The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

เสน่ห์ขุนเขา 9 ชาติพันธุ์ @แม่ฮ่องสอน final 21-9-65

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

เสน่ห์ขุนเขา 9 ชาติพันธุ์ @แม่ฮ่องสอน final 21-9-65

เสน่ห์ขุนเขา 9 ชาติพันธุ์ @แม่ฮ่องสอน final 21-9-65

เสน่ห์ขุนเขา

๙ ชาติพนั ธ์ุ แม่ฮ่องสอน

@ตะวันตกสุดแดนสยาม

ชอื่ หนังสือ เสนห่ ์ขนุ เขา ๙ ชาติพันธุ์ แมฮ่ อ่ งสอน @ ตะวันตกสดุ แดนสยาม

หน่วยงานรับผิดชอบโครงการ ส�ำ นกั งานวฒั นธรรมจังหวดั แมฮ่ ่องสอน
สำ�นกั พมิ พ์ บรษิ ัทโฟโตส้ แควร์ แอนด์ กราฟฟิค จำ�กัด กรุงเทพฯ
โรงพิมพ์ บริษัทโฟโตส้ แควร์ แอนด์ กราฟฟคิ จ�ำ กัด กรงุ เทพฯ
พิมพ์ คร้ังท่ี 1
ปีทีพ่ ิมพ์ พ.ศ. 2565
บรรณาธิการ นายสุรจติ จามรมาน
นักเขยี น นายสรุ จติ จามรมาน
เครดิตภาพ บรษิ ทั โฟโต้สแควร์ แอนด์ กราฟฟคิ จำ�กดั กรุงเทพฯ
นายสุรจติ จามรมาน
นายจริ ศกั ดิ์ โตเลิศมงคล
นายสมศักดิ์ ล่ำ�พงษพ์ ันธ์ุ
การทอ่ งเท่ยี วแหง่ ประเทศไทย สำ�นักงานแม่ฮ่องสอน
ศนู ย์ไทใหญศ่ ึกษา วทิ ยาลัยชมุ ชนแม่ฮอ่ งสอน
ส�ำ นกั งานพัฒนาชมุ ชน จงั หวัดแม่ฮ่องสอน
Face Book ยอย เที่ยวตามงบ
ชุมชนกะเหรย่ี งโปว์
กล่มุ ชาตพิ นั ธช์ุ นเผา่ ปะโอ
ชมุ ชนทอ่ งเทย่ี ว OTOP นวัตวถิ ี บา้ นผามอน
ชมุ ชนทอ่ งเทีย่ ว บ้านหว้ ยหอ้ ม
องคก์ รสมาคมลซี เู พ่ือ สง่ เสรมิ การศกึ ษาวัฒนธรรม
และรักษาประเพณีด้งั เดมิ
Meahongson Creative
บรรณานุกรม แหล่งข้อมลู จังหวัดแม่ฮ่องสอน
ส�ำ นกั งานวฒั นธรรมจงั หวดั แม่ฮอ่ งสอน
สภาวฒั นธรรมจังหวดั แมฮ่ ่องสอน
ศนู ย์มานษุ ยวทิ ยาสิรนิ ธร (องคก์ ารมหาชน)
ศนู ย์ไทใหญศ่ กึ ษา วทิ ยาลยั ชุมชนแม่ฮ่องสอน

ค�ำปรารภ

จังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นเมืองที่มีหลากหลายชาติพันธุ์
มปี ระเพณวี ฒั นธรรม และธรรมชาตทิ ง่ี ดงาม แตกตา่ งไปจากหลายๆ
จงั หวดั ในประเทศไทย ชาวจงั หวดั แมฮ่ อ่ งสอน ไมว่ า่ จะเปน็ ชาตพิ นั ธ์ุ
เผา่ ใดกต็ ามภมู ิใจในสง่ิ ทตี่ นเปน็ อยู่ ชว่ ยกนั รกั ษาวฒั นธรรมประเพณี
อันดีงามที่บรรพบุรุษได้รักษาไว้อย่าให้สูญหาย รวมถึงธรรมชาติ
ทีส่ วยงาม เพอื่ เปน็ ทีเ่ ชิดหนา้ ชตู าชาวโลกและนกั ท่องเทย่ี ว

พระสุมณฑ์ศาสนกติ ติ์
เจา้ คณะจังหวัดแมฮ่ อ่ งสอน

“แม่ฮ่องสอน” เป็นอีกหน่ึงจังหวัดในประเทศไทย ที่สามารถ
สื่อถึงอัตลักษณ์พิเศษด้านวัฒนธรรมของกลุ่มชาติพันธุ์ออกมาได้
เป็นอย่างดี บ่งบอกลักษณะอันเป็นเสน่ห์เฉพาะพื้นถ่ิน ซ่ึงวิถีชีวิต
ของผคู้ นอยรู่ ว่ มกนั ทา่ มกลางธรรมชาตอิ นั สวยงาม ผสมผสานอยา่ ง
ลงตวั ระหวา่ งความหลากหลาย ความแตกตา่ ง ความสงบ และความ
สุข สร้างความประทับใจให้กับนักท่องเท่ียวผู้มาเยือนครั้งหน่ึง
ในดนิ แดนตะวนั ตกสดุ ของประเทศไทย ชอ่ื วา่ “จงั หวดั แมฮ่ อ่ งสอน”

นายเชษฐา โมสิกรัตน์
ผู้ว่าราชการจงั หวัดแม่ฮอ่ งสอน

“เมืองในหมอกงามหรู” อัตลักษณ์ส�ำคัญของจังหวัด
แม่ฮ่องสอน อันมีสโลแกนดั้งเดิมว่า “ขุนเขา ชนเผ่า ชายแดน”
ทั้งหมดล้วนเกิดจากธรรมชาติสร้างสรรค์ กลายเป็นหนึ่งเดียว
ในประเทศไทย น�ำไปสู่ “เมืองพิเศษทางธรรมชาติและวัฒนธรรม”
เมืองที่ผู้คนดี มีศีลธรรม มีแต่ความสงบร่มเย็น ไม่ทุกข์ร้อน
ประชาชนใช้ชีวิตแบบพอเพียง รักใคร่สามัคคีปรองดองกันแม้ต่าง
ชาตพิ นั ธ์ุ เราจะชว่ ยกนั รกั ษาคณุ คา่ ทางวฒั นธรรมอนั ดงี ามเหลา่ น้ีไว้
ตราบนานเท่านาน

นายประเสรฐิ ประดิษฐ์
ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวดั แม่ฮ่องสอน

ค ำ� นำ� แมฮ่ อ่ งสอนเปน็ จงั หวดั ทต่ี งั้ อยดู่ า้ นตะวนั ตกสดุ ของประเทศไทย พกิ ดั ลองจจิ ดู
97 องศา 21 ลิปดาตะวันออก มีประวัติศาสตร์ ความเป็นมาต้ังแต่สมัยโบราณ
ตามหลักฐานทางโบราณคดี มีสังคมพหุวัฒนธรรมผสมผสานอย่างลงตัว
ระหว่างกลุ่มชาติพันธุ์ อันได้แก่ ไทใหญ่ กะเหรี่ยง คนเมือง ลาหู่ ลีซู ม้ง ลเวือะ
จีนยูนนาน และปะโอ รวม 9 ชาติพันธุ์หลัก โดยแต่ละกลุ่มชาติพันธุ์มีแยกย่อย
ออกไปอีก เชน่ ลาหู่ แบง่ เปน็ ลาหู่ด�ำ และลาหแู่ ดง กะเหรย่ี ง แบ่งเป็น ปกาเกอญอ
โปว์ กะแย(กะเหรี่ยงแดง) กะยอ (กะเหรี่ยงหูใหญ่) กะยัน (กะเหรี่ยงคอยาว)
เปน็ ตน้

กลุ่มชาติพันธุ์เหล่าน้ีมีท้ังที่อพยพเข้ามาอยู่ในพ้ืนที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนต้ังแต่
ยคุ ด้งั เดิมสมยั อาณาจกั รลา้ นนาในศตวรรษท่ี 18 มาจนถงึ ยคุ สรา้ งบ้านแปงเมือง
ก่อกำ� เนิดเปน็ ชุมชน เกิดการอพยพเคลอ่ื นยา้ ยของกลุ่มคนชาตพิ ันธ์ตุ ่างๆ เขา้ มา
แสวงหาทท่ี ำ� กนิ ใหม่ เชน่ การทำ� ไม้ คา้ ขายสตั วต์ า่ ง ววั ตา่ ง ทำ� การเกษตร ทำ� ไรน่ า
ตามความถนัดของแต่ละกลมุ่ ชาติพนั ธุ์ กลุ่มคนจงึ ค่อยๆ ขยายตัวเปน็ ชมุ ชนใหญ่
ขึ้นจนกระทั่งกลายเป็นเมืองในเวลาต่อมา ภายหลังเม่ือมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบ
การปกครองจนมาเปน็ จงั หวดั ในยคุ ปจั จบุ นั กลมุ่ ชาตพิ นั ธจ์ุ งึ กระจายอยตู่ ามอำ� เภอ
ต่างๆ ท่ัวทั้งจังหวัดแม่ฮ่องสอน ผสมผสานกันด้วยวิถีวัฒนธรรมอันงดงามที่
แตล่ ะชาตพิ นั ธ์ธุ �ำรงรักษาไว้ไมส่ ญู สลาย เป็นเสนห่ ์ท่ีชวนหลงไหล นา่ สนใจ ควรค่า
แก่การเขา้ มาสัมผัสทอ่ งเท่ยี ว

หนังสือน้ี จึงเปรียบเสมือนคู่มือท่ีให้องค์ความรู้ในความหลากหลายของกลุ่ม
ชาติพันธ์อุ นั มีเสน่หแ์ ละเต็มไปดว้ ยคณุ คา่ งดงาม ซ่งึ จะท�ำใหเ้ ข้าถงึ เขา้ ใจ และเข้าไป
มสี ว่ นรว่ มในฐานะแขก ผมู้ าเยอื นอยา่ งมคี ณุ ภาพ โดยรจู้ กั และรว่ มกนั รกั ษาคณุ คา่
แห่งวถิ ีวฒั นธรรมประเพณีเหลา่ นีไ้ ว้ใหค้ งอยู่ตลอดไป

ประวัติศาสตรแ์ มฮ่ ่องสอน 4
สารบัญ
กลุ่มชาติพนั ธ์ใุ นแม่ฮอ่ งสอน 8
 ไทใหญ ่ 10
 กะเหรย่ี ง 14
 คนเมอื ง 18
 ลาห ู่ 20
 ลซี ู 22
 มง้ 24
 ลเวอื ะ 26
 ชาวจีนยนู นาน 28
 ปะโอ 31

แผนที่ อ�ำเภอปาย 33

แผนที่ อำ� เภอปางมะผา้ 34

แผนท่ี อำ� เภอเมืองฯ 35

แผนที่ อ�ำเภอขุนยวม 36

แผนที่ อ�ำเภอแม่ลาน้อย 37

แผนท่ี อำ� เภอแมส่ ะเรยี ง 38

แผนที่ อ�ำเภอสบเมย 39

แผนทจี่ งั หวดั แมฮ่ อ่ งสอน 40

ประวตั ิศาสตร์แม่ฮอ่ งสอน
แมฮ่ ่องสอน เป็นจังหวดั ท่ีมีความเปน็ มาช้านานตัง้ แตส่ มยั ยุคกอ่ นประวัตศิ าสตร์ คือ ยุคหินเกา่
ตอนปลายจนมาถึงยุคหินใหม่ ยุควัฒนธรรมโลงไม้ โลหะและเหล็ก(32,000-1,000 ปี) ดังปรากฏ
หลักฐานโครงกระดูกมนุษย์ก่อนประวัติศาสตร์อายุ 13,000-12,000 ปี เมล็ดพืชบางชนิดท่ีใช้เป็น
อาหารได้อายุถึง 12,000 ปี ในยุคหินเก่าซ่ึงพบท่ีอ�ำเภอปางมะผ้า เครื่องมือต่างๆในยุคหินกลาง

