The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

โครงการส่งเสริมการยศาสตร์ แยก

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by PH 32พรลภัส ผ่องสีงาม, 2024-04-21 23:57:42

โครงการส่งเสริมการยศาสตร์ แยก

โครงการส่งเสริมการยศาสตร์ แยก

โครงการส่งเสริมการทำงานของผู้ปฏิบัติงานด้านการยศาสตร์ โรงพยาบาลแก่งหาวแมว อำเภอแก่งหางแมว จังหวัดจันทบุรี ปีงบประมาณ..... หลักการและเหตุผล ปัญหาทางด้านการยศาสตร์ โรคและการบาดเจ็บจากการทำงาน ที่เกี่ยวข้องกับกล้ามเนื้อและกระดูก เป็นปัญหาสุขภาพที่สำคัญของแรงงานซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ข้อมูลการสำรวจแรงงาน ปีพ.ศ. 2561 ของสำนัก โรคจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อม พบการบาดเจ็บโครงร่างกล้ามเนื้อที่เกี่ยวเนื่องกับการทำงาน เป็นการเจ็บป่วยอันดับหนึ่ง มีจำนวน 114,578 ราย คิดเป็นอัตราป่วยต่อแสนประชากรเท่ากับ 189.37 (กรม ควบคุมโรค,2561) และในปี 2560 กระทรวงสาธารณสุขได้ระบุให้โรคระบบกล้ามเนื้อและโครงสร้างกระดูก เป็นปัญหาที่สำคัญ ซึ่งสามารถเกิดได้ในอาชีพที่ต้องมีการใช้แรงในการทำงาน โดยมีปัจจัยสำคัญที่เกี่ยวข้อง คือ ปัจจัยด้านการยศาสตร์ ได้แก่ การยกของหนักหรือออกแรงเกินกำลัง การยืนหรือการนั่งเป็นเวลานานๆ ท่าทาง การทำงานที่ซ้ำๆ ซึ่งหากปล่อยเป็นระยะเวลานานทำให้เพิ่มโอกาสการบาดเจ็บและทำให้เกิดความไม่สุขสบาย ความสามารถในการทำงานลดลง ซึ่งในการควบคุมและลดความเสี่ยงสามารถทำได้โดยการใช้หลักการ ปรับเปลี่ยนท่าทางการยศาสตร์ จากการลงสำรวจและสอบถามตามแผนกงานของโรงพยาบาลแก่งหางแมว ตำบลแก่งหางแมว อำเภอ แก่งหางแมว จังหวัดจันทบุรีโดยใช้แบบประเมินความเสี่ยงทางสุขภาพและสภาพแวดล้อมในการทำงานใน โรงพยาบาล (RAH 01) พบว่า ข้อสรุปจากการประเมินความเสี่ยงทางสุขภาพของบุคลากรภายในโรงพยาบาล แก่งหางแมว ในทุกแผนกมีความเสี่ยงทางสุขภาพจากสิ่งคุกคามทางการยศาสตร์ และยังสังเกตการณ์ได้ว่า ผู้ปฏิบัติงานมีท่าทางและอริยบถไม่ถูกต้อง เช่น การยืน การนั่ง มีการใช้ท่าทางที่ผิดปกติของกล้ามเนื้อ เช่น การออกแรงยกวัตถุหรือสิ่งของที่มีน้ำหนักมากในขณะปฏิบัติงาน ออกแรงยกของด้วยท่าทางที่บิดเบี้ยว การ ทำงานรูปแบบซ้ำ ๆ อาจทำให้กล้ามเนื้อหลังอยู่ในภาวะที่ไม่สมดุล ซึ่งพบได้กับคนทุกวัย ส่งผลให้เป็นสาเหตุ ของอาการปวดหลังบ่อยๆ ได้แก่ ท่ายืน ท่านั่ง ท่าก้มตัว และท่าก้มตัวยกของหนัก เนื่องจากจะทำให้มีแรงกด ต่อกระดูกสันหลังสูงมาก จนทำให้เอ็นและกล้ามเนื้อบริเวณหลังตึง นอกจากนั้น ในกรณีที่ต้องออกแรงมากอาจ ทำให้มีโอกาสเกิดอันตรายต่อหมอนรองกระดูกและเกิดการอักเสบของกล้ามเนื้อและเอ็นได้ ดังนั้น ทางคณะนักศึกษาหลักสูตรสาธารณสุขศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาสาธารณสุขชุมชน ชั้นปีที่ 3 วิทยาลัยการสาธารณสุขสิรินธร จังหวัดชลบุรีจึงตระหนักเห็นถึงปัญหาและความสำคัญของสิ่งคุกคามที่มีความ เสี่ยงสูง คือ สิ่งคุกคามทางด้านการยศาสตร์ สาเหตุสำคัญเกิดจากท่าทางในการทำงานที่เกิดขึ้นกับบุคลากร ส่วนใหญ่มีท่าทางที่ไม่เหมาะสม ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดโรคทางระบบกระดูกและกล้ามเนื้อ ได้แก่การออกแรงยก วัตถุหรือสิ่งของที่มีน้ำหนักมากในขณะปฏิบัติงาน ทำให้มีความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บทางระบบกระดูกและ กล้ามเนื้อ การทำงานรูปแบบซ้ำ ๆ มีแนวโน้มทำให้เกิดการบาดเจ็บสะสมได้ เช่น การทำงานที่มีการเคลื่อนไหว ซ้ำ ๆ โดยไม่มีการปรับเปลี่ยนอิริยาบถ ทำให้เกิดอาการล้าของกล้ามเนื้อและเสี่ยงต่อการบาดเจ็บทางกระดูก และกล้ามเนื้อได้ และการออกแรงยกของด้วยท่าทางที่บิดเบี้ยว ดังนั้น บุคลากรจึงควรตระหนักในเรื่องท่าทาง ที่เหมาะสมในการทำงานที่ถูกต้อง ถูกวิธี นักศึกษาฝึกประสบการณ์จึงได้จัดโครงการส่งเสริมการทำงานของ ผู้ปฏิบัติงานด้านการยศาสตร์ โรงพยาบาลแก่งหางแมว อำเภอแก่งหางแมว ตำบลแก่งหางแมว จังหวัดจันทบุรี


