การวิจัยเชิงสารวจ (survey research)
๑.ลักษณะของการวิจัย
เป็นการวิจัยท่ีเน้นการศึกษารวบรวมข้อมูลต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น
ในปัจจุบัน โดยการดาเนินการวิจัยไม่มีการสร้างสถานการณ์
เพื่อศึกษาผลท่ีตามมา แต่เป็นการค้นหาข้อเท็จจริงหรือ
เหตกุ ารณ์ต่าง ๆ ท่เี กดิ ขึน้ อยู่แล้ว
การวิจัยเชิงสารวจ (survey research)
๑.ลกั ษณะของการวิจัย
การวิจัยเชิงสารวจเป็นระเบียบวิธีวิจัยที่มีวัตถุประสงค์เพื่อ
แสวงหาข้อมูลเก่ียวกับกลุ่มบุคคลต่าง ๆ ในด้านความรู้
ความรู้สึก ความเชื่อ การกระทา รสนิยม ค่านิยม ฯลฯ
โดยดาเนินการอย่างเป็นระบบด้วยการให้บุคคลดังกล่าว
รายงานขอ้ มลู ดว้ ยตนเอง
การวิจยั เชงิ สารวจ (survey research)
๑.ลักษณะของการวจิ ัย
การวิจัยเชิงสารวจมีหลายลักษณะ เช่น การสารวจข้อมูล
เชิงพรรณนา การสารวจข้อมูลเชิงอธิบาย การวิจัย
ประเมินผล การวจิ ยั การตลาด เป็นตน้
การวจิ ยั เชงิ สารวจ (survey research)
๑.ลกั ษณะของการวิจยั
องค์ประกอบของการวิจัยเชิงสารวจโดยทั่วไป ได้แก่
ประเด็นการวิจัย การรายงานด้วยตนเอง ตัวแทน และ
ข้อสรุปที่เปน็ นยั ทว่ั ไป
การวจิ ัยเชงิ สารวจ (survey research)
๑.ลกั ษณะของการวิจยั
รูปแบบการวิจัยเชิงสารวจ Survey Research Design
เป็นการดาเนินการเก็บข้อมูลที่ต้องการศึกษาประชากรส่วน
ใหญ่ จากกลมุ่ ตัวอย่างจานวนหนึ่งของประชากรกล่มุ น้ัน
การวจิ ัยเชงิ สารวจ (survey research)
๒.เครอ่ื งมอื ในการวิจยั
ได้แก่ แบบสอบถาม หรอื
แบบสัมภาษณ์แบบอิงโครงสร้าง
การวิจยั เชงิ สารวจ (survey research)
๒.เครื่องมือในการวจิ ยั
การใชแ้ บบสอบถาม
แบบสอบถาม หมายถึง คาถามหรือชุดของคาถามที่เราคิดข้ึน
เพื่อเตรียมไว้ไปถามผู้ท่ีทราบข้อมูลตามท่ีเราต้องการทราบ อาจจะ
ถามเอง ให้คนอื่นไปถาม หรือส่งแบบสอบถามไปให้กรอกตาม
แบบฟอร์มคาถามท่ีกาหนดให้ แล้วนาคาตอบที่ได้มาวิเคราะห์แปล
ความหมายต่อไป
การวิจยั เชิงสารวจ (survey research)
๒.เคร่อื งมอื ในการวิจัย
ขอ้ ดีของแบบสอบถาม
- แบบสอบถามที่ดี ผู้ตอบจะตอบอย่างสะดวกใจมากกว่าการ
สัมภาษณ์
- ถ้าสร้างแบบสอบถามให้ดีแล้ว การวิเคราะห์ข้อมูลทาได้ง่ายกว่า
การสัมภาษณ์
การวิจยั เชงิ สารวจ (survey research)
๒.เคร่ืองมอื ในการวิจยั
ขอ้ ดขี องแบบสอบถาม
- สามารถควบคุมให้แบบสอบถามถึงมือผู้รับได้ในเวลาไล่เลี่ยกัน จึง
ทาให้การตอบ (ถ้าตอบทันที) ได้แสดงถึงความคิดเห็นของ
