The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 7
วิชาวิทยาศาสตร์ เรื่องการแยกสารโดยวิธีโคมาโทกราฟี

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by , 2022-03-13 01:10:52

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 7

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 7
วิชาวิทยาศาสตร์ เรื่องการแยกสารโดยวิธีโคมาโทกราฟี

แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 7

รหสั วิชา ว 22102 วิทยาศาสตร์ 4 ช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ 2
หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 6 การแยกสาร เวลา 15 ช่วั โมง
หน่วยย่อยท่ี 1 วธิ กี ารแยกสาร จำนวน 3 คาบ
ผสู้ อน นางสาว นฤมล เกียรตขิ จรเดช

1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชวี้ ดั
มาตรฐาน ว 2.1 เข้าใจสมบัติของสสาร องค์ประกอบของสสาร ความสัมพันธ์ระหว่างสมบัติของสสารกับ

โครงสร้างและแรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนุภาค หลักและธรรมชาติของการเปลี่ยนแปลงสถานะของสสาร การเกิด
สารละลาย และการเกิดปฏิกริ ิยาเคมี

ตัวชี้วัด ม.2/1 อธิบายการแยกสารผสมโดยการระเหยแห้ง การตกผลึก การกลั่นอย่างง่าย โครมาโทกราฟี
แบบกระดาษ การสกัดด้วยตัวทำละลาย โดยใชห้ ลกั ฐานเชงิ ประจกั ษ์

ตวั ช้ีวดั ม.2/2 แยกสารโดยการระเหยแห้ง การตกผลึก การกลน่ั อยา่ งงา่ ย โครมาโทกราฟแี บบกระดาษ การ
สกดั ด้วยตัวทำละลาย
2. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด

การแยกสารสามารถทำได้หลายวิธีขึ้นอยู่กับสมบัติของสาร ได้แก่ การระเหยแห้งใช้แยกสารละลายซ่ึง
ประกอบด้วยตัวละลายท่ีเป็นของแข็งในตวั ทำละลายที่เป็นของเหลว โดยใชค้ วามร้อนระเหยตวั ทำละลายออกไปจหมด
เหลอื แตต่ วั ละลาย การตกผลกึ ใชแ้ ยกสารละลายท่ปี ระกอบด้วยตัวละลายท่เี ป็นของแข็งในตัวทำละลายทเ่ี ปน็ ของเหลว
โดยทำใหส้ ารละลายมคี วามเข้มขน้ เลยจุดอ่มิ ตวั แล้วปล่อยให้อุณหภมู ิลดลงอยา่ งชา้ ๆ ตวั ละลายจะคอ่ ย ๆ แยกออกมา
เป็นผลึก การกลั่นอย่างง่ายใช้แยกสารละลายที่ประกอบด้วยตัวละลายและตัวทำละลายที่เป็นของเหลวที่มีจุดเดือด
ต่างกันมาก โดยให้ความร้อนแก่สารละลาย ของเหลวจะเดือดและกลายเป็นไอแยกจากสารละลายแล้วควบแน่นกลับ
เป็นของเหลวอีกครั้ง โครมาโทกราฟีแบบกระดาษใช้แยกสารที่เคลื่อนท่ีบนกระดาษด้วยอัตราเร็วต่างกัน เนื่องจากมี
ความสามารถในการละลายต่างกนั และความสามารถในการดดู ซับของตวั ดูดซบั ต่างกนั การสกัดด้วยตัวทำละลายเป็น
วิธีการแยกสารที่ละลายในตัวทำละลายชนิดต่าง ๆ ได้ต่างกัน โดยชนิดของตัวทำละลายมีผลต่อชนิดและปริมาณของ
สารท่ีสกัดได้

การนำวิธีการแยกสารไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันให้เหมาะสมกับสถานการณ์ มีขั้นตอนคือ ระบุปัญหา
เกี่ยวกับการแยกสารที่พบในชีวิตประจำวัน รวบรวมข้อมูล แนวคิดที่สอดคล้องกับปัญหา เลือกและออกแบบวิธีการ
แก้ปัญหา โดยเชื่อมโยงความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ เทคโนโลยี โดยใช้กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม
ดำเนินการแก้ปัญหาเพ่ือสรา้ งต้นแบบ ทดสอบและปรับปรุงโดยใช้หลกั ฐานเชิงประจักษท์ ี่รวบรวมได้ นำเสนอต้นแบบ
วิธีการและผลการแกป้ ัญหา
3. สาระการเรยี นรู้

