Intramuscular
injection
ก า ร ฉี ด ย า เ ข้ า ก ล้ า ม เ นื้ อ
Sec B
คำนำ
E-Book เล่มนี้เป็นส่วนหนึ่งของรายวิชา พบ. 213 การพยาบาลพื้นฐาน
ภาคการศึกษาที่ 1 ปีการศึกษา 2565 โดยผู้จัดทำได้จัดทำ E-Book เล่มนี้ขึ้น
เพื่อเป็นการศึกษาการฉีดยาเข้ากล้ามเนื้อและการสร้างนวัตกรรมในการฉีดยาเข้า
กล้ามเนื้อที่ทันสมัย
ทั้งนี้ เนื้อหาที่ผู้จัดทำได้นำมาประกอบในการทำ E-Book เล่มนี้ ได้
รวบรวมข้อมูลอ้างอิงจากวิจัยฉบับภาษาไทยและภาษาอังกฤษ หากมีความผิดพลาด
ประการ ผู้จัดทำขออภัยมา ณ ที่นี้
คณะผู้จัดทำ
สารบัญ
เรื่อง หน้า
การฉีดยาเข้ากล้ามเนื้อ (Intramuscular Injection) 1
การเลือกตำแหน่งบริเวณที่ต้องการฉีดยาเข้ากล้ามเนื้อ 2
อุปกรณ์ที่ใช้ในการฉีดยา 3
ปริมาณยาในการฉีดยาเข้าชั้นกล้ามเนื้อในผู้ใหญ่ 5
การเตรียมผู้ป่วยก่อนการทำหัตถการ 5
วิธีการฉีดยาเข้าชั้นกล้ามเนื้อ 6
ชุดพัฒนาการเครื่องมือสำหรับฝึกทักษะการฉีดยาทางกล้ามเนื้อ 8
การพัฒนาชุดสาธิตการแทงเข็มฉีดยาเข้ากล้ามเนื้อแสดงผล
11
ผ่านสมาร์ตโฟนด้วยแอปพลิเคซันอินเวนเตอร์
อ้างอิง 17
1
การฉีดยาเข้ากล้ามเนื้อ
(Intramuscular Injection)
การฉีดยาเข้ากล้ามเนื้อ (Intramuscular Injection) คือ
การให้ยาเข้าไปในกล้ามเนื้อลายของร่างกาย เช่น กล้ามเนื้อต้น
แขน กล้ามเนื้อต้นขา หรือ กล้ามเนื้อสะโพก เป็นต้น หลังจากนั้น
ยาจะสะสมอยู่ในกล้ามเนื้อ และจะถูกปลดปล่อยดูดซึมเข้าสู่กระแส
เลือด การฉีดยาเข้ากล้ามเนื้อจะทำให้ยาดูดซึมได้เร็ว เพราะมีเลือด
มาเลี้ยงบริเวณที่ฉีดยา นอกจากนี้กล้ามเนื้อเป็นเนื้อเยื่อที่ทนต่อ
การระคายเคืองได้ดี ยาที่มีความเหนียวข้น และระคายเคืองต่อ
เนื้อเยื่อ หรือมีส่วนผสมของน้ำมันยังสามารถฉีดเข้ากล้ามเนื้อได้
แต่อาจเกิดอันตรายต่อเส้นประสาทหรือฉีดเข้าหลอดเลือดได้
2
การเลือกตำแหน่งบริเวณที่ต้องการฉีดยาเข้ากล้ามเนื้อ
บริเวณที่ 1 การฉีดยาเข้ากล้ามเนื้อสะโพก
1.1 การฉีดทางสะโพกด้านข้าง เป็นการฉีดยาเข้ากล้ามเนื้อบริเวณ Ventrogluteal สามารถฉีดให้ได้ทั้งเด็ก และผู้ใหญ่
ควรให้ผู้ป่วยนอนตะแคง งอสะโพกและเข่าข้างที่ฉีดยา วางฝ่ามือซ้ายลงบน บรเิวณ Greater trochanter ที่สะโพก
ด้านขวา โดยให้นิ้วหัวแม่มือหันไปทางด้านศีรษะของผู้ป่วย และนิ้วชี้ไปที่ Anterior superior iliac spine จากนั้นกาง
นิ้วออกไปให้กว้างที่สุด จะมีรูปลักษณะตัว V ขนานบริเวณที่ใช้ฉีดยาคือ กึ่งกลางของ ตัว V จำนวนยาที่ฉีดเข้ากล้ามเนื้อ
สะโพกในแต่ละครั้งไม่ควรเกิน 5 CC.
