The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

คู่มือนศ.ปฏิบัติการสอน_รวมเล่ม update 3

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by tbird2517, 2022-05-19 23:08:19

คู่มือนศ.ปฏิบัติการสอน_รวมเล่ม update 3

คู่มือนศ.ปฏิบัติการสอน_รวมเล่ม update 3

คำนำ

คู่มือนักศึกษาปฏิบัติการสอนในสถานศึกษาเล่มนี้ จัดทำขึ้นเพื่อเป็นคู่มือสำหรับนักศึกษาปฏิบัติการสอน
อาจารย์พี่เลี้ยงประจำวิชาและอาจารย์พี่เลี้ยงประจำชั้นในโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยขอนแก่น ฝ่ายประถมศึกษา
(ศึกษาศาสตร์) ซึ่งประกอบไปด้วยข้อมูลทั่วไปของโรงเรียน ขั้นตอนการเข้าปฏิบัติการสอนในสถานศึกษา แนว
ทางการปฏิบัติตนของนักศึกษา จรรยาบรรณวิชาชีพครู ชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ PLC (Profession
Learning Community) ทั้งนี้เพื่อให้นักศึกษาและผู้ที่เกี่ยวข้องในการปฏิบัติการในสถานศึกษาได้ยึดถือเป็นแนว
ปฏิบัติให้เกิดความเข้าใจตรงกันในการดำเนินงาน และเพื่อให้การปฏิบัติการสอนในสถานศึกษาเป็นไปด้วยความ
เรียบรอ้ ย

คณะกรรมการจดั ทำคูม่ ือ

สารบัญ

หนา้

ส่วนท่ี 1 ขอ้ มลู ท่วั ไปของโรงเรียน 1
ส่วนที่ 2 ขั้นตอนการเขา้ ปฏิบตั ิการสอนในสถานศกึ ษา 28
สว่ นท่ี 3 แนวทางการปฏิบัตติ นของนกั ศึกษา 30
ส่วนที่ 4 จรรยาบรรณวิชาชพี ครู 38
สว่ นที่ 5 ชมุ นุมแหง' การเรียนรท0ู างวชิ าชีพ (PLC: Professional Learning Community) 40

คมู่ ือนกั ศกึ ษาประสบการณ์วิชาชีพครู หน้า 1

สว" นที่ 1 ขอ+ มูลทวั่ ไปของโรงเรยี น

โรงเรียนสาธติ มหาวทิ ยาลัยขอนแก่น มปี ระวตั แิ ละข้อมลู ทวั่ ไป ดังน้ี
1. ประวัติโรงเรยี น
2. โครงสร้างหลกั สตู รโรงเรียนสาธติ มหาวทิ ยาลยั ขอนแก่น
3. การวดั และประเมนิ ผล
4. ระเบยี บทว่ั ไปของโรงเรียน
5. ระเบียบข้อปฏบิ ัตขิ องนกั เรยี น

1. ประวัติโรงเรียน
❊ ช่อื โรงเรียน โรงเรยี นสาธติ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ฝา่ ยประถมศึกษา (ศึกษาศาสตร์)
❊ สญั ลักษณ์ คอื ตราพระธาตุพนม ซ่ึงเป็นตราสัญลักษณ์ของมหาวทิ ยาลยั ขอนแก่น

❊ อัตลกั ษณ์ของโรงเรยี น คอื คิดสร้างสรรค์ ผนู้ ำดา้ นนวัตกรรม นำเทคโนโลยี มคี ณุ ธรรม
❊ เอกลกั ษณ์ของโรงเรียน คอื เป็นองค์กรแหง่ การเรยี นรู้ตลอดชีวติ
❊ ตน้ ไมป้ ระจำโรงเรยี น คอื ตน้ กาลพฤกษ์ (Kalapruek) ชอื่ วิทยาศาสตร์ Cassia bakeriana Craib
❊ สปี ระจำโรงเรยี น คือ สีอิฐ (ดนิ แดง)
❊ คำขวัญโรงเรียน “คุณธรรมนำปัญญา มีพลานามัย วินัยม่ันคง ดำรงสังคม
ประชาธิปไตย ใฝ่หาความรู้ มุ่งสู่สากล”

วตั ถุประสงคโ์ รงเรียน
1. เพื่อเป็นแหล่งทดลองและวิจัยเกี่ยวกับนวัตกรรมทางการศึกษา อุปกรณ์การสอน และหลักสูตรประเภท

ตา่ ง ๆ ของคณะศึกษาศาสตร์ อันจะชว่ ยส่งเสริมและปรบั ปรงุ ใหก้ ารศกึ ษามีคณุ ภาพและมปี ระสิทธิภาพสงู สุด
2. เพ่ือเปน็ แหลง่ ทดลองวจิ ยั เกี่ยวกับการพฒั นาดา้ นตา่ ง ๆ ของเด็กและวิจัยเพอื่ พัฒนาการเรียนการสอน
3. เพื่อเป็นแหล่งให้นักศึกษาคณะศึกษาศาสตร์ ได้สังเกตการเรียนการสอน สังเกตพฤติกรรมของเด็กและ

สงั เกตการเรยี นการสอนประเภทต่าง ๆ โดยโรงเรียนและบุคลากรของโรงเรียนจะมีหนา้ ทร่ี ่วมผลติ บัณฑิต

คมู่ ือนกั ศกึ ษาประสบการณ์วิชาชีพครู หน้า 2

4. เพื่อเป็นแหล่งเผยแพร่และสาธิตงานการศึกษาแก่ครูประจำการ นักบริหารการศึกษา และชุมชน
โดยเฉพาะอย่างยงิ่ ในเขตภาคตะวนั ออกเฉียงเหนอื

5. เพื่อให้การศึกษาอบรม แก่กุลบุตรกุลธิดาตามระดับความสามารถ ความถนัดและความสนใจของตน
สง่ เสรมิ ใหพ้ ฒั นาการทางดา้ นร่างกาย สตปิ ญั ญา อารมณแ์ ละสังคม อันจะชว่ ยใหเ้ ปน็ พลเมืองดี

วิสัยทศั น์
เป็นโรงเรยี นชั้นนำดา้ นนวตั กรรมการศกึ ษา ผลิตนกั เรยี นทม่ี คี วามคิดสร้างสรรค์ เป็นนวัตกรในยคุ ดจิ ทิ ลั

ปรัชญา
โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยขอนแก่น ยึดถือแนวความเชื่อที่กล่าวว่า “มนุษย์ทุกคนสามารถพัฒนาให้เจริญ

งอกงามได้ด้วยการศึกษา และเคารพในคุณค่าของความแตกต่างระหว่างบุคคล” ดังนั้นการพัฒนาสังคมและ
ประเทศชาติให้เจริญก้าวหน้า จะต้องเริ่มที่การให้การศึกษาแก่ประชาชน โดยจัดการศึกษาให้สอดคล้องกับการ
พัฒนาความแตกต่างระหว่างบุคคล พร้อมทั้งเชื่อว่าการพัฒนาการศึกษาที่ดีที่สุดคือ “การพัฒนาให้ประชาชน
รกั การศึกษาค้นคว้าด้วยตนเองตลอดชวี ติ ”

พนั ธกจิ
1. ผลติ นกั เรยี นทมี่ ีความคิดสร้างสรรค์ เปน็ นวัตกรในยุคดจิ ิทลั
2. สร้างงานวจิ ยั เพ่อื พฒั นานวัตกรรมทางการศึกษา เพอ่ื บรกิ ารวชิ าการและเผยแพรส่ สู่ ังคม
3. เสริมสร้างคณุ ธรรม จรยิ ธรรม และพัฒนาคณุ ลักษณะทที่ นั ตอ่ การเปลีย่ นแปลง
4. ส่งเสรมิ ทำนุบำรุงศิลปวฒั นธรรมและเศรษฐกิจสรา้ งสรรค์
5. การบริหารจัดการองค์กรอย่างมธี รรมาภิบาล
6. สนับสนนุ พนั ธกิจและร่วมผลิตครูมอื อาชีพ คณะศกึ ษาศาสตร์

2. โครงสร้างหลักสตู รโรงเรียนสาธติ มหาวทิ ยาลยั ขอนแก่น
กรอบแนวคิดในการจัดทำหลักสูตรโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยขอนแก่น ที่สร้างนวัตกรที่มีความคิด

สร้างสรรค์ ( Creative Innovator ) เป็นการสังเคราะห์กรอบแนวคิดหลักสูตรที่ส่งเสริมสมรรถนะ และคุณลักษณะ
อันพึงประสงค์ของนักเรียนโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยขอนแก่น ซึ่งได้ศึกษาหลักการและทฤษฎีที่มีความเกี่ยวข้อง
การจัดทำหลักสูตร ได้แก่ ทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ มีหลักการในการใช้สถานการณ์ปัญหาซึ่งต้องเป็นปัญหา
ใกล้เคียงกับสภาพบริบทจริง ทำให้ผู้เรียนเป็นส่วนหนึ่งของปัญหาจะทำให้ผู้เรียนไปสืบเสาะค้นหาเพื่อแก้ปัญหา
จากสารสนเทศในแหล่งข้อมลู ต่าง ๆ และทฤษฎี Social Constructivist Theory เป็นการเน้นปฏสิ ัมพนั ธท์ างสังคม
ทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ขยายมุมมองและแนวคิดที่หลากหลาย ระหว่างเพื่อนๆ หรือครูผู้สอน ผนวกกับ
หลักการคิดสร้างสรรค์ (Creative Thinking) มาใช้ในการออกแบบสิ่งแวดล้อมทางการเรียนรู้บนเครือข่ายตามแนว

คมู่ ือนกั ศกึ ษาประสบการณ์วิชาชีพครู หน้า 3

คอนสตรัคติวิสต์ เพื่อส่งเสริมการคิดสร้างสรรค์โดยหลักการของ Guilford (1967) ได้แก่ ความคิดคล่อง
(Fluency) ความคิดยืดหยุ่น (Flexibility) ความคิดริเริ่ม (Originality) และการคิดละเอียดลออ (Elaboration)
เป็นการสง่ เสรมิ การขยายโครงสรา้ งความรู้และการคดิ สร้างสรรค์ของผเู้ รยี น

ระดับการศึกษา
ระดับการศึกษาในระดบั ประถมศึกษาต้ังแต่ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 1 – 6 หรือยนู ทิ เอ,บ,ี ซ,ี ดี,อี และเอฟ

มาตรฐานการเรียนรู้
การพัฒนาผู้เรียนให้เกิดความสมดุลต้องคำนึงถึงหลักพัฒนาการทางสมองและพหุปัญญา จึงกำหนดให้

ผเู้ รยี นเรยี นรู้ 8 กล่มุ สาระการเรยี นรู้ ดังนี้
ʘ กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาไทย
ʘ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์
ʘ กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ʘ กลุ่มสาระการเรียนรสู้ งั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม
ʘ กลมุ่ สาระการเรียนร้สู ขุ ศึกษาและพลศึกษา
ʘ กลุ่มสาระการเรียนร้ศู ลิ ปะ
ʘ กลมุ่ สาระการเรียนรกู้ ารงานอาชพี
ʘ กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาตา่ งประเทศ (ภาษาองั กฤษ, ภาษาญี่ปุน่ และภาษาจีน)

กจิ กรรมพัฒนาผู้เรยี น
กจิ กรรมพฒั นาผูเ้ รยี น มงุ่ ให้ผู้เรยี นไดพ้ ัฒนาตนเองตามศักยภาพ พฒั นาอย่างรอบดา้ นเพ่ือความเปน็

มนุษย์ที่สมบูรณ์ ทั้งร่างกาย สติปัญญา อารมณ์ และสังคม เสริมสร้างให้เป็นผู้มีศีลธรรม จริยธรรม มีระเบียบวินัย
ปลูกฝังและสร้างจิตสำนึกของการทำประโยชน์เพื่อสังคม สามารถจัดการตนเองได้ และอยู่ร่วมกับผู้อื่นอย่างมี
ความสุข กิจกรรมพัฒนาผู้เรียนประกอบด้วยกิจกรรมลูกเสือ – เนตรนารี ชุมนุม การศึกษาค้นคว้า และกิจกรรม
ทกั ษะชวี ิต

เวลาเรียน
ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 1 – 3 มเี วลาเรยี น 1,080 คาบ/ปี (คาบละ 50 นาที) โดยเฉลย่ี วันละ 6 คาบ
ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 4 – 6 มีเวลาเรียน 1,260 คาบ/ปี (คาบละ 50 นาท)ี โดยเฉลีย่ วันละ 7 คาบ

คมู่ ือนกั ศกึ ษาประสบการณ์วิชาชีพครู หน้า 4

ตารางอตั ราเวลาเรยี นตามโครงสรา้ งเวลาเรยี นของหลกั สูตรสถานศกึ ษา
โครงสรา้ งเวลาเรียน

โรงเรียนสาธติ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ฝา่ ยประถมศกึ ษา (ศกึ ษาศาสตร)์

ยูนิท A-C (ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 1-3) ยูนทิ D-F (ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ 4-6)

กลมุ่ สาระการเรียนรู้ คาบ/ คาบ/ คาบ/ปี ชว่ั โมง/ปี คาบ/ คาบ/ คาบ/ปี ช่วั โมง
สปั ดาห์ ภาค สัปดาห์ ภาค /ปี

1. ภาษาไทย 6 108 216 180 5 90 180 150
2. คณิตศาสตร์ 6 108 216 180 5 90 180 150
2 36 72 60 4 72 144 120
3. วิทยาศาสตร์และ
เทคโนโลยี 3 54 108 90 4 72 144 120

4. สังคมศึกษา ศาสนา 2 36 72 60 2 36 72 60
และวัฒนธรรม
2 36 72 60 3 54 108 90
5. สุขศึกษา และ
พลศกึ ษา

6. ศลิ ปะ

7. การงานอาชีพ 2 36 72 60 3 54 108 90

8. ภาษาต่างประเทศ 5 90 180 150 5 90 180 150
- ภาษาอังกฤษ

9. กจิ กรรมพัฒนาผ้เู รียน

- ลูกเสอื เนตรนารี 1(อ,ี เอฟ)

- ศึกษาค้นคว้า 1(ดี)
- ชมุ นุม 11
- ทกั ษะชีวิต*
1 18 36 30 22 36 72 60
รวม
10.รายวิชาเพิ่มเติม

- ภาษาญ่ีปนุ่ - - - - 1 18 36 30

- ภาษาจนี 1 18 36 30 1 18 36 30

รวม 30 540 1,080 900 35 630 1,260 1,050

* ทักษะชีวติ สอนในช่วงเวลา 08.30 น. – 08.50 น.

คมู่ ือนกั ศกึ ษาประสบการณ์วิชาชีพครู หน้า 5

โครงสร้างเวลาเรยี น โครงการสง่ เสริมศกั ยภาพด้านภาษาตา่ งประเทศ

โรงเรียนสาธติ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ฝา่ ยประถมศกึ ษา (ศกึ ษาศาสตร์)

ระดบั ยูนทิ A B และ C (ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 1- 3): เปรยี บเทียบกบั แผนการเรยี นปกติ

รายวชิ า ภาคปกติ เน้นอังกฤษ IEC หมายเหตุ
(Intensive English

Course)

1. ภาษาไทย 65

2. คณติ ศาสตร์ 65

3. วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี 2 2
1 1
- วทิ ยาศาสตร์
- AI

4. สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม 3 3

5. สุขศึกษาและพลศึกษา 2 2 - สขุ ศึกษา 1 คาบ
6. ศลิ ปะ - พลศึกษา 1 คาบ

7. การงานอาชพี 2 2 - ทัศนศิลป์
- ดนตรี
- นาฏศิลป์

11

8. ภาษาต่างประเทศ 5 7* * อาจารยช์ าว
- ภาษาองั กฤษ 1 1 ต่างประเทศ
- ภาษาจนี
1 1 * ทักษะชีวติ สอน
9. กจิ กรรมพัฒนาผูเ้ รยี น
- ชุมนุม ในชว่ งเวลา 08.30 –
- ทักษะชีวิต *
08.50 น.
10. กิจกรรมเสรมิ ศักยภาพ
- 1 คร้งั /ปีการศกึ ษา ค่ายวชิ าการ

รวม 30 30

โครงสร้างเวลาเรียน โครงการส่งเสริมศกั ยภาพดคา้ นมู่ ือภนากัษศากึ ตษา่ างปปรระะสเบทกศารณ์วิชาชีพครู หน้า 6

โรงเรียนสาธิตมหาวทิ ยาลัยขอนแกน่ ฝา่ ยประถมศกึ ษา (ศกึ ษาศาสตร)์

ระดบั ยูนิท D E และ F (ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 4, 5 และ 6): เปรียบเทียบกับแผนการเรียนปกติ
รายวิชา ภาคปกติ เนน้ องั กฤษ IEC หมายเหตุ

ป.4-6 (Intensive English Course)
ป.4 ป.5 ป.6

1. ภาษาไทย 5444

2. คณติ ศาสตร์ 5555

3. วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

- วทิ ยาศาสตร์ 4444
- AI 1111

4. สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม 4 3 3 3

5. สุขศกึ ษาและพลศึกษา 2 2 2 2 - สขุ ศกึ ษา 1 คาบ
6. ศิลปะ - พลศึกษา 1 คาบ

7. การงานอาชีพ 3 3 3 3 - ทศั นศิลป์
- ดนตรี
- นาฏศลิ ป์

2111

8. ภาษาต่างประเทศ 5 8* 8* 8* * สอนโดยอาจารย์
- ภาษาอังกฤษ
- ภาษาญี่ป่นุ 1 1 1 1 ชาวตา่ งประเทศ
- ภาษาจีน 1111

9. กจิ กรรมพฒั นาผูเ้ รยี น - - 1 1 ลกู เสือ-เนตรนาร(ี เฉพาะยนู ทิ
- ลกู เสือเนตรนารี
- ชมุ นมุ 1 1 1 1 อแี ละเอฟ)
- ศกึ ษาคน้ คว้า * ทกั ษะชวี ติ สอนในชว่ ง
- ทกั ษะชวี ิต * 1 1 - - เวลา 08.30 – 08.50 น.

