The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

เรื่องราวของประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวกับการศึกษาเรียนรู้เรื่องความขัดแย้งในคริสต์ศตวรรษที่20 เช่น วิกฤตการณ์ทางการเมือง, สงครามโลกครั้งที่1,2

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Theeraya Satjawitwisan, 2023-03-03 21:52:40

ความขัดแย้งในคริสต์ศตวรรษที่20ถึงปัจจุบัน

เรื่องราวของประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวกับการศึกษาเรียนรู้เรื่องความขัดแย้งในคริสต์ศตวรรษที่20 เช่น วิกฤตการณ์ทางการเมือง, สงครามโลกครั้งที่1,2

ความขัดแย้งในคริสต์ ศตวรรษที่ 20 จนถึงปัจจุบัน


PAGE 02 OF 10 เสนอ คุณ คุ ครู อภิชภิา จัน จั ทร์ด ร์ า จัดทำ โดย นายธนทรัพ รั ย์ ลาพวง เลขที่1ที่ 0 ม.5/10 นางสาวธีร ธี ะญา สัจ สั วิทวิย์วิ ย์ ศวิาล เลขที่2ที่ 3 ม.5/10


PAGE 03 OF 10 การปฏิวัฏิติ วั อุติต อุ สาหกรรมและความก้า ก้ วหน้า น้ ทางวิทวิยาการของโลกในคริสริต์ส ต์ ต วรรษที่ 19 ทำ ให้โห้ ลกก้า ก้ วหน้า น้ มากขึ้น ขึ้ ทำ ให้เ ห้ กิดกิการพัฒ พั นาด้า ด้ นอุต อุ สาหกรรมและ พาณิชณิยกรรม อัน อั มีผ มี ลทำ ให้เ ห้ กิดกิลัท ลั ธิจัธิก จั รวรรดินิดิยนิมของชาติมติหาอำ นาจ และ เริ่มริ่แข่ง ข่ ขัน ขั กัน กั แสวงหา อาณานิคนิมในดินดิแดนโพ้น พ้ ทะเลการปฏิวัฏิติ วั ใตินฝรั่ง รั่ เศสเมื่อ มื่ ค.ศ. 1789 โดยการล้ม ล้ ล้า ล้ งสถาบัน บั กษัตริย์ริแ ย์ ล้ว ล้ ตั้ง ตั้ รัฐ รั บาลที่ม ที่ าจากประชาชน ตลอดจนการปฏิวัฏิติ วั ขติองชาวอเมริกัริน กั เพื่อ พื่ แยกตัว ตั เป็น ป็ อิสอิระจากอัง อั กฤษใน ค.ศ. 1776 รวมทั้ง ทั้ ความเจริญริทางด้า ด้ นอุต อุ สาหกรรม ด้า ด้ นพาณิชณิกรรมและลัท ลั ธิ จัก จั รวรรดินิดิยนิมได้มี ด้ ส่ มี ว ส่ นกระตุ้นตุ้ให้เ ห้ กิดกิเหตุก ตุ ารณ์ค ณ์ วามขัด ขั แย้ง ย้ ที่สำ ที่ สำคัญ คั ใน ประวัติ วั ศติาสตร์ที่ ร์ มี ที่ ผ มี ลกระทบต่อ ต่ มวลมนุษ นุ ยชาติใตินช่ว ช่ งคริสริต์ศ ต์ ตวรรษที่ 20


PAGE 04 OF 10 ต้น ต้ คริสริต์ศ ต์ ตวรรษที่ 20 ได้เ ด้ กิดกิวิกวิฤตการณ์ก ณ์ ารเมือ มื งระหว่า ว่ งประเทศหลายครั้ง รั้ ที่เ ที่ ป็น ป็ พื้น พื้ ฐานของความขัด ขั แย้ง ย้ ระหว่า ว่ งกลุ่มลุ่ ประเทศ มหาอำ นาจในยุโ ยุ รปทั้ง ทั้ 2 ค่า ค่ ย นำ ไปสู่ก สู่ ารเกิดกิสงครามโลกขึ้น ขึ้ วิก วิ ฤตการณ์ท ณ์ างการเมือ มื ง