1.2 การฉีดทางสะโพกด้านหลัง โดยแบ่งกล้ามเนื้อสะโพกออกเป็น 4 ส่วน บริเวณที่ฉีดยาได้ คือ ด้าน
บนสุดส่วนนอก หรือลากเส้นจาก Posterior superior iliac spine ไปยัง Greater trochanter
ของ กระดูกต้นขา ตรงจุดกึ่งกลางเหนือเส้นนี้คือบริเวณที่ฉีดยาได้ และจำนวนยาที่ฉีดเข้ากล้ามเนื้อ
สะโพกในแต่ละครั้งไม่ควรเกิน 5 CC.
3
บริเวณที่ 2 การฉีดยาเข้ากล้ามเนื้อต้นขาด้านหน้า (Vastus lateralis)
ทำการแบ่งหน้าขาตามความยาว จาก greater trochanter ไปยัง lateral femoral condyle ออก
เป็น 3 ส่วน ส่วนกลางเป็นส่วนที่เหมาะสมสำหรับฉีดยา และจำนวนยาที่ฉีดเข้าชั้นกล้ามเนื้อต้นขาใน
แต่ละครั้งไม่ควรเกิน 3 CC.
บริเวณที่ 3 การฉีดยาเข้ากล้ามเนื้อต้นแขน (Deltoid Muscle)
ควรให้ผู้ป่วยนั่งและไม่เกร็งบริเวณต้นแขน โดยวัดจากตำแหน่ง Acromiom process ลงมา 2
– 3 นิ้ว (finger breadths) การฉีดยาเข้ากล้ามเนื้อต้นแขนไม่ควรฉีดในเด็กเล็ก และจำนวน
ยาที่ฉีดเข้าชั้นกล้ามเนื้อต้นแขนในแต่ละครั้งไม่ควรเกิน 2 CC.
4
อุปกรณ์ที่ใช้ในการฉีดยา
1. สำลีชุบแอลกอฮอล์ 70%
2. เข็มดูดยาเบอร์ 18 – 20
3. เข็มฉีดยาเบอร์ 20 – 25 (เลือกขนาดและความยาวเข็ม
ตามความหนืดของน้ำยาและกล้ามเนื้อตำแหน่งที่ฉีด)
4. Syringe ขนาด 3 – 5 CC. (ขึ้นอยู่กับขนาดของยา)
5. ยาฉีดตามแผนการรักษา และ Solvent ที่ใช้ในการ
ผสมยาตามชนิดของยาหรือตามแผนการรักษา
6. ใบเลื่อยสำหรับตัดหลอดยา
7. ชามรูปไต หรือ ถุงขยะ
8. กล่องสำหรับทิ้งปลอกเข็ม
9. พลาสเตอร์
5
ปริมาณยาในการฉีดยาเข้าชั้นกล้ามเนื้อในผู้ใหญ่
การเตรียมผู้ป่วยก่อนการทำหัตถการ
1. อธิบายความจำเป็นและวิธีทำแก่ผู้ป่วยและญาติ
2. ถามประวัติการแพยา และภาวะเลือดออกง่าย
3. เตรียมอุปกรณ์ทุกอย่างให้พร้อมก่อนที่เข้าปฏิบัติ
4. อนุญาตให้ญาติที่ได้รับการอนุมัติ อยู่กับผู้ป่วยขณะที่ทำหัตถการ
6
วิธีการฉีดยาเข้าชั้นกล้ามเนื้อ
1. ตรวจสอบยาฉีดกับใบ MAR ให้ถูกต้องครบถ้วนตรงกัน คำนวณปริมาณยา
ฉีดให้ถูกต้อง พยาบาลอีกคนตรวจสอบความถูกต้องและตรวจสอบซ้ำ (double
check)
2. นำอุปกรณ์กรณ์ไปที่เตียงผู้ป่วย