11. กิจกรรมเสริมศักยภาพ - 1 ครง้ั / 1 ครงั้ / 1 ครงั้ / ค่ายวิชาการ
ภาคเรยี น ภาคเรยี น ภาคเรยี น
รวม
35 35 35 35

ตารางเวลาเรียนประจำวนั ในระดับประถมศกึ ษา คมู่ ือนกั ศกึ ษาประสบการณ์วิชาชีพครู หน้า 7

ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 – 3 หรือยนู ทิ เอ –ซี ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 1 – 3
(Unit A- C)
กิจกรรม / คาบเรียน
08.15 – 08.30 น.
เขา้ แถวเตรยี มเคารพธงชาติ สวดมนตไ์ หวพ้ ระ 08.30 – 08.50 น.
กจิ กรรมทกั ษะชีวิต 08.50 – 09.40 น.
คาบเรียนที่ 1 / พักด่ืมนม 09.40 – 10.30 น.
คาบเรียนท่ี 2 10.30 – 11.20 น.
คาบเรียนท่ี 3 11.20 – 13.00 น.
พักรับประทานอาหารกลางวนั 13.00 – 13.50 น.
คาบเรยี นที่ 4 13.50 – 14.40 น.
คาบเรยี นที่ 5 14.40 – 15.30 น.
คาบเรียนท่ี 6 15.30 – 15.45 น.
Homeroom
ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 4 – 6
ระดับช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ 4 – 6 หรือยนู ทิ ดี –เอฟ (Unit D - F)

กจิ กรรม / คาบเรียน 08.15 – 08.30 น.
08.30 – 08.50 น.
เข้าแถวเตรียมเคารพธงชาติ สวดมนต์ไหวพ้ ระ 08.50 – 09.40 น.
กิจกรรมทกั ษะชีวิต 09.40 – 10.30 น.
คาบเรียนท่ี 1 10.30 – 11.20 น.
คาบเรียนท่ี 2/ พักดมื่ นม 11.20 – 12.10 น.
คาบเรยี นที่ 3 12.10 – 13.00 น.
คาบเรียนท่ี 4 13.00 – 13.50 น.
พกั รบั ประทานอาหารกลางวนั 13.50 – 14.40 น.
คาบเรียนท่ี 5 14.40 – 15.30 น.
คาบเรยี นท่ี 6 15.30 – 15.45 น.
คาบเรียนท่ี 7
Homeroom

คมู่ ือนกั ศกึ ษาประสบการณ์วิชาชีพครู หน้า 8

3. การวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้
โรงเรียนสาธติ มหาวทิ ยาลัยขอนแกน่ ฝา่ ยประถมศึกษา (ศึกษาศาสตร์) มีการวัดและประเมนิ ผล

การเรยี นรู้ใน 4 องคป์ ระกอบดงั นี้
3.1 การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ในแต่ละกล่มุ สาระการเรยี นรู้
3.2 การประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
3.3 การประเมินการอ่าน คิดวเิ คราะห์ และเขยี น
3.4 การประเมินกิจกรรมพัฒนาผูเ้ รียน

3.1 การประเมนิ ผลการเรียนรู้ในแตล่ ะกลุ่มสาระการเรียนรู้

การวดั และประเมินผลการเรยี นปลายปขี องแตล่ ะกลมุ่ สาระการเรยี นรู้ จะนำคะแนนรอ้ ยละของ

ภาคตน้ และภาคปลายมารวมกนั แลว้ จดั เปน็ ระดบั คะแนน ตามความหมายของคะแนน ดังนี้

4 ดีเยี่ยม หมายถงึ ไดค้ ะแนนร้อยละ 80 - 100

3.5 ดมี าก หมายถงึ ไดค้ ะแนนร้อยละ 75 – 79

3 ดี หมายถงึ ไดค้ ะแนนรอ้ ยละ 70 – 74

2.5 คอ่ นข้างดี หมายถงึ ไดค้ ะแนนรอ้ ยละ 65 – 69

2 ปานกลาง หมายถึง ได้คะแนนรอ้ ยละ 60 – 64

1.5 พอใช้ หมายถึง ได้คะแนนร้อยละ 55 – 59

1 ผ่านเกณฑข์ ั้นต่ำ หมายถงึ ไดค้ ะแนนรอ้ ยละ 50 – 54

0 ตำ่ กว่าเกณฑ์ หมายถึง ได้คะแนนร้อยละ 0 – 49

3.2 การประเมินคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
หลักสูตรของโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้กำหนดคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของ

โรงเรียน มุ่งเน้นให้ผู้เรียนเป็นคนดีของโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยขอนแก่น โดยได้นำคุณลักษณะอันพึง
ประสงค์ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน ร่วมกับคุณลักษณะตามบริบทของโรงเรียนสาธิต
มหาวิทยาลัยขอนแก่น เพื่อให้ผู้เรียนสามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้อย่างมีความสุข สอดคล้องกับ
สภาวะสังคมโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง ในฐานะของความเป็นพลเมืองไทยและความเป็นพล
โลก ดงั นี้

1. รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์
2. ซื่อสัตยส์ จุ ริต
3. มวี นิ ัยและรบั ผิดชอบ
4. ใฝ่เรยี นรู้

คมู่ ือนกั ศกึ ษาประสบการณ์วิชาชีพครู หน้า 9

5. อย่อู ยา่ งพอเพียง
6. ม่งุ ม่นั ในการทำงาน
7. รักความเปน็ ไทย
8. มจี ิตสาธารณะ
9. รกั ษ์สง่ิ แวดล้อม

การประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ กำหนดเกณฑ์การตัดสินเป็น 4 ระดับ และความหมายแต่ละระดับ
ดังน้ี

ดีเย่ยี ม หมายถึง ผู้เรียนปฏิบัติตนตามคุณลักษณะจนเป็นนิสัยและนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน เพื่อ
ประโยชน์สุขของตนเองและนำสังคมโดยพิจารณาจากผลการประเมินระดับดีเยี่ยม จำนวน 5 – 10 คุณลักษณะ
และไมม่ คี ณุ ลกั ษณะใดได้ผลการประเมนิ ตำ่ กว่าระดบั ดี

ดี หมายถึง ผู้เรียนมีคุณลักษณะในการปฏิบัติตามกฎเกณฑ์เพื่อให้เป็นการยอมรับของสังคมโดยพิจารณา
จาก

1. ได้ผลการประเมินระดับดีเยี่ยม จำนวน 1– 4 คุณลักษณะ และไม่มีคุณลักษณะใดได้ผลการ
ประเมินต่ำกวา่ ระดับดี หรอื

2. ได้ผลการประเมินระดับดีเยี่ยม จำนวน 4 คุณลักษณะ และไม่มีคุณลักษณะใดได้ผลการ
ประเมนิ ต่ำกวา่ ระดับผา่ น หรือ

3. ได้ผลการประเมินระดับดี จำนวน 5– 10 คุณลักษณะ และไม่มีคุณลักษณะใดได้ผลการ
ประเมนิ ตำ่ กวา่ ระดับผา่ น

ผ่าน หมายถึง ผู้เรียนรบั ร้แู ละปฏิบตั ิตามกฎเกณฑ์และเง่อื นไขท่สี ถานศกึ ษากำหนด โดยพิจารณาจาก

1. ได้ผลการประเมินตั้งแต่ระดับผ่าน จำนวน 5– 10 คุณลักษณะ และไม่มีคุณลักษณะใดได้ผล
การประเมินต่ำกว่าระดับผา่ น หรือ

2. ได้ผลการประเมินตั้งแต่ระดับดี จำนวน 4 คุณลักษณะ และไม่มีคุณลักษณะใดได้ผลการ
ประเมนิ ตำ่ กว่าระดบั ผา่ น

ไม่ผา่ น หมายถึง ผเู้ รยี นรับรู้และปฏิบัติไดไ้ ม่ครบตามกฎเกณฑแ์ ละเงอ่ื นไขทส่ี ถานศกึ ษากำหนด โดย
พจิ ารณาจากผลการประเมินระดบั ไมผ่ ่าน

คมู่ ือนกั ศกึ ษาประสบการณ์วิชาชีพครู หน้า 10

เกณฑ์กำหนดระดับคุณภาพการประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์

คณุ ลักษณะอันพึงประสงคข์ อ้ ท่ี 1: รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์

ตวั ช้ีวดั ผลการประเมิน ระดับคุณภาพ
1. รอ้ งเพลงชาติ
1. รอ้ งเพลงชาติไดอ้ ยา่ งถูกต้องชดั เจนและยนื ตรงเคารพธงชาติ
2. สวดมนต์ไหวพ้ ระ
ดีเย่ยี ม ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งสมำ่ เสมอ
3. ปฏิบัติจิตใจให้ 2. หยุดยืนตรงเคารพธงชาตทิ กุ คร้งั เมอ่ื ได้ยนิ เสยี งเพลงชาติ
สงบ
3. ไม่แสดงพฤติกรรมลบหลคู่ วามเป็นชาติไทย

1. ร้องเพลงชาติได้อยา่ งถูกต้องชัดเจนและยืนตรงเคารพธงชาติ

ดี ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งสมำ่ เสมอ

2. หยดุ ยนื ตรงเคารพธงชาตทิ กุ ครั้งเมื่อได้ยนิ เสียงเพลงชาติ

ผ่านเกณฑ์ ร้องเพลงชาตไิ ด้อยา่ งถกู ต้องชัดเจนและยนื ตรงเคารพธงชาติได้
อย่างถูกตอ้ งสมำ่ เสมอ

ไมส่ ามารถร้องเพลงชาตไิ ดอ้ ย่างถกู ต้องชดั เจนและไม่สามารถยนื

ไม่ผา่ น ตรงเคารพธงชาติไดอ้ ย่างถูกตอ้ งและแสดงพฤติกรรมลบหล่คู วาม

เปน็ ชาติไทย

ดีเย่ยี ม สวดมนต์ไหว้พระได้อย่างถูกต้องและสามารถปฏิบัติได้อย่าง
ถกู ต้องชดั เจนและมกี ริ ิยาสำรวมสมำ่ เสมอ

ดี การสวดมนต์ไหว้พระได้อย่างถูกต้องชัดเจนและมีกิริยาสำรวม
บอ่ ยคร้งั

ผ่านเกณฑ์ การสวดมนต์ไหว้พระได้อย่างถูกต้องชัดเจนและมีกิริยาสำรวม
บางครัง้

ไม่ผ่าน ไมส่ ามารถสวดมนต์ไหว้พระได้อยา่ งถูกต้องชดั เจนและมกี ริ ยิ าที่
ไม่เหมาะสม

ดเี ยยี่ ม นงั่ ในท่าที่ถกู ตอ้ งและสามารถปฏบิ ตั กิ ารนง่ั สมาธิได้ตามเวลาที่
กำหนดใหท้ กุ ครงั้

ดี นง่ั ในท่าทถ่ี กู ตอ้ งและสามารถปฏิบตั กิ ารนั่งสมาธไิ ดต้ ามเวลาที่
กำหนดบอ่ ยครง้ั

ผา่ นเกณฑ์ นง่ั ในทา่ ทถ่ี กู ตอ้ งและสามารถปฏิบตั ิการนัง่ สมาธิได้ตามเวลาท่ี
กำหนดบางคร้ัง

ไม่ผา่ น ไม่สามารถน่ังในท่าทีถ่ ูกตอ้ งและไมส่ ามารถปฏบิ ตั กิ ารน่งั สมาธไิ ด้

คมู่ ือนกั ศกึ ษาประสบการณ์วิชาชีพครู หน้า 11

ตวั ช้วี ดั ผลการประเมิน ระดับคุณภาพ
4. เขา้ ร่วมกิจกรรมที่
เก่ยี วกบั ชาติ ศาสนา ดีเยี่ยม เข้ารว่ มกจิ กรรมที่เกี่ยวกบั ชาติ ศาสนา และพระมหากษตั ริย์
และพระมหากษัตรยิ ์ ตามที่สถานศกึ ษากำหนดให้ทุกคร้ัง
ดี
5.ส่งเสรมิ และ เขา้ รว่ มกจิ กรรมทเี่ กี่ยวกับชาติ ศาสนาและพระมหากษตั รยิ ์
อนรุ ักษ์สนิ คา้ ไทย ผ่านเกณฑ์ บ่อยครัง้

ไม่ผา่ น เขา้ รว่ มกจิ กรรมท่เี ก่ยี วกับชาติ ศาสนา และพระมหากษัตรยิ ์
ดีเย่ยี ม บางคร้งั

ดี ไมเ่ ข้าร่วมกจิ กรรมทเี่ กย่ี วกับชาติ ศาสนา และพระมหากษัตรยิ ์
ผ่านเกณฑ์
ไม่ผา่ น ใชส้ ินคา้ ทผ่ี ลิตในประเทศไทยเป็นประจำ
ใชส้ ินค้าทผี่ ลติ ในประเทศไทยเป็นส่วนใหญ่

ใชส้ นิ ค้าทผี่ ลิตในประเทศไทยบ้าง

ไม่ใชส้ ินค้าทผ่ี ลิตในประเทศไทย

คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ข้อที่ 2 : ซ่อื สัตย์ สจุ ริต

ตัวชีว้ ดั ผลการประเมนิ ระดบั คุณภาพ
1. มพี ฤติกรรมที่
แสดงถึงความ นกั เรียนปฏิบัตติ นได้ดงั น้ี
ซ่ือสตั ย์ สจุ รติ 1. 1. พดู และตอบคำถามตามความเป็นจรงิ
ทางวาจา ดเี ยี่ยม 2. 2. พดู จาสภุ าพอ่อนน้อม
3. 3. ไม่นินทาวา่ ร้าย/พูดจาสอ่ เสียดผ้อู ่นื
2. มีพฤติกรรม 4. 4. ไมพ่ ูดแกต้ ่างให้ตนเองและเพื่อนพ้นผิด
ทีแ่ สดงถงึ ความ
ซื่อสตั ย์ สุจริต ดี นกั เรยี นปฏบิ ัติตนได้ 3 ใน 4 ข้อ
ทางกาย
ผา่ นเกณฑ์ นกั เรียนปฏิบตั ติ นได้ 2 ใน 4 ข้อ

ไม่ผา่ น นกั เรียนปฏบิ ัตติ นได้นอ้ ยกวา่ 2 ข้อ

นกั เรียนปฏบิ ัตติ นไดด้ งั น้ี

1. 1. ไมล่ อกการบ้านเพ่อื น
ดีเยย่ี ม 2. 2. ไม่นำของผู้อ่นื มาเปน็ ของตน

3. 3. เก็บสิง่ ของไดน้ ำกลบั ไปคนื เจา้ ของ/แจ้งครู
4. 4. ตงั้ ใจทำขอ้ สอบด้วยความสามารถของตนเอง

คมู่ ือนกั ศกึ ษาประสบการณ์วิชาชีพครู หน้า 12

ตวั ช้วี ัด ผลการประเมิน ระดับคุณภาพ
ดี นกั เรยี นปฏบิ ัตติ นได้ 3 ใน 4 ขอ้
นักเรียนปฏิบัติตนได้ 2 ใน 4 ข้อ
ผ่านเกณฑ์ นักเรียนปฏบิ ัติตนไดน้ ้อยกวา่ 2 ขอ้
ไมผ่ า่ น

คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ขอ้ ที่ 3 : มีวนิ ัยและรบั ผดิ ชอบ