สภาวการณ์ในเวลาทใ่ี กล้เคียงกนั ได้
- ผู้ตอบต้องตอบข้อความท่ีเหมือนกัน และแบบฟอร์มเดียวกัน เป็น
การควบคมุ สภาวะที่คลา้ ยกัน ทาให้สรปุ ผลได้ดกี ว่าการสมั ภาษณ์
การวิจยั เชงิ สารวจ (survey research)
๒.เครือ่ งมือในการวิจัย
ขอ้ จากดั ของแบบสอบถาม
- มักจะไดแ้ บบสอบถามกลบั คืนจานวนนอ้ ย
- ค ว า ม เ ท่ี ย ง ( reliability)แ ล ะ ค ว า ม ต ร ง ( validity)ข อ ง
แบบสอบถามไดร้ ับการตรวจสอบลาบาก จงึ มกั จะไม่นยิ มหา
การวิจยั เชิงสารวจ (survey research)
๒.เครือ่ งมอื ในการวิจัย
ข้อจากัดของแบบสอบถาม
- โดยปกตแิ บบสอบถามควรมีขนาดส้ันกะทัดรัด ดังนั้นจึงมีข้อคาถาม
ได้จานวนจากัด
- คนบางคนมีความลาเอียงต่อการตอบแบบสอบถาม เนื่องจากได้รับ
บอ่ ยเหลือเกิน หรอื มีประสบการณเ์ ก่ยี วกับแบบสอบถามท่ีไม่ดีมาก่อน
จงึ ทาใหไ้ มอ่ ยากตอบ
การวิจัยเชิงสารวจ (survey research)
๒.เคร่ืองมอื ในการวิจยั
ข้อจากดั ของแบบสอบถาม
-เป็นการเก็บข้อมูลที่ไม่ต้องใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวเหมือนกับการ
สัมภาษณ์ซึ่งผู้ถามและผู้ตอบมีปฏิกิริยาโต้ตอบกัน แบบสอบถามให้
ปฏกิ ริ ิยาโตต้ อบทางเดยี ว
-แบบสอบถามใชไ้ ด้เฉพาะบคุ คลท่ีอ่านหนงั สอื อกเท่าน้ัน
การวิจัยเชิงสารวจ (survey research)
๒.เครอื่ งมอื ในการวิจัย
ขอ้ จากดั ของแบบสอบถาม
- แบบสอบถามทไี่ ด้รับคืนมาน้ัน ผู้วิเคราะห์ไม่สามารถทราบได้ว่าใคร
เปน็ ผู้ตอบแบบสอบถามน้นั
- ผู้ตอบบางคนไม่เห็นความสาคัญก็อาจโยนแบบสอบถามทิ้ง โดยไม่
พจิ ารณาใหร้ อบคอบ
การวิจัยเชงิ สารวจ (survey research)
๒.เคร่อื งมือในการวจิ ยั
ข้อพิจารณาในการเขยี นแบบสอบถาม
ในการเขียนแบบสอบถามมีองคป์ ระกอบที่จะต้องพจิ ารณา 4 ประเด็น
๑. ชนดิ ของคาถาม
๒. รปู แบบของคาถาม
๓. เนื้อหาของคาถาม
๔. การจัดลาดบั ของคาถาม
การวจิ ยั เชงิ สารวจ (survey research)
๒.เครือ่ งมือในการวิจยั
การสัมภาษณ์
การสัมภาษณ์ (Interview) เป็นวิธีการเก็บข้อมูลอย่างหน่ึงของ
นักสังคมศาสตร์เป็นการสนทนาระหว่างนักวิจัยกับผู้ให้ข้อมูล
(information) เพื่อวตั ถปุ ระสงคข์ องการเกบ็ ขอ้ มลู
วิธีการสัมภาษณ์ท่ีนามาใช้กันมากท่ีสุดในการวิจัยเชิงสารวจ คือ
รูปแบบการสัมภาษณ์หรือตารางการสัมภาษณ์ (Interview
schedule)
การวิจัยเชงิ สารวจ (survey research)
๒.เครอื่ งมือในการวิจยั
รูปแบบของการสัมภาษณ์
