The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

น.ส.อิงครัตน์ วัฒนชีวโนปกรณ์ ม.4/4 เลขที่ 21

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by jaranyaka, 2022-03-12 03:01:38

สถาปัตยกรรมโกธิค

น.ส.อิงครัตน์ วัฒนชีวโนปกรณ์ ม.4/4 เลขที่ 21

สถาปัตยกรรมโกธิค

โดย
นางสาวอิงครัตน์ วฒั นชีวโนปกรณ์
ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 ห้อง 4 เลขท่ี 21

เสนอ
คณุ ครูสิริลกั ณ์ แสงศลิ า

รายงานนเี ้ป็นสว่ นหนง่ึ ของวิชาห้องสมดุ และการเรียนรู้สารสนเทศ
ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศกึ ษา 2564
โรงเรียนสงวนหญิง

คานา

รายงานนเี ้ป็นสว่ นหนง่ึ ของวิชาห้องสมดุ และการเรียนรู้สารสนเทศ โดยมีจดุ ประสงค์ในการเรียนรู้
เรื่องสถาปัตยกรรมแบบโกธิค

ผ้จู ดั ทาได้เลือกหวั ข้อนเี ้น่ืองจากต้องการศกึ ษา หาความรู้และมีความสนใจในด้านสถาปัตยกรรม
รวมไปถึงต้องการนาเสนอประวตั คิ วามเป็นมา ผ้จู ดั ทาหวงั อย่างยงิ่ ว่ารายงานนจี ้ ะมปี ระโยชน์ต่อผ้อู ่าน
หากมคี วามผดิ พลาดประการใด ก็ขออภยั มา ณ ทีน่ ี ้

องิ ครัตน์ วฒั นชีวโนปกรณ์
ผ้จู ดั ทา

สารบญั

คานา ก
สารบญั ข
บทนา 1
ประวตั ิ 2
2
-สร้างในยคุ สมยั ใด 2
-ยคุ มืดคืออะไร 3
-ความเก่ียวข้องทางศาสนา 4
พฒั นาการ 4
-อทิ ธิพลท่ไี ด้รับ 4
ลกั ษณะ เอกลกั ษณ์ 6
ตวั อย่างสถาปัตยกรรม 6
-สถาปัตยกรรมทสี่ าคญั 8
-สถาปัตยกรรมโกธิคในไทย 10
บทสรุป 11
บรรณานกุ รม

บทนา

สถาปัตยกรรมแบบโกธิคเป็นสถาปัตยกรรมทีร่ ุ่งเรืองเฟ่ืองฟขู นึ ้ มาในยคุ สมยั หนึง่ มีความแตกต่างจาก
สถาปัตยกรรมอ่นื ท่ีมีเอกลกั ษณ์ และมคี วามเกี่ยวข้องกบั ประวตั ิศาสตร์ และยคุ ซง่ึ ถกู กเรียกว่ายคุ มืด

ประวัติ ความเป็ นมา

สร้ างในยุคสมัยใด

สถาปัตยกรรมแบบโกธิค คือสถาปัตยกรรมส่ิงก่อสร้างทพี่ ฒั นาขึน้ ในสมยั กลางของยโุ รป ซง่ึ อยใู่ นช่วง
ศตวรรษที่ 5 ถงึ 16 ช่วงสมยั กลางนนั้ บางครัง้ จะเรียกว่ายุค ซง่ึ กนิ เวลาถึง 1000 ปี เนื่องจากเป็นรอยต่อ
ของความก้าวหน้าระหว่างยุคโบราณ และยคุ ฟืน้ ฟศู ลิ ปวิทยา

