The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Opor Aumauang, 2022-09-10 07:50:44

แผนการสอน โครงสร้างและประเภทของดอก

แผนการสอน

Keywords: แผน

แผนการจัดการเรียนรู้

นางปราณี หอมสดุ

ตาแหนง่ ครู
วทิ ยฐานะ ครชู านาญการ

โรงเรยี นประโคนชยั พทิ ยาคม

สานักงานเขตพน้ื ทกี่ ารศกึ ษามธั ยมศกึ ษาบรุ ีรมั ย์

สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน กระทรวงศึกษาธกิ าร

แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 1

กลุ่มสาระการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 8 การสบื พนั ธุ์ของพชื ดอก
เรื่อง โครงสร้างและประเภทของดอก เวลา 1 ชัว่ โมง (60 นาท)ี
รหัสวชิ า ว30243 รายวิชา ชีววทิ ยา 3 ชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี 5
สอดคลอ้ งกับสาระ 1 มาตรฐาน ว 1.2 ม.5/3
ผูส้ อน : นางปราณี หอมสดุ

1. มาตรฐานการเรียนรู้ / ตัวชวี้ ดั / ผลการเรียนรู้
มาตรฐานการเรียนรู้
ว 1.2 เข้าใจสมบัติของสงิ่ มีชวี ิต หน่วยพืน้ ฐานของสงิ่ มชี วี ติ การลาเลียงสารเขา้ และออกจากเซลล์

ความสมั พนั ธ์ของโครงสร้าง และหน้าท่ีของระบบตา่ งๆ ของสัตว์และมนษุ ยท์ ่ีทางานสัมพันธก์ ัน ความสมั พันธข์ อง
โครงสร้างและหน้าที่ของอวัยวะตา่ งๆ ของพืชทที่ างานสัมพันธก์ ัน รวมทั้งนาความรู้ไปใช้ประโยชน์

ตวั ช้ีวัด
ว 1.2 ม.5/3 เขา้ ใจส่วนประกอบของพืช การแลกเปลี่ยนแก๊สและคายน้าของพชื การลาเลียง ของพืช การ
สังเคราะห์ ดว้ ยแสง การสืบพนั ธขุ์ องพชื ดอกและการเจริญเตบิ โต และการตอบสนอง ของพชื รวมทงั้ นาความรู้ไปใช้
ประโยชน์
ผลการเรียนรู้
สารวจ ตรวจสอบ สบื ค้นขอ้ มูล อภปิ ราย ปฏบิ ตั ิการทดลอง และสรปุ เกีย่ วกับโครงสร้างของดอก ประเภท
ของดอกได้
2. สาระสาคญั
โครงสรา้ งของดอกท่เี กย่ี วขอ้ งกับการสืบพนั ธุใ์ นพืชแต่ละชนิดมีโครงสรา้ งของดอกแตกตา่ งกนั บางชนดิ มี
โครงสร้างหลกั ครบท้งั 4 สว่ น ซ่ึงไดแ้ ก่ กลบี เลย้ี ง (sepal) กลบี ดอก (petal) กสรเพศผู้ (stamen) และ เกสรเพศเมยี
(pistil) เรียกว่า ดอกสมบรู ณ์(complete tower) ถ้าขาดส่วนใดสว่ นหน่ึงไปไม่ครบ 4 สว่ น เรยี กวา่ ดอกไม่สมบูรณ์
(incomplete fower) และดอกท่ีมีท้ังเกสรเพศผแู้ ละเพศเมยี อยู่ภายในดอกเดยี วกัน เรยี กวา่ ดอกสมบูรณ์เพศ
(perfect flower) ถ้ามีแต่เกสรเพศผู้ หรอื เกสรเพศเมียอย่างเดยี ว เรยี กวา่ ดอกไม่
สมบรู ณเ์ พศ (imperfect flower)
ดอกโดยทวั่ ไปมสี ่วนประกอบ 4 ชน้ั คอื ช้นั กลีบเล้ียง ชน้ั กลบี ดอก ช้ันเกสรเพศผู้ และชนั้ เกสรเพศเมยี อาจ
จาแนกประเภทของดอกได้โดยใชเ้ กณฑ์ทเ่ี ปน็ ส่วนประกอบของดอก ตาแหนง่ รังไข่ หรอื จานวนดอกท่ีอย่บู นก้านดอก
สว่ นประกอบของดอกทเ่ี กี่ยวขอ้ งกบั การสืบพันธ์ุโดยตรง คือชนั้ เกสรเพศผูแ้ ละช้นั เกสรเพศเมยี ซึ่งจานวนรงั ไข่
เกี่ยวข้องกับการเจริญเป็นผลชนดิ ต่างๆ

