The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

การสรุปเนื้อหาของปิโตรเลียมและผลิตตภัณฑ์

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ชุติเดช นากองแก้ว, 2022-12-22 10:47:28

ปิโตรเลียมและผลิตตภัณฑ์

การสรุปเนื้อหาของปิโตรเลียมและผลิตตภัณฑ์

เแรื่ลอะงผปลิิโตตตรภเัลณียฑม์

ปิโตรเลียม หมายถึง สารประกอบ
ไฮโดรคาร์บอนที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ

โดยมีธาตุเป็นองค์ประกอบหลัก คือ
คาร์บอน และไฮโดรเจน โดยอาจมีธาตุอื่น
เช่น กํามะถัน ออกซิเจน ไนโตรเจน ปนอยู่

ด้วย ปิโตรเลียมเป็นได้ทั้งของแข็ง
ของเหลว หรือก๊าซ ขึ้นอยู่กับองค์ประกอบ
ของปิโตรเลียมเอง พลังงานความร้อน และ

ความกดดันตามสภาพแวดล้อมที่
ปิโตรเลียมสะสมตัวอยู่

ปิโตรเลียมแบ่งตามสถานะในธรรมชาติได้
2 ชนิด

น้ำมันดิบ (Crude Oil)
ก๊าซธรรมชาติ (Natural Gas)
น้ำมันดิบ (Crude Oil) มีสถานะตาม
ธรรมชาติเป็นของเหลว ประกอบด้วย
สารประกอบไฮโดรคาร์บอนชนิดระเหยง่าย
เป็นส่วนใหญ่ แบ่งเป็น 3 ชนิด ตาม
คุณสมบัติ และชนิดของไฮโดรคาร์บอนที่

ประกอบอยู่ คือ
1. น้ำมันดิบฐานพาราฟิน
2. น้ำมันดิบฐานแนฟทีน
3. น้ำมันดิบฐานผสม น้ำมันดิบทั้ง 3 ชนิด

เมื่อนํามากลั่นแล้ว จะให้ผลิตภัณฑ์
ปิโตรเลียมในสัดส่วนที่แตกต่างกัน ก๊าซ
ธรรมชาติ เป็นปิโตรเลียมที่อยู่ในสถานะ

ก๊าซที่สภาพแวดล้อมบรรยากาศ

ชนิดของปิโตรเลียม
น้ำมันดิบ
น้ำมันดิบประกอบด้วยสารไฮโดรคาร์บอน
ชนิดระเหยง่ายเป็นส่วนใหญ่ แบ่งออกได้
เป็น 3 ชนิด ตามคุณสมบัติและชนิดของ

ไฮโดรคาร์บอน
ที่ประกอบอยู่ คือน้ำมันดิบชนิดที่ไม่มีไข

มาก (paraffin base)
น้ำมันดิบชนิดที่มียางมะตอยมาก
(asphalt/naphthenic base)

น้ำมันดิบชนิดผสม (mixed base) เป็น
น้ำมันดิบพื้นฐานชนิดผสมกันระหว่าง
ชนิดมีไขมากและชนิดที่มียางมะตอย
มาก น้ำมันดิบโดยทั่วไปจะมีสีดำหรือสี
น้ำตาล มีกลิ่นคล้ายน้ำมันเชื้อเพลิง

สำเร็จรูป
เมื่อน้ำมันดิบรวมอยู่กับน้ำ น้ำมันดิบจะ

ลอยอยู่เหนือน้ำ

ภายหลังจากผ่านกระบวนการกลั่นน้ำมัน
แล้วจะได้ผลิตภัณฑ์น้ำมันต่างๆ ซึ่งสามารถ

นำไปใช้ประโยชน์ เป็นเชื้อเพลิงสำหรับ
เครื่องยนต์ รถยนต์ รวมทั้งเตาเผา และเตา
อบต่างๆ นอกจากนี้ยังสามารถใช้ประโยชน์
เป็นเชื้อเพลิงเครื่องบินใบพัดและน้ำมันเชื้อ
เพลิงเครื่องบินไอพ่น เป็นน้ำมันก๊าด เป็น
ส่วนผสมของยาฆ่าแมลง สีทาบ้าน น้ำมัน
ชักเงา น้ำยาทำความสะอาด เป็นเชื้อเพลิง
บ่มยาสูบ อบพืชผลและใช้ในอุตสาหกรรมเซ

รามิก

เราทุกคนรู้ว่าน้ำมันที่ขุดเจาะมาจาก
ธรรมชาตินั้นเรียกว่าน้ำมันดิบ (Crude Oil)

