The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ประเพณีเลี้ยงผีขุนน้้ำ

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by samartpingkasan, 2021-11-12 01:52:16

ประเพณีเลี้ยงผีขุนน้้ำ

ประเพณีเลี้ยงผีขุนน้้ำ

Keywords: ประเพณีเลี้ยงผีขุนน้้ำ

ประเพณีเล้ยี งผีขุนน้ำ

ประเพณีเล้ยี งผขี นุ นำ้
คำวำ่ ผี คงหมำยเอำวิญญำณหรอื สงิ่ ทีส่ งิ สถิตอยใู่ นที่นั้นๆ
คำวำ่ ขุน หมำยถงึ ควำมเป็น, ต้นตอ, ประธำนหรืออำรกั ษ์
คำว่ำ นำ้ มีควำมหมำยเป็นทรี่ จู้ ักกันดีอยูแ่ ลว้ แต่ในที่น้ีหมำยถงึ เอำแม่น้ำลำคลอง

เครื่องสำ้ หรับสงั เวยบชู ำ
มีเทียน 4 เล่ม ดอกไม้ 4 สวย (กรวย) พลู 4 สวย หมำก 4 ขดหรือ 4 ก้อม (1 ขดเอำมำตัดครึ่ง

เท่ำกับ 1 ก้อม) ช่อขำว (ธง) 8 ผืน มะพร้ำว 2 คะแนง กล้วย 2 หวี อ้อย 2 เล่ม หม้อใหม่ 1 ใบ แกงส้ม
แกงหวำน หัวหมู ไก่ตม้ สุรำ และโภชนำกำร 7 อยำ่ ง รวมทัง้ เมยี่ งและบหุ รี่ เปน็ ต้น
วิธีกำรเลยี้ ง

ก่อนทำกำรเลี้ยงต้องมีกำรประชุมกันก่อนระหว่ำงลูกเหมืองลูกฝำย (หมำยถึงผู้ท่ีใช้น้ำในแม่น้ำลำ
ธำรน้ันๆ ทำกำรเกษตร) เม่ือประชุมตกลงกันและหำฤกษ์งำมยำมดีกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็มีกำรเรี่ยไรเงิน
ทองกันคนละนดิ คนละหนอ่ ย เพ่ือจัดซือ้ เคร่ืองสงั เวยต่ำงๆ และชว่ ยกนั ตกแตง่ เครือ่ งสังเวย

เม่ือจัดกำรแต่งดำเครื่องสังเวยพร้อมแล้ว ก็ทำชะลอมขึ้น 3 ใบ สำหรับใส่เคร่ืองสังเวยต่ำงๆ ท่ี
จดั เตรียมไว้ ชะลอม 2 ใบแรกให้คนหำบไป ส่วนใบที่ 3 นั้นให้คอนไป แล้วให้ทำศำลขึ้นหลังหน่ึง ณ ที่ต้น
น้ำลำธำรสำหรับที่จะเล้ียงนั้น ประกอบด้วยหลักช้ำงหลักม้ำ ปักอยู่ใกล้ๆ ศำล แล้วนำเอำเครื่องสังเวยต่ำงๆ
ข้ึนวำงบนศำลนั้น แล้วทำพิธีกล่ำวอัญเชิญเทวดำอำรักษ์ ตลอดถึงส่ิงศักดิ์สิทธิ์ ผีสำงต่ำงๆ อันประจำรักษำ
อยู่ ณ ต้นนำ้ ลำธำรทนี่ ้นั ให้ได้รับรแู้ ล้วมำรับเอำเครอ่ื งสงั เวยตำ่ งๆ ตลอดจนออ้ นวอนขอจงอำนวยอวยชัยให้
มีน้ำอุดมสมบูรณ์ มีฝนตกถูกต้องตำมฤดูกำล โดยมำกใช้ถ้อยคำโวหำรเป็นภำษำทำงภำคเหนือว่ำ
“ขออญั เจินผแี พะผีป่ำขุนหลวงมะลังกะ๊ แมธ่ รณี เจำ้ ต้ี เจำ้ ดนิ เทวดำอำรักษ์ตังหลำยอีนปกป้องรักษำยังป่ำต้น
นำ้ ลำธำร เหมืองฝำย ภูผำปูดอย จุ่งช่วยปลอ่ ยน้ำปล่อยฝนตกลงมำห้ือชำวบ้ำนชำวเมือง สัตว์ตั๋วน้อยตั๋วใหญ่
สพั พะท้ังหลำยจงุ่ หอื้ มีนำ้ กินน้ำใช้ หอื้ พชิ ชะขำ้ วกลำ้ จงุ่ ปันอดุ มสมบูรณง์ ำมดี อย่ำได้มีศัตรูหมู่ของร้ำยมำ
ก๋วนมำควีแด่เตอ๊ ะ ฯลฯ เป็นตน้ (1)