สมยั กลางนนั้ อย่ใู นชว่ งหลงั การลม่ สลายของจกั รวรรดิโรมนั ในยโุ รป ไปสกู่ ารเปลี่ยนผา่ นทางประวตั ิศาสตร์
สยู่ คุ ใหม่ โดยสมยั นี่ถือเป็นช่วงถดถอยทางความคิด ปรัชญา งานศิลปะ ไร้ซงึ่ ความก้าวหน้าทางสงั คม เต็ม
ไปด้วยความมืดมน งานศลิ ปะ ภาพวาด งานปัน้ ไร้มิติ ไร้อารมณ์ จึงถกู เรียกว่ายคุ มืด แต่ในความถอดถอย
และมืดมนกว่าหน่งึ พนั ปี ยงั คงมีส่ิงเดยี วท่ียงั คงไว้ซง่ึ ศรัทธาและความเคารพ คือ ศาสนา จงึ ยงั คงมกี าร
พฒั นางานศลิ ปะเกี่ยวกบั ศาสนสถาน

สถาปัตยกรรมแบบโกธิคเกิดขนึ ้ ในช่วงกลางของของสมยั กลาง และได้รับการพฒั นาสงู สดุ ในช่วงปลาย
สมยั ซงึ่ อย่ใู นช่วงศตวรรษที่ 12 ถึง 16 โดยมีจดุ ศนู ย์กลางอยใู่ นฝรั่งเศส และแพร่ขยายอทิ ธิพลทาง
ความคิดไปยงั ประเทศข้างเคียง

ยุคมืดคืออะไร

ยคุ มดื คือชือ่ เรียกของยคุ กลางในทวีปยโุ รปในช่วงเวลาหนึง่ เร่ิมต้นตงั้ แต่เม่ือโรมนั ตะวนั ตกลม่ สลายลง
เน่อื งจากถูกรุกรานจากอนารยชนทางตอนเหนือซง่ึ อาณาจกั รโรมนั ในขนาดน้นมสี ภาพที่เสอื่ มโทรม ออ่ นแอ
ลงอย่างมากบ้านเมืองแตกแยก ไม่มคี วามมนั่ คงทาให้เมือ่ ถกู รุกรานจึงไมอ่ าจต้านทานได้ พวกอนารายชน
ท่ีสามารถเข้ามายดึ ครองเป็นใหญ่ในดินแดนนไี ้ ด้คอื พวกแฟรงค์ท่มี ถี ิ่นฐานเดมิ อย่ใู นเยอรมนั นีและฝรั่งเศส
เข้ายดึ ครอง และกอ่ ตงั้ ราชวงศ์ปกครองโดยมีศาสนจกั รคอยให้การสนบั สนนุ ดงั นนั้ เรื่องหารเมืองการ
ปกครองของอาณาจกั รจึงมีนกั บวชจากศาสนจกั รเข้ามาร่วมด้วย

ในชว่ งสมยั ของกษตั ริย์ชาร์เลอมาญขนึ ้ ครองราชย์ด้วยการสนบั สนนุ จากศาสนจกั รโดยได้รับการ
ปราบดาภิเษกจากองค์พระสนั ตปาปา จนเป็นทม่ี าในตอ่ มาท่ผี ้ทู จี่ ะขึน้ ครองราชย์เป็นกษตั ริย์ราชาหรือ
ราชินตี ้องได้รับการแตง่ ตงั้ จากศาสนจกั ร พระเจ้าชาร์เลอมาญทรงวางรากฐานการปกครองในยโุ รปใหม่
เรียกว่าระบบศกั ดนิ าสวามิภกั ดิ์ หรือฟิวดลั เป็นระบบการปกครองในยโุ รปสมยั กลางท่ีกระจายอานาจสู่

ท้องถ่นิ และมีอิทธิพลตอ่ ความสมั พนั ธ์และการดารงชีวิตของคนในสงั คม โดยเฉพาะยุโรปตะวนั ตกทงั้ ทาง
การเมอื ง เศรษฐกจิ และสงั คม ทาให้บ้านเมอื งเริ่มมสี เถียรภาพขึน้ มาพร้อมๆกบั ความเจริญรุ่งเรืองของศา
สนจกั ร

