โครงการปลูกหญ้าแฝก

โครงการปลูกหญ้าแฝก
จัดทาโดย

นายอิสระ กนั ยาโพ
รหสั ประจาตวั 64301020088
ระดบั ประกาศนียบตั รวิชาชีพช้นั สูง ปวส.1
สาขาวิชา ช่างกลโรงงาน

เสนอ
อาจารย์ ดาวสกาย พลูเกษ
วทิ ยาลยั เทคนิคกาแพงเพชร
รายงานเลม่ น้ีเป็นส่วนหน่ึงของวิชาภาษาไทยเชิงวชิ าชีพ
[รหสั วิชา 30000-1101]
ภาคเรียนท่ี1 ปี การศึกษา 2564

โครงการ“ ปลูกหญ้าแฝกเฉลมิ พระเกยี รติ”

หลักการและเหตุผล

ปัญหาการชะลา้ งพงั ทลายของดินเป็นปัญหาท่ีสาคญั อยา่ งหน่ึงของประเทศ ซง่ึ
สว่ นใหญเ่ กดิ จากการทผี่ วิ ดนิ ถกู กัดเซาะจากฝนทตี่ กลงมา และนา้ ทไี่ หลบา่ ทาให้
สญู เสยี ดนิ ทีอ่ ดุ มสมบูรณ์มผี ลต่อความเสอ่ื มโทรมของทรพั ยากรดิน

พระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหาภมู พิ ล อดลุ ยเดชทรงตระหนกั ถงึ ความสาคญั และ
ความจาเป็นในการป้องกนั และแก้ไขปัญหาจึงพระราชทานพระราชดาริให้มีการนา
‘หญ้าแฝก’ พชื มหศั จรรยม์ าใช้ในการอนรุ ักษ์ปอ้ งกนั การชะล้างพงั ทลายของดนิ และ
ปรับปรุงสภาพแวดล้อมให้ดขี นึ ้ เน่ืองจากหญ้าแฝก เป็นพืชทม่ี ีประโยชน์ตอ่ การ
อนรุ กั ษ์ดิน และนา รากหญ้าแฝกลกึ และยาวสานกนั เป็นกาแพงธรรมชาติ อนั
แข็งแกร่ง แหก่ ระจายลงไปในดนิ ตรงๆ ชว่ ยกรองตะกอน ลดความแรงของนา้ ท่ไี หลบ่า
รักษาหน้าดนิ และงา่ ยต่อการดแู ลรและง่ายต่อการดูแลรักษา

ดงั นนั้ เพ่อื เป็นการปอ้ งกนั การพงั ทลายของดิน โดยการน้อมนาแนว
พระราชดาริของพระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหาภมู ิพล อดลุ ยเดช ในการนา‘หญ้า
แฝก’มาใช้ในการอนรุ ักษ์ป้องกนั การชะล้างพงั ทลายของดนิ และปรบั ปรุง
สภาพแวดล้อมให้ดีขึน้ องคก์ ารบริหารสว่ นตาบลหนองกราด จึงได้จดั ทาโครงการ
ปลกู หญ้าแฝก เฉลิมพระเกียรตฯิ เฉลมิ พระเกียรติฯ

วตั ถปุ ระสงค์

1.เพื่อสนองแนวพระราชดาริของ พระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหาภมู พิ ลอดลุ ย
เดช ในการรณรงคก์ ารใชห้ ญา้ แฝก ในการอนุรกั ษท์ รัพยากรดินทรพั ยากรน้า และ
ส่ิงแวดลอ้ ม

2.เพ่ือป้องกนั บริเวณที่มแี นวโนม้ ทจ่ี ะเกิดการเคลื่อนตวั ของดิน การชะลา้ งและ
การพงั ทลายของดินไดส้ ูง

3.เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนเขา้ มา มีส่วนร่วมในการปลกู หญา้ แฝก เพอื่ อนุรกั ษ์
ทรพั ยากรดิน น้า และส่ิงแวดลอ้ ม

การใช้ประโยชน์จากหญ้าแฝก

1.การปลูกเป็นแถวตามระดบั ขวาง ความลาดชนั เพอื่ ชะลอความเร็วของน้า และ
ดกั ตะกอนดิน ส่วนน้าจะไหลซึมลงไปสู่ดินช้นั ลา่ งไดม้ ากข้นึ เป็นการเพ่มิ ความชุ่มช้ืน
ภายในดิน ส่วนรากหญา้ แฝก จะหยงั่ ลกึ ลงไปในดิน อาจถึง3เมตร ซ่ึงสามารถยึดดิน
ป้องกนั การพงั ทะลายได้

2.การปลูกเพื่อป้องกนั ความเสียหายของช้นั บนั ไดดิน หรือคนั ครู ับน้ารอบเขา

3.การปลูกเพือ่ ป้องกนั ตะกอนดินทบั ถมลงสู่คลองส่งน้าระบายน้าอ่างเก็บน้าในไร่
นา ตลอดจนปลกู รอบสระหรือปลกู เป็นแถวขนานไปกบั แม่น้าลาคลองเพ่ือกรอง
ตะกอนดนิ

4.การปลกู เพื่อฟ้ืนฟูทีด่ ินเส่ือมโทรม

5.การปลูกเพอ่ื ป้องกนั การปนเป้ื อนของสารพษิ ในแหลง่ น้า รากหญา้ แฝกจะเป็น
กาแพงกกั ก้นั ดิน และสารพิษท่ีปนเป้ื อนมากบั น้า ไม่ใหไ้ หลลงสู่แหล่งน้าเบ้อื งล่าง ใน
การดดู ซบั ธาตโุ ลหะหนกั และสารเคมีบางอยา่ งไดด้ ีกว่าพืชชนิดอื่นมีบางอยา่ งไดด้ ีกวา่
พืชชนิดอน่ื