จ�ำพวกเครอ่ื งมอื หนิ ขดั รปู ขวาน ทพ่ี บตามถำ้� เขตอ�ำเภอปางมะผา้ อายุ
8,600 ปี รวมท้ัง ในเขตอ�ำเภอเมืองก็มีการค้นพบ ขวานหิน
กระเทาะ เครอื่ งมอื หนิ กระเทาะ และเคร่อื งมอื สะเก็ดหิน ในยุค
หนิ กลางและยคุ หนิ
ใหม่ อายุ 7,000-
4,500 ปี เครอื่ งมอื
เคร่ืองใช้ที่ท�ำจาก
เหล็กอายุ 2,000 ปี

และเครื่องมือหินเจาะรู
ยุคหินใหม่ส�ำหรับหยอดเมล็ดพืชในการเพาะปลูก เช่น
ขา้ ว ข้าวโพด ลกู เดอื ย เปน็ ตน้ และที่ส�ำคญั การพบโลง
ผีแมนและโครงกระดูกมนุษย์โบราณเป็นเคร่ืองยืนยัน
ได้ว่าแม่ฮ่องสอนเคยเป็นถ่ินท่ีอยู่ของมนุษย์ยุคก่อน
ประวตั ศิ าสตรม์ าเกา่ กอ่ น จวบจนถงึ ยคุ ประวตั ศิ าสตรท์ ม่ี ี
การจารกึ ประวตั เิ รอ่ื งราวตา่ งๆไว้ใหผ้ คู้ นไดศ้ กึ ษาคน้ ควา้
ต่อมา

4

จากการบนั ทกึ เรอื่ งราวตา่ งๆ ท�ำใหท้ ราบวา่ กอ่ นจะมาเปน็ จงั หวดั แมฮ่ อ่ งสอนนนั้ ตามพงศาวดาร
โยนกกล่าววา่ ในปี พ.ศ.1858 มกี ารกอ่ ตงั้ ชมุ ชนขึ้นมากอ่ นที่บรเิ วณ บา้ นดอนเวียงเหนือ คอื เมอื ง
ปายในปัจจุบนั สภาพเป็นชมุ ชนขนาดใหญข่ องชาวไทยใหญม่ ี พะกา่ ซอ ทหารชาวพมา่ เป็นผู้น�ำผคู้ น
เขา้ มาตง้ั บา้ นเรอื นเพอื่ เปน็ ฐานในการรบพงุ่ กบั เมอื งเชยี งใหม่ อกี เมอื งหนง่ึ ทป่ี รากฏชอ่ื ในพงศาวดาร
คือ เมืองยวมใต้ ท่ีพระเจ้าสามฝั่งแกนกษัตริย์องค์ที่ 8 ของราชวงศ์มังรายได้ส่งราชบุตรไปครองไว้
เป็นเมืองหน้าด่านในการรบพุ่งกับพม่า ก�ำเนิดของการสร้างบ้านแปงเมืองในยุคนั้นจึงเป็นการรุกเขา
มาคมุ พนื้ ทเ่ี ปน็ ชยั ภมู ใิ นการสรู้ บระหวา่ งเมอื งเชยี งใหมก่ บั พมา่ เปน็ หลกั เกดิ เปน็ เมอื งทมี่ ผี คู้ นอยอู่ าศยั
มาเริม่ แรกตัง้ แต่สมยั น้ัน

ล่วงมาจนถึงปี พ.ศ.2374 ในสมัยรัชกาลที่ 3 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ เมืองเชียงใหม่ตอนนั้น
มีฐานะเป็นเมืองประเทศราชของรัตนโกสินทร์มีเจ้าประเทศราชครองเมือง คือ พระยาพุทธวงศ์
เจ้าครองนครองคท์ ่ี 4 ของเชยี งใหม่ มีเจา้ หนานมหาวงศเ์ ปน็ อุปราช เจ้าหนานมหาวงศ์ ตอ้ งการชา้ ง
ป่าไว้ใช้งาน จงึ ให้ “เจา้ แกว้ เมืองมา” เป็นแม่กองน�ำไพรพ่ ล ชา้ งต่อ และหมอควาญ ออกเดนิ ทางไป
ตรวจชายแดนดา้ นตะวนั ตกของนครเชยี งใหมแ่ ละจบั ชา้ งปา่ มาฝกึ ใชง้ าน โดยเดนิ ทางมาทางเมอื งปาย
จนมาถงึ บรเิ วณหนง่ึ รมิ แมน่ ำ�้ ปายชยั ภมู ดิ มี โี ปง่ หมปู า่ ลงกนิ ชกุ ชมุ นำ�้ ทา่ บรบิ รู ณ์ จงึ ไดห้ ยดุ กองทนี่ แี่ ละ
ได้จัดต้ังเป็นหมู่บ้านชุมชนขึ้นมีการประชุมผู้คนท่ีมีทั้งไทใหญ่ ยางหรือกะเหรี่ยงแดงให้มาอยู่รวมกัน
เจา้ แกว้ เมอื งมาแตง่ ตง้ั ใหช้ าวไทใหญผ่ หู้ นง่ึ ซงึ่ เปน็ คนเฉลยี วฉลาดและมคี วามรดู้ กี วา่ คนอนื่ ในหมบู่ า้ น
ชื่อว่า “พะกาหม่อง” ให้เป็น “ก๊าง” (คือต�ำแหน่งนายบ้านหรือผู้ใหญ่บ้าน) พะกาหม่องได้ชักชวน
เกลี้ยกล่อมพวกที่อยู่ใกล้เคียงให้ย้ายมาอยู่รวมกัน แล้วต้ังช่ือหมู่บ้านน้ันว่า “บ้านโป่งหมู” (ต่อมา
เพยี้ นเปน็ ปางหม)ู

5

เม่ือจัดตั้งหมู่บ้านโป่งหมูเสร็จแล้ว เจ้าแก้วเมืองมาก็ยกขบวนเดินทางตรวจชายแดนและคล้อง
ช้างปา่ ตอ่ ลงไปทางทศิ ใตจ้ นถึงล�ำหว้ ยแหง่ หนง่ึ มรี อยชา้ งป่าอยู่มาก จงึ หยดุ กองตงั้ เปน็ สถานีคลอ้ ง
ช้างท�ำการคล้องช้างป่าได้หลายตัวและต้ังคอกสอนช้างในร่องห้วย บริเวณนี้มีชาวไทใหญ่อาศัยอยู่
จ�ำนวนมากด้วยเป็นท�ำเลเหมาะสมมีพื้นที่ราบกว้างขวางดินดีน้�ำท่าอุดมสมบูรณ์ เจ้าแก้วเมืองมาจึง
ต้ังเป็นหมู่บ้านอีกแห่งหน่ึง โดยให้ชาวไทใหญ่คนหน่ึงจากบ้านโป่งหมูคือ “แสนโกม” บุตรเขย
ของพะกาหม่อง ให้มาเป็นหัวหน้าเกลี้ยกล่อมผู้คนให้มาอยู่รวมกันจนกลายเป็นหมู่บ้าน เรียกว่า
“บ้านแมฮ่ อ่ งสอน” มีความหมายจากค�ำว่า “แม่” คือ แมน่ ำ้� “ฮอ่ ง” คอื ร่องนำ�้ “สอน” คอื การเรียน
การสอน หมายถึง ร่องน้�ำอันเป็นสถานที่ฝึกสอนช้างป่าน่ันเอง จากน้ันเจ้าแก้วเมืองมาก็เดินทาง
กลับเมืองเชยี งใหม่พรอ้ มกับชา้ งปา่ ท่ีคล้องไดจ้ �ำนวนหนึง่

กาลเวลาล่วงไปทั้งหมู่บ้านโป่งหมูหรือปางหมูและบ้านแม่ฮ่องสอนก็เจริญขึ้นตาม
ล�ำดบั มผี คู้ นเขา้ มาอยอู่ าศยั รวมกนั มากขนึ้ หลายชาตพิ นั ธก์ุ ลายเปน็ หมบู่ า้ นใหญ่ ในสมยั
พระเจ้ามโหตรประเทศ เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่องค์ที่ 5 ต่อจากพระยาพุทธวงศ์
พระราชบิดามีการท�ำไม้สักส่งไปขายเมืองมะละแม่งในพม่าได้เงินจ�ำนวนมาก
มาท�ำนุบ�ำรุงบ้านเมอื งและส่งถวายใหพ้ ระเจา้ มโหตรประเทศทุกปี

ปี พ.ศ. 2399 ตรงกับสมยั พระเจา้ กาวโิ ลรสสรุ ิยวงศ์ เจ้าผ้คู รอง
นครเชียงใหม่ องคท์ ่ี 6 เกดิ การรบพุ่งในพม่าบรเิ วณรมิ ฝงั่ แม่นำ้� คงหรือ
แม่น้�ำสาละวิน จึงมีผู้คนชาวไทใหญ่อพยพเข้ามาฝั่งไทยจ�ำนวนมาก
และกระจายกนั เขา้ ไปอยอู่ าศยั ท้งั ทีบ่ ้านปางหมู บ้านแมฮ่ อ่ งสอน เมือง
ปายทางเหนือและทางใต้ท่ีบ้านขุนยวม ในการอพยพครั้งน้ีมี ชานกะเล

ขนุ ทหารของเจ้าฟ้าโกหล่านเจ้าฟา้ ไทใหญ่หลบหนภี ัยเข้ามาด้วยโดยมาอยู่
กบั พะกาหมอ่ งทบ่ี า้ นปางหมชู ว่ ยพะกาหมอ่ งท�ำกจิ การไมส้ กั ดว้ ยความมานะ
อุตสาหะจนพะกาหม่องเห็นในความซ่ือสัตย์และเฉลียวฉลาดจึงยกนางค�ำใส
บุตรีให้แต่งงานด้วย ต่อมานางค�ำใสได้เสียชีวิตไปก่อน กาลต่อมาชานกะเล
จึงแต่งงานกับเจ้านางเมียะหลานสาวของเจ้าฟ้าโกหล่านคนรักเก่าท่ีอพยพหนีภัย
ข้ามมาฝงั่ ไทย แลว้ ไดพ้ าครอบครัวลงไปทางใต้ถงึ เมอื งกนุ๋ ยวม ท�ำการค้าไม้สักกับ
พมา่ จนบา้ นเมอื งเจรญิ รงุ่ เรอื ง เมอื งกนุ๋ ยวมตอ่ มากค็ อื เมอื งขนุ ยวมในปจั จบุ นั นนั่ เอง

6

ปี พ.ศ. 2417 พระเจ้าอินทวิชยานนท์ เจ้าผู้ครองนคร
เชียงใหม่ องคท์ ่ี 7 ได้แตง่ ตง้ั ชานกะเลให้เป็น “พญาสงิ หนาท
ราชา” ให้มาปกครองเมืองแม่ฮ่องสอน โดยยกฐานะบ้าน
แม่ฮ่องสอนให้เป็นเมืองแม่ฮ่องสอน เปลี่ยนช่ือจากบ้านดอน
เวียงเหนือมาเป็นเมืองปาย และให้เมืองแม่ฮ่องสอนเป็นเมือง
หน้าด่าน มีเมืองขุนยวมและเมืองปายเป็นเขตแดน เมืองยวม
ใต้เป็นเมืองรอง พญาสิงหนาทราชาได้ปกครองพัฒนาเมือง
แม่ฮ่องสอนให้เจริญขึ้นอย่างรวดเร็ว จนถึงปี พ.ศ. 2427
พญาสิงหนาทราชาได้ถึงแก่กรรมพระเจ้าอินทวิชยานนท์
จึงแต่งตั้งเจ้านางเมียะขึ้นปกครอง
เมอื งแม่ฮอ่ งสอน

