16 ตอนที่ 2 ศึกษาสังเกตบริบทของสถานศึกษา และความสัมพันธ์กับชุมชน วัตถุประสงค์ เพื่อให้นักศึกษาสังเกตบริบทของสถานศึกษา และชุมชน ขอบเขต ให้นักศึกษา ศึกษา สังเกต และฝึกทักษะจากผู้ที่เกี่ยวข้องในสถานศึกษา แล้วบันทึกข้อมูล ในแบบบันทึกตามประเด็น ดังนี้ 1. ทำเล ที่ตั้งของสถานศึกษาสังเกตการจัดการเรียนรู้ของครูผู้สอน 2. อาคารเรียน และอาคารประกอบการอื่นๆ 3. ห้องเรียน และเครื่องใช้ต่างๆ ในห้องเรียน 4. มุมพยาบาล / ห้องพยาบาล / เรือนพยาบาล 5. โรงอาหาร / ที่รับประทานอาหาร 6. โรงประชุม / หอประชุม 7. ห้องพักครู 8. ห้องสมุด / หอสมุด 9. ห้องปฏิบัติการต่างๆ (วิทยาศาสตร์ฯลฯ) 10. น้ำดื่ม / น้ำใช้ 11. ห้องน้ำ / ห้องส้วม / ที่ปัสสาวะ 12. สนามกีฬา / สนามเด็กเล่นต่างๆ 13. สถานที่พักผ่อนหย่อนใจ 14. แหล่งข้อมูลที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้า / อ้างอิงหน่วยที่ 1 สภาพทั่วไปของสถานศึกษา ผู้เกี่ยวข้อง/แหล่งข้อมูล 1. ผู้อำนวยการ / รองผู้อำนวยการโรงเรียน 2. ครูผู้สอน / ครูพี่เลี้ยง / นักเรียน
17 ข้อมูลเกี่ยวกับสถานศึกษา (แนบรูป) 1. อาคารเรียน และอาคารประกอบการอื่นๆ อาคารเรียน อาคารเรียน อาคารเรียน อาคารเรียน 2. ห้องเรียน และเครื่องใช้ต่างๆ ในห้องเรียน อาคารเรียน โรงอาหาร
18 มุมโต๊ะคุณครู มุมที่วางกระเป๋าและที่เก็บที่นอน มุมหนังสือนิทาน มุมความรู้ มุมที่เก็บแก้วน้ำ แปรงสีฟัน มุมเกมการศึกษา
19 3.ห้องพยาบาล 4. สถานที่พักผ่อนหย่อนใจ/สนามเด็กเล่น 5.ห้องน้ำ 6. แหล่งข้อมูลที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้า / อ้างอิงหน่วยที่ 1 สภาพทั่วไปของสถานศึกษา 1.ผู้อำนวยการสถานศึกษา นายนิติ กองคูณ 2.ครูพี่เลี้ยง นางสาวอรุณรัตน์ สุดมี 3.บุคลากรทางการศึกษา
20 ข้อมูลความสัมพันธ์ระหว่างโรงเรียนกับชุมชน 1. ศึกษาบริบทของชุมชนที่สถานศึกษาตั้งอยู่ ดังนี้ - ประวัติพื้นที่ โรงเรียนชุมชนวัดมาติการาม ตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2465 หมู่ที่ 5 ต.ห้วยกรด พัฒนา อาศัยศาลาการเปรียญของวัดแม่มาหาลูก มีชื่อว่าวัดมาหาลูก - ขนาดพื้นที่ 5 ไร่ 3 งาน 63 ตารางวา - ลักษณะภูมิอากาศ อากาศร้อนชื้น - ลักษณะภูมิประเทศ ที่ราบลุ่มติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา พื้นที่รอบๆ เป็นที่ราบเหมาะกับการทำนา เขตพื้นที่อาศัยโดยรอบมีต้น ตาลขึ้นหนาแน่น เป็นเกราะป้องกันทางธรรมชาติ - อาณาเขตติดต่อ ทางทิศเหนือติดกับเทศบาลตำบลห้วยกรดพัฒนา และติดกับวัดมาติการามหรือแม่มาหาลูก - จำนวนประชากร 2535 คน - ภูมิปัญญาท้องถิ่น น้ำตาลโตนด จากวิถีชีวิตของคนในพื้นที่ คนตำบลนี้มีการอนุรักษ์ประเพณีวัฒนธรรม ดังคำกล่าว ว่า “ภาษาถิ่นสืบสาน ตาลโตนดลือเลื่อง พระเครื่องอาคมขลัง ตลาดกลางข้าวและพืชไร่ มรดกไทยรำมะนา ตลาด ค้าสุกร” พื้นที่ตำบลห้วยกรดมีการอนุรักษ์การทำน้ำตาลโตนดที่ขึ้นชื่อของจังหวัดชัยนาทและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ทำ จากต้นตาลโตนดให้เป็นสินค้า OTOP ของจังหวัด ต้นตาลโตนดยังมีประโยชน์ใช้ทำเป็นอาหาร เช่น ต้มปลาร้าหัว ตาล แกงหัวตาล ยำหัวตาลปลาย่าง และขนมหวาน เช่น ลอนตาลเชื่อม ลอนตาลลอยแก้ว รำมะนา เป็นการแสดงพื้นเมืองของชาวตำบลห้วยกรด อำเภอสรรคบุรี จังหวัดชัยนาท มาจากการเล่นรำ โทน เนื้อเพลงและท่ารำจึงถูกถ่ายทอดจดจำสืบทอดกันต่อ ๆ มา โดยไม่ทราบว่าใครเป็นผู้ประพันธ์เนื้อเพลง ทำนองเพลง จำมาอย่างไรก็ร้องไปอย่างนั้น บางครั้งการถ่ายทอดอาจได้มาเฉพาะบางส่วนได้แต่เนื้อเพลง ทำนอง เพลง หรือท่ารำ อย่างใดอย่างหนึ่งมา ผู้เล่นจึงคิดเติมเต็มในส่วน ที่ขาดไป หรือแต่งขึ้นมาใหม่ จึงเกิดการ เปลี่ยนแปลงทั้งเนื้อร้องและท่ารำ แต่บางเพลงยังเหมือนเดิม ทุกประการ อย่างไรก็ตามเพลงทุกเพลงไม่จำเป็นต้อง ใช้แต่เพลงที่สืบทอดต่อมา ผู้เล่นสามารถแต่ง เนื้อร้อง ทำนองใหม่ได้