- การสมั ภาษณ์ท่ีเป็นรปู แบบมาตรฐาน (The Schedule
Standardized Interview, SSI)
- การสัมภาษณ์ที่ไม่มีแบบมาตรฐาน (The Nonstandardized
Interview or Unstructured Interview ; UI)
การวจิ ัยเชงิ สารวจ (survey research)
๓.ข้นั ตอนการวิจัย
Norman k.Denzin
ได้เสนอไว้ 9 ข้นั ตอน
การวจิ ยั เชิงสารวจ (survey research)
๓.ขน้ั ตอนการวจิ ยั
๑. กาหนดรูปแบบของปัญหาที่จะศึกษาเป็นการ
กาหนดปัญหาท่ีจะศึกษา ศึกษาจากใคร ลักษณะ
การศึกษาเป็นแบบพรรณนาหรือเป็นการอธิบาย และ
ทานายรวมไปถึงสมมติฐานท่ีต้องการจะทดสอบด้วย
เปน็ การกลา่ วถึงลกั ษณะท่ัวไปของปญั หา
การวจิ ัยเชงิ สารวจ (survey research)
๓.ขั้นตอนการวจิ ยั
๒. กาหนดปัญหาเฉพาะการวิจัย แปลความหมาย
ของแนวความคิดในปัญหาที่จะศึกษาให้เป็นตัวแปรท่ี
สามารถวัดได้และระบุถึงกลุ่มตัวอย่างที่จะใช้เป็น
หนว่ ยในการศึกษา
การวจิ ยั เชงิ สารวจ (survey research)
๓.ข้ันตอนการวจิ ัย
๓. การเลือกรูปแบบของการสารวจ เลือกให้ตรงกับ
จุดมุง่ หมายของการวจิ ยั
๔. สรา้ งเครือ่ งมือในการวจิ ัย
การวิจยั เชิงสารวจ (survey research)
๓.ขั้นตอนการวิจัย
๕. กาหนดรปู แบบในการวิเคราะห์ข้อมูล เลือกตัวแปร
อิสระ ตวั แปรตาม และตัวแปรควบคุมข้ึนมา พร้อมท้ัง
ระบมุ าตราหรือดชั นขี องแต่ละตวั แปรไว้ให้พร้อม
การวิจัยเชงิ สารวจ (survey research)
๓.ขน้ั ตอนการวิจยั
๖. กาหนดการเข้าตารางข้อมูล เตรียมรูปแบบการ
วเิ คราะหซ์ งึ่ จะตอ้ งลงรหัสให้กับประเด็นปัญหาและข้อ
คาถามต่าง ๆ ในแบบสอบถาม เพื่อให้ง่ายต่อการ
แปลงข้อมูลไปสู่การวิเคราะห์
การวจิ ยั เชิงสารวจ (survey research)
๓.ข้ันตอนการวจิ ัย
๗. เตรียมการสาหรับผู้สัมภาษณ์และผู้ถูกสัมภาษณ์
ก่อนท่ีนักวิจัยจะลงไปปฏิบัติงานในสนาม ผู้สัมภาษณ์
จะตอ้ งไดร้ ับการอบรม ช้ีแนะถึงท่ีต้ังของพ้ืนท่ีการวิจัย
และกาหนดผู้ถูกสัมภาษณ์ซ่ึงเป็นกลุ่มตัวอย่างจาก
ประชากร โดยช้ีแนะให้เหน็ ถงึ ทอ่ี ยู่ของกล่มุ คนเหล่านี้
การวิจยั เชิงสารวจ (survey research)
๓.ขน้ั ตอนการวิจัย
๘.การวิเคราะห์ผลข้อมูลท่ีออกมา นักวิจัยต้องมุ่งค้นหา
คาตอบ/ประเด็นปัญหาที่จะเกิดขึ้น คอื
- กลุ่มตัวอย่างท่ีได้ศึกษาจริงนั้นมีลักษณะรายละเอียด
ตา่ ง ๆ เหมอื นกับกลุ่มตัวอยา่ งท่ไี ดม้ ุ่งหวงั ไว้หรอื ไม่
- อัตราการปฏเิ สธ (Refusals rate) ที่จะตอบคาถามที่
เกิดขึ้นจะต้องนามาคิดคานวณด้วยเพราะถือเป็น