ตวั ช้วี ัด ผลการประเมนิ ระดับคุณภาพ
1. ตรงต่อเวลา
นักเรยี นตอ้ งปฏบิ ตั ิตนได้ดงั ต่อไปนี้อยา่ งสมำ่ เสมอทุกครั้ง
2. มีวินัยในการ ดเี ยี่ยม 1. มาโรงเรยี นทันเวลาเข้าแถวเคารพธงชาตเิ ขา้ เรยี นตรงเวลาที่กำหนด
แตง่ กาย
2. ทำงานทค่ี รูมอบหมายสำเรจ็ เรยี บร้อยและส่งครูตามเวลาทีก่ ำหนด
3. มีวินยั ในการ
รกั ษาสง่ิ แวดลอ้ ม ดี นักเรยี นปฏิบัติตนไดเ้ ป็นส่วนใหญ่แต่ไม่ทกุ ครง้ั

ผา่ นเกณฑ์ นักเรียนปฏิบัตติ นได้เป็นส่วนน้อย

ไมผ่ า่ น นกั เรียนไม่สามารถปฏิบัติตนได้ตามเกณฑ์

ดีเยีย่ ม นกั เรียนแต่งเครอ่ื งแบบนกั เรยี นถกู ตอ้ งตามระเบียบของโรงเรียนอยา่ ง
สมำ่ เสมอ

ดี นกั เรยี นปฏบิ ัตติ นไดเ้ ป็นส่วนใหญ่แต่ไมท่ ุกคร้ัง

ผา่ นเกณฑ์ นักเรียนปฏิบัติตนไดเ้ ปน็ สว่ นนอ้ ย

ไมผ่ า่ น นกั เรียนไม่สามารถปฏิบัตติ นไดต้ ามเกณฑ์

นักเรยี นตอ้ งปฏิบตั ิตนไดด้ ังต่อไปน้อี ย่างสม่ำเสมอทกุ ครัง้ ทำความ
ดีเย่ยี ม สะอาดหอ้ งเรยี น อาคารเรียน บรเิ วณโรงเรียน ปดิ ไฟ/พัดลม/

เครอ่ื งปรบั อากาศ/กอ๊ กนำ้ เมอ่ื เลกิ ใชง้ านทง้ิ ขยะในที่รองรบั ขยะ

ดี นกั เรยี นปฏิบตั ติ นได้เป็นสว่ นใหญ่แต่ไมท่ กุ ครงั้

ผ่านเกณฑ์ นกั เรยี นปฏบิ ัตติ นไดเ้ ปน็ สว่ นนอ้ ย

ไม่ผ่าน นักเรียนไมส่ ามารถปฏิบตั ิตนไดต้ ามเกณฑ์

คมู่ ือนกั ศกึ ษาประสบการณ์วิชาชีพครู หน้า 13

ตัวช้ีวัด ผลการประเมิน ระดับคุณภาพ
4. เคารพ
กฎระเบียบของ นักเรียนตอ้ งปฏบิ ัตติ นได้ดังต่อไปนอี้ ย่างสม่ำเสมอทุกคร้งั
สังคม ดีเยี่ยม 1. เข้าแถวรบั สง่ิ ของหรือรับบริการตามลำดับก่อนหลัง

5. มคี วาม 2. ปฏิบตั ติ ามกฎระเบียบของโรงเรียนหรอื กฎจราจร
รับผิดชอบ
ดี นักเรยี นปฏิบตั ิตนไดเ้ ปน็ ส่วนใหญแ่ ต่ไมท่ กุ คร้ัง

ผา่ นเกณฑ์ นักเรยี นปฏบิ ัติตนได้เปน็ ส่วนนอ้ ย

ไมผ่ า่ น นกั เรยี นไมส่ ามารถปฏบิ ตั ติ นไดต้ ามเกณฑ์

นกั เรยี นต้องปฏบิ ตั ติ นได้ดงั ต่อไปน้อี ยา่ งสม่ำเสมอทกุ ครง้ั
ดเี ย่ยี ม 1. ไมล่ มื สมดุ หนังสือหรืออปุ กรณก์ ารเรยี น

2. ใส่ใจต่อทรัพย์สินของตนเองไมห่ ลงลมื

ดี นักเรียนปฏบิ ตั ิตนได้เป็นสว่ นใหญ่แต่ไม่ทกุ ครง้ั

ผา่ นเกณฑ์ นกั เรียนปฏิบตั ติ นไดเ้ ป็นสว่ นน้อย

ไมผ่ ่าน นักเรยี นไม่สามารถปฏิบัตติ นไดต้ ามเกณฑ์

คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงคข์ ้อท่ี 4 : ใฝเ่ รยี นรู้

ตวั ช้ีวัด ผลการประเมิน ระดับคณุ ภาพ

1. ปฏิบัตติ นทแี่ สดงถึง ดีเย่ียม อา่ นหนงั สอื หรอื มีการสืบค้นข้อมูลทางอินเทอรเ์ นต็ หรอื ซักถาม
การใฝ่เรยี นรู้ ทุกวนั เปน็ ประจำ

ดี อา่ นหนังสือหรอื มีการสบื ค้นขอ้ มลู ทางอนิ เทอรเ์ น็ตหรอื ซกั ถาม
บอ่ ยๆ

ผ่านเกณฑ์ อา่ นหนงั สือนานๆครัง้ หรือสบื คน้ ข้อมูลทางอินเทอรเ์ นต็ 1
ครงั้ /สัปดาหห์ รือซักถามบ้างเปน็ บางครั้ง

ไม่ผา่ น นกั เรียนไม่สามารถปฏบิ ตั ติ นได้ตามตามเกณฑ์

คมู่ ือนกั ศกึ ษาประสบการณ์วิชาชีพครู หน้า 14

คุณลักษณะอันพึงประสงคข์ อ้ ท่ี 5: อยูอ่ ย่างพอเพยี ง

ตัวชีว้ ัด ผลการประเมนิ ระดบั คุณภาพ

1. ปฏบิ ัติตนในการใช้ นกั เรียนต้องปฏบิ ตั ิตนได้ดงั ตอ่ ไปน้ีอยา่ งสม่ำเสมอทกุ คร้ัง
ทรพั ยากรและทรพั ยส์ ิน 1. ใช้ทรพั ย์สนิ สง่ิ ของโรงเรยี นและทรัพยากรด้านพลงั งาน
ของตนเองและของ ดเี ย่ียม อยา่ งประหยัดและคุม้ คา่
ส่วนรวมอย่างประหยัด 2. ใชอ้ ปุ กรณก์ ารเรยี นและสงิ่ ของของตนเองอย่างประหยัดและ
และคุ้มคา่ ค้มุ ค่า
3. ใชจ้ า่ ยอยา่ งประหยดั และมีการเก็บออม

ดี นักเรยี นปฏบิ ัติตนได้ 2 ใน 3 ขอ้

ผา่ นเกณฑ์ นกั เรียนปฏิบตั ิตนได้ 1 ข้อ

ไมผ่ า่ น นักเรยี นไมส่ ามารถปฏบิ ัตติ นได้ตามขอ้ 1,2,3

คุณลักษณะอันพึงประสงคข์ อ้ ท่ี 6: มุง่ ม่นั ในการทำงาน

ตวั ชวี้ ดั ผลการประเมนิ ระดับคุณภาพ
1. สง่ งานครบและ
ตรงเวลา ดเี ย่ียม ส่งงานครบและตรงเวลาทุกคร้งั

2. มสี ว่ นร่วมในการ ดี ส่งงานครบ และตรงเวลาเปน็ ส่วนใหญ่
ทำงานกลมุ่
ผ่านเกณฑ์ ส่งงานตามเกณฑท์ ก่ี ำหนดและตรงเวลาเป็นบางคร้งั

ไมผ่ า่ น ส่งงานไมค่ รบตามเกณฑท์ กี่ ำหนดและไม่ตรงเวลาเป็นสว่ นใหญ่

1. 1. ยอมรบั ฟงั ความคิดเหน็ ของผู้อน่ื
ดีเย่ยี ม2. 2. มีส่วนร่วมทกุ ขนั้ ตอนในการทำงานกลุม่
3. แสดงความคดิ เหน็ ในการทำงานทกุ คร้ัง
3. 4. รบั ผดิ ชอบงานที่ได้รบั มอบหมายในกล่มุ
4.
นักเรยี นปฏิบตั ิตนได้ 3 ใน 4 ข้อ
ดี

ผา่ นเกณฑ์ นกั เรยี นปฏบิ ัติตนได้ 2 ใน 4 ข้อ

ไม่ผา่ น นกั เรยี นไม่สามารถปฏิบตั ิตนได้ตามเกณฑ์

คมู่ ือนกั ศกึ ษาประสบการณ์วิชาชีพครู หน้า 15

ตัวชว้ี ัด ผลการประเมิน ระดบั คณุ ภาพ
3. ทำงานมีคุณภาพ
ดีเย่ยี ม ถกู ต้อง สวยงาม เปน็ ระเบยี บ มคี วามประณีต แสดงถงึ ความคิด
สรา้ งสรรค์

ดี ถูกต้อง สวยงาม และเป็นระเบียบ

ผา่ นเกณฑ์ ถกู ต้อง แตข่ าดความเปน็ ระเบยี บและความประณีต

ไม่ผา่ น ไม่ถกู ตอ้ งและไม่เปน็ ระเบยี บ

คณุ ลักษณะอันพึงประสงคข์ อ้ ที่ 7 : รกั ความเป็นไทย

ตัวช้ีวัด ผลการประเมนิ ระดับคุณภาพ

1. ปฏบิ ัติตนเป็นผรู้ กั นกั เรยี นต้องปฏบิ ัตติ นได้ดงั ต่อไปน้อี ยา่ งสมำ่ เสมอทุกครงั้

ความเปน็ ไทย 1. การทำความเคารพตอ่ บคุ คลท่คี วรเคารพ ไดแ้ ก่

ครู – อาจารย์, บดิ า – มารดา, พระสงฆ์, ผู้ใหญ่

2. การแสดงออกที่บ่งบอกถงึ ความเป็นไทย

ดเี ยยี่ ม 2.1 การใช้วาจาสภุ าพ ไพเราะ
2.2 การแต่งกายท่สี ุภาพเรียบร้อย

2.3 มกี ารแตง่ กายท่บี ง่ บอกถึงความเป็นเอกลักษณ์ของไทย

3. การเข้ารว่ มกิจกรรมท่ีสง่ เสรมิ ความเปน็ ไทย

3.1 มสี ว่ นร่วมในกิจกรรมท่เี กย่ี วกับประเพณไี ทย

3.2 ช่ืนชมและเข้ารว่ มกจิ กรรมท่ีเกีย่ วกบั ศิลปวฒั นธรรมไทย

ดี นักเรยี นปฏบิ ตั ติ นไดเ้ ป็นสว่ นใหญแ่ ต่ไมท่ ุกครง้ั

ผา่ นเกณฑ์ นกั เรยี นปฏบิ ตั ิตนไดเ้ ป็นส่วนน้อย

ไม่ผ่าน นกั เรียนไมส่ ามารถปฏิบตั ติ นได้ตามเกณฑ์

คมู่ ือนกั ศกึ ษาประสบการณ์วิชาชีพครู หน้า 16

คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ขอ้ ที่ 8 : มีจติ สาธารณะ

ตวั ช้วี ดั ผลการประเมนิ ระดับคณุ ภาพ

1. ทำประโยชน์ ดเี ย่ียม ทำประโยชนแ์ ละสร้างสิ่งท่ดี ีงามในโรงเรยี นชุมชน สงั คมดว้ ยความสมัคร
และสร้างสง่ิ ที่ดี ใจและเต็มใจทุกครั้ง
งามในโรงเรยี น
ชุมชน สังคม ดี ทำประโยชนแ์ ละสร้างสง่ิ ท่ดี ีงามให้โรงเรียน ชุมชน สงั คมดว้ ยความ
ด้วยความสมคั ร ผ่านเกณฑ์ สมคั รใจและเต็มใจตามทโ่ี รงเรียนกำหนด
ใจและเตม็ ใจ ไมผ่ ่าน
ทำประโยชน์และสร้างสิ่งที่ดงี ามใหโ้ รงเรียน ชุมชน สังคมดว้ ยความ
สมคั รใจและเต็มใจตามทโี่ รงเรยี นกำหนดเป็นบางครงั้
ไมเ่ คยทำประโยชนแ์ ละสร้างส่งิ ที่ดีงามให้โรงเรียน ชมุ ชน สังคมด้วย
ความสมัครใจและเตม็ ใจตามท่โี รงเรียนกำหนด

คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ขอ้ ที่ 9 : รักษส์ ่งิ แวดลอ้ ม

ตวั ช้ีวดั ผลการประเมิน ระดบั คณุ ภาพ
1. การทิง้ ขยะ
และไมท่ ำลาย ดีเยย่ี ม ทิง้ ขยะลงถัง เกบ็ ขยะทพี่ บเหน็ ทงิ้ ลงถงั ขยะ คดั -แยกการทง้ิ ขยะและ
สงิ่ แวดล้อม รณรงคก์ ารดับเคร่อื งยนต์ขณะจอดรถ

2. การดแู ล ดี ทง้ิ ขยะลงถังและเกบ็ ขยะท่พี บเหน็ ท้ิงลงถังขยะทกุ ครั้ง
สภาพแวดล้อม
ผา่ นเกณฑ์ ทง้ิ ขยะลงถงั

ไมผ่ ่าน ไม่ปฏบิ ตั ติ ามเกณฑ์การผ่าน

ดีเยย่ี ม ปลูกและดูแลตน้ ไมใ้ นบริเวณโรงเรียน/ ท่บี า้ น/ท่ีอนื่ ๆ ไม่เด็ดใบไม้, ดอกไม้
ไม่ทำลายต้นไมแ้ ละไม่เดินลัดสนาม

ดี ปลูกและดูแลตน้ ไม้ในบริเวณโรงเรียน ไมเ่ ดด็ ใบไม้,ดอกไม้ ไมท่ ำลาย
ตน้ ไม้ และไมเ่ ดนิ ลัดสนาม

ผ่านเกณฑ์ ไมเ่ ดด็ ใบไม,้ ดอกไม้ ไมท่ ำลายตน้ ไมแ้ ละไมเ่ ดินลดั สนาม

ไมผ่ ่าน ไมป่ ฏบิ ัตติ ามเกณฑก์ ารผ่าน

คมู่ ือนกั ศกึ ษาประสบการณ์วิชาชีพครู หน้า 17

3.3 การประเมนิ การอ่าน คดิ วเิ คราะห์ และเขยี น

ความหมาย
การประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียน เป็นการประเมินศักยภาพของผู้เรียนในการอ่านจากหนังสือ

เอกสาร และสื่อต่าง ๆ เพื่อหาความรู้ เพิ่มพูนประสบการณ์ เพื่อความสุนทรี และประยุกต์ใช้แล้วนำมาคิดวิเคราะห์
เนื้อหาสาระที่อ่าน นำไปสู่การแสดงความคิดเห็น การสังเคราะห์สร้างสรรค์ การแก้ปัญหาในเรื่องต่าง ๆ และ
ถ่ายทอดความคิดนั้นด้วยการเขียนที่มีสำนวนภาษาถูกต้อง มีเหตุผลและลำดับขั้นตอนในการนำเสนอ สามารถสร้าง
ความเข้าใจแกผ่ ู้อา่ นไดอ้ ย่างชัดเจนตามระดบั ความสามารถในแต่ละระดับชน้ั

หลักการประเมนิ การอ่าน คดิ วเิ คราะห์ และเขยี น
1. เป็นการประเมินเพื่อการปรับปรุงพัฒนาผู้เรียนและประเมินเพื่อการตัดสินการเลื่อนชั้นและจบ

การศึกษาระดับต่าง ๆ
2. ใชว้ ิธกี ารสอบเพ่ือประเมนิ การอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียน
3. การกำหนดภาระงานให้ผเู้ รียนไดป้ ฏิบตั ิควรสอดคล้องกบั ขอบเขตและประเด็นการประเมนิ ท่กี ำหนด
4. ใช้รูปแบบ วิธีการประเมินและเกณฑ์การประเมินเพื่อรายงาน เน้นการรายงานคุณภาพของ

ความสามารถในการอา่ น คิดวิเคราะห์ เปน็ 4 ระดบั คือ ดเี ยยี่ ม ดี ผ่าน และไมผ่ ่าน

รูปแบบประเมนิ ความสามารถในการอา่ น คดิ วเิ คราะห์ และเขยี น
การประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียน เป็นเงื่อนไขสำคัญประการหนึ่งที่ผู้เรียนทุกคนจะต้องได้รับ

