เล่มที่ 5

คำชีแ้ จง

เอกสารประกอบการเรียน ชุด พลเมืองดี...ศรีชุมชน กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา
ศาสนาและวฒั นธรรม สาระท่ี2 หน้ำที่พลเมืองวัฒนธรรมและกำรดำเนินชีวิตในสังคม ครูผสู้ อน
เขา้ ใจในส่ือการสอนควรศึกษาใหเ้ ขา้ ใจโดยพิจารณาประยกุ ตใ์ ชใ้ หเ้ หมาะสมและสอดคลอ้ ง
กบั แผนการจดั การเรียนรู้ เพื่อพฒั นาการเรียนการสอนให้เกิดประสิทธิภาพมากย่ิงข้ึน อาจ
ดาเนินการไดต้ ามท่ีเห็นสมควรปฏิบตั ิไดด้ ว้ ยตนเองดงั ต่อไปน้ี

1. ใชเ้ อกสารประกอบการเรียน ชุด พลเมืองดี...ศรีชุมชน ใชเ้ ป็นส่ือการเรียนรู้ในหน่วย
การเรียนรู้ เรื่อง พลเมืองดี...ศรีชุมชน กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม
สาระที่2หน้ำท่ีพลเมือง วฒั นธรรม และกำรดำเนินชีวิตในสังคม ช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี 6

2. เอกสารประกอบการเรียนชุดน้ี ครูผูส้ อนสามารถนาไป ใช้สอนซ่อมเสริมสาหรับ
นกั เรียนท่ีเรียนอ่อน และนกั เรียนที่ตอ้ งการทบทวนบทเรียนไดอ้ ีกดว้ ย

3. ครูควรเสริมแรงโดยกระตุน้ ให้นกั เรียนต้งั ใจศึกษาเน้ือหาซ่ึงครูเป็นเพียงผคู้ อยช้ีแนะ
อานวยความสะดวกและคลี่คลายปัญหาของนกั เรียน

4. นักเรียนและครูควรสรุปความรู้ร่วมกันหลังจากที่นักเรียนศึกษาเอกสารประกอบ
การเรียนจบแลว้

5. ขณะท่ีนกั เรียนศึกษาจากเอกสารประกอบการเรียน ครูตอ้ งคอยสังเกตและบนั ทึก
พฤติกรรมของนกั เรียน แลว้ ร่วมกนั ตรวจ เฉลยคาตอบแบบฝึ กหัด และแบบทดสอบประจาเล่ม
เพื่อศึกษาความกา้ วหน้ามีพฒั นาการและปรับปรุงแก้ไขต่อไป

แบบทดสอบก่อนเรียน

เล่มท่ี 5 คณุ ค่ำและควำมแตกต่ำงทำงวัฒนธรรม

คำชี้แจง ใหน้ กั เรียนทาเคร่ืองหมาย กากบาท (X) ทบั ขอ้ ท่ีถูกที่สุดเพียงคาตอบเดียว
(ขอ้ ละ 1 คะแนน)

1. หมากเขียบ ในภาษาถิ่นภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือ คือผลไมช้ นิดใด
ก. ชมพู่
ข. กลว้ ย
ค. นอ้ ยหน่า
ง. สับปะรด

2. นกั เรียนควรเลือกแต่งกายดว้ ยเส้ืออยา่ งไรใหเ้ หมาะสมกบั สภาพภูมิอากาศ
ในฤดูหนาวของภาคเหนือ
ก. ผา้ ฝ้าย ผา้ ไหม
ข. แตง่ กายแบบจีน
ค. เส้ือผา้ ที่ระบายอากาศไดด้ ี
ง. เส้ือผา้ ท่ีมีความหนาเพือ่ ทาใหร้ ่ายกายอบอนุ่

