ข้อสอบใบขับขี่หมวดที่ 8– เทคนิคการขับรถอย่างปลอดภัย 1.การขับรถขณะฝนตก ข้อใดทผีู่้ขับขี่ไม่ควรปฏิบัติ ก. เปิดไฟฉุกเฉินตลอดเส้นทาง ข. เปิดที่ปัดน้ำ ฝน ค. ใชค้วำมระมดัระวงัเพิ่มมำกข้ึน ง. ลดควำมเร็วของรถลงกวำ่ ปกติ 2. เมื่อเกิดรถเสีย ควรปฏิบัติอย่างไร ก. จอดรถทิ้งไวก้ลำงถนน ข. นำ กิ่งไมว้ำงไวท้ำ้ยรถ ค. เผำป่ ำข้ำงทำงหำกเป็ นกลำงคืน ง. น ารถจอดเข้าข้างทาง, เปิดไฟฉุกเฉิน 3. สัญญาณไฟเตือนบนแผงหน้าปัดรถสีใด ที่ไม่ควรปรากฏขณะขับรถ ก. สีแดง ข. สีเขียว ค. สีเหลือง ง. สีฟ้ ำ 4.การจบัพวงมาลยันิว้มอืควรอยู่ในลกัษณะใด ก. นิว้มอืท้งัห้าจบัพวงมาลยัให้กระชับ สามารถหมุนได้คล่องตวั ข. นิ้วมือท้งัหำ้กำ พวงมำลยัใหแ้น่นที่สุด ค. นิ้วมือท้งัหำ้แตะที่พวงมำลยัสำมำรถหมุนพวงมำลยัดว้ยมือขำ้งเดียว ง. ใชน้ิ้วหวัแม่มือและนิ้วช้ีจบัพวงมำลยัเพียงสองนิ้ว 5. เมอื่ผู้ขับขขี่บัรถเสียหลกับนถนนเปียกลนื่ควรปฏิบตัอิย่างไร ก. เหยยีบเบรกทนัทีแลว้ค่อยๆออกตวัเร่งควำมเร็วใหม่ ข. ถอนคนัเร่ง เหยยีบเบรกเพื่อใชเ้กียร์ต่ำ ค. ถอนคนัเร่งจบัพวงมำลยัใหม้นั่ประคองรถต่อไป ง. ตั้งสติให้มั่น จับพวงมาลัยให้ดี เร่งความเร็วหนีให้พ้นไป 6. ขณะขับรถขึ้นทางลาดชัน ถ้าเครื่องยนต์ดับควรปฏิบัติอย่างไร ก. เหยียบเบรก ดึงเบรกมือ เข้าเกียร์ว่างและ ติดเครื่องใหม่ ข. เหยียบเบรก ดึงเบรกมือและ ติดเครื่องใหม่ ค. เปลี่ยนเป็นเกียร์ต่ำ ดึงเบรกมือและติดเครื่องใหม่ ง. ปล่อยใหร้ถไหลไป แลว้ค่อยประคองรถ
7. ขณะขับรถ ถ้ากระจกบังลมหน้ารถแตกร้าว ควรปฎิบัติอย่างไร ก. ตั้งสติ ลดความเร็ว จอดรถข้างทาง เปิดไฟฉุกเฉิน ข. ต้งัสติเปิดไฟฉุกเฉิน และขบัรถต่อไป ค. ต้งัสติเปิดไฟฉุกเฉิน และหยดุรถทนัที ง. ต้งัสติจอดรถขำ้งทำง 8. เพอื่ความปลอดภัยในการขับรถช่วงฤดูฝน ควรตรวจสอบอุปกรณ์ส่วนควบสิ่งใดของรถก่อนเป็นลา ดบัแรก ก. ที่ปัดน ้าฝน ข. น้ำ ในหมอ้น้ำ ค. น้ำ กลนั่แบตเตอรี่ ง. ตรวจเช็คประตหูนำ้ต่ำงรถ 9. ข้อใดเปิดไฟหน้ารถไม่ถูกต้อง ก. เมื่อไม่สำมำรถมองเห็นทำงขำ้งหนำ้ในระยะต่ำ กวำ่ 150 เมตร ข. เมื่อต้องเร่งรีบไปท างาน ค. เมื่อฝนตกหนัก ง. เมื่อมีควันไฟปกคลุมถนน 10. ในขณะทขี่ับรถอยู่มกีลนิ่เหมน็ ไหม้แอร์เริ่มไม่เยน็เครื่องยนต์เร่งไม่ขึน้ควรปฏิบตัอิย่างไร ก. ขบัต่อไปเรื่อยๆ ข. ลดควำมเร็วลงแลว้ขบัต่อไป ค. หยุดรถทันทีกลำงถนนห้ำมเคลื่อนย้ำย ง. จอดรถในที่ปลอดภัยแล้วเรียกช่างมาตรวจเช็ค 11.การหยุดรถบนทางลาดชัน ควรปฏิบตัติามลา ดบัอย่างไรจงึจะปลอดภัย ก. เหยียบคลัทช์ เหยียบเบรก ดึงเบรกมือ และปลดเกียร์ว่าง ข. เหยียบคลัทช์ เหยียบเบรก ปลดเกียร์วำ่ง ค. เหยียบคลัทช์ เหยียบเบรก ดึงเบรกมือ ง. เหยียบเบรกแล้วดึงเบรกมือ 12.การหมนุพวงมาลยัรถ ขณะจอดรถอยู่กบัทจี่ะมผีลอย่างไร ก. ทำ ใหห้มุนพวงมำลยัง่ำยข้ึน ข. ดอกยางสึกเร็วกว่าปกติ ค. สิ้นเปลืองน้ำ มนัเพำเวอร์ ง. สิ้นเปลืองน้ำ มนัเช้ือเพลิง
13.การหยุดรถอย่างกะทนัหัน(รถไม่ใช้เบรก ABS) ควรปฏิบัติอย่างไร ก. เหยยีบเบรกแรงๆโดยไม่ตอ้งถอนเบรก ข. เหยยีบคลทัชก์ ่อน แลว้จึงเหยยีบเบรก ค. เหยยีบเบรกและคลทัชพ์ร้อมกนั ง. เหยียบและปล่อยเบรกสลับกัน (ย ้าเบรกซ ้าๆ) 14.รถทขี่ับมาด้วยความเร็วสูงแล้วเหยยีบเบรกอย่างกะทนัหนั(รถไม่ใช้เบรก ABS) จะมีผลอย่างไร ก. จะหยดุรถไดต้ำมระยะที่กำ หนด ข. ล้อจะล็อค และรถจะหมุน ค. รถจะค่อยๆ ชะลอควำมเร็วลง ง. ล้อจะล็อค และรถจะหยุดทันที 15. ขณะขับรถยางรถแตก จะมีอาการอย่างไร ก. พวงมำลยัรถจะไร้น้ำ หนกั ข. พวงมาลัยจะหนักรถจะเอียง ค. รถหยุดกะทันหัน ง. เบรกจะไมท่ำ งำน 16. ในขณะขับรถยางรถแตกหรือระเบิด ผู้ขับขี่ควรปฏิบตัอิย่างไร ก. คุมสติบังคบัพวงมาลยัลดความเร็วลงและไม่ควรเหยยีบเบรกกะทนัหัน ข. รีบเหยียบเบรกให้เร็วที่สุด ค. หมุนพวงมำลยัอยำ่งรวดเร็วเพอื่หลบเขำ้ขำ้งทำง ง. ปลดเกียร์วำ่งแลว้รีบเหยยีบเบรก 17. ในขณะที่ก าลังขับรถถ้าฝากระโปรงหน้ารถเปิด ผู้ขับขี่ควรปฏบิัตอิย่างไร ก. ลดความเร็วแล้วจอดข้างทาง เพื่อปิ ดฝากระโปรงให้เรียบร้อย ข. หกัเล้ียวรถเขำ้ขำ้งทำงทนัทีเพอื่ปิดฝำกระโปรงใหเ้รียบร้อย ค. เบรกกะทันหัน ง. เหยยีบคนัเร่งใหม้ิดเพื่อฝำกระโปรงจะไดก้ระแทกปิด 18. ข้อใดเป็ นวิธีแก้ไขเบื้องต้นเมื่อรถเกิดไฟลัดวงจร ก. หำผ้ำหนำ ๆ มำตบ ข. ตัดกระแสไฟ หรือหาทางงัดขั้วแบตเตอรี่ออกก่อน ค. วงิ่หำน้ำ มนัมำรำด ง. ใชท้รำยสำดใส่
19.การปรับระดับที่นั่งคนขับห่างเกินไป จะมีผลอย่างไร ก. ทำ ใหเ้ขำ้เกียร์ไดง้่ำย ข. ท ำให้ทัศนวิสัยในกำรมองเห็นชัดเจนดีมำก สำมำรถตัดสินใจได้ดี ค. บังคบัพวงมาลยัลา บากใช้อุปกรณ์ต่างๆไม่สะดวกเกดิเหตุฉุกเฉินไม่สามารถใช้คลทัช์และเบรกได้ ง. ท ำให้เบรกรถสะดวก 20.การตรวจสอบว่าเข็มขัดนิรภัยยังใช้งานได้ดีหรือไม่ ควรตรวจสอบอย่างไร ก. กระตุกดงึสายเขม็ขัดอย่างเร็วแล้วสายเข็มขัดต้องลอ็ค ข. ดูวำ่เป็นของใหม่หรือไม่ ค. ดูวำ่เขม็ขดัมียหี่อ้หรือไม่ ง. ต้องมีสีเข้มๆ 21.ถ้ารถเสียหลักลื่นไถลพร้อมเสียการทรงตัว ควรปฏิบัติอย่างไรเป็ นล าดับแรก ก. รีบเขำ้เกียร์ต่ำ เพื่อชะลอควำมเร็ว ข. ค่อยๆ เหยียบแป้ นคลัทช์ ค. หมุนพวงมำลัยไปซ้ำยบ้ำงขวำบ้ำง ง. ลดความเร็วจับพวงมาลัยให้มั่น 22 การจอดรถชิดขอบทางล้อหน้าควรอยู่ในลกัษณะใด ก. หันเข้ำหำขอบทำง ข. อยอู่ยำ่งไรก็ได้ ค. ตรงและขนานกบัขอบทางหรือฟุตบาต ง. หันออกจำกขอบทำง 23.การเข้าเกยีร์ถอยหลงัขณะรถยงัไม่หยุดนิ่งมผีลเสียอย่างไร ก. ไม่มีผลต่อส่วนใดของรถ ข. เข้าเกียร์ยากและท าให้เกียร์เสียเร็วกว่าปกติ ค. ทำ ใหน้ ้ำ มนัเกียร์หมดเร็ว ง. เครื่องยนตก์ินน้ำ มนัเครื่อง 24.การขับรถถอยหลังควรใช้ความเร็วระดับใด ก. ถอยช้าๆ แล้วใช้ความระมัดระวัง ข. ถอยแบบไหนก็ได้ ค. ถอยเหมือนกบัเดินหนำ้ ง. ใช้ควำมเร็วตำมสภำพของรถ 25. ข้อใดเป็นการสตาร์ทเครื่องยนต์ทถีู่กต้อง ก. ขึ้นเบรกมือ-ปลดเกียร์ว่าง-ปิดอุปกรณ์ไฟฟ้า-เหยียบคลัทช์-สตาร์ทเครื่องยนต์ ข. ปลดเกียร์วำ่ง-ข้ึนเบรกมือ-สตำร์ทเครื่องยนต์