การประเมินให้ผ่านเกณฑ์ที่สถานศึกษากำหนด จึงจะได้รับการตัดสินให้ผ่านการเลื่อนชั้นและผ่านการศึกษาแต่ละ
ระดับการศึกษา ซึ่งถือเป็นมาตรการสำคัญอย่างหนึ่งในการพัฒนาและยกระดับคุณภาพการศึกษาที่จะช่วยผู้เรียน
ทุกคนให้ได้รับการฝึกฝนให้มีความสามารถในการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน โดยโรงเรียนสาธิต
มหาวิทยาลัยขอนแก่น ฝ่ายประถมศึกษา (ศึกษาศาสตร์) ได้เลือกรูปแบบการประเมินด้วยการสร้างและพัฒนา
แบบทดสอบตามตัวชี้วัดการประเมินความสามารถ การอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน ได้โดยใช้กระบวนการสร้าง
และพฒั นาแบบทดสอบ แบบทดสอบทม่ี ปี ระสทิ ธิภาพ เพอ่ื นำมาประเมนิ กับผู้เรียนทุกคน รปู แบบการประเมนิ การ
อ่านคิด วิเคราะห์ และเขียน ด้วยการสอบนี้เหมาะกับโรงเรียนเนื่องจากเป็นโรงเรียนที่มีความพร้อมมาก มีขนาด
ใหญ่หรอื ขนาดใหญพ่ เิ ศษ

คมู่ ือนกั ศกึ ษาประสบการณ์วิชาชีพครู หน้า 18

วธิ กี ารประเมนิ การอา่ น คดิ วเิ คราะห์ และเขียน

โรงเรียนไดจ้ ดั ข้อสอบเพอื่ การอา่ นคิด วิเคราะห์ และเขียน ในแตล่ ะระดบั ชน้ั ตัง้ แต่ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่
1 – 6 เพื่อนำมาใช้ประเมินเพื่อตรวจสอบพัฒนาของผู้เรียนในการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียน จากนั้นดำเนินการ
สอบโดยคณะกรรมการของแต่ละระดับชั้น ในช่วงท้ายของภาคเรียน ก่อนดำเนินการสอบปลายภาค นำคะแนนที่
ได้มาเทียบกับเกณฑ์การประเมินที่สถานศึกษากำหนดไว้ แล้วรายงานผลในสมุดรายงานผลการพัฒนาการศึกษา
ของนักเรียนใหผ้ ้ปู กครองรับทราบ

เกณฑก์ ารตัดสินคุณภาพการอ่าน คิดวเิ คราะห์ และเขียน

การประเมินความสามารถในการอ่าน คดิ วิเคราะห์ และเขียนของผูเ้ รียนเพ่ือเล่ือนช้นั และจบการศึกษา แต่
ละระดับการศึกษา ตามเกณฑ์ที่หลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาข้ันพ้นื ฐานพุทธศกั ราช 2551 และสถานศกึ ษากำหนด
การตัดสินการประเมนิ เพ่อื เลอื่ นช้ันใชผ้ ลการประเมนิ ปลายปี ส่วนการตัดสนิ การจบระดบั การศึกษาใชผ้ ลการประเมนิ
ปลายปีสุดทา้ ยของระดับการศึกษา

การประเมินความสามารถในการอา่ น คิดวเิ คราะหแ์ ละเขียนของ กำหนดเกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ
การอา่ น คดิ วเิ คราะหแ์ ละเขียนเป็น 4 ระดับ คอื ดีเยยี่ ม ดี ผ่าน และไมผ่ า่ น

ดีเยีย่ ม หมายถึง มีผลงานท่ีแสดงถึงความสามารถในการอา่ นคดิ วเิ คราะห์และเขียนทีม่ ี
คณุ ภาพดเี ลศิ อย่เู สมอ

ดี หมายถงึ มีผลงานทแี่ สดงถงึ ความสามารถในการอ่านคดิ วิเคราะห์ และเขียนที่มี
คุณภาพเปน็ ทีย่ อมรับ

ผ่าน หมายถึง มีผลงานที่แสดงถึงความสามารถในการอ่านคิดวิเคราะห์ และเขียนที่
มีข้อบกพรอ่ งบางประการ

ไม่ผ่าน หมายถงึ ไม่มีผลงานที่แสดงถึงความสามารถในการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน
หรอื ถา้ มีผลงาน ผลงานนัน้ ยงั มขี อ้ บกพร่องทต่ี ้องไดร้ บั การปรบั ปรงุ
หลายประการ

แนวทางการแก้ไขผู้เรียนกรณีไม่ผา่ นเกณฑ์

ในกรณีที่ผู้เรียนมีผลการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน อยู่ในระดับไม่ผ่านครูผู้สอนและ
คณะกรรมการประเมินได้ดำเนินการจัดกิจกรรมส่งเสริมและพัฒนาให้ผู้เรียนมีความก้าวหน้าในตัวชี้วัดที่
จุดบกพร่อง สมควรได้รับการแก้ไขในระยะเวลาพอสมควรที่ผู้เรียนจะเกิดทักษะการคิด วิเคราะห์ แล้วดำเนินการ

คมู่ ือนกั ศกึ ษาประสบการณ์วิชาชีพครู หน้า 19

สอบใหม่อีกครั้ง หรือจนกว่าจะผ่าน โดยได้คะแนนหรือเกณฑ์การตัดสินที่สถานศึกษากำหนดตั้งแต่ระดับ ดีเยี่ยม
ดี ผ่าน

3.4 กิจกรรมพฒั นาผเู้ รยี น

กิจกรรมพัฒนาผู้เรียนเป็นกิจกรรมที่โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยขอนแก่น ฝ่ายประถมศึกษา(ศึกษาศาสตร์)
จัดให้ผู้เรียนทุกระดับชั้น เพื่อส่งเสริมพัฒนาความสามารถของตนเองตามความถนัดความสนใจให้เต็มศักยภาพ โดย
มุ่งเน้นการพัฒนาองค์รวมของความเป็นมนุษย์ทั้งทางด้านร่างกาย สติปัญญา อารมณ์และสังคม สร้างเยาวชนของ
ชาติให้เป็นผู้มีศีลธรรม จริยธรรม มีระเบียบวินัย ปลูกฝังและสร้างจิตสำนึกของการทำประโยชน์เพื่อสังคมและ
สามารถบรหิ ารจัดการตนเองได้

กจิ กรรมพัฒนาผู้เรียนมี 3 ลกั ษณะ ดังนี้
- กิจกรรมแนะแนว เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมและพัฒนาผู้เรียนให้สอดคล้องกับความสามารถความ

ถนัดและความสนใจ โยคำนึงถึงความแตกต่างระหว่างบุคคล ด้วยกระบวนการทางจิตวิทยาการแนะแนว ให้
สอดคล้องครอบคลุมด้านการศึกษา อาชีพส่วนตัวและสังคม กิจกรรมสำคัญในการพัฒนาได้แก่ กิจกรรมการรู้จัก
เข้าใจและเห็นคุณค่าในตนเองและผู้อื่น กิจกรรมการปรับตัวและดำรงชีวิต กิจกรรมแสวงหาและใช้ข้อมูล
สารสนเทศ กจิ กรรมการตัดสินใจและแกป้ ญั หา เป็นตน้

- กิจกรรมนักเรียน เป็นกจิ กรรมท่ีมงุ่ พฒั นาความมีระเบียบวนิ ัย ความเปน็ ผู้นำ ผตู้ ามทดี่ ีความ
รับผิดชอบการทำงานร่วมกัน การรู้จักการแก้ปัญหา การตัดสินใจที่เหมาะสม ความมีเหตุผล การช่วยเหลือแบ่งปัน
กัน เอื้ออาทรและสมานฉันท์ โดยจัดให้สอดคล้องกับความสามารถ ความถนัด และความสนใจของผู้เรียน ให้ผู้เรียน
ได้ปฏิบัติด้วยตนเองในทุกขั้นตอน ได้แก่ การศึกษาวิเคราะห์ วางแผน ปฏิบัติตามแผน ประเมินและปรับปรุงการ
ทำงาน เน้นการทำงานร่วมกันเป็นกลุ่ม ตามความเหมาะสมและสอดคล้องกับวุฒิภาวะของผู้เรียนบริบทของ
สถานศึกษาและทอ้ งถนิ่ กจิ กรรมนกั เรยี นประกอบด้วย

• กจิ กรรมลูกเสือ เนตรนารี ยุวกาชาด ผู้บำเพญ็ ประโยชน์

• กจิ กรรมชุมชมุ ชมรม
- กจิ กรรมเพ่ือสังคมและสาธารณประโยชน์ การจดั กิจกรรมเพอื่ สงั คมและสาธารณประโยชน์
สามารถนำไปสอดแทรกหรอื บูรณาการในกลมุ่ สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมลูกเสือ เนตรนารี ยวุ กาชาด ผู้บำเพ็ญ
ประโยชน์และนักศกึ ษาวิชาทหาร ไดต้ ามความเหมาะสมทัง้ น้ี การทำกิจกรรมเพ่อื สังคม และสาธารณประโยชน์ ให้
ผเู้ รียนรายงานผลแสดงการเช้ารว่ มกิจกรรมและมีผู้รับรองผลการเขา้ ร่วมกจิ กรรมดว้ ย โดยสถานศกึ ษาจัดเวลาให้
ผ้เู รียน ระดบั ประถมศกึ ษาปที ่ี 1-6 รวม 6 ปี จำนวน 60 ช่ัวโมง (เฉลย่ี ปลี ะ 10 ช่วั โมง)

คมู่ ือนกั ศกึ ษาประสบการณ์วิชาชีพครู หน้า 20

เกณฑก์ ารตัดสนิ
ผู้เรียนจะต้องได้รบั การประเมนิ กจิ กรรมพฒั นาผูเ้ รียน และผ่านเกณฑต์ ามทีส่ ถานศกึ ษากำหนด

โดยกำหนดเกณฑ์ในการประเมินอย่างเหมาะสม ดังนี้
1. กำหนดคุณภาพหรือเกณฑ์การประเมินตามหลักสูตรแกนกลางสถานศึกษากำหนดไว้ 2 ระดับ คือ
ผ่าน และ ไมผ่ ่าน
2. กำหนดประเด็นการประเมินให้สอดคล้องตามจุดประสงค์ในแต่ละกิจกรรมและกำหนดเกณฑ์การผ่าน
การประเมนิ ดังนี้
- เกณฑก์ ารตัดสนิ ผลการประเมินรายกิจกรรม
ผ่าน หมายถึง ผูเ้ รียนมเี วลาเข้ารว่ มกจิ กรรมครบตามเกณฑ์ และปฏิบัติกจิ กรรม
และผลงานของผเู้ รยี นตามเกณฑ์ทีส่ ถานศึกษากำหนด
ไม่ผา่ น หมายถงึ ผู้เรียนมีเวลาเข้าร่วมกจิ กรรมไม่ครบตามเกณฑ์ และไมผ่ า่ นการ
ปฏิบัติกจิ กรรมและผลงานของผู้เรยี นตามเกณฑท์ ่สี ถานศึกษา
กำหนด
- เกณฑ์การตัดสนิ ผลการประเมนิ กจิ กรรมพัฒนาผเู้ รียนรายปี/ รายภาค
ผา่ น หมายถงึ ผูเ้ รียนมผี ลการประเมนิ ระดบั “ผา่ น” ในกจิ กรรมสำคญั ท้ัง 3
กิจกรรม คอื กิจกรรมแนะแนว กิจกรรมนกั เรยี น กิจกรรมเพอ่ื สังคม
และสาธารณประโยชน์
ไมผ่ ่าน หมายถงึ ผู้เรียนมผี ลการประเมนิ ระดับ “ไม่ผา่ น” ในกิจกรรมสำคัญทัง้ 3
กจิ กรรม คอื กจิ กรรมแนะแนว กิจกรรม นักเรยี น กิจกรรมเพื่อ
สังคม และสาธารณประโยชน์
- เกณฑก์ ารตัดสนิ ผลการประเมนิ กจิ กรรมพัฒนาผ้เู รยี นเพ่ือจบระดับการศึกษา
ผา่ น หมายถงึ ผเู้ รียนมผี ลการประเมินระดบั “ผ่าน” ทุกชัน้ ปีในระดบั การศกึ ษาน้นั
ไมผ่ ่าน หมายถึง ผเู้ รียนมีผลการประเมนิ ระดับ “ไม่ผ่าน” บางชนั้ ปใี นระดบั การศกึ ษา

นั้น

แนวการแกไ้ ขผ้เู รียนกรณีไมผ่ า่ นเกณฑ์

ในกรณีที่ผู้เรียนมีผลการประเมินไม่ผ่านกิจกรรม ให้เป็นหน้าที่ของครูหรือผู้รับผิดชอบกิจกรรมนั้นๆท่ี
จะต้องซ่อมเสริม โดยให้ผู้เรียนดำเนินกิจกรรมจนครบเวลาที่ขาด หรือหรือปฏิบัติกิจกรรมให้บรรลุตามวัตถุประสงค์
ของกิจกรรมนั้น แล้วจึงประเมินให้ผ่านกิจกรรม เพื่อบันทึกในระเบียนแสดงผลการเรียน ยกเว้นมีเหตุสุดวิสัยให้
รายงานผบู้ ริหารสถานศึกษาทราบ เพ่อื ดำเนนิ การชว่ ยเหลือผเู้ รยี นอยา่ งเหมาะสมเป็นรายกรณีไป

คมู่ ือนกั ศกึ ษาประสบการณ์วิชาชีพครู หน้า 21

4. ระเบียบทว่ั ไปของโรงเรียน

กำหนดภาคเรียน
โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยขอนแก่น (ศึกษาศาสตร์) กำหนดการเรียนโดยอนุโลมตามระเบียบของ
มหาวทิ ยาลัยขอนแกน่ กลา่ วคอื

1. ในปกี ารศกึ ษาหนง่ึ ๆ มีสองภาคเรยี น
2. แต่ละภาคเรียนมีเวลาเรยี น 18 สัปดาห์
3. โรงเรยี นมีกำหนดการเปิด - ปดิ ภาคเรยี น ปกี ารศึกษา 2565 ดงั นี้

ภาคเรียนท่ี 1 เปดิ เรยี น ช่วงเดือนมถิ นุ ายน
ภาคเรยี นที่ 2 เปิดเรยี น ช่วงเดอื นตุลาคม

ระเบียบการใช้หอ้ งสมุด

1. เปดิ บรกิ าร การยืม - การคืนหนงั สือ เวลา 07.30 น. – 16.30 น. ในวันราชการ
2. ยมื ได้ครัง้ ละ 1 เล่ม ส่งภายใน 1 สปั ดาห์ หรือจะสง่ ก่อนกำหนดแล้วยมื ใหม่ได้
3. ถา้ สง่ หนงั สือเกินกำหนด ปรับวนั ละ 1 บาท ไมน่ บั วันหยุดราชการ
4. กรณหี นงั สือหาย ตอ้ งแจ้งเจา้ หน้าทที่ หี่ อ้ งสมุดและปรับตามราคาหนงั สือ
5. อาจารย์ นกั ศึกษา ยืมหนังสือได้ 2 สัปดาห์ ไม่เกิน 5 เลม่ หนงั สอื บางเล่มให้ยืมได้
ตลอดภาคเรยี น
6. นกั ศึกษาเฉพาะคณะศึกษาศาสตร์ ยืมไดโ้ ดยใชเ้ งินมัดจำ จำนวน 2 เท่าของราคาหนงั สือ
ยืมไดภ้ ายใน 1 สปั ดาห์
7. เมอ่ื ได้รับการทวงหนงั สอื สง่ เกนิ กำหนดใหร้ ีบติดต่อเจ้าหน้าท่ีห้องสมุด
8. ห้ามนำอาหารและเครอ่ื งดื่มมารับประทานในหอ้ งสมดุ
9. หา้ มซอ่ นหนงั สอื เมอื่ มคี วามจำเปน็ ตอ้ งใชห้ นงั สือนั้น ๆ กรณุ าตดิ ตอ่ เจ้าหนา้ ท่หี ้องสมุด
10. ห้ามสง่ เสยี งดงั ในห้องสมุด
หมายเหตุ : กรณีบตั รหาย เมื่อสง่ หนังสอื ควรแจ้งใหเ้ จา้ หนา้ ทที่ ราบทนั ที เพ่อื ความสะดวกตอ่ การยืม
หนังสือและจะไดท้ ำบตั รใหม่ไดอ้ ย่างรวดเร็ว

คมู่ ือนกั ศกึ ษาประสบการณ์วิชาชีพครู หน้า 22

5. ระเบยี บขอ้ ปฏบิ ตั ิของนักเรยี น

การทำกจิ กรรมในแต่ละชว่ งเวลา

1. นักเรียนเขา้ แถวเคารพธงชาติ เวลา 08.15 น.

2. นกั เรยี นมาถึงโรงเรยี นอย่างเรว็ ท่ีสุด เวลา 07.30 น. แลว้ ไปสแกนใบหน้าเคร่ือง

AI Camera เพื่อเช็คชื่อมาโรงเรียน บริเวณประตู 2 (ประตูทิศตะวันตก) และประตู 3 (ประตูทิศตะวันออก) ก่อนไป

ท่ยี ูนทิ

3. นักเรยี นมาถงึ โรงเรียนหลงั จาก 08.15 น. ถือว่ามาโรงเรยี นสาย และถา้ นักเรยี นคนใดมาสาย

เปน็ จำนวน 5 ครงั้ จะถือวา่ ขาดเรียน 1 วัน

4. นกั เรียนดม่ื นม

ยูนทิ เอ – ยูนิทซี เวลา 09.40 น.

