“ทางหลวงชนบท เชื่อมโยงทั่วไทย เชื่อมใจคนทั้งชาติ” JOURNAL OF DEPARTMENT OF RURAL ROADS ปีที่ 20 ฉบับเดือนมิถุนายน - กรกฎาคม 2566 กรมทางหลวงชนบท ว า ร ส า ร www.drr.go.th ถนนสาย ข9, ค3 ผังเมืองรวมชุมชนโคกกลอย – ท้ายเหมือง จ.พังงา
จัดทำ�โดย • สำ�นักงานเลขานุการกรม • กรมทางหลวงชนบท เลขที่ 9 ถนนพหลโยธิน แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร 10220 โทรศัพท์ 0 2551 5202 www.drr.go.th กองบรรณาธิการ • เลขานุการกรม • สำ�นักส่วนกลาง • สำ�นักงานทางหลวงชนบท ทช. รวมใจภักดิ์ DRR News กิจกรรมผู้บริหาร ทช. โฟกัส ทช. อัพเดท สร้าง ซ่อม ส่งเสริม กฎหมายน่ารู้ Mr. Safety Travel on Rural Roads บ้านเลขที่ 9 อ่านดีมีรางวัล 3 4 - 13 14 - 15 16 - 17 18 - 19 20 - 23 24 25 26 - 29 30 31 กรมทางหลวงชนบท จัดพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณฯ เนื่องในโอกาสมหามงคลวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 28 กรกฎาคม 2566 - กรมทางหลวงชนบท พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางถนนฯ การท่องเที่ยว ภูเก็ต – พังงา สร้างถนนสาย ข9, ค3ฯ - กรมทางหลวงชนบท สนับสนุนทางเข้าโครงการพัฒนาพื้นที่บริเวณหนองอึ่ง ถนนสาย ยส.2023 อ.เมือง จ.ยโสธรฯ - อธิบดีกรมทางหลวงชนบท ลงพื้นที่ตรวจติดตามความคืบหน้าโครงการก่อสร้างถนนสาย แยก ทล.3452 - สี่แยกบ้านสร้าง อ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรีฯ - กรมทางหลวงชนบท เตรียมรับมือสถานการณ์อุทกภัยในช่วงฤดูฝนพร้อมดูแลเส้นทางให้ประชาชนสามารถเดินทาง ได้อย่างสะดวกปลอดภัย - กรมทางหลวงชนบท จัดโครงการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการหลักสูตร “การผลิตสื่อสมัยใหม่ สำหรับประชาสัมพันธ์ยุคดิจิตอล” กรมทางหลวงชนบท สร้างถนนทางเข้าพื้นที่สถานีเกษตรหลวงอินทนนท์ จ.เชียงใหม่ 10.9 กิโลเมตร กรมทางหลวงชนบท ปรับปรุงบริเวณคอขวดไหล่ทางถนนสาย สส.2021 จ.เพชรบุรี ฯ กรมทางหลวงชนบท ขยายถนนสาย ชพ.4021 จ.ชุมพร สนับสนุนรถไฟทางคู่ในอนาคต คืบหน้ากว่า 52% ฯ, กรมทางหลวงชนบทเดินหน้าฟื้นฟูถนนสาย อย.3049 อ.ลาดบัวหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา ฯ รู้หรือไม่? ยิ่งเราขับรถเร็วเท่าใด เราจะยิ่งมองเห็นสิ่งรอบ ๆ ได้น้อยลงเท่านั้น!! บัญชีม้าคือะไร จุดเช็คอินเขามัทรี บนทางหลวงชนบทสาย ชพ.4017 เกมส์คำปริศนา กรมทางหลวงชนบท ร่วมโครงการบริจาคโลหิตอย่างต่อเนื่อง ประจำปี 2566 ครั้งที่ 3 ฯ DEPARTMENT OF RURAL ROADS • แขวงทางหลวงชนบท • หมวดบำ�รุงทางหลวงชนบท • กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ C o n t e n t s ส า ร บั ญ ทุกวันนี้มีเรื่องราวข่าวสารต่าง ๆ มากมาย มาให้เรารับข้อมูลกันอยู่ทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นรายการข่าว เล่าข่าว เจาะลึกเรื่องเด่นเป็นกระแส จนบางทีก็รู้สึกว่าช่องทางข่าวสารเยอะจนรับได้ไม่หมด และส�ำหรับผู้ที่สนใจใน ข่าวสารแวดวง ทช. ของเรา ก็มีช่องทางออนไลน์ให้รับข้อมูลกันหลายช่องทาง แต่ส�ำหรับหลาย ๆ ท่านที่ชื่นชอบ แบบคลาสสิก อ่านง่าย สวยงาม ก็มาอ่านวารสารกรมทางหลวงชนบท (ทช.) ฉบับประจ�ำเดือนมิถุนายน 2566 ถึง กรกฎาคม 2566 กันดีกว่าครับ ซึ่งถ้าพูดถึงข่าวสารก็ต้องมาดูที่คอลัมน์ DRR News กับการพัฒนา โครงสร้างพื้นฐานทางถนน รองรับการขยายตัวของเมืองในอนาคต พร้อมส่งเสริมเศรษฐกิจ การคมนาคมขนส่งและการท่องเที่ยว ภูเก็ต – พังงา อย่างยั่งยืน สร้างถนนสาย ข9, ค3 ผังเมืองรวมชุมชน โคกกลอย – ท้ายเหมือง จ.พังงา 4 เลน กว่า 4 กิโลเมตร และ ทช. สนับสนุนทางเข้าโครงการพัฒนาพื้นที่บริเวณหนองอึ่ง อันเนื่องมาจากพระราชด�ำริ ถนนสาย ยส.2023 อ.เมือง จ.ยโสธร กว่า 17 กิโลเมตร เรียกได้ว่าเป็นโครงการที่ชาว ทช. ภูมิใจ และเป็นประโยชน์ต่อประชาชนอย่างแท้จริงครับ โดยนอกเหนือจากข่าวสารความคืบหน้าโครงการแล้ว ก็ยังมีข่าวสารด้านกิจกรรมและการช่วยเหลือสังคมของ ทช. อีกนะครับ อาทิ คอลัมน์บ้านเลขที่ 9 ทช. ร่วมโครงการบริจาคโลหิตอย่างต่อเนื่อง ประจ�ำปี 2566 ครั้งที่ 3 เนื่องในโอกาสครบรอบ 111 ปี กระทรวงคมนาคม ที่ ทช. ท�ำมาอย่างต่อเนื่องทุกปี ถือเป็นการให้และเป็นการช่วยเหลือสังคมได้อีกทางหนึ่ง ส�ำหรับคอลัมน์สร้าง ซ่อม ส่งเสริม ก็เป็นอีกหนึ่งคอลัมน์ที่จะท�ำให้คุณผู้อ่านได้ทราบถึงงานในส่วนภูมิภาคที่มีการดูแลสายทาง ให้ความสะดวกสบายในการเดินทาง ต่อประชาชน เนื่องจากฤดูฝนแบบนี้อาจท�ำให้เกิดอันตรายได้ง่ายกว่า ทช. จึงต้องดูแลสายทางอย่างเข้มข้น อาทิ ขทช. แม่ฮ่องสอน เข้าด�ำเนินการท�ำความสะอาดและขุดลอกรางระบายน�้ำ ขทช.นครปฐม เข้าด�ำเนินการท�ำความสะอาดท่อระบายน�้ำ จัดเก็บเศษดิน เศษขยะมูลฝอยที่ขวางทางระบายน�้ำ ถนนสาย นฐ. 1021 เพื่อเปิดช่องระบายน�้ำ ป้องกันน�้ำท่วมขัง สาระดีดีทั้งหมดนี้รอทุกท่าน อยู่ในฉบับนี้แล้ว เราไปติดตามกันเลย... ทช. ขอคุย Editor’s Talk