3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้

- ดา้ นความรู้ (K)

3.1 สามารถบอกโครงสร้างและชีส้ ว่ นประกอบของพชื ดอกได้

3.2 สามารถศกึ ษาและจาแนกประเภทของดอกตามเกณฑท์ ่กี าหนดได้

3.3 สามารถสบื คน้ ขอ้ มูลเก่ียวกบั โครงสร้างของดอกและประเภทของดอกได้

- ด้านทกั ษะกระบวนการ (P)

3.4 ปฏิบัติกจิ กรรมฝกึ ทักษะเพ่ือร่วมกันอภิปรายและสรุปผลเกยี่ วกับสงั เกตโครงสรา้ งและส่วนประกอบของดอก

3.5 ทาการทดลองศึกษาและจาแนกประเภทของดอก โดยพิจารณาจากส่วนประกอบทีเ่ ปน็ โครงสร้างหลกั ได้

3.6 มีการสังเกตและการลงความเห็นจากข้อมลู จากการทากิจกรรมและการอภปิ รายร่วมกนั

3.7 มีความร่วมมือ การทางานเป็นทมี และภาวะผูน้ าจากการทากิจกรรมและการนาเสนอ

- ดา้ นเจตคติทางวิทยาศาสตร์ (A)

3.8 มวี ินัย ใฝ่เรยี นรู้ มงุ่ มน่ั ในการทางาน

4. สาระการเรยี นรู้

4.1 โครงสร้างของพชื ดอก

4.2 ดอกสมบรู ณแ์ ละดอกไมส่ มบรู ณ์

4.3 ดอกเดยี่ วและดอกช่อ

4.4 ดอกท่ีรังไขอ่ ยเู่ หนือฐานรองดอกและดอกทีร่ ังไข่อยใู่ ต้ฐานรองดอก

5. สมรรถนะผูเ้ รียน

5.1 ความสามารถในการส่ือสาร

- การรับ-สง่ สาร การอธบิ าย การเขยี นตอบ การนาเสนอหน้าชนั้ เรยี น

5.2 ความสามารถในการคดิ

- ทักษะการสังเกต การสารวจค้นหา การเปรยี บเทยี บ การลงความเหน็ จากขอ้ มูล

5.3 ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต

- ใช้กระบวนการกล่มุ ในการปฏบิ ัตกิ จิ กรรมการเรยี นรู้ การนาความรไู้ ปใช้ประโยชน์
6. คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์

6.1 มีวินัย
- ปฏบิ ตั ิตามระเบียบ กฎเกณฑ์ ขอ้ บังคบั ของโรงเรียน
- ไมล่ ะเมิดผู้อ่นื
- ตรงต่อเวลาในการปฏิบตั ิกจิ กรรม
- รับผดิ ชอบตอ่ หน้าท่ี

6.2 ใฝ่เรียนรู้
- กระตอื รือร้นสนใจสบื คน้ ความรู้ใหม่
- ตัง้ ใจเรยี น

6.3 มุ่งมัน่ ในการทางาน
- อดทนทางานสาเรจจ ตามที่ได้รับมอบหมาย

7. ภาระงาน / ช้ินงาน
7.1 การทาแบบทดสอบกอ่ น-หลงั เรียน เรื่อง โครงสรา้ งและประเภทของดอก
7.2 การทาใบกิจกรรมท่ี 1-3 เรอ่ื ง โครงสรา้ งและประเภทของดอก
7.3 การนาเสนอผลงานกล่มุ เรอ่ื ง โครงสร้างและประเภทของดอก

8. กจิ กรรมการเรยี นรู้

กระบวนการท่ีใช้สอน : กระบวนการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es)

1. ขน้ั สร้างความสนใจ (Engagement Phase) (18 นาที)

1.1 นกั เรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียนแลว้ ตรวจคาตอบเพ่ือวัดความรูพ้ ื้นฐานของนักเรยี นแต่ละคน
1.2 ครูนาเสนอเหตุการณใ์ หม่/ประสบการณ์ใหม่ โดยใหน้ กั เรยี นฟงั เพลงอุทยานดอกไมค้ วามยาว 3 นาที