ประเดน็ สาคญั ของการวิจยั
การวิจยั เชิงสารวจ (survey research)
๓.ข้นั ตอนการวิจัย
๙. การทดสอบสมมติฐาน ซึ่งในขั้นนี้นักวิจัยจะต้อง
สร้างรูปแบบการวิเคราะห์หลายตัวแปรข้ึนมา เพื่อดู
ลักษณะความแปรผันร่วมระหว่างตัวแปรจัดลาดับ
ก่อนหลัง ความสัมพันธ์ของตัวแปรและเมื่อการ
วเิ คราะห์สิ้นสุดลง
การวจิ ัยเชงิ สารวจ (survey research)
๔. ตวั อยา่ งงานวจิ ัย
- สภาพและปัญหาการใช้อินเทอร์เน็ตของครู-อาจารย์และนักเรียน
โรงเรียนมัธยมศึกษา สังกัดกรมสามัญศึกษา เขตการศึกษา 11 ที่เข้า
ร่วมโครงการเครือข่ายคอมพิวเตอร์เพื่อโรงเรียนไทย (School Net
Thailand)
- สภาพและปัญหาการบริหารโครงการเครือข่ายคอมพิวเตอร์เพื่อ
โรงเรยี นไทยของโรงเรียนมธั ยมศึกษา
การวจิ ยั เชงิ สารวจ (survey research)
๔. ตัวอย่างงานวจิ ยั
- การใช้คอมพวิ เตอร์เพ่ือการบริหารงานในโรงเรียนประถมศกึ ษา
สังกดั สานักงานการประถมศึกษาจังหวดั อุบลราชธานี
- การใชไ้ มโครคอมพิวเตอรข์ องอาจารย์ในมหาวิทยาลยั พายพั
- การศึกษาสภาพปัญหาและความต้องการในการใช้เทคโนโลยี
สารสนเทศของห้องสมุดโรงเรียนมัธยมศึกษา กรมสามัญศึกษา
กรุงเทพมหานคร
การวจิ ยั เชงิ สารวจ (survey research)
๔. ตัวอย่างงานวิจัย
- ศึกษาระดับการยอมรับสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญของประชาชนใน
เขตกรงุ เทพฯ และปริมณฑลตอ่ การร่างรฐั ธรรมนญู ฉบบั ใหม่
- ทัศนคตขิ องกลุ่มประชาชนในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลต่อ
ภาพพจน์ ผลงานรัฐบาล
- การเมอื งไทยในสายตาผู้สงู อายุ
การวจิ ยั เชิงสารวจ (survey research)
๔. ตวั อย่างงานวจิ ัย
- การสารวจความพึงพอใจของนายจ้างต่อบัณฑิตการสื่อสารมวลชน
ม.เชียงใหม่
- ทัศนคตขิ องหญงิ ค้าบริการทางเพศต่อการคมุ กาเนิด
- การสารวจความพึงพอใจของผู้อ่านหนังสือพิมพ์ในจังหวัดเชียงใหม่
ต่อหนังสือพิมพ์ทอ้ งถ่ิน
ฯลฯ
การวิจัยเชงิ สารวจ (survey research)
๔. ตัวอยา่ งงานวจิ ัย
การวจิ ยั เรือ่ ง : ความพึงพอใจของบณั ฑิตต่อการจัดการศึกษาระดับปริญญาตรี
สายเทคโนโลยีหรือสายปฏิบัติการ ของสถาบันการอาชีวศึกษาภาคใต้ 1
สานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
ช่ือ-ชื่อสกุลผู้ทาวิจยั : ดร.อดศิ ยั ทองธวชั และคณะผู้วจิ ัย
ปที ี่ทาการวิจัย : 2562
การวิจัยเชงิ สารวจ (survey research)
๔. ตัวอยา่ งงานวจิ ัย