3. ล้างมือให้สะอาด และเช็ดให้แห้ง ทำความสะอาดมือด้วย Alcohol gel
รอให้แห้ง
4. ผสมยาด้วยเทคนิคปลอดเชื้อและดูดยาให้ครบตามจำนวนแผนการรักษา
5. อธิบายให้ผู้ป่วยทราบวัตถุประสงค์
6. เลือกตาแหน่งที่จะฉีดยา Intramuscular
7. จัดให้ผู้ป่วยอยู่ในท่าที่ผ่อนคลาย ถ้าต้องฉีดยาในตำแหน่งที่ไม่ควรเปิดเผย
ให้ปิดม่าน หรือปิดประตูให้มิดชิด
8. ใช้สำลีชุบ 70% Alcohol เช็ดผิวหนังตำแหน่งที่จะฉีดยาให้สะอาด โดย
เริ่มที่ตำแหน่งแทงเข็ม แล้วเช็ดออกเป็นวงกว้างประมาณ 2 นิ้ว แล้วรอให้แห้ง
จากนั้นเตรียมสำลีแห้งไว้ในมือข้างที่ไม่ถนัด ส่วนมือข้างที่ถนัดให้ถือ
Syringe ในแนวตั้งสูงระดับสายตา เพื่อไล่อากาศออกให้หมด จนกระทั่งมอง
เห็นหยดยาที่ปลายเข็ม
7
วิธีการฉีดยาเข้าชั้นกล้ามเนื้อ
9. ใช้มืออีกข้างดึงผิวหนังบริเวณที่จะฉีดให้ตึง แทงเข็มด้วยความเร็ว
และทำมุม 90๐ ใช้มือข้างถนัดที่ถือเข็ม แล้วดึง plunger ขึ้นเล็กน้อย
เพื่อทดสอบว่าปลายเข็มมีเลือดไหลขึ้นมาหรือไม่
– หากพบว่ามีเลือดไหลเข้ามาใน Syringe ให้ดึงเข็มออกและไป
เตรียมยามาใหม่ทันที
– ถ้าไม่มีเลือดไหลเข้ามาใน Syringe ให้ฉีดยาช้าๆ จนหมด
ในขณะเดียวกันให้สังเกตอาการผู้ป่วย ถ้าพบอาการผิดปกติให้หยุด
ฉีดยาและดึงเข็มออกทันที
10. ใช้สำลีแห้งกดตำแหน่งที่แทงเข็ม ขณะที่ถอนเข็มออก สอดเข็ม
ฉีดยาที่ใช้แล้วเข้าไปในปลอกเข็มด้วย
มือข้างเดียว (one hand technique) หรือ ปลดเข็มฉีดยาโดยใช้
กล่องสำหรับถอดเข็ม แล้วทิ้ง Syringe ในภาชนะที่จัดเตรียมไว
11. สังเกตอาการผิดปกติหลังฉีดยา ถ้ามีอาการให้ช่วยเหลือเบื้องต้น
หรือ รายงานแพทย์
8
ชุดพัฒนาการเครื่องมือสำหรับฝึกทักษะการ
ฉีดยาทางกล้ามเนื้อ
• อุปกรณ์
1. ฟองน้ำชามัว (เป็นฟองน้ำที่ใช้สำหรับเช็ดรถ)
ใช้สำหรับทำเป็นกล้ามเนื้อ การเลือกใช้คือ เลือกที่ด้านบนมีลักษณะนูนและที่ฐานเป็น
สี่เหลี่ยมผืนผ้า ขนาดประมาณ 10 x 20 เซนติเมตร เนื้อของฟองน้ำชามัวจะแน่น เวลาใช้
เข็มแทงลงไปให้ความรู้สึกยืดหยุ่นคล้ายกับฉีดยาในชั้นกล้ามเนื้อ เมื่อเปรียบเทียบกับ
ฟองน้ำชนิดอื่นๆ นอกจากนี้ ฟองน้ำชามัวมีคุณสมบัติอุ้มน้ำ ไว้ได้มาก ง่ายต่อการทำ ความ