3. ถึงแมพ้ ิธีกรรมแตง่ งานตามศาสนาตา่ งๆจะมีลกั ษณะแตกตา่ งกนั แต่มีจุดประสงค์
เดียวกนั คือ ขอ้ ใด
ก. ลาดบั พิธีการท่ีสาคญั
ข. การเชิญแขกผใู้ หญม่ ากมาย
ค. ชุดเจา้ บ่าวเจา้ สาวท่ีสวยงาม
ง. การประกาศวา่ คนท้งั 2 คนจะยนิ ยอมอยรู่ ่วมชีวิตเป็นสามีภรรยา

4. หรอย ในภาษาไทยถ่ินใต้ คือหมายถึงคาใดของภาษาไทยถิ่นอีสาน
ก. ลา
ข. แซบ
ค. อร่อย
ง. แหลง

5. วฒั นธรรมไทยมีประโยชนแ์ ละมีคุณค่าต่อสังคมไทย ยกเวน้ ขอ้ ใด
ก. ทาใหเ้ กิดสงั คมใหมท่ ่ีหลากหลาย
ข. เป็นเอกลกั ษณ์ที่ปฏิบตั ิสืบทอดต่อกนั มา
ค. ทาใหเ้ กิดความเป็นระเบียบเรียบร้อยในสงั คม
ง. แสดงใหเ้ ห็นถึงความเจริญงอกงามท่ีมีในสังคม

6. หากสังคมใดไม่มีวฒั นธรรมแลว้ สังคมน้นั จะเป็นเช่นไร
ก. มีความสามคั คี
ข. เกิดความแตกแยก สงั คมวนุ่ วาย
ค. การร่วมมือกนั ทากิจกรรมต่างๆ
ง. ทาใหเ้ กิดความเป็นระเบียบเรียบร้อยในสงั คม

7. ความแตกต่างทางวฒั นธรรมของแตล่ ะชุมชน มกั มีสาเหตมุ าจากส่ิงใด
ก. ความสมั พนั ธใ์ นของแตล่ ะชุมชนไม่เหมือนกนั
ข. มนุษยแ์ ตล่ ะคนตา่ งมีความคิดเห็นไม่เหมือนกนั
ค. สภาพแวดลอ้ ม ความเช่ือแต่ละพ้ืนท่ีไม่เหมือนกนั
ง. มนุษยแ์ ตล่ ะคนมีความสามารถมากนอ้ ยไมเ่ หมือนกนั

8. ขอ้ ใดเป็นการแสดงของภาคเหนือ
ก. ลาตดั ลิเก
ข. หมอลา เซิ้ง
ค. ฟ้อนเง้ียว สาวไหม
ง. หนงั ตะลงุ รามโนราห์

9. ส่ิงท่ีสาคญั ที่สุดในการนบั ถือศาสนาต่างๆคือ ขอ้ ใด
ก. ความเช่ือ
ข. สิ่งศกั ด์ิสิทธ์ิ
ค. ทุกศาสนาสอนใหท้ ุกคนเป็นคนดี
ง. แนวการประพฤติปฏิบตั ิตนเกี่ยวกบั ศาสนา

10. การติดตอ่ คบหาระหวา่ งคนในแตล่ ะสังคมไมค่ วรปฏิบตั ิในขอ้ ใด
ก. เปรียบเทียบขอ้ ดี ขอ้ เสียของวฒั นธรรมที่แตกตา่ งกนั
ข. ยอมรับความแตกตา่ งทางวฒั นธรรม
ค. ศึกษาวฒั นธรรมท่ีแตกตา่ ง
ง. เรียนรู้วฒั นธรรมที่แตกต่าง

เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน
เล่มท่ี 5 คณุ ค่ำและควำมแตกต่ำงทำงวฒั นธรรม