กรมทางหลวงชนบท ขยายถนนสาย ชพ.4021 จ.ชุมพร สนับสนุนรถไฟทางคู่ในอนาคต คืบหน้ากว่า 52% ฯ, กรมทางหลวงชนบทเดินหน้าฟื้นฟูถนนสาย อย.3049 อ.ลาดบัวหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา ฯ RURAL ROADS กรมทางหลวงชนบท จัดพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณเพื่อเป็นข้าราชการที่ดี และพลังของแผ่นดินเนื่องในโอกาสมหามงคลวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 28 กรกฎาคม 2566 นายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย อธิบดีกรมทางหลวงชนบท พร้อมคณะผู้บริหาร ข้าราชการ พนักงานราชการ และเจ้าหน้าที่กรมทางหลวงชนบท ถวายสัตย์ปฏิญาณเพื่อเป็นข้าราชการที่ดีและพลังของแผ่นดินเนื่องในโอกาสมหามงคลวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จ พระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว 28 กรกฎาคม 2566 เพื่อแสดงความจงรักภักดีน้อมสำนึก ในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ผู้ทรงสถิตในดวงใจของอาณาประชาราษฎร์เกิดเป็นความผูกพันระหว่างสถาบันพระมหากษัตริย์ กับพสกนิกรชาวไทยอย่างแน่นแฟ้น และแสดงความมุ่งมั่นแน่วแน่ที่จะเป็นข้าราชการที่ดี เป็นประชาชนที่สร้างคุณประโยชน์แก่แผ่นดิน และ ดำเนินชีวิตโดยยึดมั่นในหลักธรรมคำสอนแห่งศาสนา ตามแนวทางพระบรมราโชวาทสืบไป ณ บริเวณโถงชั้น 1 อาคาร 1 กรมทางหลวงชนบท จากนั้นได้บริจาคเครื่องอุปโภคบริโภค และสิ่งของที่จำเป็นให้แก่โรงเรียนบ้านเด็กรามอินทรา – บ้านเด็กตาบอดผู้พิการซำ้ซ้อน เพื่อบำเพ็ญ สาธารณกุศล เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2566 “ทางหลวงชนบท เชื่อมโยงทั่วไทย เชื่อมใจคนทั้งชาติ” 3 วารสาร กรมทางหลวงชนบท
NEWS กรมทางหลวงชนบท (ทช.) ดำเนินโครงการก่อสร้างถนนสาย ข9, ค3 ผังเมืองรวมชุมชนโคกกลอย – ท้ายเหมือง จังหวัดพังงา เสร็จสมบูรณ์ เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านงานทางอย่างยั่งยืน ส่งเสริมเศรษฐกิจการคมนาคมขนส่งและ การท่องเที่ยวในระยะยาว รองรับการขยายตัวของเมืองและแก้ไขปัญหาการจราจร ในเขตเมืองอย่างเป็นระบบ ทช. ได้ดำเนินโครงการก่อสร้างถนนสาย ข9, ค3 ผังเมืองรวมชุมชนโคกกลอย – ท้ายเหมือง จังหวัดพังงา (ถนนทางหลวงชนบทสาย พง.1042 หรือ ถนนนากลาง – อ่าวจิก) รวมระยะทาง 4.229 กิโลเมตร ใช้งบประมาณในการ ก่อสร้างรวม 282.821 ล้านบาท โดยโครงการก่อสร้างถนนสายดังกล่าวเป็นแนวถนนก่อสร้างใหม่ แบ่งการดำเนินงาน ออกเป็น 2 ช่วง ดังนี้ - ช่วงที่ 1 จุดเริ่มต้นโครงการ (สาย ค3 กม.ที่ 0+000 ถึง กม.ที่ 1+998.119) โดยเชื่อมต่อกับถนน ทล.4303 (บริเวณ กม.ที่ 2+512.893) ไปบรรจบกับถนน ทล.402 - ช่วงที่ 2 จุดเริ่มต้นโครงการ (สาย ข9 กม.ที่ 1+998.119 ถึง กม.ที่ 4+228.995) ต่อเนื่องกับช่วงที่ 1 สาย ค3 โดย เชื่อมต่อกับถนน ทล.402 (บริเวณ กม.ที่ 2+050) ไปสิ้นสุดช่วงที่ 2 บนสาย ข9 บรรจบกับทางหลวงชนบท สาย พง. 3006 ซึ่งลักษณะการก่อสร้างถนนเป็นถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก ขนาด 4 ช่องจราจร ไป - กลับ กว้างช่องละ 3.5 เมตร ไหล่ทาง กว้างข้างละ 2.5 เมตร ทางเท้ากว้างข้างละ 3.5 เมตร พร้อมก่อสร้างสะพานคอนกรีตเสริมเหล็ก 2 แห่ง งานก่อสร้าง ท่อลอดเหลี่ยมคอนกรีตเสริมเหล็ก 6 แห่ง งานก่อสร้างระบบระบายน้ำ งานติดตั้งไฟฟ้าแสงสว่าง ป้ายจราจร และ เครื่องหมายจราจร นอกจากนี้ ถนนสายดังกล่าวยังเป็นเส้นทางที่สามารถเชื่อมไปยังจังหวัดภูเก็ตได้อีกทางหนึ่ง รวมถึงสนับสนุน การเดินทางเข้าสู่แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังในจังหวัดพังงา อาทิ หาดนาใต้ (สะพานนาใต้) และหาดเขาปิหลาย ซึ่งในทุก ๆ ปี จะมีนักท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศเดินทางมาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก เนื่องจากเป็นจังหวัดที่มีแนวโน้ม การขยายตัวของเมืองอย่างต่อเนื่องอีกด้วย กรมทางหลวงชนบท พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางถนน รองรับการขยายตัวของเมืองในอนาคต พร้อมส่งเสริมเศรษฐกิจ การคมนาคมขนส่งและการท่องเที่ยว ภูเก็ต – พังงา อย่างยั่งยืน สร้างถนนสาย ข9, ค3 ผังเมืองรวมชุมชนโคกกลอย – ท้ายเหมือง จ.พังงา 4 เลน กว่า 4 กิโลเมตร เสร็จสมบูรณ์ “ทางหลวงชนบท เชื่อมโยงทั่วไทย เชื่อมใจคนทั้งชาติ” 4 วารสาร กรมทางหลวงชนบท
NEWS “ทางหลวงชนบท เชื่อมโยงทั่วไทย เชื่อมใจคนทั้งชาติ” 5 วารสาร กรมทางหลวงชนบท
กรมทางหลวงชนบท สนับสนุนทางเข้า โครงการพัฒนาพื้นที่บริเวณหนองอึ่ง อันเนื่องมาจากพระราชด�ำริ ถนนสาย ยส.2023 อ.เมือง จ.ยโสธร กว่า 17 กิโลเมตร ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ ให้สามารถเดินทางได้อย่างสะดวกรวดเร็วปลอดภัยในทุกฤดูกาล NEWS กรมทางหลวงชนบท (ทช.) สนับสนุนสายทางเข้าโครงการพัฒนาพื้นที่บริเวณหนองอึ่ง อันเนื่องมาจาก พระราชดำริ ถนนทางหลวงชนบทสาย ยส.2023 แยก ทล.23 – บ้านท่าเยี่ยม อำเภอเมือง จังหวัดยโสธร ซึ่งนับเป็นความภาคภูมิใจของชาวทางหลวงชนบทที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการได้รับใช้ใต้เบื้องพระยุคลบาท ในการสร้างเส้นทางสนับสนุนพื้นที่โครงการหลวงและโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ยกระดับ คุณภาพชีวิต บรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนในพื้นที่ เป็นการอำนวยความสะดวกปลอดภัย ในการขนผลิตผลทางเกษตรออกสู่ท้องตลาดได้อย่างสะดวกรวดเร็วปลอดภัยในทุกฤดู สำหรับโครงการพัฒนาพื้นที่บริเวณหนองอึ่ง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ เมื่อปี 2543 สมเด็จ พระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วย พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งทรงดำรงพระราชอิสริยยศสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงเยี่ยมราษฎรผู้ประสบอุทกภัยซำ้ซาก ณ โรงเรียนบ้านคำนำ้สร้าง ตำบลค้อเหนือ อำเภอเมืองยโสธร จังหวัดยโสธร ทรงมีพระราชดำริเกี่ยวกับการพัฒนาและปรับปรุงพื้นที่เพื่อช่วยเหลือ ราษฎร ได้แก่ การปรับปรุงขุดลอกหนองอึ่งเพื่อเป็นแหล่งน้ำสำหรับทำการเกษตรและเป็นแหล่ง เพาะพันธุ์ปลา, การพัฒนาและปรับปรุงพื้นที่ สภาพดิน โดยรอบหนองอึ่ง ปลูกหญ้าแฝกและต้นไม้ เพื่อป้องกันการชะล้างหน้าดิน และการฟื้นฟูสภาพป่าโดยรวม เพื่อให้คนกับป่าอยู่อย่างเกื้อกูลกัน ทั้งนี้ ในส่วนของ ทช. ได้ก่อสร้างถนนสายทางเข้าโครงการพัฒนาพื้นที่บริเวณหนองอึ่ง อันเนื่องมาจาก พระราชดำริ ถนนทางหลวงชนบทสาย ยส.2023 แยก ทล.23 – บ้านท่าเยี่ยม อำเภอเมือง จังหวัดยโสธร รวมระยะทาง 17.3 กิโลเมตร โดย ทช. ได้ก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อปี 2552 นับเป็นภารกิจสำคัญประการ หนึ่งของ ทช. ในการสร้างเส้นทางสนับสนุนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ของประชาชน ให้สามารถสัญจรได้อย่างสะดวกปลอดภัยในทุกฤดู ซึ่งถนนสายดังกล่าวเป็นการก่อสร้าง ตามแนวถนนเดิม ผ่านหมู่บ้าน จำนวน 7 หมู่บ้าน โดยบางช่วงมีลักษณะเป็นทางโค้ง ทางหักศอก ทช. จึงได้มีการเข้าไปปรับปรุงจุดเสี่ยง อาทิ การเพิ่มป้ายจราจร ไฟฟ้าแสงสว่าง ติดตั้งราวกันอันตราย เพื่อความปลอดภัยของประชาชนและผู้ที่เดินทางมาเยี่ยมชมโครงการพัฒนาพื้นที่บริเวณหนองอึ่ง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ อีกด้วย “ทางหลวงชนบท เชื่อมโยงทั่วไทย เชื่อมใจคนทั้งชาติ” 6 วารสาร กรมทางหลวงชนบท
NEWS “ทางหลวงชนบท เชื่อมโยงทั่วไทย เชื่อมใจคนทั้งชาติ” 7 วารสาร กรมทางหลวงชนบท
นายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย อธิบดีกรมทางหลวงชนบท พร้อมด้วย นายพิชิต หุ่นศิริ รองอธิบดีกรมทางหลวงชนบท (ด้านบำรุงทาง) ลงพื้นที่ตรวจติดตามความคืบหน้าโครงการก่อสร้างถนนสาย แยก ทล.3452 - สี่แยกบ้านสร้าง อำเภอบ้านสร้าง จังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งการ ก่อสร้างแบ่งออกเป็น 2 ตอน ประกอบด้วย ตอนที่ 1 จุดเริ่มต้น กม.ที่ 0+000 บริเวณแยกทางหลวงชนบทสาย ปจ.4025 ใกล้สำนักงาน อุตสาหกรรมจังหวัดปราจีนบุรี ถึง กม.ที่ 7+200 บริเวณช่วงแยก ทล.319 ตำบลบางเดชะ ระยะทางรวม 7.200 กิโลเมตร ขณะนี้มีความ คืบหน้ากว่าร้อยละ 53 และ ตอนที่ 2 ต่อเนื่องจากตอนที่ 1 มีจุดเริ่มต้น กม.ที่ 7+200 ถึง อำเภอบ้านสร้าง กม.ที่ 25+656 ระยะทาง 18.456 กิโลเมตร ขณะนี้มีความคืบหน้ากว่าร้อยละ 59 ซึ่งทั้งสองตอนคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2567 ทั้งนี้ อธิบดีฯ ได้กำชับในเรื่อง ความปลอดภัยระหว่างการก่อสร้างให้คำนึงถึงการอำนวยความสะดวกของประชาชนเป็นหลัก ทั้งนี้ เมื่อโครงการดังกล่าวก่อสร้างแล้วเสร็จ จะสามารถบรรเทาปัญหาการจราจรในตัวเมือง รองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจของพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมในจังหวัดปราจีนบุรี รวมทั้ง ส่งเสริมเศรษฐกิจการขนส่งสู่อินโดจีนทางประเทศกัมพูชา สำหรับการตรวจติดตามความคืบหน้าในครั้งนี้มีนายอำนาจ หงษ์แสนยาธรรม วิศวกรโยธาเชี่ยวชาญ รักษาราชการแทน ผู้อำนวยการสำนักงานทางหลวงชนบทที่ 13 พร้อมด้วยผู้อำนวยการแขวงทางหลวงชนบทในสังกัด เข้าร่วมประชุมและลงพื้นที่ โดยมี นายอิสระชนม์ คงช่วย ผู้อำนวยการกลุ่มก่อสร้างทางที่ 4 สำนักก่อสร้างทาง เป็นผู้นำลงพื้นที่และรายงานผลการดำเนินงานในภาพรวม ณ สำนักงานโครงการ จังหวัดปราจีนบุรี อธิบดีกรมทางหลวงชนบท ลงพื้นที่ตรวจติดตามความคืบหน้าโครงการก่อสร้าง ถนนสาย แยก ทล.3452 - สี่แยกบ้านสร้าง อ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี พร้อมก�ำชับในเรื่องความ ปลอดภัยระหว่างการก่อสร้างเพื่อความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ NEWS “ทางหลวงชนบท เชื่อมโยงทั่วไทย เชื่อมใจคนทั้งชาติ” 8 วารสาร กรมทางหลวงชนบท
NEWS NEWS “ทางหลวงชนบท เชื่อมโยงทั่วไทย เชื่อมใจคนทั้งชาติ” 9 วารสาร กรมทางหลวงชนบท
NEWS จากข้อมูลของกรมอุตุนิยมวิทยา ประเทศไทยได้เริ่มต้นเข้าสู่ฤดูฝนทำให้มีฝนตกชุก หนาแน่นและต่อเนื่องครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศไทย ซึ่งอาจส่งผลให้เกิด สภาวะน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากรวมทั้งน้ำล้นตลิ่งได้ในหลายพื้นที่ ทช. จึงได้ ทบทวนแนวทางการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์อุทกภัย เพื่อให้หน่วยงานในส่วน ภูมิภาค ประกอบด้วย สำนักงานทางหลวงชนบทแขวงทางหลวงชนบท และหมวดบำรุง ทางหลวงชนบท ปฏิบัติงานเป็นไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อให้สามารถช่วยเหลือประชาชน ให้ทันท่วงที โดยแบ่งการเตรียมความพร้อมรับมือเป็น 3 ระยะ ดังนี้ 1. ก่อนเกิดเหตุ - ทำความสะอาดช่องระบายน้ำ ตัดหญ้า กำจัดวัชพืชที่ขวางทางระบายน้ำ ท่อลอดสะพาน - เตรียมความพร้อมด้านบุคลากร เครื่องมือ เครื่องจักร วัสดุอุปกรณ์ สะพานเบลีย์ สนับสนุนยานพาหนะ อุปกรณ์การขนส่ง พร้อมสนับสนุนการอพยพ เคลื่อนย้ายประชาชนออกจากพื้นที่ประสบภัยหรือพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดเหตุอุทกภัย เพื่อให้ประชาชนมีความปลอดภัย - จัดเตรียมป้ายเตือน ป้ายแนะนำเส้นทาง หลักนำทาง เพื่ออำนวยความสะดวก ให้แก่ประชาชน กรณีมีน้ำท่วมสูง ถนนหรือสะพานขาด ไม่สามารถสัญจรไปมาได้ - ตัดแต่งกิ่งไม้ในเขตทางหลวงชนบท เพื่อป้องกันกิ่งไม้ตกหล่น หักโค่น เมื่อเกิดพายุหรือลมพัดรุนแรง กรมทางหลวงชนบท เตรียมรับมือสถานการณ์อุทกภัยในช่วงฤดูฝน พร้อมดูแลเส้นทางให้ประชาชนสามารถเดินทางได้อย่างสะดวกปลอดภัย “ทางหลวงชนบท เชื่อมโยงทั่วไทย เชื่อมใจคนทั้งชาติ” 10 วารสาร กรมทางหลวงชนบท
