The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ประวัติกีฬายิมนาสติก1

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by pakgard.lalaha, 2021-09-30 23:00:54

ประวัติกีฬายิมนาสติก1

ประวัติกีฬายิมนาสติก1

ประวตั ิกฬี ายมิ นาสติก

สำหรับกีฬำยมิ นำสติกน้นั ไดม้ ีกำรเร่ิมเล่นเม่ือใด ไม่ไดม้ ีหลกั ฐำนระบุชดั เจน แต่มีขอ้
สนั นิษฐำนวำ่ ชำวกรีกโบรำณน้นั เป็นประเทศแรกที่สนใจ และไดม้ ีบทบำทสำคญั ต่อกีฬำ
ยมิ นำสติก ซ่ึงจะเห็นไดจ้ ำกคำวำ่ ยมิ นำสติก กเ็ ป็นภำษำกรีกโบรำณ หมำยถึงศิลปะแห่ง
กำรเปลือยเปล่ำ ท้งั น้ีเพรำะวำ่ ในสมยั กรีกน้นั กำรออกกำลงั กำยทุกประเภท เช่น กำรวิง่
กำรเล่นผำดโผน ไต่เชือก กำยบริหำร ศิลปะกำรต่อสู้ เป็นตน้ จะไม่สวมเคร่ืองแต่งกำยมี
กำรประกวดทรวดทรง แข่งขนั กีฬำกลำงแจง้ ผทู้ ่ีชนะกถ็ ูกสร้ำงรูปป้ันแสดงไวบ้ ริเวณ
สนำมกีฬำ ท่ีเรียกวำ่ ยมิ เนเซียม ( Gymnasium )

และเรียกกิจกรรมทุกประเภทท่ีออกกำลงั กำยวำ่ ยมิ นำสติก เพรำะฉะน้นั ยมิ นำสติกใน
สมยั กรีก จึงเปรียบเสมือนกบั กำรพลศึกษำในปัจจุบนั กิจกรรมยมิ นำสติกในประเทศกรีก
น้ี ไดเ้ ริ่มตน้ และพฒั นำไปพร้อมกบั วทิ ยำกำรดำ้ นศิลปะดนตรี โดยมีวตั ถุประสงค์ เพ่ือ
พฒั นำเยำวชนใหม้ ีสุขภำพร่ำงกำยท่ีแขง็ แรง สมบูรณ์ ต่อมำเม่ือกีฬำแต่ละประเภทมี
ววิ ฒั นำกำรมีกฎ ระเบียบ กติกำ ของตนเองข้ึน จึงแยกตวั ออกไป คงเหลือกิจกรรม
ยมิ นำสติกที่เห็นกนั ในปัจจุบนั

ต่อมำเม่ือชำวโรมนั ไดร้ ุกรำนประเทศกรีก จึงไดน้ ำยมิ นำสติกมำฝึกใหก้ บั ทหำร
เพ่ือสร้ำงควำมแขง็ แกร่งใหแ้ ก่กองทพั แต่เม่ืออำณำจกั รโรมนั ไดเ้ ส่ือมอำนำจลง กิจกรรม
ยมิ นำสติกกไ็ ดร้ ับควำมสนใจและควำมนิยมนอ้ ยลงตำมไปดว้ ย จนกระทงั่ ถึงยคุ กลำง (
Middle Age ) ระหวำ่ งศตวรรษที่ 14-16 ( พ.ศ. 1943-พ.ศ. 2143 ) กิจกรรมยมิ นำสติกของ
กรีกกไ็ ดร้ ับกำรฟ้ื นฟู ประชำชนมีควำมสนใจมำกข้ึนเป็นลำดบั จึงทำใหก้ ิจกรรม
ยมิ นำสติกแพร่หลำยไปในทวปี ยโุ รป

โดยในปี พ.ศ. 2266-2333 นำยโจฮนั เบสโดว์ (Johann Basedow) แห่งเยอรมนั นี
นกั กำรศึกษำท่ีสำคญั ไดบ้ รรจุกำรออกกำลงั กำยแบบยมิ นำสติกเขำ้ ไวใ้ นหลกั สูตรของ
โรงเรียน เม่ือปี พ.ศ. 2319