ศาสนาคริศต์หรือศาสนจกั รในสมยั กลางของยโุ รปก็เป็นอีกสาเหตหุ นง่ึ ทีท่ าให้นกั วชิ าการขนานนามยคุ นวี ้ ่า
ยคุ มืด เพราะอานาจของศาสนจกั รนนั้ แทรกซมึ เข้าไปได้ถึงกษตั ริย์ถึงการปกครอง มีการให้พระเข้าไปร่วม
เป็นขนุ นางหรือที่ปรึกษามศี กั ดินาในการปกครองบ้านเมือง ทงั้ ยงั มที หารหรือกองกาลงั เป็นของตวั เอง
ศาสนจกั รมีทงั้ การประกาศ ปลกุ ระดมให้ชาวบ้านเข้าทาสงครามแยง่ ดินแดนกบั ชาวมสุ ลิมหรือท่ีเรียกกนั ว่า
สงครามครูเสด

จะเห็นได้ว่ายุคมดื นนั้ หมายถึงช่วงทีย่ โุ รปในสมยั กลางเข้าสคู่ วามเส่ือมโทรม ศิลปะ และวฒั นธรรมหยดุ
การพฒั นา จนถงึ ช่วงที่ยโุ รปถกู ฟืน้ ฟขู นึ ้ มาใหมพ่ ร้อมๆ กบั ความรุ่งเรืองของศาสนจกั รท่เี ริ่มมอี านาจ
อิทธิพลมากขนึ ้ ในยโุ รป

ความเก่ยี วข้องทางศาสนา

สถาปัตยกรรมโกธิคเป็นสถาปัตยกรรมท่ีนิยมใช้ในการสร้างอาสนวิหาร แอบบี และคริสต์ศาสน
สถานอื่น ๆ ของยโุ รป นอกจากนนั้ ก็ยงั ใช้ในกาสร้างปราสาท, วงั , ตกึ เทศบาลเมือง, มหาวทิ ยาลยั และ
บางครัง้ กส็ าหรับที่อย่อู าศยั แต่กไ็ มม่ ากนกั สถาปัตยกรรมโกธิคท่ใี ช้ในการก่อสร้างโบสถ์และอาสน
วหิ าร และในสิ่งก่อสร้างบางส่งิ ของฆราวาสทเ่ี ป็นการแสดงลกั ษณะการก่อสร้างอนั มีพลงั ลกั ษณะรูปทรง
ของสง่ิ กอ่ สร้างแบบโกธิค เป็นลกั ษณะทีก่ ่อให้เกิดความสะเทือนทางอารมณ์ ซง่ึ ทาให้เป็นสถาปัตยกรรมที่
เป็นทน่ี ิยมใช้ในการกอ่ สร้างสถาปัตยกรรมทางศาสนา และสิง่ ก่อสร้างหลายแหง่ กม็ คี ณุ ค่าสงู พอที่จะได้รับ
การมอบฐานะให้เป็นมรดกโลก

ในองั กฤษในกลางคริสต์ศตวรรษที่ 18 กเ็ ร่ิมมีการก่อสร้างสถาปัตยกรรมทเ่ี ลยี นแบบ
สถาปัตยกรรมกโกธิค ท่เี รียกว่าสถาปัตยกรรมฟืน้ ฟโู กธิค ท่ีเผยแพร่ไปยงั ยโุ รป ทีเ่ ป็นลกั ษณะ
สถาปัตยกรรมทน่ี ิยมใช้ในการกอ่ สร้างคริสต์ศาสนสถานและมหาวิทยาลยั

พฒั นาการ

อทิ ธพิ ลท่ไี ด้รับ

ศลิ ปะแบบโรมนั ดงั้ เดมิ จะเรียกวา่ Romanesque architecture ทีเ่ กิดกอ่ นศตวรรษที่ 12 จะมีเอกลกั ษณ์
คือ ความเรียบงา่ ย และดขู งึ ขงั แตค่ ่อนข้างจะเทอะทะจากความใหญ่โตของเสาและกาแพง หลงั คาจะเป็น
แบบโค้งมน (Semi-circular Arch) อาศยั หลกั การสมดลุ ทางวิศวกรรมในการถ่ายแรงจากหลงั คาลงสฐู่ าน
ราก แตจ่ ะทาให้เกดิ แรงถีบด้านข้างทฐ่ี าน ทาให้ต้องใช้ความใหญ่โตของกาแพงในการรับแรงจากหลงั คา
เพอื่ สร้างเสถียรภาพ จึงทาให้ต้องการกาแพงหนา ขนาดใหญ่ จึงทาให้ตวั อาคารไมส่ ามารถสงู ได้มาก และ
อบั ทึบมืดแสง เนื่องจากให้กาแพงในการรับแรง จงึ เจาะกาแพงเพอื่ ทาหน้าตา่ งรับแสงไม่ได้ ในขณะท่ีแสง
เป็นองค์ประกอบสาคญั ในเพิม่ ความขลงั ในตวั สถานท่ี