NEWS 2. ขณะเกิดภัย - บริหารจัดการเส้นทางและอำนวยความสะดวกให้ประชาชน กรณีเส้นทางผ่านไม่ได้ให้จัดหาทางเลี่ยงพร้อมทั้งประสานกับ หน่วยงานของจังหวัดในการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ทันที เมื่อได้รับการร้องขอ - กรณีถนนหรือสะพานขาด ให้ดำเนินการซ่อมแซมเบื้องต้นให้ประชาชนสามารถใช้เส้นทางสัญจรไปมาได้ชั่วคราว เช่น วางสะพาน เบลีย์ถมดินคอสะพาน ถมวัสดุคอสะพานฯ -รายงานข้อมูลสายทางที่ประสบภัยพิบัติพร้อมภาพถ่ายผ่านระบบบริหารจัดการงานอุทกภัยกรมทางหลวงชนบท (FMS) และ ปรับปรุงข้อมูลจนกว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติ - กรณีต้นไม้หักโค่น ปิดทับหรือกีดขวางเส้นทาง ให้รีบนำเครื่องมือเครื่องจักรเข้าดำเนินการทันที เพื่อให้ประชาชนสามารถสัญจร ผ่านได้ - เสนอโครงการที่ประสบอุทกภัยต่อที่ประชุมคณะกรรมการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติจังหวัด - เข้าพื้นที่สำรวจความเสียหายประมาณการค่าซ่อมแซมเบื้องต้น และเตรียมเข้าซ่อมทันทีเมื่อเข้าสู่ภาวะปกติให้สามารถเปิด การจราจรชั่วคราวได้ - หน่วยงานในพื้นที่ประสานกับหน่วยงานราชการต่าง ๆ รวมถึงหน่วยงานทหารในพื้นที่ เพื่อบูรณาการความร่วมมือในการ ช่วยเหลือประชาชน ตลอดจนรายงานข้อมูลสายทางที่ประสบอุทกภัยให้ผู้บริหารได้รับทราบจนกว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติ 3. หลังเกิดภัย - หลังจากเข้าสู่ภาวะปกติ ให้ดำเนินการซ่อมแซมเบื้องต้น เพื่อให้ประชาชนสามารถสัญจรไปมาได้ภายใน 7 วัน และดำเนินการ สำรวจ ออกแบบ ประมาณราคา พร้อมภาพถ่ายสภาพความเสียหายหลังน้ำลด เพื่อขอสนับสนุนงบประมาณในการฟื้นฟูต่อไป อย่างไรก็ตาม ทช. เตรียมรับมือสถานการณ์อุทกภัยอย่างใกล้ชิด เพื่อที่จะให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ได้ทันท่วงที รวมถึง ขอความร่วมมือประชาชน โปรดระมัดระวังในการใช้รถใช้ถนนเป็นพิเศษและโปรดสังเกตป้ายเตือน โดยประชาชนสามารถแจ้งเหตุอุทกภัย บนถนนทางหลวงชนบทได้ที่สายด่วนกรมทางหลวงชนบท 1146 “ทางหลวงชนบท เชื่อมโยงทั่วไทย เชื่อมใจคนทั้งชาติ” 11 วารสาร กรมทางหลวงชนบท
กรมทางหลวงชนบท จัดโครงการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการหลักสูตร ”การผลิตสื่อสมัยใหม่ ส�ำหรับประชาสัมพันธ์ยุคดิจิตอล” NEWS โครงการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการหลักสูตร “การผลิตสื่อสมัยใหม่ สำหรับประชาสัมพันธ์ยุคดิจิตอล” ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนา บุคลากรเครือข่ายนักประชาสัมพันธ์ของกรมทางหลวงชนบท มีทักษะการสื่อสารในยุคดิจิทัล สามารถผลิตและเผยแพร่สื่อดิจิทัลให้ ประชาชนได้รับทราบข้อมูลข่าวสารได้อย่างถูกต้อง รวดเร็ว ครบถ้วน รวมถึงมีศิลปะในการสื่อสาร การคิดวิเคราะห์ ให้เท่าทันการสื่อสาร ในยุคปัจจุบัน อันจะนำไปสู่การเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีบุคลากรกรมทางหลวงชนบททั้งใน ส่วนกลางและส่วนภูมิภาคทั่วประเทศเข้าร่วมอบรม แบ่งออกเป็น 2 รุ่น จำนวนผู้เข้าอบรมรวม 104 คน ณ โรงแรมเบสท์เวสเทิร์น นาดา ดอนเมือง กรุงเทพฯ “ทางหลวงชนบท เชื่อมโยงทั่วไทย เชื่อมใจคนทั้งชาติ” 12 วารสาร กรมทางหลวงชนบท
NEWS “ทางหลวงชนบท เชื่อมโยงทั่วไทย เชื่อมใจคนทั้งชาติ” 13 วารสาร กรมทางหลวงชนบท
รองอธิบดีกรมทางหลวงชนบท ประชุมคณะกรรมการกลั่นกรอง และคัดเลือกโครงการขนาดใหญ่ ครั้งที่ 1 อธิบดีกรมทางหลวงชนบท ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมแขวงทางหลวงชนบทฉะเชิงเทรา พร้อมเน้นย้ำ ในเรื่องการทดสอบวัสดุให้เป็นไปตามมาตรฐานของกรม และเรื่องความปลอดภัยระหว่างการก่อสร้างเพื่อความปลอดภัยของประชาชน นายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย อธิบดีกรมทางหลวงชนบท พร้อมด้วย นายพิชิต หุ่นศิริ รองอธิบดีกรมทางหลวงชนบท (ด้านบำรุงทาง) ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมแขวงทางหลวงชนบทฉะเชิงเทรา โดยอธิบดีฯ ได้เน้นยำ้ในเรื่องการทดสอบวัสดุให้เป็นไปตามมาตรฐานของกรม รวมถึง เรื่องความปลอดภัยระหว่างการก่อสร้างให้บริหารจัดการให้เรียบร้อยเพื่อความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่และเจ้าหน้าที่ นอกจากนี้ ยังได้กล่าวขอบคุณข้าราชการและเจ้าหน้าที่ที่ได้ปฏิบัติงานเพื่อประชาชนอย่างเต็มกำลังในช่วงที่ผ่านมา จากนั้น อธิบดีฯ ได้เดินตรวจเยี่ยม บริเวณโดยรอบสำนักงานฯ อาคารวิเคราะห์และทดสอบวัสดุ โดยได้แนะแนวทางในการบริหารจัดการเครื่องมือเครื่องจักร เพื่อให้การ ดำเนินงานมีประสิทธิภาพและเป็นประโยชน์ต่อประชาชนอย่างสูงสุด สำหรับการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมในครั้งนี้มีนายอำนาจ หงษ์แสนยาธรรม วิศวกรโยธาเชี่ยวชาญ รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงานทางหลวงชนบทที่ 13 พร้อมด้วยนายศราวุธ เริงฤทธิ์ ผู้อำนวยการแขวง ทางหลวงชนบทฉะเชิงเทรา ให้การต้อนรับและรายงานผลการดำเนินงาน ณ แขวงทางหลวงชนบทฉะเชิงเทรา จังหวัดฉะเชิงเทรา นายผดุงศักดิ์ สรุจิกําจรวัฒนะ รองอธิบดีกรมทางหลวงชนบท (ด้านดำเนินงาน) ประชุมคณะกรรมการกลั่นกรองและคัดเลือกโครงการ ขนาดใหญ่ ครั้งที่ 1 เพื่อพิจารณานิยามของโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ ขั้นตอนกลั่นกรองและคัดเลือกโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ แนวทางการศึกษา ความเป็นไปได้เบื้องต้น (Pre – Feasibility) การศึกษาความเป็นไปได้เบื้องต้นระดับจังหวัด และร่างกำหนดการประชุมของคณะกรรมการ เพื่อจัดทำ งบประมาณประจำปี พ.ศ. 2568 ข้อมูลจำนวนโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ที่มีในปัจจุบัน (AS – IS) โดยมีนายวีรเดช ชีวาพัฒนานุวงศ์ วิศวกรใหญ่ กรมทางหลวงชนบท (ด้านสำรวจและออกแบบ) นายเจษฎา วินสน ผู้อำนวยการกองแผนงาน รักษาการผู้อำนวยการสำนักบริหารกลาง นายยงยุทธ์ เพ็งเมือง ผู้อำนวยการสำนักก่อสร้างทาง นางสาวฉัตรนภา รักชาติเจริญ ผู้อำนวยการสำนักกฎหมาย นายอภิชัย วชิระปราการพงษ์ ผู้อำนวยการ สำนักก่อสร้างสะพาน นายจีระพงษ์ ปิณฑะบุตร ผู้อำนวยการสำนักสำรวจและออกแบบ และผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม ทั้งนี้มีนายปรีชา โสภารัตน์ ผู้อำนวยการกลุ่มพัฒนาโครงข่าย กองแผนงาน บรรยายสรุปผลการดำเนินงาน ณ ห้องประชุม 2 ชั้น 12 อาคาร 1 กรมทางหลวงชนบท กิจกรรม ผูบร�หาร “ทางหลวงชนบท เชื่อมโยงทั่วไทย เชื่อมใจคนทั้งชาติ” 14 วารสาร กรมทางหลวงชนบท