ต่อจำกน้ันพอต้ังเครื่องสังเวยนำนพอสมควรแล้ว สมมติว่ำเจ้ำที่เจ้ำทำง ผีสำง อำรักษ์ทั้งหลำยรับ
เครอ่ื งสังเวยอ่มิ แล้ว ก็นำเอำเครื่องสังเวยเหล่ำนนั้ แบง่ ปันเลยี้ งดกู นั กนิ ต่อไป ก็เป็นอนั เสร็จพิธี

จดุ ประสงค์
1. เพอื่ ใหเ้ กิดควำมสำมคั คซี ่ึงกนั และกนั เชน่ มกี ำรประชุมตกลงกนั ก่อนจึงจะมีพธิ กี ำรเลย้ี ง
2. เพือ่ เป็นกำรแสดงออกซ่ึงควำมเสียสละประโยชน์สว่ นน้อยของตน เพอ่ื ประโยชน์ของสว่ นรวม

เชน่ มีกำรเรี่ยไรเงินทองกันคนละนดิ หน่อย
3. เพือ่ แสดงควำมกตัญญตู ่อสิ่งท่ีมีคณุ และให้ประโยชนแ์ ก่ตนเอง เช่น กำรเลี้ยงผีขุนนำ้ ก็เพ่อื

ต้องกำรแสดงควำมกตัญญูต่อธรรมชำติท่ีอำนวยควำมอุดมสมบูรณ์ให้กับมนุษย์ และมองเห็นควำมสำคัญ
ของธรรมชำติท่ีมีตอ่ มนุษย์

กำรเลี้ยงผขี นุ น้ำหรือต้นน้ำลำธำรไหนกไ็ ด้ แตส่ ว่ นมำกทำท่ีตน้ น้ำลำธำรใหญๆ่ และสำคัญท่ี
เปน็ เหมอื นเสน้ สำยชีวิตของเกษตรกรในแหล่งน้ำน้ันๆ ส่วนเครื่องสังเวยต่ำงๆ ตลอดถึงวิธีกำรอำจแตกต่ำง
กนั ไปตำมทอ้ งถน่ิ นน้ั ๆ และควำมเช่อื ถือ

(1)สัมภำษณ์ นำยเมือง ท้ำวคำลือ. อำยุ 60 ปี บ้ำนเลขที่ 114 บ้ำนท่ำสำรภี อำเภอสันป่ำตอง จังหวัดเชียงใหม่ วันท่ี 18
กรกฎำคม 2527.

บรรณำนกุ รม
มณี พยอมยงค.์ 2548 (พมิ พค์ รง้ั ท่ี 5). ประเพณสี บิ สองเดือนล้ำนนำไทย “ประเพณเี ลีย้ งผีขุนน้ำ” (117-118).

หสน.ส.ทรัพย์กำรพมิ พ์. เชียงใหม่ .

