกษา 2565

ขอ้ สภาพแวดล้อมทางการเรยี น ระดับความพึงพอใจ
5 4321

ด้านเทคนิคการสอน

1 ครสู นบั สนุนการเรียนเป็นกลุ่ม 

2 ครูมีการใช้คำ ถามเป็นสือ่ ใหค้ ดิ 

3 ครูมีการใหเ้ ด็กทำกิจกรรมและสร้างผลงาน 

4 ครูมีการชว่ ยใหเ้ ด็กเกดิ จนิ ตนาการ 

5 ครูมีการสอนทเ่ี ชอื่ มโยงกบั ชวี ิตจริง 

ด้านการสร้างส่ิงแวดล้อมเพื่อกระตุ้นการเรียนรู้ 

6 การปรับสภาพแวดล้อมในหอ้ งเรียนเพ่ือให้นกั เรียนรู้ 

7 การจัดบรเิ วณในโรงเรยี นให้เปน็ แหล่งความรู้ และแหลง่ สนับสนนุ 
8 มศี ูนย์วทิ ยาการให้เปน็ แหลง่ ความรทู้ ี่หลากหลายนอกเหนอื ไป 

จากหลักสตู รปกติ และหอ้ งสมดุ 
9 การให้ความรู้แก่ผู้ปกครองเพ่ือช่วยสรา้ งเสริมส่งิ แวดล้อมทบี่ ้าน

10 การร่วมมอื กบั ผู้ปกครองควบคุมดแู ลส่งิ แวดลอ้ มทอ่ี ย่นู อกบ้านและ 
นอกโรงเรียน

ด้านการประเมินผล

11 การประเมนิ ผลโดยการทดสอบความรู้พ้ืนฐานหรอื ผลสัมฤทธท์ิ างการ 
เรยี น 

12 การประเมินจากแฟม้ ผลงานหรอื แฟม้ สะสมผลงาน (Portfolio)

13 การประเมินจากการตดิ ตามกระบวนการทำงาน 

14 การประเมนิ จากข้อสอบมาตรฐานเพ่อื วัดความสามารถพิเศษของนักเรยี น 
ดา้ นต่าง ๆ 

15 การประเมินจากการมีสว่ นรว่ มของนักเรยี นอยา่ งสรา้ งสรรค์

รวม 47

ระดบั คณุ ภาพ ดี

*** ระดบั คณุ ภาพ 1 = นอ้ ยที่สุด, 2 = น้อย, 3 = ปานกลาง, 4 = มาก, 5 = มากทสี่ ุด

การแปลความหมาย 61-75 คะแนน ระดับคุณภาพ ดีมาก
46-60 คะแนน ระดบั คณุ ภาพ ดี
31-45 คะแนน ระดับคณุ ภาพ ปานกลาง
16-30 คะแนน ระดบั คุณภาพ พอใช้
15-0 คะแนน ระดับคุณภาพ ปรบั ปรุง

แบบประเมนิ ความพงึ พอใจของนักเรยี นต่อการจัดบรรยากาศ
ที่สง่ เสริมและพัฒนาผ้เู รียน

รายวชิ าพลศกึ ษา รหสั วิชา พ31202 ภาคเรยี นที่ 2 ปีการศึกษา 2564
รหสั วิชา พ31201 ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2565

วา่ ท่เี รอื ตรีรัฐนยั ร่ืนกมล ร.น.
ตำแหน่ง ครู

กลุ่มสาระการเรยี นรสู้ ขุ ศึกษาและพลศึกษา
โรงเรยี นบางปะหัน

สำนักงานเขตพนื้ ท่ีการศกึ ษาพระนครศรอี ยุธยา

แบบประเมนิ ความพงึ พอใจของนกั เรยี นต่อการจัดบรรยากาศทสี่ ่งเสรมิ และพัฒนาผู้เรียน

โรงเรยี นบางปะหนั สำนกั งานเขตพนื้ ทกี่ ารศกึ ษามัธยมศึกษา พระนครศรีอยธุ ยา

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ช่อื ครผู ูส้ อน ...วา่ ทเ่ี รือตรรี ัฐนัย...ร่ืนกมล........ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ ................สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา...............

รายวชิ า ......พลศกึ ษา .................... รหสั วชิ า .....อ31201.........ชนั้ ....ม.4..... ปกี ารศึกษา .....2565........

