กลุ่มสาระการเรียนร้ศู ลิ ปะ
สาระดนตรี : ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ ๖
๑หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี
องค์ประกอบดนตรี
และศัพทส์ งั คีต
• บรรยายเพลงที่ฟงั โดยอาศัยองคป์ ระกอบดนตรี
และศัพทส์ งั คตี (ศ ๒.๑ ป.๖/๑)
จากภาพนักเรยี นคิดว่ามสี ง่ิ ใดบา้ งทีท่ าให้
บทเพลงไพเราะและสมบรู ณ์
๑. องคป์ ระกอบดนตรี
องค์ประกอบดนตรี หมายถึง สว่ นต่าง ๆ ของดนตรี
ทน่ี ามาประกอบกนั เปน็ บทเพลง ทาให้บทเพลงมคี วาม
สมบูรณ์ ไพเราะน่าฟัง องค์ประกอบดนตรี มดี งั นี้
๑.๑ จงั หวะ
จงั หวะในเพลงนน้ั เป็นส่วนย่อยของทานองเพลง ซ่งึ แบง่ เปน็
ระยะเท่า ๆ กนั และมคี วามสมา่ เสมอ จงั หวะยังเปน็ ส่งิ ทีก่ าหนด
ความช้า-เรว็ ของบทเพลง จังหวะแบ่งออกเปน็ ๓ แบบ ดงั นี้
๑) จงั หวะพื้นฐาน คอื จังหวะท่อี ยู่ ในใจของผ้บู รรเลงและผขู้ บั รอ้ ง
โดยไมต่ ้องมีเคร่ืองให้สัญญาณจังหวะใด ๆ
๒) จงั หวะฉง่ิ คอื การใช้ฉ่งิ เป็นเคร่อื งกากับจังหวะ
เสียง “ฉิง่ ” เป็นจงั หวะเบา เสียง “ฉับ” เป็นจงั หวะหนัก
๓) จงั หวะหน้าทับ คอื การใช้ทานองเคร่ืองหนังเปน็ เคร่อื งกาหนด
จงั หวะ โดยมากนิยมใช้หนา้ ทับปรบไกเ่ ปน็ เกณฑ์นบั จังหวะ เช่น
ตหี น้าทับปรบไก่ ๑ เทยี่ ว นับเป็น ๑ จงั หวะ
เคร่อื งดนตรที ่ใี ชต้ ปี ระกอบจงั หวะ
๑.๒ ทานอง
ทานอง คอื เสยี งทม่ี รี ะดบั สงู -ตา่ สนั้ -ยาว ที่นามา
ผสมผสานกันให้สอดคลอ้ งกับจังหวะของเพลง ทานอง
เป็นสิง่ ทช่ี ่วยให้ผูฟ้ งั สามารถจดจาเพลงได้ และเขา้ ใจ
เพลงมากขึ้น
๑.๓ เสียง
เสยี ง คอื ส่ิงทร่ี บั รูไ้ ด้ดว้ ยหู เสียงเกดิ จากการสั่นสะท้อนของแหล่งกาเนดิ เสียง
เสยี งเปลย่ี นแปลงไดเ้ มื่อแหลง่ กาเนดิ เสยี งมีการสั่นท่แี ตกต่างกนั เสียงมสี มบัตดิ งั น้ี
๑.๔ การประสานเสียง
การประสานเสยี ง คือ การเกิดเสยี งพรอ้ มกัน ๒ เสียงขนึ้ ไปตาม
ลลี าของเพลง ลักษณะของการประสานเสียง มดี ังนี้
๑) การประสานเสยี งโดยการบรรเลงเครอ่ื งดนตรีชนิดเดยี วกัน
คือ การบรรเลงทานอง
หลกั เสียงหนง่ึ และ
บรรเลงทานองประสาน
อีกเสียงหนง่ึ ควบคู่กันไป
จะใช้กับเคร่ืองดนตรี
ประเภทท่ีดาเนนิ ทานอง
เชน่ ระนาด ฆ้อง ขิม
๒) การประสานเสียงระหว่างเคร่ืองดนตรีต่างชนิดกัน คือ การบรรเลงด้วย
การใชเ้ ครอ่ื งดนตรีตา่ งชนดิ กัน และนามาดัดแปลงจงั หวะทานองใหม่ให้เหมาะสมกับ
เครื่องดนตรีชนิดนั้น จนเกิดการบรรเลงท่ีมีจังหวะและทานองเดียวกันมีการบรรเลง
พรอ้ มกัน
๓) การประสานเสียงโดยการแปรทานอง คือ การบรรเลงที่มีการดัดแปลง
พลิกแพลงทานองของนักดนตรี ทาให้เกิดการประสานเสียงขึ้น แต่จะถือทานองหลัก
เป็นสาคัญ
๑.๕ พืน้ ผิวของดนตรี
พื้นผิวของดนตรี คือ ลักษณะแนวเสียงต่าง ๆ ในเพลง
ท้ังเสียงทีเ่ กิดขน้ึ ในแนวตัง้ และแนวนอนตามหลักของดนตรไี ทย
๑.๖ คีตลักษณ์
คตี ลกั ษณ์ คือ ลักษณะหรือรูปแบบโครงสรา้ งของเพลงที่
กาหนดขึน้ โดยผู้ประพันธเ์ พลง
1.7 สีสนั ของเสยี ง
สีสนั ของเสียง หมายถงึ ความหลากหลายของเสยี งทเี่ กิดจากเครอ่ื งดนตรี
ตา่ งชนดิ กันบรรเลงในบทเพลงเดยี วกนั คณุ สมบตั ิของเสียงทไ่ี ดย้ นิ แต่ละเสียง
ให้ความรสู้ กึ กับผฟู้ งั ทีแ่ ตกต่างกนั วงดนตรีแตล่ ะประเภทจะมสี สี นั ของเสียงที่
แตกตา่ งกนั ดว้ ย
เอกสารอา้ งองิ
คาคม คนดนตรี
๒. ศพั ทส์ ังคีต ศพั ท์สงั คีต คือ คาศพั ทเ์ ฉพาะทใ่ี ชก้ ับวิชาดนตรแี ละการขับรอ้ ง
เพื่อใหท้ ราบรายละเอยี ดในสิ่งทเี่ รยี นไดง้ ่ายขนึ้
๒. ศพั ท์สงั คตี
๒. ศพั ท์สงั คตี
องคป์ ระกอบดนตรี
และศัพทส์ ังคีต