วิ ก วิ ฤ ต ก า ร ณ์ โ ณ์ ม ร็ อ ร็ ก โ ก ค รั้ งรั้ ที่ 1 เ รี ย รี ก กั น กั ว่ าว่ “ วิ ก วิ ฤ ต ก า ร ณ์ แ ณ์ ท น เ จี ย จี ร์ ”ร์ • มี ส มี า เ ห ตุ ม ตุ า จ า ก ค ว า ม ขั ด ขั แ ย้ ง ย้ ท า ง ก า ร เ มื อ มื ง ร ะ ห ว่ าว่ง ฝ รั่ งรั่ เ ศ ส กั บ กั เ ย อ ร ม นี ใ นี น โ ม ร็ อ ร็ ก โ ก • จั กจั ร พ ร ร ดิ วิ ดิ ล วิ เ ลี ย ลี ม ที่ 2 แ ห่ งห่จั กจั ร ว ร ร ดิ เ ดิ ย อ ร มั น มั ท ร ง ป ร ะ ก า ศ ว่ าว่เ ย อ ร ม นี จ นี ะ ป ก ป้ อ ป้ ง อำ น า จ อ ธิ ป ธิ ไ ต ย ข อ ง โ ม ร็ อ ร็ ก โ ก คำ ป ร ะ ก า ศ ข อ ง พ ร ะ อ ง ค์ นำ ค์ นำ ไ ป สู่ วิ สู่ ก วิ ฤ ต ก า ร ณ์ โ ณ์ ม ร็ อ ร็ ก โ ก ค รั้ งรั้ ที่ 1 • วิ ก วิ ฤ ต ก า ร ณ์ สิ้ ณ์ น สิ้ สุ ด สุ ล ง ห ลั งลั ก า ร ล ง น า ม ร่ วร่ม กั น กั ใ น ค ว า ม ต ก ล ง บั ญบั ญั ติ ญั แ ติ ห่ งห่อั ลอั เ ค ซี ร ซี า ส จั กจั ร พ ร ร ดิ วิ ดิ ล วิ เ ลี ย ลี ม ที่ 2 แ ห่ งห่จั กจั ร ว ร ร ดิ เ ดิ ย อ ร มั น มั วิ ก วิ ฤ ต ก า ร ณ์ ท ณ์ า ง ก า ร เ มื อ มื ง วิ ก วิ ฤ ต ก า ร ณ์ โ ณ์ ม ร็ อ ร็ ก โ ก ค รั้ งรั้ ที่ 2 เ รี ย รี ก กั น กั ว่ าว่ “ วิ ก วิ ฤ ต ก า ร ณ์ อ ณ์ า ก า ดี ร์ ดี ”ร์ • เ กิ ด กิ จ า ก ก า ร เ ค ลื่ อ ลื่ น ไ ห ว ล้ ม ล้ ล้ า ล้ ง อ า น า จ สุ ล สุ ต่ าต่น ฝ รั่ งรั่ เ ศ ส ส่ งส่ก อ ง ก า ลั งลั เ ข้ า ข้ ไ ป ค ว บ คุ ม คุ ส ถ า น ก า ร ณ์ แ ต่ เต่ย อ ร ม นี ต่ นี อต่ต้ า ต้ น ก า ร แ ท ร ก แ ซ ง ข อ ง ฝ รั่ งรั่ เ ศ ส แ ล ะ ส่ งส่เ รื อ รื ร บ เ ข้ า ข้ ไ ป ยั งยั เ มื อ มื ง อ า ก า ดี ร์ ดี ร์ • อั งอั ก ฤ ษ ซึ่ ง ซึ่ เ ป็ น ป็ พั น พั ธ มิ ต มิ ร ข อ ง ฝ รั่ งรั่ เ ศ ส เ ต รี ย รี ม กำ ลั งลั ท า ง ท ะ เ ล เ พ ร า ะ เ ข้ า ข้ ใจ ว่ าว่เ ย อ ร ม นี อ นี า จ ใ ช้ อ า ก า ดี ร์ ดี เ ร์ ป็ น ป็ ฐ า น ทั พ ทั เ รื อ รื โจ ม ตี อั ตี งอั ก ฤ ษ • เ ย อ ร ม นี ยั นี งยั ไ ม่ พม่ร้ อ ร้ ม จ ะ ท า ส ง ค ร า ม จึ ง จึ ข อ เ จ ร จ า กั บ กั ฝ รั่ งรั่ เ ศ ส โ ด ย ย อ ม รั บรั ร อ ง ใ ห้ โ ม ร็ อ ร็ ก โ ก เ ป็ น ป็ รั ฐรั ใ ต้ อ า รั กรั ข า ข อ ง ฝ รั่ งรั่ เ ศ ส เ ห ตุ ก ตุ า ร ณ์ จึ ณ์ ง จึ ยุ ติ ยุ ล ติ ง ภ า พ ก า ร์ ตู ร์ น ตู “ กำ ปั้ น ปั้ เ ห ล็ ก ล็ ข อ ง จั กจั ร พ ร ร ดิ แ ดิ ห่ งห่เ ย อ ร ม นี ทุ บ ทุ เ มื อ มื ง ท่ าท่อ า ก า ร ดี ร์ ดี ”ร์ แ ส ด ง ถึ ง ถึ ก า ร ต่ อต่ต้ า ต้ น ฝ รั่ งรั่ เ ศ ส ข อ ง เ ย อ ร ม นี ใ น วิ ก วิ ฤ ต ก า ร ณ์ อ ณ์ า ก า ดี ร์ ดี ค ร์ รั้ งรั้ ที่ 2 วิ ก ฤ ต ก า ร ณ์ โ ม ร็ อ ก โ ก P A G E 0 5 O F 1 0


