The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by yaemput, 2022-02-21 03:58:51

โครงการแสงและเงา

4 เนื้อหา_merged

โครงการ เร่อื ง “แสงและเงา”
(Project Approach)

ชั้นอนบุ าลปที ่ี 2/4 ปีการศกึ ษา 2561

โรงเรยี นอนุบาลสระบุรี

โดย
นางพทุ ธชาด วงั บรรณ์

ครูประจำช้นั
สำนักงานเขตพื้นทกี่ ารศกึ ษาประถมศึกษาสระบรุ ี เขต 1
สำนกั งานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานกระทรวงศกึ ษาธกิ าร





คำนำ

รายงานการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนแบบโครงการ เร่อื ง แสงและเงา เปน็ โครงการเก่ียวกับ
กระบวนการเรยี นรู้ทางวทิ ยาศาสตร์ ทเ่ี ดก็ ไดเ้ ป็นผู้สนใจอยากเรียนรู้ ข้าพเจา้ จงึ ได้นำกระบวนการการเรยี นรู้
ใหเ้ ดก็ เปน็ ผูม้ สี ่วนร่วมในการจดั กิจกรรมโครงการ ทดลองสงั เกตและคน้ ควา้ ข้อมูลจากแหลง่ ความรูท้ ่ี
หลากหลาย โดยเด็กเป็นผลู้ งมอื ปฏิบตั ิด้วยตนเองทง้ั ในหอ้ งเรยี นและนอกห้องเรียน ครใู ช้เทคนิคในการจัด
กจิ กรรมรูปแบบตา่ งๆ ซึ่งเป็นการกระตุน้ และสง่ เสริมใหเ้ ด็กไดเ้ รยี นรดู้ ้วยตนเอง เด็กได้มโี อกาสทำกจิ กรรมเปน็
รายบคุ คล

จึงหวงั ว่าการจัดกิจกรรมการเรียนรแู้ บบโครงการ เรือ่ ง แสงและเงา จะเกิดประโยชน์และเป็นแนวทาง
ใหก้ ับผทู้ สี่ นใจนำไปปรบั ใชใ้ ห้เกดิ ประโยชน์ต่อไป

ผูจ้ ัดทำโครงการ

สารบัญ ข

รายการ หน้า

คำนำ ก
สารบัญ ข
ชอ่ื โครงการ 1
ผจู้ ัดทำโครงการ 1
ครูที่ปรกึ ษา 1
ระยะเวลา 1
ทมี่ าของโครงการ 1
คำถาม
ขน้ั ท่ี 1 ตง้ั คำถามทีอ่ ยากรู้ 1
ขัน้ ที่ 2 รวบรวมความคิดและคาดคะเน 4
ขั้นที่ 3 ดำเนินการสำรวจตรวจสอบ 5
ข้นั ที่ 4 สังเกตและการบรรยาย 7
ขั้นท่ี 5 บันทึกผล 9
ขั้นที่ 6 สรุปและอภปิ รายผล 10
เอกสารทเ่ี กยี่ วข้องกบั การดำเนนิ โครงการ 13

1

ช่ือโครงการ แสงและเงา

ผูจ้ ัดทำโครงการ นักเรียนชน้ั อนุบาลปที ่ี 2/4 โรงเรียนอนบุ าลสระบรุ ี

ครทู ป่ี รึกษา นางพุทธชาด วงั บรรณ์

ระยะเวลาในการจัดทำ 15 สงิ หาคม 2561 ถึง 5 ตุลาคม 2561

ทีม่ าของโครงการ (วนั ที่ 15 สงิ หาคม 2561)

