The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ในปัจจุบันสินค้าและบริการนั้นไม่มีความแตกต่างกันอ ทำให้การเลือกสินค้าและบริการของผู้บริโภคขึ้นอยู่กับปัจจัยเพียงไม่กี่ปัจจัย ซึ่งหนึ่งในปัจจัยนั้น คือ เรื่องการเป็นที่รู้จักและการเป็นที่รู้จักก็เป็นผลมาจากการมีแบรนด์ ทำให้การสร้างแบรนด์หรือมีตัวตนของแบรนด์นั้นมีความจำเป็นอย่างมากสำหรับนักการตลาด ไม่ว่าธุรกิจจะมีขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่ การมีแบรนด์ นั้นสำคัญมากและส่งผลอย่างมากต่อจิตใจของผู้บริโภค

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

หน่วยที่ 1 ความสำคัญของแบรนด์

ในปัจจุบันสินค้าและบริการนั้นไม่มีความแตกต่างกันอ ทำให้การเลือกสินค้าและบริการของผู้บริโภคขึ้นอยู่กับปัจจัยเพียงไม่กี่ปัจจัย ซึ่งหนึ่งในปัจจัยนั้น คือ เรื่องการเป็นที่รู้จักและการเป็นที่รู้จักก็เป็นผลมาจากการมีแบรนด์ ทำให้การสร้างแบรนด์หรือมีตัวตนของแบรนด์นั้นมีความจำเป็นอย่างมากสำหรับนักการตลาด ไม่ว่าธุรกิจจะมีขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่ การมีแบรนด์ นั้นสำคัญมากและส่งผลอย่างมากต่อจิตใจของผู้บริโภค

ร หัส วิ ช า 3 0 2 0 4 - 2 0 0 6

การสร้างแบรนด์
ธุรกิจดิจิทัล

Digital Business Branding

หน่วย ที่ 1

ความสำคัญของแบรนด์

ความนำ

ในปัจจุบันสินค้าและบริการนั้นไม่มีความแตกต่างกันอ
ทำให้การเลือกสินค้าและบริการของผู้บริโภคขึ้นอยู่กับ
ปัจจัยเพียงไม่กี่ปัจจัย ซึ่งหนึ่งในปัจจัยนั้น คือ เรื่องการ
เป็นที่รู้จักและการเป็นที่รู้จักก็เป็นผลมาจากการมีแบรนด์
ทำให้การสร้างแบรนด์หรือมีตัวตนของแบรนด์นั้นมีความ
จำเป็นอย่างมากสำหรับนักการตลาด ไม่ว่าธุรกิจจะมี
ขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่ การมีแบรนด์ นั้นสำคัญมาก

และส่งผลอย่างมากต่อจิตใจของผู้บริโภค

1.ความหมายของแบรนด์

แบรนด์(Brand)คือมุมมองของลูกค้าที่มีต่อธุรทิจซึ่งประกอบ

ด้วย ชื่อ คำพท์ การออกแบบ หรือสัญลักษณ์และ
ประสบการณ์ของลูกคำาตลอดทุกช่องทางที่ทำให้ลูกค้า
สามารถแยกแยะธุรถืจออกจากคู่แข่งขันได้แบรนที่ดีต้องมี
ความสอดคล้องระหว่างการช่องทางในการสื่อสารแบรนด์มีไม่
จำกัด เช่น สิ่งที่ถูกค้าเห็นที่หน้าร้านในสถานที่ทำงานบนบรรจุ
ภัณฑ์บนเว็บไซด์ใบทความและสิ่งพิมพ์ต่างๆหรือจากตนที่ลูก
ตัาติดต่อด้วย ตั้งแต่ฝ่ายการตลาดฝ้ายขายและฝ่ายบริการ

ลูกค้า Jaff Bezos เจ้าของบริษัท Amezon ซึ่งเป็นบริษัทที่
มีชนาดใหญ่และมีชื่อเสียงระดับโลกกล่าวไว้ว่า "แบรนด์ คือ

สิ่งที่ลูกค้าพูดถึงคุณ ในเวลาที่คุณไม่อยู่ต่อหน้า
สรุป แบรนด์ คือ ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ

2.ความสำคัญของแบรนด์

แบรนด์มีความสำคัญต่อการทำธุรกิจ ดังนี้

2.1 แบรนด์ช่วยในการเพิ่มความจดจำ

การจดจำนั้นเป็นสิ่งสำคัญอย่างมากสำหรับการทำการตลาดใน
ปัจจุบัน เพราะการจดจำจะช่วยทำให้
ผู้บริโภคนั้นสามารถตัดสินใจเลือกซื้อสินตัาและบริการได้ หาก
สินค้าและบริการไม่มีแบรนด์ หมายความว่า สินค้า
และบริการนั้นไม่มีตัวตนหรือไม่ได้เป็นที่รู้จักในมุมมองของผู้
บริโภค และถ้าไม่ทำแบรนด์ไว้ก็อาจจะทำให้มีลูกค้า
แต่ไม่สามารถทำให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำได้ เพราะจดจำไม่ใด้แล้ว
ดังนั้น การสร้างแบรนด์จึงมีความสำคัญอย่างมาก
โดยเฉพาะถ้าเป็นแบรนด์ขนาดเล็กที่ต้องแข่งขันกับธุรกิจ
ขนาดใหญ่ การมีแบรนด์จะสร้างความสัมพันธ์กับ
กลุ่มเป้าหมายได้ทันที ทั้งนี้ การทำแบรนด์ต้องทำให้การ
สื่อสารนั้นเป็นไปในทิศทางเดียวกันในทุกช่องทางและ
มีการแสดงถึงจุดเด่นของแบรนด์

2.2 แบรนด์ช่วยในเรื่องการออกแบบ

แบรนด์นั้นเหมือนกับการสร้างอัตลักษณ์และนิสัยของแบรนด์
ขึ้นมาและเมื่อต้องในการโปรโมตแบรนด์ ไม่ว่าจะทำเว็บไซค์
หรือทำนามบัตรแนะนำธุรกิจ การมีแบรนด์จะช่วยสร้างอัต
ลักษณ์ของตัวตนหรือบริษัทได้ ซึ่งช่วยทำให้ผู้ที่ออกแบบ
วัตถุดิบต่างๆ นั้นสามารถทำงานได้ง่ายมากขึ้น เพราะสามารถ
ออกแบบสิ่งต่าง ๆ ให้เป็นไปในทิศทางและมุมมองเดียวกัน
อีกทั้งทำให้ผู้ที่มาทำงานในอนาคตสามารถเข้าใจในตัวดนบริ
ษัทและออกแบบตามแบรนด์ที่มีต่อมาได้ไม่ยาก สิ่งที่สำคัญ
ที่สุด คือ ประหยัดเวลาในการออกแบบและช่วยประหยัดงบ
ประมาณในการทำงานได้เป็นอย่างมาก

2.3 แบรนด์ช่วยสร้างมูลค่าของธุรกิจ

มูลต่ำของธุรกิจไม่ได้ขึ้นอยู่กับทรัพย์สินหรือรายได้ของธุรกิจที่
มีเท่านั้น แตชื่อของธุรกิจก็สามารถนำมาสร้างมูลค่าต่างๆ ได้
เช่นกัน ยิ่งแบรนด์นั้นมีชื่อเสียงมากเพียงใด หรือเป็นที่
ต้องการของตลาดมากขึ้น ก็สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มได้อย่าง

มากมาย ตัวอย่างเช่น C.ca-Coa มีมูลค่าแบรนด์อยู่ที่ 73.1

พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
หรือสินค้าแบรนด์เนมที่มีมูลค่าชื่อเสียงของแบรนด์สูง เพียง
แค่นำโลโก้หรือชื่อแบรนด์ไปติดไว้กับสินค้าใดก็สามารถขายได้

ทันทีเช่น แบรนด์ Supreme ที่ปรากฎอยู่บนสินค้าต่าง ๆ การ

ที่มีแบรนด์อยู่เช่นนี้ จะเป็นการสะสมมูลค่าของแบรนด์ขึ้นไปอีก
ซึ่งมีความสำคัญอย่างมาก โดยเฉพาะถ้าสามารถสร้างกลุ่ม