ยนู ทิ ดี – ยูนทิ เอฟ เวลา 10.30 น.

5. นักเรียนพักรบั ประทานอาหารกลางวนั

ยนู ทิ เอ – ยนู ิทซี เวลา 11.20 น.

ยนู ิทดี – ยนู ทิ เอฟ เวลา 12.10 น.

6. นักเรยี นเตรียมตวั เข้าชั้นเรยี นในภาคบา่ ย ยนู ทิ เอ, บ,ี ซ,ี เวลา 12.45 น. โดย

ทางโรงเรียนจะเปิดเพลง “โลกสวยด้วยมือเรา” เป็นสัญญาณการเตรียมตัวเข้าชั้นเรียนในภาคบ่ายของนักเรียนและ

สำหรับนักเรียนยนู ทิ ด,ี อ,ี เอฟ จะเตรียมตวั เขา้ ชน้ั เรียนในภาคบา่ ยเวลา 12.50 น.

7. นักเรียนทุกคนเริ่มเรียนวิชาในภาคบ่าย เวลา 13.00 น.

8. เลิกเรยี นเวลา 15.45 น. นักเรียนสแกนใบหน้าที่เครื่อง AI Camera เพ่ือเชค็ ช่ือ

กลับบ้าน ตั้งแต่เวลา 15.45 น. – 17.00 น. หากนักเรียนมีเหตุจำเป็นต้องกลับก่อนเวลา 15.45 น. ให้นักเรียน

แจ้งอาจารยป์ ระจำยนู ิท

9. เม่อื ถงึ เวลา 17.00 น. เสยี งกรง่ิ จะดังขึน้ เพ่ือให้นักเรียนทีเ่ ลน่ บริเวณสนามเด็กเลน่ หยุดเลน่

และไปรอผู้ปกครองที่ศาลาพักผู้ปกครองประตู 2 โดยประตู 2 (ทิศตะวันตก) ปิดเวลา 17.10 น. ประตู 3 (ทิศ

ตะวันออก) ปิดเวลา 17.00 น. จึงขอความกรุณาให้ผู้ปกครองรอรับนักเรียนที่ศาลาพักผู้ปกครองตามเวลาที่

โรงเรยี นกำหนด

การรับนกั เรยี นกลบั
- โรงเรียนจะดแู ลนักเรยี นถึงเวลา 17.00 น.

- ผู้ปกครองสง่ นกั เรียนด้านประตู 2 (ทิศตะวนั ตก) ดา้ นประตู 3 (ทศิ ตะวนั ออก) สว่ นการ

รอรับนกั เรียนนนั้ ผ้ปู กครองสามารถรอรบั ไดท้ บ่ี รเิ วณศาลาพกั ผปู้ กครองไม่รอรับบริเวณรอบ ๆ อาคารเรยี น

คมู่ ือนกั ศกึ ษาประสบการณ์วิชาชีพครู หน้า 23

- กรณที ผ่ี ู้ปกครองต้องการตดิ ต่อกับนักเรียนหรอื อาจารยป์ ระจำยูนทิ ขอใหม้ าตดิ ต่อไดท้ ี่
อาคารธุรการของโรงเรียน พร้อมนำบัตรประจำตัวมาแลกบัตรผ่านเข้าไปในบริเวณโรงเรียน หรือให้เจ้าหน้าที่ธุรการ
เปน็ ผ้ปู ระสานงานการติดต่อกับอาจารย์

การเรยี นวชิ านอกยนู ิท
นักเรียนจะต้องเข้าแถวหน้ายูนิทให้เป็นระเบียบแล้วเดินแถวไปยังยูนิทที่จะเรียนวิชานั้น ๆ อย่างเป็น
ระเบียบ โดยเดนิ เงียบ เป็นระเบยี บตลอดทาง

การทำความเคารพอาจารย์
นักเรียนจะยกมือไหว้กล่าวคำว่า “สวัสดีค่ะ” หรือ “สวัสดีครับ” กับอาจารย์ทุกครั้งที่พบกัน ในขณะที่เดิน
แถวนักเรียนไม่ต้องหยุดไหว้อาจารย์ แต่ให้เดินสวนทางไปโดยนักเรียนจะก้มศีรษะและค้อมตัวเล็กน้อยเป็นการ
แสดงความเคารพเมอ่ื เดินผ่าน

การออกนอกบรเิ วณโรงเรยี น
- โรงเรียนไมอ่ นญุ าตใหน้ ักเรยี นออกนอกบรเิ วณโรงเรียนก่อนเวลาเลิกเรียน
- ในกรณีทน่ี กั เรียนจะต้องกลบั บ้านกอ่ นถงึ เวลาเลกิ เรียน ขอให้ผูป้ กครองเป็นผมู้ ารบั และขอ

อนญุ าตจากอาจารยป์ ระจำยูนิท

การนำเงินมาโรงเรยี น
ทางโรงเรียนอนุญาตให้นักเรียนนำเงินมาโรงเรียนได้ในกรณีที่จำเป็นจริง ๆ เช่น นักเรียนต้องกลับบ้านด้วย
ตนเอง และใหน้ ักเรียนนำเงนิ มาได้ไม่เกนิ 30 บาท ตอ่ 1 วัน

การปฏิบัตเิ มือ่ ทำสิง่ ของหาย
- นักเรียนพบสิง่ ของทไ่ี มใ่ ชข่ องตนเอง ให้นำส่ิงของนน้ั ไปสง่ ท่อี าคารธรุ การของโรงเรยี นซึง่

จะมีเจา้ หน้าท่ีคอยรับไว้ท่ี “ตู้ของหายได้คนื ”
- นักเรียนที่ทำสิ่งของหายให้ไปขอดูสิ่งของนั้นได้ที่อาคารธุรการของโรงเรียนจากเจ้าหน้าที่และ

ทางโรงเรียนจะไม่มีการประกาศของหายเมื่อสิ้นเทอมถ้าไม่มีนักเรียนมารับของหาย ทางโรงเรียนจะนำไปบริจาคให้
โรงเรียนท่ดี ้อยโอกาสในชว่ งปดิ เทอม

- การสง่ – การรับของหายทอ่ี าคารธรุ การจะต้องมีการลงชื่อสง่ – ลงชอื่ รบั สง่ิ ของนัน้ ดว้ ย

การตดิ ต่อระหวา่ งโรงเรยี นและผู้ปกครอง
- การติดต่อระหว่างโรงเรยี นกับผู้ปกครองน้นั ทางโรงเรยี นจะใช้หนงั สือราชการแจง้ ไปยัง

คมู่ ือนกั ศกึ ษาประสบการณ์วิชาชีพครู หน้า 24

ผูป้ กครองโดยการฝากกบั นกั เรียน
- ในกรณที ี่ผูป้ กครองตอ้ งตดิ ตอ่ กบั ทางโรงเรียน สามารถตดิ ตอ่ ไดใ้ นเวลาราชการทกุ วนั หรอื นัดเป็น

กรณีไดท้ ีอ่ าคารธรุ การ

- มีการประชาสัมพันธ์ทางเว็บไซต์ www.primary.satit.kku.ac.thและFacebook โรงเรยี นสาธิต
มหาวทิ ยาลัยขอนแก่น ฝา่ ยประถมศึกษา (ศกึ ษาศาสตร์)

การแต่งกาย
นกั เรียนชาย
เคร่ืองแบบนักเรยี น : กางเกงสเี ทาขาส้ันเสอื้ สีขาวปกั ตรามหาวิทยาลยั ขอนแก่นทีก่ ระเปา๋

หน้าอกซ้าย และปกั ช่อื และนามสกุลท่ีหน้าอกด้านขวา ถงุ เท้าสขี าวแบบยาว รองเทา้ ผ้าใบหรือรองเท้าหนังสีดำ
ทรงผม : ไว้ผมด้านหน้ายาวไม่เกิน 6 ซม. ด้านข้างและท้ายทอยตัดสั้นพองาม ไม่ยาวรุงรัง

(รองทรงสูง)และไม่ทำสผี ม
ชุดพละ : กางเกงวอร์มสีดำ ขายาวรัดขอ้ เสื้อคอโปโลสีเทา ปักตรามหาวิทยาลัยขอนแกน่

ที่กระเป๋าหน้าอกด้านซ้าย และปักชื่อและนามสกุลที่หน้าอกด้านขวา รองเท้าผ้าใบสีขาว และถุงเท้าสีขาว ทั้งนี้ให้
แต่ง ชดุ พละในวันทีเ่ รยี นพลศึกษา

นกั เรยี นหญิง
เครื่องแบบนักเรียน : กระโปรงสีเทา เสื้อสีขาว ปักตรามหาวิทยาลัยขอนแก่นที่กระเป๋า

หนา้ อกข้างซา้ ยและปักชอ่ื นามและสกลุ ที่หน้าอกด้านขวา ถุงเทา้ สขี าว รองเท้าหนังสดี ำ
ทรงผม : นักเรียนหญิงควรจัดทรงผมให้เรียบร้อยกรณีไว้ผมสั้นไม่ควรให้ผมด้านหน้ายาว

ปิดตา หากไว้ผมยาวให้รวบ ถักเปีย หรอื เก็บให้เรยี บรอ้ ย ไม่ปล่อยสยายผม และไมท่ ำสีผม
เคร่อื งประดับ : นักเรียนสามารถใช้กบิ๊ โบ ยางรดั ผม ทคี่ าดผมสดี ำ หรอื สีนำ้ เงนิ เทา่ นนั้
ชุดพละ : กางเกงวอร์มสดี ำ ขายาวรดั ขอ้ เสือ้ คอโปโลสีเทา ปักตรามหาวิทยาลยั ขอนแกน่

ที่กระเป๋าหน้าอกด้านซ้าย และปักชื่อและนามสกุลที่หน้าอกด้านขวา รองเท้าผ้าใบสีขาว และถุงเท้าสีขาว ทั้งนี้ให้
แตง่ ชุดพละในวันท่ีเรยี นพลศึกษา

กระเปา๋
ทางโรงเรียนอนญุ าตใหใ้ ช้กระเป๋าสะพายหลัง กระเปา๋ หวิ้ ได้ตามขนาดและเหมาะสมกับ

นักเรียนโดยสามารถใช้สีดำ สีเทา สีน้ำเงิน สีน้ำตาล ทั้งนี้จะต้องไม่มีลวดลายบนกระเป๋า และควรใช้กระเป๋าผ้าเม่ือ
นักเรียนตอ้ งนำอุปกรณไ์ ปเรียนวิชานอกยนู ิท

คมู่ ือนกั ศกึ ษาประสบการณ์วิชาชีพครู หน้า 25

การใชเ้ คร่ืองประดบั และของมคี า่
ทางโรงเรียนไม่อนุญาตให้นักเรียนสวมเครื่องประดับที่มีค่ามาโรงเรียน เช่น สร้อย แหวน

หรือเครื่องประดับตามสมัยนิยม ยกเว้นนาฬิกา ไม่อนุญาตให้นำโทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด แท็บเล็ต
และเครอ่ื งมอื สอ่ื สาร เทคโนโลยสี ารสนเทศตา่ ง ๆ มาโรงเรียน

การแตง่ กาย

เครอ่ื งแบบนักเรียนชาย
เสื้อ เสื้อเชิ้ต สีขาวแขนสั้น ไม'ใส'สาบหน0า ผ'าอกตลอด
ติดกระดุมสีขาว มีกระเปdาที่หน0าอกด0ายซ0ายบน
กระเปdาปgกตรามหาวิทยาลัยขอนแก'นด0านขวาปgก ชื่อ-นามสกุล
ดว0 ยไหมสีเทาแก' ชายเส้อื ให0ยาวจากเอวลงมาอย'างนอ0 ย 6 นิ้ว
กางเกง กางเกงขาสน้ั สีเทาแกแ' บบสภุ าพ ไม'มีหู
ขอบกางเกง ใชข0 อเกย่ี ว
รองเท5ารองเทา0 ห0ุมส0นสดี ำ

ถงุ เทเคา5 รถือ่ งุ งเทแา0บสบีขนากัวเลรว0 ยี นนหไญมพ' งิ ับ
เสื้อ เสื้อสีขาวแขนสั้น ปกคอบัวผ'าอกตลอด

เสื้อปล'อยตรง ติดกระดุมสีขาว หน0าอกด0านซ0ายปgกตรา
มหาวิทยาลัยขอนแก'น ด0านขวาปgก ชื่อ-นามสกุลด0วยไหม
สเี ทาแก'

กระโปรง กระโปรงสีเทาแก' ด0านหน0าและ
ด0านหลังจีบ ด0านละ 4 จบี ไมต' 0องเดนิ เกล็ดยาว
พอสมควร

รองเท5า รองเท0าหนงั หุม0 ส0นสีดำ มยี างรัด
ถงุ เท5าสขี าวลว0 นแบบยาวและพบั ลงให0
เรียบร0อย

เครอ่ื งแบบพลศกึ ษา คมู่ ือนกั ศกึ ษาประสบการณ์วิชาชีพครู หน้า 26

±เสอ้ื คอปกโปโลสีเทา ปกg ตรามหาวทิ ยาลยั
ขอนแกน' ด0วยไหมสแี สดที่กระเปdาบนหนา0 อกซ0าย
และปgกชอ่ื และนามสกุลบนหน0าอกขวา
±กางเกงวอรqมสดี ำขายาวแบบรัดข0อ
±รองเทา0 ผ0าใบสขี าว ไมม' ลี วดลาย
±ถุงเท0าสขี าว
หมายเหตุ เครอ่ื งแบบพลศึกษาของนกั เรียนชาย
และนกั เรยี นหญงิ และเครื่องใชท0 ุกชิ้นใหป0 กg หรอื
เขียนชอ่ื นักเรยี นดว0 ยปากกาเคมี

±เสอ้ื ยืดกฬี าสขี องนักเรียน
± ชายเสอ้ื เขา0 ข0างในให0เรียบร0อย
±กางเกงวอรqมสดี ำขายาวแบบรดั ขอ0
±รองเทา0 ผา0 ใบสีขาว ไม'มลี วดลาย
±ถุงเท0าสขี าว

คมู่ ือนกั ศกึ ษาประสบการณ์วิชาชีพครู หน้า 27

เคร่อื งแบบลกู เสือ – เนตรนารี

ลกู เสือสามัญ ยูนทิ อี – ยนู ทิ เอฟ
หมวก หมวกปกv สกี ากี พับขา0 ง มีเครื่องหมายหนา0 เสือตดิ ดอกจนั

ข0างหมวก
เสอื้ สีกากี อกขวาปgกช่อื สกุลด0วยสีเหลอื งพื้นดำ ไหลข' วาปกg ปาw ยช่อื

โรงเรียนไหลซ' 0ายปกg ปาw ย “จังหวัดขอนแกน' ”
กางเกง สเี ดียวกับเสื้อ มกี ระเปdา 2 ข0าง มหี ูรอ0 ยเข็มขดั
ผา5 ผกู คอ รปู สามเหลีย่ มหน0าจัว่ ดา0 นฐานยาว 100 ซม. ดา0 นต้ังยาว 75 ซม.

สีตามเขตการศึกษา ดา0 นหลังติดเคร่ืองหมายจงั หวดั (สีเลือดหมู,
ตราพระธาตขุ ามแกน' ) ใชห0 ว' งสวมตราลูกเสือ
เข็มขดั เข็มขัดหนงั สีน้ำตาล กวา0 งไมเ' กิน 3 ซม. หัวเข็มขดั ทำดว0 ยโลหะ
สที อง มลี ายดุนรูปตราคณะลกู เสอื แห'งชาตภิ ายในกรอบชอ'
ชัยพฤกษq ดา0 นลา' งมคี ตพิ จนลq ูกเสอื “เสยี ชีพอย'าเสียสัตยq”
ถุงเทา5 ถุงเทา0 สีกากี
รองเท5า รองเท0าผ0าใบสีนำ้ ตาลแก' ไมม' ีลวดลาย

เนตรนารีสามัญ ยูนิทอี– ยูนิทเอฟ
หมวก สเี ขยี วไม'พบั จบี หลงั มีเข็มเคร่อื งหมายเนตรนารีติดอยูท' ห่ี นา0 หมวก
เสอ้ื สีเขียวอกขวาปกg ชือ่ -สกลุ สเี หลืองพื้นดำ อกซา0 ยติดเข็มเนตรนารี

ไหลข' วาปgกปาw ยชอ่ื โรงเรียน ไหลซ' 0ายปgกปwายจงั หวดั ขอนแก'น
กระโปรง สีเดียวกับเส้อื
ผา5 ผกู คอ รูปสามเหลย่ี มหน0าจัว่ ดา0 นฐานยาว 100 ซม. ดา0 นต้ังยาว 75 ซม.