ผขี นุ น้ำ

ผขี ุนน้ำเป็นผีฝ่ำยดีที่คนพื้นบ้ำนล้ำนนำให้ควำมเคำรพยำเกรงมำก ป่ำตอนใดเป็นตน้ กำเนดิ ของ
สำยน้ำ ปำ่ น้นั ๆ จะไดร้ บั กำรพทิ กั ษ์หวงแหนย่งิ กวำ่ ป่ำอื่นๆ คนจะไมเ่ ขำ้ ไปตัดไมห้ รือลำ่ สตั วเ์ ดด็ ขำดถงึ กำ
ละพึงควร เช่นก่อนหน้ำลงนำเลก็ น้อย คนกจ็ ะไปไหวผ้ ีขุนนำ้ ณ ต้นกำเนิดของแม่น้ำสำยนั้นๆ

ผขี ุนนำ้ ไม่ปรำกฏรูปรำ่ งตัวตนวำ่ เปน็ อยำ่ งไร เป็นกลมุ่ ผีท่ีเฝำ้ รักษำต้นนำ้ ลำธำร ไม่ใช่ผีโดดเดี่ยว
เดียวดำย แต่หมำยเอำผีหลำยตนท่อี ำจสิงสู่อย่แู ถวตน้ น้ำน้ันๆ แต่เดมิ อำจเป็น ผีโปง่ ผีป่ำ หรือผดี ุรำ้ ยนำนำมำ
กอ่ นกไ็ ด้ ต่อมำชำวบำ้ นสรำ้ งศำลใหอ้ ยอู่ ำศยั แถวตน้ น้ำนั้นเอง แลว้ อัญเชญิ มำสถิตศำลมอบหมำยให้ทำ
หน้ำทพี่ ิทักษ์รักษำตน้ น้ำลำธำร ผีเคยรำ้ ยเลยกลำยเปน็ ดี

ผีขนุ น้ำมักได้ช่อื ตำมลำนำ้ สำยน้นั ๆ เช่นผขี นุ ลำวได้ชื่อจำกแม่น้ำลำว ผขี นุ ออนได้ช่ือจำกแม่นำ้
ออน เปน็ ตน้ ถงึ กำละวันยำมใกล้ฤดูทำนำ ชำวบ้ำนจะทำพิธเี ลี้ยงผีขุนนำ้ เพ่อื เป็นกำรขอบคณุ ทดี่ ูแลรักษำ
ขุนน้ำ ทำใหม้ ีนำ้ ใช้ในกำรเกษตรกรรม พิธดี งั กลำ่ วจะจดั ขึน้ ท่ีศำลของผขี นุ นำ้ ในเดือน 8 หรือเดือน 9 เหนือ
(ประมำณเดอื นพฤษภำคม-มถิ นุ ำยน)

กำรเลี้ยงผขี ุนนำ้ น้ัน ศำสตรำจำรย์มณี พยอมยงค์ พ่อครูหลวงอกี ท่ำนด้ำนลำ้ นนำคดี เขยี นไวใ้ น
ประเพณสี บิ สองเดือนล้ำนนำไทยว่ำ เครื่องสำหรับบูชำประกอบดว้ ยเทยี น 4 เล่ม ดอกไม้ 4 กรวย หมำก 4
ขด ช่อขำว (ธงขำว) 8 ผืน มะพร้ำว 2 ทะลำย กล้วย 2 หวี ออ้ ย 2 เลม่ หม้อใหม่ 1 ใบ แกงส้มแกงหวำน
หัวหมู ไกต่ ้ม สุรำและโภชนำกำร 7 อยำ่ ง รวมท้งั เม่ยี งและบหุ รี่ เปน็ ต้น สว่ นวธิ กี ำรเลี้ยงผหี รอื เซน่ สังเวย
น้นั ทำ่ นเขียนไวว้ ำ่ เม่ือจัดแต่งเคร่ืองสงั เวยพร้อมแล้วจำทำชะลอม 3 ลูกสำหรบั ใส่เคร่ืองบชู ำทัง้ หลำย หำบ
ไป 1 ใบ คอนไป 1 ใบ แลว้ จัดทำศำลขึน้ หลงั หนง่ึ ท่ีต้นนำ้ นน้ั ๆ ประกอบด้วยหลกั ชำ้ งและหลกั มำ้ ปกั อยู่
ใกล้ๆ ศำล แล้วนำเอำเครื่องสังเวยขน้ึ วำงบนศำล ทำพธิ กี ล่ำวอญั เชิญเทวดำอำรกั ษ์ ตลอดจนส่ิงศกั ด์ิสิทธ์ิ
และผสี ำงตำ่ งๆ ซึ่งประจำรกั ษำอยู่ ณ ตน้ น้ำลำธำรสำยนนั้ ให้มำรับเครือ่ งสงั เวยตำ่ งๆ แล้วจะออ้ นวอนขอให้
ผขี ุนนำ้ อำนวยใหม้ ีน้ำอุดมสมบรู ณ์ ฟำ้ ฝนตกต้องตำมฤดูกำล จำกนน้ั จะรออยพู่ อสมควรแกเ่ วลำกจ็ ะนำเอำ
เครื่องเซ่นสงั เวยเหลำ่ นน้ั มำเลีย้ งดสู ู่กนั กิน