ผู้ใช้สินค้าและบริการที่มั่นคงขึ้นมาได้ ย่อมทำให้แบรนด์
มีคุณค่าเพิ่มมากขึ้น

2.4 แบรนด์ช่วยทำให้การตลาดง่ายขึ้น

การมีแบรนด์จะช่วยให้การทำการตลาดนั้นง่ายมากยิ่งขึ้น
เพราะจะช่วยลดขั้นตอนการอธิบายตัวตนของสินค้าและ
บริการต่างๆว่ามีความแตกต่างจากคู่แข่งขันอย่างไร หรือ
ทำไมกลุ่มเป้าหมายจึงใช้สินค้าและบริการทำให้ประหยัดเวลาใน
ส่วนนี้มาสร้างการขายหรือสร้างมูลค่ที่ถูกใจของผู้บริโภคได้
โดยไม่จำเป็นต้องอธิบายมากทำให้การตลาดนั้นสามารถ
กำหนดเป้าหมายได้ทันทีว่า ต้องทำงานไรและอย่างไร เพื่อที่จะ
เพิ่มศักยภาพทางการตลาดมากขึ้น

2.5 ทำให้คนทำงานในทิศทางเดียวกัน

การมีแบรนด์จะทำให้ทุกคนในองค์กรมีความเข้าใจเป็นอันหนึ่งอัน
เดียวกันว่า องค์กรนั้นมีตัวตนและพฤติกรรมอย่างไร ทำให้การ
ทำงานหรือการสื่อสารออกไปยังตลาดมีความเป็นอันหนึ่งอัน
เดียวกันมีความสอดคล้องกัน ส่งผลให้การสื่อสารมีพลังออกไปได้
ซึ่งถ้าหากไม่มีแบรนด์มากำหนดในการทำงานของคนในองค์กร
แล้ว ทุกคนจะต่างคนต่างเข้าใจในตัวตนของบริษัทและทำให้เกิด
การทำงานที่ไม่มีทิศทางหรือไม่มีหลักการให้ยึดว่าจะทำงานอย่างไร

3.ประโยชน์ของการสร้างแบรนด์

การที่ธุรกิจหลายแห่งมีความพยายามจะสร้างแบนของคนเอง
กัเพราธุรกิจต่าง ๆ เหล่าความสำคัญของแบรนด้ เพราะแบ
รนต์มีประโยชน์หลายประการ ดังนี้

3.1 แบรนด์ช่ายสร้งความแตกต่าง

การสร้างความแตกต่างให้กับสินค้าและบริการไนยุคที่มสินค้า
หรือบริการมากมายวางขายอยู่ในตลาด ย่อมสร้างความโดด
เด่นให้ กับธุรกิจที่กำลังทำอยู่ได้อย่างแน่นอน ซึ่งการสร้างแบ

รนก็เป็นหนึ่งในธีการสร้างความแตกต่างให้กับสินค้าและ
บริการ การสร้างแบรนด์หรือสื่อสารตัวตนของสินค้าแลบริกา
รออกไปสู่ผู้บริโภด ทำให้แบรนด์มีจุดยืน มีสิ่งที่นำจดจำ จน
สามารถกลายเป็นหนึ่งแบรนด์ที่โดดเต่นจากสินค้าอื่น ๆ ให้

ลูกค้าได้เลือกซื้อและเลือกไช้บริการ

3.2 แบรนด์ช่วยดึงจุดเด่น

เมื่อคิดจะสร้างแบรนด์ สิ่งที่ด้องทำเป็นอันดับแรก คือ การสร้าง
ความโดดเด่นข้อเสียต่าง ๆ ของผลิตภัณฑ์ออกมา เพื่อนำมารรูปว่า

จะวางตำแหน่ง (Position) ของแบรนด์อย่าที่เป็นจุตขายที่ประทับ

ใจลูกค้า สิ่งใดที่ต้องปรับปรุง การลงมือทำแบรนสินค้าและบริการ
จะทำให้ใด้พิจารณาจำแนกและดังดวามโตดเด่นที่สินค้าและบริการมี
แล้วนำสิ่งเหล่านั้นออกมาใช้สื่อสารออกไปยังผู้บริโภค

3.3 แบรนต์ทำให้ขายง่าย

ลืนค้าและบริการส่วนใหญ่ที่ผู้บริโภคสามารถจตจำได้ เป็นแบรนด์ที่
ปรากฏเข้ามาในความคิด เมื่อจำเป็นต้องซื้อ หรืออยากซื้อสินตัวและ
บริการประเภทนั้น ๆ อยู่ ย่อมเป็นแบรนด์ที่ผู้บริโภคเล็งซื้อก่อนเป็น
อันดับตัน ๆ ทำให้เพิ่มยอดขายสินค้าได้อีกด้วย