1. ง
2. ข
3. ค
4. ค
5. ง
6. ง
7. ง
8. ค
9. ง
10. ข

ใบความรู้
คณุ ค่าและความแตกต่างทางวัฒนธรรม

ความหลากหลายทางวฒั นธรรม

วฒั นธรรมไทยมีประโยชนแ์ ละมีคุณค่าตอ่ การดาเนินชีวติ แสดงใหเ้ ห็นถึงความเจริญ
งอกงามท่ีมีในสงั คม เป็นเอกลกั ษณ์ที่ปฏิบตั ิสืบทอดต่อกนั มา ซ่ึงทาใหเ้ กิดความเป็ นระเบียบ
เรียบร้อยและความเป็นอนั หน่ึงอนั เดียวกนั ในสังคมและในสังคมต่างๆมีวฒั นธรรมแตกต่างกนั ไป
ทาใหเ้ กิดประโยชน์และคุณค่า ดงั ตอ่ ไปน้ี

1. ประโยชน์และคณุ ค่ำของวัฒนธรรมไทย
วฒั นธรรมไทยมีประโยชน์และมีคุณคา่ ตอ่ การดาเนินชีวิตแสดงใหเ้ ห็นถึงความเจริญ
งอกงามท่ีมีในสงั คม เป็นเอกลกั ษณ์ที่ปฏิบตั ิสืบทอดตอ่ กนั มา ซ่ึงทาใหเ้ กิดความเป็ นระเบียบ
เรียบร้อยและความเป็นอนั หน่ึงอนั เดียวกนั ในสงั คม

คณุ คา่ ของวฒั นธรรมไทย

วฒั นธรรมไทยมปี ระโยชน์และมคี ุณค่ำต่อกำรดำเนินชีวิตของสังคมไทย
1. ทาให้สังคมมีความเป็นระเบียบเรียบร้อย เช่น เมื่อทุกคนปฏิบตั ิตามกฎระเบียบ ประเพณี
ซ่ึงเป็ นแบบแผนสังคมท่ีดีงาม ซ่ึงเป็ นกรอบของการอยู่ร่วมกันในสังคม หรือปฏิบัติตาม
กฎหมายก็ยอ่ มไมเ่ กิดความขดั แยง้ กนั
2. สร้างความบันเทิงใจให้แก่สมาชิกในสังคม เช่น วฒั นธรรมทางด้านการแสดงดนตรี
การขบั ร้อง การฟ้อนรา ซ่ึงจะทาใหผ้ ชู้ มมีความสนุกสนาน ผอ่ นคลายความเครียด
3. สร้างความสามคั คีกลมเกลียวระหวา่ งสมาชิกในแต่ละสังคม เช่น แต่ละภาคแต่ละทอ้ งถิ่น
จะมีขนบธรรมเนียมประเพณีคลา้ ยคลึงกนั สร้างความสมั พนั ธ์ที่ดีตอ่ กนั เป็นตน้
4. ทาให้สมาชิกในสังคมสื่อสารไดอ้ ย่างเขา้ ใจกนั ง่ายข้ึน โดยการใชว้ ฒั นธรรมทางภาษา
เป็ นสื่อกลาง ท้งั ภาษาพูด ภาษาเขียน เป็ นพ้ืนฐานในการพฒั นาประเทศ รวมท้งั ขอ้ คิดจาก
งานวรรณคดี วรรณกรรม ยงั เป็นแนวทางที่สามารถนาไปประยกุ ตป์ ฏิบตั ิในทางที่ดี
5. ทาให้สมาชิกในสังคมมีหลกั ไวย้ ดึ เหน่ียวจิตใจ เนื่องจากวฒั นธรรมดา้ นท่ีเกี่ยวขอ้ งกบั
ศีลธรรม เช่น พิธีกรรมทางศาสนา คาสอนของศาสนา ทาให้สมาชิกในสังคมมีหลกั สาหรับ
ยดึ เหนี่ยวจิตใจเช่นการปฏิบตั ิตนเป็นคนดี เป็นสมาชิกที่ดีของครอบครัว สังคมประเทศ เป็นตน้
6. ทาให้สมาชิกในสังคมมีโอกาสในการประกอบอาชีพต่างๆเพิ่มข้ึน วฒั นธรรม
บางอย่างส่งผลดีต่อเศรษฐกิจของสังคม สร้างรายไดใ้ ห้แก่สมาชิกในสังคม เช่น การทอผา้ ไหม
การแกะสลกั ลวดลาย บนส่ิงของเคร่ืองใชต้ ่างๆ การแสดงนาฏศิลป์ การแสดงดนตรี เป็นตน้