ต่อมาปี พ.ศ. 2443 ตรง
กับสมัยพระบาทสมเด็จพระ
จุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
รชั กาลท่ี 5 แห่งกรุงรตั นโกสนิ ทร์ มกี ารจัดระบบการปกครอง
ใหม่โดยรวมเมืองแม่ฮ่องสอน เมืองขุนยวม เมืองยวม
(แมส่ ะเรยี ง) และเมอื งปาย เปน็ หนว่ ยเดยี วกนั เรยี กวา่ “บรเิ วณ
เชยี งใหม-่ ตะวนั ตก” พ.ศ. 2446 ยา้ ยทวี่ า่ การแขวงจากเมอื งขนุ ยวม
ไปต้ังท่ีเมืองยวมแล้วเปล่ียนชื่อเป็น “บริเวณพายัพเหนือ” ปี พ.ศ. 2453 รัชกาลที่ 5 ทรงโปรด
ตั้งเมืองจัตวาขึ้นกับมณฑลพายัพ ย้ายท่ีว่าการแขวงจากเมืองยวม มาที่เมืองแม่ฮ่องสอน ให้ช่ือว่า
“จังหวัดแม่ฮ่องสอน” และโปรดเกล้าฯ ให้ “พระศรสุรราช” (เปลื้อง) เป็นผู้ว่าราชการจังหวัด
แมฮ่ ่องสอนคนแรก
ปี พ.ศ.2476 ตรงกบั สมยั พระบาทสมเดจ็ พระปกเกลา้ เจา้ อยหู่ วั รชั กาลท่ี 7 แหง่ กรงุ รตั นโกสนิ ทร์
มกี ารเปลยี่ นแปลงการปกครองเปน็ ระบอบประชาธปิ ไตยอนั มพี ระมหากษตั รยิ เ์ ปน็ พระประมขุ จงั หวดั
แมฮ่ อ่ งสอนได้โอนข้ึนตรงตอ่ กระทรวงมหาดไทยจนถึงปัจจบุ ัน

พระธาตดุ อยกองมู

7

กลุ่มชาตพิ นั ธุ์ในแมฮ่ ่องสอน

แผ่นดินแม่ฮ่องสอนนับแต่ครั้งอดีตเป็นแหล่งรวม กะยนั
ของผ้คู นหลากหลายเผ่าพันธท์ุ ่มี าลงหลักปกั ฐานตั้งบา้ น
เรือนอยู่อาศัยรวมกัน บ้างก็แยกกันอยู่เป็นเผ่าหรือรวม ลาหูด่ �ำ
กนั อย่หู ลากหลายเผา่ ในพื้นท่ีเดยี วกันเป็นหมบู่ า้ นชมุ ชน
ขนาดเล็กแล้วค่อยขยายข้ึนเป็นหมู่บ้านใหญ่จนกระทั่ง
เป็นเมืองในท่ีสุด เชน่ บา้ นดอนเวียงเหนอื ทีป่ ัจจุบันเปน็
อ�ำเภอปาย บ้านโป่งหมูหรือปางหมูที่อยู่รอบนอกเมือง
แม่ฮ่องสอนปัจจุบัน เมืองแม่ฮ่องสอนและเมืองกุ๋นยวม
ทคี่ อื อำ� เภอขนุ ยวมในปจั จบุ นั เปน็ ตน้ ผคู้ นเหลา่ นมี้ ที งั้ ท่ี
อพยพข้ามมาจากรัฐฉานฝั่งพม่าจากการหลีกลี้หนีภัย
สงครามในคร้ังอดีต เช่น พวกไทใหญ่ ที่กลายมาเป็น
ประชากรหลักกลุ่มใหญ่สุดของแม่ฮ่องสอนในปัจจุบัน
นอกจากน้ันยังมีเผ่ากะเหรี่ยงท่ีแบ่งแยกออกเป็น
ปกาเกอญอ (สะกอ) กะแย (กะเหร่ียงแดง) กะยัน
(กะเหร่ียงคอยาว) กะยอ (กะเหรี่ยงหูใหญ่)และ
กะเหรี่ยงโปว์ ลีซู ลาหู่ (มเู ซอ) ที่ย่อยเปน็ ลาหดู่ ำ� และ

ลาหู่แดง ม้ง แยกเป็นม้งขาวและม้งลาย
ลเวอื ะ ปะโอ จนี ยนู นาน รวมทงั้ คนเมอื ง
ที่ส่วนใหญ่อพยพเคล่ือนย้ายมาจาก
เชียงใหม่ เชียงรายพะเยาและแพร่
เพ่อื มาหาทำ� เลพืน้ ท่ที ำ� กนิ ใหม่
ปัจจุบันอาจแบ่งกลุ่มชาติพันธุ์
ออกไดเ้ ปน็ 2 กลมุ่ หลกั คอื กลมุ่ คน
ไทยเชื้อสายไทใหญ่ที่อพยพมา
จ า ก รั ฐ ฉ า น ข อ ง พ ม ่ า ตั้ ง แ ต ่
อดีตกาล นับเป็นกลุ่มที่มี
ประชากรมากท่ีสุดของจังหวัด
แม่ฮ่องสอนในปัจจุบันมักอาศัย
รวมอยู่ตามเขตอ�ำเภอและเขตเมือง
ร่วมกับคนเมือง อีกกลุ่มหน่ึง คือ
กลุ่มชาติพนั ธ์ุ อกี 7 เผา่ ท่ีมกั อาศัย
อยู่รอบนอกเขตเมืองตั้งเป็นชุมชน
เอกเทศเฉพาะหรือบ้างก็อยู่รวมกัน
กับเผ่าอื่นๆ ส่วนมากจะอยู่ตามพ้ืนที่
ภูเขาสูงรอบนอกเมืองมีอาชีพท�ำไร่

8

ลีซู

เล้ยี งสตั ว์ หาของปา่ ซงึ่ ตอ้ งพึ่งพาธรรมชาติ แต่อาจเขา้
มาเขตเมืองเพ่ือมาซ้ือข้าวของเคร่ืองใช้หรือน�ำผลิตผล
จากเรือกสวนไร่นามาขายในเมือง มีประชากรกลุ่ม
กะเหร่ียงมากท่สี ุดราว 80 เปอร์เซนต์ ที่เหลอื เป็นเผา่ อื่น
ลาห่แู ดง อยกู่ ระจายกนั ไปโดยมง้ จะมจี �ำนวนประชากรนอ้ ยทสี่ ดุ ใน

กล่มุ ชนเผา่ ชาตพิ ันธุ์

จนี ยนู นาน ผู้คนเหล่านี้ส่วนใหญ่ยังรักษาขนบธรรมเนียม
ประเพณี วฒั นธรรมตา่ งๆ อกี ทง้ั ความเชอ่ื ของเผา่ ตนเอา
ไว้ แม้ในปจั จบุ ันจะแปรเปลยี่ นไปตามอทิ ธพิ ลของความ
ศิวิไลซ์ของเมืองบ้างก็ตามก็ยังสามารถพบเห็นผู้คนแต่ง
กายสัญลักษณ์เส้ือผ้าเผ่าของตนให้เห็นอยู่เนืองๆ โดย
เฉพาะในวันส�ำคัญตามประเพณีต่างๆ เช่น วันกินวอ
วนั ขนึ้ ปใี หม่ เปน็ ตน้ และยงั มงี านเทศกาลตา่ งๆ ทจ่ี ดั ขนึ้
เกือบทง้ั ปี เช่น งานประเพณีบวชลูกแกว้ ของชาวไทใหญ่
กะแย และปะโอ ประเพณีแห่จองพารา ประเพณีลอยกระทง
ไทใหญ่ ประเพณลี อยกระทงสวรรค์ ประเพณดี บั ไฟเทยี น
ประเพณอี อกหวา่ ประเพณแี หโ่ คมไฟของปะโอ ประเพณี
ร่วมร�ำลกึ ถงึ บรรพชนปะโอ เป็นตน้

วิถีชีวิต วัฒนธรรม ประเพณีต่างๆ ท่ียังอนุรักษ์
ไว้นี้ ปัจจุบันนับเป็นเสน่ห์อีกอย่าง
หน่ึงของการท่องเท่ียวซ่ึงน�ำพาผู้คน
นักท่องเท่ียวให้เข้ามาศึกษาสนใจใน
ความหลากหลายของกลุ่มชาติพันธุ์
ชนเผ่าต่างๆ ท่ีมีเสน่ห์ดึงดูดไม่แพ้
ธรรมชาตสิ วยงามทม่ี อี ยมู่ ากมาย
ในจังหวัดแม่ฮ่องสอนในทุก
ลเวอื ะ อ�ำเภอ นบั เปน็ ทรพั ยากรทางการ

ท่องเที่ยวอันส�ำคัญยิ่งอีกอย่าง
หนึ่งท่ีท�ำรายได้เข้ามาสู่จังหวัด
แม่ฮ่องสอน โดยกระจายสู่ชุมชน
ในรปู แบบของการทอ่ งเทยี่ วชมุ ชน
เพื่อการศึกษาเรียนรู้ ในสิ่งที่
นักท่องเที่ยวยังไม่เคยรู้หรือไม่เคย
มาสัมผัสเป็นประสบการณ์ซ่ึงจะยัง
ไทใหญ่ ประโยชน์ให้อยยู่ ั่งยนื ตลอดไป

9

ไทใหญ่ (คนไต)

เป็นประชากรส่วนใหญ่ของจังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยเป็นกลุ่มชนด้ังเดิมที่อพยพจากรัฐฉาน
ของพม่าเข้ามาอยู่ในพ้ืนที่ต้ังแต่คร้ังก่อต้ังเมืองแม่ฮ่องสอน มีถ่ินฐานอยู่ท่ีบ้านปางหมู อ�ำเภอเมือง
แม่ฮ่องสอน และบา้ นกนุ๋ ยวม คือ อำ� เภอขุนยวมในปจั จุบัน นอกจากนนั้ ยังมกี ลุ่มทอ่ี พยพตามมาเพือ่
แสวงหาท�ำเลท่ีดินท�ำกินกับอีกบางส่วนที่เป็นคนงานพ้ืนเมืองไทใหญ่ที่เข้ามาท�ำไม้และค้าขายในยุค
ทีอ่ งั กฤษเข้ามาปกครองพมา่

ชาวไทใหญ่นับถือศาสนาพุทธและมีความเล่ือมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนาอย่างแรงกล้า
มวี ฒั นธรรม ประเพณตี า่ งๆ ซงึ่ เกยี่ วโยงกบั พทุ ธศาสนาอยตู่ ลอดทง้ั ปี เชน่ ปอยกองโหลหรอื ประเพณี
ถวายทานกองฟืน ประเพณีท�ำบุญตานข้าวใหม่ ประเพณีปอยส่างลอง ปอยซอนน�้ำหรือสงกรานต์
ปอยหางน้�ำหรือประเพณีบวงสรวงขอฝน ปอยสลากหรือถวายสลากภัต ปอยโมกไฟหรือบุญบั้งไฟ
เข้าหว่า ออกหวา่ คือ เขา้ พรรษา ออกพรรษา ประเพณีแห่จองพารา ประเพณีสบิ สองมนล่องผอ่ งไต

10

หรอื ประเพณลี อยกระทงไทใหญ่ ประเพณีออกหว่า
และประเพณีลอยกระทงสวรรค์ เป็นต้น ในงาน
ประเพณีเหล่าน้ีมักมีการร�ำฟ้อนนกฟ้อนโตเป็น
วัฒนธรรมเฉพาะทีเ่ ป็นเอกลกั ษณ์ของคนไต

การแต่งกายของชาวไตหรือไทใหญ่มีรูปแบบ
เรียบง่าย ผู้ชาย สวมเสื้อคอกลมแขนยาว(เสื้อไต)
ผ่าหน้า ติดกระดุมผ้า ขมวดเป็นปม นุ่งกางเกง
ขากว๊ ยมผี า้ เคยี นศรี ษะ ผหู้ ญงิ สวมเสอ้ื ผา่ หนา้ หรอื
เสื้อป้าย แขนกระบอก เอวส้ัน ตกแต่งลวดลาย
สวยงาม นุง่ ซ่ิน คาดเขม็ ขัดเงนิ พนั หวั โพกผ้าห้อย
มีภาษาพูดและเขียนเป็นภาษาตระกูลไท-กะได
ชาวไทใหญ่จะมีภาษาพูดเป็นของตนเองเรียกว่า
“ก�ำไต” พูดภาษาไตเรียกว่า “อุบไต” ส่วนภาษา
เขยี นเรยี กวา่ “ลกี ไต” มใี ชก้ นั มาตงั้ แตส่ มยั โบราณ
ลักษณะของตัวอักษรคล้ายตัวอักษรมอญและ
พม่า ชาวไตหรือไทใหญ่ชอบตั้งบ้านเรือนอยู่ริมน�้ำ
ล�ำหว้ ยหรอื ตามทร่ี าบหบุ เขา มอี าชพี ท�ำเกษตรกรรม
ท�ำนาตามที่ราบล่มุ เปน็ หลกั