วิกฤตการณ์บอสเนีย เป็น ป็ ผลสืบ สื เนื่อ นื่ งมาจากออสเตรีย รี-ฮัง ฮั การีเ รี ข้า ข้ ยึด ยึ ครองบอสเนีย นี และเฮอร์เ ร์ ซโกวีน วี า • รัส รั เซีย ซี และเซอร์เ ร์ บีย บี ต่อ ต่ ต้า ต้ นการยึด ยึ ครองดัง ดั กล่า ล่ วโดยเซอร์เ ร์ บีย บี เรีย รี กร้อ ร้ งให้อ ห้ อสเตรีย รี-ฮัง ฮั การี คืน คื บอสเนีย นี แก่ เซอร์เ ร์ บีย บี • เยอรมนีส นี นับ นั สนุน นุ ออสเตรีย รี-ฮัง ฮั การี และพร้อ ร้ มใช้ก ช้ าลัง ลั ทหารตัด ตั สินสิหากเซอร์เ ร์ บีย บี ยัง ยั คงยืน ยื ยัน ยั ให้คื ห้ น คื ดินดิแดน PAGE 06 OF 10 • รัส รั เซีย ซี สนับ นั สนุน นุ เซอร์เ ร์ บีย บี แต่ไต่ ม่พ ม่ ร้อ ร้ มจะก่อ ก่ สงครามจึง จึ เจรจา ลับ ลั กับ กั เยอรมนี • รัส รั เซีย ซี ยอมรับ รั การผนวกบอสเนีย นี และเฮอร์เ ร์ ซโกวีน วี า และออสเตรีย รี-ฮัง ฮั การี ต้อ ต้ งยอมให้รั ห้ ส รั เซีย ซี ใช้น่ ช้ า น่ นน้ำ ในช่อ ช่ งแคบบอส ฟอรัส รั ดาร์ด ร์ ะเนลล์ • ข้อ ข้ ตกลงดัง ดั กล่า ล่ วทาให้วิ ห้ กวิฤตการณ์บ ณ์ อสเนีย นี ยุติ ยุ ลติง โดยปราศจากสงคราม