21 2. ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างโรงเรียนกับชุมชน ดังนี้ - กิจกรรมชุมชนโรงเรียนสัมพันธ์ จิตอาสาพัฒนาชุมชน - วิธีสร้างความสัมพันธ์ของโรงเรียนกับชุมชน เข้าร่วมกิจกรรมของชุมชน เช่น การทำความสะอาดภายในชุมชน การเข้าร่วมวัฒนธรรมภายในชุมชน - ปัจจัยที่ส่งผลต่อความสัมพันธ์ของโรงเรียนกับชุมชน มีการเชิญคนภายในชุมชน เข้ามาพัฒนาการจัดการเรียนรู้ภายในโรงเรียน - การสร้างความคุ้นเคยของโรงเรียนกับสมาชิกของชุมชน จัดกิจกรรมส่งเสริมความสัมพันธ์กับสมาชิกภายในชุมชน เช่น งานสังสรรค์ - การให้บริการทางวิชาการของโรงเรียนกับชุมชน ห้องสมุดและห้องคอมพิวเตอร์ ให้คนในชุมชนสามารถมาใช้บริการได้ รวมถึงข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวกับด้าน วิชาการ
22 ตอนที่ 3 ศึกษางานในหน้าที่ครู คำชี้แจง ให้นักศึกษาบันทึกกิจกรรมในการปฏิบัติงานประจำวัน และงานในหน้าที่ครูลงในแบบรายงาน ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้แบบสังเกตและมีส่วนร่วมการบริหารจัดการในสถานศึกษา 1. รายงานการปฏิบัติงานประจำวัน ให้นักศึกษาบันทึกประจำวันตามสภาพจริงทุกวันเพื่อแสดงว่านักศึกษาได้ใช้เวลาในแต่ละวัน ปฏิบัติงานในหน้าที่ ตามที่ได้รับมอบหมายโดยให้ครูพี่เลี้ยงหรือบุคคลที่ผู้บริหารโรงเรียนมอบหมายลงนามทุกวัน 2. รายงานการศึกษางานในหน้าที่ครู ให้นักศึกษาบันทึกผลการปฏิบัติงาน ในหน้าที่ รายการดังนี้ 1. สังเกตการณ์จัดการเรียนรู้ของครู 2. สังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียน 3. สังเกตบรรยากาศชั้นเรียน 4. การศึกษารายกรณี
23 รายงานการปฏิบัติงานประจำวัน
24
25
26
27
28
29
30
31
32
33
34
35
36
37
38 การสังเกต และการปฏิบัติหน้าที่ครู สาระสำคัญ ครูผู้สอนมีความรักและศรัทธาในวิชาชีพครูปฏิบัติตนตามจรรยาบรรณและวินัยครู ปฏิบัติตามบทบาท หน้าที่ครูผู้สอนและครูประจำชั้นได้อย่างเหมาะสม วัตถุประสงค์ 1. แสดงพฤติกรรมที่สะท้อนถึงการมีจิตวิญญาณความเป็นครู 2. ระบุบทบาทหน้าที่ของครูผู้สอนและครูประจำชั้นในการช่วยเหลือและพัฒนาผู้เรียน เนื้อหาสาระ 1. ความรักและศรัทธาในวิชาชีพครู 2. จรรยาบรรณและวินัยครู 3. บทบาทหน้าที่ครูผู้สอนและครูประจำชั้น กิจกรรมการเรียนการสอน 1. ศึกษาเอกสารเกี่ยวกับบทบาทหน้าที่ครูผู้สอนและครูประจำชั้น จรรยาบรรณวิชาชีพครู 2. สนทนา อภิปราย แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับคุณลักษณะที่ดีของครูตามจรรยาบรรณวิชาชีพครู ความ รักและศรัทธาในวิชาชีพครู 3. กำหนดหัวข้อสำหรับการศึกษาสังเกตและสรุปลงในแบบบันทึก 4. นำผลการศึกษาสังเกตมานำเสนอเพื่ออภิปรายในชั้นเรียน สื่อการเรียนรู้ 1. แบบบันทึกการสังเกตพฤติกรรมการปฏิบัติหน้าที่ครู 2. เอกสารประกอบการศึกษาด้วยตนเอง การวัดประเมินผล 1. ตรวจแบบบันทึกการสังเกต 2. สังเกตพฤติกรรมการให้ความร่วมมือในชั้นเรียน