อาหารของชาวไทใหญ่
จ ะ มี “ ถ่ั ว เ น ่ า ” เ ป ็ น
เอกลักษณ์ คล้ายกะปิ เป็น
อาหารที่มีประโยชน์เพ่ือ
สุขภาพอาทิ น�้ำพริกค่ัวทราย
ทผ่ี สมถวั่ เนา่ เปน็ หลกั การ
ท�ำถ่ัวเน่าจิ้นลุง หรือ
ลูกชิ้นของชาวไทใหญ่
น้�ำพริกพู ข้าวกั๊นจ๊ิน ถ่ัว
พูซิ่ง ถั่วพูอุ่น ขนมส่วย
ทะมนิ ขนมอาละหวา่ เปน็ ตน้

แหล่งท่ีอยู่

• บ้านผาบ่อง บ้านหมอกจ�ำแป่ บ้านปา่ ปุ๊
อ.เมอื งแม่ฮอ่ งสอน
• บา้ นแมล่ ะนา บ้านปางคาม อ.ปางมะผา้
• บ้านแพมบก อ.ปาย
• บา้ นตอ่ แพ บ้านเมอื งปอน อ.ขนุ ยวม

อ้างอิงข้อมูล
มูลนธิ โิ ครงการหลวง ส�ำนกั งานจังหวัดแม่ฮ่องสอน

11

1

2
3

12

4

5
67

8

แหล่งท่องเท่ียว

1  ประเพณอี อกหวา่ อ.แม่สะเรียง
2  ประเพณตี กั บาตรเทโว อ.เมอื งฯ
3  สะพานซตู องเป้ อ.เมืองฯ
4  ประเพณีปอยสบิ สองมนล่องผอ่ งไต อ.เมืองฯ
5  การฟาดข้าวแบบดง้ั เดิมของชาวไทใหญ่ อ.ปาย
6  ประเพณีลอยกระทงสวรรคข์ องชาวไทใหญ่
อ.เมอื งฯ
7  ประเพณีลอยกระทง หนองจองค�ำ อ.เมอื งฯ
8  จุดชมววิ ผาบ่อง อ.เมอื งฯ
13

กะเหรยี่ ง

เป็นกลุ่มชาติพันธุ์ท่ีมีประชากรมากรองลงมาจากคนไตหรือไทใหญ่ที่อาศัยอยู่ใน
จังหวัดแม่ฮ่องสอน เดิมมีถิ่นอาศัยอยู่แทบมองโกเลียในประเทศจีนราว 2,000 ปี
ต่อมาอพยพลงมายังลุ่มน้�ำสาละวินและข้ามเข้ามาอยู่ฝั่งไทยราวปลายศตวรรษท่ี 18
สมยั รชั กาลท่ี 5 มกี ลุม่ ย่อยแบง่ ออกเปน็ หลายกลุ่ม

ปกาเกอญอ ปกาเกอญอ
(กะเหรี่ยงขาว หรือ กะเหร่ียงสะกอ)

ปกาเกอญอ เป็นกลุ่มชาติพันธุ์ที่มีประชากรมากท่ีสุด
กระจายอยู่ในพ้ืนที่ทั้ง 7 อ�ำเภอ ของจังหวัดแม่ฮ่องสอน
คนส่วนใหญ่มักนิยมเรียกกลุ่มชาติพันธุ์นี้ว่า กะเหร่ียงขาว
หรอื กะเหรย่ี งสะกอ การแตง่ กายของชาวปกาเกอญอ มคี วาม
เป็นเอกลักษณ์ อัตลักษณ์ท่ีสะท้อนวัฒนธรรมและความเช่ือ
อย่างชดั เจน โดยชาวปกาเกอญอจะสวม เส้อื ทอ พื้นสีด�ำอาจ
ปกั ลวดลายดว้ ยลกู เดอื ย ฝา้ ย หรอื ไหมพรม ผหู้ ญงิ นงุ่ ซนิ่ พน้ื
สแี ดง ผชู้ ายนุง่ กางเกงหรอื โสรง่ ส�ำหรบั สตรีทยี่ ังไมม่ คี คู่ รอง
หรอื ไมเ่ คยผา่ นความสมั พนั ธฉ์ นั สามภี รรยากบั ชายใดมากอ่ น
จะต้องสวมชุด “เช วา” คือ ชุดผ้าทอทรงกระสอบลักษณะ
เดรส สีขาว แสดงใหเ้ หน็ ถึงความบรสิ ทุ ธ์ิของหญิงสาว

โปว์ โปว์

ชาติพันธุ์โปว์ในจังหวัดแม่ฮ่องสอนส่วนใหญ่
อาศยั อยใู่ นพนื้ ทอ่ี �ำเภอสบเมย และอ�ำเภอแมส่ ะเรยี ง
วัฒนธรรมการแต่งกายของกลุ่มชาติพันธุ์โปว์
มคี วามใกลเ้ คยี งกบั ชาตพิ นั ธป์ุ กาเกอญอ โดยเสอื้ ผา้
ทอของชาวโปวจ์ ะมลี กั ษณะเดน่ คอื เปน็ ผา้ ทอกเี่ อว
หนา้ แคบ และน�ำมาเย็บมือ ตามที่ไดร้ บั ถา่ ยทอดมา
จากบรรพบุรุษ ซ่ึงคงวิถีความเช่ืออยู่กับธรรมชาติ
ด�ำรงชวี ติ เรยี บงา่ ยตามขนบธรรมเนยี มประเพณที ไ่ี ด้
รับการถ่ายทอดมารุ่นสู่รุ่น รักษาวิถีวัฒนธรรม
ลักษณะเฉพาะชาติพันธุ์คงความเป็นอัตลักษณ์แบบ
ดง้ั เดิมไวเ้ หมือนครง้ั ในอดตี

14

กะแย (กะเหร่ียงแดง) กะแย (กะเหรี่ยงแดง)

ชาติพันธุ์กะแย หรือ กะเหรี่ยงแดง อาศัย
กระจายอยู่ในเขตพ้ืนท่ีอ�ำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน
อาทิ บา้ นหว้ ยปแู กง บา้ นหว้ ยเสอื เฒา่ บา้ นในสอย
เปน็ ตน้ การแตง่ กายชาว กะเหรย่ี งแดง หรอื ทเ่ี รยี ก
แทนตัวเองว่า กะยา ปัจจุบันสวมใส่เส้ือผ้าตาม
สมยั นยิ มในชวี ติ ประจ�ำวนั แตจ่ ะสวมใสเ่ สอ้ื ผา้ ตาม
อัตลักษณ์ของกลุ่มชาติพันธุ์ในงานประเพณีของ
กลุ่มหรืองานส�ำคัญๆ เช่น ประเพณีปอยข้าวต้ม
(ประเพณดี กี )ู่ โดยผชู้ ายจะสวมเสอื้ คอปกแขนยาว
ดา้ นในและสวมเสอื้ แขนตดั สแี ดงลายเสน้ สขี าวทาง
ยาวทับด้านนอก สวมกางเกงขายาวปล่อยชายผ้า
ลายเส้นสีขาวทางยาวสีแดงยาวถึงหน้าแข้ง มีผ้า
ผกู หวั มดั ปมดา้ นขา้ งสแี ดง หญงิ สวมเสอื้ ลกั ษณะ
สะพายแล่งสีแดง เปิดไหล่ด้านซ้าย ใส่เคร่ือง
ประดับสรอ้ ยเงนิ และลกู ปัดสเี หลือง สีเขียว สีส้ม
สวมกระโปรงสั้นบนเข่า พันห่วงสีน้�ำตาลเข้มรอบ
เขาไลล่ งมาถึงแขง้

กะยัน (กะเหรีย่ งคอยาว) กะยัน (กะเหรี่ยงคอยาว)

ชาติพันธุ์กะยัน หรือ กะเหรี่ยงคอยาว
อาศัยอยู่ในพ้ืนท่ีอ�ำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน 2
ต�ำบล ได้แก่ ต�ำบลผาบ่อง (บ้านหว้ ยปูแกง
และบ้านห้วยเสือเฒ่า) และต�ำบลปางหมู
(บา้ นในสอย) ชาวกะยนั มลี กั ษณก์ ารแตง่ กาย
ที่โดดเด่นแตกต่างไปจากชาติพันธุ์อื่น คือ
สตรีชาวกะยันจะสวมห่วงโลหะที่คอ โดย
โลหะคอจะอยบู่ รเิ วณคางจรดไหปลารา้ ซอ้ น
กนั หลาย ๆ หว่ ง จงึ ท�ำใหด้ เู หมอื นชว่ งล�ำคอ
ยาวกวา่ ปกติ มกี ารประดบั ตกแตง่ ศรี ษะดว้ ย
ผ้าโพกสีสดใส สตรีชาวกะยันนิยมสวมใส่
ก�ำไลโลหะทแี่ ขน สวมหว่ งท่ีขาหลาย ๆ ห่วง
บริเวณใต้หัวเข่าท้ังสองข้าง และสวมปลอก
ขาสีน�้ำเงินที่น่องทั้งสองข้างและยังคงใช้วิถี
ชวี ติ แบบดงั่ เดมิ แสดงผา่ นพธิ กี รรมความเชอื่
ทถี่ า่ ยทอดมาจากบรรพบุรษุ

15

กะยอ (กะเหร่ียงหูใหญ่)

ชาตพิ นั ธ์กุ ะยอ หรือ กะเหร่ยี งหูใหญ่ เปน็ กลุม่ ทมี่ จี �ำนวนประชากร
น้อยที่สุดในจังหวัดแม่ฮ่องสอน และอยู่อย่างกระจัดกระจายในพ้ืนที่
เดยี วกนั กบั กลมุ่ ชาตพิ นั ธก์ุ ะยนั คอื พน้ื ทตี่ �ำบลผาบอ่ ง (บา้ นหว้ ยเสอื เฒา่ )
และต�ำบลปางหมู (บ้านในสอย) อ�ำเภอเมืองแม่ฮอ่ งสอน สตรชี าวกะยอ
จะสวมเสื้อทรงสอบ ลายทาง สีบานเย็น สวมคู่กับผ้าซิ่นสีด�ำยาวเพียง
เข่า นิยมสวมโลหะและลูกปัดที่คอ แขน เอว ขา ข้อเท้า และ

ตา่ งหขู นาดใหญท่ ต่ี งิ่ หู จงึ เปน็ ทมี่ าของการเรยี กชาวกะยอวา่ “กะเหรย่ี ง
หูใหญ่” และยังคงมีวิถีชีวิตที่เรียบง่าย ใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลาง
ธรรมชาติป่าเขา มีความเช่ือความศรัทธาในจิตวิญญาณของ
บรรพบรุ ษุ ซง่ึ ไดถ้ า่ ยทอดบอกผา่ นรนุ่ สรู่ นุ่ ในรปู แบบการแตง่ กาย
วัฒนธรรมประเพณี มีการเซ่นสรวงผีเจ้าท่ีหมู่บ้านเพื่อ
บวงสรวงดวงวิญญาน และงานประเพณีปีใหม่ท่ีเช่ือว่าท�ำให้
อยู่เยน็ เปน็ สขุ และท�ำไรท่ �ำนาได้ผลผลิตท่ีดี ในงานมกี ารเล่น
ดนตรี ร้องเพลงและร�ำตง ประเพณีกินข้าวใหม่ เป็นต้น
กะเหร่ยี งนบั ถอื ทั้งศาสนาพุทธและครสิ ต์

แหล่งทอี่ ยู่

• ปกาเกอญอ อยู่ท่บี า้ นนำ�้ ฮูหายใจ อ.ปาย บ้านปา่ ปุ๊ บ้านห้วยฮี้ บา้ นห้วยตองก๊อ
บา้ นในสอย อ.เมืองแมฮ่ อ่ งสอน บ้านเมอื งแพม อ.ปางมะผา้
• โปว์ อยู่ทบี่ ้านแมเ่ หาะ อ.แม่สะเรยี ง บ้านแมค่ ะตวน อ.สบเมย
• กะแย อย่ทู ีบ่ า้ นในสอย บา้ นหว้ ยเสือเฒ่า บา้ นหว้ ยแกว้ บน อ.เมอื งแมฮ่ ่องสอน
• กะยนั อยทู่ ีบ่ ้านนำ�้ เพียงดิน บ้านห้วยเสือเฒา่ บ้านในสอย และบา้ นห้วยปแู กง
อ.เมืองแม่ฮอ่ งสอน
• กะยอ อยู่ท่บี า้ นหว้ ยปูแกง