คำชแี้ จง ให้ทำเคร่ืองหมาย ✓ลงในช่องทต่ี รงกบั ระดบั ความพึงพอใจดังน้ี

5 : มากทีส่ ดุ 4 : มาก 3 : ปานกลาง 2 : นอ้ ย 1 : น้อยทสี่ ุด

กจิ กรรม ความพึงพอใจ 1
5432

1. ครมู กี ารเตรยี มการสอน

2. การจัดบรรยากาศห้องเรยี นเออื้ ตอ่ การเรียนการสอน

3. เนอ้ื หาที่สอนทันสมยั นำไปใชไ้ ดจ้ รงิ

4. ครูแจ้งจุดประสงคก์ ารเรียนรู้ชดั เจน

5. กิจกรรมการเรียนการสอนสอดคล้องกบั จดุ ประสงค์การเรียนการสอน

6. ครสู ง่ เสรมิ ใหน้ กั เรียนทำงานร่วมกันเปน็ กลมุ่ และรายบคุ คล

7. ครูสง่ เสรมิ ให้นกั เรียนมคี วามคดิ รเิ รมิ่ สรา้ งสรรคแ์ ละร่วมกนั อภปิ ราย

8. กิจกรรมการเรยี นสนุกและนา่ สนใจ

9. ครูใหโ้ อกาสนักเรียนซกั ถามปญั หา

10. ครใู ช้วธิ ีการสอนและใช้สอ่ื อย่างหลากหลาย

11. ครยู อมรบั ความคดิ เห็นของนักเรียน

12. ครใู หค้ วามสนใจแก่นักเรียนอยา่ งท่ัวถงึ ขณะสอน

13. ครสู ่งเสริมให้นักเรยี นค้นคว้าหาความรู้จากหอ้ งสมดุ อนิ เทอร์เน็ตหรือแหล่ง

เรียนรูอ้ ื่นๆ

14. ครตู ั้งใจสอน ให้คำแนะนำ ชว่ ยเหลอื อำนวยความสะดวกแก่นกั เรยี นในการทำ

กจิ กรรม

15. ครมู บี ุคลิกภาพ การแตง่ กายและการพูดจาเหมาะสม

16. ครเู ขา้ สอนและออกตรงเวลา

17. นักเรียนทราบเกณฑก์ ารประเมนิ ผลลว่ งหน้า

18. นกั เรียนมสี ่วนรว่ มในการประเมนิ ผลการเรยี น

19. ครปู ระเมนิ ผลอยา่ งยตุ ิธรรม

20. นกั เรยี นเรยี นอยา่ งมคี วามสุข

รวมคะแนน 86.95

ระดับ พึงพอใจมากทีส่ ุด

ข้อเสนอแนะ
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

สรุปผลการประเมิน  80- 100 ระดบั ความพงึ พอใจมากที่สดุ
 70-79 ระดบั ความพงึ พอใจมาก
 60 -69 ระดบั ความพงึ พอใจปานกลาง
 50-59 ระดับความพึงพอใจน้อย
 น้อยกว่า 50 ระดับความพงึ พอใจน้อยทส่ี ดุ

แบบประเมนิ ความพงึ พอใจของนกั เรยี นต่อการจัดบรรยากาศทสี่ ่งเสรมิ และพัฒนาผู้เรียน

โรงเรยี นบางปะหนั สำนกั งานเขตพนื้ ทกี่ ารศกึ ษามัธยมศึกษา พระนครศรีอยธุ ยา

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ช่อื ครผู ูส้ อน ...วา่ ทเ่ี รือตรรี ัฐนัย...ร่ืนกมล........ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ ................สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา...............

รายวชิ า ......พลศกึ ษา .................... รหสั วชิ า .....อ31202.........ชนั้ ....ม.4..... ปกี ารศึกษา .....2564........

คำชแี้ จง ให้ทำเคร่ืองหมาย ✓ลงในช่องทต่ี รงกบั ระดบั ความพึงพอใจดังน้ี

5 : มากทีส่ ดุ 4 : มาก 3 : ปานกลาง 2 : นอ้ ย 1 : น้อยทสี่ ุด

กจิ กรรม ความพึงพอใจ 1
5432

1. ครมู กี ารเตรยี มการสอน

2. การจัดบรรยากาศห้องเรยี นเออื้ ตอ่ การเรียนการสอน

3. เนอ้ื หาที่สอนทันสมยั นำไปใชไ้ ดจ้ รงิ

4. ครูแจ้งจุดประสงคก์ ารเรียนรู้ชดั เจน

5. กิจกรรมการเรียนการสอนสอดคล้องกบั จดุ ประสงค์การเรียนการสอน

6. ครสู ง่ เสรมิ ใหน้ กั เรียนทำงานร่วมกันเปน็ กลมุ่ และรายบคุ คล

7. ครูสง่ เสรมิ ให้นกั เรียนมคี วามคดิ รเิ รมิ่ สรา้ งสรรคแ์ ละร่วมกนั อภปิ ราย

8. กิจกรรมการเรยี นสนุกและนา่ สนใจ

9. ครูใหโ้ อกาสนักเรียนซกั ถามปญั หา

10. ครใู ช้วธิ ีการสอนและใช้สอ่ื อย่างหลากหลาย

11. ครยู อมรบั ความคดิ เห็นของนักเรียน

12. ครใู หค้ วามสนใจแก่นักเรียนอยา่ งท่ัวถงึ ขณะสอน

13. ครสู ่งเสริมให้นักเรยี นค้นคว้าหาความรู้จากหอ้ งสมดุ อนิ เทอร์เน็ตหรือแหล่ง

เรียนรูอ้ ื่นๆ

14. ครตู ั้งใจสอน ให้คำแนะนำ ชว่ ยเหลอื อำนวยความสะดวกแก่นกั เรยี นในการทำ

กจิ กรรม

15. ครมู บี ุคลิกภาพ การแตง่ กายและการพูดจาเหมาะสม

16. ครเู ขา้ สอนและออกตรงเวลา

17. นักเรียนทราบเกณฑก์ ารประเมนิ ผลลว่ งหน้า

18. นกั เรียนมสี ่วนรว่ มในการประเมนิ ผลการเรยี น

19. ครปู ระเมนิ ผลอยา่ งยตุ ิธรรม

20. นกั เรยี นเรยี นอยา่ งมคี วามสุข

รวมคะแนน 85.60

ระดับ พึงพอใจมากทีส่ ุด

ข้อเสนอแนะ
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

สรุปผลการประเมิน  80- 100 ระดบั ความพงึ พอใจมากที่สดุ
 70-79 ระดบั ความพงึ พอใจมาก
 60 -69 ระดบั ความพงึ พอใจปานกลาง
 50-59 ระดับความพึงพอใจน้อย
 น้อยกว่า 50 ระดับความพงึ พอใจน้อยทส่ี ดุ

012315467829
6 ÿ

& * % % ,!" " # $ !" # - ! ! ÿ % & + ' ÿ$#($ ÿ


Click to View FlipBook Version