39 1.ครูผู้สอนและครูประจำชั้นแสดงออกซึ่งความรักและศรัทธาในวิชาชีพครูอย่างไร ครูประจำชั้นเป็นผู้มีความรู้ ความรัก ความเมตตา พร้อมที่จะให้ความรู้และดูแลลูกศิษย์เท่าเทียมกัน และศรัทธาใน วิชาชีพครู มีการปรับหน่วยการสอนให้เข้ากับสภาพแวดล้อมของโรงเรียนและในห้องเรียน 2. ครูผู้สอนและครูประชั้นปฏิบัติตนตามจรรยาบรรณและวินัยครู เหมาะสมหรือไม่ อย่างไร 2.1 จรรยาบรรณต่อตนเอง ครูประจำชั้นมีการวางตัวที่ดี ปฏิบัติตนเหมาะสม ประเมินการทำงานของตนเองเสมอ 2.2 จรรยาบรรณต่อวิชาชีพ ครูประจำชั้นมีความรักและเมตตาให้กับเด็กและทำหน้าที่ครูอย่างเต็มที่ ให้ความรู้กับเด็กเท่าเทียมกัน 2.3 จรรยาบรรณต่อผู้รับบริการ ครูช่วยส่งเสริมให้กำลังใจแก่เด็ก มีความรัก ความเมตตากรุณาต่อเด็ก เอาใส่ใจเด็กทุกคนเท่าเทียมกัน และ ให้บริการตามหน้าที่ส่งเสริมให้เด็กเกิดความรู้ 2.4 จรรยาบรรณต่อผู้ร่วมประกอบวิชาชีพ สามารถทำงานร่วมกับคุณครูท่านอื่นในโรงเรียนได้ดี สร้างความสามัคคีกับครู และบุคลากรในโรงเรียน 2.5 จรรยาบรรณต่อสังคม ครูประจำชั้นใช้การตัดสินใจแบบประชาธิปไตยและทำงานแบบใจเขาใจเรา 3. บทบาทหน้าที่ของครูผู้สอนและครูประจำชั้น 3.1 การแต่งกายเหมาะสมถูกระเบียบ แต่งกายเหมาะสมถูกระเบียบ ไม่สั้นหรือรัดจนเกินไป 3.2 การเอาใจใส่ ส่งเสริมผู้เรียนตามความแตกต่างระหว่างบุคคล ดูแลเอาใจใส่เด็กๆทุกคนอย่างเท่าเทียม 3.3 การปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ผู้เรียน ปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับเด็ก ไม่พูดคำหยาบ 3.4 การสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้เรียน คอยสร้างแรงบันดาลใจให้กับนักเรียน กับคำพูดว่า หนูเก่ง หนูทำได้เยี่ยมจังเลยค่ะ
40 การสังเกตการจัดการเรียนรู้ของครู วัตถุประสงค์ 1. เพื่อให้นักศึกษาสังเกตการควบคุมชั้นเรียนของครูผู้สอน 2. เพื่อให้นักศึกษาสังเกตการจัดการเรียนรู้ของครูผู้สอน เพื่อให้นักศึกษานำสิ่งที่ได้จากการสังเกต การควบคุมชั้นเรียน และการจัดการเรียนรู้ของครูผู้สอนมาเป็นแนวทางในการจัดการเรียนรู้ของ ตนเอง 3. เพื่อให้นักศึกษาสังเกตและฝึกทักษะการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ขอบเขต ให้นักศึกษา ศึกษา สังเกต และฝึกทักษะจากผู้ที่เกี่ยวข้องในสถานศึกษา แล้วบันทึกข้อมูล ในแบบบันทึกตามประเด็น ดังนี้ 1. สังเกตเทคนิคการควบคุมชั้นเรียนของครูผู้สอน 2. สังเกตการจัดการเรียนรู้ของครูผู้สอน 3. นำสิ่งที่ได้จากการสังเกตการควบคุมชั้นเรียน และการจัดการเรียนรู้ของครูผู้สอนมาประยุกต์ใช้ใน การจัดการเรียนรู้ 4. สังเกตปัญหาที่พบในการจัดการเรียนรู้ของครูผู้สอน และเทคนิคแนวทางในการแก้ไขปัญหา ผู้เกี่ยวข้อง/แหล่งข้อมูล 1. ผู้อำนวยการ / รองผู้อำนวยการโรงเรียน 2. ครูผู้สอน / ครูพี่เลี้ยง / นักเรียน หมายเหตุสังเกต 9 ครั้ง
41 แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียน ครั้งที่ 1 วันที่ 24 เดือน มกราคม พ.ศ 2566 ครูผู้สอน นางสาวอรุณรัตน์ สุดมี ชั้นอนุบาล 2 1. จำนวนนักเรียนในชั้นเรียน จำนวนทั้งหมด 34 คน ชาย 21 คน หญิง 13 คน นักเรียนที่มาเรียน 30 คน ชาย 19 คน หญิง 11 คน นักเรียนที่ไม่มาเรียน 4 คน ชาย 2 คน หญิง 2 คน สาเหตุที่ไม่มาเรียน ไม่สบาย 2. พฤติกรรมและการมีส่วนร่วมในกิจกรรมของผู้เรียน 2.1 นักเรียนให้ความสนใจกับกิจกรรม 2.2 เด็กๆตั้งใจทำกิจกรรม 2.3 ตั้งใจฟังสิ่งที่ครูผู้สอนบอก 2.4 มีความกล้าที่จะถามในสิ่งที่อยากรู้ 3. สิ่งที่ได้เรียนรู้จากการสังเกต 3.1 เด็กๆชอบเล่าประสบการณ์จากการที่เคยทำกิจกรรม 3.2 เด็กๆชอบออกความคิดเห็น 4. สรุปโดยภาพรวม 4.1 เด็กตั้งใจทำกิจกรรม 4.2 สามารถทำงานที่ได้รับมอบหมายได้สำเร็จภายในเวลาที่กำหนด 4.3 มีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมทุกกิจกรรม หมายเหตุ **สังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียนในรายวิชาเอก
42 แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียน ครั้งที่ 2 วันที่ 26 เดือน มกราคม พ.ศ 2566 ครูผู้สอน นางสาวอรุณรัตน์ สุดมี ชั้นอนุบาล 2 1. จำนวนนักเรียนในชั้นเรียน จำนวนทั้งหมด 34 คน ชาย 21 คน หญิง 13 คน นักเรียนที่มาเรียน 32 คน ชาย 21 คน หญิง 11 คน นักเรียนที่ไม่มาเรียน 2 คน ชาย - คน หญิง 2 คน สาเหตุที่ไม่มาเรียน ไม่สบาย 2. พฤติกรรมและการมีส่วนร่วมในกิจกรรมของผู้เรียน 2.1 นักเรียนให้ความสนใจกับกิจกรรม 2.2 เด็กๆตั้งใจทำกิจกรรม 2.3 ตั้งใจฟังสิ่งที่ครูผู้สอนบอก 2.4 มีส่วนร่วมในกิจกรรม 3. สิ่งที่ได้เรียนรู้จากการสังเกต 3.1 เด็กๆชอบเล่าประสบการณ์จากการที่เคยทำกิจกรรม 3.2 เด็กๆชอบออกความคิดเห็น 4. สรุปโดยภาพรวม 4.1 เด็กตั้งใจทำกิจกรรม 4.2 สามารถทำงานที่ได้รับมอบหมายได้สำเร็จภายในเวลาที่กำหนด หมายเหตุ **สังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียนในรายวิชาเอก
43 แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียน ครั้งที่ 3 วันที่ 30 เดือน มกราคม พ.ศ 2566 ครูผู้สอน นางสาวอรุณรัตน์ สุดมี ชั้นอนุบาล 2 1. จำนวนนักเรียนในชั้นเรียน จำนวนทั้งหมด 34 คน ชาย 21 คน หญิง 13 คน นักเรียนที่มาเรียน 31 คน ชาย 19 คน หญิง 12 คน นักเรียนที่ไม่มาเรียน 3 คน ชาย 2 คน หญิง 1 คน สาเหตุที่ไม่มาเรียน ไม่สบาย 2. พฤติกรรมและการมีส่วนร่วมในกิจกรรมของผู้เรียน 2.1 นักเรียนให้ความสนใจกับกิจกรรม 2.2 เด็กๆตั้งใจทำกิจกรรม 2.3 ตั้งใจฟังสิ่งที่ครูผู้สอนบอก 2.4 เป็นผู้ฟังและผู้ตามที่ดี 3. สิ่งที่ได้เรียนรู้จากการสังเกต 3.1 เด็กๆชอบเล่าประสบการณ์จากการที่เคยทำกิจกรรม 3.2 เด็กๆชอบออกความคิดเห็น 3.3 เด็กๆมีความกล้าแสดงออก 4. สรุปโดยภาพรวม 4.1 เด็กตั้งใจทำกิจกรรม 4.2 สามารถทำงานที่ได้รับมอบหมายได้สำเร็จภายในเวลาที่กำหนด 4.3 มีความกระตือรือร้นในการทำกิจกรรม หมายเหตุ **สังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียนในรายวิชาเอก
44 แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียน ครั้งที่ 4 วันที่ 1 เดือน กุมภาพันธ์ พ.ศ 2566 ครูผู้สอน นางสาวอรุณรัตน์ สุดมี ชั้นอนุบาล 2 1. จำนวนนักเรียนในชั้นเรียน จำนวนทั้งหมด 34 คน ชาย 21 คน หญิง 13 คน นักเรียนที่มาเรียน 34 คน ชาย 21 คน หญิง 13 คน นักเรียนที่ไม่มาเรียน - คน ชาย - คน หญิง - คน สาเหตุที่ไม่มาเรียน - 2. พฤติกรรมและการมีส่วนร่วมในกิจกรรมของผู้เรียน 2.1 นักเรียนให้ความสนใจกับกิจกรรม 2.2 เด็กๆตั้งใจทำกิจกรรม 2.3 ตั้งใจฟังสิ่งที่ครูผู้สอนบอก 3. สิ่งที่ได้เรียนรู้จากการสังเกต 3.1 เด็กๆชอบเล่าประสบการณ์จากการที่เคยทำกิจกรรม 3.2 เด็กๆชอบออกความคิดเห็น 3.3 มีสมาธิในการทำงาน 4. สรุปโดยภาพรวม 4.1 เด็กตั้งใจทำกิจกรรม 4.2 สามารถทำงานที่ได้รับมอบหมายได้สำเร็จภายในเวลาที่กำหนด 4.3 สามารถทำกิจกรรมร่วมกับผู้อื่นได้ หมายเหตุ **สังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียนในรายวิชาเอก
45 แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียน ครั้งที่ 5 วันที่ 3 เดือน กุมภาพันธ์ พ.ศ 2566 ครูผู้สอน นางสาวอรุณรัตน์ สุดมี ชั้นอนุบาล 2 1. จำนวนนักเรียนในชั้นเรียน จำนวนทั้งหมด 34 คน ชาย 21 คน หญิง 13 คน นักเรียนที่มาเรียน 31 คน ชาย 19 คน หญิง 12 คน นักเรียนที่ไม่มาเรียน 3 คน ชาย 2 คน หญิง 1 คน สาเหตุที่ไม่มาเรียน ไม่สบาย 2. พฤติกรรมและการมีส่วนร่วมในกิจกรรมของผู้เรียน 2.1 นักเรียนให้ความสนใจกับกิจกรรม 2.2 เด็กๆตั้งใจทำกิจกรรม 2.3 ตั้งใจฟังสิ่งที่ครูผู้สอนบอก 3. สิ่งที่ได้เรียนรู้จากการสังเกต 3.1 เด็กๆชอบเล่าประสบการณ์จากการที่เคยทำกิจกรรม 3.2 เด็กๆชอบออกความคิดเห็น 3.3 มีความตื่นเต้นอยู่เสมอ 4. สรุปโดยภาพรวม 4.1 เด็กตั้งใจทำกิจกรรม 4.2 สามารถทำงานที่ได้รับมอบหมายได้สำเร็จภายในเวลาที่กำหนด 4.3 สามารถอยู่นิ่งเป็นเวลานานได้ หมายเหตุ **สังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียนในรายวิชาเอก
46 แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียน ครั้งที่ 6 วันที่ 4 เดือน กุมภาพันธ์ พ.ศ 2566 ครูผู้สอน นางสาวอรุณรัตน์ สุดมี ชั้นอนุบาล 2 1. จำนวนนักเรียนในชั้นเรียน จำนวนทั้งหมด 34 คน ชาย 21 คน หญิง 13 คน นักเรียนที่มาเรียน 30 คน ชาย 19 คน หญิง 11 คน นักเรียนที่ไม่มาเรียน 4 คน ชาย 2 คน หญิง 2 คน สาเหตุที่ไม่มาเรียน ไม่สบาย 2. พฤติกรรมและการมีส่วนร่วมในกิจกรรมของผู้เรียน 2.1 นักเรียนให้ความสนใจกับกิจกรรม 2.2 เด็กๆตั้งใจทำกิจกรรม 2.3 ตั้งใจฟังสิ่งที่ครูผู้สอนบอก 3. สิ่งที่ได้เรียนรู้จากการสังเกต 3.1 เด็กๆชอบเล่าประสบการณ์จากการที่เคยทำกิจกรรม 3.2 เด็กๆชอบออกความคิดเห็น 3.3 เด็กๆมีส่วนร่วมในการตอบคำถาม 4. สรุปโดยภาพรวม 4.1 เด็กตั้งใจทำกิจกรรม 4.2 สามารถทำงานที่ได้รับมอบหมายได้สำเร็จภายในเวลาที่กำหนด 4.3 เด็กชอบแสดงความคิดเห็น หมายเหตุ **สังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียนในรายวิชาเอก
47 แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียน ครั้งที่ 7 วันที่ 7 เดือน กุมภาพันธ์ พ.ศ 2566 ครูผู้สอน นางสาวอรุณรัตน์ สุดมี ชั้นอนุบาล 2 1. จำนวนนักเรียนในชั้นเรียน จำนวนทั้งหมด 34 คน ชาย 21 คน หญิง 13 คน นักเรียนที่มาเรียน 28 คน ชาย 15 คน หญิง 13 คน นักเรียนที่ไม่มาเรียน 8 คน ชาย 8 คน หญิง - คน สาเหตุที่ไม่มาเรียน ไม่สบาย ปวดท้อง 2. พฤติกรรมและการมีส่วนร่วมในกิจกรรมของผู้เรียน 2.1 นักเรียนให้ความสนใจกับกิจกรรม 2.2 เด็กๆตั้งใจทำกิจกรรม 2.3 ตั้งใจฟังสิ่งที่ครูผู้สอนบอก 3. สิ่งที่ได้เรียนรู้จากการสังเกต 3.1 เด็กๆชอบเล่าประสบการณ์จากการที่เคยทำกิจกรรม 3.2 เด็กๆชอบออกความคิดเห็น 4. สรุปโดยภาพรวม 4.1 เด็กตั้งใจทำกิจกรรม 4.2 สามารถทำงานที่ได้รับมอบหมายได้สำเร็จภายในเวลาที่กำหนด 4.3 เด็กสามารถนั่งทำงานหรือฟังเป็นเวลานานๆได้ หมายเหตุ **สังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียนในรายวิชาเอก
48 แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียน ครั้งที่ 8 วันที่ 8 เดือน กุมภาพันธ์ พ.ศ 2566 ครูผู้สอน นางสาวอรุณรัตน์ สุดมี ชั้นอนุบาล 2 1. จำนวนนักเรียนในชั้นเรียน จำนวนทั้งหมด 34 คน ชาย 21 คน หญิง 13 คน นักเรียนที่มาเรียน 34 คน ชาย 21 คน หญิง 13 คน นักเรียนที่ไม่มาเรียน - คน ชาย - คน หญิง - คน สาเหตุที่ไม่มาเรียน 2. พฤติกรรมและการมีส่วนร่วมในกิจกรรมของผู้เรียน 2.1 นักเรียนให้ความสนใจกับกิจกรรม 2.2 เด็กๆตั้งใจทำกิจกรรม 2.3 ตั้งใจฟังสิ่งที่ครูผู้สอนบอก 3. สิ่งที่ได้เรียนรู้จากการสังเกต 3.1 เด็กๆชอบเล่าประสบการณ์จากการที่เคยทำกิจกรรม 3.2 เด็กๆชอบออกความคิดเห็น 3.3 ให้ความร่วมมือกับครูผู้สอน 4. สรุปโดยภาพรวม 4.1 เด็กตั้งใจทำกิจกรรม 4.2 สามารถทำงานที่ได้รับมอบหมายได้สำเร็จภายในเวลาที่กำหนด 4.3 ให้ความร่วมมือ หมายเหตุ **สังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียนในรายวิชาเอก
