Biology: The Problems Book (Answer Keys) 1 บทที่ 20 การสืบพันธุ์และการเจริญของพืชดอก (Plant Reproduction and Development) ข้อ ค ำตอบ เหตุผลและค ำอธิบำยประกอบ 1 4 ข้อ 4. ผิด เพราะเฟิร์นใบมะขามจัดเป็นเฟิร์นที่อยู่บนบกจะมีการสร้างสปอร์แบบเดียว (homospory) 2 3 ข้อ 3. ผิด เพราะแกมีโทไฟต์ของทั้งพืชดอกและพืชเมล็ดเปลือยจะเจริญอยู่ภายในสปอร์ 3 3 ข้อ 3. ถูก เพราะสปอโรไฟต์จะมีการแบ่งเซลล์แบบไมโอซิสเพื่อสร้างสปอร์ และเจริญมาจากการแบ่ง ไมโทซิสของเอ็มบริโอตที่ได้มาจากการปฏิสนธิของเซลล์สืบพันธุ์ 4 5 ดอกสมบูรณ์เพศ (perfect flower) เป็นดอกที่ต้องมีทั้งเกสรเพศผู้และเกสรเพศเมียอยู่ในดอกเดียวกัน แต่อาจมีกลีบเลี้ยงและ/หรือกลีบดอกครบหรือไม่ก็ได้ 5 5 สปอโรไฟต์เป็น diploid ที่มีการสร้างสปอร์ที่เป็น haploid ด้วยการแบ่งเซลล์แบบไมโอซิส แกมีโทไฟต์เป็น haploid ที่มีการสร้างเซลล์สืบพันธุ์ที่เป็น haploid ด้วยการแบ่งเซลล์แบบไมโทซิส 6 3 Sporophyte มีการแบ่งเซลล์แบบไมโอซิสเพื่อสร้างสปอร์ จากนั้นสปอร์จะมีการแบ่งเซลล์แบบ ไมโทซิสเพื่อเจริญต่อไปเป็นแกมีโทไฟต์ โดยแกมีโทไฟต์จะมีการเซลล์แบบไมโทซิสเพื่อสร้าง เซลล์สืบพันธุ์ (gamete) ต่อไป 7 5 จากภาพ โครงสร้าง A คือกลีบดอก (petal) โครงสร้าง B คือกลีบเลี้ยง (sepal) โครงสร้าง C คือยอดเกสรเพศเมีย (stigma) โครงสร้าง D คืออับเรณู (anther) โครงสร้าง E คือออวุล (ovule) ข้อ 1. ผิด เพราะกลีบเลี้ยงเป็นโครงสร้างที่ท าหน้าที่ในการปกป้องดอกอ่อน ข้อ 2. ผิด เพราะกลีบดอกเป็นโครงสร้างที่ท าหน้าที่ในการล่อแมลงเพื่อมาถ่ายเรณู ข้อ 3. ผิด เพราะยอดเกสรเพศเมียไม่ได้ท าหน้าที่ในการสร้างสารส าหรับดึงดูดเรณู แต่มีหน้าที่ดักเรณู ข้อ 4. ผิด เพราะอับเรณูเป็นโครงสร้างที่ท าหน้าที่ในการสร้าง microscopre 8 4 อับเรณูจะมีmicrosporocyte (microspore mother cell) อยู่ภายในที่มีการแบ่งเซลล์แบบไมโอซิส เพื่อสร้างเป็น microspore ได้
Biology: The Problems Book 2 ข้อ ค ำตอบ เหตุผลและค ำอธิบำยประกอบ 9 1 จากภาพ โครงสร้าง A คือดอกวงนอก (ray flower) โครงสร้าง B คือดอกวงใน (disc flower) โครงสร้าง C คือฐานดอกร่วม (common receptacle) โครงสร้าง D คือใบประดับ (bract) โครงสร้าง E คือ receptacle scale ข้อ ก. ผิด เพราะ A คือ ray flower ส่วน B คือ disc flower ข้อ ค. ผิด เพราะ B คือ disc flower เป็นดอกสมบูรณ์และดอกสมบูรณ์เพศ 10 3 ข้อ ข. ผิด เพราะดอกเบญจมาศเป็นช่อดอก ดังนั้นผลที่เกิดขึ้นจากดอกเบญจมาศจึงอาจเป็นผลเดี่ยว (simple fruit) หรือผลรวม (multiple fruit) ก็ได้ แต่จะไม่เจริญเป็นผลกลุ่ม (aggregate fruit) 11 2 กฎของเมนเดลข้อแรก คือ กฎแห่งการแยก (law of segregation) และกฎแห่งการรวมกลุ่มอย่าง อิสระ (law of independent assortment) จะสอดคล้องกับการแบ่งเซลล์แบบไมโอซิส ดังนั้นการแบ่ง เซลล์ของ spore mother cell เป็น spore ซึ่งเป็นการแบ่งเซลล์แบบไมโอซิสจึงเหมาะสมในการศึกษา การถ่ายทอดลักษณะของต้นถั่วลันเตามากที่สุด 12 5 ถ้ามีการให้สาร colchicine ลงไปในการสร้างเรณูจาก microsporocyte จะพบว่ามีการยับยั้งการแบ่ง เซลล์ท าให้เกิด nondisjunction cell division ขึ้น ส่งผลให้microspore มีจ านวนโครโมโซมเป็น 2n แทนที่จะเป็น n เดียวตามปกติ และเมื่อเกิดการแบ่งเซลล์แบบ nondisjunction ต่อไปอีกสามรอบ ท า ให้ได้เรณูที่มีโครโมโซมสูงสุดได้ทั้งหมด 8n 13 3 จากภาพ โครงสร้าง A คือ antipodals โครงสร้าง B คือ polar nuclei โครงสร้าง C คือ synergids โครงสร้าง D คือเซลล์ไข่ (egg cell) พืชดอกจะมีการปฏิสนธิคู่ (double fertilisation) เกิดขึ้น โดย sperm ตัวหนึ่งจะเข้าปฏิสนธิกับ polar nuclei ส่วน sperm อีกตัวหนึ่งจะเข้าปฏิสนธิกับเซลล์ไข่ 14 1 ในการปฏิสนธิของพืช ไซโกตจะมีจ านวนชุดโครโมโซมเป็น 2n เนื่องจากเกิดจากการรวมตัวของ sperm (n) และเซลล์ไข่ (egg: n) ส่วน endosperm nucleus จะเกิดจากการรวมตัวของ sperm (n) และ polar nuclei (n + n) ดังนั้นจีโนไทป์ของ zygote และ endosperm จึงเป็นแบบ AD และ BBD ตามล าดับ 15 1 ข้อ 1. ผิด เพราะจ านวนเรณูของ biotic pollination มีจ านวนน้อยกว่า abiotic pollination เนื่องจาก การถ่ายเรณูแบบ biotic pollination จะมีทิศทางและโอกาสในการถ่ายเรณูได้มากกว่าแบบ abiotic pollination จึงสามารถผลิตเรณูออกมาในจ านวนที่น้อยกว่าได้
Biology: The Problems Book (Answer Keys) 3 ข้อ ค ำตอบ เหตุผลและค ำอธิบำยประกอบ 16 2 ความสัมพันธ์ของ pollinator และดอกมีความส าคัญในแง่ของการประสบความส าเร็จในการหาอาหาร ของแมลงและการถ่ายเรณูของพืชดอก ดังนั้นถ้าแมลงมีลักษณะของปากที่ยาวจึงต้องสอดคล้องกับ ดอกที่มีลักษณะเป็นท่อยาวเช่นเดียวกัน ทั้งนี้เพราะทั้งแมลงและดอกไม้มีการวิวัฒนาการร่วมเกิดขึ้น 17 3 ดอกเดี่ยวแต่มีรังไข่จ านวนมาก (apocarpous pistil) เมื่อมีการติดผลจะท าให้เกิดได้เป็นผลกลุ่มเท่านั้น 18 4 เนื้อมะพร้าวและน้ ามะพร้าวจัดเป็นส่วนของ endosperm ซึ่งมีจ านวนชุดโครโมโซมเป็น 3n 19 5 โครงสร้างที่มีลักษณะทางพันธุกรรมเหมือนต้นแม่ทุกประการ คือ โครงสร้างที่ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของ เอ็มบริโอในเมล็ดที่ได้มาจากการปฏิสนธิ ในกรณีนี้คือเปลือกหุ้มเมล็ด (โครงสร้าง H) เพราะเป็นส่วนที่ เจริญมาจาก integument ที่ห่อหุ้ม megasporangium ของออวุลในต้นแม่ 20 5 ทุกข้อกล่าวถูกต้อง