สะอาด ไม่ต้องบีบน้ำออกบ่อยขณะที่ใช้ในการฝึก
2. ส่วนรองรับตัวฟองน้ำ
มีลักษณะเป็นแผ่นพลาสติกใส ดัดแปลงมาจากกล่องพลาสติกใสที่ใชสำหรับใส่อาหาร
ขนาดความกว้าง ยาวและหนา ประมาณ 10 x 20 x 0.2 เซนติเมตร โดยตัดให้พอดีกับฐาน
ของฐานของฟองน้ำ
3. ส่วนที่เป็นผ้ารัดทั้งที่หัวไหล่และสะโพก
ใช้เป็นผ้ายืดดัดแปลงมาจากผ้าที่ใช้สำหรับช่วยพยุงแขนและผ้าสำหรับพยุงหลังเวลาออกกำลัง
กายหรือเวลาบาดเจ็บ ซึ่งส่วนปลายของผ้ารัดทั้งสองแบบ มีเทปหนามเตยสามารถติดดึงมา
ประกบติดกันเองได้ และสามารถยืดได้ตามขนาดของต้นแขนและสะโพกของนักศึกษาผู้ใช้
ชุดฝึกฉีดยา
4. เทปหนามเตย
ตัดเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ขนาด 3 x 5 เซนติเมตร ติด ไว้ 2 จุด ตามแนวยาวของฟองน้ำ
และตัวผ้ารัดแขน เพื่อใช้ประกบกันเวลาใช้ฝึกฉีดยาทางกล้ามเนื้อ
5. กาวยางแบบใส
ใช้ติดตัวฟองน้ำ กับฐานรองพลาสติก
9
วิธีทำ “ชุดพัฒนาการเครื่องมือ
สำหรับฝึกทักษะการฉีดยาทางกล้ามเนื้อ”
นำฐานพลาสติกมาติดกับตัวฟองน้ำ หัวไหล่ และหรือฟองน้ำ
1 สะโพก ให้ขนาดพอดีกับตัวฐานของฟองน้ำ โดยใช้กาวยางทา
ที่ตัวฐานให้ทั่วและนำ ฟองน้ำ มาประกอบเข้าด้วยกัน ทิ้งไว้
ประมาณ 3-4 ชั่วโมง เพื่อติดให้สนิท
นำเทปหนามเตยมาทากาวและติดไว้ 2 ตำแหน่ง คือ
ตำแหน่งแรก ติดเทปหนามเตยชนิดเดียวกันโดยติดตรง
กลางสายรัดที่หัวไหล่ และที่สะโพก ตำแหน่งสอง ติดหนาม
เตยที่ตัวฟองน้ำ ซึ่งต้องเป็นเทปหนามเตยแบบที่ต่างจาก
ตำแหน่งแรก จึงจะสามารถนำ มาติดกันได้ โดยจัดให้อยู่
บริเวณกึ่งกลางฟองน้ำ ทิ้งไว้ประมาณ 3-4 ชั่วโมง
2
10
วิธีทำ “ชุดพัฒนาการเครื่องมือ
สำหรับฝึกทักษะการฉีดยาทางกล้ามเนื้อ”
2
นำตัวฟองน้ำ ที่มีฐานพลาสติกมาติดเข้ากับผ้ารัดแขนหรือ
3 สะโพก ดังรูป 1 ค และรูป 2 ค จากนั้นจับปลายทั้งสองด้าน
ของสายรัดที่หัวไหล่พันรอบต้นแขนให้แนบไปกับหัวไหล่
ดังรูป 3 ก และนำสายรัดที่สะโพก พันรอบสะโพกแล้วดึงมา
ประกบติดกัน ดังรูป 3 ข โดยชุดฝึกไม่เลื่อนไปมา จะเป็นการ
เตรียมชุดฝึกฉีดยาทาง กล้ามเนื้อบริเวณหัวไหล่และสะโพก
11
การพัฒนาชุดสาธิตการแทงเข็มฉีดยาเข้ากล้ามเนื้อ