สีตามเขตการศึกษา ดา0 นหลังติดเครื่องหมายจังหวดั (สีเลอื ดหมู,
ตราพระธาตขุ ามแก'น) ใชห0 'วงสวมตราเนตรนารี
เข็มขดั เข็มขดั หนงั สีดำ หัวเข็มขัดทำดว0 ยโลหะสที อง สญั ลกั ษณเq นตรนารี
ถงุ เท5า สีขาวยาวพบั ลงให0สัน้ อย'างเรยี บรอ0 ย
รองเทา5 รองเทา0 หนังสีดำ (รองเทา0 นักเรียน)

คมู่ ือนกั ศกึ ษาประสบการณ์วิชาชีพครู หน้า 28

ส"วนท่ี 2 ขน้ั ตอนการเข+าปฏิบัติการสอนในสถานศกึ ษา

1. นักศึกษาปฏิบัติการสอนเข้าประชุมสัมมนารับฟังการชี้แจงรายละเอียดการปฏิบัติการสอนใน
สถานศึกษา บทบาทหน้าที่ของนักศึกษา การส่งงานของนักศึกษา การประเมินการปฏิบัติการสอน
การทำรายงานผลการจัดการเรียนรู้และพัฒนาผู้เรียน การจัดทำรายงานการวิจัยในชั้นเรียนจากศูนย์ประสบการณ์
วิชาชพี ครู

2. นักศึกษาเข้ารับการปฐมนิเทศเพื่อรับฟังการชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับแนวทางการปฏิบัติตนในการ
ปฏิบัติการสอนในสถานศึกษา จากคณะผู้บริหารในโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยขอนแก่น ฝ่ายประถมศึกษา
(ศกึ ษาศาสตร)์ โดยมคี ณาจารย์จากคณะศึกษาศาสตร์เข้าร่วมกิจกรรมในคร้งั น้ดี ว้ ย

3. นักศึกษาเข้าพบอาจารย์พี่เลี้ยงประจำวิชาและอาจารย์พี่เลี้ยงประจำชั้น เพื่อรับรายละเอียดเกี่ยวกับ
การจัดการเรียนการสอน การวางแผนและออกแบบการจัดการเรียนรู้ การจัดการงานประจำชั้น การจัดชั้นเรียน
การจัดป้ายนเิ ทศ และอนื่ ๆ

4. นักศึกษาปฏิบัติการสอนตามภาระงานที่ได้รับมอบหมาย โดยมีอาจารย์พี่เลี้ยงให้คำปรึกษาคำแนะนำ
ดูแลอย่างใกล้ชิด และสม่ำเสมออย่างต่อเนื่อง ทั้งการเป็นต้นแบบที่ดีในการเป็นพี่เลี้ยงประจำวิชา
พี่เลี้ยงประจำชั้น ที่ปรึกษาการทำวิจัย ที่ปรึกษาปัญหาส่วนตัวที่เกิดในระหว่างการปฏิบัติการสอน ให้กำลังใจ
นักศึกษา ซึ่งในระหว่างการจัดการเรียนการสอน ครูพี่เลี้ยงจะสังเกตการจัดการเรียนรู้ของนักศึกษาในทุกคาบเรียน
เพื่อสะท้อนผลการจัดการเรียนรู้ แก้ไขสถานการณ์การสอนที่คลาดเคลื่อนจากความคิดรวบยอดและเพื่อ
พัฒนาการจัดการเรยี นรู้ของนักศึกษาใหส้ มบรู ณม์ ากทส่ี ุด

5. นกั ศกึ ษาส่งแบบประเมนิ การปฏิบัตกิ ารสอน ประกอบดว้ ย
5.1 แบบประเมนิ การปฏบิ ัตกิ ารสอนในสถานศกึ ษา 3 รายการ
1) แบบประเมินท่ี 1 ด้านความรูท้ างวชิ าชพี (Profession Knowledge)
2) แบบประเมนิ ที่ 2 ด้านการปฏิบัติทางวชิ าชพี ครู (Profession Practice)
3) แบบประเมินที่ 3 ด้านคุณลักษณะความเป็นครูมืออาชีพ (Profession valued and

Attributes)
5.2 แบบบนั ทึกการปฏิบตั ิการสอนในสถานศึกษา 2 รายการ
1) แบบบนั ทึกที่ 1 บันทึกประจำสัปดาห์
2) แบบบนั ทึกท่ี 2 บนั ทึกหลังรบั การนเิ ทศ
5.3 แบบสังเกตการจัดการเรียนรู้

คมู่ ือนกั ศกึ ษาประสบการณ์วิชาชีพครู หน้า 29

6. นักศึกษาเข้าสัมมนาและสะท้อนผลการปฏิบัติการสอนในสถานศึกษาที่คณะศึกษาศาสตร์ประจำทุก
เดอื น และตดิ ตามรายงานผลการทำวจิ ยั กับอาจารยพ์ เ่ี ล้ียงอยา่ งตอ่ เนือ่ งและสม่ำเสมอ

7. นกั ศกึ ษารว่ มประเมนิ ผลการพัฒนาการศกึ ษาของนกั เรยี นเปน็ รายบคุ คล
แผนภาพข้นั ตอนการเขา้ ปฏิบตั กิ ารสอนในสถานศกึ ษา

1. นักศกึ ษาเข้าประชุมสัมมนาจากศูนย์ประสบการณว์ ชิ าชีพครู

2. นักศึกษาเข้ารับการปฐมนิเทศจากคณะผบู้ ริหาร

3. นกั ศกึ ษาเขา้ พบอาจารย์พี่เลีย้ งประจำวิชาและอาจารย์พเี่ ลย้ี งประจำชั้น

4. นกั ศกึ ษาปฏิบตั กิ ารสอนตามภาระงานที่ได้รับมอบหมาย

5. นักศึกษาส่งแบบประเมนิ การปฏบิ ัตกิ ารสอน

6. นักศึกษาเข้าสมั มนาและสะทอ้ นผลการปฏบิ ตั ิการสอน

7. นักศึกษารว่ มประเมินผลการพัฒนาการศึกษาของนกั เรียน

คมู่ ือนกั ศกึ ษาประสบการณ์วิชาชีพครู หน้า 30

สว่ นที่ 3 แนวทางการปฏบิ ัติตนของนักศกึ ษา

โรงเรียนกำหนดแนวทางการปฏบิ ตั ิตนของนกั ศกึ ษา ดงั น้ี
1. การมาโรงเรียนและการแต่งกาย

1.1 การมาโรงเรียน โรงเรียนกำหนดให้นักศึกษามาปฏิบัติงานในโรงเรียนภายในเวลา 7.30 น.

โดยมีรายละเอยี ดดังน้ี

เวลามาปฏบิ ัติงาน ระดับ

7.30 น. ปฏบิ ตั งิ านไดด้ มี าก

7.31 – 7.40 น. ปฏิบตั ิงานได้ดี

7.41 – 7.50 น. ปฏบิ ัติงานได้ปานกลาง

7.51 – 8.00 น. ปฎิบัตงิ านไดพ้ อใช้

ชา้ กวา่ 8.00 น. ควรปรบั ปรุง

1.2 แต่งกายด้วยชุดนักศึกษาให้ถูกระเบียบตามที่คณะศึกษาศาสตร์และมหาวิทยาลัยขอนแก่น
กำหนด

1.3 แต่งกายด้วยชดุ นักศกึ ษาทส่ี ะอาดและไมม่ ีกลน่ิ อับ
1.4 เลี่ยงการแต่งกายที่เปิดเผยให้เห็นส่วนของร่างกายที่ควรสงวน ไม่สวมเสื้อคอลึกเกินไป ไม่
สวมเสือ้ ผ้ารดั แนน่ จนไม่เหมาะสม ไม่สวมกระโปรงทีส่ ้นั มาก ควรคำนงึ ถึงความเหมาะสมชว่ งกม้ ตวั
1.5 ถา้ เสอื้ ชนั้ นอกบาง นกั ศึกษาหญงิ ควรสวมเส้อื บังทรง นกั ศึกษาชายควรสวมเสื้อกล้าม
1.6 นักศึกษาชายควรสวมถุงเท้าที่ยาวพอที่จะปิดบังช่วงขาในเวลาที่นั่ง ถุงเท้าที่ไม่มีกลิ่นอับ และ
ไมม่ ีรอยขาด
2. การปฏิบัตหิ นา้ ทเี่ วรประจำวัน

2.1 การปฏิบัติหน้าที่เวรประตู ปฏิบัติงานเวลา 7.30 น. – 8.30 น. และ เวลา 15.30 น. – 17.00

น. ซึ่งการยืนเวรในตอนเช้า ให้อาจารย์ยืนบริเวณหน้าประตู โดยหันหน้าไปที่หน้าประตูโรงเรียน รับไหว้และ

ทักทายนักเรียน สังเกตการเดินเข้าประตูของนักเรียน หากสังเกตพบว่านักเรียนเดินบริเวณที่ไม่ปลอดภัย

จะได้รีบช่วยเหลือทันที เมื่อพบว่านักเรียนไหว้ไม่สวยงาม หรือแต่งกายไม่เรียบร้อย อาจารย์เวรควรให้คำแนะนำ

นักเรียน ในการน้อี าจารย์เวรประตจู ะไดช้ ว่ ยดแู ลและแก้ไขการสแกนใบหนา้ ของนกั เรยี น ซึง่ มีกรณตี ่าง ๆ ดังนี้

- นกั เรียนทเ่ี ครือ่ งไม่สแกนใบหนา้ ให้นกั เรียนเดนิ ออกจากบรเิ วณกล้องแลว้ เรมิ่ สแกนใหม่

- ให้นกั เรียนถอดแว่นตาและหน้ากากอนามยั ก่อนการสแกนใบหนา้

คมู่ ือนกั ศกึ ษาประสบการณ์วิชาชีพครู หน้า 31

- หากพบปัญหาที่ไม่สามารถแก้ไขได้ให้ติดต่อผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนานักเรียนและ
องค์กรสมั พันธ์

2.2 การปฏบิ ัติหน้าทเี่ วรหนา้ เสาธง
2.2.1 ดูแลการยนื ของนักเรียนโดยนักเรยี นชายยืนด้านซ้ายนักเรียนหญิงยนื ดา้ นขวา หนั

หน้าเข้าหาเสาธง นกั เรยี นชายชักธงนกั เรยี นหญงิ ปลอ่ ยเชือกธงข้ึนสูย่ อดเสา
2.2.2 แนะนำการออกเสียงคำให้ถกู ตอ้ งและชดั เจน การออกเสยี งคำวา่ น่งั ขัดสมาธิ อ่านวา่

ขดั -สะ-หมาด
2.2.3. อาจารย์เวรปฏิบตั ิตนเป็นตัวอยา่ งใหน้ กั เรยี นทกุ ข้ันตอน เชน่ การปฏิบตั ิทา่ สมาธิ

ตามแนวทางการนง่ั สมาธขิ องหลวงพ่อเทียน วดั โมกขวนาราม
2.2.4. หลงั จากอาจารย์เวรหนา้ เสาธงรบั ประทานอาหารกลางวันเสรจ็ ใหอ้ าจารยเ์ วรดูแล

นักเรียนที่เล่นในสนามเด็กเล่น โดยกำหนดให้นักเรียนยูนิทเอ – ซี งดเล่นเวลา 12.40 น. ยูนิทดี – เอฟ งดเล่นเวลา
12.50 น. ซึ่งโรงเรียนจะเปิดเพลงโลกสวยด้วยมือเราเป็นสัญญาณการเตรียมตัวเข้าชั้นเรียน โดยในเวลา 12.50 น.
ประกาศให้นักเรียนทุกคนออกจากสนามเด็กเล่น ล้างมือ และกลับยูนิทเพื่อเตรียมเข้าเรียนช่วงเวลา 13.00 น.
ในกรณีนักเรียนได้รับอุบัติเหตุในช่วงเวลาพักกลางวัน ให้ดูแลนักเรียนพาไปห้องพยาบาลเพื่อปฐมพยาบาลและแจ้ง
อาจารย์เวรหน้าเสาธงด้วย เพราะหากมีอาการรุนแรง เช่น อวัยวะผิดรูป เลือดไหลไม่หยุด ฟันหัก กระดูกแตก
จะได้ติดต่อเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล โดยการแจ้งเจ้าหน้าที่ธุรการโทรเรียกรถพยาบาลมารับนักเรียนที่โรงเรียน อน่ึง
การใช้บรกิ ารโรงพยาบาลใหใ้ ชบ้ ริการตามทม่ี ใี นบัตรประกันอุบตั ิเหตขุ องโรงเรยี น คอื โรงพยาบาลราชพฤกษ์

2.3. อาจารยเ์ วรทำการบันทึกเหตกุ ารณ์ในแบบบันทึกการปฏบิ ัติหนา้ ทเี่ วร โดยเวรประตใู ห้
บันทกึ ในแบบบันทกึ ท่ีผชู้ ว่ ยผอู้ ำนวยการฝ่ายพัฒนานักเรยี นและองคก์ รสมั พนั ธจ์ ัดเตรยี มให้ เมอ่ื บนั ทกึ เสรจ็ ในเกบ็
ลงกล่องเก็บเอกสารใหเ้ รียบรอ้ ย ส่วนอาจารยเ์ วรหน้าเสาธงใหบ้ ันทกึ ในแบบบนั ทกึ ท่เี คาน์เตอรห์ น้าห้องพยาบาล
อาคารธรุ การ

2.4. อาจารยเ์ วรตรวจถาดใหอ้ าจารย์เวรปฏบิ ตั หิ นา้ ทเ่ี วรตรวจถาดตามคำส่ังปฏิบัติหนา้ ทเ่ี วร
ประจำวัน โดยอาจารย์ที่ปฏิบัติหนา้ ที่เวร ช่วงที่ 1 เวลา 11.20 น. – 12.10 น. ชว่ งท่ี 2 เวลา 12.10 น. – 12.50 น.
ซง่ึ ในการตรวจถาดควรตรวจในมาตรฐานเดยี วกนั คอื ใหน้ กั เรยี นรับประทานอาหารให้หมดถาดและควรดมู ารยาท
การรับประทานอาหารของนกั เรยี นด้วย เช่น ไมอ่ นญุ าตใหน้ กั เรียนเดินเค้ียวอาหาร ไมพ่ ดู คุยหยอกลอ้ และเลน่ กัน
ในขณะทีร่ ับประทานอาหาร ไม่ทง้ิ อาหารลงใต้โต๊ะ ไม่ใหน้ ำอาหารออกไปรบั ประทานนอกโรงอาหาร เน่ืองจาก
ปรมิ าณอาหารท่ตี กั ให้นักเรยี นมคี วามเหมาะสมกบั วยั ของนักเรยี น ในกรณที ี่นักเรียนแพอ้ าหาร ใหแ้ จ้งอาจารย์
ประจำยูนทิ หรือเจ้าหน้าทโ่ี รงอาหาร

คมู่ ือนกั ศกึ ษาประสบการณ์วิชาชีพครู หน้า 32

3. การดูแลนกั เรยี นช่วงกิจกรรมหนา้ เสาธง

3.1. อาจารย์ประจำยนู ทิ อาจารย์ผู้ชว่ ยยูนทิ และนกั ศกึ ษาปฏิบัติการสอนในสถานศึกษา ชว่ ยกัน
ดูแลนักเรยี นในช่วงกิจกรรมหนา้ เสาธง ดงั นี้

3.1.1 ใหน้ กั เรยี นจัดแถว โดยเรียงตามลำดบั ไหล่ ใหน้ ักเรยี นทสี่ ูงทีส่ ุดอยทู่ ้ายแถว การจดั แถว
ให้แยกเป็น 2 กลุ่ม แยกหญิงและชาย หลีกเลี่ยงการเข้าแถวที่ไม่เป็นระเบียบ เช่น ใครมาถึงก่อนอยู่ก่อนหรือเข้า
แถวตามใจชอบ

3.1.2 อาจารยช์ ่วยกันดูการจดั แถวของนักเรยี น ใหน้ กั เรยี นเข้าแถวให้ตรงกับหัวแถว หากเขา้
แถวตอนลึกให้เหยียดแขนขวาแตะไหล่คนข้างหน้า โดยไม่งอแขน ส้นเท้าชิด ปลายเท้าแยกเล็กน้อยเพื่อให้ทรงตัวได้
หากเข้าแถวหนา้ กระดาน ให้หา่ งกัน 1 ศอก และใหป้ ลายเทา้ ตรงกับหวั แถว

3.1.3 อาจารย์ดูแลการเคารพธงชาติ ให้นักเรียนวางแขนแนบชิดลำตัว หนา้ มองตรง ปฏบิ ัตติ น
อย่างสำรวม ร้องเพลงชาติให้ถูกต้องและชัดเจน หากนักเรียนเล่นหรือแสดงพฤติกรรมที่ไม่สำรวม ให้อาจารย์
ตกั เตือนหลงั จากเพลงชาติจบ ไม่ให้ทำการเตอื นระหวา่ งรอ้ งเพลงชาติ