ครูสนทนากับเด็กๆท่ีได้ทำการทดลอง เร่อื ง แสงและเงา เม่ือวันจนั ทร์ท่ผี า่ นมา เด็กๆบอกวา่ เมอ่ื เด็ก
ลงไปยนื อยู่ท่กี ลางสนามหญา้ ของโรงเรียน เด็กสงั เกตเหน็ บนพื้นของสนามท่ีเดก็ ยนื อยู่ ขณะท่ีมีแสงแดดส่องมา
เดก็ ๆมองเหน็ ภาพทีเ่ ปน็ รปู ร่างเหมือนตนเองปรากฏขึน้ อยู่บนพ้นื สนาม ซ่ึงเราเรยี กภาพท่ีเหน็ วา่ เงา และวนั นี้
ครไู ด้นำ ไฟฉาย ตุ๊กตา มาเป็นสถานการณ์ให้เดก็ ๆได้ดู เพ่ือกระตุ้นให้เด็กต้งั คำถามที่อยากรู้

ขน้ั ท่ี 1 ตั้งคำถามท่ีอยากรู้

ครู : จากการทดลองที่นักเรยี นทำเรอ่ื ง เงาตกุ๊ ตาจะทอดยาวเม่ือไร เมื่อวันจนั ทร์ท่ผี ่านมา ถ้าครเู อา
ไฟฉายส่องไปที่ตุ๊กตา นักเรยี นคดิ ว่าจะเกิดอะไรข้นึ ค่ะ

ปริม : จะเกิดเงาของตุก๊ ตาค่ะ
ครู : เดก็ คิดว่าเงาเกดิ จากอะไรค่ะ

อะตอม : เกิดจากแสงไฟฉายครบั

วิน : เวลาท่ีเราส่องแสงจากไฟฉายไปที่ตุ๊กตาครบั

ครู : แลว้ เดก็ ๆคดิ ว่า แสงคอื อะไร

สกาย : แสงคอื พระอาทติ ย์ครับ
ชวี า : แสงคือแสงท่ีออกมาจากไฟฉายค่ะ

ครจู งึ อธบิ ายเพิ่มเติม แสง เป็นคลืน่ แมเ่ หลก็ ไฟฟา้ และเดนิ ทางในลกั ษณะของคลน่ื แสงไม่ตอ้ งการท่ี
อยู่ ไม่มีน้ำหนัก แต่สามารถทำงานได้ เม่ือแสงเคลอื่ นท่ีผา่ นกลุ่มควนั หรือฝ่นุ ละออง จะเห็นเป็นลำแสงเส้นตรง

ครู : เดก็ ๆคิดว่า ต้นกำเนิดของแสง มาจากอะไรได้บ้างคะ

ออกัส : จากไฟฉายค่ะ

ภู : จากพระอาทติ ยค์ รบั

มนี : จากหลอดไปคะ่

แพรวา : จากแมงกะพรนุ ค่ะ

2

โอม : จากห่ิงหอ้ ยครับ
เด็กๆยกมอื ถามคำถามท่ีอยากรวู้ า่ (ครบู ันทึกคำถามท่เี ดก็ ถามลงบนกระดาษชาร์ทตามคำพูดของเดก็ )

แบม : หนูอยากรู้วา่ แสงเกดิ ขน้ึ ได้อยา่ งไรคะ่

เดก็ แสดงความคดิ เหน็ เพมิ่ เติมวา่

ชีวา : แสงเกดิ เองไดไ้ หมคะ
สกาย : ทำไมต้องมีแสงครบั
อะตอม : ถ้าไม่มแี สงจะเกิดอะไรขึ้นครบั
พอใจ : แสงมีประโยชนไ์ หมคะ
พรีม : แสงมันมาไดอ้ ยา่ งไรคะ

ครจู ึงพาเด็กๆสนทนาใหส้ รุปถึงคำถามทีเ่ ด็กอยากรู้ โดยใชช้ ารท์ ทค่ี รูจดไว้ประกอบการลงสรุป ซึ่งได้
ตั้งคำถาม ดังน้ี (ครบู ันทกึ ลงกระดาษชารท์ ตามคำพูดของเดก็ )