นาฏศิลป์ พ้ืนเมืองภาคเหนือ

2. กำรยอมรับควำมหลำกหลำยทำงวฒั นธรรมท่ีแตกต่ำงกนั ในสังคม

วฒั นธรรมในแต่ละทอ้ งถ่ินของสังคมไทย เป็ นสิ่งดีงามและก่อให้เกิดประโยชน์ต่อ
การดาเนินชีวิตของคนในสังคม บางทอ้ งถ่ินมีผูน้ ับถือศาสนาต่างกนั ซ่ึงย่อมมีประเพณีใน
การประกอบพิธีกรรมแตกต่างกนั ดว้ ย เช่น ชาวพุทธ ชาวมุสลิม ชาวคริสต์ บางทอ้ งถ่ินมีผคู้ นท่ีมี
รากฐานทางเช้ือชาติและความเป็ นมาต่างกัน คนไทยเช้ือสายมอญ คนไทยเช้ือสายจีน
การยอมรับความหลากหลายทางวฒั นธรรมช่วยใหส้ ังคมเกิดความสงบสุขและเกิดสนั ติภาพข้ึน

ชุดแตง่ งานแบบไทย ชุดแตง่ งานแบบสากล

ควำมแตกต่ำงทำงวฒั นธรรมในสังคมไทย

ในแตล่ ะทอ้ งถ่ินจะมีวฒั นธรรมที่แตกตา่ งกนั ไป ข้ึนอยกู่ บั สภาพแวดลอ้ มและลกั ษณะ
ทางกายภาพของแตล่ ะทอ้ งถ่ินแตกต่างกนั ดงั น้ี

1. ควำมแตกต่ำงด้ำนภำษำ

คนไทยทุกภาคทุกทอ้ งถิ่น ไดส้ ืบทอดวฒั นธรรมทางภาษามาอย่างต่อเนื่องทุกคน
ใชภ้ าษาไทยแต่มีสาเนียงแตกต่างกนั เรียกวา่ ภาษาถ่ิน เช่น ภาษาไทยถ่ินเหนือภาษาไทย
ถิ่นอีสาน ภาษาไทยถิ่นกลาง ภาษาไทยถิ่นใต้ แต่เราสามารถใชส้ ่ือสารทาความเขา้ ใจกนั ได้

ตวั อย่ำงควำมแตกต่ำงด้ำนภำษำไทยท้องถนิ่

ภำษำถิ่นเหนือ ภำษำถ่ินอีสำน ภำษำถ่ินใต้ ภำษำถ่ินกลำง
ลา แซบ หรอย อร่อย
อู้ เวา้ แหลง พดู
ยานดั สบั ปะรด
มะขะนดั หมากนดั ลอกอ มะละกอ
มะกว้ ยเตด้ หมากหุ่ง หน่อยน่า นอ้ ยหน่า
มะนอ้ แน้ หมากเขียบ

2. ควำมแตกต่ำงด้ำนศำสนำ

คนไทยส่วนใหญ่นับถือพระพุทธศาสนา ซ่ึงเป็ นศาสนาประจาชาติ แต่ก็มีคนไทยบางส่วน
นับถือศาสนาอื่น เช่น อิสลาม คริสต์ สิกข์ ซ่ึงมีการประพฤติปฏิบตั ิตนเก่ียวกบั ศาสนาท่ี
แตกต่างกนั ไป แต่ทกุ ศาสนาสอนใหท้ กุ คนเป็นคนดี