49 แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียน ครั้งที่ 9 วันที่ 9 เดือน กุมภาพันธ์ พ.ศ 2566 ครูผู้สอน นางสาวอรุณรัตน์ สุดมี ชั้นอนุบาล 2 1. จำนวนนักเรียนในชั้นเรียน จำนวนทั้งหมด 34 คน ชาย 21 คน หญิง 13 คน นักเรียนที่มาเรียน 31 คน ชาย 21 คน หญิง 10 คน นักเรียนที่ไม่มาเรียน 3 คน ชาย - คน หญิง 3 คน สาเหตุที่ไม่มาเรียน ไม่สบาย 2. พฤติกรรมและการมีส่วนร่วมในกิจกรรมของผู้เรียน 2.1 นักเรียนให้ความสนใจกับกิจกรรม 2.2 เด็กๆตั้งใจทำกิจกรรม 2.3 ตั้งใจฟังสิ่งที่ครูผู้สอนบอก 3. สิ่งที่ได้เรียนรู้จากการสังเกต 3.1 เด็กๆชอบเล่าประสบการณ์จากการที่เคยทำกิจกรรม 3.2 เด็กๆชอบออกความคิดเห็น 3.3 เด็กๆมีความกระตือรือร้นในการกิจกรรม 4. สรุปโดยภาพรวม 4.1 เด็กตั้งใจทำกิจกรรม 4.2 สามารถทำงานที่ได้รับมอบหมายได้สำเร็จภายในเวลาที่กำหนด 4.3 ให้ความร่วมมือกับครูผู้สอน หมายเหตุ **สังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียนในรายวิชาเอก
50 แบบสังเกตการจัดบรรยากาศชั้นเรียน ห้องเรียนที่สังเกต อนุบาล 2 ครูประจำชั้น นางสาวอรุณรัตน์สุดมีสังเกตเมื่อวันที่ 24 เดือน มกราคม พ.ศ. 2566 ผู้สังเกต นางสาวนันท์นภัส มากทิพย์วิชาเอก การศึกษาปฐมวัย ที่ รายการที่สังเกต รายละเอียดการปฏิบัติงานที่สังเกต องค์ความรู้ที่ได้รับ 1 การจัดโต๊ะเรียน จะจัดเฉพาะที่มีการทำใบงาน กิจกรรม ศิลปะ กิจกรรมที่ทำเดี่ยวหรือกลุ่มก็ได้ ให้ เด็กนั่งเป็นกลุ่ม กลุ่มละประมาณ 4- 5 คน โดยโต๊ะวงกลม การจัดโต๊ะเรียนแบบนี้จะทำให้ เข้าถึงเด็กได้ง่าย แต่จะมีพื้นที่ จำกัด 2 การจัดโต๊ะครู เน้นจัดให้โล่ง สบายตา เพราะต้องใช้พื้นที่ใน การตรวจงาน การจัดโต๊ะครูจะทำให้หาสิ่งของ ได้ง่าย และเด็กสามารถส่ง การบ้านเองได้ทุกเช้า โดยการวาง ไว้ที่จุดส่งการบ้าน 3 แสงสว่าง มีแสงสว่างส่องถึง การเรียนและการทำ กิจกรรม ไม่สว่างจนเกินไปและไม่มืด จนเกินไป แสงสว่างเพียงพอจะทำให้เด็ก กระตือรือร้นในการทำกิจกรรม และมองเห็นสื่อได้ง่ายดาย 4 ป้ายนิเทศ ป้ายจะติดไว้หน้าห้องเรียน เรื่องราวเกี่ยวกับ เรื่องที่เรียน เหตุการณ์ปัจจุบันเพื่อประกาศ ข่าวสาร สำหรับนักเรียน การจัดป้ายนิเทศจะทำให้เด็กรับรู้ ข่าวสารด้วยตนเองได้อย่างทั่วถึง 5 การจัดตกแต่งห้อง แบ่งตามมุมประสบการณ์ เช่นมุมหนังสือ มุมของเล่น มุมบล็อก จัดให้ห้องมีสีสันและ สบายตา อากาศถ่ายเทได้สะดวก จัดของเข้า ที่ให้เป็นระเบียบ เอื้อต่อการเรียนรู้การแต่ง ห้อง จะมีสื่อสำหรับเด็กปฐมวัย เพื่อเป็น ความรู้ให้กับเด็กและจะให้เด็กฝึกอ่านทุกเช้า เด็กที่ฝึกอ่านทุกเช้าจะมี พัฒนาการด้านภาษาที่ดีขึ้น 6 มุมผลงานนักเรียน มุมผลงานนักเรียนจะจัดไว้หน้าห้องเรียน เพื่อให้ผู้ปกครองได้ขึ้นมาชื่นชมผลงานและดู จะทำให้เด็กเห็นผลงานของ ตนเองและเพื่อนๆ และยังสามารถ
51 ที่ รายการที่สังเกต รายละเอียดการปฏิบัติงานที่สังเกต องค์ความรู้ที่ได้รับ การพัฒนาของบุตรหลาน เมื่อเด็กทำผลงาน เสร็จให้เด็กไปติดผลงานเองโดยใช้ไม้หนีบ เพื่อฝึกกล้ามเนื้อมือด้วย เก็บเข้าชั้นของตนเองได้ง่ายเพราะ มีชื่อและสัญลักษณ์ติด 7 มุมวิชาการ แยกหมวดหมู่ของเอกสารไว้ เช่น แผนการ สอน เอกสารชั้นเรียน จะทำให้หาข้อมูลต่างๆได้ง่ายขึ้น ลงชื่อ นันท์นภัส มากทิพย์ (นางสาวนันท์นภัส มากทิพย์) นักศึกษา