วิศวกรใหญ่กรมทางหลวงชนบท ลงพื้นที่ติดตามโครงการก่อสร้างงานบำ รุง ถนนสาย อด.1079 อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี รองอธิบดีกรมทางหลวงชนบทตรวจติดตามความคืบหน้าโครงการก่อสร้างอาคาร อเนกประสงค์บริเวณหมวดบำ รุงทางหลวงชนบทวงแหวนอุตสาหกรรม อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ นายอภิชัย ธีระรังสิกุล วิศวกรใหญ่กรมทางหลวงชนบท (ด้านควบคุมการก่อสร้าง) พร้อมด้วย นายกิตติ มโนคุ้น ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงชนบทอุดรธานี ลงพื้นที่ติดตามโครงการก่อสร้างงานบำรุงถนน สาย อด.1079 แยกทางหลวงหมายเลข 2 – บ้านสามเหลี่ยม อำเภอกุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี รวมระยะทาง 7.390 กิโลเมตร สำหรับสายทางดังกล่าวเป็นเส้นทางขนส่งผลผลิตทางการเกษตร เส้นทางขนส่งวัสดุก่อสร้าง เข้าสู่โรงงานอุตสาหกรรมและเป็นเส้นทางเลี่ยงในช่วงเทศกาล ส่งผลให้มีปริมาณการจราจรที่ค่อนข้างสูง จึงได้ดำเนินการซ่อมสร้างผิวถนนแบบแอสฟัลต์ติกคอนกรีต ขนาด 2 ช่องจราจร กว้าง 6 เมตร ไหล่ทางกว้างข้างละ 1 เมตร พร้อมติดตั้งเครื่องหมายจราจรและอุปกรณ์อำนวยความปลอดภัย ปัจจุบันโครงการดังกล่าวก่อสร้าง แล้วเสร็จสามารถรองรับปริมาณการจราจรในช่วงเทศกาล และยกระดับการเดินทางของประชาชนในพื้นที่ ให้สะดวกปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ในการนี้มีนายภาณุสิชฌ์ รัตนกรัณฑ์ วิศวกรโยธาปฏิบัติการ สำนักบำรุงทาง เป็นผู้รายงานผลการดำเนินงาน นายสมชาย ลีลาประภาภรณ์ รองอธิบดีกรมทางหลวงชนบท (ด้านบริหารและวิชาการ) เป็นประธานการประชุม Kick-Off Meeting โครงการบริหารจัดการระบบขนส่งและจราจร อัจฉริยะ ถนนสาย ฉช.3001 แยกทางหลวงหมายเลข 314 - บ้านลาดกระบัง (ตอนฉะเชิงเทรา) อำเภอบ้านโพธิ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อรับฟังแบบก่อสร้างและรายละเอียดของโครงการฯ พร้อม พิจารณาแผนการดำเนินงาน รายงานผลการตรวจสอบสถานที่ก่อสร้างและปัญหาอุปสรรค โดยมีนายกรวรงค์ สุริยา วิศวกรโยธาชำนาญการ สำนักอำนวยความปลอดภัย เป็นผู้บรรยาย ผลการดำเนินงาน ณ ห้องประชุมกองแผนงาน กรมทางหลวงชนบท เขตบางเขน กรุงเทพฯ นายพิชิต หุ่นศิริ รองอธิบดีกรมทางหลวงชนบท (ด้านบำรุงทาง) ลงพื้นที่ตรวจติดตามความคืบหน้าโครงการก่อสร้างอาคารอเนกประสงค์ บริเวณหมวดบำรุงทางหลวงชนบทวงแหวนอุตสาหกรรม อำเภอ พระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ ทั้งนี้ รองอธิบดีฯ ได้แนะแนวทาง ในการดำเนินงาน พร้อมกำชับในเรื่องคุณภาพของงานให้เป็นไปตาม มาตรฐานที่กำหนดไว้ ตลอดจนในเรื่องความปลอดภัยระหว่างการก่อสร้าง ปัจจุบันมีความคืบหน้าไปแล้วร้อยละ 87 ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการก่อสร้าง แล้วเสร็จเดือนสิงหาคม 2566 นี้ สำหรับการลงพื้นที่ในครั้งนี้มีนายชาญศักดิ์ แรงสาริกรรม ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการหมวดบำรุงทางหลวงชนบท วงแหวนอุตสาหกรรม เป็นผู้รายงานผลการดำเนินงาน พร้อมนำลงพื้นที่บริเวณการก่อสร้าง ณ สวนสุขภาพลัดโพธิ์ จังหวัดสมุทรปราการ กรมทางหลวงชนบท ประชุม Kick-Off Meeting โครงการบริหารจัดการระบบขนส่ง และจราจรอัจฉริยะ ถนนสาย ฉช.3001 จ.ฉะเชิงเทรา กิจกรรม ผูบร�หาร “ทางหลวงชนบท เชื่อมโยงทั่วไทย เชื่อมใจคนทั้งชาติ” 15 วารสาร กรมทางหลวงชนบท
กรมทางหลวงชนบท เพิ่ มศักยภาพการคมนาคม ลดต้นทุนการขนส่ง พืชผลทางการเกษตร ยกระดับคุณภาพชีวิตให้ประชาชนและนักท่องเที่ยว สามารถเดินทางได้อย่างสะดวกปลอดภัยในทุกฤดูกาล สร้างถนนทางเข้าพื้นที่ สถานีเกษตรหลวงอินทนนท์ จ.เชียงใหม่ 10.9 กิโลเมตร เสร็จสมบูรณ์ กรมทางหลวงชนบท (ทช.) ดำเนินโครงการก่อสร้างถนนสายแยก ทล.1009 – บ้านแม่แอบ อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ เสร็จสมบูรณ์ เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของสถานีเกษตรหลวงอินทนนท์ ยกระดับการ คมนาคมให้ประชาชนสามารถขนส่งผลผลิตทางการเกษตร อาทิ ลูกพลับ ข้าวโพด ผักเมืองหนาว ได้อย่างรวดเร็วทันเวลาในทุกฤดูกาล ลดต้นทุนในการ ขนส่ง ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน รวมทั้งเป็นการส่งเสริมเศรษฐกิจการท่องเที่ยวในพื้นที่ เนื่องจากสามารถใช้เป็น เส้นทางในการเดินทางท่องเที่ยวไปสู่ดอยอินทนนท์ได้อีกด้วย กระทรวงคมนาคมได้มอบหมายให้ ทช. พิจารณาดำเนินการสนับสนุน การปรับปรุงถนนในพื้นที่โครงการหลวง เพื่อสนับสนุนภารกิจของมูลนิธิ โครงการหลวง เป็นการบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน เนื่องจาก พื้นที่โครงการหลวงส่วนใหญ่ตั้งอยู่บริเวณภาคเหนือตอนบน เส้นทางบางส่วน เป็นถนนดินลูกรังและมีทางคับแคบ ส่งผลให้การคมนาคมขนส่งเป็นไปด้วย ความยากลำบากโดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน เกษตรกรไม่สามารถลำเลียงผลผลิต ออกสู่ตลาดได้ทันเวลา ทช. จึงได้ดำเนินการโครงการก่อสร้างถนนสายแยก ทล.1009 – บ้านแม่แอบ อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ มีจุดเริ่มต้นโครงการ บริเวณบ้านสบแอบ (กม.ที่ 0+000) และสิ้นสุดโครงการบริเวณบ้านป่าแขม (กม.ที่ 10+985) รวมระยะทาง 10.985 กิโลเมตร ซึ่งได้ก่อสร้างเป็นถนนผิวจราจร แบบคอนกรีตเสริมเหล็ก กว้าง 4 เมตร พร้อมสะพานคอนกรีตเสริมเหล็ก จำนวน 4 แห่ง รางระบายน้ำคอนกรีตเสริมเหล็กบริเวณสองข้างทาง รวมทั้ง ติดตั้งป้ายเครื่องหมายจราจรและอุปกรณ์ความปลอดภัย ใช้งบประมาณ ในการก่อสร้าง 85.204 ล้านบาท “ทางหลวงชนบท เชื่อมโยงทั่วไทย เชื่อมใจคนทั้งชาติ” 16 วารสาร กรมทางหลวงชนบท