พิธีละหมาดฮายตั ศาสนาอิสลาม พิธีบพั ติศมาหรือศีลลา้ งบาป ศาสนาคริสต์

สวดมนตไ์ หวพ้ ระ ศาสนาพุทธ

3. ควำมแตกต่ำงด้ำนกำรแต่งกำย
แต่ละทอ้ งถ่ินจะมีลกั ษณะการแต่งกายที่แตกต่างกนั เพ่ือให้เขา้ กับสภาพภูมิอากาศ
ของแตล่ ะทอ้ งถ่ิน เช่น ภาคเหนือมีอากาศหนาวเยน็ จึงตอ้ งแต่งกายดว้ ยเส้ือผา้ ที่มีความหนา
เพ่ือทาให้ร่ายกายอบอุ่น ภาคอีสานมีอากาศร้อนและแห้งแลง้ จึงนิยมใช้ผา้ ที่ทาจากเส้นใย
ธรรมชาติ พวกผ้าฝ้าย ผ้าไหม ภาคกลางมีอากาศร้อนและฝนตกชุก การแต่งกายใน
ชีวิตประจาวนั นิยมใช้ผา้ ฝ้ายสีเขม้ ซ่ึงมีความทนทานกันแดด และระบายความร้อนได้ดี
ภาคใต้มีการแต่งกายไปตามกลุ่ม เช่น ชาวไทยเช้ือสายจีนจะแต่งกายแบบจีน ชาวไทย
มสุ ลิมจะแต่งกายดว้ ยชุดประจาศาสนา เป็นตน้

ชุดแต่งกายของชาวไทยพทุ ธ

ชุดแตง่ กายชาวมสุ ลิม

4. ควำมแตกต่ำงด้ำนกำรละเล่นพืน้ เมือง

ส่วนใหญ่จะใชภ้ าษาถ่ินและดนตรีพ้ืนเมืองในการแสดง เช่น ภาคใตม้ ีการแสดงมโนราห์
หนังตะลุง รองเง็ง ลิเกฮูลู ภาคเหนือมีการแสดงฟ้อนเล็บ ฟ้อนเง้ียว ฟ้อนสาวไหม ภาค
ตะวนั ออกเฉียงเหนือมีการแสดงหมอลา เซิ้ง ภาคกลางมีการแสดงลาตดั กลองยาว ลิเก เป็นตน้

รากลองยาวภาคกลาง ราเซิ้งภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือ

5. ควำมแตกต่ำงด้ำนอำหำร

ในแต่ละทอ้ งถ่ินมีการปรุงอาหารซ่ึงเป็นวฒั นธรรมที่สืบทอดกนั มานาน โดยมีวตั ถดุ ิบ
ท่ีแตกต่างกนั อาหารก็มีรสชาติ แตกต่างกนั ตามรสนิยมของแต่ละภาค เช่น ภาคเหนือมี
อาหารประเภทน้าพริกหนุ่ม น้าพริกน้าปู แคบหมู ภาคกลางมีอาหารประเภทน้าพริกปลาทู
น้ าพริกกะปิ แกงส้ม ภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือมีอาหารประเภท ส้มตา น้ าพริกปลาร้า
(แจ่วบอง) ภาคใตม้ ีอาหารประเภทแกงเหลือง แกงไตปลา เป็นตน้

อาหารพ้ืนเมืองภาคเหนือ อาหารภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือ

แบบฝึ กหดั ท่ี 1

เล่มที่ 5 คณุ ค่ำและควำมแตกต่ำงทำงวฒั นธรรม

ตอนท่ี 1
คำชีแ้ จง ใหน้ กั เรียนเขียนแผนผงั ความคิดเก่ียวกบั ประโยชน์หรือคุณคา่ ของวฒั นธรรม

ท่ีมีตอ่ วถิ ีชีวิตของคนไทย ( 5 คะแนน)