โดยน้ำมันดิบนั้นมีส่วนประกอบหลักคือ
สารประกอบไฮโดรคาร์บอนและสารประกอบ
อินทรีย์อื่น ๆที่เป็นของเหลว ในสมัยโบราณ
เรานำน้ำมันดิบมาจุดไฟเป็นเชื้อเพลิง, นำมา

ใช้ทาตัวรักษาโรคผิวหนัง, นำมาใช้ในการ
เชื่อมประสานอิฐในการก่อสร้างรวมไปถึงนำ
ไปใช้ในการดองศพเลยก็มีมาแล้วในอียิปต์

โบราณ แต่ในปัจจุบันความรู้เทคโนโลยีที่
ก้าวหน้าขึ้นทำให้เรารู้ว่าหากเรานำน้ำมันดิบ

นั้นมาผ่านกระบวนการกลั่น (Refining)
เสียก่อน เราถึงจะได้ผลผลิตมาเป็นน้ำมัน
ชนิดต่าง ๆ รวมไปถึงก๊าซหรือสารประกอบ
อื่นอีกมากมายทำให้เรานำผลผลิตนั้นไป
ใช้ได้เจาะจงมีประสิทธิภาพมากขึ้น แล้ว
การกลั่นจะแยกน้ำมันแต่ละชนิดออกจากกัน

ได้อย่างไร ในเมื่อมันถูกผสมเป็นเนื้อ
เดียวกันจนไม่น่าจะแยกออกแล้ว คำตอบ

คือ “การกลั่นลำดับส่วน” นั่นเอง

แก๊สธรรมชาติ

โดยทั่วไปสามารถแบ่งหลักๆ ได้ 2 ประเภท
ดังนี้

1. Dry gas หมายถึงแก๊สธรรมชาติที่ไม่มี
ส่วนผสมของแก๊สธรรมชาติเหลว

(condensate) มีแต่แก๊สมีเทนเกือบ
ร้อยเปอร์เซ็นต์ ทำให้มีราคาสูงกว่าแก๊ส

ธรรมชาติชนิดอื่นๆ
2. Wet gas หมายถึง แก๊สธรรมชาติที่มี

ส่วนประกอบหลักเป็นพวกแก๊ส
ธรรมชาติเหลว ได้แก่ โพรเพน บิวเทน

เพนเทน และเฮกเซน แก๊สเหล่านี้จะ
กลายเป็นของเหลวได้ง่ายที่อุณหภูมิต่ำ
และความดันสูง ทาให้เกิดปัญหาในการ

ขนส่งชนิดของก๊าซธรรมชาติ

ก๊าซมีเทนใช้ประโยชน์เป็นเชื้อเพลิงใน
อุตสาหกรรม เป็นวัตถุดิบสาหรับการผลิต
ปุ๋ย และอัดใส่ถังใช้เป็นเชื้อเพลิงรถโดยสาร
เอ็นจีวี ( Natural gas for vehicles -
NGV) อีเทน และโพรเพนใช้เป็นวัตถุดิบใน

โรงงานอุตสาหกรรมปิโตรเคมี
ก๊าซปิโตรเลียมเหลว (Liquefied
petroleum gas - LPG) ซึ่งประกอบด้วย
โพรเพนและบิวเทน ใช้เป็นเชื้อเพลิงหุงต้ม
เชื้อเพลิงสำหรับรถและอุตสาหกรรม
แก๊สโซลีนธรรมชาติ (Natural gas liquid
- NGL) ส่งเข้าโรงกลั่นเพื่อกลั่นเป็นน้ำมัน

เบนซินแก๊สธรรมชาติ

ผลิตภัณฑ์จาการกลั่นปิโตรเลียม
น้ำมันดิบหรือปิโตรเลียมส่วนมากมีสีดำ
หรือสีน้ำตาลมีสมบัติแตกต่างกันตามแหล่งที่
พบ บางแหล่งมีไขมัน บางแหล่งมียางมะตอย
มาก ส่วนใหญ่ประกอบด้วยคาร์บอนร้อยละ
85-90 ไฮโดรเจนร้อยละ 10-15 กำมะถัน
ร้อยละ 0.001-7 และออกซิเจนร้อยละ
0.001-5 นอกนั้นเป็นไนโตรเจนและโลหะ
อื่นๆ การนำน้ำมันดิบมาใช้ประโยชน์จะต้องนำ
น้ำมันดิบไปผ่านกระบวนการแยกสารอื่นๆ ที่
ปนอยู่ออกก่อน แล้วจึงนำส่วนที่เป็นสาร
ไฮโดรคาร์บอนไปกลั่นแยกออกเป็นผลิตภัณฑ์