กรมทางหลวงชนบท (ทช.) โดยสำนักอำนวยความปลอดภัย ดำเนินโครงการปรับปรุง บริเวณคอขวดไหล่ทาง ถนนทางหลวงชนบทสาย สส.2021 แยก ทล.35 – ชะอำ (ตอนเพชรบุรี) อำเภอบ้านแหลม, เมือง, ท่ายาง, ชะอำ จังหวัดเพชรบุรี เสร็จสมบูรณ์ ซึ่งได้ปรับปรุงโครงสร้าง ทางด้วยวิธี Pavement In-Place Recycling และงานผิวทางด้วยแอสฟัลต์คอนกรีต ช่วง กม.ที่ 51+000 ถึง กม.ที่ 53+550 รวมระยะทางดำเนินการ 2.550 กิโลเมตร พร้อมตีเส้นจราจร ติดตั้งป้ายจราจร สัญญาณไฟกะพริบ ราวกันอันตราย และไฟฟ้าส่องสว่าง พร้อมทั้งติดตั้งระบบ ขนส่งและจราจรอัจฉริยะ โดยเชื่อมต่อระบบเข้าสู่ศูนย์ควบคุมภายในสำนักงานทางหลวงชนบท ที่ 4 (เพชรบุรี) และระบบบริหารจัดการจราจรของ ทช. นอกจากนี้ยังได้ติดตั้งกล้องโทรทัศน์ วงจรปิดชนิดดิจิตอลแบบติดตั้งอยู่กับที่ รวมทั้งหมด 3 จุด ประกอบด้วย จุดที่ 1 วงเวียนปลา หาดเจ้าสำราญ จุดที่ 2 แยกจุดตัด ทล.3187 และจุดที่ 3 บริเวณแยกถนนทางหลวงชนบท สาย สส.2021 ตัดกับถนนทางหลวงชนบทสาย พบ.1046 ซึ่งทั้งหมดนี้หากมีกรณีการเกิดเหตุใน สายทางจะทำให้สามารถรับทราบเหตุได้อย่างรวดเร็วทันเหตุการณ์และสามารถดู การเกิดอุบัติเหตุเพื่อทำการวิเคราะห์/ป้องกันการเกิดเหตุในอนาคตต่อไป กรมทางหลวงชนบท ป้องกันการเกิดอุบัติเหตุในสายทาง ยกระดับการเดินทางของประชาชนในพื้นที่ ให้สะดวกปลอดภัยมากยิ่ งขึ้น ปรับปรุงบริเวณ คอขวดไหล่ทางถนนสาย สส.2021 จ.เพชรบุรี พร้อมติดตั้งกล้องวงจรปิดและ สัญญาณไฟจราจร เสร็จสมบูรณ์ “ทางหลวงชนบท เชื่อมโยงทั่วไทย เชื่อมใจคนทั้งชาติ” 17 วารสาร กรมทางหลวงชนบท
กรมทางหลวงชนบท ขยายถนนสาย ชพ.4021 จ.ชุมพร สนับสนุน รถไฟทางคู่ในอนาคต คืบหน้ากว่า 52% เพิ่ มประสิทธิภาพการคมนาคมจากถนนสู่ระบบรางให้สมบูรณ์มากยิ่ งขึ้น กรมทางหลวงชนบท โดยสำนักก่อสร้างทาง รายงานความคืบหน้า (มิ.ย. 66) การดำเนินโครงการก่อสร้างถนนทางหลวงชนบทสาย ชพ. 4021 แยก ทล.3253 – บ้านมาบอำมฤต อำเภอปะทิว จังหวัดชุมพร ระยะทางรวม 12.689 กิโลเมตร ซึ่งปัจจุบันการก่อสร้างมีความ คืบหน้าไปแล้วกว่าร้อยละ 52 คาดว่าจะดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จในช่วงปลายปี 2566 นี้ โดยได้ขยายถนนแอสฟัลท์ติกคอนกรีตจาก เดิม 9 เมตร เป็น 11 เมตร มีไหล่ทางกว้างข้างละ 2 เมตร และขยายความกว้างสะพานจาก 10 เมตร เป็น 14 เมตร จำนวน 1 แห่ง พร้อม ปรับปรุงบริเวณทางแยกเพื่อความสะดวกปลอดภัยในการเดินทางของประชาชน ทั้งนี้ เมื่อโครงการดังกล่าวก่อสร้างแล้วเสร็จจะเป็นการ เพิ่มประสิทธิภาพในการเดินทางเชื่อมต่อจากถนนไปสู่ระบบรางได้อย่างสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น ช่วยยกระดับการคมนาคมขนส่งสินค้าทางการ เกษตรและภาคอุตสาหกรรม ตลอดจนสนับสนุนรถไฟรางคู่ช่วงสถานีรถไฟมาบอำมฤต สถานีรถไฟคลองวังช้าง สถานีรถไฟปะทิวในอนาคต ได้อีกด้วย “ทางหลวงชนบท เชื่อมโยงทั่วไทย เชื่อมใจคนทั้งชาติ” 18 วารสาร กรมทางหลวงชนบท
ยกระดับการคมนาคมเชื่อม 3 จังหวัด กรมทางหลวงชนบทเดินหน้าฟื้นฟูถนนสาย อย.3049 อ. ลาดบัวหลวง จ. พระนครศรีอยุธยา หลังได้รับผลกระทบจากอุทกภัย คืบหน้าเร็วกว่าแผน คาดแล้วเสร็จเดือนสิงหาคม 2566 นี้ กรมทางหลวงชนบท โดยสำนักงานทางหลวงชนบทที่ 1 (ปทุมธานี) ดำเนินโครงการฟื้นฟูถนนทางหลวงชนบทอันเนื่องมาจาก เหตุภัยพิบัติ สาย อย.3049 แยก ทล.340 – บ้านตาเถร อำเภอลาดบัวหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ระยะทาง 8.5 กิโลเมตร ปัจจุบันการดำเนินงานมีความคืบหน้าไปแล้วกว่าร้อยละ 48 (มิ.ย. 66) เร็วกว่าแผนที่กำหนดไว้ คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จประมาณ เดือนสิงหาคม 2566 นี้ โดยการดำเนินงานแบ่งออกเป็นช่วง ๆ ประกอบด้วย การซ่อมสร้างและปรับปรุงโครงสร้าง/ ผิวทาง ด้วยวิธี Pavement In - Place Recycling, ก่อสร้างกำแพงกันดินชนิดเสาเข็มพร้อมยกระดับถนน และงานซ่อมสร้างผิวทางคอนกรีตเสริมเหล็ก ทั้งนี้ เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชนสามารถเดินทางเชื่อม 3 จังหวัด ระหว่างอำเภอลาดบัวหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา อำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี และอำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม ได้อย่างสะดวกรวดเร็วปลอดภัยในทุกฤดูกาล “ทางหลวงชนบท เชื่อมโยงทั่วไทย เชื่อมใจคนทั้งชาติ” 19 วารสาร กรมทางหลวงชนบท
แขวงทางหลวงชนบทแม่ฮ่องสอน เข้าดำเนินการ ทำความสะอาดและขุดลอกรางระบายนำ้ กำจัดเศษวัชพืช สาย มส.4012 แยกทางหลวง หมายเลข 1250 – บ้านห้วยเสือเฒ่า อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ช่วง กม.ที่ 3 + 050 ถึง กม.ที่ 3 + 150 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายนำ้และ เตรียมรับมือสถานการณ์อุทกภัย ตามนโยบาย กรมทางหลวงชนบท ร่วมมือร่วมใจ ปลูกต้นไม้วันต้นไม้ประจำปี ของชาติ ดร.แก่นวิทย์ วงศ์ชูศิริ ผู้อำนวยการ แขวงทางหลวงชนบทสมุทรสงคราม พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ ร่วมทำกิจกรรมปลูกต้นไม้ เนื่องในวันต้นไม้ประจำของชาติ พ.ศ. 2566 โดยปลูกต้นทองอุไร ต้นพยุง ต้นสัก และต้นพยุง เพื่อเป็นการเพิ่มพูนทรัพยากรป่าไม้ อันเป็นการ บำเพ็ญประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติ และเป็นการสร้างความรัก ความสามัคคีระหว่าง เจ้าหน้าที่ภายในหน่วยงาน ณ บริเวณแขวงทางหลวงชนบทสมุทรสงคราม “ทางหลวงชนบท เชื่อมโยงทั่วไทย เชื่อมใจคนทั้งชาติ” 20 วารสาร กรมทางหลวงชนบท