ค. เหยียบคลัทช์-สตำร์ทเครื่องยนต์ ง. ปลดเบรกมือ-ปิ ดอุปกรณ์ไฟฟ้ ำ-สตำร์ทเครื่องยนต์ 26. หากเกดิฝนตกหนักจนมองเหน็ทางไม่ชัดเจน ผู้ขับขี่ควรปฏบิตัอิย่างไร ก. จอดรถทันที ข. เปิดไฟหนำ้เร่งควำมเร็วผำ่นบริเวณที่ฝนตกหนกั ค. เร่งควำมเร็วใหผ้ำ่นบริเวณที่ฝนตกโดยเร็ว ง. จอดรถบริเวณทปี่ลอดภัยเปิดไฟหน้ารถและเปิดไฟฉุกเฉิน 27.การจับพวงมาลัยขณะขับรถทางตรง มอืขวาและซ้ายของผู้ขบัขี่ควรอยู่ในตา แหน่งลกัษณะใดของหน้าปัดนาฬิกา ก. ต าแหน่งเลข 2 และเลข 10 ข. ตำ แหน่งเลข 4 และเลข 10 ค. ตำ แหน่งเลข 3 และเลข 10 ง. ตำ แหน่งเลข 6 และเลข 10 28. เมื่อขับรถในขณะฝนตก ท่านไม่ควรปฏิบัติอย่างไร ก. เปิดที่ปัดน้ำ ฝน ข. เปิดไฟฉุกเฉินตลอดทาง ค. ขบัดว้ยควำมระมดัระวงัมำกข้ึน ง. ลดควำมเร็วของรถ 29. เมื่อขับรถในขณะฝนตก ท่านไม่ควรปฏิบัติอย่างไร ก. เปิดที่ปัดน้ำ ฝน ข. เปิดไฟฉุกเฉินตลอดทาง ค.ขบัดว้ยควำมระมดัระวงัมำกข้ึน ง.ลดควำมเร็วของรถ 30.จากรูป หากท่านต้องการทจี่ะขับตรงผ่านไป ท่านควรระมดัระวงัและปฏิบตัอิย่างไร ก.ลดความเร็วและเพมิ่ความระมดัระวงัทุกคร้ังก่อนถึงทางแยก ข.ระวงัรถดำ้นซำ้ยเพรำะอยใู่กลช้่องทำงของเรำ ค.ระวงัรถทำงขวำเพียงอยำ่งเดียวและขบัต่อไป ง.ขบัดว้ยควำมเร็วเท่ำเดิม
31.จากรูป หากท่านต้องการทจี่ะขับตรงผ่านไป ท่านควรระมดัระวงัและปฏิบตัอิย่างไร ก. ชะลอรถและให้รถทางขวามือขับผ่านไปก่อน ข. ขบัรถต่อไปไดเ้ลยเพรำะเรำคือทำงเอก ค. ขบัดว้ยควำมเร็วเท่ำเดิม ง. เร่งเครื่องยนตเ์พื่อขบัผำ่นไปก่อน 32.จากรูป หากท่านต้องการทจี่ะเลยี้วขวา ท่านควรระมดัระวงัและปฏิบตัอิย่างไร ก. หยดุรถใหห้ ่ำงเพื่อควำมปลอดภยั ข. ขบัไปในช่องทำงขวำเพื่อเล้ียวไดเ้ลย ค. เล้ียวพร้อมกบัรถคนัหนำ้ไดท้นัที ง. ชะลอรถเนื่องจากรถคันหน้าจะเลี้ยวซ้าย 33. จากรูป หากท่านพบเห็นสัญญาณจราจรเปลยี่นเป็นสีเหลอืง ท่านควรระมดัระวงัและปฏบิัตอิย่างไร ก. เร่งควำมเร็วและขบัผำ่นไป ข. บีบแตรและขบัผำ่นไป ค. ค่อยๆเหยยีบเบรกยา ้ๆเพอื่เตอืนรถข้างหลงัระวงัและเตรียมหยดุ ง. เหยียบเบรกเพื่อหยุดรถทันที
34.จากรูป หากท่านต้องการทจี่ะเลยี้วซ้าย ท่านควรระมดัระวงัและปฏิบตัอิย่างไร ก. ลดความเร็ว และระมัดระวังรถด้านซ้าย รวมทั้งคนเดิมข้ามถนน ข. เล้ียวซำ้ยไดท้นัที ค. เร่งควำมเร็วเพื่อใหส้ำมำรถเล้ียวไดเ้ร็ว ง. บีบแตรก่อนทำ กำรเล้ียวรถ 35.จากรูป หากท่านต้องการทจี่ะเลยี้วซ้าย ท่านควรระมดัระวงัและปฏิบตัอิย่างไร ก.ขบัตำมรถคนัหนำ้ใหช้ิดและทำ กำรเล้ียวทนัที ข. เปิดสัญญาณไฟเลยี้ว ชะลอรถ หยุดให้คนเดนิถนนข้ามทางก่อน ค. บีบแตรเพื่อให้คนเดินข้ำมถนนด้วยควำมรวดเร็ว ง. เปิ ดสัญญำณไฟฉุกเฉินเพื่อเตือนรถด้ำนหลัง 36.จากรูป หากท่านต้องการทจี่ะเลยี้วขวา ท่านควรระมดัระวงัและปฏิบตัอิย่างไร ก. ควรเล้ียวใหท้นัเนื่องจำกมีรถคนัใหญข่วำงรถฝั่งตรงขำ้ม ข. เร่งควำมเร็วเพื่อเล้ียวขวำทนัที ค. หยุดรอในตา แหน่งทจี่ะเลยี้วและให้รถด้านตรงข้ามผ่านไปก่อน ง. ขบัรถไปในช่องทำงดำ้นขวำเพอื่ทำ กำรเล้ียว
37.จากรูป หากท่านต้องการทจี่ะเลยี้วขวา ท่านควรระมดัระวงัและปฏิบตัอิย่างไร ก. เปิดสัญญาณไฟเลยี้ว ชะลอรถ หยุดให้คนเดนิถนนข้ามทางก่อน ข. ขบัตำมรถคนัหนำ้ใหช้ิดและทำ กำรเล้ียวทนัที ค. บีบแตรเพื่อให้คนเดินข้ำมถนนด้วยควำมรวดเร็ว ง.ขบัรถออกในช่องทำงขวำเพื่อทำ กำรเล้ียว 38.จากรูป หากท่านต้องการขับตรงไป ท่านควรระมดัระวงัและปฏิบัตอิย่างไร ก. บีบแตรเพื่อใหร้ถคนัหนำ้เร่งควำมเร็ว ข. ขบัต่อไปดว้ยควำมเร็วเท่ำเดิม ค. ลดความเร็วลงและให้ทางแก่รถที่เลี้ยวออกมา ง. เปิดไฟฉุกเฉินและขบัผำ่นไปดว้ยควำมรวดเร็ว 39 จากรูป รถคนัใดอยู่ในจุดบอดของรถคนัสีขาว ก. รถ ค. ข. รถ ก. และรถ ข. ค. รถ ข. และรถ ค. ง. รถ ก. และรถ ค.
40. ด้วยสาเหตุใด ผู้ขับขี่จะต้องหนัหน้ามองไปทางด้านข้างก่อนทา การเปลยี่นช่องจราจร ก. จะทำ ใหส้ำมำรถเปลี่ยนช่องจรำจรไดร้วดเร็วมำกข้ึน ข. เพอื่ตรวจดูจุดบอดของรถด้านขวา ค. เพื่อเปลี่ยนช่องจรำจรในกรณีที่ไม่ตอ้งกำรเปิดสญัญำณไฟเล้ียว ง. เพื่อใหส้ำมำรถเห็นผคู้นที่เดินอยบู่ริเวณทำงเดินเท้ำ 41. ข้อใดคอืความหมายทถีู่กต้องของจุดบอด ก. บริเวณดำ้นหลงัของรถที่กระจกมองหลงัจบัภำพไม่ได้ ข. บริเวณที่คนขับไม่สามารถมองเห็นได้ชัดในขณะขับรถ ค. บริเวณดำ้นหนำ้ของรถที่ผขู้บัขี่ไม่สำมำรถมองเห็นได้ ง. บริเวณดำ้นซำ้ยของรถที่ผขู้บัขี่ไม่สำมำรถมองเห็นได้ 42.ถ้าเครื่องดับขณะก าลังเคลื่อนที่ออกจากทางลาดชัน ท่านควรปฏิบัติอย่างไรเป็ นล าดับแรก ก. ท าการเบรกทันทีเพื่อไม่ให้รถไหล ข. เปลี่ยนไปเขำ้เกียร์วำ่ง ค. ติดเครื่องใหม่ ง. เปิ ดไฟฉุกเฉิน 43.การขับขี่ขึ้นหรือลงทางลาดชัน ควรใช้เกียร์ใด ก. เกียร์ต ่า ข. เกียร์สูง ค. เกียร์วำ่ง ง. เกียร์ใดก็ได้ 44. ในการขับขี่ลงทางลาดชัน ผู้ขบัขี่ควรใช้เกยีร์ตา ่เนอื่งจากสาเหตใุด ก. เพื่อเพิ่มกำ ลงัของรถ ข. เพื่อหน่วงความเร็วของรถ ค. เพื่อลดควำมร้อนของเครื่องยนต์ ง. เพื่อเพิ่มควำมเร็วของรถ 45. เพราะเหตุใดจงึไม่ควรใช้เบรกอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานในขณะขบัขลี่งทางลาดชัน ก. จะท ำให้เสียเวลำในกำรเดินทำง ข. จะทำ ใหเ้ปลืองน้ำ มนั ค. จะท าให้ผ้าเบรกไหม้ ง. จะท ำให้รถเคลื่อนตัวได้ช้ำ
46. ในการขับขี่ลุยน า้ผู้ขบัขี่ควรปฏิบัตอิย่างไร ก. ลดความเร็วลงแต่เร่งเครื่องยนต์ให้มากกว่าปกติเล็กน้อย ข. เปิ ดไฟฉุกเฉิน ค. ขบัรถดว้ยควำมเร็วมำกข้ึน ง. ขับรถด้วยควำมเร็วปกติ 47. เหตุใดขณะขบัรถลุยน า้จงึต้องเร่งเครื่องยนต์มากกว่าปกตเิลก็น้อย ก. เพื่อให้รถมีควำมเร็วคงที่ ข. เพื่อให้เครื่องยนต์ร้อน ค. เพื่อให้รถมีควำมเร็วมำกข้ึน ง. เพื่อป้ องกันไม่ให้เครื่องยนต์ดับ 48. ท่านควรปฏิบัติอย่างไรขณะขับรถผ่านบริเวณน ้าท่วม ก. ขับช้าๆ ตามหลังรถคันหน้าในระยะห่างพอสมควร ข. พยำยำมไม่ใชเ้บรกโดยเดด็ขำด ค. พยำยำมขบัจ้ีทำ้ยรถคนัหนำ้ตลอดเวลำ ง. เปิ ดไฟฉุกเฉินตลอดเวลำ 49. หลังจากขับรถผ่านบริเวณน ้าท่วม ท่านควรทดสอบระบบใดต่อไปนี้ ก. ระบบสตำร์ทเครื่องยนต์ ข. ระบบไฟฟ้ ำ ค. ระบบเบรก ง. ระบบช่วงล่ำง 50. ข้อใดต่อไปนีค้อืประโยชน์สูงสุดของการชะลอรถด้วยเครื่องยนต์ในขณะลงทางลาดชัน ก. ลงทางลาดชันด้วยความปลอดภัย ข. ลดกำรสึกหรอของผ้ำเบรก ค. ช่วยประหยดัน้ำ มนั ง. เพิ่มกำรทรงตวัของรถ 51. เพราะเหตุใดรถจงึลนื่ไถลได้ง่ายขณะฝนตกใหม่ๆ ก. น้ำ ฝนทำ ใหถ้นนชำ รุดเป็นหลมุเป็นบ่อ ข. น ้าฝนจะกลายเป็ นแผ่นฟิ ล์มรองรับระหว่างยางกับพื้นถนน ค. ถนนคอนกรีตดูดซบัน้ำ ฝนไดเ้ป็นอยำ่งดี ง. พ้ืนถนนปรับอุณหภูมิเร็วเกินไป