ประโยชน์หรือคุณค่ำของ สังคมสงบสุข
วฒั นธรรมท่ีมตี ่อวิถชี ีวิตคนไทย ลดควำมขัดแย้ง

ตอนที่ 2
คำชี้แจง ใหน้ กั เรียนเขียนอธิบายตามความคิดเห็นของนกั เรียนเก่ียวกบั การยอมรับ

ความแตกต่างทางวฒั นธรรมของคนในสังคม จะเกิดผลดีอยา่ งไร ( 5 คะแนน)

แนวกำรตอบแบบฝึ กหัดท่ี 1

เล่มที่ 5 คุณค่ำและควำมแตกต่ำงทำงวัฒนธรรม

ตอนที่ 1
คำชี้แจง ใหน้ กั เรียนเขียนแผนผงั ความคิดเกี่ยวกบั ประโยชนห์ รือคุณคา่ ของวฒั นธรรม

ท่ีมีต่อวิถีชีวิตของคนไทย ( 5 คะแนน)

ประโยชน์หรือคุณค่ำของ สังคมสงบสุข
วัฒนธรรมท่มี ีต่อวถิ ีชีวิตคนไทย ลดควำมขดั แย้ง

สร้ำงควำมบนั เทงิ เช่น สร้ำงควำมสำมคั คี
กำรขับร้อง กำรฟ้อนรำ ให้เกดิ ในแต่ละสังคม

กำรแสดงหนงั เป็ นศูนย์รวมจติ ใจคน
ในชำติ เช่นพิธีกรรมทำง
ใช้สื่อสำรทำควำมเข้ำใจ ศำสนำ วนั สำคญั ต่ำง ๆ
เช่น วัฒนธรรมทำงภำษำ

ส่งผลต่อควำมเจริญ ด้ำนเศรษฐกจิ เช่น
วัฒนธรรมด้ำนกำรประกอบอำชีพช่ำงไม้

จติ รกรรม เกษตรกรรม

หรืออย่ใู นดลุ ยพนิ จิ ของครูผ้สู อน

ตอนท่ี 2
คำชีแ้ จง ใหน้ กั เรียนเขียนอธิบายตามความคิดเห็นของนกั เรียนเก่ียวกบั การยอมรับ

ความแตกต่างทางวฒั นธรรมของคนในสังคม จะเกิดผลดีอยา่ งไร ( 5 คะแนน)

วฒั นธรรมในแต่ละท้องถิน่ ของสังคมไทย เป็ นสิ่ง
ดีงำมและก่อให้เกิดประโยชน์ต่อกำรดำเนินชีวิตของคนในสังคมบำง
ท้องถิ่น มีผู้นับถือศำสนำต่ำงกัน ซึ่งย่อมมีประเพณีในกำร
ประกอบพิธีกรรมแตกต่ำงกันด้วย เช่น ชำวพุทธ ชำวมุสลิม
ชำวคริสต์ บำงท้องถิ่นมีผู้คนที่มีรำกฐำนทำงเชื้อชำติและควำม
เป็ นมำต่ำงกนั คนไทยเชื้อสำยมอญ คนไทยเชื้อสำยจีน กำรยอมรับ
ควำมหลำกหลำยทำงวัฒนธรรม ทำให้ ประชำชนอยู่ร่ วมกันได้โดยไม่
เกิดกำรทะเลำะกัน เข้ำใจซึ่งกันและกัน เคำรพในวัฒนธรรม
ประเพณที ี่แตกต่ำงกนั ให้เกยี รติซ่ึงกนั และกนั ช่วยให้สังคมเกดิ

ควำมสงบสุขและเกดิ สันตภิ ำพขนึ้

หรืออยู่ในดุลยพนิ ิจของครูผู้สอน

แบบฝึ กหดั ท่ี 2

เล่มที่ 5 คณุ ค่ำและควำมแตกต่ำงทำงวัฒนธรรม

คำชี้แจง ใหน้ กั เรียนเขียนสรุปขอ้ มลู เกี่ยวกบั วฒั นธรรมที่แตกตา่ งกนั ระหวา่ งกลุ่มคน