สถาปัตยกรรมแบบโกทิคจึงถกู พฒั นาขนึ ้ มาโดยการทจ่ี ะพยายามเปลี่ยนแปลงข้อด้อยของ Romanesque
architecture ด้วยการทาให้สงู โปร่ง และสว่าง ด้วยการเพ่ิมพนื ้ ทร่ี ับแสงให้กบั โครงสร้าง

ลกั ษณะ เอกลกั ษณ์

องค์ประกอบท่สี าคญั ของ Gothic Architect ทีจ่ าเป็นต้องมถี งึ จะเรียกว่า Gothic Architect มีอย่สู ามอยา่ ง
คือ Pointed Arch, Ribbed Vault และ Flying Buttresses

Pointed Arch หรือ วงโค้งแหลม ด้วยการเปลยี่ นจากโค้งมนแบบ Romanesque architecture ให้ยอด
แหลมขึน้ ทาให้พนื ้ ที่รับแสงมากขนึ ้ อาคารสงู โปร่ง การทาให้ยอดแหลมยงั ทาให้แรงกระทาจากหลงั คาถา่ ย
ลงมาสฐู่ านรากสว่ นล่างได้ง่ายขนึ ้ แรงถีบด้านข้างลดลง จงึ ทาให้กาแพงหรือเสามขี นาดเล็กกว่าโครงสร้าง
แบบ Romanesque architecture ในยคุ คลาสสิค แรงจากสว่ นบนของ Semi-circular Arch จะถกู ถา่ ยลง
มาในมมุ ทเ่ี อียงกว่าแบบ Pointed Arch จึงทาให้เกดิ แรงถีบด้านข้างต่อจดุ รองรับสงู กว่า

Ribbed Vault หรือ เพดานโค้งกากบาทแบบมีควิ ้ ซง่ึ พฒั นามาจาก Groin Vault ท่ีใช้กบั Semi-Circular
Arch ของโครงสร้างแบบ Romanesque architecture ในยคุ คลาสสคิ มาเป็น Ribbed Vault ท่ใี ช้กบั
Pointed Arch Ribbed Vault จะถา่ ยแรงจากหลงั คาผา่ นตวั Ribbed ทีเ่ ป็นแกนของหลงั คา ทีจ่ ะมีจดุ ศนู ย์

รวมกนั ท่ีกลางหลงั คา แล้วทาตวั เป็นแกนกระจายแรงจากหลงั คาลงมายงั เสาที่รองรับ สว่ นกลางระหวา่ ง
Ribbed จะใช้วสั ดทุ ่ีมขี นาดเบาและแขง็ แรงน้อยกว่าในการปิดสว่ นทีเ่ หลือของหลงั คา

ตวั Ribbed Vault ในช่วงแรกจะนยิ มทาเป็นแบบ Quadripartite Vault ทแ่ี บง่ หลงั คาเป็นสส่ี ว่ น และต่อมา
พฒั นาเป็น Sexpartite Vault ท่แี บ่งหลงั คาเป็นหกสว่ น และ แบบ Fan Vault ท่ีสาน Ribbed แบบถี่ๆ จน
เหมือนใบพดั เพือ่ เพิ่มความแข็งแรงขนึ ้ ตามลาดบั

Flying Buttresses คอื สว่ นท่ีเชอื่ มระหวา่ งโครงสร้างชนั้ ในและชนั้ นอก ทาหน้าที่ช่วยถ่ายแรงด้านข้างจา
กาแพงหริอเสาชนั้ ในออกมาด้านนอก เนื่องจากลกั ษณะของ Point Arch ท่ถี ่ายแรงจากหลงั คาลงสพู่ นื ้ ได้
ดกี ว่าแบบ Semi-Circular Arch แตก่ ็ยงั มแี รงด้านข้างกระทาทีห่ วั เสาหรือกาแพงอยู่