คำถามที่ 1 แสงเกดิ ขึ้นจากอะไร (อะตอม)
คำถามท่ี 2 ทำไมต้องมีแสง (มีน)
คำถามที่ 3 ถา้ ไม่มีแสงจะเป็นอย่างไร (ปริม)
คำถามที่ 4 แสงมีประโยชนไ์ หม (ออกัส)
คำถามที่ 5 แสงมันร้อนได้อยา่ งไร (วิน)

คำถามทเี่ ด็กอยากรู้ ครูบนั ทกึ คำถามของเด็กลงบนกระดาษชารท์

จากคำถามท่ีเด็กสนใจ 5 คำถาม ครูและเด็กสนทนาร่วมกัน เพื่อให้เด็กเลอื กคำถามที่จะนำมาสำรวจ
ตรวจสอบ จำนวน 2 คำถาม โดยการใหเ้ หตุผลในการเลือกของแตล่ ะคำถาม ซึ่งเดก็ ๆบอกวา่ เลอื กคำถามที่ 1
และคำถามท่ี 4 เพราะวา่ คำถามที่ 1 เด็กอยากรู้วา่ แสงเกดิ ขึน้ ได้อยา่ งไร เด็กจึงอยากสำรวจ และคำถามท่ี 4

3

เดก็ อยากรู้วา่ แสงมปี ระโยชนไ์ หม เดก็ อยากทำการทอลอง ครูจึงพาเด็กสนทนาและถามคำถามกระตุ้นเพ่ือ
เลือกคำถามทเ่ี ด็กตอ้ งการคำตอบมากท่สี ดุ คือ

1. แสงเกิดขน้ึ จากอะไร
2. แสงมีประโยชนไ์ หม

โดยจะทำการสำรวจตรวจสอบคำถามที่ 1 “แสงเกิดข้นึ จากอะไร” และคำถามท่ี 4 “แสงมีประโยชน์
ไหม”

คำถามทเี่ ดก็ อยากรู้ เดก็ เลอื กคำถามทน่ี ำมาสำรวจตรวจสอบ

4

คำถาม
แสงและแหล่งกำเนิดของแสง

จุดประสงค์

เพื่อศึกษาว่าแสงเกดิ ข้ึนได้อย่างไร

ขัน้ ท่ี 2 รวบรวมความคิดและคาดคะเนคำตอบ

เดก็ และครูสนทนาร่มกนั โดยครใู ชค้ ำถามกระตุ้นเพื่อให้ทราบถึงประสบการณเ์ ดิมของเดก็ เกย่ี วกับแสง
สี และการมองเหน็ ดงั นี้

ครู : จากการทดลอง เรือ่ งเงาตุ๊กตาจะทอดยาวเมอื่ ไร ถ้าไม่มีแสงเด็กๆคดิ วา่ จะเปน็ อยา่ งไร
พอใจ : ก็จะไมม่ เี งาเกิดขึ้นคะ่
ปันปัน : หอ้ งจะมืดคะ่
นที : มองไมเ่ หน็ ส่ิงของท่ีอยใู่ นห้องครบั
ครู : เราจะมีวิธใี ดบา้ งทจ่ี ะทำใหเ้ กิดเงาของตุก๊ ตาได้คะ
โปรเจค : ใชไ้ ฟฉายสอ่ งทีต่ ุ๊กตาครบั
แหนม : จดุ เทยี นแลว้ สอ่ งไปทีต่ กุ๊ ตาคะ่
คูเปอร์ : .ใช้หลอดไฟแทนครับ
เนเน่ : แสงจากพระอาทิตยค์ ่ะ
ก่อนคาดคะเนคำตอบ ครูใช้คำถามกระตุ้นให้เด็กๆคาดคะเน โดยถามว่า “เด็กๆขึ้นว่าแสงเกิดข้ึนได้
อย่างไร เพราะเหตุใด” เด็กๆในห้องคาดคะเนคำตอบว่า แสงเกิดจาก พระอาทิตย์ ไอแพด โทรศัพท์ ดอกไม้
ไฟฉาย โทรทศั น์ เตาแกส๊ เทยี น หิง่ ห้อย แมงกะพรนุ โคมไฟ