เกิดกิขึ้น ขึ้ ระหว่า ว่ ง ค.ศ. 1914–1918 เกิดกิจากความขัด ขั แย้ง ย้ ของประเทศในทวีปวี ยุโ ยุ รปและลุก ลุ ลามไปยัง ยั ประเทศ ต่า ต่ ง ๆ ทั่ว ทั่ โลก สร้า ร้ งความเสีย สี หายให้แ ห้ ก่สั ก่ ง สั คมโลกอย่า ย่ งร้า ร้ ยแรง ผลของสงคราม สงครามโลกครั้ง รั้ ที่ 1 สิ้นสิ้สุด สุ ลงเมื่อ มื่ เดือ ดื นพฤศจิกจิายน ค.ศ. 1918 โดยเยอรมนีพ่ นี า พ่ ยแพ้ย พ้ อมยุติ ยุติ สงคราม ผลของสงครามสร้า ร้ งความเสีย สี หายอย่า ย่ งใหญ่ห ญ่ ลวงให้แ ห้ ก่ทั้ ก่ ง ทั้ 2 ฝ่า ฝ่ ย ดัง ดั นี้ 1. ทางด้า ด้ นสัง สั คม สงครามโลกครั้ง รั้ ที่ 1 มีท มี หารทั้ง ทั้ ฝ่า ฝ่ ยสัม สั พัน พั ธมิตมิรและฝ่า ฝ่ ยมหาอำ นาจกลางเข้า ข้ ร่ว ร่ มประมาณ 65 ล้า ล้ นคน เสีย สี ชีวิ ชี ตวิไปประมาณ 8.6 ล้า ล้ น ทำ ให้เ ห้ กิดกิ ปัญ ปั หาชนพลัด ลั ถิ่นถิ่ ปัญ ปั หาโรคจิตจิจากการ หวาดกลัว ลั 2. ทางด้า ด้ นการเมือ มื ง ยุโ ยุ รปอ่อ อ่ นแอลง ประเทศมหาอำ นาจกลางต้อ ต้ งเสีย สี อาณานิคนิม 3. ทางด้า ด้ นเศรษฐกิจกิเกิดกิภาวะเศรษฐกิจกิตกต่ำ ไปทั่ว ทั่ โลก PAGE 07 OF 10 สงครามโลกครั้งที่ 1


สง ค ร า ม โล ก ค รั้ งรั้ ที่ 2 ส ง ค ร า ม โ ล ก ค รั้ งรั้ ที่ 2 เ ป็ น ป็ ส ง ค ร า ม ที่ เ ที่ กิ ด กิ ขึ้ น ขึ้ ร ะ ห ว่ าว่ง ค.ศ. 1 9 3 9 – 1 9 4 5 เ ป็ น ป็ ค ว า ม ขั ด ขั แ ย้ ง ย้ ข อ ง ป ร ะ ช า ช า ติ ที่ ติ ส ที่ ร้ าร้ ง ค ว า ม เ สี ย สี ห า ย อ ย่ าย่ง ก ว้ า ว้ ง ข ว า ง แ ล ะ ม า ก ก ว่ าว่ส ง ค ร า ม โ ล ก ค รั้ งรั้ ที่ 1 ห ล า ย เ ท่ าท่ผลของสงครามสงครามโลกครั้งรั้ที่ 2 สร้าร้งความสูญสูเสียสีมากกว่าว่สงค ร า ม โ ล ก ค รั้ งรั้ ที่ 1 ห ล า ย เ ท่ าท่คื อ คื 1. ด้ า ด้ น สั งสั ค ม ส ง ค ร า ม โ ล ก ค รั้ งรั้ ที่ 2 ทำ ใ ห้ มี ห้ ผู้ มี เ ผู้ สี ย สี ชี วิ ชี ต วิ ไ ม่ น้ม่อน้ ย ก ว่ าว่ 6 8 ล้ า ล้ น ค น แ ล ะ มี ผู้ มี บ ผู้ า ด เ จ็ บ จ็ ทุ พ ทุ พ ล ภ า พ ห า ย ส า บ สู ญ สู จำ น ว น ม า ก 2. ด้ า ด้ น ก า ร เ มื อ มื ง ป ร ะ เ ท ศ ผู้ แ ผู้ พ้ ส พ้ ง ค ร า ม ต้ อ ต้ ง ยิ น ยิ ย อ ม ป ฏิ บั ฏิ ติ บั ต ติ า ม ส น ธิ สั ธิ ญสั ญ า ต่ าต่ง ๆ ที่ ฝ่ ที่ าฝ่ย ช น ะ ส ง ค ร า ม ว า ง เ งื่ อ งื่ น ไ ข ไ ว้ 3. เ ศ ร ษ ฐ กิ จ กิ ป ร ะ เ ท ศ ต่ าต่ง ๆ ต้ อ ต้ ง เ สี ย สี ค่ าค่ ใ ช้ จ่ ช้ าจ่ย ไ ป เ ป็ น ป็ จำ น ว น ม า ก ใ น ส ง ค ร า ม โ ล ก ค รั้ งรั้ ที่ 2 เ พื่ อ พื่ บำ รุ ง รุ ก อ ง ทั พ ทั ผ ลิ ต ลิ อ า วุ ธ วุ ที่ ทั ที่ น ทั ส มั ย มั ท วี ป วี ยุ โ ยุ ร ป ห ม ด อำ น า จ ห ลั งลั ส ง ค ร า ม โ ล ก ค รั้ งรั้ ที่ 2 ยุ ติ ยุ ล ติ ง ทำ ใ ห้ เ ห้ กิ ด กิ ป ร ะ เ ท ศ ม ห า อำ น า จ ใ ห ม่ ไ ด้ แ ด้ ก่ ส ห รั ฐรั อ เ ม ริ ก ริ า แ ล ะ ส ห ภ า พ โซ เ วี ย วี ต P A G E 0 8 O F 1 0