การวจิ ยั เรือ่ ง : ความพึงพอใจของบณั ฑิตต่อการจัดการศึกษาระดับปริญญาตรี
สายเทคโนโลยีหรือสายปฏิบัติการ ของสถาบันการอาชีวศึกษาภาคใต้ 1
สานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
ช่ือ-ชื่อสกุลผู้ทาวิจยั : ดร.อดศิ ยั ทองธวชั และคณะผู้วจิ ัย
ปที ี่ทาการวิจัย : 2562
บทคัดยอ่
การวิจัยครั้งน้ีมีวัตถุประสงค์เพ่ือ 1)เพื่อศึกษาความพึงพอใจของบัณฑิตต่อการ
จัดการศึกษาระดับปริญญาตรีสายเทคโนโลยีหรือสายปฏิบัติการ ของสถาบันการ
อาชีวศึกษาภาคใต้ 1 สานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา 2)เพ่ือเปรียบเทียบความ
พึงพอใจของบัณฑิตที่มีต่อการจัดการศึกษาระดับปริญญาตรีสายเทคโนโลยีหรือสาย
ปฏิบัติการ ของสถาบันการอาชีวศึกษาภาคใต้ 1 จาแนกตามตัวแปรเพศ สาขาวิชาที่จบ
ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน สถาบันท่ีจบการศึกษา ผลสัมฤทธ์ิในการประกอบอาชีพ และ
ประเภทของงานท่ีทา กลุ่มตัวอย่างได้แก่ บัณฑิตท่ีจบหลักสูตรเทคโนโลยีบัณฑิตของ
สถาบันการอาชีวศึกษาภาคใต้ 1 ปีการศึกษา 2559 2560 และ 2561 จานวน 244 คน
กาหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างจากตารางเครจซี่และมอร์แกน (Krejcie and Morgan)
เครือ่ งมือการวิจัยเป็นแบบสอบถามมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ มีความเชื่อมั่น .984
สถิติท่ีใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉล่ีย ค่าเบ่ียงเบนมาตรฐาน การ
ทดสอบคะแนนเฉลีย่ โดยใช้สถติ ทิ ดสอบคา่ ที (t-test) และสถิติทดสอบค่าเอฟ (F-test)
บทคัดย่อ(ตอ่ )
ผลการวิจัยพบว่า ความพึงพอใจของบัณฑิตต่อการจัดการศึกษาระดับปริญญา
ตรีสายเทคโนโลยีหรือสายปฏิบัติการ ของสถาบันการอาชีวศึกษาภาคใต้ 1 โดยภาพรวม
และรายด้านอยู่ในระดับมาก เรียงลาดับจากมากไปหาน้อยดังน้ี ด้านการนาความรู้และ
ทักษะปฏบิ ตั ไิ ปใชป้ ระกอบอาชีพ ดา้ นคุณภาพของอาจารย์ ด้านเนื้อหาของหลักสูตร ด้าน
การจัดการเรียนการสอน ด้านการวัดผลประเมินผล ด้านสภาพแวดล้อมในการเรียน และ
ด้านการบริหารจัดการของสถานศึกษา เมื่อพิจารณารายข้อ ภาพรวมอยู่ในระดับมาก
เช่นกันซ่ึงเป็นผลสืบเนื่องมาจากการจัดการศึกษาระดับปริญญาตรีหลักสูตรเทคโนโลยี
บณั ฑติ เปน็ การจดั การศกึ ษาในดา้ นวชิ าชีพทส่ี อดคล้องกบั ความตอ้ งการของตลาดแรงงาน
และสถานประกอบการ ผสู้ าเรจ็ การศกึ ษามีงานทาและมีคุณภาพ