ครูเขยี นบันทึกตามการคาดคะเนคำตอบของเด็ก

5

ขน้ั ที่ 3 ดำเนินการสำรวจตรวจสอบ

ครูสนทนากบั เด็กๆ โดยใช้คำถามวา่ “เด็กๆคิดว่าจะหาคำตอบโดยวิธใี ดที่จะทำให้ทราบว่า แสงเกิดข้ึน
จากอะไร” โดยครูให้เดก็ ๆแสดงความคดิ เหน็ ร่วมกนั

ครูและเด็กสนทนาร่วมกัน และเด็กๆตกลงร่วมกันว่าจะใช้วิธกี ารสำรวจและสืบค้นในการหาคำตอบ
เพราะว่าจะได้ค้นชนควา้ ดว้ ยตนเองและจะไดร้ ูค้ ำตอบ เด็กๆก็อยากทำการสำรวจและสบื คน้ ด้วยตนเอง ครู
สนทนากับเดก็ โดยใชค้ ำถามว่า “เดก็ ๆคดิ วา่ เราจะสามารถหาข้อมลู วา่ แสงเกดิ ขน้ึ ได้อยา่ งไรไดจ้ ากท่ีไหนบา้ ง
คะ่ ”

เดก็ ๆตอบ : สอบถาม พ่อแม่ ผ้ปู กครอง,จากอินเทอรเ์ น็ต,หนงั สอื

ครู : ดีมากค่ะ เดก็ ๆเก่งมากค่ะ ใครมีอะไรถามเพมิ่ เติมอีกไหมคะ่

เดก็ ๆตอบ : ไม่มีครับ ไม่มีค่ะ

ครจู งึ ใหเ้ ดก็ ๆรว่ มกนั สรุปขัน้ ตอนของการสำรวจและสืบคน้ ข้อมลู จากแหลง่ ขอ้ มูลท่ีเด็กๆบอกไว้ดงั นี้

1. สำรวจและสบื คน้ ข้อมลู จากการถามพ่อแม่ ผ้ปู กครอง

2. สำรวจและสบื คน้ ข้อมูลจากอนิ เทอรเ์ นต็

3. สำรวจและสืบค้นข้อมูลจากหนงั สือ

ครอู ธบิ ายเพิ่มเติม โดยเมอื่ เด็กไปสำรวจและสืบคน้ ขอ้ มลู จากแหลง่ ข้อมลู ต่างๆแลว้ ให้เดก็ บนั ทกึ ผล
การสำรวจและสืบค้นข้อมลู จากแหลง่ ข้อมูลเป็นรายบุคคลลงในกระดาษ

เม่ือเดก็ ๆแต่ละคนได้ข้อมลู จากการสำรวจและสืบค้นแลว้ เดก็ ๆนำมาบนั ทึกผลการสำรวจและสบื คน้ ใน
ชารท์

ครจู ึงชวนเดก็ ๆสนทนาต่อถึง วธิ กี ารบนั ทกึ ผลการสำรวจและสบื ค้น และใหเ้ ดก็ ๆออกมาวาดรปู ลงบน
กระดาษชารท์ ให้เพือ่ นดหู น้าชน้ั เรยี น

ครู : จากข้อมูลทเี่ ด็กๆสำรวจและสบื ค้นมาน้นั เด็กๆจะนำมาบักทึกผลการสำรวจและสืบค้นในกุ่มดว้ ย
รูปแบบใดได้บ้างคะ

