ชาติพันธ์ุ ขแมร์ลือ

ชาติพันธุ์ ขแมร์ลือ ชาติพันธุ์ ขแมร์ลือ

01- 02 ประวัติความเป็นมา 03 การปรับตัว 04 การดำ รงชีพ 05 โครงสร้างสังคม 06 ความเชื่ิอ 07 พิธีกรรม 08 ปัญหาความขัดแย้ง 09 9 windows tools Contact

ประวัติความเป็นมา ชาวเขมรสูง สู ได้เข้ามาตั้ง ตั้ ถิ่น ถิ่ ฐานในเขต ภาคอีส อี านตอนใต้มาแต่โบราณกาล แล้ว และได้สืบ สื เชื้อสายต่อเนื่องกัน กั มา ถึง ถึปัจจุบัน บั โดยในรัชสมัย มั สมเด็จ ด็ พระเจ้าตากสิน สิ มหาราช ในปี พ.ศ.2324 เมือ มื งกัม กั พูชาเกิด กิ จลาจล จึงได้โปรดเกล้าฯ ให้ยกทัพ ทั ไปปราบ ในสงครามครั้งนี้ เมือ มื งขุขั ขุ น ขั ธ์ เมือ มื ง สุริ สุ ริ นทร์ และเมือ มื งสัง สั ขะ ได้ร่วมยก กองทัพ ทั ไปตีเ ตี มือ มื งเสีย สี มเรียบ กำ พงสร วาย บัน บั ทายเพชร บัน บั ทายมาศ และได้ นำ ชาวกัม กั พูชาจำ นวนมากมาไว้ที่ สุริ สุ ริ นทร์ และบุรีรัมย์ ชาวเขมรรุ่น รุ่ สุด สุ ท้าย ที่เ ที่ ข้ามาตั้ง ตั้ ถิ่น ถิ่ ฐานในจังหวัด ศีร ศี ษะเกษ เมื่อ มื่ปี พ.ศ.2410 01

ครอบครัวของชาว รั กัม กั พูชา มีความคล้ายค ล้ ลึงกับครอบค กั รัวไทย รั พื้นเ พื้ มือง คือ พ่อบ้านเ บ้ ป็นหัวห หั น้าครอบค น้ รัว แ รั ม่บ้าน บ้ ดูแลภายในบ้าน ใ บ้ ห้เ ห้ กียรติแก่ เพศชายในการดำ เนิน นิ กิจกรรม หรือ ตัด ตั สินเรื่อง รื่ ต่าง ๆ และมีการอยู่รวม กันหลายครอบค กั รัว อาจประกอบ รั ด้วย ด้ ปู่ย่า-ตายาย ลุง ลุ ป้า-น้าอา น้ พ่อแม่ ลูกหลาน พี่น้ พี่ อง น้ จำ นวนมากครอบครัวใด รั ที่มี ที่ มี ลูกสาวหลายคน สมาชิกก็มี แนวโน้มขยายมาก น้ ขึ้น การแต่งงานของชาวเขมรถิ่นไทย ถิ่ ฝ่ายชายต้อง ต้ เสียเงินและบรรณาการให้ฝ่ห้ฝ่ ายหญิง โดยต้อง ต้ จัด จั ขันหมากไปใ ขั ห้ฝ่ห้ฝ่ ายหญิง ประกอบด้วย ห ด้ มู เหล้า ขนม ล้ ข้าว ข้ ต้ม ผลไ ต้ ม้และเ ม้ งินทอง ฝ่ายหญิงต้อง ต้ ล้างเ ล้ ท้าใท้ ห้ฝ่ห้ฝ่ ายชายก่อนขึ้นบ้าน ชาวเขมร บ้ สูง ส่วนมากอยู่ในชนบทมีชีวิต เรียบง่าย ประกอบอาชีพเกษตรกรรม หนุ่มสาวรุ่นใหม่ที่ว่ ที่ ว่ างจากการทำ นา ทำ ไร่ จะเดินทางไปรับ รั จ้างใน จ้ ตัวเ ตั มือง และในกรุงเทพฯ เมื่อ มื่ ถึงฤ ถึ ดูเพาะ ปลูกก็จะเดินทางกลับ ลั ภูมิลำ เนา ประกอบอาชีพหลักของตน. ลั ประวัติความเป็นมา 02 ข้อความในย่อหน้าของคุณ