52. ข้อใดไม่ควรปฏิบัติเมื่อขับขี่ในขณะฝนตกหนัก ก. ขับรถเร็วและกระแทกเบรกรถอย่างรุนแรง ข. ขับด้วยควำมเร็วต ่ำ ค. เปิ ดไฟหน้ำรถ ง. หยุดรถรอบนถนน 53. ข้อใดต่อไปนปี้ฏบิัตไิด้ถูกต้องส าหรับการขับขี่ในเวลากลางคนื ก. เปิ ดไฟสูงตลอดเวลำขณะขับขี่ ข. ขับให้ช้ากว่าปกติหรือไม่เร็วกว่าสายตาที่มองเห็น ค. ขับให้เร็วได้ตำมปกติ ง. เปิ ดไฟฉุกเฉินตลอดเวลำขณะขับขี่ 54. หลงัจากเกดิอบุัตเิหตุผู้ขับขี่ต้องปฏบิัตสิิ่งใดเป็นอนัดบัแรก ก. แจง้กภู้ยั ข. แจ้งต ำรวจ ค. แจง้ประกนัภยัรถยนต์ ง. ให้สัญญาณเพื่อเตือนให้รถอื่นทราบ 55. หากมผีู้บาดเจบ็หลงัจากเกดิอบุัตเิหตุท่านควรปฏบิัตอิย่างไรหากตวัท่านมไิด้รับบาดเจบ็ ก. ปฐมพยาบาลเบื้องต้นแล้วรีบน าส่งโรงพยาบาล ข. ไม่ตอ้งสนใจหำกผบู้ำดเจบ็ ไมใ่ช่คนที่ท่ำนรู้จกั ค. แจง้ตำ รวจที่อยบู่ริเวณใกลเ้คียง ง. รีบแจง้หน่วยกภู้ยัใหเ้ร็วที่สุด 56. ข้อใดถูกต้องเกยี่วกบัการขับขอี่ย่างประหยดัน า้มนั ก. รถจะประหยดัน้ำ มนัมำกข้ึนหำกวงิ่ดว้ยควำมเร็วที่สูงข้ึน ข. รถจะประหยัดน ้ามันหากขับด้วยความเร็วคงที่ ค. รถจะประหยดัน้ำ มนัมำกข้ึนหำกเร่งเครื่องบ่อยคร้ัง ง. รถจะประหยดัน้ำ มนัมำกข้ึนหำกวงิ่ดว้ยควำมเร็วที่ไม่คงที่ 57. หากกา ลงัขับขี่รถอยู่บนถนน แล้วฝนเริ่มตก ผู้ขับขี่ควรปฏบิัตอิย่างไร ก. ลดความเร็วของรถลง ข. เร่งควำมเร็วของรถเพื่อใหผ้ำ่นฝนไปใหเ้ร็ว ค. เปิดไฟฉุกเฉินและรีบขบัผำ่นบริเวณน้นั ไป ง. หยุดรถข้ำงทำงทันที
58. เมอื่ขบัรถในเวลากลางคนืผู้ขบัขี่ควรปฏิบตัอิย่างไร ก. ทิ้งระยะห่างระหว่างรถคันหน้าให้มากกว่าปกติ ข. เปิ ดไฟฉุกเฉินขณะท ำกำรแซงรถคันหน้ำ ค. พยำยำมขบัรถเขำ้ไปใหใ้กลก้บัรถคนัหนำ้เพื่อใหร้ถคนัหนำ้เห็นรถเรำไดช้ดัเจน ง. ใช้ไฟสูงตลอดทำงของกำรขับรถ 57.ก่อนการขบัรถเป็นระยะทางไกลๆ ผู้ขบัขี่ควรปฏบิัตอิย่างไร ก. ดื่มเครื่องดื่มชูกำ ลงัก่อนกำรเดินทำง ข. พักผ่อนให้เพียงพอ ค. รับประทำนอำหำรก่อนกำรเดินทำง ง. หำเพื่อนนงั่ ไปดว้ยขณะเดินทำง 58.จากสถานการณ์ดงัรูป หากต้องการจะเคลอื่นทตี่่อไป ผู้ขับขี่ควรปฏิบตัอิย่างไรเป็นลา ดบัแรก ก. เปิ ดสัญญำณไฟ ข. ตรวจสอบความปลอดภัยทางด้านขวา ค. บีบแตรให้สัญญำณ ง. ลดกระจกแล้วโบกมือขอทำง 59. เมอื่ต้องขับรถเข้าใกล้ทางรถไฟทไี่ม่มแีผงก้นัข้อใดต่อไปนกี้ล่าวถูกต้อง ก. ชะลอรถและควรเตรียมพร้อมทจี่ะหยุดรถตลอดเวลา ข. เพิ่มควำมเร็วเพื่อใหผ้ำ่นไปไดเ้ร็ว ค. บีบแตรเตือนเพื่อควำมปลอดภัย ง. เปิ ดกระจกเพื่อฟังเสียงสัญญำณเตือนรถไฟ
60. เมื่อขับผ่านทางที่มีป้ ายเตือนว่า “ระวังทางข้างหน้าหินหล่นทับเส้นทางบ่อย” หรือป้ายเตอืนดงัในรูป ท่านควรปฏิบัติ อย่างไร ก. ชะลอความเร็วลง ขับขี่ด้วยความระมัดระวังมากขึ้น ข. รีบเร่งควำมเร็วเพื่อผำ่นไปอยำ่งรวดเร็ว ค. ไม่ตอ้งทำ อะไรเพรำะโอกำสที่จะเกิดยำก ง. หลีกเลี่ยงไปใช้เส้นทำงอื่น 61. เมอื่พบว่าไฟไหม้เครื่องยนต์ขณะขับรถ ผู้ขบัรถควรปฏบิัตอิย่างไร ก. ขบัรถลงแม่น้ำ ขำ้งทำง ข. จอดและสละรถทันที ค. ตั้งสติ ค่อยๆ ขับรถจอดข้างทาง ง. แจง้กภู้ยัทำงหลวง 62. สิ่งใดต่อไปนี้มีผลท าให้รถเปลืองน ้ามัน ก. ดอกยำงสึกหรอ ข. ขับรถด้วยควำมเร็วคงที่ ค. ระยะกำรปรับเบรกปกติ ง. บรรทุกน า้หนกัเกนิกว่าทกี่า หนด 63. ปัจจยัใดต่อไปนีม้ผีลต่อการเกดิสถานการณ์อนัตรายมากทสีุ่ด ก. ความไม่พร้อมของคนขับ ข. ลักษณะทำงภูมิศำสตร์ ค. กำรเคลื่อนที่ของรถ หรือคนเดินเท้ำ ง. สภำพผิวจรำจร 64. ข้อใดกล่าวถูกต้องเกยี่วกบัการขับรถอย่างปลอดภัย ก. หำกง่วงนอนมำกควรขบัรถดว้ยควำมเร็วสูง เพื่อให้ตื่นตัว ข. การเว้นระยะห่างจากรถคันหน้าในขณะฝนตกควรมากกว่าการขับรถในสภาวะปกติ ค. ไม่จำ เป็นตอ้งตรวจสภำพรถก่อนออกเดินทำง ง. ควรขับรถด้วยควำมเร็ว 120 กิโลเมตรต่อชวั่โมง เพื่อถึงที่หมำยเร็วข้ึน
65.จากรูป หากท่านต้องการแซงรถข้างหน้าแล้วกลับช่องทางเดินรถด้านซ้าย ท่านจะต้องให้สัญญาณไฟอย่างไร ก. ตรวจสอบความปลอดภัยแล้วเปิ ดสัญญาณไฟเลี้ยวขวาก่อนแซง ข. เปิดสญัญำณไฟเล้ียวซำ้ยขณะแซง ค. เปิดสญัญำณไฟเล้ียวขวำก่อนและตำมดว้ยสญัญำณไฟเล้ียวซำ้ยขณะแซง ง. ไม่จำ เป็นตอ้งเปิดสญัญำณไฟหำกรถคนัหนำ้ขบัดว้ยควำมเร็วต่ำ 66. ในสภาพถนนปกติ รถพร้อม คนพร้อม ขับรถตามรถคันหน้าต้องเว้นระยะห่างจากรถคันหน้าเท่าใดจึงจะปลอดภัยเมื่อ รถคนัหน้าหยุด ก. หน่ึงช่องรถ ข. 3 เมตร ค. 5 เมตร ง. ห่างพอสมควรและสามารถหยดุรถได้โดยปลอดภัย 67. สถานการณ์ใดใช้ไฟฉุกเฉินได้อย่างเหมาะสม ก. เปิ ดไฟฉุกเฉินในขณะที่หมอกลงจัด ข. เปิดไฟฉุกเฉินเมื่อกำ ลงัจะเล้ียวซำ้ยบริเวณทำงแยกที่ไม่มีสญัญำณไฟจรำจร ค. เปิดไฟฉุกเฉินเพื่อใหผ้ขู้บัขี่ท่ำนอื่นทรำบวำ่ตนจะวงิ่ตรงไป ง. เปิดไฟฉุกเฉินเมอื่รถจอดเสียอยู่บริเวณไหล่ทาง 68.รถทขี่ับมาด้วยความเร็วสูงแล้วเหยยีบเบรกกะทนัหนั (รถที่ไม่มีระบบเบรก ABS) จะมีผลอย่างไร ก. จะหยดุรถไดต้ำมระยะที่กำ หนด ข. รถจะค่อยๆ ชะลอควำมเร็วลง ค. ล้อจะลอ็กและรถอาจจะหมุน ง. ล้อจะล็อกและรถจะหยุดทันที 69.การหยุดรถอย่างกะทนัหัน (รถที่ไม่มีระบบเบรก ABS) ควรปฏิบัติอย่างไร ก. เหยียบเบรกสลับกับปล่อยเบรกเป็ นจังหวะ ข. เหยียบเบรกแรงๆ ค. เหยยีบเบรกเทำ้สลบักบัดึงเบรกมือ ง. เหยยีบเบรกเทำ้และดึงเบรกมือพร้อมกนั
70. ข้อใดปฏบิัตไิม่ถูกต้องในการเบรกฉุกเฉิน ก. หักพวงมำลัยหลบเมื่อจ ำเป็ นต้องหลบกำรปะทะด้ำนหน้ำ ข. มือท้งัสองขำ้งตอ้งจบัอยทู่ ี่พวงมำลยั ค. ใช้เบรกมือช่วย ง. หลีกเลี่ยงกำรเหยยีบกระแทกเบรกสำ หรับเบรกที่ไม่ใช่ระบบเบรก ABS 71. การจอดรถลกัษณะใดทอี่าจก่อให้เกดิอุบัตเิหตุ ก. จอดรถซ้อนคัน ข. จอดรถชิดขอบทำงด้ำนซ้ำย ค. จอดรถในลำนจอดรถ ง. จอดรถภำยในอำคำรจอดรถ 72. รูปใดต่อไปนี้ห้ามจอด ก. รูป 1และรูป 2 ข. รูป 2 และรูป 3 ค. รูป 1และรูป 3 ง. ท้งัรูป 1 2และ 3 73. หากท่านจอดรถชิดขอบทางทางด้านซ้ายอยู่และต้องการทจี่ะเคลอื่นตวัออก ท่านควรปฏิบัติอย่างไร ก. มองดูรถทตี่ามมาผ่านกระจกมองข้างและกระจกมองหลงัจากนั้นเปิ ดสัญญาณไฟเลี้ยวขวา ข. เปิ ดสัญญำณไฟเพื่อเตือนให้รถคันที่ตำมมำชะลอควำมเร็วลง ค. ไม่จำ เป็นตอ้งหนัมองดูรถที่จอดอยขู่ำ้งหนำ้มองแค่รถที่ตำมมำก็พอ ง. ให้สัญญำณมือเพื่อขอทำง 74. เมอื่ฝนเริ่มตกหนักในขณะทที่่านขับรถอยู่ในเขตทจี่า กดัความเร็วไม่เกนิ 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ท่านควรปฏิบัติอย่างไร ก. ขบัดว้ยควำมเร็วเท่ำเดิม ข. ชะลอความเร็วลง ค. ขบัรถเขำ้ขำ้งทำงและรอจนกวำ่ฝนจะหยดุตก ง. เร่งควำมเร็ว