16 อ้างอิงขอ้ มูล : สำ� นกั งานวัฒนธรรมจงั หวัดแมอ่ อ่ งสอน

1 4

2 5

3 6
แหล่งท่องเที่ยว 17

1  จุดชมพระอาทติ ย์ขน้ึ ดอยโมละกา อ.แม่ลาน้อย
2  ดอยปยุ หลวง อ.เมอื งฯ
3  ดอยพยุ โค อ.สบเมย
4  ดอยหงอนไก่ บา้ นห้วยฮี้ อ.เมอื งฯ
5  แม่น�้ำสาละวนิ อ.สบเมย
6  แม่น้ำ� สองสี อ.สบเมย

คนเมอื ง

กลุ่มคนเมืองเป็นอีกกลุ่มชาติพันธุ์หน่ึงท่ีพบในจังหวัด
แม่ฮ่องสอน เป็นกลุ่มชนที่ตั้งบ้านแปงเมืองในพ้ืนท่ีแม่ฮ่องสอน
อยู่เดิมท่ีบ้านดอนเวียงเหนือ อ�ำเภอปายในปัจจุบัน ปรากฏตาม
หลักฐานทางโบราณคดีที่มีอยู่ทั่วไปตั้งแต่อ�ำเภอปายไปจนถึง
อำ� เภอแมส่ ะเรยี ง โดยเปน็ กลมุ่ คนทอี่ พยพมาจากจงั หวดั ใกลเ้ คยี ง
คือ เชียงใหม่ ล�ำพูน แพร่และน่าน ส่วนใหญ่เพ่ือเข้ามาแสวงหา
ทีท่ �ำกินใหมท่ ีอ่ ุมสมบูรณก์ วา่ ถ่นิ ทอี่ ยู่ดัง้ เดมิ มีการตง้ั ถนิ่ ฐานและ
ทำ� การเกษตรกรรมเปน็ หลกั เชน่ ท�ำนา ทำ� ไร่ ส่วนมากตามพนื้ ที่
ราบลมุ่ รวมทง้ั การเขา้ มาทำ� ปา่ ไมแ้ ละการคา้ ววั ตา่ งหรอื คา้ ขายทว่ั ไป

การอพยพเช่นนี้มีต่อเน่ืองมาตลอดและเกิดเป็นชุมชน
ท่ีขยายตัวข้ึนเรื่อยๆ ความสัมพันธ์ของชุมชนเป็นไปในแบบ
เครือญาติและสายตระกูลในระยะเริ่มแรกแล้วค่อยๆปรับเปลี่ยน
ไปตามเวลาจนถงึ ปจั จบุ นั ทมี่ ผี คู้ นตา่ งถนิ่ มากมายเขา้ มาอยรู่ วมกนั
โดยเฉพาะในตัวเมอื ง

อย่างไรก็ดีคนเมืองก็ยังรักษาขนบธรรมเนียมวัฒนธรรม
ประเพณีของตนไว้ รวมท้ังยังรับวัฒนธรรมประเพณีของกลุ่มอ่ืน
เขา้ มาผสมดว้ ย เชน่ วฒั นธรรมประเพณขี องชาวไทใหญ่ เปน็ ตน้ คนเมอื งในยคุ ปจั จบุ นั อาจมกี ารแตง่
กายที่ปรับเปลีย่ นไปตามสมัยนยิ ม เว้นแต่ในงานประเพณตี า่ งๆ ที่ยงั พบเหน็ การแตง่ กายพืน้ เมืองได้
อยู่ เชน่ ผหู้ ญงิ นงุ่ ผา้ ซนิ่ มเี ชงิ ชาย ใสเ่ สอ้ื ผา้ ฝา้ ยทอแบบพน้ื เมอื ง ผชู้ ายอาจนงุ่ กางเกงสะดอ ใสเ่ สอื้ ผา้
ฝา้ ยพน้ื เมอื งผา่ อกกลาง ตดิ กระดมุ ผา้ ทขี่ มวดเปน็ ปม เปน็ ตน้ การกนิ อยยู่ งั นยิ มกนิ อาหารเมอื ง ไสอ้ ว่ั
ข้าวซอย ขนมจนี น�ำ้ เงีย้ ว แกงฮงั เล น�้ำพรกิ หน่มุ แคบหมู แกงโฮะ แกงแค ข้าวเหนียงนึ่ง ฯลฯ เปน็ ต้น

วัฒนธรรมประเพณสี �ำคญั แหลง่ ทีอ่ ยู่
ส่วนใหญ่เก่ียวข้องกับศาสนาพุทธ มีงาน
• บา้ นเวียงใต้ บา้ นทา่ ปาย อ�ำเภอปาย
เวียนเทียน งานปี๋ใหม่เมือง(สงกรานต์) รดน�้ำ • บ้านขุนยวม อ�ำเภอขนุ ยวม ตวั อ�ำเภอเมือง
ด�ำหัว สรงน�้ำพระ เข้าพรรษา ออกพรรษา แม่ฮ่องสอนและอ�ำเภอแม่สะเรยี ง
สลากภัต และลอยกระทง เปน็ ต้น
อา้ งอิงขอ้ มลู : www.he02.tci-thaijo.org
18

1
25

36

4 แหล่งท่องเที่ยว

1  ทุง่ บัวตองแมเ่ หาะ อ.แม่สะเรียง
2  วัดศรดี อนชยั อ.ปาย
3  สะพานประวตั ิศาสตร์ท่าปาย อ.ปาย
4  กองแลน อ.ปาย
5  การฟอ้ นบชู าพระธาตุของคนเมอื ง
6  ประเพณสี รงน�ำ้ พระวนั ป๋ใี หมเ่ มอื ง
(สงกรานต์) 19

ลาหู่ (มูเซอ)

ลาหดู่ ำ�
ลาห่แู ดง

เปน็ ชนเผา่ ทเ่ี คยอาศยั อยู่ในจนี และพมา่ ตอ่ มาไดอ้ พยพเขา้ มายงั ภาคเหนอื ของประเทศไทยแถบ
จงั หวดั เชียงราย เชยี งใหม่ ตาก และแมฮ่ อ่ งสอน ลาหูช่ อบตั้งถิน่ ฐานบนภเู ขาสูงระดบั 1,200 เมตร
ข้ึนไป สร้างบ้านด้วยไม้ไผ่ เสาไม้หลังคาแฝกหรือหญ้าคา หน้าบ้านมีนอกชานไว้ท�ำกิจกรรมต่างๆ
ประจ�ำวัน ในบ้านมีเตาไฟกลางบ้านไว้หุงต้มอาหารและให้ความอบอุ่นในฤดูหนาว แบ่งเป็นสองพวก
คือ ลาหูด่ ำ� กับ ลาหูแ่ ดง มอี าชีพการเกษตร ท�ำไรข่ ้าวบนภเู ขา เล้ยี งสตั ว์ และหาของป่า ภาษาพดู ใช้
ภาษาทิเบต-พม่า คลา้ ยกบั ลีซูและอาขา่

การแต่งกายเป็นเอกลักษณ์ของเผ่า แหลง่ ที่อยู่
ผหู้ ญงิ ลาหดู่ �ำแตง่ กายดว้ ยเสอื้ แขนยาวผา่ กลาง
ตลอดทง้ั ตวั เสอื้ ยาวถงึ นอ่ ง ขลบิ ขาวขอบชาย • ลาหู่ด�ำ อยทู่ ่ี บ้านห้วยเฮยี๊ ะ บา้ นจ่าโบ่
เส้ือและที่แขน ผู้ชายใส่กางเกงขาก๊วยสีด�ำ บ้านลุกขา้ วหลาม บา้ นบ่อไคร้ บา้ นผาเผอื ก
เสื้อน้�ำเงินแขนยาว ส่วนลาหู่แดง ผู้หญิงสวม และ บา้ นถ้ำ� ลอด อ.ปางมะผ้า
เสื้อตัวส้ันสีด�ำ แขนยาว ผ่าอก ติดแถบผ้าสี • ลาหู่แดง อยทู่ ี่ บ้านผามอน บา้ นยาป่าแหน
แดงที่สาบเส้ือ รอบชายเสื้อและแขน ตกแต่ง บ้านวนาหลวง และบา้ นผาแดง อ.ปางมะผ้า
เสื้อด้วยกระดุมเงิน ผู้ชายนุ่งกางเกงจีนสีด�ำ
เส้ือสีด�ำผ่าอกกลาง ประดับกระดุมสีเงินหรือ อ้างอิงข้อมลู
เปลอื กหอย มูลนธิ ิโครงการหลวง ส�ำนกั งานจังหวดั แมฮ่ อ่ งสอน
วฒั นธรรมประเพณสี �ำคัญ

เทศกาลกินวอปีใหม่ ชาวลาหู่จะจัดใน
ช่วงเดือนมีนาคม-เมษายนของทุกปีเป็นเวลา
7 วัน 7 คืน โดยมหี มอผีเปน็ คนดูฤกษก์ �ำหนด
วัน ถือเปน็ การฉลองปีใหม่ของชาวลาหู่ มีการ
เตน้ ร�ำสนกุ สนานและเป่าจะคึในงาน

20

1
แหล่งท่องเที่ยว

1  จดุ ชมววิ กกิ อคอ
บา้ นห้วยเฮีย๊ ะ
2  จุดชมววิ ภผู าหมอก
บ้านจา่ โบ่
3  จุดชมวิว บ้านจ่าโบ่
4  ถ�ำ้ ลอด บ้านถำ�้ ลอด
5  จุดชมววิ สันวัวตอ
บา้ นยาป่าแหน
2 6  ถ้�ำผีแมนบา้ นจา่ โบ่

35

46
21

ลซี ู เครื่องแตง่ กายของลซี มู ีความสวยงามหลาก
สีสันโดยเฉพาะของผู้หญิงท่ีมีการน�ำผ้าหลากสี
ลีซู หมายถึง ผู้ใฝ่รู้แห่งชีวิต เดิม เย็บต่อกันเป็นลวดลายสีสันสวยงาม ส่วนใหญ่ใช้
อาศยั อยทู่ ต่ี น้ แมน่ ำ�้ สาละวนิ และแมน่ ำ�้ โขง สีฟ้า สีน้�ำเงิน สีแดง สีชมพูและสีเขียวเป็นหลัก
ประเทศจนี อพยพเขา้ มาอยทู่ างภาคเหนอื ลักษณะเสื้อเป็นทรงหลวมแขนกระบอก คือ
เชน่ เชยี งราย เชยี งใหม่ และแม่ฮอ่ งสอน ดา้ นหนา้ จะยาวลงมาถงึ เขา่ คลา้ ยกระโปรงและสวม
ลีซูมีชีวิตความเป็นอยู่เรียบง่ายรักอิสระ กางเกงสดี �ำดา้ นในสวมใสป่ ลอกขา สว่ นของผชู้ าย
ชอบอาศัยอย่บู นพื้นท่ีภเู ขาสูง อาชพี หลัก เน้นเสื้อสีด�ำประดับกระดุมสีเงินตามไหล่และคอ
คอื การทำ� ไร่ ปลกู ขา้ ว ปลกู กระเทยี ม พรกิ กางเกงด�ำปลายขาขลิบสีฟ้า ภาษาของลีซู อยู่ใน
และขา้ วโพด ปัจจบุ นั มกี ารปรับเปล่ยี นวิถี กล่มุ เดียวกับภาษาของ มูเซอ และอาขา่ เรียกวา่
ชีวิตลงมาพื้นล่างมากขึ้นรวมท้ังเข้า โลโล
มาค้าขายในเมือง เช่น อ�ำเภอปายและ วัฒนธรรมประเพณสี �ำคัญ
ปางมะผ้า
การฉลองขนึ้ ปใี หม่ ประเพณกี ารกินขา้ วใหม่
22 การไหว้ผีหลวง การไหว้ผีไร่ ผีนา การไหว้ผี
บรรพบุรษุ เปน็ ต้น รวมทัง้ ความเชอ่ื ในการนับถอื
ศาสนาพุทธหรือคริสต์ ชาวลีซูรักในการร้องเพลง
เต้นร�ำมีการเกี้ยวพาราสีด้วยการร้องเพลงเก้ียว
สาวและการเล่นดนตรี