เดก็ ๆ : วาดรูปลงในกระดาษครบั
เด็กๆคนอื่น : ทำเป็นตารางค่ะ
ดังนั้น ครจู ึงให้เดก็ ออกมาวาดรูปการบันทึกผลการสำรวจบนกระดาษชาร์ทให้เพ่ือนๆในห้องดหู น้าชัน้
เรยี น

6

ครถู ามต่อวา่ : ใครมีคำถามเพิ่มเตมิ อกี ไหมคะ
เด็กๆตอบ : ไม่มีครบั ไมม่ คี ่ะ
ครูจึงใหเ้ ด็กๆแตล่ ะคนกลับไปสำรวจแหล่งข้อมลู ท่เี ดก็ ๆไดน้ ำเสนอ และนำข้อมลู ที่ไดม้ าบนั ทึกผลการ
สำรวจร่วมกนั ในสปั ดาหต์ ่อไป

ข้ันตอนการสำรวจจากทเ่ี ด็กแสดงความคดิ เหน็ ร่วมกนั
ขัน้ ที่ 4 สังเกตและการบรรยาย

จากการท่ีเด็กกลบั ไปสำรวจและสบื ค้นข้อมูลจากการแหล่งคน้ คว้าต่างๆ ครถู ามเด็กว่า “แตล่ ะคน
สำรวจและสบื คน้ วา่ แสงเกดิ ขึ้นไดอ้ ย่างไร” ครูให้เดก็ แตล่ ะคนออกมานำเสนอผลการสำรวจและสบื ค้นให้
เพอื่ นๆฟงั

ครสู รุปผลการสำรวจและสืบคน้ ข้อมลู ทีเ่ ด็กแต่ละคนไดไ้ ปสำรวจและสืบคน้ ว่าแสงเกดิ ขึน้ ได้อยา่ งไร
จากดวงอาทติ ย์ ดาว โคมไฟ ฟ้าผา่ พระจนั ทร์ หลอดไฟ กองไฟ เทียน ไฟฉาย โทรทศั น์ โทรศพั ท์
คอมพวิ เตอร์ เตาแก๊ส แมงกะพรุน

ครใู หเ้ ดก็ รว่ มกนั บันทึกผลการสำรวจและสืบค้นลงในชาร์ท เดก็ ออกมานำเสนอผลการสำรวจและ
สืบค้นแสงเกิดขึ้นได้อย่างไร พร้อมกระดาษชารท์ หน้าชนั้ เรยี น

เดก็ ๆนำเสนอผลการสำรวจและสืบคน้

7

ครู : จากข้อมูลทเี่ ด็กๆไปสำรวจและสบื คน้ มาแล้วนน้ั เด็กๆสามารถแบ่งกลุ่มแสงทเ่ี กิดข้นึ ได้หรือไมค่ ะ
เด็ก : ได้ครับ/ค่ะ
ครู : เดก็ ๆมีวธิ ีแบง่ กลุ่มอย่างไรคะ
เด็ก : แบ่งจาก แสงท่ีมนุษยส์ รา้ งขึน้ และแสงจากธรรมชาติ ครับ/ค่ะ
ครู : เด็กๆมคี วามคิดเหน็ อกี ไหมค่ะ
เด็ก : ไม่มคี รบั /ค่ะ
ครจู ึงใหเ้ ดก็ ๆรว่ มกนั ออกแบบการบันทึกผลการแบ่งกลมุ่ ของแสงที่เกดิ ขึ้น ท่ีเดก็ ไดส้ ำรวจและสบื ค้น
ขอ้ มูลมา
ครจู งึ ชวนเดก็ ๆสนทนาตอ่ ถึง วิธกี ารบันทกึ ผลการสำรวจและสบื คน้ และใหเ้ ดก็ ๆออกมาวาดรปู ลงบน
กระดาษชารท์ ให้เพื่อนดูหนา้ ช้ันเรียน
ครู : จากข้อมูลทเ่ี ด็กๆสำรวจและสืบคน้ มานน้ั เด็กๆจะนำมาบักทึกผลการสำรวจและสืบคน้ ในก่มุ ดว้ ย
รปู แบบใดได้บา้ งค่ะ
เด็กๆ : วาดรปู ลงในกระดาษครบั
เดก็ ๆคนอน่ื : ทำเปน็ ตารางค่ะ
ครูจึงใหเ้ ด็กออกมาวาดรปู การบนั ทึกผลการแบง่ กลุ่มของแสงทีเ่ กิดขน้ึ บนกระดาษชาร์ทให้เพ่ือนๆใน
ห้องดู
ครู : ใครมอี ะไรเพมิ่ เตมิ อีกไหมคะ
เดก็ : ไมม่ คี รับ/ค่ะ