การกลั่นอย่างง่ายเป็นการแยกสารที่ตัวทำละลายและตัวละลายมีจุดเดือดต่างกันมาก เมื่อให้ความร้อนแก่
สารละลายของเหลวซึ่งมีจุดเดือดต่ำกว่าจะเดือดและกลายเป็นไอแยกออกจากสารละลาย แล้วควบแน่นกลับเป็น
ของเหลวอกี ครงั้

หลักการโดยทั่วไปคือตัวอย่างสารจะผสมกับตัวทำละลายบนตัวดูดซับ เมื่อสารแต่ละชนิดเคลื่อนที่ด้วย

ความเร็วต่างกันตามความสามารถในการละลายและความสามารถในการดูดซับของตัวดูดซับ สารจะแยกออกจากกัน

และปรากฏเปน็ สตี ่าง ๆ บนตัวดูดซบั

ในการสกัดสารจากใบไม้โดยใชน้ ้ำเปน็ ตวั ทำละลายได้สารละลายสีเขยี วอ่อนกว่าใช้เอทานอลเป็นตัวทำละลาย

แสดงว่าปริมาณสารที่แยกได้ขึ้นอยู่กับชนิดของตัวทำละลาย วิธีการแยกสารโดยใช้ตัวทำละลายที่เหมาะสม เรียกว่า

การสกดั ดว้ ยตัวทำละลาย (solvent extraction)

4. จุดประสงค์การเรยี นรู้

2.1 ด้านความรู้ (K)

2.1.1 นักเรยี นสามารถอธิบายแยกสารโดยวิธโี ครมาโทกราฟีแบบกระดาษไดถ้ กู ตอ้ ง

2.2 ด้านทักษะกระบวนการ (P)

2.2.1 นกั เรียนสามารถทดลองการแยกสารโดยวธิ ีโครมาโทกราฟแี บบกระดาษไดถ้ กู ตอ้ ง

2.3 ด้านเจตคติ/คุณลกั ษณะ (A)

2.3.1 ใฝ่เรยี นรู้

2.3.2 มงุ่ ม่นั ในการทำงาน

2.3.3 มวี นิ ยั

2.3.4 มีจติ สาธารณะ

5. สมรรถนะของผ้เู รียน
5.1 ความสามารถในการส่ือสาร
5.2 ความสามารถในการแก้ปญั หา
5.3 ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ
5.4 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

6. คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
6.1 มวี นิ ยั
6.2 ใฝ่เรยี นรู้
6.3 มงุ่ มั่นในการทำงาน
6.4 มจี ติ สาธารณะ

7. หลกั ฐานหรอื รอ่ งรอยของการเรียนรู้ การวัดและประเมนิ ผล

1. ดา้ นความรู้ (K)

จุดประสงค์การ ภาระงาน/ วธิ ีการวัด เครอ่ื งมอื เกณฑ์ท่ีใช้ประเมนิ ผู้ประเมิน
เรียนรู้ ชิน้ งาน
แบบประเมิน
1นกั เรยี นสามารถ กจิ กรรมที่ 6.3 ตรวจใบกิจกรรม ชนิ้ งาน ต้องไดร้ ะดับ ครู
คณุ ภาพ 2 คือ ดี
อธบิ ายแยกสารโดยวิธี กจิ กรรมกลมุ่ ถือว่าผา่ นเกณฑ์

โครมาโทกราฟีแบบ

กระดาษไดถ้ กู ตอ้ ง

2.ด้านทักษะกระบวนการ (P) วธิ กี ารวัด เครอ่ื งมือ เกณฑ์ที่ใช้ประเมิน ผปู้ ระเมิน
สงั เกต
จุดประสงค์การ ภาระงาน/ แบบบนั ทกึ ตอ้ งได้ระดบั ครู
เรียนรู้ ชน้ิ งาน
กระบวนการทาง คณุ ภาพ 2 คือ ดี
1. นักเรยี นสามารถ กจิ กรรมกลมุ่
ทดลองการแยกสาร วทิ ยาศาสตร์ ถอื ว่าผา่ นเกณฑ์
โดยวธิ โี ครมาโทกราฟี
แบบกระดาษได้
ถกู ต้อง