52 แบบรายงานผลการศึกษารายกรณี 1. ชื่อผู้รับการศึกษา เด็กชายติณณภัทร สาลี ชื่อเล่น น้องติณณ์ 2. สาเหตุที่ศึกษา ไม่ค่อยพูด ไม่กล้าแสดงออก 3. วันและเวลาที่ศึกษา 6-10 กุมภาพันธ์ 2566 4. ลักษณะของปัญหาหรืออาการที่สำคัญ มีลักษณะไม่ค่อยพูด ไม่กล้าแสดงออก 5. ข้อมูลจากผู้รับการศึกษา ได้แก่ 5.1 ประวัติส่วนตัวและครอบครัว 5.1.1 ลักษณะทั่วไป ตัวมาตรฐาน ตาโต ผิวขาวเหลือง แต่งกายสะอาดเรียบร้อย มารยาทดี 5.1.2 ประวัติส่วนตัว วัน/เดือน/ปีเกิด 17/มกราคม/2561 เชื้อชาติไทย สัญชาติไทย บ้านเลขที่ 68 ม.6 ตำบลห้วยกรด อำเภอสรรคบุรี จังหวัดชัยนาท ระดับการศึกษา อนุบาล 2 5.1.3 ประวัติครอบครัว ชื่อบิดา นายคมกฤช สาลี อายุ 24 เงินเดือน รายได้เฉลี่ยต่อปี 72,000 บาท ชื่อมารดา นางสาววารุณจิรา ทับเรือง อายุ 23 เงินเดือน - - จำนวนพี่น้อง 1 ค
53 5.2 ประวัติด้านการศึกษา วิชาที่ชอบ: ภาษาไทย วิชาที่ไม่ชอบ: ภาษาอังกฤษ 5.3 ประวัติด้านสุขภาพ ส่วนสูง: 110 น้ำหนัก: 18 5.4 ประวัติด้านสังคม การคบเพื่อน: คบเพื่อนนิสัยดี การเข้าสังคม: เป็นคนที่เข้ากับคนอื่นได้ง่าย 5.5 การใช้เวลาว่างหรืองานอดิเรก งานอดิเรก: ดูการ์ตูน 5.6 ความใฝ่ฝันในอนาคต หรือจุดมุ่งหวังในชีวิต อยากประกอบอาชีพอะไร: ทหาร 6. เทคนิคที่ใช้ในการรวบรวมข้อมูล/เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา สอบถามจากครูพี่เลี้ยง สัมภาษณ์ สังเกตพฤติกรรม 7. สรุปผลการวิเคราะห์ข้อมูล (ได้จากการรวบรวมข้อมูล พร้อมทั้งตีความหมายจากข้อมูล) ฝึกความกล้าแสดงออกเพื่อให้มีความมั่นใจมากขึ้น 8. การวินิจฉัยปัญหา เป็นคนขี้อาย ไม่มั่นใจในตัวเอง 9. การช่วยเหลือหรือแก้ไข (กรณีพฤติกรรมที่เป็นปัญหา) ฝึกให้มีส่วนร่วมในกิจกรรมบ่อยๆเพื่อเป็นการช่วยเหลือให้เด็กมีความมั่นใจมากขึ้น 10. การติดตามผล คอยสังเกตพฤติกรรมในการทำกิจกรรมต่างๆ สังเกตความกล้าแสดงออก 11. ข้อเสนอแนะ ครูมีกิจกรรมให้เด็กฝึกความกล้าแสดงออก 12. ชื่อผู้ศึกษาและตำแหน่ง นางสาวนันท์นภัส มากทิพย์ รหัสนักศึกษา 65111562033 นักศึกษาครุศาสตร์ สาขาการศึกษาปฐมวัย ห้อง 2
54 การศึกษาผู้เรียน 1. การศึกษาสังเกตพฤติกรรมนักเรียน (ภาพรวมทั้งโรงเรียน ตามแบบตัวอย่าง ต่อไปนี้) (1) ด้านสุขภาพอนามัย 1.1 ความสะอาดของเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย สภาพจริง นักเรียนแต่งตัวสะอาดเรียบร้อย ความคิดเห็น - 1.2 การรักษาสุขภาพอนามัย สภาพจริง มีการป้องกัน สวมหน้ากากอนามัย และล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ ความคิดเห็น - 1.3 การรักษาความสะอาดร่างกาย สภาพจริง เด็กอนุบาลมีส่วนน้อยที่ไท่รักษาความสะอาด เนื่องจากกินขนมในช่วงพักกลางวัน เด็กประถม จะมีคราบเหงื่อ ชุดเปื้อน เนื่องจากเล่นในช่วงพักกลางวัน ความคิดเห็น - (2) ด้านสังคม 2.1 การปฏิบัติตามระเบียบของโรงเรียน สภาพจริง นักเรียนทุกคนปฏิบัติตามกฎของโรงเรียนอย่างสม่ำเสมอ ความคิดเห็น - 2.2 การเล่น การเรียน และการรับประทานอาหารร่วมกับเพื่อน สภาพจริง มีการส่งเสียงดัง เล่นขณะรับประทานอาหารหรือขณะเรียน