1.3 ครตู ั้งคาถามชวนคิด จากการฟงั เพลงอุทยานดอกไม้ โดยใชแ้ นวคาถามดังนี้
- จากเพลงอุทยานดอกไมท้ นี่ กั เรียนฟังมีชื่อดอกไมท้ งั้ หมดก่ีชนิด
- บอกชอื่ ดอกไม้ในเพลงอุทยานดอกไม้

1.4 ครทู บทวนความร้เู ดิมเรื่อง โครงสร้างและประเภทของดอก พร้อมทงั้ ใชค้ าถามกระตุ้นใหน้ ักเรยี นรู้
เปา้ หมายการเรยี น เพ่อื ใหร้ ู้เหตผุ ลที่ต้องเรยี นและให้มสี ติ ต้งั ใจเรียนร้เู ร่อื งใหม่ ดว้ ยคาถาม ดงั น้ี

- จากความร้เู ดิมของนักเรยี น ยกตัวอยา่ งดอกไม้ทีน่ ักเรียนรู้จัก
(แนวคาตอบ : คาตอบขน้ึ อยทู่ ่นี กั เรียนตอบ)

- ดอกไม้ชนิดตา่ ง ๆ ทไ่ี ด้ยกตวั อย่างมานม้ี ีโครงสรา้ งและสว่ นประกอบทเี่ หมอื นกันหรือไม่ อย่างไร
(แนวคาตอบ: ดอกไม้แต่ละชนดิ ท่นี กั เรียนยกตัวอยา่ งมานจี้ ะมีส่วนประกอบทเี่ หมือนกนั เช่น มี

กลีบเล้ียง กลีบดอก เกสรเพศผู้ และเกสรเพศเมีย เนื่องจากดอกไม้ท่นี ักเรียนยกตวั อย่างมาน้อี าจมีความหลากหลาย
บางชนิดอาจมโี ครงสร้างท่ีครบทงั้ 4 สว่ น และบางชนิดอาจมีโครงสรา้ งท่ไี ม่ครบทั้ง 4 สว่ น)

1.5 ครกู ลา่ ววา่ "วันน้เี ราจะได้ศึกษาเกย่ี วกับโครงสรา้ งและประเภทของดอก แลว้ ใช้คาถามนาเข้าสู่
บทเรียน ดังนี้

- ดอกไมม้ ีส่วนประกอบท่สี าคัญอะไรบ้าง
- ตัวอยา่ งดอกไม้ ท่นี ักเรียนเหนจ มลี ักษณะทเี่ หมอื นหรือแตกตา่ งกันอยา่ งไร
- เกณฑ์ที่ใช้จาแนกประเภทของดอกมีอะไรบา้ ง
2. ข้นั สารวจและคน้ หา (Exploration Phase) (30นาที)
2.1 นกั เรียนแบ่งกลุ่ม ๆ ละ 4-5 คน โดยคละความสามารถ (นักเรยี นจะไดช้ ่วยเหลือกันระหว่าง
ปฏิบัติกจิ กรรม งานกล่มุ แต่ละกลมุ่ กาหนดบทบาทหน้าทขี่ องสมาชิก เป็นการส่งเสรมิ ใหเ้ กิดคณุ ธรรมความเอื้อ
อาทรตอ่ กนั และเปน็ การสร้างภมู ิคุ้มกันในการสอนของครใู ห้บรรลุตามจุดประสงค์)
2.2 ครูใหม้ อบหมายล่วงหน้าใหน้ ักเรียนนาดอกไมช้ นิดต่าง ๆ ทั้ง 8 กลมุ่ ในกิจกรรมโครงสร้างและ
ชนิดของ ดอกมาศึกษาโดยเลือกดอกไมท้ ี่มใี นท้องถ่นิ และเนน้ ยา้ ใหน้ ามาเฉพาะสง่ิ ทจ่ี าเป็นตอ้ งใช้เนน้ หลัก ความ
พอประมาณ ไม่ทาลายส่งิ แวดล้อม
2.3 ครูแจกอุปกรณ์การทดลอง ใบกจิ กรรมเร่ือง โครงสร้างและประเภทของดอก
2.4 ครูแนะนาอปุ กรณ์ ขนั้ ตอนวธิ กี ารศึกษา วิธีการทางานในกลุ่มร่วมกนั
2.5 นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มทากิจกรรมศึกษาโครงสรา้ งของดอกไม้ และ เลือกเกณฑท์ ่จี ะใช้จัดประเภท
ดอกไมโ้ ดยใช้ส่วนประกอบต่างๆของพืชดอก พร้อมกับศึกษาและสบื ค้นข้อมลู เก่ียวกบั โครงสร้างและประเภทของดอก
จาก สไลดก์ ารสอน และใบความรู้