ผเู้ ขียนเคยอำ่ นพบเรอื่ งรำวเก่ียวกับผีขนุ น้ำเรื่องหนงึ่ วำ่ เห็นวำ่ น่ำสนใจ ขออนุญำต คณุ สังคตี จนั ท
นะโพธ์ิ ซง่ึ เขยี นเกี่ยวกับกำรเลีย้ งผีขนุ น้ำออน ไวใ้ นหนงั สอื เปดิ กรุลำ้ นนำรว่ มสมัย คุณสงั คตี เขียนไวว้ ำ่

ลำ้ น้ำออนไหลผ่ำนอำ้ เภอสนั กำ้ แพง ยำวประมำณ 75 กิโลเมตร ชำวบำ้ นทีใ่ ชน้ ้ำจำกล้ำน้ำนจี ะเลียงผี
ขุนน้ำในวันแรม 15 คำ่้ เดือน 9 เหนือของทกุ ปี จะใช้วัวดำ้ หมูดำ้ และไก่ดำ้ ฆ่ำเลยี ง เนือวัวทำ้ แกงอ่อม หมทู ำ้
ลำบ ไก่ทำ้ ไกย่ ำ่ ง จะสลบั สับเปลี่ยนไม่ได้

เมื่อ พ.ศ.2460 ถึงเวรต้ำบลทรำยมลู ไปเลียงผีขุนน้ำ พญำอำรำษฎรบ์ ำ้ รุงกำ้ นนั ต้ำบลทรำยมูลสลบั
สบั เปลย่ี นเนอื ไมท่ ำ้ ตำมท่ีเคยท้ำกันมำแต่ก่อน ใครห้ำมก็ไม่ฟัง กำรท้ำอย่ำงนีท้ำใหผ้ ีขุนน้ำไมพ่ อใจ บนั ดำล
ให้เกิดฝนตกฟำ้ รอ้ งอยำ่ งหนัก นำ้ เอ่อนอง พญำอำษำรำษฎรบ์ ้ำรุงจะข้ำมน้ำใหไ้ ด้ ใครหำ้ มเท่ำไรก็ไม่ฟงั น้ำ
ซัดทงั คนและม้ำจมหำยไป รุ่งขนึ จงึ ไปพบศพติดอยู่ทฝ่ี ำยรอ้ งวัวแดง

