วชิ าดนตรี ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 6
กลุ่มสาระการเรยี นร้ศู ลิ ปะ
สื่อการสอนเรือ่ ง
ศพั ท์สงั คีต
จดั ทาโดย
นางสาวโชษิตา จุสมใจ
ครู วทิ ยฐานะครูชานาญการ
โรงเรียนหนองจอกพทิ ยานุสรณ์
สานกั งานเขตหนองจอก กรงุ เทพมหานคร
เรื่องศัพท์สงั คีต
มาตรฐานการเรียนรู้
ศ 2.1 เข้าใจและแสดงออกทางดนตรีอย่าง
สร้างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์คุณค่า
ดนตรี ถ่ายทอดความรู้สึก ความคิดต่อดนตรี
อ ย่ า ง อิ ส ร ะ ชื่ น ช ม แ ล ะ ป ร ะ ยุ ก ต์ ใ ช้ ใ น
ชวี ิตประจาวัน
ตัวช้ีวัด
ศ 2.1 ป.6/1 บรรยายเพลงท่ีฟัง โดยอาศัย
องค์ประกอบดนตรแี ละศัพทส์ งั คีต
เรื่องศพั ท์สังคตี
จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
1. อธิบายศัพทส์ งั คตี ได้ (K)
2. จาแนกการใช้ศพั ทส์ ังคตี ได้ (P)
3. เห็นประโยชนแ์ ละความสาคัญของ
ศพั ทส์ ังคตี (A)
ศัพท์สังคีต หมายถึง ภาษา
เฉพาะท่ีใช้พูดกันในวงการดนตรี
ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าหมายความถึงอะไร
หรือให้ปฏิบัติอย่างไร เช่น กรอ
กวาด ขับ ครวญ เดี่ยว เอื้อน เถา
ขยี้ ทอด โอด คลอ คร่อม เพ้ียน
ลกู ล้อ ตับ ท่อน
กรอ เป็นวิธีบรรเลงเคร่ืองดนตรี
ประเภทตี (เช่น ระนาด ฆ้องวง)
ซึ่งใช้วิธีตี ๒ มือ สลับกันถี่ ๆ
เหมือนรัวเสียงเดียว แต่ทั้งสองมือ
มิได้ตีอยู่ท่ีเดียวกัน มักจะตีเป็นคู่
2 คู่ 3 คู่ 4 คู่ 5 คู่ 6 และคู่ 8
วดี ทิ ศั นป์ ระกอบศพั ทส์ ังคตี
กรอ
กวาด เป็นวิธีท่ีใช้เล่นเครื่อง
ดนตรีประเภทตีดาเนินทานอง เช่น
ระนาดเอก ระนาดทุ้ม ฆ้องวงใหญ่
ฆ้องวงเล็ก โดยใช้หัวไม้ตีลากไป
บนเครื่องดนตรีโดยเร็วเพื่อไล่ระดับ
เสียงจากต่า ไปจนถึงเสียง สูง
เพ่อื ใหเ้ กดิ เสยี งตอ่ เนื่องกัน
วดี ทิ ศั นป์ ระกอบศพั ทส์ งั คตี
กวาด
เก็บ วิธีการบรรเลงเคร่ืองดนตรี
ดาเนินทานองท่ัวไป ท่ีเพ่ิมเติมเสียง
สอดแทรกให้มีพยางค์ถี่ข้ึนมากกว่า
ทานองเน้ือเพลงธรรมดา การ
บรรเลง “เก็บ”น้ี ส่วนมากใช้กับ
ทานองเพลงพื้นๆ ท่ัวไป เช่น เพลง
ลมพัดชายเขา เพลงจระเข้หางยาว
เรยี กวา่ ทางเกบ็
วดี ทิ ศั นป์ ระกอบศพั ทส์ งั คตี
เกบ็
ขับ คาน้ีมักพูดรวมกับคาว่า “ร้อง” เป็น
“ขับร้อง” ซึ่งความจริงมีความหมายต่างกัน
มาก คาว่า“ขับ”นั้น หมายถึงการเปล่งเสียง
ออกมาเป็นทานอง แต่ทานองที่ว่าน้ันมักมี
ความยาวไมแ่ นน่ อน จะยักเยือ้ งให้ช้าบ้างเร็ว
ไปบ้าง เพื่อให้เกิดความไพเราะก็ย่อมได้
เพราะการขับถือเอา “ถ้อยคา” ท่ีใช้น้ันเป็น
สาคัญ ส่วนทานองนั้นใช้เป็นเพียงแนวไม่ให้