ในสงั คมไทย เป็นแผนภาพความคิด (10 คะแนน)

ควำมแตกต่ำงทำง
วัฒนธรรมในสังคมไทย

ภำคเหนือ ภำคกลำง

ภำคอสี ำน ภำคใต้

แนวกำรตอบแบบฝึ กหัดที่ 2

เล่มท่ี 5 คุณค่ำและควำมแตกต่ำงทำงวัฒนธรรม

คำชี้แจง ใหน้ กั เรียนเขียนสรุปขอ้ มูลเก่ียวกบั วฒั นธรรมท่ีแตกต่างกนั ระหวา่ งกลมุ่ คน

ในสงั คมไทย เป็นแผนภาพความคิด (10 คะแนน)

ควำมแตกต่ำงทำง
วัฒนธรรมในสังคมไทย

ภำคเหนือ ภำคกลำง

พดู ภาษาถิ่นเหนือส่วนใหญ่นบั ถือศาสนาพุทธ พูดภาษาถิ่นกลางการแต่งกายนิยมใชผ้ า้ ฝ้าย
การแต่งกายดว้ ยเส้ือผา้ ท่ีมีความหนาเพอื่ ทา สีเขม้ ซ่ึงทนทานกนั แดดและระบายความร้อน
ใหร้ ่ายกายอบอุน่ มีการแสดงฟ้อนเลบ็ ฟ้อนเง้ียว ไดด้ ี มีการแสดงลาตดั กลองยาว ลิเก อาหาร
ฟ้อนสาวไหม อาหารน้าพริกหนุ่ม แคบหมู ประเภทน้าพริกปลาทู น้าพริกกะปิ แกงสม้

ภำคอสี ำน ภำคใต้

พดู ภาษาถ่ินอีสานการแตง่ กายนิยมใชผ้ า้ ท่ี พดู ภาษาถ่ินใต้ ส่วนใหญ่นบั ถือศาสนาอิสลาม
ทาจากเส้นใยธรรมชาติ พวกผา้ ฝ้าย ผา้ ไหม การแต่งกายไปตามกลุม่ จีนและมุสลิม มีการแสดง
มโนราห์ หนงั ตะลุง รองเงง็ ลิเกฮูลู ภาคใตม้ ี
มีการแสดงหมอลาเซิ้งอาหารประเภท สม้ ตา
น้าพริกปลาร้า(แจ่วบอง) อาหารประเภทแกงเหลือง แกงไตปลา

แบบทดสอบหลงั เรียน

เล่มท่ี 5 คุณค่ำและควำมแตกต่ำงทำงวฒั นธรรม

คำชีแ้ จง ใหน้ กั เรียนทาเคร่ืองหมาย กากบาท (X) ทบั ขอ้ ท่ีถูกที่สุดเพยี งคาตอบเดียว
(ขอ้ ละ 1 คะแนน)

1. นกั เรียนควรเลือกแตง่ กายดว้ ยเส้ืออยา่ งไรใหเ้ หมาะสมกบั สภาพภมู ิอากาศ
ในฤดูหนาวของภาคเหนือ
ก. ผา้ ฝ้าย ผา้ ไหม
ข. แต่งกายแบบจีน
ค. เส้ือผา้ ที่ระบายอากาศไดด้ ี
ง. เส้ือผา้ ที่มีความหนาเพ่อื ทาใหร้ ่ายกายอบอุ่น

2. ขอ้ ใดเป็นการแสดงของภาคเหนือ
ก. ลาตดั ลิเก
ข. หมอลา เซิ้ง
ค. ฟ้อนเง้ียว สาวไหม
ง. หนงั ตะลงุ รามโนราห์