แขวงทางหลวงชนบทนครปฐม เข้าดำเนินการ ทำความสะอาดท่อระบายนำ้ จัดเก็บเศษดินเศษขยะ มูลฝอยที่ขวางทางระบายนำ้ ถนนสาย นฐ. 1021 เพื่อเปิดช่องระบายนำ้ ป้องกันนำ้ท่วมขัง ให้แก่ผู้ใช้ เส้นทางสัญจร มีความสะดวกปลอดภัย มั่นใจ ประชุมการมีส่วนร่วมภาคประชาชน โครงการซ่อมฟื้นฟูทางหลวงชนบท อันเนื่องมาจากเหตุภัยพิบัติ ถนนสาย อย. 5035 แยกสายทางเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา - บ้านปะขาว อ.พระนครศรีอยุธยา, บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา ส่วนบูรณะ สำนักงานทางหลวงชนบทที่ 1 (ปทุมธานี) จัดประชุม การมีส่วนร่วมภาคประชาชนโครงการซ่อมฟื้นฟูทางหลวงชนบท อันเนื่องมาจากเหตุภัยพิบัติถนนสาย อย.5035 แยกสายทางเทศบาล นครพระนครศรีอยุธยา - บ้านปะขาว อ.พระนครศรีอยุธยา, บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา ณ ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านใหม่ อ.พระนครศรีอยุธยา, บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา โดยมีนายคำรณ ทานธรรม นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านใหม่ เป็นประธาน ในการประชุมการมีส่วนร่วมภาคประชาชนฯ และมีนายกฤษฎิ์ เมลืองนนท์ ผอ.ส่วนบูรณะ พร้อมผู้ควบคุมงานโครงการฯ ผู้แทนผู้รับจ้าง นำเสนอ รายละเอียดโครงการฯ และรับฟังข้อเสนอแนะจากประชาชนในพื้นที่ “ทางหลวงชนบท เชื่อมโยงทั่วไทย เชื่อมใจคนทั้งชาติ” 21 วารสาร กรมทางหลวงชนบท
หมวดบำรุงทางหลวงชนบทอาจสามารถ ดำเนินการทำความสะอาดเศษโคลนและ กิ่งไม้ที่ตกหล่นบนผิวจราจร สายทาง รอ. 4042 แยกทางหลวงหมายเลข 2043 – บ้านโพนเมือง อำเภออาจสามารถ ช่วงกิโลเมตรที่ 16+000 – 19+000 บ้านท่าค้อ ตำบลบ้านแจ้ง อำเภออาจสามารถ ซึ่งเป็นผลกระทบจากพายุ ฝนตกหนัก เพื่อให้ประชาชนผู้ใช้เส้นทาง ได้เดินทางอย่างสะดวกและปลอดภัย หมวดบำรุงทางหลวงชนบทจักราช นำโดย นายโอน เทียนทอง ผู้อำนวยการหมวดบำรุง ทางหลวงชนบทจักราช ได้จัดกิจกรรม “รักษ์ทาง – รักถิ่น” ร่วมกับบ้านหนองไผ่ หมู่ที่ 9 และ บ้านหัวอ่างพระราชดำริ หมู่ที่ 14 ในสายทาง นม.5042 แยกทางหลวงชนบท นม. 4035 - บ้านหนองไผ่ อ.จักราช จ.นครราชสีมา, สายทาง นม. 2039 แยกทางหลวงหมายเลข 24 - บ้านท่าช้าง อ.หนองบุญมาก, เฉลิมพระเกียรต จ.นครราชสีมา เพื่อให้เกิดการมีส่วนร่วม ในภาคประชาชนทำความสะอาดรางระบายน้ำ และตัดหญ้า ตัดกิ่งไม้ ไม่ให้บดบังทัศนียภาพ บริเวรสองข้างทาง เพื่อให้ประชาชน ผู้สัญจรไป - มา ได้รับความสะดวกปลอดภัย ในการใช้ถนน และลดการเกิดอุบัติเหตุ “ทางหลวงชนบท เชื่อมโยงทั่วไทย เชื่อมใจคนทั้งชาติ” 22 วารสาร กรมทางหลวงชนบท
แขวงทางหลวงชนบทเชียงรายบูรณาการ ร่วมกับสำนักงานทางหลวงชนบทที่ 17 (เชียงราย) และตำรวจทางหลวงจังหวัดเชียงราย ดำเนินการตั้งด่านชั่งนำ้หนักรถบรรทุกเคลื่อนที่ สายทาง ชร.1023 ผังเมืองรวมเมืองเชียงราย อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย เพื่อตรวจจับ รถบรรทุกที่บรรทุกนำ้หนักเกิน จากการตั้งด่านชั่งนำ้หนักไม่พบการบรรทุก นำ้หนักเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด แขวงทางหลวงชนบทแพร่ ดำเนินการกำจัด วัชพืชที่กีดขวางช่องทางระบายน้ำ บริเวณท่อคอนกรีตเสริมเหล็ก (ชนิดกลม สายทาง พร.4030 แยกทางหลวงหมายเลข 1023 - แยกทางหลวงหมายเลข 101 อำเภอเมือง จังหวัดแพร่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ การระบายน้ำ และเป็นการเตรียมความพร้อม รับมือเหตุอุทกภัยในช่วงฤดูฝน “ทางหลวงชนบท เชื่อมโยงทั่วไทย เชื่อมใจคนทั้งชาติ” 23 วารสาร กรมทางหลวงชนบท
กฎหมาย นารู “บัญชีม้า” คือ บัญชีที่เจ้าของบัญชีตัวจริงไม่ได้เปิดเพื่อใช้เอง แต่ขายบัญชีให้คนร้าย และ ยอมให้คนร้ายเอาไปใช้ หรือในบางกรณีอาจถูกคนร้ายขโมยข้อมูล หรือถูกสวมตัวตนมาเปิดบัญชี และใช้เป็น ช่องทางในการรับหรือโอนเงินที่ได้มาจาก การกระทำความผิดเพื่อปกปิดไม่ให้มีหลักฐานหรือถูกเชื่อมโยงมาถึง ผู้กระทำความผิดได้ บัญชีม้าเหล่านี้ มักจะถูกนำมาใช้ เป็นเครื่องมือในการทำความผิดต่าง ๆ เช่น นำไปใช้ฟอกเงิน ให้กับธุรกิจผิดกฎหมายต่าง ๆ นำไปใช้หลอกลวง หรือหลอกโอนเงิน หลอกกู้เงิน เพราะฉะนั้นต้องระวังและอย่าให้บุคคลอื่นนำบัญชีของเราไปใช้โดยทุจริต ผิดกฎหมาย และอาจทำให้ต้องร่วมรับผิด กับคนร้ายโดยไม่รู้ตัว ตามพระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 โดยเริ่มมีผลบังคับตั้งแต่ วันที่ 17 มี.ค. 2566 เป็นต้นไป ได้กำหนดบทลงโทษกรณีการเปิดหรือยอมให้ผู้อื่น ใช้บัญชีเงินฝาก (เจ้าของบัญชีม้า) หรือหมายเลข โทรศัพท์ของตนเอง (เบอร์ม้า) เพื่อใช้กระทำความผิด ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้ง จำทั้งปรับ (มาตรา 9) รวมถึงผู้ที่เป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าวโดยประการใด ๆ เพื่อให้มีการซื้อ ขาย ให้เช่า หรือให้ยืม บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ บัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ ตลอดจนเลขหมายโทรศัพท์สำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ซึ่งลงทะเบียนผู้ใช้บริการในนามของบุคคลหนึ่งบุคคลใดแล้ว แต่ไม่สามารถระบุตัวผู้ใช้บริการได้ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 2 - 5 ปี หรือปรับตั้งแต่ 200,000 - 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (มาตรา 10 และ 11) นายสรภพ กองกาย ผู้อำนวยการกลุ่มคดี สำนักกฎหมาย บัญชีม้า “ทางหลวงชนบท เชื่อมโยงทั่วไทย เชื่อมใจคนทั้งชาติ” 24 วารสาร กรมทางหลวงชนบท