2.6 กาหนดระยะเวลาในการทากจิ กรรม “โครงสร้างและประเภทของดอก” 30 นาที (เวลาท่ี
กาหนดไว้เหมาะสมกับกิจกรรมเป็นความพอประมาณในการออกแบบกจิ กรรมของครู)

3. ขั้นอธบิ ายและลงข้อสรุป (Explanation Phase) (5 นาที)
3.1 อาสาสมคั รกลมุ่ ทีจ่ ะออกมานาเสนอ นาเสนอผลการปฏิบตั กิ จิ กรรมหน้าช้นั เรยี น กลุ่มละ 2 นาที

จานวน 2 กลุ่ม เน้นกลุ่มนักเรียนท่มี จี ติ อาสา พร้อมกบั นาผลงานออกมาให้เพ่ือนกลุ่มอื่นชน่ื ชม (ครพู ิจารณา

กาหนดเวลาและจานวนกลมุ่ ในการนาเสนอพอประมาณกบั เวลาและนกั เรียนต้องวางแผนที่จะนาเสนอผลงานให้

เสรจ็ ทันเวลาทีก่ าหนด เลือกสมาชกิ ในกลุ่มท่ีมีศักยภาพเหมาะสมในการนาเสนอ)

3.2 นกั เรยี นและครูร่วมกันอภปิ รายเกีย่ วกบั โครงสร้างและประเภทของดอก เพือ่ ให้ไดข้ อ้ สรุป ดงั น้ี
( ดอกไม้แต่ละชนิดมีรปู ร่างและโครงสรา้ งที่แตกต่างกัน เช่น ขนาด สี กลิน่ และ จานวนกลบี ดอก

แมว้ ่าดอกแตล่ ะชนดิ จะมลี กั ษณะที่แตกตา่ งกนั แตท่ าหน้าท่ีเดยี วกนั คือใช้ในการสืบพนั ธุ์ ลกั ษณะของดอกไม้ทีแ่ ตกตา่ ง

กนั เป็นผลมาจากววิ ฒั นาการทาใหเ้ กิดความ หลากหลายของดอกไม้

3.3 ครอู ธิบายใหค้ วามรู้เร่ือง สว่ นประกอบดอกไม้ “ดอกโดยทัว่ ไปมสี ่วนประกอบ 4 ชน้ั คอื ชั้นกลบี

เล้ยี ง ชั้นกลบี ดอก ช้ันเกสรเพศผู้ และช้นั เกสรเพศเมีย ดอกที่มีส่วนประกอบทัง้ 4 ส่วน คือกลีบเล้ยี ง กลบี ดอก เกสร

เพศผู้ และ เกสรเพศเมีย เรียกวา่ ดอกสมบูรณ์ ถ้าขาดสว่ นประกอบใดไปจะเรยี กวา่ ดอกไม่ สมบรู ณ์”

4. ขนั้ ขยายความรู้ (Elaboration Phase) (2 นาที)
4.1 ครใู ห้นักเรียนพิจารณาต่อไปว่า ดอกที่มีเกสรเพศผ้แู ละเกสรเพศเมยี เรียกว่าดอกสมบรู ณเ์ พศ
4.2 ครกู ระต้นุ ให้นักเรยี นคดิ เกย่ี วกับดอกสมบรู ณเ์ พศ กบั ดอกสมบรู ณ์ โดยใช้คาถามนาให้เกิด

การอภิปราย ดงั นี้
- ดอกสมบูรณเ์ พศ จาเป็นตอ้ งเป็นดอกสมบูรณด์ ้วยหรอื ไม่ อย่างไร
4.3 นกั เรียนในห้องอภิปรายร่วมกันในกลมุ่ เพื่อหาคาตอบ และสามารถอธิบายไดว้ า่ ดอกสมบรู ณ์