แหล่งทอี่ ยู่

สว่ นใหญ่อาศัยอย่ใู นพื้นท่ีอ�ำเภอปาย เชน่
บา้ นใหม่สหสมั พันธ์ บ้านไทรงาม และอ�ำเภอ
ปางมะผ้า เช่น บา้ นกด๊ึ สามสบิ บ้านหนองตอง
บ้านน้�ำรนิ บา้ นน�ำ้ บ่อสะเป่

อา้ งอิงข้อมลู : มลู นิธโิ ครงการหลวง
Mild 77 wordpress.com

1

24
แหล่งท่องเที่ยว

1  จุดชมววิ ดอยกิว่ ลม อ.ปางมะผ้า
2  ลีซู กินวอ
3  น้ำ� ตกหมอแปง อ.ปาย
3 4  น�้ำพุรอ้ นไทรงาม อ.ปาย

23

ถ่ินที่อยู่ด้ังเดิมอยู่ในประเทศจีน มีการอพยพเข้ามาให้ประเทศไทย
โดยเฉพาะทจี่ งั หวดั แมฮ่ อ่ งสอนเมื่อราว 100 ปีกอ่ น แบง่ เป็น 2 กลมุ่ ย่อย
คอื มง้ ขาว และ ม้งลาย เปน็ ชนเผ่าท่มี จี ำ� นวนประชากรน้อยท่ีสุดในจงั หวดั
แมฮ่ ่องสอน ชอบตัง้ บ้านเรือนอยู่ในพื้นท่สี งู โดยสรา้ งเปน็ กระท่อมฝาไม้แผ่น

พื้นติดดินหลังคามุงด้วยหญ้าคาหรือหลังคาไม้แผ่นแบบ
แปน้ เกลด็ ภายในบา้ นแบง่ เปน็ หอ้ งนอนและหอ้ งครวั
มอี าชพี ทำ� ไรเ่ ปน็ หลกั เชน่ ปลกู กะหลำ�่ ปลี มนั เทศ
แครอท เปน็ ตน้ มภี าษามง้ เป็นภาษาประจ�ำเผ่า
อยู่ในตระกูลเหมียว-เหยา หรอื มง้ -เมีย่ น ใน
กลุ่มภาษาจีน-ทิเบต วิถีความเช่ือมีความ
เชอื่ เรอ่ื งการนบั ถอื ผแี ละเคารพผอู้ าวโุ ส
ผู้เป็นหัวหนา้ ครอบครัว

ม้ง แหลง่ ทีอ่ ยู่
ม้งมีการแต่งกายเป็นเอกลักษณ์โดย
นิยมใส่เสื้อก�ำมะหยี่สีด�ำแขนยาวจรดข้อมือ • บ้านนาปา่ แปก บา้ นหว้ ยมะเข่อื สม้ อ.เมอื ง
ชายเสอื้ ยาวคลุมถึงเอว ปักลวดลายสวยงาม แม่ฮ่องสอน
ใส่กางเกงขาก๊วยหรือกางเกงจีนขาบาน • บา้ นแม่อูคอ อ.ขุนยวม
ในงานพิธีส�ำคัญผู้หญิงม้งจะใส่กระโปรงจีบ • บ้านหว้ ยผ้ึงใหม่ อ.แม่ลาน้อย
รอบตัวอาจเป็นสีขาวหรือสีท่ีมีลวดลาย
สวยงาม แตจ่ ะมผี า้ สเ่ี หลย่ี มผนื ยาวหอ้ ยลงมา อา้ งอิงขอ้ มูล : มูลนธิ โิ ครงการหลวง
ท้ังดา้ นหน้า และหลงั ผา้ นี้มกั จะปักลวดลาย Mild 77 wordpress.com
สวยงามมีผ้าแถบสีแดงคาดเอว นิยมพัน
มวยผมเอามาไว้ข้างหน้าแล้วใช้ผ้าสีด�ำโพก
สวมใสเ่ ครอื่ งเงนิ ก�ำไลคอ ก�ำไลขอ้ มอื ตมุ้ หู
แหวน รวมทั้งเหรียญเงินขนาดตา่ ง ๆ
วฒั นธรรมประเพณีส�ำคัญ

งานเทศกาลปีใหม่ เริ่มราวแรม 15 ค�ำ่
ของเดือนธันวาคม หลังฤดูหลังเก็บเก่ียว
มีการฆ่าหมู เพ่ือเซ่นไหว้ผีบรรพบุรุษและ
ผเี รอื น หลงั จากนน้ั ไปเยย่ี มเยยี นผู้ใหญ่ ญาติ
พี่น้อง และมีการเล้ียงฉลองกันหลายวัน
มกี ารโยนลกู ชว่ งของหนมุ่ สาวรอ้ งเพลงเกย้ี ว
พาราสีกนั รวมท้งั การเป่าจะคึเตน้ ร�ำ

24

2 1

3 4

แหล่งท่องเท่ียว 5
25
1  จุดชมววิ ม้งไมโครเวฟ บ้านมง้ ไมโครเวฟ อ.เมอื งฯ
2  ทุ่งบวั ตอง ดอยแมอ่ ูคอ อ.ขุนยวม
3  การเลน่ ลกู ชว่ งของชาวม้ง
4  น้ำ� ตกแม่สุรนิ ทร์ อ.ขนุ ยวม
5  ศูนยข์ ยายพันธ์ุกลว้ ยไมร้ องเท้านารี อ.ขนุ ยวม

ลเวอื ะ

เป็นชนเผ่าท่ีมีความเจริญมายาวนานก่อนท่ีจะสิ้นสุดลงในศตวรรษท่ี
12 เปน็ ชนดงั้ เดมิ อยู่ในพน้ื ทม่ี ากอ่ นการเกดิ ของอาณาจกั รลา้ นนาและกลาย
มาเปน็ ส่วนหน่ึงของอาณาจกั รลา้ นนาต่อมา ปจั จุบันยังพบลเวือะได้ในเขต
จงั หวดั เชยี งใหม่ เชยี งราย นา่ นและแมฮ่ อ่ งสอน โดยตงั้ ถน่ิ ฐานอยตู่ ามพน้ื ท่ี
ภูเขาสูงท�ำไร่อยู่ตามหุบเขา มีบางส่วนลงมาจนถึงพื้นท่ีราบ ปลูกข้าว ถ่ัว
งา พริก ข้าวโพด ยาสบู และเลี้ยงสตั ว์ ปลกู เรอื นยกพื้นหลงั คาสงู มุงดว้ ย
หญ้าคาหรือใบตองตึงคลุมจนเกือบถึงพื้นดิน มีกาแลสลักไขว้กันสอง
อนั เปน็ หนา้ จวั่ ลเวอื ะมภี าษาเปน็ ของตนเอง คอื ภาษาลเวอื ะ เปน็ ภาษาใน
ตระกูลออสโตรเอเชียติก กลุ่มมอญ-เขมร นับถือผีบรรพบุรษและนับถือ
ท้ังศาสนาพุทธและครสิ ต์

ลเวอื ะแต่งกายเปน็ เอกลกั ษณเ์ ฉพาะเผ่าของตน ผหู้ ญิงนิยมสวมเสอื้
สีขาวแขนสั้นกุ๊นด้วยด้ายสี ผ้านุ่งเป็นสีด�ำมีลายคั่นเป็นแถบในแนวนอนที่
เชงิ ผา้ ดา้ นลา่ งเปน็ แถบใหญซ่ ง่ึ มกั เปน็ สแี ดงหรอื สชี มพเู หลอื บดว้ ยสเี หลอื ง
ลายมัดนน้ั เป็นสนี ้ำ� เงินแซมขาว ชอบไว้ผมยาวมัดเป็นมวยประดบั ดว้ ยปน่ิ
หรือขนเม่น สวมสร้อยเงินและลูกปัดหลากสีเป็นพวง ใส่ก�ำไลแขนก�ำไล
ข้อมอื ท�ำดว้ ยเงิน ส่วนผู้ชายนยิ มสวมเส้ือแขนยาวสขี าวผา่ หนา้ นุ่งกางเกง
สะดอขาว เคียนหัวด้วยผ้าสีแดงหรือชมพู และพกมีดด้ามงาช้าง นิยม
สักลายท่ีต้นขา สูบยาเส้นและมีฝมี อื ด้านการตเี งนิ เป็นเครอ่ื งประดบั

วฒั นธรรมประเพณีส�ำคัญ แหลง่ ท่อี ยู่
การเล้ียงผีหมู่บ้านผีตะตู (โนก ตะตู)
• บา้ นดง บา้ นละอูบ อ.แม่ลานอ้ ย
เพ่ือความสงบร่มเย็นของหมู่บ้านและงาน • บ้านป่าแป๋ อ.แม่สะเรยี ง
ต้อนรับปีใหม่ นอกนั้นยังมีพิธีขอฝนในช่วง
ฤดปู ลูกพืชการเกษตร อา้ งอิงข้อมูล :
สำ� นกั สง่ เสริมศลิ ปวฒั นธรรม มหาวทิ ยาลัยเชียงใหม่
26 Mild 77 word Press.com

1

2
5

แหล่งท่องเที่ยว

1  พระใหญ่บา้ นละอูบ อ.แม่ลานอ้ ย
2  นาขนั้ บนั ได บา้ นดง อ.แม่ลานอ้ ย
3  นำ�้ ตกนทีราชันย์ อ.แม่ลาน้อย
4  ถ�้ำแกว้ โกมล อ.แมล่ านอ้ ย
3 5  การเลย้ี งผีหมู่บ้านผีตะตู (โนก ตะต)ู
4 ของชาวลเวอื ะ

27

ชาวจีนยนู นาน

ชาวจีนยูนนานในแม่ฮ่องสอนเป็นคนเชื้อสายจีนดั้งเดิมที่ครั้งหน่ึงในสมัย
สงครามกลางเมืองระหว่างกองทัพจีนคอมมิวนิสต์กับกองทัพจีนก๊กมินต๋ัง

กองทพั จนี กก๊ มนิ ตง๋ั พา่ ยแพส้ งครามเมอ่ื ปี พ.ศ.2492 ทหารจนี กก๊ มนิ ตง๋ั
สว่ นใหญห่ ลบหนขี า้ มไปตง้ั มนั่ อยบู่ นเกาะไตห้ วนั แตม่ บี างสว่ น
คือ กองพลท่ี 3 กองพลที่ 5 และกองพลท่ี 93 ไม่ยอม
จำ� นนและไดท้ ำ� การตอ่ สอู้ ยตู่ ามตะเขบ็ ชายแดนจนี พมา่
ต่อมาได้ถอยร่นเข้ามาพม่าก็ถูกกองทัพพม่าขับไล่อีก
จนต้องหนีเข้ามายังภาคเหนือของไทยแถบจังหวัด
เชยี งใหม่ เชยี งรายและแมฮ่ อ่ งสอนตงั้ แต่ ปี พ.ศ. 2504
โดยไปอาศยั อยบู่ นดอยแมส่ ะลองและดอยผาหมน่ ของ
จงั หวดั เชยี งรายเป็นส่วนใหญ่
ชาวจีนยูนนานอพยพมาอยู่ที่บ้านแม่ออ(บ้านรัก
ไทยในปจั จบุ ัน) อ�ำเภอเมืองแมฮ่ อ่ งสอนและบ้านสนั ติ
ชน อ�ำเภอปาย จังหวัดแมฮ่ อ่ งสอนตง้ั แตป่ ี พ.ศ.2510
โดยตอ่ มาไดอ้ าสารบกบั พคท.ในสมรภมู เิ ขาคอ้ จงั หวดั
เพชรบรู ณจ์ นไดร้ บั ชยั ชนะเมอื่ ปี พ.ศ.2525 รฐั บาลไทย
จึงได้ตอบแทนโดยการให้สัญชาติไทยและให้สิทธิ์อยู่
อาศยั ในประเทศไทยได้อย่างมคี วามสุขตลอดมา
ทุกวันนี้จากหมู่บ้านอพยพชายแดนจึงได้กลาย