จำกน้นั ในปี พ.ศ. 2302-2382 นกั กำรศึกษำอีกผหู้ น่ึงคือ นำยโจฮนั กตั ส์ มธั ส์ (Johann
Guts Muths) ซ่ึงเป็นท่ีรู้จกั กนั ในนำม "คุณป่ ูแห่งกีฬำยมิ นำสติก" ไดบ้ รรจุวชิ ำยมิ นำสติก
เขำ้ ไวใ้ นหลกั สูตรของโรงเรียนปรัชเซีย และท่ำนผนู้ ้ียงั ไดเ้ ขียนตำรำท่ีมีคุณคำ่ ต่อ
กำรศึกษำไวห้ ลำยเล่ม รวมท้งั ตำรำยมิ นำสติกสำหรับเยำวชนดว้ ย นบั วำ่ เป็นตำรำ
ยมิ นำสติกเล่มแรกของโลก

ในปี พ.ศ. 2321-2395 นำยเฟรดริค จำน (Frederick Jahn) ชำวเยอรมนั ไดค้ ิดประดิษฐ์
อุปกรณ์เก่ียวกบั ยมิ นำสติกไวม้ ำกมำย เช่น รำวเด่ียว รำวคู่ มำ้ หู หีบกระโดด มำ้ ยำวชนิด
ส้นั (Buck) และในปี พ.ศ. 2345ไดส้ ร้ำงสถำนที่ฝึกยมิ นำสติกโดยเฉพำะเรียกวำ่ เทอนเวอ
เรียน (Tarnverein) โดยไดร้ ับกำรสนบั สนุนจำกรัฐบำล ทำใหก้ ีฬำยมิ นำสติกแพร่หลำย
อยำ่ งรวดเร็ว เขำจึงไดส้ มญำวำ่ บิดำแห่งกีฬำยมิ นำสติก

ต่อจำกน้นั ในปี พ.ศ. 2353-2401 นกั ศึกษำที่มีควำมสำคญั ต่อวงกำรพลศึกษำอีกทำ่ น
หน่ึงคือ นำยอดอฟ สปี ช (Adole Spiess) ชำวสวสิ เป็นผเู้ สนอใหบ้ รรจุวิชำยมิ นำสติกเขำ้
ไวใ้ นหลกั สูตรของโรงเรียนในประเทศสวติ เซอร์แลนด์

และในปี พ.ศ. 2383-พ.ศ.2467 นำยดดั เลย์ เอ ซำเกนท์ (Dudley A Sargent) ชำวอเมริกำ
เป็นครูสอนยมิ นำสติกที่วิทยำลยั โบวดอย (Bowdoin lleqen) ซ่ึงเขำไดบ้ รรจุยมิ นำสติกไว้
ในหลกั สูตรระดบั วทิ ยำลยั อยำ่ งเป็นทำงกำร
นอกจำกน้นั ยงั มีสมำคมท่ีใหก้ ำรสนบั สนุนและส่งเสริมกีฬำยมิ นำสติก คือ สมำคม
Y.M.C.A. (The Young Men’s Christian Association) ไดท้ ำกำรติดต้งั อุปกรณ์ยมิ นำสติก
ไวใ้ นโรงยมิ เนเซียม และมีครูสอนเพ่ือบริกำรแก่สมำชิกที่เขำ้ มำเล่น จึงทำใหย้ มิ นำสติก
ไดร้ ับควำมนิยมและแพร่หลำยอยำ่ งรวดเร็ว ส่วนประเทศในแถบเอเชียท่ีมีกำรฝึกอยำ่ ง
จริงจงั คือ จีน รัสเซีย และญี่ป่ ุน