การปลูกหญา้ แฝกบริเวณเชิงลาดทางมีอยสู่ องลกั ษณะ ข้นึ อยกู่ บั สภาพความ
รุนแรง หรือแนวโนม้ ของการจะเกิดการชะลา้ งพงั ทะลาย ของเชิงลาดคอื

1.การปลูกในพ้ืนทเ่ี ชงิ ลาดที่มแี นวโนม้ ของการเกิดการชะลา้ งพงั ทะลาย
ของดินต่าเป็นรูปแบบการปลูกโดยทว่ั ไป มลี กั ษณะการปลูกหญา้ แฝกเป็นแนว
ขวางแนวลาดเทมรี ะยะห่างระหว่างแถว ประมาณ1.00เมตร

2.การปลกู ในพ้ืนทเ่ี ชิงลาดที่ไดเ้ กิดการชะลา้ งพงั ทลาย หรือมแี นวโนม้
ของการเกิดการชะลา้ งพงั ทลายของดินสูง การปลกู หญา้ แฝกในพ้ืนท่ีลกั ษณะน้ี
ลุกลาม ขยายตวั รุนแรงข้ึน หรือเป็นการปลกู ในงานกอ่ สร้าง แกไ้ ขการเคล่อื น
ตวั ของดิน ลกั ษณะการปลกู จะลดระยะห่างระหว่างกอกลา้ แฝกในแถวเป็น5
เซน็ ติเมตร และมรี ะยะห่างระหวา่ งแถวที่ปลกู ตามแนวลาดทีป่ ระมาณ 50
เซ็นตเิ มตร

จากการดาเนินการโครงการพัฒนา และรณรงค์การใช้หญ้าแฝกของกรม
ทางหลวง

1.การปลูกหญา้ แฝกบริเวณพ้นื ที่เชิงลาดถนนสามารถป้องกนั หรือลดการชะลา้ ง
พงั ทลายของดินได้ และเป็นวธิ ีการทใ่ี ชเ้ ทคโนโลยอี ยา่ งง่าย ราคาถูก ให้ปลทางดา้ น
สิ่งแวดลอ้ มทด่ี ี

2.การป้องกนั การชะลา้ งพงั ทลายของเดลล์ โดยการปลกู หญา้ แฝกเป็น‘Long Term
Stabilized Slope’ ในสภาวะทเี่ หมาะสมหลงั การปลกู เป็นเวลาประมาณ1ปี หรือ 1ฤดฝู น
หญา้ แฝกจึงจะมปี ระสิทธิภาพในการป้องกนั การชะลา้ งพงั ทลายของดินได้ เนื่องจาก
จะเจริญเติบโตยาวประมาณ1เมตร และกอหญา้ แฝกในแถวจะเจริญเติบโตชิดตดิ กนั แล
และกอหญา้ แฝกในแถวจะเจริญเติบโตชิดตดิ กนั

3.ช่วงระยะเวลาการปลูกที่เหมาะสมสาหรบั การปลกู หญา้ แฝก เป็นช่วงตน้ ฤดฝู น
หรือช่วงระยะเวลาในฤดฝู น

4.ปัจจยั ที่สาคญั ทสี่ ุดที่จะทาให้การปลกู หญา้ แฝกประสบผลสาเร็จ ไดผ้ ลดีมอี ตั รา
การรอดตายสูงคือ ช่วงระยะเวลาการปลกู ที่เหมาะสม การปลกู หญา้ แฝกในพ้นื ท่ี
ภาคใตไ้ ดผ้ ลดี เนื่องจากมฤี ดูฝนยาวนานถึง7เดือน

5.การปลกู หญา้ แฝและลกั ษณะความแน่นของดิน[Side Slope]และลกั ษณะความแน่น
ของดิน จะไดผ้ ลดี หญา้ แฝกมกี ารเจริญเตบิ โตดีกว่าการปลูกบริเวณลาดดินตดั เหนือ
คนั ทาง[Back Slope] เนื่องจากสภาพความสมบูรณ์ และลกั ษณะความแน่นของดิน

6.หลงั การปลกู หญา้ แฝกมคี วามจาเป็นที่ตอ้ งดแู ลรักษา กาจดั วชั พชื และใส่ป๋ ยุ เป็น
เวลา1-2ปี

7.หญา้ แฝกในบริเวณทีม่ ีแนวโนม้ ที่จะเกิดการชะลา้ ง พงั ทลายของดินไดส้ ูงหรือ
รุนแรงหรือบริเวณที่ไดเ้ กิดการเคลอ่ื นตวั ของดินแลว้ ใหล้ ดระยะห่างของการปลูก ลง
โดยมีระยะห่างระหว่างกอแฝก5เซนตเิ มตร และมรี ะยะห่างระหว่างแถวเซ้และมี
ระยะห่างระหว่างแถว50เซน็ ติเมตร

8.กลา้ หญา้ แฝกท่ีปขู วญั เป็นกาแฟท่ปี ลกู ชาในถุงพลาสติก ทอี่ ภิบาลไวก้ อ่ นนาไป
ปลูกประมาณวนั 45-60 วนั

9.การปลกู หญา้ แฝกในบางพ้นื ที่ โดยเฉพาะอย่างย่ิงในพ้นื ทภี่ าคเหนือ หญา้ แฝกไม่
เจริญเตบิ โต หรือเจริญเติบโตไม่ดี เน่ืองจากยาในพ้ืนทห่ี รือวชั พืชเจริญเตบิ โตงอกงาม
และแพร่พนั ธุ์ ไดเ้ ร็วกว่า

อ้างอิง

https://www.banrai.go.th/news_detail.php?id=4047
http://rspg.skru.ac.th/ramdang2/?y=project