แสดงผลผ่านสมาร์ตโฟนด้วยแอปพลิเคซันอินเวนเตอร์
1. การออกแบบส่วนของโครงสร้าง
1.1 โครงสร้างของชุดสาธิตการแทงเข็มฉีดยาเข้ากล้ามเนื้อแสดงผลผ่านสมาร์ตโฟน
ด้วยแอปพลิเคชันอินเวนเตอร์ นั้นได้นำหุ่นไฟเบอร์ครึ่งตัวชาย ตัดคอ มีแขนมาใช้
ซึ่งหุ่นดังกล่าวคล้ายคลึงกับเพศชาย น้ำหนักเบา ภายในกลวง จึงทำให้ตัดหรือเจาะ
เพื่อติดตั้งอุปกรณ์ได้ง่าย
1.2 ออกแบบและสร้างฐานในการติดตั้งหุ่น
ใช้เหล็กกลล่องเหลี่ยมจัตุรัสขนาด 2×2 เซนติเมตรนํามาตัดให้ได้ความยาว
ขนาด 50 เซนติเมตร จํานวน 2 ท่อน
ความยาวขนาด 30 เซนติเมตร จํานวน 2 ท่อน
ความยาวขนาด 15 เซนติเมตร จํานวน 1 ท่อน
ความยาวขนาด 41.20 เซนติเมตร จํานวน 1 ท่อน และ นําเหล็กกล่อง
สี่เหลี่ยมจัตุรัส ความยาว ขนาด 1.80×1.80 เซนติเมตร และความยาวขนาด
43.50 เซนติเมตร จํานวน 1 ท่อน
นําเหล็กแผ่นที่มีความหนาขนาด 0.50 เซนติเมตรมาตัดทําเป็นแผ่นเพลทให้มีความ
กว้างขนาด 12 เซนติเมตร และความยาวขนาด 12.50 เซนติเมตร เพื่อใช้ยึดระหว่าง
ตัวหุ่นกับโครงสร้างฐานจากนั้นนําเหล็กที่ตัดแต่ละขนาดมาทําการเชื่อมเพื่อทําเป็น
โครงสร้าง ตามการออกแบบ จากนั้น ทําการประกอบเข้ากับหุ่นไฟเบอร์ครึ่งตัวชาย ตัด
คอ มีแขน
12
1.3 ทําการตัดและเจาะจุดต่างๆ ของหุ่นเพื่อติดตั้งอุปกรณ์
บริเวณส่วนบนของคอจะใช้สำหรับติดตั้งสวิตช์การเปิดและการปิดการทำงานของ
ชุดสิตการแทงเข็มฉีดยาเข้ากล้ามเนื้อแสดงผลผ่านสมาร์ตโฟนด้วยแอปพลิเคชัน
อินเวนเตอร์ และหน้าจอแสดงผลของปริมาณแบตเตอรี่ที่ใช้
บริเวณต้นแขนด้านซ้ายใช้ติดตั้งชุดเซ็นเซอร์ที่ใช้สำหรับตรวจสอบการแทงเข็ม
ฉีดยา
บริเวณหน้าอกด้านซ้าย ติดตั้ง LED เพื่อแสดงผลการแทงเข็มฉีดยาในแต่ละครั้ง
ด้านหลังหุ่น ตัดเป็นช่องที่มีความกว้าง 14 เซนติเมตร และความยาว 16
เซนติเมตร ให้สามารถเปิด-เปิดได้ เพื่อใช้สําหรับการติดตั้งวงจรควบคุม
แบตเตอรี่ไว้ภายในตัวหุ่น
บริเวณสะโพกด้านซ้าย ติดตั้งจุดชาร์ตแบตเตอรี่
13
2. การออกแบบส่วนของเซ็นเซอร์จุดแทงเข็มฉีดยา
1.1 การออกแบบเซ็นเซอร์ของจุดแทงเข็มฉีดยาเข้ากล้ามเนื้อ ใช้กล้ามเนื้อบริเวณ
หัวไหล่เป็นจุดที่ใช้ในการแทงเข็มฉีดยา กำหนดระยะห่างของการวาตำแหน่ง