“ทางหลวงชนบท เชื่อมโยงทั่วไทย เชื่อมใจคนทั้งชาติ” 25 วารสาร กรมทางหลวงชนบท
จุดเช็คอิน ต�ำบลปากน�้ำ อ�ำเภอเมืองชุมพร บนสายทางหลวงชนบท ชพ.4017 แยก ทล.4098 หากพูดถึงเมืองรองของภาคใต้ จังหวัดชุมพร เป็นจังหวัดที่มีแหล่งท่องเที่ยวไม่แพ้จังหวัดใด ๆ เลย และถ้าไม่ได้มา จุดชมวิว เขามัทรี ก็เหมือนมาไม่ถึงชุมพร จุดชมวิวเขามัทรี ตั้งอยู่ที่ ตำบลปากนำ้ อำเภอเมืองชุมพรมีบรรยากาศสบาย ๆ สามารถชมได้ทั้ง พระอาทิตย์ขึ้น พระอาทิตย์ตก เป็นจุดชมวิวที่สวยมาก ๆ ที่สำคัญคือชมวิวได้รอบ 360 องศาเลย เป็นไฮไลต์ที่ห้ามพลาดถึงแม้ว่า เขามัทรีจะไม่ใช่ภูเขาที่สูง แต่สูงเพียงพอที่จะทำให้มองเห็นทิวทัศน์โดยรอบของเมืองชุมพร ด้านทิศตะวันตกนั้นคือมุมที่มองเห็น ชุมชนปากน้ำชุมพร บ้านเรือนริมน้ำคู่กับเรือลำน้อยใหญ่ด้านหน้า ตัดกับสีเขียวของต้นไม้และภูเขาที่อยู่ในฉากหลัง “ทางหลวงชนบท เชื่อมโยงทั่วไทย เชื่อมใจคนทั้งชาติ” 26 วารสาร กรมทางหลวงชนบท
ต�ำบลปากน�้ำ อ�ำเภอเมืองชุมพร บนสายทางหลวงชนบท ชพ.4017 แยก ทล.4098 เป็นภาพชุมชนริมนำ้มุมสูงที่สวยงามแห่งหนึ่งในประเทศส่วนด้านทิศตะวันออกก็สวยไม่แพ้กัน เพราะมองเห็นทะเลอ่าวไทย มีเรือประมงพื้นบ้านจอดเรียงรายและมีเกาะน้อยใหญ่รายล้อมสุดหูสุดตา ที่สำคัญนักท่องเที่ยวยังสามารถสักการะขอพรจากองค์ เจ้าแม่กวนอิม หรือ พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร ปางมหาราชลีลาได้ด้วย ซึ่งท่านจะประทับท่านั่งหันหน้าออกไปทางทะเล และชาวประมง เชื่อกันว่าท่านช่วยปกป้องรักษาคนที่เดินทางออกทะเลให้แคล้วคลาดปลอดภัย ถ้าผู้ใดได้มากราบไหว้ท่านก็จะพบแต่ความความสุข นอกจากนี้จุดชมวิวเขามัทรี มีร้านอาหาร ร้านกาแฟ พร้อมระเบียงชมวิว ให้ได้ทานข้าวไปชมวิวไป รวมไปถึงจุดถ่ายภาพสวย ๆ ให้เลือกถ่ายภาพเช็คอินหลายจุด เรียกว่ามาที่เดียวตอบทุกโจทย์ของ สายเช็คอินสามารถกดชัตเตอร์รัว ๆ กันได้เลย “ทางหลวงชนบท เชื่อมโยงทั่วไทย เชื่อมใจคนทั้งชาติ” 27 วารสาร กรมทางหลวงชนบท
จุดชมวิวเขามัทรี ตั้งอยู่ที่ ตำบลปากน้ำ อำเภอเมืองชุมพร จังหวัดชุมพร บนยอดเขา ประดิษฐานพระมหาโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร ปางมหาราชลีลา รูปปั้นเจ้าแม่กวนอิม นั่งห้อยขาซ้ายลง ยกขาขวาตั้งขึ้นกับพื้น มือขวาวางอยู่บนขาขวา หันหน้าออก ไปยังทะเลอ่าวไทยความสูงกว่า 7 เมตร เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวชุมพรเคารพ นับถือ โดยชาวบ้านเชื่อว่าพระโพธิสัตว์ปางนี้นั้นมีเมตตาและพลังมาก จะช่วย ปกปักรักษาชาวประมงเวลาออกเรือ นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจังหวัดชุมพร ต่างก็ตั้งใจจะมาศักการะพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร บนยอดเขามัทรีสักครั้งหนึ่ง “ทางหลวงชนบท เชื่อมโยงทั่วไทย เชื่อมใจคนทั้งชาติ” 28 วารสาร กรมทางหลวงชนบท
การเดินทางเขามัทรี การเดินทางมายัง จุดชมวิวเขามัทรี จังหวัดชุมพร นักท่องเที่ยว สามารถใช้เส้นทางของกรมทางหลวงชนบทสาย ชพ. 4017 แยก ทล. 4098 บ้านหาดทรายรี ระยะทางประมาณ 16.9 กิโลเมตร เส้นทางจากในเมือง มาถึงหาดทรายรี หากเริ่มต้นจากตัวเมืองให้ขับรถตรงไปจะเดินทางมาโดย สาย ทล.4001 เข้ามาถึง ทล. 4098 ก็จะมาถึงเขามัทรี เลียบเส้นทาง เขามัทรีมาใช้สายทาง ชพ.4017 ก็จะมาถึงตรงหาดทรายรี “ทางหลวงชนบท เชื่อมโยงทั่วไทย เชื่อมใจคนทั้งชาติ” 29 วารสาร กรมทางหลวงชนบท
กรมทางหลวงชนบท ร่วมกับสภากาชาดไทย จัดโครงการบริจาคโลหิตอย่างต่อเนื่อง ครั้งที่ 3 ประจำปี 2566 โดยมีข้าราชการ พนักงานราชการ เจ้าหน้าที่กรมทางหลวงชนบท ร่วมบริจาคโลหิต เนื่องในโอกาสครบรอบ 111 ปี กระทรวงคมนาคม ซึ่งการบริจาคโลหิต ถือเป็นการทำบุญกุศลอันยิ่งใหญ่ ที่สามารถช่วยเหลือผู้ป่วยในการรักษา และสำรองไว้ใช้ในการรักษาพยาบาล ณ ห้องประชุมชั้น 3 อาคาร 1 กรมทางหลวงชนบท สำหรับการบริจาคโลหิตนั้นนอกจากช่วยกระตุ้นการทำงานของไขกระดูกในการสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดงแล้ว ยังช่วยให้ ระบบการไหลเวียนของเลือดดีขึ้น ส่งผลให้มีสุขภาพที่แข็งแรง ในการบริจาคโลหิตแต่ละครั้ง ร่างกายจะมีโอกาสสร้างเม็ดเลือดใหม่ขึ้นมา ทดแทนได้เร็วขึ้น ซึ่งเม็ดเลือดใหม่จะสามารถทำหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเม็ดเลือดแดงจะสามารถลำเลียงออกซิเจนได้ดีขึ้น เม็ดเลือดขาวสามารถขจัดสิ่งแปลกปลอมที่เข้ามาในร่างกายได้ดีขึ้น และเกล็ดเลือดก็สามารถที่จะซ่อมแซมแผลเปิดของร่างกายได้อย่าง มีประสิทธิภาพ และที่สำคัญ จะทำให้ร่างกายได้ลดการสะสมของธาตุเหล็ก ที่เป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดโรคหัวใจวาย และโรคหลอด เลือดหัวใจ การบริจาคโลหิตของทุกคนจะสามารถช่วยเหลือผู้ป่วยได้นับพัน ถือเป็นบุญที่ยิ่งใหญ่ที่สามารถช่วยผู้อื่นให้มีชีวิตรอดปลอดภัย กรมทางหลวงชนบท ร่วมโครงการบริจาคโลหิตอย่างต่อเนื่อง ประจ�ำปี 2566 ครั้งที่ 3 เนื่องในโอกาสครบรอบ 111 ปี กระทรวงคมนาคม “ทางหลวงชนบท เชื่อมโยงทั่วไทย เชื่อมใจคนทั้งชาติ” 30 วารสาร กรมทางหลวงชนบท
“ทางหลวงชนบท เชื่อมโยงทั่วไทย เชื่อมใจคนทั้งชาติ” 31 วารสาร กรมทางหลวงชนบท