เพศ ไมจ่ าเปน็ ต้องเปน็ ดอกสมบูรณ์ เนือ่ งจากดอกสมบูรณ์เพศที่มเี กสรเพศผแู้ ละเกสรเพศเมยี ในดอกเดียวกนั
อาจจะขาดสว่ นของกลีบเลย้ี ง หรอื กลบี ดอกได้)

4.4 ครูอธบิ ายเกย่ี วกับ โครงสรา้ งของดอกอาจจำแนกโดยใช้เกณฑ์อน่ื ได้อกี เช่น ตำแหนง่ ของรังไข่

เมื่อเทียบกับตำแหน่งของวงกลีบ การจัดเรยี งตวั ของดอกบนก้านดอก
5. ขั้นประเมนิ ผล (Evaluation Phase) (5 นาท)ี
5.1 นกั เรยี นทาแบบทดสอบหลงั เรียน เรอ่ื ง โครงสร้างและประเภทของดอก
5.2 ประเมินความรู้เกีย่ วกับ เรื่อง โครงสร้างของดอกและประเภทของดอก โดยสังเกตพฤตกิ รรมการ

ตอบคาถาม ตรวจแบบทดสอบก่อนเรยี น หลังเรียน และตรวจใบงาน โดยนักเรยี นส่งผลงานของแต่ละกลุ่มผ่านลิงค์

Google Form

5.3 สังเกตพฤติกรรมขณะนกั เรยี นทากจิ กรรมกลุ่ม การนาเสนอผลงาน การตอบคาถามในห้องเรยี น

ตลอดจนการมีสว่ นรว่ มในชัน้ เรียนมคี วามรับผิดชอบในงานทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย การทางานอย่างเปน็ ระบบ ทางานเสรจ็ ทัน

ตามเวลาทกี่ าหนด การมสี ว่ นร่วมในการแสดงความคิดเหน็ รวมไปถึงการยอมรับฟังความคดิ เห็นของผ้อู ่ืน

5.4 ประเมนิ คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ โดยสงั เกตพฤติกรรมมวี ินยั ใฝ่เรยี นรู้ และมุง่ มัน่ ในการทางาน
5.5 ครูมอบหมายให้นกั เรียน ไปศกึ ษาเนื้อหา ที่จะเรยี นในคาบเรียนต่อไป มาล่วงหน้า โดยครู

แนะนาแหล่งเรยี นร้เู พอื่ ศึกษามาล่วงหน้าประกอบด้วย เวบ project14 ของ สสวท.

9. สอื่ / แหลง่ เรยี นรู้
9.1 หนังสอื แบบเรยี นชีววทิ ยาเพมิ่ เติม เลม่ 3 (สสวท.)
9.3 เคร่ืองฉายภาพ (ทวี )ี สมารท์ โฟน (ไอแพด) และระบบเครื่องเสียง

9.4 ห้องเรยี นชีววทิ ยา

9.2 Power point เรอ่ื ง โครงสร้างและประเภทของดอก
9.3 แบบทดสอบกอ่ น-หลังเรียน เรื่อง โครงสรา้ งและประเภทของดอก
9.4 ใบความรู้ เรื่อง โครงสร้างและประเภทของดอก
10. เครอื่ งมือและวิธกี ารวดั ผลประเมินผล

ส่ิงทต่ี ้องการวัด วธิ ีวัด เคร่อื งมือวัด เกณฑ์การวดั

- ด้านความรู้

1. สามารถบอกโครงสรา้ งและชี้ - การสนทนา/ซกั ถาม - คาถาม - ได้คะแนนเฉลย่ี
สว่ นประกอบของพืชดอกได้ - จากการตรวจใบ - ใบกิจกรรม รอ้ ยละ 70 ขึ้นไป
2. สามารถศกึ ษาและจาแนก ถือว่า “ผ่าน”
ประเภทของดอกตามเกณฑท์ ี่ กจิ กรรม - แบบทดสอบ
กาหนดได้
- จากการตรวจ