75. สาเหตุใดต่อไปนีเ้ป็นสาเหตุหลกัทที่า ให้เกดิการชนท้าย ก. คนข้ำมถนนตัดหน้ำ ข. สัญญำณไฟจรำจรเปลี่ยนแปลงโดยฉับพลัน ค. ขับรถชิดคันหน้ามากเกินไป ง.กำรหยุดรถทุกๆ แยก 76.การขับรถทิ้งระยะห่างจากรถคันหน้ามากเกินไป จะเกิดผลเสียอย่างไรกับสภาพการจราจร ก. กำรจรำจรคล่องตวัมำกข้ึน ข. จะขบัรถดว้ยควำมปลอดภยัมำกข้ึน ค. ลดอุบัติเหตุ ง. เกิดปัญหาการจราจรติดขัด 77. เพอื่เป็นการป้องกนัอบุัตเิหตุผู้ขับขตี่้องทงิ้ระยะห่างจากรถคนัหน้าเป็นระยะเท่าใด ก. ระยะห่างที่เหมาะสมกับความเร็วของรถ ข. 2 เมตร ค. 3 เมตร ง. ไม่นอ้ยกวำ่ 4 เมตร 78. ข้อใดต่อไปนีไ้ม่ถูกต้องในการขับขี่ ก. เมื่อรถคันหลังขับตามมาในระยะกระชั้นชิด ควรเพิ่มความเร็ว ข. น้ำ หนกัและควำมเร็วของตวัรถมีผลต่อระยะทำงในกำรหยดุรถ ค. ระยะปลอดภยัของรถใหญ่จะตอ้งมีมำกกวำ่ระยะปลอดภยัของรถยนต์ ง. เมื่อระยะห่ำงกบัรถคนัหนำ้นอ้ยเกินไป ควรลดควำมเร็ว 79.การเปลี่ยนช่องทางจราจร ควรปฏิบัติอย่างไร ก. เปลี่ยนช่องจรำจรเมื่อใดก็ได้ ข. มองกระจกข้างให้สัญญาณแล้วเปลี่ยนช่องจราจรเมื่อเห็นว่าปลอดภัย ค. เปลี่ยนช่องจรำจรโดยเร็วเพื่อหลบรถคนัอื่น ง. ใหส้ญัญำณมือและสญัญำณไฟแลว้เปลี่ยนช่องจรำจรไดเ้ลย
80. หากท่านเห็นรถบรรทุกทอี่ยู่ข้างหน้าเปิดไฟเลยี้วซ้ายแต่กา ลงัเคลอื่นไปทางขวา ท่านควรปฏบิัตอิย่างไร ก. รักษาระยะห่างไว้และรอให้รถใหญ่เคลื่อนไปในทิศทางที่แน่นอน ข. ขับเข้ำไปใกล้ๆ เพื่อเตรียมแซง ค. ใหเ้ขำ้ใจวำ่ผขู้บัขี่รถใหญ่น้นัเปิดสญัญำณไฟผิด ง. เตรียมแซงเมื่อรถใหญ่เริ่มชะลอควำมเร็ว 81.จากรูป รถคนัสีน า้เงนิหรือรถคนัสีเขียว มสีิทธิทจี่ะได้ไปก่อน ก. รถคนัสีน้ำ เงิน ข. รถคันสีเขียว ค. รถคนัไหนไปก่อนก็ได้ ง. มีสิทธิที่จะไปพร้อมๆ กนั 82.กรณีที่ท่านเห็นรถคันอื่นให้สัญญาณเพื่อเลี้ยวรถหรือเปลี่ยนช่องทางการเดินรถ ท่านต้องปฏิบัติอย่างไร ก. ชะลอความเร็วและให้ทาง ข. เร่งควำมเร็วเพื่อจะไปก่อน ค. หยุดรถ ง. จอดรถ
83.จากรูป รถคนัใดจะต้องให้ทาง ก. รถคันสีขาว ข. รถคันสีแดง ค. รถที่มีควำมเร็วสูงกวำ่ ง. รถที่มีควำมเร็วต่ำ กวำ่ 84.รูปใดแสดงการกลบัรถทถีู่กต้อง ก. รูป 1 ข. รูป 2 ค. รูป 3 ง. รูป 1 และ รูป 3 85. ข้อใดต่อไปนีเ้ป็นการปฏิบตัทิไี่ม่ถูกต้อง ก. ไม่แซงหำกรถคนัหนำ้กำ ลงัแซงอยู่ ข. แซงขณะที่รถข้างหลังก าลังจะแซงรถของท่าน ค. ไม่แซงหำกมีรถวงิ่สวนมำในระยะใกล้ ง. แซงไดห้ำกรถขำ้งหนำ้ของท่ำนเปิดไฟเล้ียวซำ้ยและชะลอควำมเร็วลง
86.จากรูป หากรถทที่่านกา ลงัจะแซงเปิดสัญญาณไฟเลยี้วขวา ผู้ขบัขี่ควรปฏิบตัอิย่างไร ก. ชะลอความเร็วและรอจนกว่ารถคันหน้าเลี้ยวผ่านไป ข. เพิ่มควำมเร็วของรถและแซงผำ่นไป ค. ใหส้ญัญำณไฟสูงเพื่อบอกใหรู้้วำ่จะแซงผำ่นไปก่อน ง. ใหส้ญัญำณแตรเพื่อบอกใหรู้้วำ่จะแซงผำ่นไปก่อน 87. ข้อใดต่อไปนกี้ล่าวได้ถูกต้องเกยี่วกบัการแซงรถคนัหน้าทเี่คลอื่นตวัด้วยความเร็วทใี่กล้เคยีงกนั ก. ใช้ระยะทำงและเวลำในกำรแซงน้อยลง ข. ใชร้ะยะทำงมำกข้ึน เวลำในกำรแซงเท่ำเดิม ค. ใชร้ะยะทำงเท่ำเดิม เวลำในกำรแซงมำกข้ึน ง. ใช้ระยะทางและเวลาในการแซงมากขึ้น 88. หากท่านขับรถด้วยความเร็ว 90 กโิลเมตรต่อชั่วโมงแต่ท่านรู้สึกว่าเร็วเกนิไป ท่านควรปฏบิัตอิย่างไร ก. ชะลอความเร็วลงจนท่านคิดว่าปลอดภัย ข. ขับให้ใกล้เคียง 100 กม.ต่อชวั่โมง ค. ออกจำกเสน้ทำงน้นั ง. หยดุรถของท่ำนทนัที 89.การขับขี่ในทางลักษณะใดที่ไม่จ าเป็ นต้องให้สัญญาณไฟเลี้ยว ก. ทำงเล้ียวซำ้ยเขำ้ซอย ข. ทางบังคับเลี้ยว ค. ทำงเล้ียวซำ้ยออกจำกซอย ง. ทำงกลับรถ 90. การเปิดไฟสูงในสถานการณ์ใดถูกต้อง ก. เปิดไฟสูงขณะทไี่ม่มรีถสวนทาง ข. เปิ ดไฟสูงขณะฝนตกหนัก ค. เปิดไฟสูงเมื่อรถเกิดอุบตัิเหตุ ง. เปิ ดไฟสูงเมื่อขับรถตำมหลังคันหน้ำ
91. เมื่อรถของท่านเสียบริเวณกลางถนน ท่านควรปฏิบัติอย่างไร ก. นำ สญัลกัษณ์รูปสำมเหลี่ยมมำไวท้ำ้ยรถของท่ำน ข. จอดรถทิ้งไวก้ลำงถนน ค. เปิดไฟฉุกเฉินและน ารถจอดเข้าข้างทาง ง. ก่อกองไฟขำ้งทำงในกรณีที่รถท่ำนเสียเวลำกลำงคืน 92. ท่านควรใช้สัญญาณไฟฉุกเฉินในกรณีใด ก. เมื่อรถของท่านเสีย ข. เมื่อท่ำนขบัรถดว้ยควำมเร็วต่ำ ขณะที่กำ ลงัหลงทำง ค. เมื่อท่ำนขบัรถดว้ยควำมเร็วต่ำ เนื่องจำกฝนตกหนกั ง. เมื่อท่ำนตอ้งกำรขบัผำ่นสี่แยกไปในทิศทำงตรง. 93. ข้อใดต่อไปนกี้ล่าวไม่ถูกต้องส าหรับการเปิดสัญญาณไฟฉุกเฉินตลอดเวลา ก. ทำ ใหไ้ม่สำมำรถส่งสญัญำณไฟเล้ียวได้ ข. ทา ให้ผู้ขับขี่คนัอนื่เข้าใจว่าเป็นรถทขี่บัเร็ว ค. ทำ ใหผ้ขู้บัขี่คนัอื่นสบัสนวำ่รถคนัที่เปิดไฟฉุกเฉินกำ ลงัเล้ียวไปดำ้นใดดำ้นหน่ึง ง. ทำ ใหผ้ขู้บัขี่คนัอื่นคิดวำ่เป็นรถที่จอดนิ่งอยู่ 94.การหยุดรถในสถานการณ์ใดจะใช้ระยะทางมากกว่าปกติ ก. ขณะฝนตก ข. ตอนกลำงคืน ค. ขณะที่มีลมแรง ง. ขณะมีหมอก 95. สิ่งใดเป็ นปัจจัยที่ท าให้การเบรกด้อยประสิทธิภาพ ก. กำรดูแลเอำใจใส่สภำพเครื่องยนตแ์ละระบบช่วงล่ำง ข. ควำมวอ่งไวในกำรตอบสนองของร่ำงกำยดีเยยี่ม ค. การดมื่สุราก่อนขับรถ ง. กำรดูแลเอำใจใส่ลมยำง 96. หากท่านจอดรถในทางเดินรถหรือบนไหล่ทางในเวลากลางคืน ท่านต้องปฏิบัติอย่างไร ก. เปิ ดไฟหรี่ ข. เปิดไฟเล้ียวซำ้ย ค. เปิดไฟเล้ียวขวำ ง. เปิ ดไฟต ่ำ
97.จากรูป เมอื่ท่านพบรถประจา ทางเปิดไฟเลยี้วขวาเพอื่ออกจากป้ายรถเมล์ท่านควรปฏิบัตอิย่างไร ก. ไม่ตอ้งสนใจและขบัแซงรถประจำ ทำงไปในทนัที ข. ชะลอความเร็วและให้รถประจ าทางไปก่อน ค. บีบแตรหรือกะพริบไฟสูง ง. เปิดสญัญำณไฟฉุกเฉิน เพื่อบอกใหร้ถประจำ ทำงไปก่อน 98.จากรูป หากท่านต้องการแซงบนถนนทมี่รีถวงิ่สวนมา ท่านต้องปฏิบตัอิย่างไร ก. ขบัแซงไปไดเ้ลยโดยไม่ตอ้งสนใจรถที่สวนมำ ข. หำกท่ำนคิดวำ่ท่ำนขบัไดเ้ร็วกวำ่รถที่สวนมำแลว้จึงทำ กำรแซงไดท้นัที ค. หยุดรอให้รถทขี่บัสวนมาผ่านไปก่อนแล้วค่อยขบัแซง ง. หำกคิดวำ่ถนนมีควำมกวำ้งพอจึงแซงไปไดเ้ลย
99. ท่านกา ลงัขับขี่ผ่านบริเวณทมี่รีถจอดอยู่ข้างทางแต่ท่านสังเกตเห็นลูกบอลกลงิ้ออกมา ท่านควรปฏิบัตอิย่างใด ก. ขบัรถดว้ยควำมเร็วเท่ำเดิมและใหส้ญัญำณไฟสูง ข. ขบัรถดว้ยควำมเร็วเท่ำเดิมและใหส้ญัญำณแตร ค. ลดความเร็วลงและเตรียมทจี่ะหยุดรถ ง. จอดรถและโบกมือใหเ้ด็กไปเกบ็ลูกบอล 100.จากรูป ข้อใดต่อไปนถีู้กต้องเกยี่วกบัการแซง ก. รถคันหลังไม่สามารถแซงคันหน้าได้ ข. รถคนัหลงัสำมำรถแซงไดห้ำกไม่มีคนขำ้มถนน ค. รถคนัหลงัสำมำรถแซงไดห้ำกไม่มีรถสวนมำ ง. รถคนัหลงัสำมำรถแซงไดห้ำกไม่มีป้ำยหยดุบนขอบทำง 101. เมอื่ท่านขับรถเข้าใกล้รถทจี่อดอยู่ข้างทาง ท่านควรปฏิบัตอิย่างไรจงึจะเหมาะสมทสีุ่ด ก. ขบัต่อไปโดยไม่ตอ้งระวงัสิ่งใด ข. เร่งควำมเร็วผำ่นไปทนัที ค. ใหส้ญัญำณไฟสูงเพียงอยำ่งเดียวก็เพียงพอ ง. เพมิ่ความระมดัระวงัมากขนึ้เตรียมพร้อมทจี่ะหยุดเสมอ