ออกนอกล่นู อกทางไปเท่านนั้ เช่น ขบั เสภา
วดี ทิ ศั นป์ ระกอบศพั ทส์ ังคตี
ขบั
ครวญ เป็นวิธีร้องอย่างหนึ่ง
ซ่ึงสอดแทรกเสียงเอื้อนยาว ๆ
ให้มีสาเนียงครวญคร่าราพัน ใช้
เ พื่ อ สื่ อ ถึ ง อ า ร ม ณ์ โ ศ ก เ ศ ร้ า
เ สี ย ใ จ ใ ช้ เ ฉ พ า ะ เ พ ล ง ท่ี มี
อารมณโ์ ศกเศรา้
วดี ทิ ศั นป์ ระกอบศพั ทส์ งั คตี
ครวญ
เดี่ยว เป็นวิธีการบรรเลงเครื่อง
ด น ต รี ป ร ะ เ ภ ท ด า เ นิ น ท า น อ ง
อย่างเดียว เช่น ระนาด ฆ้องวง
จะเข้ ซอ ซ่ึงอาจมี ฉิ่ง ฉาบ กรับ
โหม่ง โทน-รามะนา กลองแขก
ประกอบจงั หวะด้วย
วดี ทิ ศั น์ประกอบศัพทส์ งั คีต
เด่ยี ว
เออ้ื น
1. ใช้ในการขับร้อง คือ การร้องเป็น
ทานองโดยใช้เสียงเปล่า ไม่มีถ้อยคา
เสียงท่รี ้องเอือ้ นนอ้ี นุโลมคลา้ ยสระเออ
2. ใช้ในการบรรเลงดนตรี คือ การทา
เสียงให้เลื่อนไหลติดต่อกันโดยสนิท
สนม จะเป็นจากเสียงสูงมาหาเสียงต่า
หรอื เสียงตา่ ไปหาเสียงสูงกไ็ ด้
วดี ทิ ศั น์ประกอบศัพทส์ ังคตี
เอ้อื น
เถา หมายถึง บทเพลง
เดียวกันแต่จะมีอัตราจังหวะ
ล ด ห ลั่ น กั น ไ ป คื อ อั ต ร า
จังหวะสามช้ัน สองช้ัน และ
ชั้ น เ ดี ย ว โ ด ย บ ร ร เ ล ง
ตดิ ตอ่ กัน
วดี ทิ ศั นป์ ระกอบศพั ทส์ ังคตี
เถา
ข ยี้ เ ป็ น ก า ร บ ร ร เ ล ง ท่ี
เพ่ิมเติมเสียงแทรกแซงให้มี
พยางค์ถี่ข้ึนกว่าการบรรเลง
ปกติ เช่น บรรเลงประโยค
เพลงน้ันให้เร็วข้ึนเป็นหลาย
คร้งั ในเวลาเท่าเดิม
วดี ทิ ศั นป์ ระกอบศพั ทส์ งั คตี
ขย้ี
ทอด หมายถึง การผ่อนจังหวะ
ให้ช้าลง เพ่ือจะจบท่อนหรือจบ
เพลงได้อย่างไพเราะ หรือเพื่อให้
สะดวกแก่การที่คนร้องจะร้องท่อน
ต่อไป ซ่ึงในกรณหี ลังน้ีทา่ นเรยี กว่า
“ทอดให้ร้อง” ส่วนในกรณีแรกน้ัน
ทา่ นเรยี กวา่ “ทอดลง”
วดี ทิ ศั นป์ ระกอบศพั ทส์ ังคตี
ทอด
โอด
1. ชื่อเพลงหน้าพาทย์ใช้บรรเลง
ประกอบกิริยาคือ รอ้ งไห้ สลบ ตาย
2. การดาเนินทานองเพลงซึ่งดาเนิน
ไปโดยแช่มช้า โหยหวน อ่อนหวาน
หรือโศกซึ้ง เป็นการดาเนินทานอง
ในระดับเสยี งสูง
วดี ทิ ศั นป์ ระกอบศพั ทส์ ังคตี
โอด
คลอ หมายถึง การบรรเลง
ไปพร้อมๆ กันกับการขับร้อง
โดยผู้บรรเลงต้องบรรเลง
เครื่องดนตรีให้ทานองและ
เสียงตรงกบั ผูข้ ับรอ้ ง
วดี ทิ ศั นป์ ระกอบศพั ทส์ ังคตี
คลอ
คร่อม การบรรเลงทานองหรือ
บรรเลงเคร่ืองประกอบจังหวะ หรือ
ร้องดาเนินไปโดยไม่ตรงกับจังหวะท่ี
ถูกต้อง เสียงที่ควรจะตกลงตรง
จังหวะกลายเป็นตกลงในระหว่าง
จังหวะ ซ่ึงกระทาไปโดยไม่มีเจตนา
และถือว่าเป็นการกระทาท่ีผิด เรียก
อยา่ งเต็มว่า “คร่อมจงั หวะ”