3. ด้านเจตคต/ิ คณุ ลกั ษณะ (A)

พฤติกรรม ภาระงาน/ วิธกี ารวดั เครอื่ งมอื เกณฑท์ ี่ใช้ประเมนิ ผู้ประเมิน
ชนิ้ งาน ครู
สังเกตพฤตกิ รรม
1. มวี ินัย กจิ กรรมกลุ่ม ตามคณุ ลักษณะ แบบประเมนิ ต้องได้ระดับ ครู
อนั พงึ ประสงค์ คณุ ลกั ษณะอันพงึ คุณภาพ 3 คอื ดี
2. ใฝ่เรียนรู้ กจิ กรรมกลุ่ม สังเกตพฤติกรรม ถอื ว่าผา่ นเกณฑ์ ครู
ตามคณุ ลกั ษณะ ประสงค์
3. มุง่ ม่ันในการทำงาน กจิ กรรมกลุม่ อนั พึงประสงค์ ต้องไดร้ ะดบั ครู
สังเกตพฤตกิ รรม แบบประเมนิ คณุ ภาพ 3 คือ ดี
4. มจี ิตสาธารณะ กิจกรรมกลุ่ม ตามคุณลักษณะ คุณลักษณะอนั พงึ ถอื ว่าผ่านเกณฑ์
อันพึงประสงค์
สงั เกตพฤติกรรม ประสงค์ ต้องไดร้ ะดับ
ตามคุณลักษณะ คุณภาพ 3 คอื ดี
อนั พงึ ประสงค์ แบบประเมิน ถือว่าผา่ นเกณฑ์
คณุ ลักษณะอนั พงึ
ต้องไดร้ ะดบั
ประสงค์ คุณภาพ 3 คอื ดี
ถือวา่ ผ่านเกณฑ์
แบบประเมิน
คุณลักษณะอันพงึ

ประสงค์

4. สมรรถนะ วิธกี ารวดั เคร่อื งมือ เกณฑ์ทีใ่ ช้ประเมิน ผ้ปู ระเมนิ
ครู
สง่ิ ท่ีตอ้ งการวัด สังเกตจากการตอบ แบบประเมิน ต้องได้ระดบั
คำถามอภิปราย สมรรถนะของ คุณภาพ 3 คือ ดี
1. ความสามารถในการสอ่ื สาร เก่ยี วกับการเรอ่ื งท่ี ผูเ้ รยี น 4 ด้าน ถือวา่ ผ่านเกณฑ์
2. ความสามารถในการแกป้ ัญหา
3. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต เรียน
4. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

8. กจิ กรรมการเรยี นรู้
8.1 ขั้นสร้างความสนใจ (Engagement)
8.1.1 ครทู ักทายนกั เรียนและสนทนากบั นกั เรียน
8.1.2 ตรวจสอบความรู้เดิมของนักเรียนเกี่ยวกับการแยกสารโดยทำกิจกรรมรู้อะไรบ้างก่อนเรียน

นักเรียนตอบตามความเขา้ ใจของตนเองโดยครูยังไม่เฉลยคำตอบ
8.1.3 ครใู หท้ ำกจิ การทดลองเก่ยี วกบั การแยกสารโดยวิธโี ครมาโทกราฟีแบบกระดาษ

