โครงการศนู ยว์ ิจยั เกษตรหลวงเชียงใหม่(ขุนวาง)
ตงั้ อยูบ่ นดอยอินทนนท์ ไดร้ ับการจดั ตง้ั ข้ึนเม่ือปี พ.ศ.2525 ครั้งนั้น พระ
บาท สมเด็จพระเจา้ อยูห่ วั เด็จพระราชดาเนินไปยงั บา้ นขุนวางเป็นครั้งแรก ทรง
ทอดพระเนตรเห็นวา่ บริเวณน้ียงั คงมีการปลูกพืชเสพติด เชน่ ฝ่ิน อยูเ่ ป็นจานวน
มาก จึงเห็นควรสง่ เสริมใหม้ ีการปลูกพืชชนิดอ่ืนๆ ท่ีมีรายไดท้ ดั เทียมหรือดีกวา่ ปลูก
ฝ่ิน จึงรบั สง่ั ใหห้ น่วยงาน ในพ้ืนท่ีชว่ ยกนั พิจารณาปรบั ปรุงและพฒั นา ซ่ึงในครั้งน้ัน
เอกอคั รราชทูตอเมริกาไดร้ ับสนองนโยบาย โดยใหก้ ารสนับสนุนงาน ประมาณ
สมทบ จากนั้นศูนยว์ ิจยั เกษตรหลวงเชียงใหม่ (ขุนวาง) จึงไดเ้ ร่ิมตน้ ดาเนินงาน
อยา่ งจริงจงั ในปีพ.ศ. 2528สภาพพ้ืนท่ี ของ โครงการ สว่ นใหญถ่ ูกโอบลอ้ มดว้ ย
เทือกเขาสลับซับซอ้ น มีแอ่งท่ีราบระหว่างภูเขาเพียงเล็กน้อย อยู่สูงจาก
ระดบั น้าทะเลราว 1,300 -1,400 เมตร มีแมน่ ้าสายสาคญั ท่ีไหลผา่ นคือ แมน่ ้า
ขุนวางขวา และแมน่ ้าขุนวางซา้ ย ประชากรในพ้ืนท่ีเป็ นชาวเขา เผา่ กระเหร่ียง
และมง้ รวมทง้ั ส้ิน 7 หมูบ่ า้ น ข้ึนอยูก่ บั ตาบลแมว่ ิน อาเภอแมว่ าง จงั หวดั เชียงใหม่
มีพ้ืนท่ีในความรับผิดชอบ ท้ังส้ินราว 29,304.90 ไร่ โดยแบ่งพ้ืนท่ีในการ
ดาเนินการของโครงการประมาณ 30 ไร่
ศูนยว์ ิจยั เกษตรหลวงเชียงใหม่ (ขุนวาง)แบง่ ขอบเขตการทางานออกเป็ น
งานวิจยั ไมด้ อก ไมผ้ ลและพนั ธุไ์ ม้ เชน่ คาร์เนชน่ั องุน่ สตอเบอรร์ ่ี เฟินและลินิน
ผสมผสานไปกบั งานพฒั นาดา้ นการเกษตรในเร่ืองการปลูกกาแฟ เพ่ือเพ่ิมผลผลิต
มากท่ีสุด นอกจากน้ียงั มีการทาแปลงสาธิตเพ่ือรวมสายพนั ธุช์ นิดตา่ งๆทง้ั ไม้
ดอก ไมผ้ ล ผกั และชาจีน ตลอดจนงานขยายพนั ธุค์ าร์เนชน่ั ลิอะทริส หนา้ ววั
แวกซฟ์ ลาวเวอร์ แคลล่ีลิล่ี อลั สโตรมีเรีย และเฟิน งานสง่ เสริมพืชผกั เมืองหนาว
ใหค้ าแนะนาและใหค้ วามรูแ้ กเ่ กษตรกรในการปลูกและขายกะหล่าปลี กะหล่าดาว
การปลูกหอมญ่ีปุ่น และกระเทียมตน้ วิธีการบารุงรักษาตน้ ไวไ้ มเ่ ก็บเก่ียวใน
ขณะท่ีมีราคาต่า การปลูกผกั กาดหอมหอ่ แตงกวายาว ซุกินี และฟกั ทอง ญ่ีปุ่น
ถว่ั ลนั เตา ผกั กาดหอมใบแดง และพริกยกั ษ์เขียว เหลือ แดง นอกจากน้ียงั มีการ
สง่ เสริมไมผ้ ลเมืองหนาว โดยไดร้ ับการ สนับสนุนจากทีมงานผูเ้ ช่ียวชาญจาก
ไตห้ วนั ไดแ้ ก่ ทอ้ แอปเป้ิล สาล่ี บว๊ ย พลบั พลมั และเสาวรส งานหลกั ท่ีสาคญั
อีกอยา่ งหน่ึง ของศูนยพ์ ฒั นาโครงการหลวงขุนวาง คือการสง่ เสริมงานหตั ถกรรม
พ้ืนบา้ นจากเสน้ ใยกญั ชา เพ่ือเพ่ิมรายไดใ้ หก้ บั ชาวเขาในชุมชน