ดังนี้

1. การกลั่นปิโตรเลียม
คือการแปรเปลี่ยนสภาพน้ำมันดิบ
โดยการย่อยสลายสารประกอบไฮโดรคาร์บอน
ที่เป็นส่วนประกอบของปิโตรเลียมออกเป็นก
ลุ่ม หรือออกเป็นส่วน ให้เป็นผลิตภัณฑ์
สำเร็จรูปชนิดต่างๆ ตามความต้องการของ
ตลาด กระบวนการกลั่น ที่ยุ่งยากและซับซ้อน
น้ำมันดิบในโรงกลั่นน้ำมันนั้น ไม่เพียงแต่จะ
ถูกแยกออกเป็นส่วนต่างๆ เท่านั้น แต่มลทิน
ชนิดต่างๆ เช่น กำมะถัน
ก็จะถูกกำจัดออกไปอีก โรงกลั่นน้ำมันอาจ
ผลิตน้ำมัน ก๊าซ และเคมีภัณฑ์ที่แตกต่างกัน
ออกมาได้มากมายถึง 80 ชนิด
กระบวนการกลั่นประกอบด้วย
1) การแยก หมายถึง การแยกส่วนประกอบ
ทางกายภาพของน้ำมันดิบด้วยวิธีการกลั่น
ลำดับส่วน น้ำมันดิบมากลั่นในหอกลั่น ซึ่ง
น้ำมันดิบจะถูกแยกออกเป็นน้ำมันสำเร็จรูป
ประเภทต่างๆ ตามช่วงจุดเดือดที่ต่างกัน

2) การเปลี่ยนโครงสร้างทางเคมี หมายถึง
การเปลี่ยนแปลงโมเลกุลเพื่อให้

คุณภาพของน้ำมันเหมาะสมกับความ
ต้องการในการใช้ประโยชน์

3) การปรับปรุงคุณภาพ ผลิตภัณฑ์ที่ได้
จากกรรมวิธีการกลั่นลำดับส่วนและการ
เปลี่ยนโครงสร้างทางเคมียังมีคุณภาพที่ไม่
เหมาะสมกับการใช้งาน ต้องมีการขจัดออก

หรือการเติมกลิ่น การเติมสีลงไป
4) การผสม หมายถึง การนำน้ำมันชนิด
ต่างๆ ที่ผ่านกรรมวิธีแล้วมาผสมตาม
สัดส่วนที่เหมาะสมเพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์
สำเร็จรูปตามมาตรฐานที่กำหนด เช่น การ
ผสมน้ำมันเบนซินให้ได้ค่าออกเทนตาม

มาตรฐาน

ผลิตภัณฑ์ที่ได้จาก

การกลั่นน้ำมันดิบ

1) ก๊าซปิโตรเลียมเหลว หรือเรียกว่า ก๊าซ
หุงต้ม ใช้เป็นเชื้อเพลิงได้ดี เวลาลุก

ไหม้ให้ความร้อนสูงและมีเปลวสะอาดไม่มีสี
ไม่มีกลิ่น

2) เบนซิน น้ำมันเชื้อเพลิงเครื่องยนต์
เบนซิน หรือเรียกว่า น้ำมันเบนซิน ซึ่งมี
2 ชนิด ตามค่าออกเทน คือ น้ำมันเบนซิน
ธรรมดาออกเทน 91 น้ำมันเบนซินพิเศษ

ออกเทน 95
3) น้ำมันเชื้อเพลิงเครื่องบินใบพัด หรือ
น้ำมันเบนซินอากาศยาน มีการปรุงแต่ง
คุณภาพให้มีค่าออกเทนสูงขึ้นเพื่อให้ได้

กำลังขับดันมาก
4) น้ำมันเชื้อเพลิงเครื่องบินไอพ่น

5) น้ำมันก๊าด

6) น้ำมันดีเซล แบ่งได้ 2 ชนิด คือ น้ำมัน
ดีเซลหมุนเร็วใช้กับรถปิคอัพ

รถบรรทุก รถโดยสาร น้ำมันดีเซลหมุนช้า
ใช้กับเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ ได้แก่ เรือ
ประมง เรือเดินสมุทร

7) น้ำมันหล่อลื่น เช่น น้ำมันเครื่อง น้ำมัน
เกียร์

8) น้ำมันเตา ใช้กับเตาต้มน้ำหม้อน้ำใน
โรงงานอุตสาหกรรม

9) ยางมะตอย ต้องมีคุณสมบัติคือ มี
ความเฉื่อยต่อสารเคมีและไอควัน มีความ

ผลกระทบจากการใช้
ปิโตรเลียม

แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์เป็นสาเหตุที่ทำให้
เกิดภาวะโลกร้อน และแก๊ส