3.1.4 อาจารย์สังเกตและดแู ลนักเรยี นในชว่ งสวดมนต์ไหว้พระ หากนักเรยี นพนมมอื ไม่
สวยงามเล่นกัน หรอื คยุ กัน ขอใหอ้ าจารย์ตักเตอื นและปรบั พฤติกรรมการไหวข้ องนักเรียนทนั ที

4. การดแู ลนกั เรียนในชน้ั เรียน

4.1. อาจารยค์ วรแนะนำกฎระเบยี บตา่ ง ๆ โดยยึดกฎของโรงเรียนอย่างเคร่งครัด หากนักเรียน
ทำผิดกฎ อาจารย์ควรตักเตือน ไม่เพิกเฉย เพราะจะได้ช่วยปรับพฤติกรรมของนักเรียนให้เป็นไปในแนวทางท่ี
เหมาะสม ช่วยสนับสนุนการตระหนักผิดชอบชั่วดีของเด็ก อาจารย์ควรพัฒนานักเรียนอย่างต่อเนื่องทุกวัน อาจารย์
ควรปฏบิ ัตติ นเป็นแบบอยา่ งท่ีดใี นทกุ ด้าน

4.2. การตัดสนิ เหตกุ ารณ์หรอื ข้อพพิ าทต่าง ๆต้องอยู่บนพืน้ ฐานของหลักความถูกต้องถูกกฎหมาย
ถกู กฎระเบยี บของโรงเรยี น และยตุ ิธรรม อาจารยต์ ้องมเี มตตาธรรม ใจเย็น ดำเนินการสอบถามเหตุการณ์ทเี่ กดิ ขนึ้
โดยให้ความเป็นธรรมทัง้ สองฝา่ ย เปดิ โอกาสใหเ้ ด็กเลา่ เร่ืองทีเ่ กิดข้นึ โดยครวู เิ คราะห์ ไตรต่ รองส่งิ ทีเ่ กดิ ขนึ้ ด้วย
ข้อมลู ท่เี ป็นจรงิ และสมเหตสุ มผล เนน้ การตดั สินดว้ ยวิธีปรองดอง ใหน้ กั เรยี นไดว้ ิเคราะหพ์ ฤตกิ รรมของตนเอง การ
ส่งผลกระทบต่อตนเอง ครอบครวั และบคุ คลตา่ ง ๆ ในสังคม เมือ่ นักเรยี นสำนกึ ผิด ควรให้ขอโทษคู่กรณีและ
ปรบั ปรงุ ตนให้เป็นคนดใี นโอกาสตอ่ ไป ท้ังน้ี อาจารย์ควรเกบ็ ขอ้ มูลของนักเรียนเป็นความลับ ไม่นำความผิดของเด็ก
ไปประจาน

4.3. ในกรณีที่นักเรียนกระทำผิดแต่ไม่ยอมรับผิด อาจารย์ควรหาเทคนิควิธีการเพื่อให้นักเรียนได้
สำนึกและตรวจสอบพฤติกรรมตนเอง ไม่ควรกล่าวหาโดยไม่มีหลักฐาน อาจารย์ควรสังเกตพฤติกรรมอย่างต่อเนื่อง

คมู่ ือนกั ศกึ ษาประสบการณ์วิชาชีพครู หน้า 33

เพื่อเก็บรายละเอียดพฤติกรรมของนักเรียนในการนำมาวิเคราะห์ หากต้องการแนวทางหรือข้อเสนอแนะเพิ่มเติม
อาจจะปรึกษาอาจารย์ผมู้ ีประสบการณ์เพือ่ หาแนวทางในการพฒั นาพฤติกรรมนักเรยี นใหม้ ีลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

4.4. เมื่อนักเรียนไม่สบายหรือได้รับอุบัติเหตุ อาจารย์ควรพิจารณาปฐมพยาบาลตามหลักที่
ถูกตอ้ ง ไม่ควรเพิกเฉยตอ่ เหตกุ ารณท์ เี่ กิดขน้ึ ตวั อยา่ งการปฐมพยาบาล มีดงั น้ี

4.4.1 นักเรียนถูกกระแทกด้วยของแข็งไม่มีคม อาจารย์ควรประคบด้วยน้ำแข็ง หรือ
เจลประคบเยน็ ทีอ่ ยู่ในห้องพยาบาล ไม่ควรทายาหมอ่ ง หรอื ประคบดว้ ยของรอ้ น

4.4.2 นักเรียนที่ได้รับอุบัติเหตุจากของมีคม ให้อาจารย์ห้ามเลือดให้นักเรียนตาม
หลักการปฐมพยาบาลและทำแผลใหส้ ะอาดเรียบรอ้ ย หากเปน็ อบุ ัตเิ หตทุ ีร่ ุนแรงควรสง่ โรงพยาบาลทนั ที

4.4.3 นกั เรยี นที่เลอื ดกำเดาไหล ใหป้ ฏบิ ัติดังนี้
4.4.3.1 ให้นักเรียนบีบจมูก หายใจทางปาก ก้มหน้าเล็กน้อย เพื่อป้องกันเลือด

ตกเข้าคอและหลอดลม ซึ่งอาจทำให้ระคายเคือง สำลัก หรือเลือดไหลเข้าปอดได้ หลีกเลี่ยงการเงยหน้าหรือให้
นักเรยี นนอนราบ

4.4.3.2 นั่งหลังตรง เพราะจะช่วยบังคับปริมาณและความดันเลือดลดลง
เนื่องจากศรี ษะอยสู่ ูงกวา่

4.4.3.3 หากเลือดออกเป็นจำนวนมากให้ใช้น้ำแข็งประคบบริเวณจมูกเพื่อช่วย
ให้เลอื ดหยดุ ไหลเรว็ ขน้ึ

4.5 ในกรณีที่อาจารย์สายวิชาพบนักเรียนที่ไม่สบายหรือเกิดอุบัติเหตุในคาบเรียน ควรปฐม
พยาบาลให้เรียบร้อย และดำเนินการแจ้งอาจารย์ประจำยูนิท เพื่อแจ้งให้ผู้ปกครองทราบในโอกาสต่อไป หลีกเลี่ยง
การส่งนักเรียนไปรักษาหรือให้อาจารย์ประจำยูนิทปฐมพยาบาลหรือส่งไปห้องพยาบาล ผู้สอนควรดูแลนักเรียนให้
ปลอดภยั

4.6. อาจารย์ควรหลีกเลี่ยงหรืองดใช้โทรศัพท์ในขณะสอน งดการใช้สื่อโซเชียล เช่น Facebook,
Instagram ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเรียนการสอน ควรใช้สื่อโซเชียลให้เกิดประโยชน์ หากเป็นการติดต่อส่วนตัวที่ไม่
สำคญั ควรใช้นอกเวลาราชการ

4.7. งดการถ่ายภาพนักเรียนที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเรียนการสอนและการดำเนินกิจกรรมของ
โรงเรียน

คมู่ ือนกั ศกึ ษาประสบการณ์วิชาชีพครู หน้า 34

5. การลงโทษนักเรยี น

5.1. อาจารย์ควรลงโทษนกั เรียนตามระเบียบกระทรวงศึกษาธกิ ารวา่ ดว้ ยการลงโทษนกั เรยี นและ
นักศึกษา พ.ศ. 2548 และใช้แนวทางตามหลักจิตวิทยา ซึ่งการลงโทษมีความมุ่งหมายเพื่อการอบรมสั่งสอน ไม่
ลงโทษด้วยวิธีรุนแรงหรือกลั่นแกล้ง หรือลงโทษด้วยความโกรธ ให้คำนึงถึงอายุของนักเรียนและความร้ายแรงของ
พฤติกรรมประกอบการลงโทษ อาจารย์ควรลงโทษเพื่อเจตนาที่จะแก้นิสัยและความประพฤติไม่ดีของนักเรียน ให้รู้
สำนึกในความผิดและกลับมาประพฤติตนในทางที่ดีต่อไป ในการลงโทษอาจารย์ไม่ควรประจานเพื่อให้นักเรียนเกิด
ความอบั อายหรอื รสู้ กึ ไมป่ ลอดภยั ขาดความมัน่ ใจในการดำรงชวี ิต

5.2. แนวทางการลงโทษอาจจะมี 4 สถาน ได้แก่
5.2.1 วา่ กล่าวตักเตือน
5.2.2 ทำทณั ฑบ์ น
5.2.3 ตัดคะแนนความประพฤติ
5.2.4 ทำกจิ กรรมเพ่ือใหป้ รับเปลย่ี นพฤติกรรม

5.3. ในการลงโทษควรหลีกเลี่ยงการให้นักเรียนทำในสิ่งที่มีคุณค่า แล้วแจ้งนักเรียนว่าเป็นการ
ลงโทษ แตค่ วรปรบั การส่อื สารใหน้ ักเรยี นตระหนักถึงสงิ่ ที่ปฏิบตั ิเพ่อื แกไ้ ขให้ปฏิบัตติ นในทางที่เหมาะสม เช่น

5.3.1 มาสายแล้วให้เก็บขยะ เปลี่ยนเป็น มาสายแล้วอาจารย์อบรม แนะนำวิธีการแก้ไข
การมาสาย เช่น ตื่นเช้ากว่าเดิม วางแผนการมาโรงเรียน หลังจากนั้นจึงแจ้งให้นักเรียนช่วยบำเพ็ญประโยชน์ต่อ
โรงเรยี น

5.3.2 นักเรียนไม่ทำการบ้านส่งอาจารย์ ไม่ควรเพิ่มจำนวนงานให้นักเรียนแต่ควรอบรม
ใหน้ กั เรียนวเิ คราะหผ์ ลที่จะเกดิ จากการไม่ทำการบ้านหรืองานเพื่อสง่ ตรงเวลา

5.3.3 หากนักเรียนรับประทานอาหารไม่หมดถาด ไม่ควรแจ้งนักเรียนว่าจะให้
รับประทาน 2 ถาด หรือมากกว่า 1 ถาด ควรให้ข้อเสนอแนะวิธีการรับประทานและคุณค่าของอาหารที่จะส่งผลต่อ
ร่างกายของนักเรียน เช่น จะได้มีพลังงานในการเรียนในช่วงบ่าย ช่วยทำให้สมองได้รับการพัฒนา ร่างกาย
เจรญิ เตบิ โตสมวยั

6. การลาโรงเรยี น

ในกรณีที่นักศึกษามีความจำเป็นต้องลาโรงเรียน ให้ปฏิบัติตามระเบียบการลาของคณะศึกษาศาสตร์
มหาวทิ ยาลัยขอนแก่น และควรปฏบิ ัตดิ งั น้ี

6.1 การลาปว่ ย
6.1.1 หากนักศกึ ษาป่วยแต่สามารถพูดคยุ ได้ ควรโทรแจง้ รองผู้อำนวยการหรือผชู้ ่วย

คมู่ ือนกั ศกึ ษาประสบการณ์วิชาชีพครู หน้า 35

ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารและพัฒนาบุคลากร และอาจารย์พี่เลี้ยงในระดับชั้น เพื่อให้นักศึกษาที่เกี่ยวข้องได้ช่วย
แกป้ ัญหาในการจดั นกั ศกึ ษาสอนนกั เรยี น หรอื ดำเนนิ การในเรื่องตา่ ง ๆ แทน

6.1.2 เมื่อนกั ศึกษาหายป่วยแลว้ ให้เขยี นข้อมลู ในใบลาท่โี รงเรียนกำหนดในวนั แรกทเ่ี ขา้
ปฏิบตั ิงานในโรงเรียน ประกอบกบั ใบรบั รองแพทย์ (ในกรณลี าปว่ ยต้ังแต่ 3 วันขน้ึ ไป)

6.2. การลากิจ
6.2.1 ส่งเอกสารการลากิจตามแบบฟอร์มการลาของโรงเรียน โดยส่งขออนุมัติผู้อำนวยการ

โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยขอนแก่น ก่อนการลาอย่างน้อย 3 วันทำการ โดยเอกสารแนบใบลาประกอบด้วยข้อมูล
การรับผิดชอบสอนแทนในชว่ งนักศึกษาลากจิ

ตวั อยา่ งใบลานักศึกษา

คมู่ ือนกั ศกึ ษาประสบการณ์วิชาชีพครู หน้า 36

7. การเตรยี มการเรียนการสอน

นกั ศึกษาควรเตรียมการเรียนการสอนดงั น้ี
7.1. จัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญก่อนการสอนทุกครั้ง และทำการสะท้อน

ผลการสอนโดยสะท้อนให้สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้และการดำเนินการจัดการเรียนรู้ โดยส่งอาจารย์พี่
เลย้ี งล่วงหนา้ กอ่ นทำการจัดการเรียนร้อู ย่างนอ้ ย 3 วัน

7.2. จัดเตรียมสื่อการเรียนรู้ และแหล่งการเรียนรู้ให้เรียบร้อยก่อนดำเนินการเรียนรู้อย่างน้อย 3
วัน

7.3. ควรทำความสะอาดกระดานก่อนดำเนินการสอนและจัดการลบกระดานหลังจากสอนเสร็จ
ทุกครั้ง อนึ่งกระดานของโรงเรียนเป็นกระดานไร้ฝุ่นที่มีคุณภาพสูง ไม่จำเป็นต้องเขียนกดให้เข้ม เพราะส่งผลให้มี
ปญั หาในการทำความสะอาด ในกรณตี ้องการแจง้ ข้อมูลนักเรียน ขอใหป้ ระสานกบั อาจารยป์ ระจำยูนิท

8. การทกั ทายอาจารย์ในโรงเรยี น

8.1. นกั ศกึ ษาควรไหวท้ ักทายอาจารย์ทุกทา่ นด้วยความเคารพ แม้วา่ ไมใ่ ช่อาจารย์พเ่ี ล้ียงกค็ วร
ทกั ทายด้วยใบหน้าทีย่ ิ้มแย้ม

8.2. หลกี เลยี่ งการเรียกอาจารย์พ่ีเลย้ี งว่าพ่ี ควรเรียกอาจารย์และตามด้วยชื่อ
8.3. ในกรณีทีถ่ ือสง่ิ ของและไม่สามารถไหว้ทำความเคารพได้ ใหโ้ ค้งตัวและกลา่ วทกั ทาย ไม่ควร
ไหวม้ ือเดยี ว

9. การตดิ ตอ่ ประสานงานกับนักเรยี นและผูป้ กครอง

9.1. นักศึกษาควรพดู กบั นักเรยี นด้วยคำสุภาพ ไม่พดู ตะคอก หรือตวาดด้วยน้ำเสียงทดี่ ดุ นั ควร
พดู มหี างเสียงเป็นแบบอย่างทดี่ ี

9.2. นักศกึ ษาไมค่ วรพดู หยอกล้อกบั นักเรียนเกินขอบเขตความเหมาะสมและกาลเทศะ ไมพ่ ูดคยุ
ลกั ษณะเชิงชูส้ าวกบั ลูกศิษย์

9.3. นักศึกษาควรแจ้งอาจารย์พี่เลี้ยงก่อนที่จะติดต่อประสานงานกับผู้ปกครอง หากมีความ
จำเป็นต้องพูดกับผู้ปกครอง ควรพูดด้วยคำสุภาพ ไม่แสดงคำพูดที่แสดงการโอ้อวด ไม่ควรพูดตะคอกหรือตวาด
ควรควบคมุ อารมณไ์ ม่แสดงน้ำเสียงโกรธหรอื ไมพ่ อใจ

9.4.นักศึกษาควรแสดงความจริงใจในการพูดคุยกับผู้ปกครอง ให้เกียรติผู้ปกครอง เมื่อผู้ปกครอง
พูดแสดงความคิดเห็นหรือมีข้อเสนอแนะต่อโรงเรียน ควรรับฟังและช่วยเหลือเกี่ยวกับการแก้ปัญหาหรือพัฒนา
นักเรียนรว่ มกับผ้ปู กครอง

คมู่ ือนกั ศกึ ษาประสบการณ์วิชาชีพครู หน้า 37

10. การตรวจงาน
10.1. ตรวจงานดว้ ยความถูกต้อง และใชป้ ากกาแดงในการตรวจ
10.2. ควรบันทึกการตรวจงานลงในใบรายชื่อทุกครั้ง โดยอาจทำสัญลักษณ์เพื่อแสดงพฤติกรรม

การส่งงานของนักเรียน เช่น ส่งงานช้า ใช้ ช, แก้ไขงาน ใช้ ก, ไม่ส่งงาน เขียนวงกลมในช่อง ถ้านักเรียนทำงานส่ง
แล้วจึงเขียนเครื่องหมายถูกลงในช่องกลาง, ลืมงาน ใช้ สระ ื , ลา ใช้ ล, ไม่ทำการบ้าน ใช้ N ซึ่งการบันทึก
รายละเอียดเหล่าน้จี ะเป็นหลกั ฐานในการแจง้ พฤตกิ รรมการสง่ งานให้ผ้ปู กครองไดร้ บั ทราบ