102. เมอื่ท่านขับรถเข้าใกล้รถทจี่อดอยู่ข้างทาง ท่านควรปฏิบัตอิย่างไรจงึจะเหมาะสมทสีุ่ด ก. เร่งควำมเร็วผำ่นไปทนัที ข. เพมิ่ความระมดัระวงัมากขึน้เตรียมพร้อมทจี่ะหยุดเสมอ ค. ใหส้ญัญำณไฟสูงเพียงอยำ่งเดียวก็เพียงพอ ง. ขบัต่อไปโดยไม่ตอ้งระวงัสิ่งใด 103. ในการขบัขี่ท่านควรหลกีเลยี่งพฤตกิรรมใดมากทสีุ่ด ก. ขับขี่เร็วเกินอัตราที่กฎหมายก าหนด ข. เปลี่ยนช่องจรำจร ค. ขับขี่ด้วยควำมเร็วคงที่ ง. แซงรถคนัอื่น เมื่อเห็นวำ่ ปลอดภยั 104. เมื่อท่านขับรถผ่านถนนที่มีน ้าท่วมขังแล้ว ท่านควรปฏิบัติอย่างไร ก. หยุดรถ รอผ้ำเบรกให้แห้ง ข. หยุดรถ ตรวจสอบยำง ค. ใช้เท้าแตะเบรกเพื่อให้ผ้าเบรกแห้งเร็ว ง. ขบัรถใหเ้ร็วข้ึนเพื่อใหผ้ำ้เบรกแหง้ 105.การขับขี่ผ่านทางร่วมทางแยกต้องปฏิบัติอย่างไร ก. หำกไม่มีสญัญำณไฟจรำจรใหร้ถคนัที่ใหญ่กวำ่ผำ่นทำงร่วมทำงแยกไปก่อน ข. เมื่อพบป้ำยเตือนทำงร่วมทำงแยกใหข้บัรถไปตำมปกติ ค. เมื่อพบป้ำยเตือนสญัญำณไฟบริเวณทำงร่วมทำงแยกใหเ้พิ่มควำมเร็วข้ึนเลก็นอ้ย ง. ปฏิบัติตามสัญญาณไฟจราจรหรือกฎจราจรอย่างเคร่งครัด 106.จากรูปรถคนัสีน า้เงนิหรือรถคนัสีเขียวมสีิทธิทจี่ะผ่านไปก่อน ก. ให้รถคันสีเขียวไปก่อน ข. ใหร้ถคนัสีน้ำ เงินไปก่อน ค. รถคนัไหนไปก่อนก็ได้หำกมีควำมเร็วสูงกวำ่ ง. รถคนัไหนไปก่อนก็ได้หำกมำถึงก่อน
108.จากรูป หากท่านต้องการทจี่ะเลยี้วขวาทที่างแยกรูปตวั T ท่านจะต้องปฏิบัติอย่างไร ก. ให้ทั้งรถทางขวาและซ้ายไปก่อน ข. ใหร้ถทำงขวำไปก่อน ค. ใหร้ถทำงซำ้ยไปก่อน ง. เล้ียวขวำไดท้นัที 109.จากรูป เมอื่ท่านขับรถมาถึงทางแยกพบสัญญาณไฟเขียวแต่เกดิจราจรตดิขัดในเส้นทางทที่่านจะสัญจร ท่านควร ปฏิบัติอย่างไร ก. ขบัรถเขำ้ไปต่อคนัหนำ้ ข. รอจนกว่ารถข้างหน้าของท่านจะเคลื่อนตัว แล้วจึงขับรถเข้าไปต่อคันหน้า ค. ขับรถเข้ำไปตรงกลำงแยกแลว้รอจนกวำ่รถขำ้งหนำ้จะเคลื่อนตวั ง. พยำยำมขับแทรกไปทำงขวำของรถคันหน้ำ
110.จากรูป รถคนัสีฟ้าและรถคนัสีเหลอืงต้องการจะเลยี้วขวาเพอื่ไปเลยี้วซ้ายในซอยที่1 รถคนัใดอยู่ในตา แหน่งที่ เหมาะสม ก. รถคันสีฟ้ ำ ข. รถคันสีเหลือง ค. เหมาะสมท้งัคู่ ง. ไม่เหมำะสมท้งัคู่ 111.จากรูป รถคนัสีแดงและรถคนัสีเหลอืงต้องการไปในทศิทางเดยีวกนัรถคนัใดมสีิทธิไปก่อนเมอื่มสีัญญาณให้หยุดท้งั สองทิศทาง ก. รถคันสีเหลือง ข. รถคันสีแดง ค. คนั ใดก็ตำมที่มำถึงทำงแยกก่อน ง. คนั ใดก็ตำมที่ขบัดว้ยควำมเร็วที่สูงกวำ่
112. หากท่านพบสัญญาณไฟกะพริบสีแดงที่บริเวณทางร่วมทางแยก ท่านต้องปฏิบัติอย่างไร ก. ชะลอควำมเร็วลงและขบัผำ่นไปดว้ยควำมระมดัระวงั ข. หยุดรถหลงัเส้นหยุดรถเมอื่เหน็ว่าปลอดภัยจงึขับผ่านไปด้วยความระมดัระวงั ค. ขบัรถต่อไปตำมปกติเพื่อมิใหเ้กิดควำมล่ำชำ้แก่รถคนัที่ตำมมำ ง. แจง้เจำ้พนกังำนวำ่สญัญำณไฟจรำจรขดัขอ้ง 113. หากท่านพบสัญญาณไฟกะพริบสีเหลืองที่บริเวณทางร่วมทางแยก ท่านต้องปฏิบัติอย่างไร ก. ชะลอความเร็วลงและขับผ่านไปด้วยความระมัดระวัง ข. หยุดรถหลังเส้นหยุดรถเมื่อเห็นวำ่ ปลอดภยัจึงขบัผำ่นไปดว้ยควำมระมดัระวงั ค. ขบัรถต่อไปตำมปกติเพื่อมิใหเ้กิดควำมล่ำชำ้แก่รถคนัที่ตำมมำ ง. แจง้เจำ้พนกังำนวำ่สญัญำณไฟจรำจรขดัขอ้ง 114.จากรูป ในกรณีทไี่ม่มสีัญญาณไฟจราจรรถคนัสีแดงหรือรถคนัสีเหลอืงมสีิทธิทจี่ะได้ไปก่อน ก. รถที่มำถึงทำงแยกก่อน ข. รถคันสีแดง ค. รถคันสีเหลือง ง. รถที่มีควำมเร็วสูงกวำ่
115.จากรูป หากรถคนัสีแดงและรถคันสีเหลืองต้องการจะเลี้ยวขวาในเวลาเดียวกัน รถคันใดจะมีสิทธิไปก่อน ก. สามารถไปได้ในเวลาเดียวกัน ข. รถคันสีแดง ค. รถคันสีเหลือง ง. รถที่มีควำมเร็วสูงกวำ่ 116.การขับขี่ในบริเวณชุมชนทถีู่กต้อง ควรปฏิบัติอย่างไร ก. ขับด้วยควำมเร็วสูง ข. ขับด้วยควำมเร็วปกติ ค. ขบัดว้ยควำมเร็วปกติแต่ชะลอควำมเร็วเมื่อพบป้ำยเตือน ง. ขับด้วยความเร็วที่ต ่า 117. ในการขบัขภี่ายในชุมชน ผ้ขูับขี่ไม่จา เป็นต้องใส่ใจกบัสิ่งใด ก. ป้ ายโฆษณาข้างทาง ข. รถโดยสำรที่กำ ลงัจอดและกำ ลงัเคลื่อนที่ออก ค. สตัวท์ ี่ถูกปล่อยอยบู่นถนน ง. คนขี่จักรยำน 118. เมอื่ขับขี่เข้าใกล้บริเวณทางม้าลายหน้าโรงเรียน ผู้ขับขี่ควรปฏิบัตอิย่างไร ก. พยำยำมใชค้วำมเร็วคงที่ในกำรผำ่นบริเวณน้นั ข. ขับรถชิดขอบทำงด้ำนซ้ำยด้วยควำมระมัดระวัง ค. ชะลอความเร็วลง ง. ใหส้ญัญำณเตือนผคู้นในละแวกน้นั 119. เมอื่ขับรถเข้าใกล้บริเวณทางม้าลายแต่ไม่มคีนข้ามทางม้าลาย ผู้ขับขี่ควรปฏิบตัอิย่างไร ก. ใชส้ญัญำณแตรเสียงส้นัเพื่อเตือน ข. ไม่ต้องให้สัญญาณ เพียงชะลอความเร็วลงก็พอ ค. ใช้สัญญำณแตรเสียงยำวเพื่อเตือน ง. ใช้สัญญำณไฟสูงเพื่อเตือน
120. หากท่านกา ลงัขับขี่เข้าสู่วงเวยีน และพบรถขนาดใหญ่ทกี่า ลงัเปิดสัญญาณไฟเลยี้วซ้ายแต่ตวัรถค่อยๆเคลอื่นตวัไป ทางขวา ท่านควรปฏิบัติอย่างไร ก. รักษาระยะห่างไว้ ข. ให้สัญญำณแตร ค. แซงไปทำงด้ำนซ้ำย ง. ขบัตำมรถใหญ่ 121. ข้อใดต่อไปนี้เป็ นสิ่งที่ไม่ควรปฏิบัติในการขับขี่ผ่านวงเวียน (การขับขี่ผ่านวงเวียน) ก. ขับขี่ด้วยควำมเร็วต ่ำ ข. ขับแซงไปมา ค. ปฏิบตัิตำมกฎจรำจรอยำ่งเคร่งครัด ง. ใหส้ญัญำณไฟเล้ียวก่อนออกจำกวงเวยีนเสมอ 122. ข้อใดเป็ นการขับรถเข้าทางโค้งอย่างปลอดภัย ก. ลดความเร็วก่อนเข้าโค้ง ข. ใชค้วำมเร็วสูงกวำ่ที่กำ หนด ค. เปลี่ยนเกียร์ขณะเขำ้ทำงโคง้ ง. เหยียบเบรกกะทันหันขณะเข้ำทำงโค้ง 123. หากรถคนัสีเหลอืงต้องการมุ่งหน้าตรงผ่านวงเวยีน จะต้องเปิดไฟเลยี้วซ้ายเพอื่ออกจากวงเวยีนทตี่า แหน่งใด ก. จุดที่ 2 ข. จุดที่ 1 ค. จุดที่3 ง. เปิดสญัญำณไฟเล้ียวซำ้ยทุกๆ จุด
124.จากรูป หากท่านกา ลงัขับตามหลงัคนขี่จกัรยาน แต่ท่านต้องการทจี่ะเลยี้วซ้าย ท่านควรปฏิบัติอย่างไร ก. ชะลอความเร็วจนกว่าจักรยานจะผ่านทางเลี้ยว ข. พยำยำมแซงจกัรยำนก่อนที่จะถึงทำงเล้ียว ค. จอดรถเพื่อรอจนกวำ่คนขี่จกัรยำนจะผำ่นทำงเล้ียว ง. ทำ กำรเล้ียวโดยไม่ตอ้งสนใจจกัรยำน 125. สิ่งใดทที่่านควรระวงัเป็นพเิศษเมอื่พบรถโดยสารจอดอยู่ในถนนฝั่งตรงข้าม ก. รถโดยสำรอำจเคลื่อนที่โดยฉับพลัน ข. ผู้เดนิเท้าอาจเดนิออกมาทางข้างหลงัรถโดยสาร ค. รถโดยสำรอำจเสียอยู่ ง. ไม่ตอ้งระวง ัเนื่องจำกเป็นถนนฝั่งตรงขำ้ม 126. ดงัรูปในกรณีทรี่ถสีน า้ตาลมาจากทางหลกัและรถสีน า้เงนิออกมาจากซอยซึ่งเป็นทางรองรถคนัใดต้องหยุดให้ทาง ก. รถคนัสีน้ำ ตำล ข. รถคันสีน ้าเงิน ค. รถคนั ใดก็ได้ ง. รถคนัที่มีควำมเร็วต่ำ กวำ่ 127. ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้องเกยี่วกบัการแซง ก. แซงบริเวณเขตห้ำมแซงด้วยควำมระมัดระวัง ข. ไม่ควรแซงในทำงที่มีทศันวสิยัไม่ดี ค. ควรประเมินเวลำที่ใช้ในกำรแซงให้ถูกต้อง ง. แซงในขณะที่เห็นว่าปลอดภัยแล้วเท่านั้น