ใน พ.ศ. 2430 มีกำรก่อต้งั สหพนั ธ์ยมิ นำสติกสำกลข้ึนท่ีเมืองลีซ ประเทศสวิสเซอร์แลนด์
ใน พ.ศ. 2439 มีกำรแขง่ ขนั ยมิ นำสติกชำยข้ึนเป็นคร้ังแรก
ใน พ.ศ. 2471 กำรแขง่ ขนั เพ่ิมประเภทหญิง
ใน พ.ศ. 2477 เร่ิมบรรจุมำ้ กระโดดและรำวต่ำงระดบั เขำ้ ไวใ้ นกำรแขง่ ขนั ยมิ นำสติก
ใน พ.ศ. 2479 ไดก้ ำหนดใหช้ ำยแขง่ ขนั ท่ำชุดของแต่ละอุปกรณ์ 12 ท่ำหญิง 8 ท่ำ โดยทีม
หน่ึงมีนกั กีฬำ 8 คน
ใน พ.ศ. 2495 กำหนดอุปกรณ์แข่งขนั ของชำย มี 6 อุปกรณ์ หญิงมี 4 อุปกรณ์ ยมิ นำสติก
น้ีเรียกวำ่ ยมิ นำสติกสำกล (Artistic Gymnastics)
ใน พ.ศ. 2513 มียมิ นำสติกลีลำใหม่ประกอบดนตรี (Modern Rhythmic Gymnastics) เกิดข้ึน

ใน พ.ศ. 2515 ประเทศไทยไดเ้ ป็นสมำชิกสหพนั ธ์ยมิ นำสติกสำกล

ประวตั คิ วามเป็ นมาของกฬี ายมิ นาสตกิ ในประเทศไทย
สำหรับจุดเร่ิมตน้ กำรเล่นยมิ นำสติกในประเทศไทยน้นั ไม่มีหลกั ฐำนที่แน่ชดั แต่

สนั นิษฐำนวำ่ ไดม้ ีกำรเร่ิมเล่นในสมยั รัชกำลท่ี 5 เพรำะในสมยั น้นั ไดส้ ่งคนไปศึกษำ
ต่ำงประเทศ เม่ือกลบั มำจึงไดน้ ำเอำวชิ ำยมิ นำสติกมำเผยแพร่ โดยเริ่มสอนท่ีโรงเรียนนำย
ร้อยพระจุลจอมเกลำ้ ต่อมำกระทรวงศึกษำธิกำรเห็นวำ่ วชิ ำยมิ นำสติกมีประโยชน์ในกำร
พฒั นำร่ำงกำยและจิตใจ จึงใหอ้ ำจำรยร์ ้อยเอกขนุ เจนกระบวนหดั ซ่ึงศึกษำวชิ ำน้ีมำจำก
ต่ำงประเทศเปิ ดสอนยมิ นำสติกที่โรงเรียนสวนกหุ ลำบวทิ ยำลยั จดั เป็นวิชำหน่ึงในกำร
สอน และจดั เขำ้ ไวใ้ นหลกั สูตรโรงเรียนระดบั มธั ยมศึกษำ และโรงเรียนฝึกหดั ครู
พลำนำมยั

พ.ศ.2511 ยมิ นำสติกในประเทศไทยไดร้ ับกำรพฒั นำข้ึน เม่ือมี กำรก่อต้งั สมำคม
ยมิ นำสติกแห่งประเทศไทย เม่ือวนั ท่ี 26 มกรำคม พ.ศ. 2511 คณะกรรมกำรโอลิมปิ กไทย
และสหพนั ธย์ มิ นำสติกสำกลรับรอง เมื่อปี พ.ศ. 2515 ประเทศไทยจึงไดร้ ับควำมร่วมมือ
จำกต่ำงประเทศ เช่น ประเทศญ่ีป่ ุน เดนมำร์ค ส่งนกั ยมิ นำสติกมำสำธิตกำรเล่นกีฬำชนิด
หน่ึง

พ.ศ.2515 มีกำรสอนในวทิ ยำลยั พลศึกษำ มหำวิทยำลยั ศรีนครินทรวิโรฒอยำ่ ง
จริงจงั และเริ่มมีกำรแสดงโชวต์ ำมสถำนท่ีต่ำง ๆ และประเทศไทยไดเ้ ขำ้ เป็นสมำชิก
สหพนั ธย์ มิ นำสติกสำกล (F.I.G) อยำ่ งเป็นทำงกำร เมื่อวนั ที่ 23 สิงหำคม ในปี
เดียวกนั