สงครามเย็น สงครามเย็น ย็ หมายถึง ถึ ความขัด ขั แย้ง ย้ ทางอุด อุ มการณ์ ทางการเมือ มื งของ 2 อภิมภิหาอำ นาจ คือ คื สหรัฐ รั อเมริกริา และ สหภาพโซเวีย วี ต PAGE 09 OF 10 การสิ้นสิ้สุด สุ สงครามเย็น ย็ สภาวะสงครามเย็น ย็ เริ่มริ่ลดความรุน รุ แรงลงเมื่อ มื่ มีฮ มี าอิลอิกอร์บ ร์ าชอฟ (Mikhail Gorbachev) เป็น ป็ เลขานุก นุ ารพรรคคอมมิวมินิสนิต์แ ต์ ละผู้นำผู้นำสหภาพ โซเวีย วี ตใน ค.ศ. 1985 กอร์บ ร์ าชอฟได้ปด้ ระกาศนโยบายเปิดปิ–ปรับ รั หรือ รื กลาสน อสต์-ต์ เปเรสตรอยกา (Glasnost-Perestroika) ปฏิรูฏิ ป รู การเมือ มื งเศรษฐกิจกิ ของสหภาพโซเวีย วี ตให้เ ห้ป็น ป็ เสรีนิ รี ยนิมประชาธิปธิไตยมากขึ้น ขึ้ พร้อ ร้ มกับ กั สร้า ร้ ง ความสัม สั พัน พั ธ์กั ธ์ บ กั ชาติต่ติา ต่ ง ๆ โดยเฉพาะสหรัฐ รั อเมริกริา จุด จุ เริ่มริ่ต้น ต้ ของการสิ้นสิ้สุด สุ ของสภาวะสงครามเย็น ย็ เริ่มริ่ต้น ต้ จากเหตุก ตุ ารณ์ที่ ณ์ ที่ ประชาชนชาวเยอรมนีต นี ะวัน วั ออกเรีย รี กร้อ ร้ งเสรีภ รี าพทางการเมือ มื งทั่ว ทั่ ประเทศ ทำ ลายกำ แพงเบอร์ลิ ร์ นลิซึ่ง ซึ่ เป็น ป็ สัญ สั ลัก ลั ษณ์ข ณ์ องการแบ่ง บ่ ฝ่า ฝ่ ยเสรี ประชาธิปธิไตยกับ กั ฝ่า ฝ่ ยคอมมิวมินิสนิต์ ซึ่ง ซึ่ เหตุก ตุ ารณ์ทำ ณ์ ทำลายกำ แพงเบอร์ลิ ร์ นลินี้ นับ นั ว่า ว่ เป็น ป็ เหตุก ตุ ารณ์สำ ณ์ สำคัญ คั ที่มี ที่ ค มี วามหมายว่า ว่ สภาวะสงครามเย็น ย็ ใกล้ยุ ล้ ติ ยุ ลติง แล้ว ล้