128. เมอื่ท่านเห็นสัญญาณไฟจราจรเปลยี่นจากสีเขียวเป็นสีเหลอืงในขณะทที่่านกา ลงัจะขับขี่ผ่านทางแยกในเวลาเช้าตรู่ที่ ไม่มกีารจราจรอยู่ในบริเวณรอบๆ ท่านควรปฏิบัตอิย่างไร ก. ขบัต่อไปดว้ยควำมเร็วคงที่ ข. ชะลอความเร็วและเตรียมหยุดรถ ค. ขบัต่อไปดว้ยควำมเร็วสูงข้ึน ง. ชะลอควำมเร็วลงและขบัผำ่นไป 129. ในขณะทที่่านกา ลงัหยุดรอสัญญาณไฟอยู่ทที่างแยกแล้วไฟจราจรเปลี่ยนเป็ นสีเขียว ท่านควรปฏิบัติอย่างไร ก. ตรวจสอบการจราจรรอบๆ ข้างก่อน จากนั้นจึงออกรถ ข. ขบัรถผำ่นทำงแยกไปโดยเร็วเพื่อไม่ใหร้ถคนัหลงัเสียเวลำ ค. รอจนกวำ่รถคนัขำ้งหลงัของท่ำนจะใหส้ญัญำณแตรแลว้จึงออกรถ ง. ปฏิบตัิอยำ่งไรก็ได้แลว้แต่ผขู้บัขี่
130.จากรูป ผู้ขับขรี่ถคนัสีแดงควรปฏิบตัอิย่างไร ก. บีบแตรเพื่อเตือนให้รถคันอื่นรับรู้ ข. มองกระจกข้าง ให้สัญญาณ และเปลี่ยนช่องทางเมื่อปลอดภัย ค. เร่งควำมเร็วข้ึนและแซงโดยไม่ตอ้งมองกระจกขำ้ง ง. เร่งควำมเร็วไปขำ้งหนำ้และรีบเปลี่ยนช่องจรำจร 131.จากรูป ผู้ขับขรี่ถคนัสีแดงควรระมดัระวงัรถคนัใดมากทสีุ่ด ก. รถจักรยานยนต์ ข. รถคนัสีน้ำ เงิน ค. รถคันสีเขียว ง. ไม่จำ เป็นตอ้งระวงัรถคนั ใดเลย 132. ข้อใดเป็นการปฏบิัตทิถีู่กต้องตามหลกัการขบัรถอย่างปลอดภยั ก. ตรวจความพร้อมของรถยนต์ก่อนออกเดนิทางทุกคร้ัง ข. ไม่จำ เป็นใหส้ญัญำณไฟเล้ียวในกำรเปลี่ยนช่องจรำจร ค. ในกำรกลบัรถไม่จำ เป็นตอ้งใหส้ญัญำณไฟเล้ียว ง. ในกำรขบัรถตรงผำ่นทำงแยกควรใหส้ญัญำณไฟกะพริบฉุกเฉิน
133. หลกัการขับรถเข้าโค้งทถีู่กต้องควรปฏบิัตเิช่นไร ก. เพิ่มควำมเร็วก่อนเขำ้โคง้ลดควำมเร็วขณะออกจำกโค้ง ข. ลดความเร็วก่อนเข้าโค้ง เพิ่มความเร็วขณะออกจากโค้ง ค. ลดควำมเร็วก่อนเขำ้โคง้ลดควำมเร็วขณะออกจำกโค้ง ง. เพิ่มควำมเร็วก่อนเขำ้โคง้เพิ่มควำมเร็วขณะออกจำกโคง้ 134. เพื่อความปลอดภัยเมื่อออกรถเคลื่อนที่ไปข้างหน้าได้ประมาณ 3-4 เมตร ควรทดสอบอะไรเป็ นอันดับแรก ก. ทดสอบไฟสูง ข. ทดสอบไฟเล้ียว ค. ทดสอบสัญญำณแตร ง. ทดสอบระบบเบรก 135. ข้อควรปฏิบัติขณะขับรถขณะฝนตกคือข้อใด ก. เปิ ดไฟหรี่ ข. ขบัรถชำ้ๆ โดยไม่ตอ้งเปิดไฟ ค. เปิ ดไฟส่องสว่าง ง. บีบแตรแลว้ขบัใหเ้ร็วเพื่อป้องกนัรถคนัหลงัชนทำ้ย 136.ถ้าขณะขับรถเกิดยางแตกหรือยางระเบิดควรปฏิบัติเช่นไร ก. เหยียบคลัตช์ให้เร็วแล้วตำมด้วยเบรก ข. เหยียบเบรกโดยเร็ว ค. จับพวงมาลัยให้มั่น แล้วค่อยๆ เบรกและน ารถเข้าข้างทาง ง. เหยยีบคลตัชอ์ยำ่งเดียว 137. ในสภาพถนนปกติ รถพร้อม คนพร้อม ขับรถตามรถคันหน้าต้องเว้นระยะห่างจากรถคันหน้าเท่าใด จึงจะปลอดภัยเมื่อ รถคนัหน้าหยุด ก. ห่างพอสมควรและสามารถหยดุรถได้โดยปลอดภัย ข. 3 เมตร ค. 5 เมตร ง. หน่ึงช่วงรถ 138. ขณะขับรถหากเกิดคันเร่งค้างควรท าอย่างไร ก. เปิ ดไฟฉุกเฉิน ข. ตั้งสติ ใช้ปลายเท้างัดคันเร่งขึ้นมา ค. ดึงเบรกมือ ง. ย้ำ คนัเร่งหลำยๆ คร้ัง
139. ข้อใดคอืการใช้ไฟฉุกเฉินทถีู่กต้อง ก. ฝนตก ข. ขบัผำ่นสี่แยก ค. รถเสียบนทางด่วน ง. บริเวณที่มีหมอกลงจัด 140.การใช้เกยีร์เพอื่ขนึ้และลงเขาข้อใดถูก ก. ขึ้นและลงใช้เกียร์ต ่า ข. ข้ึนใชเ้กียร์ต่ำ และลงใชเ้กียร์สูง ค. ข้ึนใชเ้กียร์ต่ำ และลงใชเ้กียร์วำ่ง ง. ข้ึนและลงใชเ้กียร์สูง 141.อะไรไม่ใช่เป้ าหมายในการขับรถอย่างปลอดภัย ก. ไม่ขบัรถไปชนคนัอื่น ข. ขับให้ถึงทหี่มายเร็วทสีุ่ด ค. ไม่เป็นเหตใุหร้ถคนัอื่นชนกนั ง. ป้องกนัไม่ใหร้ถคนัอื่นมำชนเรำ 142. เหตุใดจงึห้ามเปิดไฟสูงขณะทขี่ับรถตามคนัหน้าหรือรถทวี่งิ่สวนทางมา ก. เพราะจะทา ให้ผู้ขับรถคนัหน้าและรถทวี่งิ่สวนทางมามองทางไม่ชัดเจน ข. จะท ำให้ผู้ขับรถคันหน้ำหลับใน ค. จะทำ ใหเ้รำมองทำงขำ้งหนำ้ไม่ชดัเจน ง. จะทำ ใหร้ถที่วงิ่สวนทำงมำหลบัใน 143.การขับรถทางไกลเมอื่รู้สึกว่าตนเองง่วงควรปฏิบตัอิย่างไร ก. วงิ่แลว้เบรกบ่อยๆ เพื่อใหห้ำยง่วง ข. ขับรถหวำดเสียวเพื่อให้ระบบประสำทตื่นตัว ค. หยุดพกันอน หรือยดืเส้นยดืสายตามจุดพกั หรือปั๊มน ้ามัน ง. เร่งเครื่องเพื่อใหถ้ึงจุดหมำยโดยเร็ว 144. ข้อใดไม่ใช่วิธีการขับรถที่ปลอดภัยในขณะที่ฝนตก ก. เปิ ดไปฉุกเฉินตลอดเวลำที่ฝนตก ข. ทิ้งช่วงห่ำงจำกรถคนัหนำ้เผื่อไวม้ำกๆ ค. เปิ ดไฟหน้ำ ง. ใช้อัตราความเร็วที่ปลอดภัย
145. ในการข้ามทางรถไฟรางคู่ทไี่ม่มเีครื่องก้นัเมอื่รถไฟผ่านไปแล้วผู้ขับรถควรระวงัสิ่งใดต่อไปนี้ ก. รถที่จะขำ้มมำจำกฝั่งตรงขำ้ม ข. รถไฟที่อาจจะสวนทางมาอีกทางหนึ่ง ค. คนที่จะเดินข้ำมทำงรถไฟ ง. รถที่หยุดรอด้ำนหลัง 146. ในการขับรถข้ามทางรถไฟที่ไม่มีเครื่องกั้นเมื่อคันด้านหน้าขับข้ามทางรถไฟไปแล้วท่านควรปฏิบัติอย่างไร ก. ก่อนข้ามทางรถไฟต้องตรวจสอบความปลอดภัยอีกครั้ง ข. ขับตำมคันด้ำนหน้ำไปได้เลย ค. หยุดรอเจ้ำหน้ำที่ให้สัญญำณ ง. รอสัญญำณไฟเขียว 147. เมอื่ท่านขับรถทมี่นี า้หนักบรรทุกมาก ข้อใดถูกต้องมากทสีุ่ด ก. ประสิทธิภาพของเบรกจะน้อยลง เบรกยาวขึ้น ข. ระบบกนัสะเทือนจะนุ่มนวลมำกข้ึน ค. ควนัไอเสียจะมำกข้ึน ง. เครื่องยนต์ท ำงำนเต็มประสิทธิภำพ 148. เมอื่ท่านขับรถทบี่รรทุกสิ่งของทมี่คีวามสูงจะมผีลอย่างไร ก. แรงหนีศูนยข์องรถและสิ่งของจะนอ้ยลง ข. จุดศูนย์ถ่วงจะสูงขึน้ทา ให้พลกิควา ่ได้ง่าย ค. แรงเหวยี่งของรถจะนอ้ยลงเนื่องจำกน้ำ หนกับรรทุก ง. ระยะเบรกจะส้นัลง 149. สิ่งใดที่ไม่มีผลต่อระยะการเบรกรถ ก. บริษัทของผู้ผลิตยำง ข. ความเหนื่อยล้า ค. สภำพถนนที่เปี ยก ง. น้ำ หนกับรรทุก 150. ข้อใดถูกต้องทสีุ่ดในการควบคุมความเร็วของรถ ก. กำรชะลอรถควรใชเ้บรกเท่ำน้นั ข. ในการขบัรถควรใช้คนัเร่งควบคุมในการเร่งและชะลอรถให้มากทสีุ่ด ค. กำรใชเ้กียร์ช่วยลดควำมเร็วใหใ้ชเ้ฉพำะทำงลงลำดชนัเท่ำน้นั ง. ควรใชเ้บรกมือร่วมกบัเบรกเทำ้เพื่อช่วยลดกำรสึกหรอเบรกเทำ้
151. ข้อใดปฏิบัตไิม่ถูกต้องเมอื่รถของท่านจอดเสียกลางถนนหลวง ก. ต้งัสญัลกัษณ์แสดงวำ่มีรถจอดเสียในระยะ150 เมตร ข. เปิ ดสัญญำณไฟฉุกเฉินพร้อมไฟหน้ำรถ ค. ยืนโบกด้านท้ายรถเพื่อส่งสัญญาณกันรถชนท้ายรถเรา ง. เปิดฝำกระโปรงดำ้นหนำ้และทำ้ยรถเพื่อส่งสญัญำณ 152.ก่อนขบัรถ ผู้ขับขี่ทดี่คีวรเตรียมความพร้อมของตนเองอย่างไร ก. พักผ่อนให้เพียงพอ ข. ดื่มเหล้ำ ค. กินยำบำ้ ง. เที่ยวดึก 153. ข้อใดเป็ นการเตรียมความพร้อมของรถก่อนขับรถ ก. ตรวจสภำพอำกำศ ข. ต่อใบอนุญำตขบัรถ ค. ดูหนงัสือแผนที่ทำงหลวงแผน่ดิน ง. ตรวจแรงดันลมยาง, เบรก, น ้ามันหล่อลื่น 154. เมื่อเกิดรถเสีย ควรปฏิบัติอย่างไร ก. เปิดไฟฉุกเฉิน, น ารถจอดเข้าข้างทาง ข. จอดรถทิ้งไวก้ลำงถนน ค. นำ กิ่งไมว้ำงไวท้ำ้ยรถ ง. ก่อกองไฟขำ้งทำงหำกเป็นกลำงคืน 155. สัญญาณไฟเตือนบนแผงหน้าปัดรถสีใด ที่ไม่ควรปรากฏขณะขับรถ ก. สีเขียว ข. สีแดง ค. สีเหลือง ง. สีฟ้ ำ 156.การจบัพวงมาลยันิว้มอืควรอยู่ในลกัษณะใด ก. นิว้มอืท้งัห้าจบัพวงมาลยัให้กระชับ สามารถหมุนได้คล่องตวั ข. นิ้วมือท้งัหำ้กำ พวงมำลยัใหแ้น่นที่สุด ค. นิ้วมือท้งัหำ้แตะที่พวงมำลยัสำมำรถหมุนพวงมำลยัดว้ยมือขำ้งเดียว ง. ใชน้ิ้วหวัแม่มือและนิ้วช้ีจบัพวงมำลยัเพียงสองนิ้ว