3. สิ่งท่ีสาคญั ที่สุดในการนบั ถือศาสนาตา่ งๆคือ ขอ้ ใด
ก. ความเชื่อ
ข. ส่ิงศกั ด์ิสิทธ์ิ
ค. ทุกศาสนาสอนใหท้ ุกคนเป็นคนดี
ง. แนวการประพฤติปฏิบตั ิตนเกี่ยวกบั ศาสนา

4. ถึงแมพ้ ิธีกรรมแตง่ งานตามศาสนาตา่ งๆจะมีลกั ษณะแตกต่างกนั แต่มีจุดประสงค์
เดียวกนั คือ ขอ้ ใด
ก. ลาดบั พิธีการท่ีสาคญั
ข. การเชิญแขกผใู้ หญม่ ากมาย
ค. ชุดเจา้ บา่ วเจา้ สาวที่สวยงาม
ง. การประกาศวา่ คนท้งั 2 คนจะยนิ ยอมอยรู่ ่วมชีวติ เป็นสามีภรรยา

5. การติดตอ่ คบหาระหวา่ งคนในแต่ละสังคมไมค่ วรปฏิบตั ิในขอ้ ใด
ก. เปรียบเทียบขอ้ ดี ขอ้ เสียของวฒั นธรรมที่แตกตา่ งกนั
ข. ยอมรับความแตกตา่ งทางวฒั นธรรม
ค. ศึกษาวฒั นธรรมท่ีแตกต่าง
ง. เรียนรู้วฒั นธรรมท่ีแตกต่าง

6. ความแตกตา่ งทางวฒั นธรรมของแต่ละชุมชน มกั มีสาเหตมุ าจากสิ่งใด
ก. ความสัมพนั ธ์ในของแต่ละชุมชนไม่เหมือนกนั
ข. มนุษยแ์ ต่ละคนตา่ งมีความคิดเห็นไมเ่ หมือนกนั
ค. สภาพแวดลอ้ ม ความเช่ือแต่ละพ้นื ท่ีไม่เหมือนกนั
ง. มนุษยแ์ ต่ละคนมีความสามารถมากนอ้ ยไม่เหมือนกนั

7. หมากเขียบ ในภาษาถิ่นภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือ คือผลไมช้ นิดใด
ก. ชมพู่
ข. กลว้ ย
ค. นอ้ ยหน่า
ง. สับปะรด

8. หากสังคมใดไมม่ ีวฒั นธรรมแลว้ สังคมน้นั จะเป็นเช่นไร
ก. มีความสามคั คี
ข. เกิดความแตกแยก สงั คมวนุ่ วาย
ค. การร่วมมือกนั ทากิจกรรมต่างๆ
ง. ทาใหเ้ กิดความเป็นระเบียบเรียบร้อยในสงั คม

9. วฒั นธรรมไทยมีประโยชนแ์ ละมีคุณคา่ ตอ่ สังคมไทย ยกเวน้ ขอ้ ใด
ก. ทาใหเ้ กิดสงั คมใหมท่ ่ีหลากหลาย
ข. เป็นเอกลกั ษณ์ท่ีปฏิบตั ิสืบทอดตอ่ กนั มา
ค. ทาใหเ้ กิดความเป็นระเบียบเรียบร้อยในสงั คม
ง. แสดงใหเ้ ห็นถึงความเจริญงอกงามที่มีในสงั คม

10. หรอย ในภาษาไทยถ่ินใต้ คือหมายถึงคาใดของภาษาไทยถ่ินอีสาน
ก. ลา
ข. แซบ
ค. อร่อย
ง. แหลง

เฉลยแบบทดสอบหลงั เรียน
เล่มท่ี 5 คณุ ค่ำและควำมแตกต่ำงทำงวฒั นธรรม

1. ข
2. ค
3. ง
4. ค
5. ข
6. ง
7. ง
8. ง
9. ง
10. ค