มาเป็นชุมชนชาวจีนยูนนานท่ียังคงมีการรักษาขนบธรรมเนียมของจีนยูนนานไว้ได้อย่างน่าทึ่ง
ไม่วา่ จะเป็นวิถชี วี ิตความเปน็ อยู่บา้ นเรือน ภตั ตาคารรา้ นคา้ ต่างๆทต่ี กแต่งแบบจีน มกี ารใชด้ ิน
เหนียวและฟางข้าวมาสร้างบ้านแบบบ้านดิน ชาวจีนยูนนานมีภาษาท่ีใช้ในชีวิตประจําวันคือ
ภาษาจีน อิ่นหน่านหว่า ภาษาตระกูลจีน-ทิเบต ในกลุ่มภาษาจีนแมนดาริน ตะวันตกเฉียงใต้
มอี าหารการกนิ แบบยนู นานทขี่ นึ้ ชอ่ื โดยเฉพาะขาหมหู มน่ั โถว ไกด่ �ำตนุ๋ ยาจนี และนยิ มดม่ื ชาจนี
28 ซึง่ ยงั คงมีการปลูกไร่ชาใหเ้ หน็ อยู่ในพ้ืนทอ่ี ย่างกว้างขวาง

การแต่งกาย ผู้ชายสวมใส่เส้ือผ่าอกป้ายข้าง หรือ
ผ่าอกกลาง เสือ้ ยาวใตเ้ อวเล็กน้อย แขนเสื้อกว้างยาวหุ้ม
ข้อมือ นิยมใช้สีด�ำมากกว่าสีขาว ใช้กระดุมผ้า กางเกง
ขากว้าง ผู้หญิงไว้ผมมวย แต่งกายคล้ายชาย แต่ผ่าอก
ป้ายมาทางไหล่ข้างซ้าย ติดกระดุมผ้าใต้รักแร้ ผู้หญิงไว้
ผมมวย แต่งกายคล้ายชาย แต่ผ่าอกป้ายมาทางไหล่ข้าง
ซ้าย ติดกระดุมผ้าใต้รักแร้ ใช้ผ้าสีขาวสับด้วยแถบชายผ้า
ใหญ่สีด�ำหรือใช้ผ้าสีด�ำสลับสีแดง ปัจจุบันนิยมสวมชุดแดง
คอเตา่ แบบจนี ปกั ลวดลายดอกโบต๋ันมลี วดลายแบบจนี

วัฒนธรรมประเพณีส�ำคญั
มคี วามเชอื่ ในสง่ิ สกั การบชู า 5 ประการ

ได้แก่ ฟา้ ดิน กษตั ริย์ บดิ า มารดา และครู
สีแดงเป็นสีมงคล ชาวจีนยูนนานนับถือ
ศาสนาพุทธ เคารพในบรรพบุรษุ มกี ารเซน่
ไหว้อยู่เป็นประจ�ำ เช่น ประเพณีตรุษจีน
เป็นวันขึ้นปีใหม่ เช็งเม้งเซ่นไหว้ร�ำลึกถึง
บรรพบุรุษ สารทจีนและเทศกาลไหว้
พระจนั ทร์

แหล่งท่อี ยู่ 29

• บา้ นรกั ไทย บา้ นรงุ่ อรณุ อ.เมืองฯ
• บ้านสนั ตชิ น อ.ปาย

อา้ งองิ ขอ้ มูล :
มูลนธิ ิโครงการหลวง วกิ พิ เี ดยี

1

4
2

5
แหล่งท่องเที่ยว

1  ทะเลหมอกยามเช้ากบั ยอดดอยหลวงเชียงดาว
จุดชมวิวหยนุ่ ไหล อ.ปาย
2  ศนู ยว์ ัฒนธรรมจีนยนู นาน บ้านสนั ตชิ ล อ.ปาย
3 3  จดุ ชมววิ หยุ่นไหล อ.ปาย
4  พิพธิ ภณั ฑช์ นเผา่ บ้านรกั ไทย อ.เมืองฯ
5  ทะเลสาบบ้านรักไทยยามใกลค้ ่ำ� อ.เมอื งฯ

30

ปะโอ

เปน็ ชนเผา่ ทม่ี ถี นิ่ เดมิ อยแู่ ถบเมอื งสะเทมิ ในรฐั มอญ
และต่อมาได้อพยพมาอยู่แถบเมืองตองยีในรัฐฉาน เร่ิม
อพยพเข้ามายังดินแดนล้านนาเม่ือราว พ.ศ.2428 หลัง
พมา่ ตกเปน็ เมอื งขนึ้ ขององั กฤษ โดยเขา้ มาอยู่ในจงั หวดั
เชียงใหม่ เชียงราย ตากและแมฮ่ ่องสอน ชาวปะโอมชี ื่อ
เรียกอีกอย่างหน่ึงว่า ต่องสู่ มีความใกล้ชิดสัมพันธ์กับ
ชนเผ่าไตหรือไทใหญ่มากทีส่ ุด จนมีวฒั นธรรมประเพณี
หลายอย่างท่ีคล้ายคลึงกัน ชาวปะโอชอบอยู่อาศัยบน
พื้นท่ีสูงในขณะท่ีชาวไตหรือไทใหญ่จะชอบอาศัยอยู่ต่�ำ
กว่า อาชีพหลักคือการท�ำเกษตรกรรมบนพ้ืนที่สูงแบบ
ไร่หมนุ เวียนมกี ารปลกู ขา้ วไร่ ขา้ วโพด ถ่วั งา เกบ็ ของป่าและลา่ สัตว์ มภี าษาพดู และภาษาเขยี นของ
ตนเองคือ ภาษาปะโอและมคี วามสามารถใช้ภาษาไทใหญ่ได้ด้วย

ชาวปะโอมีนิสัยชอบค้าขายและยึดมั่นในศรัทธาของพุทธศาสนา คนที่ร่�ำรวยจากการค้าขายจะ
สร้างวัดวาอารามข้ึนในถิ่นท่ีอยู่ของตน เช่น พระธาตุดอยกองมูท่ีสร้างขึ้นด้วยแรงศรัทธาของชาว
ปะโอ เป็นต้น การแตง่ กายของชาวปะโอนงุ่ ห่มดว้ ยฝ้าฝา้ ยทอมอื สดี �ำหรือสกี รมทา่ ย้อมด้วยมะเกลือ
ผหู้ ญงิ จะสวมเสอ้ื คอวแี ขนสนั้ มลี ายสแี ดงผา่ กลางชายเสอื้ คลมุ ถงึ สะโพก มเี สอื้ ใสท่ บั ขา้ งนอกแขนยาว
คอจนี เอวลอยผา่ ตลอด มลี วดลายสฟี า้ เดนิ เสน้ สวยงาม ผชู้ ายแตง่ กายคลา้ ยชาวไทใหญ่ สวมกางเกง
เป้าหยอ่ นทีเ่ รยี กว่า เต่ียวโหย่ง นยิ มโพกหวั ทัง้ ผหู้ ญิงและผชู้ าย

วัฒนธรรมประเพณสี �ำคัญ แหลง่ ที่อยู่
จะคล้ายคลึงกับชาวไทใหญ่ มีงานปอย
• บา้ นห้วยมะเขื่อส้ม บา้ นห้วยซลอบ และ
ทีส่ �ำคญั คือ งานปอยสา่ งลอง (บวชลูกแก้ว) บา้ นหว้ ยขาน อ.เมืองฯ
และปอยลเู มโบ่ (งานแหโ่ คมไฟชาวปะโอ) กบั
มีงานเฉลิมฉลองเพื่อการร�ำลึกถึงบรรพชนที่ อา้ งองิ ขอ้ มลู :
มคี ณุ ปู การตอ่ ชาวปะโอ เรยี กวา่ “มอ่ื นเี คอปะ ศนู ยม์ านษุ ยวิทยาสิรนิ ธร ว่าที่ ร.ต.มนตรี วงษ์รยี ์
โอ แดน่ ซหี ลา่ บว่ ย” ในวนั เพญ็ เดอื นสถี่ อื เปน็ อาจารยว์ ทิ ยาลยั ชมุ ชนแม่ฮ่องสอน
วันแหง่ ประชาตชิ าวปะโอ Mild 77 word press.com

31

1

2

35
แหล่งท่องเท่ียว

1  แคมปิ้งปางอุ๋ง อ.เมอื งฯ
2  ลองแพในสายหมอก ปางอุง๋ อ.เมอื งฯ
3  สวนสัตวเ์ ปิดปางตอง อ.เมืองฯ
4  พระต�ำหนกั ปางตอง อ.เมอื งฯ
4 5  นำ้� ตกผาเสอื่ อ.เมืองฯ

32

บาŒ นไทรงาม (ลีซู)

1998..43784604209434795211365802323,

บาŒ นใหม‹สหสมั พนั ธ หมนอแ้ำตปกง น้ำพุรอŒ นไทรงาม

1998..3470049815677096720075126544, 1095 4024
วดั น้ำฮู วัดศรดี อนชยั
บาŒ นสนั ตชิ ล(จีนยูนนาน) อำเภอปาย
พระธาตุแม‹เย็น
199.387.400927798806577755710684679,

จดุ ชมวิวหยุนไหล

ดอยธง นำ้ พุรอŒ นทา‹ ปาย

ดอยเม่ียง สะพานบญุ โขกูŒโส‹ บ(คาŒ นนเทมา‹ อื ปงา)ย
บาŒ นแพมบก (ไทใหญ)‹ นำ้ ตกแพมบก สะพานประวัตศิ าสตรท‹าปาย

199.382.349531504084177343495055473,

199.38.548379490บ598Œา(32คน04น9เ5ว1เ5ยี4ม06งอื20ใ6ง3ต2),Œ กองแลน (ปายแคนยอน)
1265

อำเภอปาย

33

ถำ้ ปางคาม

บาŒ นปางคาม (ไทใหญ‹)

บาŒ นหวŒ ยเฮยี๊ ะ (ลาห‹ดู ำ) จุดชมวิวกิกอคอ
บŒา1น9บ9ล8.Œา5.ุก2น80ขจ46จาŒ7า‹ 0วดุ3โ8หบ4ช78ล‹ม95(4าวล34มวิ3า5ถบ9ห7(3้ำŒา3‹ดูล9ผน0ำา5า1ผ)ห,ถแาแ‹ูดำ้ แจดผงดุดงแี งถ)ชม้ำมนภผวจูผาิว‹าเาบผโหบาŒอื มน‹กอจก‹าบโบาŒ (น‹ ล1(บบาล2าŒ‹อห2านไหูด‹6คผำู‹ดรา)ำŒเ)ถผำ้อื ถแกำ้มเ‹ลถพะำ้ชนปราะกจสบบารดุถนัาŒŒางันนชำ้วลมัวแยอตมาวดปอิว‹ลา†ะแนหานบ(ไŒา(ทลนบ(ใาถปหาŒห้ำกญน‹แูลาเด‹)อเมกงดือ)องญ(แลพอาห)ม‹ูดำ)
อำเภอปางมะผŒา
บŒานลุกข(าŒ ลวาหหล‹ูดาำม) ถำ้ น้ำบอ‹ ผี บาŒ นหนอง(ตลอีซง)ู ถ้ำผีแมน
ถำ้ ผามอน
บŒานน้ำบอ‹ ส(ละเีซปู)†
1095

จุดชมวิวบ้านจา่ โบ่ บาŒ นก๊ึดสามสิบ (ลีซ)ู บาŒ นน้ำริน (ลซี )ู (บลŒาานหผแู‹ าดมงอ)น

199.844.127241082881720208831628347, 9198..52399095853231645499101499168,

จดุ ชมวิวดอยกิ่วลม บาŒ นวนาหลวง
ถ้ำ�ลอด

อำเภอปางมะผา

34

บŒานนาปา† แปก (มŒง) บาŒ นรักไทย (จนี ยนู นาน)
199.บ571.Œา92น27ห051วŒ65ย2(5ป6ม87ะ7ะ8โ0เ7อข21อื่61ม2ส21Œง2Œม9),
1979..59482657195587822325339642623,

ทบŒาะเนลรสกั าไบทย

ปางองุŽ พระตำหนกั ปางตอง 1095
สวนสตั วเ ปดปางตอง น้ำตกผาเสอ่ื (บปŒาะนโหอŒว) ยซลอบ