157. เมอื่ผู้ขับขขี่ับรถเสียหลกับนถนนเปียกลนื่ควรปฏิบัตอิย่างไร ก. ถอนคนัเร่ง เหยยีบเบรกเพื่อใช่เกียร์ต่ำ ข. เหยยีบเบรกทนัทีแลว้ค่อยๆ ออกตวัเร่งควำมเร็วใหม่ ค. ต้งัสติใหม้นั่จบัพวงมำลยัใหด้ีเร่งควำมเร็วหนีใหพ้น้ไป ง. ถอนคันเร่งจับพวงมาลัยให้มั่นประคองรถต่อไป 158. ขณะขับรถ ถ้ากระจกบังลมหน้ารถแตกร้าว ควรปฏิบัติอย่างไร ก. ต้งัสติเปิดไฟฉุกเฉิน ลดความเร็วจอดรถข้างทาง ข. ต้งัสติเปิดไฟฉุกเฉิน และขบัรถต่อไป ค. ต้งัสติเปิดไฟฉุกเฉิน และหยดุรถทนัที ง. ต้งัสติจอดรถขำ้งทำง 159. ขณะฝนตกใหม่ๆรถมกัลนื่ไถลเพราะเหตุใด ก. น้ำ ฝนจะชะลำ้งถนนใหส้ะอำด ข. น ้าฝนจะกลายเป็ นฟิ ล์มรองรับระหว่างยางกับพื้นถนน ค. ฝนตกทำ ใหถ้นนชำ รุดเป็นหลมุเป็นบ่อ ง. ถนนคอนกรีตดูดซบัน้ำ ฝนไดอ้ยำ่งดี 160. ข้อใดไม่ควรปฏิบัติขณะขับรถเมื่อฝนตกหนัก ก. ใชค้วำมเร็วไม่เกิน 20 กิโลเมตรต่อชวั่โมง ข. เบรกรถอย่างรุนแรงและรวดเร็ว ค. เปิ ดไฟหน้ำรถในขณะขับรถ ง. ลดควำมเร็วลงและเพิ่มควำมระมดัระวงัใหม้ำกข้ึน 161. เพอื่ความปลอดภัยในการขบัรถช่วงฤดูฝน ควรตรวจสอบอปุกรณ์ส่วนควบสิ่งใดของรถก่อนเป็นลา ดบัแรก ก. ที่ปัดน ้าฝน ข. น้ำ ในหมอ้น้ำ ค. น้ำ กลนั่แบตเตอรี่ ง. ตรวจเช็คประตหูนำ้ต่ำงรถ 162. ในขณะขบัรถลุยน า้ผู้ขับขี่ควรปฏิบตัอิย่างไร ก. ขับรถด้วยควำมเร็ว ข. เปิ ดไฟฉุกเฉิน ค. เปิ ดไฟหน้ำรถ ง. เร่งเครื่องยนต์ให้มากกว่าปกตเิลก็น้อยและควบคุมเครื่องยนต์ไม่ให้ดบั
163. หลงัจากขับรถลุยน า้ผ้าเบรกเปียกมวีธิีแก้ไขให้แห้งได้อย่างไร ก. เหยียบเบรกแรงๆ ข. ขับรถให้เร็วๆ ค. ขับรถช้าๆ เหยียบเบรกเบาๆ แล้วปล่อยหลายๆ ครั้ง ง. จอดรถเขำ้เกียร์วำ่งและเร่งเครื่องยนตไ์วส้ก ั 10 นำที 164. เหตุใดขณะขับรถลุยน า้จงึต้องเลยี้งคลตัช์และเร่งเครื่องยนต์มากกว่าปกตเิลก็น้อย ก. เพื่อป้ องกันไม่ให้เครื่องยนต์ดับ ข. เพื่อใหร้ถมีควำมเร็วมำกข้ึน ค. เพื่อให้เครื่องยนต์ร้อน ง. เพื่อให้ควำมร้อนของเครื่องยนตส์ูงกวำ่ ปกติ 165. ข้อใดเปิดไฟหน้ารถไม่ถูกต้อง ก. เมื่อฝนตกหนัก ข. เมื่อต้องเร่งรีบไปท างาน ค. เมื่อมีควันไฟปกคลุมถนน ง. เมื่อไม่สำมำรถมองเห็นทำงขำ้งหนำ้ในระยะต่ำ กวำ่ 150 เมตร 166.การขับรถผ่านบริเวณน ้าท่วม ควรปฏิบัติอย่างไร ก. ขับช้าๆ ตามหลังรถคันหน้าในระยะห่างพอสมควร ข. หำ้มใชเ้บรกอยำ่งเด็ดขำด ค. พยำยำมขบัใหจ้้ีติดทำ้ยรถคนัหนำ้ตลอดเวลำ ง. เปิ ดไฟฉุกเฉินตลอดเวลำ 167. เพอื่ความปลอดภัยก่อนขับรถ ผู้ขับขี่ควรเตรียมความพร้อมอย่างไร ก. รับประทำนเครื่องดื่มกระตุ้นประสำทชนิดเข้มข้น ข. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ค. ต่อทะเบียนรถใหเ้รียบร้อย ง. เติมน้ำ มนั ใหเ้ตม็ถงั 168. ข้อใดเป็นปัจจยัส าคญัทกี่่อให้เกดิอุบัตเิหตุทางถนนมากทสีุ่ด ก. ถนน ข. ผู้ขับขรี่ถ ค. สัญญำณไฟจรำจร ง. ไฟส่องถนนบริเวณทำงร่วมทำงแยก
167. พฤติกรรมการขับรถข้อใดถือว่าไม่ปลอดภัย ก. นางสมศรีขับรถปฏิบัติตามความพอใจของตัวเอง ข. นำยสมชำยขับรถจักรยำนยนต์สวมรองเท้ำหุ้มส้น ค. นำงจิตรำขับรถในเขตกรุงเทพฯ ใช้ควำมเร็วเพียง50 กิโลเมตรตอ่ชวั่โมง ง. นำยทองใบขับรถนอกเขตเทศบำลใช้ควำมเร็วเพียง80 กิโลเมตรต่อชวั่โมง 168.ก่อนออกรถจากไหล่ทางด้านซ้าย ผู้ขับขี่ต้องปฏิบัตอิย่างไรให้ปลอดภัยมากทสีุ่ด ก. มองกระจกมองข้ำงด้ำนขวำ ข. เปิดไฟเล้ียวซำ้ย หนัศีรษะไปดำ้นซำ้ย ค. มองกระจกมองข้างด้านขวา เปิ ดไฟเลี้ยวขวา พร้อมกับหันศีรษะมองข้ามไหล่ขวาไปทางด้านหลังก่อนออกรถ ง. มองกระจกมองหลัง 169. ภายหลังออกรถไปประมาณ 3 ถึง4 เมตร ควรทดสอบระบบใด ก. เบรก ข. ปรับกระจกมองหลัง ค. ปรับกระจกมองข้ำง ง. ไฟเล้ียว 170.การขับรถขึ้นทางลาดชัน ควรใช้เกียร์อย่างไร ก. ใชเ้กียร์ต่ำ แต่เมื่อใกลถ้ึงยอดเขำใหเ้ปลี่ยนเป็นเกียร์สูง ข. ใชเ้กียร์สูงและลดควำมเร็วลง ค. ใช้เกียร์ต ่าและขับด้วยความระมัดระวัง ง. ใชเ้กียร์4 ข้ึนไปขณะข้ึนทำงลำดชนั 171. ในขณะทขี่ับรถอยู่มกีลนิ่เหมน็ ไหม้แอร์เริ่มไม่เยน็เครื่องยนต์เร่งไม่ขนึ้ควรปฏบิัตอย่างไร ิ ก. จอดรถในที่ปลอดภัยแล้ว ตรวจเช็กรถในเบื้องต้น ข. ขบัต่อไปเรื่อยๆ ค. ลดควำมเร็วลงแลว้ขบัต่อไป ง. หยุดรถทันทีกลำงถนนห้ำมเคลื่อนย้ำย 172. ขณะขับรถเครื่องยนต์เกดิความร้อนสูง ควรปฏิบัติอย่างไร ก. หยดุรถที่ปลอดภยัเอำน้ำ แขง็มำแช่เครื่องยนต์ ข. หยุดรถทปี่ลอดภัยแล้วปล่อยให้เครื่องเยน็ก่อน ค. หยดุรถที่ปลอดภยัแลว้เปิดฝำหมอ้น้ำ เติมน้ำ ทนัที ง. หยดุรถที่ปลอดภยัแลว้เอำน้ำ มำรำดเครื่องยนต์
173. ในการขบัรถทางไกล ผู้ขบัขคี่วรเตรียมความพร้อมของร่างกายอย่างไร ก. พักผ่อนให้เพียงพอ ข. รับประทำนอำหำรเพิ่มเป็น 2 เท่ำของวนั ปกติ ค. ดื่มเครื่องดื่มชูกำ ลงัใหม้ำกๆ ง. ใช้ยำกระตุ้นประสำท (ยำบ้ำ) 174.การขับรถในทางลักษณะใด ที่ไม่จ าเป็ นต้องเปิ ดไฟเลี้ยว ก. ทำงเล้ียวซำ้ยเขำ้ซอย ข. ทำงเล้ียวซำ้ยออกจำกซอย ค. ทางบังคับเลี้ยว ง. ทำงกลับรถ 175.การหมุนพวงมาลยัรถ ขณะจอดรถอยู่กบัทจี่ะมผีลอย่างไร ก. ดอกยางสึกเร็วกว่าปกติ ข. สิ้นเปลืองน้ำ มนัเพำเวอร์ ค. สิ้นเปลืองน้ำ มนัเช้ือเพลิง ง. ทำ ใหห้มนุพวงมำลยัง่ำยข้ึน 176.การหยุดรถอย่างกะทนัหัน (รถไม่มีเบรก ABS) ควรปฏิบัติอย่างไร ก. เหยียบเบรกแรงๆ โดยไม่ตอ้งถอนเบรก ข. เหยียบและปล่อยเบรกสลับกัน (ย ้าเบรกซ ้าๆ) ค. เหยยีบเบรกและดึงเบรกมือพร้อมกนั ง. เหยียบเบรกและดบัเครื่องยนตพ์ร้อมกนั 177.รถทขี่บัมาด้วยความเร็วสูงแล้วเหยยีบเบรกอย่างกะทนัหัน (รถไม่มีเบรก ABS) จะมีผลอย่างไร ก. ล้อจะล็อกและรถจะไม่สามารถควบคุมได้ ข. รถจะค่อยๆ ชะลอควำมเร็วลง ค. จะหยดุรถไดต้ำมระยะที่กำ หนด ง. ล้อจะล็อกและรถจะหยุดทันที 178.ก่อนขบัรถเข้าโค้งหรือมุมเลยี้ว ควรใช้ความเร็วอย่างไร ก. ลดควำมเร็วลงใหม้ำกที่สุดเท่ำที่จะทำ ได้ ข. ควบคุมความเร็วของรถให้เหมาะสมกบัโค้งหรือมุมเลยี้ว ค. ใช้ควำมเร็วคงที่ ง. เพิ่มควำมเร็วใหม้ำกข้ึนกวำ่เดิม