พ.ศ.2520 ไดม้ ีกำรอบรมเก่ียวกบั กติกำและกำรจดั กำรแข่งขนั แก่ครูอำจำรยแ์ ละ
ผสู้ นใจเพื่อใหม้ ีควำมรู้ควำมเขำ้ ใจในกีฬำยมิ นำสติกมำกยง่ิ ข้ึน และในปี น้ีไดจ้ ดั ใหก้ ีฬำ
ยมิ นำสติกเป็นกีฬำหน่ึงในกำรแขง่ ขนั กีฬำวทิ ยำลยั ศึกษำ

พ.ศ. 2521 ประเทศไทยเป็นเจำ้ ภำพจดั แขง่ ขนั กีฬำเอเซียนเกมส์ คร้ังท่ี 8 ยมิ นำสติก
เป็นกีฬำประเภทหน่ึง ซ่ึงจดั ใหม้ ีกำรแขง่ ขนั ข้ึนเป็นคร้ังแรก ซ่ึงกไ็ ดร้ ับควำมสนใจเขำ้
ชมรมจำกประชำชนและเยำวชนมำกพอสมควร และในปี น้ีเองกระทรวงศึกษำธิกำรไดจ้ ดั
ใหว้ ชิ ำยดื หยนุ่ ซ่ึงเป็นพ้ืนฐำนของกีฬำยมิ นำสติก เป็นวชิ ำบงั คบั ในหลกั สูตรของโรงเรียน
ระดบั มธั ยมศึกษำตอนตน้

พ.ศ. 2525 และ พ.ศ. 2529 ประเทศไทยไดส้ ่งนกั กีฬำยมิ นำสติกเขำ้ ร่วมแข่งขนั ใน
กีฬำเอเชียนเกมส์ ถึงแมจ้ ะไม่ไดเ้ หรียญรำงวลั แต่กเ็ ป็นกำรสร้ำงประสบกำรณ์ใหแ้ ก่
นกั กีฬำมำกข้ึนแต่ถำ้ เป็นกำรแขง่ ขนั ในกีฬำซีเกมส์ ซ่ึงเป็นกำรแขง่ ขนั ในภูมิภำคอำเซียน
ประเทศไทยประสบควำมสำเร็จในกีฬำยมิ นำสติกมำก โดยเฉพำะในประเภทชำย

พ.ศ. 2537 กำรแขง่ ขนั กีฬำเอเชียนเกมส์ คร้ังท่ี 12 ณ เมืองฮิโรชิมำ ประเทศญ่ีป่ ุน
นกั กีฬำยมิ นำสติกของจีนครองควำมยงิ่ ใหญ่ท้งั ประเภทชำย และประเภทหญิงสำหรับ

นกั กีฬำของไทยที่เขำ้ ร่วมแขง่ ขนั กป็ ระสบควำมสำเร็จใจกำรแขง่ ขนั อุปกรณ์ห่วง
พอสมควร คือ นำยอมรเทพ แววแสง

พ.ศ. 2538 กำรแขง่ ขนั กีฬำซีเกมส์ คร้ังที่ 18 ณ จงั หวดั เชียงใหม่ ประเทศไทย
นกั กีฬำยมิ นำสติกของไทย ครองควำมยง่ิ ใหญ่ท้งั ประเภทชำย และประเภทหญิงโดยได้
เหรียญทองท้งั ประเภททีม และประเภทเดี่ยวรวมทุกอุปกรณ์ และในแต่ละอุปกรณ์กไ็ ด้
เหรียญทองเกือบทุกประเภท

ปัจจุบนั กีฬำยมิ นำสติกในประเทศไทยไดร้ ับกำรส่งเสริมและมีกำรพฒั นำอยำ่ งตอ่ เนื่อง
โดยเฉพำะอยำ่ งยงิ่ จะเห็นไดจ้ ำกกำรที่นกั กีฬำไทยมีอนั ดบั ควำมสำมำรถอยใู่ นอนั ดบั ตน้
ๆ ของภูมิภำคและภำยในทวปี




Click to View FlipBook Version