3.4 แบรนด์ช่วยเพิ่มคุณค่าให้สินค้าและบริการ

สินค้าที่มีเบรนต์ ที่ดี สามารถเข้าไปอยู่ในใจผู้บริโภคใด้เป็น
จำนวนมาก ภาพจำที่ผู้บริโภคจดจำทั้งภาพลักษณ์ของแบ
รนค์ คุณสมบัติของสินค้าและบริการที่เป็นองค์ประกอของ
แบรนด์ที่ดี ช่วยเพิ่มคุณดาและตวามรู้สึกที่ดีต่อสินค้าและ
บริการได้

3.5 การทำแบรนต์สามารถตั้งราคาสูงกว่าสินค้าที่ไม่มีแบรนด์ใด้

จะเห็นได้ว่าผลิตภัณฑ์หรือบริการต่างๆที่มีการสร้างแบรนด์จนเป็นที่
จดจำและเป็นที่ยอมรับในหมู่ผู้บริโภค สามารถพิจารณาการตั้งราคา
ขายที่สูงกว่าสินด้าทั่วๆไป ที่ไม่มีความโดดเด่นได้ ถึงแม้การตั้งราคา
จะสูง แต่ยังสามารถสร้างยอดขายได้เนื่องจากคุรค่าของแบรนด์

4.หลักของการสร้างแบรนด์

การสร้างแบรนค์มีหลักการ ดังนี้

4.1 สร้างตัวตนให้ชัดเจน

หากผู้ประกอบการยังคิดไม่ออกว่าควรจะสร้างแบรนดีอย่างไร ให้
นึกว่าถ้าสินค้านั้นมีความต้องการจะให้สินค้านั้น ๆ เป็นใดร แล้ว

วางคาแรกเตอร์(Character) ให้ชัดเจน จะสามารถ

ช่วยสร้างความแตกต่างให้กับแบรนด์ได้

4.2กำหนดทิศทางของแบรนด์

การกำหนดทิศทางให้ชัดเจนว่าแบรนด์จะทำสิ่งใดจะขยายไปตลาด
ใดเพราะเมื่อมีการออกสินค้าใหม่ ๆ มา จะทำให้คนกล้าที่จะหยิบ
สินค้าจากแบรนด์ที่คุ้นเคย นอกจากนี้การดำเนินการภายใต้

Brandingที่กำหนดไว้อย่างชัดเจนแล้วนั้นจะทำให้การสื่อสารกับ

ลูกค้ามีประสิทธิภาพและไม่หลงทิศทางอีกด้วย

4.3ใช้สื่อทั้งออนไลน์และออฟไลน์

การใช้สื่อออนไลน์เป็นสิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้ในยุคนี้เพราะทำให้เห็นถึง
กลุ่มลูกค้าที่เป็นตัวจริงได้จากช่องทางต่าง ๆ ในขณะที่สื่อออฟ
ไลน์หรือสื่อแบบดั้งเดิมนั้น ถือเป็นการสร้างฐานของกลุ่มเป้า

หมายให้มีจำนวนมากขึ้น ดังนั้น การใช้สื่อผสมกันทั้ง 2 ส่วน

5.คำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับการสร้างแบรนด์

คำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับการสร้างแบรนด์ มีดังนี้

สัญลักษณ์ เป็นคำศัพท์ที่บัญญัติขึ้นเพื่อใช้แทนตำว่า Symbo

ในกาษาอังกฤษ หมายถึง สิ่งที่กำหนดให้ใช้เพื่อใหมายความถึง
อีกสิ่งหนึ่ง สิ่งที่กำหนดนั้นอาจเป็นตัวอักษร รูปภาพ