แบบทดสอบ

3. สามารถสืบค้นขอ้ มลู เกีย่ วกับ

โครงสร้างของดอกและประเภทของ

ดอกได้

- ด้านทกั ษะ

1. ปฏิบตั ิกิจกรรมฝึกทักษะเพอื่ - จากการสังเกตการ - แบบสังเกตการ - ได้คะแนนเฉล่ยี
รว่ มกนั อภปิ รายและสรปุ ผลเกี่ยวกบั อภปิ รายและการ พฤติกรรมการเรยี น ร้อยละ 70 ขน้ึ ไป
สังเกตโครงสรา้ งและส่วนประกอบ นาเสนอ ของผู้เรยี น ถือวา่ “ผ่าน”
ของดอก - จากการตรวจสอบ - ใบกจิ กรรมที่ 1-3
2. ทาการทดลองศกึ ษาและจาแนก ใบกจิ กรรม เร่ืองโครงสร้างและ
ประเภทของดอก โดยพิจารณาจาก ประเภทของดอก

ส่วนประกอบท่ีเปน็ โครงสร้างหลกั ได้

3. มกี ารสงั เกตและการลงความเห็น

จากข้อมูลจากการทากิจกรรมและ

การอภิปรายรว่ มกัน

4. มีความรว่ มมือ การทางานเปน็ ทมี

และภาวะผู้นาจากการทากจิ กรรม

และการนาเสนอ

- ดา้ นคุณลักษณะ(จิตวิทยาศาสตร์) - การสังเกตพฤตกิ รรม - แบบสังเกต - การสังเกต
1. มีวินยั พฤติกรรมการ
2. ใฝ่เรยี นรู้ ทางานกลุม่ พฤติกรรมการ
3. ม่งุ มน่ั การทางาน - แบบประเมนิ
คณุ ลักษณะอนั พึง ทางานกลุ่มตอ้ ง
ประสงค์
ระดับคุณภาพ ดี
ถอื ว่า“ผ่าน
เกณฑ์”
- การประเมนิ
คุณลกั ษณะอนั พงึ
ประสงค์ต้อง
ระดบั คุณภาพ ดี
ถอื ว่า“ผา่ น
เกณฑ์”

12. บนั ทึกผลหลังกระบวนการจดั การเรียนรู้
1) ดา้ นความรู้ (K)
..........................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .............................
............................................................................................................................. .............................
..........................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .............................
.................................................................................................................................. ........................
ด้านทักษะ/กระบวนการ (P)
..........................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .............................
............................................................................................................................. .............................
..........................................................................................................................................................
ด้านคุณลักษณะ (A)
............................................................................................................................. .............................
............................................................................................................................. .............................
..........................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .............................
2) ปญั หา อปุ สรรค แนวทางแก้ไข
............................................................................................................................. .............................
..........................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .............................
3) ข้อเสนอแนะ
............................................................................................................................. .............................
..........................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .............................
............................................................................................................................. .............................

ลงช่ือ .................................................... ผสู้ อน
(นางปราณี หอมสุด)

วันท.่ี ............เดอื น..........................พ.ศ. ..........

13. บันทึกข้อเสนอแนะของผบู้ ริหาร /ผู้ทไี่ ดร้ ับมอบหมาย
1. บนั ทึกความคิดเห็นของหัวหน้ากลุ่มสาระการเรยี นรู้
............................................................................................................................. .................................

..............................................................................................................................................................................

ลงช่อื
(นายณรงค์ ธาราศานิต)

หวั หนา้ กล่มุ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

2. บนั ทึกความคดิ เหน็ /ขอ้ เสนอแนะของรองผู้อานวยการ
 แผนจดั การเรยี นรมู้ ีความเหมาะสม
 ปรบั ปรุง รปู แบบใหส้ อดคล้องกับท่ีโรงเรยี นกาหนด
 อื่น ๆ.............................................................................................................................

..................................................................................................... ....................................................................

ลงชอื่
(นางนยั นา ใหมค่ ามิ)

รองผู้อานวยการกลุ่มบรหิ ารวิชาการ

3. บนั ทึกความคิดเหน็ /ข้อเสนอแนะของผอู้ านวยการ
 แผนจัดการเรยี นรูม้ คี วามเหมาะสม
 ปรบั ปรุง รูปแบบใหส้ อดคลอ้ งกับทโี่ รงเรียนกาหนด
 อ่ืน ๆ.........................................................................................................................

......................................................................................................................................................................

ลงชอ่ื
(นายประเสรฐิ ชัย พิสาดรัมย์)

ผอู้ านวยการโรงเรียนประโคนชยั พิทยาคม


Click to View FlipBook Version