วดี ทิ ศั นป์ ระกอบศพั ทส์ งั คตี
ครอ่ ม
เพ้ียน คือ เสียงที่ไม่ตรงกับระดับ
ที่ถูกต้อง เพี้ยนก็คือผิด แต่เป็นการ
ผิดเพียงเล็กน้อย ไม่ว่าเสียงร้อง
หรือเสียงดนตรี ถ้าหากว่าไม่ตรง
กับระดับเสียงท่ีถูกต้องแล้ว ไม่ว่า
จะสูงไปหรือต่าไป แม้แต่เพียง
เล็กนอ้ ยก็เรียกว่า "เพี้ยน" ทั้งส้ิน
วดี ทิ ศั น์ประกอบศัพทส์ ังคตี
เพ้ยื น
ลูกล้อ เป็นวิธีบรรเลงทานองท่ีแบ่ง
เคร่ืองดนตรี (หรอื รอ้ ง) ออกเป็น 2 พวก
พวกหนึ่งเรียกว่าพวกหน้า อีกพวกหนึ่ง
เรียกว่าพวกหลัง แล้วผลัดกันบรรเลง
คนละที เม่ือพวกหน้าบรรเลงไปหมด
วรรคตอนแล้ว พวกหลังก็จะบรรเลงบ้าง
โ ด ย พ ว ก ห น้ า บ ร ร เ ล ง ไ ป เ ป็ น ท า น อ ง
อย่างใด พวกหลังก็จะบรรเลงเป็น
ทานองซ้าอยา่ งเดียวกนั กบั พวกหน้า
วดี ทิ ศั น์ประกอบศัพทส์ ังคตี
ลกู ลอ้
ตับ คอื เพลงท่ีมาเรียบเรียงเข้าเป็นชดุ
น า ม า บ ร ร เ ล ง ห รื อ บ ร ร เ ล ง ร้ อ ง
ตอ่ เน่ืองกนั แบง่ เปน็ 2 ชนิด คอื
1. ตับเรื่อง คือ เพลงท่ีเรียบเรียงเข้า
เป็นชุด โดยคานึงถึงการดาเนิน
เรอ่ื งราวเป็นหลกั
2. ตับเพลง คือ เพลงที่เรียบเรียงเข้า
เป็นชุด โดยคานึงถึงความกลมกลืน
วดี ทิ ศั นป์ ระกอบศพั ทส์ ังคตี
ตบั
ท่อน คือ การกาหนดส่วนใหญ่ส่วน
หนง่ึ ๆ ซึง่ แบ่งออกจากเพลง โดยปกติ
เมอื่ บรรเลงเพลงใดก็ตาม หากจบท่อน
หน่ึง ๆ แล้วมักจะกลับต้นแล้วบรรเลง
ซ้าทอ่ นนน้ั อีกครั้งหนง่ึ แต่มิใช่ว่าเพลง
ทุกเพลงจะต้องมีหลายๆ ท่อนเสมอไป
บางเพลงอาจมีท่อนเดียวจบ หรือ
หลาย ๆ ท่อนจงึ จบก็ได้
วดี ทิ ศั นป์ ระกอบศพั ทส์ งั คตี
ทอ่ น
แหลง่ ข้อมลู
http://writer.dek-d.com/title30016/story/view.php?id=200394
https://thaimusicamp.wordpress.com/tag/%E0%B8%84%E0%B8%
A5%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%B3%E0%B8%
A8%E0%B8%B1%E0%B8%9E%E0%B8%97%E0%B9%8C/page/2/
https://pirun.ku.ac.th/~b521110058/Templates/sabsangkeet.html
http://saranukromthai.or.th/sub/book/book.php?book=1&chap=9
&page=t1-9-infodetail06.html
https://www.youtube.com/watch?v=fv0S9i-S6lY&t=26s
https://www.youtube.com/watch?v=XPAsiFe8yjU&t=33s
https://www.youtube.com/watch?v=uJtgS5iicFc&t=17s
https://www.youtube.com/watch?v=uJtgS5iicFc&t=52s
https://www.youtube.com/watch?v=XPAsiFe8yjU
https://www.youtube.com/watch?v=ZZ7BjYFHzBs
https://www.facebook.com/prat2015/photos/rpp.1204570546989
01/2435651209846129/?type=3&theater
เอกสารอ้างองิ