การปรับตัว ขแมร์ส่ ร์ ส่ วนมากอยู่ในชนบทมีชีวิตเรียบง่าย ประกอบอาชีพเกษตรกรรม เช่น ทำ นาทำ ไร่ หนุ่มสาวรุ่นใหม่ที่ว่ ที่ ว่ างจากการทำ นาทำ ไร่ จะเดินทางไปรับ รั จ้าง จ้ ทำ งานในตัวเ ตั มืองหรือใน เมืองหลวง และเมื่อ มื่ ถึงฤ ถึ ดูกาลเพาะปลูก ก็จะเดินทางกลับ ลั ภูมิลำ เนา เพื่อประกอบ พื่ อาชีพหลักของตน เ ลั ป็นเช่นนี้เ นี้ รื่อยไป. รื่ ในสมัยโบราณ จากห มั ลักฐานจดหมายเห ลั ตุจีน กล่าวถึง คนในอาณา ถึ จักร จั ฟูนั้น นั้ ว่า คนในอาณาจักร จั ฟูนัน นั นั้น ห นั้ น้าตา น้ น่าเกลียด ผิวดำ ผม หยิก ไ ยิ ม่สวมเสื้อผ้าและรองเ ผ้ ท้า ปท้ ลูกบ้ายก บ้ พื้น พื้ สูง มีการกีฬาชนไก่และชนสุกร มีการ ค้าขายทอง เ ค้ งินและผ้าไหม ผ้ กับ กั จีน มีอาชีพเพาะปลูก มีแหล่งน้ำ ใช้ร่ ช้ร่ วมกัน กั มีการโกน หนวดและผมในระหว่างการไว้ทุ ว้ ทุ กข์ มีประเพณีการประกอบพิธี พิธี บูชาเทพเจ้าบนยอด จ้ เขา. จากหลักฐาน ลั ดังก ดั ล่าว ชีวิตความเป็นอยู่ของชาวฟูนันและขแม นั ร์ปัร์ ปั จจุบัน บั มีส่วน คล้าย ล้ กันพอสมควร เ กั ช่นลักษณะ ลั ผิวค่อนข้าง ข้ ดำ และผมหยิก ยิ มีอาชีพเพาะปลูก มีการไว้ ทุกข์ด้ ข์ วยการโกนผม และ ด้ มีประเพณีขึ้นเขา เช่น ที่เขาสวาย จ. ที่ สุรินทร์ และ ร์ ที่เขาพนม ที่ รุ้ง จ. รุ้ บุรีรัม รั ย์ ซึ่งเป็นประเพณีที่จั ที่ ด จั ขึ้นทุกปี ในชนบทที่ขแม ที่ ร์ลื ร์ลื ออาศัยอ ศั ยู่มีการเลี้ยงหมู ไว้ทั่ ว้วไปโดยป ทั่ ล่อยให้หา ห้ กินเอง. แม้ว่ ม้ว่ าชีวิตความเป็นอยู่ของชาวขแมร์ลื ร์ลือในชนบทมี ลักษณะค ลั ล้ายคนไทยใน ล้ ท้อง ท้ ถิ่น ถิ่ ทั่วไป แ ทั่ ต่ถ้าจะเป ถ้ รียบกับชาวขแม กั ร์กรอมใน ร์ กัม กั พูชา แล้ว ความเ ล้ ป็นอยู่ ประเพณีและความเชื่อต่าง ๆ ของชาวขแมร์ลื ร์ลื อ จะมีส่วนคล้าย ล้ กับ กั ชาวขแมร์กรอมในประเทศ ร์ กัม กั พูชามาก เช่น ลักษณะ ลั บ้าน บ้ ชั้นเ ชั้ ดียวใต้ถุ ต้ ถุ นสูง พิธี พิธี กรรม เกี่ยว กี่ กับการเ กั กิด การตาย การแต่งงาน การนับเวลา นั วันเ วั ดือนปี การเชื่อถือโชคลาง ถื ฤกษ์ยาม การ ษ์ รักษาโรคแบบ รั พื้น พื้ บ้าน การประกอบอา บ้ ชีพ การละเล่นต่าง ๆ ตลอดจน อุป อุ นิสั นิ ยเ สั ป็นต้น. ต้ 03