เรื่องนคี้ งพอสะทอ้ นถึงควำมคดิ ควำมเชื่อและกำรกระทำของคนล้ำนนำ (ในอดีต) ท่ีเก่ียวกับผีขนุ
นำ้ ได้พอสมควร ผมเองไมม่ ปี ระสบกำรณต์ รงเกี่ยวกบั ผขี ุนน้ำ แต่สมยั เมื่อผมยังเปน็ เด็กบำ้ นดอยอย่นู ั้น หลัง
บ้ำนผมคอื ดอยจอมแว่ เป็นเทอื กดอยเล็กๆ แต่กย็ งั มีน้ำห้วยไหล มปี ลำกั้งให้เห็น (คนพ้นื เมอื งสมัยนน้ั ไมก่ ิน
ปลำก้งั เพรำะเชอื่ วำ่ มันคือจงิ้ เหลนท่ีลงไปอย่ใู นน้ำแลว้ ขำดหำย ใครกนิ แล้วจะกลำยเป็นขที้ ูด ปลำกัง้ จงึ มี
เยอะ) เน้ือดินของดอยยังมีเห็นขอนเห็ดดนิ ให้เก็บกนิ มีผักแพระผกั ปำ่ พออำศัยใส่หม้อแกงได้ ที่หลำ่ ยดอย
หรอื อีกฟำกของดอยจอมแว่มนี ำ้ บอ่ ทพิ ย์ ซึ่งพอจะอนุมำนไดว้ ่ำเปน็ ขุนหว้ ยเพรำะเปน็ ต้นกำเนิดของน้ำทพิ ย์
นำ้ บ่อทิพยท์ ีว่ ำ่ มำนเ้ี ป็นตำนำ้ ผุดจำกใตด้ ิน ไหลออกจำกปำกบ่อเลำะลอ่ งไปตำมหลืบดอย คนเชื่อกันวำ่ นำ้
บ่อทิพยร์ กั ษำโรคบำงชนิดได้ ท่ีน้ำบ่อทพิ ย์แหง่ นีเ้ ชื่อกันว่ำมีผรี ักษำ พวกเรำแม้เป็นลูกเล็กเด็กดอยที่ซกุ ซน
สดใสไปตำมประสำ แตก่ ไ็ ม่กล้ำจะทำทะล่ึงทะเลน้ เปน็ ลกู วอกลูกลิงแถวๆ น้ำบ่อทิพย์ หำกจำเปน็ ต้องฉ่ี ยงั
ต้องยกมอื ไหว้ขอขมำ เวลำจะฉีก่ ็ต้องหันหน้ำไปทำงอื่น ไมห่ นั ไปทำงนำ้ บ่อทพิ ย์

อันนแ้ี คเ่ พยี งผีท่ีเฝ้ำตำนำ้ เทำ่ นัน้ (พอจะกลอ้ มแกล้มเรียกเป็นผีขนุ หว้ ยได้) ยังมีอทิ ธิพลต่อควำม
ประพฤตขิ องคนท่ีเก่ียวขอ้ ง หำกเปน็ ผขี นุ น้ำคงสง่ อิทธิพลต่อผคู้ นมำกกวำ่ นี้เปน็ แน่

กำรเลย้ี งผีขุนน้ำน้ันปัจจุบันก็ยังปฏบิ ตั กิ นั อยู่ ควำมเคำรพยำเกรงต่อผี และควำมเข้มขลังศักดิ์สทิ ธ์ิ
ของพธิ ีกรรมอำจลดหย่อนลง แกน่ สำรเนื้อในอำจหดหำยไปตำมกระแสควำมเชื่ออ่ืนๆ ท่ีรกุ ลำ้ เข้ำมำ แต่
รูปแบบพิธีกรรมยงั คงมีอยู่ เรำคงไม่อำจบรู ณะฟนื้ ฟตู วั ควำมเชือ่ เก่ียวกบั ผขี นุ น้ำให้มผี ลเชิงปฏบิ ัตใิ นกำร
รกั ษำปำ่ ตน้ น้ำลำธำรได้ดงั เดิม เรำคงไม่สำมำรถจะใชผ้ ขี ุนน้ำใหเ้ ป็นเครื่องมือในกำรอนุรกั ษ์ป่ำตน้ นำ้ ได้
ดงั เดมิ อกี แลว้ ผีขุนนำ้ ถูกเรำฆ่ำตำยเสียแล้ว แต่เรำกลบั ไม่มปี ญั ญำสร้ำงเคร่ืองมือในกำรดูแลรกั ษำปำ่ ทีท่ รง
ประสิทธภิ ำพดงั คนโบรำณท่ำนได้สรำ้ งไว้