เครื่องหมาย สิ่งของ ดอกไม้ สี เสียง หรือหนึ่งสิ่งใดก็ได้ ส่วน
สิ่งที่สัญลักษณ์แทนนั้นอาจเป็นบุคคลหรือสิ่งที่เป็นรูปธรรม
เช่น พระราชวงศ์พรทการมือง วัด บริษัท องค์กร สถาบันการ
ศึกษา หรือเป็นนามธรรม เช่น ความจงรักภักดี ความรัก ดวาม
ทุกข์ชัยชก็ได้ รงชาติเป็นสัญลักษณ์แสดงความเป็นชาติ พระ
ธรมจักรเป็นสัญลักษณ์แทนพระปฐมเทศนาของพระพุทธเจ้า
และเป็นสัญลักษณ์แทนพระพุทธศาสนาด้วย สีเหลืองเป็นสี
สัญลักษณ์แทนพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องจากทรงพระ
ราชสมภพวันจันทร์ และสีเหลืองเป็นสัญลักษณ์ แทนวันจันทร์
นกพิราบขาวเป็นสัญลักษณ์ของสันติภาพ ดอกกุหลาบสีแดง
เป็นสัญลักษณ์ของความรัก กากบาทสีแดงเป็น สัญลักษณ์ของ
สภากาซาดไทย ธงหรือผ้าสีขาวเป็นสัญลักษณ์ของ การยอมแพ้
เครื่องหมายชูนิ้วโป้ง นิ้วซี้กับนิ้วก้อยขึ้น งอนิ้วกลาง กับนิ้วนาง
ลงเป็นสัญลักษณ์ว่าฉันรักเธอ เป็นต้น นอกจากนี้ เครื่องหมาย
ประจำกระทรวง ทบวง กรม เครื่องหมายของกองทัพ ซึ่งทำ
ประดับหน้าหมวกหรือประดับธงประจำองค์กร ล้วนเป็นรูป ที่มี
ความหมายแทนองค์กรนั้น ๆ ทั้งสิ้น เครื่องหมายเหล่านั้นจึง

จัดเป็นสัญลักษณ์ด้วย

โลโก้ เป็นคำยืมจากภาษาอังกฤษว่า L0g0 แปลว่า

เครื่องหมายหรือสัญลักษณ์ทางการค้าที่บริษัทหรือองค์กรหนึ่ง
ทำขึ้นเพื่อใช้ในการประชาสัมพันธ์ ด้วยการพิมพ์ไว้บนสินค้าหรือ

เอกสารของบริษัท ในภาษาไทย บางคนใช้คำว่า โลโก้
ตามความหมายในภาษาอังกฤษ แต่บางคนใช้คำว่า โลโก้
แทนสัญลักษณ์ของหน่วยงาน เพื่อการประชาสัมพันธ์งานหรือ
กิจกรรมที่จัดขึ้น เช่น โลโก้การแข่งขันกีฬา โลโก้จัดกิจกรรม

เพื่อสิ่งแวดล้อม โลโก้งานประกวดกล้วยไม้
ตรา แปลว่า เครื่องหมายที่ทำขึ้นเพื่อใช้แทนองค์กร
หน่วยงานของพระเจ้าแผ่นดินและของรัฐบาล เช่น ตราครุฑ
ตราพระราชลัญจกร เครื่องหมายเหล่านี้ใช้ประทับบนเอกสาร
จดหมายหรือสิ่งของต่าง ๆ เพื่อแสดงว่าเป็นของราชการ หรือ
เป็นของพระมหากษัตริย์พระองค์ใด เช่น กฎหมายที่ประทับ
ตราพระคชสีห์ พระราชสีห์ และตราบัวแก้ว เรียกชื่อว่า กฎหมาย

ตราสามดวง เป็นกฎหมายที่รวบรวมขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 1

ในสมัยต่อมา ตรา ใช้เป็นเครื่องหมายการค้าที่แสดงว่า สินค้า
ชิ้นนั้นเป็นของบริษัทใด ตราสินค้ามีไว้เพื่อให้รู้จักและจดจำสินค้า

แบรนด์ เป็นคำยืมจากภาษาอังกฤษว่า Brand แปลว่า

ตราหรือเครื่องหมายที่แสดงความเป็นเจ้าของ เช่น
เครื่องหมายที่ใช้เหล็กร้อน ๆ ประทับบนตัววัวควาย

เป็นตราแสดงว่าผู้ใดเป็นเจ้าของวัวควายนั้น Brand

ใช้กับสินค้าถึง เครื่องหมายการค้าที่บอกว่าสินค้านั้น
ๆเป็นของบริษัทใด สินค้าชนิดหนึ่ง ๆ อาจมีผู้ผลิต