8.2 ขนั้ สำรวจและคน้ หา (Exploration)
8.2.1 ให้นกั เรยี นจับกลมุ่ ให้ได้ 6 กลุ่ม นกั เรียนอย่ตู ามความสมคั รใจ
8.2.2 นำเขา้ สูก่ ิจกรรมท่ี 6.3 แยกสารโดยวิธโี ครมาโทกราฟแี บบกระดาษได้อยา่ งไร
8.2.3 ให้นกั เรียนอ่านชือ่ กจิ กรรม จุดประสงค์ และวธิ ีดำเนินกิจกรรม
8.2.4 ครูเปิดวดี ีทัศน์ เรอื่ ง แยกสารโดยวธิ โี ครมาโทกราฟแี บบกระดาษ
8.2.5 ให้นักเรียนแตล่ ะกลุ่มทำความเข้าใจ เพื่อให้ได้ขอ้ สรุปจากวดี ที ศั น์
8.2.6 หลังจากทค่ี รทู ำการทดลองและให้นักเรยี นสังเกตการณท์ ดลองแลว้
ให้นกั เรยี นแต่ละกลมุ่ ตอบคำถามใน Pladet
คำถามดงั น้ี
1. เมือ่ นำกระดาษกรองท่มี ีจุดสจี ุ่มลงในน้ำ จดุ สแี ตล่ ะสมี ีการเปล่ยี นแปลงอยา่ งไร
(แนวคำตอบ ทีข่ ้นึ ไปบนกระดาษกรองและมแี ถบสีต่างๆปรากฏบนกระดาษกรอง )
2.สีแตล่ ะสีมีองคป์ ระกอบเหมอื นหรือแตกตา่ งกนั อย่างไร ทราบได้อยา่ งไร
(แนวคำตอบ จุดสีแต่ละสีมีองค์ประกอบแตกต่างกัน ทราบได้จากจำนวนแถบสี และสีที่ปรากฏบน

กระดาษกรองมีลกั ษณะตา่ งกัน)
3.องคป์ ระกอบของจุดสีแต่ละองค์ประกอบสามารถเคลอ่ื นท่ีไปได้แตกตา่ งกันหรือไมเ่ พราะเหตใุ ด
(แนวคำตอบ องค์ประกอบของจุดสีแต่ละองค์ประกอบสามารถเคลื่อนที่ไปได้แตกต่างกัน เนื่องจาก

องค์ประกอบของจดุ สแี ยกออกจากกนั และเคลื่อนท่ที ไ่ี ปไดร้ ะยะทางไม่เทา่ กัน)
4.เมื่อจุ่มกระดาษกรองในนำ้ และสารละลายเอทานอล จดุ สีแตล่ ะจุดมกี ารเปล่ียนแปลงเหมอื นกันหรือ

แตกต่างกันอยา่ งไร
(แนวคำตอบ เมื่อจุ่มกระดาษกรองในน้ำและเอทานอล จุดสีแต่ละจุดมีการเปลี่ยนแปลงแตกต่างกนั

คือ เมือ่ จุม่ กระดาษในน้ำ จะเห็นองค์ประกอบของสีกระจายอยหู่ ่างจากจุดเรม่ิ ตน้ มากกว่าเมื่อจมุ่ กระดาษกรองในเอทา
นอล จำนวนองค์ประกอบของสแี ละระยะทางท่ีองค์ประกอบสเี คลอื่ นที่ได้แตกตา่ งกนั )