10.3. เก็บบันทึกรายชื่อการตรวจงาน เพื่อใช้พิจารณาและให้คะแนนพฤติกรรมการเรียนและ
คุณลักษณะอันพึงประสงค์

10.4. ถ้านักเรียนเขียนคำไม่ถูกต้อง นักศึกษาอาจจะให้นักเรียนแก้ไขโดยขีดเส้นแดงด้านข้างคำท่ี
นกั เรยี นเขยี นผิด แลว้ ให้แก้ไขบนเส้นแดง

10.5. ถ้านกั ศกึ ษาสามารถตรวจงานภายในคาบเรียนได้ทนั จะช่วยให้นักเรียนไดร้ บั การสะทอ้ น
ผลการเรียนทันที จะส่งผลดีต่อการพัฒนาทักษะการเรียนของนักเรียน แต่หากตรวจไม่เสร็จภายในคาบเรียน ขอให้
นกั ศกึ ษาตรวจให้เร็วเท่าทจ่ี ะกระทำได้ แล้วสง่ คืนนักเรยี น ไมค่ วรเกบ็ ไว้กบั นักศกึ ษา

10.6. นักศึกษาควรส่งผลงานคืนนักเรียนโดยไม่เป็นภาระกับอาจารย์ประจำยูนิท ควรดำเนินการ
สง่ ผลงานคืนให้เป็นระเบียบและแจง้ อาจารย์ประจำยนู ทิ ให้ทราบ

11. การเขียนสมดุ รายงานผลการพัฒนาการศึกษา

11.1. เขียนหน้าปกสมุดรายงานด้วยหมึกที่ไม่เลอะและไม่ซึมน้ำ เขียนด้วยลายมือตัวบรรจงท่ี
สวยงาม เขยี นอักษรถกู ตอ้ งตามลักษณะอกั ษรไทย เขียนรหัสและยูนิทด้วยเลขฮนิ ดอู ารบกิ

11.2. ใช้ปากกาหมกึ แหง้ สีน้ำเงนิ เขียนข้อมูลภายในสมุดรายงาน ด้วยตวั บรรจงท่ีสวยงาม
11.3. การบนั ทึกวันไม่มาเรียนให้ใชเ้ คร่อื งหมายยตั ิภังค์ ( - ) ในชอ่ งทีไ่ มข่ าดและไม่ลาโรงเรยี น
11.4. การยอ่ วันทใ่ี นการชัง่ น้ำหนกั และวดั สว่ นสงู เชน่ 1 ก.ค. 2565

12 การประเมินผลนักเรยี นรายบคุ คล
12.1. นักศึกษารวบรวมข้อมูลพฤติกรรมการเรียนรู้ของนักเรียนตลอดปีการศึกษา ส่งให้อาจารย์พ่ี

เล้ยี งพิจารณาขอ้ มูล
12.2. นักศึกษารว่ มประเมินผลนักเรยี นรายบุคคลกบั อาจารย์พ่เี ลี้ยงประจำยนู ิท
12.3. นักศึกษาสามารถแสดงความคิดเห็นในเชิงพัฒนาที่มีต่อนักเรียนเพื่อแจ้งให้ผู้ปกครอง

รบั ทราบ โดยอย่ใู นความดูแลของอาจารย์พเ่ี ล้ียง

คมู่ ือนกั ศกึ ษาประสบการณ์วิชาชีพครู หน้า 38

สว่ นที่ 4 จรรยาบรรณวชิ าชีพครู

จากข้อบังคับของคุรุสภาว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพและจรรยาบรรณของวิชาชีพ พ.ศ. 2548 (สำนักงาน
เลขาธิการของคุรุสภา. 2549 : 73 – 79) ในสว่ นทเี่ กย่ี วขอ้ งกับจรรยาบรรณ วชิ าชีพครู สามารถสรปุ ได้ดังน้ี

ความหมายของ จรรยาบรรณวชิ าชีพครู หมายถึง มาตรฐานการปฏบิ ตั ติ น ทก่ี ำหนด เปน็ แบบแผนในการ
ประพฤติตน ท่ีผ้ปู ระกอบวชิ าชีพครู ต้องปฏบิ ตั ติ าม

4.1 จุดประสงคข์ องจรรยาบรรณวชิ าชีพครู
เพื่อรักษาและส่งเสริมเกียรติคุณ ชื่อเสียง และฐานะ ของผู้ประกอบวิชาชีพครู ให้เป็นที่เชื่อถือศรัทธา
แก่ผ้รู บั บริการ แกส่ งั คม อันจะนำมาซึ่งเกยี รตแิ ละศกั ด์ศิ รีแห่งวชิ าชีพ
ลักษณะสำคัญของจรรยาบรรณวิชาชีพครู ถือเป็นคำมั่นสัญญาที่กำหนดเป็นข้อบังคับ ให้ผู้ประกอบวิชาชีพ
ครู ต้องปฏิบัติกับผู้ที่เกี่ยวข้อง 5 ส่วน ได้แก่ จรรยาบรรณต่อตนเอง ต่อวิชาชีพ ต่อผู้รับบริการ ต่อผู้ร่วมประกอบ
วิชาชีพ และต่อสังคม โดยสาระสำคัญของจรรยาบรรณวิชาชีพครูตามข้อบังคับของคุรุสภา ว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพ
และจรรยาบรรณวิชาชพี พ.ศ. 2548 ทเ่ี กยี่ วกบั มาตรฐานการปฏบิ ัติงานและจรรยาบรรณ วชิ าชพี สรุปได้ดังนี้
4.2 ด้านการปฏิบัตงิ าน เก่ียวกับการเรียนการสอน และการสง่ เสริมการเรยี นรขู้ องผูเ้ รียน

1) ปฏบิ ตั ิกิจกรรมทางวชิ าการ เก่ยี วกบั การพัฒนาวิชาชีพครูอยู่เสมอ
2) ตดั สินใจปฏิบัตกิ จิ กรรมตา่ ง ๆ โดยคำนงึ ถงึ ผลที่จะเกดิ แก่ผเู้ รยี น
3) มงุ่ ม่นั พฒั นาผเู้ รียนใหเ้ ต็มศกั ยภาพ
4) พฒั นาแผนการสอน ให้สามารถปฏิบัติได้เกดิ ผลจรงิ
5) พฒั นาส่ือการเรียนการสอนให้มปี ระสทิ ธภิ าพอยู่เสมอ
6) จดั กจิ กรรมการเรียนการสอน โดยเน้นผลถาวรที่เกิดแกผ่ ู้เรียน
7) รายงานผลการพัฒนาคณุ ภาพของผู้เรยี นได้อยา่ งมรี ะบบ
8) ปฏบิ ัตติ นเป็นแบบอย่างท่ดี แี กผ่ เู้ รยี น
9) ร่วมมอื กับผอู้ ืน่ ในสถานศึกษาอย่างสร้างสรรค์
10) รว่ มมอื กบั ผ้อู น่ื ในชมุ ชนอย่างสรา้ งสรรค์
11) แสวงหาและใช้ข้อมลู ข่าวสารในการพัฒนา
12) สร้างโอกาสใหผ้ เู้ รยี นได้เรยี นรูใ้ นทกุ สถานการณ์

คมู่ ือนกั ศกึ ษาประสบการณ์วิชาชีพครู หน้า 39

4.3 ด้านจรรยาบรรณของวชิ าชีพครู แบง่ เปน็ 5 ดา้ น
1) จรรยาบรรณต่อตนเอง : ครูต้องมีวินัยในตนเอง พัฒนาตนเองด้านวิชาชีพ บุคลิกภาพ

วสิ ยั ทศั น์ ใหท้ นั ต่อการพฒั นาทางวชิ าการ เศรษฐกิจ สังคม และการเมอื งอยเู่ สมอ
2) จรรยาบรรณต่อวิชาชีพ : ครูต้องรัก ศรัทธา ซื่อสัตย์สุจริต รับผิดชอบต่อวิชาชีพ และเป็น

สมาชกิ ทีด่ ี ขององคก์ รวิชาชีพ
3) จรรยาบรรณต่อผ้รู ับบริการ :
3.1) ครูต้องรัก เมตตา เอาใจใส่ ช่วยเหลือ ส่งเสริม ให้กำลังใจแก่ศิษย์ และผู้รับบริการ

ตามบทบาทหนา้ ท่ี โดยเสมอหนา้
3.2) ครูต้องส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้ ทักษะ และนิสัยที่ถูกต้องดีงามแก่ศิษย์ และ

ผู้รับบรกิ าร
3.3) ครตู อ้ งประพฤติปฏบิ ตั ติ น เป็นแบบอย่างท่ดี ี ท้งั ทางกาย วาจา และใจ
3.4) ครูต้องไม่กระทำตนเป็นปฏิปักษ์ต่อความเจริญทางกาย สติปัญญา จิตใจอารมณ์

และสงั คมของศษิ ย์และผรู้ ับบรกิ าร
3.5) ครูต้องให้บริการด้วยความจริงใจและเสมอภาค โดยไม่เรียกรับหรือยอมรับ

ผลประโยชนจ์ ากการใชต้ ำแหน่งหน้าท่โี ดยมิชอบ
4) จรรยาบรรณต่อผู้ร่วมประกอบวิชาชีพ : ครูพึงช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกันอย่างสร้างสรรค์

โดยยดึ มนั่ ในระบบคุณธรรม สร้างความสามคั คีในหมคู่ ณะ
5) จรรยาบรรณตอ่ สงั คม : ครูพงึ ประพฤตปิ ฏบิ ัตติ น เป็นผู้นำในการอนรุ ักษแ์ ละพัฒนา เศรษฐกจิ

สังคม ศาสนา ศิลปวัฒนธรรม ภูมิปัญญา สิ่งแวดล้อม รักษาผลประโยชน์ของส่วนรวม และยึดมั่นในการปกครอง
ระบอบประชาธิปไตย อนั มีพระมหากษัตริยท์ รงเป็นประมขุ

คมู่ ือนกั ศกึ ษาประสบการณ์วิชาชีพครู หน้า 40

สว่ นที่ 5 ชมุ ชนแห่งการเรยี นรทู้ างวิชาชีพ (PLC : Professional Learning Community)

ชมุ นมุ แหง' การเรยี นรท0ู างวิชาชีพ (PLC: Professional Learning Community)
กระบวนการชุมชนแห'งการเรยี นรท0ู างวิชาชีพ (PLC: Professional Learning Community) คือการ
รวมตวั รว' มใจรว' มพลงั รว' มทำ และร'วมเรยี นรรู0 ว' มกนั ของครู ผูบ0 รหิ าร และนกั การศกึ ษา บนพืน้ ฐานวัฒนธรรม
ความสัมพันธqแบบกลั ยาณมติ ร มีวิสัยทัศนq คณุ คา' เปwาหมาย และภารกิจร'วมกนั โดยทำงานรว' มกันแบบทีม เรยี นรู0
ที่ครเู ปน€ ผูน0 ำร'วมกัน และผบู0 ริหารแบบผด0ู แู ลสนับสนนุ สก'ู ารเรียนรู0และพฒั นาวชิ าชพี เปลย่ี นแปลงคณุ ภาพตนเอง
สค'ู ณุ ภาพการจัดการเรียนรู0ที่เน0นความสำเร็จหรอื ประสทิ ธิผลของผู0เรยี นเปน€ สำคัญและความสขุ ของการทำงาน
รว' มกันของสมาชิกในชุมชนการเรียนร0ู
โรงเรยี น มกี ารจดั ทำแผน โดยใชก0 ระบวนการชุมชนแหง' การเรียนร0ูทางวชิ าชีพ (PLC: Professional
Learning Community) และดำเนนิ การนิเทศ กำกับ ตดิ ตามและประเมินการใช0หลกั สูตรอยา' งต'อเน่ือง โดยมีการ
ดำเนนิ การดงั น้ี
1. โรงเรียนจัดทำปฏทิ ินการนเิ ทศการจดั การเรยี นรแู0 ละการใชห0 ลักสตู รของสถานศกึ ษา
2. โรงเรยี นวางแผนการดำเนินงานในกระบวนการชมุ ชนแห'งการเรียนรท0ู างวิชาชีพ (PLC: Professional
Learning Community) ทุกกลุม' สาระการเรียนร0ู ซึง่ ในกระบวนการ PLC มีการสงั เกตการจดั การเรยี นรู0และ
สะทอ0 นผลการจดั การเรยี นร0ู ซง่ึ ถอื ไดว0 า' เปน€ การนิเทศในรปู แบบหนึง่ โดยมรี ายละเอยี ดดังต'อไปนี้

คมู่ ือนกั ศกึ ษาประสบการณ์วิชาชีพครู หน้า 41

สร5างทีมชมุ ชนแหงI การเรียนรทู5 างวิชาชีพ (PLC Team Set-Up)
1) อาจารยพq ่ีเลย้ี งประจำวชิ า
2) นกั ศึกษาปฏิบตั ิการสอนในสถานศึกษา
3) ผบ0ู ริหารโรงเรียน
4) อาจารยqนเิ ทศกq
5) อาจารยผq เ0ู ชย่ี วชาญสาขาวิชาเฉพาะ

ประชุมวางแผนการดำเนนิ งานและรIวมสรา5 งแผนการจัดการเรียนรู5
1) แต'ละกลุ'มสาระการเรียนรู0จดั ประชมุ
2) ร'วมวางแผนกำหนดบทเรยี น เปwาหมาย เพ่ือออกแบบกจิ กรรมการเรียนรู0
3) สรา0 งแผนการจดั กจิ กรรมการเรียนและนำเสนอในท่ีประชมุ

ดำเนินการเปด[ ชน้ั เรียนและสังเกตช้ันเรียน
1) อาจารยqพีเ่ ล้ยี งประจำวชิ า
2) นักศึกษาปฏบิ ตั กิ ารสอนในสถานศกึ ษา
3) ผบ0ู ริหารโรงเรียน
4) อาจารยqนิเทศ
5) อาจารยqผู0เชย่ี วชาญสาขาวชิ าเฉพาะ

สะทอ5 นผลการจัดการเรียนรู5
1) วงรอบที่ 1 นำขอ0 เสนอแนะไปพฒั นาการจดั การเรยี นร0ู
2) วงรอบที่ 2 จัดกจิ กรรมการเรยี นร0ู
3) วงรอบท่ี 3 สรุปผลการจัดกิจกรรมการเรยี นร0ู

พัฒนารูปแบบการจัดการเรยี นรู5
1) แก0ปญg หาการจัดกจิ กรรมการเรียนร0ู
2) เพ่มิ ประสิทธภิ าพการเรยี นรขู0 องแต'ละกลุ'มสาระการเรยี นรู0

คมู่ ือนกั ศกึ ษาประสบการณ์วิชาชีพครู หน้า 42

คณะผจู้ ดั ทำ

ทป่ี รกึ ษา
1. นายศราวธุ จักรเป็ง
รองผู้อำนวยการโรงเรยี นสาธิตมหาวิทยาลัยขอนแก่น ฝ่ายประถมศึกษา (ศกึ ษาศาสตร)์
2. นางสาวปลิ ันธนา ศุภดล
ผู้ชว่ ยผู้อำนวยการฝา่ ยบรหิ ารและพฒั นาบุคลากร
3. นางนวลพรรณ เพยี งเกษ
ผู้ชว่ ยผอู้ ำนวยการฝา่ ยวชิ าการและวจิ ยั
4. นางสาวขนิษฐา ศริ พิ รรณ
ผชู้ ว่ ยผูอ้ ำนวยการฝา่ ยพฒั นานักเรยี นและองคก์ รสมั พันธ์
5. นางสมจนิ ต์ ศรเี มอื ง
ผชู้ ่วยผู้อำนวยการฝา่ ยแผนยทุ ธศาสตร์และประกันคุณภาพ
6. นายพฤทธิวาส ลับภู
ผูช้ ่วยผู้อำนวยการฝา่ ยพฒั นาบคุ ลกิ ภาพและความเปน็ สากล

คณะผจู้ ดั ทำ ประธานกรรมการ
กรรมการ
1. นางสาวประกายฝน บรรดาศกั ดิไ์ พศาล กรรมการ
2. นายเอกพล ช่วยวงศ์ญาติ กรรมการ
3. นางสาววนิดา พรหมบตุ ร กรรมการ
4. นางสุนิสา สวุ รรณฉาย กรรมการ
5. นายไกรศักด์ิ จันทรโกเมท กรรมการ
6. นางสาวสมฤดี ชำนิ กรรมการและเลขานุการ
7. อาจารยท์ ุกทา่ น
8. นางสาวธฎิ ารัตน์ รจุ ิราวนิ ิจฉยั


Click to View FlipBook Version