สงครามอิรัก เป็น ป็ ความขัด ขั แย้ง ย้ ที่เ ที่ กิดกิขึ้น ขึ้ ในประเทศอิรัอิก รั ตั้ง ตั้ แต่วั ต่ น วั ที่ 20 มีน มี าคม พ.ศ. 2546 ด้ว ด้ ยการรุก รุ รานอิรัอิก รั โดยสหรัฐ รั อเมริกริา ซึ่ง ซึ่ มีปมี ระธานาธิบธิดีจ ดี อร์จ ร์ ดับ ดั เบิลบิยู.ยู บุช บุ เป็น ป็ ผู้นำผู้นำและสหราชอาณาจัก จั รซึ่ง ซึ่ มีน มี ายกรัฐ รั มนตรีโรี ทนี แบลร์เ ร์ป็น ป็ ผู้นำผู้นำ สงคราม คราวนี้อ นี้ าจเรีย รี กชื่อ ชื่ อื่น อื่ ว่า ว่ การยึด ยึ ครองอิรัอิก รั , สงครามอ่า อ่ วครั้ง รั้ ที่ส ที่ อง หรือ รื ปฏิบัฏิติ บั กติารเสรีภ รี าพอิรัอิก รั โดยทหารสหรัฐ รั สงครามครั้ง รั้ นี้ส นี้ หรัฐ รั อเมริกริาได้ปด้ ระกาศให้สิ้ ห้ นสิ้สุด สุ ลงอย่า ย่ งเป็น ป็ ทางการเมื่อ มื่ วัน วั ที่ 15 ธัน ธั วาคม พ.ศ. 2554 แม้ค ม้ วามรุน รุ แรงประปรายยัง ยั มีต่ มี อ ต่ ไปทั่ว ทั่ ประเทศ ประธานาธิบธิดีจ ดี อร์จ ร์ ดับ ดั เบิลบิยู บุช บุ แห่ง ห่ สหรัฐ รั ฯ แย้ง ย้ ว่า ว่ ความเปราะบางของสหรัฐ รั อเมริกริาหลัง ลั การโจมตี 11 กัน กั ยายน พ.ศ. 2544 รวมกับ กั ข้อ ข้ กล่า ล่ วหาว่า ว่ อิรัอิก รั ยัง ยั คงครอบครองและผลิตลิอาวุธ วุ ที่มี ที่ อำ มี อำนาจทำ ลายล้า ล้ งสูง สู อย่า ย่ งต่อ ต่ เนื่อ นื่ ง และ การสนับ นั สนุน นุ กลุ่มลุ่ ก่อ ก่ การร้า ร้ ย รวมทั้ง ทั้ อัล อั กออิดอิะห์ ทำ ให้ส ห้ หรัฐ รั ฯ ชอบธรรม การทำ สงครามกับ กั อิรัอิก รั สงครามอิรัอิก รั หรือ รื ที่เ ที่ รีย รี กว่า ว่ สงครามอ่า อ่ วเปอร์เ ร์ ซีย ซี ครั้ง รั้ ที่ส ที่ องเริ่มริ่ขึ้น ขึ้ เมื่อ มื่ วัน วั ที่ 20 มีน มี าคม พ.ศ. 2546 ประธานาธิบธิดีจ ดี อร์จ ร์ ดับ ดั เบิลบิยู บุช บุ แห่ง ห่ สหรัฐ รั ฯ โต้เ ต้ ถีย ถี งฐานโจมตีอิ ตี รัอิก รั เมื่อ มื่ วัน วั ที่ 17 มีน มี าคม พ.ศ. 2546 บุช บุ ได้ปด้ ระกาศยุติ ยุ กติารทูต ทู และยื่น ยื่ คำ ขาดต่อ ต่ ซัด ซั ดัม ดั ฮุส ฮุ เซน โดยให้เ ห้ วลาประธานาธิบธิดี อิรัอิก รั ออกจากอิรัอิก รั 48 ชั่ว ชั่ โมง ซัด ซั ดัม ดั ปฏิเฏิสธ และสหรัฐ รั ฯ โจมตีเ ตี มื่อ มื่ วัน วั ที่ 20 มีน มี าคม กองทัพ ทั สหรัฐ รัประกาศอย่า ย่ งเป็น ป็ ทางการให้ยุ ห้ ติ ยุ สติงครามอิรัอิก รั ในพิธีพิที่ ธี ก ที่ รุง รุ แบกแดดเมื่อ มื่ วัน วั ที่ 15 ธัน ธั วาคม 2554 เนื่อ นื่ งจากกองทหารสหรัฐ รั ฯ เตรีย รี มถอนทหารออกจากประเทศ PAGE 10 OF 10


Click to View FlipBook Version