คาร์บอนมอนอกไซด์เป็นอันตรายต่อระบบ
หายใจ หากได้รับในปริมาณมากอาจเสีย

ชีวิต เพราะแก๊สคาร์บอนมอนอกไซด์ ไปจับ
กับฮีโมโกลบินอย่างเหนียวแน่นแทนที่

ออกซิเจน ส่งผลให้ร่างกายขาดออกซิเจน
จนเสียชีวิตได้

ผลิตภัณฑ์จากน้ำมันดิบ และแก๊สธรรมชาติ
บางชนิดเป็นตัวทำละลาย มีสมบัติละลาย
สารอื่นได้ดี ระเหยง่าย ติดไฟง่าย เช่น ทิน
เนอร์ น้ำมันเบนซีน โทลูอีน เป็นต้น

ตัวทำละลายที่ใช้กันทั่วไปในชีวิตประจำวัน
ได้แก่ ทินเนอร์ผสมสีทาบ้าน น้ำยาทำความ
สะอาดชิ้นงานและเครื่องจักร น้ำยาย้อมผม
น้ำยาลบคำผิด สารเหล่านี้เข้าสู่ร่างกายได้ 3
ทาง คือ ทางการหายใจ การรับประทาน และ

การสัมผัส โดยจะก่อให้เกิดอันตรายได้
แนวทางการป้องกันสำหรับผู้ที่เกี่ยวข้องกับ

ตัวทำละลายคือ ศึกษาความเป็นอันตราย
ของสารตามเอกสารที่มากับผลิตภัณฑ์ ใช้
สารตามคำแนะนำ ใส่อุปกรณ์ป้องกันไม่ให้
ตัวทำละลายเข้าสู่ร่างกาย ใช้สารในที่ที่มี
อากาศถ่ายเทได้ดี ทำความสะอาดมือและ
ร่างกายหลังจากการสัมผัสตัวทำละลาย และ
ควรหลีกเลี่ยงการสูดดมกลิ่นไอของสาร

เหล่านี้

สถานการณ์การใช้ปิโต

เลียม

ก๊าซปิโตรเลียมเหลว (Liquefied
Petroleum Gas: LPG) หรือที่เรียก
กันว่า ก๊าซหุงต้ม เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้
จากกระบวนการแยกก๊าซธรรมชาติ

น้ำมันเบนซิน (Gasoline) น้ำมัน
เบนซินเป็นเชื้อเพลิงที่ใช้กับเครื่องยนต์

จำแนกประเภทตามค่าออกเทนได้ 2
ชนิด คือน้ำมันเบนซินออกเทน 91 และ

น้ำมันเบนซินออกเทน 95
น้ำมันเชื้อเพลิงเครื่องบินใบพัด
(Aviation Gasoline: AV Gas) หรือ
น้ำมันเบนซินอากาศยาน อยู่ในกลุ่ม
เดียวกับน้ำมันเบนซินรถยนต์

น้ำมันก๊าด (Kerosene) ใช้เป็นเชื้อ
เพลิงสำหรับให้พลังงานความร้อนและ
แสงสว่าง เชื้อเพลิงในการเผาเครื่อง

เคลือบดินเผา
น้ำมันเชื้อเพลิงเครื่องบิน (JET A-1)

ใช้เป็นเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องบิน
น้ำมันดีเซล (Diesel oil) เป็นเชื้อเพลิง
ที่ใช้กับเครื่องยนต์ดีเซล รถบรรทุก เรือ

เดินสมุทร เครื่องกำเนิดไฟฟ้า รถ
แทรกเตอร์ หัวจักรรถไฟ รถโดยสาร

และเรือประมง

ขั้นตอนการผลิตน้ำมัน
แก๊สโซฮอล์

ตัวอย่างขั้นการผลิตไบ
โอดีเซล

วัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตไบโอดีเซลในประเทศ
ได้แก่ น้ำมันปาล์ม น้ำมันมะพร้าว

น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันเมล็ดดอกทานตะวัน
น้ำมันเมล็ดสบู่ดำ

ค่าพลังงานต่อหน่วของ
เชื้อเพลิงชนิดต่างๆ

สมาชิคในกลุ่ม

นาย ชุติเดช นากองแก้ว
ที่005

นางสาว ปนัดดา มาทิพย์
เลขที่015

นาย ศุภเกียรติ อิ่นแก้ว
เลขที่025


Click to View FlipBook Version