5.ตัวทำละลายมผี ลต่อการแยกองคป์ ระกอบของสหี รอื ไมอ่ ย่างไร
(แนวคำตอบ ตัวทำละลายคือน้ำและเอทานอลมีผลต่อการแยกองค์ประกอบของสี จะได้เห็นว่าเมื่อ
เปล่ียนชนิดของตัวทำละลาย ระยะทางการเคลอ่ื นที่ของแตล่ ะองค์ประกอบของสแี ตกตา่ งกนั )
6.จากกจิ กรรม สรปุ ไดว้ ่าอย่างไร
(แนวคำตอบ จากกิจกรรม สรุปได้วา่ สีจากปากกาเมจิกมีองค์ประกอบมากกว่าหนึ่งชนิด เห็นได้จาก
ผลของการจุดสีบนกระดาษกรอง แลว้ จมุ่ ปลายกระดาษกรองในน้ำ นำ้ จะเคลื่อนท่ีขึน้ ไปตามกระดาษกรอง ส่วนสีจาก
ปากกาเมจิจะเคลื่อนที่ไปบนกระดาษกรองแล้วค่อยๆ แยกออกจากกันเป็นองค์ประกอบหลายสี เมื่อเปลี่ยนไปใช้
สารละลายเอทานอลแทนน้ำ สีจากปากกาเมจิยังคงแยกออกเป็นองค์ประกอบหลายสี แต่ระยะที่แต่ละองค์ประกอบ
เคล่อื นทไี่ ดม้ ลี ักษณะเปลี่ยนไป)
8.3 ขั้นอธิบาย (Explanation)
8.3.1 สมุ่ นกั เรียนนำเสนอผลการทำกจิ กรรมใน Pladet
8.3.2 สรุปผลของกจิ กรรมการทดลองอีกครงั้ ร่วมกบั นกั เรยี น
8.3.3 ครอู ธิบายเพม่ิ เตมิ เก่ียวกบั การ คดิ คา่ ของ Retention factor หลังจากจุ่มกระดาษลงในสาร
8.4 ขัน้ ขยายความรู้ (Elaboration)
8.4.1 ให้นักเรียนเรียนรู้เพิม่ เตมิ เกย่ี วกับการแยกสารโดยวธิ โี ครมาโทกราฟแี บบกระดาษอ่านเน้ือหาใน
หนังสือเรียนหน้า 90-92เพื่อให้ได้ข้อสรุปว่า การแยกสารโดยวิธีโครมาโทกราฟีแบบกระดาษ (paper
chromatography) เมื่อจุ่มกระดาษกรองซึ่งมีจุดสีที่ต้องการแยกองค์ประกอบลงในตัวทำละลาย ตัวทำละลายจะซึม
ผ่านไปตามกระดาษกรองพร้อมทั้งพาองค์ประกอบชนิดต่างๆในจุดสีเคลื่อนที่ไปด้วย องค์ประกอบแตล่ ะชนิดของสีจะ
เคล่ือนทไ่ี ดเ้ ร็วชา้ ตา่ งกัน จงึ แยกออกจากกนั เป็นแถบสอี งค์ประกอบทีเ่ คลื่อนที่เรว็ ที่สดุ จะเคลอื่ นทไี่ ด้ระยะทางไกลจาก
จุดเร่มิ ตน้ มากทส่ี ุด
8.5 ข้นั ประเมนิ /สรุป (Evaluation)
8.5.1 ครแู ละนักเรยี นร่วมกนั สรปุ และอภิปรายในประเด็นท่ยี ังสงสยั
8.5.2 สงั เกตความสนใจ กระตอื รือร้นและความพรอ้ มท่ีจะรบั ความรู้ทค่ี รูถ่ายทอดให้
9. ส่ือและแหล่งเรยี นรู้
9.1 สือ่ การสอน
1. หนังสอื เรยี น รายวชิ าพืน้ ฐานวิทยาศาสตร์ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 2 เล่ม 2
3. กิจกรรมที่ 6.3 แยกสารโดยวิธโี ครมาโทกราฟีแบบกระดาษ
4. ตอบคำถามใน Pladet
9.2 แหลง่ การเรยี นรู้
1. ตอบคำถามใน Pladet
2. แหล่งขอ้ มูลสารสนเทศ

10. บันทึกหลงั การสอน ดา้ นทกั ษะ ด้านคุณลักษณะ สมรรถนะ
1. ผลการจดั การเรยี นรู้ กระบวนการ (P) อนั พึงประสงค์ (A) ผา่ น ไมผ่ ่าน

จำนวน ดา้ นความรู้ (K) ผา่ น ไม่ผา่ น ผา่ น ไม่ผ่าน
ช้ัน นักเรยี น

(คน) ผา่ น ไม่ผ่าน

ม.2/1 รอ้ ยละ

ม.2/2 ร้อยละ

ม.2/3 รอ้ ยละ

ม.2/6 รอ้ ยละ
2. ปัญหา และอุปสรรค
............................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................................
3. ขอ้ เสนอแนะ และแนวทางปรับปรงุ แก้ไข
............................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................................

ลงชือ่ .............................................
(นางทศั นยี ์ ศิรริ ัตน)์ ครูพ่ีเล้ียง

วันที่ 15 เดอื น กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ 2565

บันทึกหลงั การสอน
............................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................................

ลงช่อื ...............................................
(นางทัศนีย์ ศริ ริ ตั น์)


Click to View FlipBook Version