ของผ้านำไฟฟ้า ผ้านำไฟฟ้าดังกล่าวจะทำหน้าที่เป็นเซ็นเซอร์ให้กับชุดสาธิตฯ
ประกอบด้วย 5 ชั้น ดังรูปภาพต่อไปนี้
1.2 ทำการตัดผ้านำไฟฟ้าตามการออกแบบเพื่อใช้เป็นเซ็นเซอร์ โดยมีความกว้าง
5 เซนติเมตร ยาว 9 เซนติเมตร จำนวน 4 ชิ้น และความกว้าง 4 เซนติเมตร
ยาว 4 เซนติเมตร จำนวน 1 ชิ้น แต่ละชิ้นจะถูกเชื่อมต่อด้วยสายไฟเพื่อนำ
มาใช้งาน หลังจากหล่อจุดแทงเข็มฉีดยารวมเข้าด้วยกัน ดังรูปภาพต่อไปนี้
14
1.3 การสร้างจุดแทงเข็มฉีดยา ใช้ยางซิลิโคน RTV2-230MW พร้อมตัวเร่งการแข็งตัว
RTV2-230MW ผสมอัตราส่วน 100:2 กรัม ทำการผสมกับสีผสมยางซิลิโคน
ประกอบด้วย 2 สี คือสีเหลืองและสีแดง เมื่อผสมเสร็จแล้วนำยางซิลิโคนผสมกับตัว
เร่งการแข็งเทลงในบล็อกดินน้ำมันที่เตรียมไว้ ความหนา 0.50 เซนติเมตร เพื่อเป็น
ชั้นนอกสุดชั้นที่ 1 (รูปที่ 3a) รอให้ซิลิโคนเซ็ตตัว จากนั้นนำผนำไฟฟ้าชั้นที่ 2
(รูปที่ 3b) ลงไป แล้วเททับด้วยยางซิลิโคนความหนา 1.00 เซนติเมตร รอให้ซิลิ
โคนเซ็ตตัวแล้ววางผ้านำไฟฟ้าชั้นที่ 3 ( รูปที่ 3c )ลง เททับด้วยยางซิลิโคนความ
หนา 1.50 เซนติเมตร รอให้ซิลิโคนเซ็ตตัวแล้ววางผ้านำไฟฟ้าชั้นที่ 4 ( รูปที่ 3d
ทับด้วยยางซิลิโคนที่ความหนา 1.00 เซนติเมตร รอให้ซิลิโคนเซ็ตตัวแล้ววางผ้านำ
ไฟฟ้าชั้นที่ 5 ( รูปที่ 3e ) เททับด้วยยางซิลิโคนที่ความหนา 0.50 เซนติเมตร รอ
ให้ซิลิโคนเซ็ตตัว จากนั้นทำการเชื่อมต่อสายไฟเข้ากับผ้านำไฟฟ้าในทุกๆ ชั้น
พร้อมบัดกรีปลายสายไฟเข้ากับหัวต่อ USB จากนั้นเทยางซิลิโคนที่ผสมแล้วลงเพื่อ
ปิดจุดเชื่อมต่อสายไฟ ( รูปที่ 3f ) จะได้จุดแทงเข็มฉีดยาที่พร้อมนำไปใช้ประกอบ
เข้ากับแขนหุ่นและชุดควบคุมต่อไป ดังรูปภาพต่อไปนี้
15
3. การออกแบบและสร้างวงจรควบคุม
3.1 การออกแบบวงจรควาบคุม
ทําการสร้างครีมเมทริกซ์ เพื่อเป็นการกําหนดการเชื่อมต่อของอุปกรณ์ ตําแหน่ง
การวางอุปกรณ์ที่ใช้ประกอบเป็นวงจร (8a) ต่อมาสร้างลายวงจรพิมพ์จากครีมเม
ทริกซ์ที่สร้างขึ้น (8b) เมื่อได้ลายวงจรพิมพ์แล้วนําไปสร้างเป็นแผ่นวงจรพิมพ์และ
ทําการติดตั้งอุปกรณ์ลงบนแผ่นวงจรพิมพ์ที่สร้างขึ้นตามการออกแบบ (8c)
