The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ประเภทของลีลาศ และ อธิบายในแต่ละประเภท

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by n1302256299, 2022-02-26 12:01:16

ประเภทของลีลาศ

ประเภทของลีลาศ และ อธิบายในแต่ละประเภท

ประเภทของลี ลาศ



คำนำ

รายงานเล่มนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นส่วน
หนึ่งของ วิชา พละศึกษา ชั้นมัธยมศึกษา
ปีที่ 6 เพื่อให้ได้ศึกษาหาความรู้ในเรื่อง
ประเภทของลีลาศ และได้มีการศึกษาให้

เข้าใจเพื่อเป็นประโยชน์ในการเรียน

หวังว่า รายงานเล่มนี้จะเป็น
ประโยชน์กับผู้อ่าน หรือ นักเรียนที่

กำลังหาข้อมูลเรื่องนี้อยู่

คณะผู้จัดทำ

สารบัญ

ประเภทบอลลูน หน้า

- จังหวะควิกซ์วอลซ์ (Waltz) 1
- จังหวะแทงโก้ (Tango) 2
2
- จังหวะควิกซ์สเตป (
Quick Step) 3
3
- จังหวะวอลซ์ (Waltz)
- จังหวะสโลว์ฟอกซ์ทรอต (Foxtrot) 4
5
ป-รจะังเภหวทะไลจาว์ตฟิน(Jอiเvมeร
)
ิกัน 5
6
- จังหวะรุมบ้า (Rumba) 6
7
- จังหวะแซมบ้า (Sam
ba)

- จังหวะแมมโบ้ (Mambo)
- จังหวะ ชะ ชะ ช่า (Cha Cha Cha)

- จังหวะปาโซโดเบล (
Pasodoble)

ประเภทเบ็ดเตล็ดต
่างๆ 8
9
- จังหวะกั
วราช่า (Guaracha) 9
- จังหวะบี
กิน (Beguine) 10
- จังหวะตะลุง
- จังหวะรุ
มบ้า(Aerican Ruba)

ประเภทบอลลูน 1

เป็นการเคลื่อนที่ด้วยการลากเท้า ลำตัวยืดตรง


จังหวะและทำนองของดนตรีช้า นุ่มนวล เคลื่อนไหวไป
รอบๆ อาจเป็นวงกลมหรือสี่เหลี่ยม

- จังหวะควิกซ์วอลซ์ (Waltz)

กำเนิดขึ้นในตอ
นใต้ของประเทศ

เยอรมนี ใช้พลังงานสูง จังหวะมี
ความเร็ว 60 บาร์

ระดับการเคลื่อนไหว : ปานกลางถึงหนัก
ประมาณ 180 ก้าวต่อนาที ดนตรี 60

บาร์ต่อนาที

ลักษณะท่าทาง : ย่อตัว ยืดตัว พร้อม
หมุนไปรอบ

- จังหวะแทงโก้ (Tango)

แต่เดิมคือ มิลองก้า ใช้เต้นในโรงละครเล็ก ๆ
เมื่อชนชั้นสูงจากบราซิลไปพบเข้า จึงมีเต้นรำ

กันมากขึ้น และเปลี่ยนชื่อเป็นแทงโก้

ระดับการเคลื่อนไหว : ระดับเบาถึงปาน
กลาง ประมาณ 99 ก้าวต่อนาที ดนตรี

33 บาร์ต่อนาที
ลักษณะท่าทาง : ย่อตลอดเวลา และก้าว
เท้าแบบพุ้งกระแทกเป็นช่วงๆ ควบคู่กับ

การเคลื่อนไหวศรีษระ ไหล่

- จังหวะควิกซ์สเตป (Quick Step)

ลักษณะท่าทาง : ใช้เท้าเฉียดผิวฟลอร์ ใช้
เข่า ขา เท้า และข้อเท้า เพื่อส่งความเร็ว

ระดับการเคลื่อนไหว : ระดับปานกลาง
ประมาณ 133 ก้าวต่อนาที ดนตรี 50

บาร์ต่อนาที
เริ่มแพร่หลายประมาณปี ค.ศ.1928

(พ.ศ.2471) เป็นต้นมา

2

- จังหวะวอลซ์ (Waltz)

ลักษณะท่าทาง : ยืดตัวขึ้นและลดตัวลง การ
สวิงตัว และ สเวย์

ระดับการเคลื่อนไหว : ระดับปานกลาง
ประมาณ 90 ก้าวต่อนาที ดนตรี 30

บาร์ต่อนาที
กำเนิดในช่วงปี ค.ศ.1910 - ค.ศ.1914 ที่
บอสตันคลับ โรงแรมซาวอยอังกฤษชื่อเรียก
ว่า บอสตัน วอลซ์ ก่อนจะเสื่อมสลายลงไป
และกลับมาอีกครั้งในช่วงหลังสงครามโลก
ครั้งที่ 1 โดยถูกดัดแปลงท่าเต้นให้เข้ากับยุค