ครบู นั ทึกการแบ่งกลุ่มของแสง

8

ขั้นท่ี 5 บนั ทึกผล

จากการทีเ่ ดก็ แตล่ ะคนรว่ มกันบนั ทกึ ผลการสำรวจและสบื คน้ ลงในกระดาษชาร์ท ครใู หเ้ ดก็ แตล่ ะคน
รว่ มกนั บันทกึ ผลการแบง่ กลุ่มของแสงท่เี กดิ ขน้ึ ลงบนกระดาษชาร์ท และเด็กแตล่ ะคนออกมานำเสนอผลงาน
หนา้ ชั้นเรยี น

1. ครแู จกอุปกรณ์การบันทึกผลการแบ่งกลุ่มของแสงที่เกิดขึ้น ประกอบด้วย กระดาษชารท์ และสี
เทียน ครูทบทวนวธิ ีการบนั ทึกผลการทดลองรว่ มกบั เด็กๆอีกคร้ัง โดยใช้กระดาษชาร์ท ท่เี ดก็ ๆร่วมกนั นำมา
ทบทวน

2. เดก็ บนั ทกึ ผลการแบง่ กลมุ่ ของแสงท่ีเกิดข้ึน

3. ครูให้เดก็ นำเสนอผลงานหน้าชัน้ เรยี น และนำแบบบันทึกผลการแบ่งกลมุ่ ของแสงทีเ่ กิดข้นึ ไปตดิ
บอรด์ หน้าห้องเรียนทค่ี รเู ตรยี มไว้ เมือ่ นำเสนอผลงานเสร็จ

4. เพื่อใหเ้ ดก็ เหน็ ผลงานชัดเจน

ครจู งึ ถามเดก็ ๆวา่ : เราจะนำผลการแบ่งกลุ่มของแสงท่ีเกิดข้นึ มารวมกนั ในกระดาษแผ่นใหญท่ ่ีครูติด
ไวห้ น้าช้นั เรียนไดอ้ ยา่ งไร

5. ตวั แทนออกไปวาดรูปบนกระดาษแผน่ ใหญ่

เด็กวาดรูปการบันทกึ ผลการแบ่งกลุม่ ของแสง เด็กนำเสนอการแบง่ กลมุ่ ของแสง

ขั้นท่ี 6 สรุปและอภิปรายผล

ครูและเดก็ สนทนาร่วมกนั ถึงคำถามทีเ่ ด็กอยากรู้ว่า “แสงเกิดข้ึนได้อยา่ งไร” และครใู ห้ทบทวนโดยให้
เดก็ ออกมานำเสนอ และบอกวา่ แสงเกดิ จากอะไร โดยใช้ชารท์ ใหญ่ที่เด็กชว่ ยกนั แสดงความคดิ เห็น สรปุ ผลได้
ดังน้ี

อะตอม : ห่งิ ห้อย

9

ชีวา : ไฟฉาย
สกาย : แมงกะพรนุ
โอม : ดาวเหนอื
มีน : พระอาทิตย์
แบม : ฟ้าแลบ
ครูสรปุ รว่ มกบั เด็กว่าแสงเกดิ จากธรรมชาตแิ ละเกิดจากสงิ่ ท่ีมนุษยส์ รา้ งขนึ้