ลกั ษณะอืน่ ๆ ได้แก่ ลกั ษณะโปร่งบาง ผนงั เปิดกว้าง ตามกาแพงประดบั ไปด้วยกระจกสี

ตวั อย่างสถาปัตยกรรม
สถาปัตยกรรมท่สี าคญั

อาสนวหิ ารน็อทร์-ดามแห่งปารีส
เป็นอาสนวิหารประจาอคั รมขุ มณฑลปารีส ตงั้ อยทู่ างฝ่ังตะวนั ออกของกรุงปารีส ประเทศฝร่ังเศสคา
วา่ Notre Dame แปลว่า แม่พระ (Our Lady) ซงึ่ เป็นคาทีช่ าวคาทอลิกใช้เรียกพระนางมารีย์
พรหมจารี ปัจจบุ นั อาสนวหิ ารกย็ งั ใช้เป็นโบสถ์โรมนั คาทอลิกและเป็นที่ตงั้ คาเทดราของอาร์ชบชิ อปแห่ง
ปารีส อาสนวิหารน็อทร์-ดามถือกนั ว่าเป็นโบสถ์ท่สี วยงามทส่ี ดุ ในลกั ษณะกอทิกแบบฝรั่งเศส โบสถ์นีไ้ ด้รับ
การบรู ณปฏิสงั ขรณ์โดยเออแฌน วียอแล-เลอ-ดกุ ผ้เู ป็นสถาปนิกคนสาคญั ทสี่ ดุ คนหนงึ่ ของฝร่ังเศส

การก่อสร้างเป็นแบบกอทิก นบั เป็นอาสนวหิ ารแรกท่สี ร้างในลกั ษณะนี ้และการก่อสร้างก็ทา
ต่อเน่ืองมาตลอดสมยั กอทิก ประตมิ ากรรม และหน้าต่างประดบั กระจกสี (stained glass) มีอทิ ธิพลจาก

ศิลปะแบบแนทเชอราลลิสม์ ทาให้แตกต่างจากศิลปะโรมาเนสก์ที่สร้างก่อนหน้านนั้

รูปภาพจาก
https://www.google.co.th/url?sa=i&url=https%3A%2F%2Fwww.talontiew.com%2Fnotre-dame-

cathedral-
paris%2F&psig=AOvVaw2r0J3MxPJPoCjKPzpG5b42&ust=1647156230785000&source=image

s&cd=vfe&ved=0CAsQjRxqFwoTCJjdzaaFwPYCFQAAAAAdAAAAABAD

- มหาวิหารชาร์ตร์ หรือ มหาวหิ ารนอเตรดามแหง่ ชาร์ตร์ (Cathédrale Notre-Dame de Chartres /
Chartres Cathedral)

เป็นอาสนวิหารโรมนั คาทอลิกในเมอื งชาทร์ ประเทศฝรั่งเศส ราว 80 km (50 ไมล)์ ทางตะวนั ตกเฉียงใต้
ของปารีส และเป็นอาสนวิหารของบิชอปแห่งชาทร์ สว่ นใหญ่ของอาคารสร้างขึน้ ในปี 1194 ถึง 1220 โบสถ์
หลงั ปัจจบุ นั เป็นหลงั ที่ห้าเป็นอยา่ งตา่ อาสนวิหารได้รับสถานะแหลง่ มรดกโลกโดยยเู นสโกซงึ่ บรรยายอาสวิ
หารชาทร์ว่าเป็น "จดุ สงู สดุ ของศิลปะกอธิกแบบฝร่ังเศส"[2] สถาปัตยกรรมหลกั ของอาสนวิหารเปลี่ยนแปลง

น้อยมากนบั ตงั้ แต่ศตวรรษท่ี 13 จงึ เป็นหน่ึงในสถาปัตยกรรมจากยุคนนั้ ในฝรั่งเศสทยี่ งั คงอนรุ ักษ์มาถึง
ปัจจบุ นั