การดำ รงชีพ ชี ชาวเขมรเช่นเดียวกับชา กั ติพัน พั ธุ์อื่ ธุ์อื่นในพื้น พื้ ที่จะประกอบอา ที่ ชีพส่วนใหญ่เป็นสังคม สั เกษตรกรรมมาตั้งแ ตั้ ต่สมัยโบราณ และ มั มีการพัฒนาเป พั ลี่ยนแปลงมาเ ลี่ รื่อยๆ รื่ ตลอดระยะเวลาที่ยาวนาน โดย ที่ สังคม สั ท้อง ท้ ถิ่นจะประกอบ 2 ประเภท ถิ่ คือ เกษตรกรรม และหัตถกรรม หั อาชีพเกษตรกรรมเป็นอาชีพเป็นหลักของคนใน ลั ท้อง ท้ ถิ่น โดยเฉพาะการเพาะป ถิ่ ลูก จะมีการหัก หั ร้างถางพง เ ร้ พื่อใพื่ ช้พื้ ช้ พื้ น พื้ ที่ในที่ ทำ นา ทำ สวน ทำ ไร่จะมีคำ พูดคล้องจอง ล้ ว่า การเรือกสวนไร่นา ซึ่งจะมีลักษณะ ลั เศรษฐกิจแบบเลี้ยงตัวเอง (Subsistance Economy) ตั คือผลิตเพื่อพอ พื่ กินพอใช้ โดยปัจจัยในการผ จั ลิตจะพึ่งพา พึ่ น้ำ ฝนจากธรรมชาติ หรือแหล่งน้ำ ธรรมชาติ มี การตั้ง ตั้ ถิ่นฐานและ ถิ่ จับจอง จั ที่ดิ ที่ ดินใกล้กั ล้ บแห กั ล่งน้ำ เป็นแหล่งอุปโภค บ อุ ริโภค เพื่อ พื่ ทำ การเพาะปลูก โดยข้าวจะเ ข้ ป็นพืชเพาะป พื ลูกสำ คัญ คั ส่วนการเลี้ยงสัต สั ว์ จะเ ว์ ลี้ยง เพื่อเ พื่ ป็นแรงงานและแนอาหารด้วย ไ ด้ ด้แ ด้ ก่ โค กระบือ บื สุกร เป็ด ไก่ ฯลฯ ด้าน ด้ แรงงานก็เป็นการใช้แรงงานคนและแรงงาน ช้ สัต สั ว์ สำ หรับการผ รั ลิตเครื่อง รื่ มือ ที่ นำ มาใช้เค ช้ รื่อง รื่ ทุ่นแรงหรือช่วนในการผลิตในชีวิตประจำ วันจะเ วั ป็นง่ายๆ เช่น การทำ คันไถ คั สำ หรับไถนา เ รั คียว การตีมิด ขวาน เสี่ยม สี่ ส่วนพลังงาน ลั ที่ใที่ ช้ คือ พลังงานจากธรรมชา ลั ติได้แ ด้ ก่ แสงแดด ลม ไฟ น้ำ ที่นำ ที่ นำมาใช้โดยตรงและใ ช้ ช้ เชื้อเพลิงจากไม้ เ ม้ ช่น ฟืน หรือถ่าน เ ถ่ ป็นต้น ผลผ ต้ ลิตและปริมาณที่ไที่ ด้จากอา ด้ ชีพ เพาะปลูก จะขึ้นอยู่กับความ กั อุดมสม อุ บูรณ์ของ ณ์ ดิน น้ำ และ ภูมิอากาศตาม ธรรมชาติ 04