หลายเจ้า

ยี่ห้อ เป็นคำยืมจากภาษาจีน แปลว่า เครื่องหมายการค้า

เป็นเครื่องหมายที่ใช้แทนบริษัท หรือใช้กำกับสินค้า เพื่อให้

ทราบว่าเป็นสินค้าของบริษัทใด เช่น รถยี่ห้อนี้มีสีชมพูกลีบบัว

สินค้านี้ไม่มียี่ห้อเลยไม่รู้ว่าเป็นของดีหรือไม่ดี ดำว่า ยี่ห้อ

ใช้กับสินค้าประเภทเครื่องจักรยนต์ เช่น รถยนต์ เครื่องจักร

เครื่องมือต่าง ๆ และใช้กับสินค้าอื่น ๆ ด้วย เช่น เธอชอบยาสีฟัน

ยี่ห้อนี้หรือ ปากกายี่ห้อนี้เขียนดีมาก
สรุป แบรนด์หรือตราสินค้า คือรูปแบบของภาพพจน์และแนว

ความดในรูปอัตลักษณ์ ดำขวัญและผลงานออกแบบของสินค้า

และผลิตภัณฑ์ ทั้งยังเป็นข้อมูลเชิงมโนธรรมที่แสดงออกทางรูป
ธรรมโดยที่สื่อถึงบริษัท สินค้า บริการ หรือกลุ่มผู้ขายแตกต่าง

จากคู่แข่งขัน การสร้างตราสินค้าให้เป็นที่จดจำของลูกค้า

เอกลักษณ์โดดเด่น ในปัจจุเกิดขึ้นได้จากการโฆษณา การบอกต่อ
หากเป็นภาพสัญลักษณ์อย่างเดียว ส่วนนี้อาจเรียกว่าเป็นตรา

เครื่องหมาย (L0go) ได้เช่นกัน นอกจากนี้แบรนด์ (Brand)
ไม่ใช่แค่เพียงชื่อสินค้า ไม่ใช่แค่เพียง L0go ไม่ใช่แค่เพียง

โฆษณา และไม่ใช่แด่รูปแบบของตัวบรรจุภัณฑ์เท่านั้น ความ
หมายของแบรนด์ จากผู้รู้ทางด้านโฆษณากล่าวไว้ว่า ตราสินค้า

หรือแบรนด์ (Brand)คือ ดวามรู้สึก หรือดวามประทับใจโดย

รวมต่อสินค้ายี่ห้อนั้น ๆ ที่ถูกสร้างขึ้นภายในจิตใจของผู้บริโภค
ทั้งจากการโฆษณา ประสบการณ์การใช้สินค้า ภาพลักษณ์ของ
องค์กร และบุคลากรจากสินค้าและการบริการ รวมถึง

ประสบการณ์ใด ๆ ก็ตามที่เกี่ยวกับสินค้าและบริการของแบรนด์

(Brand) นั้น

6.Brand Voice

ถ้าโลโก้ คือ ตัวตนของแบรนในลักษณะรูปภาพ Brand
Voice คือ ตัวตนของแบรนด์ในรูปแบบเสียงหรือ

กล่าวในอีกมุมหนึ่ง คือ การสื่อสาร ตัวอย่างเช่น ไอศกรีม

วอลล์ (Wal!'s) หรือเสียงขณะที่เข้าประตูร้านสะดวกซื้อ

7.ปัจจัยสำคัญที่ทำให้แบรนด์ประสบผลสำเร็จ

แบรนด์ที่ประสบผลสำเร็จะประกอบด้วยปัจจัยที่สำคัญ 5 ข้อ ดังนี้

7.1 More Moments

แบรนด์ที่จะประสบความสำเร็จต้องสร้างสิ่งที่เรียกว่า

"Moment of Truth" ให้อยู่ในใจของผู้บริโภคให้ได้เช่น ที่
ผ่านมา beng-beng แบรนด์ขนมทานเล่น ที่เลือกใช้วิธีการ
สร้างความรู้ชุดใหม่โดยบอกว่า "จะทานอร่อยขึ้นถ้าแช่ตู้เย็น
ก่อน" ผลปรากฏว่าทำให้ผู้บริโภคมีทางเลือกในการบริโภด