179. ขณะขับรถยางรถแตกจะมีอาการอย่างไร ก. รถหยุดกะทันหัน ข. พวงมาลัยจะหนักรถจะเอียง ค. พวงมำลยัรถจะไร้น้ำ หนกั ง. เบรกจะไมท่ำ งำน 180.ยางทหี่มดอายุจะมลีกัษณะอย่างไร ก. มีรอยแตกร้าวตามแนวขอบยาง ข. ยำงจะมีสีด ำสนิท ค. ยำงจะมีสีขำวนวล ง. เวลำเปียกน้ำ จะไม่เกำะยำง 181. ในขณะขบัรถยางรถแตกหรือระเบิด ผู้ขบัขี่ควรปฏบิัตอิย่างไร ก. คุมสติบังคบัพวงมาลยัลดความเร็วลงและไม่ควรเหยยีบเบรกกะทนัหัน ข. รีบเหยียบเบรกให้เร็วที่สุด ค. ปลดเกียร์วำ่งแลว้รีบเหยยีบเบรก ง. หมุนพวงมำลยัอยำ่งรวดเร็วเพอื่หลบเขำ้ขำ้งทำง 182. ในขณะทกี่า ลงัขับรถถ้าฝากระโปรงหน้ารถเปิด ผู้ขับขี่ควรปฏิบัตอิย่างไร ก. เบรกกะทันหัน ข. หกัเล้ียวรถเขำ้ขำ้งทำงทนัทีเพอื่ปิดฝำกระโปรงใหเ้รียบร้อย ค. ลดความเร็วแล้วจอดข้างทาง เพื่อปิ ดฝากระโปรงให้เรียบร้อย ง. เหยยีบคนัเร่งใหม้ิดเพื่อฝำกระโปรงจะไดก้ระแทกปิด 183. ข้อใดเป็ นวิธีแก้ไขเบื้องต้นเมื่อรถเกิดไฟลัดวงจร ก. ใชท้รำยสำดใส่ ข. วงิ่หำน้ำ มนัมำรำด ค. หำผ้ำหนำๆ ปิ ดหรือดับไฟ ง. ตัดกระแสไฟ หรือหาทางงัดขั้วแบตเตอรี่ออกก่อน 184.ลมยางล้อหน้าอ่อน จะมีผลต่อการขับขี่อย่างไร ก. เวลานั่งรู้สึกเหมอืนรถจะกระตกุอยู่ตลอดเวลา ข. ยำงล้อหน้ำสึกหรอ พวงมำลัยหนักและรถกินน้ำ มนัมำกข้ึน ค. ประหยดัน้ำ มนัแตเ่ปลืองยำง ง. ประหยดัยำงแต่เปลืองน้ำ มนั
185.การปรับระดับที่นั่งคนขับห่างเกินไป จะมีผลอย่างไร ก. ทำ ใหเ้ขำ้เกียร์ไดง้่ำย ข. ท ำให้เบรกรถสะดวก ค. ท ำให้ทัศนวิสัยในกำรมองเห็นชัดเจนดีมำก สำมำรถตัดสินใจได้ดี ง. บังคบัพวงมาลยัลา บากใช้อุปกรณ์ต่างๆไม่สะดวก 186.การตรวจสอบว่าเข็มขัดนิรภัยยังใช้งานได้ดีหรือไม่ ควรตรวจสอบอย่างไร ก. ต้องมีสีเข้มๆ ข. ดูวำ่เขม็ขดัมียหี่อ้หรือไม่ ค. ดูวำ่เป็นของใหม่หรือไม่ ง. กระตุกดงึสายเข็มขัดอย่างเร็วแล้วสายเข็มขัดต้องลอ็ก 187. ข้อใดไม่ใช่การมองทถีู่กวธิีในขณะขบัรถ ก. กำรมองถึงสภำพของถนนที่แตกต่ำงกนั ข. กำรมองกำรเคลื่อนไหวของรถและคน ค. มองไปยังสิ่งที่ไม่เกี่ยวข้องกับการขับรถ ง. กำรมองเห็นฝงูสตัวเ์ล้ียงกำ ลงัขำ้มถนน 188.การเข้าเกยีร์ถอยหลงัขณะรถยงัไม่หยุดนิ่งมผีลเสียอย่างไร ก. เข้าเกียร์ยากและท าให้เกียร์เสียเร็วกว่าปกติ ข. ทำ ใหน้ ้ำ มนัเกียร์หมดเร็ว ค. เครื่องยนตก์ินน้ำ มนัเครื่อง ง. ไม่มีผลต่อเกียร์ 189.การขับรถถอยหลังควรใช้ความเร็วระดับใด ก. ใช้ควำมเร็วตำมสภำพของรถ ข. ถอยเหมือนกบัเดินหนำ้ ค. ถอยช้าๆ แล้วใช้ความระมัดระวัง ง. ถอยแบบไหนก็ได้ 190.การตรวจลมยางควรตรวจเมื่อใด ก. ตรวจเมื่อไรก็ได้ ข. ขณะที่บรรทุกของหนัก ค. ขณะวงิ่ใชง้ำนแลว้ประมำณ 2 ชวั่โมง ง. ขณะทยี่างยงัเยน็อยู่
191. ข้อใดเป็นการสตาร์ทเครื่องยนต์ทถีู่กต้อง ก. ขึ้นเบรกมือ-ปลดเกียร์ว่าง-ปิดอุปกรณ์ไฟฟ้า-สตาร์ทเครื่องยนต์ ข. ปลดเกียร์วำ่ง-ข้ึนเบรกมือ-สตำร์ทเครื่องยนต์ ค. เหยียบคลัตช์-สตำร์ทเครื่องยนต์ ง. ปลดเบรกมือ-ปิ ดอุปกรณ์ไฟฟ้ ำ-สตำร์ทเครื่องยนต์ 192. ข้อใดไม่ควรปฏิบัติขณะขับรถเมื่อฝนตกหนัก ก. ลดควำมเร็วลงและขับด้วยควำมระมัดระวัง ข. ใชเ้กียร์ต่ำ กวำ่ ปกติ1 เกียร์ ค. เบรกรถอย่างรุนแรงและรวดเร็ว ง. เปิ ดไฟหน้ำรถ 193. หากเกดิฝนตกหนกัจนมองเห็นทางไม่ชัดเจน ผู้ขับขี่ควรปฏบิัตอิย่างไร ก. จอดรถบริเวณทปี่ลอดภัยเปิดไฟหน้ารถและเปิดไฟฉุกเฉิน ข. เปิดไฟหนำ้เร่งควำมเร็วผำ่นบริเวณที่ฝนตกหนกั ค. เร่งควำมเร็วใหผ้ำ่นบริเวณที่ฝนตกโดยเร็ว ง. จอดรถทันที 194. ข้อใดทที่า ให้การหยุดรถต้องใช้ระยะทางมากขนึ้จงึสามารถหยุดรถได้ ก. ควำมรวดเร็วในกำรตัดสินใจ ข. ควำมเร็วในกำรเหยียบเบรก ค. น า้หนักบรรทุกเพมิ่มากขึน้ ง. น้ำ หนกับรรทุกลดนอ้ยลง 195. ข้อใดไม่ควรใช้เบรกมือ ก. ติดไฟแดง ข. ขับรถลงทางลาดชัน ค. จอดรถ ง. หยุดบนทำงลำดชัน 196.การจับพวงมาลัยขณะขับรถทางตรง มอืซ้ายและขวาของผู้ขบัขี่ควรอยู่ในตา แหน่งลกัษณะใดของหน้าปัดนาฬิกา ก. ต าแหน่งเลข 2 และเลข 10 ข. ตำ แหน่งเลข 3 และเลข 10 ค. ตำ แหน่งเลข 4 และเลข 10 ง. ตำ แหน่งเลข 6 และเลข 10
197. ข้อใดไม่มผีลให้ระยะการหยดุรถ(ระยะเบรก) ยาวขึ้น ก. สภำพพ้ืนผิวถนน ข. น้ำ หนกับรรทุก ค. น ้ามันหล่อลื่น ง. ควำมเร็วของรถ 198. ผู้ขับขี่ควรใช้สัญญาณไฟฉุกเฉินเมอื่ใด ก. เมอื่รถเสียหรือเกดิอบุัตเิหตุ ข. เมื่อขบัรถผำ่นทำงร่วมทำงแยก ค. เมื่อจะกลบัรถหรือเปลี่ยนช่องทำงเดินรถ ง. เมื่อมีหมอกฝน ฝุ่ น ควัน ในทำงเดินรถ 199.การฝึ กขับรถแบบ “ขับไปพูดไป” มวีตัถุประสงค์เพอื่อะไร ก. เพื่อป้องกนัไม่ใหง้่วงซึม ข. ฝึ กสมองให้เกิดสมาธิและสมองท างานสัมพันธ์กับตา ค. เพื่อใหเ้หมือนทฤษฎีฝรั่ง ง. เหมือนคนบ้ำขับรถ 200. เมื่อเราเตรียมขับรถแซงรถคันหน้า เราควรปฏิบัติเช่นไรเป็ นอันดับแรก ก. ใหส้ญัญำณไฟก่อน ข. ให้ดูกระจกก่อน ค. รีบเร่งเครื่องแลว้แซงไดเ้ลย ง. เปิ ดไฟฉุกเฉินแล้วแซงได้เลย 201. ข้อควรปฏิบัติขณะขับรถฝ่ าหมอกควันหรือฝนคือข้อใด ก. เปิ ดไฟหรี่ ข. ขบัรถชำ้ๆ โดยไม่ตอ้งเปิดไฟ ค. เปิ ดไฟส่องสว่าง ง. บีบแตรแลว้ขบัใหเ้ร็วเพื่อป้องกนัรถคนัหลงัชนทำ้ย 202. หลงัจากขับรถลุยน า้เมอื่เราขึน้ทแี่ห้งแล้วควรปฏบิัตเิช่นไรเป็นอนัดบัแรก ก. ทดสอบเบรกหลายๆ ครั้ง ข. ทดสอบไฟเล้ียวหลำยๆ คร้ัง ค. ทดสอบสัญญำณแตร ง. ทดสอบไฟสูงต ่ำ
203.ถ้าขณะขับรถเกิดยางแตกหรือยางระเบิดควรปฏิบัติเช่นไร ก. เหยยีบคลตัชอ์ยำ่งเดียว ข. เหยียบเบรกโดยเร็ว ค. เหยียบคลัตช์ให้เร็วแล้วตำมด้วยเบรก ง. ถือพวงมาลัยให้มั่น แล้วค่อยๆ เบรกและน ารถเข้าข้างทาง 204. ในสภาพถนนปกติ รถพร้อม คนพร้อม ขับรถตามรถคันหน้าต้องเว้นระยะห่างจากรถคันหน้าเท่าใดจึงจะปลอดภัยเมื่อ รถคันหน้ำหยุด ก. 3 เมตร ข. 5 เมตร ค. หน่ึงช่องรถ ง. ห่างพอสมควรและสามารถหยดุรถได้โดยปลอดภัย 205. ข้อใดผิด ก. ห้ำมพูดโทรศัพท์ขณะขับรถ ข. ห้ามหยุดรถให้คนข้ามทาง ค. หำ้มหยดุหรือจอดรถคุยกนักลำงถนน ง. ห้ำมแซงซ้ำยในที่ห้ำมแซงซ้ำย 206. ท่านควรหมุนพวงมาลยัลกัษณะใดในการเลยี้งรถ ก. ปั่นพวงมำลยัและตีกลบัเอง ข. ใช้วิธีคลึงไปคลึงมาบนพวงมาลัย ค. ใช้ระบบดึง-ดัน ง. หมุนระบบสอดสร้อยมำลำ 207. เมอื่เห็นผู้ขับขี่เกดิอุบตัเิหตุควรปฏิบตัเิช่นไร ก. ขับรถตำมปกติ ข. ช่วยเหลอืผู้บาดเจบ็เท่าทจี่า เป็น ค. รีบขับรถหนี ง. ขับรถช้ำๆ ชะลอดูเหตุกำรณ์ 208.การขับรถทางไกลเมอื่รู้สึกว่าตนเองง่วงควรปฏิบตัอิย่างไร ก. เร่งเครื่องเพื่อใหถ้ึงจุดหมำยโดยเร็ว ข. ขับรถหวำดเสียวเพื่อให้ระบบประสำทตื่นตัว ค. วงิ่แลว้เบรกบ่อยๆ เพื่อใหห้ำยง่วง ง. หยุดพกันอน หรือยดืเส้นยดืสายตามจุดพกั หรือปั๊มน ้ามัน
209. ข้อใดไม่ใช่วิธีการขับรถที่ปลอดภัยในขณะที่ฝนตก ก. เปิดไปฉุกเฉินตลอดเวลาทฝี่นตก ข. ทิ้งช่วงห่ำงจำกรถคนัหนำ้เผื่อไวม้ำกๆ ค. เปิ ดไฟหน้ำ ง. ใช้อัตรำควำมเร็วที่ปลอดภัย