55 ความคิดเห็น - 2.3 ความสัมพันธ์ระหว่างนักเรียนและครู สภาพจริง นักเรียนทุกคนเคารพคุณครู คุณครูรักและให้ความหวังดีกับนักเรียนทุกคนเท่าเทียมกัน ความคิดเห็น - (3) ด้านเศรษฐกิจ 3.1 สภาพการแต่งกาย คุณภาพของเครื่องแต่งกายที่ใช้ สภาพจริง นักเรียนแต่งชุดเครื่องแบบของโรงเรียนอย่างเป็นระเบียบทุกคน มีส่วนน้อยที่ไม่เป็นระเบียบ ความคิดเห็น - 3.2 การใช้จ่ายในโรงเรียน สภาพจริง การใช้จ่ายจะเป็นค่าซื้อขนมสำหรับช่วงพัก ความคิดเห็น - 3.3 การเงินที่ได้รับประจำ สภาพจริง นักเรียนได้รับค่าขนมจากผู้ปกครอง ความคิดเห็น - (4) ด้านการศึกษา 4.1 ลักษณะนิสัยในการมาโรงเรียน เช่น มาทัน มาสาย ฯลฯ สภาพจริง เด็กมาเข้าแถวทัน ส่วนน้อยที่มาสายเพราะอาจติดภารกิจจึงทำให้มาสาย ความคิดเห็น -
56 4.2 ความสนใจในการเล่าเรียน สภาพจริง นักเรียนส่วนใหญ่มีความสนใจในการเรียน ส่วนน้อยที่จะไม่ค่อยสนใจการเรียน ความคิดเห็น - 4.3 การใช้เวลาว่างในโรงเรียน สภาพจริง จะเป็นการเล่นกีฬา นั่งสนทนากัน ความคิดเห็น - 4.4 การใช้ห้องสมุด สภาพจริง เด็กส่วนใหญ่ไม่เข้าใช้ห้องสมุด มีส่วนน้อยที่จะเข้าใช้ ความคิดเห็น -
57 2. การสัมภาษณ์นักเรียน แบบสัมภาษณ์นักเรียน โรงเรียน ชุมชนวัดมาติการาม ชื่ออะไร เด็กหญิงฌญาดา ฤทธิ์รักษา อายุเท่าไร 5 ขวบ เรียนชั้นอะไร อนุบาล 2 บิดาประกอบอาชีพอะไร รับจ้างทั่วไป มารดาประกอบอาชีพอะไร รับจ้างทั่วไป บ้านอยู่ที่91 หมู่ 1 ตำบลห้วยกรดพัฒนา อำเภอสรรคบุรี จังหวัดชัยนาท มาโรงเรียนโดยวิธีใด ผู้ปกครองมาส่ง ได้เงินค่าขนมวันละเท่าใด 20 บาท เพียงพอหรือไม่ เพียงพอ ชอบเรียนวิชาอะไร ศิลปะ ไม่ชอบเรียนวิชาอะไร ภาษาอังกฤษ ชอบกีฬาอะไร วิ่ง ชอบสัตว์อะไร แมว ภูมิใจในโรงเรียนของตนหรือไม่ ภูมิใจ เมื่อเรียนจบแล้วอยากเรียนต่อที่ไหน โรงเรียนปัจจุบัน เมื่อเรียนจบแล้วอยากเป็นอะไร คุณครู นักเรียนมีปัญหาอะไร อยากให้โรงเรียนช่วยอย่างไร ไม่มี
58 แบบสัมภาษณ์นักเรียน โรงเรียน ชุมชนวัดมาติการาม ชื่ออะไร เด็กหญิงวิลาวัณย์ อนุศาสนานันท์ อายุเท่าไร 5 ขวบ เรียนชั้นอะไร อนุบาล 2 บิดาประกอบอาชีพอะไร เป็นทหาร มารดาประกอบอาชีพอะไร รับจ้างทั่วไป บ้านอยู่ที่40 หมู่ 7 ตำบลห้วยกรดพัฒนา อำเภอสรรคบุรี จังหวัดชัยนาท มีพี่น้องกี่คน 1 คน มาโรงเรียนโดยวิธีใด ผู้ปกครองมาส่ง ได้เงินค่าขนมวันละเท่าใด 20 เพียงพอหรือไม่ เพียงพอ ชอบเรียนวิชาอะไร ภาษาไทย ไม่ชอบเรียนวิชาอะไร คณิตศาสตร์ ชอบกีฬาอะไร วิ่ง ชอบสัตว์อะไร แมว ภูมิใจในโรงเรียนของตนหรือไม่ ภูมิใจ เมื่อเรียนจบแล้วอยากเป็นอะไร พยาบาล นักเรียนมีปัญหาอะไร อยากให้โรงเรียนช่วยอย่างไร ไม่มี
59 แบบสัมภาษณ์นักเรียน โรงเรียน ชุมชนวัดมาติการาม ชื่ออะไร เด็กชายติณณวัฒน์ สาลี อายุเท่าไร 5 ขวบ เรียนชั้นอะไร อนุบาล 2 บิดาประกอบอาชีพอะไร รับจ้างทั่วไป มารดาประกอบอาชีพอะไร รับจ้างทั่วไป บ้านอยู่ที่68 ม.6 ตำบลห้วยกรด อำเภอสรรคบุรี จังหวัดชัยนาท มีพี่น้องกี่คน 2 คน มาโรงเรียนโดยวิธีใด ผู้ปกครองมาส่ง ได้เงินค่าขนมวันละเท่าใด 20 บาท เพียงพอหรือไม่ เพียงพอ ชอบเรียนวิชาอะไร ภาษาไทย ไม่ชอบเรียนวิชาอะไร ภาษาอังกฤษ ชอบกีฬาอะไร วิ่ง ชอบสัตว์อะไร ปลาฉลาม ภูมิใจในโรงเรียนของตนหรือไม่ ภูมิใจ เมื่อเรียนจบแล้วอยากเรียนต่อที่ไหน โรงเรียนห้วยกรดวิทยา เมื่อเรียนจบแล้วอยากเป็นอะไร ทหาร นักเรียนมีปัญหาอะไร อยากให้โรงเรียนช่วยอย่างไร ไม่มี
60 3. สรุปผลการสัมภาษณ์นักเรียน (โดยวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้จากการสัมภาษณ์นักเรียน 3 คน) นักเรียนทั้ง 3 คน ไม่มีปัญหาที่จะให้ทางโรงเรียนช่วยเหลือ แล้วยังภูมิใจในโรงเรียนของตนที่มอบความรู้และความ รักที่เหมือนครอบครัว
61 ภาคผนวก
62