สินค้ารายการนี้มากขึ้น สุดท้ายแล้วทำให้เกิดกระแสการซื้อ

beng-beng ไปแช่ตู้เย็นไว้คราวละมาก ๆ

7.2 More Targets

การทำแบรนด์ต้องมีฐานลูกค้าที่ซัดเจน
ว่าเป็นกลุ่มใด อายุเท่าไร รายได้เท่าใด แต่สิ่งที่สำคัญ
เมื่อแบรนด์แข็งแกร่งในระดับหนึ่งแล้ว ต้องขยาย
ฐานลูกค้าออกไปให้มากกว่าเดิมให้ได้ มีตัวอย่างหนึ่ง
ในประเทศเกาหลีใต้ คือ มีแบรนด์อาหารรายหนึ่งที่

ชื่อ Chung Jung One เห็นว่าเทรนด์การใช้ชีวิต

แบบคนโสดกำลังเป็นที่นิยม และที่สำคัญคนโสด
เหล่านี้ทำอาหารทานเองที่บ้าน จึงส่งชุดอาหาร

ที่ระบุชัดว่า "อาหารสำหรับทานคนเดียว" ผลที่ได้ คือ

แบรนด์ได้รับความนิยมสูงมาก เพราะคนที่อยู่เป็น
ครอบครัวก็สามารถซื้อชุดอาหารนี้ทานได้เช่นกัน

7.3 More Presence

ทำอย่างไรก็ได้ให้แบรนด์ไปปรากฏในทุก ๆ ที่ให้มากที่สุด

เท่าที่จะทำได้ ตัวอย่าง คือ แบรนด์ Heinz

ที่ขายซอส เหตุเกิดในประเทศจีน เพราะแต่เดิมขายในรูป
แบบขวดเท่านั้น ส่วนใหญ่ขายอยู่ทางตอนใต้ของ

ประเทศจีน แต่ต้องการขยายแบรนด์ให้เกิดการรับรู้และ

เพิ่มยอดขาย Heinz ในประเทศจีนจึงสำรวจตลาด

แล้วพบว่า ทางภาคเหนือและตะวันตกมีความต้องการ

ซอสนี้เช่นกัน แต่ไม่สะดวกหากจะต้องซื้อเป็นขวด Heinz

จึงทำเป็นรูปแบบซอง ผลปรากฏว่า สินค้าได้รับความนิยม
เพิ่มขึ้นมาก

7.4 More Categories

การแตกไลน์สินค้าเป็นเรื่องปกติที่แบรนด์ต้องทำ แต่จะ
ขยายประเภทสินค้าอย่างไรให้แบรนด์แข็งแกร่ง

ตัวอย่างหนึ่งคือดาวน์นี่ (Downy) ที่แต่เดิมขายน้ำยาปรับผ้

นุ่ม เริ่มแรกคนยังไม่รู้จัก จึงทำการตลาดมาเรื่อย ๆ
ต่อมามีการขยายฐานไปสู่สินค้าตัวใหม่ เช่น สเปรย์ เทียนไข

ซึ่งการทำแบบนี้ส่งผลให้ดาวน์นี่ (Downy
มีผลประกอบการเพิ่มขึ้น 5% ทั่วโลก

7.5 More Needs

ยาคูลท์ (Yakult) ที่แต่เดิมทำตลาดกับผลิตภัณฑ์นมมา
โดยตลอด จึงมาร่วมมือกับฮารุ (Haru) ซึ่งเป็น

แบรนด์ทำที่มาสก์หน้า โดยยาคูลท์ (Yakult) ส่งผักและ
ผลไม้กับฮารุ (Haru) เพื่อนำไปทำมาสก็ ถือเป็น

การทำการตลาดกับสกินแคร์ที่สร้างความต้องการใหม่ให้
กับผู้บริโภค

8.ตัวอย่างแบรนด์

8.1 Search Engine นึกถึง Google

8.2 Email Free นึกถึง Gmail หรือ Hotmail

8.3 น้ำอัดลม นึกถึง Coca Cola หรือ Pepsi
8.4 จด Domian นึกถึง GoDaddy

8.5 โทรศัพท์มือถือ นึงถึง Iphone, Samsung Huwai Oppo
8.6 Application เรืยกรถ Taxi นึกถึง Uber และ Lyft

8.7 Application สั่งอาหาร นึกถึง Grabfood หรือ Foodpanda
8.8 Table นึงถึง ipad


Click to View FlipBook Version