สมัย

- จังหวะสโลว์ฟอกซ์ทรอต (Foxtrot)

ลักษณะท่าทาง : ใช้พลังขา และเท้าเปลี่ยน
รับน้ำหนักต่อเนื่องกัน เน้นปลายเท้า ส้นเท้า
ระดับการเคลื่อนไหว : ระดับปานกลาง

ประมาณ 90 ก้าวต่อนาที ดนตรี 30
บาร์ต่อนาที

ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 1 ในทวีปยุโรป โดย
นักเต้นประกอบจังหวะชื่อ แฮรี่ ฟอกซ์ นำมา

ดัดแปลงโดย แฟรงค์ ฟอร์ด ประมาณปี
ค.ศ.1922 - ค.ศ.1929 เริ่มแพร่หลาย

3

ประเภทลาตินอเมริกัน 4

เป็นการเคลื่อนด้วยการยกเท้าก้าวไป มีกระโดด ยก
ขึ้น กระแทก บิดเหวียง เคลื่อนที่ตามทิศทางการเต้น

จังหวะดนตรีค่อนข้างเร็ว

- จังหวะไจว์ฟ (Jive)

กำเนิดในนิวยอร
์ อเมริกา ปี ค.ศ. 1940

จังหวะจะโคน และสวิง ดัดแปลงจากดนตรี
หลายจังหวะ ทั้ง ร๊อคแอนด์โรล แอฟริกัน
อเมริกันสวิง เต้นเน้น ดีด สะบัด เตะปลาย

เท้า

ลักษณะท่าทาง : เต้นผสมผสานกับ
ความสนุก เน้นจังหวะอยู่ที่ขาทั้งคู่

- จังหวะรุมบ้า (Rumba)

นำเข้าไปยังอเมริกาโดยทาสชาวแอฟริกัน
ค.ศ. 1982 - 1929 รูปแบบการเต้นไม่ชัดเจน
คนส่วนมาทึกทักเป็นรูปแบบใหม่ของจังหวะ

ฟอกซ์ทรอท หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ถูก
พัฒนา ลักษณะเปลี่ยนถ่ายน้ำหนัก บิดเอี้ยว

ลำตัวเล็กน้อย
ถูกพัฒนาต่อจนมีตำราการเต้น ซึ่งตำรา
เล่มนั้นเป็นที่แพร่หลายทำให้ได้รับการ

ยอมรับในที่สุด

- จังหวะแซมบ้า (Samba)

ต้นแบบจากแอฟริกา แต่ถูกพัฒนามากที่สุด
ในบราซิล ปี ค.ศ. 1925 เริ่มแพร่หลายใน
ยุโรป ท่าทางยืดหยุนขึ้นลง จังหวะโคน การ
เต้นเคลื่อนทที่ไปข้างหน้า ลักษณะการเดิน

พาเหรดเป็นวงกลม

ถูกยอมรับให้สามารถเข้าแข่งขันในมหกรรม
การแสดงระดับโลกที่นิวยอร์คได้ เมื่อปี

ค.ศ.1939 และอีกสิบปีต่อมาก็ถูกยอมรับกัน
อย่างแพร่หลายในปี ค.ศ.1948 - ค.ศ.1949

5

- จังหวะแมมโบ้ (Mambo)

ตั้งจากชื่อของหมอผีในประเทศเฮติ เป็นการ
ผสมผสานการเต้น แอฟริกัน-คิวบัน นิยมเต้น
กันในคิวบา เริ่มแพร่หลายเมื่อ เปเรซ ปราโด

นักดนตรีชาวคิวบา นำจังหวะนี้มาเล่นใน
เม็กซิโก และได้รับการบันทึกแผ่นเสียง ในปี
ค.ศ.1951 จนถูกเรียกว่าเป็น ราชาแห่งแมมโบ้

- จังหวะ ชะ ชะ ช่า (Cha Cha Cha)

ถูกพัฒนามาแมมโบ้ เป็นจังหวะที่คนส่วน
เลือกเรียนรู้อันดับแรก พบเห็นครั้งแรกที่
อเมริกา และแพร่หลายไปแถบยุโรป รับความ

นิยมอย่างจริงจังในช่วงปี ค.ศ.1956

ตั้งชื่อขึ้นจากการเลียนเสียงรองเท้ากระทบ
พื้นขณะเต้นรำ

6

- จังหวะปาโซโดเบล (Pasodoble)

เต้นเพียงจังหวะเดียว กำเนิดที่สเปน เน้นลำตัว
และท่างต่างๆ ใช้ลีลาของแขน ศอก ข้อมือ นิ้วมือ
แบบฟลามิงโก้ ลักษณะบาโซโดเบ้ คือ เดินมาร์ช

ย่างก้าว โบกสะบัดผ้าที่ใช้สู้วัวกระทิง
ดนตรีที่มีจังหวะ 2/4 คล้ายเพลงมาร์ชของสเปน
ก่อนพัฒนาเป็นจังหวะเต้นรำฝ่ายชายจะเปรียบ