3.2 การออกแบบโปรแกรมที่ใช้ในการทำงาน มีการออกแบบโปรแกรมที่ใช้ในการ
พัฒนาชุดสาธิตการแทงเข็มฉีดยาเข้ากล้ามเนื้อแสดงผลผ่านสมาร์ตโฟนด้วยแอป-
พลิเคชันอินเวนเตอร์ให้ดำเนินการตามเงื่อนไขดังนี้
16
จากนั้นทําการสร้างโปรเจกต์และเขียนโปรแกรม บนเว็บเบราว์เซอร์ที่สามารถเชื่อม
ต่อไปยัง Appinventor servers เมื่อได้โปรแกรมแล้วนํามาทดสอบกับโปรแกรม
มือถือจําลอง (Android emulator) หรือโทรศัพท์มือถือ Android โดยการวิจัยใน
ครั้งนี้ ได้ประยุกต์ใช้ inventor application ในการรับข้อมูลของการแสดงผล
ผ่านโทรศัพท์มือถือด้วยระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ ที่ถูกเชื่อมต่อด้วย Bluetooth
ในการทํางานเมื่อได้รับค่าจากเซนเซอร์และถูกประมวลผลด้วยบอร์ดอาดูโน- ยูโน
อาร์ 3 ข้อมูลจะแสดงผลผ่านสมาร์ตโฟนด้วยแอปพลิเคชันอินเวนเตอร์ โดยขั้นตอ
นการทํางาน แสดงในผังงานดังต่อไปนี้
17
อ้างอิง
วาสนา เกษมสินธ์ และจุลศักดิ์ โยลัย. (2563). การพัฒนาชุดสาธิตการแทงเข็ม
ฉีดยาเข้ากล้ามเนื้อแสดงผลผ่านสมาร์ตโฟนด้วยแอปพลิเคซันอินเวน
เตอร์.
วารสารมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ. 8(1). 112 – 125.
รวีวรรณ์ ตันสุวัฒน์. (30 มีนาคม 2565). งานผู้ป่วยในศูนย์การแพทย์มหิดล
บำรุงรักษ์ จังหวัดนครสวรรค์. การฉีดยาเข้ากล้ามเนื้อ. 1(1). 1 – 11.
ณัฏฐชา เจียรนิลกุลชัย และจินดา นันทวงษ์. (2559). การพัฒนาชุดฝึกฉีดยา
ทางกล้ามเนื้อเพื่อสอนนักศึกษาพยาบาลและการประเมินประสิทธิผล.
36(2). 65 – 77
วนิดา เปาอินทร์. (2563). การฉีดยา. การฉีดยาเข้ากล้ามเนื้อ. http://www.thai
pedlung.orgcxrE3%B9%E0%B4%E7%A1.doc
Shepherd Elileen. (2018). Injection techniques 1 : administering drugs
via intramuscular route. Nursing Times. 114(8). 23 – 25
สมาชิก
นางสาวรังสิมา ติวาติน 6401210194
นางสาวพัชริญา สิงหาทา 6401210316
นางสาวปิยรมณ์ ทะนะวงศ์ 6401210507
นางสาวสุวิพัชรี บุญส่ง 6401210538
นางสาวจุฑามาศ ตุงคนาคร 6401210583
นางสาวกรกช นาคสวน 6401210606
นางสาวหนึ่งฤทัย สุริโย 6401210620