ครอบครัวของชาวขแมร์ลือมีความค มี ล้ายคลึงกับครอบค กั รัวคนไทย พื้นเมือง โดยใ มื ห้ชายเป็นหัวหน้าครอบครัวส่วนแม่นั้นทำ หน้าที่ดู ที่ ดู แล งานในบ้าน โดยชาวขแมร์ลือมอบอำ นาจให้เพศชายในการตัด ตั สินใจ สิ และดำ เนินการตัด ตั สินใจในเ สิ รื่องต่างๆ และครอบครัวเขมรถิ่นไทย ถิ่ มักจะอ มั ยู่ร่วมกันเ กั ป็นครอบครัวขยาย โดยอยู่รวมกันหลายครอบค กั รัว ประกอบไปด้วย ปู่ย่า ตายาย ลุงป้า น้าอา พ่อแม่ และลูกหลาน ยิ่งมี ลูกมาก ก็จะ ก็ มีพี่ มี พี่ น้องมากและครอบครัวก็จะ ก็ มีโครงส มี ร้างขยายตัวมาก ตั ขึ้นการแ ขึ้ ต่งงานของชาวขแมร์ลือ ฝ่ายชายต้องเสียเ สี งินและเค งิ รื่อง บรรณาการแก่ฝ่ายหญิงเปิดปาก รวมทั้ง ทั้ฝ่ายชายจะจัดขันหมากใ ขั ห้ ฝ่ายหญิง ได้แก่ หมู เหล้า ขนม ข้าวต้ม ผลไม้และเงินทอง งิ ฝ่ายหญิง จะต้องล้างเท้าให้ฝ่ายชายก่อนขึ้น ขึ้ บ้าน โครงสร้า ร้ งสังคม 05

ชาวขแมร์ลือ มีค มี วามเชื่อแบบผสมผสยาม นับถือ ถื ศาสนาพุทธ นิกายเถรวาท และ พราหมณ์ กับ กั ผีช่ ผีช่ วงเข้าพรรษาจะมีปมี ระเพณี กัน กั ซง ซึ่งเป็นประเพณี การถือ ถื ศีล ศี นำ อาหารไปทำ บุญที่วั ที่วั ด8 วัน หรือ 15 วัน นอกจากนี้ยังนับถือ ถื บูชาผีบ ผี รรพบุรุษ รุ จะมี ประเพณีไณี หว้บรรพบุรุษ รุ ที่เ ที่ รียกว่า ประเพณีเ ณี บ็น บ็ หรืองานแคเบ็น บ็ ซึ่งตรงกับ กั วันสารท ไทย ชาวเขมรเชื่อว่าสิ่ง สิ่ ที่อ ที่ ยู่เหนือธรรมชาติเ ติป็นผี ซึ่งประกอบไปด้วยผีดี ผี แ ดี ละผีร้ ผีร้ าย ผีที่ ผี ที่ ดี ที่ คื ดีคื อประเภท เทพ เทวดา ผีบ ผี รรพบุรุษ รุ ผีที่ ผี ที่ ค ที่ อยปกปักรักษาบุคคล ชุมชนให้ อยู่เย็น ย็ เป็นสุข สุ และผีอี ผี ก อีประเภทคือผีร้ ผีร้ ายที่ก่ ที่ก่ อให้เกิด กิ ความเดือ ดื ดร้อนต่อชีวิตและ ชุมชน ผีมี ผี อ มี ยู่เกือ กื บทั่ว ทั่ ทุกพื้นที่ อยู่ในรูป รู ลักษณ์ข ณ์ องวิญญาณบุคคลทั่ว ทั่ไปไม่สามารถ มองเห็น ห็ ได้ แต่จะสามารถสื่อ สื่ สารได้ผ่านคนทรงเจ้าเข้าผีต ผี ามความเชื่อ ผีที่ ผี ที่ ดี ที่ดี จะคอยปกป้องรักษาคนให้ชุมชนอยู่เย็น ย็ เป็นสุข สุ รวมทั้ง ทั้ มีอำ มี อำนาจในการสร้าง ความทุกข์ไข์ ด้ ถ้ามีค มี นมาหลบลู่ หรือ ทำ ผิด ผิ ครู ผิด ผิ ประเพณี ผีที่ ผี ที่ ดี ที่ ส่ ดีส่ วนมากจะเป็น เทพ หรือ จะเรียกว่า ครู (กรู)รู ผีเ ผี หล่านี้อาศัย ศั อยู่รอบตัว ตั มนุษย์ เช่น ผีปผี ระจำ หมู่บ้าน หรือผีปู่ผีปู่ ตา ผีจ ผี ากฟ้า (บ็อ บ็ งบ๊อ บ๊ ด) ความเชื่อ ชื่ 06