เสมือนนักสู้วัวกระทิงที่จะบังคับร่างของคู่เต้น
ซึ่งเสมือนผ้าสีแดง ให้แกว่งไปมาในลักษณะเดียว
กับสะบัดผ้า เพื่อยั่ววัวกระทิง และจะเต้นโดยการ
ย้ำส้นเท้าเป็นจังหวะอย่างเร็ว ไม่ค่อยใช้สะโพก

เคลื่อนไหว

7

ประเภทเบ็ดเตล็ดต่างๆ 8

ลักษณะการเต้นเป็นจังหวะที่ไม่ช้า ไม่เร็วจนเกินไป เป็นที่
นิยมในประเทศไทยมาก

- จังหวะกัวราช่า (Guaracha)




จังหวะค่อนข้างเร็ว ใช้ความคล่องแคล่ว
ว่องไว ใช้ไหล่ เอว สะโพก เข่า สามารถ

ก้าวเท้าพ้นพื้นได้

- จังหวะบีกิน (Beguine)

นิยมเต้นในงานสังคมลีลาศทั่ว ๆ ไปในไทย
ไม่ปรากฏว่นิยมตั้งแต่เมื่อไร เท่าที่ทราบคือ
ช่วงที่ครูอัตถ์ พึ่งประยูร บรมครูสอนลีลาศ
เต้นตั้งแต่ พ.ศ. 2492 - 2493 โดยเข้าใจ
กันว่าชาวฟิลิปปินส์ที่มาเล่นดนตรีในเมืองไทย

เป็นผู้แนะนำดนตรีและการนับจังหวะ
ดนตรีของจังหวะแบบ 4/4 คือ มี 4 จังหวะ
ใน 1 ห้องเพลง สามจังหวะแรกเป็นเสียงหนัก
และจังหวะที่สี่เป็นเสียงเบา ทุก ๆ จังหวะมี

ความเร็วช้าเท่ากันหมด จังหวะนับ 1,2,3,
พัก,ต่อเนื่องกัน ก้าวที่ 1ตรงกับจังหวะที่ 1

ของห้องเพลง



- จังหวะตะลุง

ความสำคัญอยู่ที่การโยก ใช้กล้ามเนื้อ
ลำตัว ควบคุม

มุ่งเน้นโอนถ่ายน้ำหนักจากเท้าข้าง
หนึ่งไปอีกข้างหนึ่ง ลักษณะยืดหยุ่น

ในแต่ละครั้งใช้เวลา 1/2 บีทของ
ดนตรี

9

- จังหวะรุมบ้า(Aerican Ruba)

จังหวะจัดอยู่ในพวกลาตินอเมริกัน กำเนิดใน
ชนชาติหมู่เกาะคิวบา แพร่ออกสู่โลกลีลาศหลัง
แทงโก้ และ วอลทซ์ ปัจจุบันเป็นที่รู้จักของคน

ทั่วโลกมาเป็นเวลานานแล้ว จังหวะคล้ายๆ
วอลทซ์ แต่ค่อนข้างเร็วกว่า การก้าวเท้าก็สั้น
กว่า และยังต้องใช้สะโพกเคลื่อนไหวให้สัมพันธ์
กับเท้า ส่ายสะโพกได้เล็กน้อยให้ดูแต่พองาม

ใช้สะโพกเคลื่อนไหวให้สัมพันธ์กับการก้าว เป็น
เรื่องที่ต้องฝึก อาจจะฝืนตัวเองเล็กน้อย ก้าว
เท้า ถ่ายเทน้ำหนักตัว และใช้สะโพก ทั้งสาม
อย่างนี้ต้องให้สัมพันธ์กัน ส่วนลำตัวตั้งแต่เอว

ขึ้นไปอยู่ในลักษณะตรง

การนับจังหวะนับ นับ ช้า ช้า เร็ว หรือนับ 1 2
3 ข้อสำคัญคือ การใช้เท้า โดยเฉพาะใช้สปริง

ข้อเท้า หัวเข่า ซึ่งมีทั้งเหยียดตึงและงอ ใช้
สปริงข้อเท้าจะเกิดบ่อยขณะที่ก้าวเท้า เมื่อเท้า
ใดก้าวไปแตะพื้น น้ำหนักตัวก็ต้องเทไปที่เท้านั้น

ทุกครั้งไปพร้อมกับใช้สปริงที่ข้อเท้าด้วย



10

จัดทำโดย

นายกฤษฎา ขนานขาว ม. 6/3 เลขที่ 1
นายเกรียงศักดิ์ สมบัติ ม.6/3 เลขที่ 2
นายวุฒิชัย กรุงแก้ว ม. 6/3 เลขที่ 11
น.ส. พิไลพร จันทร์ลา ม. 6/3 เลขที่ 18
น.ส. พุทธิบุศย์ เดชพริก ม. 6/3 เลขที่ 19
น.ส. วิภาวรรณ เติมประชุม ม.6/3 เลขที่ 21


Click to View FlipBook Version