10

ผลการทำโครงการแสงและเงา เดก็ เกดิ การพัฒนาดา้ นตา่ งๆดงั นี้

1. การสง่ เสรมิ พัฒนาการความสามารถพน้ื ฐาน 4 ด้าน
1.1 ด้านความรู้

- เด็กบอกได้วา่ แสงเกดิ จากอะไร
- เด็กสามารถแบง่ กลมุ่ แสงทเี่ กิดจากธรรมชาติและแสงท่ีมนุษย์สร้างขึ้นได้
- เดก็ ตัง้ สมมุตฐิ านเพอื่ คาดคะเนคำตอบของปัญหาได้เก็บรวบรวมข้อมูล เพอ่ื ใชพ้ ิสจู นส์ มมตุ ิฐานท่ี
กำหนดได้ สรปุ ผลการคน้ พบไดด้ ้วยตนเอง
1.2 ดา้ นภาษา
- เดก็ พูดแสดงความคดิ เห็นได้ พดู สรปุ ผลการทดลองทเ่ี กดิ ขึน้ ได้
1.3 ดา้ นสงั คม
- เด็กชว่ ยเหลอื ซง่ึ กันและกัน
- เด็กมปี ฏิสมั พันธแ์ ลกเปลี่ยนความรู้ แสดงความคิดเห็นในห้อง
- เดก็ กลา้ แสดงออก กล้าออกความคดิ เห็น
1.4 ด้านจติ ใจ-อารมณ์
- เดก็ รู้จักรอคอย
- เด็กรูจ้ กั บทบาทหน้าทีข่ องตนเอง
- เด็กร้จู กั ใชเ้ หตผุ ล
2. การส่งเสรมิ ทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์
2.1 ทักษะการสงั เกต
- เด็กได้สังเกตสิ่งของทอ่ี ยใู่ นห้องเรยี น นอกห้องเรียน ทส่ี ามารถทำให้เกดิ แสงได้
2.2 ทกั ษะการวดั
- เดก็ สามารถวัดความสว่างของแสงได้
2.3 ทักษะการคำนวณ
- เดก็ นับสิ่งของท่อี ยู่ในห้องเรยี นที่ทำให้เกิดแสงได้
2.4 ทักษะการจำแนก

11

- เด็กแบง่ กลมุ่ แสงที่เกิดจากธรรมชาติและแสงที่เกิดจากมนุษย์สร้างขึน้ ได้
- เด็กเปรียบเทียบความสวา่ งของแสงได้
2.5 ทกั ษะการพยากรณ์หรือการคาดคะเนคำตอบ
- เด็กสามารถคาดคะเนคำตอบท่ตี นคดิ ว่าแสงเกิดจากอะไร
2.6 ทักษะความสมั พันธ์ระหวา่ งสเปสกบั สเปส และสเปสกับเวลา
- เดก็ สามารถบอกได้วา่ แสงเกิดจากธรรมชาตหิ รือเกิดจากมนุษย์สร้างขน้ึ
2.7 ทกั ษะการทดลอง
- เดก็ รว่ มกันกำหนดข้นั ตอนการทอลองได้
2.8 ทักษะการจัดกระทำและสื่อความหมายของข้องมลู
- เดก็ สามารถสรุปผลที่สงั เกตและทดลองไดด้ ้วยภาพวาด และนำเสนอข้อมูลหน้าชั้นเรยี นให้เพ่อื น
เข้าใจได้
2.9 ทกั ษะการลงความคิดเห็นจากข้อมลู
- เดก็ สามารถแสดงความคิดเหน็ หรือใหเ้ หตุผลของตนเองได้
- เดก็ สรุปส่ิงทไ่ี ด้เรยี นรแู้ ละนำเสนอผลสรปุ น้ันแก่ผอู้ ่ืน


Click to View FlipBook Version