ปีงบประมาณ....... เพื่อให้บุคลากรตระหนักรู้ถึงปัจจัยเสี่ยงจากการทำงานและมีการบริหารร่างกายได้อย่างมี ประสิทธิภาพและสามารถปฏิบัติได้จริง วัตถุประสงค์ 1. เพื่อให้บุคลากรมีความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการยศาสตร์ และการทำงานได้อย่างถูกวิธี 2. เพื่อส่งเสริมให้ผู้เข้าอบรมมีทักษะการบริหารร่างกายอย่างถูกต้องถูกวิธี ตัวชี้วัดความสำเร็จ 1. ร้อยละ 80บุคลากรที่เข้าร่วมอบรมมีความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการยศาสตร์และการทำงานได้อย่าง ถูกวิธี 2. ร้อยละ 80 บุคลากรที่เข้าร่วมอบรมมีทักษะการบริหารร่างกายอย่างถูกวิธี 3. ร้อยละ 80 ของกลุ่มเป้าหมายมีความพึงพอใจต่อโครงการ กลุ่มเป้าหมาย บุคลากรภายในโรงพยาบาลแก่งหางแมวจำนวน.....คน วิธีดำเนินการ 1.ขั้นเตรียมการ 1.1 ศึกษาข้อมูลและสำรวจประเด็นปัญหาทางด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยใน โรงพยาบาลแก่งหางแมว 1.2 ประชุมเพื่อวิเคราะห์ปัญหาและจัดลำดับความสำคัญของปัญหาทางด้านอาชีวอนามัย และความปลอดภัยในโรงพยาบาลแก่งหางแมว 1.3 จัดทำแผนการแก้ไขปัญหา ร่างโครงการเพื่อขออนุมัติ 2. ขั้นดำเนินงาน 2.1 กิจกรรมโครงการส่งเสริมการทำงานของผู้ปฏิบัติงานด้านการยศาสตร์โดยกล่าวแนะนำ ตัว ชี้แจงวัตถุประสงค์ และรายละเอียดของโครงการ 2.2 มอบโปสเตอร์ให้ความรู้กับบุคลากรในแต่ละแผนก 2.3 ติดตามประเมินผลการดำเนินโครงการ โดยประเมินจากแบบประเมินความรู้เรื่องการย ศาสตร์ 2.4 ประเมินผลและรายงานผลการดำเนินงานตามโครงการ 2.5 สรุปผลการดำเนินการ


ระยะเวลาดำเนินการ วันที่ 9 – 25 เมษายน พ.ศ.2567 กิจกรรม ระยะเวล9 10 11 17 11. ศึกษาข้อมูลและสำรวจประเด็นปัญหาทางด้านอาชีวอ นามัยและความปลอดภัยในโรงพยาบาลแก่งหางแมว 2. ประชุมเพื่อวิเคราะห์ปัญหาและจัดลำดับความสำคัญ ของปัญหาทางด้านอาชีวอนามัยและ ความปลอดภัยใน โรงพยาบาลแก่งหางแมว 3. จัดทำแผนการแก้ไขปัญหา ร่างโครงการเพื่อขออนุมัติ 4. กิจกรรมให้ความรู้ส่งเสริมการทำงานของผู้ปฏิบัติงาน ด้านการยศาสตร์ 5.ติดตามประเมินผลการดำเนินโครงการ โดยประเมิน จากแบบประเมินความรู้เรื่องการยศาสตร์ 6. ประเมินผลการดำเนินงานโครงการ 7. สรุปผลโครงการ


ลาในการดำเนินโครงการ ปีงบประมาณ 2566 หมายเหตุ เดือนเมษายน 18 19 22 23 24 25


ทรัพยากรและงบประมาณ งบประมาณที่ใช้ในการดำเนินการ รวมทั้งสิ้น ....... บาท ค่าโปสเตอร์ให้ความรู้ จำนวน.....แผ่น ราคา ..... บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น ...... บาท การประเมินผล 1. ประเมินผลหลังดำเนินการ - บุคลากรที่เข้าร่วมโครงการสามารถทำแบบประเมินความรู้เรื่องการยศาสตร์ได้อย่างถูกต้อง ร้อยละ 80/90??????? - บุคลากรมีทักษะการบริหารร่างกายอย่างถูกต้องถูกวิธีและมีอิริยาบถท่าทางในการทำงานที่ เหมาะสม ร้อยละ 90 ผลที่คาดว่าจะได้รับ 1. ผู้เข้าร่วมโครงการรมีความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการยศาสตร์ เพื่อลดความเสี่ยงด้านสุขภาพร่างกาย 2. ผู้เข้าร่วมโครงการมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพในการบริหารร่างกายได้ถูกวิธี นำไปสู่พฤติ กรรมการบริหารร่างกายที่ถูกต้อง ถูกวิธี


Click to View FlipBook Version