บาŒ นหวŒ(ปยะขโาอน) 3011 ถำ้ ปลา
บ(าŒไนทหใหมญอก‹ ปจะำโแอป)†
กะ(ปแยกากเกบะยอŒานันญใอนปสะโโอปอยว)
199.37.8817453572807174709450456635, สะพานซูตองเป‡
บาŒ นปางหมู (ไทใหญ‹)
บŒาน(กหะŒวแยยเสกือะเยฒนั า‹) 9179..3956366075065977264037485213, พระธาตุดอยกองมู

199.725.990631410207683121441520955, วดดั อพยรกะอธงามตุู (แอคมำนเ‹ฮภเมอ‹ องอื เสงม)อือนง
128 วดั จองกลาง
บาŒ นหวŒ ยปูแกง (กะยนั กะยอ) วดั จองคำ

199.72.3869648079448990312694266433, บาŒ(ปนกนา้ำเฮกหู อาญยใอจ)
3018 บผา‹อบน‹อำ้ งรŒอน
บาŒ นน้ำเพียงดิน (กะยนั ) ดอยปยุ หลวง
บาŒ นหวŒ ยฮ้ี (ปกาเกอญอ)
199.72.2876897401010765048075758872,

บŒานหวŒ ยแ(กกะŒวแบยน) (บไาŒทนใปห†าญป‹ ˆุ ปกาเกอญอ) 9198..2071159011054132124564293738,
สะพานขาŒ ว ๙ กาŒ วเพ่ือสุข (บปŒากนาหเกวŒ ยอตญออง)กอ
สถานีตำรวจเก‹า บาŒ นผาบ‹อง (ไทใหญ‹)
บŒานนำ้ เพยี งดนิ จดุ ชมวิวผาบอ‹ ง
19บ89าŒ ..น0103ม14Œง74ไ32ม3501โค9426ร03เว1216ฟ1138(2ม,Œง)

108

อำเภอเมืองแมฮองสอน 35

ท‹ุงบวั ตองดอยแมอ‹ ูคอ

แมส‹ นุรนิ้ำตทกร

ศูนยอ นุรักษ
พรอันงธเกุทลาŒ นŒวยารไมี Œ

108 1บ988Œาน..08แ75ม87อ‹43คู1102อ50(85ม95Œง84)26573656,

พิพธิ ภัณฑส งครามโลก อำเภอขนุ ยวม แม‹ยวมนห้ำลตวกง 4009
ครง้ั ท่ี 2 1263

บาŒ นต‹อแพ (ไทใหญ‹) 3007 วัดมวยต‹อ

วัดต‹อแพ บŒานเมอื งปอน (ไทใหญ)‹
1337
1978..97234957823454359734684794593,

หนำ้นพอุรงอŒแนหŒง
108

อำเภอขุนยวม

36

บŒานหวŒ ยผง้ึ ใหม‹ (มŒง)

1988..60914671838993022807593983864,

จุดชมววิ แมล‹ าหลวง

108

ถ้ำแกวŒ โกมล บ1988Œา..น3076ห58วŒ 39ย9469ห69Œอ93ม5197(67ป3842ก1า6เ,กอญอ)
วดั ดอยแกŒว
จุดชมววิ แม‹ลานŒอย แมอ‹ลำเาภนออŒ ย 1226 พธรรระมธามติกุ ราช บŒานดง ลเวอื ะ
4006
ดอยขุมคำ 1988..03743732469904854459054988267,
น้ำตกนทรี าชันย
(โบคŒารนงกดางร)หลวงแมล‹ านŒอย
พระใหญบ‹ าŒ นละอูบ
บŒานละอูบ ลเวอื ะ

1988..30543799727660775814318429918,

จดดุอชยมโมพลระะกอาาทติ ยขนึ้

อำเภอแมลานอย

37

บาŒ นแมส‹ ามแลบ 105
ดอยพยุ โค
1977..79739985972474271403284722594,
9188..0000347649269724451482620473,
1194
บาŒ นแม‹คะตวน (โปว) อำเภอสบเมย

179.79.6952377006189862250863881369,

จุดชมววิ กลอเซโล 3004 อุทยานแหง‹ ชาติแมเ‹ งา
แมน‹ ้ำสองสี
1977..7817162862136693401322689911, 17.847027824546203,
179.87.696663031691763696112027, 97.97665167143491

38

บาŒ นป†าแป‰ ลเวือะ

คนเมือง วดั ถ้ำพระ (ถำ้ เหงŒา)

1987อ..19ำ53เ92ภ397อ71แ39(5ม3ค34‹สน910ะเ0ม0เ6ร7ือ2ีย91ง5ง,) 108 นแม้ำตส‹ กวรรคน Œอย
ทุ‹งบัวตองแมเ‹ หาะ
(ปบกาŒ านเแกมอเ‹ญหอาะ)

พระธาตจุ อมแจงŒ 108
พระธาตุจอมทอง

วัดพระธาตจุ อมกติ ติ

ไทใหญ่

39

อำเภอ 9บ189าŒ น..25จ80า‹ 46โ07บ38‹ 47(ล89า54ห43ู‹ด53ำ79)330915,
ปางมะผา

1บ99าŒ .น758.ร96กั 47ไ2ท155ย985(8จ73นี252ย32นู 63น49า62น32), 19บ89าŒ น..25ผ39า09ม59อ85น3213(64ล54า99ห01แ‹ู 14ด99ง16)8,

199.57.192บ27Œา05น16ห525Œว6ย8(7ป7ม80ะะ7โ2เ1อข61ือ2ม2ส12งŒ มŒ 9), อำเภอเมือง 1095 บ9189Œาน..43ไ78ท46ร40ง02า49ม3497(ล52ีซ11)ู635802233,
แมฮ องสอน
อำเภอปาย
1บ9าŒ9.น72ห5.9วŒ90ย63เ1ส410อื 20เ7ฒ683า‹121(4ก415ะ2แ09ย55), 1095 อ(19ไ97ำทเ..ภใ93ห06อญ91เม86)‹ ือ2234งแ40ม1283ฮ‹ 72‹อ82ง73ส03อ8น3, 1บ989าŒ น..34เ53ว47ีย64ง11ใต27Œ28(53ค40น85เ00ม60ือ03ง69)2,
1บ99Œา.72น.2น876ำ้ 8เ97พ40ยี10ง10ด76นิ5048(0ก75ะ75ย88นั72),
91บ97Œาน..28ห93วŒ46ย60ป98แู47ก9480ง91(36ก42ะ69ย42อ36)3,

91บ88าŒ น..08แ75ม78‹อ43คู1102อ05(58ม95งŒ 84)26573656,
อำเภอ
ขนุ ยวม

108

อำเภอ 19บ88Œาน..03ห67วŒ58ย93ห49อŒ6996ม39(51ป97ก67า83เ24ก1อ6ญ, อ)
แมลานอŒ ย 1บ988าŒ น..30ล54ะ37อ99ูบ2776(06ล77เว58อื 14ะ31)4829198,

คนเมอื ง

อำเภ19อ87แ..1ม95‹ส39ะ23เ9ร77ีย13ง953(3ค491น00เ0ม67อื291ง5), อำเภอ
แมส ะเรยี ง

108

ไทใหญ่ 105

ท่องเที่ยวชนเผ่า อำเภอ บ1977าŒ น..99แ62ม57ค‹30ะ76ต80ว18น9265(82โป3086ว83) 916,
แม่ฮ่องสอน สบเมย

40

เบอร์โทร.สำ�คัญ จงั หวดั แม่ฮอ่ งสอน

อำ�เภอเมอื งแม่ฮ่องสอน อำ�เภอขุนยวม
ท่ีว่าการอำ�เภอ
ทว่ี ่าการอ�ำ เภอ โทร. 0 5369 5560 สถานีตำ�รวจภูธร โทร. 0 5369 1265
สำ�นักงานเทศบาล โทร. 0 5361 2615 โรงพยาบาลขนุ ยวม โทร. 0 5369 1115
สถานตี ำ�รวจภธู ร โทร. 0 5369 5019, สำ�นักงานสาธารณสุข โทร. 0 5369 1443
06 4815 9851 ไปรษณีย ์ โทร. 0 5369 1105
โรงพยาบาลศรีสังวาลย์ โทร. 0 5361 1378 สถานขี นสง่ ผู้โดยสาร โทร. 0 5369 1104
สาธารณสุข โทร. 0 5361 1530 อทุ ยานแห่งชาติน้ำ�ตกแมส่ รุ ินทร ์ โทร. 09 3249 2034
ไปรษณีย์ โทร. 0 5361 1888 โทร. 0 5306 1073
ส�ำ นกั งานวัฒนธรรม โทร. 0 5361 4417
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย โทร. 0 5361 2982
สำ�นกั งานทอ่ งเท่ียวและกีฬา โทร. 0 5361 1146 อำ�เภอแม่ลานอ้ ย
ทา่ อากาศยานแม่ฮ่องสอน โทร. 0 5361 2057 ทวี่ า่ การอำ�เภอ โทร. 0 5368 9125
สถานีขนสง่ โทร. 09 6990 1980 สถานตี ำ�รวจภธู ร โทร. 0 5368 9097
อุทยานแหง่ ชาตถิ ้�ำ ปลา-น้�ำ ตกผาเส่อื โรงพยาบาล โทร. 0 5368 9060
ส�ำ นักงานสาธารณสขุ โทร. 0 5368 9026
ไปรษณีย์ โทร. 0 5368 9017
อำ�เภอปาย สถานีขนส่งผู้โดยสาร โทร. 0 6393 9919

ทีว่ ่าการอำ�เภอ โทร. 0 5369 9195
สถานีต�ำ รวจภูธร โทร. 0 5369 9217
สถานีตำ�รวจท่องเทย่ี ว 4 กองกำ�กบั การ 2 อำ�เภอแม่สะเรียง
กองบังคับการต�ำ รวจท่องเทย่ี ว 2 โทร. 0 5369 9444 โทร. 0 5368 1822
โรงพยาบาลปาย โทร. 0 5369 9031 ทว่ี ่าการอำ�เภอ โทร. 0 5368 1308
สำ�นกั งานสาธารณสุข โทร. 0 5369 9210 สถานตี �ำ รวจภธู ร โทร. 0 5361 1952
ไปรษณีย ์ โทร. 0 5369 9208 ท่ีท�ำ การต�ำ รวจท่องเทีย่ ว โทร. 0 5368 1032
โรงพยาบาลแมส่ ะเรยี ง โทร. 0 5368 1310
อำ�เภอปางมะผา้ โทร. 0 5361 7159 ส�ำ นักงานสาธารณสขุ โทร. 0 5368 1356
ทวี่ ่าการอำ�เภอ โทร. 0 5361 7171 ไปรษณยี ์ โทร 0 9795 1253
สถานีต�ำ รวจภูธร โทร. 0 5361 7154 สถานขี นสง่ ผู้โดยสาร โทร. 0 5361 8077
โรงพยาบาลปางมะผ้า โทร. 0 5361 7143 โทร. 0 5361 8110
ส�ำ นักงานสาธารณสุข โทร. 0 5361 7165 อำ�เภอสบเมย โทร. 0 5361 8080
ไปรษณีย ์ โทร. 0 5361 8074
ทีว่ ่าการอำ�เภอ โทร. 08 0229 7289
สายด่วนฉกุ เฉนิ : 1669 สถานตี ำ�รวจภธู ร โทร. 0 5307 1471
สายด่วน วฒั นธรรม : 1765 โรงพยาบาลสบเมย
สำ�นักงานสาธารณสขุ
ไปรษณีย์
อุทยานแหง่ ชาตแิ มเ่ งา

ส�ำ นักงานวฒั นธรรมจังหวัดแม่ฮ่องสอน

ศาลากลางจังหวัดแมฮ่ อ่ งสอน(หลังเก่า) ชั้น ๑ ถนนขนุ ลมุ ประพาส
ตำ�บลจองคำ� อำ�เภอเมือง จังหวดั แมฮ่ อ่ งสอน ๕๘๐๐๐
โทรศัพท์ ๐๔๓ ๖๑๔๔๑๗ โทรสาร ๐๕๓ ๖๑๔๓๐๓
เว็บไซต์ : www.m-culture.go.th/maehongson
facebook : www.facebook.com/sammork.culture


Click to View FlipBook Version