รูปภาพจาก https://sites.google.com/site/sathinee44722/-3-sthapatykrrm-kothikh-gothic

สถาปัตยกรรมโกธิคในไทย

วดั นิเวศธรรมประวตั ิตงั้ อย่บู นเกาะกลางแมน่ า้ เจ้าพระยาทางทิศใต้ของพระราชวงั บางปะอนิ
พระบาทสมเด็จพระจลุ จอมเกล้าเจ้าอยหู่ วั โปรดฯ ให้สร้างขนึ ้ สร้างขึน้ เมอ่ื พ.ศ. 2419 เพือ่ ทรงใช้เป็น
สถานทส่ี าหรับบาเพญ็ พระราชกศุ ลเมือ่ เสดจ็ แปรพระราชฐานมาประทบั ยงั พระราชวงั บางปะอิน ใช้เวลาใน
การก่อสร้าง 2 ปี 22 วนั จงึ แล้วเสร็จเม่ือวนั ที่ 24 กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ. 2421 และมีการจดั งานสมโภชใหญ่ถึง 4
วนั 4 คนื ด้วยกนั

โปรดให้ใช้สถาปัตยกรรมแบบโบสถ์ฝร่ังโดยมีพระราชดาริว่า “ซงึ่ ทรงพระราชดาริให้สร้างโดย
แบบอยา่ งเป็นของชาวตา่ งประเทศ ดงั นี ้ใชจ่ ะมพี ระราชหฤไทยเลอ่ื มไสนบั ถือสาสนาอื่นนอกจากพทุ ธศาส
นนั้ หามิได้ พระราชดาริห์ในพระราชประสงค์ จะทรงบชู าพระพทุ ธสาสนาด้วยของแปลกประหลาดแลเพอ่ื
จะให้อาณาประชาราษฎรทงั้ ปวงชมเลน่ เป็นของประหลาด ไม่เคยมีในพระอารามอ่นื แลเปนของมนั่ คง
ถาวร พอสมควร เป็นพระอารามในหวั เมือง” ข้อความนีป้ รากฏอยใู่ นจารึกของวดั ข้อความฉบบั เตม็
สามารถไปชมได้ภายในพระอโุ บสถ

สิ่งท่ีถือเป็นจุดเด่นทีส่ ดุ ของวดั แหง่ นีก้ ็คือพระอโุ บสถของวดั ทีใ่ ช้สถาปัตยกรรมแบบโกธิคทงั้
ภายนอกและภายใน แม้แต่กาแพงแก้วท่ตี งั้ หลกั เสมาก็ยงั ใช้ลวดลายแบบตะวนั ตก ผ้วู างแผนออกแบบวดั
เป็นสถาปนิกชาวตะวนั ตกนาม โยอาคิม กราซี

มบี านประตหู น้าต่างประดบั กระจกสลบั สี ซ้มุ เรือนแก้วประดษิ ฐานประตมิ ากรรม แต่สงิ่ ที่
ประดษิ ฐานอยภู่ ายในซ้มุ ด้านในคือ ‘พระพทุ ธนฤมลธรรโมภาส’ พระพทุ ธรูปประธานของวดั แห่งนีท้ ี่
พระบาทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกล้าเจ้าอยหู่ วั โปรดเกล้าฯ ให้พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าประดิษญวรการ เป็น
ผ้อู อกแบบ ปัน้ ห่นุ และหลอ่ ขนึ ้ ใน พ.ศ. 2420 และถือเป็นผลงานชนิ ้ เอกชนิ ้ หน่ึงของพระองค์ทา่ น
พระพทุ ธรูปองค์นเี ้ป็นพระพทุ ธรูปแบบกง่ึ สมจริงแบบทีน่ ิยมมาตงั้ แต่สมยั รัชกาลที่ 4 โดยพระพทุ ธรูปนไี ้ มม่ ี
อษุ ณีษะและจีวรมีริว้ ยบั ย่นอยา่ งสมจริง ขนาบสองฝ่ังด้วยพระอคั รสาวก พระสารีบตุ ร และพระโมคคลั ลา
นะ