ชาวเขมรถิ่น ถิ่ไทยนับถือ ถื ศาสนาพุทธ ช่วงเข้าพรรษาจะมี ประเพณี "กัน กั ซง" ซึ่งเป็นประเพณีก ณี ารถือ ถื ศีล ศี นำ อาหารไป ทำ บุญ ที่วั ที่วั ด 8 วัน หรือ 15 วัน นอกจากนั้นยังมีค มี วามเชื่อเรื่อง ผีบ ผี รรพบุรุษ รุ จะมีปมี ระเพณีไณี หว้บรรพบุรุษ รุ เรียกว่า ประเพณีเ ณี บ็น บ็ หรืองาน แคเบ็น บ็ ซึ่งตรงกับ กั สารทไทย พิธีม ธี งก็ว ก็ ลจองได เป็นพิธี สู่ข สู่ วัญแบบพื้นบ้าน นิยมจัดในงานมงคล เช่น งานมงคลสมรส ขวัญนาค โกนจุก ยกเสาเอก ขึ้น ขึ้ บ้านใหม่ เป็นต้น เมื่อ มื่ บรรพบุรุษ รุ เสีย สี ชีวิต ชาวกัม กั พูชาจะตั้ง ตั้โกศบรรจุกระดูกผู้ล่วงลับ ไว้ในบริเวณบ้าน ในระยะหลังจะนิยมไปไว้ที่วั ที่วั ดมากกว่า. พิธีก ธี รรม 07

ปัญหาความขัดแย้ง ย้ ต้นเหตุแ ตุ ห่งปัญหา พรมแดนไทย-กัม กั พูชา ในปัจจุบัน บั เป็นสิ่ง สิ่ ที่เ ที่ กิด กิ ขึ้น ขึ้ จาก ผลของสมัย มั แห่งการล่าอาณานิคม พรมแดนดัง ดั กล่าวจึงเป็นสิ่ง สิ่ ที่กำ ที่ กำหนดขึ้น ขึ้ โดยสนธิสั ธิ ญ สั ญาระหว่างรัฐบาลสยามกับ กั ฝรั่งเศสซึ่งเวลานั้นปกครองอิน อิโดจีน ฝรั่งเศส ส่วนกัม กั พูชาในเวลานั้นเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศสได้รับดิน ดิ แดน เหล่านี้สืบ สื ทอดมาภายหลังจากได้รับเอกราชจากฝรั่งเศสในปี ค.ศ. 1953 ด้วยเหตุนี้ ตุ นี้ ต้นเหตุข ตุ องปัญหาที่เ ที่ กิด กิ ขึ้น ขึ้ จึงสามารถกล่าวได้ว่ามาจากแผนที่ ซึ่งรัฐบาลฝรั่งเศสในเวลานั้นได้จัดทำ ขึ้น ขึ้ ไม่ว่ารัฐบาลสยามจะรับรู้ห รู้ รือ ยอมรับหรือไม่ก็ต ก็ าม อย่างไรก็ต ก็ ามสำ หรับในทัศ ทั นะของกัม กั พูชา “พรมแดน” ระหว่างไทย-กัม กั พูชา มิใมิ ช่ปัญหาที่เ ที่ พิ่งเกิด กิ ขึ้น ขึ้ในปัจจุบัน บั อัน อั เนื่องมาจากผลของการล่าอาณานิคม แต่เป็นผลพวงที่เ ที่ กิด กิ ขึ้น ขึ้ มาช้า นานโดยเฉพาะตั้ง ตั้ แต่ในสมัย มั ที่ไที่ ทยอพยพมาตั้ง ตั้ อาณาจักรสุโ สุ ขทัย ทั และ ไทยได้พยายามขยายอาณาเขตของตนจนกระทั่ง ทั่ สามารถตีเ ตี มือ มื ง พระนครของอาณาจักรกัม กั พูชาโบราณได้สำ เร็จ ร็ 08

09 หมู่บ้าน ครอบครัวใหญ่ ครอบครัวเดี่ยว สมุนไพร ยาเม็ด วัคซีน ขี่ควาย รถม้า รถยนต์ 9windows tools

จัดทำ โดย นางสาวชาคริย ริ า สมุทรคีรี 65020367 คณะมนุษย์ศ ย์ าสตร์แ ร์ ละ สัง สั คมศาสตร์ สาขาการจัด จั การบริก ริ ารสัง สั คม