ศำสตรำจำรย์ นำยแพทย์ประเวศ วะสี อธบิ ำยถงึ นำมธรรมควำมคิดท่ีเรยี กรวมๆ ว่ำผีสำงเทวดำไว้
ในบทควำมชอื่ สงั คมจิตวญิ ญำณเยียวยำสงิ่ แวดล้อม ในบวชปำ่ ต้นน้ำ โครงกำรบวชปำ่ ชมุ ชน 50 ล้ำนตน้ เพอื่
เฉลิมพระเกยี รติ เน่อื งในวโรกำสพระบำทสมเด็จพระเจ้ำอยู่หวั ทรงครองรำชยค์ รบ 50 ปี วำ่ ดังนี้

จิตวิญญำณ (Spirituality) มีแต่ในควำมเป็นมนุษยเ์ ท่ำนนั สัตวไ์ มม่ ีสัตวม์ ีจติ ใจ เช่นรสู้ กึ ทกุ ข์ สุข ไม่
ชอบ แตไ่ มม่ ีจิตวิญญำณ... มนุษยต์ ำ่ งจำกสัตว์ทมี่ ติ ิทำงคุณคำ่ เช่นบำปบุญ สมองของมนษุ ยเ์ ป็นโครงสร้ำงท่ี
วจิ ิตรพิสดำรทส่ี ุดในจกั รวำล ท้ำให้เกิดนำมธรรมอันสูงส่งทพี่ ้นวตั ถธุ รรมคุณค่ำหรือนำมธรรมอันสูงส่งนี
แหละคอื มติ ทิ ำงจิตวิญญำณ... คนโบรำณอย่กู บั ธรรมชำติ มีสมั ผสั ลกึ ซงึ กบั ธรรมชำติถึงมติ ิจิตวิญญำณ จงึ
กลำ่ วขำนถงึ แม่ธรณี แมค่ งคำ รุกขเทวดำ หรือเทวดำท่สี งิ สถิตอยู่ในต้นไม้ ค้ำเหลำ่ นีเป็นค้ำท่สี ่อื คณุ ค่ำทำง
จติ วิญญำณ ทำ้ ให้เกดิ ควำมเคำรพเม่ือเคำรพกไ็ มท่ ำ้ ลำย

เมอ่ื เอำวิทยำศำสตรไ์ ปวิเครำะห์ตน้ ไม้พบแค่คำร์บอน ไฮโดรเจน ออกซเิ จน ฯลฯ ไมพ่ บจิตวิญญำณ
จึงสรุปวำ่ ไมม่ ีจิตวิญญำณ เหลือแต่วัตถุล้วนๆ เม่ือขำดคุณคำ่ กท็ ้ำให้เกิดกำรท้ำลำยไดง้ ำ่ ยๆ

เม่อื มนษุ ย์ถูกทอนคณุ คำ่ ทำงจติ วิญญำณเหลอื แต่วัตถุ ควำมรู้สึกก็ต้่ำลง... ควำมขำดไปของมติ ทิ ำง
วญิ ญำณจงึ ทอนควำมเป็นมนุษย์ลง เมอื่ ควำมเปน็ มนษุ ยน์ ้อยลง มนุษย์ก็วง่ิ เขำ้ สู่วกิ ฤตกำรณใ์ นทกุ ๆ ทำง ไม่
ว่ำจะเปน็ ในตวั มนษุ ย์เองในสังคมและสงิ่ แวดลอ้ มซ่งึ เช่อื โยงสมั พนั ธ์กัน

บรรณำนกุ รม
มำลำ คำจนั ทร.์ 2551. ผใี นลำ้ นนำ: “ผีขุนน้ำ” (180-184). สำนักพมิ พ์ แฮป้ ปบ้ี ุ๊ค. เชยี งใหม่.


Click to View FlipBook Version