ภายในพระอโุ บสถยงั มขี องน่าสนใจอ่นื ๆ เช่น จารึกทก่ี ลา่ วถงึ การสร้างวดั นเิ วศธรรมประวตั ิแหง่ นี ้
แต่ของสาคญั ชิน้ หน่ึงท่อี ยภู่ ายในพระอโุ บสถหลงั นีก้ ็คือพลบั พลาทรงฝรั่งขนาดกาลงั ดี ประดับรูปช้างเผอื ก
3 เศียร ซง่ึ หมายถงึ สยามเหนอื สยามกลาง สยามใต้ ซงึ่ พบบนตราพระราชลญั จกรประจาแผน่ ดิน
พลบั พลานเี ้ป็นพลบั พลาท่ีประทบั ของพระบาทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกล้าเจ้าอย่หู วั ในคราวเสด็จมาบาเพญ็
พระราชกศุ ลถวายผ้าพระกฐิน

ถ้าหนั หลงั กลบั ไปทที่ างเข้าแล้วแหงนหน้าขึน้ ไปจะเห็นกระจกสยี อดแหลมอย่ใู ต้ Rose Window
กระจกสใี นกรอบวงกลมที่พบได้ทว่ั ไปตามโบสถ์คริสต์ทว่ั ไป ซง่ึ กระจกสียอดแหลมนีท้ าเป็นพระบรม
สาทสิ ลกั ษณ์ หรือภาพเหมือนของพระบาทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกล้าเจ้าอยหู่ วั รัชกาลที่ 5 ฉลองพระองค์

ครุยอยา่ งไทยประทบั นงั่ บนบลั ลงั ก์ ด้านลา่ งมจี ารึกระบวุ ่า ‘Chulalongcorn Rex Siamensis’ ซงึ่ แปลวา่
จฬุ าลงกรณ์ กษัตริย์สยาม

บทสรุป

สถาปัตยกรรมแบบโกธิค มีสว่ นเก่ียวข้องกบั ชีวิตของผู้คนในสมยั กอ่ น แสดงถึงภมุ ิปัญญา การนบั ถือ
ศาสนา และความเปลี่ยนแปลงในด้านการปกครอง รวมไปถงึ มกี ารแผข่ ยายอิทธิพลไปโดยรอบทงั้ ประเทศ
ข้างเคยี ง รวมถึงไทยเองเช่นกนั

บรรณานุกรม

สถาปัตยกรรมกอทิก

https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AA%E0%B8%96%E0%B8%B2%E0%B8%9B%E0%B8%
B1%E0%B8%95%E0%B8%A2%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8
%81%E0%B8%AD%E0%B8%97%E0%B8%B4%E0%B8%81

สถาปัตยกรรมโกธิค Gothic architecture

https://sites.google.com/site/sathinee44722/-3-sthapatykrrm-kothikh-gothic

สถาปัตยกรรมแบบโกธิคและความเจริญทางด้านวิศวกรรมโยธาในยคุ สมยั กลาง

https://kkurojjanawong.wordpress.com/2019/12/30/%E0%B8%AA%E0%B8%96%E0%B8%B2%
E0%B8%9B%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%A2%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A3
%E0%B8%A1%E0%B9%81%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E0%B9%82%E0%B8%81%E0%B8%9
8%E0%B8%B4%E0%B8%84%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0/

มหาวหิ ารนอเตรอดาม เดอ ปารีส

https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%99%E0%B8%
A7%E0%B8%B4%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%99%E0%B9%87%E0%B8
%AD%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B9%8C-
%E0%B8%94%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B9%81%E0%B8%AB%E0%B9%88%E0%B8%
87%E0%B8%9B%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%AA

มหาวิหารชาร์ตร์ หรือ มหาวิหารนอเตรดามแห่งชาร์ตร์

https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%99%E0%B8%
A7%E0%B8%B4%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B
8%97%E0%B8%A3%E0%B9%8C

พระอโุ ยสถสไตล์ดกธิค

https://readthecloud.co/niwet-dhamma-prawat-temple/


Click to View FlipBook Version